จับเรื่อง

โคลง ๔ สุภาพ

(๗) ๏ เพลีนเผย พจฺะนาทน้อม สดุดี
ถวิลหวาด จะนิราศศรี แสบเศร้า
เพลีนรัก จักเพลีนกวี ประวาศรัก เฉลยแม่
เพลีนหรึเพลิน เกีนเจ้า จากน้องแหนงเพลีน ฯ
(๘) ๏ ใคร่เชีญ โฉมเข้าราช ะวังสงวน
เกรงกลับ สัปประดนผวน เพื่อนชู้
สหายหญิง ว่อนระวิงชวน เชีงช่วย ถนอมแม่
เกรงคล่อง ไพ่ผ่องฟู้ เฟื่องลิ้นนินทา ฯ
(๙) ๏ ไถ่วิชา มาเลศรู้ สูทะกรรม ก็ดี
ไถ่กตัญ ญูธรรม เทีดเกล้า
การเรือน และการจำ จรียะเลีส ไฉนฤๅ
ดีไป่ถึง ดึงเจ้า เจื่อนข้อมอรัล ฯ
(๑๐) ๏ ครั้นพา แม่พักเวี้ง ค็อนเว็นต์
เรียนฝรั่ง คุมขังเห็น ห่วงน้อย
เกรงโถม ชุบโฉมเป็น โซดสพ สมัยแม่
เฟลีดผริ่ง แดนซิงชม้อย ว่อนโช้โสเชียล ฯ
(๑๑) ๏ ให้เวียน สู่วัดเอื้อ อุโบสถ
เกรงแม่ชี ยีพยด หย่งเกลี้ยง
พี่เสาะ มิเหมาะหมด มุมโลก แล้วแม่
ร้อยพี่เลี้ยง รุมเลี้ยง อาจเลี้ยงฤทัยไฉน ฯ
(๑๒) ๏ ตัวไกล ใจชิดสร้วม เสน่หา
ร่วมรัก ใช่มาระสา ร่วมล้อ
จริงจิต พิศวาสผวา วิโยคพี่ ไฉนแม่
แสนห่าง ไป่ห่างข้อ เสน่ห์น้อมถนอมกัน ฯ
(๑๓) ๏ ขวัญวัง ฝังชีพไว้ ในเรียม แล้วแม่
จากพี่ มีแต่เกรียม กรุ่นเศร้า
ใฝ่ฝัน แต่ประหวั่นเจียม จรียะรอบ รวังเอย
แสนห่วง หรือห่วงเจ้า อุจาดทิ้งประวิงถวิล ฯ
(๑๔) ๏ เกรงฉิน เกรงชื่อม้าน หมองศักดิ์ สมแม่
ไหนผิด ไหนชอบประจักษ์ จิตเจ้า
ยามห่าง พ่างยามหมัก สร่าสวาท กลั่นพี่
เหีมเสน่ห์ เล่ห์ฤทธิ์เหล้า ห่อนมล้างจางหาย ฯ
(๑๕) ๏ แม้สบาย บ่รู้ว่าง วินาฑี
สบายบ่เบ่ง รัศมี ม่อยปลื้ม
แม้รคาง ว่างสบายมี มั่งขณะ น้อยฤๅ
รคางบ่ค้าน ทยานยื้ม ขยิ่มฟ้ามาสมาน ฯ
(๑๖) ๏ ฉายฉาน ชวาเลศเรื้อง รัชนี สลัวรา
ไป่ปลุก ปริดีฤดี เดือดฝ้า
ถวิลทิวา ฉ่ารังสี สุริยแสบ แสยงเอย
แสงเสน่ห์ เล่ห์ไฟฟ้า หม่นฟื้นฟางถอย ฯ
(๑๗) ๏ ถึงหงอย ลอยหล้าลิบ สุระเสียง เสนาะแม่
ถวิลเมื่อคืน วังเคียง ค่อยครึ้ม
พิศวาส พี่ผงาดเพียง พิษม์ร่ำ กุสุมฤๅ
หอมหรึหาย คล้ายพรึ้ม ทับกล้ำรำมะนา ฯ
(๑๘) ๏ นาฬิกา ห้าครึ่งครึ้ม รฆังปลุก ประทมพี่
ถึงมิดัง ยังขยุก พี่ฟื้น
ยามหนุ่ม กรุ่มกมลขลุก คลอสวาท วายฤๅ
ถนอมแนบ แอบอนงค์ชื้น กอดชู้ชวนกระสัน ฯ
(๑๙) ๏ ป่วยฝัน พึ่งฝรั่งสร้าง นาฬิกา ปลุกพี่
เสนาะศัพท์ ขับสัยยา หยุ่นเย้า
กระเซาะสาว เมื่อคราวชรา รังเบื่อ เบือนแม่
ฝ่าเสน่ห์เอองค์เข้า ที่เที้ยรเธียรสมาน ฯ
(๒๐) ๏ สมานองค์ ทรงเครื่องเช้า เฉลีมหวัง
เสวยไข่นม ขนมปัง อ่อนปิ้ง
ยาคู คอฟฟีดัง ดื่มทิพ ะรสฤๅ
พิศิษฏ์สง่า มาลาพริ้ง พักตร์ทึ้งทาณฑ์กร ฯ
(๒๑) ๏ จักจรจักจากโอ้ อาลัย สมรพี่
จักมิจร ขย่อนใจ จักเมื้อ
จำเป็น ผิเป็นไฉน เป็นจาก จรเอย
กระนี้นึก ถึงระทึกเทื้อ ทอดได้ดังถวิล ฯ
(๒๒) ๏ ลินลา มาขึ้นรถ รทมไฉน ก็ดี
รถประเวศ ลับนิเวสน์ไว วิ่งย้อน
สถานี ที่รถไฟ ด่วนออก ดลเอย
พักราช ะธานีต้อน รับห้อมสหายะวงศ์ ฯ
(๒๓) ๏ มาส่ง จงเจตน์เอื้อ อวยประถัมภ์ ถนองพี่
ใช่ประจบ คบพึ่งอำ นาจป้อง
มีบุญ เสื่อมบุญชำ นิห์มาก หนแฮ
