เดือน ๑๑ จุลศักราช ๑๒๔๖
วัน ๗ ๑ฯ ๑๑ ค่ำ ปีวอก ฉศก จุลศักราช ๑๒๔๖
เวลาเช้า ๓ โมงเศษเสด็จออกประทับพระที่นั่งบรมราชสถิตยมโหฬาร โปรดให้นิมนต์พระที่สวดสะเดาะ ๕ รูปขึ้นไป ทรงจุดเทียนนมัสการทรงศีลแล้วพระสงฆ์ถวายพรพระจบแล้ว เสด็จทรงประเคนพระสงฆ์รับพระราชทานฉัน เสด็จทรงจุดเทียนสักการะสังเวยเทวดาและเทียนพระสยามและเทียนบูชาเครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์ แล้วพระยาศรีสุนทรอ่านสังเวยเทวดา พระสงฆ์รับพระราชทานฉันแล้วเสด็จทรงประเคนบริกขารเป็นอันมาก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนาอติเรก ถวายพระพรลาไป เสด็จขึ้นข้างใน
เวลาเช้า ๔ โมงเศษ เสด็จออกพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ทรงจุดเทียนนมัสการแล้วเสด็จมาทอดพระเนตรโถฟักเหลือง ๆ วันนี้ของเจ้านายข้างในทำฉลองพระเดชพระคุณ ทรงปักฉลากโถยาคูพระราชทานพระสงฆ์ที่รับพระราชทานฉัน โถพระองค์แม้นเขียนเป็นข้าวพระ โถสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชเทวีถวายกรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์ โถพระองค์เจ้าเสาวภาคถวายกรมหมื่นวชิรญาณ โถพระองค์อัชรพรรณีพระราชทานเจ้าพระธรรมุณหิศ โถพระองค์จามรีพระราชทานเจ้าพระอรุณ โถหม่อมเจ้าเข่งพระราชทานเจ้าพระประภากร โถพระองค์ศรีนาคพระราชทานพระศรีวิสุทธิวงศ์ นอกนั้นก็พระราชทานองค์ละโถทั่วกันทั้ง ๓๗ รูป พระสงฆ์ถวายพรพระแล้วเสด็จทรงประเคนพระสงฆ์รับพระราชทานฉัน เสด็จประทับทรงปิดทองพระ แล้วพระมหาราชครูพิธีถวายน้ำพระมหาสังข์ตามพระราชพิธี เจ้าพนักงานภูษามาลาเชิญพระบรมอัฐิและพระอัฐิขึ้นราชยานมาแต่ประตูสนามราชกิจ มีกลองชนะแตรสังข์มโหรทึกประโคมไป เชิญขึ้นประดิษฐานบนพระที่นั่งเสวตรฉัตรและโต๊ะจีนณพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พอพระสงฆ์รับ พระราชทานฉันแล้วโปรดให้สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เสด็จทรงประเคนผ้าเหลืองพระสงฆ์ ๓๗ รูปถวายอนุโมทนาอติเรก ถวายพระพรลาไป โปรดให้นิมนต์พระราชาคณะพระครูถานาสำหรับกาลานุการ ๒๔ รูปขึ้นไป ทรงทอดผ้าสะบงและอื่น ๆ สดัปกรณ์ตามเช่นเคย ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลในสมัยสารทนี้ทุกปีมา แล้วเสด็จขึ้น โปรดให้สดัปกรณ์เรือนร้อย ๕๐๐ เจ้าพนักงานเชิญพระบรมอัฐิพระอัฐิกลับ โปรดให้แจกข้าวทิพย์ปายาสพระบรมวงศานุวงศ์ข้าราชการตามเคย
วันนี้ โปรดให้เจ้านายแจกเงินคนชราคนละ ๑ สลึง ในการเฉลิมพระชนม์พรรษา มีจำนวนแจกที่มิวเชียม ๓๓๗๔ คน จะได้ทรงแจกข้างหน้า ๒๐๐ คน ข้างใน ๒๐๐ คน
เวลาทุ่มเศษ เสด็จออกทางพระทวารใหญ่ท้องพระโรงกลาง พระยาโชฎึก และพระยา พระ หลวง เจ้าภาษีเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายคำนับอย่างจีนถวายกิมฮวยอั้งติ๋ว แล้วพระครูปลัด รองปลัด สมณะฝ่ายญวนเฝ้าถวายเทียนจีนกิมฮวยอั้งติ๋วตามเคยทุกปี แล้วเสด็จออกไปประทับที่อัฒจันท์ นายกองปลัดกองญวนอาสาเฝ้าถวายดอกไม้ธูปเทียนตามเคย เสด็จทรงพระราชยานเสด็จไปวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เสด็จประทับในพระอุโบสถ ทรงประเคนผ้าไตรย่ามสักหลาดแด่พระราชาคณะ ๑ เปรียญ ๔ รวม ๕ รูป พระสงฆ์ครองผ้าแล้ว ทรงจุดเทียนนมัสการและเทียนบัตรบูชาเทวดา ๙ บัตร พระสงฆ์สวดมนต์ .