- คำนำ
- ตอนที่ ๑
- ตอนที่ ๒
- ตอนที่ ๓
- ตอนที่ ๔
- ตอนที่ ๕
- ตอนที่ ๖
- ตอนที่ ๗
- ตอนที่ ๘
- ตอนที่ ๙
- ตอนที่ ๑๐
- ตอนที่ ๑๑
- ตอนที่ ๑๒
- ตอนที่ ๑๓
- ตอนที่ ๑๔
- ตอนที่ ๑๕
- ตอนที่ ๑๖
- ตอนที่ ๑๗
- ตอนที่ ๑๘
- ตอนที่ ๑๙
- ตอนที่ ๒๐
- ตอนที่ ๒๑
- ตอนที่ ๒๒
- ตอนที่ ๒๓
- ตอนที่ ๒๔
- ตอนที่ ๒๕
- ตอนที่ ๒๖
- ตอนที่ ๒๗
- ตอนที่ ๒๘
- ตอนที่ ๒๙
- ตอนที่ ๓๐
- ตอนที่ ๓๑
- ตอนที่ ๓๒
- ตอนที่ ๓๓
- ตอนที่ ๓๔
- ตอนที่ ๓๕
- ตอนที่ ๓๖
- ตอนที่ ๓๗
- ตอนที่ ๓๘
- ตอนที่ ๓๙
- ตอนที่ ๔๐
- ตอนที่ ๔๑
- ตอนที่ ๔๒
- ตอนที่ ๔๓
- ตอนที่ ๔๔
- ตอนที่ ๔๕
- ตอนที่ ๔๖
- ตอนที่ ๔๗
- ตอนที่ ๔๘
- ตอนที่ ๔๙
- ตอนที่ ๕๐
- ตอนที่ ๕๑
- ตอนที่ ๕๒
- ตอนที่ ๕๓
- ตอนที่ ๕๔
- ตอนที่ ๕๕
- ตอนที่ ๕๖
- ตอนที่ ๕๗
- ตอนที่ ๕๘
- ตอนที่ ๕๙
- ตอนที่ ๖๐
- ตอนที่ ๖๑
- ตอนที่ ๖๒
- ตอนที่ ๖๓
- ตอนที่ ๖๔
- ตอนที่ ๖๕
- ตอนที่ ๖๖
- ตอนที่ ๖๗
- ตอนที่ ๖๘
- ตอนที่ ๖๙
- ตอนที่ ๗๐
- ตอนที่ ๗๑
- ตอนที่ ๗๒
- ตอนที่ ๗๓
- ตอนที่ ๗๔
- ตอนที่ ๗๕
- ตอนที่ ๗๖
- ตอนที่ ๗๗
- ตอนที่ ๗๘
- ตอนที่ ๗๙
- ตอนที่ ๘๐
- ตอนที่ ๘๑
- ตอนที่ ๘๒
- ตอนที่ ๘๓
- ตอนที่ ๘๔
- ตอนที่ ๘๕
- ตอนที่ ๘๖
- ตอนที่ ๘๗
ตอนที่ ๖๘
ฝ่ายเบ้งเฮ็กครั้นขงเบ้งปล่อยเสียแล้ว ก็ขึ้นม้ารีบไปถึงริมแม่น้ำลกซุย พบทหารซึ่งแตกหนีอยู่ในป่าดงก็พูดจาเกลี้ยกล่อมเอาน้ำใจ ทหารทั้งปวงครั้นเห็นเบ้งเฮ็กกลับคืนมาดังนั้น ทั้งกลัวทั้งดีใจเข้ามากราบลงแล้วถามว่า เขาจับเอาตัวท่านไปได้แล้วทำไมจึงมาได้เล่า เบ้งเฮ็กได้ฟังทหารถามดังนั้นคิครำพึงว่า ครั้นจะบอกตามจริงเล่าก็อาย จึงอุบายบอกว่าขงเบ้งมันจับเราไปได้ใช้ให้ทหารคุมเราไว้ในค่ายสิบคน ครั้นเวลาดึกสงัดเราฆ่าทหารสิบคนเสียแล้วหนีออกมา พบกองตะเวนขี่ม้าเราจึงฆ่าอ้ายกองตะเวนแล้วก็เอาม้าขี่มา ฝ่ายพวกทหารทั้งปวงได้ฟังดังนั้นก็ดีใจ
เบ้งเฮ็กจึงคุมทหารทั้งปวงลงเรือข้ามไปตั้งค่ายอยู่ฟากข้างโน้น เกลี้ยกล่อมทหารซึ่งแตกหนีอยู่ในดงป่าเข้าได้ แล้วสั่งให้หาทหารหัวเมืองรายทางทั้งปวงบันดาขึ้นกับเมืองมันอ๋องนั้นเข้ามาให้สิ้น แล้วรู้ว่าสุนาห้วยหลำกลับมาได้แล้ว ก็ให้ไปหาสุนาห้วยหลำสองคนเข้ามาด้วย ทหารคนใช้รับคำแล้วก็แยกกันไปหาตามสั่ง
สุนาห้วยหลำแลทหารหัวเมืองรายทางทั้งปวงแจ้งดังนั้นก็ชวนกันรีบมา ครั้นถึงพร้อมกันแล้วก็เข้าไปคำนับเบ้งเฮ็ก ๆ จึงว่า ขงเบ้งยกมารบเราครั้งนี้เปนเทศกาลร้อนทหารไม่มีที่อาศรัย เราจะตั้งทัพมั่นอยู่ฟากข้างนี้ดูท่วงทีก่อน ให้ไปเกณฑ์เอาเรือแพฟากข้างโน้นมาไว้ฟากข้างนี้ให้สิ้น อย่าให้ข้าศึกข้ามมาได้ แล้วให้ขุดดินภูลขึ้นเปนกำแพงบังตั้งป้อมรายไปตามริมน้ำ ให้มีทหารถือเกาทัณฑ์รักษาค่ายยิงอย่าให้ศัตรูข้ามมาได้ ซึ่งสเบียงอาหารนั้นเราเกณฑ์เอาทุกหัวเมืองให้มาส่ง แล้วเราตั้งมั่นอยู่อย่าออกรบ ดูขงเบ้งคิดอ่านเปนประการใด นายทัพนายกองทหารทั้งปวงได้ฟังดังนั้นก็เห็นชอบด้วย จึงออกมาเกณฑ์กันตามเบ้งเฮ็กสั่ง
ฝ่ายขงเบ้งครั้นปล่อยเบ้งเฮ็กไปแล้วก็ยกทัพตามไป ครั้นถึงริมแม่นํ้าลกซุยแล้วก็เดิรดูที่ทางทั้งปวง เห็นนํ้าไหลเชี่ยวแรงนักเรือแพก็ไม่มี แลไปฟากข้างโน้นเห็นเนินดินสูงเปนกำแพงเรียงรายไป มีทหารรักษาอยู่ ขงเบ้งจึงให้หานายทัพนายกองทั้งปวงมาปรึกษาว่า เบ้งเฮ็กทำการทั้งนี้เห็นจะไม่ยกมารบแล้ว มันจะคอยรับเรา ๆ จำจะคิดการที่จะเข้าหักหาญเอาชัยชนะให้ได้ จึงสั่งลิคีว่าท่านเคยไปมารู้จักที่ทางเมืองนี้ จงไปจัดแจงตั้งค่ายรายไปตามริมนํ้าสี่ค่าย แล้วให้อองเป๋งกวนสกเตียวเอ๊กเตียวหงีอยู่รักษาคนละค่าย อนึ่งเรายกมาครั้งนี้เปนเทศกาลร้อนนักทหารไม่มีที่อาศรัย ให้ไปตัดไม้เกี่ยวหญ้าทำค่ายร่มให้ม้าคนอาศรัยจงทุกทัพทุกกอง ลิคีแลนายทหารทั้งปวงก็ไปทำตามสั่ง
เจียวอ้วนเห็นลิคีตั้งค่ายดังนั้นจึงเข้ามาบอกขงเบ้งว่า ลิคีตั้งค่ายรายมาตามริมน้ำฉนี้ ข้าพเจ้าเห็นเหมือนเมื่อครั้งพระเจ้าเล่าปี่ยกไปตีเมืองกังตั๋ง ลกซุนให้ทหารเข้าเผาค่ายพระเจ้าเล่าปี่จึงเสียที อนึ่งเกลือกเบ้งเฮ็กจะให้ลอบมาเผาค่ายเหมือนเช่นนั้น ก็จะเสียทีแก่ข้าศึก ขงเบ้งได้ฟังเจียวอ้วนว่าก็หัวเราะแล้วจึงบอกว่าท่านอย่าสงสัยเลย เราคิดการแก้ไว้สำเร็จแล้วจึงให้ทำ
