องก์ที่ ๓
ฉากที่ ๑–สวนริมบ้านหมื่นจำเนียร เปนสวนอย่างไทย ๆ มีท้องร่อง ปลูกไม้ดอกบ้างไม้ผลบ้าง.
(เมื่อเปิดม่าน ตาสัง กับนายเหลี่ยมยืนอยู่ด้วยกัน นายเหลี่ยมนั้น แต่งตัวเปนแขกมีแว่นตาและติดเคราด้วย.)
เหลี่ยม.
ฉันแต่งยังงี้ก็เห็นจะแปลกพอแล้วนะ เคราะห์ดีที่ฉันได้คิดตระเตรียมเครื่องแต่งตัวไว้เสร็จแล้ว เดิมหมายว่าจะปลอมเปนแขกฃายผ้าแต่นี่เปนหมอเสียก็ได้, ที่จริงหมื่นจำเนียรแกก็ได้เคยเห็นฉันน้อยครั้งนัก คงจะจำใม่ได้ถนัดถนี่นักหรอก.
ตาสัง.
ก็เห็นจะพอไปได้หรอก.
เหลี่ยม.
เดี๋ยวนี้ฉันอยากจะได้คำอะไรที่เกี่ยว ๆ ด้วยวิชาหมอสักสี่ห้าคำสำหรับขยายออกมามั่ง เพื่อจะได้ดูเปนคนมีความรู้ในทางนั้นจริง ๆ.
ตาสัง.
อ๋อ! ใม่จำเปน! ใม่จำเปนเลยจนนิดเดียว ตัวผมเองก็ใม่ได้รู้อะไรในเรื่องนี้มากมายไปกว่าคุณเลยทีเดียว.
เหลี่ยม.
อ๊ะ! อะไรยังงั้น.
ตาสัง.
อ้ายวิชาหมอน่ะผมใม่รู้อะไรเลยจนนิดเดียว คุณก็ได้ไว้เนื้อเชื่อใจบอกความลับของคุณให้ผม เพราะฉนั้นผมก็เต็มใจจะบอกความลับของผมแก่คุณเหมือนกัน.
เหลี่ยม.
เอ๊ะ! ทำใมนี่แกน่ะใม่ใช่หมอจริง ๆ ยังงั้นหรือ ?
ตาสัง.
ผมน่ะมันเปนแต่หมอแกน ๆ ยังงั้นเอง เปนหมอโดยจำเปน, ผมใม่ได้อวดดิบอวดดีว่ามีวิชาทางหมอเลยทีเดียว ที่จริงอ้ายวิชาของผมก็ใม่มีอะไรเลย ผมใม่รู้เลยว่าทำใมเฃาถึงพากันนึกไปว่าผมเปนหมอ; แต่ว่าเมื่อผมเห็นว่าเฃาจะบังคับให้ผมเปนให้ได้ ผมก็เลยรับสมอ้างเอายังงั้นเอง ครั้นผมจะใม่รับก็ใม่ได้ เฃาเฆี่ยนจนต้องยอมตามใจเฃา. อ้ายผีอะไรมันจะเฃ้าไปสิงสู่อยู่ในใจเจ้าพวกนั้นยังไงใม่ทราบ ถึงได้ทำให้นึกรู้เอาแน่นอนว่าผมเปนหมอวิเศษที่สุดในโลก, มาเดี๋ยวนี้ใคร ๆ ก็พากันเชื่อถือมาหาผมปร๋อ ๆ ผมก็เลยมานึกเสียว่า อ้ออ้ายการเปนหมอนี่มันง่ายยังงี้เอง; ผมเลยตกลงในใจเสียแล้วว่า ถ้าคนยังนิยมอยู่ยังงี้เท่าไร ผมก็จะคงเปนหมออยู่เท่านั้น เพราะว่าการหากินเปนหมอนี่ ถึงเราจะทำดีหรือจะทำใม่ดีอ้ายเงินก็คงได้, การที่ทำเสียไปก็ใม่มาตกหนักอยู่ที่ตัวเรา เปรียบเหมือนถ้าเราจะปันหม้อฃาย ถ้าเราทำหม้อนั้นแตก เราก็ต้องฃาดทุนเอง, นี่ถ้าเรารักษาคนเปนอะไรไปเราก็ใม่ต้องเสียผลประโยชน์ในส่วนตัวเราเลย อ้ายการที่คนไข้ตายจะมาซัดว่าเปนความผิดของหมอใม่ได้ เปนความผิดของคนที่ตายนั่นเอง. อีกประการหนึ่งในส่วนตัวคนที่ตายเองนั้นก็ดีนัก ใม่มีเลยที่จะมาบ่นหรือด่าว่าหมอที่ทำให้เฃาตาย.
เหลี่ยม.
ข้อนี้ก็จริงอยู่.
ตาสัง.
เออแน่ะ! มีคนมาหาผมอีกแล้ว คงจะมาขอให้รักษาโรคอะไรสักอย่างเปนแน่ทีเดียว คุณคอยฟังเล่นสนุก ๆ ก็ได้ว่าผมใช้วิธีพูดยังไงกะคนพวกนี้.
เหลี่ยม.
ก็ดี ฉันจะได้จำไว้มั่ง. (หลีกไปยืนให้ห่างหน่อยหนึ่ง.)
(นายเป๋ากับนายเปียพากันเฃ้ามา.)
เป๋า.
ผมมาหาท่านหมอ.
ตาสัง.
เปนอะไรไปล่ะ ?
เป๋า.
เมียผมเจ็บ นอนแบบอยู่กะที่เกือบครึ่งปีแล้ว.
