จดหมายเหตุมองซิเออร์เซเบเรต์ ตอนที่ ๒

จดหมายเหตุมองซิเออร์เซเบเรต์

ซึ่งเป็นเอกอัครราชทูตของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส

ไปเจริญทางพระราชไมตรีกับพระเจ้ากรุงสยาม

เมื่อปี ค.ศ.๑๖๘๗ - ๑๖๘๘ (พ.ศ.๒๒๓๐ – ๒๒๓๑)

ตอนที่ ๒

----------------------------

ณ วันที่ ๒๔ (ตุลาคม) มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้จัดให้มองซิเออร์เดอเฟรตวลี มาหาเราเพื่อเป็นการต้อนรับ บาดหลวงเลอรัวเย ๑ บาดหลวงดูชาล ๑ และบาดหลวงเดอเบซ ๑ รวม ๓ คนก็ได้มาหาเราเหมือนกัน มองซิเออร์เดอลาลูแบจึงได้ชี้แจงต่อบาดหลวงเดอเบซถึงข้อความต่าง ๆ ซึ่งเรากล่าวโทษติเตียนบาดหลวงตาชา เพราะบาดหลวงเดอเบซได้มาพูดแทนบาดหลวงตาชาว่า บาดหลวงตาชาขอโทษอีกครั้ง ๑ ในการที่มิได้บอกให้เราทราบถึงการที่จะตั้งแต่งนายทหารที่บางกอก แล้วมองซิเออร์เดอลาลูแบได้ชี้แจงให้บาดหลวงเดอเบซฟัง ถึงข้อผิดต่าง ๆ ในหมายตั้งตำแหน่งนายทหารนั้น และได้กล่าวต่อไปว่า มองซิเออร์คอนซตันซ์และบาดหลวงตาชาได้ทำการต่าง ๆ โดยมิได้ระลึกถึงพระเกียรติยศของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสเลย และเมื่อได้ยกบางกอกให้แก่ฝรั่งเศสแล้ว มองซิเออร์คอนซตันซ์ก็เอากองทหารไทยเข้าไปอยู่ในที่นั้น ยังมิหนำซ้ำทำการที่ผิดต่าง ๆ อีกหลายอย่างด้วย เพราะฉะนั้นเป็นการจำเป็นที่เราจะต้องกราบทูลพระเจ้ากรุงสยาม กล่าวโทษผู้ที่ทำผิดให้เสียหนทางของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสดังนี้ เมื่อบาดหลวงเดอเบซได้ฟังคำอธิบายชี้แจงของมองซิเออร์เดอลาลูแบ ก็มีความตกใจเป็นอันมาก จึงได้รับรองว่าจะได้ไปพาบาดหลวงตาชามาหาเราในค่ำวันนั้นเอง มองซิเออร์เดอลาลูแบจึงได้พูดกับบาดหลวงเดอเบซว่า ถ้าบาดหลวงตาชาไม่รู้สึกตัวว่าเราพูดถูก และถ้าบาดหลวงตาชาไม่คิดจะช่วยเราแก้ไขการทั้งปวงด้วยน้ำใสใจจริงแล้ว ก็อย่าพาบาดหลวงตาชามาเลย

ในวันนั้นเองหัวหน้าของห้างฮอลันดาได้มาเยี่ยมเยือนเรา แต่เราได้ให้คนไปบอกแก่หัวหน้าห้างฮอลันดาว่า การที่จะมาพบปะกันในเวลานี้ต้องขอตัวสักทีหนึ่งก่อน ต่อไปจึงค่อยพบกันและจะพบกันเวลาไรก็แล้วแต่หัวหน้าของห้างฮอลันดาจะพอใจเถิด

ในตอนค่ำบาดหลวงตาชาได้มาหาเราพร้อมกับบาดหลวงเดอเบซ และได้นำใบชากับของหวานมาให้เรา ซึ่งเป็นของกำนันของมองซิเออร์คอนซตันซ์ด้วย แต่ข้าพเจ้าสังเกตดูว่าบาดหลวงตาชาหาได้มีใจจริงต่อเรา ดังเราได้หวังไว้ไม่ เพราะในชั้นต้นบาดหลวงตาชาก็มาพูดแทนมองซิเออร์คอนซตันซ์ยกยอสรรเสริญเราต่าง ๆ และในส่วนตัวบาดหลวงตาชาเองก็ได้กล่าววาจายกยอเราด้วยเหมือนกัน กับทั้งแสดงตัวว่ามีความประสงค์จะจัดการต่าง ๆ ให้เป็นที่พอพระทัยพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสทุกอย่างด้วย แล้วบาดหลวงตาชาได้รับรองต่อเราว่าจะได้จัดการให้งดเลิกในการที่ได้ตั้งแต่งนายทหารไปแล้ว และจะได้ร่างข้อสัญญาขึ้นใหม่ให้สมพระราชประสงค์ของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสทุกอย่าง และบาดหลวงตาชาได้แสดงต่อไปว่า มองซิเออร์คอนซตันซ์ก็คิดจะทำการให้ถูกพระทัยของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสเหมือนกัน และเพื่อเป็นพยานแห่งความตั้งใจดีอันนี้ มองซิเออร์คอนซตันซ์จึงได้มอบข้อสัญญามากับบาดหลวงตาชาให้มาคืนกับเรา เมื่อเราเห็นควรจะฉีกข้อสัญญาเหล่านั้นทิ้งเสียหรือจะทำประการใด ก็แล้วแต่เราจะเห็นสมควรทั้งสิ้น แล้วบาดหลวงตาชาจึงได้นำข้อสัญญามาให้กับเราเพื่อให้เราฉีกทิ้งเสีย และบาดหลวงตาชาได้ขอให้เราเอาข้อสัญญาต้นฉะบับที่เราเก็บรักษาไว้นั้น ออกมาฉีกทิ้งเสียพร้อมกันด้วย

เมื่อเราได้ฟังบาดหลวงตาชาพูดเช่นนี้ เราก็พาซื่อคิดจะฉีกข้อสัญญาจริง ๆ ตามคำพูดของบาดหลวงตาชา แต่ครั้นบาดหลวงตาชาเห็นว่าเราจะฉีกสัญญาจริง ๆ จึงได้มาแย่งสัญญาจากมือมองซิเออร์เดอลาลูแบ เพราะบาดหลวงตาชาได้ส่งสัญญานั้นให้แก่มองซิเออร์เดอลาลูแบ และมองซิเออร์เดอลาลูแบก็ยังถือไว้ในมือ แล้วบาดหลวงตาชาจึงได้พูดกับเราว่า “เมื่อท่านจะฉีกสัญญาทิ้งเสียก็ได้ ตามใจเถิด แต่ท่านมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ให้ข้าพเจ้าสัญญาไว้ว่า จะได้เอาหนังสือสัญญานี้คืนให้แก่มองซิเออร์คอนซตันซ์”

เมื่อเป็นการเช่นนี้เราก็จำเป็นต้องคืนสัญญาให้แก่บาดหลวงตาชา เพราะเกรงว่าบาดหลวงตาชาจะหาว่าเราทำร้ายร่างกายต่อตัว และอีกประการหนึ่งเราก็เห็นว่าถึงจะฉีกหนังสือสัญญานั้นทิ้งเสีย กองทหารไทยก็คงจะอยู่ในบางกอกนั้นเอง แต่ถ้าทหารไทยได้คงอยู่ที่บางกอกแล้ว ก็อาจจะเป็นประโยชน์สำหรับทำให้มีความสามัคคีในระหว่างฝรั่งเศสกับไทย ทั้งการบังคับบัญชาที่บางกอกก็จะสะดวก ขึ้นด้วย เพราะในเวลานั้นบาดหลวงตาชาได้บอกกับเราว่า ถ้าเราได้ฉีกหนังสือสัญญานั้นเสียแล้ว ก็ต้องเป็นอันขาดความสามัคคีกัน และจะต้องแยกให้กองทหารฝรั่งเศสอยู่ฝั่งหนึ่ง ให้กองทหารปอตุเกตและไทยอยู่ฝั่งหนึ่ง เพราะฉะนั้นบาดหลวงตาชาเห็นว่าทางดีที่สุดก็ควรเราจะร่างหนังสือสัญญาขึ้นใหม่จะดีกว่า มิฉะนั้นเราก็จะต้องกลับไปยังประเทศฝรั่งเศสโดยมิได้มาจัดการสำเร็จอย่างใดเลย ซึ่งเป็นการที่เราคงจะมีความเสียใจเป็นอันมาก

เราจึงได้ตอบบาดหลวงตาชาว่า การที่เราจะแก้ข้อสัญญานั้นไม่เป็นการสำคัญอย่างใดเลย เพราะเป็นเรื่องแต่เล็กน้อย แต่ข้อที่สำคัญและที่เราตั้งใจจะทำนั้น ก็คืออยากจะจัดการทั้งปวงให้เป็นที่พอพระราชหฤทัยของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสเท่านั้น แต่ถ้ากองทหารไทยยังคงอยู่ที่บางกอกตราบใด ก็เป็นอันจะจัดการให้สมพระราชประสงค์ของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสไม่ได้เป็นอันขาด เพราะไทยได้ยกบางกอกนี้ให้อยู่ในความพิทักษ์รักษาของพวกฝรั่งเศสโดยแท้

บาดหลวงตาชาจึงได้ตอบเราว่า ถ้ามองซิเออร์คอนซตันซ์ได้จัดการตามความต้องการของเราแล้ว ศีร์ษะของมองซิเออร์คอนซตันซ์ก็คงจะต้องขาดเป็นแน่ ทั้งจะทำให้เกิดการจลาจลลุกลามทั่วพระราชอาณาเขตต์ ผู้คนก็จะรวบรวมเป็นหมู่เป็นคณะนับตั้งหลายพันคณะด้วย และจะเป็นโอกาศอันดีสำหรับผู้ที่เกลียดมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้มีโอกาศทำการได้ถนัด เพราะผู้ที่เกลียดชังมองซิเออร์คอนซตันซ์มีจำนวนมากนัก และฝ่ายพระราชธิดานั้นก็เกลียดมองซิเออร์คอนซตันซ์อย่างที่สุด ด้วยพระราชธิดานั้นเป็นคนที่ถือพระองค์และหยิ่งจนเหลือที่จะเชื่อว่าจะหยิ่งได้ถึงเพียงนี้ เพราะฉะนั้นถ้าเราขืนดื้อจะเอาตามใจเราแล้ว ก็เท่ากับทำลายความคิดทั้งปวง ซึ่งได้คิดไว้สำหรับให้ศาสนาได้แพร่หลาย และที่คิดไว้สำหรับให้บริษัทฝรั่งเศสได้ทำการค้าขายต่อไปด้วย

เราจึงได้ตอบบาดหลวงตาชาว่า เราไม่ได้มีเจตนาอย่างใดที่จะให้มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ทำความผิดอันจะมีโทษถึงประหารชีวิต และเราก็ไม่มีเจตนาที่จะทำให้บ้านเมืองเกิดการวุ่นวายระส่ำระสายขึ้นเลย เราต้องการเพียงแต่ให้มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้จัดการตามที่ตัวได้มีหนังสือรับรองไว้เท่านั้น และในเรื่องนี้ถ้าเราไม่เคี่ยวเข็ญให้มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ทำตามที่ตัวรับรองไว้แล้ว ก็เท่ากับเราทำการไม่ซื่อตรงต่อพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสเหมือนกัน แต่เพื่อจะให้การทั้งปวงได้ลงรูปต่อไปนั้น เราจะได้จดข้อขัดข้องต่าง ๆ ยื่นให้แก่ตัวมองซิเออร์คอนซตันซ์เอง เพราะเราได้รับคำสั่งมาว่า ในการทั้งหลายทั้งปวงให้เราพูดกับมองซิเออร์คอนซตันซ์แต่ผู้เดียวเท่านั้น และเมื่อมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ทราบในข้อขัดข้องของเราแล้ว จะนำความกราบทูลต่อพระเจ้ากรุงสยามตามข้อขัดข้องของเรา หรือจะกราบทูลพลิกแพลงไปอย่างไรก็แล้วแต่ใจของเขาเถิด

บาดหลวงตาชาจึงได้ตอบว่า ถ้าเราได้จดข้อขัดข้องยื่นให้แล้วเวลาที่มองซิเออร์คอนซตันซ์จะนำความขึ้นกราบทูล ก็คงจะกราบทูลตามข้อความของเราทุกประการ คงจะไม่แก้ไขพลิกแพลงอย่างใด เพราะฉะนั้นถ้าเราจะทำการสิ่งใดก็ขอให้เราระวังจงมาก

ลงท้ายที่สุดได้เป็นอันตกลงกันว่า เราจะได้ร่างข้อสัญญาขึ้นใหม่ และบาดหลวงตาชาสัญญาว่าพรุ่งนี้จะได้กลับรับสัญญาที่เรา โดยรับรองว่าสัญญาที่เราจะได้ร่างขึ้นใหม่นี้ คงจะเป็นอันตกลงกันได้ แล้วบาดหลวงตาชาจึงได้พูดขึ้นว่า ในการที่เราจะร่างข้อสัญญาขึ้นใหม่นั้น มองซิเออร์คอนซตันซ์ขออย่างเดียวเพียงแต่ ให้งดข้อเรื่องเมืองมะริดไว้ก่อน เพื่อเอาไว้ปรึกษากันต่อไปเท่านั้น ข้อเรื่องเมืองมะริดนั้นเป็นข้อที่ ๒ รองข้อสุดท้ายของสัญญา ซึ่งมีว่ามองซิเออร์ดูบรูอังจะต้องอยู่ในความบังคับบัญชาของมองซิเออร์เดฟาชโดยตรง

มองซิเออร์เดอลาลูแบยังไม่ทันได้ตรึกตรอง ก็รับปากว่าจะได้ปฏิบัติตามประสงค์อันนี้ ซึ่งเป็นการที่ข้าพเจ้าไม่เห็นด้วยเลย ข้าพเจ้าจึงได้พูดกับบาดหลวงตาชาว่า ในเรื่องที่จะเอาข้อสัญญาที่เกี่ยวด้วยเมืองมะริดงดไว้สำหรับพูดจาหารือกันนั้น เป็นเรื่องที่ข้าพเจ้าจะยอมไม่ได้ และที่มองซิเออร์เดอลาลูแบได้รับปากไว้นั้น ก็เพราะยังไม่ทันได้ตรึกตรอง แต่ถึงอย่างไรข้าพเจ้าก็ไม่ยอมแก้ไขความในข้อสัญญาข้อนี้ แล้วมองซิเออร์เดอลาลูแบกับบาดหลวงตาชาได้สนทนากันต่อไป ห่างกับที่ข้าพเจ้านั่งอยู่ ภายหลังข้าพเจ้าได้พูดกับมองซิเออร์เดอลาลูแบในเรื่องนี้ มองซิเออร์เดอลาลูแบจึงรับว่า ในชั้นแรกที่ได้ยอมตามความต้องการของบาดหลวงตาชานั้น ก็เพราะยังไม่ทันได้ตรึกตรอง แต่พอรู้สึกขึ้นมาก็ได้พูดกับบาดหลวงตาชาโดยทันทีว่า ในเรื่องสัญญานั้นจะต้องทำความตกลงพร้อมกันทุกข้อ ที่จะแยกเอาข้อนี้ออกจากข้อโน้นนั้นไม่ได้ และในเรื่องนี้มองซิเออร์เดอลาลูแบได้ชี้แจงต่อข้าพเจ้า ว่าได้อธิบายให้บาดหลวงตาชาเป็นที่เข้าใจกันดีแล้ว เมื่อบาดหลวงตาชาได้ลามองซิเออร์เดอลาลูแบแล้ว ข้าพเจ้าได้ชักชวนบาดหลวงตาชาให้มาสนทนากับข้าพเจ้าโดยฉะเพาะ เพื่อจะได้พูดจากันถึงเรื่องต่าง ๆ ที่ได้พูดกันมาแล้ว ข้าพเจ้าเองจะต้องการใช้วาจาอย่างอ่อนหวานสำหรับปลอบบาดหลวงตาชา เพื่อให้บาดหลวงตาชาได้กลับใจมาเป็นพวกเราบ้าง เพราะข้าพเจ้าได้เห็นว่าในเวลาที่บาดหลวงตาชาพูดกับมองซิเออร์เดอลาลูแบ ก็ได้ใช้คำแรงจนเกือบจะเกิดเปนปากเสียงกันขึ้นแล้ว ฝ่ายบาดหลวงตาชาไปเข้าใจเสียว่า ข้าพเจ้าจะต้องการพูดถึงเรื่องที่ได้เกิดขึ้นที่บางกอกในเรื่องมองซิเออร์เดอเฟรตวลี บาดหลวงตาชาจึงได้เอาเรื่องนั้นเอ่ยพูดขึ้นก่อนเพื่อจะหาทางแก้ตัว แต่ข้าพเจ้าไม่มีความประสงค์จะพูดกับบาดหลวงตาชาในเรื่องนั้นเลย ข้าพเจ้าจึงได้พูดกับบาดหลวงตาชาตรง ๆ ว่า ในเรื่องการต่าง ๆ นั้น ข้าพเจ้าก็ได้บอกให้บาดหลวงตาชาทราบในความคิดของข้าพเจ้าทุกอย่างแล้ว แล้วข้าพเจ้าจึงได้พูดถึงเรื่องที่ได้พูดจา โต้เถียงกันเมื่อแต่กี้นั้นว่า การต่าง ๆ ตามที่เป็นมาแล้ว หาได้ดำเนินตามพระราชดำริของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสไม่ และการที่บาดหลวงตาชาพูดจาว่าอย่างไรนั้น ก็เป็นการแสดงตัวขัดกับความเห็นของมองซิเออร์เดอลาลูแบเกินไป เพราะความเห็นของมองซิเออร์เดอลาลูแบนั้น มุ่งหมายแต่จะเอาราชการของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสเป็นใหญ่เท่านั้น และที่บาดหลวงตาชามีความจงรักภักดีต่อมองซิเออร์คอนซตันซ์ จนถึงกับแตกออกจากพวกเรา และคิดจะขัดขวางเราทุกอย่างทุกประการนั้น คงเป็นการที่พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสจะไม่พอพระทัยเป็นแน่ และที่บาดหลวงตาชาได้แตกกับพวกเราเช่นนี้ ก็เห็นได้ปรากฎโดยที่เราจะพูดจากับมองซิเออร์คอนซตันซ์ คงง่ายกว่าพูดกับบาดหลวงตาชาเสียซ้ำไป แล้วข้าพเจ้าได้พูดจาอย่างอ่อนหวาน ชี้แจงชักชวนให้บาดหลวงตาชาได้กลับใจมาเป็นพวกเราอย่างเดิม เพื่อจะได้ช่วยกันคิดอ่านแก้ไขการไม่ดีที่ได้ทำกันไปเสียแล้ว

บาดหลวงตาชาจึงได้ตอบข้าพเจ้า อธิบายชี้แจงเหตุผลหลายอย่าง เพื่อให้ข้าพเจ้าเห็นว่าบาดหลวงตาชามีความตั้งใจอันดี แล้วบาดหลวงตาชาจึงได้สัญญากับข้าพเจ้าว่า ถ้าหากว่าข้อสัญญาที่เราจะได้ร่างขึ้นใหม่นั้น จะไม่เป็นการตกลงกันได้แล้ว มองซิเออร์คอนซตันซ์จะได้นำข้อสัญญานั้นถวายต่อพระเจ้ากรุงสยาม แล้วแต่จะทรงพระกรุณาโปรดประการใดต่อไป และในข้อนี้บาดหลวงตาชารับรองว่าพรุ่งนี้จะได้นำหนังสือของมองซิเออร์คอนซตันซ์ซึ่งจะได้รับรองว่าจะได้จัดการตามที่บาดหลวงตาชาพูดนี้ทุกประการ เมื่อพูดกันเสร็จแล้ว บาดหลวงตาชาก็จะลากลับไป ในทันใดนั้นมองซิเออร์เดอลาลูแบก็เดินมาเพื่อจะลาบาดหลวงตาชา ข้าพเจ้าจึงได้พูดกับมองซิเออร์เดอลาลูแบ ว่าการที่มองซิเออร์คอนซตันซ์คิดจะงดข้อสัญญาเรื่องเมืองมะริดนั้น มองซิเออร์คอนซตันซ์เองก็คงจะไม่ทราบว่าตัวจะประสงค์อย่างไร เพราะมองซิเออร์ดูบรูอังนั้นเป็นคนใจหนักแน่น ถ้าจะบังคับให้มองซิเออร์ดูบรูอังไปฟังบังคับบัญชาคนอื่นนอกจากมองซิเออร์เดฟาชแล้ว ก็จะเป็นการยากที่สุด เพราะมองซิเออร์ดูบรูอังถือว่า มองซิเออร์เดฟาชเป็นนายผู้มีอำนาจเหนือโดยตรง และอีกประการหนึ่งถ้ามองซิเออร์ดูบรูอังได้อยู่ในความบังคับบัญชาของมองซิเออร์เดฟาชแล้ว ก็อาจจะให้มองซิเออร์ดูบรูอังทำอะไรได้ทั้งสิ้น

บาดหลวงตาชาได้ฟังข้าพเจ้าชี้แจงกับมองซิเออร์เดอลาลูแบดังนี้ ก็หัวเราะแล้วก็ลากลับไป ภายหลังเราจึงทราบเป็นการแน่ว่า บาดหลวงตาชาได้ลงเรือไปพร้อมกับบาดหลวงเดอเบซ บาดหลวงตาชาจึงได้บอกกับบาดหลวงเดอเบซว่า มองซิเออร์เดอลาลูแบได้รับปากแล้ว ว่าจะงดข้อเรื่องเมืองมะริดไว้ปรึกษากับมองซิเออร์คอนซตันซ์ต่อไป การที่บาดหลวงตาชาพูดเช่นนี้ ก็เท่ากับเอากะดูกไปแทะ ยากที่จะขบกะดูกให้แตกได้

ณวันที่ ๒๕ เดือนตุลาคมเวลาเย็น บาดหลวงตาชาได้มาหาเรา มองซิเออร์เดอลาลูแบจึงได้เดินลงไปรับบาดหลวงตาชาในเวลาจะขึ้นจากเรือ พอบาดหลวงตาชาได้เห็นมองซิเออร์เดอลาลูแบ ก็ได้เอ่ยพูดขึ้นก่อนต่อหน้าธารกำนันอันอยู่ในที่นั้นออกแน่นหนา และได้กระทำกิริยาอย่างอ่อนน้อมสุภาพ พูดว่า

“ความจริง ท่านก็คงจะไม่เชื่อเลยว่า เมื่อฮิศเอ๊กซาเลนซีมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ทราบว่า ท่านจะได้เอาข้อสัญญาที่เกี่ยวด้วยเมืองมะริดไว้ปรึกษาหารือกับมองซิเออร์คอนซตันซ์นั้น มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้มีความปีติยินดีสักเพียงไร แต่ในส่วนสัญญาข้ออื่น ๆ นั้น มองซิเออร์คอนซตันซ์ไม่เห็นว่าจะแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้อย่างใดเลย”

มองซิเออร์เดอลาลูแบจึงค้านว่า “ข้าพเจ้าหรือจะเป็นผู้เอาเรื่องเมืองมะริดไปปรึกษามองซิเออร์คอนซตันซ์”

บาดหลวงตาชาชักจะฉุน ๆ จึงตอบว่า “แน่ที่เดียว ตัวท่านเองได้บอกกับข้าพเจ้าเมื่อวานนี้”

มองซิเออร์เดอลาลูแบจึงได้ตอบว่า “ข้าพเจ้าได้พูดกับท่านก็จริงอยู่ แต่ข้าพเจ้ามิได้มุ่งหมายจะยืนยันตามที่ได้พูดไว้นั้นเลย และข้าพเจ้าก็ได้พูดกับท่านปฏิเสธคำเดิมไว้แล้ว”

บาดหลวงตาชาจึงตอบว่า “ในคำที่ท่านพูดอย่างไรนั้น ข้าพเจ้าขอเอามองซิเออร์เซเบเรต์เป็นพยาน เพราะถ้าท่านพูดโดยไม่มีพยานหลักฐานแล้ว ข้าพเจ้าก็จะไม่ถือเอาถ้อยคำของท่านเป็นหลักเลย”

ข้าพเจ้าจึงได้พูดกับบาดหลวงตาชาว่า ข้อความที่มองซิเออร์เดอลาลูแบได้พูดไว้กับบาดหลวงตาชาอย่างไรนั้น ข้าพเจ้าทราบไม่ได้ตลอด เพราะเวลาที่พูดกันนั้นข้าพเจ้าหาได้อยู่ด้วยตลอดเวลาไม่ แต่ขอให้บาดหลวงตาชาระลึกดูว่า ในเรื่องสัญญาข้อที่โต้เถียงกันอยู่นี้ ข้าพเจ้าหาได้ยอมเห็นด้วยไม่ ว่าเป็นเรื่องที่จะต้องเอามาพูดปรึกษาหารือกันอย่างไร และข้าพเจ้าเองก็ได้คัดค้านไว้แล้ว เพราะฉะนั้นถึงแม้ว่ามองซิเออร์เดอลาลูแบจะได้ยอมก็ตาม แต่ตัวข้าพเจ้าเองก็คงจะคัดค้านไว้อย่างแขงแรง และการที่จะมาเข้าใจว่า เรื่องซึ่งเป็นอันได้ตกลงกันแล้วและเปนเรื่องที่ต้องพระราชดำริของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส เราจะยอมเปลี่ยนแปลงแก้ไขให้ง่าย ๆ นั้น เป็นการที่น่าขันมาก และถึงแม้ว่าสัญญาข้ออื่น ๆ จะได้แก้ไขเปลี่ยนแปลง ดังบาดหลวงตาชาได้รับรองไว้แทนมองซิเออร์คอนซตันซ์สักเท่าใดก็ตาม แต่ในข้อที่เกี่ยวด้วยเมืองมะริดนี้ข้าพเจ้าจะไม่ยอมให้แก้ไขเป็นอันขาด แล้วข้าพเจ้าจึงได้ชี้แจงกับบาดหลวงตาชาต่อไปว่า การที่บาดหลวงตาชาได้มาพูด แทนมองซิเออร์คอนซตันซ์ ว่าจะได้เอาสัญญาเรื่องเมืองมะริดไว้พูดจาปรึกษาหารือกันนั้น เป็นเรื่องที่บาดหลวงตาชาคงรู้สึกอยู่เต็มใจว่า เป็นการน่าปลาดอันเราไม่ได้รู้ตัวเลย และการที่บาดหลวงตาชาได้ยอมตัวเป็นเครื่องมือของมองซิเออร์คอนซตันซ์สำหรับขัดขวางต่อประโยชน์ของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสเช่นนี้ ดูเป็นการไม่บังควรเลย ถึงแม้ว่ามองซิเออร์เดอลาลูแบจะได้ยอมโดยมิได้ตรึกตรองก็ตาม แต่ก็ควรจะเป็นหน้าที่ของบาดหลวงตาชาที่จะต้องทักท้วงขึ้น การที่บาดหลวงตาชาได้ทำไปแล้วนั้น ก็โดยมิได้ตรึกตรองเลย เพราะบาดหลวงตาชาก็เป็นไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสผู้หนึ่ง จึงเปนการจำเป็นที่บาดหลวงตาชาจะต้องเอาใจใส่ในการงานของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสเท่ากับเราเหมือนกัน แต่ตามที่เป็นอยู่เดี๋ยวนี้บาดหลวงตาชาหาได้กระทำการให้เป็นประโยชน์แก่พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสไม่ กลับไปมีความจงรักภักดีต่อมองซิเออร์คอนซตันซ์ จนถึงจะมายืนยันให้มองซิเออร์เดอลาลูแบได้กระทำตามวาจา ซึ่งบาดหลวงตาชาหาว่ามองซิเออร์เดอลาลูแบได้พูดจารับรองไว้ อันเป็นวาจาที่มองซิเออร์เดอลาลูแบได้ปฏิเสธอย่างชัดเจนว่ามิได้พูดเลยดังนี้

ในขณะนี้มองซิเออร์เดอลาลูแบได้กลับมาย้อนพูดเรื่องนี้ขึ้นอีก มองซิเออร์เดอลาลูแบกับบาดหลวงตาชา จึงได้เกิดพูดจาต่างคนต่างเถียงกันใหญ่โต ถึงกับบาดหลวงตาชาได้อ้างว่ามองซิเออร์คอนซตันซ์เป็นคนที่ซื่อสัตย์สุจริตและเป็นคนตรง ซึ่งมองซิเออร์เดอลาลูแบหาตรงและซื่อสัตย์สุจริตเหมือนมองซิเออร์คอนซตันซ์ไม่ ครั้นเมื่อการโต้เถียงได้สงบลงไปบ้างแล้ว บาดหลวงตาชาจึงได้เล่าให้เราฟังว่ามองซิเออร์คอนซตันซ์มีความน้อยใจมาก เพราะเหตุว่าพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้มีลายพระราชหัตถ์มาถึงมองซิเออร์คอนซตันซ์ รับสั่งมาว่าเราจะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของมองซิเออร์คอนซตันซ์ทุกอย่าง แต่เราก็หาได้ปฏิบัติตามคำแนะนำของมองซิเออร์คอนซตันซ์ไม่ กลับจะหาความเสียซ้ำไป ว่ามองซิเออร์คอนซตันซ์เป็นผู้กระทำการลบล้างคำสั่งของเราและคำสั่งของมองซิเออร์เดฟาช ส่วนมองซิเออร์คอนซตันซ์นั้น ก็ตั้งใจจะให้การทั้งปวงได้ดำเนินไปตามพระราชดำริของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสทุกอย่าง ขอแต่อย่างเดียวว่า ถ้าเราจะต้องการอย่างใด ก็ขอให้บอกมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ทราบเสียก็เป็นแล้วกัน

เราจึงได้ตอบบาดหลวงตาชาว่า บาดหลวงตาชาก็ทราบอยู่ดีแล้วว่า คำสั่งต่าง ๆ นั้นหาได้เป็นเรื่องที่เปิดเผยเล่าสู่กันฟังที่ประเทศฝรั่งเศสไม่ และวิธีดำเนินการในประเทศยุโรปก็ต่างกันกับวิธีที่ทำกันในประเทศอินเดีย เพราะผู้ที่เป็นราชทูตของประเทศอินเดียไม่มีหน้าที่อย่างใด นอกจากจะเอาหนังสือหรือพระราชสาส์นที่ตนเชิญไป ไปวางต่อประเทศที่ตนไป และเมื่อตนได้รับคำสั่งมาอย่างไร ก็ให้นำคำสั่งนั้นไปบอกเล่าเท่านั้น แต่ในส่วนเรานั้น ที่เราได้รับคำสั่งมาให้ฟังคำแนะนำของมองซิเออร์คอนซตันซ์นั้น ก็ต้องเข้าใจว่าเราจะต้องฟังคำแนะนำของมองซิเออร์คอนซตันซ์ ฉะเพาะแต่ในสิ่งที่เราจะต้องการคำแนะนำเท่านั้น แต่ข้อใดที่ได้มีคำสั่งมาเป็นเด็ดขาดแล้ว ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องฟังคำแนะนำหรือความเห็นของผู้ใดเลย ในข้อที่หาว่าเรากล่าวโทษมองซิเออร์คอนซตันซ์นั้น ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจผิด เพราะเราเข้าใจว่าการทั้งปวงที่มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ทำไปนั้น ก็คงจะได้ทำโดยได้รับพระราชโองการของพระเจ้ากรุงสยามให้ทำทั้งสิ้น และเมื่อเราจะต้องการกราบทูลพระเจ้ากรุงสยามประการใด ก็ต้องพูดไปกับมองซิเออร์คอนซตันซ์ดังนี้ เพราะฉะนั้นที่เราบ่นว่าหรือกล่าวโทษอย่างไรนั้น มองซิเออร์คอนซตันซ์จะออกรับว่าเราว่ามองซิเออร์คอนซตันซ์อย่างไรได้ แต่นอกจากเรื่องที่มองซิเออร์คอนซตันซ์ไปตั้งแต่งนายทหารที่บางกอกนั้น ยังมีข้อสำคัญอีกข้อ ๑ ซึ่งเราจะนิ่งไม่ได้เป็นอันขาด ถึงเรื่องที่เอากองทหารไทยไปประจำไว้ที่บางกอก อันเป็นสิ่งที่ผิดกับคำสัญญาของมองซิเออร์คอนซตันซ์ ซึ่งได้สัญญาไว้ว่าจะได้ให้กองทหารของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส เป็นผู้รักษาบางกอกแต่ฝ่ายเดียว ดังนี้

บาดหลวงตาชาจึงได้ตอบว่า ถ้าเช่นนั้นท่านได้ปลงใจยอมสละมองซิเออร์คอนซตันซ์ และพระเจ้ากรุงสยามแล้วหรือ และท่านก็คงจะไม่ทราบว่าในประเทศสยามนี้ ได้แตกกันออกเป็นก๊กเป็นเหล่ากันอย่างไร เพราะถ้ามองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ปฏิบัติตามความต้องการของท่านแล้ว ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าศีร์ษะของมองซิเออร์คอนซตันซ์จะต้องขาดเป็นแน่

เราจึงได้ตอบบาดหลวงตาชาว่า ถึงแม้ที่สุดพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสจะพอพระทัยในการที่ได้ให้กองทหารฝรั่งเศสมาประจำอยู่ในประเทศสยามนั้น พระองค์เป็นนายเป็นใหญ่จะพอพระทัยอย่างไรก็ได้ แต่ส่วนตัวเรานั้นหาได้เป็นนายของตัวเราเองไม่ จึงไม่อาจจะลงความเห็นว่าเป็นการที่พอใจเราแล้ว และถ้าเราไม่ทำการตามหน้าที่ของเราแล้ว หัวของเราก็อาจจะขาดได้เหมือนกัน เพราะการที่พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้ส่งกองทหารมาเมืองไทยนั้น ก็โดยทรงพระราชดำริจะให้การศาสนาและการค้าขายของพวกฝรั่งเศส ได้มีหลักฐานมั่นคงแน่นอน และการที่ได้ส่งกองทหารมาเมืองไทยนั้น มองซิเออร์คอนซตันซ์ก็เปนผู้ที่ได้ขอร้องไปเอง แต่มาบัดนี้เราได้เห็นว่าการทั้งปวงได้ดำเนินไปโดยขัดกับพระราชดำริของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสทุกอย่าง เพราะการที่ได้ให้กองทหารฝรั่งเศสไปอยู่ที่บางกอกนั้น หาเป็นการที่พ้นอันตรายต่าง ๆ ไม่ กล่าวคือ ๑ การที่มีทหารสองชาติไปอยู่ปะปนกันนั้น อาจจะเกิดแตกร้าวกันขึ้นได้ และอันตรายอยู่ในข้อที่กองทหารของไทยเป็นข้างฝ่ายของผู้ที่มีอำนาจ ๒ ยังจะต้องระวังในการทุจจริตต่าง ๆ ซึ่งเคยมีตัวอย่างมาแล้ว เช่นเรื่องแขกมะกาซา และเรื่องฆ่าฟันพวกอังกฤษที่เมืองมะริดเป็นต้น ๓ พระเจ้ากรุงสยามอาจจะสวรรคตลงเวลาใดก็ได้ และผู้ที่จะครอบครองราชสมบัติต่อไปอาจจะไม่ยอมเป็นไมตรีกับเราก็ได้ เพราะฉะนั้นด้วยประการทั้งปวงเหล่านี้ มองซิเออร์คอนซตันซ์ควรจะรู้สึกใคร่ครวญให้มากกว่าเรา เพราะเมื่อได้เกิดการดังอธิบายมานี้แล้ว มองซิเออร์คอนซตันซ์เองจะเปนผู้ที่จะได้รับความเดือดร้อนมากกว่าผู้อื่น โดยเหตุว่าถ้าพระเจ้ากรุงสยามได้สวรรคตลงแล้ว ก็ต้องเชื่อได้แน่ว่า ทำอย่างไร ๆ มองซิเออร์คอนซตันซ์ก็คงจะถูกทำร้าย ก็เมื่อเป็นเช่นนี้ มองซิเออร์คอนซตันซ์จะไม่คิดหนีเข้าไปอาศัยที่บางกอกหรือ และถ้าที่บางกอกพวกฝรั่งเศสได้เป็นใหญ่แต่ฝ่ายเดียวแล้ว มองซิเออร์คอนซตันซ์จะพ้นอันตรายหรือไม่เล่า อนึ่งในหนังสือของมองซิเออร์คอนซตันซ์ ซึ่งยกบางกอกให้อยู่ในความพิทักษ์รักษาของพวกฝรั่งเศสนั้น มองซิเออร์คอนซตันซ์ก็ยกเหตุว่า จำเป็นจะต้องหาที่อันมั่นคงแข็งแรงสำหรับพวกเข้ารีดจะได้หนีไปอาศัยได้สักแห่งหนึ่ง เพราะถ้าพวกเข้ารีดได้อยู่ปะปนกับพวกมิจฉาทิฏฐิไม่เป็นที่ไว้ใจได้ ดังนี้

ตามที่เราได้ยกเหตุผลต่าง ๆ มาอธิบายดังนี้ บาดหลวงตาชาหามีคำที่จะตอบไม่ เป็นแต่พูดว่าพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสคงจะพอพระทัย และว่ามาควิศเดอเซเนเลได้พูดกับบาดหลวงตาชาว่า พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสก็ทรงยอมให้มีกองทหารไทยอยู่ในป้อมที่บางกอกได้

ฝ่ายเราก็เถียงว่า การที่เอากองทหารไทยไปไว้ที่บางกอกเช่นนี้เป็นการตรงกันข้ามกับคำสั่งของเรา และการที่มีทหารไทยเช่นนี้ เป็นการทำให้เสียพระเกียรติยศของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสในประเทศอินเดียตลอดถึงประเทศจีน เพราะไม่เคยมีแบบอย่างเลยที่มหาประเทศใดในทวีปยุโรป จะมาขอบ้านเมืองจากเจ้านายฝ่ายอินเดีย โดยอำนาจไม่ได้อยู่เด็ดขาดในมหาประเทศนั้น

บาดหลวงตาชาก็กลับโต้อีก ว่าน่ากลัวอันตรายจะมาถึงตัวมองซิเออร์คอนซตันซ์ และถ้าเราขืนดื้อไม่พอใจอยู่เช่นนี้แล้ว ก็น่ากลัวมองซิเออร์คอนซตันซ์จะต้องหัวขาดด้วย

เราจึงได้ตอบบาดหลวงตาชาว่า ถ้าฉะนั้นเพื่อจะแสดงให้ท่านเห็นว่า เราไม่มีเจตนาอย่างใดที่จะทำให้มองซิเออร์คอนซตันซ์ต้องล้มตาย เราจะยอมให้มีทหารไทยประจำอยู่ที่บางกอก ๑๐๐ คน สำหรับแทนพลทหารฝรั่งเศส ๑๐๐ คน ซึ่งได้ล้มตายตามทางนั้น แต่จะต้องให้เรากับมองซิเออร์คอนซตันซ์ทำหนังสือไว้เป็นหลักฐานให้ปรากฎว่า การที่ให้ทหารไทย ๑๐๐ คนเข้าไปอยู่ในป้อมที่บางกอกได้นั้น ก็โดยมองซิเออร์เดฟาชได้ยอมและได้ขอเอาทหารไทย ๑๐๐ คนนี้มาสำหรับแทนทหารฝรั่งเศส ซึ่งขาดจำนวนเดิมที่พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้ทรงกำหนดไว้สำหรับรักษาตำบลนี้

บาดหลวงตาชาได้ฟังเราพูดดังนี้ก็เข้าใจว่าได้ชนะเรา เพราะเราก็ได้ผ่อนผันให้แล้ว จึงแกล้งทำพูดว่าตามที่เราพูดเช่นนี้ไม่เห็นเป็นการแปลกอะไรเลย แต่บาดหลวงตาชาก็ยังไม่เห็นด้วย และยังไม่ยอมรับรองในการเรื่องนี้ แต่ครั้นเราได้พูดต่อไปว่า ในเรื่องที่จะกระทำสัตย์สาบาลกันนั้น มองซิเออร์เดฟาชจะไม่ยอมสาบาลอย่างอื่นนอกจากตามคำสาบาลที่พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้ทรงอนุญาตไว้แล้ว เพราะเราก็ได้กำชับมองซิเออร์เดฟาชว่า ถ้าขืนทำนอกเหนือคำสั่งไปแล้ว มองซิเออร์เดฟาชจะต้องรับผิดชอบแต่ผู้เดียวเท่านั้น บาดหลวงตาชาได้ฟังก็ออกจะร้อนใจขึ้นบ้าง จึงได้พยายามอธิบายว่า คำสาบาลตามที่ปรากฎในข้อสัญญานั้น เป็นเกียรติยศต่อพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส มากกว่าคำสาบาลที่เราได้ร่างขึ้นไว้ตามคำสั่งของเราเสียอีก และได้อธิบายชี้แจงต่าง ๆ จะให้เราเชื่อตามถ้อยคำของบาดหลวงตาชาให้จงได้ แล้วได้ยกย่องชมเชยมองซิเออร์คอนซตันซ์ ว่าเป็นคนที่เอาใจใส่ซื่อสัตย์สุจริตต่อพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสจริง ๆ แม้แต่ชนชาติฝรั่งเศสเองก็ไม่ซื่อสัตย์สุจริตเท่ากับมองซิเออร์คอนซตันซ์

เราจึงได้ตอบบาดหลวงตาชาว่า ถ้ามองซิเออร์คอนซตันซ์เป็นคนที่แสดงตัวว่า เปนผู้ที่จะทำตามคำสั่งของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสทุกอย่างแล้ว ก็เป็นการน่าปลาดอยู่ว่าเหตุใด มองซิเออร์คอนซตันซ์จึงมิได้ถือตามคำสั่งที่เราได้รับมาในเรื่องการกระทำสัตย์สาบาล อันเป็นคำสั่งที่กล่าวโดยชัดเจนแจ่มแจ้งเล่า

บาดหลวงตาชาออกจะขัดเคืองจึงได้พูดขึ้นว่า ถ้าเช่นนั้นอย่ามีการสาบาลกันเสียเลยดีกว่า เพราะถ้ามีคนขอร้อง พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสจึงจะทรงอนุญาต ฝ่ายพระเจ้ากรุงสยามก็จะไม่ทรงขอร้องให้ผู้ใดทำสัตย์สาบาล และคงจะทรงไว้พระทัยในพวกฝรั่งเศสต่อไป จะได้เปนอันหมดความขัดข้องกันเสียสักที

เราจึงได้ตอบว่า ถ้าเป็นเช่นนั้นได้ก็จะเป็นการดีนักหนาทีเดียว แต่เดิม ๆ มาบาดหลวงตาชาไม่เคยได้เห็นเราขัดแข็งเช่นนี้เลย เพราะแต่ก่อนเราถือเสียว่าบาดหลวงตาชาเป็นคนที่เอาใจใส่ในกิจราชการของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส แต่ครั้นมาภายหลังเราก็ได้เห็นแน่ชัดแล้ว ว่าบาดหลวงตาชามิได้เอาราชการของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสเป็นประมาณ แต่กลับเอาใจใส่ฟั่นเฝืออยู่ในมองซิเออร์คอนซตันซ์แต่ผู้เดียว จนที่สุดต่อมาบาดหลวงตาชาหาได้มาหาเราสำหรับที่จะปรึกษาหารือในข้อที่จะต้องไปพูดจากับมองซิเออร์คอนซตันซ์ไม่ แต่ได้มาหาเราสำหรับเอาข้อความของมองซิเออร์คอนซตันซ์มาพูดกับเราแทนมองซิเออร์คอนซตันซ์ และถ้ามีข้อโต้เถียงอย่างใด บาดหลวงตาชาก็คอยขัดกับความเห็นของเราอยู่เป็นนิตย์ จนที่สุดบาดหลวงตาชาได้พูดว่า การที่เราจะได้ปฏิบัติต่อไปนั้นจะทำให้เสียราชการของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส และในเวลาที่เรายังพักอยู่ในเรือ เราก็ได้พยายามทำการต่าง ๆ ทุกอย่างแล้ว เพราะฉะนั้นเราก็ควรจะเป็นที่พอใจเสียบ้าง

เราจึงได้ตอบบาดหลวงตาชาว่า ๑ เราไม่ได้ทำการอย่างใดที่จะเป็นข้อให้เราติตัวเราเองได้ เพราะเราจะทำไปอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากทำไปตามทางที่เราได้ปฏิบัติมาแล้ว แต่ตามการที่เป็นไปแล้วนั้น ไม่เป็นสิ่งที่จะทำให้เราพอใจได้เลย และการที่บาดหลวงตาชาพอใจนั้น ก็เป็นการที่เราปลาดใจนักหนาทีเดียว ๒ การที่พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสจะพอพระทัยหรือไม่นั้น ก็แล้วแต่เหตุการณ์ที่จะเป็นไป ๓ ควรบาดหลวงตาชาจะไปชี้แจงความจริงให้มองซิเออร์คอนซตันซ์ฟัง ไม่ควรที่บาดหลวงตาชาจะไปยอมมองซิเออร์คอนซตันซ์เลย ๔ เราเชื่อได้แน่ว่าการที่บาดหลวงตาชากระทำบาปเช่นนี้ไม่ใช่เพราะเจตนาไม่ดี แต่เป็นด้วยบาดหลวงตาชาไม่รู้ความจริงในพระราชดำริของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส และไปเข้าใจผิดเสียว่า ถ้าได้จัดทำอะไรไปแล้ว คงจะเป็นการพอพระทัยพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสทั้งสิ้น

ครั้นได้สนทนาและโต้เถียงกันเสร็จแล้ว บาดหลวงตาชาก็ลากลับไปกรุงศรีอยุธยา และรับรองว่าพรุ่งนี้จะได้กลับมารับร่างสัญญาใหม่ซึ่งเราจะได้ร่างขึ้นนั้น

ณวันที่ ๒๖ เดือนตุลาคม เวลาเช้า ราชทูตที่ ๑ ได้มาหาเรา บอกว่าพระยาพระคลังใช้ให้มาถามว่า ในการที่เราจะเข้าเฝ้าพระเจ้ากรุงสยามนั้น เราจะต้องการให้มีเกียรติยศหรือทำพิธีอย่างใดบ้าง การที่พระยาพระคลังได้ให้มาถามเช่นนี้ เป็นการที่เราปลาดใจมาก ด้วยเหตุ ๒ ประการ

ประการที่ ๑ มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ให้เกียรติยศแก่เรา โดยยกให้เราเป็น เอ๊กซาเลนซี และการที่ได้รับรองเรามาแล้วก็ได้ให้เกียรติยศต่าง ๆ มากกว่าครั้งเชอวาเลียเดอโชมองหลายอย่าง เราจึงได้เข้าใจเสียว่า เรื่องพิธีและวิธีเข้าเฝ้าต่าง ๆ คงเป็นเรื่องที่ได้ตกลงกันไว้แล้ว และเราคงจะได้รับการรับรองเหมือนกับครั้งเชอวาเลียเดอโชมอง ทั้งไทยก็ได้ขอให้เราพาผู้ดีฝรั่งเศส ๓๐ คนให้มากับเรา เพื่อได้เป็นการเพิ่มเกียรติยศเราด้วย เราจึงได้เข้าใจว่า วิธีที่จะเข้าเฝ้านั้น คงจะได้รับเกียรติยศยิ่งกว่าครั้งเชอวาเลียเดอโชมองเสียอีก

ประการที่ ๒ เราได้มีความปลาดใจว่าเมื่อครั้งเชอวาเลียเดอโชมองนั้น มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้มาหาเชอวาเลียเดอโชมองเป็นการเงียบ ๆ เพื่อจะมาทำความตกลงในเรื่องพิธีที่จะเข้าเฝ้าว่าจะต้องมีอะไรบ้าง ส่วนเรานั้นมองซิเออร์คอนซตันซ์หามาไม่ แต่ให้ราชทูตที่ ๑ มาหาเรา โดยอ้างนามของพระยาพระคลัง ซึ่งเป็นผู้ที่ไม่มีอำนาจอย่างใดเลย จนที่สุดเมื่อเราพักอยู่ที่บางกอก มองซิเออร์คอนซตันซ์ก็มิได้มาหาเราเลย และในเวลาที่เรากับมองซิเออร์คอนซตันซ์พักอยู่ที่บางกอกนั้น ก็ชั่วแต่มีแม่น้ำคั่นอยู่เท่านั้น และในเวลานั้นมองซิเออร์คอนซตันซ์ก็มิได้มีเหตุผลอย่างใดที่จะไม่พอใจเราเลย เว้นแต่ในข้อที่บาดหลวงตาชาได้บอกกับมองซิเออร์คอนซตันซ์ ว่าการที่เราไม่ยอมขึ้นบกก็เพราะเราขาดความไว้ใจเท่านั้น แต่จะอย่างไรก็ตาม เราก็ยอมต้อนรับและพูดจากับราชทูตที่ ๑ เพราะเป็นคนที่พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้เคยโปรดปรานมาแล้ว เราจึงได้พูดกับราชทูตที่ ๑ ว่าเราได้รับพระราชโองการมาจากพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส ให้เราขอร้องให้ได้รับเกียรติยศเท่าเทียมกับเมื่อครั้งเชอวาเลียเดอโชมอง และได้พูดต่อไปว่า พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสทรงหวังพระทัยว่าการที่เราจะขอร้องเช่นนี้ ข้างฝ่ายไทยคงจะไม่ขัดข้องอย่างไร แต่ทรงเชื่อพระทัยว่า บางทีไทยจะให้เกียรติยศแก่เราสูงกว่าเมื่อครั้งเชอวาเลียเดอโชมองก็จะเป็นได้ เพราะทรงเห็นว่าเมื่อคราวราชทูตของพระเจ้ากรุงสยามได้ไปยังประเทศฝรั่งเศสนั้น ก็ได้ทรงรับรองให้เกียรติยศเป็นพิเศษ ทั้งได้ทรงเอื้อเฟื้อแก่พระเจ้ากรุงสยามหลายอย่างด้วย

ราชทูตที่ ๑ จึงตอบว่า พระเจ้ากรุงสยามนายของข้าพเจ้าก็ทรงตั้งพระทัยจะพระราชทานเกียรติยศให้แก่ท่านตามความต้องการของท่านทุกอย่าง แต่ทรงพระราชดำริเห็นว่าต่อไปยังจะมีพระเจ้าแผ่นดินองค์อื่น ๆ แต่งทูตเข้ามาเฝ้าอีก จึงต้องทรงระวังมิให้เกิดความลำบากขึ้นได้ ก็ส่วนตัวท่านนั้นเป็นแต่เอนวอยเอกซตราออดีนารีเท่านั้น จึงทรงเกรงว่าต่อไปถ้าประเทศฝรั่งเศสได้แต่งทูตซึ่งเป็นแอมบาซาเดอเอกซตราออดีนารีมาแล้ว ทูตนั้นมิขอเกียรติยศให้สูงยิ่งกว่าท่านไปอีกหรือ

เราจึงได้ตอบราชทูตที่ ๑ ว่า ข้อนั้นไม่ควรจะวิตกเลย เพราะพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสก็ทรงพอพระทัย ในการที่ไทยได้ให้เกียรติยศแก่เชอวาเลียเดอโชมองอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นถ้าต่อไปภายหน้าจะทรงแต่งเอกอัครราชทูตมาอีกแล้ว ก็คงจะทรงมีพระราชดำรัสสั่ง ให้ทูตนั้นได้รับเกียรติยศเพียงครั้งเชอวาเลียเดอโชมองเท่านั้น

ราชทูตที่ ๑ จึงถามขึ้นว่า ในข้อนี้เราจะยึดอะไรเป็นหลัก ว่าจะได้เป็นไปตามที่ท่านพูดนั้นเล่า

เราจึงได้ตอบว่า ตัวท่านเองก็ได้เป็นพยานว่าพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส ได้ทรงพอพระทัยในการที่ไทยได้รับรองเซอวาเลียเดอโชมอง

แล้วราชทูตที่ ๑ จึงได้ตอบเราว่า ตำแหน่งราชทูตซึ่งเรียกว่าแอมบาซาเดอร์ กับตำแหน่งราชทูตซึ่งเรียกว่า เอนวอยเอกซตราออดีนารีนั้น ต่างกันอย่างไร

