พระราชพงศาวดาร

สมเดจพระนารายนเมืองลพบุรี

คำฉันท

----------------------------

๏ วสันตดิลกฉันท ๚

๑๔ สรวมชีพถวายกรประนต วรทศพลญาณ
ปราบหมู่กิเลสอริณมาร ก็วินาศกำจร ฯ
๏ ผ่องแผ้วมโนสรเกษม สุขเปรมประชากร
ธาดาสุราศิวอมร ก็ประนตรบูชา ฯ
๏ ข้านบพระโลกุตรธรรม ภินิขัมโอฆา
นำหมู่นราชนะวรา วระรศไพศาล ฯ
๏ หนี่งข้าก็นบอริยองค์ คณะสงฆ์ธทรงญาณ
เปนเขตพิเศษอภินิหาร วระนิจไพบูลย์ ฯ
๏ อ้าองค์มเหศรศุลี สุรศรีธจำรูญ
ทรงพฤศภพาหนะประยูร วระฤทธิรังศรี ฯ
๏ อ้าองค์มหาวิศณุเวท มหิเดชจักตรี
เนาว์เหนือสุบรรณจรลี ชวลิตอร่ามเรือง ฯ
๏ อ้าองค์ธิเบศบรมนารถ วรราชผดุงเมือง
พร้อมด้วยประชานิกรเนือง อติเรกหลากหลาย ฯ
๏ จักกล่าวนิพันธศวดาร ปุระกาลโดยหมาย
ดำเนิรนิพนธ์วรภิปราย นฤนารถนรายนพงศ์ ฯ

๏ ฉบงง ๚

  ๏ ป่างปิ่นพิภพองค์
กฤษณราชดำารง อยุธเยศธานี ฯ
  ๏ เตลงลาวทุกราชปรีย์
ห่อนมายายี เข็ดขยาดอำนาจทวยไท ฯ
  ๏ แต่เพรงฝ่ายข้างกรุงไกร
เคยยุทธ์ชิงชัย บละบลดอดออม ฯ
  ๏ สมบูรณ์สมบัติพระจอม
เมืองหลายลดยอม ขอพึ่งพระเดชเกรียงไกร ฯ
  ๏ ส่ำกล้าทั่วด้าวเวียงชัย
พานิชโดยไคล บเคล่าบคอยราตรี ฯ
  ๏ ป่างท้าวเสวยสุขเกษมศรี
สนมนาฏนารี เฝ้าบาทบำเรอท้าวไท ฯ
  ๏ ทรงสถิตแท่นรัตนอำไพ
เอื้อนโองการไข แก่หมู่มุขมนตรี ฯ
  ๏ ดูราสูเจ้าเสนี
กำปั่นใหญ่เรานี้ ทำไฉนจะได้โดยคลา ฯ
  ๏ จากอู่ลงสู่ชลา
ชไลยลอยมหา นทีสถิตที่วังวล ฯ
  ๏ เร่งเร็วจงเจ้าจรดล
หาฝรั่งรู้กล พานิชผู้นั้นเข้ามา ฯ
  ๏ ไต่ถามความคิดปัญญา
วิธีตำรา ประเทศยุโรปฉันใด ฯ
  ๏ บัดนั้นอำมาตยเกรียงไกร
รับโองการไท ก็รีบตระบัดโดยดล ฯ
  ๏ นำพานิชนั้นสู่มณ
เฑียรเฝ้าจุมพล จะรัดใช้ให้ล่ามถาม ฯ
  ๏ ทูลแถลงแจ้งเล่ห์กลความ
ให้เสร็จสมตาม ประสงค์ธิราชจอมเวียง ฯ
  ๏ กลับมาจัดการพร้อมเพรียง
รอกกว้านเรียบเรียง ตระบัดก็เคลื่อนสู่ชล ฯ
  ๏ เสร็จสรรพกลับมาบัดดล
ขึ้นเฝ้าจุมพล บดินทร์ธิราชธานี ฯ
  ๏ ทูลแถลงแจ้งกิจภูมี
ข้าบาทจรลี โดยราชบัญชาทรงธรรม์ ฯ
  ๏ ชลอนาเวศมหันต์
ตามประสงค์นั้น บัดนี้ก็เสร็จโดยใน ฯ
  ๏ จากอู่ลงสู่ชไลย
จงทราบหฤทัย ธิเบศรจอมเจ้ามณฑล ฯ

๏ อินทรวิเชียรฉันท ๚

๑๑ ป่างองค์นรินทร์ราช วรนาถโสภณ
ทราบกิจนุสารสนธิ์ ธก็โสมนัสใน ฯ
๏ จึงมีวโรภาศ ธประสาสน์พระพรไชย
พานิชเกรียงไกร วรถ้อยประทานนาม ฯ
๏ ถานานุศักดิ์สม อนุกรมบุรีสยาม
ตำแหน่งประพฤติตาม วิชเยนทรฦๅชา ฯ
๏ ที่หลวงก็พอชอบ สติกอบณปัญญา
ว่าหมู่ชนาคลา อุรุเวศนะธานี ฯ
๏ เหรัญสุวรรณา ภิริยาประกอบมี
เนาว์ในพระบุรี มนะชื่นจรุงใจ ฯ

๏ วสันตดิลกฉันท ๚

๑๔ ป่างหนึ่งนรินทรพิภพ วรลพฦๅไชย
จึงแย้มพระโอฐมธุรไข วรนารถสนองถาม ฯ
๏ นานาอเนกสรพสรรพ์ สรสิ่งณใดงาม
ในเขตณโพนปุระสยาม ก็จะยิ่งจะหย่อนใคร ฯ
๏ จงแจ้งนุสนธิ์วจนะสัจ มนะชัดหฤทัย
ท่านยลณวัตถุวรใด ธจะแจ้งแสดงสาร ฯ

๏ อินทรวิเชียรฉันท ๚

๑๑ บัดนั้นวิชาเยน ทรเจนฤทัยญาณ
จ่างแจ้งบแคลงการ ธก็ทูลสนองไท ฯ
๏ ขอเดชะทราบบาท นฤนารถจอมไตรย
ปารีศเวียงไชย อติเรกสิ่งสรรพ์ ฯ
๏ เหรัญสุวรรณชาติ วชิราศครามครัน
ก่ายกองอเนกนัน ตจะนับบแม่นหมาย ฯ
๏ ภายในนิเวศน์ราช ประจุลาดสิลาลาย
เหลืองเลื่อมสุวรรณพราย ก็สลับมณีกาญจน์ ฯ
๏ เดิมเฌอผจงวาง ระยะห่างณชั้นชาน
แผลสร้อยสุมามาลย์ ก็วิจิตรรำไพ ฯ
๏ ปักษีจะจับกิ่ง ก็พะพิงและบังใบ
เคล้าคู่คละเคลียไคล กรทีจะขานขัน ฯ
๏ ฉายาก็ถอดไว้ และวิลัยก็ต่างพรรณ์
ยลเล่ห์ธแกล้งสรร พสถิตย์สถานใน ฯ
๏ เบี้องบนพิดานดาว ววะวาววะแวมไว
คำภู่ก็กวัดไกว ก็กะทบคะคึงคัง ฯ
๏ มารุตโบกโบย กรโชยกระพือตัง
รี่เรื่อยฉะเฉื่อยฟัง เสนาะศัพท์สนั่นเอง ฯ
๏ เหมือนเทพโหยหวล ธก็ครวญประโคมเพลง
ยิ่งฟังก็วังเวง สวิเวกณวิญญา ฯ
๏ ข้าบาทประจักษ์แจ้ง ก็แสดงนุสัจจา
จงทราบพระบาทา มหิภพกรุงไกร ฯ
๏ เบื้องนั้นนรินทร์ราช สุตสาทคำไข
พานิชยุบลใน ธบปลงฤไทมี ฯ
๏ ใคร่จักตระหนักชัด ธก็ตรัสกะมนตรี
คือใครจะจรลี ศุภศาส์นเสนอนำ ฯ
๏ สืบสวนประจักษ์แจ้ง มนะแหนงณข้อคำ
ยังสัจสมสัม วรถ้อยนุวาจา ฯ
๏ มนตรีสดับสาร ธรบาลกษัตรา
ทูลตามพระบัญชา วรกิจประกอบการ ฯ
๏ ข้าบาทบยลใคร จรในนทีธาร
ยลแต่นุชาปาน ผิวะช้าจะปลงใจ ฯ
๏ ทรงฟังพระมนตรี ธิบดีตระหนักใน
เอื้อนพจน์นารถไท มธุรศบัญชา ฯ
๏ นี่แน่ภเณปาน ศุภสารเสนอคลา
ไคลโดยชไลลา ทุรเขตนครไกล ฯ
๏ สูเจ้าก็เปรื่องปราชญ์ สรชาติเกรียงไกร
กำหนดนุโภไคย วรจิตรใจจำ ฯ