มิตตะจิต ขอบจิตต้อง ตอบน้อยสนองดี
(๒๔) ๏ เชิญสู่ที่ เลี้ยงเครื่อง กาแฟ
ประยุระเพื่อน เกลื่อนโต๊ะแล รื่นห้อง
ปลื้มปลาบ มิตระภาพแกล กมลทมื่น สมานเอย
กระนี้ราช ะธานีพ้อง ผะโยชน์เกื้อสการสหาย ฯ
(๒๕) ๏ เริ่มสาย สองเก่งก้อง รฆังคยอ พี่อา
ขึ้นรถ หมดเสมือนหอ นั่งน้อย
ญาตี์มิต ต่างสถิตรอ ชะลาส่ง สพรั่งเพื่อน
พอเจ๊ด นาฬิกาคล้อย รถคล้อยสถานี ฯ
(๒๖) ๏ พี่นิราศ เคหาสน์ร้าง นางรัก
นิราศสถา นีพักตร์ เพื่อนลี้
ถึงนิราศ พระราชฺะนัค คเรนทร์นิราศ ไหวฤๅ
นิราศแต่องค์ ชิวงศ์จี้ จอดแล้วนิราหรือ ฯ
(๒๗) ๏ รถด่วนหวือ วิ่งพ้น หัวลำ โพงรา
ไฉนพิษม์ ลำโพงพะอำ พี่เพ้อ
ลับถิ่น แต่ถวิลฃำ ขยักขย่อน ทรวงพี่
เมารัก ผันพักตร์ชเง้อ เงื่อนกล้ำลำโพง ฯ
(๒๘) ๏ โอ่โถง จวนเจ้าพระ ยาธรร ะมาท่าน
ใครเตร่ โยเสผัน ชะม้อย
จอมเวียง ชุบเลี้ยงบรร เจีดศักดิ์ สินฤๅ
รักสงบ สพสมัยคล้อย โชคเกื้อเกษมสยม ฯ
(๒๙) ๏ เจ๊กนิยม ผสมทรัพย์สร้าง โรงสี ไฟรา
มากแห่ง ยิ่งแข่งมี ลาภน้อย
หัวเมือง สั่งเครื่องทวี ทุกศก แซงแฮ
ผวนเล่ห์ โปเกชะม้อย ลโมบใช้ไฟเผา ฯ
(๓๐) ๏ ลำเนา บรมฺะนิวาศเวี้ง วราราม
ตง่านตึก แลพิลึกหลาม หลากกี้
อุบาฬี ท่านมีความ สามาถ มหันต์แฮ
ทุนขัด จูงมนัสะจี้ เจตน์ผู้ผะดุงถวาย ฯ
(๓๑) ๏ เฉีดฉาย ทิพฺะนิเวสน์ไท้ สถานี นามเอย
แสนสง่า จิตร์ละดาวิถี แถบนั้น
จิตร์ละดา น่าดุษดี หรือน่า ไฉนแม่
อนาถเหนี่ยว เหนียวกว่าขวั้น เชือกรั้งกรังสมร ฯ
(๓๒) ๏ สถานี ตอนนี้เรียก สามเสน
ใช่พี่ชวร ลมเอน อ่อนเศร้า
พิมพ์เสน สูดเสมือนเจน ใจชื่น ให้พี่
เสนใช่นน ทเสนเย้า ชาติ์ปล้อนพลอนสิน ฯ
(๓๓) ๏ ถวิลชื่อ บางซื่อนี้ นามควร เรียนแม่
เฃาขะยี่ ซีเมนต์ชวน ชาติซื้อ
จักก่อ จักหล่อสงวน แกร่งมั่น คงแฮ
ไป่กลับปลั้ว ชั่วมื้อ เหมาะแม้นสมานจรัญ ฯ
(๓๔) ๏ บางซ่อน นั่นซ่อนร้าว ราคี รคายแม่
ชั่วชอบซ่อน ตอนดี ชอบอื้อ
ฉลาดฟอน ผิซ่อนหนี ไฉนรอด แม่อา
ซ่อนเฉพาะ เหมาะชั่วมื้อ ใม่ร้ายหมายสมาน ฯ
(๓๕) ๏ สพานแผ่ ข้ามแม่เจ้า พญา ประเทือง ไทฤๅ
นามพระราม หกเปลือง มากล้าน
เชื่อมทาง รถต่างเมือง มาสดวก แสดงเอย
ถนนจรด ชนะบทม้าน มุ่งฉนี้ดีไหน ฯ
(๓๖) ๏ สวนผลฺะไม้ เรียกบ้าน บางตำ รุรา
ผยองพยด สับปะรสชำ ชุ่มลิ้น
รสฺะรัก จัก ประเสรียฐ์สำ เรีงชอบ ฉลวยเอย
สงวนสัตย์ ไป่หัดปลิ้น ประเล่ห์นี้ดีเฉนีม ฯ
(๓๗) ๏ รถเริ่ม รอยั้งที่ ชุมทาง
เรียกตลิ่ง ชันบาง กอกน้อย
แยกข้าม แม่น้ำปาง ประจวบรัถ ะยารา
ชุมพี่ชุม แต่ลห้อย ห่วงน้องชนุมไฉน ฯ
(๓๘) ๏ ตลิ่งชัน ใช่ตลิ่งโอ้ อภิธาน ถูกฤๅ
เห็นแต่ทุ่ง นาขนาน ห่างน้ำ
ถวิลสวาท ผินิราศสถาน วิทูรเที่ยว ก็ดี
น้ำสวาท ชุ่มชิวาตม์ล้ำ ตลิ่งแม้นแหนภิไธย์ ฯ
(๓๙) ๏ ไป่ยล ต้นงิ้วชื่อ ฉิมพะลี ไฉนแม่
ยลแต่นา พร่าวิถี รถเมื้อ
เสมือนเรียกหม่อม ถึงมี เธอใหม่
ยังหม่อม ใม่ยอมเรื้อ รลึกล้วนยวนขำ ฯ
(๔๐) ๏ ศาลาธรรมะสพน์แสร้ง อักษร ผสมฤๅ
ทำศพ ราษฎรชอน ชื่อด้าว