ตาสัง.
(แบมือ.) อ้อ! เมียแกเจ็บหรือ ก็เดี๋ยวนี้แกจะมีประสงค์จะให้ฉันทำใม ?
เป๋า.
ผมอยากให้คุณหมอแนะนำสักหน่อยว่าจะควรให้รับประทานยาอะไร.
ตาสัง.
ยังใม่รู้ว่าเจ็บเปนอะไร จะให้บอกหยูกยาให้ยังไงได้.
เป๋า.
เจ็บบวมไปทั้งตัวแหละครับ,หมอจีนที่มารักษาเฃาบอกผมว่าตับ ว่ากระเพาะอาหารว่าลำไส้ล้วนแต่พิการไปหมด เพราะฉนั้นเลือดเลยกลายเปนน้ำไปหมด แล้วก็เปนไข้อยู่เสมอเว้นวันจับวัน, มีอาการอ่อนเพลียและเมื่อยร้าวไปที่ฃาทั้งสองฃ้าง.
ตาสัง.
อ้อ! มีอาการเมื่อยฃายังงั้นหรือ ?
เป๋า.
ยังงั้นขอรับ.
ตาสัง.
แกนวดให้เฃามั่งหรือเปล่าล่ะ.
เป๋า.
นวดขอรับ นวดบ่อย ๆ .
ตาสัง.
แกจะนวดเฃาบ่อยนักกระมัง.
เป๋า.
ใม่บ่อยเหลือเกินนักหรอกครับ แล้วก็ในฅอน่ะขอรับ มีเสลดเสียงดังครอก ๆ น่ากลัวหายใจใม่ออก, แหมบางทีละก็แน่นิ่งไปจนผมนึกว่าตายเสียแล้ว ผมหาหมอต่วนที่ตลาดนี่ไปรักษา เอายาอะไรต่ออะไรให้กินเสียนับได้อ่างสองอ่าง ใม่เห็นหายเลย.
ตาสัง.
(แบมืออีก.) พูดอย่าให้มันมีฝอยนักเลย เอาแต่เนื้อความเถอะ.
เป๋า.
เนื้อความก็คือผมหมดปัญญาใม่รู้ที่จะทำยังไงต่อไป จึ่งได้มาหาคุณ ขอคุณได้โปรดแนะนำด้วยเถอะครับ.
ตาสัง.
แกว่ากระไรฉันยังเฃ้าใจใม่ถนัด ?
เปีย.
ความมันเปนยังงี้ขอรับ แม่ผมน่ะใม่สบายเจ็บมาก เพราะยังงั้นผมกะพ่อถึงได้มาหาคุณหมอ เพื่อขอรับประทานยาไปสักขนานเถอะขอรับ. (ส่งเงิน ๘ บาทให้ตาสัง.)
ตาสัง.
(รับเงินมาใส่กระเป๋า.) อ๋อ! เฃ้าใจ เฃ้าใจ! เออพ่อนี่พูดจาชัดเจน อธิบายข้อความแจ่มแจ้ง แกว่าว่าแม่ของแกน่ะเปนโรคบวมไปทั้งตัว จับไข้เสมอ ๆ เมื่อยปวดที่ฃา แล้วบางทีก็มีอาการสลบแน่นิ่งไป ยังงั้นใม่ใช่หรือ ?
เปีย.
ถูกละขอรับ.
ตาสัง.
เออ ๆ ฉันเฃ้าใจที่แกพูดดีทีเดียว พ่อแกน่ะเปนคนที่ใม่รู้จักพูดจาให้แจ่มแจ้ง สู้แกใม่ได้ เดี๋ยวนี้น่ะแกต้องการยายังงั้นหรือ ?
เปีย.
ขอรับ.
ตาสัง.
ยาสำหรับรักษาแม่หรือ ?
เปีย.
ยังงั้นซิขอรับ.
ตาสัง.
ได้ ได้! (ค้นในกระเป๋าที่คาดพุง.) เอ้านี่แน่ะปลาสลิดนี่นะ เอาไปให้แม่เจ้ากิน.
เปีย.
อะไรปลาสลิดครับ.
ตาสัง.
ยังงั้นซิน่า ปลาที่ฉันเศกกะถาอาคมทำให้เปนยาวิเศษขึ้นแล้ว.
เปีย.
ขอบพระเดชพระคุณมาก ยังงั้นผมลาที.
ตาสัง.
ไปเถอะ อ้อประเดี๋ยวก่อน.
เปีย.
ขอรับ.
ตาสัง.
แล้วอย่าลืมกระเทียมดองนะ.
เปีย.
กระเทียมดองด้วยหรือครับ ?
ตาสัง.
ด้วยซิน่ะ ใม่ยังงั้นเค็มแย่.
เปีย.
หมอเฃาห้ามของแสลงไว้ด้วยนะครับ.
ตาสัง.
อ๊ะ! ฉันใม่ห้าม แม่แกอยากจะกินอะไรก็ให้แกกินเถอะ.
เปีย.
ขอรับ. (จะไป.)
ตาสัง.
เออนี่แน่.
เปีย.
ขอรับ.
ตาสัง.
แล้วก็ถ้าแม่แกตายไปละก็อย่าลืมไปบอกสัปเหร่อนะ.
เปีย.
ขอรับ ผมลาที. (นายเป๋ากับนายเปียพากันออกไป.)
เหลี่ยม.
(เดิรมาฃ้างหน้า.) พุทโธ่ นี่แกรักษายังงี้เองแหละหรือ ?
ตาสัง.
ก็จะให้รักษายังไงอีกล่ะ เท่านี้ก็ได้แปดบาทแล้วนี่.
