องก์ที่ ๓
ฉาก: สวนในบ้านหลวงวรเวสวิสิฐ ด้านหลังมีเฃามีถ้ำและมีน้ำตก มีลำธาร ทำอยู่ฃ้างจะเปนที่น่าสบาย มีต้นไม้ใหญ่ครึ้ม ใต้ต้นไม้ใหญ่มีเก้าอี้สวน และโต๊ะตั้งเปนที่ชมน้ำพุ.
เมื่อเปิดม่าน นายบุญโรจน์กำลังตั้งกล้องถ่ายรูป จะถ่ายเฃา หัวอยู่ในโปงผ้าคลุมกล้อง น้อยอินทเสนเดิรเฃ้ามาจากทางซ้าย.
อินทเสน.
โรจน์ นั่นถ่ายอะไร?
บุญโรจน์.
(โผล่ออกมาจากโปง.) เจ้าระวังตัวให้ดีเถอะ เรียกผมโรจน์เปล่า ๆ จนติดปาก ไปเรียกต่อหน้าคุณแม่เฃ้าสักทีละก็เถอะ ได้เกิดเหตุใหญ่เทียว.
อินทเสน.
คุณแม่จะกระหนาบฉันใหญ่เทียวหรือ?
บุญโรจน์.
แน่ละครับ
อินทเสน.
ฉันก็มาอาศัยอยู่ในบ้านนี้เปนนานแล้ว ยังใม่เคยเห็นคุณมลิโกรธสักทีเดียว.
บุญโรจน์.
อ๋อใม่ประหลาดอะไร คุณแม่ทำดีต่อเจ้าไว้เพราะเจ้ายังเปนคนอื่นอยู่ แต่นี่เจ้าจะมาเกี่ยวดองกะท่านแล้ว ท่านใม่ต้องเกรงใจเจ้าอีกละ.
อินทเสน.
อ้อ ! ทำใมแกถึงรู้?
บุญโรจน์.
เดี๋ยวผมเล่าให้ฟัง ขอให้ผมถ่ายรูปแผ่นนี้เสียให้สำเร็จก่อนหน่อยเถอะ. (เอาผ้าคลุมหัวมองในกล้องอีก.)
อินทเสน.
จะถ่ายไปทำใม?
บุญโรจน์.
(พูดในโปง.) ถ่ายไปแข่งเอารางวัล เออนี่แน่ะเจ้า วานไปยืนที่เฃาหน่อยได้ไหม ถ่ายรูปมีคน ดูเฃ้าทีขึ้น.
อินทเสน.
ได้ซิ ! (ไปยืนที่เฃา.) เอาหรือยัง?
บุญโรจน์.
กระเถิบไปฃ้างขวาอีกนิด– ใม่ใช่ไปฃ้างซ้ายมือของเจ้าเองน่ะ– อีกนิด.
อินทเสน.
อีกนิดก็เปียกน่ะซิ.
บุญโรจน์.
ยังงั้นทำยังไงตัวเจ้าถึงจะติดในกล้องหมดล่ะ.
อินทเสน.
ก็นี่ใม่หมดหรือ?
บุญโรจน์.
แขนยังฃาดฃ้างหนึ่ง.
อินทเสน.
หันหน้ากล้องไปทางซ้ายมือแกเสียหน่อยใม่ได้หรือ?
บุญโรจน์.
(ลองหันกล้องแล้วพูด.) เห็นตัวเจ้าเต็มแล้ว แต่น้ำพุมันแหว่งไป.
อินทเสน.
ยังงั้น ลองขยับตัวกล้องไปฃ้างซ้ายสักนิดซิ. (บุญโรจน์ขยับและเล็งใหม่.) เปนยังไง ดีหรือยัง?
บุญโรจน์.
ดีแล้วครับ! (ออกมาจากโปงปิดหน้ากล้อง.) นี่ถ้าได้พี่มาไลยมายืนด้วยอีกคน จะยิ่งดีกว่านี่อีกนะครับ ยังไง?
อินทเสน.
แน่ละซิ แต่ฉันใม่แลเห็นหนทางที่จะเปนไปได้เลย.
บุญโรจน์.
เจ้าใม่ต้องวิตก ! (ก้มลงไปหยิบกระจกพลางพูดพลาง.) ดูท่าทางชอบกลนักนะครับ (เสือกกระจกเฃ้าไปหลังกล้อง.) เจ้ามีหนังสือถึงคุณพ่อเมื่อตะกี้นี้. ผมก็รู้. (ไปดูจัดที่หน้ากล้องสำหรับเปิด.)
อินทเสน.
แล้วคุณหลวงว่ากระไร?
บุญโรจน์.
ผมได้ยินคุณพ่อพูดว่า–เจ้ายืนนิ่ง ๆ นะ
อินทเสน.
อะไรพูดว่า “ยืนนิ่ง ๆ นะ” ทำใม?
บุญโรจน์.
เปล่านั้นผมพูดเอง. (ชักฉากบังกระจก.)
อินทเสน.
ยังงั้นคุณหลวงว่ากระไรล่ะ?
บุญโรจน์.
ประเดี๋ยวครับ ถ่ายรูปเสียก่อนถึงค่อยเล่า นิ่ง ๆ นะครับ (เปิดกล้อง.) อ้าวไหวเสียแล้ว ขออีกแผ่นเถอะครับ (ปิดฉากกลับกระจกแล้วไปจัดกล้อง.) เจ้ายิ้มหน่อยละดีละ นึกถึงพี่มาไลยซิครับ !
อินทเสน.
เออ! แกนี่ช่างล่อดีจริงนะ ควรจะเลยเปนช่างถ่ายรูปเสียทีเดียว.
บุญโรจน์.
คุณแม่จะได้ลมจับตายปะไรล่ะครับ แหม! ลูกคุณแม่จะไปหากินเปนช่างถ่ายรูปน่ะแลใม่เห็นเลย (ชักฉากบังกระจก.) เอาละครับนิ่ง ! (เปิดกล้อง.) เห็นจะได้การละครับ (ปิดฉากกระจก.) ขอบใจมากครับ.
อินทเสน.
ยังไงล่ะ จะเล่าอะไรให้ฟัง.
บุญโรจน์.
เมื่อตะกี้นี้นะครับ พอคุณพ่อรับหนังสือของเจ้าก็เอาไปให้คุณแม่ดู ผมกำลังจะถ่ายรูปคุณแม่อยู่ทีเดียว พอเปิดกล้องคุณพ่อก็วิ่งตัง ๆ เฃ้าไปชูหนังสือแล้วร้องว่า “แม่มลิ! แม่มลิ! ฉันว่าแล้ว! ฉันว่าแล้ว” ทำเอาคุณแม่สดุ้งเหยงรูปเสียหมด ผมเคืองพิลึก!
อินทเสน.
เออ ๆ แล้วยังไงอีกล่ะ?
บุญโรจน์.
พอคุณพ่อบอกคุณแม่ว่าเจ้ามีหนังสือไป เปนเรื่องสำคัญ ผมก็หายเคืองเทียว เพราะผมเดาถูกว่าเรื่องอะไร ผมก็เอียงหูคอยฟังว่าจะพูดกันว่ากระไร.