เราจึงได้ตอบว่า ตำแหน่งหน้าที่ของราชทูตทั้ง ๒ นี้ ในราชสำนักสยามจะถือว่าต่างกันไม่ได้ เพราะราชทูตไม่ต้องทำอะไรนอกจากเป็นผู้เชิญพระราชสาส์นไปเท่านั้น แต่ในยุโรปนั้นเมื่อพระมหากษัตริย์องค์ ๑ แต่งทูตให้ไปเฝ้าพระมหากษัตริย์อีกองค์ ๑ แล้ว พระมหากษัตริย์ที่เป็นผู้แต่งทูตไปนั้น มีสิทธิ์ที่จะตอบให้พระมหากษัตริย์ผู้รับทูตได้แต่งทูตตอบแทนได้ แต่ถ้าได้แต่งทูตเป็นแต่เพียงเอนวอยแล้ว พระมหากษัตริย์ผู้ที่รับทูตนั้น ไม่จำเป็นต้องส่งทูตเอนวอยตอบแทนก็ได้ แต่ส่วนตำแหน่งทูตเอนวอยเอกซตราออดีนารี ซึ่งพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้ทรงตั้งแต่งให้เราเป็นมาในครั้งนี้นั้น เป็นตำแหน่งที่สูงสุด เพราะฉะนั้นบรรดาเจ้านายและขุนนางในประเทศฝรั่งเศสจึงถือว่าเกียรติยศของทูตเอนวอยเอกซตราออดีนารีนั้น สูงกว่าตำแหน่งทูตแอมบาซาเดอร์ธรรมดามาก แล้วเราจึงได้ยกตัวอย่างให้ราชทูตที่ ๑ ฟัง ในเรื่องท่านมาเรซาลเดอลูมีแย ซึ่งราชทูตที่ ๑ ได้เห็นด้วยตัวของตัวเอง ในเวลาที่มาเรซาลเดอลูมีแย ได้เป็นเอนวอยเอกซตราออดีนารี ไปยังประเทศอังกฤษนั้น

ราชทูตที่ ๑ จึงได้พูดซ้ำหลายหนว่า ดีแล้ว ดีแล้ว แล้วก็ได้บอกซ้ำอีกว่า พระเจ้ากรุงสยามทรงตั้งพระทัยที่จะพระราชทานเกียรติยศให้แก่เราเหมือนกับที่ได้เคยพระราชทานเชอวาเลียเดอโชมองมาแล้ว แต่ต้องทรงระวังมิให้เกิดความลำบากขึ้นในภายหน้า ดังได้อธิบายให้เราฟังมาแล้ว

เราจึงได้พูดซ้ำอีกว่า ข้อนั้นไม่ควรจะวิตกและการข้างหน้าคงจะไม่ลำบากอย่างไร เพราะพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสคงจะต้องสั่งผู้ที่จะได้เป็นราชทูตในภายหน้า ให้ได้รับเกียรติยศเท่าเทียมเพียงเชอวาเลียเดอโชมองเท่านั้น

ในข้อนี้ได้พูดจาซ้ำไปซ้ำมาหลายหน และราชทูตที่ ๑ ก็ยังสงสัย ขอให้เราทำหลักฐานให้อยู่เสมอ เราจึงได้รับว่าจะได้ทำคำรับรองไว้ด้วยลายลักษณ์อักษรให้ ราชทูตที่ ๑ ก็พอใจ จึงขอให้เราเซ็นชื่อและประทับตราของเราลงไปในใบรับรองนั้นด้วย

ครั้นเวลาค่ำบาดหลวงตาชาก็ได้กลับมาหาเราอีก แต่หาได้มาขอรับเอาร่างสัญญาดังได้นัดไว้ไม่ กลับมาบอกว่ามองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ห้ามมิให้บาดหลวงตาชามาเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ด้วยอีกต่อไป และเล่าว่ามองซิเออร์คอนซตันซ์ได้บอกว่า ทั้งพระเจ้ากรุงสยามและพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสพอพระทัยในการงานที่บาดหลวงตาชาได้ทำไปแล้ว เพราะฉะนั้นให้บาดหลวงตาชางดเสีย อย่าเกี่ยวข้องด้วยการงานเหล่านี้อีกเลย

เราจึงได้ตอบบาดหลวงตาชาว่า ถ้ามองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ห้ามไว้แล้ว ก็ควรบาดหลวงตาชาจะต้องปฏิบัติตามคำห้ามของมองซิเออร์คอนซตันซ์ แต่ความจริงการที่บาดหลวงตาชาไม่ยอมมาเกี่ยวข้องด้วยการงานต่าง ๆ นั้น เป็นเรื่องที่เรามิได้เสียใจเลย เพราะเราหวังใจอยู่ว่าเมื่อเราได้พบปะกับมองซิเออร์คอนซตันซ์แล้ว เราคงจะได้พูดจาทำความตกลงกับมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ง่ายกว่าบาดหลวงตาชา และมองซิเออร์คอนซตันซ์คงจะรักษาวาจาที่ได้พูดกับเราดีกว่าบาดหลวงตาชาเป็นแน่ มองซิเออร์เดอลาลูแบจึงได้พูดกับบาดหลวงตาชาว่า การที่บาดหลวงตาชาจะงดไม่ยื่นมือเข้ามาเกี่ยวในการงานทั้งปวงนั้น เป็นการสมควรยิ่งนัก เพราะการที่บาดหลวงตาชาเอาใจใส่ในกิจราชการของพระเจ้ากรุงสยามแต่ฝ่ายเดียวนั้น เป็นการที่เราดูไม่ได้ และถ้าบาดหลวงตาชาไม่ประพฤติตัวเช่นนี้แล้ว มองซิเออร์คอนซตันซ์ก็คงจะไม่เชื่อถือบาดหลวงตาชาเป็นแน่

บาดหลวงตาชาจึงได้ชี้แจงว่า ความจริงบาดหลวงตาชาก็มีเจตนาดีในสิ่งทั้งปวง

เมื่อการเป็นเช่นนี้ ข้าพเจ้ากับมองซิเออร์เดอลาลูแบจึงได้ตกลงใจว่า ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เราจะไม่พูดการงานกับบาดหลวงตาชาต่อไป แล้วเราจึงได้ถามบาดหลวงตาชาว่าที่กรุงศรีอยุธยามีข่าวอะไรบ้าง บาดหลวงตาชาจึงได้เล่าว่ามองซิเออร์คอนซตันซ์มีความโกรธเคืองเราเป็นอันมาก

เราจึงได้ถามขึ้นว่า การที่มองซิเออร์คอนซตันซ์โกรธเรานั้นเพราะเหตุใดเล่า เพราะตั้งแต่เราได้มาถึงเมืองไทย ก็ยังไม่เคยได้พบปะกับมองซิเออร์คอนซตันซ์เลยจนครั้งเดียว ยังไม่เคยได้พูดกับมองซิเออร์คอนซตันซ์จนคำเดียว และหนังสือที่ได้มีไปถึงมองซิเออร์คอนซตันซ์ ก็ล้วนแต่เป็นหนังสือที่อ่อนน้อมสุภาพทุกฉะบับ เพราะฉะนั้นการที่มองซิเออร์คอนซตันซ์โกรธเรานั้น มิต้องโกรธเราก่อนที่ได้รู้จักกันดังนั้นหรือ

บาดหลวงตาชาจึงพยายามชี้แจงจะให้เราเชื่อว่า การที่มองซิเออร์คอนซตันซ์โกรธเรานั้น ก็เพราะเหตุที่ข้าราชการฝรั่งเศสที่ได้มากับเราบางคนนั้นได้ไปหามองซิเออร์คอนซตันซ์ และได้ไปเล่าถึงข้อความที่เรากับบาดหลวงตาชาได้โต้เถียงกัน และอธิบายว่าพวกฝรั่งเศสที่เก็บความไปเล่าให้มองซิเออร์คอนซตันซ์ฟังนั้น อาจจะได้ยินคำโต้เถียงของเราได้ เพราะเขาอยู่นอกห้องก็จริงอยู่ แต่ฝาประจันห้องนั้นกั้นด้วยไม้ไผ่บาง ๆ อาจจะได้ยินถนัด

ตามที่บาดหลวงตาชาอธิบายเช่นนี้ เมื่อพิเคราะห์ดูไม่เป็นสิ่งที่น่าเชื่อเลย เพราะเหตุว่า ๑ พวกฝรั่งเศสจะไปพูดกับมองซิเออร์คอนซตันซ์ตัวต่อตัวไม่ได้เป็นอันขาด แต่จะต้องมีล่ามจึงจะพูดเข้าใจกันได้ ๒ พวกฝรั่งเศสเหล่านี้ได้มาถึงด่านภาษีพร้อมกับเรายังไม่ได้ไปไหนเลย จริงอยู่ในระวางที่บาดหลวงตาชาได้พูดอยู่กับเรานั้น ก็ได้โต้เถียงกันโดยต่างคนต่างมีโทษะด้วยกันทั้งสองฝ่ายหลายครั้ง และภายหลังในเวลาที่ข้าพเจ้าได้สนทนากับมองซิเออร์คอนซตันซ์ ข้าพเจ้าก็ได้ทราบว่า ในข้อโต้เถียงระวางเรากับบาดหลวงตาชามีอย่างไรนั้น มองซิเออร์คอนซตันซ์ก็ได้ทราบอย่างละเอียดทุกอย่าง แต่ทำอย่างไร ๆ ข้าพเจ้าก็ไม่เชื่อว่า มองซิเออร์คอนซตันซ์จะได้ทราบมาจากทางอื่น นอกจากทราบจากบาดหลวงตาชาผู้เดียวเท่านั้น เพราะบาดหลวงตาชาไม่มีนิสสัยที่จะปิดความ หรือที่จะกลบเกลื่อนให้มากเป็นน้อยได้ ในเวลานั้นก็พอดีบาดหลวงตาชาได้เข้ามาอยู่ในห้องของข้าพเจ้า และได้มาบ่นในการที่มองซิเออร์เดอลาลูแบมีโทษะพูดจาห้าวหาญมาก ข้าพเจ้าเห็นเป็นโอกาสที่ดี จึงได้ชี้แจงกับบาดหลวงตาชาว่า การที่บาดหลวงตาชาคาบเอาความต่าง ๆ ที่เราพูด ไปรายงานให้มองซิเออร์คอนซตันซ์ทราบนั้น เป็นการไม่สมควรอย่างยิ่ง ฝ่ายเราได้ถือใจว่าบาดหลวงตาชาก็เป็นชาวฝรั่งเศส และเป็นพลเมืองของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสผู้หนึ่ง เราจึงได้พูดอะไรต่ออะไรต่าง ๆ ต่อหน้าบาดหลวงตาชา โดยมิได้ระวังถ้อยคำที่ใช้อย่างใดเลย และบอกให้บาดหลวงตาชาทราบในข้อขัดข้องต่าง ๆ แต่เมื่อบาดหลวงตาชาได้ยินได้ฟังเราแล้วก็ควรที่จะปิดความที่เราพูดไว้ และควรจะคัดเลือกแต่ฉะเพาะใจความที่พูดเท่านั้น ไม่ควรจะถือกิริยาและถ้อยคำที่เราใช้เป็นใหญ่เลย ถ้าแม้ว่าจะมีข้อความอย่างใดที่จะเป็นคำแหลมแล้ว บาดหลวงตาชาก็ไม่ควรจะทำเป็นรู้สึก แต่ควรจะปิดเสียอย่าให้คำนั้นแพร่หลายออกไปได้จึงจะถูก เพราะถ้าเกิดการบาดหมางซึ่งกันและกันขึ้นแล้ว ก็จะกระทำให้การงานทั้งหลายเสียไปหมด

บาดหลวงตาชาได้ฟังข้าพเจ้าอธิบายชี้แจงดังนี้ จึงตอบข้าพเจ้าว่า ก็ท่านจะให้ข้าพเจ้าทำอย่างไรเล่า ท่านก็เห็นอยู่เองแล้วว่ามองซิเออร์เดอลาลูแบ ได้ทำกับข้าพเจ้าและมองซิเออร์คอนซตันซ์อย่างไร อีกประการหนึ่งที่มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ทราบความต่าง ๆ จนถึงกับมีความขัดเคืองนั้น ก็หาใช่ข้าพเจ้าเป็นผู้ไปเล่าให้ฟังไม่ แต่ผู้ที่ไปเล่าเรื่องต่าง ๆ ให้มองซิเออร์คอนซตันซ์ฟังนั้น ก็คือข้าราชการฝรั่งเศสที่มากับท่านนั้นเอง เพราะมองซิเออร์เดอลาลูแบเคยพูดต่อหน้าท่านเหล่านี้ด้วยเสียงอันดัง อันอาจจะให้ใคร ๆ ได้ยินก็ได้

แล้วบาดหลวงตาชาจึงได้ชี้แจงต่อไปว่า มองซิเออร์คอนซตันซ์พอใจจะฟังถึงการต่าง ๆ อันเป็นประโยชน์แก่ราชการของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส แต่วิธีที่ดำเนินการนั้น ๆ เป็นวิธีที่มองซิเออร์คอนซตันซ์มิได้พอใจเลย มองซิเออร์คอนซตันซ์นั้นเป็นคนที่มีเจตนาอันดี จะหาผู้ใดที่จะมีเจตนาดีเท่าเป็นไม่ได้แล้ว และเมื่อท่านได้ปรึกษาหารือกับมองซิเออร์คอนซตันซ์ในเวลาที่ท่านจะทำหนังสือสัญญาซึ่งเกี่ยวด้วยการค้าขายแล้ว ท่านก็คงจะเห็นในข้อนี้ด้วยตัวของท่านเอง

ข้าพเจ้าจึงได้ตอบบาดหลวงตาชา ว่าก่อนที่จะได้พูดจากันถึงเรื่องการค้าขาย และในเรื่องที่จะตั้งบริษัทฝรั่งเศสในเมืองไทยนั้น จะต้องได้ทำความตกลงกันในเรื่องที่จะให้นายทหารและกองทหารของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส เข้าไปประจำอยู่ที่บางกอกและเมืองมะริด ให้เป็นที่พอพระทัยของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสทุกอย่างเสียก่อน ถ้าไม่ได้ตกลงกันในเรื่องบางกอกและเมืองมะริดให้เป็นที่พอใจเสียก่อนแล้ว ถึงเราจะทำสัญญาอย่างอื่น ๆ สักกี่ฉะบับ สัญญาเหล่านั้นก็จะไม่เป็นประโยชน์อันใดเลย เพราะเหตุว่า ถ้าพวกมิชันนารีไม่มีที่แห่งใดสำหรับเป็นที่พักอาศัยในเวลาที่จะเกิดกบฎขึ้นในเมืองไทยอยู่ตราบใดแล้ว ก็ไม่ควรจะคิดถึงการที่จะแผ่ศาสนาคริศเตียนให้แพร่หลายในเมืองเหล่านี้เลย ที่พักอาศัยอันพ้นจากความอันตรายทั้งปวงอันนี้เอง เป็นรากเง่าของการที่จะจัดให้ศาสนาคริศเตียนได้แพร่หลายออกไป และเป็นที่สำคัญสำหรับจัดการเรื่องค้าขายด้วย การที่พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้ทรงพระราชดำริจะหาที่มั่นเช่นนี้ ไม่ฉะเพาะแต่เพื่อประโยชน์ของการศาสนาและการค้าขายอย่างเดียว แต่เพื่อประโยชน์สำหรับให้เป็นหนทางให้พระราชไมตรีในระหว่างประเทศฝรั่งเศสและประเทศสยามได้ติดต่อกันอย่างสะดวกด้วย ทั้งในเวลาที่จะเกิดความร้อนขึ้นในประเทศสยาม ก็จะได้ส่งกำลังไปช่วยให้ทันท่วงทีได้ด้วย

ข้อความที่ข้าพเจ้าได้สนทนากับบาดหลวงตาชานี้ ข้าพเจ้าได้รีบรายงานบอกให้มองซิเออร์เดอลาลูแบทราบโดยทันที

ก่อนที่บาดหลวงตาชาจะลากลับไปนั้น บาดหลวงตาชาได้พูดกับมองซิเออร์เดอลาลูแบว่า ในเรื่องนี้ถ้ามองซิเออร์เดอลาลูแบจะคิดอ่านฟ้องร้องกล่าวโทษผู้ใดแล้ว ข้างฝ่ายไทยก็จะไม่ถือว่ามองซิเออร์เดอลาลูแบเป็นราชทูต (เอนวอย) และฝ่ายพระเจ้ากรุงสยามก็คงจะตอบว่า ทรงเชื่อว่ามองซิเออร์เดอลาลูแบไม่มีหน้าที่ที่จะมาฟ้องร้องกล่าวโทษผู้ใด และผลที่สุดมองซิเออร์เดอลาลูแบคงจะได้รับความรำคาญใจหลายพันอย่าง จนมองซิเออร์เดอลาลูแบคงจะเบื่อหน่ายไปเอง

มองซิเออร์เดอลาลูแบจึงถามว่า ถ้าฉะนั้นการที่ข้าพเจ้ามาเมืองไทยนั้น คงจะไม่มีหน้าที่ต้องทำอะไร นอกจากจะมาคอยดูคอยรับความรำคาญ และจะพูดอะไรก็ไม่ได้อย่างนั้นหรือ และผลที่สุดของการที่จะทำสัญญานั้นจะเป็นอย่างไรเล่า

บาดหลวงตาชาจึงได้ตอบว่า ในเรื่องสัญญานั้น มองซิเออร์คอนซตันซ์ไม่ยอมแก้ไขเปลี่ยนแปลงเลยจนข้อเดียว แต่มองซิเออร์คอนซตันซ์จะยอมเติมความลงไปให้อีกข้อ ๑ ว่าการทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้จะควรสถานใด ก็แล้วแต่พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสจะทรงพระมหากรุณา

ตามที่บาดหลวงตาชามาบอกดังนี้ ถึงจะเติมความลงไปอีกข้อ ๑ อย่างว่า ก็ไม่เห็นจะเป็นหลักอะไรเลย แต่คงเป็นเรื่องอุบายสำหรับหาเวลาให้ชักยืดออกไปเท่านั้น เพราะฝ่ายเราจะต้องการหาตัวจริง มิต้องการฟังถ้อยคำอันไพเราะอย่างใดเลย เราจึงได้ตอบบาดหลวงตาชาว่า

ตามที่ท่านมาพูดบอกเล่าเช่นนี้ ก็เป็นข่าวที่แปลกมาก เพราะเราสังเกตเห็นว่า ท่านได้มาหาเราสองสามครั้งโดยอ้างเหตุว่าจะมารับเอาร่างข้อสัญญาไป แต่ความจริงที่ท่านมาหาเรานั้น ก็เพื่อสำหรับมาแนะนำการแปลก ๆ ต่าง ๆ แทนมองซิเออร์คอนซตันซ์เท่านั้น

บาดหลวงตาชาจึงได้ตอบว่า ความจริงก็เป็นเช่นนั้น เพราะมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้บ่นอยู่ว่า ท่านได้ออกความเห็นเปลี่ยนแปลงอยู่ทุก ๆ วัน มิได้ยุตติลงไปได้เลย

เราจึงได้ตอบบาดหลวงตาชาว่า การที่เราจะมาโต้เถียงกันอยู่เช่นนี้หาประโยชน์อันใดมิได้เลย แล้วเราจึงได้ถามบาดหลวงตาชาว่า สัญญาข้อใหม่ตามที่บาดหลวงตาชามาพูดนั้น ได้เอาร่างมาด้วยหรือเปล่า

บาดหลวงตาชาจึงได้ตอบว่า สัญญาข้อใหม่นั้นมิได้ร่างเอามาด้วย เพราะไม่ต้องร่างมาก็ได้ ให้เราร่างเอาเองก็แล้วกัน

เราจึงได้ตอบบาดหลวงตาชาว่า เราได้จดข้อความร่างไว้แล้ว บาดหลวงตาชาจึงได้ขอดู เราก็ได้เอาร่างให้บาดหลวงตาชาดู บาดหลวงตาชาจึงรับว่า จะเอาร่างนั้นไปให้มองซิเออร์คอนซตันซ์ดูต่อไป

ในระวางที่ร่างและเขียนสัญญาข้อนี้อยู่นั้น เราได้บอกกับบาดหลวงตาชาว่า เราได้มีหนังสือไปถึงมองซิเออร์โวลัง ผู้เป็นเอนยินเนียของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส ซึ่งประจำอยู่ที่บางกอก สั่งให้มองซิเออร์โวลังมาหาเรา เพื่อจะได้ปรึกษาหารือกันว่าจะควรทำความตกลงกับมองซิเออร์คอนซตันซ์ประการใดบ้าง

บาดหลวงตาชาจึงได้ตอบเราว่า พื้นที่ดินที่บางกอกนั้น เป็นพื้นที่ซึ่งยากจะตรวจตราให้ละเอียดได้ เพราะเป็นพื้นที่ลุ่ม ๆ ดอน ๆ และใต้พื้นแผ่นดินก็หนา ๆ บาง ๆ ไม่เสมอกัน บาดหลวงตาชาจึงเห็นว่า กว่าจะได้ทำแผนที่และแปลนป้อมอันแน่ชัดได้แล้ว ก็คงจะต้องกินเวลาไม่ต่ำกว่า ๓ เดือน

ในข้อนี้เราก็มิได้เคี่ยวเข็ญคาดคั้นอย่างใด แต่เราก็ได้ระลึกขึ้นได้ว่าบาดหลวงตาชาได้บอกเราไว้ว่า พระเจ้ากรุงสยามได้ทรงพระราชดำริไว้ว่า จะได้ทรงจัดให้บางกอกเป็นที่แข็งแรงมั่นคงอย่างสำคัญ ซึ่งจะต้องมีกองทหารรักษาอยู่ไม่ต่ำกว่า ๓,๐๐๐ คน เราจึงได้ทาบทามบาดหลวงตาชาเพื่อจะฟังดูว่า ในเรื่องที่จะสร้างป้อมขึ้นที่บางกอกนั้น มองซิเออร์คอนซตันซ์จะมีความเห็นอย่างไรบ้าง บาดหลวงตาชาจึงได้อธิบายว่า ในตำบลบางกอกซึ่งเป็นลูกกุญแจอันสำคัญของประเทศสยามนี้ จะต้องจัดการให้เป็นตำบลที่สำคัญที่สุด และจะต้องขอร้องให้พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้ส่งกองทหารมาเพิ่มเติมสำหรับตำบลนี้อีก

ครั้นข้อสัญญาที่บาดหลวงตาชาคอยอยู่นั้นได้ร่างและเขียนเสร็จแล้ว เราจึงได้มอบข้อสัญญานั้นให้บาดหลวงตาชารับไป แต่เราได้บอกกับบาดหลวงตาชาว่า การที่เราได้มอบให้บาดหลวงตาชารับข้อสัญญาไปนั้น ก็เพราะเหตุที่บาดหลวงตาชาขอร้องจะรับเอาไปเท่านั้น แต่มิได้เป็นการแสดงว่าเราได้เป็นที่พอใจในข้อสัญญานั้นเลย บาดหลวงตาชาได้ฟังก็มิได้ว่าประการไร แล้วก็ได้รับข้อสัญญานั้นไป

การที่เราจะได้เข้าเฝ้าพระเจ้ากรุงสยามนั้นต้องเลื่อนเวลาออกไปอีก เพราะเหตุว่าของเครื่องราชบรรณาการยังหาได้เตรียมไว้พร้อมเสร็จไม่ ด้วยมีของต่าง ๆ ที่ได้บุบฉลายหักพังไปหลายอย่าง ของที่เสียหายนั้น คือ ลูกโลกกลม ๒ อัน กับนาฬิกากะจกสี่ด้าน ซึ่งเรากำลังพยายามจะซ่อมแซมแก้ไขให้ดีขึ้นอย่างเดิม เพราะฉะนั้นเราจึงขอให้บาดหลวงตาชาไปพูดกับมองซิเออร์คอนซตันซ์ ขอให้เราได้พบกับมองซิเออร์คอนซตันซ์เป็นการส่วนตัวในวันพรุ่งนี้ การที่เราร้อนใจอยากจะพบกับมองซิเออร์คอนซตันซ์นั้น ก็เพราะจะพยายามทุกอย่างไม่ให้ฝ่ายเรามีความบกพร่องได้จนอย่างเดียว แต่เราก็มิได้หวังเลยว่าจะทำความตกลงกับมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้อย่างใด เพราะเราเชื่อแน่ว่าทำอย่างไร ๆ มองซิเออร์คอนซตันซ์ก็คงจะไม่ห่างกับบาดหลวงตาชาได้ และเรากลับสงสัยเสียซ้ำไปว่า มองซิเออร์คอนซตันซ์คงจะคิดจัดพวกบาดหลวงเยซวิตบางคนให้ไปยังประเทศฝรั่งเศส เพื่อนำความต่าง ๆ ไปกราบทูลต่อพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส และจะทรงโปรดมาประการใดก็แล้วแต่จะทรงเห็นควร แต่ในระวางนี้มองซิเออร์คอนซตันซ์คงจะต้องการให้การทั้งปวงที่บางกอกได้ตกอยู่ในกำมือของตัวทุกอย่าง เพราะฉะนั้นเราจึงได้ตั้งใจว่าเราจะไม่เอาถ้อยคำของมองซิเออร์คอนซตันซ์เป็นหลักสำหรับให้เรามีความหวังต่าง ๆ แต่จะต้องการหลักฐานและตัวจริงให้จงได้ เพราะเหตุฉะนั้นข้อสัญญาที่เราได้มอบไปกับบาดหลวงตาชานั้น จึงเป็นการที่เรามิได้พอใจเลย

ณวันที่ ๒๗ เดือนตุลาคม บาดหลวงตาชาได้มารับประทานอาหารกับเรา เราจึงได้ถามว่า ในเรื่องที่เราจะขอไปพบกับมองซิเออร์คอนซตันซ์เป็นการส่วนตัวนั้น จะตกลงอย่างไรกัน บาดหลวงตาชาก็ตอบแต่สั้น ๆ ว่า ถ้าเราไปมองซิเออร์คอนซตันซ์ก็ยินดีที่จะได้พบกับเรา และว่ามองซิเออร์คอนซตันซ์ก็กำลังหาโอกาสที่จะมาหาเราบ้างเหมือนกัน เราจึงได้ถามต่อไปว่า ในเรื่องสัญญาข้อใหม่นั้นว่าอย่างไรกัน บาดหลวงตาชาจึงได้ตอบว่า มองซิเออร์คอนซตันซ์ไม่ยอมตรวจดูร่าง และได้กำชับบาดหลวงตาชาอีก มิให้บาดหลวงตาชาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยการเหล่านี้ เราจึงได้ขอให้บาดหลวงตาชาส่งข้อสัญญาคืนให้แก่เรา และบาดหลวงตาชาก็ได้คืนให้ตามความประสงค์ แล้วมองซิเออร์เดอลาลูแบจึงได้พูดกับบาดหลวงตาชาว่า เราทราบอยู่ดีแล้วว่าเวลาที่เราจะไปหามองซิเออร์คอนซตันซ์เป็นการส่วนตัวนั้น ฉะเพาะตรงกับเวลาที่มองซิเออร์คอนซตันซ์เคยเข้าไปเฝ้าพระเจ้ากรุงสยาม และการที่มองซิเออร์คอนซตันซ์จะมาเยี่ยมเรานั้น ก็คงจะเป็นการติดขัดต่าง ๆ เพราะเหตุฉะนั้นเราจะไม่ไปหามองซิเออร์คอนซตันซ์ และอย่าให้มองซิเออร์คอนซตันซ์คอยเราเลย อีกประการหนึ่งเราก็ได้สังเกตเห็นแล้วว่า มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้แกล้งไม่มาหาเรา สำหรับที่จะทำความตกลงในเรื่องพิธีที่จะเข้าเฝ้า ผิดกันกับเมื่อครั้งเชอวาเลียเดอโชมอง เพราะเมื่อครั้งนั้นมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้มาทำความตกลงกับเชอวาเลียเดอโชมองด้วยตัวเอง และการที่เราได้ยอมฟังและพูดจากับราชทูตที่ ๑ นั้น ก็เพราะเหตุที่ราชทูตที่ ๑ เป็นคนโปรดของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสเท่านั้น

บาดหลวงตาชาได้รับประทานอาหารเสร็จแล้ว ก็ได้เลยอยู่กับเราตลอดวัน และข้าพเจ้าก็ได้มีโอกาสที่จะพูดกับบาดหลวงตาชาฉะเพาะสองต่อสองได้ บาดหลวงตาชาได้ถามข้าพเจ้าถึงเรื่องการค้าขายหลายข้อ แต่ข้าพเจ้าก็ไม่ยอมขยายความให้บาดหลวงตาชาฟัง เพราะไม่อยากให้บาดหลวงตาชามาเกี่ยวข้องด้วยอีกต่อไป โดยถือเสียว่าเมื่อได้เข้าเฝ้าถวายพระราชสาส์นแล้ว ก็จะได้พูดจาทำความตกลงตรงกับตัวมองซิเออร์คอนซตันซ์เองดีกว่า

ฝ่ายมองซิเออร์เดอลาลูแบก็พยายามที่จะเกลี้ยกล่อมให้บาดหลวงตาชาหายใจแข็งลงบ้าง เพราะบาดหลวงตาชาร้องว่าถ้ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเราก็โทษแต่บาดหลวงตาชาผู้เดียวเท่านั้น เราจึงได้บอกว่าเรามิได้โทษบาดหลวงตาชาอย่างใดเลย แต่บาดหลวงตาชาเองไปคิดเสียว่า การงานทั้งปวงซึ่งเป็นกิจราชการของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้ดำเนินไปอย่างดีแล้ว และถ้ายังมีกองทหารไทยประจำอยู่ที่บางกอกตราบใด เราจะเห็นพ้องกับบาดหลวงตาชาว่าการทั้งปวงได้ดำเนินไปอย่างดีไม่ได้อยู่เอง นอกจากนั้นบาดหลวงตาชาจะทำประการใด ก็แล้วแต่บาดหลวงตาชาจะทำ เพราะต้องรับผิดชอบในส่วนตัวของตัวเอง และข้างฝ่ายเราก็ต้องรับผิดรับชอบในส่วนการงานที่เราได้ทำไปเหมือนกัน ถ้าหากว่าพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสจะพอพระทัยในเรื่องต่าง ๆ ที่ได้เป็นไปแล้ว เราก็จะพลอยมีความยินดีด้วยเป็นอันมาก เพราะเราไม่ได้มุ่งหมายอะไรนอกจากจะทำการให้เป็นที่พอพระทัยของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสเท่านั้น เราจึงได้ขอต่อบาดหลวงตาชาว่าอย่าได้มีความบาดหมางกับเราเลย เพราะถ้าเราได้รู้สึกเสียแต่ชั้นเดิม ว่าความคิดของบาดหลวงตาชาไม่ตรงกับความเห็นของเราแล้ว เราก็คงจะพยายามหาหนทางมิให้บาดหลวงตาชาและตัวเราขัดใจกันได้เป็นอันขาด

บาดหลวงตาชาจึงตอบและพูดซ้ำกับคำเก่าอีกว่า บาดหลวงตาชาทราบได้ดีทีเดียว ว่าพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสและท่านมาควิศเดอ ซเนเลได้ส่งตัวบาดหลวงตาชามาว่าเป็นอย่างไร

เราจึงได้ตอบบาดหลวงตาชาว่า ความจริงเราก็หาได้มีเกียรติยศที่จะได้รับคำสั่งตรงจากพระโอษฐของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสไม่ แต่พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้ให้เจ้าพนักงานมีคำสั่งมายังเรา อันเป็นคำสั่งที่เราได้เข้าใจดีเหมือนกัน เพราะฉะนั้นการที่จะพูดกันไปให้ยืดยาว และที่จะขัดใจบาดหมางกันต่อไปนั้น ไม่เป็นประโยชน์อันใดเลย เพราะทำอย่างไร ๆ ความเห็นของเรากับบาดหลวงตาชาก็แตกต่างกันเสียแล้ว

เวลาค่ำบาดหลวงตาชาได้กลับขึ้นไปที่กรุงศรีอยุธยา ไม่ช้าบาดหลวงตาชาก็ได้กลับลงมาอีกพร้อมกับมองซิเออร์คอนซตันซ์ แต่เราได้ทำความตกลงในใจว่า ในคราวแรกที่จะได้พบปะกับมองซิเออร์คอนซตันซ์นั้น เราจะไม่พูดถึงการงานเลยจนคำเดียว เพราะในน้ำใจของมองซิเออร์คอนซตันซ์และบาดหลวงตาชาก็มีความขุ่นมัวขัดใจเราอยู่แล้ว จึงจำเป็นต้องคิดอ่านลบล้างให้ท่านทั้งสองนี้หายขัดใจเสียก่อน จึงจะพูดถึงการงานต่อไปได้

เมื่อเราได้พบกับมองซิเออร์คอนซตันซ์นั้น ก็ไม่ได้พูดถึงอะไรนอกจากต่างคนต่างแสดงความต้อนรับตามธรรมเนียม และเราได้เอาสุราต่าง ๆ ของประเทศยุโรปและประเทศอินเดียออกมาเลี้ยง ในเวลาที่สนทนากันอยู่นั้น มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้เอ่ยถึงเรื่องซึ่งเราเห็นเป็นการปลาดมาก เรื่องที่ ๑ นั้น มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้กล่าวว่า การที่มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้มาหาเชอวาเลียเดอโชมอง เพื่อทำความตกลงในเรื่องพิธีที่จะเข้าเฝ้าถวายพระราชสาส์นนั้น ก็เพราะเหตุที่เชอวาเลียเดอโชมองได้เชิญมองซิเออร์คอนซตันซ์มาโดยฉะเพาะ แต่ความจริงการชะนิดนี้ก็หาใช่หน้าที่ของมองซิเออร์คอนซตันซ์ไม่ การที่มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้กล่าวเช่นนี้ เราก็เข้าใจได้ดีว่าเป็นการแก้ตัวของมองซิเออร์คอนซตันซ์ เพราะมองซิเออร์คอนซตันซ์มิได้มาหาเราเหมือนที่ได้ไปหาเชอวาเลียเดอโชมอง และที่มองซิเออร์คอนซตันซ์คิดแก้ตัวเช่นนี้ ก็เนื่องจากคำที่เราได้พูดต่อว่าบาดหลวงตาชานั้นเอง

ต่อนั้นมาข้าพเจ้าได้ทราบว่า มองซิเออร์คอนซตันซ์มีความขัดเคืองมองซิเออร์เดอลาลูแบ เพราะได้มีคนเอาเรื่องต่าง ๆ ไปเล่าให้มองซิเออร์คอนซตันซ์ฟัง มองซิเออร์คอนซตันซ์จึงได้ตั้งใจพยายามจะทำให้เราได้รับความราคาญใจที่สุดที่จะทำได้ แต่ความจริงเมื่อแรกเราได้มาถึงเมืองไทยนั้น มองซิเออร์คอนซตันซ์ก็ได้ตั้งใจไว้ว่าจะให้เกียรติยศกับเราทุก ๆ อย่าง แต่ในการที่มองซิเออร์คอนซตันซ์คิดจะรังแกเราเช่นนี้ก็ยังหาหนทางที่จะออกตัวได้ จึงได้เอาชื่อของพระยาพระคลังมาอ้าง เพื่อต่อไปจะได้ซัดพระยาพระคลังได้ แต่ความจริงการที่ราชทูตที่ ๑ ได้มาหาเรานั้น ก็คือมองซิเออร์คอนซตันซ์เองเป็นผู้ที่ให้มา และราชทูตที่ ๑ ก็เอาข้อความที่ได้มาพูดกับเราไปรายงานกับมองซิเออร์คอนซตันซ์ หาใช่พระยาพระคลังใช้ให้มาไม่ ที่จริงมองซิเออร์คอนซตันซ์ไม่ควรจะเข้าใจผิดเลยว่าเราอยากจะทำธุระกับพระยาพระคลัง เพราะเราอยากทำธุระต่าง ๆ ตรงกับมองซิเออร์คอนซตันซ์ดีกว่า และที่จริงในเรื่องพิธีที่จะเข้าเฝ้าถวายพระราชสาส์นนั้น เราก็มิได้ขอร้องอย่างใดเลย และเมื่อราชทูตที่ ๑ ได้มาหาเราโดยอ้างว่าพระยาพระคลังใช้ให้มานั้น เราเป็นแต่ฟังราชทูตที่ ๑ พูดฝ่ายเดียวเท่านั้น กับทั้งการที่เรายอมฟังราชทูตที่ ๑ นั้นก็โดยเราอ้างเหตุว่า ราชทูตที่ ๑ เป็นคนโปรดของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส ในเวลาที่ราชทูตได้ไปเจริญทางพระราชไมตรีในประเทศฝรั่งเศส ดังนี้

เรื่องที่ ๒ ที่มองซิเออร์คอนซตันซ์กล่าวนั้น เป็นเรื่องเกี่ยวแก่ราชทูตของกรุงเปอเซีย ซึ่งได้มาเจริญทางพระราชไมตรีกับเมืองไทย ในเวลาภายหลังที่เชอวาเลียเดอโชมองได้กลับไปประเทศฝรั่งเศสแล้ว ในเรื่องราชทูตกรุงเปอเซียนั้น มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้อ้างถึงพระมหากรุณาของพระเจ้ากรุงสยาม และได้ยกย่องพระเจ้ากรุงสยามจนเหลือที่จะฟังได้ แล้วจึงได้เล่าว่า ก่อนวันที่ราชทูตกรุงเปอเซียจะเข้าเฝ้าเพื่อทูลลานั้น เจ้าพนักงานได้ถามราชทูตตามธรรมเนียมว่า พระเจ้ากรุงสยามมีรับสั่งให้ถามว่า ราชทูตมีกิจที่จะกราบทูลหมดเพียงเท่านี้ หรือจะมีกิจธุระอย่างใดอีกบ้าง ราชทูตเปอเซียได้ตอบว่า หมดกิจไม่มีธุระอะไรอีกแล้ว แต่ครั้นรุ่งขึ้นในเวลาที่ทูตเปอเซียได้เข้าเฝ้า เมื่อพระเจ้ากรุงสยามได้ทรงโยนใบรับพระราชสาส์นของพระเจ้าเปอเซียตามธรรมเนียมพระราชประเพณีแล้ว ราชทูตเปอเซียได้ชักหนังสือเขียนเป็นภาษาไทยออกจากเสื้อฉะบับ ๑ และได้ร้องขอให้เจ้าพนักงานมาอ่านถวายหน้าที่นั่งในเดี๋ยวนั้น หนังสือฉะบับนั้นก็ไม่มีเรื่องอะไรนอกจากเป็นเรื่องกล่าวโทษมองซิเออร์คอนซตันซ์เท่านั้น ในระวางที่เจ้าพนักงานกำลังอ่านหนังสือถวายอยู่นั้น พระเจ้ากรุงสยามก็ทอดพระเนตร์เหลียวไปทางโน้นบ้างทางนี้บ้าง หาได้ทรงฟังหนังสือไม่ จนตลอดเวลาเสด็จขึ้น การที่ราชทูตกรุงเปอเซียถวายหนังสือนั้นก็หาได้เป็นผลอย่างใดไม่

เมื่อมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้เล่าจบเรื่องลงแล้ว พวกเราก็พากันหัวเราะขึ้น แต่หาได้ทำให้รู้สึกไม่ว่าเราเข้าใจดีว่า เหตุใดมองซิเออร์คอนซตันซ์จึงเอาเรื่องนี้มาเล่า ความประสงค์ของมองซิเออร์คอนซตันซ์ที่เอาเรื่องทูตเปอเซียมาเล่านั้น ก็คือเกรงว่าเราจะกราบทูลพระเจ้ากรุงสยามกล่าวโทษในการที่มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ทำกับเราต่าง ๆ จึงได้เอาเรื่องทูตเปอเซียมาเล่า เพื่อเราจะได้ท้อใจจะได้ไม่กราบทูลกล่าวโทษตัวเท่านั้น และที่มองซิเออร์คอนซตันซ์วิตกเช่นนี้ ก็เนื่องจากคำบอกเล่าของบาดหลวงเดอเบซ ซึ่งไปเล่าให้บาดหลวงตาชาฟังว่า เราคิดจะกราบทูลฟ้องต่อพระเจ้ากรุงสยามถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ได้เป็นไปแล้ว แต่ความจริงในเรื่องที่จะกราบทูลฟ้องกล่าวโทษผู้ใดต่อพระเจ้ากรุงสยามนั้น เรามิได้คิดเช่นนั้นเลย แต่เราได้คิดไว้ว่าจะได้ทำหนังสือกราบทูลพระเจ้ากรุงสยามให้ทรงทราบในข้อขัดข้องต่าง ๆ แต่หนังสือนั้นจะได้ยื่นต่อมองซิเออร์คอนซตันซ์ตามแบบธรรมเนียมของทวีปยุโรป ซึ่งเป็นธรรมเนียมที่ผิดกับธรรมเนียมในฝ่ายอินเดีย เพราะในฝ่ายอินเดียนี้ พระเจ้าแผ่นดินเป็นแต่สั่งการกับเสนาบดีด้วยพระโอษฐ์เท่านั้น เพราะฉะนั้นถ้าผลของคำสั่งนั้น ๆ จะเกิดภัยขึ้นแล้ว ความผิดก็ตกหนักอยู่กับเสนาบดีผู้รับคำสั่งนั้นมาปฏิบัติ และความจริงก็ได้มีผู้กราบทูลพระเจ้ากรุงสยาม กล่าวโทษมองซิเออร์คอนซตันซ์อยู่บ่อย ๆ เพราะมองซิเออร์คอนซตันซ์เป็นผู้ที่กลั้นโทษะไม่ใคร่จะได้

เมื่อเช้านี้ราชทูตที่ ๑ ได้กลับมาหาเราอีก และแจ้งว่าพระเจ้ากรุงสยามนายของเขาจะได้โปรดพระราชทานเกียรติยศให้แก่เรา เหมือนกับที่ได้พระราชทานแก่เชอวาเลียเดอโชมองทุกอย่าง และได้พูดต่อไปว่า พระยาพระคลังมีประสงค์จะให้เราเขียนจดหมายอีกฉะบับ ๑ รับรองว่า ถ้าต่อไปในภายหน้าพระเจ้ากรุงสยามจะทรงแต่งทูต (เอนวอยเอกซตราออดีนารี) ไปยังประเทศฝรั่งเศสบ้างแล้ว ข้างฝ่ายพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสจะต้องรับรองและพระราชทานเกียรติยศให้แก่ราชทูตไทย เหมือนกับที่พระเจ้ากรุงสยามได้ พระราชทานเกียรติยศให้แก่ทูตฝรั่งเศสในครั้งนี้เหมือนกัน

การที่ราชทูตที่ ๑ มาพูดเช่นนี้ กระทำให้เรามีความปลาดใจมาก เพราะเราเข้าใจว่าการเรื่องนี้ได้เป็นการตกลงกันตั้งแต่วันวานนี้แล้ว เราจึงได้ตอบราชทูตที่ ๑ ว่า เราเชื่อแน่ว่าเมื่อพระเจ้ากรุงสยามได้รับสั่งไว้ว่าอย่างไร ก็คงจะได้ทรงจัดการให้ได้เป็นไปตามที่ได้รับสั่งไว้นั้น แต่ส่วนหนังสือที่พระยาพระคลังจะต้องการนั้น ไม่จำเป็นจะต้องมีหนังสือก็ได้ เพราะไม่เป็นประโยชน์อันใดเลย โดยเหตุที่พระยาพระคลังได้หนังสือของเราไปไว้ฉะบับ ๑ แล้ว และในหนังสือฉะบับนั้นเราก็ได้ขอร้องให้เราได้รับเกียรติยศเหมือนกับเมื่อครั้งเชอวาเลียเดอโชมอง หนังสือฉะบับนั้นเองเป็นหลักสำหรับการข้างหน้า เพื่อพระเจ้ากรุงสยามจะทรงแต่งทูต (เอนวอยเอกซตราออดีนารี) ไปยังประเทศฝรั่งเศสเวลาใด ข้างฝ่ายทูตไทยก็มีอำนาจที่จะขอร้องให้ได้รับเกียรติยศอย่างทูตได้ทีเดียว เมื่อเราได้อธิบายดังนี้แล้ว ราชทูตที่ ๑ ก็เป็นที่พอใจ จึงได้ลากลับไป

ณวันที่ ๒๘ เดือนตุลาคม เราได้ไปหามองซิเออร์คอนซตันซ์เป็นการส่วนตัวที่กรุงศรีอยุธยา มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ต้อนรับเราอย่างดี และได้เชิญให้เราเข้าไปในห้อง เพราะมองซิเออร์คอนซตันซ์จะต้องการพูดในเรื่องสำคัญกับเรา ในการที่ได้สนทนากันในคราวนี้ บาดหลวงตาชาก็อยู่ด้วย รวมที่ได้นั่งสนทนากันเป็น ๔ คน และเรื่องสำคัญที่มองซิเออร์คอนซตันซ์จะต้องการพูดกับเรานั้น บาดหลวงตาชาก็ได้ทราบเรื่องตลอด แต่ก็หาได้บอกให้เราทราบล่วงหน้าไม่

มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้เอ่ยพูดขึ้นว่า ธรรมดาพระเจ้าแผ่นดินในฝ่ายตะวันออกนั้น ทรงถือนักในเรื่องพิธีจะเข้าเฝ้า และยิ่งในประเทศสยามแล้ว พระเจ้ากรุงสยามทรงถือจัดอย่างที่สุด ก็พวกเราก็ทราบอยู่ทุกคนแล้วว่า ในประเทศยุโรปนั้นได้ขีดขั้นว่า ตำแหน่งราชทูต (แอมบาซาเดอร์) กับตำแหน่งราชทูต (เอนวอยเอกซตราออดีนารี) ต่างกันอย่างไร ในเรื่องนี้พระยาพระคลังก็ได้นำความกราบทูลอธิบายให้พระเจ้ากรุงสยามได้ทรงทราบโดยละเอียดแล้ว เพราะฉะนั้นการที่จะรับรองเราอย่างราชทูตแอมบาซาเดอร์นั้นเป็นการไม่สมควร เพราะเหตุว่าเราหาได้รับตำแหน่งแอมบาซาเดอร์มาไม่

มองซิเออร์คอนซตันซ์นั้นเป็นคนที่พูดจายืดยาดและเป็นคนถือตัวหยิ่งด้วย เพราะฉะนั้นที่พูดกับเราคราวนี้จึงได้พูดโดยยืดยาวและใช้ถ้อยคำที่แรง ๆ มาก และพูดเป็นภาษาปอตุเกตด้วย มองซิเออร์เดอลาลูแบจึงพูดภาษาปอตุเกตตอบมองซิเออร์คอนซตันซ์ว่า

พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้ทรงเป็นพระธุระเอื้อเฟื้อแก่พระเจ้ากรุงสยามหลายอย่างหลายประการมาแล้ว โดยเหตุนี้จึงทรงหวังว่า เราคงจะได้รับเกียรติยศไม่ฉะเพาะแต่เพียงเท่าเทียมเชอวาเลียเดอโชมอง แต่คงจะได้รับเกียรติยศสูงกว่าเชอวาเลียเดอโชมองขึ้นไปอีก ในส่วนที่ว่าตำแหน่งราชทูตแอมบาซาเดอร์กับเอนวอยเอกซตราออดีนารีต่างกันนั้น ก็ต่างกันจริงแต่ฉะเพาะในประเทศยุโรปเท่านั้น และฝ่ายพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสก็เข้าพระทัยได้ดีว่า ธรรมเนียมของทวีปยุโรปในข้อนี้ ยังหาได้ถือกันในฝ่ายประเทศอินเดียไม่ และการที่ได้มีทูตเชิญพระราชสาส์นของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสมานั้น ก็เป็นการเพียงพอที่จะต้องให้ทูตได้รับเกียรติยศทุกประการแล้ว ส่วนราชทูตของพระเจ้ากรุงสยามที่ไปเจริญทางพระราชไมตรีนั้น ก็ได้รับตำแหน่งเป็นราชทูต อันเป็นตำแหน่งซึ่งไม่มีใครรู้จักในประเทศฝรั่งเศสเลย แต่ถึงดังนั้นพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสก็ทรงแปลคำว่าราชทูตอย่างดีที่สุดที่จะแปลได้ เพราะฉะนั้นพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสจึงทรงเชื่อว่า ข้างฝ่ายพระเจ้ากรุงสยามก็คงจะทรงแปลตำแหน่ง เอนวอย ให้อย่างดีที่สุดที่จะแปลได้เหมือนกัน อีกประการ ๑ เมื่อครั้งพระเจ้ากรุงสยามได้ทรงแต่งราชทูตไปยังประเทศฝรั่งเศสนั้น พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสก็ได้ทรงรวมพิธีของฝ่ายอินเดียควบกับพิธีของฝ่ายยุโรป เพื่อพระราชทานเกียรติยศให้แก่ทูตของพระเจ้ากรุงสยาม เพราะฉะนั้นในส่วนที่เราเป็นทูตมาในครั้งนี้ ถ้าพระเจ้ากรุงสยามจะทรงถือแต่ฉะเพาะแบบประเพณีของประเทศยุโรปอย่างเดียวเท่านั้นก็ได้ แต่ถ้าต่อไปในภายหน้าพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสจะทรงรับทูตของพระเจ้ากรุงสยาม โดยถือแต่ฉะเพาะแบบประเพณีของประเทศยุโรปบ้างแล้ว พระเจ้ากรุงสยามก็คงจะไม่มีคำที่จะพูดคัดค้านขึ้นได้ เพราะพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้ทรงรับทูตไทย โดยวิธีเดียวกันกับที่พระเจ้ากรุงสยามได้ทรงรับทูตฝรั่งเศสเหมือนกัน ถ้าพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้ทรงรับทูตของพระเจ้ากรุงสยามอย่างเดียวกับที่ได้เคยรับทูตกรุงสเปน คือว่าในเวลาที่ทูตจะเข้าเฝ้า ก็ให้ทูตเอาพระราชสาส์นใส่มาในกระเป๋าเสื้อ (ความตอนนี้ในต้นฉะบับขาดหายไปหมด)

ในระวางที่มองซิเออร์เดอลาลูแบอธิบายชี้แจงอยู่นั้น มองซิเออร์คอนซตันซ์ก็ได้ทักท้วงคัดค้านกลางคันหลายครั้งหลายหน และได้ใช้วาจาและขึ้นเสียงดังอันไม่ใช่วาจาสุภาพเลย โดยมิได้ถือว่าที่นั่งพูดกันนั้นก็อยู่ในบ้านของตนเอง ซึ่งควรจะทำกิริยาและใช้วาจาต่อแขกให้สุภาพเรียบร้อย การที่มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ใช้กิริยาและวาจาเช่นนี้เรามิได้พอใจเลย เมื่อมองซิเออร์เดอลาลูแบได้พูดจบลงแล้ว ข้าพเจ้าจึงได้พูดต่อท้ายคำของมองซิเออร์เดอลาลูแบว่า

ราชทูตที่ ๑ ได้มาหาเราโดยที่พระยาพระคลังใช้ให้มาพูดแทนพระเจ้ากรุงสยาม เพื่อจะได้มาทำความตกลงถึงพิธีต่าง ๆ ในเวลาที่จะเข้าเฝ้า และราชทูตที่ ๑ ก็ได้บอกกับเราอย่างชัดเจนว่าพระเจ้ากรุงสยามจะได้โปรดพระราชทานเกียรติยศให้แก่เราเหมือนกับที่ได้พระราชทานเชอวาเลียเดอโชมองมาแล้ว และข้อนี้ราชทูตที่ ๑ ได้มาพูดรับรองกับเราถึง ๓ วันติด ๆ กัน จนที่สุดราชทูตที่ ๑ ได้ขอให้เราทำหนังสือให้ยึดไว้เป็นหลักฉะบับ ๑ และเราก็ได้เขียนหนังสือให้ตามความประสงค์ของราชทูตที่ ๑ แล้ว

มองซิเออร์คอนซตันซ์จึงได้ตอบด้วยเสียงเบาลงกว่าเก่าว่า (ความตอนนี้ในต้นฉะบับเขียนเปนภาษาปอตุเกต)