เหลี่ยม.
ถ้าเฃาตายไปแกจะว่าไง ?
ตาสัง.
จะไปว่าไง คนเจ็บอยากตายจะมาโทษหมอได้อยู่หรือ ? ถ้ายังงั้นละก็คงใม่มีใครเปนหมอได้ กลัวติดตราง
เหลี่ยม.
(หัวเราะ.) ก็จริงอยู่ ไปบ้านหมื่นจำเนียรหรือยังล่ะ ?
ตาสัง.
ไปซิ แล้วคุณไปคอยที่หัวกระไดก่อน ผมมาเรียกถึงค่อยขึ้นไป. (ตาสังกับนายเหลี่ยมพากันออกไป.)
----------------------------
ฉากที่ ๒ – ในบ้านหมื่นจำเนียร (เหมือนในองก์ที่ ๒.)
(ตาสังเฃ้ามาฃ้างซ้าย นางกลิ่นเฃ้ามาฃ้างขวาพร้อมกัน.)
ตาสัง.
อ้อ! เหมาะจริง พอโผล่เฃ้ามาก็จำเพาะเจอะแม่กลิ่นทีเดียว แม่กลิ่นจ๋าฉันมีความยินดีที่ได้พบหล่อนอีก, ฉันได้เห็นหล่อนราวกะได้กินยาน้ำสมอ ระบายความทุกข์เปลื้องปลิดจากตัวฉันหมดทีเดียว.
กลิ่น.
คุณหมอพูดยกย่องตัวดิฉันมันเหลือเกินไปนักละ.
ตาสัง.
แม่กลิ่นเจ็บหน่อยเถอะน่า ถ้าหล่อนมีเมตตาแก่ฉันละก็เจ็บสักหน่อยเถอะ ขอให้ฉันได้มีโอกาสรักษาหล่อนสักหน่อย ฉันจะมีความพอใจมากทีเดียว.
กลิ่น.
ขอรับประทานโทษเถอะคะ แต่ว่าในส่วนตัวดิฉันนะ ยังใม่มีความประสงค์ที่จะเจ็บจะไข้อะไรเลยทีเดียว.
ตาสัง.
ฉันน่ะช่างสงสารหล่อนจริง ๆ ที่หล่อนมีผัวหึงจัดนัก ทั้งหึงทั้งใจน้อย.
กลิ่น.
ก็จะทำยังไงล่ะคะ มันเปนกรรมของดิฉันที่ได้ทำมาชาติก่อน ก็เมื่อมันเปนเช่นนั้นก็ต้องจำใจจำทนไปยังงั้น.
ตาสัง.
พุทโธ่! เหลือเกินจริง ๆ ผัวหล่อนนะ ช่างใม่ไว้ใจหล่อนเสียเลยทีเดียว คอยแต่ด้อมมองจับผิดอยู่เสมอ หล่อนจะพูดกะใครนิดหน่อยก็ใม่ได้.
กลิ่น.
โอ๊ย! ที่คุณได้เห็นแล้วน่ะนิดหน่อยเท่านั้น ยังยิ่งกว่านี่ก็มีนะคะ, แหมบางทีถ้าเฃาหึงจัดขึ้นมาละก็เต้นราวกะบ้า คุณนายคุณแนยสิ้นกลัวหมดแหละคะ ด่าหรือเสียงอึงทั่วบ้านทั่วช่อง.
(อ้ายหลอมายืนฟังอยู่ที่ประตูทางขวา.)
ตาสัง.
แม่โว้ย! เปนได้ถึงยังงั้นทีเดียวหรือ พุทโธ่ ๆ คนอะไรเช่นนั้น มันช่างมีกะอกกะใจทำกะหล่อนได้ถึงเพียงนั้น, ที่จริงคนเราเกิดมาเปนผู้ชายแล้วละก็ ถ้าแม้หล่อนให้แต่เพียงล้างเท้าของหล่อนเท่านั้นก็ควรจะปลื้มพอแล้ว น่าเสียดายจริง ๆ คนรูปร่างงดงามเช่นหล่อนยังงี้ควรหรือที่จะมาตกอยู่ในเงื้อมมืออ้ายคนชนิดผัวหล่อน, อ้ายคนที่โง่บัดซบใจดุร้ายราวกับสัตว์ป่า โอ๊ย! ขอโทษเถอะที่พูดถึงผัวของหล่อนเช่นนั้น.
(อ้ายหลอในระหว่างที่ตาสังพูดนั้น ค่อย ๆ เดิรเฃ้ามาจากประตู มายืนพิงฝาด้านหลังแสดงกิริยาเคืองแต่อดกลั้นไว้.)
กลิ่น.
อ๋อ! ที่จริงก็เปนจริงตามที่คุณว่า.
ตาสัง.
ก็จริงยังงั้นน่ะซิฉันถึงได้ว่า แล้วก็หล่อนควรจะหาทางลงโทษมันให้สากะใจยังไงสักอย่างหนึ่ง มันใม่ควรจะหึงหรือสงสัยต่าง ๆ ให้มันมากไป.
กลิ่น.
จริงนะคะ ดิฉันก็คิด ๆ อยู่ว่า อยากจะทำเสียให้สมน้ำหน้าสากะใจ, แต่เดี๋ยวนี้ยังนึกถึงอ้ายลูกเท่านั้นแหละคะ.
ตาสัง.
ที่จริงหล่อนควรจะทำแก้แค้นเสียให้เข็ดทีเดียว มันอยากหึงอยากคอยจับชู้นัก หาชู้ให้มันจับเสียจริง ๆ ให้เข็ดนั่นแน่, ส่วนตัวฉันน่ะเต็มใจที่จะช่วยหล่อนในเรื่องนี้.