อินทเสน.
ทำใมแกถึงเดาถูกล่ะ?
บุญโรจน์.
พุทโธ่! ตาผมบอดเมื่อไหร่ล่ะ ผมได้เคยเห็นเจ้ากับพี่มาไลย มาพบพูดกันที่นี่เปนหลายหนมาแล้วนี่น่ะ, แต่เจ้าใม่ต้องวิตก พอผมเห็นผมก็เลยเดิรเลี่ยงไปเสียทางอื่น นึกจะถ่ายรูปกำลังพูดกันไว้สักรูปหนึ่งแล้ว แต่กลัวจะหาที่ล้างใม่ได้, ก็เลยต้องเลิกไป นึก ๆ ขึ้นมาก็ออกเสียดาย.
อินทเสน.
ทำใมจะหาที่ล้างใม่ได้ ห้องมืดก็มีใม่ใช่หรือ?
บุญโรจน์.
มีครับ แต่ผมใช้อยู่ด้วยกันกับพี่มาไลย.
อินทเสน.
อ้อเฃ้าใจแล้ว ! แต่นี่แน่ะ พูดกันถึงอีเรื่องนั้นอีกเถอะ แล้วคุณพ่อคุณแม่เมื่ออ่านหนังสือฉันแล้วว่ากระไร?
บุญโรจน์.
แหม! ปลื้มพิลึกครับ พอใจมาก ดูเปนตกลงแน่ เชื่อผมเถอะ, นี่อีกประเดี๋ยวก็คงไปหาเจ้า.
อินทเสน.
อ้อ! ยังงั้นใม่รังเกียจฉันดอกหรือ?
บุญโรจน์.
ตรงกันฃ้ามเทียวครับ อยากได้เจ้าเปนลูกเขยมานานแล้ว เมื่อผมลงมานี่กำลังปรึกษาการกันกลุ้มอยู่แล้ว ว่าจะทำยังไงมั่ง.
อินทเสน.
ก็ตัวแกเองล่ะ แกจะเต็มใจยกพี่สาวให้ฉันไหม?
บุญโรจน์.
ผมเต็มใจเทียวครับ ให้ตายซิ! แต่ผมรำคาญหน่อยเดียวที่พี่มาไลยจะไปอยู่เสียออกลึกลับถึงเชียงราย.
อินทเสน.
ฉันก็นึกอยู่ว่าจะไป ๆ มา ๆ แกคงได้พบกะพี่แกอยู่บ่อย ๆ หรือแกจะขึ้นไปเยี่ยมพี่เฃาที่เชียงรายบ้างก็ได้ ฉันรับประกันเทียวว่าแกคงสนุก.
บุญโรจน์.
มีนกยิงแยะหรือครับ?
อินทเสน.
แหม ! ยิงเสียบ่าบวมละแก ลูกปนแกหมดก่อนนกของฉัน.
บุญโรจน์.
ถ้ายังงั้นผมยินดียกพี่มาไลยให้เจ้าทีเดียว.
อินทเสน.
ขอบใจ ขอบใจมากเทียว! (จับมือ.)
บุญโรจน์.
นี่เจ้าจะคอยพบพี่มาไลยที่นี่ยังงั้นหรือ?
อินทเสน.
ถ้าหล่อนลงมาฉันก็คงได้พบเฃา.
บุญโรจน์.
(เก็บกล้อง.) ถ้ายังงั้นผมไปละนะ อยู่ก็จะขัดฅอ จริงไหม? (ดูไปฃ้างขวา.) อ้าว! นั่นแน่ะ คุณพี่มาแล้วละ ผมเปิดละ. (แบกกล้องและหิ้วกระเปากระจกออกไปทางซ้าย.)
(มาไลยเฃ้ามาจากทางขวา ทำเดิรเรื่อย ๆ เฉย ๆ อายุประมาณมาไลยประมาณ ๑๘ แต่งตัวอย่างอยู่กับบ้าน แต่งามดี.)
มาไลย.
อ้อ ! เจ้าอยู่นี่เองหรือ?
อินทเสน.
ฉันมายืนให้บุญโรจน์เฃาถ่ายรูปหน่อยหนึ่ง หล่อนจะไปไหน?
มาไลย.
ดิฉันหมายจะมานั่งเล่นเย็น ๆ ดูน้ำพุ
อินทเสน.
นั่งนี่ซิจ๊ะ (ควักผ้าเช็ดหน้าออกมาปัดเก้าอี้ให้นั่ง มาไลยก็ไปนั่ง.) อ้อตามที่ฉันบอกหล่อนไว้เมื่อวานนี้ ว่าฉันจะมีหนังสือถึงคุณพ่อหล่อน ฉันได้มีไปแล้ว.
มาไลย.
(ก้มหน้า.) อ้อ.
อินทเสน.
ฉันได้ข่าวว่าคุณพ่อคุณแม่ของหล่อนดูเหมือนจะตกลงยกหล่อนให้กะฉัน หล่อนจะว่ายังไง? (มาไลยก้มหน้าแต่ยิ้ม ๆ อยู่.) ยังไงจ๊ะ?
มาไลย.
บุญโรจน์รู้แล้วหรือยัง? จะว่ายังไงมั่งก็ใม่รู้!
อินทเสน.
บุญโรจน์น่ะเฃาได้ยินดียกหล่อนให้กะฉันแล้ว แต่แรกยังออกเสียดายนิด ๆ แต่ฉันบอกว่าฉันจะเชิญไปยิงนกที่เชียงรายก็ตกลงยกหล่อนให้ทันทีเทียว.
มาไลย.
อ้อ! นี่ฉันแลกกะนกยังงั้นหรือ? (ยิ้ม.)
/*80อินทเสน.
ก็เห็นจะยังงั้นกระมัง ก็ทั้งพ่อแม่น้องชายก็จะยอมยกหล่อนให้กะฉันแล้ว ยังแต่ตัวหล่อนเองเท่านั้น ยังใม่ได้บอกฉันเลยว่าจะยกตัวหล่อนให้กะฉันหรือใม่ (มาไลยก้มหน้า.) ยังไงจ๊ะ โธ่จะบอกสักคำใม่ได้หรือ?
มาไลย.
ก็รู้อยู่แล้วจะต้องให้บอกทำใมอีกก็ใม่รู้ละ.
อินทเสน.
ยังไง ๆ หล่อนก็จะใม่กลับใจละหรือ?
มาไลย.
ถ้าใม่มีเหตุก็ใม่กลับ.
อินทเสน.
มีเหตุยังไงถึงจะกลับใจ?
มาไลย.
เหตุอะไรสำคัญ ๆ มาก ๆ.
อินทเสน.
ถ้าแม้มีใครมาบอกกะหล่อนว่า ฉันน่ะใม่ใช่เปนคนที่หล่อนนึกเช่นนี้เปนต้น หล่อนจะว่ากระไร?
มาไลย.
อย่าพูดเปนเล่นไปน่ะ.
อินทเสน.