โหรบูชาเทวดานพเคราะห์ตามแบบเดิม พอทรงจุดเทียนแล้วเสด็จกลับมาพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เสด็จขึ้นประทับพระที่นั่งบรมราชสถิตยมโหฬาร โปรดให้นิมนต์พระสงฆ์ขึ้นไปนั่งที่ เสด็จทรงประเคนผ้าไตรสลับแพรย่ามโหมดเทศ กรมพระปวเรศ กรมหมื่นวชิรญาณ เจ้าพระ พระราชาคณะ พระครูถานาเปรียญคณะธรรมยุติ ๓๖๐ รูป พระสงฆ์ออกไปครองผ้าแล้วกลับเข้ามานั่งที่ ทรงจุดเทียนในที่ต่างๆ และเทียนพระมหามงคล แล้วเสด็จทรงจุดเทียนเครื่อง ๕ นมัสการหน้าพระแท่นมณฑลและพระแท่นพระบรรทม แล้วกรมพระปวเรศถวายศีลทรงศีลแล้วพระสงฆ์ ๖๐ รูปสวดมหาสมัยสูตรและสัตตปริต เสด็จมาประทับตรัสกับกรมพระราชวังและสมเด็จกรมพระจนเวลา ๕ ทุ่มเศษสวดมนต์จบ พระสงฆ์ถวายอติเรกถวายพระพรลากลับ เสด็จขึ้นข้างใน เจ้านายกลับออกไป
เวลาวันนี้ทุ่ม ๑ กับ ๒๑ นาฑี เป็นเวลาบรรจบครบดิถีพระบรมมหาประสูติมงคลสมัย ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตามสุริยคติกาล บรรจบรอบ ๓๑ บริบูรณ์
วันนี้เป็นวันจุดโคมไฟวันแรก
วัน ๑ ๒ฯ ๑๑ ค่ำ ปีวอก ฉศก จุลศักราช ๑๒๔๖
เวลาเช้า ๓ โมงเศษเสด็จออกประทับในพระที่นั่งบรมราชสถิตยมโหฬาร ทรงจุดเทียนนมัสการ กรมพระปวเรศถวายศีล พระสงฆ์ ๖๐ รูปถวายพรพระ เสด็จทรงจุดเทียนในที่ต่าง ๆ แล้วเสด็จทรงประเคน กรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์และพระสงฆ์ ๖๐ รูปรับพระราชทานฉัน ทรงจุดเทียนเครื่องสังเวยและเทียนที่พระสยามและเครื่องราชกกุธภัณฑ์ ขุนนิมิตร์อ่านประกาศสังเวยเทวดา พระสงฆ์รับพระราชทานฉัน แล้วเสด็จลงไปที่ชาลาพระที่นั่งซึ่งตั้งพระแท่นสรงมุรธาภิเศกสนานอันล้อมด้วยราชวัฏิ์เครื่องสูงขาวรอบพระแท่นนั้น
ครั้นได้พระฤกษ์เช้า ๕ โมง ๑๒ นาฑี พระเจ้าอยู่หัวทรงเปลื้องเครื่องทรงพระภูษา และทรงพระสะพักโขมพัตร เสด็จเข้าสู่ที่สรงมุรธาภิเศกสนาน เจ้าพนักงานประโคมสังข์แตรฆ้องไชยพิณพาทย์กลองแขกมโหรีตามจารีตขัติยราชประเพณี พระสงฆ์บนพระที่นั่งถวายชัยมงคล เจ้าพนักงานถวายพระเต้าพระครอบพระพุทธมนตร์ต่างๆเป็นอันมาก กรมพระปวเรศถวายน้ำพระพุทธมนตร์พระครอบพระกิ่ง พระครูพราหมณ์ทั้งหลายถวายน้ำพระเต้าเบญจครรภ และพระมหาสังข์ทักขิณาวัตรองค์ใหญ่ องค์กลาง องค์เล็ก และพระมหาสังข์ทอง สังข์เงิน สังข์นาก สังข์สัมฤทธิ์ ครั้นสรงเสร็จแล้วเสด็จขึ้นทรงเครื่องข้างใน ทรงเครื่องสำหรับเครื่องราชอิสสริออศมหาจักรีบรมราชวงศ์ เสด็จออกมาทรงประเคนบริกขารพระสงฆ์ ๆ ถวายอนุโมทนาอติเรกถวายพระพรลาไป โปรดเกล้า ฯ ให้แจกเงินโหรที่บูชาสะเดาะพระเคราะห์ หลวงโลกทีป ๑๐ ตำลึง ขุนโชตพรหมา ๗ ตำลึง ขุนเทพพยากรณ์ ๗ ตำลึง
เวลาเที่ยงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงฉลองพระองค์สำหรับเครื่องราชอิสสริออศมหาจักรีบรมราชวงศ์ เสด็จออกประทับพระที่นั่งพุดตาลทองภายใต้พระมหามงคลเศวตรฉัตร ณท้องพระโรงพระที่นั่งจักรีมหาปราสาทโดยอุตราภิมุข พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์และเสนาบดีมุขมนตรีข้าทูลละอองธุลีพระบาทเสวกามาตย์ผู้ใหญ่ผู้น้อยฝ่ายทหารพลเรือนและราชทูตทั้งกงสุลผู้แทนคอเวอนเมนต่างประเทศ ซึ่งมีทางพระราชไมตรีเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทโดยลำดับพร้อมกัน เจ้าพนักงานประโคมมโหรทึกแตรฝรั่งตามธรรมเนียมเสด็จออก ครั้นสุดเสียงประโคมแล้ว จึงกรมหลวงวรศักดาพิศาลทูลถวายชัยมงคลแทนพระบรมวงศานุวงศ์ทั้งปวง แล้วเจ้าพระยาศรีพิพัฒน์ทูลถวายชัยมงคลแทนข้าทูลละอองธุลีพระบาททั้งปวง แล้วเยเนราล ยอน เอ ฮอลเดอแมน ราชทูตอเมริกัน ทูลถวายชัยมงคล แทนกงสุลผู้แทนต่างประเทศทั้งปวง แล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชปฏิสันถารตอบโดยพิสดารแล้วเสด็จขึ้นข้างใน พระบรมวงศานุวงศ์ข้าทูลละอองธุลีพระบาทฝ่ายในเฝ้าถวายชัยมงคลตามเช่นเคยมาทุกปี
