ขบวนเสด็จพยุหยาตราพระกฐินโดยชลมารค

ร่าย เปรมกุศลปราโมทย์ โกษฐาษธรรมสุจริต ราชูทิศทานกฐิน เสด็จทางสินโธทก ตกแต่งพยุหยาตรา ขยวนนาวาเรียงเรียบ เพียบอรรณพนที มีประตูคู่หน้า นายทกล้าแจงจัด ล้วนปลัดทูลฉลอง สองเถลองยศออกญา แขวงขวาเทพอรชุน ราชนิกุลฝ่ายเฉวียง เรือกราบเคียงขี่คู่ อยู่ปลายริ้วทิวขบวน มวญหมู่พวกพลพาย บรรเจอดกายอเคื้อ กางเกงเสื้อมงคล แดงดำกลกอบล้วน อ่าอาตม์สรพราศพลถ้วน ทุกผู้ดูสรพรัก พร้อมนา ฯ

บัดเรือพยัคฆทั้งคู่ ควรยล ย่านแฮ
ขวาเรียกเสือทยานชล ชื่อรู้
อาสาสินาศนายพล เมืองสมุท ขี่เอย
หลวงเดชสำแดงผู้ ที่เจ้ากรมสดำ ฯ
๏ เสือคำรนสินธุซ้าย เสนอนาม
เคียงคู่คุมคู่ตาม คู่เต้า
หลวงแสงศรสิทธิวาม กรมสถิตย์ เรือฤๅ
ดำแหน่งแห่งที่เจ้า หมู่พื้นปืนทหาร ฯ
๏ สองนุ่งสองปักเสื้อ อัตหลัด สวมนา
รัตคดคาดเอวรัด รอบหมั้น
เศียรพันธ์โพกขลิบพัตร ไพโรจ หร่ามเอย
เนานั่งคฤหสองชั้น แต่งตั้งกลางลำ ฯ
๏ ผูกทวนเขนมาศง้าว เสโลห์ กระบี่นา
สิ่งละคู่อาวุธโส ภิตแพร้ว
หกเสาคฤหโอ่โอ ฬารเลอศ แลพ่อ
งามสง่าอ่าอวดแกล้ว กลั่นแกล้งแสดงหาญ ฯ
๏ หนแห่งดำแหน่งหน้า เรือวาง ปืนแฮ
ขานชื่อขานกยาง อย่างตั้ง
ละบอกละลำพาง ผจญจ่อ ศึกเฮย
เกณฑ์จ่ายหมายฝรั่งทั้ง คู่เฝ้าคอยแผลง ฯ
๏ ลำเรือยาวเย่อนได้ วาอัฐ วัดเอย
สามสิบพลพายจัด ครบถ้วน
กางเกงสนอบจรัส แดงดื่น
เศียรใส่มงคลล้วน ชาดพื้นปัสตู ฯ
๏ เรือแซจรเข้คู่ ถัดตาม
ซ้ายขนัดคนองน้ำนาม ท่านให้
ขวาคือชื่อคำราม ร้องเรียก นามนา
พลพม่าอาสาได้ ประทุกทั้งสองแซ ฯ
๏ ถัดแซมัจฉคู่คล้อย คลาหน ทึกเฮย
ขวาชื่อแซพิพัทธชล เพรียกพร้อง
ฝ่ายซ้ายเรียกอานนท์ สมุทคู่ กันนา
มอญหมู่อาทมาตต้อง จ่ายให้ลงประจำ ฯ
๏ คู่สามแซแห่ทั้ง โทกรินทร์ เรือฤๅ
สดำคชรำบาญยิน ชื่ออ้าง
หนเฉวียงคชสารสิน ธูเทียบ เคียงนา
มอญมาศดั้งเถลองช้าง ฉลุแล้แซสอง ฯ
๏ หกลำกำหนดรู้ รีวา เจ็ดฤๅ
เรือพม่ามีตอยา นั่งหน้า
ละแซละหนึ่งนา ยกอยู่ หัวเฮย
กำกับภุกามทกล้า ทแกล้วทวยหาญ ฯ
๏ ลำมอญสมิงหน้านั่ง ลำประจำ
สมิงหนึ่งหนึ่งแซกำ กับให้
สี่สมิงอยู่สี่ลำ เตลงสี่ แซนา
นับกับตอยาได้ หกสิ้นหกแซ ฯ
๏ หกนายกายนุ่งผ้า อย่างมอญ ม่านเอย
ขลิบพัตรเพ่อมอาภรณ์ โพกเผ้า
สวมสนอบกอบอลงกรณ์ อัตหลัด รายฤๅ
เตือนตักพรักพิริยเร้า เร่งต้อนตีกระเชียง ฯ