๏ ฉบงง ๚

  ๑๖ เบื้องนั้นเสนีรับคำ
สั่งเจ้านครำ ธิเบศไทบดินทร ฯ
  ๏ ข้าบาทขออาษาจร
ประเทศนคร ยุโรปราชธานี ฯ
  ๏ ขึ้นเฝ้าไทท้าวกรุงศรี
เจริญราชไมตรี ให้สมดังราชหฤทัย ฯ
  ๏ ทูลแล้วน้อมเกล้าคลาไคล
สู่ที่เรือใบ เร่งรัดจัดแจงแต่งการ ฯ
  ๏ ล้าต้าต้นหนคนงาร
ออพฟิเซอทหาร สรั่งต้นเด่นกับตัน ฯ
  ๏ โภชนสุกรอนันต์
เสร็จสรรพสิ่งสรรพ์ ก็โดยดลหาอาจารย์ ฯ
  ๏ วิเศษเรืองเวทกรรมฐาน
กสิณชำนาญ แกล้วกล้าสามารถคงทน ฯ
  ๏ แถลงแจ้งกิจยุบล
ตามนุสารสนธิ จอมไท้ธิราชธานี ฯ
  ๏ จึงพาอาจารย์จรลี
เฝ้าธเรศตรี บดินทรเจ้าจอมไตรย ฯ

๏ วสันตดิลกฉันท ๚

๑๔ ป่างองค์มเหศรมหา มหิราชเรืองไชย
เนาว์เหนือพระแท่นวรประไพ รุจิรัตน์วราราม ฯ
๏ จึงมีพระราชวรกิจ ธประสิทธิ์ประสาสน์นาม
โภคาสุภาภรณตาม นุประกอบประการกล ฯ
๏ จึงซ้ำประสาสน์วรประเสริฐ ตมะเลิศชลาดล
โภยภัยบได้จรปะปน ดุระทุกข์ขรทมใจ ฯ
๏ อ้าพ่อจะจรจระประจาก ทุรยากณทางไกล
อาษาพระจอมวรมไหย มหิราชจักตรี ฯ
๏ จงน้อมมโนสรมนัศ วรกัตเวที
ธาดาสุราศิวศุลี ก็จะช่วยธอวยพร ฯ
๏ อ้าพ่อกระทำสุดะสดับ วรรับนุสนธิ์สอน
ดลถึงมหามหินคร สุรราชกุรุงไกร ฯ
๏ ขึ้นเฝ้านรานรพิภพ จะประสบพระทรงชัย
ตรัสถามคดีวจนะใด อรแจ้งกระจ่างคำ ฯ
๏ อ้าพ่อนิราศภิริยบุตร์ ธิตสุดเสน่ห์ล้ำ
อย่าทุกข์มโนมนระกำ อุระร้อนฤทัยหมอง ฯ
๏ ตูเผือจะรับธุระผดุง จรมุ่งมโนปอง
เอาราชกิจกรสนอง คุณท้าวไผทโกรม ฯ
๏ อ้าพ่อทำมนะวิโยค สละโศกกระมลโสมนส์
ผ่าวผ่าวอุราอุรระโทม อุระร้อนขจรไกล ฯ
๏ เสร็จสิ้นประสาสน์พรประสิทธิ์ นรฤทธิ์พระทรงไชย
ทูตานุทูตกระษิมใน ศิรน้อมธจรพลัน ฯ

๏ อินทรวิเชียรฉันท ๚

๑๑ ออกจากนิเวศน์ไท พละไพร่ก็พร้อมกัน
สู่ที่ชลาอัน ประทะเทียบสถิตย์เรือ ฯ
ได้ฤกษ์ก็สรั่งลั่น อุสุนั้นสนั่นเหลือ
ควันกลุ้มชอุ่มเรือ ก็ตลบตลอดลำ ฯ
๏ สรรพเสร็จก็เคลื่อนคลา ชลลากระฉ่อนฉำ
ตัดออกเฉนียรน้ำ ชลฦกชลาไลย ฯ
๏ มุ่งแม่นฝรั่งเศษ ทุรเขตนครไกล
ฝูงชนก็ยลใน ชลชมคณาปลา ฯ
๏ วาฬใหญ่และไล่ฮุบ ตะคละครุบณมัจฉา
หมงโกรยทุกังพา คณะเพื่อนวะว่ายวล ฯ
๏ โลมาซะซ่าซร่อย จรลอยปะยี่สน
หลบหลีกละลานลน กรโลดกระโดดโจน ฯ
๏ ทุงทองยะย่องเยียบ จรเลียบจะจิกโผน
คาบคั้นขยั้นโยน ก็ขยอกขย้ำกิน ฯ
๏ ยางเจ๋าจะเจ๋าจ้อง จรย่องผโผผิน
ฉวยฉาบก็คาบบิน จรโผผวาเวียน ฯ
๏ อีลุ้มตะกรุมโกร๋น จรโผนผวาเวียน
หากินณถิ่นเตียน ก็จจ้อสะซอเซีย ฯ
๏ นางนวนก็ขาวผ่อง ละอะอ่องนะนัวเนีย
เคล้าคู่คละคลอเคลีย ก็จะเจื้อยจะนรรจา ฯ
๏ ดอยนัดยาวยืด รยะพืดพะเพิงผา
ผุดพ้นชไลยลา ชรลอกกระฉอกฉาน ฯ
๏ เลื่อมเลื่อมและพรายพราว ชรเซรากระเซ็นซาน
โครมเซาะสิลาลาน สุสุสู้ลอองปราย ฯ
๏ ปุ่มปุ่มฉะงุ้มง่อน ถมอคลอนไสลลาย
คล้ายสีมณีพราย ววะวับวะวามแวม ฯ
๏ ใสสีขจีอ่อน นิละซ้อนสลับแซม
เรื่อเรื่ออุไรแกม ธก็เพลินเจริญตา ฯ
๏ โดยจัตุรามาส วลชาติมหึมา
เกิดวายุพัดพา พยุหวลปะป่วนลม ฯ
๏ คึกๆพิฦกลั่น ชละนั้นก็เปนตม
หมอกเมฆกลิ้งกลม ชระอุ่มชะอำแสง ฯ
๏ ครืนๆละลอกซัด ก็ขจัดขเจิงแรง
แปลบปลาบวะวาบแดง สุระเสียงประเปรี้ยงดัง ฯ
๏ ไหวหวั่นสนั่นมี่ อสุนีประหารกัง
ตกลงชลาถั่ง ชละทกกระจายพรู ฯ
๏ เผลียงบาตธโปรยปราย ก็ขยายฟะฝอยฟู
ร่วงหล่นณะสินธู ชลชาติฝอยฟอง ฯ
๏ ฝูงชนก็เกรียวกราว อุระผ่าวกระมลหมอง
โหยให้พิไรร้อง สุระเสียงพิลาบคราง ฯ
๏ โอ้โอ๋ณคราวนี้ จะลุชีพวางวาย
กรรมไขว่ณแต่ปาง กรได้กระทำมา ฯ
๏ ว้าเหว่ชเลลม ก็จะจมชไลยลา
เปนเหยื่อกะมัจฉา กรกฏกุมภี ฯ
๏ อักอ่วนปะป่วนใจ หฤทัยจะเปนผี
ชีพิตณคราวนี้ ฤจะรอดตลอดไป ฯ
๏ ทวยเทพไทยท้าว ศิวเจ้าณตรึงไตร
ช่ายข้าขจัดภัย มหิห้วงณวังวล ฯ
๏ แซ่ศัพทเสียงร้อง สุระก้องกุลาหล
พร่ำให้พิไรรน ชลเนตรลลุงลาญ ฯ
๏ ส่วนราชทูตา สติกล้าฤทัยหาญ
ยลพวกพลาการ วิรวังวิเวกใจ ฯ
๏ วาจกธอาจาริย์ อุปการธแก้ไข
ช่วยตูวิโมฆภัย มหิโอฆวังวล ฯ
๏ นาวามหานี้ จรลีก็ไม่พ้น
สงสารนราชน จะพินาศบรรไลย ฯ
๏ ฝ่ายว่าธอาจาริย์ วจขานธข้อไข
อย่าทุกข์ระทมใน สละโสกเสวยรมย์ ฯ
๏ จงตั้งพลีกรรม มิคะยำสุรานม
เสร็จสรรพสิ่งสม ณสการะบูชา ฯ
๏ ตูเราจะตั้งจิต จะประสิทธิคาถา
ให้วายุพัดพา พยุหอบขจัดวล ฯ
๏ สรรพเสร็จก็แต่งกาย จรผายณมณฑล
อ่านเวทประสิทธิ์มนตร์ ธก็กล่าวพระคาถา ฯ