แล้วเสด็จออกประทับห้องซิตติงรูม พระองค์ดิศนำพระวิสูตรสาครดิฐ พระชลยุทธโยธินทร์ พระวิภาคภูวดล กัปตันลอฟตัส มิสเตอร์แรมเซ มิสเตอร์แบตแมน หมอแมกฟาลันด์ เฝ้าถวายสิ่งของและถวายพระพรในการเฉลิมพระชนม์พรรษา ทรงพระราชปฏิสันถารพอสมควร แล้วถวายบังคมลาไป พระยาศรีสุนทรนำ พระยา พระ หลวง ขุน ข้าราชการที่สูงอายุมีอายุ ๗๐ เศษ ๑๖ คน เข้าไปรับพระราชทานผ้า ๒ สำรับ เงิน ๑๐ ตำลึง และทูลถวายชัยมงคลด้วย แล้วเสด็จขึ้น พระราชทานผ้าและเงินเท่ากับข้างนอกแก่ข้าทูลละอองธุลีพระบาทฝ่ายในที่มีอายุ ๗๐ เศษ ๑๖ คน รวมทั้งข้างหน้าข้างใน เป็น ๓๒ คนเท่าด้วยพระชนม์พรรษา นับตามวัสสคณานามปี
อนึ่งเมื่อเวลาเช้า ๒ โมง เวลาเที่ยง เวลาบ่าย ๕ โมงทั้ง ๓ เวลา เจ้าพนักงานทหารบกทหารเรือยิงสลุต คือทหารปืนใหญ่รอแยลแอตเตลลียิง ๓ เวลา ๑๐๑ นัด ทหารรักษาวังยิงบนป้อมสัญจรใจวิง เวลาละ ๒๑ นัดทั้ง ๓ เวลา ทหารรักษาวังยิงปืนฮอกกิดที่ท้องสนามหลวง ๓ เวลา ๑๐๑ นัด ทหารเรือสยามมูปัสสดัม เรือสยามมกุฎไชยชิต ยิงสลุตลำละ ๑๐๑ นัดรวมทั้ง ๓ เวลา
อนึ่งโปรดเกล้า ฯ ให้พระองค์ดิศวรกุมารราชเอดเดอแกมป์ เชิญพระบรมวงศานุวงศ์มาประชุมเสวยตามเช่นเคยมาทุกปีณพระที่นั่งมูลสถานบรมอาศน์ เวลาทุ่มเศษเสด็จประทับห้องเสวย โปรดให้พระบรมวงศานุวงศ์เข้าไปประชุมเสวย มีพระนามและที่ประทับดังแผนที่นี้
|
พระองค์ดิศวรกุมาร |
|
หม่อมเจ้าวัชรินทร์ |
|
หม่อมเจ้าขาว |
พระองค์ขจร |
กรมหมื่นนฤบาล |
|
พระองค์สาย |
กรมหมื่นสถิตย์ |
|
พระองค์โตเล็ก |
พระองค์สุธารส |
|
กรมหมื่นบริรักษ์ |
พระองค์ไชออันต์ |
|
พระองค์วรวรรณ |
พระองค์จันทรทัต |
|
กรมหมื่นเทววงศ์ |
พระองค์ชุมพล |
|
กรมหมื่นพรหม |
กรมหมื่นศิริธัช |
|
กรมขุนบดินทร |
กรมหมื่นอดิศร |
|
กรมหลวงวรศักดา |
ส. กรมหลวงจักรพรรดิ |
|
กรมพระราชวังบวร |
ที่ประทับ |
|
ส. กรมพระบำราบ |
ส. กรมหลวงภาณุ |
|
กรมขุนเจริญผล |
กรมภูธเรศ |
|
กรมหมื่นประจักษ์ |
พระองค์เกษมศรี |
|
พระองค์สวัสดิ์ |
พระองค์ทองแถม |
|
พระองค์ศรีเสาวภางค์ |
พระองค์ไชยา |
|
กรมหมื่นพิศาล |
พระองค์วัฒนา |
|
พระองค์จรูญโรจน |
พระองค์นันทวรรณ |
|
พระองค์ปรีดา |
พระองค์ประดิษฐ |
|
หม่อมเจ้านิล |
หม่อมเจ้าบงกช |
|
หม่อมประวิช |
หม่อมเจ้าฉาย |
|
|
หม่อมเจ้าอลังการ |
|
เมื่อเสวยไปจนถึงลูกไม้แล้ว เจ้านายยืนขึ้นพร้อมกัน กรมพระราชวังทูลถวายชัยมงคล พิณพาทย์และแตรทหารประโคมสรรเสริญพระบารมีแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานพระพรตอบพระบรมวงศานุวงศ์ แล้วแตรทหารพิณพาทย์ประโคมพร้อมกัน ครู่หนึ่งเสด็จจากโต๊ะ เสด็จมาประทับท้องพระโรงกลาง เจ้านายออกมาเฝ้าครู่หนึ่ง ถวายบังคมลากลับออกมาเวลายามเศษ เวลาวันนี้พระเจ้าอยู่หัวและต่างกรมทรงเครื่องแต่งพระองค์สำหรับเครื่องราชอิสสริยยศมหาจักรีบรมราชวงศ์ วันนี้เป็นวันแรก
เวลา ๔ ทุ่มเศษเสด็จออกพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชเทวี พระนางเธอ และข้าทูลละอองธุลีพระบาทฝ่ายใน เสด็จพระราชดำเนินวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เสด็จประทับในพระอุโบสถ ทรงประเคนผ้าไตร ย่าม สักหลาด พระราชาคณะ ๑ เปรียญ ๔ รวม ๕ รูป ทรงจุดเทียนนมัสการและเทียนบัตรเทวดา ๙ องค์ พระสงฆ์สวดมนต์ โหรบูชาอย่างเช่นวานนี้ เสด็จออกมาประทับหน้ามิวเซียมทอดพระเนตรซุ้มดอกไม้เพลิงของสมเด็จกรมพระ แล้วเสด็จทรงรถพระที่นั่งพร้อมด้วยข้างในโดยเสด็จหลายรถ เสด็จออกประตูวิเศษไชยศรี ประพาสข้าราชการแต่งประทีปโคมไฟ เสด็จไปตามถนนสนามชัยเลี้ยวลงถนนเจริญกรุง ไปเลี้ยวถนนเฟื่องนคร มาเลี้ยวขึ้นถนนบำรุงเมือง กลับเข้าพระบรมมหาราชวัง