ฝ่ายพระเจ้าเล่าเสี้ยนครั้นถึงเทศกาลร้อน จึงสั่งม้าต้ายให้คุมทหารสามพันเอาสเบียงซึ่งกินแก้ร้อนไปให้ขงเบ้ง ครั้นถึงก็เข้าไปหาขงเบ้งเอาสิ่งของพระราชทานให้ ขงเบ้งยกมือขึ้นถวายบังคม แล้วให้เอาสิ่งของพระราชทานนั้นแจกนายทัพนายกองทหารทั้งปวง แล้วขงเบ้งจึงว่าแก่ม้าต้ายว่า เรายกมาครั้งนี้ได้รบเปนสามารถทหารบอบชํ้าอิดโรย จะขอท่านผู้มาใหม่ช่วยรบจะได้หรือมิได้ ม้าต้ายจึงว่าตัวข้าพเจ้าแลทหารทั้งปวงเปนข้าพระเจ้าเล่าเสี้ยนใช้มา จะอาสากว่าจะสิ้นชีวิตตามแต่ท่านจะใช้เถิด
ขงเบ้งได้ฟังดังนั้นก็ยินดี แล้วจึงว่าเบ้งเฮ็กมันตั้งอยู่ฟากข้างโน้น ทหารหาบสเบียงมาส่งกันนั้นทางไกล ท่านจงคุมทหารยกลงไปใต้ค่ายนี้ประมาณพันห้าร้อยเส้นที่นั่นน้ำตื้น จงตัดไม้ทำแพข้ามทหารไปคอยรบตัดเอาสเบียงอาหารซึ่งมันมาส่งให้ได้ แล้วบอกว่าสุนาห้วยหลำซึ่งเราปล่อยไปนั้นก็จะได้เปนไส้ศึกของเรา ม้าต้ายได้ฟังขงเบ้งชี้แจงดังนั้นแล้วก็ลาไป ครั้นถึงที่ข้ามก็ขับทหารให้ตัดไม้ผูกแพแล้วก็ข้ามไป ทหารทั้งนั้นร้อนนัก เห็นน้ำตื้นก็เปลื้องผ้าลงอาบน้ำว่ายเล่น บันดาทหารที่ลงอาบน้ำ ครั้นถึงฝั่งก็ล้มลงโลหิตไหลออกทางปากแลจมูกตายประมาณพันห้าร้อย ม้าต้ายเห็นทหารตายมากดังนั้นก็ตกใจนัก ก็พากันข้ามกลับมาในเวลากลางคืน เข้าไปหาขงเบ้งแล้วบอกว่าแม่น้ำนี้ร้ายนัก ทหารไม่รู้ลงอาบกิน โลหิตพุออกมาทางปากจมูกตายถึงพันเศษ
ขงเบ้งได้ฟังดังนั้นก็ตกใจนัก จึงสั่งทหารให้เร่งไปจับชาวบ้านมาให้ได้ในเวลานี้ ทหารก็เร่งไปสืบเสาะหาจับได้ชาวบ้านป่ามาให้ ขงเบ้งจึงถามชาวบ้านว่า แม่น้ำนี้คนลงอาบกินตายนั้นเหตุผลประการใด ชาวบ้านป่าจึงบอกว่า แม่น้ำนี้มีพิษร้ายนัก เทศกาลนี้ใครอาบแลกินกลางวันแล้วก็ตาย ถ้าจะอาบกินได้แต่เวลากลางคืนดึกสงัด
ขงเบ้งครั้นได้แจ้งดังนั้นแล้ว จึงเกณฑ์ทหารให้ม้าต้ายห้าร้อยบัญจบเข้าเปนสองพัน ให้ชาวบ้านป่านำทางไปด้วย ม้าต้ายก็ลาออกไปให้ชาวบ้านป่านำทาง ครั้นถึงแพเปนเวลากลางเที่ยงคืนแล้วก็ข้ามไป คนป่าก็นำไปถึงซอกเขาทางร่วมที่ทหารเบ้งเฮ็กเคยหาบสเบียงมาส่ง ม้าต้ายก็จัดแจงทหารวางกองรายอยู่
ฝ่ายทหารเบ้งเฮ็กซึ่งส่งสเบียงนั้นไม่รู้ว่าข้าศึกมาคอยอยู่ ก็เร่งกันหาบหามเดิรตามทาง ม้าต้ายเห็นกองลำเลียงหาบสเบียงมาพร้อมกัน ดูท่วงทีแล้วก็ขับทหารโห่ร้องริบชิงเอาสเบียงฆ่าทหารล้มตายบ้างหนีไปบ้าง ได้สเบียงไว้ประมาณร้อยเกวียนเศษ แล้วตั้งค่ายมั่นรักษาสเบียงอยู่
ฝ่ายเบ้งเฮ็กครั้นจัดแจงค่ายคูมั่นแล้ว ก็หมายใจว่าจะชนะข้าศึก จึงเสพย์สุราร้องรำทำเพลงสนุกไป แล้วว่าแก่ทหารทั้งปวงว่า เราตั้งมั่นอยู่ฟากข้างนี้สเบียงอาหารเราก็ส่งกันสดวกอยู่ ขงเบ้งจะคิดทำอะไรเราได้ ซึ่งยกมาหน้านี้เปนเทศกาลร้อนจะทนอยู่ได้สักเท่าไร หน่อยหนึ่งก็จะยกกลับไปเอง เราจึงยกตามตีไปเห็นจะจับได้ตัวขงเบ้ง แล้วก็หัวเราะ ทหารผู้หนึ่งได้ยินเบ้งเฮ็กว่าดังนั้นจึงว่า ข้าพเจ้าเห็นว่านํ้าใต้ค่ายลงไปนี้มีที่ตื้นจะข้ามได้แห่งหนึ่ง เกลือกขงเบ้งจับผู้คนได้ไถ่ถามรู้จะยกข้ามมาทางนั้น ขอให้แต่งทหารไปตั้งอยู่ที่นั้นกองหนึ่งจึงจะดี
เบ้งเฮ็กได้ฟังดังนั้นจึงว่า ท่านอยู่ที่นี่ไม่รู้หรือว่าน้ำร้าย เราแกล้งจะให้มันข้ามมาที่นั้นอีก แม้ลงอาบนํ้ากินน้ำก็จะตายสิ้น จึงมิให้ยกทหารไปตั้งสกัดอยู่ ว่ากันยังมิทันขาดคำ ทหารซึ่งหาบสเบียงแตกนั้นเอาเนื้อความเข้ามาบอกว่า ม้าต้ายคุมทหารยกข้ามมารบสกัดตีเอาสเบียงไปได้สิ้น แล้วฆ่าทหารล้มตายเปนอันมาก เบ้งเฮ็กได้ฟังดังนั้นก็หัวเราะ แล้วว่ามันจะทำอะไรแก่เราได้ จึงสั่งเงียเตียงให้คุมทหารสามพันไปตีม้าต้าย เงียเตียงก็ลาออกไปจัดแจงทหารพร้อมแล้วก็รีบยกไป ครั้นถึงก็ขับทหารเข้าตีค่ายม้าต้าย
ม้าต้ายครั้นเห็นเงียเตียงขับทหารเข้ามาดังนั้น จึงถือง้าวขี่ม้าขับทหารออกรบกับเงียเตียงได้สองเพลง ม้าต้ายก็ฟันถูกเงียเตียงตกม้าตาย แล้วไล่ฟันทหารเงียเตียงล้มตายแตกหนีไป ทหารเงียเตียงซึ่งแตกไปนั้นก็เอาเนื้อความเข้าไปบอกแก่เบ้งเฮ็ก เบ้งเฮ็กครั้นได้ฟังดังนั้นจึงให้หาทหารทั้งปวงเข้ามาแล้วถามว่า ผู้ใดจะอาสาเราไปรบกับม้าต้ายได้บ้าง สุนาเห็นทหารทั้งปวงนิ่งอยู่ จึงว่าข้าพเจ้าจะขออาสาไปรบกับม้าต้าย เบ้งเฮ็กได้ฟังดังนั้นก็ดีใจ จึงจัดแจงทหารให้สุนาสามพัน สุนาก็ลาเบ้งเฮ็กแล้วยกทัพไป เบ้งเฮ็กจึงว่าแก่ทหารทั้งปวงว่า เราคิดว่าแม่นํ้าที่นี้ร้ายข้าศึกจะข้ามมามิได้ มันกลับข้ามมารบตัดเอาสเบียงอาหารเราไปได้ดังนี้ จำจะให้ไปตั้งทัพไว้ที่นั้นกองหนึ่ง จึงสั่งห้วยหลำให้คุมทหารสามพันยกไปตั้งค่ายอยู่ที่ตื้นทางข้ามนั้น อย่าให้ข้าศึกข้ามมาได้ ห้วยหลำรับคำแล้วก็ลายกไปทำตามเบ้งเฮ็กสั่ง ขณะเมื่อสุนายกทัพไป ครั้นใกล้ก็ให้ทำค่ายแล้วจัดแจงกันออกรบ