๏ โตฏกฉันท ๚

๑๒ จริยานุประกิจ ธประสิทธิกัสมา
ธิมนัศนุปะกา รกระสิณนุปกรรม์ ฯ
๏ ธก็เจนวรเวท สุรเดชปตะธรรม์
วิทยานุกสรร พมะหิทธิณรงค์ ฯ
๏ คณะครูวรเชษฐ์ ธพิเศษวรคง
ธกระพันทรยง ดระเลิศนุปการ ฯ
๏ ธก็ยังกระสิพา ยุตระบัติบนาน
ชรฉ่อนชรฉาน ก็สมุติคณะพลัน ฯ

๏ สุรางคณางค์ ๚

  ๒๘ เบื้องนั้นบันดาน
กึกก้องกังวาน คัคนานมัวควัน
เพ็ชหึงตึงตัง เสียงดังสนั่น
หอบหวนป่วนปั่น ทั่วทั้งเวหา ฯ
  ๏ ฮืฮืพืพัด
ทบทวนป่วนจัด หอบเอานาวา
ฉุดขึ้นจากวล พ้นแล้วเคลื่อนคลา
ฝูงชนถ้วนหน้า ชื่นชมปรีดี ฯ
  ๏ ยอกรน้อมไหว้
คุณอาจาริย์ไทย ศักดิ์สิทธิ์ฤทธี
แกล้วกล้าสามารถ อาจผจญไพรี
ช่วยตูครั้งนี้ รอดจากความตาย ฯ
  ๏ พ้นจากวลแล้ว
นาเวศคลาดแคล้ว แล่นได้สบาย
โดยตามมรรคา ชลาผันผาย
วายุโชยชาย รี่เรื่อยเฉื่อยมา ฯ
  ๏ ลุถึงปากอ่าว
ประเทศไทท้าว เจ้าเมืองคุลา
แจ้งกับนายด่าน กรมการรักษา
นาเวศตูมา แต่พระบุรี ฯ
  ๏ กรุงเทพนคร
ราชศาส์นบวร เปนมิ่งไมตรี
ท่านจงกราบทูล ตามมูลคดี
ให้ทราบธุลี ท่านท้าวกรุงไกร ฯ

๏ สัทราฉันท ๚

๒๑ บัดนั้นผู้รั้งชลาลัย สุตวจนนุไข
ข้อคดีใน ประนังทูล ฯ
๏ แด่องค์สมเดจนเรนทร์สูร ศุภกิจอนุกูล
เพื่อจะเพิ่มพูล พระยศไทย ฯ
๏ จึงแต่งใบบอกยุบลไป จรสลิละชไลย
เร่งนราไคล ลุโดยดล ฯ
๏ จึงนำอักษรละลานลน วจนกิจยุบล
ข้อนุสารสนธิ์ ณเสนี ฯ

๏ ฉบงง ๚

  ๑๖ ขัศนั้นมหามนตรี
เร่งรีบจรลี เฝ้าไทธิเบศบดินทร์ ฯ
  ๏ น้อมเกล้าคำนับภูมินทร์
ทูลแถลงรบิล รบอบให้ชอบพระไทย ฯ
  ๏ บัดนี้ยังมีเรือใบ
มาแต่กรุงไกร ศรีอยุธเยศธานี ฯ
  ๏ ให้ทูตนำราชศาส์นศรี
ถวายพระภูมี ภูมินทร์จงทราบหฤทัย ฯ

๏ อินทรวิเชียรฉันท ๚

๑๑ ป่างจอมฝรั่งเศษ สุรเดชเกรียงไกร
ทราบสิ้นระบิลใน สุเกษมธเรศตรี ฯ
๏ จึงมีวโรรศ วรพจนวาที
จัดแห่กระบวนลี ดลรับนุทูตา ฯ
๏ เปนเกียรติยศไท ปติไอศวรรยา
เลื่องชื่อรบือชา ปฐท้าวณด้าวแดน ฯ
๏ ออกนามจะขามเขต สุรเดชเหลือแสน
โดยเทอญคเวอแมน จรเร่งตระเตรียมการ ฯ
๏ ฟังสารพระทรงยศ วรพจน์ธบรรหาร
น้อมเศียรศิโรกราน ก็ประน้อมประนตลา ฯ
๏ จัดเกณฑ์กระบวนแห่ สรแซ่ทเสียงษา
สรรพเสร็จก็เคลื่อนคลา ชลมารคโดยดล ฯ

๏ ฉบงง ๚

  ๑๖ แถลงพจนนุสนธิ์
จอมเจ้าสกล บดินทรราชธานี ฯ
  ๏ จรัดให้ทูตาจรลี
สู่นครศรี เฝ้าบาทธิเบศร์ทรงธรรม์ ฯ
  ๏ ราชทูตแต่งตัวเร็วพลัน
เสร็จแล้วด้วยกัน ก็เชิญพระราชสารา ฯ
  ๏ ลงสู่ที่ทอดนาวา
พร้อมเครื่องบรรณา การเสร็จก็เคลื่อนโดยจร ฯ
  ๏ ตามแนวชลมารคสาคร
พักเดียวบหย่อน ก็ลุที่เทียบนาวา ฯ
  ๏ ขึ้นสู่ที่พักชลา
ครู่หนึ่งบช้า เกณฑ์แห่ก็ตั้งรายเรียง ฯ
  ๏ สารถีเทียบรถคอยเคียง
กลองแตรแซ่เสียง บันลือบรรเลงดนตรี ฯ
  ๏ ราชทูตเชิญราชศาส์นศรี
ขึ้นตั้งบนที่ รถรัตนราชพรายพรรณ ฯ
  ๏ ชวนกันสู่รถจรจัล
สารถีขยัน ขยับก็ขับพาชี ฯ
  ๏ วิ่งปร๋อกงล้อหมุนจี๋
ศัพท์แซ่ดนตรี คะครึกคะครื้นมรรคา ฯ
  ๏ พักหนึ่งลุถึงภารา
นิเวศน์ราชา บดินทร์เจ้าจอมไตรย ฯ
  ๏ สารถีหยุดรถทันใด
เชิญราชทูตไทย สถิตย์อยู่ที่โฮเตล ฯ
  ๏ แต่งโต๊ะตั้งเลี้ยงเช้าเย็น
คอยเฝ้านเรนทร์ นเรศจอมเจ้าธานี ฯ