วัน ๒ ๓ฯ ๑๑ ค่ำ ปีวอก ฉศก จุลศักราช ๑๒๔๖
เวลาบ่ายโมงเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกประทับพระที่นั่งนิพัทธพงศถาวรวิจิตร โปรดให้นิมนต์พระเทศน์เข้าไป ทรงจุดเทียนนมัสการธรรม พระพิมลธรรมขึ้นธรรมาศน์ถวายศีลและถวายเทศน์มงคลสูตรโดยพิสดาร พอเทศน์จบเสด็จทรงประเคนผ้าไตรสลับแพร และสรรพบริกขารสมณบริโภคและวัตถุจัตุปัจจัยราคา ๑๐ ตำลึง และทรงประเคนบริกขารพอควรแก่ฐานาวัดพระเชตุพน ๔ รูป รับสัพพีแล้ว สมเด็จพระวันรัตนถวายอติเรกถวายพระพรลากลับ บ่าย ๒ โมงเศษเสด็จขึ้น โปรดให้พระเจ้าลูกเธอมาแจกคนชรารายทรง แจกข้างหน้า ๒๐๐ กับค้างวานซืนนี้ ๒๐๐ รวมข้างหน้าวันนี้ ๔๐๐ ทรงแจกข้างใน ๒๐๐ เจ้านายแจกที่มิวเซียมวันนี้ ๓๓๗๕ คน
เวลาบ่ายเจ้าพนักงานจัดการที่ท้องพระโรงกลางพระที่นั่งจักรี เชิญพระชัยในรัชชกาลปรัตยุบันนี้ตั้งบนพระที่นั่งพุดตาลทองคำภายใต้พระมหาเศวตรฉัตร และตั้งแต่งเครื่องแก้วและอื่นๆ พอสมควร เวลาทุ่มเศษเสด็จออกพระทวารใหญ่ท้องพระโรงกลาง เสด็จทรงพระราชยานไปประทับวัดพระศรีรัตนศาสดารามเสด็จในพระอุโบสถ ทรงประเคนผ้าไตรย่ามสักหลาด พระราชาคณะ ๑ เปรียญ ๔ รวม ๕ รูป ทรงจุดเทียนนมัสการพระพุทธปฏิมากรแก้วมรกตและเทียนเทวดา พระสงฆ์ครองผ้าแล้วสวดพระพุทธมนต์ โหรบูชาเทวดา เสด็จกลับประทับท้องพระโรงกลางพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท โปรดให้นิมนต์พระขึ้นไปนั่งที่ ทรงประเคนผ้าไตรย่ามสักหลาดแก่พระธรรมวโรดม หม่อมเจ้าพระพุทธบาต พระราชาคณะฝ่ายมหานิกาย ๓๐ รูป ออกไปครองผ้า เสด็จทรงจุดเทียนเครื่องตั้งต่าง ๆ พอพระสงฆ์ครองผ้าแล้วเข้ามานั่งที่ เสด็จทรงจุดเทียนเครื่อง ๕ นมัสการพระธรรมวโรดมถวายศีลแล้วพระสงฆ์ ๓๐ รูปสวดธรรมจักกัปปวัตนสูตรและมงคลคาถารัตนสูตรตามเคย เวลายามเศษสวดมนต์จบ พระสงฆ์ถวายอติเรกถวายพระพรลากลับไป เสด็จพระราชดำเนินทรงพระราชยานไป ประทับท่าราชวรดิฐ เสด็จลงทรงเรือพระที่นั่งสตรูพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชเทวีและพระนางเธอ ทั้งเจ้าจอมฝ่ายในเสด็จออกจากท่าราชวรดิฐขึ้นไปเหนือน้ำ ประพาสซุ้มประทีปโคมไฟซึ่งพระบรมวงศานุวงศ์ข้าทูลละอองธุลีพระบาทเสวกามาตย์ราษฎรและราชทูตกงสุลและพ่อค้าคนต่างประเทศ ตกแต่งฉลองพระเดชพระคุณเป็นการยินดีด้วยพระบรมเดชานุภาพ เชิดชูพระเกียรติยศในการเฉลิมพระชนม์พรรษา เสด็จถึงคลองป้อมพระสุเมรุ แล้วกลับเรือพระที่นั่งล่องลงไปถึงบางลำภูล่าง แล้วกลับเรือพระที่นั่งขึ้นมาประทับบ้านเจ้าพระยาภาณุวงศ์มหาโกษาธิบดี เสด็จขึ้นไปประทับบนจวนเจ้าพระยาภาณุวงศ์ พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์และท่านเสนาบดีพระยา พระ หลวง ขุน และราชทูต กงสุลผู้แทนคอเวอนแมนต์ต่างประเทศ ทั้งพ่อค้านายห้างต่างประเทศนานา มาประชุมในการบอลปาตีเฝ้าพร้อมกัน เสด็จทรงพระราชปฏิสันถารท่านเจ้าพระยาภาณุวงศ์และราชทูตกงสุลต่าง ๆ บ้างพอสมควร แล้วเสด็จกลับทรงเรือพระที่นั่งเสด็จกลับพระบรมมหาราชวังเวลา ๕ ทุ่มเศษ ในห้องน้ำนี้แต่งครึกครื้นมาก มีโรงหล่อซึ่งเป็นโรงทหารเรือเวสาตรี และโรงภาษีร้อยชักสาม ภาษีเบ็ดเสด็จ และบ้านพระวิสูตรสาครดิฐ ห้างยุเกอซิก ห้างแกรซี เป็นต้น ตกแต่งแข็งแรงเป็นอันมาก