ฝ่ายม้าต้ายเห็นทัพยกมาดังนั้น ก็ขี่ม้าถือง้าวขับทหารไปรบ แลทหารซึ่งขงเบ้งให้มาด้วยนั้นเห็นสุนาแล้วจึงบอกว่า สุนาคนนี้เตียวหงีจับได้ ขงเบ้งให้ปล่อยมา ม้าต้ายได้ฟังทหารบอกดังนั้น ก็ขับม้าเข้าไปใกล้สุนาแล้วร้องว่าอ้ายเนรคุณ นายกูจับตัวมึงได้ไม่ฆ่าเสียเห็นกับบุญปล่อยไปให้พบพี่น้องญาติกาแล้ว มึงกลับมารบนี้จะแทนคุณหรือ สุนาครั้นได้ยินม้าต้ายร้องมาดังนั้นคิดอายใจนัก จึงทำหลบหลีกเรรวนมิเปนใจที่จะรบ ม้าต้ายเห็นทัพสุนาเรรวนอยู่แล้วก็ขับทหารบุกบั่นไล่รบ ทัพสุนาก็แตกหนีเข้าป่าไป
ฝ่ายสุนาครั้นทัพแตกแล้วรีบหนีเข้าไปถึงเบ้งเฮ็กจึงบอกว่า ม้าต้ายคนนี้มีฝีมือเข้มแขงนักข้าพเจ้าต่อสู้ด้วยมิได้ แตกมาทั้งนี้แล้วแต่จะโปรด เบ้งเฮ็กได้ฟังดังนั้นก็โกรธ จึงว่ามึงแกล้งรบให้แตกมาทั้งนี้เพราะคิดถึงคุณขงเบ้งจึงไม่เปนใจรบ ซึ่งจะเลี้ยงไว้นั้นมิได้ แล้วสั่งทหารให้มัดเอาสุนาไปฆ่าเสีย ฝ่ายทหารซึ่งนั่งอยู่ด้วยนั้นพร้อมกันร้องขอโทษสุนาไว้ เบ้งเฮ็กจึงว่า คนทั้งปวงขอชีวิตสุนาเราก็ให้ แต่จะเปนเยี่ยงอย่างไป ให้ตีสุนาร้อยที ทหารคนใช้ได้ยินดังนั้นก็ยุดสุนาลงตีตามสั่งแล้วก็ปล่อยไป
สุนาครั้นต้องตีแล้วเจ็บปวดนัก ให้คนพยุงออกไปค่ายแล้วก็รักษาตัวอยู่ เหล่าทหารเบ้งเฮ็กซึ่งขงเบ้งจับไปได้ปล่อยมานั้นชวนกันมาเยี่ยมสุนา เห็นสุนาเจ็บปวดนักก็ถอนใจใหญ่แล้วจึงว่า แต่ก่อนมามิได้มีศึกมาถึงเมือง ครั้งนี้เพราะเบ้งเฮ็กยกไปตีเมืองเองเฉียง จึงพาศึกมาติดเมืองให้เราได้ความเดือดร้อน ขงเบ้งคนนี้เขาเลื่องลือว่ามีสติปัญญามากนัก พระเจ้าซุนกวนพระเจ้าโจผียังกลัวความคิด ครั้งนี้ขงเบ้งยกมารบจับเราไปได้ไม่ฆ่าเสียปล่อยมาบุญคุณอยู่กับเรามากนัก แล้วพิเคราะห์ดูทหารเมืองเราเล่าก็ไม่เห็นผู้ใดที่จะออกไปต่อสู้ได้ เห็นจะเสียเมืองมันอ๋องเปนมั่นคง ครั้นจะนิ่งอยู่เล่า เบ้งเฮ็กก็จะเกณฑ์เอาเราออกไปรบ ขัดมิได้ก็จะตายเสียเปล่า เราชวนกันจับเอาตัวเบ้งเฮ็กให้ขงเบ้งเห็นจะได้ ความชอบ สุนาครั้นได้ฟังทหารว่าดังนั้นก็เห็นด้วยดีใจนัก จึงว่าถ้าพร้อมใจด้วยกันแล้วจงไปคอยดู ถ้าเห็นเบ้งเฮ็กเสพย์สุราเมานักสิ้นสมประดีแล้วเมื่อไรจงเร่งไปบอกเรา ทหารทั้งปวงก็ไปคอยดูอยู่ในค่าย
ฝ่ายเบ้งเฮ็กนั้นทะนงองค์อาจนัก มิได้คิดตรึกตรองในการสงคราม ก่นแต่เสพย์สุราแล้วก็นอนหลับไป ขณะนั้นทหารซึ่งคอยอยู่ครั้นเห็นเบ้งเฮ็กเสพย์สุราเมานอนหลับไปก็วิ่งออกไปบอกสุนา ๆ ครั้นได้แจ้งดังนั้นก็แต่งตัวถือดาบแล้วคุมทหารวิ่งกรูกันเข้าไปในค่าย จึงช่วยกันจับเบ้งเฮ็กมัดเอาตัวไปลงเรือข้ามไปจะให้ขงเบ้ง ครั้นข้ามไปถึงค่ายแล้วก็บอกทหารขงเบ้ง ทหารก็นำเอาเนื้อความเข้าไปแจ้งแก่ขงเบ้ง ๆ ได้ฟังดังนั้นจึงสั่งทหารทั้งปวงให้แต่งตัวถืออาวุธทำให้เปนสง่าแก่ข้าศึก ยืนอยู่ให้พร้อมจงทุกค่าย แล้วสั่งให้เอาตัวสุนากับทหารทั้งปวงเข้ามาก่อน สุนาแลทหารทั้งปวงก็เข้าไป ครั้นถึงต่างคนต่างกราบแล้วว่า ข้าพเจ้าทั้งปวงคิดถึงคุณที่ท่านไม่ฆ่าเสียปล่อยไป ข้าพเจ้าจึงชวนกันจับเอาตัวเบ้งเฮ็กมาให้ท่าน
ขงเบ้งจึงว่า ซึ่งตัวจับเบ้งเฮ็กมาให้ ด้วยรู้จักคุณเรานั้นขอบใจท่านหนักหนา จึงให้รางวัลเสื้อผ้าทุกคนตามสมควร สุนาแลทหารทั้งปวงรับรางวัลแล้วก็ลาไป ขงเบ้งจึงสั่งทหารให้เอาตัวเบ้งเฮ็กเข้ามาแล้วจึงว่า ที่ท่านสัญญาไว้กับเรา ทีนี้กลัวเกรงเราแล้วหรือยัง
เบ้งเฮ็กจึงว่า มิใช่เรารบแพ้ด้วยฝีมือนั้นหาไม่ นี่ทหารเรามันชั่วจึงจับเอาตัวเรามาส่ง เรายังไม่เกรง ขงเบ้งได้ยินดังนั้นจึงว่า ท่านยังไม่เกรงเรานั้น จะให้ปล่อยไปหรือจะให้ทำประการได เบ้งเฮ็กได้ยินดังนั้นจึงว่า ถึงเราอยู่เมืองบ้านนอกก็ดี การศึกเพียงนี้พอจะสู้ท่านได้อยู่ ถ้าปล่อยให้ไปเมืองแล้ว จะจัดแจงทหารคุมมารบท่านอีก ถ้าแพ้ทีนี้เราจึงจะกลัวเกรงท่าน ขงเบ้งได้ยินดังนั้นก็หัวเราะ แล้วสั่งให้แก้มัดยกโต๊ะเข้ามาให้กิน ขงเบ้งจึงว่า เราทำการศึกมาหนักหนา แต่ครั้งพระเจ้าเล่าปี่ยกไปตีแห่งใดตำบลใดมีแต่ชัยชนะยังหาแพ้ผู้ใดไม่ ท่านเปนแต่เจ้าเมืองน้อยเท่านี้เหตุไรจึงไม่กลัวเกรงเรา เบ้งเฮ็กก็นิ่งอยู่มิได้ตอบก้มกินโต๊ะไป ครั้นกินแล้วขงเบ้งจึงชวนให้ขี่ม้าพาเบ้งเฮ็กไปเที่ยวดูทุกค่าย ที่ไว้สเบียงอาหารแลอาวุธทั้งปวงของเราพรักพร้อมอยู่ฉนี้เห็นจะสู้เราได้หรือ ท่านมาเข้าด้วยเราโดยดีเถิด จะไปทูลเจ้าเราให้ตั้งแต่งท่านมาครองเมืองนี้สืบไปชั่วลูกแลหลาน