ฟังธรรม นี่คำตอน ใหม่ประดิษฐ์ เดียร์พี่
ไหนเสน่ห์ เสาะเล่ห์น้าว เสนาะถ้อยประดอยหา ฯ
(๔๑) ๏ ศาลายา น่าซื้อ ยาสมาน มนัสพี่
หายห่วง ดวงชิวาหวาน ว่างพ้อ
สถานี ไป่มีขนาน ยาเฉก ชื่อเลย
ยาหรึยา เรือล้อ เรียกย้ำขำขนัน ฯ
(๔๒) ๏ วัดสุวรรณ นั่นชื่อเอื้อม อาราม
รถแล่น แคว้นนาตาม เรี่ยวน้ำ
ร่องมหา สวัสดีนาม คลองเรียก เลียนแฮ
ขอพี่ สวัสดีก้ำ เกียรติ์ชั้น สุวรรณถวิล ฯ
(๔๓) ๏ เถีงถิ่น ท่าชื่องิ้ว รายจอดรถพี่
ส่งหมู่ สู่สุพรรณดอด ด่วนย้าย
เรือยนตร์ รับคนตลอด ลแวกส่ง สบายแฮ
ใช่ละลิ่ว งิ้วรายคล้าย ชื่อแคว้นแผนนา ฯ
(๔๔) ๏เสาวภา ราชินิศนั้น นามสพาน ใหญ่เพื่อน
ข้ามแม่ท่า จีนปาน เษกสร้าง
สมศักดิ์ อัคระสุรางค์ วีระมหิ สีนา
คู่บาท ปิยะราชอ้าง โอ่แคว้นแสนสม ฯ
(๔๕) ๏ น่าชมเชาวน์ช่างเพี้ยง สพานหิน นิมิตร์ฤๅ
รถแล่น ดังแผ่นดิน ผ่านน้ำ
ท่อนอั่ย เล็กใหญ่ชิน เชื่อมยุด โยงแฮ
วิศฺวะศาสตร์ สามาถก้ำ กิตย์ครั้งยังฉงน ฯ
(๔๖) ๏ รถดล แดนเรียกบ้าน เขมรเขมร ไหนแม่
ชรอยจะเคย ชเลยเกณฑ์ กักต้อน
กัมพุชา อัปปราชเยนทร์ สยามยุธ สยองฮือ
หลายชั่ว มั่วซับซ้อน ส่ำเชื้อเหลือภิไธย์ ฯ
(๔๗) ๏ ท่าแฉลบ ใครแฉลบเลี้ยว หลงทาง มาฤๅ
นั่งรถ หมดรคางราง ลิ่วเลื้อย
ถึงแฉลบ แถบไหนปาง ไหนไป่ หลงเลย
สดวกจิต เพลีนคิดเจื้อย จวบต้นสำโรง ฯ
(๔๘) ๏ โอ่โถง โรงพักเผ้า ผองทหาร มหิทธิ์ท่าน
เรียกราบสาม ตามขนาน หน่อยร้าง
โรงเรือน เกลื่อนสนามปาน ปุระยฺธ สยองฮือ
สมัยเปลี่ยน เวียนอ้างว้าง โว่งย้ายหายเห็น ฯ
(๔๙) ๏ ความเป็น ความดับแล้ว แต่ประโยชน์ ไฉนนา
ต่างจิต ต่างคิดโลด เลือกเกื้อ
ชีพกษัตริย์ หรึพนัสะโขด มีขณะ พินาศเพื่อน
เสน่ห์ พี่ มิมีเรื้อ รักฉนั้นฝันรทม ฯ
(๕๐) ๏ นครปฐม สมชื่อตั้ง ธานี ใหญ่แม่
สถิตย์ปฐมฺ ะเจดีย์ เด่นแคว้น
เบื้องดึก ดำบรรพ์ศรี วิชัยกษัตร์ เสถียรเอย
สมัยลับ เมืองกลับแม้น ป่าแม้นเมืองคืน ฯ
(๕๑) ๏ รู้ฟื้น รู้แฟบรู้ ฟูขัน โลกเอย
เบี่ยงท่า ตามนิยามะธรรม์ ทุกเบื้อง
เดชปรุง เหตุพยุงยัน สยายแผ่ ผลเพื่อน
วิสัยโลก โยกยักเยื้ยง แยบนี้มีเสมอ ฯ
(๕๒) ๏ คเยอถวิล ทิ้งถิ่นขึ้น รถยนตร์ มารา
จากนิเวสน์ วรวรรณจน ที่ยั้ง
หลายย่าน พี่ผ่านถนน ชนกพี สถาปน์เพื่อน
วิถีใหญ่ ใขว่นครครั้ง มกุฎไท้ปฐมเถลีง ฯ
(๕๓) ๏ อยุทธยาเรีงเกียรติ์สร้าง สยามนคร โพ้นเพื่อน
ถนนน่า จักระวรรดิ์ตอน เตีบก้ำ
แยกออก แพร่งตรอกยอน ขยายเหมาะ เมืองท่าน
คนคล่อง คลองแม่น้ำ ถนัดเมื้อเรือชิน ฯ
(๕๔) ๏ รัตนโกสินทร์ แรกสร้าง แสวงเกษียล เก่าพ่อ
แผนอยุท ธยาเลียน หลักคล้อย
สนามชัย ใหญ่ยืนเฉนียน หน้าราช ะวังท่าน
ถนนนอก เป็นตรอกน้อย ชอบน้ำทำถนน ฯ
(๕๕) ๏ จนพระจอม เกล้าสถิตย์ ถวัลยรัชย์ สยามเอย
ถนนใหญ่ จึ่งได้ตัด ต่อบ้าน
สมัยบาท ปิยะราชจัด เจรีญนัค ะรานา
จึ่งกล่น ถนนใหญ่สอ้าน อเนกแม้นเมืองไหน ฯ
(๕๖) ๏ เอกราชไท สถิตย์แง้ม แหลมทอง โทนแม่
เดชฉลาด มกุฏะราชประลอง เลศเอื้อ