๏ พลกระเชียงมอญม่านล้วน แต่งตน
เสื้อสอดเศียรมงคล โอบอ้อม
กางเกงก็สวมสกนธ์ กุก่อง
พิศพิลาศโอภาษพร้อม เพรอศสิ้นแดงศรี ฯ
๏ ท้ายเรือธงรบตั้ง แต่งทุก แซเอย
ดูฉาดชาดศรีสุก ส่องฟ้า
พายุพัดสบัดปลายปลุก ปลิวยาบ อยู่แฮ
ยลอย่างปางโรมร้า ศึกสู้สู่ณรงค์ ฯ
๏ ถับถึงเรือกราบเจ้า กรมหก เหล่าเฮย
เนานั่งกันยาตก แต่งตั้ง
เวรขึ้นก็เกณฑ์ยก แต่หนึ่ง ขวานา
แรมฝ่ายซ้ายหนึ่งทั้ง สี่ผู้เปลี่ยนปัน ฯ
๏ พญาพิไชยรณฤทธิด้วย พิไชยสง ครามเอย
สุกรปักษ์ผลัดเปลี่ยนคง คู่ใช้
หนึ่งพญาพิชิตณรงค์ กาฬปักษ์ เปลี่ยนแฮ
อิกกับรามคำแหงให้ แห่หน้ากลองนำ ฯ
๏ เรือกลองแขกหนึ่งนี้ นำจรัล ราชฤๅ
รหว่างคู่แซรามัญ มาศดั้ง
พลพายแต่งกลกัน มอญม่าน แซนา
สรพรักเพียบเรียบเรียงตั้ง ไหล่พร้อมเพียงพาย ฯ
๏ เรือกราบลำหนึ่งล้วน ปลัดดำ รวจฤๅ
สนมนอกสี่กรมละลำ จัดให้
เวรขึ้นคู่นายนำ ขวานอก สนมนา
ผลัดเปลี่ยนเวียนเวรได้ ตรวจหน้าในขบวน ฯ
๏ สมุหพิมานนามปลัดเบื้อง สนมขวา
ขวานอกทิพรักษา ที่ตั้ง
จมื่นปลัดสองรา เรือกราบ ขี่แฮ
กลางกอบกันยาทั้ง คู่ให้ผลัดเวร ฯ
๏ ราชาบาลปลัดซ้าย พาเหียร กรมเฮย
สนมชื่อประธานมณเฑียร เรียกรู้
เวรแรมผลัดเวรเวียน ไตรตรวจ ขนัดนา
จมื่นพื้นสองผู้ บอกผู้พนักงาน ฯ
๏ ฝีพายกายอ่าอ้าง เรือกลอง
ตกแต่งตามทำนอง ขนาดนั้น
พร้อมพรั่งพิริยลำลอง แลล่ำ
ยกไหล่ไล่ยาวกระชั้น คลื่นฟุ้งฟองฝอย ฯ
๏ จึ่งเรือสางทั้งคู่ เก้าวา วัดแฮ
ใส่คฤห์ต่างกันยา เกือบกั้ง
พลพวกสัศดีมา บรรจุ เรือเฮย
จำหลักเศียรสางทั้ง รูปอ้างสางแปลง ฯ
๏ ชาญชลสินธุซ้าย สางขนาน นามนา
สางหนึ่งคำแหงหาญ เรียกร้อง
ขวาแขวงแห่งอุทกยาน ยงยิ่ง
ทั้งคู่ขานนามต้อง ชื่อตั้งเรือกรร ฯ
๏ ปลัดกรมขุนคู่เข้า ขี่ใน คฤห์นา
ขุนนราฤทธิไกร ฝ่ายซ้าย
ขวาขุนชื่อพิไชย ชาญยุทธ นาพ่อ
สองขี่สางสองผ้าย สถิตย์ด้านโดยกรม ฯ
๏ ถับถึงกิเลนล่องน้ำ ขนานเคียง กันนา
ยาวเย่อนอย่างสางเพียง ขนาดพร้อง
แต่งคฤห์คู่เรือเรียง พายเพียบ พลพ่อ
ดำรวจกรมนอกต้อง แต่งทั้งโทกิเลน ฯ
๏ หนขวาปรากฏอ้าง นามยิน
กิเลนชื่อลอยบนสิน ธุตั้ง
ซ้ายสมเญศกิเลนลิน ลาสมุท มีนา
จำหลักกายกิเลนทั้ง คู่เพี้ยงพิศวง ฯ
๏ ดำรวจกรมนอกให้ ลงประจำ คฤห์เฮย
แห่งกิเลนสองลำ เลื่อนผ้าย
ภาคขวาหมื่นขุนสดำ กรมนอก เนานา
หนแห่งซ้ายกรมซ้าย นอกเฝ้าเนาสถาน ฯ