๏ วสันตดิลกฉันท ๚

๑๔ ป่างปิ่นนรานรพิภพ สุรราชฤทธี
เนาว์เหนือทโรนรุจิมณี นุประดับวิเชียรพราย ฯ
๏ พรั่งพร้อมคณาคณนิกร ศิรอ่อนประนตกาย
คอยรับพระราชวรภิปราย นฤนารถกระษัตรา ฯ
๏ จึงเปล่งพระสุรสิหนาท ธประภาศบัญชา
เชิญราชทูตวรนรา ณนิเวศน์ธเคียมคัล ฯ

๏ อินทรวิเชียรฉันท ๚

๑๑ รับราชชโยงการ นฤบาลพระจอมธรรม์
นำราชทูตนั้น ศุภศาสน์ถวายไท ฯ
๏ จึงเอื้อนวโรพจน์ มธุรศธปราไส
ตรัสถามคดีใน ชลมารคมรรคา ฯ
๏ กำเฮียสดวกดี ฤบมีอริณมา
เบียดเบียฬนุพาธา ทุรโทษกระทำโภย ฯ
๏ หนึ่งยมนานั้น พยุลั่นกะพีโปรย
ครื้นครั่นสนั่นโบย ฤบห่อนจะเกิดมี ฯ
๏ เชิญทูตธจงแจ้ง ธแสดงนุวาที
ตามสัจวาจี นุประจักษ์ตระหนักนัย ฯ
๏ ฟังสุนทราราช วรนารถธปราไส
ชูชื่นหฤทัย เสนาะโสตธน้ำนวล ฯ
๏ ขอเดชะทราบบาท บรมนารถมเหศวร
เผือทูลบคำควร กรุณาอภัยเขือ ฯ
๏ ตูคลาและจากเมือง ก็บเคืองณะใต้เหนือ
๏ โจรภัยบไดเจือ บจะเบียดจะบีฑา ฯ
๏ มาได้ลุสี่มาศ วลชาติโอฆา
เกิดวาตพัดพา พยุลั่นสนั่นไป ฯ
๏ ยมนาณะสาคร ก็กระฉ่อนชลาลัย
นาวาก็คลาไคล พยุซ้ำก็ตกวล ฯ
๏ ตูทูลทั้งนี้ ธิบดีธทราบผล
จอมเมืองนราชน กรช่างหฤทัย ฯ
๏ ฟังทูตยุบลทูล บดิสูรธสงสัย
ตรึกตรึกคนึงใน ก็ฉงนฉงวยงง ฯ
๏ แต่ก่อนบห่อนมี จรลีจะคืนคง
ตูกตกณวลลง บจะรอดตลอดไป ฯ
๏ เหตุไรฉนี้นี่ จรลีณกลใด
ตูคิดก็หลากใจ มนะตรึกก็นึกแหนง ฯ
๏ ตรึกเสร็จธตรัสถาม สุตความนุคลางแคลง
ตูยังรวังแวง มนะนึกฉงนนัย ฯ
๏ โปรดตกณวังวล จรดลณะสมใจ
คิดอ่านประการใด ชวพ้นณะวลวัง ฯ
๏ ฟังพจน์เรนทร์สูร ธก็ทูลฤทัยหวัง
คลายแคลงนุวาจัง นุประจักษ์ณะสัจจา ฯ
๏ เมื่อตูกและตกวล นรชนก็ภีตา
กลัวชีพชีวา จะพินาศบันไลย ฯ
๏ ตูข้าก็ตั้งสัตย์ วรอธิฐานไป
ขอเดชสองไทย มหิหล้าธปกครอง ฯ
๏ โทท้าวจะครองสัตย์ บพิบัติประสมสอง
แผ่นพื้นสุวรรณรอง จะเจริญพระยศยืน ฯ
๏ ด้วยเดชความสัจ ก็ขจัดขจรคืน
๏ วาตาก็ครึกครื้น พยุหอบก็พ้นวล ฯ
๏ ด้วยบารมีสอง บดิครองณะมณฑล
ทั่วเขตณสากล วรทราบพระบาทา ฯ
๏ ยินถ้อยตระหนักชัด ธก็โสมนัศสา
คลายแคลงณกังขา ธก็น้อมฤทัยปลง ฯ
๏ สรรเสริญนุบุญญา อิศราธสูงทรง
ตูสองจะครองคง วรยศยืนนาน ฯ
๏ ปรีเปรมกระมลไทย ธก็ให้พระราชทาน
โภคาศุภาภารณ์ อุปโภคครามครัน ฯ
๏ สรรพเสร็จธิเบศท้าว ธก็เข้านิเวศน์พลัน
ทูตาก็จรจรัล ก็สถิตย์ณะโฮเตล ฯ

๏ วสันตดิลกฉันท ๚

๑๔ วันหนึ่งบดินทรมหา สุรราชราเชนทร์
ราไชยมไหศวริเยน ทรจอมฝรั่งเรือง ฯ
๏ เสร็จออกสนามอุสุณรงค์ ธก็ทรงณะแขกเมือง
เสนาคณานิกรเนือง คณะเฝ้านุดาษดา ฯ
๏ จึงเอื้อนพระโอฐมธุรรศ วรราชบัญชา
สั่งแก่มเหสุรมหา บริรักษมนตรี ฯ
๏ จงจัดทหารอุสุระพล จรดลณบัดนี้
กับราชทูตธจรลี ณสนามณะรณรงค์ ฯ