เศวตะพงศ์ อัษฎงค์ผยอง อำนาจ ทนงนา
พระประดิษฐ์ ผูกมิตเกื้อ กิตย์ค้าหาศันติ์ ฯ
(๕๗) ๏ ก่อนนั้น พาณิชย์ต้อง ตกมือ หลวงรา
พระปล่อย คอยแต่ถือ คัดท้าย
บ้านเมือง รุ่งเรืองกระพือ พุฑฒิส่ำ สินแฮ
เดชตระหนัก เชีงยักย้าย ยุบปั้นทันสมัย ฯ
(๕๘) ๏ ฝืนโท ใฝ่เจตน์ส้อง ศึกษา
เฉียบชุบ อุปปะนิสัยมา เมื่อน้อย
สยามหนุ่ม รุ่มรวยสา มาถอเนก ฉนี้เพื่อน
เพราะพระจอม เกล้าชม้อย หมั่นเกื้อสมไก ฯ
(๕๙) ๏ รักไท ไพร่ฟ้าพ่าง ดนัยขวัญ พระฤๅ
ไทตลุ่น พระคุณฺะธรรม์ ทั่วหน้า
สวรรคต หมดเมืองกตัญ ญูนุ่ง ขาวแฮ
เทียนธูป ถวายเพลีงสร้า ส่ำเมื้อเมรุ์พหุล ฯ
(๖๐) ๏ พระการุญ กรุ่นเกล้า ประชาชี ชระเดียรแฮ
ปฐมสถูป อนุสามรีย์ หลักแคว้น
ต่างองค์ พระทรงสีส์ สยามฺะชาติ์ ฉลวยเอย
ใครผ่าน นมัสฺะการแม้น พระแม้นมหัยฺะกา ฯ
(๖๑) ๏ คนเกีดอนา คตแร้น เรียนนุสนธิ์ เสนีญท่าน
ลืมบาท แต่ราชฺะผล ท่านเกื้อ
ยังถนอม ท่วมกระหม่อมคน ไททั่ว ไทแฮ
ยลพระรูป พระเชื้อ ชวดรู้ ฉลองคุณ ฯ
(๖๒) ๏ ปองบุญ บูชิตด้าว เจดีย์ ปฐมเอย
ไป่ตระหนัก หลักสรณีย์ นอบเจ้า
นับวัน คุณะธรรม์ธ ระราชลับ สยามฤๅ
แต่พระกรรมประถัมภ์เกล้า เกลื่อนเกล้าเซาหรือ ฯ
(๖๓) ๏ รื้อหวัง สังเวชแล้ว เฉลียวสำ นึกพี่
นิยามแน่ว เกีดแล้วจำ ดับมื้อ
ทุกชิวิต สิทธิกรรมกระทำ คุณโทษ ก็ดี
โพลนเมื่อ ก็เรื้อรื้อ กระหลับสิ้นสูญกษัย ฯ
(๖๔) ๏ รถไฟไปจอดหน้า สถานี
เห็นปฐมฺะเจดีย์ เด่นใกล้
มหามกุฏ นุสสรณีย์ สถาปนาตถ์ สนองเอย
ไหว้พระไตร รัตน์ไหว้ ชนกผู้ผะดุงหัว ฯ
(๖๕) ๏ คนยั้ว มัวต่างขี้น ลงรถ ไฟรา
ดูเถิดป่า ปรากฎ ครึกครื้น
เดชบาท มกุฏะราชทด ไผทเจีง เจรีญแฮ
สวรรคต ไป่หมดฟื้น เกียรติ์ฟื้นเมืองสมาน ฯ
(๖๖) ๏ เด่นพิหาร พระร่วงหน้า สถูปงาม ตระหง่านแม่
ประจุพระ ฉาริการาม หกไว้
มหากา รุณะราชสยาม ยอดปราชญ์ ประลือแฮ
เฉลีมชาติ์ ศาสนาให้ ประโยชน์ ซึ้งตรึงถวิล ฯ
(๖๗) ๏ จากถิ่นปฐม ผ่านเวิ้ง วังถวัลย์
นิเวสฺะนาม สนามจันทร์ เจีดตั้ง
ฉัฏฐรัชย์ ตรัสรังสรรค์ สำหรับ แรมแม่
สัปดราช โปรดประศาสน์กั้ง เกียรติ์เฟ้นเป็นสถาน ฯ
(๖๘) ๏ บงการ ราชะกิตย์แคว้น นครชัย ศรีเอย
เฉลีมเดช เจษฎาภิไธย์ เทีงหล้า
ประโยชน์นิยม สพสมสมัย เมืองท่าน ถเกีงแฮ
เปลี่ยนใช่เปลี่ยน แต่หน้า เปลี่ยนทั้งวังสถาน ฯ
(๖๙) ๏ รถผ่านโพรงมะเดื่ออ้า อัศจรรย์ ไหมเจ้า
ดอกเรียกลูก มเดื่อดัน ทั่วด้าว
ผะกาพิกล พ่างผลฝัน เหมาว่า ผลแฮ
ลื่มนึก ทึกทักน้าว นิเทสน์ฉนั้นขันหนอ ฯ
(๗๐) ๏ รถรอ น้ำท่วมเบื้อง บางตาล เจี่งแม่
เกลียวช่อง แม่กลองฝาน เชี่ยวควั้ง
ห่อนกัน อาจหั่นประหาร มหาสถูป ทลายแฮ
นายช่าง ต่างปรองตั้ง ทนบกั้นคันหิน ฯ
(๗๑) ๏ ถิ่นหนอง ปลาดุ็กเขม้น เห็นหนอง ไหนเลย
เห็นแต่ป่า นาจอง จบด้าน
เคยครั้ง ชื่อดังดอง เด่นอยู่ ยืนแฮ
ดีชั่ว ลือทั่วสท้าน เทือกนี้มีหนอ ฯ
(๗๒) ๏ รถรอ จอดบ้านโป่ง ปานเมือง
ป่าโป่ง โรงเรือนเนือง แน่นสร้าง
เดชใช้ รถไฟประเทือง ถิ่นช่วย เฉลีมแฮ