การที่เราจะได้เข้าเฝ้าหรือไม่ได้เข้าเฝ้าพระเจ้ากรุงสยามนั้นไม่เป็นปัญหาเสียแล้ว เพราะเราได้ขึ้นมาถึงตำบลซึ่งตามปกติเป็นตำบลที่พักสำหรับเตรียมจะเข้าเฝ้า และเราก็ได้มาถึงตำบลนี้หลายวันมาแล้ว เพราะฉะนั้นการที่มองซิเออร์คอนซตันซ์มาพูดจากับเราดังนี้ จึงทำให้เราเห็นได้ชัดว่า มองซิเออร์คอนซตันซ์ไม่ได้มุ่งหมายอะไรนอกจากจะทำให้เรารำคาญดังบาดหลวงตาชาได้พูดไว้เท่านั้น อีกประการ ๑ คำพูดของมองซิเออร์คอนซตันซ์นั้นก็ได้อ้างว่าพูดในนามของพระยาพระคลังทุกเรื่องไป แต่ความจริงก็เป็นคำของมองซิเออร์คอนซตันซ์เองทั้งสิ้น พระยาพระคลังมิได้รู้ได้เห็นด้วยเลย เพราะพระยาพระคลังมีตำแหน่งหน้าที่ในเมืองไทย เท่ากับเป็นหุ่นตัวหนึ่งเท่านั้น จนที่สุดหนังสือของมองเซนเยอร์เดอครัวซีที่มีมาถึงพระยาพระคลังนั้น มองซิเออร์คอนซตันซ์ก็ไม่ยอมให้เราส่งหนังสือฉะบับนั้นให้แก่พระยาพระคลังเสียซ้ำไป เพราะฉะนั้นการที่มองซิเออร์คอนซตันซ์รับอาสาจะเป็นคนกลางในระวางเรากับพระยาพระคลังนั้นก็เป็นอุบาย มองซิเออร์เดอลาลูแบจึงตอบมองซิเออร์คอนซตันซ์ว่า ถ้าเราจะต้องการหาคนกลางเมื่อไร เราจึงจะมาหามองซิเออร์คอนซตันซ์เมื่อนั้น แต่ในเรื่องนี้เรายังหาต้องการคนกลางไม่ เพราะพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้รับสั่งห้ามมิให้เรามาโต้เถียงในเรื่องนี้เป็นอันขาด แต่ถ้าหากว่าจะเกิดการขัดข้องขึ้นอย่างใดแล้ว ก็ให้เรานำความกราบทูลต่อพระเจ้ากรุงสยาม แล้วแต่พระเจ้ากรุงสยามจะโปรดกรุณาสถานใดเป็นแล้วกัน

บาดหลวงตาชาซึ่งได้นั่งนิ่งอยู่ไม่ได้พูดเลยจนคำเดียวตั้งแต่ต้นมา จึงได้ค้านขึ้นว่า ถ้าท่านได้รับกระแสรับสั่งมาเช่นนั้นแล้ว เหตุใดท่านจึงขอให้ได้รับเกียรติยศเท่าเทียมกับเชอวาเลียเดอโชมองเล่า

มองซิเออร์เดอลาลูแบจึงได้ตอบบาดหลวงตาชาว่า เพราะเหตุว่าเราได้รับคำสั่งมาให้ขอร้องเช่นนั้น แต่ถ้าจะมีการขัดข้องเกิดขึ้นแล้ว ก็อย่าให้เราโต้เถียงหรือพูดจาเกลี่ยไกล่อย่างใด แต่ให้เรานำความกราบทูลต่อพระเจ้ากรุงสยาม แล้วแต่พระเจ้ากรุงสยามจะโปรดสถานใด เพราะพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสทรงเชื่อพระทัยว่า คงจะไม่มีใครกรุณาเรายิ่งกว่าพระเจ้ากรุงสยามเป็นแน่

การที่มองซิเออร์เดอลาลูแบได้ตอบไปเช่นนี้ ก็โดยยังมิได้ทันปรึกษาหารือกับข้าพเจ้าอย่างใดเลย และถ้ามองซิเออร์เดอลาลูแบได้คาดว่าการเรื่องนี้จะได้มาพูดจาโต้เถียงกันแล้ว ก็คงจะเอาเรื่องนี้มาปรึกษาหารือกับข้าพเจ้าเสียก่อนเป็นแน่ และถ้ามองซิเออร์เดอลาลูแบได้มาหารือข้าพเจ้าแล้ว ข้าพเจ้าก็คงจะต้องแนะนำห้ามมิให้มองซิเออร์เดอลาลูแบตอบเช่นนี้ เพราะข้าพเจ้าทราบอยู่เต็มใจว่า คนไทยมิได้รู้จักเลยว่าการกระทำกิริยาอ่อนน้อมสุภาพซึ่งกันและกันนั้นเป็นอย่างไร ไปเข้าใจเสียว่าใครอ่อนน้อมเข้าหาแล้วก็เพราะความเกรงกลัว และฝ่ายมองซิเออร์คอนซตันซ์ก็กลายเป็นนิสสัยข้างฝ่ายไทยเสียด้วย จึงเป็นการจำเป็นที่เราจะต้องยืนในเรื่องนี้ไว้ให้แข็งจะหย่อนให้ไม่ได้เลยจนนิดเดียว เพราะเหตุว่าตั้งแต่ต้นมาไทยก็ได้จัดรับเราอย่างตำแหน่งแอมบาซาเดอร์แล้ว และวิธีรับรองกันเช่นนี้ในฝ่ายทิศตวันออกถือกันว่าเป็นการใหญ่และสำคัญมาก เพราะฉะนั้นถ้าได้ลดหย่อนพิธีรับรองแม้แต่เล็กน้อยแล้ว ก็จะเป็นการกระทำให้ชาวยุโรปซึ่งอยู่ในอินเดียได้ดูถูกชาติฝรั่งเศส และในเรื่องนี้เมื่อครั้งเชอวาเลียเดอโชมอง ก็ได้เคยเป็นตัวอย่างมาแล้วด้วย อนึ่งข้าพเจ้าก็ทราบอยู่ว่าพระเจ้ากรุงสยามก็มีพระราชประสงค์จะให้เราเข้าเฝ้าเสียโดยเร็ว ถ้าเราได้ถือตามคำเดิมซึ่งเขาได้มาพูดกับเราแทนพระเจ้ากรุงสยามแล้ว มองซิเออร์คอนซตันซ์ก็คงจะขัดขวางไว้ไม่ได้ และเราก็คงจะได้ตามความต้องการของเราทุกอย่าง เพราะพระเจ้ากรุงสยามก็ได้มีพระราชดำรัสสั่งมองซิเออร์คอนซตันซ์ไว้แล้วว่า ถ้าเราจะต้องการอย่างไรก็ให้ยอมเราทุกอย่าง แต่ตามที่มองซิเออร์เดอลาลูแบได้พูดโต้ตอบกับมองซิเออร์คอนซตันซ์นั้น ก็ได้ทำให้มองซิเออร์คอนซตันซ์หนักใจอยู่บ้าง จึงได้คิดอุบายทำเป็นรับอาสาว่าจะเป็นคนกลางเกลี่ยไกล่ให้ระวางเรากับพระยาพระคลัง และการที่จะมาเป็นกลางให้นั้น ก็กลับจะยกบุญยอคุณว่าเพราะมีความกรุณาแก่เราเสียซ้ำไป เมื่อเราไม่ยอมให้มองซิเออร์คอนซตันซ์เป็นคนกลางนั้น มองซิเออร์คอนซตันซ์ก็ได้ต่อว่าเราหลายครั้งหลายหน เราก็ได้ตอบมองซิเออร์คอนซตันซ์ทุกครั้งว่า ถ้าเราจะต้องการให้มีคนกลางเมื่อใด เราจะยินดีนักหนาที่จะได้เชิญให้มองซิเออร์คอนซตันซ์เป็นคนกลาง แต่ในครั้งนี้ยังหามีข้อใดที่เป็นข้อโต้เถียงกันไม่ จึงยังไม่จำเป็นจะต้องมีคนกลางสำหรับเกลี่ยไกล่ เพราะตามกระแสรับสั่งของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสนั้น เราก็จะได้นำเรื่องนี้กราบทูลพระมหากรุณาต่อพระเจ้ากรุงสยามอยู่แล้ว เพราะเราเชื่อใจได้แน่ว่าพระเจ้ากรุงสยามคงจะทรงพระกรุณารับรองเราให้สมพระราชประสงค์ของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสทุกอย่าง และที่เราเชื่อใจเช่นนี้ก็เพราะเหตุว่าเมื่อครั้งราชทูตไทยได้ไปยังประเทศฝรั่งเศส ราชทูตก็ได้มอบการรับรองทั้งปวงแล้วแต่พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสจะทรงโปรด พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสจึงได้ทรงรับรองราชทูตสยามเป็นอย่างดีดังนี้ แต่มองซิเออร์คอนซตันซ์ก็ยังขืนยั่วเย้าเราไม่หยุดเลย เราจึงได้ลุกขึ้นเพื่อจะลากลับไป และได้พูดว่าเวลานี้ดูเหมือนจะเป็นเวลาที่มองซิเออร์คอนซตันซ์เคยเข้าเฝ้าอยู่แล้ว มองซิเออร์คอนซตันซ์จึงได้ขอให้บาดหลวงตาชาเชิญให้เราอยู่รับประทานอาหารที่บ้านมองซิเออร์คอนซตันซ์ก่อน เพราะมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้พูดว่าไม่กล้าออกปากเชิญเราเอง เราเห็นว่าเวลานั้นเป็นเวลาหัวต่อเราจะเล่นตัวยังไม่ได้ ถ้าจะไม่รับเชิญก็ดูจะไม่สู้เหมาะ เราจึงได้รับคำเชิญของบาดหลวงตาชา ได้เดินออกไปจากห้องเขียนหนังสือของมองซิเออร์คอนซตันซ์ เข้าไปในห้องใหญ่อีกห้องหนึ่ง ในห้องใหญ่นี้ได้พบพวกนายทหารฝรั่งเศสหลายคน ซึ่งเวลานั้นขึ้นมาอยู่ที่กรุงศรีอยุธยารอคอยอยู่ มองซิเออร์คอนซตันซ์จึงได้สั่งบาดหลวงตาชาด้วยเสียงอันดัง ให้บาดหลวงตาชาเข้าไปที่ครัวและสั่งให้เขายกอาหารมาให้รับประทาน ครั้นบาดหลวงตาชาได้กลับมาจากครัวแล้ว มองซิเออร์คอนซตันซ์ก็เอ่ยพูดถึงเรื่องต่าง ๆ แล้วได้พูดว่าเชอวาเลียเดอโชมองได้เอาเรื่องต่าง ๆ พิมพ์ลงในรายงานหลายอย่าง มองซิเออร์เดอลาลูแบจึงได้ตอบมองซิเออร์คอนซตันซ์ว่า เรื่องที่เกี่ยวด้วยการที่เชอวาเลียเดอโชมองได้มาเจรจาการบ้านเมืองนั้น เชอวาเลียเดอโชมองมิได้จดลงในรายงานที่ออกเป็นตัวพิมพ์จนสักข้อเดียวเลย หรือมิได้กล่าวถึงการที่มาเจรจานั้นเลยจนคำเดียว เป็นแต่ได้จดในรายงานว่าเชอวาเลียเดอโชมองได้กราบทูลความลับต่อพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสหลายเรื่องเท่านั้น

ในทันใดนั้นบาดหลวงตาชาก็เอาเท้าเหยียบเท้ามองซิเออร์คอนซตันซ์เป็นเครื่องอาณัติสัญญา เพื่อเตือนมิให้มองซิเออร์คอนซตันซ์ลืมตัว มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้รู้สึกตัว ก็เปลี่ยนพูดถึงเรื่องอื่นทันที

ในคืนวันนั้นเองมองซิเออร์เดอลาลูแบได้พูดกับข้าพเจ้าว่า ไม่ต้องสงสัยแล้วว่าบาดหลวงตาชาคงได้เอารายงานของเชอวาเลียเดอโชมอง ซึ่งได้ยื่นไว้กับมาควิศเดอเซเนเลนั้น ส่งให้กับมองซิเออร์คอนซตันซ์เสียแล้ว เพราะรายงานฉะบับนี้มองซิเออร์เดอลาลูแบได้แจ้งกับข้าพเจ้าว่า ได้มอบไปกับบาดหลวงตาชาเมื่อยังอยู่บนเรือลัวโซ และได้มอบไว้ให้กับบาดหลวงตาชาก่อนที่บาดหลวงตาชาจะลงเรือไปกรุงศรีอยุธยา แต่การที่มองซิเออร์เดอลาลูแบได้เอารายงานของเชอวาเลียเดอโชมองมอบหมายไว้กับบาดหลวงตาชาเช่นนี้ เป็นการที่ข้าพเจ้ามิได้รู้ได้เห็นด้วยเลย และตัวมองซิเออร์เดอลาลูแบเองก็ออกจะเสียใจที่ได้ทำเช่นนี้ จึงได้พูดกับข้าพเจ้าว่า ทำอย่างไร ๆ ก็จะต้องเอารายงานฉะบับนี้คืนจากบาดหลวงตาชาให้จงได้ เพราะรายงานฉะบับนี้เป็นต้นฉะบับที่มาควิศเดอเซเนเลได้มอบไว้กับมองซิเออร์เดอลาลูแบ

ในระวางที่รับประทานอาหารอยู่นั้น ก็ต่างคนต่างสนทนากันเฮฮาสนุกสนานครึกครื้นทั่วหน้ากัน และมองซิเออร์คอนซตันซ์ก็ได้พูดจาเยาะเย้ยล้อเชอวาเลียเดอโชมองว่า เชอวาเลียเดอโชมองไม่ยอมฟังเสียงใครเลย เมื่อใครจะแนะนำออกความเห็นว่าอย่างไร เชอวาเลียเดอโชมองก็คอยคัดค้านขัดข้องไปเสียทุกเรื่อง เพราะเชอวาเลียเดอโชมองมิได้มุ่งหมายอย่างใด นอกจากคิดจะชักชวนเชิญให้พระเจ้ากรุงสยามได้ทรงเข้ารีดอย่างเดียวเท่านั้น

มองซิเออร์เดอลาลูแบคันปากเต็มที จึงได้พูดขึ้นว่า “จริงนะเป็นการน่าขันมากว่าเหตุใดเชอวาเลียเดอโชมองจึงได้อุดหูของตัวเองเสียเช่นนี้”

มองซิเออร์คอนซตันซ์จึงได้ตอบมองซิเออร์เดอลาลูแบว่า “สิ่งที่ท่านติเตียนเชอวาเลียเดอโชมองนั้น เป็นสิ่งที่ท่านเองก็ประพฤติอยู่เหมือนกัน แต่ท่านก็อ้างแต่คำสั่งอย่างเดียวเท่านั้น”

มองซิเออร์เดอลาลูแบจึงได้ตอบว่า “ข้าพเจ้ามิได้ติเตียนเชอวาเลียเดอโชมองอย่างใดเลย เพราะเชอวาเลียเดอโชมองก็ได้ทำการตามคำสั่งของตัวเท่านั้น แต่ส่วนตัวข้าพเจ้าเองก็ไม่ยอมฟังคำแนะนำของใครเหมือนกัน”

ในการที่ข้าพเจ้าได้มาพบปะกับมองซิเออร์คอนซตันซ์ในคราวนี้และเมื่อคราวมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ไปหาเราที่ด่านภาษีนั้น ได้ทำให้ข้าพเจ้ารู้จักนิสสัยมองซิเออร์คอนซตันซ์ว่าเป็นคนช่างพูด และมองซิเออร์คอนซตันซ์ก็พูดถึงเรื่องต่าง ๆ อย่างคล่องแคล่ว และมิได้พูดระวังตัวอย่างใดเลย ซึ่งเป็นการกระทำให้รู้จักนิสสัยได้ง่ายขึ้น เพราะฉะนั้นข้าพเจ้าจึงได้ตกลงใจว่าจะแกล้งพูดกับมองซิเออร์คอนซตันซ์ให้น้อยที่สุด เพื่อจะได้เป็นโอกาสให้มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้พูดข้างเดียว ข้าพเจ้าจะได้คอยสังเกตนิสสัยและจะได้คอยดูว่ามองซิเออร์คอนซตันซ์จะมีสติปัญญาเพียงไร ทั้งจะได้รู้ด้วยว่ามองซิเออร์คอนซตันซ์จะชอบหรือเกลียดพวกฝรั่งเศสอย่างไร และมองซิเออร์คอนซตันซ์จะมีความคิดความอ่านในเรื่องฝรั่งเศสอย่างไรด้วย การที่ข้าพเจ้าได้คอยสังเกตนิสสัยของมองซิเออร์คอนซตันซ์นั้นก็ได้สมความปรารถนาทุกอย่าง

เมื่อได้รับประทานอาหารกันเสร็จแล้ว มองซิเออร์เดอลาลูแบได้หาโอกาสพูดกับมองซิเออร์คอนซตันซ์ว่า

“เมื่อพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสกำลังมีพระราชธุระมากที่จะทรงพระราชดำริทำสงครามกับข้าศึกซึ่งมีกำลังมากนั้น หาได้ทรงรู้สึกไม่ว่าในโลกนี้จะมีพระเจ้าแผ่นดินสยามเลย”

มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ตอบว่า

“ข้อนี้ข้าพเจ้าเชื่อว่าจริง และในทวีปยุโรปนั้น ก็คงยังมีพระเจ้าแผ่นดินอีกหลายองค์ ที่ไม่เคยได้ยินพระนามของพระเจ้ากรุงสยามเลย”

มองซิเออร์เดอลาลูแบจึงพูดต่อไปว่า

“เพราะฉะนั้นเมื่อพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้ทรงทราบว่า ข่าวเล่าลือถึงเรื่องที่พระองค์ได้ทรงมีชัยชะนะในการทัพศึก ได้เล่าลือมาถึงประเทศอันพระองค์ไม่เคยได้ทรงรู้จักชื่อเลยนั้น จึงกระทำให้พระองค์มีความปีติยินดีนัก แต่ในขณะนั้นเองพระองค์ก็ทรงเสียพระทัยที่สุดที่ได้ทรงทราบว่า ราชทูตที่พระเจ้ากรุงสยามได้ทรงแต่งออกไปนั้น ได้ไปตายเสียในคราวที่เรือโซเลดอริอังได้ถูกอัปปาง ตั้งแต่นั้นมาพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสก็ทรงพระราชดำริจะแต่งทูตให้ออกมาเจริญทางพระราชไมตรีกับราชสำนักไทย ครั้นมองซิเออร์วาเชได้ไปกราบทูลว่ามีเหตุผลควรจะหวังได้ว่า พระเจ้ากรุงสยามคงจะทรงเข้ารีด พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสจึงได้ทรงรีบแต่งให้เชอวาเลียเดอโชมองเป็นทูตออกมายังเมืองไทย และได้ทรงสั่งเชอวาเลียเดอโชมองให้มาจัดการต่าง ๆ อันเห็นได้แน่ชัดว่า การนั้น ๆ มิได้เป็นประโยชน์ในส่วนพระองค์พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสเลย จนที่สุดพระเจ้ากรุงสยามทรงรู้สึก จึงได้รับสั่งหลายครั้งว่า การที่พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้เป็นไมตรีด้วยนั้น เป็นการที่พระเจ้ากรุงสยามทรงยินดียิ่งนัก”

มองซิเออร์คอนซตันซ์จึงได้ตอบว่า

(ความตอนนี้และคำตอบของมองซิเออร์เดอลาลูแบ ในต้นฉะบับเขียนเป็นภาษาปอตุเกต)

เมื่อมองซิเออร์เดอลาลูแบได้พูดเช่นนี้แล้ว มองซิเออร์คอนซตันซ์ก็หาได้ตอบประการใดไม่

ต่อนี้ไปได้สนทนากันถึงเรื่องพวกบาดหลวงเยซวิดได้ถูกขับไล่ออกจากประเทศตังเกี๋ยและประเทศญวนว่า พวกบาดหลวงเยซวิดจะมีข้อที่จะฟ้องร้องอย่างไรได้บ้างหรือไม่ และได้สนทนาถึงความประพฤติของพวกมิชันนารีบางคน ซึ่งมองซิเออร์ตอนซตันซ์ขอให้เรารับเป็นธุระไปจัดการให้เรียบร้อย และมองซิเออร์คอนซตันซ์กับบาดหลวงตาชาก็ได้รับรองว่า ในเรื่องนี้จะได้เล่าเรื่องให้เราฟังอย่างละเอียดต่อไป เพราะฉะนั้นในเวลานั้นเราจึงยังไม่รับรองที่จะช่วยเป็นธุระในเรื่องนี้ เพราะเราจะรอฟังเรื่องให้ละเอียดเสียก่อน ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่เห็นมองซิเออร์คอนซตันซ์หรือบาดหลวงตาชาเอาเรื่องพวกมิชันนารีมาพูดกับเราอีกเลย แต่ในเวลาที่สนทนากันอยู่นั้นทั้งมองซิเออร์คอนซตันซ์และบาดหลวงตาชาได้พูดพอให้เราจับเรื่องได้ว่า ข้อที่กล่าวโทษพวกมิชันนารีในเรื่องต่าง ๆ นั้น เป็นหัวใจสำหรับให้มองซิเออร์คอนซตันซ์ล่อให้บาดหลวงตาชาได้เป็นพรรคพวกของมองซิเออร์คอนซตันซ์นั้นเอง

ณวันที่ ๒๙ เดือนตุลาคม ได้มีพวกหัวหน้าของชนประเทศต่างๆ ซึ่งอยู่ในกรุงศรีอยุธยา ได้มาหาเราเป็นการต้อนรับ มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้บอกกับเราว่าในกรุงศรีอยุธยามีชนชาติต่าง ๆ อยู่ถึง ๔๐ ชาติ แต่เราได้นับพวกหัวหน้าที่มาหาเรานั้นก็นับได้เพียง ๒๐ ชาติเท่านั้น และพวกทหารปืนใหญ่ของพระเจ้ากรุงสยามก็นับว่าเป็นชาติ ๑ ด้วย เพราะเหตุว่าพวกนี้เป็นพวกโมกูล

ในวันนี้เองบาดหลวงตาชาได้มาหาเรา มองซิเออร์เดอลาลูแบจึงขอให้บาดหลวงตาชาคืนต้นรายงานของเชอวาเลียเดอโชมอง บาดหลวงตาชาก็รับว่าจะคืนให้ และได้พูดต่อไปว่ามองซิเออร์คอนซตันซ์มีความเสียใจมาก ในการที่เราไม่ยอมรับให้มองซิเออร์คอนซตันซ์เป็นคนกลาง สำหรับเกลี่ยไกล่ในเรื่องพิธีที่เราจะเข้าเฝ้าว่าจะตกลงกันอย่างไรแน่

ในวันนั้นข้าพเจ้ามีโอกาสได้สนทนากับบาดหลวงตาชาอย่างยืดยาว บาดหลวงตาชาได้พยายามนักหนาที่จะให้เรายอมในเรื่องการรับรองให้ต่างกันกับเมื่อครั้งเชอวาเลียเดอโชมอง และบอกว่าถ้าเราได้ยอมเสียแล้ว พระเจ้ากรุงสยามก็คงจะโปรดพระราชทานเกียรติยศเพิ่มให้เราบ้าง และการที่บาดหลวงตาชาได้พยายามชี้แจงแก่ข้าพเจ้านั้น ก็ได้ยกเหตุผลต่าง ๆ มาอ้างทุก ๆ อย่าง ข้าพเจ้าก็มิได้ตอบบาดหลวงตาชาว่าอย่างไร เป็นแต่ตอบว่า ทำอย่างไร ๆ เราก็จะยอมไม่ได้ ถึงจะพูดกันสักเท่าไร หรือจะมีคนกลางมาเกลี่ยไกล่อย่างไร เราจะยอมลดเกียรติยศให้น้อยกว่าเชอวาเลียเดอโชมองไม่ได้เป็นอันขาด เรายอมได้แต่ทำให้ตามคำสั่งของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสอย่างเดียวเท่านั้น

บาดหลวงตาชาคิดจะให้ข้าพเจ้าตกใจ จึงได้พูดว่า “ก็ถ้าพระเจ้ากรุงสยามจะให้ท่านเข้าเฝ้าโดยมีพิธีอย่างต่ำอันไม่สมเกียรติยศของท่านแล้ว ท่านจะทำอย่างไรเล่า”

ข้าพเจ้าจึงได้ตอบว่า “ถ้าฉะนั้น เราก็ไม่ยอมเข้าเฝ้าเท่านั้นเอง แต่อย่างไรก็ตาม ข้าพเจ้าเชื่อไม่ได้เป็นอันขาดว่า พระเจ้ากรุงสยามจะทำกับเราได้เช่นนั้น เพราะได้ทรงรับรองเป็นเด็ดขาดแล้วว่า จะได้พระราชทานเกียรติยศแก่เราให้เสมอเท่ากับที่ได้พระราชทานเชอวาเลียเดอโชมอง ไหนเลยจะมาทรงกลับคำเสียเช่นนี้เล่า อีกประการ ๑ ข้าพเจ้าไม่ต้องการขัดคอมองซิเออร์เดอลาลูแบ ซึ่งได้พูดไว้ว่าในการรับรองจะควรอย่างไรก็แล้วแต่พระเจ้ากรุงสยามจะทรงพระกรุณานั้น เพราะที่มองซิเออร์เดอลาลูแบได้พูดเช่นนี้ ก็คงจะมีเหตุผลพอ แต่ถ้ามองซิเออร์เดอลาลูแบได้มีเวลามาปรึกษากับข้าพเจ้าเสียก่อนแล้ว ข้าพเจ้าก็คงจะได้แนะนำมิให้มองซิเออร์เดอลาลูแบไปรับปากเช่นนั้นเลย ถึงแม้ว่าพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสจะได้สั่งไว้เช่นนั้นก็จริงอยู่ แต่ข้าพเจ้าก็คงจะไม่ยอมให้มองซิเออร์เดอลาลูแบไปรับรองเช่นนั้น เพราะเหตุว่าพระเจ้ากรุงสยามได้รับสั่งเป็นเด็ดขาดแล้ว และการทั้งปวงก็คงได้ดำเนินไปตามรับสั่ง ถ้ามิฉะนั้นข้าพเจ้าก็จะไม่ยอมเข้าเฝ้าเลยเป็นอันขาด”

บาดหลวงตาชาจึงได้ตอบข้าพเจ้าว่า “ไม่เข้าใจเลยว่าราชทูตที่ ๑ ได้เอาอะไรมารับปากกับท่านดังนี้ หรือบางทีล่ามจะแปลความผิดกระมัง”

ข้าพเจ้าจึงได้ตอบว่า “ในเรื่องนี้ข้าพเจ้าได้ให้ล่ามแปลทบทวนหลายครั้ง จนเป็นอันเข้าใจกันดีแล้ว และเพื่อจะให้ท่านหายสงสัย ก็ขอให้ท่านเรียกล่ามมาถามในเวลาข้าพเจ้าไม่อยู่ก็ได้”

บาดหลวงตาชาได้ฟังข้าพเจ้าพูดก็เห็นชอบด้วย จึงได้ให้คนไปตามล่ามมา และในเวลาที่บาดหลวงตาชาพูดอยู่กับล่ามนั้น ข้าพเจ้าก็ออกไปเสียนอกห้อง อีกสักครู่หนึ่งบาดหลวงตาชาก็ออกมาหาข้าพเจ้า บอกว่าล่ามได้พูดอย่างเดียวกับข้าพเจ้า และได้ยืนยันตามที่ข้าพเจ้าได้พูดทุกอย่าง บาดหลวงตาชาจึงได้แสดงความปลาดใจว่า ไม่เข้าใจเลยว่าเหตุใดราชทูตที่ ๑ จึงได้มาพูดผิดอันผิดด้วยคำสั่งเช่นนี้ แต่อย่างไรก็ดี ถึงบาดหลวงตาชาจะกล่าวว่าราชทูตที่ ๑ ได้ทำความผิดก็จริง แต่ก็ไม่เห็นว่าราชทูตที่ ๑ หรือล่ามต้องรับโทษอย่างใดเลย

ณวันที่ ๓๐ เดือนตุลาคม ราชทูตที่ ๑ ได้มาหาเรา บอกว่าในการรับรองและพิธีเข้าเฝ้าของเชอวาเลียเดอโชมองมีอย่างไรนั้น พระเจ้ากรุงสยามจะโปรดให้เราได้รับเหมือนเชอวาเลียเดอโชมองทุกอย่าง ผิดกันแต่ข้อเดียว คือว่า ในเวลาที่เราจะกราบทูลต่อพระเจ้ากรุงสยามนั้น ขอให้เราถอดหมวกเสียเท่านั้น นอกจากนี้ เราจะนั่งกราบทูลก็ได้ และเกียรติยศต่าง ๆ ได้พระราชทานแก่เชอวาเลียเดอโชมองอย่างไร ก็จะโปรดพระราชทานให้แก่เราเหมือนกันทุกอย่าง แต่ขอให้เราทำหนังสือรับรองไว้ว่า ถ้าพระเจ้ากรุงสยามจะได้โปรดแต่งทูตเอนวอยเอกซตราออดีนารีไปยังประเทศฝรั่งเศสบ้างแล้ว ทูตนั้น ๆ จะได้รับเกียรติยศเหมือนกับเมื่อครั้งรับราชทูตไทยทุกอย่าง ซึ่งราชทูตที่ ๑ มาขอให้เราทำหนังสือรับรองเช่นนี้ เราก็หายอมทำให้ไม่ โดยเราอ้างเหตุว่าเราไม่มีอำนาจที่จะรับรองเช่นนั้นได้ ราชทูตที่ ๑ จึงตอบว่า “ถ้าฉะนั้นท่านจะทำหนังสือบอกว่า ท่านเชื่อว่าข้างฝ่ายฝรั่งเศสคงจะรับรองเช่นนั้นได้ไหมเล่า” เราจึงได้ตอบว่า “ได้ แต่ท่านจะต้องรับรองว่า ใจความในหนังสือเพียงเท่าว่านี้เป็นอันพอแล้ว” ฝ่ายเราจะต้องการให้ราชทูตที่ ๑ ได้จดจำถ้อยคำต่าง ๆ ที่พูดกันไว้ และให้เขียนไว้เป็นลายลักษณอักษร เราจึงได้ให้ล่ามเขียนถ้อยคำที่เราได้โต้ตอบนั้นไว้เป็นภาษาไทย

ในวันนั้นเอง ตอนเย็นบาดหลวงตาชาได้มาหาเราพร้อมด้วยราชทูตที่ ๑ เพื่อมาถามว่าหนังสือที่เราได้รับไว้ว่าจะเขียนให้ในตอนเช้านั้นจะเป็นหนังสืออะไรแน่ แต่ครั้นบาดหลวงตาชาได้เห็นว่าหนังสือรับรองของเรา ไม่ได้เป็นคำมั่นสัญญาที่เป็นหลักฐานอย่างใด บาดหลวงตาชาก็ไม่ยอมรับหนังสือนั้นไป และได้บอกเราว่าพระเจ้ากรุงสยามได้ทรงตกลงว่าในเวลาที่เรากราบทูลต่อพระองค์นั้น เราจะต้องถอดหมวกออกเสีย

เราจึงได้ถามขึ้นว่า “การที่เราได้ชี้แจงไว้เมื่อเช้านั้น ท่านได้เอาไปตรึกตรองดีแล้วหรือ”

บาดหลวงตาชาได้ตอบว่า “ได้ตรึกตรองดีแล้ว แต่เราหาฟังเป็นอารมณ์ไม่”

เราจึงได้ขอให้ราชทูตที่ ๑ คืนหนังสือของเราที่ได้เขียนไว้เมื่อวันที่ ๒๖ ราชทูตที่ ๑ ก็รับว่าจะคืนให้ แต่บาดหลวงตาชาก่อนที่จะลาไปนั้น ได้อ้อนวอนขออย่าให้เราเรียกหนังสือฉะบับนั้นคืนเลยแต่เราก็หาฟังไม่ ในตอนเช้านั้นเราได้พูดไว้ว่า ในเวลาที่เราจะเข้าเฝ้านั้น ถ้าเราไม่ได้รับเกียรติยศอย่างราชทูตแอมบาซาเดอร์แล้ว เราจะไม่ยอมพาพวกผู้ดีฝรั่งเศสเข้าไปเฝ้าเลยเป็นอันขาด การที่เราได้พูดเช่นนี้ บาดหลวงตาชาไม่พอใจเลย เพราะบาดหลวงตาชาเป็นผู้ที่ได้มาขอร้องแทนมองซิเออร์คอนซตันซ์ ให้เราพาผู้ดีฝรั่งเศสไปด้วย ๓๐ คน บาดหลวงตาชาจึงได้พูดว่า การที่เราทำเช่นนี้ ก็เท่ากับไม่ยอมรับสิ่งที่เชอวาเลียเดอโชมองต้องการนัก

ครั้นในตอนค่ำ เมื่อบาดหลวงตาชาได้กลับขึ้นไปกรุงศรีอยุธยาแล้ว มองซิเออร์ดูบรูอังได้ลงมาจากกรุงศรีอยุทธยาและได้มาหาเรา จึงได้เล่าให้เราฟังว่า มองซิเออร์คอนซตันซ์มีความโกรธเคืองมาก ในการที่เราไม่ยอมให้มองซิเออร์คอนซตันซ์เป็นคนกลางในระวางเรากับพระยาพระคลัง และที่เราได้พูดไว้ว่า ถ้าเราจะต้องการคนกลางเมื่อใดเราก็จะได้เชิญให้มองซิเออร์คอนซตันซ์เป็นคนกลาง นั้น หาเป็นการพอใจมองซิเออร์คอนซตันซ์ไม่ เพราะมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้อวดอ้างว่า ถ้ามองซิเออร์คอนซตันซ์ได้เป็นธุระในเรื่องนี้แล้ว ก็จะได้ช่วยเราอย่างแข็งแรงทีเดียว และในเรื่องนี้มองซิเออร์คอนซตันซ์ก็ได้เที่ยวเล่าให้พวกนายทหารฟัง พวกนายทหารจึงมีความเสียใจนักที่จะไม่ได้เข้าเฝ้าพระเจ้ากรุงสยาม

เราจึงได้ขอให้มองซิเออร์ดูบรูอัง ไปบอกบรรดาพวกนายทหารเหล่านั้นให้ทราบความที่เป็นจริง เพื่อเขาจะหายเข้าใจผิด และเราได้ขอให้มองซิเออร์ดูบรูอังรีบกลับขึ้นไปกรุงศรีอยุธยา ไปหามองซิเออร์คอนซตันซ์ด้วยตัวเอง และให้ไปชี้แจงให้มองซิเออร์คอนซตันซ์เข้าใจว่า เวลานี้เป็นโอกาสอันเหมาะที่สุด สำหรับแก้ไขข้อเสียหายให้ดีขึ้น เพราะมองซิเออร์คอนซตันซ์เป็นผู้หาว่า การที่ได้เสียหายไปนั้น ก็เพราะเราเป็นผู้ทำให้เสียหายขึ้น

เมื่อวันที่ ๓๑ เดือนตุลาคม มองซิเออร์เดอลาลูแบได้มาขอให้ข้าพเจ้าช่วยกันร่างหนังสือถึงมองซิเออร์คอนซตันซ์ฉะบับ ๑ ให้เป็นทีว่าเราขอร้องให้มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ช่วยเหลือจัดการในเรื่องพิธีที่เราจะเข้าเฝ้าให้ได้เป็นการเรียบร้อยต่อไป ในชั้นต้นข้าพเจ้ามิได้เห็นพ้องด้วยมองซิเออร์เดอลาลูแบที่จะมีหนังสือไปเช่นนี้เลย แต่ครั้นข้าพเจ้าเห็นว่ามองซิเออร์เดอลาลูแบได้ตั้งใจจะมีหนังสือไปให้จงได้ ข้าพเจ้าจึงได้ยอม เพราะเห็นว่าเมื่อมีโอกาสควรจะทำได้ประการใด ก็ไม่ควรจะทิ้งโอกาสนั้นเสีย แต่ข้าพเจ้าก็มิได้หวังหวังเลยว่า การที่จะมีหนังสือไปเช่นนี้จะได้ผลอย่างไร เพราะการเรื่องนี้ก็เท่ากับเป็นเรื่องที่ตกลงกันเด็ดขาดแล้ว ก่อนที่จะส่งหนังสือฉะบับนี้ไปยังมองซิเออร์คอนซตันซ์นั้น เราได้ตกลงว่าจะได้รอให้มองซิเออร์ดูบรูอังกลับมาจากกรุงศรีอยุธยาเพื่อฟังข่าวคราวดูเสียก่อน ครั้นเวลาบ่ายประมาณ ๔ โมง มองซิเออร์ดูบรูอังก็มาถึง และได้มาเล่าว่าได้มีประกาศทางราชการตั้งให้บาดหลวงตาชาเป็นราชทูต เอนวอยเอกซตราออดีนารี แทนพระเจ้ากรุงสยามไปยังประเทศฝรั่งเศสแล้ว และได้เล่าต่อไปว่าบาดหลวงตาชาจะไม่ไปราชการฉะเพาะแต่ที่ประเทศฝรั่งเศสแห่งเดียว แต่จะเลยไปถึงกรุงโรมด้วย

เมื่อเราได้ทราบความจากมองซิเออร์ดูบรูอังดังนี้แล้ว เราจึงได้นำข่าวนี้เล่าให้พวกบาดหลวงเยซวิด ๔ คนฟังซึ่งอยู่ในที่นั้นด้วย และเราก็แกล้งทำเป็นยินดีในข่าวอันนี้ และแกล้งพูดว่า การที่บาดหลวงตาชาจะไปประเทศฝรั่งเศสนั้น คงจะมีเรื่องสำคัญอันพอพระทัยของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสเป็นแน่ มิฉะนั้นไหนเลยบาดหลวงตาชาจะยอมไปเช่นนี้ แต่ความจริงเราก็เข้าใจว่า เรื่องที่บาดหลวงตาชาจะนำไปพูดที่ประเทศฝรั่งเศสนั้น ก็คงจะเอาเรื่องที่พวกมิชันนารีถูกขับไล่จากเมืองตังเกี๋ย และเรื่องเชิญให้พระเจ้ากรุงสยามเข้ารีด ไปพูดกับบาดหลวงเดอลาเชซ เพื่อจะได้ให้บาดหลวงเดอลาเชซมีใจนำความกราบทูลต่อพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสเท่านั้น

แต่การที่จะให้บาดหลวงตาชาไปประเทศฝรั่งเศสนั้น เป็นเรื่องที่ได้คิดกันไว้ตั้งแต่แรกบาดหลวงตาชาได้ขึ้นมาที่กรุงศรีอยุธยาเสียแล้ว เพราะมองซิเออร์เวเรต์ผู้จัดการห้างฝรั่งเศสได้เล่าให้ข้าพเจ้าฟังว่า บาดหลวงตาชาได้กระซิบบอกมองซิเออร์เวเรต์มานานแล้ว และมิได้บอกกับมองซิเออร์เวเรต์แต่ผู้เดียว แต่บาดหลวงตาชายังได้พูดกับคนอื่น ๆ ก็อีกหลายคนว่า การเรื่องนี้ได้เป็นอันตกลงกันตั้งแต่บาดหลวงตาชาได้พบกับมองซิเออร์คอนซตันซ์ในคราวแรกอยู่แล้ว ตามที่มองซิเออร์เวเรต์ได้เล่าให้ข้าพเจ้าฟังดังนี้ ต่อมาก็มีเหตุผลทำให้ข้าพเจ้าเห็นว่าเป็นเรื่องที่จริง เพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้เอง บาดหลวงตาชาได้พูดกับข้าพเจ้าว่า พระเจ้ากรุงสยามจะได้โปรดให้ส่งข้อสัญญาไปถวายพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส และจะเป็นการตกลงกันอย่างไร ก็แล้วแต่พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสจะทรงเห็นควรทั้งสิ้น ในการที่จะส่งข้อสัญญาไปนั้น พระเจ้ากรุงสยามจะได้ทรงจัดคนที่ดีสำหรับให้นำข้อสัญญานั้นไป และบาดหลวงตาชาก็ยังได้พูดต่อไปอีกว่า กองทหารที่พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้ส่งมานั้น หาเพียงพอสำหรับพิทักษ์รักษาบางกอกไม่ เพราะต่อไปเมื่อได้สร้างป้อมคูประตูหอรบขึ้นแล้ว บางกอกก็จะกลายเป็นตำบลใหญ่และสำคัญมาก จึงจำเป็นจะต้องมีกองทหารสำหรับรักษาตำบลนี้ไม่ต่ำกว่า ๒,๐๐๐ คน และบาดหลวงตาชาเชื่อว่า ถ้าพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้ทรงทราบถึงเรื่องบางกอกโดยละเอียดแล้ว ก็คงจะได้พระราชทานกองทัพเรือและกองทหารออกมาอีก เมื่อมีจำนวนทหารประจำอยู่ที่บางกอกพอแล้วเมื่อใด พระเจ้ากรุงสยามจึงจะทรงถอนทหารไทยออกจากบางกอกเมื่อนั้น

ตามที่มองซิเออร์เวเรต์มาเล่าให้ข้าพเจ้าฟัง และตามความที่ข้าพเจ้าได้ทราบจากบาดหลวงตาชานั้น จึงเป็นเหตุจำเป็นทำให้ข้าพเจ้าต้องพูดชี้แจงกับบาดหลวงตาชา เป็นทีเหมือนข้าพเจ้าเล่าความลับให้ฟังในเวลาที่ได้มีโอกาสสนทนากันว่า ในเรื่องของต่าง ๆ ที่มองซิเออร์คอนซตันซ์บอกว่า ได้ฝากไปยังประเทศฝรั่งเศสเมื่อปีก่อนนั้น เป็นเรื่องที่ราชสำนักฝรั่งเศสเบื่อหน่ายเต็มที เราจึงได้รับคำสั่งมาให้คิดจัดการให้งดการส่งของฝากต่าง ๆ ไปสักที และให้งดการส่งทูตตอบกันไปตอบกันมาด้วย เพราะฉะนั้นพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสจึงได้โปรดให้เรามาจัดการทั้งปวงให้เรียบร้อย ถ้าแม้ว่าไทยได้คิดจัดการกับคนอื่นโดยไม่ได้ทำความตกลงกับเราแล้ว พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสก็คงจะไม่พอพระทัยเป็นแน่

ในส่วนเรื่องพิธีและระเบียบที่จะเข้าเฝ้านั้น มองซิเออร์ดูบรูอังได้เล่าให้เราฟังว่า ในเวลาที่มองซิเออร์ดูบรูอังไปพูดกับมองซิเออร์คอนซตันซ์นั้น บาดหลวงตาชาได้เป็นล่ามให้ ครั้นมองซิเออร์ดูบรูอังได้แนะนำและชี้แจงเหตุผลต่าง ๆ ให้ฟังแล้ว ทั้งมองซิเออร์คอนซตันซ์และบาดหลวงตาชาได้แสดงตัวว่า จะได้ตั้งใจที่จะให้เราได้รับความพอใจทุกอย่าง และมองซิเออร์คอนซตันซ์ก็ได้พูดว่า ทำอย่างไร ๆ ก็จะได้จัดการให้เราได้ถวายพระราชสาส์นต่อพระหัตถ์ โดยจะได้จัดทำคั่นบันไดขึ้น ๓ คั่น เพื่อเราจะได้เดินขึ้นไปให้ถึงพระแท่นที่ประทับได้ และจะได้จัดการให้เราได้มีโอกาสกราบทูลการต่าง ๆ ต่อพระเจ้ากรุงสยามได้

ที่มองซิเออร์ดูบรูอังได้เล่าเช่นนี้ ก็ทำให้แลเห็นได้ว่า การที่มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้อาสาจะเป็นคนกลางเกลี่ยไกล่ในเรื่องนี้นั้นจะมีผลอย่างไร เพราะเมื่อครั้งเชอวาเลียเดอโชมองถวายพระราชสาส์นนั้น เชอวาเลียเดอโชมองได้เดินแต้มเอาให้พระเจ้ากรุงสยามต้องก้มพระองค์ลงมารับพระราชสาส์นของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสจนได้ มองซิเออร์คอนซตันซ์จึงได้คิดป้องกันมิให้เป็นเช่นนั้นในคราวนี้อีก โดยจัดให้มีคั่นบันได ๓ คั่นพอที่เราจะได้เดินขึ้นไปถวายพระราชสาส์นต่อพระหัตถ์ได้ พระเจ้ากรุงสยามจะได้ไม่ต้องก้มพระองค์ลงมารับ ซึ่งเป็นการไม่เหมาะเลย เพราะฉะนั้นการที่มองซิเออร์คอนซตันซ์อุบายรับอาสาจะเป็นคนกลางให้นั้น ก็โดยคิดจะเอาบุญเอาคุณแก่เรา เราจะได้เห็นว่า มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้กรุณาแก่เราที่สุด และการที่ยอมให้เราก้าวบันไดขึ้นไปถวายพระราชสาส์นต่อพระหัตถ์นั้น ก็มีการแลกเปลี่ยนที่บังคับให้เราถอดหมวกในเวลาที่เรากราบทูลพระเจ้ากรุงสยาม

เมื่อเราได้ฟังรายงานของมองซิเออร์ดูบรูอังเสร็จแล้ว เราจึงได้เอาหนังสือที่เราได้เขียนถึงมองซิเออร์คอนซตันซ์นั้น มาอ่านให้บาดหลวงเยซวิต ๔ คนฟัง บาดหลวงเยซวิตทั้ง ๔ คนได้เห็นว่า สำนวนในหนังสือเป็นสำนวนที่อ่อนหวานมาก เราจึงได้มอบหนังสือฉะบับนั้น ให้บาดหลวงดูชาตซ์ถือไปส่งมองซิเออร์คอนซตันซ์ และได้สั่งให้บาดหลวงดูชาตซ์ไปบอกกับบาดหลวงตาชาว่า การที่บาดหลวงตาชาได้รับตำแหน่งหน้าที่ใหม่นี้ เรามีความยินดีด้วยเป็นอันมาก ครั้นบาดหลวงดูชาตซ์ได้กลับมาแล้ว บาดหลวงดูชาตซ์จึงได้บอกกับเราว่า มองซิเออร์ดูบรูอังได้สั่งให้มา บอกว่า หนังสือที่เราได้มีไปถึงมองซิเออร์คอนซตันซ์นั้น มองซิเออร์คอนซตันซ์เห็นว่าเป็นสำนวนที่ไม่ใคร่จะดี และได้พูดต่อไปว่า การที่เราได้แสดงความยินดีต่อบาดหลวงตาชานั้น บาดหลวงตาชาตอบมาว่า ขอบใจ และว่าพรุ่งนี้จะได้มาหาเรา

ณวันเสาร์ที่ ๑ เดือนพฤศจิกายน ค.ศ. ๑๖๘๗ (พ.ศ. ๒๒๓๐) บาดหลวงตาชาได้มารับประทานอาหารกับเรา เราจึงได้แสดงความยินดีในการที่บาดหลวงตาชาได้รับตำแหน่งหน้าที่ใหม่ บาดหลวงตาชาจึงได้พูดกับเราต่อหน้าคนเป็นอันมากโดยแสดงกิริยาและวาจาถ่อมตัวว่า การที่บาดหลวงตาชาจะได้รับเกียรติยศใหม่นี้ บาดหลวงตาชาต้องได้รับคำแนะนำของเราเสียก่อนจึงจะยอมรับตำแหน่งนี้ได้ ฝ่ายเราจึงได้ตอบบาดหลวงตาชาโดยแสดงกิริยาและวาจาถ่อมตัวเหมือนกันว่า บาดหลวงตาชาไม่จำเป็นต้องคอยรับคำแนะนำของเราอย่างใดเลย บาดหลวงตาชาก็ยึดเอาคำของเราเป็นที่ตั้ง และตั้งแต่นั้นมาก็มิได้พูดถึงเรื่องนี้กับเราอีกต่อไป แล้วบาดหลวงตาชาจึงได้ส่งหนังสือของมองซิเออร์คอนซตันซ์ให้เราฉะบับ ๑ และได้ขอให้บาดหลวงเดซปานยักซึ่งได้มากับบาดหลวงตาชานั้น ได้คัดสำเนาหนังสือฉะบับนั้นไว้ด้วย

เราจึงได้ถามบาดหลวงตาชาว่า มองซิเออร์คอนซตันซ์ไม่พอใจหนังสือของเรา จริงหรืออย่างไร

บาดหลวงตาชาได้ตอบว่า จริง มองซิเออร์คอนซตันซ์ไม่พอใจในหนังสือฉะบับแรกของท่าน

เราจึงได้ตอบว่า ในหนังสือฉะบับเดียวจะกล่าวข้อความลงทั้งหมดไม่ได้อยู่เอง แต่หนังสือฉะบับที่ ๒ ก็ดำเนินความไปถึงฉะบับแรกอยู่แล้ว และข้อความในหนังสือฉะบับแรกนั้น ก็ล้วนแต่เป็นเรื่องที่จริงทั้งนั้น

บาดหลวงตาชาจึงตอบว่า ท่านอ่านหนังสือของมองซิเออร์คอนซตันซ์ดูเถิด

มองซิเออร์เดอลาลูแบจึงได้พูดกับบาดหลวงตาชาว่า ท่านได้กรุณาอย่าต้องให้ข้าพเจ้าอ่านหนังสือฉะบับนี้เลย เพราะข้าพเจ้าได้ตั้งใจไว้ว่า ในระวางที่ข้าพเจ้ายังอยู่เมืองไทยนี้ ข้าพเจ้าจะไม่มีความโกรธเคืองอีกต่อไป

ข้าพเจ้าจึงได้ส่งจดหมายฉะบับนั้นให้บาดหลวงเดซปานยักคัดสำเนาไว้ แล้วบาดหลวงตาชาได้ขอให้ข้าพเจ้าได้อ่านจดหมายฉะบับนั้นโดยฉะเพาะ ข้าพเจ้าได้อ่านแล้วก็เห็นว่า จดหมายฉะบับนั้น เต็มไปด้วยข้อความเหน็บแนมทั้งนั้น แล้วมองซิเออร์เดอลาลูแบก็ได้ให้คัดสำเนาไว้ฉะบับ ๑ เหมือนกัน

เมื่อได้รับประทานอาหารกันเสร็จแล้ว ก็ต่างคนช่วยกันตรวจดูของเครื่องราชบรรณาการของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส ครั้นเมื่อบาดหลวงตาชาจะลากลับไป มองซิเออร์เดอลาลูแบจึงได้พูดกับบาดหลวงตาชาว่า หนังสือที่เราได้มีไปถึงมองซิเออร์คอนซตันซ์เมื่อวานนี้นั้น บาดหลวงเยซวิตทั้ง ๔ คนก็ได้อ่านและได้เห็นชอบด้วยแล้ว และบาดหลวงเยซวิตทั้ง ๔ คนอาจจะเป็นพะยานได้ว่า การที่เราได้มีหนังสือไปถึงมองซิเออร์คอนซตันซ์ ก็ด้วยเจตนาอันดีเป็นแท้

เมื่อข้าพเจ้าได้เล่าใจความในหนังสือของมองซิเออร์คอนซตันซ์ให้มองซิเออร์เดอลาลูแบฟังแล้ว มองซิเออร์เดอลาลูแบก็คืนหนังสือฉะบับนั้นให้กับบาดหลวงตาชา โดยมองซิเออร์เดอลาลูแบมิได้อ่านหนังสือฉะบับนั้นเลย และบาดหลวงตาชาก็นำหนังสือฉะบับนั้นไปคืนให้มองซิเออร์คอนซตันซ์ ในเวลาที่มองซิเออร์คอนซตันซ์จะไปเฝ้าพระเจ้ากรุงสยาม แต่ในเรื่องพิธีและระเบียบที่จะเข้าเฝ้านั้น ก็คงเป็นอันยุตติตามเดิมนั้นเอง คือว่า เราจะต้องนั่งและถอดหมวกในเวลาที่กราบทูลต่อพระเจ้ากรุงสยาม แต่ในเรื่องที่จะพาคนผู้ดีฝรั่งเศสเข้าไปเฝ้าด้วยนั้น เป็นเรื่องที่ได้พูดจากันไว้ที่กรุงศรีอยุธยาแล้ว จึงเป็นอันตกลงกันว่า เราจะได้พาพวกนายทหารเรือและพลอาสาบางคนไปกับเราด้วย ส่วนนายทหารที่ประจำการอยู่ที่บางกอกนั้น จะได้ไปพร้อมกับมองซิเออร์เดฟาช เพราะเมื่อเราได้เฝ้าเสร็จแล้ว พระเจ้ากรุงสยามจะได้เสด็จออกอีกครั้ง ๑ เพื่อให้มองซิเออร์เดฟาชได้เฝ้าโดยฉะเพาะ ในตอนค่ำได้มีนายทหารเรือมาจากด่านภาษีหลายคน เพื่อเตรียมตัวที่จะไปเฝ้ากับเราในวันพรุ่งนี้