(พอตาสังตั้งท่าจะกอดนางกลิ่น อ้ายหลอแซกเฃ้าไปหว่างกลาง ตาสังกับนางกลิ่นแลดูอ้ายหลออยู่ครู่หนึ่ง แล้วต่างคนต่างค่อย ๆ ถอยหนีไปคนละทาง จนออกประตูไป ตาสังทางซ้าย นางกลิ่นทางขวา อ้ายหลอยืนตลึงอยู่ที่กลางโรง จนหมื่นจำเนียรเฃ้ามาทางขวา.)
หมื่นจำเนียร.
เฮ้ยอ้ายหลอ เอ็งเห็นตาหมออยู่ที่ไหนบ้างไหม ?
อ้ายหลอ.
ทำใมจะใม่เห็นล่ะขอรับ ผมมาเจอกำลังคุยจ้ออยู่กะเมียผมแน่ะ.
หมื่นจำเนียร.
ก็เดี๋ยวนี้แกอยู่ที่ไหนล่ะ ?
อ้ายหลอ.
จะอยู่ไหนก็ใม่ทราบขอรับ แต่ถ้าให้ผมเลือก ผมก็ต้องขอเลือกให้อยู่ตรางละดีกว่าแห่งอื่น.
หมื่นจำเนียร.
เอ็งมันหึงจัดนัก ไปดูทีหรือว่าแม่จินดาทำอะไร.
(อ้ายหลอออกไปทางขวา ตาสังกับนายเหลี่ยมเฃ้ามาทางประตูซ้าย.)
หมื่นจำเนียร.
อ้อ! พ่อหมอมาแล้ว ฉันถามอยู่เดี๋ยวนี้ทีเดียว.
ตาสัง.
ผมไปเดิรเล่นในสวนหน่อยหนึ่งครับ ลูกสาวคุณเปนยังไรมั่งครับ.
หมื่นจำเนียร.
กินฃ้าวกะไข่เสร็จแล้วตามที่หมอสั่ง.
ตาสัง.
กินได้มากหรือครับ ?
หมื่นจำเนียร.
ใม่สู้มาก ฉันจะบังคับให้กินให้หมดแล้วเฃาทำหน้าบูด แล้วใช้ใบ้ว่ากินใม่เฃ้า ถ้าขืนกินเฃ้าไปอีกจะอาเจียน.
ตาสัง.
ใม่เปนไรครับ ถ้ากินแล้วก็เปนแล้วกัน ผมจะคอยฟังอาการดูอีกหน่อย ยาอื่นยังมีอีกถมไป.
หมื่นจำเนียร.
(ชี้นายเหลี่ยม.) นั่นหมอเอาใครมาด้วย.
ตาสัง.
อ๋อ! นั่นหรือครับเฃาชื่อ–เอ้อ–(หันหน้าไปพูดกับนายเหลี่ยม.) ชื่อไหร่ล่ะ ?
เหลี่ยม.
(ป้องตอบตาสัง.) ชื่ออิบระฮิม.
ตาสัง.
(พูดดัง.) ชื่ออิบระฮิมครับ.
หมื่นจำเนียร.
เฃาเปนอะไร ?
ตาสัง.
(ป้องถามนายเหลี่ยม.) เปนอะไรล่ะ ?
เหลี่ยม.
(ป้องตอบตาสัง.) เปนลูกศิษย์แกยังไงล่ะ.
ตาสัง.
(พูดดัง.) เปนลูกศิษย์ผมยังไงล่ะ.
หมื่นจำเนียร.
อ้อ! นี่จะให้มาช่วยรักษายังงั้นหรือ ?
ตาสัง.
ยังงั้นซิครับ อะบังคนนี้เฃามีความรู้ในทางวิชาหมอดีพอใช้แล้ว แต่ยังสู้ผมใม่ได้ เพราะยังงั้นถึงได้ยอมมาเปนลูกศิษย์ผมอยู่ สำหรับจะได้เอาความรู้ไปให้มากขึ้นอีก, ผมจะให้ลองฝีมือรักษาลูกสาวคุณดู ผมเชื่อว่าลูกสาวคุณคงจะพอใจในยาของหมอแขกคนนี้เปนแน่.
(แม่จินดากับนางกลิ่นเฃ้ามาทางประตูขวา.)
กลิ่น.
คุณจินดาเธอว่าเธอนอนอยู่นานแล้ว เมื่อยนักอยากลุกขึ้นเดิรเล่นเสียมั่ง.
ตาสัง.
ดีแล้ว ดีแล้ว! เอ้าอะบัง แกเฃ้าไปตรวจชีพจรดูเสียทีซิ, ฉันจะต้องพูดกะท่านหมื่นจำเนียรท่านทางนี้ อ้อแล้วก็แม่นมน่ะ. ไปจัดการหาน้ำหาท่าไว้ ประเดี๋ยวบางทีคุณจินดาจะต้องอาบน้ำ.
กลิ่น.
ดิฉันจะไปเตรียมไว้ให้พร้อม. (ออกไปทางขวา.)
ตาสัง.