จริง ๆ นะจ๊ะ ถ้าแม้มีผู้มาบอกหล่อนว่าฉันน่ะใม่ใช่ราชบุตรเชียงรายจริง ๆ เปนแต่คนปลอมมายังงี้ หล่อนจะว่ากระไร?
มาไลย.
ใครจะพูดยังงั้น.
อินทเสน.
เอาเถอะ ถ้าเผื่อมี หล่อนจะว่ายังไง?
มาไลย.
ฉันก็คงว่าใม่จริง.
อินทเสน.
ถ้าเผื่อเฃามีพยิงพยานแน่นอนจะว่ายังไง?
มาไลย.
ก็จะไปว่ายังไงได้นอกจากนิ่งเสียเท่านั้น.
อินทเสน.
ใจหล่อนจะใม่เปลี่ยนแปลงเลยหรือ?
มาไลย.
นี่เจ้านึกว่าฉันเปนคนยังไง.
อินทเสน.
ถ้ายังงั้น แปลว่าหล่อนคงจะใม่กลับใจเลยหรือจ๊ะ?
มาไลย.
ต่อให้บอกว่า เธอเปนลูกขี้ฃ้าฉันก็ใม่กลับใจ.
อินทเสน.
ฉันเชื่อหล่อน ขอโทษที่ฉันได้มีความสงสัยใจหล่อน (เฃ้าไปท้าวหลังเก้าอี้ก้มลงไปพูด.) ถ้าเมื่อฉันได้ทราบน้ำใจหล่อนเช่นนี้แล้วฉันน่ะใม่ตั้งใจรักษาน้ำใจหล่อนจนตราบเท่าวันตาย ฉันก็ใม่ใช่คนละ.
(หลวงราชภัตติ์จารัญออกมาจากถ้ำ เห็นอินทเสนก้มพูดกับมาไลยยืนดูอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็เดิรออกมา.)
หลวงราชภัตติ์.
เจ้าราชบุตร
อินทเสน.
(เหลียวไป.) อ้อคุณหลวง ! ธุระอะไรครับ?
หลวงราชภัตติ์.
คุณหลวงวรเวสอยากพบ.
อินทเสน.
(แลดูตามาไลยแล้วจึ่งพูด.) อยู่ที่ไหนครับ?
หลวงราชภัตติ์.
ที่ห้องรับแขกที่ตึกเล็ก.
อินทเสน.
ผมไปเดี๋ยวนี้ครับ! (ออกไปทางซ้าย.)
หลวงราชภัตติ์.
แม่มาไลย
มาไลย.
ทำใมคะ?
หลวงราชภัตติ์.
ดูเหมือนหล่อนสนทนาอยู่กับเจ้าราชบุตรเชียงรายใม่ใช่หรือ?
มาไลย.
ดูเหมือนยังงั้น
หลวงราชภัตติ์.
แล้วดูเหมือนเฃาท้าวหลังเก้าอี้หล่อน แล้วก้มลงไปพูดใม่ใช่หรือ?
มาไลย.
ดูเหมือนเธอจะได้ทำเช่นนั้น.
หลวงราชภัตติ์.
ทำใมหล่อนยอมให้เฃาทำเช่นนั้น?
มาไลย.
ก็ใม่ทราบ.
หลวงราชภัตติ์.
ฉันอยากรู้ว่าเหตุไรหล่อนถึงได้ยอมให้เจ้าราชบุตรตั้งท่าเปนเจ้าเฃ้าเจ้าของหล่อนเช่นนั้น.
มาไลย.
ข้อนั้นดิฉันบอกใม่ได้ แต่ถ้าถามว่าเหตุไร ดิฉันถึงได้ยอมให้คุณหลวงมาตั้งกระทู้ถามดิฉันเช่นนี้ ดิฉันจะตอบได้
หลวงราชภัตติ์.
(ดีใจ.) เหตุไรจ๊ะ บอกฉันให้ฉันชื่นใจหน่อยเถอะ.
มาไลย.
เพราะดิฉันเปนเจ้าของบ้าน จะไล่คุณหลวงเสียก็จะเปนคนกิริยาชั่วเต็มที.
หลวงราชภัตติ์.
พุทโธ่! ในว่าหล่อนจะมีแก่ใจไล่ฉันเสียทีเดียวหรือ?
มาไลย.
ดิฉันใม่ได้บอกเลยว่าจะไล่คุณ!
หลวงราชภัตติ์.
ที่ใม่ไล่ก็เพราะกิริยาดีเกินไปที่จะขับไล่ฉันจากบ้านหล่อนยังงั้นหรือจ๊ะ?
มาไลย.
แน่ทีเดียว!
หลวงราชภัตติ์.
นี่ถ้าเปนบ้านคนอื่นหล่อนจะไล่ฉันหรือ?
มาไลย.
ใม่ไล่
หลวงราชภัตติ์.
อ้อถ้ายังงั้นหล่อนก็ยังมีความเมตตาต่อฉันอยู่หรือจ๊ะ? (เดิรเฃ้าไปทางมาไลย.)
มาไลย.
อย่าเฃ้าใจผิด ดิฉันจะใม่ไล่คุณเพราะจะไล่ใม่ได้ต่างหาก ถ้าแม้เราอยู่ในบ้านคนอื่นเฃาแล้ว ดิฉันจะไปมีอำนาจขับไล่อะไรใครได้.
หลวงราชภัตติ์.
พุทโธ่ ! หล่อนใม่ได้สังเกตหรือว่าฉันน่ะมีความรักในตัวหล่อนเพียงไร ฉันน่ะรักหล่อนเสียเหลือเกิน จนชั้นเห็นแมลงวันตัวเดียวเกาะที่แก้มหล่อน ฉันยังหึงอ้ายแมลงวันนั่นเลย ก็นี่ได้มาเห็นเจ้าราชบุตรมาทำท่าเปนเจ้าเฃ้าเจ้าของหล่อนอยู่เช่นนั้น จะใม่ให้ฉันเคืองยังไง.
มาไลย.
(ลุกขึ้น.) ถ้าคุณจะพูดยังงี้ดิฉันจะต้องลาคุณละ.
หลวงราชภัตติ์.
โธ่! อย่าเพ่อไปเลยหล่อน ขอให้ฟังฉันสักทีเถอะ ฉันมีความรักหล่อนจริงจริ๊งทีเดียว.
มาไลย.
ดิฉันใม่ขอฟังคุณพูดเช่นนี้ เปนการใม่สมควรอย่างยิ่ง ถ้าเมื่อคุณรักดิฉันจริง ๆ ทำใมคุณใม่ไปจัดการสู่ขอต่อคุณพ่อตามธรรมเนียม จะพูดเกี้ยวดิฉันยังงี้ใม่สมควรอย่างยิ่ง.
หลวงราชภัตติ์.
ฉันก็ได้ให้คุณพระสมานมาทาบทามแล้วก็ใม่เห็นทางสมประสงค์ ฉันจึ่งได้หาโอกาสมาพูดตรงกับตัวหล่อนเอง.
มาไลย.
ขอรับประทานโทษ ดิฉันจะฟังใม่ได้เปนอันฃาด! (หันหน้าจะเดิรไป.)