วัน ๓ ๔ฯ ๑๑ ค่ำ ปีวอก ฉศก จุลศักราช ๑๒๔๖
เวลาเช้า ๔ โมงเศษเสด็จออกประทับท้องพระโรงกลาง ทรงจุดเทียนนมัสการ พระธรรมวโรดมถวายศีลแล้วพระราชาคณะที่สวดมนต์เมื่อคืนนี้ ๓๐ รูปกับพระราชาคณะ ๓ เปรียญ ๑๒ รูป รวม ๑๕ รูป ที่สวดมนต์วัดพระศรีรัตนศาสดารามวันละ ๕ รูป มารวมกันที่นี้รวมเป็น ๔๕ รูป ถวายพรพระแล้วเสด็จทรงประเคนพระสงฆ์ ๔๕ รูปรับพระราชทานฉัน เสด็จทรงจุดเทียนเครื่องสังเวยเทวดา พอพระสงฆ์รับพระราชทานฉันแล้วทรงประเคนบริกขารภัณฑ์พอควร พระสงฆ์ถวายอนุโมทนาถวายอติเรกถวายพระพรลาไป เสด็จขึ้นข้างใน
เมื่อเวลาบ่าย ๕ โมงเจ้าพนักงานตั้งบายศรีแก้ว ทอง เงิน ที่หน้าท้องพระโรงกลางพระที่นั่งจักรี พระมหาราชครูพิธี พระครูพราหมณ์ เบิกแว่นเวียนเทียนสมโภชรอบพระที่นั่ง ทักขิณาวัตรถ้วนตติยวาร เจ้าพนักงานประโคมแตรสังข์ฆ้องชัยพิณพาทย์กว่าจะเวียนเทียนแล้ว
เวลาค่ำโปรดให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอพระองค์ใหญ่ เสด็จออกมาทรงแจกเงินพระราชทานคนชรา มีจำนวน ๒๐๐ คน กับเมื่อกลางวันแจกข้างในพระราชวัง ๒๐๐ คน เจ้านายแจกที่มิวเซียม ๓๓๗๔ คน รวมคนชราที่โปรดเกล้า ฯ พระราชทานเงินในการเฉลิมพระชนม์พรรษาปีนี้ ๓ วัน รวมคนชรา ๑๑๓๒๓ คน เสมอด้วยวันพระชนม์พรรษาในพระเจ้าอยู่หัวตามเช่นเคยทรงบำเพ็ญมาทุก ๆ ปี
เวลา ๒ ทุ่มเศษพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกพระที่นั่งนิพัทธพงศถาวรวิจิตร โปรดให้นิมนต์พระเทศน์เข้าไป ทรงจุดเทียนนมัสการธรรมเทศนา หม่อมเจ้าพระอรุณขึ้นธรรมาศน์ถวายศีลและถวายธรรมเทศนาเมตตสูตรโดยพิสดารจบลง เสด็จทรงประเคนผ้าไตรสลับแพรและสมณบริกขารเอนกภัณฑ์ทั้งวัตถุจัตุปัจจัยเป็นมูลค่า ๑๐ ตำลึง แล้วเจ้าพนักงานเชิญเสด็จเจ้าพระอรุณกลับออกมา เชิญเสด็จกรมหมื่นวชิรญาณเข้าไป ทรงจุดเทียนนมัสการธรรมเทศนา กรมหมื่นวชิรญาณขึ้นธรรมาศน์ถวายเทศนาเทวตาอุทิสกถาโดยพิสดาร จบลงถวายยถาสัพพี แล้วเสด็จทรงประเคนผ้าไตรสลับแพรและสรรพบริกขารสมณบริโภคเอนกนานาทั้งวัตถุจัตุปัจจัยเป็นมุลค่า ๑๐ ตำลึง เสด็จประทับตรัสอยู่ครู่หนึ่ง เสด็จทรงประเคนบริกขารพอควรแด่ฐานาวัดราชบพิธ ๔ รูป กรมหมื่นวชิรญาณถวายอติเรกถวายพระพรลา เวลา ๔ ทุ่มเศษเสด็จขึ้น
อนึ่งวันนี้เจ้าพนักงานตั้งเครื่องช้างพระที่นั่งต้น ม้าพระที่นั่งต้น พระแสงต่าง ๆ พระเต้าต่าง ๆ ตามเช่นเคยจัดในการพระราชพิธีคเชนทรัสวสนานทุกปีมา ณพระที่นั่งสุทไธศวริยปราสาท เวลาค่ำโปรดให้พระเจ้าลูกเธอไปจุดเทียนที่สวดมนต์ อาลักษณ์อ่านประกาศแล้ว พระราชาคณะไทย ๑ พระครูไทย ๔ พระราชาคณะรามัญ ๑ พระครูรามัญ ๔ สวดมนต์ในการพระราชพิชีคเชนทรัสวสนานตามธรรมเนียมโบราณจารีตสืบมา
วัน ๔ ๕ฯ ๑๑ ค่ำ ปีวอก ฉศก จุลศักราช ๑๒๔๖
เวลาเช้า ๓ โมงเศษพระสงฆ์ไทย ๕ รามัญ ๕ ที่สวดมนต์เมื่อคื่นนี้รับพระราชทานฉันที่พระที่นั่งสุทไธศวริยปราสาท ที่หน้าพระที่นั่งสุทไธศวริยมียืนจัตุรงค์ ๔ เหล่า คือช้างเครื่อง ๓ ม้าเครื่อง ๓ เกวียน ๓ พลเดินเท้าอาสา ๓ หมู่ ยืนปรำแล้วเดินเวียนหน้าสนามชัยตามธรรมเนียมโบราณจารีตสืบมา
เวลาบ่าย ๕ โมงเศษพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกพระที่นั่งสุทไธศวริยปราสาทพร้อมพระบรมวงศานุวงศ์ข้าทูลละอองธุลืพระบาทผู้ใหญ่ผู้น้อยเฝ้าตามตำแหน่ง โปรดเกล้า ฯ ให้เรียกกระบวนคเชนทรัสวรสนานมาตามถนนสนามชัย มีคู่แห่และกลองชะนะช้างวอพระชัย พระยาช้างเผือก คือพระวิมลรัตนกิริณี พระเศวตรวรลักษณ์ พระเศวตรสกลวโรภาศ พระเทพรัตนกิริณี พระศรีสวัสดิ์เศวตรวรรณ และพระยาช้างพระที่นั่งต้น ช้างพระคชาธาร พระยาม้าพระที่นั่งต้นและม้าแซงและทหารปืนใหญ่รอยัลแอตตัลรี ๓ บอก ทหารแตรและทหารหน้า ๘๐๐ เศษ ทหารแตรทหารช้าง ๑๐๐ เศษ ทหารปืนใหญ่ในกรมทหารรักษาวัง ๑๒ บอก ทหารปืนเล็กรักษาวัง ๗๐๐ เศษ ทหารม้าทหารหน้า ๕๐ เศษ ทหารม้าเกราะทอง ๔๐ เศษ ครั้นสิ้นกระบวนแล้วเสด็จมาประทับตรัสกับสมเด็จกรมพระครู่หนึ่ง เวลาย่ำค่ำเสด็จขึ้น