ดลสดวก ช่วยผนวกข้าง ส่งขึ้นควรเสนีญ ฯ
(๗๓) ๏ รถเดีร ผ่านด้าวชื่อ นครชุมน์
แหน่งนก นักยิงชนุม นัดค้น
มนุษย์สนุก นกทุกข์รุม ยิงเล่น คนองนา
มีปีก เหลือหลีกพ้น พินาศล้วนยวนสยอง ฯ
(๗๔) ๏ ผ่านคลอง ตาคตโอ้ เอ๋ยตา คตเอย
เคยคต ทรยศทา ถิ่นย้วย
หรือประลอง ขุดคลองนา เคี้ยวคต ไฉนเฒ่า
ขึ้นชื่อ ลือตาด้วย คตเคี้ยวเสียวอโข ฯ
(๗๕) ๏ โพธาราม รถยั้ง ประดังคน
พึ่งรถ บทฺะจระปน มากหน้า
บ้านเขื่อง เฉกเมืองหน ทางสดวก ดีเอย
ยิ่งใหญ่ ยิ่งใฝ่ค้า ยิ่งคุ้นขุนสิน ฯ
(๗๖) ๏ ถิ่นเจ๊ดเสมียน เมื่อโน้น พาณิชย์ คนองฤๅ
จึ่งเจ๊ดเสมียน เขียนคิด คัดปุ๊น
หรือศาล สืบพยานลิขิต คำเจ๊ด เสมียนนา
อ๊อเจ๊ดเสมียน เรียนตุ๊น คติรู้ รบินฉลวย ฯ
(๗๗) ๏ บ้านกล้วย ต้นกล้วยเกลื่อน กรอนาม สมนา
แผกเขบ็จ เจ๊ดเสมียนขาม คาดพลั้ง
นามนิคม มักสมตาม ภูมิ์ประเทศ เสถียรแฮ
เสมือนฉลาด คาดเค้าทั้ง ปิดป้องฉ่องเฉลย ฯ
(๗๘) ๏ รถเลยสพาน ข้ามแม่ กลองจร
นามจุฬา ลงกรณ์ ก่องน้ำ
มหึมา เหล็กกล้ายอน ย้ำเหนียว ขนานเนอ
ยาวย่าน งามตระหง่านง้ำ สง่าเงี้มเฉลีมสยาม ฯ
(๗๙) ๏ พระนาม ปิยะราชเพี้ยน พระองค์ พระฤๅ
ช่วยชาติ์ ศาสนายง ยิ่งกี้
ลับบาท ราชภิไธย์คง นุเคราะห์ชาติ์ ฉลวยแฮ
พึ่งผ่าน น่านนทีนี้ ทนุกสร้างสนองไท ฯ
(๘๐) ๏ รถไฟ จอดหน้าทัพ สถานี ตึกนา
เมืองราช บุรีรอ รับน้ำ
ฝูงชน กล่นลานตลี ตลานเปลี่ยน ตัวเอย
เหล่าที่ลง คงก้ำ ก่าขึ้นอโขหนอ ฯ
(๘๑) ๏ ทอถวิล ถิ่นนี้ชื่อ ทวารวดี ผะเดีมแม่
ยุคดึก ดำบรรพ์วิถี ผ่านเต้า
เวียงละโว้ โผล่กรุงศรี วิชัยอู่ ทองฤๅ
กระทั่งอโยช ฌิยาเข้า นัคระน้อยเศรณา ฯ
(๘๒) ๏ ปรากฏ ยศฺะด้าวเรียก ราชบุรี แถลงแม่
แหล่งชาติ์ เอกราชมี ราชป้อง
บางไท หรึบางที ขเมอเมี่ยน มอญฤๅ
ฉะมาทับ กลับขุดต้อง เจอะเค้าเลาแถลง ฯ
(๘๓) ๏ ปิยาธิเบศ แปลงเขตเวี้ง เวียงวง
อุทัยะรัฏฐ์ เป็นอัษฎงค์ ด่วนฟื้น
เมืองเก่า เหล่านักณรงค์ แรมพิทักษ์ ถมึงแฮ
ตลาดตึก เกีดครึกครื้น กว่าครั้งหลังหลาย ฯ
(๘๔) ๏ สายรถ ขยดลุบ้าน คูบัว
ดีดอกบัว ยังสลัว แหล่งบ้าง
บ่อตะคร้อ หมดบ่อตัว ตะคร้อหั่น หายแฮ
บ้านปากท่อ ท่อข้าง เขตเค้าเนาสม ฯ
(๘๕) ๏ กรมการ ท่านตั้งแอ่ง อำเภอ
รถพัก มิพักเจอ มากหน้า
สายด่วน มิควรเจ๋อ จอดถ่วง ถึงเลย
มีอีกหลาย สายถ้า พินิจแล้วเล็งเห็น ฯ
(๘๖) ๏ รถเผ่น ผ่านบ้านโขต เขาเหลา
เป็นถิ่น หินรากเขา ต่อยใช้
มีทาง ทอดรางเอา สิลาสดวก ดลเอย
ครั้นลุถิ่น หินใกล้ กว่านี้แหนงเพียร ฯ
(๘๗) ๏ ทุกเกษียลใดสดวกล้ำ เลอประสงค์
ทุกกิตย์ ทุกคนคง คิดแม้น
เว้นสวาท ญาติ์มิตสง สารมิ่ง เมียฤๅ
คิดแค่ แต่สดวกแผ้น ผละแล้วคนหรือ ฯ
(๘๘) ๏ รถปรื๋อ ถึงแห่งห้วย โรงโรง เห็นฮือ
ห้วยมิเห็น เช่นชโลง เรียกคล้อย
คลองประดู่ เรียกคูกระโดง ประดู่เด่น กระมังแม่
รถรุด หยุดบ้านน้อย แหน่งพื้นอำเภอ ฯ
(๘๙) ๏ เดีมเจอ คนขึ้นและ ลงมี มั่งแม่
ครั้นเลื่อน อำเภอหนี แหน่งร้าง
รถยัง จอดหวังทวี คนยิ่ง น้อยนา