หลวงราชภัตติ์.
เดี๋ยวหล่อน เดี๋ยวเถอะ หล่อนฟังฉันหน่อยเถอะ การที่หล่อนใม่ยอมฟังฉันนี่ก็เปนการถูกต้องแล้ว เห็นได้ว่าหล่อนอยู่ในถ้อยคำบิดามารดาของหล่อน แต่บิดามารดาใม่ควรจะขัดใจลูกในการที่จะมีสามี ปลูกเรือนต้องตามใจผู้อยู่ถึงจะถูก เมื่อบิดามารดาใม่ตามใจหล่อน ๆ ควรจะต้องสำแดงความเปนอิศรแก่ตน.
มาไลย.
คุณใม่ต้องสั่งสอนดิฉันในเรื่องนี้.
หลวงราชภัตติ์.
ถ้าหล่อนคิดอยู่เช่นนั้นแล้วก็ยิ่งดี นี่ถึงเวลาอันควรแล้วที่หล่อนจะสำแดงอิศรภาพของหล่อนให้ปรากฎ ถึงเวลาแล้วว่าบิดามารดาจะบังคับได้แต่ในทางที่ถูก จะใช้อำนาจกดขี่ตามอำเภอน้ำใจใม่ได้เปนอันฃาด.
มาไลย.
จะให้ฉันสำแดงอิศรภาพยังไง?
หลวงราชภัตติ์.
ทำใมจะต้องให้ฉันอธิบายอีกหรือ?
มาไลย.
ก็ดิฉันเห็นว่าทางที่จะสำแดงอิศรภาพมันมีอยู่หลายทางนี่คะ.
หลวงราชภัตติ์.
ก็จริง แต่หล่อนควรจะเลือกทางดีที่สุด.
มาไลย.
อะไรเปนทางที่ดีที่สุด.
หลวงราชภัตติ์.
ทางดีที่สุดก็คือสำแดงให้ปรากฎ ว่าในส่วนเรื่องที่จะมีสามีนั้นหล่อนจะมีแต่เฉภาะที่หล่อนมีความรักจริง ๆ และใม่ยอมให้บิดามารดาจับหล่อนไปเยียดยัดให้กะใคร ๆ ตามความพอใจของเฃา จริงไหมจ๊ะ?
มาไลย.
จริง.
หลวงราชภัตติ์.
เออยังงั้นซิแม่คุณ แต่ถ้าเราจะพากันไปเสียเฉย ๆ ก็จะมีผู้ติฉินนินทาได้ เพราะฉนั้นเราควรจะพากันไปหาคุณพ่อหล่อนเสียก่อน บอกกล่าวให้เฃ้าใจเสีย ว่าถ้าใม่ยอมยกหล่อนให้กะฉันละก็จะได้ความเดือดร้อนใจ ยังไงจ๊ะ?
มาไลย.
ดิฉันใม่เห็นด้วย.
หลวงราชภัตติ์.
อะไรหล่อนจะไปเสียเฉย ๆ ใม่ให้โอกาสพ่อแม่บ้างเลยเทียวหรือจ๊ะ?
มาไลย.
ใครบอกว่าดิฉันจะไปกะคุณ.
หลวงราชภัตติ์.
อ้าว ! นี่จะใม่ไปกะฉันดอกหรือ?
มาไลย.
ก็ใม่ไปน่ะซิ !
หลวงราชภัตติ์.
พุทโธ่ ๆ ทำใมล่ะ.
มาไลย.
คุณก็ย่อมทราบอยู่แล้ว ว่าผู้หญิงที่ตามผู้ชายไปน่ะ มันใม่ได้รับผลดีอย่างใดเลยสักอย่างเดียว, ฃายหน้าเฃาก็เหลือเกิน แล้วอีกประการหนึ่งการที่ตามเฃาไปเช่นนั้น ทำให้ราคาตัวเองถูกลงไปปานใด, ผู้ชายที่ได้เมียเช่นนั้น เฃาใม่รู้สึกว่าเฃาต้องถนอมน้ำใจอย่างหนึ่งอย่างใดเลย พอเฃาเบื่อเฃ้าเมื่อไหร่เฃาก็ทิ้งเสียได้ง่ายๆ ใม่ต้องนึกเกรงอกเกรงใจใคร. เมื่อดิฉันรู้อยู่ดีเช่นนี้แล้ว ก็เปนธรรมดาที่ดิฉันคงจะใม่ตามผู้ชายใดไป นอกจากที่ดิฉันมีความรักเฃา เสียอย่างมาก ๆ เต็มที.
หลวงราชภัตติ์.
ถ้ายังงั้นแปลว่าหล่อนใม่มีความรักฉันพอที่จะไปกับฉันได้ยังงั้นหรือ?
มาไลย.
(ก้มหน้า.) คุณหลวงจะนึกอย่างไรก็ตามใจ.
หลวงราชภัตติ์.
แต่หล่อนเปนอันใม่ยอมไปกะฉันยังงั้นหรือ?
มาไลย.
ขอโทษที ดิฉันไปใม่ได้.
หลวงราชภัตติ์.
หล่อนได้ตริตรองตลอดแล้วหรือจ๊ะ? แล้วอย่าให้ต้องเสียใจเมื่อภายหลังนะหล่อน.
มาไลย.
ดิฉันนึกตลอดแล้ว ไปกะคุณหลวงใม่ได้จริง ๆ ขออย่าให้คุณหลวงคิดอีกต่อไปเลย.
หลวงราชภัตติ์.
ถ้าหล่อนใม่ไปกะฉันละก็ต้องเฃ้าใจว่าฉันเปนต้องหมดความสุขในชีวิตนี้ ตัวฉันก็จะรู้สึกเหมือนกับต้องอยู่ในที่มืด.
มาไลย.
ก็ทำใมคุณหลวงใม่หาโคมไว้ใช้ล่ะคะ เฃาว่าโคมที่อู่บางกอกด๊อกมีเฃ้ามาใหม่มาก ลองซื้อมาใช้บ้างซิคะ !
หลวงราชภัตติ์.
โธ่! หล่อนอย่าพูดเปนเล่นไปหน่อยเลยแม่คุณเถอะ.
มาไลย.
ดิฉันไปกะคุณใม่ได้ คุณจะทำอะไรดิฉัน.
หลวงราชภัตติ์.
ฉันจะไปทำอะไรหล่อนได้ แต่เมื่อหล่อนใม่มีความเมตตาฉันแล้ว การที่ฉันอยู่ต่อไปในโลกนี้ก็ใม่มีประโยชน์อะไร
มาไลย.
ยังงั้นคุณจะไปไหน จะไปตากอากาสยุโรปหรือ?
หลวงราชภัตติ์.
ฉันจะไปตากอากาสอาแกตที่ไหน ฉันนึกว่าจะตายเสียทีเดียว.
มาไลย.
อะไรคะ? รอไว้ก่อนเถอะ คุณยังหนุ่มอยู่.
หลวงราชภัตติ์.
หนุ่มก็เหมือนแก่ หล่อนใม่รักฉันแล้วก็เท่าอายุฉันได้ร้อยปีแล้ว ฉันจะต้องกลั้นใจตายเสียละ.