๏ ถัดนั้นเรือรูปแม้น มกรแสดง เดชเอย
ขวาเรียกมกรจำแลง หลากล้ำ
ฝ่ายซ้ายชื่อมกรแผลง ฤทธิ์คู่ เคียงนา
เพียงจักโผนเผ่นน้ำ เพ่งเพี้ยนเศียรสยอง ฯ
๏ ไพร่หลวงกรมใหญ่ทั้ง โทลง ประจุนา
เรือมกรยรรยง คู่คล้าย
หมื่นขุนสถิตย์คฤห์คง ดำแหน่ง
ขวาก็อยู่ขวาซ้าย อยู่ซ้ายตามสถาน ฯ
๏ จึ่งถึงนาเวศเพี้ยง เหรา รูปฤๅ
เคียงคู่ฟูฟ่องชลา ล่องเต้า
พลไพร่หมู่ในขวา ซ้ายประทุก เพียบพ่อ
ขุนหมื่นประจำคฤห์เข้า ที่ทั้งสดำเฉวียง ฯ
๏ เหราปรากฏตั้ง สมญา ขนานฤๅ
สินธุลอยล่องขวา เรียกอ้าง
ท่องทางสมุทเหรา ชี้ชื่อ เฉวียงเอย
ลอยล่องท้องอุทกคว้าง คู่คล้อยคลอเคียง ฯ
๏ ถัดโทโตภาพเพี้ยน นาวา คฤห์เอย
โตชื่อขมังคลื่นขวา ท่านให้
โตฝืนสมุทสมญา อยู่ฝ่าย ซ้ายแฮ
เกณฑ์เหล่าล้อมวังได้ ประจุซร้องสองโต ฯ
๏ ในคฤห์หลวงป้อมเหล่า ล้อมวัง ราชฤๅ
สถิตย์ประจำคฤห์หลัง ละผู้
เรือรีขนาดเดียวทัง ลำสิบ เสมอเฮย
จำหลักสัตวรูปรู้ รจิตรน้ำมันรบาย ฯ
๏ พลพายใส่เสื้อกับ มงคล
แดงจรัสปัศตูกล ชาดย้อม
กางเกงก็กรวมตน ฤๅต่าง ศรีนา
แดงดาษสรพราศพร้อม สบสิ้นสรรพางค์ ฯ
๏ น่าเรือปืนใหญ่จ้อง จ่ารงค์ เรียกฤๅ
ลำละบอกบงยง ย่านแท้
หกเสาคฤห์ครบคง อาวุธ ผูกพ่อ
อย่างพยัคฆนาเวศแล้ เล่ห์นั้นบรรยาย ฯ
๏ ทหารปืนพื้นฝรั่งเฝ้า ปืนประจำ อยู่นา
ลำละคู่ดูกำยำ ยิ่งแกล้ว
ทนายเส้าทมัดหัดถ์กำ เส้าเทอด กระทุ้งแฮ
ผูกภู่ฟูเฟื่องแพร้ว เร่งเส้าลำละสอง ฯ
๏ ร้องร่ำโพยเจ้าคะ ขานเสียง
เส้ารับศัพท์สำเนียง เร่งร้น
ฝีพายพรั่งพร้อมเพรียง พร้อมเพรียก ยามเอย
คลื่นคลั่งถั่งอุทกท้น ทั่วท้องแถวธาร ฯ
๏ ทนายกระสุนจัดนั่งหน้า เรือลำ ละนายเอย
อิกกับนายลำประจำ คฤห์นั้น
สรินับสี่นายกำ กับทุก เรือนา
ล้วนนุ่งสองปักหมั้น แต่งต้องตามเคย ฯ
๏ รัตคดคาดใส่เสื้อ อัตหลัด รายฤๅ
เศียรโพกพันธ์ขลิบพัตร เพรอศพร้อย
ทนายปืนอิกสี่จัด เนานั่ง คฤห์นา
กรเกาะสินาศขนาดน้อย สรัพด้วยดินเสนง ฯ
๏ กางเกงกรวมอาตม์ล้วน ปัศตู แดงเอย
กอบกาบบังเพลาดู อเคื้อ
ลำดวนกลีบหมวกตรู ขลิบโหมด สวมนา
จีบหัดถ์ปัศตูเสื้อ ใส่ด้วยแดงศรี ฯ
๏ ดับดลเรือคฤห์ล้วน เศียรฉลัก รูปฤๅ
ขวาอสุรวายุภักษ์ แต่งตั้ง
ฝ่ายซ้ายรูปอสุรปัก ษีสมุท นามนา
ลำมาดไล้มาศทั้ง รดน้ำฉลุลาย ฯ
๏ กองกลางสรพรักพร้อมไพร่ ซ้ายขวา กรมเอย
บรรทุกทั่วนาวา คู่นั้น