เผีนพินิจ กิตย์บ่าบ้าง วิบากน้อยพลอยเสีย ฯ
(๙๐) ๏ เพลียเนต น่าทุเรศน้ำ เค็มถึง
ทนบมิกั้น พรั่นพรึง แพร่คร้าน
กลับรก ป่าปกสึง ไพสพ สมฤๅ
อาจจัด บริษัทต้าน อุทกแม้ มีสมอง ฯ
(๙๑) ๏ หนองปลาไหล ถัดเบื้อง บางจาก
รถผ่าน เห็นตระหง่านฟาก มุ่งเมื้อ
พระนคร คิรีหลาก บรรพต ผองแล
ปราสาท ราชพิมานเฟื้อ ฝ่าฟ้าสง่าแสน ฯ
(๙๒) ๏ รถแล่น จอดแทบหน้า สถานี
เมืองเพชร ะบุรีคิรี รุ่งแคว้น
จีนไท ไพร่ผู้ดี ประดังด่วน ลงแฮ
มากรถยนตร์ แม้นแม้น เมื่อย้อนนครปฐม ฯ
(๙๓) ๏ บังคม บิตุราชอื้น อาลัย บาทท่าน
โดยเสด็จ เพชระบุรีใน รัชย์โน้น
สร้างนิเวสน์ เขตเขามไห ศวรรย์อเนก สถานนา
สพานผ่าน แม่เพชร์โพ้น พิลาสหล้าคุหาหลวง ฯ
(๙๔) ๏ ปวงประชา ปราโมทย์โน้ม เสน่ห์สวา มิภักติ์ท่าน
จวบดนุช นัดดาอุสาห์ แสร่เฝ้า
ตระหนักคุณ พระกรุณา เสนอต่อ กันเฮย
นามพระจอม เกล้าพเน้า มนัสซึ้งสึงสกุล ฯ
(๙๕) ๏ พระจุล จอมเกล้ายอด ปิโยร สา ธิราชท่าน
ราชนิเวสน์ สถาปนา ชิดน้ำ
บ้านปืน รื่นมรคา ขนานรุก ขเรียงแฮ
เตือนมโนช โปรดหนวงน้ำ เสน่ห์น้อมประนอมสนอง ฯ
(๙๖) ๏ สองรัชย์ สองกษัตร์สร้าง สนุนคุณ
ฝากเพชร ะธรณีนุกุล เกียรติ์แคว้น
ถวิลบาท นเรศวร์ราชอดุล ยเดชอยุท ธยาฤๅ
โปรดเสด็จ เมืองเพชร์เม้น ยุคแก้วโกสินทร์ ฯ
(๙๗) ๏ เสร็จริน อุทกถั่งทั้ง ฟืนประทุก แล้วแม่
รถออก ออกฉุกละหุก สุดห้าม
คล้ายคลาด บาทชนกจุก ใจอนุส สรณ์นา
จวบผ่าน สพานเพชร์ข้าม ค่อยเปลื้องแปรถวิล ฯ
(๙๘) ๏ เยี่ยมทก ษิณฺะเขตเข้า แหลมมลา ยูเอย
เยี่ยงจากเหย้า เข้าวะนา แหน่งเซี้ง
ยลเขา เหล่าพฤกษา เสมอคฤหาสน์ เห็นฤๅ
ไสวตง่าน ต้นตาลเวี้ง วนัสะท้องนาฉนวน ฯ
(๙๙) ๏ รถด่วน สวนแพรกเจ้า สำราญ
ฉัฎฐราช สร้างราชฺะฐาน ก่อนชม้าย
มฤคทา ยะวันพิมาน มหรณพ เนาเอย
ดูแต่วัง ยังย้าย ป่วยย้อนนุสรณ์เฝือ ฯ
(๑๐๐) ๏ ห้วยเสือ เสือสู่ห้วย เหตุใด เสือเอย
เสือใคร่ดื่ม น้ำใน แหน่งห้วย
หรือชล่า จับปลาไฉน แหนงนัก เสือโวย
เสือแต่ชื่อ ลือย้วย ย่านให้ใครสยอง ฯ
(๑๐๑) ๏ เขาทโมน มองมากก้อน หินเห็น
จีนระเบีด หินเกีดเป็น รากล้อ
ทำทาง แยกรางเข็ญ หินร่วม ทางแฮ
เขาเด่น เห็นทโมนอ้อ เอ่ยเค้าเฃาทโมน ฯ
(๑๐๒) ๏ รถโผน ผ่านย่านเลี้ยว ชำเลือง
เลยช่อง หนองไม้เหลือง แล่นเจื้อย
หนองจอก บอกเหมือนเมือง มลักเชื่อ ไฉนเลย
เตินเต่อ อำเภอเยื้อง ป่าคลุ้มทุมสูง ฯ
(๑๐๓) ๏ รถจูงเรา เข้าจอด สถานี
อากาศ รสชาตดี ดูดเพี้ยน
ลมทเล เตร่อินทรีย์ สดทราบ ทรวงเอย
ชื่นฉ่ำ ใกล้ชะอำเมี้ยน เนตด้วยดงประดา ฯ
(๑๐๔) ๏ หนองศาลา อ้าไม่ มีหนอง ไหนเลย
ทางเสด็จ พระนเรศวร์ผยอง ย่านน้ำ
โตนดหลวง ค่ายหลวงครอง มาลก ทเลแฮ
ประพาศจบ อรณพถ้ำ ถิ่นใกล้คระไลถึง ฯ
(๑๐๕) ๏ สึงสำเภา มาศเมื้อ ชลฺะมรร คาเอย
เขายอด สามร้อยบรร ลุบ้าง
ประเทีงทนุก พระสุขศันติ์ สงบรบ ครารา
จวบสดับ วิลันดาสร้าง ศัสตร์ร้อนศรโต ฯ
(๑๐๖) ๏ โยโส ยุทธศาสตร์เข้ม ข่มตี เมืองเพื่อน
อุทัยะเทศ เดชราวี โหวกร้าย
