ประวัติสังเขปของคนชาติมูเซอร์

ว่าด้วยลักษณะรูปร่าง

มูเซอร์เป็นคนชาติดอยชาติหนึ่ง รูปร่างสูงต่ำขนาดเดียวกับคนในพื้นที่ราบ แต่ใบหน้าคล้ายไปข้างเงี้ยว ไว้ผมยาวใช้ผ้าโพกศีร์ษะเหมือนกัน

มูเซอร์มีสองจำพวก คือมูเซอร์ดำ และมูเซอร์แดง มีลักษณะต่างกันดังนี้

มูเซอร์แดงผู้ชายนุ่งกางเกงสวมเสื้อแบบอย่างเงี้ยว ผู้หญิงนุ่งผ้าสิ้นไว้ผมยาวสวมเสื้อแบบอย่างเงี้ยว ผิวเนื้อดำแดงไม่ผิดกับคนเมือง

มูเซอร์ดำนั้น ผิวเนื้อดำ ชายและหญิงนุ่งกางเกงสวมเสื้อโพกศีร์ษะด้วยเครื่องดำ และสำเนียงที่พูดผิดกับพวกมูเซอร์แดง แต่รู้จักภาษากัน ชอบกินหมากจนฟันดำ ผู้ชายโดยมากเจาะหูข้างซ้าย

ทำเลที่อยู่และลัทธิขนบธรรมเนียม

มูเซอร์ทั้งสองพวกชอบอยู่บนเขาที่มีอากาศเย็นและมีพื้นที่พอทำไรปลูกเข้าและเลี้ยงสัตว์ได้

ลัทธิและขนบธรรมเนียมของคนจำพวกนี้คล้ายไปข้างเงี้ยว ถือผีฟ้า (อากาศเทวดา) มีการกินวอ (ขึ้นปีใหม่) พร้อมกันกับตรุษจีน การนับวันเดือนปีก็เช่นเดียวกับจีน

กินวอ หรือวันตรุษของเขานั้น มีพิธีทำกันดังนี้ มีการฆ่าไก่ สุกร เส้นไหว้ผี ยิงปืนและมีการชุมนมเลี้ยงกัน แล้วมีการเล่นเต้นรำเป็นการเอิกเกริก

การเกิด การคลอดบุตร์ของเขามีพิธีคล้ายคลึงกับคนเมืองนี้ เช่นมีหมอตำแยเอาลูกออก เมื่อคลอดแล้วใช้พันท้องไว้นั่งเอนหลังอยู่เฉยๆ าว ๑๕ หรือ ๒๐ วัน รับประทานน้ำร้อนและยาป่า

การแต่งงานหรือที่จะได้เป็นสามีภรรยากัน

มูเซอร์ทั้งสองจำพวก ธรรมเนียมเที่ยวสาว (อู้สาว) อย่างคนเมือง แต่มีกิริยาผิดเพี้ยนกันบ้างเล็กน้อย มูเซอร์แดงนั้นพูดคุยกับสาวบนเรือนอย่างคนเมือง แต่มูเซอร์แดงไม่พูดคุยกันบนเรือน มักคุยกันที่ฟากหรือเครื่องปูลาดที่พื้นแถวหน้าบ้านเป็นต้น เมื่อจะได้กันเป็นสามีภรรยาต้องมีการไล่ผี ๑ รูเปียครึ่ง และมีการเลี้ยงผีด้วยไก่ ๑ คู่ ถ้าเป็นผู้ที่มีหลักฐานหน่อยก็มีการเลี้ยงดูกันด้วย เมื่อได้กันแล้วฝ่ายผู้ชายต้องมาอยู่กินกับผู้หญิงและเลี้ยงดูบิดามารดาฝ่ายหญิง ๓ ปีก่อน แล้วจึงพากันกลับไปอยู่เลี้ยงดูบิดามารดาฝ่ายชายอีก ๓ ปีดังนี้

การเจ็บป่วย ทำพิธีบวงสรวงผีฟ้าใช้หมูและไก่เป็นเครื่องเส้น แล้วผูกมือ (เรียกว่าทำขวัญ) การกินยาหรือรักษาพยาบาลอย่างวิธีแพทย์ไม่มี มีแต่การใช้ยาป่าเช่นรากไม้ใบไม้เปลือกไม้เป็นต้น ต่อมาในสมัยนี้ค่อยนิยมใช้ยาควินนินซึ่งเขาเรียกว่ายาขาวๆบ้างแล้ว

การตาย มีการร้องไห้แสดงความเศร้าโศรกเสียใจเหมือนกัน และนำศพไปตั้งอย่างคนพื้นเมืองนี้ ถ้าเป็นผู้มีหลักฐานหน่อยก็มีการฆ่าสัตว์ของผู้ตายที่เลี้ยงไว้ทำเป็นอาหารเลี้ยงกันอย่างเอิกเกริก ถือว่าเป็นการทำบุญอุทิศส่วนผลทรัพย์ไปให้แก่ผู้ตาย