ศรีชาดดาษหลังคา คฤห์เพรอศ เพราพ่อ
ปักมาศแผ่ลวดขั้น ขอบพื้นเชองชาย ฯ
๏ เจ้ากรมสถิตย์คฤห์ด้าว นาวี ขวาแฮ
หลวงมหาโยธี ที่อ้าง
ศรีรณรงค์มี นามหนึ่ง หลวงนา
เนาคฤห์ประจำลำข้าง ขนัดซ้ายหมายเกณฑ์ ฯ
๏ จึ่งเรือพานเรศพื้น โสภี ภาพนา
ฟูฟ่องสองลำมี ชื่อพร้อง
แขวงขวาเรียกพาลี มล้างทวีป แลพ่อ
ซ้ายสุครีพครองเมืองต้อง แต่งให้เคียงขนาน ฯ
๏ เกณฑ์หัดอย่างฝรั่งพร้อม พลประจำ เรือฤๅ
ขุนชื่อทรงพิไชยลำ ฝ่ายซ้าย
ขุนพิพิธณรงค์สดำ ปลัดคู่ กันนา
เนาคฤห์ไพร่พายผ้าย เร่งร้องโยนยาว ฯ
๏ บัดกระบี่นาเวศทั้ง โทขนาน นามฤๅ
ขวาชื่อปราบเมืองมาร ท่านให้
หนซ้ายเรียกกระบี่ราญ รอนราพ เสนอนา
กรมพิเศษอาสาได้ ประจุพร้อมเพรียงพล ฯ
๏ ปลัดกรมนั่งคฤห์เบื้อง ขวานาม ขนานนา
ขุนวิชิตสงคราม ชื่อตั้ง
ขุนรณฤทธิวิไชยวาม กรมปลัด นั้นฤๅ
เนาคฤห์นาเวศรั้ง ฝ่ายริ้วทิวเฉวียง ฯ
๏ ขนาดคงสามคู่รู้ เรือรี รวดฤๅ
วาทัศวัดนาวี เท่าแท้
หลังคาคฤห์ดาษศรี แผ่ลวด กนกนา
ลำฉลุอุไรไล้แล้ เล่ห์อ้างปางหลัง ฯ
๏ เสาคฤห์หกแห่งไส้ ใส่สุรัด เขนเอย
อิกกกระบี่เสโลห์ทมัด ผูกหมั้น
ฉ้อคฤห์แต่งแจงจัด รจิตรดุจ เดียวนา
ทวนมาศภู่สามชั้น กับง้าวสิ่งละสอง ฯ
๏ จ่ารงค์คร่ำปรักตั้ง หนหัว เรือเฮย
ลำละบอกเพ่งพึงกลัว กลอกเกล้า
เกณฑ์ฝรั่งพรั่งพร้อมตัว นายสินาศ น้อยนา
ทนายกระสุนทมุนเส้า ทั่วถ้วนพนักงาน ฯ
๏ ฝีพายสวมเสื้อปัศ ตูชาด ฉาดเอย
ขลิบโหมดไพโรจสอาด เอี่ยมล้ำ
กางเกงก็แดงดาษ ดุจสนอบ นั้นนา
เศียรใส่มงคลซ้ำ ห่อนเพี้ยนเปลี่ยนพรรณ
๏ จึ่งเรือกราบสี่ผู้ ปลัดดำ รวจแฮ
เนานั่งกันยาลำ หนึ่งผ้าย
เวรขึ้นคู่ปลัดนำ ในใหญ่ ขวาเอย
แรมปลัดในใหญ่ซ้าย ต่างต้องตรวจตรา ฯ
๏ ราชามาตย์อิกทั้ง ไชยา ภรณ์ฤๅ
แรมปลัดจัดนำนา เวศไท้
หนึ่งไชยภูษา สุกรปักษ์ เปลี่ยนเอย
อิกทิพเสนาให้ คู่เข้าเวรเวียน ฯ
๏ ฝีพายกายก่องถ้วน ทุกตน
เสื้อกับกางเกงกล ครั่งย้อม
เศียรสวมใส่มงคล แดงดื่น
ยอไหล่ไล่หัดถ์ซ้อม สรท้านขานยาว ฯ
๏ จึ่งเรือคฤห์ครุธล้วน สิบเอ็ด วาเอย
ขวาชื่อครุธเหอรรเห็จ ท่านตั้ง
ฝ่ายซ้ายเรียกครุธเตร็จ ไตรจักร นามนา
เถมอลหมู่ทหารในทั้ง คู่พื้นพลพาย ฯ
๏ นายเรือขุนหมื่นผู้ ทหารใน
นั่งคฤห์กำกับไคล เคลื่อนคล้อย
เครื่องแต่งแห่งคฤห์ชไม แม้นคฤห์ กระบี่พ่อ
พวกพนักงานใหญ่น้อย อยู่พร้อมอย่างเพรง
๏ หลังคาคฤห์ดาษพื้น เชองชาย รอบฤๅ