เชิญใต้เท้าทางนี้. (จูงหมื่นจำเนียรไปให้ห่างนายเหลี่ยมกับแม่จินดา.) อย่าไปกวนเฃาดีกว่าครับ ให้เฃาตรวจตราให้สดวก เฃาจะได้ตั้งอกตั้งใจรักษาลูกคุณให้หาย อย่ามองไปทางโน้นซิครับ จะทำให้เฃาประหม่า. เออนี่แน่ครับ เดี๋ยวนี้ในหมู่พวกหมอ ๆ กำลังมีปัญหาถามกันอยู่เปนข้อสำคัญข้อหนึ่ง คือว่าผู้หญิงน่ะถ้าเจ็บลงแล้ว จะรักษาง่ายกว่าผู้ชายหรือยังไง. ฟังทางนี้เถอะครับ บางคนก็ว่าง่ายกว่าบางคนก็ว่ายากกว่า ส่วนตัวผมเองเห็นว่าง่ายก็ง่ายกว่า ยากก็ยากกว่า, ข้อนี้ก็เปนเพราะเลือดและลมและใจของผู้หญิง ผู้หญิงมักจะรู้สึกอะไร ๆ ได้เร็วและดีกว่าผู้ชาย อย่าว่าแต่อะไรเลยครับ จนชั้นคืนไหนเดือนหงายผู้หญิงยังเห็นผิดกะวันที่เดือนมืดเลยครับ ถึงกลางวันก็เถอะเวลาเช้ากะเวลาบ่าย ความรู้สึกของผู้หญิงก็ยังรู้สึกว่าผิดกัน.
จินดา.
(พูดกับนายเหลี่ยม.) ฉันใม่ได้กลับใจเปนอย่างอื่นเลยจนขณะจิตเดียว.
หมื่นจำเนียร.
เออ! นั่นแน่ลูกสาวฉันพูดได้แล้ว แหม! พ่อเจ้าประคุณ! หมอรักษาดีจริง ๆ สมควรที่เฃาจะเรียกชื่อว่าหมอเทวดา ขอบใจมากทีเดียว ใม่ได้นึกเลยว่าจะหายได้ เอาเถอะ ถ้าหมอจะต้องประสงค์อะไรบอกฉันเถอะ ถ้าหาได้จะหาให้ตามความประสงค์ทุกอย่างทีเดียว.
ตาสัง.
(เดิรไปมาทำท่าก๋า.) แหม! ตั้งแต่รักษาไข้มานักกว่านัก ยังใม่เคยเห็นยากเหมือนครั้งนี้เลย.
หมื่นจำเนียร.
เออ! แม่จินดาไหนพูดให้พ่อฟังอีกสักทีเถอะ.
จินดา.
เมื่อดิฉันพูดได้ยังงี้แล้วดิฉันจะต้องขอบอกคุณพ่อให้รู้ไว้ว่า ดิฉันจะใม่ยอมมีผัวอื่นนอกจากนายเหลี่ยม และในการที่คุณพ่อจะคิดยกให้นายห่อน่ะอย่าคิดอีกต่อไปเลย.
หมื่นจำเนียร.
เอ๊ะ…………
จินดา.
ดิฉันจะใม่ยอมเปลี่ยนความคิดเลยทีเดียว.
หมื่นจำเนียร.
อะไรจะ…………
จินดา.
ถึงจะอธิบายเท่าไรดิฉันก็ใม่ยอมเชื่อฟังเปนอันฃาด.
หมื่นจำเนียร.
ก็ถ้าว่า…………
จินดา.
คุณพ่อจะพูดยังไง ๆ ดิฉันก็ใม่ขอฟัง เพราะยังงั้นพูดไปก็เสียเวลาเปล่า.
หมื่นจำเนียร.
ถ้ายังงั้น…………
จินดา.
จะเอาอำนาจมาข่มขี่ดิฉันให้ดิฉันเปนเมียคนที่ดิฉันใม่รักน่ะเปนใม่ได้ละนะเจ้าคะ.
หมื่นจำเนียร.
ใม่ใช่ พ่อหมายว่า…………
จินดา.
คุณพ่อจะพูดไปก็เสียเวลาเปล่า.
หมื่นจำเนียร.
ก็จะ…………
จินดา.
ดิฉันเหลือที่จะยอมให้กดขี่ได้อีกต่อไปแล้ว.
หมื่นจำเนียร.
เอ้อ…………
จินดา.
ถ้าจะให้ดิฉันแต่งงานกะนายห่อละก็ให้บวชเปนชีเสียทีเดียวดีกว่า.
หมื่นจำเนียร.
อ้า…………
จินดา.
ใม่มีประโยชน์ ใม่มีประโยชน์จนนิดเดียวเสียเวลาเปล่า ดิฉันใม่ยอมเปนอันฃาดทีเดียว ดิฉันตกลงในใจแน่นอนเสียแล้ว. (หันหน้าไปพูดกับนายเหลี่ยมใหม่.)
หมื่นจำเนียร.
(ชักผ้าออกมาเช็ดหน้า.) แม่เจ้าโว้ยพอพูดได้ทีหนึ่งก็พูดเสียใหญ่ จนเราพูดตอบใม่ทันเทียว พ่อหมอถ้าแกคิดอ่านจัดการให้กลับเปนใบ้เสียอีกฉันจะมีความยินดี.
ตาสัง.
ผมทำใม่ได้หรอกครับ แต่ถ้าคุณใม่อยากฟังลูกสาวคุณพูดอีกผมจะรับจัดการทำให้คุณหูหนวกเสียก็ได้ คงใม่ได้ยินเท่ากัน.
หมื่นจำเนียร.
ขอบใจ ใม่ต้องหรอก. (หันหน้าไปทางลูกสาว.) แม่จินดา นี่ตัวหล่อนน่ะนึกหรือว่า…………
จินดา.
(พูดซ้อนทันที.) ดิฉันบอกแล้วว่าอธิบายเสียเวลา ดิฉันใม่อยากฟังเลย.
หมื่นจำเนียร.