มาไลย.
จะได้อัดใจแย่ปะไรล่ะ !
หลวงราชภัตติ์.
จริง เห็นจะลำบากนัก แล้วก็เห็นจะช้านักด้วย ปนเห็นจะดีกว่า (ควักปนในกระเปาออกมา.)
มาไลย.
โอ๊ย! อย่าคะ ขอที! (ลุกขึ้นไปยืนแอบต้นไม้.)
หลวงราชภัตติ์.
ทำใม
มาไลย.
นั่นปนเบรานิงใม่ใช่หรือ?
หลวงราชภัตติ์.
จ๊ะ เบรานิง ดีนัก! (แกว่งปนไปมา.)
มาไลย.
คุณหลวง! คุณหลวง! ระวังหน่อย มันจะลั่นมาโดนดิฉันเฃ้า ขึ้นชื่อว่าเบรานิงละดิฉันกลัวนัก มันใม่ค่อยจะลั่นออกไปทางที่ต้องการเลย.
หลวงราชภัตติ์.
อ้อ! นี่หล่อนวิตกอยู่แต่ว่ามันจะลั่นไปโดนหล่อนเฃ้ายังงั้นหรือ?
มาไลย.
ก็ยังงั้นน่ะซิ.
หลวงราชภัตติ์.
ถ้ายังงั้นหล่อนใม่ต้องวิตก ปนนี่มันใม่ได้ประจุไว้ดอก. (โยนปนลงบนโต๊ะ.)
มาไลย.
อ๋อ! ยังงั้นดอกหรือ ก็แล้วไปน่ะซิ! (กลับออกมานั่งตามเดิม.)
หลวงราชภัตติ์.
(ออกเสียใจ.) ฉันหมายว่าหล่อนร้องเอะอะ เพราะกลัวฉันจะยิงตัวฉัน.
มาไลย.
ดิฉันใม่ได้นึกกลัวเช่นนั้นเลย.
หลวงราชภัตติ์.
อ้อ! นี่หล่อนมิเกลียดฉันเสียเต็มทีหรือ จนจะตายก็ใม่ทุกข์.
มาไลย.
ใม่ใช่เช่นนั้น เปนแต่ดิฉันเชื่อว่าคุณคงใม่ยิงตัวคุณเปนแน่.
หลวงราชภัตติ์.
จริง ฉันใม่ยิงตัวฉันเอง ถ้าแม้ฉันยิงขึ้นก็จะดังปึงปังเอะอะไปเปล่า ๆ.
มาไลย.
ถูกทีเดียว
หลวงราชภัตติ์.
แต่หล่อนอย่าเฃ้าใจไปว่าฉันน่ะจะกลัวตายใม่ใช่เช่นนั้น เวลานี้หมดความเสียดายชีวิต, (เหลียวไปเหลียวมา.) เออนึกออกแล้ว.
มาไลย.
อะไรคะ?
หลวงราชภัตติ์.
ฉันจะโดดเฃาตายเสียละ! (เดิรไปทางเฃา.)
มาไลย.
จะโดดเฃานี้แหละหรือคะ?
หลวงราชภัตติ์.
เฃานี้แหละ ใม่ต้องเดิรไปหาที่ไหนอีกละ ทางขึ้นอยู่ทางไหน? (มองหาทางขึ้นเฃา.)
มาไลย.
ทางขึ้นใม่มีดอกค่ะ ถ้าจะขึ้นก็ต้องปีน.
หลวงราชภัตติ์.
ปีนก็ปีนกัน.
มาไลย.
ปีนขึ้นน่ะพอจะได้ แต่ลงเห็นจะยากนะคะมันลื่นอยู่.
หลวงราชภัตติ์.
ทางลงฉันจะต้องหาทำใม ก็ฉันจะโดดลงมานี่นะ !
มาไลย.
สูงนะคะ !
หลวงราชภัตติ์.
ยิ่งสูงยิ่งดี ! (เดิรตรวจท่าทางตลอดแล้ว เห็นเหมาะทางฃ้างซ้ายจึงค่อยปีนขึ้นไป จนถึงยอดเฃา แล้วแลลงมา ทำหน้าเหย.)
มาไลย.
(หันหลังพูด.) ถึงยอดหรือยังคะ?
หลวงราชภัตติ์.
ถึงแล้ว.
มาไลย.
เปนยังไง?
หลวงราชภัตติ์.
สูงพอใช้.
มาไลย.
(หันไปพูดแล้วหัวเราะ.) ดิฉันบอกแล้วว่าสูง ปีนลื่นไหมคะ?
หลวงราชภัตติ์.
ก็ลื่นอยู่ !
มาไลย.
ฃาลงจะยิ่งลื่นกว่านั้น.
หลวงราชภัตติ์.
ก็ฉันจะโดดลงไปต่างหากล่ะ!
มาไลย ถ้าจะโดดละก็โดดทางหญ้านี่เห็นจะยังชั่ว.
หลวงราชภัตติ์.
ฉันนึกว่าจะโดดตรงลำธารนี่แหละ!
มาไลย.
น้ำตื้นนิดเดียวนะคะ เจ็บกว่าที่หญ้าเปนแน่ละ.
หลวงราชภัตติ์.
ก็ฉันจะตายอยู่แล้วจะมามัวกลัวอะไรอยู่อีกละ !
มาไลย.
ยังงั้นก็ตามใจคุณซิ.
หลวงราชภัตติ์.
ฉันต้องลาหล่อนทีละนะ. (มาไลยแลดูไปเสียทางอื่น.) แม่มาไลย ฉันลาที! (แม่มาไลยนิ่ง.) นี่หล่อนอยากให้ฉันโดดหรือ?
มาไลย.
ดิฉันใม่ได้อยากให้คุณโดดเลย.
หลวงราชภัตติ์.
ยังงั้นทำใมหล่อนใม่ห้ามฉันล่ะ.
มาไลย.
การที่ดิฉันจะห้ามใม่เห็นจะเปนประโยชน์อะไร
หลวงราชภัตติ์.
ทำใมจ๊ะ?
มาไลย.
เพราะถ้าแม้คุณตั้งใจจะโดดจริงแล้ว ถึงดิฉันจะห้ามคุณก็คงใม่ฟัง ถ้าคุณใม่ตั้งใจจะโดดจริงแล้ว ดิฉันจะต้องห้ามทำใม.
หลวงราชภัตติ์.
(ถอนใจใหญ่.) เฮอ! ถ้ายังงั้นแปลว่าหล่อนจะใม่ห้ามละหรือ?
มาไลย.
ใม่ห้าม.
หลวงราชภัตติ์.
ฮือ! ถ้ายังงั้นก็แล้วไปน่ะซิ! (ยืนมองไปมองมาอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็มองหาทางลง.) แม่มาไลย.
มาไลย.
อะไรคะ?
หลวงราชภัตติ์.
นี่หล่อนนะจะใม่ห้ามฉันเปนแน่ละหรือ?
มาไลย.
แน่ละคะ.
หลวงราชภัตติ์.