กลางปักเปนดาวขจาย ทั่วแท้
ล้วนทองแผ่ลวดลาย แลเพรอศ เพราพ่อ
พิเศษกว่าหกลำแล้ ซึ่งอ้างปางหลัง ฯ
๏ จึ่งเรือทวาทศล้วน วายาว คู่เอย
นามเอกไชยเหอรหาว ฝ่ายซ้าย
ขวาชื่อเอกไชยหลาว ทองเทียบ เทียมนา
คู่ชักนำที่นั่งผ้าย อยู่ต้นเรือขบวน ฯ
๏ ฤทธิพิไชยเนาคฤห์ซ้าย นาวา ไชยเฮย
ขุนประชาพลขวา คฤห์รั้ง
ปลัดกรมคู่ชักนา เวศนั่ง คฤห์นา
กำกับเรือไชยทั้ง คู่คล้อยลอยเคียง ฯ
๏ ห้าคู่เขียนมาศล้วน ลายรด น้ำนา
ตั้งแต่เรืออสุรหมด คู่นั้น
สรินับสิบลำจรด เรือเอก ไชยเอย
เรือรูปสัตว์ฉลักชั้น นอกน้ำมันรบาย ฯ
๏ สิบคู่ใช้ต่างดั้ง นำเสด็จ
นับแต่สางสองเสร็จ ขนัดหน้า
ตกแต่งก็ตามเขบ็จ บูรพ์แบบ
ขบวนแห่แลเลอศฟ้า ฝ่ายน้ำนำนเรนทร์ ฯ
๏ บัดเรือไชยใส่ผ้า ไตรทาน กฐินเอย
บุษบกทองรองพาน กนกพร้อม
ศรีสุนทรไชยขนาน นามที่นั่ง นั้นฤๅ
วาทัศวัดเย่อนย้อม มาศล้วนลายเขียน ฯ
๏ ฝีพายสวมเสื้อปัศ ตูแดง ดื่นแฮ
จีบหัดถ์เถมอลทมัดทแมง ทั่วถ้วน
กางเกงก็แปลกแปลง อย่างยก เขียวเอย
หมวกกลีบลำดวนล้วน ปกเผ้าทุกคน ฯ
๏ พายพิจิตรปิดมาศล้ำ แลพราย เพรอศแฮ
ขุนหมื่นดำรวจราย นั่งห้อม
บุษบกฟากละสี่นาย นับแปด นายเอย
สองปักลายนุ่งพร้อม พอกเสื้อขาวครุย ฯ
๏ นักษราชสองผู้นั่ง ถือธวัช อุไรฤๅ
เรืองอร่ามสามชายสบัด โยกย้าย
อ่าเอี่ยมก็เทียมทัด ดำรวจ แปดเอย
สถิตย์ที่เก็จน่าท้าย ที่นังต้นชลยาน ฯ
๏ หมื่นขุนศุภรัตทั้ง โทเทียม สถิตย์นา
นุ่งห่มตามธรรมเนียม นั่งเฝ้า
ไตรทานพระกฐินเตรียม เชอญช่วย กันเฮย
เกณฑ์เปลี่ยนเวียนเวรเข้า คู่ผู้บริบาล ฯ
๏ ถั่นถับลำดับนั้น เรือกลอง แขกนา
ต้นเชือกนำเสด็จสอง ผลัดให้
ออกญาคู่ใหญ่กอง หกเหล่า แลเฮย
สุกรปักษ์เดโชได้ แห่หน้ากลองนำ ฯ
๏ กาฬปักษ์ท้ายน้ำเปลี่ยน นำกล นั้นนา
เรือกราบกันยายน เกือบกั้ง
พลพายใส่มงคล สนอบสนับ เพลาฤๅ
แดงจรัสปัศตูตั้ง โห่ร้องยาวโยน ฯ
๏ จึ่งถึงนาเวศเจ้า จุธาไท ธเรศฤๅ
พระที่นั่งชลพิมานไชย ชื่อชี้
ลำมาดขนาดนับไตร รัศวัด วาเอย
รจเรขเฉกไชยกี้ ฉลุล้วนลายสุวรรณ ฯ
๏ บัลลังก์แต่งตั้งต่าง บุษบก
ศรีดาษกันยาปก ปักพร้อม
แผ่ลวดพิลาศลายกนก กระหนาบแย่ง พื้นพ่อ
ขั้นขอบเชองชายล้อม เลอศล้ำสลับศรี ฯ
๏ วิสูตรกาญจน์แก้วกอบกั้น เวียนวง รอบฤๅ
แห่งรัตนบัลลังก์ทรง กษัตรใช้
ดำรวจที่ถือธง นักษราช น่านา