เวลา ๒ ทุ่มเศษ พระองค์สวัสดิ์เข้าไปเฝ้าข้างในทรงหนังสือราชการต่าง ๆ
วัน ๕ ๖ฯ ๑๑ ค่ำ ปีวอก ฉศก จุลศักราช ๑๒๔๖
เวลาบ่าย ๕ โมงเศษเสด็จออกห้องออกขุนนาง ทรงปิดทองพระแล้วเสด็จขึ้นพระแท่นออกขุนนาง พระยาศรีอ่านบอกหลวงอนุชิตพิทักษ์ ข้าหลวงผู้รักษาเมืองนครนายกรายงานน้ำฝนต้นข้าว พระอาทิตย์ยกขึ้นราศีสิงห์สิ้นราศี ฝนตกรองน้ำได้ ๑๙ นิ้ว ๙ ทสางค์ มากกว่าปีกลายนี้ ๑ นิ้ว ๕ ทสางค์ น้ำท่าราศีนี้ ๒-๐-๔ ศอก น้อยกว่าปีกลาย ๑-๐-๕ ศอก ฉะบับ ๑ บอกหลวงศรีสิทธิรักษ์ผู้ช่วยเมืองอ่างทองรายงานน้ำฝนราศีสิงห์สิ้นราศี ฝนตกรองน้ำได้ ๗ นิ้ว ๗ ทสางค์ เท่ากับปีมะแม น้ำท่าราศีสิงห์ปีนี้ ๑-๐-๙ ศอก น้อยกว่าปีกลาย ๑-๐-๘ ศอก ฉะบับ ๑ บอกพระยาสุนทรสงครามเมืองสุพรรณบุรี รายงานน้ำฝนต้นข้าวในราศีสิงห์ ฝนตกรองน้ำได้ ๑ นิ้ว ๔ ทสางค์ มากกว่าปีกลาย ๑๑ นิ้ว ๔ ทสางค์ น้ำท่าน้อยกว่าปีกลาย ๑-๐-๘ ศอก
พระนรินทรอ่านบอกพระยาเทพประชุนว่า ได้รับหนังสือพระยามนตรีผู้ว่าราชการกรมพระกลาโหมส่งหนังสือพระยาอัศฎงค์ออกไปว่าเมืองปะหังเกิดรบกัน ได้ทราบว่าเมืองตรังกานูจะช่วย ให้ห้ามเสียนั้นได้มีหนังสือให้หลวงสรเสนีผู้ถือหนังสือออกไปนั้น นำไปให้พระยาสมบัติภิรมย์ณเมืองตรังกานูแต่ณวันที่ ๑ ๓ฯ ๑๐ ค่ำ ครั้นวัน ๗ ๙ฯ ๑๐ ค่ำ หลวงสรเสนีถือหนังสือพระยาสมบัติภิรมย์มา มีความว่า พระยาตรังกานูแจ้งความว่าที่เมืองปะหังเกิดการวุ่นวายกันนั้นหาได้มาขอกำลังและศาสตราวุธไม่ เมืองตรังกานูก็ไม่คิดที่จะช่วยเมืองปะหัง และว่าพระยาตรังกานูได้ออกประกาศห้ามปรามราษฎรเมืองตรังกานูแล้ว และสืบได้ความว่าน้องต่างมารดาเจ้าเมืองปะหังขัดเคืองกัน ไปอยู่เมืองยโฮจะยกมาตีเมืองปะหัง ฉะบับ ๑ บอกพระยาตรังกานูเรื่องเมืองปะหัง ความต้องกันกับบอกพระยาเทพ อีกฉะบับ ๑ ตอบด้วยได้รับตราเรื่องจีนฟ้องว่าคนเมืองตรังกานูฆ่าจีนตาย ๒ คน และว่ารื้อศาลเจ้าขุดที่ฝั่งศพจีนทิ้งเสียนั้น ข้อที่ว่าเจะยี่ฆ่าคนตายนั้น เดิมได้ชำระครั้งหนึ่งแล้ว เจะยีขอเสียเงินค่าเผาผี ๖๖ เหรียญครั้งนี้พระยาสมบัติภิรมย์ชำระใหม่ ตัดสินให้เสียค่าเผาผี ๒๕๒ เหรียญ แล้วพวกจีนไม่ยอม และที่หาว่ารื้อศาลเจ้าและที่ฝังศพนั้นไม่จริง ได้มีประกาศห้ามราษฎรแล้วมิให้ทำการข่มเหงพวกจีนเลย
พระยาพิพัฒน์อ่านบอกพระยาสมุทรสาครถวายพระราชกุศลทำบุญ และตามประทีปโคมไฟมีการเล่นในวันเฉลิมพระชนม์พรรษา ฉะบับ ๑ บอกพระยาสมุทรบุรานุรักษ์เมืองสมุทรปราการ รายงานน้ำฝนต้นข้าว พระอาทิตย์ยกขึ้นราศีเมถุนสิ้นราศี ฝนตกรองน้ำได้ ๔ ทสางค์ น้อยกว่าปีกลาย ๔ นิ้ว ๘ ทสางค์ ราศีสิงห์รองน้ำได้ ๗ ทสางค์ น้อยกว่าปีกลาย ๒ นิ้ว ๒ ทสางค์ ราศีกันย์ ๘ ทสางค์น้อยกว่าปีกลาย ๘ ทสางค์ เสด็จขึ้นประทับออฟฟิศครู่ ๑ เสด็จไปประทับซิตติงรูม พระองค์สวัสดิ์เฝ้าทรงหนังสือราชการ กรมหมื่นเทววงศ์เฝ้า แล้วพระองค์สายเฝ้าถวายบังคมลาไปราชการเมืองจันทบุรี เวลาทุ่มเศษเสด็จขึ้น
เวลา ๒ ทุ่มเศษพระ องค์สวัสดิ์เข้าไปเฝ้าข้างในทรงหนังสือราชการ
วัน ๖ ๗ฯ ๑๑ ค่ำ ปีวอก ฉศก จุลศักราช ๑๒๔๖