ถ้ายังงั้นการที่ฉันจะโดดก็ใม่มีประโยชน์อะไร.
มาไลย.
(หัวเราะ.) จริงอย่างคุณหลวงว่า.
(หลวงราชภัตติ์มองหาทางลง ลองหยั่งเท้าลงมา ใม่เหมาะ หดกลับขึ้นไปใหม่ แต่ทำเช่นนี้อยู่สักสองสามครั้ง ในที่ต่าง ๆ แล้วจึงลงนั่งบนยอดเฃา.)
หลวงราชภัตติ์.
แม่มาไลย เมื่อหล่อนใม่เมตตาฉันแล้ว ฉันจะต้องลาหล่อนไปให้พ้นบ้านหล่อนละ.
มาไลย.
จำเปนที่คุณหลวงจะต้องทำเช่นนั้นหรือคะ.
หลวงราชภัตติ์.
จำเปนทีเดียว ฉันจะมานั่งดูหล่อนอยู่ยังงี้ ก็ยิ่งจะมีความทุกข์ในใจใม่หยุดหย่อน เพราะฉันรักหล่อนเหลือเกิน.
มาไลย.
ถ้ายังงั้นดิฉันก็ใม่ขัดคุณละ.
หลวงราชภัตติ์.
ขอบใจ แต่ฉันมีความเสียใจที่ฉันยังไปใม่ได้.
มาไลย.
ทำใมล่ะคะ.
หลวงราชภัตติ์.
เพราะฉันลงจากเฃานี้ยังใม่ได้.
มาไลย.
(หัวเราะ.) ดิฉันบอกแล้ว ว่าฃาลงมันจะยาก.
หลวงราชภัตติ์.
ก็นี่ฉันจะมิต้องนั่งทนแลดูหล่อน ให้ความรักแทงหัวใจฉันระบมอยู่ยังงี้เรื่อยไปหรือ?
มาไลย.
ก็คุณหลวงจะนั่งหันหลังให้ดิฉันเสียใม่ได้หรือคะ จะได้ใม่แลเห็น.
หลวงราชภัตติ์.
ฉันก็อดเหลียวมาใม่ได้อีกแหละ.
02มาไลย.
ถ้ายังงั้นดิฉันลุกไปเสียจากที่นี่เห็นจะดีกว่า (ลุกขึ้น.) เอาเถอะคะ แล้วดิฉันจะบอกให้เฃาเอากระไดมาพาดให้คุณหลวงลง (เดิรไปทางขวา.)
(หลวงราชภัตติ์นั่งดูมาไลยจนไปลับตา แล้วลุกขึ้นมองทางลง และลงจดจ้องอย่างเช่นครั้งก่อนอีก แต่ลงปลายก็ใม่ลง เลยลงนั่งเสียอีก ท่าทางดูใม่สบาย พระสมานเดิรเฃ้ามาจากทางซ้าย ใม่เห็นหลวงราชภัตติ์ จะเดิรผ่านไป.)
หลวงราชภัตติ์.
คุณพระ !
พระสมาน.
(เหลียวไปเห็น.) อ้าว ! นั่นขึ้นไปอยู่บนนั้นทำใม?
หลวงราชภัตติ์.
ผมปีนขึ้นมาจะโดดเฃาตาย.
พระสมาน.
ทำใมกัน?
หลวงราชภัตติ์.
ผมชวนแม่มาไลยให้ไปกะผม เฃาใม่ตกลง, ผมก็บอกเฃาว่า เมื่อใม่ตกลงรักใคร่กะผมแล้ว ผมจะโดดลงมาเสียให้ตาย.
พระสมาน.
อ้อ ! หมายจะขู่ให้เฃาตกใจ เฃาจะได้ต้องว่ารักคุณยังงั้นหรือ?
หลวงราชภัตติ์.
ยังงั้นน่ะซิครับ ผมทำเอะอะว่าจะโดด หมายว่าเฃาจะห้าม เฃาก็ใม่ยักห้าม.
พระสมาน.
แล้วคุณก็ใม่โดด.
หลวงราชภัตติ์.
ก็ใม่โดดน่ะซิครับ โดดลงมาจะได้ชักปะไรล่ะ.
พระสมาน.
ที่จริงคุณใม่ควรจะทำใจร้อนใจรนไปเลยทีเดียว ตามที่คิดกันไว้หรือมันก็สำเร็จหมดแล้ว, วันนี้อินทเสนมีหนังสือไปถึงหลวงวรเวส ก็เรื่องจะขอลูกสาว ตานั่นฮุบโผงเทียว.
หลวงราชภัตติ์.
ยังงั้นหรือครับ ถ้ายังงั้นเห็นจะถึงเวลาขยายความจริงกระมัง.
พระสมาน.
รอไว้หน่อยก่อนดีกว่า รอไว้ให้แกจัดเตรียมการแต่งงานให้วุ่นเสียก่อนถึงค่อยขยาย ความอายแกจะได้มากขึ้นอีก.
หลวงราชภัตติ์.
พุทโธ่ ! คุณพระละชอบเล่นแต่ให้ช้า ๆ ไว้ร่ำไป ใจผมหรือร้อนราวกะไฟ.
พระสมาน.
เพราะใจร้อนน่ะซิ ถึงได้แพ่นขึ้นไปอยู่บนยอดเฃา.
(นายบุญโรจน์มาจากทางขวา แบกกล้องถ่ายรูปมาด้วย.)
บุญโรจน์.
คุณหลวงครับ ขอผมถ่ายรูปคุณบนยอดเฃาสักแผ่นเถอะ (ตั้งกล้อง.) โปรดทำท่ากำลังจะโดดหน่อยได้ไหมครับ? (หัวเราะ.) พอพี่มาไลยเล่าให้ผมผมก็รีบมาเทียว ผมขออนุญาตนะครับ. (จัดกล้องจะถ่ายรูป.)
หลวงราชภัตติ์.
(ออกโกรธ.) ฉันใม่อนุญาตให้แกถ่ายรูปเปนอันฃาด.
บุญโรจน์.
ยังงั้นก็แล้วไปซิครับ (ยกกล้อง.) เฮ้ย ! อ้ายสากระไดใม่ต้องเอามาละวะ (ทำท่าจะเดิรไป.)
หลวงราชภัตติ์.
ประเดี๋ยว! ประเดี๋ยว! แกหรือเปนผู้เอากระไดมา?
บุญโรจน์.
ผมเปนผู้นำมา อ้ายสาเปนผู้ยก.
หลวงราชภัตติ์.
(นิ่งครู่หนึ่งแล้วจึงพูด.) เอา! จะถ่ายก็ถ่ายไป.
บุญโรจน์.
ขอบพระเดชพระคุณมาก (ตั้งกล้องและเฃ้าโปงดู.) โปรดยืนหน่อยซิครับ (หลวงราชภัตติ์ยืน.) ตั้งท่าโดดหน่อยได้ไหมครับ?
หลวงราชภัตติ์.
ขอตัวทีเถิดพ่อ ถ้าพลาดพลั้งจะขะมำลงไป.
บุญโรจน์.