เบ้งเฮ็กได้ฟังดังนั้นจึงว่า ไพร่พลเมืองเขาไม่ยอม เราจะมายอมคนเดียวได้หรือ จะไปชวนเขาดูก่อน ถ้าพร้อมกันแล้วข้าพเจ้าจึงจะกลับมาหาท่าน ขงเบ้งได้ยินเบ้งเฮ็กว่าดังนั้นก็หัวเราะ แล้วว่าท่านไปเถิด จึงสั่งให้ทหารเอาเรือข้ามส่งเบ้งเฮ็ก ทหารก็พาเบ้งเฮ็กไปลงเรือข้ามส่งให้ตามสั่ง ขงเบ้งครั้นปล่อยเบ้งเฮ็กไปแล้ว จึงสั่งให้หาม้าต้ายยกกลับคืนมา ทหารก็ไปบอกตามสั่ง
ฝ่ายเบ้งเฮ็กครั้นกลับไปถึงค่ายแล้วคิดแค้นใจนัก จึงเรียกทหารซึ่งยังเปนใจเข้าด้วยนั้นมาลอบสั่งว่า จงจัดแจงอาวุธถือซ่อนไว้ให้พร้อมแล้วให้ไปบอกสุนาห้วยหลำว่า ขงเบ้งใช้ทหารข้ามมาหา บัดนี้นั่งคอยท่าอยู่ในค่ายให้รีบมาโดยเร็ว ถ้าสุนาห้วยหลำมาถึงเมื่อไรก็ให้ฆ่าเสียเถิด ทหารทั้งปวงก็มาจัดแจงแล้วรีบไป ครั้นถึงห้วยหลำเห็นสุนาไปนั่งอยู่ด้วยจึงบอกว่า ขงเบ้งใช้ให้ทหารมานั่งคอยอยู่ในค่าย ให้เชิญท่านทั้งสองเร่งไป สุนาห้วยหลำครั้นได้ยินทหารบอก ไม่รู้คิดว่าขงเบ้งให้มาหาจริงก็ขึ้นม้ารีบมาโดยเร็ว ครั้นไปถึงลงจากม้าเดิรเข้าไปในค่าย เหล่าทหารซึ่งคอยอยู่นั้นก็ล้อมกันเข้าจับสุนาห้วยหลำฆ่าเสีย แล้วลากศพไปทิ้งไว้ในคลอง
ฝ่ายม้าต้ายครั้นคนใช้ไปหาดังนั้น ก็จัดแจงสเบียงอาหารพร้อมแล้วก็ยกข้ามกลับไปค่าย ข้างเบ้งเฮ็กครั้นฆ่าสุนาห้วยหลำเสียแล้วก็จัดแจงทหารยกไปทางซอกเขาจะรบด้วยม้าต้าย ครั้นไปถึงเห็นแต่ค่ายเปล่าอยู่ จึงให้จับชาวบ้านป่ามาถามว่าม้าต้ายยกไปแห่งใด ชาวบ้านป่าจึงบอกว่า ม้าต้ายขนสเบียงอาหารยกข้ามไปค่ายใหญ่แต่คืนนี้แล้ว เบ้งเฮ็กได้ฟังดังนั้นก็ยกทัพกลับไป ไม่เข้าค่ายเก่าตรงไปเมือง
เบ้งฮิวผู้น้องรู้ว่าเบ้งเฮ็กพี่ชายมา ก็ออกมาคำนับแล้วเชิญเข้าไปในเมือง เบ้งเฮ็กก็เล่าเนื้อความหลังให้ฟังทุกประการ แล้วว่าขงเบ้งพาเราไปให้ดูทุกค่าย ที่ไว้อาวุธแลสเบียงอาหารนั้นเราเห็นสิ้น เราคิดว่าจะให้เจ้าเอาหน่องาเครื่องทองเงินให้ทหารสักร้อยหนึ่งคุมของข้ามไปให้ขงเบ้ง ๆ ก็จะไว้ใจ ข้าจะคุมทหารติดตามเข้าไป เจ้าคอยดูการ เห็นเรารบข้างนอกเข้าไปแล้วก็รบขึ้นข้างในให้อลหม่าน เห็นขงเบ้งก็จะละล้าละลังจะแพ้แก่เรา เบ้งฮิวได้ฟังดังนั้นก็เห็นชอบด้วย แล้วจัดสิ่งของกับทหารร้อยหนึ่งก็ข้ามไปตามสั่ง ครั้นถึงพอพบม้าต้ายคุมทหารเที่ยวตะเวนอยู่จึงบอกว่า เบ้งเฮ็กให้เราผู้น้องคุมสิ่งของมาให้ขงเบ้ง ม้าต้ายครั้นแจ้งดังนั้นแล้วก็เอาเนื้อความเข้าไปบอกขงเบ้ง ๆ นั่งปรึกษาการศึกอยู่กับม้าเจ๊กลิคีเจียวอ้วนปี่ฮุยสี่คน ครั้นได้ฟังดังนั้นจึงว่ากับม้าเจ๊กว่า เบ้งฮิวเอาของมาให้เราครั้งนี้ท่านเห็นว่ามันจะทำประการใด ม้าเจ๊กจึงตอบว่า ข้าพเจ้าจะบอกนั้นไม่ได้ จะขอเขียนเปนหนังสือให้ท่าน แล้วก็เขียนหนังสือยื่นให้ขงเบ้ง ๆ ดูหนังสือแล้วตบมือหัวเราะ จึงว่าต้องกับความคิดข้าพเจ้าแล้ว จึงให้หาอุยเอี๋ยนอองเป๋งม้าตงกวนสกเข้ามา แล้วค่อยกระซิบสั่งว่า ท่านห้าคนจงจัดแจงค่ายไว้ทางเข้าทางออกให้ดี แล้วละค่ายเสียคุมทหารออกไปตั้งซุ่มเปนกองๆไว้ในป่า ถ้าเห็นเบ้งเฮ็กยกมา ปล่อยให้เข้ามาถึงค่ายแล้วชวนกันรบกระหนาบเข้ามา ม้าต้ายนั้นให้ทำอาการเหมือนทหารเบ้งเฮ็กขี่เรือคอยอยู่ ถ้าเห็นทัพแตกแล้ว ก็ให้เอาเรือเข้าไปคอยรับจับเอาตัวเบ้งเฮ็กมาให้ได้ อันลิคีนั้นให้แต่งโต๊ะเหล้าเข้าประกอบด้วยยาเบื่อเมายกเข้าไปให้กิน ถ้าเห็นเมาสิ้นสมประดีแล้ว ให้ถอยออกไปจากค่าย นายทัพนายกองทั้งปวงได้ยินดังนั้นแล้วก็ไปทำตามสั่ง
ขงเบ้งจึงให้หาตัวเบ้งฮิวเข้ามา เบ้งฮิวให้ยกสิ่งของเข้ามา จึงกราบขงเบ้งลงแล้วว่า เบ้งเฮ็กพี่ชายข้าพเจ้าคิดถึงบุญคุณท่านนัก จึงให้ข้าพเจ้าคุมเอาสิ่งของทั้งนี้มาให้ แลเบ้งเฮ็กนั้นยังไปจัดหาสิ่งของที่ดีมาให้ท่าน แล้วจะตามมาภายหลัง