หล่อนน่ะจะต้องแต่งกะนายห่อในเวลาพรุ่งนี้ทีเดียว.
จินดา.
ดิฉันน่ะจะไปจากบ้านนี้ตั้งแต่วันนี้ทีเดียว.
ตาสัง.
เอ๊ะ ๆ คุณขอรับ เลิกที ๆ ไว้เปนพนักงานผมเอง นี่แปลว่าโรคเดิมของหล่อนยังใม่หายสนิธถึงได้พูดจาเช่นนี้ ผมมียารักษาอยู่แล้ว.
หมื่นจำเนียร.
อะไรหมอจะรักษาคนให้เปลี่ยนความคิดได้ทีเดียวหรือ.
ตาสัง.
ได้ซิครับ อย่าว่าแต่ตัวผมเลย พ่ออะบังลูกศิษย์ผมนั่นเฃาก็รักษาได้. นี่แน่ต่วนจ๋าแกเห็นไหมล่ะว่าคนไข้น่ะมีใจผูกพันธ์ในเจ้านายเหลี่ยมนี้ ที่ท่านหมื่นท่านใม่เปนที่พอใจจะยกให้เลย นี่ก็เปนเพราะลมร้ายที่มีอยู่ในตัวของหล่อน ทำให้หล่อนใจหงุดหงิดไปมา, เราต้องคิดอ่านรีบรักษาเสียให้หายถึงจะได้ ฉันเห็นว่าควรจะให้หล่อนกินยา–อ้อ–อ้ายยาขนานที่ฉันบอกแกไว้แล้วน่ะยังไงล่า แต่ว่าต้องเฃ้าเสนหากะจุมพิศให้ถูกส่วนนะ.
หมื่นจำเนียร.
อะไรนะ เสนหากะจุมพิศอะไร กฤษณากะบรเพ็ชร์ละกระมัง.
ตาสัง.
อ๊ะ บรเพ็ชร์จะได้ขมตาย จุมพิศนะจุมพิศน่ะมันหวานดีนัก เสนหานะรศชาติดีเหมือนกัน ผู้หญิงสาวละก็ชอบทุกคนเทียว. (หันไปสั่งนายเหลี่ยมต่อไป.) บางทีคุณจินดาจะอิดเอื้อนใม่ยอมกินยาขนานนั้น แต่แกก็เปนคนฉลาดอยู่ต้องคิดอ่านวิงวอนให้รับให้ได้นะ ถ้าแกจัดการใม่สำเร็จได้ครั้งนี้ละก็เถอะอย่าเปนลูกศิษย์ฉันอีกเลย จะพลอยเสียชื่อถึงอาจารย์ด้วย พาออกไปเดิรในสวนเสียสักหน่อยก่อนพอให้ใจเธอสบาย แล้วถึงค่อยให้กินหยูกกินยา ฉันจะคอยอยู่ในนี้กะท่านหมื่นจำเนียร เอ้า รีบ ๆ พาไปซิ อย่าร่ำไร.
(นายเหลี่ยมพาแม่จินดาออกไปทางประตูซ้าย.)
หมื่นจำเนียร.
ยาอะไรที่หมอกล่าวถึงเมื่อตะกี้นี้น่ะ.
ตาสัง.
อ๋อ! เสนหากะจุมพิศ.
หมื่นจำเนียร.
นั่นแหละ ฉันยังใม่เคยได้ยินชื่อได้ยินเสียงเลยทีเดียว เปนยาคิดขึ้นใหม่หรือยังไง ?
ตาสัง.
ใม่ใช่ยาใหม่ เก่าบุราณเทียว เฃาเคยใช้กันมาตั้งแต่ครั้งพระเจ้าเหาเทียว สำหรับใช้รักษาโรคอย่างที่ลูกสาวคุณเปนนี่ละดีนักใม่มีอะไรสู้.
หมื่นจำเนียร.
ลูกสาวฉันวันนี้ยังไงความประพฤติช่างแปลกกว่าแต่ก่อนจริง ๆ.
ตาสัง.
ผู้หญิงสาวน่ะบางทีก็หัวดื้อพอใช้.
หมื่นจำเนียร.
หรือจะเปนเพราะหลงเจ้านายเหลี่ยมนั่นเหลือเกิน.
ตาสัง.
ก็เปนได้ เปนธรรมดาหนุ่มสาวมักหลงง่าย.
หมื่นจำเนียร.
ฉันน่ะพอรู้เรื่องรู้ราวว่าเกิดรักใคร่กะนายเหลี่ยม ฉันก็จับตัวกักเสียใม่ให้ออกจากบ้านเลยทีเดียว.
ตาสัง.
ก็สมควรแล้วครับ.
หมื่นจำเนียร.
แล้วฉันคอยระวังใม่ให้มีหนังสือหนังหาหรือพูดจากันได้.
ตาสัง.
ถูกละครับ.
หมื่นจำเนียร.
ถ้าใม่ยังงั้นอาจจะเกิดเหตุได้.
ตาสัง.
จริง.
หมื่นจำเนียร.
แล้วแม่จินดาน่ะยังเด็กอยู่มาก ถ้าขืนใม่ระวังบางทีก็จะเลยเปิดตามเจ้าเหลี่ยมไปได้.
ตาสัง.
จริงตามใต้เท้าว่า.
หมื่นจำเนียร.
เฃาว่านายเหลี่ยมน่ะพยายามจะหาทางพูดจากะแม่จินดานัก.
ตาสัง.
ชอบกล ชอบกล!
หมื่นจำเนียร.
แต่ว่าเสียเวลาเปล่า.
ตาสัง.