ณวันที่ ๒ เดือนพฤศจิกายน ค.ศ. ๑๖๘๗ (พ.ศ. ๒๒๓๐) เวลาเช้า เจ้าพนักงานได้มาแจ้งว่า เรือสำหรับประดิษฐานพระราชสาส์นและสำหรับบรรทุกของเครื่องราชบรรณาการของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส และเรือสำหรับเราและพนักงานข้าราชการคนใช้ของเรานั้น ได้เตรียมไว้พร้อมเสร็จแต่คืนนี้แล้ว ในตอนกลางคืนก่อนสว่าง ราชทูตที่ ๑ กับข้าราชการไทยอีกหลายนาย ได้ไปขนของเครื่องราชบรรณาการของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส ซึ่งยังตกค้างอยู่ที่ด่านภาษีบรรทุกลงเรือไว้เสร็จ และในที่นี้จะต้องกล่าวไว้ว่า ก่อนวันที่เราจะได้เข้าเฝ้าหลายวัน เจ้าพนักงานของพระเจ้ากรุงสยามได้มาขนของเครื่องราชบรรณาการของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสบางสิ่งบางอย่าง ไปไว้ในพระราชวังเสียบ้างแล้ว และการที่ขนเครื่องราชบรรณาการไปนั้นก็ได้ทำพิธีกันใหญ่โต และได้จดทำบัญชีของต่าง ๆ อย่างละเอียดเหลือเกิน จนที่สุดพลอยต่าง ๆ ที่ฝังอยู่ในอานม้านั้นก็อุตสาหะนับเมล็ดและจดลงในบัญชีไว้ด้วย

มาจนถึงบัดนี้เรายังหาได้ข่าวคราวถึงเรือลานอมันดีอย่างใดไม่ เรือลำนี้ได้พลัดกับเราตั้งแต่เรือได้อ้อมแหลมเคปออฟกุดโฮบ จะไปร้ายดีประการใดเราหาทราบข่าวไม่ แต่ของเครื่องราชบรรณาการบางอย่าง เช่น ผ้าปักทองและเงิน ผ้าต่าง ๆ และอาวุธต่าง ๆ นั้นได้บรรทุกลงเรือลำนี้ เพราะฉะนั้นในเวลาที่จะถวายเครื่องราชบรรณาการคราวนี้ จึงต้องงดของที่ยังตกค้างอยู่ในเรือลานอมันดีไว้ก่อน

ครั้นเวลาเช้าประมาณย่ำรุ่ง ออกยาพระเสด็จ กับขุนนางข้าราชการผู้ใหญ่อีกหลายนาย ได้ให้ราชทูตที่ ๑ มาแจ้งแก่เราว่าการต่าง ๆ สำหรับให้เราได้เข้าเฝ้าพระเจ้ากรุงสยามนั้น ได้เตรียมไว้พร้อมทุกอย่างแล้ว ถ้าเราจะออกเดินทางเมื่อไรก็ได้ เราจึงได้ตอบว่า เราก็ได้เตรียมตัวอยู่พร้อมแล้วเหมือนกัน สักครู่หนึ่งออกยาพระเสด็จกับขุนนางผู้ใหญ่จึงได้เข้ามาในห้องที่เราพักรออยู่ ในห้องนั้นเราได้นั่งพักอยู่บนเก้าอี้ ๆ นั้นตั้งอยู่บนแท่น มีโต๊ะตั้งอยู่หน้าเราโต๊ะหนึ่ง พระราชสาส์นของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสนั้นได้บรรจุใส่หีบทอง และได้วางอยู่บนพานทอง ๆ นั้นตั้งอยู่บนกี๋สูงประมาณสัก ๒ ฟิต เมื่อข้าราชการไทยได้เข้ามาในห้องนั้น พอมาถึงประตูก็ลงกราบแล้วจึงคลานเข้ามาหาโต๊ะ ในระวางที่คลานอยู่นั้นก็ได้ถวายบังคม ๓ ครั้ง เมื่อคลานมาถึงโต๊ะแล้วข้าราชการไทยก็ยืนขึ้นข้างโต๊ะเรียงกันตามลำดับผู้ใหญ่ผู้น้อย เมื่อเสร็จแล้วออกยาพระเสด็จจึงได้กล่าวถ้อยคำต้อนรับเรา ข้าพเจ้าได้ทราบว่าออกยาพระเสด็จผู้นี้ เป็นผู้ที่สั่งการทั้งปวงในเวลาที่พระเจ้ากรุงสยามเสด็จไม่อยู่

ราชทูตที่ ๑ จึงได้มาบอกกับเราว่า ถึงเวลาที่จะต้องไปแล้ว ทันใดนั้นออกยาพระเสด็จและข้าราชการผู้ใหญ่ผู้น้อย จึงได้เดินเรียง ๒ ออกจากห้อง แต่ก่อนที่จะออกเดินนั้น ได้ถวายบังคมพระราชสาส์นอีกครั้ง ๑ แล้วได้เดินไปลงเรือซึ่งจอดอยู่ที่ริมตลิ่ง มองซิเออร์เดอลาลูแบจึงได้ยกพานทองซึ่งประดิษฐานพระราชสาส์นนั้นส่งให้ข้าพเจ้า ๆ จึงได้ส่งให้บุตรของข้าพเจ้าเชิญต่อไป บุตรของข้าพเจ้าได้รับพานทองซึ่งประดิษฐานพระราชสาส์นไว้แล้ว จึงได้เดินออกหน้าเราจนถึงเรือ ครั้นไปถึงเรือแล้วข้าพเจ้าจึงได้รับพานพระราชสาส์นจากบุตรของข้าพเจ้าส่งให้แก่ขุนนางไทยคนหนึ่ง ขุนนางผู้นั้นจึงได้เชิญพระราชสาส์นไปประดิษฐานบนบุษบกซึ่งตั้งอยู่กลางเรือยาว และเรือลำนี้เป็นเรือที่ไม่ได้ใช้อย่างอื่นนอกจากสำหรับประดิษฐานพระราชสาส์นเท่านั้น ผู้ที่ได้ไปกับเราในคราวนี้มีนายทหารเรือ ๑๒ คน และคนใช้ของเรารวมทั้งสิ้นเป็นคนประมาณ ๓๐ คน เราจึงได้ลงไปในเรือลำหนึ่งซึ่งเป็นเรือลำนั้นเองที่เชอวาเลียเดอโชมองได้เคยนั่งไปแล้ว นายทหารเรือและคนใช้ของเราได้ลงในเรือลำอื่น

ออกยาพระเสด็จกับขุนนางข้าราชการที่ได้มาเชิญพระราชสาส์นของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส กับขุนนางข้าราชการอื่น ๆ อีกหลายคน ซึ่งมาแห่นำพระราชสาส์นนั้น จึงได้เคลื่อนกระบวนเรือออกหน้าตามลำดับยศผู้ใหญ่ผู้น้อย ต่อจากเรือขุนนางข้าราชการนั้นก็ถึงเรือซึ่งบรรทุกเครื่องราชบรรณาการ ต่อจากเรือเครื่องราชบรรณาการนั้น ก็ถึงเรือที่ประดิษฐานพระราชสาส์น บุตรของข้าพเจ้าก็ได้ลงไปอยู่ในเรือลำนี้ด้วย และได้นั่งอยู่บนแท่นที่รองบุษบก ต่อจากเรือพระราชสาส์นนั้นก็ถึงเรือเราทีเดียว ต่อจากเรือเราก็ถึงเรือนายทหารเรือฝรั่งเศสและคนใช้ของเรา

กระบวนเรือได้เดินเรียงลำเป็นแนวเดียว ทั้งสองข้างนั้นมีเรือของพระเจ้ากรุงสยามแซงสำหรับประดับเกียรติยศ พอเราได้เคลื่อนเรือก็ได้เห็นเรือเป็นอันมากจนนับจำนวนไม่ถ้วน ซึ่งเป็นเรือของพวกหัวหน้าชาติต่าง ๆ ทุก ๆ ชาติซึ่งอยู่ในเมืองไทย ขาดแต่ชาติฮอลันดาชาติเดียวหาได้มาไม่ และบรรดาหัวหน้าเหล่านี้ก็ต่างมีบ่าวไพร่ผู้คนตามมาด้วยอันนับจำนวนไม่ไหวเลย ในระวางที่เดินกระบวนเรืออยู่นั้น เรือของพระเจ้ากรุงสยามได้ยิงสลุดคำนับเราหลายลำ และมีเรือชาติอังกฤษซึ่งจอดอยู่ในลำแม่น้ำลำหนึ่ง ก็ได้ยิงสลุดคำนับเราด้วย ครั้นได้มาถึงกรุงศรีอยุธยา ปืนใหญ่ในพระนครก็ได้ยิงสลุด พอปืนในพระนครได้ยิงจบแล้ว เรือเซนต์หลุย กับที่ห้างของบริษัทก็ได้ยิงปืนใหญ่สลุดเหมือนกัน กระบวนเรือจึงได้เลี้ยวเข้าคลอง ซึ่งมีถนนใหญ่มาตกที่คลองสายหนึ่ง และเป็นถนนในระวางคลองทะลุถึงพระราชวังของพระเจ้ากรุงสยามทีเดียว

เมื่อเราได้ขึ้นจากเรือแล้ว ได้เห็นราชรถคันหนึ่งปิดทองอร่ามทั้งคัน บนราชรถนั้นมีบุษบกทำรูปคล้าย ๆ พระโธรน สำหรับประดิษฐานพระราชสาส์นเข้าไปในพระราชวัง

เมื่อเรือได้เทียบท่าที่ริมถนนใหญ่แล้วเราจึงได้ขึ้นจากเรือ เราจึงได้ไปเชิญพระราชสาส์นออกจากเรือพระที่นั่ง แล้วได้เชิญพระราชสาส์นประดิษฐานลงบุษบกซึ่งขุนนางไทยได้แบกหามไปจนถึงราชรถ จึงเชิญพระราชสาส์นออกจากบุษบกขึ้นตั้งประดิษฐานบนราชรถต่อไป รอบราชรถนี้มีขุนนางข้าราชการไทยถือฉัตร์หลายชั้น และมีผู้คนเป็นอันมากจนนับจำนวนไม่ถ้วน ต่างถวายบังคมพระ ราชสาส์นด้วยกันทั้งสิ้น

ข้าพเจ้ากับมองซิเออร์เดอลาลูแบจึงได้ขึ้นนั่งเสลี่ยงปิดทอง ซึ่งคนไทยได้หามไป นายทหารเรือกับข้าราชการฝรั่งเศสซึ่งได้มากับเรานั้นได้ขี่ม้าตามเรา และคนใช้ของเราก็ได้เดินเคียงและแวดล้อมเสลี่ยงที่เรานั่งไป เราได้เดินกระบวนไปตามถนนใหญ่ สองข้างถนนมีทหารไทยยืนเรียงรายไปตลอดทาง ทางที่จะไปนั้นถึงเป็นทางที่ใกล้ก็จริงอยู่ แต่เราได้เดินทางถึง ๒ ชั่วโมงจึงได้ไปถึงพระราชวัง การที่ช้าเช่นนี้ก็เพราะเหตุว่าเราค่อย ๆ ก้าวเดินช้า ๆ อยู่แล้ว และต้องหยุดบ่อย ๆ เพราะติดผู้คนพลเมืองซึ่งออกมาดูกันยัดเยียดเต็มถนนไปหมด

ครั้นได้มาถึงประตูพระราชวังแล้ว เราก็ได้ลงจากเสลี่ยง จึงได้ไปเชิญพระราชสาส์นจากราชรถมอบให้บุตรของข้าพเจ้าเชิญต่อไป บุตรของข้าพเจ้าได้รับพระราชสาส์นแล้ว ก็ได้เดินออกหน้าเรา เมื่อไปถึงประตูพระราชวังแล้ว พวกที่ถือร่มกั้นให้เรานั้นก็ต่างคนต่างไปกันหมด และได้มีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่หลายคนได้มาคอยรับเราอยู่ที่ประตูพระราชวังนี้ เราจึงได้เดินเข้าประตูพระราชวังพร้อมด้วยขุนนางข้าราชการไทยที่มารับเรา และเจ้าพนักงานฝรั่งเศสกับคนใช้ของเราก็ได้เดินตามเข้าไปพร้อมกัน

การที่เจ้าพนักงานไทยได้ให้เราเดินด้วยเท้าและไม่มีร่มจะกั้นในเวลาที่แดดกำลังกล้าแข็งในระยะทางอันไกลเช่นนี้ เราก็ไม่เห็นเป็นการปลาดอย่างใดเสียแล้ว เพราะเชอวาเลียเดอโชมองได้เคยถูกอย่างนี้มาครั้งหนึ่งแล้ว เพราะฉะนั้นในข้อนี้เราจึงมิได้คัดค้านหรือว่ากล่าวอย่างใด แต่ถึงดังนั้นเมื่อได้เข้าเฝ้ากันเสร็จแล้ว ข้าพเจ้าก็อดพูดกับมองซิเออร์คอนซตันซ์ไม่ได้ว่า พวกชาวยุโรปไม่เคยเดินตากแดดอันกล้าแข็งเช่นนี้เลย เมื่อได้เข้าไปถึงพระราชวังแล้ว ก็ได้เห็นทหารรักษาพระองค์ของพระเจ้ากรุงสยาม และมีอะไรต่ออะไรต่าง ๆ เหมือนกับเมื่อครั้งเชอวาเลียเดอโชมองเข้าเฝ้าเหมือนกัน

เมื่อได้เดินเข้าไปถึงชาลาที่สุดแล้ว มองซิเออร์คอนซตันซ์กับบาดหลวงตาชาก็ออกมาต้อนรับ และได้มาบอกว่าพระเจ้ากรุงสยามได้เสด็จขึ้นประทับบนพระแท่นคอยเราอยู่นานแล้ว พระเจ้ากรุงสยามได้โปรดให้ผู้ดีฝรั่งเศสเข้าไปในท้องพระโรงก่อน ผู้ดีฝรั่งเศสเหล่านั้นได้เข้าไปในท้องพระโรง ได้ถวายคำนับต่อพระเจ้ากรุงสยามแล้วจึงได้นั่งลงที่พรมตรงกับที่ประทับ แล้วมองซิเออร์คอนซตันซ์จึงได้พาเราไปจนถึงชาลาชั้นล่างซึ่งต่อกับท้องพระโรงนั้น พอเราได้เดินก้าวขึ้นอัฒจรรย์คั่นแรกแล้ว มองซิเออร์คอนซตันซ์ก็ได้เดินไปที่ชาลาอีกแห่งหนึ่งซึ่งติดกับท้องพระโรง มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้กราบถวายบังคม ๓ ครั้งจึงได้เข้าไปในท้องพระโรง ฝ่ายเราได้ขึ้นอัฒจรรย์แล้วเดินเข้าไปในท้องพระโรง เราได้ถวายคำนับพระเจ้ากรุงสยาม ๓ ครั้ง ครั้งแรกนั้นได้ถวายคำนับเมื่อได้ก้าวพระทวารเข้าไป ครั้งที่ ๒ ได้ถวายคำนับเมื่อเดินไปถึงกลางท้องพระโรง และครั้งที่ ๓ นั้นได้ถวายคำนับเมื่อไปถึงที่เจ้าพนักงานได้จัดให้เรานั่ง

เมื่อพระเจ้ากรุงสยามได้ทอดพระเนตร์เห็นเราก็ทรงพระสรวลแต่ก็หาได้ก้มพระเศียรรับคำนับเราไม่ พระเจ้ากรุงสยามได้ประทับอยู่ข้างในพระแกร เห็นพระองค์แต่เพียงครึ่งพระองค์เท่านั้น ทรงฉลองพระองค์ทำด้วยผ้าเยียรบับเงิน และทรงพระมาลามียอดแหลมเป็นรูปปีรามิด ตามแบบของไทยทำด้วยผ้าเยียรบับเงินเหมือนกัน บนพระมหามาลานั้นมีพระเกี้ยวทองคำ ๓ ชั้นประดับเพ็ชรพลอยต่าง ๆ และมีช่อดอกไม้ไหวทำเป็นรูปกระหนกเปลวทองคำประดับเพ็ชรพลอยต่าง ๆ เหมือนกัน ช่อดอกไม้ทองนี้ติดอยู่ข้างซ้ายพระมหามาลา สองข้างพระแกลนั้นปักฉัตร์หลายฉัตร์ ๆ ๑ มี ๗ ชั้นก็มี ๘ ชั้นก็มี ๙ ชั้นก็มี แต่ใต้พระแกลนั้นทำเป็นบันได ๓ คั่น ในท้องพระโรงนั้นปูพรมเปอเซียงามที่สุดเต็มท้องพระโรง และข้าราชการขุนนางผู้ใหญ่หมอบอยู่เต็มไป ต่างคนต่างวางพานทองและพานเงินตามยศของตัวทุกคน มองซิเออร์คอนซตันซ์ก็หมอบอยู่ข้างขวาเราเพราะจะเป็นล่าม มองเซนเยอร์เดอเมเตโลโปลิศนั่งอยู่บนพรมซ้ายเรา และบาดหลวงตาชานั่งอยู่ข้างหลังเรา

เมื่อเราได้ถวายคำนับครั้งที่ ๓ แล้ว มองซิเออร์เดอลาลูแบก็กราบทูลข้อความต่าง ๆ แต่ในเวลาที่กราบทูลอยู่นั้นเราก็ได้ยืนอยู่ตลอดเวลา เพราะเราได้ทราบว่าการที่ยืนนั้นเป็นกิริยาผึ่งผายมากกว่าที่จะนั่งบนม้าเล็ก ๆ สี่เหลี่ยมกว้าง ๑ ฟุต ยาว ๑ ฟุต ซึ่งเจ้าพนักงานได้เอาพรมลายทองปูไว้ให้เรานั่ง และม้าสี่เหลี่ยมนี้ก็เป็นม้าตัวเดียวนั้นเองที่ได้เตรียมไว้สำหรับครั้งเชอวาเลียเดอโชมอง

เมื่อมองซิเออร์เดอลาลูแบได้กราบทูลสิ้นคำลงแล้ว มองซิเออร์คอนซตันซ์ก็ได้แปลถวาย แต่คำแปลของมองซิเออร์คอนซตันซ์นั้นได้เขียนไว้เป็นภาษาปอตุเกตถืออยู่ในมือ แต่ข้าพเจ้าได้สังเกตว่าคำแปลของมองซิเออร์คอนซตันซ์ สั้นกว่าที่มองซิเออร์เดอลาลูแบได้กราบทูลเป็นอันมาก

ครั้นมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้แปลถวายคำกราบทูลของมองซิเออร์เดอลาลูแบเสร็จแล้ว ข้าพเจ้าจึงได้ไปรับหีบซึ่งบรรจุพระราชสาส์นของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสมาจากมือบุตรข้าพเจ้า เพราะบุตรข้าพเจ้าได้ยืนถือหีบพระราชสาส์นอยู่ตลอดเวลา ข้าพเจ้าจึงได้เชิญหีบพระราชสาส์นส่งให้กับมองซิเออร์เดอลาลูแบ มองซิเออร์เดอลาลูแบได้รับหีบพระราชสาส์นจากข้าพเจ้าแล้ว ก็เอาหีบพระราชสาส์นขึ้นทูลศีร์ษะแล้วจึงนำถวายต่อพระเจ้ากรุงสยาม

พระเจ้ากรุงสยามได้ทรงรับพระราชสาส์นจากมองซิเออร์เดอลาลูแบแล้ว ก็ทรงยกพระหัตถ์ที่ถือพระราชสาส์นนั้นขึ้นเพียงพระโอษฐ์ทรงแสดงพระกิริยาคล้าย ๆ จะคำนับพระราชสาส์น แล้วจึงได้ทรงวางพระราชสาส์นไว้ข้างขวาพระองค์ เสร็จแล้วจึงได้รับสั่งถามเราถึงทุกข์สุขของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสพระสหายของพระองค์ ว่าทรงสบายดีอยู่หรืออย่างไร เพราะได้ทรงทราบมาโดยเสียพระทัยเป็นอันมาก ว่าพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้ทรงพระประชวรไป

เราจึงได้กราบทูลว่า พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้ทรงพระประชวรจริง แต่เมื่อเราได้ออกจากประเทศฝรั่งเศสนั้น พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้หายพระประชวรทรงสบายเป็นปกติดีแล้ว

พระเจ้ากรุงสยามจึงได้รับสั่งถามถึงข่าวทุกข์สุขของราชวงศ์ฝรั่งเศสทุกองค์ และเราก็ได้สังเกตเห็นตามพระกระแสและตามพระอิริยาบถว่า พระเจ้ากรุงสยามทรงรักใคร่และทรงนับถือพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสจริง เมื่อหมดกระแสรับสั่งแล้ว พระเจ้ากรุงสยามจึงได้รับสั่งให้มองซิเออร์คอนซตันซ์บอกกับเราว่า ในเรื่องต่าง ๆ ที่เราจะมาจัดการนั้น ให้เรามาพูดกับพระยาพระคลังต่อไป เพราะได้มีรับสั่งไว้กับพระยาพระคลังเสร็จแล้ว

การที่รับสั่งเช่นนี้ก็ต้องนับว่าเป็นพิธีเท่านั้น เพราะความจริงพระยาพระคลังหาได้เกี่ยวข้องในการแผ่นดินอย่างใดไม่ และการทั้งหลายทั้งปวงมองซิเออร์คอนซตันซ์ก็เป็นผู้ทำทั้งสิ้น

ในขณะนี้เจ้าพนักงานได้เป่าปี่ตีกลอง พระเจ้ากรุงสยามก็เสด็จขึ้น พอหับพระแกรเสร็จแล้ว มองซิเออร์คอนซตันซ์ก็ได้ขอให้เรารออยู่ในท้องพระโรงก่อน เพราะมองซิเออร์คอนซตันซ์จะต้องกลับเข้าไปเฝ้าพระเจ้ากรุงสยามอีก เพื่อจะได้นำมองซิเออร์เดฟาดและนายทหารให้เข้าเฝ้า เมื่อเสร็จแล้วมองซิเออร์คอนซตันซ์จึงจะกลับมารับเรา

เราได้นั่งรออยู่ในท้องพระโรงพร้อมกับสังฆราชเดอเมเตโลโปลิศ ในระวางนั้นพวกขุนนางข้าราชการก็ยังคงหมอบอยู่ เหมือนกับหมอบอยู่ในเวลาที่พระเจ้ากรุงสยามประทับอยู่ในที่นั้นเหมือนกัน อีกสักครู่หนึ่งมองซิเออร์คอนซตันซ์ก็ได้กลับมา และได้พาเราไปในที่แห่งซึ่งได้จัดเตรียมไว้สำหรับเลี้ยงอาหาร ครั้นไปถึงห้องเลี้ยงอาหารแล้ว ข้าพเจ้าจึงขอความกรุณาต่อมองซิเออร์คอนซตันซ์ให้ข้าพเจ้าได้กลับไปเสียก่อนท่านเพราะข้าพเจ้าไม่สบายเลย โดยเหตุที่ได้รับความเหน็ดเหนื่อยในเวลาที่เดินทางและในเวลาที่เฝ้า และอาการป่วยของข้าพเจ้านี้ ทำให้ข้าพเจ้ารับประทานอาหารไม่ได้ มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ทราบว่าข้าพเจ้าไม่สบายก็แสดงความเสียใจ จึงได้พาข้าพเจ้าไปจนถึงเรือ เมื่อไปถึงเรือ ข้าพเจ้าได้พบกับมองซิเออร์เดฟาชซึ่งพึ่งกลับจากเฝ้าพระเจ้ากรุงสยาม สังเกตดูมองซิเออร์เดฟาชมีความพอใจมาก ในการที่ได้เฝ้าในครั้งนี้

เมื่อข้าพเจ้าไปถึงที่พักซึ่งเจ้าพนักงานได้เตรียมไว้สำหรับให้เราพัก และเป็นที่พักหลังเดียวกับเมื่อครั้งเชอวาเลียเดอโชมองนั้น อีกสักครู่หนึ่งได้มีคนเข้ามาบอกว่า มีข้าราชการมาจากพระราชวังมาหาข้าพเจ้าคนหนึ่ง โดยพระเจ้ากรุงสยามมีรับสั่งให้มา ข้าพเจ้าจึงได้ให้ไปเชิญข้าราชการผู้นั้นเข้ามาในห้องพร้อมด้วยล่าม ข้าราชการผู้นั้นจึงได้บอกกับข้าพเจ้า ว่าพระเจ้ากรุงสยามได้ทรงทราบว่าข้าพเจ้าป่วยก็ทรงเสียพระทัยเป็นอันมาก จึงได้รับสั่งให้ข้าราชการผู้นั้นมาหาเพื่อให้ถามอาการของข้าพเจ้าว่าเป็นอย่างไรบ้าง ทั้งโปรดให้บอกกับข้าพเจ้าว่าเมื่อข้าพเจ้าจะต้องการหมอหลวงหรือจะต้องการสิ่งใด ๆ ในพระราชอาณาเขตต์ ซึ่งจะเยียวยาให้ข้าพเจ้าหายได้โดยเร็วแล้ว ก็จะพระราชทานให้ทั้งสิ้น

ข้าพเจ้าจึงได้ตอบขอบพระเดชพระคุณในการที่พระเจ้ากรุงสยามได้ทรงพระกรุณาแก่ข้าพเจ้าดังนี้ แล้วข้าราชการผู้นั้นก็ลากลับไป

ในเวลากลางคืนเมื่อมองซิเออร์เดอลาลูแบได้กลับมาแล้ว มองซิเออร์เดอลาลูแบได้บอกกับข้าพเจ้า ว่าในการที่พระเจ้ากรุงสยามได้โปรดพระราชทานเลี้ยงนั้น ตัวมองซิเออร์เดอลาลูแบกับเจ้าพนักงานและนายทหารฝรั่งเศส ได้รับพระราชทานเลี้ยงอย่างอิ่มหนำสำราญทุกคน และในระวางเวลาที่รับประทานอาหารอยู่นั้นก็ได้ดื่มถวายพระพรให้แก่พระราชวงศ์ไทยทั้งหมด ต่อมาภายหลังข้าพเจ้าได้ทราบว่า ในระวางที่พวกฝรั่งเศสรับพระราชทานเลี้ยงอยู่นั้นพระเจ้ากรุงสยามได้เสด็จประทับในที่กำบังแห่งหนึ่ง ทอดพระเนตร์การเลี้ยงจนตลอดเวลา

ณวันที่ ๓ เดือนพฤศจิกายน เวลาค่ำ มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้มาหา และเราก็ได้เชื้อเชิญให้มองซิเออร์คอนซตันซ์รับประทานอาหารพร้อมกับเราด้วย

ณวันที่ ๔ เดือนพฤศจิกายน ทูตเมืองปัตตานี ๑ ทูตเมืองเขมร ๑ ทูตของพระเจ้ากรุงยี่ปุ่น ๑ กับหัวหน้าพวกแขกมัวพร้อมด้วยพวกแขกมัวเป็นอันมาก ได้มาเยี่ยมเยือนเรา และการที่ได้มาเยี่ยมเยือนกันคราวนี้ ได้กินเวลาเกือบครึ่งวัน เวลาเย็นเราได้ไปเยี่ยมมองซิเออร์คอนซตันซ์ และได้เชิญกระบี่กับพระรูปพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส ซึ่งพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้ส่งมาพระราชทานนั้นมอบให้แก่มองซิเออร์คอนซตันซ์ มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้รับกระบี่และพระรูปด้วยแสดงกิริยาอย่างอ่อนน้อม ในคืนวันนั้นเราได้เลยรับประทานอาหารที่บ้านมองซิเออร์คอนซตันซ์ และเมื่อได้รับประทานกันเสร็จแล้ว ก็ได้เข้าไปพักอยู่ในห้องเขียนหนังสือของมองซิเออร์คอนซตันซ์ ในเวลาที่สนทนากันอยู่นั้น มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้กล่าวคำยกย่องสรรเสริญพระเจ้ากรุงสยามหลายอย่าง และได้เล่าว่าพระเจ้ากรุงสยามมีพระราชประสงค์ยิ่งนัก ที่จะได้เป็นพระราชไมตรีกับพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส แล้วมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้เอาจดหมายบันทึกซึ่งจดข้อความที่มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้กราบทูลพระเจ้ากรุงสยามสองสามครั้ง นับแต่แรกเราได้มาถึงเมืองไทยเป็นต้นไป แต่จดหมายบันทึกฉะบับนั้นได้เขียนเป็นภาษาปอตุเกต จนมองซิเออร์คอนซตันซ์เองก็อ่านเกือบไม่ออก และข้อความที่ได้จดลงไว้นั้น ก็ล้วนแต่ไม่ใคร่จะมีแก่นสารอะไร ไม่ใคร่ได้ประโยชน์อันใดเลย และบางตอนก็ไม่ได้ความเลยเสียซ้ำไป แต่เราก็ได้ทักท้วงขึ้นว่า ตามข้อความในจดหมายบันทึกนี้ เมื่อมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้เข้าไปเฝ้าในครั้งแรกนั้น ก็มีข้อความปรากฎว่าเมื่อจวนจะเสด็จขึ้น พระเจ้ากรุงสยามก็ได้มีรับสั่งให้มองซิเออร์คอนซตันซ์จัดการรับรองเราตามสมควรอย่าง เพราะฉะนั้นความข้อนี้เองทำให้เราเห็นชัดว่า ในเรื่องพิธีที่จะรับรองเรานั้นไม่มีผู้ใดที่จะมีหน้าที่มาเกี่ยวข้องด้วยเลย แต่ตกเป็นหน้าที่ของมองซิเออร์คอนซตันซ์แต่ผู้เดียวเท่านั้น

ตามข้อความในจดหมายบันทึกฉะบับนี้ เราได้รู้สึกข้อสำคัญอยู่ ๒ ข้อ ข้อ ๑ นั้น ว่าเหตุใดพระเจ้ากรุงสยามจึงไม่ทรงเล่าเรียนในเรื่องศาสนาคริศเตียน ข้อที่ ๒ นั้น ว่าเหตุใดหนังสือสัญญาที่ได้ทำไว้กับเชอวาเลียเดอโชมอง ยกสิทธิต่าง ๆ ให้แก่ศาสนา จึงมิได้ประกาศให้ใช้

ในความข้อ ๑ นั้น ปรากฎว่าการที่พระเจ้ากรุงสยามมิได้ทรงเล่าเรียนในการของศาสนาคริศเตียนนั้น ก็เพราะขาดคนสอน และมองซิเออร์คอนซตันซ์จะให้กราบทูลพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสว่า พระเจ้ากรุงสยามมิได้เข้าพระทัยในภาษาของสังฆราชเดอเมเตโลโปลิศ แต่ที่จริงท่านสังฆราชผู้นี้ก็ได้อยู่ในเมืองไทยถึง ๒๕ ปีแล้ว และพูดภาษาไทยได้อย่างดีทีเดียว ในขณะนั้นบาดหลวงตาชาซึ่งอยู่ในที่นั้นด้วย จึงได้พูดขึ้นอย่างหน้าตาเฉยว่า “พระเจ้ากรุงสยามไม่ทรงเข้าพระทัยในคำพูดของท่านสังฆราชเลย เพราะฉะนั้นจึงเป็นการจำเป็นจะต้องรอให้พวกบาดหลวงเยซวิตได้เรียนภาษาไทยรู้ช่ำชองเสียก่อน จึงจะลงมือสอนศาสนาถวายพระเจ้ากรุงสยามได้”

ในความข้อ ๒ นั้น ปรากฎว่าพระเจ้ากรุงสยามได้รับสั่งถามมองซิเออร์คอนซตันซ์ว่า ในการที่ยังมิได้ประกาศสิทธิต่าง ๆ ที่ได้ทำสัญญาพระราชทานให้แก่ศาสนานั้น จะแก้ตัวกับเราอย่างไรจึงจะดี เพราะเป็นเรื่องที่ได้พระราชทานพระราชานุญาตไว้แล้ว มีแต่มองซิเออร์คอนซตันซ์ผู้เดียวที่ได้ทักท้วงขัดขวางไว้ และเหตุผลที่มองซิเออร์คอนซตันซ์ยกมาอ้างสำหรับแก้ตัวในข้อที่ไม่ได้ประกาศสิทธิต่าง ๆ ที่ได้พระราชทานให้แก่ศาสนานั้น เราเห็นว่าเป็นเหตุผลเล็กน้อยหามีน้ำหนักอย่างใดไม่

แต่เราก็ได้แกล้งพูดว่าในการที่เราได้มาสนทนากันและได้ฟังถ้อยคำในจดหมายบันทึกครั้งนี้ เป็นสิ่งที่เรายินดีและพอใจเป็นอันมาก เราจึงได้ขอคัดสำเนาจดหมายบันทึกนั้นไว้

เราได้มาคิดเห็นในใจของเราว่า ถ้าพระเจ้ากรุงสยามจะทรงละทิ้งพระพุทธศาสนาซึ่งเป็นศาสนาของพระองค์ สำหรับมาถือศาสนาคริศเตียนแล้ว ก็คงจะเป็นเพราะเหตุที่พระองค์มิได้ทรงนับถือพระพุทธศาสนาเท่าไรนักกระมัง แต่ถึงศาสนาคริศเตียนดูพระเจ้ากรุงสยามก็ไม่ได้ทรงเชื่อถือเท่าไรนักเหมือนกัน เราจึงอดไม่ได้ที่จะต้องพูดกับมองซิเออร์คอนซตันซ์ว่า ในข้อรับสั่งต่าง ๆ ของพระเจ้ากรุงสยามนั้น สังเกตดูก็ทรงพระปรีชาสามารถมาก แต่เมื่อมาคิดถึงการที่จะทรงเข้ารีตนั้น ก็ดูมีเหตุผลที่จะทำให้หวังได้น้อยที่สุด แล้วเราจึงได้พูดต่อไปเพื่อให้มองซิเออร์คอนซตันซ์รู้สึกในการที่กองทหารของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้ไปอยู่ปะปนกับทหารไทยที่บางกอก ไม่เป็นการสมพระเกียรติยศของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสนั้นว่า “ถ้าแม้ว่าเรานำข่าวไปยังประเทศฝรั่งเศส ว่าพระเจ้ากรุงสยามได้ทรงเข้ารีตแล้ว ถึงการอื่น ๆ จะบกพร่องสักเท่าไรก็ตาม พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสก็คงจะทรงเห็นดีไปหมด และถึงกองทหารของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสจะไปอยู่ปะปนกันอย่างไรก็ดี พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสก็คงจะไม่ถือสาอย่างไร เพราะเป็นการที่ได้ถวายกองทหารให้แก่พระเจ้าแผ่นดินซึ่งได้ทรงเข้ารีต อันเป็นเกียรติยศพออยู่แล้วเช่นนี้” แต่ข้อที่เราเห็นว่าปลาดที่สุดนั้น ก็คือมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้พยายามออกตัวและพูดดักหน้าเรามิให้เราต่อว่าในเรื่องที่เกี่ยวด้วยการศาสนาได้

ต่อนี้ไปก็ได้สนทนากันถึงเรื่องบ่อแร่ คือว่าได้มีคนฝรั่งเศสชาวเมืองโปรวังซ์คน ๑ ชื่อแวงซัง ได้ไปพบบ่อแร่ในพระราชอาณาจักร์สยามแห่ง ๑ และบอกว่าได้พบทั้งทองคำ เงิน และแร่อย่างอื่นเป็นอันมาก มองซิเออร์คอนซตันซ์จึงได้นำความกราบทูลต่อพระเจ้ากรุงสยามให้ทรงทราบตามข่าวที่ชาวฝรั่งเศสบอกว่าได้พบบ่อแร่ และได้กราบทูลต่อไปว่า ถ้าบ่อแร่เหล่านี้มีแร่จริงดังว่าแล้ว ถ้าพระเจ้ากรุงสยามจะมีพระราชประสงค์คนชาวฝรั่งเศสจำนวนมากน้อยเท่าใดก็คงจะได้ตามพระราชประสงค์

เราจึงได้ตอบมองซิเออร์คอนซตันซ์ว่า การที่พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้โปรดให้เรามาประเทศสยามคราวนี้ มิได้ทรงนึกถึงการบ่อแร่อย่างใดเลย แต่ที่ได้ทรงจัดให้เรามาในคราวนี้ก็โดยทรงพระราชดำริถึงการศาสนาอย่างเดียวเท่านั้น

มองซิเออร์คอนซตันซ์จึงได้ตอบเราว่า เชื่อแน่แล้วว่าในส่วนพระองค์พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสนั้น มิได้ทรงพระราชดำริที่จะหาผลประโยชน์ในส่วนพระองค์อย่างใดเลย แต่ที่พูดถึงชาวฝรั่งเศสนั้นหมายแต่ฉะเพาะบุคคลชาวฝรั่งเศสที่เป็นคนสามัญเท่านั้น

ครั้นได้สนทนากันถึงเรื่องบ่อแร่เสร็จแล้ว ซึ่งยังไม่มีหลักฐานอย่างใดเป็นแต่เรื่องนึกกันเอาเองเท่านั้น เราก็คิดจะลากลับไปเพราะเป็นเวลาดึกมากแล้ว แต่ครั้นออกมาถึงห้องใหญ่ก็ต้องหยุดพัก รับประทานน้ำชากันอีก มองซิเออร์คอนซตันซ์จึงได้เดินไปพูดกับมองซิเออร์เดอลาลูแบว่า พวกเราจะต้องคิดอ่านจัดการให้พระราชไมตรีในระวางพระเจ้าแผ่นดินทั้งสอง ได้เป็นพระราชไมตรีอันสนิทติดต่อกันชั่วกาลนานอย่าให้ขาดกันได้

(ตอนนี้คำโต้ตอบในระวางมองซิเออร์เดอลาลูแบกับมองซิเออร์คอนซตันซ์ ในต้นฉะบับเขียนเป็นภาษาปอตุเกต)

เมื่อพูดกันเสร็จแล้ว เราก็ได้ลามองซิเออร์คอนซตันซ์กลับไปยังที่พักของเรา แต่การที่มองซิเออร์เดอลาลูแบได้พูดตัดความเช่นนี้ ก็เพราะเหตุจะไม่ต้องการรับรองอย่างใดกับมองซิเออร์คอนซตันซ์

การที่มองซิเออร์เดอลาลูแบกับมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้สนทนากันในตอนท้ายนี้ ข้าพเจ้าได้จดลงไปตามคำที่เขาพูดกันจริง ๆ เพราะข้าพเจ้าได้สังเกตว่าการที่มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ใช้คำปอตุเกตว่า ซูบอดีนาโซ นั้น ก็เพราะเหตุที่มองซิเออร์คอนซตันซ์ไม่พอใจในการที่มองซิเออร์ดูบรูอังจะต้องได้รับคำสั่งฉะเพาะจากมองซิเออร์เดฟาชคนเดียวในเวลาที่ประจำการอยู่ที่เมืองมะริดตามความในหนังสือสัญญานั้นเอง เพราะมองซิเออร์คอนซตันซ์มีประสงค์นักที่จะสั่งการตรงต่อมองซิเออร์ดูบรูอังที่เมืองมะริดได้ โดยไม่ต้องให้เกี่ยวแก่มองซิเออร์เดฟาช ต่อนั้นมาข้าพเจ้าก็ได้ทราบเป็นการแน่ว่า มองซิเออร์คอนซตันซ์มุ่งหมายไว้จะสั่งการงานทั้งปวงตรงต่อนายทหารฝรั่งเศสทุก ๆ คน โดยไม่ต้องมีคำสั่งผ่านมองซิเออร์เดฟาชอย่างใด และที่มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ใช้คำปอตุเกตว่าซูบอดีนาโซนั้น ก็คงมุ่งในความข้อนี้เอง

ณวันที่ ๕ เดือนพฤศจิกายน พระเจ้ากรุงสยามซึ่งได้เสด็จลงมาประทับที่กรุงศรีอยุธยาเพื่อเสด็จออกแขกเมืองรับเรานั้น ได้เสด็จกลับขึ้นไปประทับที่เมืองลพบุรีอีก ในค่ำวันนี้มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้เชิญเราไปรับประทานอาหาร และในการเลี้ยงคราวนี้ ได้มีงิ้วจีนมีละคอนรำของไทย หุ่นกะบอกของพวกแขกมัว มีคนกระโดดข้ามไม้ไผ่ ตอนกลางคืนได้จุดดอกไม้เพลิง

การเลี้ยงดูคราวนี้เป็นการที่แปลกและงดงามมาก อาหารที่รับประทานนั้นได้เลี้ยงอย่างยุโรป แต่นอกจากอาหารยุโรปแล้ว ยังมีกับเข้าจีนมาวางบนโต๊ะกว่า ๘๐ สิ่ง ซึ่งดูเป็นของแปลกปลาดอย่างที่สุด เพราะในกับเข้าจีน ๘๐ สิ่งนี้ ซึ่งเป็นของต่าง ๆ กันทั้งนั้น ดูก็น่ารับประทานดีอยู่ แต่ที่จริงจะรับประทานไม่ได้เลยจนสิ่งเดียวเพราะเป็นของที่ไม่ดีทั้งนั้น ตอนกลางคืนมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้เชิญให้เราเข้าไปดูห้องต่าง ๆ ในบ้านของมองซิเออร์คอนซตันซ์ทุก ๆ ห้อง ซึ่งได้สร้างขึ้นใหม่เมื่อเชอวาเลียเดอโชมองได้กลับจากเมืองไทยแล้ว แล้วมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้พาเราขึ้นไปบนดาดฟ้าซึ่งทำต่างหลังคาเรือนด้านหนึ่ง เมื่อขึ้นไปบนดาดฟ้านั้นได้เห็นตลอดถึงแม่น้ำ และในแม่น้ำนั้นมีเรือหลายลำกำลังแข่งกันเพื่อจะเอารางวัลว่าลำใดจะเร็วกว่ากัน

รุ่งขึ้นณวันที่ ๖ เดือนพฤศจิกายน มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้มาหาเราเพื่อมาลาขึ้นไปเมืองลพบุรี และจะพามองซิเออร์เดฟาชกับนายทหารราบซึ่งอยู่ที่กรุงศรีอยุธยาขึ้นไปด้วย แล้วมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้บอกว่า เมื่อขึ้นไปถึงเมืองลพบุรีแล้ว จะได้จัดการให้ปลูกที่พักขึ้นหลังหนึ่ง เพื่อเราจะได้ขึ้นไปเมืองลพบุรีได้บ่อย ๆ

ณวันที่ ๗ และที่ ๘ พฤศจิกายน เป็นวันปกติไม่มีอะไร เป็นแต่ใน ๒ วันนี้เราได้ไปเที่ยวชมดูวัดวาอาราม ซึ่งเป็นของงามที่สุดในกรุงศรีอยุธยา แต่พระเจดีย์องค์ใหญ่ปิดทอง ซึ่งเจ้าพนักงานได้พาเชอวาเลียเดอโชมองไปดูนั้น ในคราวนี้หาได้พาเราไปดูไม่ เพราะพวกไทยไม่อยากจะพูดในเรื่องนี้อีกต่อไป โดยเหตุที่เรารู้เป็นแน่แล้วว่าพระเจดีย์องค์นี้หาได้ทำด้วยทองคำไม่ เป็นแต่เอาทองปิดไว้เท่านั้น

ณวันที่ ๙ เดือนพฤศจิกายน ท่านสังฆราชเดอเมเตโลโปลิศได้มารับประทานอาหารกับเรา และมีมองซิเออร์เดอโรซาลีกับมิชชันนารีอีกสองสามคนได้มารับประทานอาหารพร้อมกับท่านสังฆราชด้วย เพราะเมื่อวันที่ ๕ เดือนพฤศจิกายน เราได้ไปเยี่ยมเยือนท่านสังฆราชณที่พักของพวกคณบาดหลวง ที่พักนี้ก็เป็นที่กว้างขวางพออยู่ได้อย่างสบาย และเราก็ได้ไปเห็นวัดที่สร้างขึ้นใหม่ด้วย วัดนี้สร้างจวนจะเสร็จแล้ว เป็นวัดที่ใหญ่พอใช้ได้ และทำเป็นรูปคล้าย ๆ วัดไทย

ณวันที่ ๑๐ เดือนพฤศจิกายน เราได้ออกจากกรุงศรีอยุธยาขึ้นไปเมืองลพบุรี ได้ไปด้วยเรือลำเดียวและชุดเดียวที่เราได้ขี่มา เมื่อมาที่กรุงศรีอยุธยา เมื่อได้ไปได้สักครึ่งทางเราได้พักนอนในที่พักแห่งหนึ่ง ซึ่งได้ปลูกขึ้นโดยฉะเพาะสำหรับให้เราพักและเป็นรูปเหมือนกับที่พักทั้งปวงที่เราเคยได้พักมาตามทางแล้ว ราชทูตที่ ๑ และอุปทูตก็ได้ไปกับเราด้วย เพราะท่านทั้ง ๒ นี้มีหน้าที่ต้องไปกับเราทุกแห่ง และเป็นผู้สำหรับสั่งและจัดการทั้งปวง เช่นเรื่องการรับประทาน รถและพาหนะต่าง ๆ สำหรับเราใช้ทุกอย่าง ยังมีข้าราชการในราชสำนักอีกหลายคน สำหรับเป็นลูกมือของราชทูตที่ ๑ และอุปทูตด้วย

ณวันที่ ๑๑ เดือนพฤศจิกายน เวลากลางคืนประมาณ ๒ ทุ่ม (๘ ล.ท.) เราได้ไปถึงเมืองลพบุรี ในวันนั้นทั้งวัน เรือได้เดินไปตามลำคลองซึ่งได้ขุดเป็นลำคลองตรง สำหรับย่นให้หนทางสั้นเข้าและเป็นคลองที่ยาวประมาณ ๑๐ ไมล์ของฝรั่งเศส เมื่อเราได้ไปถึงเมืองลพบุรี ได้มีเจ้าพนักงานจุดคบเพลิงสว่างทั่วไปหมด และมีขุนนางข้าราชการเป็นอันมากได้ลงมารับที่เรือ ที่บนบกนั้นเจ้าพนักงานได้เตรียมแคร่หามไว้ ซึ่งคล้ายกับเก้าอี้มีคนไทยหามและมีม้าสำหรับให้คนใช้ของเราขี่เตรียมไว้พร้อมเสร็จ ผู้รักษาเมืองลพบุรีได้ลงมาต้อนรับในเรือ และเมื่อเราได้ขึ้นจากเรือแล้ว ผู้รักษาเมืองลพบุรีก็ได้เดินนำหน้า และมีข้าราชการผู้ใหญ่ ๔ คน ถือเทียนนำทางไปด้วย ยังมีคนสำหรับถือคบเพลิงอีกมากมายก่ายกองเดินนำทางไป และมีข้าราชการทุกชั้นทั้งผู้ใหญ่ผู้น้อย เดินตามเราไปจนถึงที่พัก ซึ่งได้เตรียมไว้สำหรับให้เราพัก เมื่อถึงหน้าประตูที่พักได้พบบรรดานายทหารฝรั่งเศสที่ได้ขึ้นมาก่อน และมองซิเออร์เดฟาชก็ได้ยืนอยู่หน้าพวกนายทหาร พร้อมกับพวกบาดหลวงเยซวิตหลายคน เมื่อมองซิเออร์เดฟาช นายทหารฝรั่งเศส และบาดหลวงเยซวิตได้ทำการต้อนรับเราเสร็จแล้ว บาดหลวงตาชาจึงได้บอกเราว่า มองซิเออร์คอนซตันซ์ขอเชิญให้เราไปรับประทานอาหาร

ความจริงเราก็ได้เดินทางมาเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้ามาก เพราะอากาศร้อนจัดอย่างที่สุดจนเกือบจะทนไม่ได้ แต่ถึงดังนั้นเราก็อุตสาหะไปรับประทานอาหารที่บ้านมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ เพราะบ้านมองซิเออร์คอนซตันซ์ก็ติดกับที่พักของเรา

มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ยืนคอยรับเราอยู่ที่ถนนหน้าประตูบ้านได้รับรองต้อนรับเราอย่างดี และได้เชื้อเชิญให้เราเข้าไปรับประทานอาหารที่บ้าน เราก็ได้ไปรับประทานอาหารตามคำเชื้อเชิญนั้น

ในคืนวันนั้นต่างคนต่างได้สนทนากันถึงเรื่องต่าง ๆ และต่างคนต่างประคองเอาใจกันทั้งสองฝ่าย ในเวลาที่รับประทานอาหารอยู่นั้น ก็ได้ดื่มถวายพระพรแด่พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสและพระเจ้ากรุงสยามตลอดเวลาที่รับประทานอาหารอยู่ และได้ดื่มถวายพระพรให้แก่พระราชวงศ์ทั้งฝรั่งเศสและไทยด้วย เมื่อเราได้รับประทานอาหารเสร็จแล้ว ก็ได้นั่งสนทนากันต่อไปอีกหลายชั่วโมงจนดึก มองซิเออร์คอนซตันซ์จึงได้พาเราไปถึงที่พัก และได้พาเราเข้าไปดูตามห้องต่าง ๆ ด้วย ห้องสำหรับเราพักนี้ได้ประดับประดาอย่างงดงาม เครื่องประดับนั้นได้ใช้เครื่องเรือนอย่างจีน ที่พักหลังนี้ใหญ่โตมาก แลดูงดงามดี มีชาลาต่อกันเป็นชั้น ๆ สามชาลา และรอบนั้นมีตึกก่อด้วยอิฐปูน แรกที่จะเข้าไปนั้นมีห้องใหญ่เหลือเกินห้อง ๑ จุดเทียนและโคมจีนเป็นอันมากจนสว่างไสวทั่วไปหมด เมื่อได้ดูทั่วแล้วเราจึงได้ตามไปส่งมองซิเออร์คอนซตันซ์ถึงประตูที่พัก แล้วก็ต่างคนต่างลากันในที่นั้น

ณวันที่ ๑๒ เดือนพฤศจิกายน ไม่มีการแปลกอะไร ในวันนั้นเราเอาเป็นวันพักสำหรับช่วยกันทำงานที่ยังค้าง ๆ อยู่

ณวันที่ ๑๓ เดือนพฤศจิกายน มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้เชิญให้เราไปในการฉลองโบสถ์ ซึ่งมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ให้สร้างขึ้นในบ้าน โบสถ์นี้ได้ก่อเล็กก็จริงอยู่ แต่ได้ทำอย่างงดงามมาก และมีเครื่องประดับประดางามด้วย ในงานฉลองโบสถ์นี้ได้มีงานถึง ๘ วัน และได้มีการสวดด้วย

ณวันที่ ๑๔ เดือนพฤศจิกายน มองซิเออร์เดอลาลูแบได้พูดกับข้าพเจ้าในเรื่องรายงานของเชอวาเลียเดอโชมองที่ได้มาเจริญทางพระราชไมตรีในเมืองไทย เพราะรายงานฉะบับนี้มองซิเออร์เดอลาลูแบได้มอบให้กับบาดหลวงตาชา ในเวลาที่บาดหลวงตาชาจะขึ้นไปที่กรุงศรีอยุธยาในครั้งแรก เพื่อบาดหลวงตาชาจะได้อ่านรู้ความในเวลาที่จะไปพูดจากับมองซิเออร์คอนซตันซ์จะได้พูดให้ตรงกับเรื่องได้ มองซิเออร์เดอลาลูแบได้ทวงรายงานฉะบับนี้จากบาดหลวงตาชาหลายครั้งหลายหน และบาดหลวงตาชาก็ยังหาได้คืนให้ไม่ จนที่สุดในเวลาที่บาดหลวงตาชายังอยู่ที่กรุงศรีอยุธยา มองซิเออร์เดอลาลูแบก็ได้ให้เลขานุการไปหาบาดหลวงตาชา เพื่อไปขอรายงานฉะบับนี้คืน เพราะบาดหลวงตาชาแกล้งทำเป็นลืมว่าไม่ทราบว่าได้เอารายงานนั้นเก็บไว้ที่ไหน ครั้นต่อมาบาดหลวงตาชาได้ผัดเพี้ยนหลายครั้งหลายหนจวนตัวเข้าแล้ว จึงได้บอกว่ารายงานฉะบับนั้นบาดหลวงตาชาได้มอบไว้กับมองซิเออร์คอนซตันซ์ตามคำสั่งของมองซิเออร์เดอลาลูแบแล้ว