ขงเบ้งได้ฟังดังนั้นจึงถามเบ้งฮิวว่า ทหารมาด้วยท่านเท่าไร เบ้งฮิว บอกว่าทหารมาด้วยข้าพเจ้าพอถือสิ่งของแลแจวเรือร้อยหนึ่งด้วยกัน ขงเบ้งจึงสั่งให้เรียกทหารเบ้งฮิวเข้ามาให้สิ้น ครั้นทหารเข้ามาพร้อมแล้ว ขงเบ้งพิจารณาดูรูปร่างทหารเห็นใหญ่โต บ้างหน้าดำตาเขียว หน้าขาวตาแดง หนวดเหลืองแดงต่างๆ กัน ก็เข้าใจว่าแกล้งจัดสรรกันมา จึงสั่งลิคีให้ยกโต๊ะมาเลี้ยง
ขณะเมื่อเบ้งฮิวกับทหารกินโต๊ะอยู่นั้น ครั้นเห็นเวลาเย็นลงแล้วก็ค่อยกระซิบสั่งกัน คนหนึ่งทำเปนกลับลงไปเรือแล้วก็ข้ามไปบอกเบ้งเฮ็กว่าได้ท่วงทีแล้วให้เร่งยกไปเถิด เบ้งเฮ็กได้ยินดังนั้นก็ดีใจ จึงจัดแจงทหารสามหมื่นเปนสามกอง สัญญาให้จุดเพลิงเปนสำคัญ ครั้นเวลาคํ่าก็ยกไปข้ามเหนือค่ายแล้วเดิรลงมา ขงเบ้งครั้นเห็นเบ้งฮิวแลทหารทั้งปวงเมาสุราสิ้นสมประดีแล้วก็ยกออกไปจากค่ายนั้นสิ้น
ฝ่ายเบ้งเฮ็กยกมาครั้นใกล้แล้วไม่เห็นคน จึงพาทหารทั้งปวงเที่ยวดูผู้คนตามริมค่าย แต่ตัวเบ้งเฮ็กนั้นคุมทหารสองร้อยรีบตรงเข้าไปค่ายขงเบ้งก็มิได้เห็นผู้คน เห็นแต่เบ้งฮิวกับทหารทั้งปวงเมาสุรานอนอยู่สิ้น เบ้งเฮ็กจึงถามว่า เปนไรมานอนอยู่ฉนี้ ทหารคนหนึ่งเจรจามิออกจึงเอามือชี้เข้าที่ปาก เบ้งเฮ็กรู้ว่าเขาใส่ยาเบื่อเมาให้กิน จึงเข้าแก้เบ้งฮิวแลทหารทั้งปวงซึ่งเมาอยู่นั้น แล้วก็พาพยุงจูงกันออกไปนอกค่าย
ฝ่ายจูล่งอุยเอี๋ยนม้าตงอองเป๋งกวนสกห้าคนนี้คุมทหารรายอยู่ ครั้นเห็นเบ้งเฮ็กเข้าในค่ายแล้วกลับออกมาดังนั้น ก็ขับทหารโห่ร้องรบล้อมเข้าไป เบ้งเฮ็กแลทหารทั้งปวงเห็นข้าศึกรบล้อมเข้ามาทั้งห้าด้านดังนั้น ต่างคนต่างก็ตกใจแตกหนีลงน้ำขึ้นบกไปเอาตัวรอด จูล่งแลนายทัพนายกองทั้งปวงก็ขับทหารไล่รบจับเบ้งฮิวแลทหารได้มัดไว้เปนอันมาก
ฝ่ายเบ้งเฮ็กตกใจนัก หนีพลัดกับทหารลงไปริมน้ำ เห็นเรือคอยอยู่คิดว่าทหารพวกของตัว จึงร้องเรียกให้เข้ามารับ ครั้นเรือมาถึงก็ย่างลงเรือ รีบออกจากฝั่งข้ามไป ม้าต้ายครั้นเห็นเรือออกมาพ้นฝั่งแล้ว ก็จับเอาตัวเบ้งเฮ็กมัดพาไป ขงเบ้งเห็นเบ้งเฮ็กแตกไปแล้วก็คืนเข้าอยู่ในค่ายดังเก่า
ฝ่ายจูล่งม้าต้ายนายทัพนายกองทั้งปวงซึ่งจับได้เบ้งเฮ็กเบ้งฮิวแลทหารมัดเข้ามาหยุดไว้แต่นอกค่าย แล้วก็ชวนกันเข้าไปบอกขงเบ้ง ๆ ได้ฟังจึงสั่งว่าให้เอาแต่ทหารซึ่งต้องมัดนั้นเข้ามาให้สิ้น จึงสั่งให้แก้มัดออกแล้วขงเบ้งจึงว่า เองทั้งปวงขัดเขามิได้จำใจมารบเครื่องจะเยินยับเสียเปล่าเหมือนหญ้าแพรก ฝ่ายลูกเมียซึ่งอยู่ข้างหลังเล่ารู้ว่าเราจับได้แล้ว ก็ร้องไห้ทุกข์โศกถึงนัก เราจะปล่อยไปเอาบุญ แต่ว่าทีนี้อย่ามารบเรา แล้วให้ขับปล่อยไป ขงเบ้งจึงสั่งจูล่งอุยเอี๋ยนม้าต้ายสามคนว่า ท่านจงคุมทหารข้ามไปแต่เวลากลางคืนนี้ ตั้งอยู่ที่ค่ายเบ้งเฮ็กรายกันไปทั้งสองข้าง จูล่งอุยเอี๋ยนรับคำแล้วก็ลาขงเบ้งออกมาจัดแจงทหารยกทัพไปทำตามสั่ง
ขงเบ้งจึงสั่งให้เอาตัวเบ้งเฮ็กเบ้งฮิวเข้ามาแล้ว ขงเบ้งหัวเราะแล้วจึงถามเบ้งเฮ็กว่า ท่านทำกลอุบายใช้ให้น้องเอาของมาให้เราแล้วยกทัพมาตี คิดว่าเรารู้ไม่เท่าหรือ เมื่อจับตัวไว้ได้ฉนี้จะกลัวเกรงเราแล้วหรือยัง เบ้งเฮ็กได้ยินดังนั้นจึงว่า ท่านจับเราได้ทั้งนี้เพราะน้องเราเห็นแก่กิน จึงถูกยาเมาของท่าน เรายกมาจึงเสียการ แม้น้องไม่เห็นแก่กินที่ไหนเราจะแพ้ท่าน เรายังไม่กลัวเกรงก่อน ขงเบ้งได้ฟังดังนั้นก็หัวเราะ แล้วว่าเราจับได้ตัวก็ปล่อยไปถึงสามหนแล้ว เปนไรจึงยังไม่เกรงกลัวเรา เบ้งเฮ็กก็นั่งนิ่งเสียไม่ตอบประการใด ขงเบ้งจึงว่า จะให้เราปล่อยไปอีกเล่าหรือ
ฝ่ายเบ้งเฮ็กได้ยินว่าจะปล่อยไปดังนั้นก็ดีใจ จึงว่าถ้าท่านปล่อยไปครั้งนี้เราจะเที่ยวไปบอกพี่น้องญาติกา ป่าวกันมาให้สิ้นจะรบกับท่าน ถ้าแพ้ท่านจับตัวได้ทีนี้จะเกรงกลัวท่าน ขงเบ้งได้ฟังดังนั้นจึงว่า ครั้งนี้ท่านจงไปเรียนความรู้วิชาการให้มากจึงชวนกันมารบ ถ้าแพ้เราจับได้ทีนี้เราไม่ปล่อยท่านไปเลย แล้วสั่งให้ทหารแก้มัดเบ้งเฮ็กเบ้งฮิวออกแล้วก็ปล่อยเสีย เบ้งเฮ็กเบ้งฮิวครั้นขงเบ้งให้แก้มัดค่อยคิดเกรงเข้า จึงกราบลงแล้วก็ลาไป ทหารขงเบ้งก็พาเอาเบ้งเฮ็กเบ้งฮิวลงเรือข้ามไปส่ง แลเบ้งเฮ็กเบ้งฮิวครั้นถึงฟากแล้ว เดิรขึ้นไปพบม้าต้ายออกมาจัดแจงการอยู่