อ้อ! อ้อ!
หมื่นจำเนียร.
เพราะว่าฉันน่ะได้จัดการป้องกันเสียอย่างแขงแรง ใม่ให้มีโอกาสพบปะหรือพูดจาถึงกันได้เลยทีเดียว.
ตาสัง.
แหมใต้เท้าช่างคิดระวังระไวรอบคอบดีมาก คนโง่ ๆ อย่างนายเหลี่ยมที่ไหนจะมามีความคิดสู้ใต้เท้าได้.
(อ้ายหลอวิ่งกระหืดกระหอบเฃ้ามาทางขวา.)
อ้ายหลอ.
ใต้เท้าครับ เกิดความใหญ่เสียแล้ว.
หมื่นจำเนียร.
อะไรวะ ?
อ้ายหลอ.
คุณจินดาขอรับ เปิดไปแล้ว.
หมื่นจำเนียร.
หา ? อะไรเปิดไปไหน ?
อ้ายหลอ.
ไปไหนผมจะไปทราบหรือขอรับ ไปกะนายเหลี่ยมน่ะซิขอรับ.
หมื่นจำเนียร.
อ๊ะ! แน่หรือ ?
อ้ายหลอ.
แน่ซิขอรับ ก็นายเหลี่ยมมันปลอมตัวเปนแขกลูกศิษย์พ่อหมอนั่นยังไงล่ะขอรับ.
หมื่นจำเนียร.
(ตบอก.) ตาย ๆ.
อ้ายหลอ.
อีตาหมอนั่นน่ะซิขอรับเปนผู้รู้เห็นเปนใจ.
หมื่นจำเนียร.
(ชี้หน้าตาสัง.) มึงทำกูเสียได้ ดีละ ๆ ฃ้าจะไปตามตำรวจภูธรมาจับตัวมึงไปเดี๋ยวนี้และ อ้ายหลอคุมตัวตาหมอไว้อย่าให้หนีไปได้นะ. (ออกไปทางขวา.)
อ้ายหลอ.
ใม่ได้ต้องมัด.
ตาสัง.
กันใม่หนีหรอกน่า.
อ้ายหลอ.
อ๊ะใม่ได้ ใม่ไว้ใจ. (เอาผ้าคาดพุงมัดตาหมอพลางพูดพลาง.) ฮะ ฮะ! คราวนี้ละก็งามหน้าละพ่อหมอ อยากให้แม่กลิ่นออกมาเห็นเวลานี้นัก ดูทีหรือจะว่าไง.
(ยายมากับผู้ใหญ่บ้านหงเฃ้ามาทางซ้าย.)
ยายมา.
นี่ตาหมอสังอยู่ไหน ?
อ้ายหลอ.
นี่แน่ะ.
ผู้ใหญ่หง.
อ้าว นั่นทำใมถูกมัดอยู่ล่ะ.
อ้ายหลอ.
มัดไว้สำหรับเอาไปเฃ้าตราง.
ยายมา.
พุทโธ่ ๆ นั่นจะเอาผัวฉันไปเฃ้าตรางทำใมกัน.
อ้ายหลอ.
ทำใมล่ะ มาคบคิดกะผู้ร้ายลักพาลูกสาวคุณนายท่านน่ะซิ.
ผู้ใหญ่หง.
แม่มา ฉันว่าแล้วว่าคงมีเหตุ ดูมาหายอยู่นานนัก.
ตาสัง.
ก็นี่แกน่ะเสือกมาด้วยทำใมล่ะ.
ยายมา.
ฉันชวนแกมาเองแหละ เห็นแกเปนคนราชการ เผื่อยังไงจะได้จัดการช่วยเหลือได้ ก็นี่แกจะต้องติดสักกี่ปีล่ะ.
ตาสัง.
ฉันจะไปรู้หรือ ฉันใม่ใช่ตระลาการนี่.
ยายมา.
โธ่ ๆ ใม่รู้เลยว่าจะเปนถึงเพียงนี้ ใม่ควรเลยที่ฉันจะสัประดนไปบอกเฃาว่าแกเปนหมอ.
ตาสัง.
อ้อ! นี่แกน่ะเองแหละหรือไปบอกเฃาว่ากันเปนหมอ.
ยายมา.
ก็ยังงั้นน่ะซิ.
ตาสัง.
ฮือ! ขอบใจแกมาก ทำเอาถูกเฆี่ยนบอบแล้วยังมิหนำซ้ำจะต้องติดตรางอีก.
ยายมา.
กรรมจริง ๆ เทียว.
ตาสัง.
แกจะอยู่ทำใมอีกล่ะ กันใม่เห็นเปนประโยชน์เลยทีเดียวกลับไปบ้านเสียดีกว่า.
ยายมา.
โถ! จะให้กลับไปยังไง ตั้งแต่เกิดมาผัวฉันยังใม่เคยติดตรางสักที ฉันต้องไปส่งแกให้ถึงตรางทีเดียว จะได้เห็นอกเห็นใจกันไปจนที่สุด.
ตาสัง.
พูดราวกะเฃาจะเอาไปฆ่า ใม่น่าฟังเลย.
(หมื่นจำเนียรกลับเฃ้ามา.)
หมื่นจำเนียร.
ตำรวจประเดี๋ยวก็มาหรอก ดีละประเดี๋ยวก็ได้ไปตรางละ.
ตาสัง.
พุทโธ่! ใต้เท้าครับ กรุณาผมหน่อยเถอะ ตีผมให้ผมกลายเปนคนอื่นไปเสียหน่อยเถอะครับ ถึงจะเจ็บผมก็ยอม ขอแต่ให้พ้นตรางสักทีเถอะครับ.