๏ อินทรวิเชียรฉันท ๚

๑๑ รับราชบรรทูล มหิสูรพิภพพงศ์
แอดรันขยันยง ศิระน้อมก็คลาไคล ฯ
๏ สรรพพลทหารสรรพ จรกลับนิวัตไว
เว้าเหตุณทูตไทย กิจแจ้งแสดงสาร ฯ
๏ ปรินจอมฝรั่งเศษ นฤเบศธบันหาร
สูคัลอิลูการ ณะสนามพระลานใน ฯ
๏ ทราบราชโองการ นฤบาลธิเบศไทย
ทูตาก็คลาไคล ศิรโอนศิโรคัล ฯ
๏ กัษนั้นนเรศปริน ธิบดินทรรังสรรค์
สั่งแอดมิรันพลัน ธประยุทธนาการ ฯ
๏ แบ่งพลณสองกอง ธประลองทหารผลาญ
ต้านต่อประจันบาน นรทูตจะได้ยล ฯ
๏ แอดรันขยันเหลือ ดุจเชื้อพยัคฆ์ปน
เป่าแตรธเรียกพล จรแยกกระบวนเดิร ฯ
๏ เปนตับบสับกัน บถลันถลำเกิน
เตรียมตนบเผลอเพลิน ปะสะตันก็ตรอกลง ฯ
๏ ต่างมุ่งเขม้นหมาย กรบ่ายกระบอกตรง
ง้างปราดฉะฉาดส่ง สุรเสียงประเปรี้ยงปึง ฯ
๏ ต่างเพ่งขเย่งรับ อุสุผลับณบอกผึง
จิตต์นบพรั่นพรึง ก็ขยับจะรับรอง ฯ
๏ ต่างแม่นบพลาดเพลี่ยง บจะเอียงณทั้งสอง
ลูกปืนมิผิดคลอง จระตรอกกระบอกกัน ฯ
๏ ครั้นสิ้นกระบวนครบ พละรบศิโรคัล
ลันโทนพระจอมธรรม์ นคเรศพิภพพาล
๏ เบื้องนั้นพระภูทรง อภิพงศ์ฝรั่งหาญ
เธอเอื้อนวโรงการ มธุรศบัญชา ฯ
๏ ถามราชทูตไทย บดีไอศวรรยา
ครองกรุงทวารา นทีรอบณุเขตรขัณฑ์ ฯ
๏ เธอมีทหารยุทธ์ อุสุวุทธ์ฉกาจกัน
เยี่ยมหย่อนกะเรานั้น ฤจะทัดจะเทียมสอง ฯ
๏ ป่างทูตสดับสาร นฤบาลธตฤกตรอง
ทูลโดยณตามครอง วรถ้อยธทำนูล ฯ
๏ จอมภพณข้าบาท บจะปรารถนาปูน
ปองเลี้ยงอโนกูล ฐิตไว้บใกล้องค์ ฯ
๏ ฟังพจนารถถ้อย ธก็น้อยพระไทยทรง
เคียดแค้นบดำรง สติไว้พระไทยเผลอ ฯ
๏ จึงหวลฤทัยงด มธุรศอวยเออ
ท้อถ้อยสนองเธอ พจนารถประภาษไป ฯ
๏ จอมเจ้าธของท่าน และทหารชนิดไร
ชอบเชิงหฤทัย อุปถัมภ์ธบำรุง ฯ
๏ ขอท้าวธทราบบาท วรนารถพิภพกรุง
ไทท้าวธหมายมุ่ง นรเลี้ยงวิชาการ ฯ
๏ ล่องหนและทนคง จะณรงค์ก็อาจหาญ
บังกายก็เชี่ยวชาญ จรด้อมและปลอมปน ฯ
๏ ลอบลัดและตัดเกล้า ฉะฉะเอาธจอมพล
รีบรัดตระบัดดล นุประสงค์ถวายไทย ฯ
๏ ทวยหาญชนิดนี้ ธิบดีธตั้งไว้
เฝ้าบาทบโดยไคล บจะคลาดพระบาทา ฯ
๏ ข้อยทูลพระผู้มี สุวจีนุสัจจา
จงแจ้งมโนปรา รภท้าวธถามเผือ ฯ
๏ ฟังฟังคนึงนัย หฤทัยบเอื้อเฟื้อ
ปลงในพระทัยเชื่อ วรถ้อยนุทูตา ฯ
๏ ทูตกล่าวณะทั้งนี้ ฤจะมีนุสัจจา
ห่อนสัจวาทา และจะเชื่อก็เกินการ ฯ
๏ ตรึกตรึกพระไทยเสร็จ นฤเบศธโองการ
เอื้อนพจมานสาร ธก็ถ้อยสนองไป ฯ
๏ ทวยหาญและเช่นว่า ทิจะมาฤหาไม่
มีบ้างฤยังไร ธประลองณะเยิงยล ฯ
๏ ยินท้าวสนองถาม พจนตามนุสารสนธิ์
ทวยหาญวิชาชน นรชาติก็มีมา ฯ
๏ แต่ปานสถานต่ำ บจะล้ำทหารภา
ราราชบาทา บดิเฝ้าพระทรงไชย ฯ
๏ แม้ว่าพระทัยปอง ภประลองถวายได้
ให้สมกระมลใน ดุจท้าวธรำพรรณ ฯ
๏ ดูก่อนธทูตไทย ธจะให้ประลองนั้น
อย่างใดไฉนนั้น ธจะสมอรมณ์เผือ ฯ
๏ ขอเดชทราบบาท นฤนารถเอื้อเฟื้อ
ขอให้ทหารเมื้อ อุสุแม่นประลองยิง ฯ
๏ พวกข้อยณทั้งนี้ ดุษณีจะนั่งอิง
เบญจาจะพะพิง บริโภคภุญชา ฯ
๏ สุตรถ้อยณทูตกล่าว อุระผ่าวธกังขา
แม้เยิงนุญาตา ผิวให้ประลองลาญ ฯ
๏ แม้ชีพบันไลย ก็ทุใส่ณะราผลาญ
อย่าเลยบควรการ มิประลองจะบันไลย ฯ
๏ ตฤกแล้วธจึ่งกล่าว นี่ณะเจ้าธทูตไทย
อย่าเลยจะตักษัย ชีพย์ม้วยณะเปล่าดาย ฯ
๏ ข้อยขอฉลองบาท อนุญาตบทำลาย
อกเผือบ่วางวาย ฤจะม้วยวิชาชาญ ฯ
๏ อาจหาญผจญได้ อุสุไซร้บห่อนผลาญ
ลองเถิดณะภูบาล จะประจักษ์ตระหนักจริง ฯ
๏ ฟังทูตธวิงวอน มหิศรธเกรงกริ่ง
รวนเรประเววิง หฤทัยธใคร่ลอง ฯ
๏ ลิ้นลายประจักษ์ชัด ฤจะวัจนคำสอง
ให้สมมโนปอง ปรทูตธวาทา ฯ
๏ จึงมีประสาสน์สั่ง ชนตั้งและเบ็ญจา
เครื่องโภชน์ภุญชา สุปเพียญชน์ครามครัน ฯ
๏ ชำเปนสุราเข้ม มิคเลมสุกรหัน
ทันรุ่งทิวาวัน กรเสร็จณทันการ ฯ
๏ สั่งเสร็จเสด็จขึ้น นรยืนศิโรมาร
ทูตกลับนิเวศน์ถาน ก็สถิตณะก่อนมา ฯ

๏ มาลินีฉันท ๚

๑๕ ขณสุริยสว่างฟ้า ราชทูตา นุทูตสั่ง ฯ
๏ กรชนคณาทั้ง ครูก็พร้อมพรั่ง ประนตรับ ฯ
๏ ก็จรมนิมนาสรรพ ราชทูตกับ ธอาจาริย์ ฯ
๏ สุพัศชนิกะถึงลาน ที่สนามการ ประลองปืน ฯ
๏ ชนคณธกระยงยืน คงกะพันธ์พื้น พิเศษเวท ฯ
๏ ชนิกสุรธิเชฐ แต่งสกนธ์เสวตร ธมนตร์ร่ำ ฯ
๏ ชนิกรก็เสร็จซ้ำ เสื้อสตูกั่ม ประกอบยัน ฯ
๏ สุพัศนรประพันธ์กัน เบ็ญจบนชั้น สถิตย์นั่ง ฯ
๏ สติกับมิระทดทั้ง หมดก็นิ่งนั่ง ประนังคอย ฯ
๏ พระมหิศรก็ให้ปล่อย ปืนรห้าร้อย ประยักยล ฯ
๏ พหลชนทหารรณ ยิงรดมดล บออกสิ้น ฯ
๏ ชนนิกรก็เพลินกิน มัจฉเรื่อยริน บหรั่นเล่า ฯ
๏ ชนพหลฝรั่งเศร้า ใจผเผ่าไห้ ขยาดเดช ฯ

๏ อุเปนทรวิเชียรฉันท ๚

๑๑ ณเมื่อธอาจาริย์ วรชาญณไตรเพท
ก็แจ้งประพฤติเหตุ นุประสงค์ธไปพลัน ฯ
๏ อุโฆษวาที นสิณีสมีรัน
ขยมนุญาอัน ชวแล่มถวัดอาจ ฯ
๏ ทหารฝรั่งยุทธ กรจุตนสีนาด
ววาบนุฉับฉาด จรออกบคลาไคล ฯ
๏ ผจญบอ้าววิท ธิวฤทธิ์พระมนตร์ไชย
อคร้าวฤทัยใน มนตรึกธปรีดา ฯ

๏ วสันตดิลกฉันท ๚

๑๔ ป่างปิ่นมเหศรพิภพ สุรราชกระษัตรา
ยลหมู่ทหารอุสุนรา นรราชประลองผลาญ ฯ
๏ ด้วยเดชพระเวทชนประเสริฐ ดมเลิศบันดาล
ทำเพลิงบเจนกรประหาร ชีวให้มลาญชนม์ ฯ
๏ สมสัจถ้อยวัจนทูต วจแท้นุศาส์นสนธิ
สมพงษ์บุรุษรัตนชน ดมเลิศประเสริฐชาย ฯ
๏ สมที่จะเลี้ยงทนุผดุง ทนุหนอมธต่างกาย
นานาอเนกนิกรหลาย ก็จะสมหฤทัย ฯ
๏ แช่มชื่นสโมสรมนัศ ศศิภักตร์ธผ่องใส
สรรเสริญวิชาอุดมให มหิเลิศณะธานี ฯ