มองซิเออร์เดอลาลูแบจึงได้บอกกับข้าพเจ้าว่ารายงานของเชอวาเลียเดอโชมองฉะบับนี้ เป็นต้นฉะบับซึ่งท่านมาควิศเดอเซเนเลได้มอบให้มา เพราะฉะนั้นเป็นการจำเป็นโดยแท้ที่จะต้องเรียกเอารายงานคืนมาให้ได้ มองซิเออร์เดอลาลูแบจึงขอให้ข้าพเจ้าช่วยไปทวงรายงานฉะบับนี้คืนมาด้วย นอกจากเรื่องทวงรายงานฉะบับนี้ ยังมีเรื่องสำคัญที่เราจะต้องพูดกับมองซิเออร์คอนซตันซ์อีกเรื่อง ๑ คือเรื่องที่จะส่งมองซิเออร์ดูบรูอังไปอยู่เมืองมะริด เพราะเราต้องการนักหนาที่จะให้มองซิเออร์ดูบรูอังไปประจำอยู่ที่เมืองมะริดพร้อมกับกองทหารของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสด้วย เพราะฉะนั้นข้าพเจ้าจึงได้ทำความตกลงกับมองซิเออร์เดอลาลูแบ ให้ขอพบกับมองซิเออร์คอนซตันซ์ พูดถึงเรื่องเมืองมะริดก่อน แล้วจึงให้มองซิเออร์เดอลาลูแบขอรายงานของเชอวาเลียเดอโชมองคืนจากมองซิเออร์คอนซตันซ์ เพราะบาดหลวงตาชาได้มอบรายงานฉะบับนั้นให้กับมองซิเออร์คอนซตันซ์โดยเข้าใจผิด

ครั้นเวลาค่ำเราก็ได้ไปหามองซิเออร์คอนซตันซ์ พอไปถึงมองซิเออร์เดอลาลูแบก็ตั้งต้นทวงรายงานฉะบับนี้จากมองซิเออร์คอนซตันซ์ และได้ใช้ให้บาดหลวงตาชาเป็นล่ามสำหรับแปลเป็นภาษาปอตุเกต บาดหลวงตาชาได้ฟังมองซิเออร์เดอลาลูแบทวงรายงาน ก็ทำเป็นปลาดใจ และหาได้แปลคำพูดของมองซิเออร์เดอลาลูแบให้มองซิเออร์คอนซตันซ์ฟังไม่ แต่บาดหลวงตาชากลับตอบมองซิเออร์เดอลาลูแบว่า มองซิเออร์คอนซตันซ์จะคืนรายงานของเชอวาเลียเดอโชมองให้มองซิเออร์เดอลาลูแบไม่ได้ และไม่จำเป็นจะต้องคืนให้ด้วย เพราะมองซิเออร์เดอลาลูแบเองเป็นผู้สั่งให้เอารายงานฉะบับนั้นส่งให้มองซิเออร์คอนซตันซ์

ในความข้อนี้มองซิเออร์เดอลาลูแบได้ปฏิเสธว่า มิได้สั่งเลย มองซิเออร์คอนซตันซ์ซึ่งอยู่ในที่นั้นก็เลยพูดแทรกเข้ามาด้วย เลยได้เกิดโต้เถียงเป็นปากเสียงกันขึ้น พอดีในขณะนั้นได้มีคนมาบอกว่าพระเจ้ากรุงสยามซึ่งทรงมีงานอยู่ในพระราชวัง ได้คอยให้เราเข้าไปเฝ้า เพราะจะโปรดให้เราเข้าไปดูการตบแต่งโคมไฟ เพราะได้ทรงมีรับสั่งเชื้อเชิญเราไว้ตั้งแต่เช้าแล้ว การที่มีคนเข้ามาบอกนี้ ก็พอดีทำให้การโต้เถียงกันได้สงบลงไปชั่วคราว เพราะเราก็ออกเดินจะเข้าไปในพระราชวัง แต่เมื่อไปถึงกลางทางแล้ว มองซิเออร์คอนซตันซ์กับมองซิเออร์เดอลาลูแบก็ได้เกิดโต้เถียงกันถึงเรื่องรายงานฉะบับนั้นอีก และต่างคนก็ใช้ถ้อยคำเหน็บแนมซึ่งกันและกัน

เมื่อได้ไปถึงพระราชวังแล้ว บาดหลวงตาชาได้ชวนให้ข้าพเจ้าไปพูดกันสองต่อสอง และได้บอกข้าพเจ้าว่า การที่มองซิเออร์เดอลาลูแบใจเร็วเช่นนี้ ทำให้บาดหลวงตาชามีความหนักใจเป็นอันมาก และการที่มองซิเออร์เดอลาลูแบทำการเช่นนี้ กระทำให้มองซิเออร์คอนซตันซ์ขัดใจอย่างที่สุด แล้วบาดหลวงตาชาจึงได้เล่าว่า เมื่อบาดหลวงตาชายังอยู่ที่กรุงศรีอยุธยานั้น มองซิเออร์เดอลาลูแบได้ให้เลขานุการไปหาบาดหลวงตาชา เพื่อขอรายงานฉะบับนี้คืน และมองซิเออร์เดอลาลูแบได้สั่งเลขานุการว่า ถ้าไม่ได้รายงานคืนมาแล้ว ก็อย่าให้เลขานุการกลับเป็นอันขาด เลขานุการจึงได้ไปแจ้งให้บาดหลวงตาชาทราบตามคำสั่งของมองซิเออร์เดอลาลูแบต่อหน้ามองซิเออร์คอนซตันซ์ มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ฟังก็มีความโกรธและพูดว่า การที่มองซิเออร์เดอลาลูแบจะเรียกเอารายงานคืนนั้น ก็เพราะไม่มีความไว้ใจในมองซิเออร์คอนซตันซ์ รายงานฉะบับนี้มองซิเออร์เดอลาลูแบก็เป็นผู้ให้มาเอง ทั้งมองซิเออร์คอนซตันซ์ก็ยังไม่ได้ทันอ่านเสียซ้ำไป เพราะไปเข้าใจเสียว่าคงจะไม่มีเรื่องสำคัญอันใด แต่ครั้นมาเห็นมองซิเออร์เดอลาลูแบรีบร้อนจะเรียกคืนเช่นนี้ จึงทำให้มองซิเออร์คอนซตันซ์กลับเข้าใจเสียว่า คงเป็นรายงานที่มีข้อความอย่างสำคัญที่สุด บาดหลวงตาชาจึงได้พูดต่อไปว่า ถ้ามองซิเออร์เดอลาลูแบไม่ได้รีบร้อนเช่นนี้แล้ว บาดหลวงตาชาเองก็จะได้เรียกรายงานฉะบับนี้จากมองซิเออร์คอนซตันซ์คืนให้แก่มองซิเออร์เดอลาลูแบ การที่บาดหลวงตาชาได้พูดเช่นนี้ ก็ได้ใช้ถ้อยคำและทำกิริยาอย่างแขงแรงมาก

ข้าพเจ้าจึงได้ตอบบาดหลวงตาชาว่า การที่มองซิเออร์เดอลาลูแบได้มอบรายงานให้กับบาดหลวงตาชานั้น ข้าพเจ้ามิได้รู้เรื่องด้วยเลย และที่มองซิเออร์เดอลาลูแบได้มอบรายงานไปนั้นสำหรับประโยชน์อะไร ข้าพเจ้าก็หาทราบไม่ แต่มองซิเออร์เดอลาลูแบได้บอกกับข้าพเจ้าว่า การที่ได้มอบรายงานให้กับบาดหลวงตาชาไปนั้น ก็เพื่อให้บาดหลวงตาชาเอาไปดูสำหรับให้ถือคล้าย ๆ เป็นคำสั่ง เพราะฉะนั้นข้าพเจ้าจึงเห็นว่า ที่บาดหลวงตาชาเอารายงานไปส่งให้มองซิเออร์คอนซตันซ์เป็นการไม่ควรเลย และข้าพเจ้าไม่มีสาเหตุอย่างใดที่จะไม่เชื่อคำชี้แจงของมองซิเออร์เดอลาลูแบ เพราะฉะนั้นข้าพเจ้าขอให้บาดหลวงตาชาได้ให้อภัยแก่ข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้าจำเป็นจะต้องพูดว่า ที่บาดหลวงตาชาทำการเช่นนี้เป็นการไม่ถูกเลย และในข้อที่หาว่ามองซิเออร์เดอลาลูแบรีบร้อนทวงรายงานจากมองซิเออร์คอนซตันซ์นั้น การที่รีบร้อนเช่นนี้ก็เพื่อประสงค์จะให้เป็นการพ้นตัวบาดหลวงตาชา เพราะฉะนั้นบาดหลวงตาชาไม่ควรจะบ่นว่าหรือขัดเคืองอย่างใดเลย แต่ควรจะช่วยเราพูดให้มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้คืนรายงานให้เราเสียโดยดีจึงจะถูก

แล้วข้าพเจ้ากับบาดหลวงตาชาจึงได้เดินไปสมทบกับคนอื่นและได้เลยไปดูการจุดประทีปโคมไฟ การจุดประทีปโคมไฟนี้ถ้าจะดูในประเทศฝรั่งเศสแล้ว ก็เป็นสิ่งที่ดูไม่ได้เลย แต่สำหรับประเทศอินเดียก็ดูพอจะใช้ได้ เมื่อได้ดูไฟทั่วแล้วก็ได้กลับมาพร้อมกันที่บ้านมองซิเออร์คอนซตันซ์ พอมาถึงบ้าน มองซิเออร์คอนซตันซ์ก็เอ่ยพูดถึงรายงานเชอวาเลียเดอโชมองขึ้นก่อนทีเดียวว่า มีความเสียใจเป็นอันมากที่มองซิเออร์เดอลาลูแบได้เรียกรายงานคืนไปเช่นนี้ รายงานฉะบับนี้จะเป็นรายงานที่สำคัญอย่างใด มองซิเออร์คอนซตันซ์ก็หาทราบไม่ แต่เมื่อจะไม่ให้มองซิเออร์คอนซตันซ์ดูก็ไม่ว่า เพราะฉะนั้นจะได้ส่งรายงานฉะบับนี้กับหนังสือต่าง ๆ ที่ได้รับมาจากบาดหลวงตาชาคืนให้ต่อไป แล้วมองซิเออร์คอนซตันซ์ก็ลุกขึ้น เดินเข้าไปในห้องอีกสักครู่หนึ่งก็ได้กลับมา และถือหนังสือต่าง ๆ ในมือหลายฉะบับ หนังสือต่าง ๆ เหล่านี้มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ส่งให้แก่บาดหลวงตาชาทั้งสิ้น โดยพูดว่าเมื่อมองซิเออร์เดอลาลูแบกับตัวข้าพเจ้าไม่เห็นชอบในการที่บาดหลวงตาชาได้ทำไปแล้ว มองซิเออร์คอนซตันซ์ก็จำเป็นต้องคืนหนังสือต่าง ๆ ให้แก่บาดหลวงตาชาเท่านั้นเอง เมื่อบาดหลวงตาชาได้รับหนังสือต่าง ๆ จากมองซิเออร์คอนซตันซ์แล้ว จึงได้เอารายงานของเชอวาเลียเดอโชมองคืนให้แก่มองซิเออร์เดอลาลูแบ ในการคืนหนังสือกันในครั้งนี้ มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้แสดงความโกรธแค้นเป็นอันมาก แต่ข้างฝ่ายเรา ๆ หาได้แสดงความโกรธแค้นอย่างใดไม่ และเราก็ได้ทำใจดีต่ออยู่เสมอ ฝ่ายบาดหลวงตาชานั้นได้แสดงความโกรธเคืองเท่ากับมองซิเออร์คอนซตันซ์เหมือนกัน และในเวลาที่มองซิเออร์คอนซตันซ์เข้าไปหยิบหนังสือในห้องอยู่นั้น บาดหลวงตาชาก็ได้พูดว่า การที่เราจะปิดความแก่มองซิเออร์คอนซตันซ์นั้นไม่เป็นประโยชน์อย่างไรเลย เพราะอะไรต่ออะไรบาดหลวงตาชาก็ได้เล่าให้มองซิเออร์คอนซตันซ์ฟังทุกอย่างแล้ว และการที่บาดหลวงตาชาได้ทำเช่นนี้ ก็โดยได้รับสั่งมาจากพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสให้ทำเช่นนี้

ตามที่บาดหลวงตาชาได้พูดกับเราเช่นนี้ ทำให้เรามีความปลาดใจเป็นอันมาก เราจึงได้ตอบว่า การที่บาดหลวงตาชาได้รับคำสั่งมาเช่นนี้ เราก็ไม่มีความสงสัยอย่างใดดอก แต่บาดหลวงตาชาก็จวนจะกลับไปประเทศฝรั่งเศสตามเสียงเล่าลืออยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเมื่อบาดหลวงตาชาได้กลับไปถึงฝรั่งเศส ก็ให้ไปรายงานตามการที่ตัวได้ปฏิบัติมาเถิด

มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้พูดกับเราอย่างชัดเจนแจ่มแจ้งว่า การที่พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้มีพระราชหัตถ์ตั้งให้เรามาเป็นทูตนั้น มองซิเออร์คอนซตันซ์มิได้ถือพระราชหัตถ์ฉะบับนั้นเลยเป็นอันขาด แต่ได้ถือตามจดหมายของมาควิศเดอเซเนเล ซึ่งฝากมากับบาดหลวงตาชาฉะบับเดียวเท่านั้น แล้วมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ชี้แจงต่อไปว่า มองซิเออร์คอนซตันซ์ทราบได้ดีว่า มองซิเออร์คอนซตันซ์มีศัตรูในประเทศฝรั่งเศสเป็นอันมาก และได้มีคนหลายคนได้กราบทูลพระเจ้าฝรั่งเศส ติเตียนมองซิเออร์คอนซตันซ์ต่าง ๆ เพื่อจะไม่ให้พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสโปรดปรานมองซิเออร์คอนซตันซ์

เราจึงได้ตอบมองซิเออร์คอนซตันซ์ว่า มองซิเออร์คอนซตันซ์ไม่ควรจะเชื่อฟังคำพูดเช่นนี้ เพราะคนที่พูดเช่นนี้มิได้มีเจตนาดีอย่างไรเลย และพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสจะโปรดหรือไม่โปรดมองซิเออร์คอนซตันซ์ประการใด มองซิเออร์คอนซตันซ์ก็ได้เห็นเป็นพยานด้วยตัวของตัวเองแล้ว เมื่อพูดกันเพียงเท่านี้แล้วเราก็ลากลับไป เพราะไม่อยากจะพูดจาให้เป็นการมัวหมองกันต่อไป ในส่วนเรื่องเมืองมะริดนั้นต้องเอาไว้พูดในเวลาอื่นจึงจะได้ ครั้นได้มาถึงที่พักแล้ว ข้าพเจ้าก็ได้เอารายงานของเชอวาเลียเดอโชมองมาอ่านดู จึงมีความตกใจเป็นอันมากที่ได้เห็นว่า รายงานฉะบับนี้เป็นแต่สำเนามิได้เซ็นชื่อเซ็นเสียงอย่างใดเสียซ้ำไป ข้าพเจ้าจึงอดไม่ได้ที่ต้องพูดกับมองซิเออร์เดอลาลูแบว่า รายงานฉะบับนี้เป็นแต่สำเนา นับว่าไม่เป็นการสำคัญอย่างใด เพราะฉะนั้นไม่ควรที่จะทำการเอะอะเช่นนี้เลย มองซิเออร์เดอลาลูแบจึงได้ตอบข้าพเจ้าว่ามองซิเออร์เดอลาลูแบไปเข้าใจเสียว่าเป็นต้นฉะบับ

ณวันที่ ๑๕ เดือน พฤศจิกายน บาดหลวงเดอเบซกับบาดหลวงรีชาด์ได้มาหามองซิเออร์เดอลาลูแบ บาดหลวงเดอเบซจึงถามมองซิเออร์เดอลาลูแบว่า มีเรื่องอะไรกับมองซิเออร์คอนซตันซ์จึงโกรธเคืองนัก มองซิเออร์เดอลาลูแบจึงตอบว่า ไม่เชื่อเลยว่ามองซิเออร์คอนซตันซ์จะขัดเคืองถึงเพียงนี้ แต่ความจริงในเรื่องนี้ก็คือ มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้รับรายงานไปฉะบับ ๑ สักห้าหรือหกอาทิตย์มาแล้ว รายงานฉะบับนี้มองซิเออร์คอนซตันซ์ก็มิได้เอาใจใส่ที่จะอ่านดูอย่างไร และได้สัญญาว่าจะคืนให้แก่เรา แต่ก็หาได้คืนให้ตามสัญญาไม่

บาดหลวงเดอเบซจึงตอบว่า ในข้อที่มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้สัญญาจะคืนรายงานให้นั้นเป็นความไม่จริง เพราะมองซิเออร์คอนซตันซ์มิได้สัญญาไว้ดังนั้น และมองซิเออร์คอนซตันซ์ก็ไม่ได้คิดที่จะคืนรายงานฉะบับนั้นให้แก่ท่านเลย การที่มองซิเออร์คอนซตันซ์ไม่อยากคืนรายงานฉะบับนั้นเพราะเหตุใดนั้น เหลือวิสัยที่จะทายได้ว่าจะมีความประสงค์อย่างไร แต่ในเรื่องนี้ถ้าให้ดีที่สุดแล้ว ก็ไม่ควรจะไปทวงรายงานจากมองซิเออร์คอนซตันซ์เลย เว้นไว้แต่ถ้าได้ตกลงใจว่า จะยอมแตกร้าวกับมองซิเออร์คอนซตันซ์แล้ว จึงควรไปทวง

มองซิเออร์เดอลาลูแบจึงได้ตอบบาดหลวงเดอเบซว่า เราก็ไม่ได้คิดอยากจะแตกร้าวกับมองซิเออร์คอนซตันซ์ อยากจะเป็นมิตร์กันอยู่เสมอเสียซ้ำไป แต่ก็นั่นแหละความก็กลับกลายไปเช่นนี้ เพราะในชั้นต้นเมื่อเราได้ไปทวงรายงานฉะบับนี้จากบาดหลวงตาชา บาดหลวงตาชาคิดจะให้เราตายใจจึงได้บอกเราว่า มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้สัญญาจะคืนรายงานให้กับบาดหลวงตาชาแล้ว แต่มองซิเออร์คอนซตันซ์ก็ยังหาคืนให้ไม่ ฝ่ายเราก็หลงเชื่อในถ้อยคำของบาดหลวงตาชาจึงได้ไปทวงรายงานจากมองซิเออร์คอนซตันซ์ ถ้าเราได้ทราบความจริงแล้ว เราก็คงจะคิดจัดการอย่างอื่นเป็นแน่ แล้วมองซิเออร์เดอลาลูแบจึงได้บอกกับบาดหลวงเดอเบซว่า จนป่านนี้บาดหลวงตาชาก็ยังไม่ได้มาหาเพื่อพูดกันในเรื่องนี้ต่อไป

บาดหลวงเดอเบซจึงตอบว่า การที่บาดหลวงตาชายังไม่ได้มาหาท่านนั้น เห็นจะเป็นด้วยกำลังหัวเสียอยู่ แต่อย่างไร ๆ ก็คงจะมาเป็นแน่

แล้วบาดหลวงเดอเบซได้พูดขึ้นเองถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ได้เป็นไปแล้ว และได้พูดว่า การที่เกิดโต้เถียงแตกร้าวกันขึ้นนี้ ก็คือเรื่องเมืองมะริดเป็นปฐมเหตุ เพราะเป็นเรื่องที่เข้าใจผิดกันไป

มองซิเออร์เดอลาลูแบก็มิได้รับปากว่า การที่แตกร้าวกันนี้ก็เพราะเหตุที่เข้าใจผิดกันในเรื่องเมืองมะริดจริง แต่มองซิเออร์เดอลาลูแบได้เรียกให้บาดหลวงเดอเบซเป็นพยานว่า ในคราวที่บาดหลวงตาชาจะกลับไปกรุงศรีอยุธยา พอบาดหลวงตาชาจะออกจากห้อง มองซิเออร์เดอลาลูแบก็ได้พูดกับบาดหลวงตาชาว่าในเรื่องนี้มองซิเออร์คอนซตันซ์ก็ยังไม่รู้ในใจของตัวเองว่าจะต้องการอย่างไร เพราะจะต้องการทำธุระต่าง ๆ ตรงต่อมองซิเออร์ดูบรูอัง มองซิเออร์ดูบรูอังนั้นเป็นคนตรง และทำการงานต่าง ๆ โดยเอาคำสั่งเป็นประมาณ เพราะฉะนั้นถ้าจะใช้มองซิเออร์ดูบรูอังให้ได้ราชการแล้ว ก็จำเป็นต้องให้คำสั่งต่าง ๆ ได้ผ่านมองซิเออร์เดฟาชเสียก่อน เพราะมองซิเออร์ดูบรูอังถือว่า มองซิเออร์เดฟาชเป็นนายของตัวโดยตรง

บาดหลวงเดอเบซจึงตอบว่า ข้อนี้ก็เป็นความจริงอยู่ แต่บาดหลวงตาชาได้เชื่ออย่างมั่นใจว่า การที่ท่านคิดจะแก้ไขข้อสัญญาเรื่องเมืองมะริดนั้น ก็เพราะท่านมีความประสงค์จะยกเอาข้อนั้นไว้ปรึกษากับมองซิเออร์คอนซตันซ์โดยฉะเพาะ จนถึงกับบาดหลวงตาชาได้พูดกับข้าพเจ้าว่า ที่มองซิเออร์เดอลาลูแบได้ทำการเช่นนี้ ก็เท่ากับเอากระดูกมาแทะ และมองซิเออร์เดอลาลูแบคงจะขบกระดูกนั้นให้แตกได้โดยยาก คงไม่ง่ายเท่าที่คิดไว้

มองซิเออร์เดอลาลูแบจึงได้ตอบว่า ก็นั่นนะซิ ข้อสำคัญที่เรากล่าวโทษบาดหลวงตาชานั้น ก็เพราะบาดหลวงตาชาหาแต่กระดูกมาให้เราแทะเท่านั้น บาดหลวงตาชามิได้แนะนำการต่าง ๆ ต่อเราด้วยน้ำใสใจจริงเลย แต่คิดจะล่อให้เราตกหลุมเท่านั้น

ณวันอาทิตย์ที่ ๑๖ เดือนพฤศจิกายนเวลาเช้า บาดหลวงตาชาได้มาหาเราโดยมิได้บอกให้เรารู้เนื้อรู้ตัวและมิได้เล่าอะไรให้เราฟังเลย แต่เราได้ทราบตามข่าวที่เล่าลือกันว่า บาดหลวงตาชาคิดจะหาคนไทยไปยังประเทศฝรั่งเศสด้วยรวม ๑๘ คน คือจะหาเด็กไปเข้าโรงเรียน ๑๒ คน อีก ๖ คนนั้นจะหาขุนนางไทยไปสำหรับประดับเกียรติยศของตัว บาดหลวงตาชาได้พูดกับมองซิเออร์เดอลาลูแบว่า ถึงมองซิเออร์คอนซตันซ์จะขัดเคืองสักเท่าใดก็ตาม แต่การงานของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสก็คงไม่ให้เสียหายอย่างใด ตามที่บาดหลวงตาชาได้พูดเช่นนี้ เราได้มาแปลความเอาว่า มองซิเออร์คอนซตันซ์คงจะไม่เปลี่ยนแปลงคำสั่ง ที่ได้สั่งบาดหลวงตาชาไว้สำหรับไปพูดที่ประเทศฝรั่งเศส แต่การที่มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ตั้งใจไว้แต่ชั้นเดิมว่า จะไม่ทำธุระอะไรกับเรานั้น ก็คงจะไม่เปลี่ยนแปลงความคิดนี้เหมือนกัน

เมื่อบาดหลวงตาชาได้ลากลับไปแล้วครู่หนึ่ง เราก็ได้ไปฟังสวด ครั้นกลับมาจากฟังสวดแล้ว ราชทูตที่ ๑ อุปทูต และขุนนางไทยคน ๑ ซึ่งพวกฝรั่งเศสได้ตั้งฉายาเรียกว่านายพันตรี ได้มารับเราเพื่อจะนำเราเข้าไปเฝ้า เพราะเราจะต้องเฝ้ากราบทูลความต่าง ๆ ในพระนามของมกุฎราชกุมารฝรั่งเศส และหาได้มีการแห่นำหรือพิธีอย่างใดไม่ ในคราวที่เราไปเฝ้านี้ไม่มีใครตามเราไป นอกจากบุตรของข้าพเจ้าคนเดียวเท่านั้น เพราะบาดหลวงตาชา ซึ่งจะต้องไปเฝ้าพร้อมกับเรา ก็ได้ไปคอยเราอยู่ในพระราชวังแล้ว เราได้ขึ้นนั่งเก้าอี้หามไป และขุนนางไทย ๓ คนกับคนใช้ของเราได้ขึ้นม้าตามไป ยังมีคนการร่มให้เรา ๒ คนตามธรรมเนียมด้วย เมื่อเราได้ไปถึงชาลาชั้นนอกในพระราชวัง ได้พบขุนนางข้าราชการไทยขี่ม้าอยู่เป็นอันมาก และมีช้างหลายเชือก กับทหารถืออาวุธด้วย ชาลาชั้นนอกนี้หามีประตูไม่ แต่ต้องเดินข้ามคล้าย ๆ กับสะพาน ครั้นไปถึงประตูพระราชวัง เจ้าพนักงานก็ได้ให้เราลงจากเก้าอี้หาม เราจึงได้เดินผ่านชาลา ๓ ชาลา จะหาร่มกางก็ไม่มี ในชาลาต่าง ๆ ที่เราได้เดินผ่านไปนั้น ได้พบช้าง พบเจ้าพนักงานขี่ม้า และพบทหารถืออาวุธอยู่เต็มไปทุกหนทุกแห่ง เมื่อไปถึงชาลาที่สุดพอไปถึงกลางชาลา เจ้าพนักงานก็ให้เราถวายคำนับต่อพระเจ้ากรุงสยามครั้ง ๑ เพราะเมื่อถึงที่นั้นแล้ว ก็พอแลเห็นองค์พระเจ้ากรุงสยามเป็นเงา ๆ เพราะประทับอยู่สุดห้องเล็ก ๆ ซึ่งเป็นท้องพระโรง และพระทวารก็เปิดอยู่ด้วยจึงพอมองเห็นเข้าไปได้ พอเราได้ขึ้นไปถึงท้องพระโรง ซึ่งต้องขึ้นอัฒจรรย์ประมาณ ๘ หรือ ๑๐ คั่น เราก็ได้เห็นองค์พระเจ้ากรุงสยามทีเดียว เราจึงได้ถวายคำนับเป็นครั้งที่ ๒ และเมื่อได้เดินไปถึงที่ที่จะเฝ้านั้น ก็ได้ถวายคำนับอีกครั้ง ๑ เป็นครั้งที่ ๓ ในการที่จะกราบทูลข้อความต่าง ๆ นั้น เราได้เตรียมจะยืนเหมือนเมื่อได้เฝ้ากราบทูลในคราว แรกเหมือนกัน

ในคราวนี้พระเจ้ากรุงสยามได้ประทับอยู่บนแท่นสูงขึ้นจากพื้น และประทับอยู่ในบุศบก ๔ เหลี่ยม บุศบกนั้นทำด้วยไม้ทาสีแดงปิดทอง เสาบุศบกนั้นประดับด้วยแก้วและกระจก หลังคาหรือยอดนั้นก็ประดับด้วยแก้วและกระจกเหมือนกัน บุศบกนี้ติดอยู่กับผนัง และเมื่อพระเจ้ากรุงสยามได้เสด็จลงมาจากบุศบกแล้ว ก็ได้ทรงพระดำเนินด้วยทางลาดพระบาท เสด็จเข้าไปในห้องซึ่งอยู่ข้างหลังบุศบกนี้เอง ห้องชั้นในนี้ต้องขึ้นอัฒจรรย์เล็ก ๆ ซึ่งอยู่มุมท้องพระโรงทั้งสองมุม คือว่าอยู่ข้างซ้ายและข้างขวาบุศบกซึ่งเป็นที่ประทับนั้นเอง ทั้งสองข้างบุศบกนี้มีฉัตร์ตั้งอยู่ ๔ ฉัตร์ ๆ ๑ มี ๕ ชั้น เป็นฉัตร์แดง ๑ ฉัตร์เหลือง ๑ ตั้งอยู่ข้างละคู่ ของเครื่องถวายนั้นได้จัดวางไว้บนโต๊ะ ๒ โต๊ะเหมือนกับครั้งก่อน มองซิเออร์คอนซตันซ์เป็นผู้แปลถวายคำกราบทูลของเรา เมื่อเราได้กราบทูลข้อความและมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้แปลถวายแล้ว เราก็ได้นั่งลง พระเจ้ากรุงสยามได้มีพระราชดำรัสตอบขอบใจมกุฎราชกุมารฝรั่งเศส เราก็ได้ตอบขอบพระเดชพระคุณพระเจ้ากรุงสยาม แล้วพระเจ้ากรุงสยามจึงได้รับสั่งว่า ทรงยินดีเป็นอันมากที่ได้ทรงทราบว่า ท่านดุ๊กเดอเบรีได้ประสูติแล้ว เราจึงได้กราบทูลว่า “ขอพระองค์จงทรงเชื่อพระทัยเถิดว่า ถ้าในประเทศฝรั่งเศสได้ประสูติพระราชบุตรแล้ว ก็เท่ากับได้มีพระสหายของพระองค์ประสูติอีกองค์ ๑ ฝ่ายพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสและมกุฎราชกุมารฝรั่งเศสก็ไม่ได้มีพระราชประสงค์และพระประสงค์อันใด นอกจากประสงค์ให้พระราชไมตรีในระวางประเทศสยามและประเทศฝรั่งเศส ได้เป็นพระราชไมตรีอันมั่นคงยืนยาวชั่วกาลนาน”

แล้วพระเจ้ากรุงสยามจึงได้รับสั่งถามว่า มกุฎราชกุมารได้มีรับสั่งให้เรามากราบทูลข้อความอย่างอื่นอีกบ้างหรือไม่

ในทันใดนี้เจ้าพนักงานได้ตีเครื่องมโหรทึกซึ่งมีสำเนียงคล้ายเป็นเพลงออกสงคราม และเป็นเครื่องหมายว่าจะเสด็จขึ้น เราจึงได้กราบทูลตอบว่า มกุฎราชกุมารฝรั่งเศสหาได้มีรับสั่งให้เรากราบทูลข้อความอย่างอื่นไม่ พระเจ้ากรุงสยามจึงได้รับสั่งว่า เมื่อเสร็จการพิธีออกแขกเมืองแล้ว จะได้ทรงหาโอกาสให้เราเฝ้าโดยฉะเพาะเพื่อจะได้สนทนากันให้ยืดยาวกว่านี้ได้ แล้วจึงค่อย ๆ ทรงหับพระแกลบุศบก เป็นอันว่าได้เสด็จขึ้นแล้ว

พอพระเจ้ากรุงสยามได้เสด็จขึ้นแล้ว มองซิเออร์คอนซตันซ์ก็ได้มาบอกว่า ขอให้เรารอพักอยู่ที่นี่สักครู่หนึ่งก่อน เพราะพระเจ้ากรุงสยามจะเสด็จไปประทับในที่อีกแห่ง ๑ เพื่อเสด็จออกให้มองซิเออร์เดอโวดรีคูร์ และมองซิเออร์ดูเคนเฝ้า เราก็ได้นั่งคอยอยู่ สักครู่ใหญ่ ๆ ราชทูตที่ ๑ อุปทูต และข้าราชการไทยที่เราเรียกว่านายพันตรีนั้น ก็ได้เข้ามาพาเราไปที่พักแห่ง ๑ ในพระราชอุทยานเพื่อรับพระราชทานเลี้ยง

การเฝ้าครั้งนี้ถ้าจะว่าไปก็ไม่มีพิธีใหญ่โตเท่ากับเมื่อเฝ้าครั้งแรก กล่าวคือการแห่นำเราก็ไม่มี จนที่สุดขุนนางที่มารับเรานั้นก็เป็นขุนนางชั้นต่ำ หาใช่ขุนนางชั้นผู้ใหญ่เหมือนคราวแรกไม่ การที่เป็นเช่นนี้เราเข้าใจว่า คงเป็นเพราะเหตุที่เราได้เฝ้าในครั้งที่ ๒ นี้ หาใช่พิธีเฝ้าถวายพระราชสาส์นไม่ อีกประการ ๑ การที่จะเสด็จออกแขกเมืองโดยพิธีใหญ่โตจริง ๆ ก็จะเสด็จออกได้แต่ฉะเพาะที่กรุงศรีอยุธยา ซึ่งเป็นพระนครหลวงของประเทศสยามแห่งเดียวเท่านั้น และวันนี้เองมองซิเออร์คอนซตันซ์ก็ได้บอกกับข้าพเจ้าว่า พระเจ้ากรุงสยามไม่กล้าเสด็จออกรับพระราชสาส์นของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสที่เมืองลพบุรี ในการเฝ้าทั้ง ๒ ครั้งนี้ ข้าพเจ้าก็ได้สังเกตว่า จนที่สุดฉัตร์ที่ตั้งเคียงพระเจ้ากรุงสยามนั้น ก็ไม่เหมือนทั้ง ๒ คราว คราวหลังนี้ดูฉัตร์จะไม่ตั้งเต็มที่เหมือนคราวก่อน คือว่าเมื่อเฝ้าครั้งก่อนที่กรุงศรีอยุธยานั้น เศวตฉัตร์กลางมีถึง ๙ ชั้น และฉัตร์ข้าง ๆ มีถึง ๗ ชั้น แต่ในคราวเฝ้าครั้งหลังนี้ฉัตร์ทุก ๆ ฉัตร์มีเพียง ๕ ชั้นเท่านั้น แต่ในการเฝ้าครั้งที่ ๒ นี้เราเห็นมีการอย่างเดียวซึ่งเราถือว่าเป็นเกียรติยศต่อเราดีกว่าเมื่อเฝ้าครั้งก่อน คือว่าในครั้งนี้พระเจ้ากรุงสยามได้ประทับอยู่ในห้องเดียวกับที่เราเฝ้าอยู่ เมื่อครั้งเสด็จออกที่กรุงศรีอยุธยานั้น เราเฝ้าอยู่ในห้อง ๑ พระเจ้ากรุงสยามเสด็จออกอีกห้อง ๑ และเสด็จออกที่พระแกลเสียซ้ำไป แต่เราเชื่อว่าการที่ได้เสด็จออกแขกเมืองเช่นนี้ ก็โดยทรงเจตนาอย่างดีอยู่แล้ว

เราได้พยายามมาหลายครั้งแล้วที่จะหาโอกาสเฝ้าสมเด็จพระราชธิดาของพระเจ้ากรุงสยาม และมองซิเออร์คอนซตันซ์ก็ได้เคยทำให้เราหวังว่าเราคงจะได้มีโอกาสเฝ้า โดยใช้ให้บาดหลวงตาชามาบอกกับเราว่า ในเวลานี้ สมเด็จพระราชธิดากับพระเจ้ากรุงสยามกำลังทรงบาดหมางกันอยู่ จึงเป็นเหตุทำให้สมเด็จพระราชธิดาต้องพักอยู่ที่กรุงศรีอยุธยา หาได้ตามเสด็จขึ้นไปเมืองลพบุรีไม่ แต่ถ้าสมเด็จพระราชธิดาได้ดีกันกับพระเจ้ากรุงสยามเมื่อใด เราจึงจะเฝ้าได้เมื่อนั้น

ในระวางที่รอรับประทานอาหารอยู่นั้น เราได้พูดกับมองซิเออร์คอนซตันซ์อีกครั้งหนึ่ง ขอให้จัดการให้เราได้เฝ้าสมเด็จพระราชธิดา เพื่อเราจะได้นำของต่าง ๆ ของมกุฎราชกุมารีฝรั่งเศสถวาย มองซิเออร์คอนซตันซ์จึงได้บอกกับเราว่า เวลานี้สมเด็จพระราชธิดากำลังประชวรพระโรคหืดอยู่ที่กรุงศรีอยุธยา และพระบาทก็แพลงมาช้านานแล้วซึ่งไม่มีใครจะรักษาให้หายได้เลย มองซิเออร์คอนซตันซ์จึงเชื่อว่าสมเด็จพระราชธิดาคงจะไม่เสด็จออกให้เราเฝ้า แต่คงจะโปรดให้เจ้าพนักงานมารับของถวายจากเราเป็นแน่ แล้วมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ยอพระเกียรติ์ยกคุณความดีต่าง ๆ ของสมเด็จพระราชธิดาให้เราฟัง และได้เล่าว่าพระเจ้ากรุงสยามผู้เป็นพระชนกทรงรักใคร่โปรดปานสมเด็จพระราชธิดาเป็นอันมาก และได้ทรงมอบการฝ่ายในให้อยู่ในความดูแลของสมเด็จพระราชธิดา เหมือนกับพระมเหษีในประเทศสยามได้เคยดูแลการฝ่ายในแต่โบราณราชประเพณีมา เพราะฉะนั้นพระเจ้ากรุงสยามจึงได้โปรดให้สมเด็จพระราชธิดาได้มีพระราชสามี แล้วมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้เล่าต่อไปว่า การตัดสินถ้อยความและคดีต่าง ๆ ในระวางผู้หญิงฝ่ายในนั้น ตกอยู่ในหน้าที่ของสมเด็จพระราชธิดา เหมือนกับพระมเหษีในฝ่ายตะวันออกทั้งสิ้น เพราะผู้หญิงในพระราชวังนั้นจะออกนอกพระราชวังหรือจะไปฟ้องร้องเป็นความข้างนอกพระราชวังไม่ได้เป็นอันขาด แต่ที่พูดกันว่าสมเด็จพระราชธิดาไม่ได้ทรงบังคับบัญชาการตลอดถึงหัวบ้านหัวเมืองนั้นเป็นความไม่จริง ในส่วนที่เกี่ยวด้วยมหาดเล็กเด็กชานั้น สมเด็จพระราชธิดาก็ทรงปกครองว่ากล่าวได้ทั้งสิ้น และทรงพระเมตตากรุณาแก่พวกมหาดเล็กเด็กชา จนพวกนี้กลายเป็นคนหยิ่งจองหองไปหมด การที่สมเด็จพระราชธิดาทรงพระเมตตากรุณาแก่มหาดเล็กเด็กชานี้เอง เป็นเรื่องที่ทำให้พระองค์ขัดเคืองพระทัยกับพระเจ้ากรุงสยามพระราชบิดาอยู่เนือง ๆ แต่ถึงสมเด็จพระราชบิดาจะกริ้วกราดสักเพียงใด สมเด็จพระราชธิดาก็หาได้เปลี่ยนแปลงพระนิสสัยอย่างไรไม่ วันหนึ่งพระเจ้ากรุงสยามได้รับสั่งให้ผู้หญิงผู้หนึ่งเป็นครูของพระเจ้าลูกเธอไปเฝ้าสมเด็จพระราชธิดา แต่สมเด็จพระราชธิดาหายอมให้เฝ้าไม่ เพราะครูผู้นั้นหาได้เชิญลายพระราชหัตถ์ของสมเด็จพระราชบิดามาด้วยไม่ เราได้ยินเขาพูด ๆ กันว่า สมเด็จพระราชธิดามิได้พอพระทัยในการที่พวกฝรั่งเศสจะมาตั้งอยู่ในประเทศสยามเลย

ในเวลาที่รับประทานอาหารอยู่นั้น ผู้ที่นั่งรับประทานกับเราด้วยมีมองซิเออร์เดอโวดรีคูร์ ๑ มองซิเออร์ดูเคน ๑ มองซิเออร์เดฟาช ๑ กับชาวฝรั่งเศสอีกหลายนาย ท่านเหล่านี้พึ่งกลับจากเฝ้าพระเจ้ากรุงสยาม พระเจ้ากรุงสยามได้ทรงทักทายปราสัยท่านเหล่านี้ทุกคน และโปรดพระราชทานเสื้อให้มองซิเออร์เดอโวดรีคูร์ ๑ เสื้อ กับได้พระราชทานกระบี่ฝักทองคำ ๑ กระบี่ สายสร้อยทองคำ ๑ สาย เสื้อ ๑ เสื้อ ให้แก่มองซิเออร์ดูเคน มองซิเออร์เดฟาชได้กราบทูลว่า ด้วยความเชื่อแน่ในใจว่าสมเด็จพระมหากษัตริย์ทั้งสองได้เป็นพระราชไมตรีกันจริง เพราะฉะนั้นเมื่อได้มาเฝ้าเห็นองค์พระเจ้ากรุงสยาม ก็มีความปลื้มและปีติยินดีเท่ากับได้เฝ้าพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสเหมือนกัน และถ้าได้แหวะอกมองซิเออร์เดฟาชออกได้ ก็คงจะเห็นจริงตามคำที่มองซิเออร์เดฟาชกราบทูลนี้

ได้มีคนมาเล่าให้เราฟังว่า ได้มีคนไปพูดกับมองซิเออร์คอนซตันซ์เล่าว่า ในทวีปยุโรปเป็นธรรมเนียมของราชทูตที่เข้าเฝ้าพระเจ้าแผ่นดิน เวลาที่จะกราบทูลข้อความต่าง ๆ จะต้องนั่งลงหน้าที่นั่งจึงจะถูกธรรมเนียม และผู้นั้นได้เล่าให้เราฟังต่อไปว่า พระเจ้ากรุงสยามได้ทรงทราบว่าราชทูตสยามไปยืนกราบทูลต่อพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส ก็ทรงกริ้วราชทูตสยามเป็นอันมากดังนี้ เราอยากจะทราบว่าความจริงในเรื่องนี้จะเป็นอย่างไรแน่ เราจึงได้หาโอกาสพูดกับมองซิเออร์คอนซตันซ์ว่า ธรรมเนียมในประเทศยุโรปนั้น ผู้ที่เป็นราชทูตจะนั่งลงในเวลาพระเจ้าแผ่นดินเสด็จออกไม่ได้เป็นอันขาด และพระเจ้าแผ่นดินเองในเวลาเสด็จออกรับแขกเมืองก็ทรงยืนเหมือนกัน ที่พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสเคยประทับลงในเวลาออกแขกเมืองนั้นก็ฉะเพาะเวลารับราชทูตอังกฤษเท่านั้น เราจึงได้พูดกับมองซิเออร์คอนซตันซ์ต่อไปว่า ในการที่พระเจ้ากรุงสยามทรงยอมให้เชอวาเลียเดอโชมองนั่งเฝ้านั้น ที่ประเทศฝรั่งเศสเห็นกันว่าเป็นสิ่งแปลกปลาดมาก และในส่วนพระองค์ของพระเจ้ากรุงสยามเองก็ทราบไม่ได้ว่าพระองค์จะทรงยืนหรือนั่ง เพราะเสด็จออกในพระแกล เห็นแต่เพียงครึ่งพระองค์เท่านั้น

มองซิเออร์คอนซตันซ์จึงตอบว่า ถ้าพระเจ้ากรุงสยามจะทรงแสดงพระกิริยาอันไม่สุภาพแล้ว ก็ต้องทรงยืนขึ้น และผู้ที่จะเฝ้านั้น ถ้ายืนขึ้นหน้าพระที่นั่งในเวลากราบทูลข้อความยืดยาว ก็เท่ากับไม่แสดงความเคารพคารวะอย่างใดเลย

เราจึงได้ตอบว่า ข้อนี้เราเชื่อว่าคงเป็นความจริง เพราะเราเห็นว่ามีการที่จะหมอบนั้นเองเป็นกิริยาแสดงความไม่เคารพอย่างใดเลย

ในระวางที่รับประทานอาหารอยู่นั้น มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้บอกเรา ว่าพระเจ้ากรุงสยามพอพระทัยในคำกราบทูลของเราเป็นอันมาก และคำแปลที่มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้เตรียมไว้นั้น ก็ได้ส่งเข้าไปถวายในเวลานั้นเอง แต่ส่วนคำกราบทูลเมื่อเราได้เฝ้าครั้งแรกนั้น มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ส่งคำแปลเข้าไปถวาย ในเวลาที่พระเจ้ากรุงสยามได้เสด็จประทับในเรือพระที่นั่งจะเสด็จขึ้นไปเมืองลพบุรี ภายหลังพระเจ้ากรุงสยามได้รับสั่งกับมองซิเออร์คอนซตันซ์ว่า คำกราบทูลของเรามีข้อความตรงกับข้อความในพระราชสาส์นของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส แต่คำกราบทูลของเรามีใจความละเอียดกว่าในพระราชสาส์น และได้มีรับสั่งว่ามองซิเออร์เดอลาลูแบเป็นคนช่างพูดจริง ๆ แล้วมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้เล่าว่า ในเวลาที่พระเจ้ากรุงสยามรับสั่งถึงเรานั้น หาได้ทรงใช้คำว่า ทูตเอนวอยสำหรับเรียกเราไม่ แต่ทรงเรียกออกชื่อเราโดยฉะเพาะทุกคำ ตามที่มองซิเออร์คอนซตันซ์เล่าให้เราฟังดังนี้ ก็ประสงค์จะให้เรารู้สึกว่าการที่เราไม่ได้รับตำแหน่งราชทูตแอมบาซาเออร์มานั้น เป็นสิ่งที่พระเจ้ากรุงสยามไม่พอพระทัย จึงทรงเรียกออกชื่อเราเสมอดังนี้

ในการรับประทานอาหารกันคราวนี้ ต่างคนต่างมีความรื่นเริงสนุกสนานทุก ๆ คน ถ้วยแก้วก็ได้แตกไปหลายใบ และมองซิเออร์คอนซตันซ์ก็พยายามจะทำให้เราพอใจ โดยคิดตรึกตรองหาผู้ที่เป็นที่พอใจของเราสำหรับดื่มให้พร ครั้นรับประทานอาหารเสร็จแล้ว มองซิเออร์คอนซตันซ์กับบาดหลวงตาชาและคนทั้งหลายที่ได้นั่งโต๊ะ ได้พร้อมกันพากันไปส่งเราถึงประตูพระราชวัง เก้าอี้หามก็คอยเตรียมอยู่ณะที่นั้นเสร็จแล้ว เราจึงคิดจะพยายามขึ้นนั่งเก้าอี้หามให้มองซิเออร์คอนซตันซ์เห็น แต่เรายังไม่ทันได้ขึ้นนั่งเก้าอี้ มองซิเออร์คอนซตันซ์กับพวกฝรั่งเศสก็พากันกลับไปหมด เราจึงได้กลับไปยังที่พักโดยมีคนตามมาเหมือนเมื่อขาเข้าไปพระราชวังเหมือนกัน

วันนี้เวลาค่ำ มองซิเออร์เวเรต์ได้มาหาเรา และได้มาเล่าให้มองซิเออร์เดอลาลูแบฟังเป็นข่าวตรงกันกับที่ได้มาเล่าให้ข้าพเจ้าฟังแต่ก่อนแล้ว ว่าในคราวแรกที่บาดหลวงตาชาได้ขึ้นมาที่กรุงศรีอยุธยา บาดหลวงตาชาได้บอกกับมองซิเออร์เวเรต์ ว่าบาดหลวงตาชาจะได้รับหน้าที่เป็น เอนวอยเอกซตราออดีนารี ของพระเจ้ากรุงกรุงสยามกลับไปประเทศฝรั่งเศสอีก และเรื่องนี้บาดหลวงตาชา คงจะได้ไปพูดกับคนอื่น ๆ อีกหลายคน เพราะมองซิเออร์เวเรต์ได้ทราบข่าวอันนี้มาจากคนอื่นด้วยเหมือนกัน

ณวันจันทร์ที่ ๑๗ เดือนพฤศจิกายน มองซิเออร์เดอโวดรีคูร์ได้รับหนังสือจากมองซิเออร์เดอคูร์เซลฉะบับ ๑ เขียนมาจากแหลมเคปออฟกูดโฮบ ลงวันที่ ๓๑ เดือนตุลาคม ค.ศ. ๑๖๘๗ (พ.ศ. ๒๒๓๐) บอกข่าวมาว่าเรือได้ติดอยู่ที่เกาะคอมบัว ซึ่งเป็นเกาะห่างจากช่องซอนดาหนทางประมาณ ๔๐๐ ไมล์

เมื่อเช้านี้บาดหลวงเยซวิตได้เข้าเฝ้าพระเจ้ากรุงสยามโดยฉะเพาะ พวกบาดหลวงเยซวิตได้ไปพร้อมกับมองซิเออร์คอนซตันซ์รวม ๑๓ คน เพราะบาดหลวงเยซปานยักซึ่งเป็นคนที่ ๑๔ นั้น ยังป่วยอยู่ที่กรุงศรีอยุธยาหาได้ขึ้นมาที่เมืองลพบุรีไม่ มองซิเออร์เดฟาชกับบรรดานายทหารฝรั่งเศสทุกคน ได้ชวนกันไปส่งมองซิเออร์คอนซตันซ์จนถึงประตูพระราชวัง มองซิเออร์คอนซตันซ์เห็นพวกทหารฝรั่งเศสมากันเช่นนี้ก็ตกใจ จึงได้บอกว่า จะพากันไปส่งก็ได้ แต่พวกนายทหารเข้าเฝ้าด้วยไม่ได้ ถึงดังนั้นพวกนายทหารฝรั่งเศสก็หาฟังไม่ ได้ตามไปส่งจนถึงพระราชวัง พอถึงพระราชวังเจ้าพนักงานก็ปิดประตูเสีย หายอมให้พวกนี้เข้าไปไม่

พวกบาดหลวงเยซวิตเฝ้าคราวนี้ ได้มีเวลาเฝ้าอยู่ถึง ๑ ชั่วโมง พระเจ้ากรุงสยามได้ทรงทักทายปราสัยพวกบาดหลวงเยซวิตทุก ๆ คน และทรงพระเมตตาแก่บาดหลวงเดอลาเชซเป็นอันมาก แต่เมื่อพวกบาดหลวงได้กราบทูลขึ้นเวลาใดว่าขอให้ทรงสวดมนต์บ้าง หรือได้กราบทูลถึงเรื่องศาสนาแล้ว พระเจ้ากรุงสยามหาได้ทรงตอบโต้ประการใดไม่เลย

เมื่อเราได้รับประทานอาหารเสร็จแล้ว บาดหลวงตาชา ๑ บาดหลวงเลอรัวเย ๑ บาดหลวงเดอเบซ ๑ รวม ๓ คนได้มาหาเราเพื่อมาเล่าให้เราฟังถึงการที่ได้เข้าเฝ้าในคราวนี้ ในระวางที่สนทนากันอยู่นั้น มองซิเออร์เดอลาลูแบได้ถามบาดหลวงตาชา ว่าจะทำอย่างไรดีจึงจะได้ประกาศข้อความในสัญญาซึ่งพระราชทานสิทธิต่างๆให้แก่ศาสนา บาดหลวงตาชาจึงได้ตอบว่า ถ้าเราจะต้องการให้ประกาศข้อความในสัญญานั้นเมื่อไรก็ได้ แต่ปัญหามีอยู่ว่า เรามีหน้าที่และเราได้รับคำสั่งให้มาขอร้องเช่นนี้หรือไม่ แล้วบาดหลวงตาชาได้พูดต่อไปว่า ในเรื่องนี้บาดหลวงตาชาได้กราบทูลพระเจ้ากรุงสยามไว้แล้ว ว่าการที่จะประกาศสิทธิต่าง ๆ เหล่านี้เป็นการไม่เหมาะเลย เพราะอาจจะทำให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นได้ โดยเหตุที่พวกเข้ารีตใหม่ ๆ ยังไม่มีเลย จะพระราชทานสิทธิต่าง ๆ ให้แก่ผู้ใดเล่า ที่ถูกควรให้มีพวกเข้ารีตเสียก่อน แล้วจึงพระราชทานสิทธิต่าง ๆ ให้ก็ได้

มองซิเออร์เดอลาลูแบจึงได้ถามบาดหลวงตาชาว่า เมื่อการเป็นเช่นนี้จะให้เราไปกราบทูลพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส ในเรื่องพระเจ้ากรุงสยามจะทรงเข้ารีตอย่างไรเล่า เพราะพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้ทรงทราบอยู่ว่าพระเจ้ากรุงสยามได้ออกพระโอษฐ์รับสั่งว่าจะได้ทรงศึกษาในการศาสนาคริศเตียนต่อไป พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสจึงได้มีรับสั่งให้เรามาปรึกษาหารือกับมองซิเออร์คอนซตันซ์เพื่อช่วยกันคิดจัดการให้เรื่องนี้ได้เป็นผลสำเร็จ