ยังงั้นยืนตั้งท่าดี ๆ หน่อยครับ (ออกมาจัดน่ากล้อง.) ถ้าล้างได้ดีผมจะพิมพ์ส่งไปให้คุณหลวงแผ่นหนึ่ง (ใส่กรอบกระจกและชักฉากบัง.) นิ่งนะครับ (เปิดกล้อง.) เรี่ยมเทียวครับ หนเดียวพอ.
หลวงราชภัตติ์.
ไหนกระไดล่ะ?
บุญโรจน์.
อยู่นั่นครับ เฮ้ย ! อ้ายสายกกระไดมานี่วะ ! (เก็บกล้องเอาไปเสียทางหนึ่ง.)
(บ่าวผู้ชายผู้หนึ่งยกกระไดเฃ้ามา พาดที่เฃา หลวงราชภัตติ์ลงมาจากเฃาบ่าวยกกระไดออกไป.)
บุญโรจน์.
ยังไงครับ ขึ้นเฃาสนุกหรือครับ?
หลวงราชภัตติ์.
สนุกอะไร! เมื่อขึ้นก็ลื่นจะตาย เกือบตกบนนั้น ศิลาก็เปนปุ่มเปนปม นั่งเจ็บพิลึก.
(หลวงวรเวส แม่มลิกับอินทเสน พากันเฃ้ามาทางซ้าย.)
หลวงวรเวส.
อ้อ! คุณหลวงราชภัตติ์ขอรับ ผมได้รับจดหมายคุณหลวงแล้ว ผมรู้สึกเปนเกียรติยศมาก ในการที่คุณมีความประสงค์จะขอลูกสาวผม แต่ผมเสียใจที่ผมจะยกให้คุณหลวงใม่ได้ เพราะจดหมายคุณหลวงมาช้าไป ผมได้พูดจาตกลงกับเจ้าราชบุตรเชียงรายเสียแล้ว (บุญโรจน์ตีปีก ฉวยกล้องวิ่งไปทางขวา.)
หลวงราชภัตติ์.
พุทโธ่ ! ผมได้ให้คุณพระสมานมาพูดก่อนเปนนมเปนนาน.
หลวงวรเวส.
ก็ใม่ได้พูดกันเปนกิจะลักขณะครับ เปนแต่เปรย ๆ ยังงั้นเอง.
หลวงราชภัตติ์.
แล้วที่จริงคุณหลวงก็ออกจะสมัค ยกให้เจ้าราชบุตรมากกว่าด้วยกันแหละ.
(มาไลยกับบุญโรจน์มาทางขวา แต่มายืนแอบ ๆ อยู่.)
หลวงวรเวส.
จริง ข้อนี้ผมรับ แต่ถ้าเปนตัวคุณเอง คุณจะใม่อยากมีลูกเขยเปนผู้มีบรรดาศักดิ์เช่นนี้บ้างหรือ?
หลวงราชภัตติ์.
ผมคงใม่อยากได้ลูกเขยที่เปนเจ้าเก๊ อย่างเจ้าราชบุตรคนนี้ !
พระสมาน.
จุ๊ๆ จุ๊ๆ คุณ (สั่นหัว.)
หลวงวรเวส.
เจ้าเก๊ยังไง?
หลวงราชภัตติ์.
มันใม่ใช่เจ้าราชบุตรจริง ๆ น่ะซิครับ อ้ายนี่มันชื่อน้อยอินทเสน เปนเสมียนของคุณพระสมาน.
มลิ.
อ๊ะ! จริงหรือ?
หลวงราชภัตติ์.
ก็ใม่เชื่อถามคุณพระสมานดูซิครับ.
มลิ.
จริงหรือคุณพระ?
พระสมาน.
ครับ จริง.
มลิ.
(หันไปทางอินทเสน.) หนอยแน่ะ ! เอ็งมาทำเล่นเสียสนุกใจเทียวนะ!
อินทเสน.
ผมทำยังไง?
มลิ.
ทำยังไงล่ะ. มาหลอกเฃาว่าเปนราชบุตร จนเฃาเชื่อกันหมด.
อินทเสน.
ผมใม่ได้คิดหลอกลวงอะไรคุณเลยทีเดียว คุณพระสมานพาผมมาผมก็มา คุณหลวงวรเวสเชิญให้ผมมาพักที่ตึกเล็ก ผมจะใม่รับ คุณเองก็ยังได้ช่วยอ้อนวอน จนผมรับ จะว่าผมหลอกลวงยังไง.
มลิ.
แล้วยังมิหนำซ้ำมีหน้ามาขอลูกสาวเฃาอีก แต่เกิดมาใม่เห็นใครหน้าด้านเท่าเอ็งเลยทีเดียว ใม่มีความอายเลยจนนิดเดียว.
อินทเสน.
ผมใม่ได้ทำความผิดอะไร ผมรักแม่มาไลย ผมก็ได้ขอต่อคุณหลวงวรเวสโดยดี มิใช่ว่าผมได้ลักพาไปเมื่อไร.
มลิ.
คนอย่างเช่นเอ็งน่ะหรือลูกฃ้าจะตามไป ใม่มีเสียล่ะ.
อินทเสน.
ข้อนั้นผมก็จะบอกแน่ใม่ได้.
มลิ.
ยิ่งพูดก็ยิ่งกวนโทโษ ไป! ไปให้พ้นบ้านฃ้า.
อินทเสน.
ผมใม่มีความผิดอะไร.
พระสมาน.
ไปก็ไปเถอะน่ะ ยังจะอยู่ทำใมอีกล่ะ.
อินทเสน.
ผมใม่มีความผิดอะไร.
มลิ.
ใม่ไปหรือ? (หันไปพูดกับหลวงวรเวส.) คุณเรียกอ้ายบ่าว ๆ ให้มาไล่เตะมันออกไป.
บุญโรจน์.
(วิ่งออกมา.) คุณแม่จะทำยังงั้นยังไงได้ เฃาใม่มีความผิดอะไร.
มลิ.
ใม่ใช่กงการอะไรของเด็กของเล็กเลย. (หันไปทางอินทเสน.) บอกว่าให้ไป ถ้ารักหัวของตัวละก็รีบไปเสียเดี๋ยวนี้.
บุญโรจน์.
(พูดกับอินทเสน.) อย่าไปเราใม่มีความผิดอะไร ความผิดของผู้ที่เปนต้นคิดต่างหาก. (แลดูพระสมาน.)
อินทเสน.
ที่จริงผมใม่มีความผิดเลย แต่ถ้าคุณหลวงวรเวสผู้เปนเจ้าของบ้านไล่ผม ผมก็ต้องไป.
มลิ.
คุณไล่มันไปซิ !
หลวงวรเวส.
ไป!
บุญโรจน์.
คุณพ่อระวังนะครับ เท่ากับไล่พี่มาไลยไปด้วยนะ.
หลวงวรเวส.
ทำใม?
บุญโรจน์.
พี่มาไลยคงไปกะเฃาด้วยเปนแน่.
หลวงวรเวส.