๏ อินทรวิเชียรฉันท ๚

๑๑ แล้วสุนทราวาท ธประภาษวาที
ทวยหาญวิชาดี นคราชกุรุงไกร ฯ
๏ มีแหล่ฤเท่านี้ ฤจะมีประการใด
สูเจ้ายุบลให้ กรแจ้งฤทัยตู ฯ
๏ ยินพจน์นารถเธอ ธเสนอสนองธู
ข้อยน้อยยุบลภู ธรทราบหฤทัย ฯ
๏ ทวยหาญณะอิกนี้ บจะดีทหารใน
เปนแต่ทหารไคล จรโดยณะด้าวแดน ฯ
๏ โดยด้วยกะพานิช อริคิดทุตอบแทน
ปราบภัยณะแว่นแคว้น ชลมารคมรรคา ฯ
๏ ทวยหาญณจอมไทย มหิไอศวรรยา
เลื่องชื่อรบือชา และจะนับก็แหล่หลาย ฯ
๏ นานาวิชาการ ธก็ชาญจะแจงกาย
เวหาสดวกดาย ชลชาติก็ดำจร ฯ
๏ แทรกพื้นสุธาดล จรต้นณะดินดอน
แถวเถินณะสิงขร นุก็โดยหฤทัย ฯ
๏ ข้าแจ้งยุบลนี้ ธิบดีตระหนักใน
ตูข้าแถลงไข ดุจท้าวธถามเผือ ฯ
๏ ยินทูตธทำนูล อนุกูลประกอบเกื้อ
ปลงสัจฤทัยเชื่อ เสนาะถ้อยนุวาจา ฯ
๏ เกรงเดชบรมวงศ์ อภิพงศ์สวรรยา
ทวยหาญธศักดา มหิเลิศทุกธานี ฯ
๏ เธอจึงพระราชทาน นุประการประกอบมี
ไกรลาศกนกศี วชิราศครามครัน ฯ
๏ วัตถาสุภาภรณ์ อรชรอเนกนันต์
นานาวราพรรณ รุจิเรขรูจี ฯ
๏ ครั้นเสร็จเสดจกลับ นรรับศิโรศตรี
ทูตาก็จรลี ธสถิตย์สถานใน ฯ
๏ วันหนึ่งนเรศจอม วรเดชเกรียงไกร
เอื้อนโอฐปราไสย มฤธุธบรรหาร ฯ
๏ สูนี้ก็ปรีชา สุรภาพเฉกชาญ
ข้าบาทพระผู้ผ่าน นคเรศสยามินทร์ ฯ
๏ มีศักดิเกรียงยง ธฤจงฤทัยยิน
น้อยนารถนุราชิน ธก็แสร้งประลองดล ฯ
๏ แต่ชาญมหลักรอบ ชรบอบก็ดำกล
กล่าวถ้อยนุศาสน์สนธิ์ วรวัจนุสัตยา ฯ
๏ หนึ่งอย่างนครท่าน นฤบาลกระษัตรา
บริรักษ์ณเสนา ธสนิทฤทัยใน ฯ
๏ โปรดปรานตระการปรูณ อนุกูลประการใด
พลั้งพลาดบขลาดภัย ธรยิ่งณมนตรี ฯ
๏ ตูไซร้ก็จักรัก ษถนอมนุปรีดี ฯ
ให้เปนพระเกียรติศรี นคเรศจะจูงใจ ฯ
๏ ฝ่ายทูตจะใคร่ยล สุวิมลฉวีใน
กายท้าวธรำไพ ชรมารศรีพรรณ ฯ
๏ ดาลราคยดจิตต์ จรคิตก็นานครัน
อำนิษฏเอื้ออัน ปรตยักษ์ด้อมเมิล ฯ
๏ ลันโทนศิโรราบ วจน์ภาพสรรเสริญ
โปรดข้าพระคุณเกิน ดุจนี้ก็ทำเนา ฯ
๏ ข้าเสวกมาตย์ วรราชบยิ่งเยา
ดำรัสประสงค์เอา บมิไคลก็จำคลา ฯ
๏ ประเทศณใดใด พระก็ใช้ณไปมา
ใช่ชาญนุปรีชา วรกัตะเวที ฯ
๏ ข้าบาทพระผ่านฟ้า นคราก็มากมี
เปรื่องศักดิเกวี จะประเมินอนั้นนา ฯ
๏ หนึ่งอย่างรเบียบกรุง นคเรศอโยธยา
ท้าวโปรดธบัญชา ศิรน้อมพระบาทมูล ฯ
๏ ท้าวเธอประทานให้ กรไทยประนตทูล
ยรรยงธกำลูน นุประนมประนังคัล ฯ
๏ ฝ่ายจอมคุลาราช อนุญาตธไปพลัน
เฝ้าบาทธเคียมคัล ดุจแจ้งประการกล ฯ
๏ จีงราชทูตไทย ธอภัยก็โดยดล
หวังปองจะได้ยล ศิริราชรังศรี ฯ
๏ นบบาทถวายไทย จรใกล้ทฤษดี
ยลราชอาศน์มี ดลเรื่อยวิฑูริย์ราย ฯ
๏ ยามเช้ามณีแดง รุจิแสงสว่างกาย
ดังภาณุมาศฉาย จรเยี่ยมคณัมพร ฯ
๏ ยามเที่ยงขจีสด มรกฎประภัศร
เขียวศรีทิวากร จรอ่อนถวัชไคล ฯ
๏ ยามเย็นวิเชียรเพ็ชร์ ตลเม็ดก็รำไพ
บรรถรณ์พบูใส ดุจจันทรแจ่มภางค์ ฯ
๏ เมื่อทัศนาลัก ษณอาศน์ทโรนวาง
สมคำปุรำปาง กรนั้นประจักษ์ใจ ฯ