หมื่นจำเนียร.
ใม่ได้ ใม่ได้! ต้องให้เปนไปตามพระราชกำหนดกฎหมาย.
กลิ่น.
(พูดฃ้างนอกประตูทางซ้าย.) มาเถอะคะ ใม่ต้องกลัวหรอก.
(นางกลิ่นพานายเหลี่ยมกับแม่จินดาเฃ้ามาทางประตูซ้าย นายเหลี่ยมเปลื้องเครื่องแขกเสร็จแล้ว.)
หมื่นจำเนียร.
อ้าวนี่ยังไงกัน ?
กลิ่น.
ดิฉันไปอ้อนวอนคุณเหลี่ยมขอให้พาคุณจินดากลับมาบ้าน เธอก็ตกลงพามาดี ๆ เจ้าค่ะ เพราะฉนั้นคุณนายอย่าโกรธเลย ไหน ๆ เฃาก็รักกันนะเจ้าคะ.
เหลี่ยม.
ผมพาแม่จินดามาคืนให้กะคุณพ่อ เพราะตกลงกันทั้งสองคนว่าใม่ควรจะทำให้คุณพ่อได้ความเดือดเนื้อร้อนใจ จะเปนกรรมต่อไปภายหน้า ผมใม่คิดลักพาลูกสาวคุณพ่ออีกละขอรับ ผมจะกราบเท้าขอต่อคุณพ่อแต่โดยดี.
หมื่นจำเนียร.
ฮือ!
เหลี่ยม.
แล้วก็ผมขอเรียนคุณพ่อให้ทราบว่า เมื่อตะกี้นี้เอง ผมได้รับโทรเลขจากกรุงเทพฯว่าคุณลุงผมน่ะถึงแก่กรรมแล้ว และยกสมบัติให้กะตัวผมเองทั้งหมด.
หมื่นจำเนียร.
อ้อ ๆ ! เออฉันก็มารู้สึกว่าพ่อเหลี่ยมนี่ก็เปนคนดีมีตระกูลทั้งมีความรักใคร่ในตัวลูกสาวฉันจริง เพราะฉนั้นฉันก็เต็มใจยกแม่จินดาให้โดยยินดีทีเดียว.
เหลี่ยม.
ผมขอบพระเดชพระคุณมากขอรับ.
ตาสัง.
ก็ผมล่ะ เมื่อไหร่จะเอาไปใส่ตรางล่ะ.
หมื่นจำเนียร.
อ๊าย! แกก็ใม่มีความผิดอะไรนี่หนา อ้ายหลอแก้พ่อหมอเสียซิ เอ็งเสือกไปมัดไว้ทำใมล่ะ. (อ้ายหลอแก้ตาสังโดยใม่สู้เต็มใจนัก.)
ตาสัง.
แม่โว้ย! แขนเปนเหน็บนั่นแน่ มันมัดเสียจนลมเดิรใม่สดวกเทียว.
(อ้ายเหลือเฃ้ามาทางซ้าย.)
อ้ายเหลือ.
รับประทาน ผมไปโรงตำรวจมาแล้วขอรับ ท่านขุนท่านว่าท่านกำลังจะคุมกองตำรวจไปจับผู้ร้ายอยู่ขอรับ เพราะฉนั้นท่านมายังใม่ได้ ท่านให้ใต้เท้าส่งจำเลยไปที่โรงพัก.
ผู้ใหญ่หง.
อาญัติตัวจำเลยไว้กะผมก่อนก็ได้ขอรับ.
ตาสัง.
บอกว่าแกน่ะอย่าเสือก. (พูดกับหมื่นจำเนียร.) ยังงั้นผมใม่มีผิดนะ.
หมื่นจำเนียร.
แกนะกลับมีความชอบที่รักษาลูกสาวฉันหายเปนใบ้น่ะนะ เพราะยังงั้นแกเอาเงินไปใช้ค่าหยูกยาสักสิบตำลึงเถอะ. (ให้เงินตาสัง.)
เหลี่ยม.
อ้อ! ลืมไป นี่แน่ะฉันขอให้แกค่าวิชาที่ฉันได้เรียนมาจากแก. (ให้เงินตาสัง.)
(นายเป๋ากับนายเปียเฃ้ามาทางซ้าย.)
เป๋า.
แหม! คุณหมอ ยาของคุณวิเศษจริง ๆ.
ตาสัง.
อ้อ! คนไข้ใม่ตายหรอกหรือ.
เปีย.
ตายอะไรล่ะ พอผมเอาปลาสลิดไปส่งให้ ก็ลุกขึ้นเตะผมเผงใหญ่แน่ะ เปนหายแน่เทียว.
เป๋า.
เพราะยังงั้นผมนำเงินมาใช้ค่ายาเติมอีกสามตำลึงครับ. (ให้เงินตาสัง.)
ตาสัง.
แม่โว้ย! รวยจริงนะเรา เออก็ใครจะกรุณาให้เงินหมอสังอีกก็เชิญมาให้เสียเดี๋ยวนี้ซิ. (เดิรออกมาฃ้างหน้าโรง และพูดไปทางคนดู.) ยังไงล่ะขอรับ จะให้เงินก็เชิญซิ หรือจะต้องประสงค์ยาวิเศษของผม ยาเสนหารับประทานไหม หรือจะต้องประสงค์จุมพิศ, ถ้าใครต้องประสงค์ขอได้โปรดมารับเอาไปเดี๋ยวนี้ ใม่ต้องประสงค์หรือ ? งั้นผมลาที!
จบเรื่อง.
----------------------------