มูเซอร์ดำมีธรรมเนียมที่เคร่งอยู่ข้อ ๑ คือการเสพสุราหรือต้มสุรากินไม่มีเลย ถือว่าถ้าใครทำเช่นนั้นผีไม่ชอบ เป็นการผิดผี แต่พวกมูเซอร์แดงมีบ้าง

การเคารพหมอบคลานกิริยาอันอ่อนน้อมทำไม่เป็น เครื่องนุ่งห่มใช้สรอยและการกินอยู่ค่อนข้างสกปรก สิ่งเหล่านี้เขาไม่รู้สึกว่าเป็นธรรมเนียมที่ควรปฏิบัติ

ที่อยู่ทั่วไป

คนชาตินี้สร้างเคหสถานอยู่เป็นหมู่บ้านๆหนึ่งไม่น้อยกว่า ๕ หลังคาเรือนขึ้นไป หมู่บ้านเหล่านี้ตั้งอยู่ตามไหล่เขาที่ๆเป็นบริเวณหมู่บ้านตัดฟันแผ้วถางต้นไม้จนโล่งเตียน

ที่อยู่โดยฉะเพาะ

คนจำพวกนี้ปลูกเรือนอยู่เช่นเดียวกันกับคนในพื้นที่ราบ (เรียกว่ากระท่อม) แต่การปลูกสร้างไม่ถาวรอย่างใด คือใช้เสาไม้ไผ่ตงบ้าง เสาไม้ง่ามบ้าง หลังคามุงด้วยหญ้าคาหรือใบก๊อ ฝาใช้ฟากกรุพื้นปูฟาก เรือนหลังหนึ่งกว้างยาวพอจุคนในครัวเรือนของเขา ในห้องเรือนนั้นมีเตาไฟอยู่กลางห้องสำหรับใช้ผิงตลอดปี ใช้หุงต้มอาหารและต้มเข้าเลี้ยงหมู สุนัขที่เขาเลี้ยงก็อยู่ปะปนในห้องเรือนนั้น พื้นที่แม้จะยกพื้นก็หาความสอาดไม่ได้เลย เครื่องนุ่งห่มและใช้สรอยค่อนข้างสกปรกเพราะครัวไฟอบอ้าวอยู่ตลอดวัน บนขื่อใช้ไม้ก่ายทำเป็นร้านสำหรับเก็บสรรพ์ภาระ เมื่อเข้าไปในห้องเรือนรู้สึกว่าหายใจไม่สะดวกเพราะครัวไฟอบอ้าวและคับแคบอุดอู้มาก เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มไว้ปะปนกัน และเก็บในบริเวณเรือนทั่วไปไม่เป็นที่เป็นแห่ง เช่นของผู้หญิงเก็บไว้ในที่ซึ่งผู้ชายลอดไปมา เขาก็ไม่ถือว่าเป็นการเสื่อมทรามอย่างใด

ส่วนใต้ถุนและตามบริเวณบ้านเรือนก็ล้วนแล้วไปด้วยมูลสัตว์ มีกลิ่นเหม็นปฏิกูลยิ่งนัก

นอกจากที่อยู่แล้ว ตามบริเวณใกล้เคียงก็ปลูกโรงเล็กๆ น้อยๆ สำหรับเลี้ยงสัตว์ เช่น หมู ไก่ โค

การนุ่งห่ม

มูเซอร์ดำนุ่งกางเกงทั้งหญิงและชายมีผ้าโพกศีร์ษะด้วยเครื่องดำ ผู้ชายสรวมเสื้อสีดำแบบอย่างเงี้ยว ชอบเจาะหูเบื้องซ้าย

ฝ่ายหญิงสรวมเสื้อดำยาวลงถึงน่องแบบอย่างผู้หญิงจีน เจาะหู ๒ ข้าง มีห่วงเงินกลมๆ ใส่หูแทบทุกคน เสื้อของผู้หญิงใช้ผ้าสีต่างๆ ตัดเป็นริ้วเล็กๆ ขลิบตามริมคอและแขนเสื้อ และใช้เงินตีเป็นห่วงกลมๆ สวมคอหรือใส่ลูกปัดทำเป็นเครื่องประดับสำหรับหญิงแทบทุกคน ซึ่งเขานิยมว่าเป็นของงามตามภาษาของเขา

มูเซอร์แดง ทั้งหญิงและชายใช้เครื่องนุ่งห่มคล้ายไปข้างเงี้ยว ฝ่ายคือชายนุ่งกางเกงสวมเสื้อสีดำหรือเขียวครามแบบอย่างเงี้ยว ฝ่ายหญิงนุ่งผ้าสิ้นสวมเสื้อแบบอย่างเงี้ยว เจาะหูใส่ห่วงเงิน และมีห่วงเงินหรือลูกปัดสวมคอเช่นเดียวกับมูเซอร์ดำ