ม้าต้ายเอาดาบชี้ว่า ถ้าจับได้ตัวทีนี้ไม่ปล่อยไปแล้ว เบ้งเฮ็กเบ้วฮิวมิได้ตอบประการใดก้มหน้าเดิรไป ครั้นถึงค่ายจะเข้าไปเล่าก็เห็นจูล่งคุมทหารเข้ามาอยู่ จูล่งจึงร้องว่ากับเบ้งเฮ็กเบ้งฮิวว่า นายเรามีคุณกับท่านหนักหนาเหตุใดมิรู้จักคุณ เบ้งเฮ็กเบ้งฮิวได้ยินดังนั้นมิได้ตอบประการใดก็ก้มหน้าเดิรรีบไป ครั้นถึงปากทางซอกเขา เห็นอุยเอี๋ยนคุมทหารสกัดอยู่ก็ตกใจ อุยเอี๋ยนจึงร้องว่า บัดนี้เราก็ข้ามฟากรุกที่แดนเข้ามาถึงเพียงนี้แล้ว ท่านยังจะโง่ไปถึงไหนจึงจะมารบอีกเล่า ถ้าเราจับได้ทีนี้จะฟันให้ได้ร้อยท่อน เบ้งเฮ็กมิได้ตอบประการใดก็ก้มหน้าเดิรไป
ฝ่ายขงเบ้งครั้นปล่อยเบ้งเฮ็กเบ้งฮิวไปแล้ว ก็ยกทหารข้ามมาจัดแจงอยู่ณค่ายเบ้งเฮ็ก แล้วสั่งให้แต่งโต๊ะเลี้ยงทหารนายทัพนายกองทั้งปวง ครั้นกินพร้อมกันแล้วขงเบ้งจึงว่า เราคิดจะบำรุงแผ่นดินพระเจ้าเล่าเสี้ยนให้เปนสุขสืบไปจึงทำการทั้งนี้ ท่านทั้งปวงซึ่งรบเหนื่อยมิรู้ก็จะน้อยใจว่าจับเบ้งเฮ็กได้แล้วสิปล่อยไปเล่า เพราะเราเห็นเหตุว่า เบ้งเฮ็กนี้เปนเจ้าเมืองบ้านนอก นํ้าใจกระด้างนักผิดคนเมืองเรา จนได้ตัวมาแล้วมันยังไม่สารภาพแพ้ทีเดียว ซึ่งปล่อยมันไปนั้นเราคิดจะให้มันกลัวเกรงทั้งภายนอกภายในให้จงหนักก่อนจึงจะกลับไปได้ ถ้าจะเอาแต่พอชนะร่อน ๆ แล้วกลับไปเมือง จะยกไปทำการด้วยพระเจ้าโจผีเล่าดีร้ายเบ้งเฮ็กจะยกไปตีเมืองเรา ท่านทั้งปวงจงอุตส่าห์รบให้เบ้งเฮ็กรับแพ้แล้วก็จะได้เปนสุขด้วยกัน ทหารทั้งปวงได้ยินดังนั้นเห็นชอบด้วยจึงว่า สุดแต่ความคิดของท่านเถิด ข้าพเจ้าจะขออาสารบไปกว่าจะสิ้นชีวิต
ฝ่ายเบ้งเฮ็กเบ้งฮิวครั้นไปถึงเมืองงีนแขแล้วคิดแค้นใจนัก จึงให้ทหารบันดาเมืองขึ้นทั้งเก้าสิบสามหัวเมืองเข้ามาพร้อมกัน เปนคนประมาณห้าสิบหมื่น แลนายทัพนายกองทั้งปวงก็เข้าไปหาเบ้งเฮ็กทำคำนับกันตามธรรมเนียม เบ้งเฮ็กเบ้งฮิวครั้นนายทัพนายกองทั้งปวงมาพร้อมแล้ว ก็คุมทหารยกมาตั้งอยู่ณริมแม่นํ้าเซียงหยี
ฝ่ายทหารกองตะเวนเอาเนื้อความเข้าไปบอกขงเบ้งว่า เบ้งเฮ็กให้ทหารทั้งเก้าสิบสามหัวเมืองมาเปนคนห้าสิบหมื่น แล้วยกมาตั้งอยู่ริมแม่นํ้าเซียงหยี ขงเบ้งได้ฟังดังนั้นก็หัวเราะแล้วจึงว่า คนทั้งปวงอย่าวิตกเลย เราจะใคร่ให้ยกมาให้มากอีกจึงจะได้เห็นความดีเรา แล้วสั่งนายทัพนายกองทั้งปวงให้จัดแจงยกทัพเลื่อนเข้าไป แล้วขงเบ้งก็ขึ้นเกวียนน้อยพาทหารมาร้อยหนึ่งยกนำทางไปก่อน ครั้นถึงแม่นํ้าเซียงหยี พอจูล่งม้าต้ายอุยเอี๋ยนเตียวเอ๊กคุมทหารยกมาถึง ขงเบ้งจึงเกณฑ์ทหารให้เที่ยวตัดไม้จะทำแพก็ไม่ได้ จึงถามลิคีผู้นำทางว่า เราจะข้ามน้ำบัดนี้ก็ขัดสนนัก ท่านจะคิดประการใด
ลิคีจึงตอบว่า บนเขาเหนือนี้มีไม้ไผ่อยู่เปนอันมาก เห็นพอจะทำสะพานข้ามฟากไปได้ ขงเบ้งได้ฟังดังนั้นจึงเกณฑ์ให้ทหารสามหมื่นไปตัดไม้ไผ่นั้นมาผูกแพกว้างเส้นหนึ่งเปนสะพาน แล้วยกทหารข้ามฟากไปถึงฝั่ง จึงให้ตั้งค่ายใหญ่สามค่ายทำประตูตรงสะพาน
ฝ่ายเบ้งเฮ็กตั้งค่ายอยู่ใต้น้ำ เห็นขงเบ้งยกข้ามฟากมาได้ ก็คุมทหารสิบหมื่นยกมาตีค่ายขงเบ้ง ๆ เห็นเบ้งเฮ็กห่มเสื้อหนังแรดใส่หมวกแดง ขี่กระบือแดงมือซ้ายถือเขนมือขวาถือดาบคุมทหารยกมาดังนั้น ก็ยกทหารออกจากค่ายจะรบกับเบ้งเฮ็ก เบ้งเฮ็กรำเขนไล่ทหารให้บุกเข้ารบ ขงเบ้งเห็นเบ้งเฮ็กบุกรุกเข้ามามิได้เปนขบวรทัพ ก็ถอยทหารกลับเข้าค่าย ให้ปิดประตูตั้งมั่นไว้ เบ้งเฮ็กให้ทหารเข้าไปร้องด่าขงเบ้งถึงหน้าค่าย ทหารทั้งปวงได้ยินดังนั้นก็โกรธ เอาเนื้อความไปบอกขงเบ้งว่า ข้าพเจ้าขออาสาออกรบกับเบ้งเฮ็กแก้แค้นให้จงได้ ขงเบ้งจึงว่าเบ้งเฮ็กเปนข้าศึกต่างประเทศ ท่วงทีก็หยาบช้าหาเปนกระบวรเหมือนเราไม่ เราตั้งมั่นฟังกำลังดูก่อน เมื่อเห็นได้ทีประการใดแล้วจึงจะคิดกลอุบายเอาชัยชนะให้จงได้ ท่านทั้งปวงอย่าเพ่อดูหมิ่นแก่ข้าศึก จงช่วยกันป้องกันรักษาค่ายตั้งใจให้มั่นคงเถิด ทหารทั้งปวงรับคำแล้วก็ลาลุกออกไป
ฝ่ายเบ้งเฮ็กมิได้เห็นขงเบ้งเกณฑ์ทหารมาสู้รบก็ยกกลับไปค่าย อยู่สามวันขงเบ้งจึงเรียกจูล่งอุยเอี๋ยนมากระซิบสั่งว่า ท่านจงคุมทหารข้ามฟากไปตั้งอยู่ตรงหน้าค่ายเบ้งเฮ็ก ถ้าเห็นเราให้ลอยแพลงไปเมื่อใด ก็ให้จูล่งตั้งค่ายให้เอาธงเธียวปักลวงไว้ในค่ายจงมากเมื่อนั้น แล้วจูล่งจึงยกข้ามฟากเข้ามาตั้งอยู่ในค่ายเบ้งเฮ็ก ให้อุยเอี๋ยนข้ามมาตั้งซุ่มอยู่ในป่าชัฏชายเขาข้างทิศตวันออก แล้วให้ขุดหลุมไว้จงมาก เอาใบไม้ปิดทำเปนกลลวงไว้ เราจะได้ทำการถนัด