บาดหลวงตาชาจึงได้ตอบมองซิเออร์เดอลาลูแบว่า เมื่อท่านได้ไปหามองซิเออร์คอนซตันซ์ที่กรุงศรีอยุธยาครั้งหนึ่ง ท่านก็ได้นำเรื่องนี้พูดกับมองซิเออร์คอนซตันซ์ครั้งหนึ่งแล้ว มองซิเออร์คอนซตันซ์ก็ได้เอาข้อความที่มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้กราบทูลและที่พระเจ้ากรุงสยามได้รับสั่งมาอ่านให้ท่านฟัง และตามข้อความที่รับสั่งนั้นก็ปรากฎว่า พระเจ้ากรุงสยามจะทรงศึกษาการศาสนาไม่ได้ เพราะเหตุว่าไม่เข้าพระทัยในภาษาคำพูดของท่านสังฆราชเดอเมเตโลโปลิศ จึงเป็นการจำเป็นต้องทรงรอจนกว่าจะมีผู้ใดรู้ภาษาไทยได้ดีจะได้กราบทูลสั่งสอนถึงการศาสนาต่อไป

เมื่อจวนพลบพวกบาดหลวงได้ลากลับไป อีกสักครู่หนึ่ง ท่านสังฆราชเดอเมเตโลโปลิศก็ได้มาหาเรา เราจึงได้เอาเรื่องการศาสนามาพูดกับท่านสังฆราชอีก เพราะในเรื่องนี้เราได้เคยพูดกับท่านสังฆราชมาหลายครั้งแล้ว แล้วเราจึงได้เอาคำสั่งมาอ่านให้ท่านสังฆราชฟัง ในคำสั่งนั้นมีความว่า พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้ดำรัสสั่งให้เรามาปรึกษาหารือและปฏิบัติการตามคำแนะนำของท่านสังฆราช เพื่อจะจัดการให้ศาสนาคริศเตียนได้แพร่หลายในประเทศนี้ต่อไป

สังฆราชเดอเมเตโลโปลิศจึงได้ตอบเราว่า ควรจะขอร้องให้ประกาศสัญญาที่เกี่ยวด้วยการศาสนา ซึ่งได้ทำไว้กับเชอวาเลียเดอโชมอง

เราจึงได้ชี้แจงให้ท่านสังฆราชฟังว่า ในเรื่องประกาศสัญญาซึ่งได้ทำไว้กับเชอวาเลียเดอโชมองนั้น ฟังดูเป็นการที่มองซิเออร์คอนซตันซ์ไม่เต็มใจให้ประกาศเลย และมองซิเออร์คอนซตันซ์เป็นคนที่พูดยาก เมื่อลงไม่พอใจสิ่งใดแล้ว ยากที่จะพูดจาเกลี้ยกล่อมให้เปลี่ยนความคิดได้

สังฆราชเดอเมเตโลโปลิศจึงได้ตอบว่า เรื่องนี้เป็นการปลาดอย่างที่สุด เพราะข้างฝ่ายพระเจ้ากรุงสยามก็ทรงเข้าพระทัยว่าสัญญาฉะบับนั้นได้ประกาศแล้ว แต่การที่ยังมิได้ประกาศนั้น ก็มีแต่มองซิเออร์คอนซตันซ์คนเดียวที่คอยขัดขวางไว้ ในเรื่องนี้มองซิเออร์คอนซตันซ์ยกเหตุผลมาอ้างว่า ไม่ควรจะพระราชทานสิทธิต่าง ๆ ให้แก่คนเข้ารีตเพราะคนเข้ารีตยังไม่มีเลย และที่เรียกกันว่าคนเข้ารีตนั้นเป็นเรื่องที่นึกกันเอาเองทั้งสิ้น ตัวจริงหามีไม่ ที่มองซิเออร์คอนซตันซ์พูดดังนี้ ก็เพราะไม่ได้นึกเลยว่าสิทธิต่าง ๆ เหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็นโดยแท้ สำหรับให้คนทั้งหลายได้มีน้ำใจหรือกล้าที่จะเข้ารีต มองซิเออร์คอนซตันซ์ยังพูดต่อไปอีกว่า การที่พระเจ้ากรุงสยามได้โปรดให้สร้างวัดสร้างบ้านเรือนให้แก่พวกเข้ารีตนั้น เป็นการที่พระเจ้ากรุงสยามได้ทรงพระเมตตาแก่พวกเข้ารีตพออยู่แล้ว แต่ที่มองซิเออร์คอนซตันซ์พูดเช่นนี้ก็เท่ากับฝัน เพราะการที่พระเจ้ากรุงสยามได้โปรดให้พวกเข้ารีตได้มีวัดมีโบสถ์ในประเทศสยามนั้น มิได้เป็นการแสดงว่าพระเจ้ากรุงสยามได้โปรดปรานหรือทรงลำเอียงเข้ากับพวกเข้ารีตอย่างใดเลย เพราะได้โปรดพระราชทานสุเหร่าให้พวกแขกมัว และพระราชทานศาลเจ้าให้แก่พวกจีนเหมือนกัน จึงเป็นอันพูดไม่ได้ว่าพระเจ้ากรุงสยามได้โปรดพวกแขกมัว หรือโปรดพวกจีน หรือโปรดพวกเข้ารีตเป็นพิเศษอย่างใดเลย เมื่อก่อนที่เชอวาเลียเดอโชมองจะออกจากเมืองไทยกลับไปประเทศฝรั่งเศสนั้น มองซิเออร์คอนซตันซ์ก็ได้ให้บาดหลวงตาชาไปหาเชอวาเลียเดอโชมอง เพื่อไปชี้แจงเหตุผลต่าง ๆ ในการที่ยังไม่ควรจะประกาศสัญญานั้น ในครั้งนั้นเชอวาเลียเดอโชมองได้ขัดเคืองบาดหลวงตาชาเป็นอันมาก แต่ถึงดังนั้นบาดหลวงตาชาก็เกลี้ยกล่อมให้เชอวาเลียเดอโชมองยอมว่า ให้เชอวาเลียเดอโชมองกลับไปเสียก่อน จึงค่อยประกาศหนังสือสัญญานั้นต่อไป แต่ครั้นเชอวาเลียเดอโชมองได้กลับไปแล้ว ก็หาได้มีผู้ใดพูดถึงเรื่องสัญญานี้อีกต่อไปไม่

เราจึงได้ตอบท่านสังฆราชเดอเมเตโลโปลิศว่า เราเชื่อแน่แล้วว่าการที่จะประกาศสัญญาพระราชทานสิทธิต่าง ๆ ให้แก่พวกเข้ารีตนั้น คงเป็นประโยชน์ต่อศาสนาคริศเตียนเป็นอันมาก แต่ข้อที่เราจะต้องการถามท่านสังฆราชนั้น ก็คือว่าจะทำอย่างไรจึงจะประกาศหนังสือสัญญานั้นได้เล่า

ท่านสังฆราชเดอเมเตโลโปลิศจึงได้ตอบว่า ในเรื่องนี้จะต้องไปหารือต่อพระเป็นเจ้าเสียก่อน และพรุ่งนี้จะได้จัดให้มีการสวดโดยฉะเพาะสำหรับการเรื่องนี้

แล้วท่านสังฆราชได้เล่าความจริงใจให้เราฟังว่า ได้มีคนหลายคนมาบอกข้าพเจ้าว่า การที่มองซิเออร์คอนซตันซ์คอยกีดกันข้าพเจ้าอยู่เช่นนี้ ก็เพราะเหตุมองซิเออร์คอนซตันซ์เกรงว่าถ้าข้าพเจ้าได้ไปถวายการศาสนาต่อพระเจ้ากรุงสยาม จนพระเจ้ากรุงสยามได้ทรงเข้ารีตแล้ว ข้าพเจ้าอาจจะแย่งตำแหน่งหน้าที่ของมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ และที่มองซิเออร์คอนซตันซ์คิดเช่นนี้ ก็ต้องนับว่ามองซิเออร์คอนซตันซ์เป็นคนไร้สติ มองซิเออร์คอนซตันซ์จึงไปเที่ยวพูดทุกหนทุกแห่ง ว่าเวลาที่ข้าพเจ้ากราบทูลต่อพระเจ้ากรุงสยาม พระเจ้ากรุงสยามหาทรงเข้าพระทัยในคำพูดของข้าพเจ้าไม่ แต่ที่จริงเมื่อเวลาข้าพเจ้ากราบทูลว่ากะไร พระเจ้ากรุงสยามก็ทรงรับสั่งตอบตรงกับคำกราบทูลทุกครั้ง ข้าพเจ้าจึงได้ไปเที่ยวสืบถามว่า พระเจ้ากรุงสยามเข้าพระทัยในคำพูดของข้าพเจ้าหรือไม่ ก็ได้มีข้าราชการในพระราชสำนักสามสี่คนบอกกับข้าพเจ้าว่า พระเจ้ากรุงสยามได้มีรับสั่งกับเขาเอง ว่ายังไม่เคยทรงพบชาวยุโรปคนใดที่จะพูดภาษาไทยได้ดีเหมือนข้าพเจ้าเลย

เมื่อได้ปรึกษาหารือกันในเรื่องนี้เสร็จแล้ว จึงเป็นอันตกลงเห็นพร้อมกันว่า ในเวลานี้ยังไม่ควรนำเรื่องนี้กราบทูลต่อพระเจ้ากรุงสยาม จนกว่ามองซิเออร์คอนซตันซ์จะยอมให้เรากราบทูล เพราะมองซิเออร์คอนซตันซ์ต้องเป็นล่าม และเมื่อพระเจ้ากรุงสยามจะรับสั่งกับเราว่าประการใด มองซิเออร์คอนซตันซ์ก็อาจจะแปลคำรับสั่งเป็นอย่างอื่นตามชอบใจของตัวอย่างไรก็ได้

สังฆราชเดอเมเตโลโปลิศจึงพูดกับเราว่า ข้าพเจ้าจะเล่าอะไรให้ท่านฟังเป็นความลับส่วนตัว คือเมื่อมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้แปลพระราชสาส์นของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส ที่ท่านเชิญมาถวายต่อพระเจ้ากรุงสยามนั้น ได้แปลถวายฉะเพาะต่อหน้าข้าพเจ้าด้วย ข้อความในพระราชสาส์นตอนที่พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสทรงชมเชยยกย่องราชทูตสยามสามนายนั้น มองซิเออร์คอนซตันซ์จะแปลกลับความเสียให้ได้ คือคำที่พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสทรงชมเชยราชทูตสยามนั้น มองซิเออร์คอนซตันซ์จะแปลว่า พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสทรงชมตัวของตัวเอง เพราะความในพระราชสาส์นมีว่า พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสทรงเห็นในพระปรีชาสามารถของพระเจ้ากรุงสยาม ที่ทรงรู้จักเลือกคนที่จะเป็นราชทูต แต่มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้แปลถวายว่า ที่ทรงรู้จักเลือกคนที่จะเป็นเสนาบดี ดังนี้ ข้าพเจ้าก็อดไม่ได้ ได้ค้านมองซิเออร์คอนซตันซ์ว่าแปลผิด ต่อหน้าที่นั่งนั้นเอง

ตอนค่ำบาดหลวงมาแตงได้มาหามองซิเออร์เดอลาลูแบ เล่าเนื้อความตรงกันกับที่บาดหลวงตาชาได้มาเล่า อันเป็นข่าวที่รู้แซ่กันไปหมดแล้ว ว่าในเวลาปกติมองซิเออร์เดฟาชจะต้องไปประจำอยู่ในราชสำนัก ในเรื่องนี้ข้าพเจ้าได้ถามมองซิเออร์เดฟาชเอง เพราะอยากทราบว่าความจริงจะมีแค่ไหน มองซิเออร์เดฟาชจึงได้ตอบข้าพเจ้าว่า การที่ได้ขึ้นมาที่เมืองลพบุรีคราวนี้ ก็โดยได้รับ ๆ สั่งให้ขึ้นมา และเมื่อยังไม่ได้รับสั่งให้กลับ มองซิเออร์เดฟาชก็จะอยู่ที่เมืองลพบุรีต่อไป

ณวันที่ ๑๘ เดือนพฤศจิกายน พระเจ้ากรุงสยามได้มีรับสั่งให้เจ้าพนักงานมาเชิญเราไปดูการคล้องช้างป่า ในการคล้องช้างคราวนี้บรรดาเจ้านายขุนนางข้าราชการผู้มีบรรดาศักดิ์ไทยได้ไปกันทุกคน บางคนก็ขี่ช้าง บางคนก็ขี่ม้า เมื่อเราได้ไปถึงแล้วสักครู่หนึ่ง พระเจ้ากรุงสยามก็เสด็จมา ทรงช้างพระที่นั่งและหาได้เสด็จลงจากหลังช้างไม่ เมื่อเสด็จมาถึงเราก็ได้ยืนขึ้นถวายคำนับ จึงได้มีรับสั่งโปรดให้เรานั่งลง

ต่อมามองซิเออร์คอนซตันซ์ก็ได้มาหาเรา บอกว่าพระเจ้ากรุงสยามมีรับสั่งให้มาถามว่า ที่เราได้ไปดูการคล้องช้างนั้นเป็นอย่างไรบ้าง เราจึงได้ตอบว่า การที่ทรงพระกรุณาโปรดให้เราไปดูการคล้องช้างนั้น เป็นพระเดชพระคุณหาที่สุดมิได้ และการคล้องช้างนั้นเราเห็นเป็นการสมพระเกียรติยศอย่างยิ่ง

เมื่อได้เสร็จการคล้องช้างแล้ว เราได้เชิญมองซิเออร์คอนซตันซ์และสังฆราชเดอเมเตโลโปลิศ ให้มารับประทานอาหารกับเรา และในระวางที่รับประทานอาหารกันอยู่นั้น ต่างคนก็ต่างปรองดองเอาอกเอาใจซึ่งกันและกัน

ตอนค่ำบาดหลวงเดอเบซได้มาหามองซิเออร์เดอลาลูแบ และได้มาบอกว่ามองซิเออร์คอนซตันซ์ดำริที่จะเอาเข้าไว้ที่ป้อมบางกอกเป็นสะเบียงพอ ๖ เดือน ตามที่ได้ความมาดังนี้ก็ทำให้เรารู้สึกว่า นายร้อยเอกชาวปอตุเกตซึ่งประจำอยู่ที่บางกอกนั้น คงจะได้รายงานมาให้มองซิเออร์คอนซตันซ์ทราบถึงการที่เราได้จัดทำไป เพราะเมื่อวันวานนี้เอง ข้าพเจ้าได้รับจดหมายจากมองซิเออร์เวเรต์บอกมาว่า เข้าเปลือกซึ่งข้าพเจ้าได้สั่งให้ส่งไปไว้ที่บางกอกนั้น ได้ไปถึงบางกอกและได้เก็บเข้ายุ้งไว้ตามคำสั่งของมาควิศเดอเซเนเลเสร็จแล้ว

ในคืนวันนั้นเอง มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้เชิญให้เราไปรับประทานอาหารค่ำในสวนซึ่งอยู่นอกเมือง แต่มองซิเออร์เดอลาลูแบหาได้ไปรับประทานอาหารด้วยไม่ ต่อรับประทานกันเสร็จแล้วมองซิเออร์เดอลาลูแบจึงได้ไป

ในคืนวันนี้เอง พระเจ้ากรุงสยามได้เสด็จไปที่ทะเลชุบศร ซึ่งเป็นตำบลใกล้กับเมืองลพบุรี เพราะกำลังทรงสร้างพระราชวังขึ้นใหม่ในที่นั้น

ณวันที่ ๑๙ เดือนพฤศจิกายน เวลาบ่ายประมาณ ๔ โมง เราได้ให้คนไปบอกมองซิเออร์คอนซตันซ์ว่าเราอยากจะไปหา เพื่อไปแสดงให้มองซิเออร์คอนซตันซ์ทราบ ถึงพระเมตตากรุณาที่พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้ทรงมีต่อมองซิเออร์คอนซตันซ์ บาดหลวงตาชาได้ออกมาตอบแทนมองซิเออร์คอนซตันซ์ว่า เวลานี้ยังจะพบมองซิเออร์คอนซตันซ์ไม่ได้ เพราะกำลังไหว้พระอยู่ เราจึงได้เลยไปหาท่านสังฆราชเดอเมเตโลโปลิศ เพื่อจะได้ปรึกษาหารือกันถึงเรื่องการศาสนา แต่เมื่อได้ปรึกษาหารือกันแล้ว ก็หาได้ตกลงกันอย่างไรไม่ เมื่อเราได้กลับมาจากท่านสังฆราชแล้ว ก็ได้เห็นการจุดดอกไม้เพลิงอย่างแบบของจีน ซึ่งมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้มีขึ้นสำหรับฉลองโบสถ์ใหม่ ในเวลาที่ได้พบกับมองซิเออร์คอนซตันซ์ในตอนดูจุดดอกไม้เพลิงนี้ เราหาได้พูดถึงการงานอย่างใดกับมองซิเออร์คอนซตันซ์ไม่ พอดูจุดดอกไม้เพลิงเสร็จแล้วเราก็รีบลากลับมา โดยอ้างเหตุว่ามองซิเออร์คอนซตันซ์จะได้ไหว้พระต่อไป มองซิเออร์เดอลาลูแบได้บอกกับข้าพเจ้าในคืนวันนั้นเองว่า ได้ทราบความมาจากมองซิเออร์โวลังว่า การที่ได้ตั้งแต่งนายทหารที่บางกอกนั้น เป็นการที่พวกนายทหารเหล่านี้ได้ขอให้ตั้งแต่งขึ้นเอง มองซิเออร์เดฟาชหาได้รู้เรื่องด้วยไม่

ณวันที่ ๒๐ เดือนพฤศจิกายน เราได้ไปรับประทานอาหารณที่บ้านของพวกบาดหลวงเยซวิต ในตอนเช้าบาดหลวงเลอรัวเยกับบาดหลวงดูชาตซ์ผู้เป็นหัวหน้าของพวกเยซวิต ได้มารับเราไปที่บ้าน เราจึงได้เล่าให้บาดหลวงทั้งสองนี้ฟังถึงข้อความที่เราได้พูดกับสังฆราชเดอเมเตโลโปลิศเมื่อวันวานนี้ เพราะเราเห็นว่าน้ำใจของท่านสังฆราชมิได้แตกร้าวกับพวกเยซวิตเลย และบาดหลวงทั้งสองก็ได้ยกย่องสังฆราชเดอเมเตโลโปลิศ ในการที่ท่านสังฆราชได้มอบอำนาจต่าง ๆ ให้แก่บาดหลวงเยซวิต เมื่อได้พูดกับบาดหลวงทั้งสองเสร็จแล้ว มองซิเออร์คอนซตันซ์ ๑ มองซิเออร์เดฟาช ๑ มองซิเออร์ดูบรูอัง ๑ และมองซิเออร์โวลัง ๑ ก็ได้มาถึง เพื่อจะมารับประทานอาหารที่บ้านบาดหลวงเยซวิตพร้อมกัน ท่านสังฆราชเดอเมเตโลโปลิศก็ได้มาเหมือนกัน แต่มาเมื่อรับประทานอาหารกันเสร็จแล้ว เมื่อมองซิเออร์คอนซตันซ์จะลาเรากลับไปนั้น เราได้บอกกับมองซิเออร์คอนซตันซ์ว่า การที่เราได้ขอพบกับมองซิเออร์คอนซตันซ์เมื่อวันวานนี้นั้น ก็เพื่อจะเชิญสิ่งของต่าง ๆ ซึ่งพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้ส่งมาพระราชทานให้เป็นเกียรติยศไปมอบให้กับมองซิเออร์คอนซตันซ์ มองซิเออร์คอนซตันซ์จึงได้ตอบว่า มีความยินดีที่จะพบเราทุกเมื่อ

ครั้นเวลาบ่ายประมาณ ๔ หรือ ๕ โมง เราได้ไปยังบ้านของมองซิเออร์คอนซตันซ์ พร้อมด้วยข้าราชการเจ้าพนักงานฝรั่งเศสที่ได้มาในกระบวนของเรา เราจึงได้นำตราตั้งซึ่งพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้โปรดตั้งให้มองซิเออร์คอนซตันซ์เป็นเคานต์ กับหนังสือสำคัญซึ่งพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสโปรดพระราชทานพระราชานุญาต ให้มองซิเออร์คอนซตันซ์ใช้รูปลูกกุญแจฝรั่งเศสในดวงตราได้นั้น มอบให้แก่มองซิเออร์คอนซตันซ์ แต่ก่อนที่เราจะมอบให้นั้น เราได้เอาตราตั้งและหนังสือสำคัญขึ้นทูนศีร์ษะตามแบบของชาวตะวันออกเสียก่อน จึงได้ส่งให้มองซิเออร์คอนซตันซ์รับไป เมื่อมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้รับไปแล้ว ก็เอาขึ้นทูนศีร์ษะเสียก่อนเหมือนกัน แล้วจึงได้เอาตราตั้งและหนังสือสำคัญวางไว้บนพานทอง เอาพานทองวางบนโต๊ะใต้พระรูปพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส และพระรูปนั้นประดิษฐานอยู่บนแท่นซึ่งมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ให้ทำขึ้นตั้งแต่ได้รับยศเป็นออกยา แต่ความจริงการที่ทำแท่นประดิษฐานพระรูปเช่นนี้ ไม่เคยมีเยี่ยงอย่างในประเทศสยามเลย แล้วเราจึงได้ทำความตกลงกับมองซิเออร์คอนซตันซ์ว่า เราจะได้เชิญตราเซนต์มิเชลมามอบให้ในวันอาทิตย์หน้า พวกบาดหลวงเยซวิตได้พากันมาหามองซิเออร์คอนซตันซ์พร้อมกันทั้งคณ เพื่อมาขอบใจในการที่มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้จัดการให้พวกเยซวิตได้เข้าเฝ้าพระเจ้ากรุงสยามครั้งนี้

ณวันที่ ๒๑ เดือนพฤศจิกายน ท่านสังฆราชเดอเมเตโลโปลิศได้ไปทำพิธีฉลองวัดซึ่งมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ให้สร้างขึ้น และซึ่งได้อุทิศให้แก่นางมาเรียมารดาพระเยซูคริศต์ ในงานฉลองวัดคราวนี้ได้มีงานกันถึง ๘ วัน และในระวางงานนั้น ได้มีการสวดและเทศน์ กับได้ร้องเพลงสวด โดโนนซาลูอำฟักเรเยม ทุก ๆ วัน ไม่ผิดกันกับที่เคยทำพิธีชะนิดนี้ในประเทศฝรั่งเศสเลย ครั้นตอนเย็นเราได้ไปดูบ้านที่กำลังสร้างให้พวกบาดหลวงเยซวิตอยู่ เราได้เห็นเขากำลังก่อตึกงาม ๆ ๓ หลังทำด้วยอิฐปูน และมีป้อมแปดเหลี่ยมสำหรับขึ้นไปดูต่างหอคอยด้วย ในชั้นเดิมตึก ๓ หลังนี้ได้กะไว้ว่าจะก่อเพียงชั้นเดียวเท่านั้น แต่มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ตกลงให้ก่อเสริมเป็น ๒ ชั้นขึ้น

เมื่อวานนี้มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้รับตราเซนต์มิเชลไปแล้ว แต่ถึงดังนั้นก็ได้ไปพูดกับบาดหลวงเลอรัวเยกับบาดหลวงแซนด์มาแตงว่า การที่รับตราดวงนี้ยังสองจิตต์สองใจอยู่ ฟังดูประหนึ่งมองซิเออร์คอนซตันซ์อยากจะคืนตราเสีย และมองซิเออร์คอนซตันซ์ก็ได้พูดอ้อนวอนบาดหลวงตาชา ขอให้บาดหลวงตาชาช่วยไปพูดกับบาดหลวงเดอลาเชซ ให้บาดหลวงเดอลาเชซกราบทูลพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส ขออย่าให้กริ้วในการที่มองซิเออร์คอนซตันซ์จะคืนตราดวงนี้ ค่ำวันนี้บาดหลวงตาชากับมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ไปเฝ้าพระเจ้ากรุงสยามที่ทะเลชุบศร และมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้พูดว่า ในเรื่องรับตราและเรื่องคืนตราเซนต์มิเชลนั้น มองซิเออร์คอนซตันซ์ทราบในพระทัยพระเจ้ากรุงสยามได้ดี ว่าจะมีพระราชประสงค์อย่างไร

ณวันที่ ๒๒ เดือนพฤศจิกายน มองซิเออร์คอนซตันซ์ ได้ให้สายสร้อยทองคำสำหรับพันหมวกแก่มองซิเออร์เดฟาชสาย ๑ สายสร้อยนี้ได้ทำด้วยทองคำ เป็นสายสร้อยถักเป็นเกลียวโปร่ง และที่เงื่อนนั้นมีเพ็ชร์เมล็ดงามอยู่ ๑ เมล็ด เวลาเย็นข้าพเจ้ากลับจากบ้านมองซิเออร์คอนซตันซ์ ได้พบมองซิเออร์เดฟาชยืนอยู่กลางถนน มองซิเออร์เดฟาชได้บอกว่าได้มาคอยข้าพเจ้าอยู่นานแล้ว เพราะอยากจะพบสนทนากับข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจึงได้เชิญให้มองซิเออร์เดฟาชขึ้นไปบนบ้าน แต่มองซิเออร์เดฟาชไม่ยอมขึ้นบ้าน จึงได้เลยยืนสนทนากันอยู่กลางชาลา มองซิเออร์เดฟาชได้พูดอธิบายความให้ข้าพเจ้าฟังหลายข้อ คือ ๑ ว่ามองซิเออร์เดฟาชกับมองซิเออร์คอนซตันซ์ต่างคนต่างมีความไว้ใจซึ่งกันและกัน ๒ ถ้าจะให้ราชการของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้ดำเนินสู่ความเจริญแล้ว ก็ต้องมีความไว้ใจมองซิเออร์คอนซตันซ์ ๓ ในส่วนเรื่องเมืองบางกอกนั้น มองซิเออร์เดฟาชจะยอมรับผิดรับชอบต่อพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสว่าจะได้รักษาไว้ให้จนได้ ๔ มองซิเออร์เดฟาชจะได้มีจดหมายชี้แจงเหตุผลต่าง ๆ ไปให้มองเซนเยอร์เดอเซเนเลทราบ ๕ กองทหารไทยที่ยังคงประจำอยู่ที่บางกอกนั้น หาได้ทำให้มองซิเออร์เดฟาชหนักใจอย่างใดไม่ เพราะมองซิเออร์เดอฟาชจะได้ระวังการทุกอย่างมิให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นได้

ท่านสังฆราชเดอเมเตโลโปลิศได้มาที่ที่พักของเรา และได้เล่าให้เราฟังว่า ก่อนที่เชอวาเลียเดอโชมองจะได้มาถึงเมืองไทยนั้น พระเจ้ากรุงสยามได้มีรับสั่งกับท่านสังฆราชหลายครั้งว่า ทรงพระวิตกนักว่าพวกฮอลันดาจะมายึดเอาเมืองบางกอกเสีย เพราะคนไทยยังไม่มีความชำนาญในการสงครามเลย และได้รับสั่งต่อไปว่า ไม่ทรงทราบเลยว่าพวกฝรั่งเศสจะคิดเห็นอย่างไรในเรื่องนี้ แต่ส่วนพระองค์นั้นถ้ายังทรงมีพระชนม์อยู่ตราบใด ก็จะทรงพระราชทานอะไรต่ออะไรต่าง ๆ ให้พวกฝรั่งเศสทุกอย่าง เพราะทรงรักใคร่พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสมากนัก แต่ถ้าพระองค์ได้เสด็จสวรรคตเสียแล้ว ก็ทรงเกรงว่าการคงจะเปลี่ยนแปลงไปหมด และพวกฝรั่งเศสก็คงจะไม่อยู่เป็นผาสุกเหมือนในเวลาที่พระองค์ยังมีพระชนม์อยู่ เพราะฉะนั้นจึงทรงขอร้องให้สังฆราชเดอเมเตโลโปลิศ ได้มีหนังสือชี้แจงเหตุผลไปยังประเทศฝรั่งเศสด้วย ในชั้นต้นสังฆราชเดอเมเตโลโปลิศได้ขอตัว โดยอ้างว่าการชะนิดนี้ใช่หน้าที่ของสังฆราช แต่พระเจ้ากรุงสยามก็ยังคงรับสั่งอ้อนวอนอยู่นั่นเอง ท่านสังฆราชจึงได้ตกลงยอมมีหนังสือไปตามพระราชประสงค์ ในขณะนี้พอดีเชอวาเลียเดอโชมองก็ได้มาถึงเมืองไทย พระเจ้ากรุงสยามและขุนนางข้าราชการก็มีความปีติยินดีทั่วหน้ากัน ครั้นเราได้มาถึงก็ดูยังมีความปีติยินดีอยู่ แต่มาบัดนี้ดูความยินดีได้จืดจางลงไปเสียแล้ว

ในเวลาที่เราได้สนทนากับท่านสังฆราชเดอเมเตโลโปลิศอยู่นั้นเราได้พยายามนักหนาที่จะให้ท่านสังฆราชจัดบาดหลวงเยซวิตไปยังเมืองตังเกี๋ย ๒ คน แต่ท่านสังฆราชก็ยังไม่ยอมตกลงตามความเห็นของเรา โดยอ้างว่าจะต้องปรึกษาหารือกับท่านสังฆราชเดอโรซาลีเสียก่อน ท่านสังฆราชเดอเมเตโลโปลิศจึงได้มีหนังสือลงไปที่กรุงศรีอยุธยา เชิญให้สังฆราชเดอโรซาลีขึ้นมาที่เมืองลพบุรี เมื่อสังฆราชเดอโรซาลีได้รับหนังสือแล้วก็ได้รีบขึ้นมาและได้มาถึงเมืองลพบุรีวันนี้เอง มองซิเออร์เดอลาลูแบจึงได้ไปหาสังฆราชเดอโรซาลี ข้าพเจ้าหาได้ไปด้วยไม่ เพราะข้าพเจ้าป่วยอยู่ แต่ถึงมองซิเออร์เดลาลูแบจะไปพูดอ้อนวอนสังฆราชเดอโรซาลีสักเท่าไร สังฆราชเดอโรซาลีก็หายอมเกี่ยวข้องในเรื่องเมืองตังเกี๋ยด้วยไม่ และโยนเรื่องไปให้สังฆราชเดอเมเตโลโปลิศ แล้วแต่สังฆราชเดอเมเตโลโปลิศจะเห็นควรอย่างใดต่อไป

วันนี้มองซิเออร์เดอลาลูแบได้ให้เลขานุการ นำพระราชหัตถ์ของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสในเรื่องตราเซนต์มิเชล ไปส่งต่อมองซิเออร์คอนซตันซ์ และได้จัดให้มองซิเออร์เดอเฟรตวิล ทำระเบียบการไปส่งต่อมองซิเออร์คอนซตันซ์ เพื่อมองซิเออร์คอนซตันซ์จะได้สั่งให้สังฆราชเดอเมเตโลโปลิศไปเป็นหัวหน้าพิธีสวด และจะได้สั่งให้เตรียมการในวัดไว้ให้พร้อมด้วย

ณวันอาทิตย์ที่ ๒๓ เดือนพฤศจิกายน เวลาเช้า มองซิเออร์เดอลาลูแบได้ไปยังวัดเพื่อดูว่า เขาได้เตรียมการไว้พร้อมหรือยัง จึงได้ไปเห็นว่ายังขาดแท่นยกพื้นขึ้นอัน ๑ มองซิเออร์เดอลาลูแบก็ได้สั่งให้ทำแท่นยกพื้นขึ้นเสร็จ พระรูปพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสนั้นได้ประดิษฐานตั้งไว้ใต้ผ้าเพดานดาด ท่านสังฆราชเดอเมเตโลโปลิศก็เตรียมพร้อม และพวกนายทหารฝรั่งเศสก็คอยอยู่ณะที่นั้นพร้อมกันแล้ว มองซิเออร์เดอลาลูแบจึงได้ไปอยู่ที่ที่กราบพระซึ่งเจ้าพนักงานได้เตรียมไว้กลางโบสถ์ ท่านสังฆราชก็ลงมือสวดบดเวนีเครอาตอร์ แล้วบาดหลวงเลอรัวเยได้เทศน์ ครั้นเสร็จพิธีสวดแล้ว มองซิเออร์เดอลาลูแบจึงได้เดินไปนั่งบนเก้าอี้ใต้เพดานที่ดาดไว้ และได้มีนายทหารและเจ้าพนักงานฝรั่งเศสเดินหน้าและตามหลังห้อมล้อมมองซิเออร์เดอลาลูแบจนถึงเก้าอี้ ในขณะนี้มองซิเออร์คอนซตันซ์สรวมเสื้อที่ได้รับพระราชทานจากพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส ได้เดินเข้ามา และมีมองซิเออร์เดอเฟรตวีล กับมองซิเออร์เดอยองกู นำมองซิเออร์คอนซตันซ์เข้ามา บาดหลวงจึงได้เชิญสมุดคำภีร์มาให้มองซิเออร์คอนซตันซ์สาบาลตามธรรมเนียม แล้วนอกนั้นก็ได้ทำพิธีต่อไปตามเคย

บุตรหัวปีของมองซิเออร์เดฟาชเป็นผู้ผูกดวงตราให้มองซิเออร์คอนซตันซ์ มองซิเออร์เดอลาลูแบจึงได้เข้ากอดมองซิเออร์คอนซตันซ์ และได้พูดเป็นภาษาปอตุเกต แสดงความยินดีว่า มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้รับยศเป็นเชอวาเลียแห่งประเทศฝรั่งเศสแล้ว มองซิเออร์คอนซตันซ์จึงได้เชิญบรรดานายทหารและเจ้าพนักงานฝรั่งเศสไปรับประทานอาหารทุกคน ครั้นได้รับประทานอาหารกันเสร็จแล้ว เลขานุการของมองซิเออร์เดลาลูแบ ได้เข้าไปหามองซิเออร์คอนซตันซ์ เพื่อขอให้มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้เอาตราประทับในหนังสือสำคัญรับตราเซนต์มิเชล ซึ่งมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้เซ็นไว้ในตอนเช้านั้นแล้ว มองซิเออร์คอนซตันซ์จึงให้บาดหลวงมาลโดนา บาดหลวงเยซวิตชาวเมืองเฟลนเดออยู่ในคณะบาดหลวงปอตุเกต อ่านหนังสือสำคัญฉะบับนั้นให้ฟัง มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้อิดออดมากไม่เต็มใจที่จะประทับตราให้เลย เพราะเกรงว่าจะเป็นการติดต่อกับพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสเกินไป แล้วพวกบาดหลวงเยซวิตจึงได้แนะนำอ้อนวอนขอให้มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้เอาตราประทับลงในหนังสือสำคัญนั้น โดยอ้างเหตุว่าการที่จะประทับตราเช่นนี้หาเป็นการรับผิดชอบอย่างได้ไม่ และไม่ต้องกลัวเกรงอะไรเลย มองซิเออร์คอนซตันซ์จึงได้ยอมประทับตราลงไป

เมื่อตอนค่ำท่านสังฆราชเดอโรซาลี ได้ไปรับประทานอาหารที่บ้านพวกบาดหลวงเยซวิต และเมื่อขากลับได้เลยแวะมาหาเรา และคงยืนตามความคิดเดิมอยู่เสมอ ว่าจะไม่เกี่ยวข้องด้วยในการที่จะส่งพวกบาดหลวงเยซวิตไปเมืองตังเกี๋ย

ณวันจันทร์ที่ ๒๔ เดือนพฤศจิกายน เวลาเช้า เราได้ให้คนไปเชิญบาดหลวงตาชาให้มาหาเรา เพื่อจะมาปรึกษากันถึงหนังสือที่เราเห็นเป็นการจำเป็นจะต้องยื่นต่อมองซิเออร์คอนซตันซ์ เพราะจนถึงบัดนี้เรายังไม่ได้มีโอกาสที่จะทำความตกลงกับมองซิเออร์คอนซตันซ์อย่างใดเลย จะพูดกันด้วยปากหรือจะมีหนังสือไปอย่างใด ก็หาโอกาสไม่ได้เลย เพราะมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้แสดงความขัดเคืองเราอยู่เสมอ และฝ่ายเราก็เห็นว่าควรจะปล่อยให้มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ฟักฝ่ายในการค้าขายของตัวไปก่อน เราจึงได้นำความปรึกษากับบาดหลวงตาชา สำหรับจะร่างหนังสือถึงมองซิเออร์คอนซตันซ์นั้น เป็นใจความ ๔ ข้อ คือ

ข้อ ๑ จะขอให้ไทยประกาศหนังสือสัญญาซึ่งได้ทำไว้กับเชอวาเลียเดอโชมอง อันเป็นสัญญาที่พระเจ้ากรุงสยามได้พระราชทานสิทธิต่าง ๆ ให้แก่ศาสนา บาดหลวงตาชาจึงได้ชี้แจงต่อเราว่า ในเรื่องนี้บาดหลวงตาชาได้กราบทูลพระเจ้ากรุงสยามแล้วว่า ยังไม่เป็นเวลาอันสมควรที่จะประกาศสัญญาฉะบับนั้น และพระเจ้ากรุงสยามก็ได้ทรงเห็นชอบด้วยแล้วว่ายังไม่ควรจะประกาศจริง ทั้งในรายงานของบาดหลวงตาชาซึ่งได้ไปที่ประเทศฝรั่งเศสนั้น บาดหลวงตาชาก็ได้ชี้แจงเหตุผลต่าง ๆ ให้มองซิเออร์คอนซตันซ์เข้าใจในเรื่องนี้ตลอดแล้ว บาดหลวงตาชาจึงได้ออกความเห็นว่า ถ้าเราได้รับคำสั่งมาให้จัดการในเรื่องนี้แล้ว เราก็ควรจะปฏิบัติตามคำสั่งต่อไป แต่ก็คงจะเป็นเรื่องไม่สำเร็จ เพราะพระเจ้ากรุงสยามได้รับสั่งกับบาดหลวงตาชาเองว่า ยังไม่ควรจะประกาศให้ใช้หนังสือสัญญาฉะบับนี้

เราจึงได้ตอบบาดหลวงตาชาว่า เวลานี้พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสก็ได้ส่งกองทหารมายังเมืองไทยแล้ว จึงเป็นเวลาอันสมควรที่จะต้องจัดการให้ศาสนาคริศเตียนได้ตั้งอยู่เป็นหลักฐาน และให้รับสิทธิต่าง ๆ ที่พระเจ้ากรุงสยามได้โปรดพระราชทานไว้แล้ว บาดหลวงตาชาจึงได้โต้ตอบ ยกเหตุผลต่าง ๆ มาคัดค้านเป็นเนื้อความอย่างเดียวกับที่อธิบายไว้กับมองซิเออร์เดอลาลูแบ และซึ่งข้าพเจ้าได้เล่ามาในตอนบนนั้นแล้ว

ข้อ ๒ จะได้พูดเรื่องการจะส่งกองทหารไปเมืองมะริด บาดหลวงตาชาจึงได้ตอบว่า ในเรื่องที่จะส่งกองทหารไปเมืองมะริดนั้น ไม่มีข้อขัดข้องอย่างใด จะส่งไปเมื่อไรก็ได้ แล้วแต่เราจะต้องการให้ส่งไปเมื่อไรก็ได้ แต่มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้บอกไว้กับบาดหลวงตาชาว่า ฤดูนี้เป็นฤดูที่เหมาะสำหรับเดินทาง เพราะน้ำฝนที่ค้าง ๆ อยู่นั้นยังไม่ทันแห้ง เมื่อเดินทางบกก็พอจะหาน้ำรับประทานได้ง่าย แต่การเดินทางบกนั้นมีการไม่สะดวกอยู่อย่าง ๑ คือว่าในเวลาที่จะขึ้นจากเรือที่เมืองเพ็ชรบุรีเดินตัดทางบกนั้น จะต้องเดินทางถึง ๖ วัน และตามทางนี้หามีที่พักไม่ ซึ่งจะเป็นการลำบากต่อกองทหารเป็นอันมาก การที่จะไปเมืองมะริดที่สะดวกที่สุดนั้น จะต้องไปทางทะเลจนถึงเมืองกุย แล้วเดินทางบกหนทางวัน ๓ เท่านั้น แต่ทะเลที่จะไปเมืองกุยในฤดูนี้ยังไปไม่ได้เพราะคลื่นลมจัดมาก น่ากลัวเรือจะไปแตกได้

เราจึงได้พูดว่า ถ้าเช่นนั้นในชั้นนี้ก็ขอเพียงให้มองซิเออร์เดอบรูอังไปพร้อมกับข้าพเจ้า และให้พาพลทหารไปแต่เล็กน้อยก่อน แล้วภายหลังเมื่อมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้จัดการให้พลทหารได้เดินทางสะดวกได้เมื่อใด จึงให้กองทหารตามไปก็ได้

ข้อ ๓ นั้นจะได้กล่าวถึงเรื่องบางกอกว่า ในเรื่องบางกอกนี้ความดำริก็มีอยู่แล้วว่า จะได้สร้างป้อมคูประตูหอรบให้เป็นที่มั่นคงแน่นหนา แต่ในเวลานี้พวกฝรั่งเศสซึ่งอยู่ที่บางกอกก็ยังหาพ้นอันตรายในเวลาที่จะเกิดมีข้าศึกขึ้นไม่ เพราะจะวางใจว่าสัญญาสงบศึกที่ทวีปยุโรปจะเป็นการมั่นคงถาวรยังไม่ได้ เพราะฉะนั้นพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสจึงได้มีดำรัสสั่ง ให้มาขอพลเมืองไทยจากพระเจ้ากรุงสยาม สำหรับเป็นแรงทำการต่าง ๆ ให้เร็วขึ้น และให้ขอให้พระเจ้ากรุงสยามได้โปรดจ่ายค่าโสหุ้ยในการป้อมเหล่านี้ด้วย เพราะพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสทรงหวังพระทัยว่า กองทหารฝรั่งเศสคงจะได้อยู่ในที่มั่นคงพ้นจากอันตรายข้าศึกได้โดยเร็ว

บาดหลวงตาชาจึงได้ตอบเราโดยอ้างเหตุ ๒ ประการ ประการที่ ๑ นั้นคือว่า มองซิเออร์เดฟาชไม่ได้มีความวิตกว่า ผู้ใดจะมาทำอันตรายได้เลย และมองซิเออร์เดฟาชจะยอมรับรองต่อพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสว่า จะได้พิทักษ์รักษาบางกอกนี้ไว้ให้ได้ ประการที่ ๒ ซึ่งบาดหลวงตาชาได้ยกมาอ้างนั้นคือว่า พระเจ้ากรุงสยามคงจะไม่ยอมที่จะออกค่าโสหุ้ยสำหรับรักษาป้อมที่บางกอกนี้เป็นแน่ แล้วบาดหลวงตาชาจึงได้พูดต่อไปว่า ในความ ๓ ข้อนี้มองซิเออร์คอนซตันซ์ก็คงจะตอบเรา เหมือนกับที่บาดหลวงตาชาได้ชี้แจงมาแล้ว

เราจึงได้ตอบบาดหลวงตาชาว่า ในข้อที่เราจะหารือบาดหลวงตาชานั้น มิได้หารือว่ามองซิเออร์คอนซตันซ์จะตอบอย่างไร แต่จะขอทราบจากบาดหลวงตาชาว่า จะทำอย่างไรดีหรือจะมีหนทางอย่างไร ที่จะได้กล่าวข้อความเหล่านี้ต่อมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ เพราะการชะนิดนี้บาดหลวงตาชามีความรู้ดีกว่าเรา แต่ที่เราพูดว่าจะกล่าวข้อความต่อมองซิเออร์คอนซตันซ์นั้น เราหมายความจะให้มองซิเออร์คอนซตันซ์นำเรื่องของเรากราบทูลต่อพระเจ้ากรุงสยาม แต่อย่าให้มองซิเออร์คอนซตันซ์ขัดเคืองได้ เพราะเป็นธรรมดาอยู่เองที่ราชทูตย่อมจะต้องหาหนทางแนะนำการต่าง ๆ ต่อพระราชสำนักที่ตัวมาเจริญทางพระราชไมตรีได้

แล้วข้าพเจ้าจึงได้พูดกับมองซิเออร์เดอลาลูแบว่า บาดหลวงตาชาได้บอกกับข้าพเจ้าว่า ถ้าเราได้มีจดหมายไปถึงมองซิเออร์คอนซตันซ์ มองซิเออร์คอนซตันซ์ก็คงจะไม่ขัดเคืองอย่างใด

บาดหลวงตาชาจึงได้พูดขึ้นว่า จริงมองซิเออร์คอนซตันซ์คงจะไม่ขัดเคือง และมองซิเออร์คอนซตันซ์คงจะยกเหตุผลต่าง ๆ อย่างดีสำหรับตอบเรา

เราจึงได้ตอบบาดหลวงตาชาว่า ถ้าฉะนั้นก็พอแล้ว จึงไม่เป็นการจำเป็นที่เราจะต้องมาโต้เถียงกันเองถึงความข้อ ๔ ซึ่งเกี่ยวถึงเรื่องพวกทหารไทยที่ไปประจำอยู่ที่บางกอก

ในเรื่องข้อ ๓ คือเรื่องจะทำป้อมคูประตูหอรบ เพื่อป้องกันมิให้ข้าศึกมาย่ำยีได้นั้น บาดหลวงตาชาได้พูดว่า ถ้าประเทศฝรั่งเศสจะเกิดทำสงครามขึ้นเมื่อใด ก็คงจะไม่มีใครมารบกับพวกฝรั่งเศสซึ่งทำราชการของพระเจ้ากรุงสยามอยู่ เปรียบประดุจว่าถ้าจะทำสงครามกับเมืองซวิตเซอแลนแล้ว ก็คงจะไม่มีใครไปรบกับพวกชาวเมืองสวิตเซอแลนซึ่งอยู่ในประเทศฝรั่งเศสเป็นแน่

เราจึงได้ตอบบาดหลวงตาชาว่า การที่จะเอาพวกฝรั่งเศสที่อยู่ในเมืองไทย ไปเปรียบกับพวกชาวเมืองซวิตเซอแลนที่อยู่ในประเทศฝรั่งเศสนั้น เป็นการที่เปรียบกันไม่ได้เลย เพราะลักษณะต่างกันมากนัก และถ้าได้เกิดการสงครามขึ้นดังบาดหลวงตาชายกมาเปรียบเทียบแล้ว ประเทศทั้งหลายก็คงจะไม่รออยู่ช้านานได้ เพราะการที่จะมาตีพวกฝรั่งเศสในเมืองไทย เป็นการง่ายกว่าที่จะไปรบกับพวกฝรั่งเศสในที่อื่น

ในวันนี้พระเจ้ากรุงสยามได้โปรดให้เราไปดูเสือกับช้างกัดกัน แต่พระเจ้ากรุงสยามหาได้เสด็จไปทอดพระเนตร์ไม่ มองซิเออร์เดอลาลูแบก็มิได้ไปดู เพราะอ้างว่าไม่สบาย แต่ในระวางนั้นท่านสังฆราชเดอเมเตโลโปลิศ ก็ได้ไปหามองซิเออร์เดอลาลูแบ และได้สนทนากันถึงเรื่องการศาสนา แต่ก็หาได้ทำความตกลงกันอย่างใดไม่

ณวันที่ ๒๕ เดือนพฤศจิกายน มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ให้คนมาเชิญข้าพเจ้าไปยังบ้านพวกบาดหลวงเยซวิด เพื่อไปดูของต่าง ๆ ที่จะให้บาดหลวงตาชานำไปยังประเทศฝรั่งเศส ข้าพเจ้าก็ได้ไปทันที จึงได้เอาโอกาสนี้ ส่งหนังสือสัญญาเกี่ยวด้วยเรื่องการค้าขายให้แก่มองซิเออร์คอนซตันซ์

ในตอนค่ำมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้มาหาเราณที่พัก และได้เลยรับประทานอาหารค่ำกับเราด้วย มองซิเออร์คอนซตันซ์จึงได้บอกกับเราว่า พระเจ้ากรุงสยามจะได้โปรดให้เราได้เฝ้าโดยฉะเพาะ เพื่อจะได้สนทนากันถึงเรื่องต่าง ๆ อันมิได้เกี่ยวด้วยการงานอย่างใด

ณวันที่ ๒๖ เดือนพฤศจิกายน เวลาเช้า เราได้เข้าไปยังพระราชวัง มีคนที่ไปกับเราจำนวนเท่ากับที่เราได้ไปเฝ้า ครั้งนำของ ๆ มกุฎราชกุมารฝรั่งเศสไปถวาย แต่ในคราวนี้ในพระราชวังไม่มีอะไรจนอย่างเดียว ช้างก็ไม่มี ม้าก็ไม่มี ทหารก็ไม่มี และสิ่งสำหรับประดับเกียรติยศต่าง ๆ หามีไม่เลย ในพระราชอุทยานนั้นมีศาลาอยู่หลัง ๑ แสงสว่างเข้าได้รอบตัว ที่ศาลานี้เป็นที่สำหรับพระเจ้ากรุงสยามเสด็จออกขุนนางโดยปกติ สามด้านศาลานั้นมีประตูและหน้าต่างซึ่งเปิดอยู่ตลอดวันจนถึงกลางคืนจึงได้ปิด ศาลานี้ตั้งอยู่บนเนินกว้าง และศาลานั้นก็ยกพื้นขึ้นสูงเกือบเท่าเนิน เวลาที่เดินมาถึงนั้น ก็เห็นประตูซึ่งอยู่ในสุดศาลา แต่ประตูนี้หาอยู่ตรงกลางไม่ แต่อยู่ข้าง ๆ และเป็นประตูที่ติดอยู่กับผนังพระที่นั่ง และด้านนี้ทึบหามีแสงสว่างเข้าได้ไม่ เพราะเป็นด้านที่ติดกับพระที่นั่งทีเดียว ที่ผนังพระที่นั่งนี้มีพระแกลอยู่ข้างซ้ายมือพระทวาร และเมื่อพระเจ้ากรุงสยามเสด็จออกให้มองซิเออร์เดอโวดรีคูร์ มองซิเออร์ดูเคนและชาวฝรั่งเศสอื่น ๆ เฝ้านั้น ก็เสด็จออกที่พระแกลนี้เอง แต่มองซิเออร์เดอโวดรีคูร์และผู้ที่มาเฝ้านั้น เฝ้าอยู่ในพระราชอุทยาน ห่างจากเนินประมาณ ๑๐ ก้าว และพระเจ้ากรุงสยามก็ประทับอยู่บนพระเก้าอี้ปิดทอง

วันนี้เจ้าพนักงานได้เอาพรมปูเต็มเนินนั้น และหน้าพระทวารทั้งพระทวารหน้าและพระทวารข้าง เจ้าพนักงานได้ตั้งแคร่มีเสาเงิน ๔ เสา ดาดเพดานแต่หามีม่านไม่ เสาแคร่นั้นโตกว่าท้าวแขนหน่อย ๑ และเงินที่หุ้มเสานั้นก็ดูหนาอยู่ ข้างขวามือจากที่ ๆ เราเฝ้าอยู่นั้น มีผ้ากระโจม (เต๊น) ขึงมาจากผนังพระที่นั่ง และบรรดาขุนนางข้าราชการก็หมอบอยู่หน้าพระทวาร ม้าสำหรับเรานั่งนั้นก็ตั้งอยู่ตรงกับพระแกล ซึ่งอยู่ข้างขวาพระทวาร มองซิเออร์คอนซตันซ์หมอบอยู่ข้างขวาเรา ถัดลงไปหน่อยก็ถึงบาดหลวงตาชานั่งอยู่บนพรมที่เนิน แต่นั่งอยู่ข้างหลังมองซิเออร์เดอลาลูแบ และบุตรของข้าพเจ้าก็นั่งตรงกันกับบาดหลวงตาชา แต่นั่งอยู่ข้างหลังข้าพเจ้า พอเราได้นั่งลงสักครู่ ๑ พระเจ้ากรุงสยามก็เสด็จออก แต่วิธีเสด็จออกนั้น คือทรงเปิดพระแกลทีละน้อย ๆ อย่างเงียบ ๆ ที่พระองคุลีนั้นทรงพระธำมรงค์เพ็ชรเมล็ดใหญ่ ๆ และมีรุ้งวาวมาก ที่พระมหามาลาก็มีเพ็ชรพลอยต่าง ๆ เป็นอันมาก ข้าพเจ้าได้สังเกตเห็นทับทิมเมล็ด ๑ ซึ่งประดับดอกไม้ไหวข้างพระมหามาลาเป็นทับทิมใหญ่งามมาก