อาหารการบริโภค

อาหารของคนจำพวกนี้คือเข้า, เข้าโภชน์ เข้าฝ้าง, เผือก มัน, กล้วย, อ้อย, ผักต่างๆ ถั่ว. และเนื้อสัตว์เช่นหมู ไก่ เนื้อโค

การบริโภค มีภาชนะหม้อ กะทะ ถ้วยชาม (ซื้อเอา) สำหรับหุงต้มและใช้สรอยเช่นเดียวกับคนในพื้นที่ราบ การประกอบอาหารมีแต่รส, เผ็ด, เค็ม, เป็นธรรมดา (แต่ค่อนข้างสกปรก)

อาหารของป่าเนื้อสัตว์ป่า

อาหารของจำพวกนี้มีหัวมัน, หัวกลอย และผักไม้ต่างๆ ซึ่งมีธรรมชาติเกิดขึ้นเองตามป่า

เนื้อสัตว์ป่า เช่นหมูป่า นกต่างๆ กวาง อีเก้ง หมูป่า คนจำพวกนี้ใช้ธนูยิง หรือดักแร้ว ขัดห้าว แทงตัง (ดักด้วยยางเหนียว) นำมาเป็นอาหาร การใช้ธนูยิงสัตว์นับว่าสันทัดมาก

การคมนาคมไปมา

บนภูเขามีคนจำพวกนี้ตั้งบ้านเรือนอยู่มีทางเดิรติดต่อไปมาถึงกันระวางคนพื้นที่ราบ และมีทางเดิรติดต่อกับพวกแม้ว ย้าว, (เป็นทางคนเดิรและม้าต่าง) ทางเหล่านี้ค่อนข้างเดิรยาก เพราะมีช่องไปได้ฉะเพาะ

การกสิกรรม

คนชาติมูเซอร์หาเลี้ยงชีพในทางทำไร่ปลูกเข้า เข้าโภชน์ เข้าฝ้าง และถั่ว มัน พริก ฝ้าย คือแผ้วถางป่าไม้ดงดิบตามไหล่ภูเขา เอาไฟเผาจนโล่งเตียนแล้วจึงปลูกพืชพันธ์ลงในพื้นที่ดินนั้น

การค้าขายแลกเปลี่ยน

คนจำพวกนี้ไม่ใคร่จะทำการค้าขายสิ่งของอะไรที่เป็นล่ำเป็นสัน แม้แต่ทำไร่ปลูกเข้าก็ไม่พอกินตลอดปี เข้าโภชน์หรือฝ้าย พริก ที่ปลูกพอได้ผลก็นำลงมาแลกเข้ากับชาวเมืองในพื้นที่ราบนำขึ้นไปกิน มีนิสสัยค่อนข้างเกียจคร้าน

การหัดถกรรม

สำหรับผู้หญิงมีการปั่นฝ้ายทอผ้าแต่เป็นส่วนน้อย การเย็บเครื่องนุ่งห่มใช้ทำเอง สำหรับผู้ชายมีการทำเครื่องเหล็ก เช่นตีมีดและเครื่องเงิน เช่นเครื่องแต่งตัว แต่มีส่วนน้อย

ธรรมเนียมการปกครองครอบครัว

มีธรรมเนียมการปกครองครอบครัวอย่างราษฎรสามัญในพื้นเมือง มีการนับถือบิดามารดา สามีมีอำนาจเหนือภรรยาและบุตร์ ภรรยามีหน้าที่ปฏิบัติสามีและเลี้ยงบุตร์เช่นเดียวกัน

ศิลปวิทยาการคนจำพวกนี้ไม่มี

ศิลปวิทยาศาสตร์คนจำพวกนี้ไม่มี มีแต่ใช้เครื่องหมาย เช่นการขีดหรือปักไม่ใช้แทนตัวหนังสือ

5ลัทธิศาสนา

คนจำพวกนี้ไม่มีศาสนา มีแต่ลัทธิการไหว้ผีถือผีฟ้า (อากาศเทวดา) มีการเส้นไหว้บวงสรวงด้วยเครื่องสังเวยและเครื่องตีเป่า (แคลน) คือเอาน้ำเต้าทำแคลนเป่าแสดงการเต้นรำเดิรเป็นวงทั้งหญิงและชาย

ในคราวที่มีการเจ็บป่วยหรือคราวกินวอ (ปีใหม่) ต้องทำพิธีไหวผีฟ้า (อากาศเทวดา) ทุกคราวถ้าการเจ็บป่วยไม่บรรเทา หรือตายกันมากผลที่สุดก็อพยพครอบครัวไปอยู่ที่อื่น ลงโทษว่าผีฟ้าไม่ให้ความสุข

ภาษาและคำพูด

มูเซอร์เปนชาติซึ่งมีภาษาใช้ชะนิดหนึ่ง สำเนียงคำพูดฟังดูคล้ายไปข้างขะมุ แต่คำพูดไม่เหมือนขะมุ เช่นกินเข้ามูเซอร์พูดว่า ออจา กินน้ำมูเซอร์พูดว่า กะเดาะ เป็นต้น.

----------------------------

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