มหาราช ยอดสมาถที ยุทธหยั่ง ถึงแฮ
คืนนิเวสน์ อยุทธเยศชม้าย มั่นป้องผองอรี ฯ
(๑๐๗) ๏ ปลายศรี อยุทธโยตม์ โอ้ อนาถเหลือ แล้วเพื่อน
สรรพ์เพชญ์ พุทธเจ้าเสือ แสะพร้อง
ขุนท้ายสระ เสด็จเรือ เล่นช่อง ชเลแฮ
ทรงเบ็จ ปลาเค็มคล้อง คชฺะคร้านฐานผะดุง ฯ
(๑๐๘) ๏ วุ้งหนอง ตาพตไม้ ตาพต ชุมฤๅ
ป่าใผ่ ไม้รวกสด ส่ำพร้อย
หนองหาย แต่กลายชด เป็นแหน่ง นานา
ฝนก็น้อย นาน้อย จึ่งน้อยปิดี ฯ
(๑๐๙) ๏ สถานี ที่มุ่งเมื้อ มาถึง
บ้านชะอำ รำพึง พักยั้ง
เขาชะอำ และถ้ำถมึง หมู่วัด ชะอำนา
เรือนราษฎร์ เกลื่อนกลาดตั้ง ต่อเยื้อยเฟือยเหมือง ฯ
(๑๑๐) ๏ โคกเมือง เนื่องโคกบ้าน ปานเมือง
เดีรทัพ รับพม่าเคือง เข่ญแกล้ว
พักแรม แถบแง้มเหมือง เหมาะมาร์ค
ศึกเลีก เมืองเลีกแล้ว กระหลับบ้านนานหนอ ฯ
(๑๑๑) ๏ ชื่อชะอำพอ เชื่อได้ โดยหมาย
ชื้นฉระอ่ำ น้ำฉ่ำทราย เหน่งผล้าน
คุ้ยขุด ก็หยุดกระหาย น้ำจืด ซึมแฮ
กระนี้พี่หวัง ตั้งบ้าน พักมื้อหมองชรา ฯ
(๑๑๒) ๏ พึ่งลพา กาศสดโอ้ โอโซน เจ้าเอย
ประสานประสาส สามาถโชน ชีพช้า
นิรามัย ชื่นหทัยโพลน เพลีนวิเวก วนานา
ยิ่งบด โอสถกล้า กระเดือกร้อยพันขนาน ฯ
(๑๑๓) ๏ สังสกานธ์ ปานดอกไม้ หมองฉมัง
จำแสร่ แปรสถานหวัง ชื่นชื้น
สารซ่ม แช่ผสมยัง ยืดเหี่ยว กุสุมแฮ
ทเลเลห์ เทวะฤทธิ์ฟื้น ชีพฟื้นฟูสมอง ฯ
(๑๑๔) ๏ พี่ลอง พี่รู้ร่วม แถลงหมอ
แม้พี่รัก จักชลอ ชีพช้า
เชีญพี่ อย่าหนีมห รณพเนี่น เนาเลย
เลีกคลั่ง แรมวังบ้า ระห่ำทิ้งถนอมองค์ ฯ
(๑๑๕) ๏ จำนง ถนอมชีพเที้ยร นิยามะธรรม เถลีงเทีญ
สุดแต่มาน สมานกรรม เกียรติ์ชื้น
ปลื้มปลุก สุขศันติ์สำ นึกหน่าย คนองแฮ
กายก็ฟื้น ใจฟื้น เฝื่อนฟุ้งปรุงหลง ฯ
(๑๑๖) ๏ เคยองค์ พะวงเหย้าน้อย กลอยทเล แล้วพี่
เอือนนิเวสน์ นัคเรศเห ห่างแสร้
เพลายศ ลดโลภเหว สวายหยิ่ง ยอฤๅ
สงบคึก ฝึกใจชแง้ เงียบชม้อยหง็อยไฉน ฯ
(๑๑๗) ๏ ดรุณะวัย ไซ้สนุกสร้าง สนองกิตย์ ถเกีงพี่
ต่อแผ่นดิน ต่อชิวิต มากแล้ว
เกีดชาติ์ มาทอวยหิต ะคุณโลก ไฉนรา
นึกน่าพอ ชลอแพ้ว ชีพพ้นภยางค์เขษม ฯ
(๑๑๘) ๏ พี่เปรม พี่ปลื้มปลุก ปรีดา แดพี
โดยรลึก ศึกษาสา มาถสร้าง
ประโยชน์เมือง ไป่เปลืองกระยา หารพึ่ง เลี้ยงเลย
ชราผ่อย น่าปล่อยบ้าง เบื่อขย้อนฟอนสมอง ฯ
(๑๑๙) ๏ หวังประคอง ชีวิตครึ้ม คลอใจ เกษมรา
ผิมิผิด จิตไฉน จับนั้น
รักกวี ก็พิรี้พิไร กวีพจน์ พิชาพี
เพลีนชิวิต เผื่อกวิชชั้น ถัดใช้ ฉินชม ฯ
(๑๒๐) ๏ ไป่สมแด แต่น้อง ปองเฉ เฉนียนพี่
ชอบอยู่วัง ชังชเล สุดรั้ง
ห่วงบุต สุดสวาทเห เกีนห่วง พี่ฤๅ
จำนิราศ วาศนาครั้ง คร่ำฉนี้หนีไฉน ฯ
(๑๒๑) ๏ ยุวารักใย จักเรื้อ ยามชรา เล่าพี่
หนุ่มแฟ่ แก่อาทวา ว่างเคล้า
ทุกบุรุษ ยุตติธรรมสา ธุชนเช่น เดียวแม่
ต่างชิวิต ตามจิตเจ้า จึ่งต้องสนองนิยม ฯ
(๑๒๒) ๏ คนรดม มารับพร้อม ญาติ์มิต มากแม่
สมณะ ข้าสนิธศิษย์ เพื่อนบ้าน
โดยสมัค มักมานิตย์ ถนอมพึ่ง ภักติ์พี่
ต่างชื่นชม สมสร้าน เสน่ห์น้ำใจแถลง ฯ
(๑๒๓) ๏ พี่แสดง ปราโมทย์ ได้ พบกัน