พอเสด็จออกก็ได้มีรับสั่งถามว่า พวกเรามีความสุขสบายดีอยู่หรืออย่างไร และรับสั่งถามว่าการที่เราได้มาอยู่ในเมืองไทยเป็นอย่างไรบ้าง แล้วจึงได้รับสั่งถามถึงบ้านเมืองและตำบลต่าง ๆ ที่เราเคยได้ไปมาแล้ว ทั้งในทวีปยุโรปและในประเทศอื่น ๆ ทั่วไปด้วย เราก็ได้กราบทูลตอบเท่าที่จะกราบทูลได้ เมื่อจวนจะเสด็จขึ้น พระเจ้ากรุงสยามได้รับสั่งกับเราถึงเรื่องบริษัทฝรั่งเศสว่า เจ้าพนักงานของบริษัทเป็นคนไม่ซื่อตรง เพราะมัวแต่หลงเชื่อผู้ที่แนะนำการไม่ดี ที่รับสั่งดังนี้เป็นทำนองคล้ายจะให้เราปรึกษาหารือกับมองซิเออร์คอนซตันซ์ และคล้ายจะให้เราจัดการให้พวกเจ้าพนักงานของบริษัทได้อยู่ในความบังคับบัญชาของมองซิเออร์คอนซตันซ์ด้วย แล้วพระเจ้ากรุงสยามจึงได้รับสั่งว่า บริษัทมีโอกาสอันดีที่จะทำการค้าขายในเมืองไทยให้เจริญได้ จนที่สุดถ้าบริษัทจะคิดต่อเรือที่เมืองตะนาวศรีและที่บางกอกก็จะทำได้โดยสะดวก และเรือเหล่านี้เมื่อได้ต่อขึ้นแล้ว ก็จะขายในประเทศอินเดียโดยราคาแพงมาก

เราได้กราบทูลเห็นชอบตามรับสั่งทุกอย่าง แต่เราก็หาได้กราบทูลรับรองอย่างใดไม่ ในที่สุดพระเจ้ากรุงสยามได้รับสั่งว่าทรงยินดีมากที่เรือลานอมันได้มาถึงแล้ว และทรงเสียพระทัยเป็นอันมากในการที่ได้มีผู้คนล้มตายลง

เราจึงได้กราบทูลตอบว่า ในการที่ได้ทรงพระเมตตากรุณาแก่พวกฝรั่งเศสนั้น เป็นการที่พวกฝรั่งเศสได้ระลึกถึงพระเดชพระคุณอยู่เสมอ และคงจะคิดฉลองพระเดชพระคุณโดยเต็มกำลังต่อไป ในขณะนี้มองซิเออร์เดอลาลูแบได้พูดกับมองซิเออร์คอนซตันซ์ว่า ถ้ามองซิเออร์คอนซตันซ์เห็นชอบว่าเป็นโอกาสดีแล้วก็ขอให้กราบทูลต่อพระเจ้ากรุงสยามว่า เราได้รับคำสั่งมาให้กราบทูลให้ทรงทราบว่า การที่พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้ทรงพระราชดำริถึงการค้าขายในประเทศอินเดียนั้น ก็เพราะมีพระราชประสงค์จะให้ศาสนาคริศเตียนได้แพร่หลายออกไปเท่านั้น

มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ฟังมองซิเออร์เดอลาลูแบพูดเช่นนี้ ก็ทำกิริยาอึกอักไม่ปลงใจลงไปได้ มองซิเออร์เดอลาลูแบเห็นดังนั้นจึงบอกมองซิเออร์คอนซตันซ์ว่า ถ้ามองซิเออร์คอนซตันซ์ไม่เห็นควรจะกราบทูลดังนี้แล้ว จะกราบทูลอย่างอื่นก็ได้แล้วแต่ใจ มองซิเออร์คอนซตันซ์จึงได้ตอบว่า จะได้กราบทูลตามคำพูดของมองซิเออร์เดอลาลูแบ มองซิเออร์คอนซตันซ์จึงได้กราบทูลเป็นข้อความยืดยาวมาก และในระวางที่กราบทูลอยู่นั้น ได้ออกชื่อลาคาซตีล บ้าง ออกชื่อเมืองฮอลันดาบ้าง ออกชื่อ ซังตามาเรียเดอลอเร็ตตาบ้าง เมื่อสิ้นคำกราบทูลของมองซิเออร์คอนซตันซ์แล้ว พระเจ้ากรุงสยามหาได้ทรงตอบประการใดไม่ เป็นแต่รับสั่งว่าจะได้ทรงโปรดให้เราได้เฝ้าโดยฉะเพาะอีกต่อไป แล้วก็ทรงหุบพระแกลเสด็จขึ้น เราจึงได้ลุกขึ้นถวายคำนับ พอเสด็จขึ้นแล้วเราก็หาได้กลับนั่งลงไปอีกไม่ แต่ได้เดินออกไปห่าง ๆ สักสามหรือสี่ก้าวเพื่อปรับทุกข์กันว่า มองซิเออร์คอนซตันซ์หาได้กราบทูลตามคำพูดของมองซิเออร์เดอลาลูแบไม่ หรือถ้าได้กราบทูลพระเจ้ากรุงสยามก็หาได้ตอบประการใดไม่ ในระวางนั้นมองซิเออร์คอนซตันซ์ยังไม่ทันลุกจากที่ที่หมอบอยู่ ก็เล่าให้บาดหลวงตาชาฟังถึงข้อความที่ได้กราบทูลพระเจ้ากรุงสยาม บาดหลวงตาชาได้ฟังมองซิเออร์คอนซตันซ์ ก็แสดงกิริยายินดีปราโมทย์เป็นที่สุด เราเห็นว่าทั้งมองซิเออร์คอนซตันซ์และบาดหลวงตาชาเพลินเสียแล้ว ไม่ทำท่าจะกลับไปเลย เราจึงได้เดินเข้าไปหา มองซิเออร์คอนซตันซ์จึงได้เล่าให้เราฟังว่า เมื่อแต่กี้นี้ได้กราบทูลต่อพระเจ้ากรุงสยามว่า การที่พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสทรงพระเดชานุภาพมีอำนาจมากเช่นนี้ ก็เพราะเหตุที่พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสมิได้ไปตีบ้านเมืองเหมือนกับเมืองสะเป็นและเมืองฮอลันดา กับได้กราบทูลว่า พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้ทรงนับถือโนตร์ดามเดอลอเร็ตและทรงฟักใฝ่บำรุงการศาสนาอยู่เนืองนิตย์

ตามที่มองซิเออร์คอนซตันซ์เล่าดังนี้ ก็ส่อให้เราเห็นได้ว่ามองซิเออร์คอนซตันซ์ยังไม่กล้ากราบทูลเรื่องศาสนาต่อพระเจ้ากรุงสยาม และความกล้าของมองซิเออร์คอนซตันซ์ในเวลานี้ ก็ยังมีน้อยเท่ากับเมื่อครั้งเชอวาเลียเดอโชมองเหมือนกัน

ข้าพเจ้าลืมเล่าไปว่า เมื่อเวลาพระเจ้ากรุงสยามได้เสด็จออกที่พระแกลนั้น เราก็ได้ยืนขึ้นถวายคำนับทันที และคงยืนอยู่อย่างนั้นหาได้นั่งลงไม่ เพราะรอรับสั่งให้เรานั่งลง ฝ่ายมองซิเออร์คอนซตันซ์เห็นเรายืนอยู่ดังนั้น ก็ได้เร่งให้เรานั่งลงสองหรือสามครั้ง มองซิเออร์เดอลาลูแบจึงได้เหลียวมาดูม้า เพราะเกรงจะนั่งพลาด ด้วยม้านั้นเป็นม้าเตี้ย ๆ มองซิเออร์คอนซตันซ์ไม่ทันใจ จึงได้ดึงแขนเสื้อมองซิเออร์เดอลาลูแบ และบอกให้นั่งลงโดยเร็ว ทำกิริยาประดุจจะฉุดมองซิเออร์เดอลาลูแบให้นั่งลงให้จงได้

เมื่อได้รับประทานอาหารเสร็จแล้ว เจ้าพนักงานภูษามาลาของพระเจ้ากรุงสยาม ซึ่งมีหน้าที่จับต้องเครื่องแต่งพระองค์จนที่สุดจะจับพระมหามาลาก็ได้นั้น ได้มาหาเราเพื่อมารับของที่มกุฎราชกุมารีฝรั่งเศส ได้ส่งมาถวายสมเด็จพระราชธิดา เช่นเดียวกับที่เจ้าพนักงานเหล่านี้ได้เคยมารับของเครื่องราชบรรณาการพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส และของต่าง ๆ ที่มกุฎราชกุมารฝรั่งเศสได้ส่งมาถวายพระเจ้ากรุงสยามครั้ง ๑ แล้ว

เจ้าพนักงานเหล่านี้จึงได้บอกกับเราว่า สมเด็จพระราชธิดาทรงขอบใจมกุฎราชกุมารีที่ได้ส่งของต่าง ๆ มาถวายดังนี้ และทรงเสียพระทัยเป็นอันมาก ที่พระองค์ต้องประทับอยู่ที่กรุงศรีอยุธยา หาได้ตามเสด็จพระราชบิดาขึ้นมาเมืองลพบุรีไม่ เพราะเหตุที่ยังทรงประชวรอยู่ จึงเป็นการจำเป็นที่จะเสด็จออกให้เราเฝ้ายังไม่ได้ และอีกประการ ๑ เจ้าพนักงานฝ่ายในของสมเด็จพระราชธิดาไม่เป็นคนที่สมควรจะมาหาเราได้ จึงได้ทรงใช้เจ้าพนักงานของสมเด็จพระราชบิดา ให้มารับของ ๆ มกุฎราชกุมารีฝรั่งเศสไปถวาย

เราจึงได้ตอบเจ้าพนักงานภูษามาลาว่า สมเด็จพระราชธิดาเป็นเจ้าของในของถวายเหล่านี้ เพราะฉะนั้นจะทรงใช้ใครมาหรือจะโปรดให้ทำประการใด ก็แล้วแต่พระทัยทั้งสิ้น ในส่วนพระอาการที่ทรงพระประชวรอยู่นั้น เมื่อมกุฎราชกุมารีฝรั่งเศสได้ทรงทราบ ก็คงจะเสียพระทัยเป็นอันมาก แต่ส่วนตัวเรานั้นมีความเสียใจถึง ๒ ประการ ประการ ๑ เสียใจที่สมเด็จพระราชธิดาได้ทรงพระประชวรอยู่เช่นนี้ และประการที่ ๒ นั้น เราเสียใจนักที่มิได้มีโอกาสเฝ้าสมเด็จพระราชธิดาได้ เพราะฉะนั้นเมื่อสมเด็จพระราชธิดาจะโปรดมีรับสั่งมาอย่างไร เราจะได้นำข้อรับสั่งไปทูลมกุฎราชกุมารีทุกประการ

ในวันนี้มองซิเออร์เดฟาชได้มาหาข้าพเจ้า ข้าพเจ้าเห็นเป็นโอกาสอันดี จึงได้พูดกับมองซิเออร์เดฟาชว่า ในเวลาที่ข้าพเจ้าได้กลับไปถึงประเทศฝรั่งเศสแล้ว ท่านมาควิศเดอเซเนเลคงจะซักไซร้ไล่เลียงข้าพเจ้าถึงการในบางกอกว่า จะเป็นที่มั่นคงพ้นอันตรายจากข้าศึกแล้วหรืออย่างไรเป็นแน่ แต่ข้าพเจ้าเองก็มิได้อยู่ที่บางกอกนานพอที่จะรู้การงานให้รอบคอบ ทั้งข้าพเจ้าก็มิได้เป็นพลรบที่จะมีความรู้เช่นนี้ให้ละเอียดได้ เพราะฉะนั้นข้าพเจ้าจึงจำเป็นต้องถามมองซิเออร์เดฟาชว่า ที่บางกอกนั้นมองซิเออร์เดฟาชเห็นเป็นอย่างไรบ้าง เพื่อข้าพเจ้ากลับไปถึงประเทศฝรั่งเศสจะได้ทำรายงานตามความที่เป็นจริงต่อไป

มองซิเออร์เดฟาชจึงได้ตอบข้าพเจ้าว่า ป้อมที่บางกอกชำรุดมากก็จริงอยู่ แต่ถึงดังนั้นมองซิเออร์เดฟาชก็สามารถจะรักษาป้องกันไว้ได้

ข้าพเจ้าจึงได้ตอบมองซิเออร์เดฟาชว่า ขอให้มองซิเออร์เดฟาชบอกข้าพเจ้าจริง ๆ สักหน่อยเถิดว่า ความเห็นมองซิเออร์เดฟาชเห็นว่าป้อมที่บางกอกมั่นคงพอที่จะต่อสู้กับข้าศึกได้หรือไม่

มองซิเออร์เดฟาชจึงได้ตอบข้าพเจ้าว่า อย่าว่าแต่มีป้อมเลย ถึงมีแต่ม่านผ้าโปรงกันอยู่ มองซิเออร์เดฟาชก็จะต่อสู้กับข้าศึกให้ได้

ข้าพเจ้าจึงได้ตอบว่า ข้าพเจ้ามิได้ถามว่ามองซิเออร์เดฟาชจะต่อสู้ได้หรือไม่ได้ เพราะข้าพเจ้าเชื่อแล้วว่ามองซิเออร์เดฟาชเป็นคนชำนาญในการทัพศึก และเป็นคนที่กล้าหาญด้วย แต่ข้าพเจ้าจะขอให้มองซิเออร์เดฟาชได้ตอบข้าพเจ้าตรง ๆ ว่า ป้อมที่บางกอกมั่นคงพอที่จะสู้รบกับข้าศึกได้หรือไม่

มองซิเออร์เดฟาชหาได้ตอบคำถามข้อนี้ไม่ เป็นแต่พูดว่าทำอย่างไร ๆ มองซิเออร์เดฟาชก็คงจะทำการตามหน้าที่ของตัว

ข้าพเจ้าเห็นดังนั้นก็มิได้เคี่ยวเข็ญมองซิเออร์เดฟาชอีกต่อไป ข้าพเจ้าจึงได้ถามข่าวมองซิเออร์โวลังเอนยินเนียของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส

ในวันนี้เองข้าพเจ้าได้พบกับมองซิเออร์โวลัง ข้าพเจ้าจึงได้ถามถึงบางกอกว่า เป็นที่มั่นคงพอต่อสู้กับข้าศึกได้หรือไม่ มองซิเออร์โวลังจึงบอกข้าพเจ้าว่า ได้พิเคราะห์เห็นว่าป้อมที่บางกอกแน่นหนามั่นคงพอจะต่อสู้กับข้าศึกได้ และถ้าได้ซ่อมแซมบ้างเล็กน้อยแล้ว ก็จะมั่นคงแขงแรงพอรับศึกได้ทีเดียว

ข้าพเจ้าจึงได้ขอให้มองซิเออร์โวลังจดข้อความตามที่ได้พูดกับข้าพเจ้านี้ลงเป็นรายงาน และให้ชี้แจงด้วยว่าการที่จะต้องซ่อมแซมนั้นมีอะไรบ้าง

มองซิเออร์โวลังก็รับจะทำรายงานให้ตามความต้องการของข้าพเจ้า จึงได้ฉวยปากกาลงมือร่างรายงานในเดี๋ยวนั้นเอง พอร่างเสร็จแล้วมองซิเออร์โวลังก็ส่งรายงานให้เลขานุการของข้าพเจ้าคัดขึ้นเป็นตัวดี แล้วมองซิเออร์โวลังก็ลากลับไป ยังหาได้ทันเซ็นชื่อในรายงานนั้นไม่

รุ่งขึ้นมองซิเออร์โวลังได้กลับมาหาข้าพเจ้าอีก และพูดแก้ตัวต่าง ๆ จะของดไม่เซ็นชื่อในรายงานฉะบับที่เขียนไว้เมื่อวันวานนี้ โดยอ้างเหตุว่ารายงานฉะบับนี้ได้ทำขึ้นโดยยังมิทันได้ปรึกษาหารือกับมองซิเออร์เดฟาชเสียก่อน จนมองซิเออร์เดฟาชได้ตัดพ้อต่อว่าในการที่มองซิเออร์โวลังได้เขียนรายงานให้ข้าพเจ้าดังนี้ และมองซิเออร์เดฟาชก็ได้พูดว่า ถ้ามองซิเออร์โวลังได้ทำรายงานให้ข้าพเจ้าจริงอย่างว่าแล้ว มองซิเออร์เดฟาชจะทำให้มองซิเออร์โวลังเสียคนให้จงได้

ข้าพเจ้าจึงได้ตอบมองซิเออร์โวลังว่า การที่ได้เขียนรายงานนั้นมองซิเออร์โวลังก็ได้เขียนเอง หาได้มีใครบังคับให้เขียนไม่ การที่จะเซ็นชื่อหรือไม่เซ็นนั้นก็ไม่เป็นการปลาดอันใด เพราะข้าพเจ้าได้ทราบความเห็นของมองซิเออร์โวลัง พอที่ข้าพเจ้าจะทำรายงานได้แล้ว แต่ถ้าท่นมาควิศเดอเซเนเลจะถามข้าพเจ้าว่า เหตุใดมองซิเออร์โวลังจึงไม่ได้เซ็นชื่อในรายงานนั้นแล้ว ข้าพเจ้าก็จำเป็นจะต้องพูดไปตามความจริงเสมอ เท่ากับเป็นการกล่าวโทษมองซิเออร์โวลังเหมือนกัน ในเย็นวันนั้นเองมองซิเออร์โวลังได้ไปถามเลขานุการของข้าพเจ้าว่า ได้คัดรายงานขึ้นเป็นตัวดีแล้วหรือยัง เมื่อได้รับรายงานจากเลขานุการของข้าพเจ้าแล้ว มองซิเออร์โวลังได้เซ็นชื่อลงไปในท้ายรายงาน

ณวันพฤหัสบดีที่ ๒๗ เดือนพฤศจิกายน เมื่อรับประทานอาหารเสร็จแล้ว บาดหลวงตาชาพร้อมด้วยบาดหลวงเลอรัวเยและบาดหลวงบูเชต์ได้มาหาเรา พอบาดหลวงทั้ง ๓ ได้มาถึงสักครู่หนึ่ง บาดหลวงแซนต์มาแตงก็ได้ตามมาเยี่ยมเยือนเราด้วย บาดหลวงแซนต์มาแตงได้แสดงไมตรีต่อเราอย่างดี ครั้นบาดหลวงแซนต์มาแตงได้ลากลับไปแล้ว บาดหลวงตาชาก็ขอให้เราคืนหนังสือที่มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้เขียนถึงบาดหลวงตาชา ในเรื่องถวายบางกอกและเมืองมะริดให้แก่พระเจ้ากรุงฝรั่งเศส และหนังสือฉะบับนี้บาดหลวงตาชาได้ส่งให้แก่เราบนเรือเมื่อวันที่ ๑๖ เดือนตุลาคม

เราจึงได้ตอบบาดหลวงตาชาว่า หนังสือฉะบับนี้เป็นประโยชน์ต่อพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส และในการที่เราได้จัดให้บาดหลวงตาชาไปเจรจาการต่าง ๆ กับมองซิเออร์คอนซตันซ์นั้น ก็ได้รับหนังสือฉะบับนี้เป็นคำตอบฉะบับเดียวเท่านั้น

บาดหลวงตาชาจึงได้ตอบว่า หนังสือฉะบับนี้เป็นหนังสือของบาดหลวงตาชา เพราะได้สลักหลังถึงบาดหลวงตาชา และเราเป็นผู้ได้แย่งเอาไป

เราจึงได้ตอบบาดหลวงตาชาว่า หนังสือนั้นจะมีถึงใครไม่เป็นข้อสำคัญอย่างใดเลย เพราะหนังสือฉะบับนี้เป็นหนังสือของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส หาใช่ของบาดหลวงตาชาไม่ และเราจะเปนผู้รักษาไว้ ถ้าบาดหลวงตาชาได้ทำหนังสือหายเสียแล้ว เราก็จะต้องเอาผิดกับบาดหลวงตาชา

บาดหลวงตาชาได้แสดงกิริยาโกรธแค้นมาก และพูดว่าหนังสือฉะบับนี้บาดหลวงตาชาอาจจะนำถวายพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้เท่ากับเราเหมือนกัน เราเห็นว่าบาดหลวงตาชามีโทษะมากขึ้นทุกทีแล้ว เราจึงได้พูดว่า เพื่อจะป้องกันมิให้พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสกริ้วกราดบาดหลวงตาชาได้ เราจะได้ทำใบรับว่า เราได้รับหนังสือฉะบับนี้จากบาดหลวงตาชา และบาดหลวงตาชาได้มาขอหนังสือฉะบับนี้คืนจากเรา แต่เราหายอมคืนให้ไม่ ในระวางที่มองซิเออร์เดลาลูแบกำลังเขียนใบรับอยู่นั้น บาดหลวงตาชาก็ยังพูดจาอ้อนวอนขอหนังสือคืน และได้พูดว่าการที่บาดหลวงตาชาได้มายังเมืองไทยนั้น ก็เพราะได้รับหนังสือสำคัญเป็นลายพระราชหัตถ์ บาดหลวงตาชาได้ถือลายพระราชหัตถ์นี้เป็นหลัก จึงได้นำความต่าง ๆ พูดกับมองซิเออร์คอนซตันซ์ตามที่เห็นสมควร ตามคำสั่งที่บาดหลวงตาชาได้รับมาจากพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส เพราะฉะนั้นจึงเป็นหน้าที่ของบาดหลวงตาชาที่จะนำความไปกราบทูลพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสให้ทรงทราบว่า บาดหลวงตาชาได้มาจัดการอย่างไรบ้าง และเมื่อมีหนังสือเป็นหลักฐานในการที่ได้มาจัดทำแล้ว ก็เป็นหน้าที่ของบาดหลวงตาชาที่จะต้องนำหลักฐานนั้น ๆ ไปถวายพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส

บาดหลวงตาชาจึงถามเราว่า “ท่านไม่ได้รับคำสั่งให้ปฏิบัติการทั้งปวง ตามคำแนะนำของข้าพเจ้าดอกหรือ”

เราได้ตอบแต่คำเดียวว่า “เปล่า”

บาดหลวงตาชาจึงได้พูดว่า “ตัวข้าพเจ้าก็มิได้รับคำสั่งให้ปฏิบัติตามคำสั่งของท่านเหมือนกัน”

แล้วบาดหลวงตาชาจึงได้ขอดูคำสั่งของเรา ฉะเพาะข้อที่สั่งไว้ให้เราจัดส่งบาดหลวงตาชาขึ้นไปบนบกล่วงหน้าไปก่อน และให้เราสั่งเสียบาดหลวงตาชาในเรื่องต่าง ๆ ที่จะต้องไปเจรจา เมื่อบาดหลวงตาชาได้อ่านคำสั่งฉะเพาะข้อนี้แล้ว บาดหลวงตาชาก็กลับความเสียหมด เอาคำสั่งเป็นคำแนะนำ และเอาคำแนะนำเป็นคำสั่งดังนี้ เราจึงได้พูดกับบาดหลวงตาชาว่า ในเรื่องนี้เรามีคำสั่งเพียงเท่านี้เอง และเราก็ไม่ต้องการอะไรให้มากกว่านี้

บาดหลวงตาชาจึงได้ตอบเราว่า “ตามใจความในคำสั่งข้อนี้ก็หมายความว่า ท่านจะทำการอย่างไรโดยลำพังของท่านเองไม่ได้ แต่ต้องให้ข้าพเจ้าจัดทำทั้งสิ้น”

เราจึงได้ถามว่า “ถ้าฉะนั้นท่านจะเข้าใจว่า ท่านจะเป็นผู้ออกคำสั่ง หรือเราจะเป็นผู้ออกคำสั่งเล่า”

บาดหลวงตาชาจึงได้ตอบว่า “ข้าพเจ้าไม่เข้าใจอะไรทั้งสิ้น”

แล้วบาดหลวงตาชาจึงได้รับใบรับไปจากมองซิเออร์เดอลาลูแบ ซึ่งข้าพเจ้ากับมองซิเออร์เดอลาลูแบได้เซ็นชื่อไว้เสร็จแล้ว ใบรับฉะบับนี้มีใจความว่าดังนี้

“เราขอรับสารภาพว่า ท่านบาดหลวงตาชาได้มาขอร้องให้เราคืนหนังสือที่มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้เขียนถึงบาดหลวงตาชา อันมีใจความว่า มองซิเออร์คอนซตันซ์รับรองจะจัดการถวายเมืองบางกอกและเมืองมะริด ให้อยู่ในความพิทักษ์รักษาของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส หนังสือฉะบับนี้ท่านบาดหลวงได้มามอบกับเราบนเรือเมื่อวันที่ ๑๖ เดือนตุลาคม ค.ศ. ๑๖๘๗ (พ.ศ.๒๒๓๐) และเราได้ขอร้องต่อท่านบาดหลวงให้กรุณา อย่าต้องให้เราคืนหนังสือฉะบับนี้เลย เราจึงมิได้คืนหนังสือฉะบับนี้ให้แก่ท่านบาดหลวง

เขียนที่เมืองลพบุรี เมื่อณวันที่ ๒๗ เดือนพฤศจิกายน ค.ศ. ๑๖๘๗ (๒๒๓๐)”

เมื่อบาดหลวงตาชาได้อ่านใบรับเห็นใช้คำนำหน้านามมองซิเออร์คอนซตันซ์ว่า มองซิเออร์เฉย ๆ นั้น บาดหลวงตาชาจึงร้องขึ้นว่า

“โอ การที่ใช้คำว่า มองซิเออร์คอนซตันซ์ นั้นร้ายกาจนัก ควรจะใช้คำว่า เซนเยอร์ จึงจะถูก”

เราจึงได้ตอบว่า ใบรับฉะบับนี้ไม่ได้ทำไว้สำหรับมองซิเออร์คอนซตันซ์ แต่ในระวางที่พูดกันอยู่นั้น ข้าพเจ้าก็เอาตัวอักษร (ยี) เติมลงไปในใบรับ เพื่อจะอ่านว่า เซนเยอร์ ก็ได้

บาดหลวงตาชาจึงได้ตอบว่า “ถึงอย่างนั้นก็เถิด ข้าพเจ้าก็จำเป็นจะต้องเอาใบรับนี้ไปให้มองซิเออร์คอนซตันซ์ดูเหมือนกัน เพราะมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ขอคืนหนังสือฉะบับนี้จากข้าพเจ้า”

ตามที่บาดหลวงตาชาพูดดังนี้ ก็ทำให้เราเข้าใจได้ว่า บาดหลวงตาชาคิดจะเอาหนังสือฉะบับนี้ไปคืนให้แก่มองซิเออร์คอนซตันซ์ บาดหลวงตาชาได้เอาใบรับไปอ่านอีก ครั้นไปเห็นคำว่า “หนังสือฉะบับนี้ท่านบาดหลวงได้มามอบกับเราบนเรือ” บาดหลวงตาชาก็ไม่ยอมรับใบรับฉะบับนี้ และคัดค้านขึ้นว่า บาดหลวงตาชาหาได้เอาหนังสือไปมอบให้กับเราไม่ แต่เราได้แย่งเอาไปจากบาดหลวงตาชา หรือถ้าจะใช้คำตรง ๆ แล้ว ก็คือว่าเราได้ขะโมยหนังสือฉะบับนี้ไปจากบาดหลวงตาชา

เมื่อเราได้ฟังบาดหลวงตาชาพูดเช่นนี้ เราก็มิได้สะทกสะท้านเลย และเราก็ได้บอกกับบาดหลวงตาชาว่า เมื่อจะต้องการใบรับก็ให้เอาไปทั้งอย่างนี้จะแก้ไขไม่ได้ บาดหลวงตาชาก็ไม่ยอมรับมองซิเออร์เดอลาลูแบจึงได้เอาใบรับนั้นมาฉีกเสีย แต่หาได้ทิ้งเศษกระดาษไม่คงเก็บเอาไว้ บาดหลวงตาชาก็ลากลับไป ด้วยมีความโกรธเคืองเป็นอันมาก บาดหลวงอื่น ๆ ที่มาด้วยก็เลยกลับไปพร้อมกับบาดหลวงตาชา ในระวางที่พูดโต้เถียงกันอยู่นั้น บาดหลวงตาชาได้บอกว่า จะยอมคัดสำเนาหนังสือฉะบับนั้นให้แก่เรา เราจึงได้ตอบบาดหลวงตาชาว่า เราจะคัดสำเนาให้บาดหลวงตาชาบ้างก็ได้

เมื่อระวางเวลาที่เรายังพักอยู่ที่ด่านภาษีซึ่งอยู่ใกล้กับกรุงศรีอยุธยานั้น มองซิเออร์เดอลาลูแบได้ขอให้บาดหลวงตาชา คืนรายงานของเชอวาเลียเดอโชมอง บาดหลวงตาชาจึงได้ตอบว่า คำสั่งที่เราได้ให้บาดหลวงตาชาไว้เมื่อยังอยู่บนเรือนั้นไม่เป็นประโยชน์อันใดเสียแล้ว เพราะฉะนั้นบาดหลวงตาชาจะได้คืนรายงานเชอวาเลียเดอโชมองให้แก่เรา และคืนคำสั่งของเราให้ด้วย แต่ขอให้เราคืนหนังสือที่มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้เขียนถึงบาดหลวงตาชาเสียด้วย

มองซิเออร์เดอลาลูแบยังไม่ทันได้ตรึกตรองก็รับปากว่าจะคืนหนังสือให้ บาดหลวงตาชาจึงได้พูดว่า ทางที่ดีแล้วควรเราจะคัดสำเนาคำสั่งของเราเซ็นชื่อไว้เป็นหลักฐาน แล้วจึงมอบสำเนาคำสั่งให้บาดหลวงตาชาถือไว้

ข้าพเจ้าจึงได้ตอบบาดหลวงตาชาว่า ถ้าเช่นนั้นบาดหลวงตาชาจะยึดต้นฉะบับคำสั่งของเรา มิดีกว่าจะเอาสำเนาไว้หรือ

ลงท้ายที่สุดการที่ได้พูดจากันในคราวนั้นก็หาผลอย่างใดมิได้เลย ครั้นเวลาค่ำข้าพเจ้าได้เอาเรื่องที่พูดกันนี้มาตรองดู ข้าพเจ้าจึงได้พูดกับมองซิเออร์เดอลาลูแบว่า “ท่านได้รับปากไว้ว่าจะคืนหนังสือฉะบับนี้ให้แก่บาดหลวงตาชา แต่ท่านควรระวังอย่าคืนให้จึงจะถูก”

มองซิเออร์เดอลาลูแบจึงได้ตอบข้าพเจ้าว่า เรื่องที่พูดกันนั้นเป็นเรื่องที่ยังไม่ได้คิด และมองซิเออร์เดอลาลูแบจะไม่ยอมคืนหนังสือฉะบับนั้นให้แก่บาดหลวงตาชา แต่มองซิเออร์เดอลาลูแบมีความเสียใจเป็นอันมาก ที่บาดหลวงตาชาได้เอาต้นร่างข้อสัญญาซึ่งมองซิเออร์คอนซตันซ์ใช้ให้มาส่งแก่เรานั้นคืนไปได้

ครั้นเมื่อพูดกันวันนี้ บาดหลวงตาชาได้อ้างความเดิม และต่อว่ามองซิเออร์เดอลาลูแบว่า ได้รับปากไว้แล้วว่าจะคืนหนังสือให้เหตุใดจึงไม่คืนให้เล่า

มองซิเออร์เดอลาลูแบก็รับสารภาพว่า ได้รับปากไว้เช่นนั้นจริง แต่เมื่อได้ทำความผิดที่ได้รับปากสัญญาไว้เช่นนั้นแล้ว ก็จำเป็นจะต้องระวังไม่ทำความผิดอีก คือจะต้องไม่ปฏิบัติตามที่ได้รับปากไว้

ในตอนค่ำบาดหลวงเลอรัวเยได้กลับมาหาเราอีก และได้รับตามตรงว่า ที่บาดหลวงตาชาจะต้องการเอาหนังสือฉะบับนั้นคืน ก็เพราะประสงค์จะคืนหนังสือให้แก่มองซิเออร์คอนซตันซ์

ณวันที่ ๒๙ เดือนพฤศจิกายน มองซิเออร์โวลังได้มาหาข้าพเจ้าณที่พัก กิริยามีโทษะและความเสียใจเจ็บแค้นเป็นอันมาก มองซิเออร์โวลังจึงได้เล่าให้ข้าพเจ้าฟังว่า มองซิเออร์เดฟาชได้สั่งให้มองซิเออร์โวลังกลับลงไปที่บางกอก โดยมองซิเออร์เดฟาชได้ใช้วาจาอย่างหยาบคายร้ายแรงต่อมองซิเออร์โวลังเป็นอันมาก ข้าพเจ้าจึงได้พยายามปลอบมองซิเออร์โวลังให้หายแค้นลงไปบ้าง โดยอธิบายว่าเป็นการธรรมดาที่บ่าวกับนายจะต้องขัดใจกันบ้าง และถ้ามองซิเออร์โวลังมีข้อที่ไม่พอใจนายแล้ว ก็ควรจะเดินวิธีนบนอบฟังโอวาทของนาย เพื่อจะให้นายคลายความขัดเคืองลงบ้าง

มองซิเออร์โวลังจึงได้เล่าให้ข้าพเจ้าฟังว่า มองซิเออร์เดฟาชได้บอกกับมองซิเออร์โวลังว่า มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้มากล่าวโทษหาว่า มองซิเออร์โวลังได้แลบลิ้นปลิ้นตาหลอกล้อมองซิเออร์คอนซตันซ์ มองซิเออร์คอนซตันซ์จึงได้ขอให้มองซิเออร์เดฟาชส่งมองซิเออร์โวลังกลับไปเสียที่บางกอก เพราะมองซิเออร์โวลังเป็นคนที่มองซิเออร์คอนซตันซ์ไม่พอใจเสียแล้ว มองซิเออร์โวลังจึงได้ชี้แจงแก่ข้าพเจ้าต่อไปว่า เมื่อมองซิเออร์คอนซตันซ์มาโกรธเคืองมองซิเออร์โวลังในสิ่งที่ไม่มีข้อมูลเช่นนี้แล้ว มองซิเออร์คอนซตันซ์ก็คงจะหาช่องโอกาสที่จะให้มองซิเออร์เดฟาชรังแกมองซิเออร์โวลังอยู่เสมอมิได้เว้นเลย เพราะฉะนั้นมองซิเออร์โวลังจึงเห็นทางอยู่อย่างเดียวที่จะป้องกันมิให้ต้องถูกรังแกเช่นนี้ได้ ก็คือว่าจะต้องลาออกจากราชการ ขอกลับไปยังประเทศฝรั่งเศสเท่านั้น

ข้าพเจ้าจึงได้ปลอบมองซิเออร์โวลังว่า การที่คิดเช่นนี้ต้องตรึกตรองให้ดีเสียก่อน เพราะพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้โปรดให้มองซิเออร์โวลังมายังเมืองไทย ก็เพื่อจะให้ทำราชการของพระองค์ เพราะฉะนั้นมองซิเออร์โวลังไม่ควรจะคิดวุ่นวายอย่างใด แต่ควรจะตั้งหน้าทำการในหน้าที่ของตัวให้ดีที่สุดที่จะทำได้ และไม่ควรจะคิดการอย่างอื่นเป็นอันขาด

มองซิเออร์โวลังจึงได้ถามข้าพเจ้าว่า จะควรทำอย่างไรต่อไปเล่า ข้าพเจ้าจึงชี้แจงกับมองซิเออร์โวลังว่า ทางดีที่สุดควรมองซิเออร์โวลังจะต้องไปหามองซิเออร์เดฟาชในค่ำวันนี้ และขอคำสั่งสำหรับการที่จะกลับไปบางกอก แล้วจึงเอาโอกาสนี้ชี้แจงแก่มองซิเออร์เดฟาชว่า การที่มองซิเออร์คอนซตันซ์ขัดเคืองกล่าวหาว่า มองซิเออร์โวลังได้ทำการดังข้อหานั้น เป็นสิ่งที่มองซิเออร์คอนซตันซ์เข้าใจผิดเป็นแท้ เพราะมองซิเออร์โวลังมิได้คิดทำการดังว่านั้นเลย เมื่อได้ชี้แจงให้มองซิเออร์เดฟาชเข้าใจดีแล้ว ก็อย่าอิดออด แต่ต้องรีบไปบางกอกตามคำสั่งทีเดียว และข้าพเจ้าก็ได้ชี้แจงปลอบโยนมองซิเออร์โวลังอีกหลายสิ่งหลายอย่าง เพื่อให้มองซิเออร์โวลังได้คลายความน้อยใจลงบ้าง มองซิเออร์โวลังได้ฟังข้าพเจ้าอธิบายก็ดูค่อยสงบลง มองซิเออร์โวลังจึงได้รับปากว่า จะได้ปฏิบัติตามคำแนะนำของข้าพเจ้าทุกอย่าง

ครั้นเวลาค่ำมองซิเออร์โวลังได้กลับมาหาอีก เพื่อจะมาลาข้าพเจ้า และได้บอกว่ามองซิเออร์เดฟาชดูคลายโกรธมองซิเออร์โวลังลงบ้างแล้ว มองซิเออร์เดฟาชจึงได้บอกกับมองซิเออร์โวลังว่า การที่มองซิเออร์คอนซตันซ์โกรธมองซิเออร์โวลังนักนั้น ก็เนื่องจากเหตุที่มองซิเออร์โวลังมาหาข้าพเจ้าและมองซิเออร์เดอลาลูแบบ่อยนัก มองซิเออร์คอนซตันซ์จึงพูดว่า “มองซิเออร์โวลังไปหาราชทูตของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสบ่อยนัก ก็ให้ท่านราชทูตช่วยเหลือมองซิเออร์โวลังบ้างซิ”

ข้าพเจ้าจึงได้ตอบมองซิเออร์โวลังว่า ข้าพเจ้ามีความยินดีมากที่มองซิเออร์เดฟาชได้คลายโกรธมองซิเออร์โวลังแล้ว แล้วมองซิเออร์โวลังจึงได้ไปลามองซิเออร์เดอลาลูแบ และได้ล่องลงไปบางกอกในคืนวันนั้นเอง

ตามที่มองซิเออร์โวลังได้มาเล่าในเรื่องที่มองซิเออร์คอนซตันซ์หาว่า มีคนมาหาข้าพเจ้ากับมองซิเออร์เดอลาลูแบบ่อย ๆ นั้น ข้าพเจ้าเองก็มิได้รู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจอย่างใด แต่ความจริงข้าพเจ้าก็ได้รู้สึกว่า ภายใน ๑๕ วันมานี้ ไม่มีนายทหารคนใดกล้ามาหาเราณที่พักเลย เพราะถ้าพวกนายทหารได้มาหาเราแล้ว ก็อาจจะถูกหาเป็นความอาญาก็ได้ หรืออย่างต่ำก็คงจะถูกตัดพ้อต่อว่า เพราะฉะนั้นถึงโต๊ะรับประทานอาหารของเราได้เตรียมไว้ ๓๐ ที่อยู่เสมอก็จริง แต่ก็ไม่มีใครมารับประทานอาหาร นอกจากพวกเราที่อยู่ด้วยกัน กับนายทหารเรือซึ่งมิได้เกี่ยวข้องในการหยุมหยิมเลือกเขาเลือกเราเท่านั้น

ณวันที่ ๓๐ เดือนพฤศจิกายน เราได้ยื่นหนังสือของเราต่อมองซิเออร์คอนซตันซ์ และหนังสือฉะบับนี้เราก็ได้ช่วยกันร่างมาหลายวันแล้ว คือตั้งแต่วันที่เราได้บอกกับบาดหลวงตาชาว่าเราจะได้มีหนังสือถึงมองซิเออร์คอนซตันซ์นั้นเอง

ในวันนี้เองบาดหลวงเดอเบซได้มาหาเรา และเราจับได้ตามคำพูดของบาดหลวงเดอเบซว่า มองซิเออร์คอนซตันได้รับหนังสือของเราแล้วก็ออกจะมีความร้อนใจอยู่บ้าง และมองซิเออร์คอนซตันซ์ออกจะหนักใจในข้อที่เกี่ยวด้วยสะเบียงอาหารและเรื่องการแต่งตั้งนายทหาร และเราได้ทราบความต่อไปว่า มองซิเออร์คอนซตันซ์กับบาดหลวงตาชาได้เกิดโต้เถียงวิวาทกันอย่างใหญ่โต แต่ผู้ที่มาเล่านั้นก็มิได้ยินด้วยตนเอง เพราะฉะนั้นผู้นั้นจึงบอกไม่ได้ว่า มองซิเออร์คอนซตันซ์กับบาดหลวงตาชาได้ทะเลาะกันเมื่อไร และได้ทะเลาะกันเรื่องอะไร

เมื่อเช้านี้ข้าพเจ้าไดัรับหนังสือจากมองซิเออร์เวเรต์ฉะบับ ๑ เขียนมาจากกรุงศรีอยุธยาและลงวันวานนี้ มองซิเออร์เดอลาลูแบได้คัดสำเนาไว้แล้ว ใจความในหนังสือฉะบับนี้มีว่า มองซิเออร์มาตีโนมิชันนารี ได้ไปเล่าให้มองซิเออร์เวเรต์ฟังว่า ในกองทหารไทยที่ประจำอยู่ที่บางกอก และพวกพลเมืองที่บางกอก ได้เกิดแตกเป็นก๊กเป็นเหล่า ด้วยไม่พอใจพวกฝรั่งเศส เมื่อเราได้ทราบความดังนี้ เราก็เห็นว่าเป็นเรื่องที่มองซิเออร์เดฟาชควรจะต้องรู้ไว้ เพื่อจะได้เตรียมตัวกลับลงไปที่บางกอก แต่เราก็รู้สึกว่ามองซิเออร์เดฟาชมิได้ฟังเสียงใครนอกจากบาดหลวงตาชาคนเดียว เพราะในคำสั่งของมองซิเออร์เดฟาชก็มีปรากฎให้มองซิเออร์เดฟาชคอยฟังคำแนะนำของบาดหลวงตาชา เราจึงได้คัดใจความหนังสือฉะบับนั้นส่งให้บาดหลวงเลอรัวเย และขอให้บาดหลวงเลอรัวเยไปส่งกับบาดหลวงตาชา เพื่อบาดหลวงตาชาจะได้ไปบอกให้มองซิเออร์เดฟาชทราบ และมองซิเออร์เดฟาชจะได้กลับลงไปบางกอกตามความต้องการของเรา เพราะใคร ๆ ก็ทราบกันทั่วแล้วว่า เมื่อ ๑๐ วันมานี้ มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้พูดจาอย่างโวหารกล้าว่า มองซิเออร์เดฟาชควรจะต้องรีบกลับลงไปที่บางกอก เพราะที่บางกอกได้เกิดวุ่นวายขึ้นโดยเหตุที่พลทหารได้ป่วยเจ็บ และล้มตายเป็นอันมาก

เมื่อเย็นวันนี้จวนพลบค่ำ เรากำลังนั่งสนทนาอยู่กับสังฆราชเดอเมเตโลโปลิศ บาดหลวงเลอรัวเย และบาดหลวงดูชาตซ์ บาดหลวงตาชาก็มาเคาะประตูห้อง และมีบาดหลวงดูบูเชต์กับบาดหลวงเดอเบซมากับบาดหลวงตาชาด้วย เพราะเดี๋ยวนี้ถ้าบาดหลวงตาชาจะมาหาเราเวลาใด ต้องมีพยานมาด้วยเสมอ พอบาดหลวงตาชาได้เข้ามาในห้องก็เอ่ยพูดถึงใจความในหนังสือฉะบับนั้นขึ้นก่อน ทันใดนั้นท่านสังฆราชเดอเมเตโลโปลิศได้ลากลับไป และบาดหลวงเลอรัวเยกับบาดหลวงดูชาตซ์ก็ตามไปส่งท่านสังฆราชถึงบ้าน

บาดหลวงตาชาจึงได้พูดกับเราว่า เนื้อความในหนังสือฉะบับนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง และที่เราได้คัดสำเนาส่งไปให้นั้นเรามีความประสงค์จะให้บาดหลวงตาชาทำประการใด

ข้าพเจ้าจึงได้ตอบบาดหลวงตาชาว่า มองซิเออร์เดฟาชได้เอาคำสั่งมาให้ข้าพเจ้าดู ซึ่งมีความปรากฎบังคับให้มองซิเออร์เดฟาชคอยปรึกษาหารือกับบาดหลวงตาชา เพราะฉะนั้นข้าพเจ้าจึงเห็นว่า ทางดีที่สุดควรบาดหลวงตาชาจะเอาเนื้อความในหนังสือฉะบับนั้นไปเล่าให้มองซิเออร์เดฟาชฟัง และควรบาดหลวงตาชาจะแนะนำให้มองซิเออร์เดฟาชได้กลับไปบางกอกโดยเร็ว

บาดหลวงตาชาจึงตอบว่า “ข้าพเจ้าเองไม่มีการอย่างใดที่จะต้องแนะนำกับมองซิเออร์เดฟาช และมองซิเออร์เดฟาชก็มิได้รับคำสั่งให้ทำตามคำแนะนำฉะเพาะข้าพเจ้าคนเดียว แต่ให้ทำตามคำแนะนำคนอื่นทั่วไปหมด”

ข้าพเจ้าได้เอ่ยขึ้นว่า “ข้าพเจ้าขอโทษต่อท่าน -”

บาดหลวงตาชาได้ฟังก็พูดต่อไปว่า “ถ้าแม้มองซิเออร์เดฟาชได้รับคำสั่งให้ทำตามคำแนะนำของข้าพเจ้า แต่ส่วนข้าพเจ้าหาได้รับคำสั่งให้แนะนำการต่าง ๆ ต่อมองซิเออร์เดฟาชไม่ แต่ถึงดังนั้นก็ให้ใครไปตามมองซิเออร์เดฟาชมานี่เถิด”

บาดหลวงตาชาจึงได้ใช้ให้บาดหลวงบูเชต์ไปตามมองซิเออร์เดฟาชมา มองซิเออร์เดฟาชพักอยู่ใกล้ ๆ จึงได้รีบมาพร้อมกับมองซิเออร์ดูบรูอัง เมื่อมองซิเออร์เดฟาชได้มาถึงแล้ว ข้าพเจ้าจึงได้ชี้แจงให้ฟังว่า เหตุใดจึงได้ไปเชื้อเชิญให้มองซิเออร์เดฟาชมาที่นี่ และได้เล่าตามความในหนังสือที่เราได้รับมาซึ่งมีใจความว่า พวกทหารไทยที่ประจำอยู่ที่บางกอกนั้นได้พูดว่า ถ้าไม่เกรงพระราชอาชญาของพระเจ้ากรุงสยามแล้ว พวกไทยจะมาตีพวกฝรั่งเศสให้เข็ดให้ได้ มองซิเออร์เดฟาชจึงได้ตอบว่า ถึงจะมีพลทหารเจ็บป่วยก็จริงอยู่ แต่มองซิเออร์เดฟาชก็จะตีพวกไทยให้เข็ดบ้างเหมือนกัน

บาดหลวงตาชาจึงได้พูดขึ้นว่า จะต้องได้เห็นหนังสือต้นฉะบับเสียก่อนจึงจะได้

ข้าพเจ้าจึงได้ตอบว่า สำเนานั้นเป็นลายมือของเลขานุการข้าพเจ้าเอง

บาดหลวงตาชาก็ตอบว่า “จะถือเอาเป็นหลักฐานยังไม่ได้”

เราจึงได้ตอบบาดหลวงตาชาว่า “สำเนานี้เป็นหลักฐานพออยู่แล้ว เพราะเราเองเป็นผู้รับรองว่า เป็นสำเนาที่ถูกต้อง”

บาดหลวงตาชาจึงพูดขึ้นว่า “เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างที่สุด จึงเป็นการจำเป็นที่เราจะต้องทำความตกลงกันเสียให้แน่ เพราะถ้าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่จริงแล้ว ก็เป็นโอกาสดีที่สุดที่จะได้ให้กองทหารไทยได้ออกเสียจากบางกอก”

เราจึงได้ตอบว่า เราก็ได้พูดเช่นนี้กับบาดหลวงเลอรัวเยเหมือนกัน เราจึงหวังใจว่าท่านคงจะได้เอาโอกาสนี้จัดการต่อไป”

บาดหลวงตาชาจึงค้านขึ้นว่า “ก็ถ้าเรื่องนี้เป็นเรื่องไม่จริง แต่เป็นเรื่องหาความใส่เขา จะว่าอย่างไรเล่า เพราะฉะนั้นจึงเป็นการจำเป็นที่จะต้องทราบชื่อของผู้ที่บอกข่าวนี้มา”

เราจึงได้ตอบบาดหลวงตาชาว่า “ในเรื่องนี้ไม่มีปัญหาว่าจะฟ้องหาใครเป็นความอาชญา ผู้ที่บอกข่าวนี้มาก็ได้บอกมาโดยใจจริงตามความที่เขาได้ทราบมา เพื่อเราจะได้คอยระวังเหตุการณ์ไว้ และบางทีผู้ที่บอกข่าวมานี้ ก็อาจจะอ้างพยานหลักฐานไม่ได้เสียซ้ำไป เพราะฉะนั้นที่ว่า ๆ เขาหาความใส่นั้นเป็นการไม่ควร และฝ่ายเราก็จะระวังมิบอกให้ท่านรู้ชื่อผู้บอกข่าวเรื่องนี้ แต่ที่จริงผู้ที่บอกข่าวมานี้ ก็มิได้ห้ามหรือขอร้องมิให้ปิดชื่อเขาอย่างใดเลย”

บาดหลวงตาชาจึงได้ตอบว่า “ข้อนั้นข้าพเจ้าเข้าใจดีแล้ว แต่ข้อสำคัญในเรื่องนี้ ก็มีอยู่ที่ต้องการหาความจริง และฝ่ายมองซิเออร์เดฟาชและมองซิเออร์คอนซตันซ์ ก็คงจะพยายามค้นหาความจริงให้จงได้ เพราะถ้าข่าวอันนี้เป็นเรื่องจริงแล้ว พวกไทยก็อาจจะพูดเช่นนี้อีกก็ได้ แต่ท่านจะต้องการให้ข้าพเจ้าพูดกับมองซิเออร์คอนซตันซ์หรือ ถ้าข้าพเจ้าได้พูดกับมองซิเออร์คอนซตันซ์แล้ว ทำอย่างไรมองซิเออร์คอนซตันซ์ก็คงจะถามท่านว่าคนที่บอกข่าวนี้มาเป็นใคร”

เราจึงได้ตอบว่า “เราไม่ได้ประสงค์ให้ใครมาซักไซ้ไล่เลียงเรา ท่านได้รับสำเนาใจความในหนังสือที่เราได้รับมานั้นไปแล้ว เพราะฉะนั้นท่านก็ดี หรือมองซิเออร์เดฟาชก็ดี หรือมองซิเออร์คอนซตันซ์ก็ดี จะเอาไปทำอะไรก็ตามใจท่านเถิด ที่เราได้บอกให้ท่านทราบนั้น เป็นการที่เราได้ทำตามหน้าที่ของเราแล้ว

บาดหลวงตาชาจึงได้ค้านขึ้นว่า “ก็ถ้ามองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ทราบความแล้ว เรื่องนี้ก็จะเกิดอื้อฉาวขึ้น จะกลับทำให้คนมีใจเจ็บแค้นขึ้นก็ได้ แต่คงจะไม่ทำให้ได้รู้ความจริงขึ้นเลย อีกประการ ๑ ถ้ามองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ทราบความแล้ว ทำอย่างไร ๆ ก็จะต้องนำความกราบทูลพระเจ้ากรุงสยามให้ทรงทราบ”

เราจึงได้ถามบาดหลวงตาชาว่า “เออ ก็ถ้าความเรื่องใดได้ทรงทราบถึงพระเจ้ากรุงสยาม และทราบถึงมองซิเออร์คอนซตันซ์ จำเป็นที่จะต้องให้เรื่องนั้นอื้อฉาวทุกเรื่องหรือ”

บาดหลวงตาชาอ้าปากจะตอบ แต่ข้าพเจ้าไม่ยอมให้พูด ข้าพเจ้าจึงได้เอ่ยพูดขึ้นก่อนว่า “ถึงท่านบาดหลวงจะพูดอย่างไร ๆ ก็ตาม ท่านคงจะไม่ได้ทราบชื่อผู้ที่ได้บอกข่าวนี้มาเป็นแน่”