๏ ฉบงง ๚

  ๑๖ ป่างหนึ่งจอมเจ้ากรุงไกร
ปารีศมใหย พิภพราชธานี ฯ
  ๏ เนาวเหนือทโรนรูจี
โชติช่วงรังษี วิเชียรแก้วแพรวพราย ฯ
  ๏ พฤบพร้อมมนตรีแหล่หลาย
พหลนิกาย เฝ้าบาทธิเบศเบื้องบัน ฯ
  ๏ เธอจึงเอื้อนโองการพลัน
สั่งมนตรีขยัน ให้เร่งตระเตรียมพลไกร ฯ
  ๏ สูเจ้าจงเร่งเร็วไว
ตูจักจรไคล สู่ประเทศอโนทยาน ฯ
  ๏ มนตรียินราโชงการ
โอนศิโรมาร คำนับธิเบศบดี ฯ
  ๏ รีบเร่งไต่เต้าจรลี
จัดพลเสนี เตรียมถ้าไทท้าวธานินทร์ ฯ
  ๏ ป่างองค์นเรศจอมปริน
เสดจขึ้นทรงสิน ธพชาติเชื้ออาชาไนย ฯ
  ๏ นวลลอองค่อนผ่องศรีใส
แต่งเครื่องรำไพ ประดับด้วยแก้วแกมกาญจน์ ฯ
  ๏ มณีดวงโชติช่วงชัชวาล
เดิมโตประมาณ เท่าผลแห่งลางตจา ฯ
  ๏ ผูกสออัศวราชราชา
แสงแก้วจินดา สว่างกระจ่างแจ่มศรี ฯ
  ๏ จับกายมิ่งม้าพาชี
จับองค์ภูมี ดุจเทพเจ้ารำไพ ฯ
  ๏ ทรงขับอาชาคลาไคล
เร็วรวดฉับไว อุโฆษคครื้นมรรคา ฯ
  ๏ ราชทูตโดยด้วยราชา
พักหนึ่งห่อนช้า ก็ลุเขตอโนทยาน ฯ
  ๏ เสดจลงจากหลังแสะชาญ
โยธาทหาร ก็แซกก็แซงเรียงราย ฯ
  ๏ จึงเอื้อนโอฐวรภิปราย
ดูก่อนภณาย ทูตไทยธิราชบดี ฯ
  ๏ กรุงสยามห่อนฤจักมี
วิเชียรมณี รัตนราชพรายพรัน ฯ
  ๏ แหล่เหลือแหล่หลายครามครัน
สูเจ้าจงบรร ระยายให้แจ้งแห่งตู ฯ
  ๏ บัดนั้นราชทูตยินภู
ธรเธอใสสู ประพฤติถ้อยคำถาม ฯ
  ๏ จึงทูลเสนอแนวความ
ข้อยน้อยชนคาม บยลสมบัติราไชย ฯ
  ๏ อนุแหล่เหลือฉันใด
แม้ประนูนไทย เผือพจน์ถ้อยมฤษา ฯ
  ๏ แต่ข้าได้โดยทัศนา
เมื่อทรงอาชา ประพาสอโนทยาน ฯ
  ๏ มณีศรีโชติ์ชัชวาล
ผูกสอแสะชาญ ประมาณก็คล้ายคลึงกัน ฯ
  ๏ ข้าบาทได้ยลหนึ่งนั้น
จงทราบทรงธรรม์ จอมปรินธิราชธานี ฯ
  ๏ ทรงฟังเปรมกระมลปรีดิ์
ปราโมทฤดี แช่มชื่นบันเทิงหฤทัย ฯ
  ๏ สั่งให้จารึกคำใน
ทูตทูลแจ่มใส พจน์เพราะเสนาะสัจจา ฯ
  ๏ แล้วชมรุกขชาตินานา
อเนกดาษดา ผลิดอกสะพรั่งตระการ ฯ

๏ อินทรวิเชียรฉันท ๚

๑๑ จันทน์เทศยี่สุ่นแซม มลิแกมกุหลาบบาน
ซ่อนกลิ่นบกลิ่นอ่าน ธเด็ดธเชยดม ฯ
๏ จำปาก็เหลืองเรื่อ มลิเครือก็แซกสม
บานชื่นและบานชม สุรภีพิกุลกาล ฯ
๏ สาวหยุดประยงแย้ม และอะแร่มอะร่ามบาน
ร่วงหล่นสุธาธาร ก็ตระหลบสุคันธา ฯ
๏ วูว่อนภมรเคล้า ก็คละเอาลอองพา
โบกโบยขจรคลา จรเกลือกสุคันธ์จร ฯ
๏ แซงแซวณะหางบ่วง ก็ทลวงทลายฟอน
ค้นคว้านุเกษร กิมิชาติอาหาร ฯ
๏ ไก่ฟ้ากิลาร้อง สรก้องสุกังวาน
รี่เรื่อยฉะเฉื่อยหวาน สวิเวกหฤทัย ฯ
๏ โกญจากระทาท้า มยุราก็เสียงใส
ฟ้อนแพนเฉวียนไว ก็ฉวัดเฉวียนเวียน ฯ
๏ โนรีก็แดงฉาด ดุจชาดละลายเขียน
นายชั่งประจงเจียน นุผสานผสมสี ฯ
๏ นกแก้วก็กกแก้ว สรแจ้วจะเจื้อยดี
เขาขันสนั่นมี่ กุหุกูก็ดูขาน ฯ
๏ คับแคก็จับแค ก็ฉแง้ตลึงลาน
เค้าโมงประสมสาร สทแซ่จะนันจา ฯ
๏ ทึดทืสตืเพรียก และก็เรียกฉแง้หา
ถี่ถี่พิทิตขา และก็ท้าพิทิตที ฯ
๏ ชั่งทองเคาะโป๋งเป๋ง มุขเร่งสุวรรณตี
จากพรากก็พรากหนี คณเพื่อนคณาจร ฯ
๏ โคถึกมฤคา กบิลาและกาษร
ตุ่นแย้และพั้งพอน ชวเต้าและตามกัน ฯ
๏ เม่นหมีลมั่งมาศ ก็ผงาดผงกผัน
ยลชนก็ขนชัน ก็คะคฤกคะคำราม ฯ
๏ เลียงผาถลาโผน จรโดนกระจงจามริ์
๏ ไต่เต้าและเคล้าตาม คณพวกอเนกนันต์ ฯ
๏ ทรงทัศนาเพลิน ธเจริญพระทัยครัน
ด้าวโดยอโนทนันท์ ธก็ดลสระสี่แจง ฯ
ยลฌูกกมลมาศ ระดะดาษเสวตร์แดง
ชูก้านตระแบนแบง ตรบอกอุบลบาน ฯ
๏ ลิ้นจงและจงกล ชลบนประทุมมาลย์
เกลื่อนกล่นอุทกธาร ก็ขยายพเยียนวล ฯ
๏ ไพโครสุคันธ์รื่น กรชื่นกระอบอวน
รวยรวยฤทัยยวน สุรรศขจายจร ฯ
๏ บัวเผื่อนและบัวผัน ก็อนันต์ณสาคร
ผุดพ้นชโลทร ชลใสสุธาดล ฯ
๏ มัจฉาก็ว่ายแหวก ชลแถกอุทกพ่น
เพียนทองก็ล่องวล จรเลียบก็กินใคล ฯ
๏ อ้าวอุกและดุกบ้า ชวพาถวิลไว
เวียนว่ายชลาลัย คณเพื่อนนทีธาร ฯ
๏ ดาบลาวก็ยาวเฟื้อย ลเลาะเลื้อยและอาหาร
เทโพชโดดาล และก็โลดกระโดดลอย ฯ
๏ กุ้งกั้งกะดี่เผ่น ชวเล่นสลิกหยอย
วารีก็ฟองฝอย กรเหมือนพิรุณปราย ฯ
๏ มณฑกผงกร้อง สทก้องระเรี่ยราย
กรอดเกรี้ยวคเคี้ยวคาย ชรแฝงอุบลจร ฯ
๏ ครั้นภาณุมาศเคลื่อน ธก็เลื่อนณะสิงขร
สายัณห์ทิวากร สุริยันก็อับศรี ฯ
๏ เธอจึงนิวัตไคล จรในพระบูรี ฯ
สู่มณฑิราลี ธสถิตย์สถานไทย ฯ

๏ ฉบงง ๚

  ๑๖ วันหนึ่งราชทูตจอมไตร
ตรึกตรึกนึกใน กระมลปองจะใคร่ยล ฯ
  ๏ สมบัติไทท้าวมณฑล
ปารีศจุมพล แหล่เหลือแหล่หลายฉันใด ฯ
  ๏ ทำไฉนจักได้ยลใน
นิเวศน์ท่านไท้ บดินทร์ราชธานี ฯ
  ๏ อย่าเลยจักจรจรลี
เข้าเฝ้าภูมี ทูลแถลงให้แจ้งยุบล ฯ
  ๏ ขอยลมณเฑียรไพชยนต์
นอกในมณฑล อิกทั้งสมบัติท้าวไทย ฯ
  ๏ ตรีกเสร็จชวนกันคลาไคล
สู่นิเวศน์ใน พิภพจอมเจ้าธานี ฯ
  ๏ ขึ้นเฝ้าไทยท้าวบดี
โอนศิเรศตรี คำนับประน้อมท้าวเธอ ฯ
  ๏ จึงทูลมูลกิจเสนอ
จงโปรดอวยเออ ข้อยยลนิเวศน์ท้าวไทย ฯ
  ๏ ยังมีพานิชหนึ่งไป
กราบทูลจอมไตรย บดินทรราชจักตรี ฯ
  ๏ สรรเสริญสมบัติบดี
แหล่หลายมูลมี เอนกอนันต์นานา ฯ
  ๏ จึงใช้ข้าบาทจรคลา
นำราชศาสน์มา เจริญพระราชไมตรี ฯ
  ๏ สืบสวนให้สมวาที
จงทราบธุลี พระบาทธิราชธานินทร์ ฯ