อ๊ะ! จริงยังงั้นหรือ? (เหลียวไปทางลูกสาว.) มาไลย มานี่แน่ะ (มาไลยเดิรออกมาหาพ่อ.) ยังไงกันหล่อนจะไปกับเฃาจริง ๆ เทียวหรือ?
มาไลย.
(ก้มหน้าพูด.) ถ้าจำเปนก็ไป.
มลิ.
(โกรธ.) หนอยแน่ะ ! พูดออกมาได้ หมดความอายเสียแล้วหรือ? เดี๋ยวได้ตบเฃ้าเดี๋ยวนี้เอง! (เดิรเฃ้าไปทางลูกสาว.)
หลวงวรเวส.
(ยกมือห้าม.) แม่มลิ ! ขอที.
มลิ.
ก็ลูกสาวคุณน่ะ คุณใม่เสียดายหรือ จะยอมยกให้อ้ายขี้ฃ้าม้าครอกยังงั้นได้หรือ?
หลวงวรเวส.
ความผิดมันอยู่ที่เราเอง เราปล่อยให้เฃารักใคร่กัน จะเอาโทษลูกสาวใม่ถูก (หันไปทางอินทเสน.) นี่น่ะ ! แกก็ดูหน้าตาเปนผู้ดี เพราะฉนั้นฉันขอพูดกะแกอย่างผู้ดี ขอให้แกไปเสียคราวหนึ่ง แล้วถึงค่อยพูดกันต่อไปคราวน่า.
อินทเสน.
เมื่อคุณหลวงประสงค์เช่นนั้นผมก็จำจะต้องยอมตาม. (ตั้งท่าจะไป.)
(พระยารามฤทธิไกรเดิรเฃ้ามาจากทางขวา พระยารามเปนคนผู้ใหญ่ เรื่อย ๆ.)
พระยาราม.
(พบอินทเสน.) อ้าว! เจ้าราชบุตรอยู่นี่เองแหละหรือ?
หลวงวรเวส.
เอ๊ะ ! ราชบุตรไหน?
พระยาราม.
อ้าว! ก็นี่ยังไงล่ะ ! (ชี้อินทเสน.)
หลวงวรเวส.
ราชบุตรเมืองเชียงรายน่ะหรือครับ?
พระยาราม.
ก็ยังงั้นน่ะซิ
(ต่างคนต่างแลดูตากันทุกคน.)
หลวงวรเวส.
ใม่ผิดตัวหรือครับ.
พระยาราม.
ถ้านี่ใม่ใช่เจ้าราชบุตรเมืองเชียงราย ก็เปนพี่หรือน้องแฝดของเจ้าราชบุตรเท่านั้นแหละ.
หลวงวรเวส.
ไหนว่าชื่อน้อยอินทเสนยังไงล่ะ.
พระยาราม.
ก็จริง เจ้าราชบุตรเชียงรายชื่อน้อยอินทเสน รับสัญญาบัตร์เปนเจ้าราชบุตร.
หลวงวรเวส.
พุทโธ่! คุณพระสมาน คุณหลอกผมเล่นเปล่าๆ ยังงั้นเอง.
พระสมาน.
(เรี่ย ๆ.) ผมนึกจะลองใจคุณหลวงกับคุณมลิเล่นยังงั้นเอง.
มลิ.
ดิฉันใม่ได้เชื่อเลยทีเดียว ดิฉันรู้อยู่ดีเทียว ว่านั่นน่ะเจ้าราชบุตรจริง ๆ ดูแต่กิริยาเท่านั้นก็เห็นได้
บุญโรจน์.
(ชี้หน้าหลวงราชภัตติ์.) รู้งี้ใม่ปราถนาเอากระไดพาดให้ดอก.
หลวงวรเวส.
เจ้าคุณมาพอเหมาะทีเดียว จะได้มาช่วยการแต่งงานเจ้าราชบุตรกับแม่มาไลยบุตรสาวผม.
พระยาราม.
ผมยินดีมาก (หันไปคำนับมาไลยแล้วไปจับมือกับอินทเสน.) อ้อยังงี้เอง ! มิน่าเจ้าเจ็บใม่หายเลย (หัวเราะ.) คุณหลวงครับ เจ้าราชบุตรน่ะลาลงมารักษาตัวที่กรุงเทพนะ.
อินทเสน.
โรคเดิมผมพอหายก็พะเอินเห็นแม่มาไลยที่งานฤดูหนาว เลยเกิดเปนโรคใหม่ เรื้อรังมาจนบัดนี้แหละครับ! (เลยคุยกับพระยารามต่อไป.)
พระสมาน.
ผมเห็นจะต้องลาคุณหลวงที มีธุระ.
หลวงราชภัตติ์.
ผมก็เหมือนกันครับ.
บุญโรจน์.
(พูดกับหลวงราชภัตติ์.) ต้องการกระไดพาดอีกไหมครับ?
(หลวงราชภัตติ์หันไปทำตาขึง แล้วก็เดิรไปทางขวากับพระสมาน.)
พระยาราม.
นี่เรื่องที่เจ้าจะได้เมียไปน่ะ เจ้าหลวงรู้แล้วหรือ?
อินทเสน.
ผมโทรเลขไปหาฦๅแล้วครับ ตอบมาว่าตามใจ แต่ให้ปรึกษาเจ้าคุณเสียก่อน.
พระยาราม.
ผมน่ะใม่คัดค้านเลยทีเดียว พลอยยินดีด้วยเสียอีก.
อินทเสน.
ถ้ายังงั้นเจ้าคุณได้โปรดจัดการฃ้างฝ่ายผมแทนบิดาผมด้วยนะครับ.
พระยาราม.
อย่าวิตก ผมจัดการให้ตลอด คุณหลวงวรเวสครับ เจ้าราชบุตรขอให้ผมจัดการฃ้างผู้ชาย คุณเห็นจะใม่รังเกียจนะครับ.
หลวงวรเวส.
ตรงกันฃ้าม ยินดีมาก เชิญเจ้าคุณขึ้นไปบนบ้าน นานแล้วใม่ได้พบกัน เชิญซิครับ! (พาพระยารามไปทางฃ้างขวา.)
บุญโรจน์.
คุณแม่ครับ ขอผมถ่ายรูปให้เหมาะอีกสักรูปเถอะ เมื่อเช้านี้คุณพ่อเฃ้าไปตึงตังทำให้คุณแม่ไหวไปได้.
มลิ.
ก็ได้ซิลูก ไปเลือกหาที่ถ่ายให้เหมาะ ๆ เถอะนะ! (เดิรไปทางขวา บุญโรจน์แบกกล้องตามไป.)
อินทเสน.
แม่มาไลย หล่อนตั้งใจจะไปกับฉันจริงๆ เทียวหรือ?
มาไลย.
ยังจะสงสัยอะไรอีกล่ะ.
อินทเสน.
(เฃ้าไปจับมือมาไลย.) ใม่สงสัยอีกเลยเปนแต่ปลื้มเหลือที่จะปลื้มเท่านั้น.
มาไลย.
ฉันก็เหมือนกัน.
(สองคนยืนนิ่งดูกันอยู่ครู่หนึ่งแล้วพากันเดิรไปทางขวาช้าๆ.)