ตามที่ได้พูดจากันนี้ ก็มีเหตุผลที่เราควรจะขัดเคืองอยู่บ้าง เพราะบาดหลวงตาชาได้มาหาเรา ก็ด้วยประสงค์จะล่อเอาความจากเราเท่านั้น ซึ่งเป็นความประพฤติอย่างธรรมดาของบาดหลวงตาชา เพราะบาดหลวงตาชาจะเคี่ยวเข็ญให้เราเอะอะขึ้น ซึ่งอาจจะทำให้เกิดผลร้ายขึ้นก็ได้ หรือมิฉะนั้นก็เป็นอุบายของบาดหลวงตาชาจะหาเหตุกล่าวโทษเรา โดยจะหาว่าเราไม่ให้ความจริงแก่บาดหลวงตาชา จึงไล่ทหารไทยออกจากบางกอกไม่ได้ พอข้าพเจ้าพูดขึ้นเท่านั้นแล้ว บาดหลวงตาชาก็นิ่งหาได้โต้ตอบประการใดไม่ และทำกิริยาโกรธมาก อีกสักครู่ ๑ บาดหลวงตาชาก็กลับไป และพวกบาดหลวงเยซวิตก็ตามออกไปด้วย

แล้วมองซิเออร์เดฟาชกับมองซิเออร์ดูบรูอัง ก็ได้ลากลับไปเหมือนกัน

ในระวางที่ได้พูดโต้ตอบกันนี้ บาดหลวงตาชาได้หาโอกาสให้มองซิเออร์เดฟาชอธิบายการในหน้าที่ มองซิเออร์เดฟาชจึงได้อธิบายว่า พวกไทยที่อยู่ที่บางกอกนั้นเป็นประโยชน์ต่อราชการมาก แต่ในเวลาที่บาดหลวงตาชาได้ให้คนไปตามมองซิเออร์เดฟาชนั้น มองซิเออร์เดฟาชกับมองซิเออร์ดูบรูอังยังไม่ทันมาถึง ข้าพเจ้าจึงได้ถามบาดหลวงตาชาว่า การที่มองซิเออร์เดฟาชมาอยู่ที่เมืองลพบุรีช้านานเช่นนี้ มองซิเออร์คอนซตันซ์ไม่พอใจจริงหรือไม่

บาดหลวงตาชาจึงได้ตอบว่า “ไม่จริง แต่มองซิเออร์เดฟาชได้รับ ๆ สั่งพระเจ้ากรุงสยามให้ประจำอยู่ที่นี่ จนกว่าท่านจะได้กลับไป เพื่อมองซิเออร์เดฟาชจะได้เป็นพยานว่า ใครพูดอย่างไรทำอย่างไรในเมืองนี้”

ในตอนเย็นเราได้ไปหาท่านสังฆราชเดอเมเตโลโปลิศ และเราได้พูดจาอ้อนวอนจนผลที่สุดท่านสังฆราชได้มอบหนังสือให้เราฉะบับ ๑ เป็นหนังสือถึงท่านสังฆราชที่เมืองตังเกี๋ย นำส่งบาดหลวงเยซวิตไป ๒ รูป ให้ไปรับหน้าที่เป็นมิชันนารีอาปอศตอลิก แต่ท่านสังฆราชเดอเมเตโลโปลิศได้ขอร้องให้เราปิดความ อย่าได้บอกให้บาดหลวงตาชาหรือมองซิเออร์คอนซตันซ์ทราบในเรื่องนี้ ท่านสังฆราชยอมแต่เพียงบอกให้บาดหลวงดูชาตซ์กับบาดหลวงเลอรัวเยทราบเท่านั้น เพราะบาดหลวงดูชาตซ์เป็นหัวหน้าบาดหลวงอยู่ที่คณเมืองลพบุรี และบาดหลวงเลอรัวเยเป็นหัวหน้าคณกรุงศรีอยุธยา เราจึงได้นำจดหมายนั้นไปส่งให้แก่บาดหลวงทั้ง ๒ เพื่อจะได้จัดการส่งบาดหลวงเยซวิตไปตามฤดูกาล และฝ่ายข้าพเจ้าก็ได้สัญญาไว้กับท่านสังฆราชเดอเมเตโลโปลิศว่า จะได้สั่งให้เรือของบริษัทซึ่งยังอยู่ที่กรุงศรีอยุธยาลำ ๑ ได้ไปยังเมืองตังเกี๋ย เพื่อให้ไปทำการค้าขายต่อไปด้วย เพราะฉะนั้นเมื่อเรือลำนี้จะออกเมื่อใด จึงเป็นโอกาสที่จะส่งบาดหลวงเยซวิต และจะส่งสะเบียงอาหารสำหรับพวกสังฆราชและมิชันนารีที่เมืองตังเกี๋ยด้วยก็ได้

ณวันที่ ๑ เดือนธันวาคม เวลาเช้า ได้มีเจ้าพนักงานมาหาบอกว่า มีรับสั่งในพระเจ้ากรุงสยาม ให้มาเชิญเราไปดูช้างชนกัน และพระเจ้ากรุงสยามก็จะเสด็จทอดพระเนตร์ด้วย เพราะฉะนั้นอีกสักครู่ ๑ เราจึงได้ออกเดินทาง และบรรดานายทหารฝรั่งเศสก็ได้ไปกับเราทุกคน พวกเราได้ขี่ช้างด้วยกันทั้งนั้น ครั้นได้ไปถึงตำบลแห่ง ๑ ใกล้กับเมืองลพบุรีซึ่งจะเป็นที่สำหรับชนช้างนั้นแล้ว สักครู่ ๑ พระเจ้ากรุงสยามก็ได้เสด็จมาถึง พระเจ้ากรุงสยามทรงช้างที่นั่ง และมีขุนนางข้าราชการแห่นำตามเสด็จแวดล้อมมา พวกขุนนางข้าราชการเหล่านี้ ที่เดินก็มี ที่ขี่ม้าก็มี และยังมีขุนนางข้าราชการกับทหารรักษาพระองค์มาหมอบคอยรับเสด็จอยู่ก็มาก และพวกนี้ก็หมอบอยู่ตลอดเวลาที่พระเจ้ากรุงสยามประทับอยู่ณที่นั้น ในคราวนี้พระเจ้ากรุงสยามได้โปรดให้เราได้เฝ้าเป็นพิเศษ มองซิเออร์คอนซตันซ์เป็นผู้มาตามตัวเราไปเฝ้า เพราะเราอยู่ทาง ๑ พระเจ้ากรุงสยามประทับอยู่ทาง ๑ มีพระเจดีย์คั่นอยู่กลาง ครั้นเราได้ขี่ช้างมาใกล้ช้างพระที่นั่ง เราก็ได้ถวายคำนับแต่หาได้ลงจากหลังช้างไม่ มองซิเออร์คอนซตันซ์อยู่ข้างซ้ายเราคอยเป็นล่ามอยู่ พระเจ้ากรุงสยามได้รับสั่งถามว่าเราอยู่เป็นสุขสบายดีหรืออย่างไร มองซิเออร์เดอลาลูแบเป็นผู้พูดแทนพวกเรา จึงได้กราบทูลขอบพระเดชพระคุณที่ได้ทรงพระกรุณาแก่พวกเรา พระเจ้ากรุงสยามจึงได้รับสั่งตอบว่า เป็นธรรมเนียมของพระเจ้าแผ่นดินที่จะต้องระไวระวังกรุณาต่อราชทูต ซึ่งเป็นผู้ที่มีหน้าที่ให้เชื่อมพระราชไมตรีในระวางพระเจ้าแผ่นดินนั้น ๆ มองซิเออร์เดอลาลูแบจึงได้กราบทูลว่า พวกฝรั่งเศสได้รับพระมหากรุณาและได้รับความเอื้อเฟื้อทุกอย่าง มีความสุขสบายอยู่ในเมืองไทยจนลืมตัวนึกว่าตัวอยู่ประเทศฝรั่งเศส

พระเจ้ากรุงสยามได้ทรงฟังก็ทรงพระสรวลถึง ๒ ครั้ง แล้วจึงได้รับสั่งว่าจะได้ทรงโปรดช่วยเหลือในการค้าขาย และจะทรงโปรดช่วยให้บริษัทได้มาตั้งห้างในพระราชอาณาจักรต่อไป ในขณะนี้พวกนายทหารเรือ เรือลาลัว กับเรือเลอโดรมาแด ได้เข้ามาเฝ้า มองซิเออร์คอนซตันซ์เป็นผู้นำเฝ้า พวกนายทหารเรือได้ถวายคำนับ แต่หาได้ลงจากหลังช้างไม่ พระเจ้ากรุงสยามจึงได้พระราชทานกระบี่ฝักทองคำเล่ม ๑ กับสายสร้อยทองคำสาย ๑ และเสื้อ ๑ ตัวให้แก่มองซิเออร์ดังเดน เพราะคราวนี้เป็นครั้งแรกที่มองซิเออร์ดังเดนได้เคยเข้ามาเมืองไทย มองซิเออร์ยัวเยอกับนายทหารบางคนก็ได้รับพระราชทานเสื้อคนละตัว เมื่อนายทหารได้ขอบพระเดชพระคุณเสร็จแล้ว พระเจ้ากรุงสยามก็หันพระองค์มาทางเรา เป็นกิริยาว่าเสด็จขึ้นแล้ว

เมื่อเราได้กลับมาถึงที่พักแล้ว จึงได้ทราบความว่า การที่มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้เกิดทะเลาะขึ้นกับบาดหลวงตาชานั้น ได้ทะเลาะกันในห้องเขียนหนังสือของมองซิเออร์คอนซตันซ์เมื่อเวลา ๘ ทุ่ม (๒ ก.ท.) และได้ทะเลาะกันถึงข้อสัญญาบางข้อ ซึ่งเราได้เซ็นชื่อพร้อมกับบาดหลวงตาชาบนเรือลัวโซ ซึ่งเป็นข้อสัญญาที่มองซิเออร์คอนซตันซ์หาพอใจไม่

ณวันที่ ๒ เดือนธันวาคม เวลาเย็น ข้าพเจ้าได้ไปยังบ้านมองซิเออร์คอนซตันซ์ ครั้นไปถึงบ้านก็เห็นว่ามองซิเออร์คอนซตันซ์ยังติดธุระอยู่ ข้าพเจ้าจึงได้เลยสนทนากับบาดหลวงตาชาสองต่อสอง บาดหลวงตาชาได้บรรยายถึงเหตุการณ์ทั้งปวงที่ได้เป็นไปตั้งแต่แรกเราเข้ามาถึงเมืองไทย จึงได้เล่าให้ข้าพเจ้าฟังว่า บาดหลวงตาชาได้ชี้แจงไว้กับมาควิศเดอเซเนเลว่า ในเมืองไทยนี้มีชาวปอตุเกตอยู่ที่บางกอกหลายคนได้ทำราชการของพระเจ้ากรุงสยามมาช้านานแล้ว และพระเจ้ากรุงสยามก็ไม่ทรงทราบว่า จะทำอย่างไรกับพวกปอตุเกตเหล่านี้ต่อไป บาดหลวงตาชาจึงออกความเห็นว่า ควรจะตั้งให้เชอวาเลียเดอฟอแบงเป็นผู้ว่าราชการเมืองบางกอกต่อไป ท่านมาควิศเดอเซเนเลจึงได้ตอบบาดหลวงตาชาว่า เชอวาเลียเดอฟอแบงสู้มองซิเออร์เดฟาชไม่ได้ แต่ส่วนพวกปอตุเกตนั้นไม่มีราคาอันใดไม่จำเป็นจะต้องมานึกถึง การที่มาควิศเดอเซเนเลได้พูดเช่นนี้ ทำให้บาดหลวงตาชาจับเอาคำนั้นเป็นหลักสำหรับถือว่า มองซิเออร์คอนซตันซ์มีอำนาจที่จะให้พวกไทยคงอยู่ที่บางกอกต่อไปได้ แล้วบาดหลวงตาชาได้พูดต่อไปว่า ถ้าพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้ส่งกองทหารเพิ่มมาเมื่อใด จึงจะถอนกองทหารไทยออกจากบางกอกได้

ข้าพเจ้าจึงได้ตอบบาดหลวงตาชาว่า พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสจะส่งทหารเพิ่มมาอีกหรืออย่างไรนั้นเป็นเรื่องที่ข้าพเจ้าทราบไม่ได้ แต่ข้อที่ข้าพเจ้าทราบเป็นแน่นั้น ก็คือว่า พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้ทรงเชื่อพระทัยว่า กองทหารที่ได้ส่งมานี้ เป็นจำนวนเพียงพอสำหรับรักษาตำบลนี้ได้แล้ว เพราะตั้งแต่ไหน ๆ มาไม่เคยมีทหารอยู่ในที่นี้ครึ่งจำนวนเท่าที่มีอยู่ในเวลานี้เลย

บาดหลวงตาชามิได้พูดถึงเรื่องสะเบียงอาหาร หรือเรื่องการตั้งแต่งนายทหารซึ่งมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ไปตั้งไว้ที่บางกอก แต่บาดหลวงตาชาได้บอกกับเราว่า มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้รู้สึกน้อยใจเป็นอันมาก ในหนังสือของเราที่กล่าวด้วยการศาสนา เพราะมองซิเออร์คอนซตันซ์เห็นว่าตามความในหนังสือนั้น เท่ากับเป็นคำติเตียนมองซิเออร์คอนซตันซ์ว่า มองซิเออร์คอนซตันซ์มิได้มีความเอื้อเฟื้อหรือเอาใจใส่ในการศาสนาเลย บาดหลวงตาชาจึงได้พูดแก้ตัวแทนมองซิเออร์คอนซตันซ์ในเรื่องที่ยังไม่ได้ประกาศข้อความในสัญญาที่ได้ทำไว้กับเชอวาเลียเดอโชมอง อันเป็นสัญญาซึ่งพระเจ้ากรุงสยามได้พระราชทานสิทธิต่าง ๆ ให้แก่พวกเข้ารีต แล้วบาดหลวงตาชาจึงได้พูดกับข้าพเจ้าว่า ท่านสังฆราชเดอเมเตโลโปลิศก็ได้มีหนังสือถึงมองซิเออร์คอนซตันซ์ ขอร้องให้งดการที่จะประกาศสัญญานั้น และหนังสือฉะบับนี้ก็ยังอยู่ที่บาดหลวงตาชา

ข้อแก้ตัวของบาดหลวงตาชาข้อนี้ บาดหลวงตาชายังไม่เคยได้พูดกับเราเลยจนครั้งเดียว และถ้าเป็นความจริงก็น่าจะบอกกับเราเสียแล้ว เพราะเราก็ได้พูดถึงเรื่องนี้กับบาดหลวงตาชาถึง ๒ ครั้งมาแล้ว ท่านสังฆราชเดอเมเตโลโปลิศเองก็ยังไม่เคยได้พูดกับเราเลยเหมือนกัน แต่เราก็เชื่อว่าอาจจะเป็นจริงได้เพราะเราได้สังเกตเห็นว่า ท่านสังฆราชจะต้องการให้ประกาศสัญญาก็จริงอยู่ แต่จะขอให้แก้ข้อความบางข้อเสียก่อน เพราะข้อความเหล่านี้ดูประหนึ่งว่าสงสัยในความซื่อสัตย์ของพวกมิชันนารี โดยมีข้อความกล่าวในข้อนั้นว่า ถ้าพวกมิชันนารีได้เทศน์หรือสั่งสอนการอย่างใด อันเป็นการทุจจริตต่อบ้านเมืองแล้ว สิทธิต่าง ๆ ที่ได้พระราชทานไว้นั้นก็ต้องเป็นอันงดทั้งหมด ดังนี้

อีกประการ ๑ การที่เราไม่ได้ขอร้องให้ได้ปฏิบัติตามข้อสัญญา เป็นแต่ขอร้องให้ได้ปฏิบัติตามข้อความในสัญญานั้น ก็เพราะติดขัดด้วยสัญญาข้อนี้อย่าง ๑ และอีกอย่าง ๑ ยังมีข้อสัญญาที่เป็นข้อสำคัญ ซึ่งท่านสังฆราชเดอเมเตโลโปลิศต้องการนัก คือในข้อที่จะตั้งขุนนางไทยขึ้นคน ๑ สำหรับให้เป็นผู้พิจารณาและตัดสินถ้อยความของไทยที่จะเข้ารีตขึ้นใหม่ เพราะท่านสังฆราชเชื่อได้แน่ว่าคนไทยคงจะไม่กล้าเข้ารีต เพราะเกรงว่านายของตัวจะข่มเหงคะเนงร้าย และถ้าได้ปฏิบัติตามสัญญาข้อนี้แล้ว ก็เสมอเท่ากับปิดบังความผิดของพวกขุนนางเหล่านี้ อีกประการ ๑ เราก็ได้เห็นชัดแล้วว่า หนังสือสัญญานี้ไม่ควรจะประกาศ เพราะในข้อสัญญามีว่า ถ้าพวกมิชันนารีทำผิดแม้แต่เล็กน้อย ก็เป็นอันต้องงดเลิกสัญญานี้ทีเดียว ซึ่งเป็นวิธีดำเนินการอย่างธรรมดาของมองซิเออร์คอนซตันซ์

แล้วบาดหลวงตาชาได้พูดกับข้าพเจ้าถึงเรื่องที่ตัวจะไปราชการยังประเทศฝรั่งเศสว่า บาดหลวงตาชายังไม่ทราบว่า ที่จะไปประเทศฝรั่งเศสในคราวนี้จะได้รับตำแหน่งอะไรแน่ และไม่ทราบเสียซ้ำไปว่าจะได้รับตำแหน่งอย่างใดหรือไม่

เราก็ได้นึกเห็นอยู่แล้วว่า การที่จะตั้งให้บาดหลวงตาชาเป็นตำแหน่งอะไรไปยังประเทศฝรั่งเศสนั้น คงเป็นข้อที่มองซิเออร์คอนซตันซ์จะต้องหนักใจเป็นอันมาก เพราะเมื่อยังไม่ทราบว่าพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสจะได้ทรงรับบาดหลวงตาชาสถานใด ก็เป็นการยากที่จะตั้งตำแหน่งให้บาดหลวงตาชาได้ ทั้งมองซิเออร์คอนซตันซ์ก็ได้คัดค้านต่าง ๆ ในระเบียบที่จะรับรองเรา มองซิเออร์คอนซตันซ์กับบาดหลวงตาชาจึงต้องเกรงว่า พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสคงจะไม่รับรองบาดหลวงตาชา และพระราชสาส์นของพระเจ้ากรุงสยามดุจเดียวกัน เราจึงได้คิดเห็นว่า บาดหลวงตาชาคงจะเตรียมตัวไปทุกอย่าง กล่าวคือ คงจะเชิญพระราชสาส์นและหนังสือต่าง ๆ ไปหลายอย่างหลายชะนิด และคงจะรับตำแหน่งต่าง ๆ ไปด้วย เมื่อเห็นว่าพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสโปรดอย่างไร ก็คงจะกลับตัวให้ทันพระราชประสงค์ และที่สุดเมื่อเห็นว่าตำแหน่งใดจะเป็นอันไม่ได้เรื่องแล้ว ก็คงจะกลายเป็นแต่เพียงคนแทนของมองซิเออร์คอนซตันซ์ก็จะเป็นได้

เมื่อข้าพเจ้ากับบาดหลวงตาชาได้สนทนากันเสร็จแล้ว ข้าพเจ้าก็เข้าไปหามองซิเออร์คอนซตันซ์ มองซิเออร์คอนซตันซ์จึงตั้งต้นพูดขึ้นก่อนว่า มองซิเออร์เดอลาลูแบคงจะไม่คิดกลับไปในเร็ววัน เพราะหนังสือฉะบับแรกที่มองซิเออร์เดอลาลูแบได้มีมานั้น มองซิเออร์คอนซตันซ์ก็พึ่งได้รับเมื่อ ๒-๓ วันนี้เอง

ข้าพเจ้าจึงได้ตอบตามความที่ข้าพเจ้ากับมองซิเออร์เดอลาลูแบได้ตกลงกันไว้ว่า มองซิเออร์เดอลาลูแบจะทำอะไรคนเดียวไม่ได้ แต่ต้องทำพร้อมกับข้าพเจ้า เพราะฉะนั้นมองซิเออร์เดอลาลูแบจึงได้ตั้งใจไว้ว่า เมื่อข้าพเจ้าจะกลับเมื่อไร มองซิเออร์เดอลาลูแบก็จะกลับไปด้วย แต่ในระวางนี้มองซิเออร์เดอลาลูแบจะต้องไปรอคอยอยู่ที่เรือรบซึ่งจอดอยู่ที่ท่าเรือ ถ้ามองซิเออร์คอนซตันซ์จะต้องการตอบหนังสือแล้ว ก็ยังมีเวลาพอเพียงที่จะตอบได้ แต่ถ้ามองซิเออร์คอนซตันซ์ไม่ต้องการตอบด้วยจดหมายแล้ว มองซิเออร์เดอลาลูแบก็ยินดีที่จะได้พบพูดกับมองซิเออร์คอนซตันซ์บนเรือรบ แต่ส่วนตัวข้าพเจ้านั้นจะต้องเอาฤดูเป็นเกณฑ์ เพราะฉะนั้นจึงต้องรีบกลับไปยังฝั่งคอรอมันเดล ทั้งมองซิเออร์เดอลาลูแบจะต้องไปอยู่ที่เรือรบ เพื่อคอยบาดหลวงตาชาและเข้าของต่างๆ ซึ่งบาดหลวงตาชาจะพาไปด้วย

ตามที่มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้พูดในคราวนี้ จะให้เป็นทีว่าเราได้บอกให้มองซิเออร์คอนซตันซ์ทราบในพระราชประสงค์ของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสล่าช้ามาก ดูเหมือนมองซิเออร์คอนซตันซ์จะไม่เคยได้ยินใครพูดถึงเรื่องนี้บ้างเลย

ณวันที่ ๓ เดือนธันวาคมเวลาเย็น ได้มีคนมาบอกว่ามองซิเออร์คอนซตันซ์ขอเชิญเราไปดูเครื่องราชบรรณาการ และของต่าง ๆ ที่จะส่งไปถวายพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส ซึ่งได้นำไปประดับไว้ณที่พักพวกบาดหลวงเยซวิตแล้ว ของต่าง ๆ ที่จะส่งไปถวายพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสนั้น เราไม่เห็นเป็นเรื่องเป็นราวอะไรเลย แต่มองซิเออร์เดอลาลูแบได้ไปอยู่ครู่เดียวก็กลับ เพราะป่วยไม่สบาย และมองซิเออร์เดอลาลูแบไม่ต้องการจะออกความเห็นด้วย ว่าของเหล่านั้นจะดีหรือไม่ดี

ณวันพฤหัสบดี ที่ ๔ เดือนธันวาคม เวลาเย็น มองซิเออร์เดอลาลูแบได้มาหาท่านสังฆราชเดอเมเตโลโปลิศ ท่านสังฆราชได้ปฏิเสธว่า ไม่เคยได้ขอร้องต่อมองซิเออร์คอนซตันซ์เลย ที่จะไม่ให้ประกาศสัญญาซึ่งพระราชทานสิทธิต่าง ๆ ให้แก่ศาสนา และในข้อที่ว่ามองซิเออร์คอนซตันซ์ได้พูดเมื่อครั้งพวกแขกมะกาซาทำการจลาจลว่า สังฆราชเดอเมเตโลโปลิศได้ขอบใจมองซิเออร์คอนซตันซ์ในการที่ไม่ได้ประกาศสัญญานั้น ในข้อนี้ท่านสังฆราชได้พูดกับมองซิเออร์เดอลาลูแบว่า จำไม่ได้แน่ว่าจะได้พูดกับมองซิเออร์คอนซตันซ์เช่นนั้นหรือไม่ แต่ท่านสังฆราชจำได้ว่าเคยพูดกับใครคน ๑ จริง ว่าการที่ไม่ได้ประกาศสัญญายกสิทธิต่าง ๆ ให้แก่ศาสนานั้นเป็นการเคราะห์ดีนักหนา เพราะถ้าได้ประกาศไปแล้วก็อาจจะมีคนหาว่า การที่พวกแขกมะกาซาทำการจลาจลนั้น ก็เพราะพวกเข้ารีตเป็นต้นเหตุก็ได้ แต่ถ้ามีคนหาความเช่นนี้ก็ไม่มีมูลอย่างใดเลย

มองซิเออร์เดอลาลูแบจึงถามท่านสังฆราชว่า “ใครเล่าจะเป็นผู้พูดเช่นนี้”

ท่านสังฆราชจึงได้ตอบว่า “บางทีก็จะเป็นมองซิเออร์คอนซตันซ์พูดขึ้นก่อนก็ได้ เพราะมองซิเออร์คอนซตันซ์เป็นคนที่ดูนิสสัยได้ยากนัก อันที่จริงคณะบาดหลวงก็ได้รับความเอื้อเฟื้อจากมองซิเออร์คอนซตันซ์มากต่อมาก ถ้าข้าพเจ้าจะเขียนจดความเอื้อเฟื้อของมองซิเออร์คอนซตันซ์ไว้แล้ว ก็อาจจะเขียนได้สมุดใหญ่ ๆ เล่ม ๑ ทีเดียว แต่ข้าพเจ้าไม่เข้าใจเลยว่า มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้เอื้อเฟื้อทำความดีต่อคณะบาดหลวงไว้แล้ว เหตุใดจึงได้ทำลืมเสียโดยเร็วเช่นนี้ได้”

แล้วท่านสังฆราชเดอเมเตโลโปลิศ จึงบรรยายถึงคุณความดีของมองซิเออร์คอนซตันซ์ให้มองซิเออร์เดอลาลูแบฟังว่า ๑ มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ออกทรัพย์ส่วนตัวซื้ออาหารเลี้ยงนักเรียน ซึ่งอยู่ในโรงเรียนของท่านสังฆราช อันเป็นโสหุ้ยปีหนึ่งไม่ต่ำกว่า ๗๐๐ ถึง ๘๐๐ แฟรง ๒ โรงเรียนนั้นก็เป็นสิ่งที่มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ให้สร้างขึ้นตั้งแต่เชอวาเลียได้กลับไปจากเมืองไทยแล้ว แต่ในข้อนี้เป็นเรื่องที่มองซิเออร์เดอลาลูแบได้ทราบมาจากทางอื่นอยู่แล้ว ๓ ภรรยามองซิเออร์คอนซตันซ์ก็เอาเด็กเล็ก ๆ ทั้งชายและหญิงไปเลี้ยงไว้เป็นอันมาก และเมื่อเด็กหญิงเหล่านั้นเติบโตขึ้นแล้วภรรยามองซิเออร์คอนซตันซ์ก็จัดการหาสามีให้

ณวันที่ ๖ เดือนธันวาคม มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้นัดให้ข้าพเจ้าไปยังที่พักพวกบาดหลวงเยซวิตเพราะเป็นที่เงียบสงัดดี เพื่อจะได้ปรึกษาหารือทำงานกันต่อไป ครั้นเวลาเย็นข้าพเจ้าจึงได้ไปยังที่พักบาดหลวงเยซวิตตามที่ได้นัดกันไว้ เมื่อข้าพเจ้าได้นั่งสนทนากับมองซิเออร์คอนซตันซ์สักครู่หนึ่ง ก็ได้เห็นท่านสังฆราชเดอเมเตโลโปลิศเดินเข้ามา เพราะมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ให้คนไปเชิญมา อีกสักครู่หนึ่งบาดหลวงตาชากับบาดหลวงเยซวิตอีก ๓ - ๔ คนก็ได้เดินเข้ามา ฝ่ายมองซิเออร์คอนซตันซ์หาได้พูดเรื่องการค้าขายซึ่งพูดค้างอยู่กับข้าพเจ้าไม่ แต่กลับไปพูดเรื่องอื่นๆ และได้ถามข้าพเจ้าว่า ได้มีคนแทนพวกเข้ารีตที่เมืองตังเกี๋ย ๒ คน ได้มายื่นคำร้องต่อข้าพเจ้าและมองซิเออร์เดอลาลูแบ ขอให้แต่งบาดหลวงเยซวิตเป็นมิชันนารีไปเมืองตังเกี๋ยจริงหรือไม่ ข้าพเจ้าจึงได้ตอบมองซิเออร์คอนซตันซ์ว่า ในข้อนี้ข้าพเจ้ายังไม่เคยได้ยินใครพูดเลย มองซิเออร์คอนซตันซ์จึงได้อธิบายความประสงค์ของคนแทนพวกเข้ารีต และได้ชี้แจงว่าการที่ปล่อยให้พวกเข้ารีดล้มตายโดยไม่มีใครช่วยชี้หนทางขึ้นสวรรค์นั้น เป็นการทารุณร้ายกาจมาก

บาดหลวงตาชาจึงได้พูดหนุนความเห็นมองซิเออร์คอนซตันซ์ แล้วบาดหลวงตาชาจึงได้หันไปพูดกับสังฆราชเดอเมเตโลโปลิศ ขอให้ท่านสังฆราชได้ออกคำสั่ง ให้ส่งบาดหลวงเยซวิตไปยังประเทศตังเกี๋ย เพื่อให้ไปช่วยชี้ทางขึ้นสวรรค์ให้แก่พวกเข้ารีต เพราะพวกเข้ารีตได้ขอพวกเยซวิตเข้ามาแล้ว

ท่านสังฆราชเดอเมเตโลโปลิศอึกอักอยู่นานไม่ใคร่จะตอบเป็นเด็ดขาดได้เลย แล้วท่านสังฆราชจึงได้พูดกับบาดหลวงตาชาว่า จะได้เอาคำสั่งที่ได้รับมาจากสำนักกรุงโรมมาให้บาดหลวงตาชาดู เมื่อบาดหลวงตาชาได้เห็นคำสั่งแล้ว จะเห็นควรทำอย่างไรต่อไปสังฆราชจะได้ปฏิบัติตาม

มองซิเออร์คอนซตันซ์จึงได้พูดกับท่านสังฆราชเดอเมเตโลโปลิศว่า สำนักกรุงโรมได้ห้ามพวกหัวหน้าคณะเยซวิต มิให้ส่งนักพรตไปยังเมืองตังเกี๋ยก็จริงอยู่ แต่ข้อห้ามอันนี้มิได้ห้ามไม่ให้ท่านสังฆราชเดอเมเตโลโปลิศ ส่งบาดหลวงเยซวิตออกไปเป็นมิชันนารีอาปอศตอลิกยังเมืองตังเกี๋ย ดุจเดียวกับที่เคยได้ส่งบาดหลวงสามัญไปแล้ว และในเวลานี้พวกบาดหลวงเยซวิตก็ยอมอาสาจะออกไป ด้วยคิดจะไปทำทานแก่พวกเข้ารีต เพราะพวกเข้ารีตได้เร่งขอให้มีบาดหลวงออกไปอยู่แล้ว การที่ท่านสังฆราชเดอเมเตโลโปลิศยกเหตุผลมาอ้าง เพื่อจะไม่ส่งบาดหลวงออกไปนั้น มองซิเออร์คอนซตันซ์ไม่เห็นเป็นการขัดข้องอย่างใดเลย เพราะเหตุผลต่าง ๆ ที่ทำให้สำนักกรุงโรมต้องถอนบาดหลวงเยซวิตปอตุเกตออกจากเมืองตังเกี๋ย ไม่ได้เกี่ยวแก่พวกเยซวิตที่ขอให้ท่านสังฆราชส่งออกไปเลย เพราะพวกเยซวิตเหล่านี้ได้สาบาลตัวแล้ว อันเป็นสิ่งที่บาดหลวงเยซวิตปอตุเกตมิได้ยอม เพราะพวกเยซวิตปอตุเกตได้รับคำสั่งจากสังฆราชเมืองโกอาห้ามมิให้สาบาล ถ้าขืนสาบาลก็จะต้องถูกขับไล่ออกจากวัดดังนี้

เหตุผลต่าง ๆ ที่มองซิเออร์คอนซตันซ์ยกมาอ้างนี้ ก็ตรงกันกับที่ข้าพเจ้าและมองซิเออร์เดอลาลูแบได้ยกมาอ้าง เพื่อขอให้ท่านสังฆราชได้ส่งบาดหลวงเยซวิตออกไปเมืองตังเกี๋ย ซึ่งนับว่าเป็นเหตุผลที่มีน้ำหนักมากอยู่ ท่านสังฆราชเห็นจวนตัวเข้าเต็มทีแล้วก็ไม่มีคำใดที่จะตอบลบล้างเหตุผลที่มองซิเออร์คอนซตันซ์อ้างนั้นได้ จึงได้นิ่งอยู่ หาได้ตอบประการใดไม่ ในระวางที่ท่านสังฆราชนิ่งอยู่นั้น มองซิเออร์คอนซตันซ์กับบาดหลวงเยซวิต ก็มารบเร้าขอให้ข้าพเจ้าช่วยพูดกับท่านสังฆราชเดอเมเตโลโปลิศ เพื่อให้ท่านสังฆราชได้จัดการตามความประสงค์ด้วย ฝ่ายข้าพเจ้าเองก็อึกอักในใจอยู่บ้าง เพราะข้าพเจ้าจะขอให้ท่านสังฆราชได้ปฏิบัติในสิ่งที่ได้ทำไปแล้วอย่างไรได้ เพราะเรื่องที่จะส่งบาดหลวงเยซวิตไปเมืองตังเกี๋ยนั้น ก็หมดปัญหาเป็นอันตกลงจะได้ส่งอยู่แล้ว หากว่าเป็นเรื่องที่ปิดมิให้มองซิเออร์คอนซตันซ์และบาดหลวงตาชารู้เท่านั้น ข้างฝ่ายมองซิเออร์คอนซตันซ์และพวกบาดหลวงเยซวิตเห็นว่าข้าพเจ้านิ่งอยู่มิได้ช่วยพูดอ้อนวอนสังฆราชเดอเมเตโลโปลิศ ก็ไปเข้าใจเสียว่า ข้าพเจ้าไม่ยอมช่วยในการที่จะให้ตั้งคณะเยซวิตที่เมืองตังเกี๋ยขึ้นใหม่ ซึ่งเป็นการที่พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสต้องพระราชประสงค์นัก ข้าพเจ้าจะนิ่งอยู่ไม่ได้ จึงได้ทำความตกลงในใจเดี๋ยวนั้นเองว่า จะทำอย่างไรต่อไป ข้าพเจ้าจึงได้พูดกับมองซิเออร์คอนซตันซ์และบาดหลวงตาชาว่า มองซิเออร์เดอลาลูแบและตัวข้าพเจ้าเอง ก็ได้พูดกับท่านสังฆราชเดอเมเตโลโปลิศ และยกเหตุผลอันมีน้ำหนักให้ท่านสังฆราชฟังหลายครั้งหลายหนแล้ว เพื่อจะได้ให้ท่านสังฆราชจัดการตามความประสงค์ของมองซิเออร์คอนซตันซ์และบาดหลวงตาชา เพราะฉะนั้นถ้าจะเอาเรื่องนี้มาพูดกับท่านสังฆราชอีก ก็จะเป็นความซ้ำซากทำให้ท่านสังฆราชเบื่อหน่ายเปล่า ๆ เพราะเหตุผลอย่างอื่นที่จะยกมาอ้างต่อท่านสังฆราชอีกก็ไม่มีแล้ว ส่วนท่านสังฆราชนั้นเป็นผู้ที่เข้าใจได้ดีว่า หน้าที่ของตัวจะต้องทำประการใด ข้าพเจ้าจึงเชื่อว่า ท่านสังฆราชคงจะพยายามจัดการให้ได้ตามความประสงค์ของพวกเยซวิตทุกอย่าง และยิ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่อ้างถึงพระราชประสงค์ของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสด้วย เพราะฉะนั้นท่านสังฆราชคงจะยิ่งพยายามจัดการให้เป็นผลสำเหร็จหนักขึ้น

ในทันใดนั้นท่านสังฆราชเดอเมเตโลโปลิศได้พูดกับมองซิเออร์คอนซตันซ์ว่า ท่านสังฆราชได้ทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้แล้ว จะทำอย่างอื่นอีกไม่ได้ นอกจากนี้ท่านสังฆราชไม่จำเป็นจะต้องอธิบายให้ยืดยาวไปกว่านี้

มองซิเออร์คอนซตันซ์กับพวกเยซวิตได้ฟังท่านสังฆราชพูดเช่นนี้ ก็เข้าใจว่าเป็นคำปฏิเสธของท่านสังฆราชจะไม่ยอมส่งบาดหลวงออกไปเมืองตังเกี๋ย มองซิเออร์คอนซตันซ์จึงแสดงกิริยาโกรธเคืองผู้ที่กีดกันไม่ยอมให้ตั้งคณะเยซวิตที่เมืองตังเกี๋ยขึ้นใหม่ การที่มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้แสดงความโกรธเช่นนี้ ท่านสังฆราชเดอเมเตโลโปลิศหาได้โต้ตอบประการใดไม่ อีกสักครู่ ๑ ท่านสังฆราชก็ลากลับไป และข้าพเจ้าก็ทำการปรึกษาหารือกับมองซิเออร์คอนซตันซ์ต่อไป

รุ่งขึ้นณวันที่ ๗ เดือนธันวาคม ข้าพเจ้าได้ไปฟังสวดที่คณะเยซวิต มองซิเออร์คอนซตันซ์ทราบว่าข้าพเจ้าได้ไปที่วัด จึงได้ให้คนไปคอยดักข้าพเจ้าที่หน้าวัด พอข้าพเจ้าได้เดินออกมาจากโบสถ์ คนที่มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ให้ไปคอยดักข้าพเจ้านั้น ก็ได้บอกกับข้าพเจ้าว่ามองซิเออร์คอนซตันซ์อยากพบข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจึงได้ถามคนใช้ว่า มองซิเออร์คอนซตันซ์อยู่ที่ไหน ก็ได้ความว่ามองซิเออร์คอนซตันซ์อยู่ที่บ้าน ข้าพเจ้าจึงได้ไปยังบ้านมองซิเออร์คอนซตันซ์ซึ่งอยู่ใกล้ ๆ นั้นเอง ได้พบมองซิเออร์คอนซตันซ์กำลังโกรธอยู่ เพราะได้มีคนมารายงานว่า ปืนใหญ่กับลูกแตกซึ่งมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ขอไปสำหรับไปถวายให้พระเจ้ากรุงสยามทอดพระเนตร์นั้น ไม่มีพาหนะที่จะบรรทุกเอาขึ้นไปที่เมืองลพบุรีได้

พอมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้เห็นข้าพเจ้าก็ได้พูดตัดพ้อต่อว่า ๆ ในหนังสือที่ทำเปนคำสั่ง ซึ่งเราได้มอบให้บาดหลวงตาชามายื่นต่อมองซิเออร์คอนซตันซ์นั้น ได้มีข้อความกล่าวถึงสิ่งของต่าง ๆ ที่พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้ส่งมาถวายพระเจ้ากรุงสยาม และได้กล่าวถึงลูกแตก ปืนใหญ่ และทหารปืนใหญ่ด้วย แต่ถึงดังนั้นเจ้าพนักงานฝรั่งเศสไม่ใคร่จะยอมให้เอาลูกแตกกับปืนใหญ่ขึ้นจากเรือเลย ทั้งนายทหารผู้บังคับกองทหารปืนใหญ่ ก็คิดจะกลับไปประเทศฝรั่งเศส และจะพาพลทหารปืนใหญ่ไปเสียด้วย โดยอ้างว่าพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้มีรับสั่งให้พากลับไปดังนี้ การที่เป็นไปดังนี้ไม่ตรงกับความในหนังสือของเราเลย มองซิเออร์คอนซตันซ์จึงได้ขอให้ข้าพเจ้าชี้แจงว่า เหตุใดการจึงได้เป็นดังนี้ไปได้ เพราะเมื่อพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้ส่งสิ่งของมาถวายพระเจ้ากรุงสยามแล้ว พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสจะมีรับสั่งให้เอาของเหล่านั้นกลับไปประเทศฝรั่งเศสอย่างไรได้

ในเวลาที่มองซิเออร์คอนซตันซ์พูดอยู่นั้น ก็ได้ถือหนังสือคำสั่งที่เราได้มอบไว้กับบาดหลวงตาชาอยู่ในมือ และในหนังสือนั้นก็มีกล่าวถึง ลูกแตก ปืนใหญ่ และทหารปืนใหญ่จริง ๆ ด้วย และมองซิเออร์คอนซตันซ์ก็จะถือเอาความในหนังสือฉะบับนี้เปนหลักต่อ ไป แต่หนังสือฉะบับนี้แต่เดิม ๆ มาก็ไม่มีใครพูดถึงเลย พึ่งจะมาโผล่ในคราวนี้เอง และเป็นหนังสือที่บาดหลวงตาชาได้บอกกับเราว่ามองซิเออร์คอนซตันซ์ไม่ยอมรับ ข้าพเจ้าได้นึกปลาดใจเป็นอันมาก ที่บาดหลวงตาชามิได้พูดความจริงกับเราเช่นนี้ และในชั้นต้นบาดหลวงตาชาก็มิได้ส่งหนังสือฉะบับนี้ให้แก่มองซิเออร์คอนซตันซ์ ต่อมีเหตุซึ่งจะทำการให้ขัดต่อราชการของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้ บาดหลวงตาชาจึงได้ส่งหนังสือให้มองซิเออร์คอนซตันซ์ยึดถือไว้เป็นหลัก

ถึงการจะเป็นอย่างไรก็ตาม ข้าพเจ้าก็ได้ตกลงในใจว่าจะได้ชี้แจงให้มองซิเออร์คอนซตันซ์เข้าใจเหตุการณ์ทั้งปวง ดังข้าพเจ้ากับมองซิเออร์เดอลาลูแบได้ทำความตกลงกันไว้แล้ว ข้าพเจ้าจึงอธิบายแก่มองซิเออร์คอนซตันซ์ว่า กองทหารของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสก็ดี ปืนใหญ่ก็ดี ลูกแตกก็ดี กองทหารปืนใหญ่ก็ดี และสิ่งของต่าง ๆ ที่มีบรรยายอยู่ในหนังสือฉะบับนั้นก็ดี เป็นสิ่งของที่พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้ส่งมาถวายพระเจ้ากรุงสยาม สำหรับให้ช่วยพระเจ้ากรุงสยามปราบและสู้รบกับข้าศึก แต่สิ่งของเหล่านี้จะต้องจำแนกแยกว่า สิ่งใดที่พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้ส่งมาสำหรับประจำอยู่ในเมืองไทย และสิ่งใดที่พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้ส่งมาไว้ชั่วคราว และซึ่งมีคำสั่งไว้ให้พากลับไปประเทศฝรั่งเศส ก็เมื่อได้แยกของต่าง ๆ เป็น ๒ ประเภทแล้ว เรือรบของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสอย่าง ๑ ลูกแตกอย่าง ๑ ปืนใหญ่อย่าง ๑ กองทหารปืนใหญ่อย่าง ๑ เป็นของที่ตกอยู่ในประเภทที่ ๒ คือเป็นสิ่งของที่พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้ส่งมาชั่วคราว และจะต้องพากลับไปยังประเทศฝรั่งเศส กองทหารปืนใหญ่นั้นเล่าก็อยู่ในงบทหารเรือ จึงเป็นส่วน ๑ ของกองทหารและกะลาสีที่ประจำอยู่ในเรือรบ และส่วนลูกแตกกับปืนใหญ่นั้น ก็เป็นส่วน ๑ ของอาวุธและเครื่องใช้สำหรับประจำเรือรบ เพราะฉะนั้นถ้าจะถือว่ากองทหารปืนใหญ่ ลูกแตกและปืนใหญ่ เป็นสิ่งที่จะต้องเอาไว้เมืองไทยแล้ว ก็จะต้องเอาเรือรบของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสไว้ในเมืองไทยเสียด้วยจึงจะได้ เพราะผู้บังคับการกองทัพเรือก็ได้รับคำสั่ง ให้มาช่วยพระเจ้ากรุงสยามต่อสู้กับศัตรูเท่านั้น พระราชดำริของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสในเรื่องนี้ก็มีว่า ให้มองซิเออร์เดฟาชและกองทหารฝรั่งเศสประจำอยู่ในเมืองไทยต่อไป แต่เรือรบพร้อมด้วยลูกแตก ปืนใหญ่ และทหารปืนใหญ่นั้น ให้กลับไปยังประเทศฝรั่งเศสให้ทันฤดู

เมื่อข้าพเจ้าได้ชี้แจงแก่มองซิเออร์คอนซตันซ์ตามที่มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ถามดังนี้แล้ว มองซิเออร์คอนซตันซ์จึงหันไปพูดกับนายทหารฝรั่งเศสซึ่งอยู่ในที่นั้นพร้อมด้วยมองซิเออร์เดฟาช และมองซิเออร์เดอลาซาล และได้ถามว่า ท่านเหล่านี้ได้รับคำสั่งมาจากพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส ให้มาปฏิบัติการตามคำสั่งของพระเจ้ากรุงสยามหรือไม่

แต่คำถามของมองซิเออร์คอนซตันซ์นี้ ได้ถามลอย ๆ มิได้ถามใครโดยฉะเพาะ แต่ก็ดูเหมือนจะถามมองซิเออร์เดอลาซาล เพราะท่านผู้นี้อยู่ใกล้กับมองซิเออร์คอนซตันซ์มากกว่าผู้อื่น แต่เมื่อมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ถามลอย ๆ เช่นนี้ ก็ไม่มีใครตอบจนคนเดียว มองซิเออร์คอนซตันซ์ก็โกรธหนัก เพราะไม่มีใครตอบ จึงได้หันไปถามมองซิเออร์เดอลาซาลว่า “ก็ท่านล่ะ ได้รับคำสั่งให้ปฏิบัติตามคำสั่งของพระเจ้ากรุงสยามหรือไม่”

มองซิเออร์เดอลาซาลก็อึกอักไม่รู้จะตอบว่ากะไร มองซิเออร์คอนซตันซ์ก็ยิ่งโกรธหนักขึ้น มองซิเออร์เดอลาซาลจึงได้ตอบว่า ถ้าพระเจ้ากรุงสยามได้มีรับสั่งให้ทำราชการของพระองค์อย่างใดแล้ว มองซิเออร์เดอลาซาลก็จะต้องทำตามรับสั่ง

ข้าพเจ้าเห็นว่าถ้าขืนปล่อยให้พูดกันไป ก็จะเกิดเป็นปากเสียงกันขึ้น ข้าพเจ้าจึงได้พูดกับมองซิเออร์คอนซตันซ์ว่า “มองซิเออร์เดฟาชได้รับคำสั่งมาให้ปฏิบัติการทั้งปวงตามรับสั่งของพระเจ้ากรุงสยามแล้ว เพราะฉะนั้นมองซิเออร์เดฟาชจะได้ทำการตามรับสั่งของพระเจ้ากรุงสยามทุกอย่าง แต่ธรรมเนียมในประเทศฝรั่งเศสนั้น นายทหารผู้น้อยจะรับคำสั่งตรงจากพระเจาแผ่นดินไม่ได้ แต่จะต้องรับคำสั่งจากหัวหน้าหรือนายกองของตัว ยกตัวอย่างเช่นพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสจะสั่งการไปในสนามรบก็ดี หรือจะสั่งการไปยังกองทัพก็ดี ก็ต้องมีรับสั่งไปยังแม่ทัพหรือผู้ที่เป็นหัวหน้าอยู่ในที่นั้น แม่ทัพหรือผู้เป็นหัวหน้าจึงสั่งนายทหารซึ่งอยู่ในบังคับบัญชาตัวอีกต่อไป เพราะฉะนั้นในที่นี้ถ้าพระเจ้ากรุงสยามจะทรงมีรับสั่งให้ทำประการใด ก็จะต้องรับสั่งแก่มองซิเออร์เดฟาชและมองซิเออร์เดฟาชจะต้องเป็นหน้าที่จัดการให้เป็นไปตามรับสั่งต่อไป”

มองซิเออร์คอนซตันซ์จึงได้ถามข้าพเจ้าว่า ที่ประเทศฝรั่งเศสเสนาบดีไม่เคยสั่งการในนามของตัวเองในสิ่งที่เป็นราชการของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส ต่อนายทหารบ้างเลยหรืออย่างไร

ข้าพเจ้าจึงได้ตอบว่า เสนาบดีฝรั่งเศสมีอำนาจปกครองบังคับบัญชานายทหารและเจ้าพนักงานของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสก็จริงอยู่ แต่ถึงดังนั้น เสนาบดีฝรั่งเศสไม่เคยออกคำสั่งโดยลำพังของตัวเองเลย แต่คำสั่งเรื่องใดที่เสนาบดีสั่งไปนั้น ก็ต้องเป็นคำสั่งในพระนามของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสทุกเรื่อง และเมื่อจะมีคำสั่งไปอย่างใดแล้ว เสนาบดีฝรั่งเศสก็มิได้สั่งแก่ผู้น้อย แต่ต้องสั่งไปยังหัวหน้าซึ่งประจำอยู่ที่ตำบลนั้น ๆ

ที่ข้าพเจ้าได้ตอบมองซิเออร์คอนซตันซ์ดังนี้ ก็เพื่อจะให้หมดกระหายที่อยากสั่งการต่าง ๆ ตรงต่อนายทหารที่ประจำกองอยู่โดยไม่ให้หัวหน้าของกองทราบเลย อันเป็นวิธีที่ผิดด้วยระเบียบราชการของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส และผิดด้วยพระราชดำริของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสด้วย

มองซิเออร์คอนซตันซ์จึงตอบด้วยความขัดเคืองว่า ไม่ต้องการพวกฝรั่งเศสในเมืองไทยที่จะไม่ยอมทำตามคำสั่งของตัว และที่พูดเช่นนี้มองซิเออร์คอนซตันซ์ก็หันหน้าไปพูดกับนายทหารฝรั่งเศส ซึ่งเป็นเวลาเหมาะที่ข้าพเจ้ากำลังพูดอยู่กับบาดหลวงตาชา ข้าพเจ้าจึงแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินเสีย มิฉะนั้นข้าพเจ้าก็จำเป็นจะต้องตอบมองซิเออร์คอนซตันซ์อย่างแรง ซึ่งจะไม่เป็นการทำให้ความสามัคคีดีขึ้นได้เลย

ข้าพเจ้าได้พาบาดหลวงตาชาออกไปห่างจากมองซิเออร์คอนซตันซ์ และได้ชี้แจงให้บาดหลวงตาชาเข้าใจว่า ที่มองซิเออร์คอนซตันซ์พูดเช่นนี้ไม่ถูกเลย แล้วข้าพเจ้าจึงได้หาโอกาสเลี่ยงกลับไปเสียโดยมิได้ล่ำลามองซิเออร์คอนซตันซ์

ครั้นเวลาเย็นข้าพเจ้าได้พบมองซิเออร์คอนซตันซ์อีก จึงได้พูดกับมองซิเออร์คอนซตันซ์สองต่อสองว่า การที่มองซิเออร์คอนซตันซ์คิดเช่นนี้ไม่เป็นการถูกต้องอย่างใดเลย ในเวลานั้นดูมองซิเออร์คอนซตันซ์ค่อยสงบโทษะลงบ้างแล้ว จึงได้แก้ตัวว่าเรื่องปืนใหญ่กับลูกแตกนั้น มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้กราบทูลพระเจ้ากรุงสยามไว้แล้วว่า จะเอาไปถวายให้ทอดพระเนตร์ เมื่อทอดพระเนตร์เสร็จแล้ว มองซิเออร์คอนซตันซ์ก็จะจัดส่งปืนใหญ่กับลูกแตกไปไว้ที่เรืออย่างเดิม

ข้าพเจ้าก็หาได้โต้ตอบมองซิเออร์คอนซตันซ์ประการใดไม่ เพราะข้าพเจ้าทราบอยู่ว่ามองซิเออร์เดฟาชได้ให้คนไปเอาปืนใหญ่และลูกแตกมาแล้ว เพราะฉะนั้นถ้าข้าพเจ้าจะขืนพูดไป ก็จะเป็นเรื่องขัดใจกันเปล่า ๆ

ในวันนี้เองข้าพเจ้าได้หาโอกาสพูดกับมองซิเออร์คอนซตันซ์ ขอให้จัดการให้เราได้เฝ้าเพื่อทูลลาพระเจ้ากรุงสยามกลับไปประเทศฝรั่งเศส มองซิเออร์คอนซตันซ์จึงได้ตอบว่าจะต้องกราบทูลเสียก่อน

รุ่งขึ้นมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้บอกกับข้าพเจ้าว่า พระเจ้ากรุงสยามจะได้โปรดให้เราเฝ้าทูลลาในวันที่ ๑๐ ธันวาคม

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