๏ วสันตดิลกฉันท ๚

๑๔ ป่างปิ่นธิเบศบรมนารถ วรราชจอมปริน
ยินทูตฉลองกิจรบิน นุรบอบประมูลไทย ฯ
๏ จึงเอื้อนพระโอฐพจนสั่ง ชนวังนิเวศน์ใน
นำทูตจราจรธไคล ณนิวาศน์ประเวศวัง ฯ
๏ ชมสรรพสิ่งวรวิเศษ นุประเภทณโดยคลัง
ให้สมฤทัยนุธจะหวัง มนนึกนิยมยล ฯ
๏ รับราชบดินทรธสั่ง ชนวังจเรดล
นำทูตวราวรนชน จรเขตนิเวศน์ไทย ฯ
๏ ยลมณเฑียรวรสถาน และสอ้านสอาดใน
บรรเจิดประภาวรวิไลย ดุจเทพแกล้งสรร ฯ
๏ ล้วนด้วยนุกาญจน์ขจิตร ชวลิตวิมลครัน
ไรแซมมณีนวอนันต์ นุประดับวิเชียรพราย
๏ นานาวราวรประเสริฐ ตมเลิศแหล่หลาย
เปรียบปานพิมานอมรหมาย ดุจแม้นพิมานอินทร์ ฯ
๏ โภคาสุภาภรณ์อเนก อดิเรกกะโกมิน
ไพฑูริย์วิเชียรรตนนิล มรกฎษราคำ ฯ
๏ มุกดามณีปทมราช นิลชาตก็เขียวขำ
ก่ายกองเอนกผิวจะนำ และจะนับก็เกินการ ฯ
๏ พันเหามหาอุดมให มหิเลิศไพศาล
คล้ายจักระพรรติบรมผ่าน ณพิภพสกลไตรย ฯ
๏ ชมสรรพเสร็จจรธคัล อภิวันทน์ธิเบศไทย
เยินยอนิเวศนวิลัย อรเอี่ยมก็เทียมแมน ฯ
๏ สมบัติกษัตร์นครใด บมีใครจะเทียบแทน ฯ
ทั่วทั้งสกลนครแสน บจะทัดจะเท่าทัน ฯ
๏ ยินพจนารถมธุรทูล บดิสูรเกษมสันต์
มาโนชอคร่าวกระมลอัน วรภักตรผ่องใส ฯ
๏ รำพึงพระทัยธณประสงค์ อภิพงศทูตไทย
เปนเผ่าณพันธณมให มหิหล้าณธานี ฯ
๏ เธอจึงประทานวรสนม สุวิลัยประไพศรี
ล้ารวยรทวยวิมลมี วรภักตรบุหลันฉาย ฯ
๏ เฉิดโฉมละโลมแลลสวาท นรชาติชนชาย
แม้ใครแลยลอรก็หมาย ตรโบมประโลมอร
๏ อิกทั้งฉลองสนะรจิตร ชวลิตประภัศร
ล้วนสัตรัตนบวร นุประดับอร่ามพราย ฯ
๏ โภคาสุภาพรสุวรรณ และหิรัญก็แหล่หลาย
โปรดปรานประทานผิวธหมาย ทนุหนอมผดุงชม ฯ

๏ ฉบงง ๚

  ๑๖ บัดนั้นราชทูตประนม
น้อมเศียรบังคม บดินทรเจ้าธานี ฯ
  ๏ ได้ประทานสนมนารี
ฉลององค์อย่างดี ประดับด้วยแก้วแกมกาญจน์ ฯ
  ๏ จึ่งกราบทูลลาภูบาล
พานางนงพาล กลับสู่นิเวศน์แห่งตน ฯ
  ๏ ครั้นสุริย์ลับเวหน
จันทรแจ่มอำพล อัมพรกระจ่างแจ่มศรี ฯ
  ๏ ราชทูตคยดฤดี
หวังระโบมศรี สุตาฝรั่งบังอร ฯ
  ๏ จึ่งเคลื่อนจากที่ตนจร
สู่มิ่งสมร สถิตย์อยู่ที่ห้องใน ฯ
  ๏ จึงเอื้อนมธุรศปราไสย
ยียวนฤทัย ให้เกิดกำหนัดยินดี ฯ

๏ วสันตดิลกฉันท ๚

๑๔ อ้าแม่และผ่องวิมลภักตร์ วรลักษณ์วิลัยศรี
เรียมได้สุดาดุจมณี อุรแอบและแนบกาย ฯ
๏ เรียมหวังถนอมอรสวาท นุชนาถมิให้สาย
สุจรักษ์ณะพี่อรจะคลาย บจะคลาดพธูชม ฯ
๏ อ้าพ่อเสน่ห์และจะสงวน บมิควรจะเสพสม
ต่างชาติและชาติจะอภิรมย สละน้องพิลาปครวญ ฯ
๏ อ้าแม่เสน่ห์และบมิคลาด ยุพราชละห้อยหวล ฯ
ลาลตระทตอุรประปรวญ อุรน้องรบมกรม ฯ
๏ อ้าพ่อบเชื่อวจนถ้อย เสนาะน้อยฤลิ้นลม
ลิ้นล่ายและหมายและภจะสม มนะนึกทุราคลา ฯ
๏ อ้าน้องบเชื่อวจนสัจ มนะชัดนุสัจา
เรียมกล่าวบกลมฤษา และฬ่อลิ้นสุดาหลง ฯ
๏ อ้าพี่จะสัจและจะบสัจ ก็จะปลัดจะปลดปลง
น้องยังคยดมนะพะวง และจะเชื่อก็แกลนอาย ฯ
๏ อ้านุชกล่าวมธุรรศ เสนาะพจนโฉมฉาย
สมนวลก็ควรผิวจะหมาย กรโฉมตระโบมนวล ฯ
๏ อ้าเธอจะรักและจะถนอม ก็จะน้อมบเรรวน
ปลงสัจนุวัจนก็ควร นุประกอบธตามการ ฯ

๏ อินทรวิเชียรฉันท ๚

๑๑ เธอจึงตระโบมโลม ตรกองสุดามาลย์
อุ้มแก้วอนงค์พาล อุรแอบธแบบนวล ฯ
๏ จุมพิตรไมยชื่น รศรื่นฤทัยยวน
กาเมศก็ปั่นป่วน อุรดิ้นณวิญญา ฯ
๏ นางขวยฉไม้เขิญ ก็สเทิ้นฤดีปรา
รภร่วมเสน่หา รศรักประจักษ์ใจ ฯ
๏ อัศจรรย์ก็บันดาน ก็สท้านสเทื้อนไหว
ครื้นครั่นสนั่นไป พยุจัดก็พัดฮือ ฯ
๏ ปักษีผโผผิน และก็บินประปร๋อปรื๋อ
เมฆคลุ้มชอุ่มอื้อ ก็ปรแปลบวะแวบวาว
๏ พรรษธารลอองปราย ก็ขมายกระเส่นซาว
ตกต้องลอองพราว กุสุมาลขจายจร ฯ
๏ สองชมธสมพาส วรนารถสโมสร
สองชื่นกระมลอร ก็รทวยผทมไป ฯ

 

  1. ๑. ศีร์ษะโล้นกระบานเลี่ยน (ลายดินสอดำ)

  2. ๒. วิโมกข์ ?

  3. ๓. ธประสิทธิสมา ?

  4. ๔. ภาร ?

  5. ๕. ก็ขจายกระเซ็นกราว (ลายดินสอดำ)

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