ถามสุขทุกข์ ปลุกขวัญ ยั่วยิ้ม
ทุกคน ก่นรำพรรณ ใคร่พบ พี่อา
ชะอำเฉียบ เหงาเงียบปิ้ม ป่ามื้อหวือเรียม ฯ
(๑๒๔) ๏ พี่เยี่ยม ยังรถแล้ว รถยนตร์ เจ้าเอย
แล่นผ่าน บ้านปลายถนน แน่วเต้า
ผ่านป่า ผ่านนาจน ประจวบน่าน เนีนพี่
ผ่านไร่ ผ่านสวนเข้า ตลาดเลี้ยวถนนทเล ฯ
(๑๒๕) ๏ ถึงประตูเค หาสน์บ้าน อนามัย
ผงมสุข เรือนปลุกใจ พี่ขึ้น
ข้าหลวง มหาดเล็กใน ตำหนัก ชนุมนา
สรวลระรี่ ยินดีอื้น อิดน้อยไฉนยล ฯ
(๑๒๖) ๏ เกลื่อนกล่น กระยาโภชน์เลี้ยง เรียมเสวย
เครื่องฝรั่ง ทั้งไทสเบย เบื่อน้อย
สนานฉ่ำ รื่นรำเพย นพากาศ ตระโบมพี่
ผะทมนิด บานจิตชม้อย พักตร์ท้วมผะเทืองฉวี ฯ
(๑๒๗) ๏ เดีมพี่ มีนิวาสน์เวี้ง หัวหิน แรมรา
พี่พี่ มีที่ดิน ฝากด้วย
ผวนโปรด รับโฉนดถวิล แทนอนุช ไฉนเลย
ธนามิส ผลาญมิตม้วย อมิตผล้านุชาฉลอง ฯ
(๑๒๘) ๏ สยองเหตุ สังเวชโอ้ อนาถชรา แล้วพี่
ใยอยาก หลากครหา หากน้อย
พเอีญอภัพ อับพาศนา แหนงเกี่ยว โกงฤๅ
แม้นิด พิษม์ด่างพร้อย พร่าฉนั้นขวัญหาย ฯ
(๑๒๙) ๏ ยอมถวาย ย้ายเลือกเวี้ง วังทเล ใหม่พี่
เหีมจิต ร่วมมิตประเด แด่วค้น
บ่อฝ้าย ป่ายทางเห ถึงหาด เจ้าแม่
หลายทิวัส ลุยวนัสะด้น เลือกได้ไผทชะอำ ฯ
(๑๓๐) ๏ ถ่อมทำ เป็นหุ้นเรี่ย รายแสน สดวกพี่
จ้างตรวจ หมายหมวดแผน ภาคสร้าง
แบ่งกัน ปักปันแดน ด่วนจับ จองนา
ได้ตลอด ทอดยาวกว้าง กว่าเตื้องเมืองไพร ฯ
(๑๓๑) ๏ ใครขัด พี่สกัดซื้อ เสียพลัน
กะแกว่น แผนผังทัน จิตพร้อม
ล้างป่า รัถะยาปัน ประกวดเร่ง ถมแฮ
สพานปลีก ค็องกรีกล้อม รอบรั้วปรุงเรือน ฯ
(๑๓๒) ๏ เลือกเพื่อน ทำแบบทั้ง รายการ
เรียกประมูล นุกูลฐาน ถูกป้อง
พี่เต้น เช่นนายงาน งำกิตย์ ปวงแฮ
เรือนขนาดไหน ใครต้อง จิตต้องสนองทุน ฯ
(๑๓๓) ๏ บุญพี่ ปีหนึ่งแล้ว เลอประสงค์
เสมือนนิมิตร์ เมืองใหม่ตรง เกลื่อนเหย้า
สามสิบหก บ้านคง พี่ควบ คุมแฮ
เรือนกว่า ห้าสิบเค้า ท่าค้าชะลาลัย ฯ
(๑๓๔) ๏ ทางใหญ่ เชื่อมสมุทร์ทั้ง สถานี เนื่องรา
แลล่ำ ถนนชะอำมี ชื่อไว้
หัวหาด วาดแนววิถี ชื่อสหะ ครามแม่
พิมุกขะฝ่าย เจ้าลายใช้ เชื่อมด้าวเดีรเกวียน ฯ
(๑๓๕) ๏ เฉนียนเหนือ เพื่อห่างเล้า โรงเค็ม เหม็นแม่
วางช่อง กองไม้เต็ม ต่างใช้
กงจีน ชื่อถนนเล็ม ตัดรยะ ยืนแฮ
ถนนแม่ยม โดยไว้ รยะแม้นแผนวาง ฯ
(๑๓๖) ๏ นางรำพึง เถ้าม่อง ล่ายถัด ถนนนั่น
สนามว่าง ทางไต้ตัด สุดแคว้น
บ้านทั่ว ปักรั้วสกัด กั้นลวด หนามนา
คฤหาสน์ต่าง วางครัวแม้น มักตั้งหลังคฤหา ฯ
(๑๓๗) ๏ สวนหมากพญา สง่าเวี้ง วนาจอง ไว้เอย
แหล่งเที่ยว แหล่งเล่นประลอง ร่มไม้
เลี้ยงสัตว์ พ่างพนัสะปอง เป็นป๊าก ประชุมเพื่อน
ตกบ่ายหญิงชายได้ สดวกแย้มสรวลเยือน ฯ
(๑๓๘) ๏ บ้านเพื่อน เรือนพี่น้อง มีนาม ขนานนา
แทนท่อง ชื่อห้องตาม เลขเยื้อง
ทุกห้อง ล่องลมยาม ร้อนรับ ลมเอย
เหย้ารกะ มุงกระเบื้อง เคลือบน้ำยาผงม ฯ

----------------------------

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