ฝ่ายจูล่งกับอุยเอี๋ยนก็ลาขงเบ้งไป ครั้นเวลาค่ำขงเบ้งจึงสั่งม้าต้ายให้ทำแพลอยลงไป แล้วให้ออกไปตั้งซุ่มอยู่นอกค่ายข้างทิศตวันตก ม้าต้ายก็ไปทำตามสั่ง ขงเบ้งจึงให้จุดเพลิงในค่ายสว่างทั้งสามค่าย แล้วให้เตียวเอ๊กออกตั้งซุ่มอยู่นอกค่ายข้างทิศเหนือ ตัวขงเบ้งก็ยกออกตั้งอยู่นอกค่าย
ฝ่ายเบ้งเฮ็กถอยทหารกลับมาค่ายหลายวันแล้วเห็นขงเบ้งตั้งมั่นอยู่ จึงยกทหารมาเปนอันมากจะปล้นเอาค่ายขงเบ้ง ครั้นทหารกองหน้ายกมาถึงเห็นเพลิงในค่ายขงเบ้งสว่างอยู่ ก็ไม่อาจจะยกเข้าปล้นตั้งรออยู่จนเวลาเช้า ครั้นเบ้งเฮ็กยกมาถึงทหารกองหน้าก็เข้าไปแจ้งเนื้อความทั้งปวงทุกประการ เบ้งเฮ็กได้ฟังดังนั้นคิดว่าขงเบ้งยกทหารกลับไปแล้วเปนมั่นคง จึงแกล้งจุดเพลิงไว้หวังจะให้เราสงสัย แล้วก็ยกทหารเข้าไปใกล้ เห็นค่ายขงเบ้งเงียบสงัดอยู่ทั้งสามค่ายมิได้มีทหารอยู่พิทักษ์รักษา เบ้งเฮ็กจึงว่าชรอยขงเบ้งยกหนีไปแล้ว เห็นจะทิ้งสเบียงอาหารไว้เปนอันมาก
เบ้งฮิวผู้น้องจึงว่า ซึ่งขงเบ้งละทิ้งค่ายเสียหนีไปนั้นไม่เห็นด้วย อันการทั้งนี้เห็นขงเบ้งจะคิดกลอุบายไว้ลวงเรา เบ้งเฮ็กจึงว่า เจ้าว่านี้ไม่เห็นด้วย ซึ่งขงเบ้งทำกลไว้ดังนี้ ชรอยศึกเมืองกังตั๋งแลเมืองฮูโต๋มาตีเสฉวนเปนมั่นคง ขงเบ้งจะรีบไปเปนการเร็ว จึงทำกลอุบายไว้หวังจะให้เราสงสัยมิให้ยกติดตามทันที จำเราจะยกทหารตามไปให้ทันจงได้
เบ้งเฮ็กก็แบ่งทหารให้เข้าขนสเบียงในค่ายขงเบ้ง แล้วก็ยกทหารเลียบไปตามริมฝั่งหวังจะตามจับขงเบ้ง เบ้งเฮ็กแลข้ามฟากไปเห็นค่ายกลซึ่งจูล่งตั้งไว้ในชายป่าริมนํ้านั้น ปักธงเธียวอยู่เปนอันมาก สำคัญว่าค่ายขงเบ้งพักอยู่ จึงเกณฑ์ทหารไปเที่ยวตัดไม้จะผูกแพข้ามตามไป พบเกิดลมพายุขงเบ้งก็จุดเพลิงสัญญาขึ้นทั้งสามด้าน ให้ทหารโห่ร้องตีม้าฬ่อฆ้องกลองล้อมรบเบ้งเฮ็กเข้ามา เบ้งเฮ็กเห็นดังนั้นก็ตกใจขึ้นกระบือพาทหารฟันฝ่าออกจากที่ล้อมหนีตรงไปค่าย
ขณะนั้นจูล่งข้ามฟากมาตั้งอยู่ในค่ายเบ้งเฮ็กแต่ในเวลากลางคืน ครั้นเห็นเบ้งเฮ็กพาทหารหนีมา ก็ยกทหารออกคอยรับอยู่นอกค่าย เบ้งเฮ็กเห็นดังนั้นก็ตกใจหนีอ้อมไปทางทิศตวันตกซึ่งม้าต้ายซุ่มอยู่ ม้าต้ายก็ควบม้าออกสกัดรบเบ้งเฮ็กได้เก้าเพลง เบ้งเฮ็กก็พาทหารหนีไปทางทิศเหนือ ถึงค่ายซึ่งขงเบ้งให้เตียวเอ๊กไปตั้งสกัดอยู่ เตียวเอ๊กก็ยกทหารออกต้านรบเปนสามารถจับตัวเบ้งฮิวได้ เบ้งเฮ็กก็พาทหารหนีมาทางตวันออก ถึงป่าชัฏจะเลี้ยวชายเขาซึ่งอุยเอี๋ยนขุดหลุมไว้นั้น พบขงเบ้งขี่เกวียนน้อยพาทหารมาสกัดอยู่ ขงเบ้งจึงหัวเราะเย้ยเบ้งเฮ็กว่า วันนี้เจ้าเบ้งเฮ็กเสียทีแก่ข้าศึกจะหนีไปไหนเล่า เรามาคอยท่าอยู่นานแล้ว
เบ้งเฮ็กได้ฟังดังนั้นก็โกรธจึงว่าแก่ทหารทั้งปวงว่า อ้ายคนนี้มันทำกลลวงให้เราเสียทีได้ความแค้นถึงสามครั้ง ให้เร่งเข้ารบฟันให้ละเอียดเสียจงได้ แล้วเบ้งเฮ็กก็พาทหารไล่รุกเข้าไปด้วยโทโสมิได้พิเคราะห์ก็ตกลงในหลุม ขงเบ้งก็รีบกลับมาค่าย อุยเอี๋ยนซึ่งซุ่มอยู่นั้นก็ยกทหารประมาณร้อยหนึ่งออกจับเบ้งเฮ็กได้ก็มัดเอาตัวมา เมื่อขงเบ้งกลับมาถึงค่ายเกลี้ยกล่อมทหารเบ้งเฮ็กได้เปนอันมาก
ขงเบ้งให้เลี้ยงดูทหารทั้งปวงสำเร็จแล้วจึงว่า ท่านทั้งนี้จะสมัคอยู่ด้วยเราก็ตาม หรือจะกลับไปเมืองก็ตามเถิด ทหารทั้งปวงได้ฟังมีใจยินดีกราบลงกับตีนแล้วก็ลาไป พอเตียวเอ๊กมัดตัวเบ้งฮิวมาให้ขงเบ้ง ๆ จึงว่าแก่เบ้งฮิวว่า พี่ท่านกระทำผิดเราจับตัวได้ถึงสามครั้งแล้ว ท่านเปนน้องควรจะช่วยเตือนสติว่ากล่าว เหตุใดจึงคบคิดกันมาทำศึกกับเราอีกเล่า บัดนี้เราก็จับได้เปนสี่ครั้งท่านจะแลดูหน้าคนสืบไปกะไรได้
เบ้งฮิวได้ฟังดังนั้นก็กราบลงกับเท้าแล้วว่า โทษข้าพเจ้าครั้งนี้ก็ถึงสิ้นชีวิตแล้ว ท่านจงโปรดให้ชีวิตข้าพเจ้าอีกครั้งหนึ่งเถิด ขงเบ้งจึงว่าชีวิตท่านอยู่ในเงื้อมมือเรา ใช่จะฆ่าท่านได้แต่วันนี้ก็หามิได้ ท่านจะขอชีวิตไว้อีกครั้งหนึ่งก็ตามเถิด แต่กลับไปแล้วก็ให้คิดอ่านกับพี่ชายจงดี แล้วก็สั่งทหารให้แก้มัดเบ้งฮิวปล่อยไป พอเบ้งฮิวลุกไปอุยเอี๋ยนก็เอาตัวเบ้งเฮ็กมัดเข้ามา ขงเบ้งเห็นเบ้งเฮ็กก็โกรธ จึงว่าเราปล่อยตัวไปถึงสามครั้งแล้วก็มิรู้จักคุณกลับมาทำศึกกับเรา บัดนี้เราก็จับได้อีก ท่านจะว่าประการใดต่อไปเล่า เบ้งเฮ็กจึงว่าเราทำศึกเสียทีแก่ท่านมาทั้งนี้เพราะทำกลอุบายล่อลวงเราต่าง ๆ จึงจับตัวเราได้ ตัวเราถึงตายบัดนี้ก็ยังเสียดายชีวิตเรานักอยู่ เพราะทำการกับท่านหาเต็มฝีมือไม่