หนึ่งราชเสน่หาให้ สถิตย์ท้ายเรือทรง ฯ
๏ สองนายกายก่องเพี้ยง ชนสอง เพรงพ่อ
พื้นธวัชแผ่ลวดทอง เถือกหล้า
สักระหลาดชาดศรีรอง ไพโรจ หร่ามเฮย
แปลกแต่ปลายธงห้า แฉกใช้ชายเฉลอม ฯ
๏ เสด็จทรงที่นั่งครุธบ้าง บางวัน
เสนอชื่อมงคลสุบรรณ บอกแจ้ง
จตุรัศวัดวาพรร ณาขนาด รีฤๅ
น่าและท้ายธวัชแสร้ง สฤษดิเพี้ยงเรือไชย ฯ
๏ แต่งเตอมเพ่อมแต่ตั้ง จารงค์ หนึ่งฤๅ
สำหรับนาเวศทรง สถิตย์หน้า
รหว่างบาทราชวิหคผจง ดำคร่ำ
แลพิฦกแหล่งหล้า โลกล้วนสยบสยอน ฯ
๏ ฝรั่งประจำกำกับเฝ้า ปืนสาม นายนา
พญาชื่อพิเศษสงคราม เออกอ้าง
หลวงชนะทุกทิศนาม นายหนึ่ง อิกเอย
หลวงฤทธิราวีมล้าง ศึกม้วยหมื่นแสน ฯ
๏ พนักงานเผ้าหน้าที่นั่ง นาวี ราชฤๅ
จมื่นเสมอใจมี ชื่อตั้ง
สรรเพธภักดีศรี เสาวรักษ์ อิกนา
ไวยวรนารถหนึ่งทั้ง สี่ผู้อยู่ประจำ ฯ
๏ พระเครื่องทอดที่ตั้ง บัลลังก์ เรือฤๅ
พระล่วมมณฑปทัง ดาบด้น
ขดานชนวนม่อลงบัง คลหัดถ์ ธารเฮย
สุพรรณราชพรรณศรีล้น เลอศล้วนอุไรเรือง ฯ
๏ วิชนีชไมมาศด้ำ ถวายพา ยุพัดแฮ
เครื่องพระสุธารศชา ชุดกล้อง
เชองเทียนพระเต้าชลา ษิโณทก ถั่งเฮย
สุพรรณภาชน์สองชั้นต้อง แต่งตั้งไตรเตรียม ฯ
๏ นอกบัลลังก์ที่นั่งหน้า ผูกแสง ปืนเอย
หินคาบสิบคืบแรง ลูกแท้
ทองคร่ำกระหน่ำผลงแผลง ปรปักษ์ ป่นพ่อ
กระสุนขนาดหกบาทแล้ ลั่นฟ้าดินไหว ฯ
๏ พนักงานประจำสินาศนั้น นามเถลอง ยศนา
พญาอไภยศรเพลอง หนึ่งผู้
พญาอไภยศรเพลอง หนึ่งผู้
อิกสนิทอาวุธรู้ ชื่อชี้สามชน ฯ
๏ พร้อมพระศุภรัตผู้ เจ้ากรม หนึ่งนา
หลวงชื่อสุนทรภิรมย์ เรียกร้อง
จางวางพิริยพลรดม พายฝ่าย ขวาเฮย
สรินับห้านายต้อง นั่งหน้าบัลลังก์ ฯ
๏ ท้ายที่นั่งนอกม่านนั้น นายยาม มหาดเฮย
ทั้งคู่อยู่พิทักษ์ตาม ที่เฝ้า
หลวงอุดมภักดีนาม นายหนึ่ง นาพ่อ
คุมพวกพลพายเจ้า หมู่ซ้ายจางวาง ฯ
๏ นายเวรสามผู้พวก วิภูษภัณฑ์ นั้นฤๅ
เชอญพระกระหลดสั้นคัน หนึ่งไส้
สองนายพนักงานสุวรรณ พานพัตร เชอญเอย
อิกแพทย์สองผู้ได้ สถิตย์ท้ายลำทรง ฯ
๏ หมอยาทิพจักรเจ้า กรมขวา
หมอนวดราชรักษา เรียกรู้
ดำแหน่งแห่งยศถา เสถียรที่ หลวงเฮย
สุกรปักษ์สองแพทย์ผู้ อยู่เฝ้าบริบาล ฯ
๏ สิทธิสารกาฬปักษ์เจ้า กรมโอ- สถเอย
แพทย์หัดถ์จัดราโช ชื่อตั้ง
เวรซ้ายสถิตย์ท้ายโท หลวงเลอศ หมอแฮ
สองคู่เจ้าหมู่ทั้ง สี่ไว้เวรละสอง ฯ
๏ สริผู้อยู่ท้ายแปด ตนประจำ