เวลาบ่าย ๔ โมงเศษเสด็จออกประทับห้องออกขุนนาง ทรงปิดทองพระและพระคัมภีร์ แล้วเสด็จขึ้นพระแท่นออกขุนนาง
พระนรินทร์อ่านบอกพระอินทรเดช หลวงภูเบนทรสิงหนาท ข้าหลวงว่าได้ชำระความที่โจทก์จำเลยยื่นเรื่องราวต่อข้าหลวงคนก่อนนั้นเปรียบเทียบแล้วไป ๙ เรื่อง และว่านายหรุ่นโจทก์ พระยาสุรินทรที่ทุเลาร้องฎีกากลับออกไปได้บังคับให้นายหรุ่นว่าความตามท้องตราก็ไม่ยอม ว่าได้ถวายฎีกาไว้แล้ว จึงบังคับให้ทำทานบนไว้ฉะบับ ๑ ว่าได้ถวายฎีกาไว้แล้ว และว่าได้บังคับให้พระยาเพชรบุรีจัดคนคุมผู้ร้าย ๓๐ คนเข้ามาแล้ว ฉะบับ ๑ บอกพระยาเพชรบุรีส่งผู้ร้าย ๓๐ คนเหมือนบอกพระอินทรเดช (รับสั่งว่าได้สั่งฎีกาคืนไปแล้ว) แล้วนำพระอินทรเดช หลวงภูเบนทรสิงหนาทเฝ้า
พระยาพิพัฒน์อ่านบอกพระยาชลบุรานุรักษ์เมืองชลบุรี ส่งเงินปี้จีนจำนวนปีมะเมีย จัตวาศก ได้จีน ๑๖๑๘ คนๆละ ๑ ตำลึง เป็นเงิน ๘๐ ชั่ง ๑๘ ตำลึง ได้ส่งครั้งก่อน ๔๐ ชั่ง ครั้งนี้ ๓๔ ชั่ง ๑ ตำลึง รวมเงินส่งแล้ว ๗๔ ชั่ง ๑ ตำลึง ยังค้างหลวงคลังสินค้า ๖ ชั่ง ๑๗ ตำลึง มากกว่าปีเถาะเอกศก ๖๓ คน ฉะบับ ๑ บอกพระยาสาครสงครามเมืองบางละมุง ว่าอำแดงหนูพาอำแดงคงภรรยาอ้ายเรืองมาแจ้งความว่า อ้ายเรื่องกับนายเงินผู้อาศัยอยู่กินเหล้าด้วยกัน แล้วอ้ายเรื่องว่าจะไปบางพระ อำแดงคงว่าจะไปด้วย อ้ายเรื่องโกรธฟันอำแดงคงๆ หนีไปอยู่กับอำแดงหนู ครั้นเวลาค่ำได้ยินเสียงปืนที่ห้างอ้ายเรืองนัดหนึ่ง ครั้นเช้าไปดูพร้อมด้วยอำแดงหนู เห็นนายเงินผู้อาศัยถูกปืนตาย แต่อ้ายเรืองหาเห็นไม่ ได้เอาตัวอำแดงคงไว้
พระยาศรีนำพระพิเรนทรเทพ ขุนพรหมรักษากราบถวายบังคมลาไปชำระความรายหนานแดงเมืองน่าน ยื่นเรื่องราวกล่าวโทษมองคุณว่า ลักไม้ของตัวขายกับมิสเตอร์สมิทสับเยกต์ฮอลันดาที่สวรรคโลก และพระยาสวรรคโลกก็บอกกล่าวโทษว่านายคุณขึ้นไปสมคบกับพรรคพวกทำการขันแข็งต่ออำนาจบ้านเมือง จึงโปรดให้ขึ้นไปชำระให้เรียบร้อย
พระราชทานสัญญาบัตร หม่อมแดงเป็นหม่อมเทวาธิราช ราชนิกูล ๑ นายอยู่ผู้ว่าที่พระวิเศษสงครามเป็นพระวิเศษสุรศักดา จางวางทหารปืนเมืองจันทบุรี ๑ แล้วเสด็จขึ้นประทับออฟฟิศ รับสั่งกับกรมหมื่นเทววงศ์ครู่หนึ่งเสด็จขึ้นบ่าย ๕ โมงเศษ
เวลา ๔ ทุ่มพระองค์สวัสดิ์เข้าไปเฝ้าข้างใน
วัน ๗ ๘ฯ ๑๑ ค่ำ ปีวอก ฉศก จุลศักราช ๑๒๔๖
เวลาบ่าย ๕ โมงเศษ เสด็จออกทางประตูแถลงราชกิจ เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชเทวี พระนางเธอและข้าทูลละอองธุลีพระบาทฝ่ายใน เสด็จประพาศพระราชอุทธยานสราญรมย์ จนเวลาย่ำค่ำเสด็จกลับพระบรมมหาราชวัง
วัน ๑ ๙ฯ ๑๑ ค่ำ ปีวอก ฉศก จุลศักราช ๑๒๔๖
เวลาบ่าย ๔ โมงเศษ เสด็จออกประทับห้องออกขุนนาง ทรงปิดทองพระแล้ว เสด็จขึ้นพระแท่นออกขุนนาง
พระยาศรีอ่านบอกพระโบราณพระพิทักษ์ปลัดกรุงเก่า รายงานน้ำฝนต้นข้าวกึ่งราศีข้างท้าย ฝนตกรองน้ำได้ ๑๖๐ เซ็นต์ รวมในราศีสิงห์ ๙๔๒ เซ็นต์มากกว่าปีกลาย ๑๗๖ เซ็นต์ น้ำท่าน้อย ๙ นิ้ว
พระนรินทรอ่านบอกหลวงทรงสุรเดชข้าหลวง พระวิชิตชาญณรงค์ พระพิไชยชลสินธุ์ ๓ ฉะบับ ๆ ๑ ส่งความเรื่องมองโลกะฟ้องว่าอ้ายโห้ฆ่ามองอินตตาย ทั้งคนที่ต้องหาเข้ามา ฉะบับ ๑ อำแดงอิ่มภรรยาจีนปึ้ง มาทำคำกฎหมายตราสินว่า มีผู้ร้ายประมาณ ๑๘ คนขึ้นปล้นเอาปืนยิงจีนปึ้งถูกตาบอดข้างหนึ่งเก็บทรัพย์สมบัติไป ๑๑๐๐ บาทเศษ สืบจับได้ตัวอ้ายไทยผู้ร้ายมาถามรับเป็นสัตย์ ซัดเพื่อน ว่าอ้ายชูเป็นต้นคิดกับคนอื่น ๆ อีกหลายคน ข้าหลวงได้มอบให้กรมการชำระอีกต่อไป ฉะบับ ๑ ว่า พระพิไชยชลสินธุ์จับอ้ายปานหนวดมาส่งว่าไล่ฟันคนเข้าไปในบ้าน ได้ซักถามต่อไปรับว่าได้ฆ่าคนตายในแขวงเมืองเพชร ได้ส่งเข้ามา