ขงเบ้งได้ฟังดังนั้นจึงแกล้งสั่งทหารจะให้เอาตัวเบ้งเฮ็กไปฆ่าเสีย เบ้งเฮ็กก็มิได้ครั่นคร้ามสีหน้าสดชื่นเปนปรกติอยู่ ขงเบ้งเห็นดังนั้นจึงคิดว่า เบ้งเฮ็กนี้น้ำใจเหี้ยมหาญนัก เราจะฆ่าเสียบัดนี้ราษฎรชาวเมืองทั้งปวงก็จะกระจัดกระจายกันไป เราจะให้เบ้งเฮ็กสิ้นฝีมือยอมแพ้เอาเมืองขึ้นแก่เราจึงได้ ขงเบ้งจึงให้ทหารแก้มัดเบ้งเฮ็กออกปลอบเอาใจให้กินสุราแล้วว่า แต่จับท่านได้ถึงสี่ครั้งนี้แล้วเราก็มิได้ทำอันตราย ไมตรีเราก็มีอยู่กับท่านเปนอันมาก เหตุไฉนท่านจึงไม่อ่อนน้อมต่อเราบ้าง
เบ้งเฮ็กจึงว่า เรากับท่านเปนคนต่างแดนผิดภาษากัน ซึ่งเราจะสมัคอ่อนน้อมต่อท่านนั้นไม่ชอบ เพราะท่านชำนาญแต่กลอุบายฝ่ายเดียว หาชนะเราด้วยฝีมือไม่ ขงเบ้งหัวเราะแล้วว่า บัดนี้เราจะปล่อยท่านไปอีก ท่านจะคิดทำศึกต่อไปหรือไม่ เบ้งเฮ็กจึงว่า แม้ท่านมีคุณปล่อยข้าพเจ้าไปเมืองครั้งนี้แล้ว ข้าพเจ้าก็จะตั้งใจสนองคุณท่านมิได้คิดทำการศึกสืบไป
ขงเบ้งจึงว่า ท่านไปแล้วให้คิดอ่านหน้าหลังจงดี เบ้งเฮ็กก็มีความยินดีนัก กราบขงเบ้งแล้วก็ลาออกไป พาทหารของตัวประมาณพันหนึ่งก็รีบไปทางฝ่ายเหนือ ครั้นเช้าพบเบ้งฮิวคุมทหารยกมา เบ้งฮิวจึงว่าแก่เบ้งเฮ็กว่า ข้าพเจ้าคิดว่าขงเบ้งฆ่าพี่เสียแล้ว ข้าพเจ้าจึงซ่องสุมได้ทหารเปนอันมาก ยกกลับมาหวังจะแก้แค้นขงเบ้ง เบ้งเฮ็กได้ฟังดังนั้นก็คิดน้อยใจกอดน้องชายเข้าร้องไห้แล้วว่า แต่เราทำศึกมาก็เสียทีขงเบ้งทุกครั้ง จนสิ้นกำลังแลความคิดเราแล้ว เราจะทำประการใดดีจึงจะได้ชัยชนะแก่ขงเบ้ง
เบ้งฮิวจึงว่า ขอให้พาทหารขึ้นไปขออาศรัยอยู่กับโต้สู้ไต้อ๋องณเขาอิมตองสัน เขานั้นเปนที่สำคัญชอบกล มีเขาเปนกำแพงรอบ ในนั้นเปนค่ายแล้วก็เปนที่ร้อน แม้เราตั้งมั่นได้ในเขานั้นแล้ว ถึงขงเบ้งจะเห็นว่าเราไม่อ่อนน้อม จะยกไปติดตามก็จะเสียทีแก่เราเปนมั่นคง
เบ้งเฮ็กได้ฟังดังนั้นเห็นชอบด้วย ก็พากันยกทหารไปถึงเขาอิมตองสัน จึงให้เบ้งฮิวขึ้นไปหาโต้สู้ไต้อ๋องก่อนเปนทางคำนับ จะขออาศรัยโต้สู้ไต้อ๋องรู้ดังนั้นก็ออกมารับเบ้งเฮ็กเข้าไปในค่ายคำนับกันตามธรรมเนียม แล้วเบ้งเฮ็กก็เล่าเนื้อความทั้งปวงให้ฟังทุกประการ
โต้สู้ไต้อ๋องจึงว่า ท่านอย่าวิตกเลย ถ้าทหารขงเบ้งยกตามมาถึงที่อันนี้ แต่คนหนึ่งไม่ให้เหลือกลับไปได้ ถึงขงเบ้งก็จะให้สิ้นชีวิตอยู่กับที่นี้ เบ้งเฮ็กได้ฟังดังนั้นก็มีความยินดีนัก แล้วถามว่าท่านจะทำกลอุบายประการใด
โต้สู้ไต้อ๋องจึงว่า เขาอิมตองสันนี้ มีทางจำเพาะเข้ามาได้ทางทิศตวันออกซึ่งท่านมานั้นราบคาบ น้ำกินก็บริบูรณ์ แต่เปนทางแคบล้วนก้อนศิลาแลต้นไม้ใหญ่ ข้าพเจ้าจะล้มต้นไม้ขนก้อนศิลาทับเสียมิให้ขงเบ้งยกขึ้นมาได้ แม้จะย้ายไปเดิรทางตวันตกก็เปนทางกันดารคับแคบ ทั้งงูร้ายก็ชุม จำเพาะเดิรได้ต่อเวลาตวันบ่าย ครั้นเวลาพลบคํ่าแล้ว งูร้ายก็ออกเที่ยวพ่านอยู่จนเวลาตวันเที่ยง ทั้งขัดสนด้วยน้ำ จำเพาะมีแต่น้ำร้ายสี่ธาร ธารหนึ่งชื่อว่าแอสวน แม้ผู้ใดไม่ทันรู้ตักมากินก็เปนใบ้ถึงกำหนดเจ็ดวันตาย ธารสองชื่อเบียดสวน น้ำในธารนั้นร้อน แม้ลงอาบแลกินก็พุพองเปื่อยพังจนถึงกระดูก ธารสามชื่อเฮดสวน สีน้ำนั้นดำ ถ้าผู้ใดลงอาบลงกินตัวก็ดำเหมือนไฟไหม้ เจ็บปวดเปนกำลังจนขาดใจตาย ธารสี่ชื่อยิวสวน นํ้านั้นเย็นสีขาว ถ้าผู้ใดตักอาบมากินตกถึงคอก็ขาดใจตาย ในทางนั้นก็เงียบสงัด จะได้มีสิงสัตว์นกหกหามิได้ ต่อพ้นธารนั้นขึ้นมาจึงถึงแดนงูร้าย เมื่อครั้งพระเจ้าฮั่นเบ้งเต้ได้สมบัตินั้น ม้าอ้วนนายทหารยกกองทัพไปตีเมืองเกาจี ม้าอ้วนมีสติปัญญาหลักแหลมรู้การทั้งปวงมิได้มีผู้ใดเสมอ จึงพาทหารเดิรมาทางนี้[๑] ผู้อื่นนอกกว่าม้าอ้วนแล้วมิได้มีผู้ใดเดิรทางนี้เปนอันขาด แม้ขงเบ้งยกทหารมาทางตวันออก เห็นเราตัดไม้ขนก้อนศิลาทับทางเสียแล้ว ก็จะพาทหารเดิรขึ้นมาทางตวันตก แม้ทหารขงเบ้งจะยกมาสักร้อยหมื่นก็จะตายด้วยน้ำร้ายนั้นสิ้น ถึงตัวขงเบ้งเจ้าความคิดช่างทำกลอุบายก็เห็นจะไม่รอดชีวิตกลับคืนไป
เบ้งเฮ็กกับเบ้งฮิวได้ฟังก็มีความยินดีนักจึงว่า ซึ่งท่านให้ข้าพเจ้าอาศรัยอยู่คุณหาที่สุดไม่ เห็นขงเบ้งจะเปนอันตรายเปนมั่นคง โต้สู้ไต้อ๋องก็เชิญเบ้งเฮ็กกับเบ้งฮิวอยู่เปนสุข แล้วแต่งโต๊ะเลี้ยงสุรามิได้ขาด