สำหรับนาเวศลำ ที่นั่งไท้
บริรักษ์ราชโดยตำ หรับรีต โพ้นพ่อ
แสดงเสด็จชลมารคไว้ แบบเบื้องบรรยาย ฯ
๏ ฝีพายลำที่นั่งนั้น สักระหลาด สนอบนา
ศรีเปลี่ยนกรกับอาตม์ แปลกล้วน
ขลิบโหมดเพ่งผ่องผาด ไพโรจ รอบฤๅ
หมวกกลีบลำดวนถ้วน ทุกผู้สวมเศียร ฯ
๏ กางเกงยกใส่สิ้น สนับเพลา เชองฤๅ
พายพิศปิดสุพรรณเพรา ยิ่งย้อม
ยาวสนั่นลั่นลำเนา อรรณพ นาพ่อ
ชักไล่ไหล่ยกพร้อม เพรอศถ้าถูกเลบง ฯ
๏ ที่นั่งรองสองผลัดต้อง แต่งผจง เตรียมแฮ
ไล้มาศลม้ายลำทรง สุกช้าม
หนึ่งไชยสุพรรณหงษ์ สฤษดิรูป หงษ์เฮย
หนึ่งเรียกเหราข้าม สมุทแม้นเหรา ฯ
๏ ผิวทรงไชยที่นั่งต้น เหรา แต่งเฮย
เตรียมเทียบที่นั่งรองคลา คลาศต้อย
เรือไชยคู่ชักมา เคียงคู่ ชักแฮ
น่าที่นั่งไชยใหญ่คล้อย เคลื่อนแคล้วคลาขบวน ฯ
๏ แม้วทรงครุธใหญ่ไส้ สุพรรณหงษ์ ผูกแฮ
ตามแต่งที่นั่งรองคง ขนัดท้าย
ครุธน้อยขนาบลำทรง ชักคู่ เคียงนา
นำที่นั่งเวนัตย์ย้าย พยุหเพี้ยนเปลี่ยนแปลง
๏ เครื่องประดับสรรพสิ่งถ้วน ที่นั่งรอง นั้นฤๅ
เฉกเช่นนาเวศทอง ที่นั่งไท้
ไตรรัศวัดวาสอง ลำเท่า เทียมนา
พายมาศชาดล่องไล้ แผกเพี้ยนลำทรง ฯ
๏ ฝีพายกายอ่าเพี้ยง ไชยองค์ กฐินนา
นักษราชน่าท้ายธง เทอดตั้ง
สามชายเฉกไชยทรง ไตรพร่ำ เพรงพ่อ
แต่งบ่แปลงแปลกทั้ง คู่อ้างอย่างเสมอ ฯ
๏ ในบัลลังก์ไตรตั้งมาก หลากหลาย
ศุภรัตปลัดสองนาย นั่งเฝ้า
หนึ่งวิสุทธสมบัติหมาย จมื่น นามนา
หนึ่งรัตนโกษาเข้า สถิตย์พร้อมพนักงาน ฯ
๏ ถั่นถับลำดับนั้น นาวา กราบฤๅ
ล้วนประกอบกันยา พรั่งพร้อม
เจ้ากรมปลัดซ้ายขวา ดำรวจ ขี่เอย
อิกกับจางวางห้อม แห่ผ้ายภายหลัง ฯ
๏ จึ่งเรือองครักษ์ทั้ง กรมสอง
สองพวกพลพันรอง ต่อเต้า
ทหารในคู่กรมกอง ชาญช่าง
ทุกทั่วปลัดแลเจ้า หมู่ล้วนลำละนาย ฯ
๏ ทวารหลังแต่งตั้งคู่ นาวี วางนา
ขวาพระนรินทร์เสนี ท่านไว้
ฝ่ายเฉวียงภาคพญาศรี สหเทพ สถิตย์ฤๅ
บริรักษ์นเรศวรไท้ ธเรศด้าวปฤษฎางค์ ฯ
๏ แล้วถึงนาเวศตั้ง เสลี่ยงองค์ หนึ่งนา
เรือพระกลดคันยาวทรง เทรอดกั้ง
เรือรองขนดเชือกวง วัดมารค มีเอย
ดำแหน่งพันจันท์ตั้ง แต่งไว้เวรทาง ฯ
๏ เรือแสงสรรพยุทธผู้ ชาวงาน
เชอญพระเก้าอี้ยาน ติดต้อย
สำหรับราชสำราญ สถิตย์ที่ ควรนา
คือที่นั่งขนาดน้อย ขนบเบื้องบูรพ์แสดง ฯ
๏ บัดเรือตาร้ายคู่ เคียงประนัง
มีประทุนแผงบัง ปิดป้อง
ปืนคาบศิลาทัง ดินลูก
บรรทุกตามเสด็จต้อง พยุหน้ำธรรมเนียม ฯ
๏ หมื่นก่งศิลป์กับด้วย ก่งศร
คุมขี่นาวีจร คู่แคล้ว
เกณฑ์หัดปลัดกรมนิกร แสงสินาศ สองนา
พร้อมพรั่งทั้งพลแกล้ว กลั่นพื้นปืนยา ฯ
๏ เถมอลพายหลายเหล่าถ้วน มวญพหล หลังนา
เสื้อใส่เศียรมงคล คาดสิ้น
กางเกงบ่แปลกปน พรรณภาค เดียวพ่อ
แดงดาษดูเล่ห์ลิ้น จี่ย้อมยลแสยง ฯ
๏ พ้นนั้นนาเวศเจ้า ต่างกรม ตามเอย
อิกบมีกรมรดม ทั่วถ้วน
เรือกราบที่นั่งควรชม ม่านมาศ รอบฤๅ
ประดับกับกันยาล้วน ภู่ผ้าผูกโขน ฯ
๏ แล้วเรือมวญหมู่ข้า ทูลลออง บาทเอย
มีอาทิ์มาตย์สมุหสอง ยิ่งผู้
กระลาโหมมหาดไทยฉลอง โอษฐราช แลฤๅ
คือพระพาหากู้ กิจอ้างต่างองค์ ฯ
๏ จตุสดมภ์กรมท่าทั้ง วังสถาน
เกษตรนับกับนครบาล สี่ถ้วน
พลเรือนทหารชาญ ศึกเชี่ยว
สองฝ่ายหลายเหล่าล้วน แห่ล้อมหลังตาม ฯ
๏ เรือโขนขนาดใหญ่น้อย เหลือหลาย
เถมอลหมู่ผู้พายกาย อ่าอ้าง
กางเกงย่อมลวดลาย สลับล่อง ริ้วแฮ
ดำดื่นแดงเขียวบ้าง อย่างย้ายหลายพรรณ ฯ
๏ เรือขุนมุลมาตย์พื้น แต่งผิด ที่นั่งนา
โขนผูกผ้าภู่พิศ โหดห้อย
กันยาก็ปกปิด บังร่ม ร้อนฤๅ
เว้นแต่เรือผู้น้อย ศักดิไร้ไป่มี ฯ
๏ นาวาพยุหบาตรเจ้า ธรณี ดลเอย
เดียรดาษแดนนที อคร้าว
เนืองเนกดิเรกพิรีย์ รดมศัพท์ สนั่นนา
นฤโฆษอรรณพด้าว เฟื่องฟื้นฟูมฟอง ฯ
๏ ขบวนเรือพรหมราชผู้ หัวพัน
กรมพระกระลาโหมสรรค์ สบซ้อง
พรหมศักดิอิกพันบรร จบจัด แจงนา
กรมนอกกระลาโหมร้อง เรียกอ้างฝ่ายเหนือ ฯ
๏ นฤเบศร์เกษกระษัตริย์ไท้ ทวารา วดีแฮ
ยกยาตรพยุหนาวา วิ่งน้ำ
โดยทุรมารคชลา ไลยเขตร ขูเฮย
ถวายพระกฐินทานซ้ำ เสด็จผ้ายหลายเวน ฯ
๏ อาวาศฝ่ายน้ำนับ เนกหลาย
สี่สิบเจ็ดประมาณหมาย มากด้าว
ลำเค็ญพระกายวาย หวังโพธิ์
เพราะพระไทยท่านน้าว หน่วงน้อมพุทธภูมิ ฯ
๏ ปองโปรดชัคณสัตวสิ้น สบสกล
เสวอยวิมุตติมรรคผล ผ่องแผ้ว
มละโยคโอฆเวียนวน วัฏเขตร ข้ามแฮ
ลุแหล่งศิวาไลยแคล้ว คลาศห้วงสงสาร ฯ
๏ เสร็จแสดงแห่งแบบเบื้อง พยุหบาตร เรือฤๅ
เรียงเรื่องพระกฐินขนาด ขนบน้ำ
เสนอเนืองเนกคณปราช ปราโมทย์ เทอญพ่อ
เชอญช่วยพิจารณ์อ่านซ้ำ สอบทั้งเอกโท ฯ

จบขบวนเสด็จพยุหยาตราพระกฐินโดยชลมารคเท่านี้

----------------------------

  1. ๑. ตรงนี้บางฉบับเปน ไซร้

  2. ๒. เดี๋ยวนี้ใช้ว่า รัตโกษา

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