พระยาพิพัฒน์อ่านบอกพระยานนทบุรี ๒ ฉะบับๆ หนึ่งถวายพระราชกุศลที่เลี้ยงพระสวดมนต์ และจุดประทีปโคมไฟในวันเฉลิมพระชนม์พรรษา ฉะบับ ๑ รายงานน้ำฝนต้นข้าว พระอาทิตย์ยกขึ้นราศีกรกฎสิ้นราศีรองน้ำได้ ๑๑ นิ้ว ๒ ทสางค์ มากกว่าปีกลาย ๒ นิ้ว ๓ ทสางค์ ราศีสิงห์รองน้ำได้ ๑๙ นิ้ว น้อยกว่าปีกลาย ๖ นิ้ว ๔ ทสางค์ นำท่ามากกว่าปีกลาย ๘ ศอก
แล้วพระราชทานตรามงกุฎสยามชั้นที่ ๔ ภัทราภรณ์ แก่หม่อมเจ้าสวนในกรมหมื่นอินทรพิพิธ ทรงพระราชดำริว่ารับราชการมานานแล้ว เสด็จขึ้นประทับออฟฟิศครู่หนึ่ง เสด็จไปประทับซิตติงรูม เจ้าหมื่นเสมอใจเฝ้าถวายกระโถนทองคำ ๒ ใบซึ่งโปรดให้สั่งเข้ามา กรมหมื่นเทววงศ์เฝ้า แล้วพระองค์สวัสดิ์เฝ้าทรงพระราชหัตถ์สั่งพระราชกิจทั้งปวงจนทุ่ม ๑ เสด็จขึ้น
เวลา ๒ ทุ่มพระองค์สวัสดิ์เข้าไปเฝ้าข้างในจน ๔ ทุ่มเศษ
วัน ๒ ๑๐ฯ ๑๑ ค่ำ ปีวอก ฉศก จุลศักราช ๑๒๔๖
เวลาบ่าย ๕ โมงเสด็จออกประทับห้องออกขุนนาง ทรงปิดทองพระแล้วเสด็จขึ้นพระแท่นออกขุนนาง
พระยาศรีอ่านบอกพระโบราณพระพิทักษ์ปลัดกรุงเก่า ๒ ฉะบับ ๆ ๑ เลี้ยงพระสวดมนต์และถือน้ำ พร้อมด้วยกรมการผู้ใหญ่ผู้น้อยด้วย ฉะบับ ๑ ถวายพระราชกุศลทำบุญสวดมนต์เลี้ยงพระตามประทีป ๓ วัน ในวันเฉลิมพระชนม์พรรษา ฉะบับ ๑ บอกพระยาสุรบดินทรเมืองไชยนาทถวายพระราชกุศลทำบุญสวดมนต์เลี้ยงพระ และตามประทีปโคมไฟ ๓ วันในการเฉลิมพระชนม์พรรษา ฉะบับ ๑ บอกพระศรีสิทธิสงครามปลัดผู้รักษาเมืองพิจิตร ได้เรียกนายกองส่วยขี้ผึ้งมาเร่งได้เงินแทนขี้ผึ้งส่วย ๕ ชั่ง ๑๔ ตำลึง คิดเป็นขี้ผึ้ง ๔ หาบ ๕๖ ชั่ง ให้หลวงศรีรักษาพลนายกองส่วยผึ้งคุมมาส่ง
พระนรินทรอ่านบอกพระยากภักดีนฤบดินทร พระยาอัมรินทรฤาไชยเมืองราชบุรี ๒ ฉะบับ ๆ หนึ่งว่าได้แต่งกรมการพร้อมด้วยเสนาออกเดิน ประเมินเก็บเงินค่านาจำนวนปีมะแม เบญจศก ได้เงินครั้งนี้ ๙๐ ชั่ง ส่งเข้ามาครั้งหนึ่งก่อน ยังไม่เสร็จสิ้นจำนวนนา ฉะบับ ๑ รายงาน น้ำฝนในราศีกรกฎ รองน้ำได้ ๓ นิ้ว ๓ ทสางค์ น้อยกว่าปีมะแม ๑ นิ้ว ราศีสิงห์รองน้ำได้ ๗ นิ้ว ๑ ทสางค์ มากกว่าปีมะแม ๒ นิ้ว น้ำท่าราศีกรกฎน้อยกว่าปีกลาย ๓-๑-๙ ศอก ราศีสิงห์น้อยกว่า ๓-๐-๐ ศอก
เสด็จประทับออฟฟิศ พระวิภาคภูวดลเฝ้าถวายแผนที่เมืองลาวฝ่ายตะวันออก พระชลยุทธเฝ้าถวายรูปพระเมรุสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทาของมิสซิสอาลบาสเตอถวาย แล้วเสด็จลงไปทรงรถพระที่นั่ง เสด็จไปประทับหน้าตึกโรงทหารหน้า เสด็จขึ้นไปประทับบนโรงพร้อมด้วยออฟฟิศเซอร์ทหารผู้ใหญ่ผู้น้อยเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เสด็จทอดพระเนตรทั่วทั้งบาแรก ๆ นี้ทำสะอาดงดงามมั่นคงดี มีที่ไว้สรรพศาสตราวุธทั้งหลาย และเครื่องตกแต่งกายมีเสื้อหมวกเป็นต้น ตั้งแต่งเป็นลำดับกันและรูปทหารยุโรปตั้งแต่งเป็นอันมาก มีสนามหัดและสระน้ำและตึกไว้กระสุนดินดำ และโรงหมอรักษาไข้ โรงม้าโรงหัดม้ามีเป็นอันมาก เวลาเกือบทุ่มเสด็จกลับพระบรมมหาราชวัง
เวลา ๒ ทุ่มกรมหมื่นศิริธัช พระองค์สวัสดิ์เข้าไปเฝ้าข้างในทรงเรื่องความต่าง ๆ จนเวลา ๔ ทุ่มกลับออกมา
วัน ๓ ๑๑ฯ ๑๑ ค่ำ ปีวอก ฉศก จุลศักราช ๑๒๔๖
เวลาบ่าย ๔ โมงเศษ เสด็จออกประทับห้องออกขุนนาง ทรงปิดทองพระแล้ว เสด็จขึ้นพระแท่นออกขุนนาง
พระนรินทรอ่านบอกพระยารัตนโกษาข้าหลวง ว่าไปจากเมืองปีนังถึงเมืองภูเก็ต พระอนุรักษ์โยธาหลวงนราธิกรฤทธิ์ข้าหลวง พระยาภูเก็ตกรมการรับรองเลี้ยงดูแข็งแรงและจะได้วางตราเร่งเงินภาษีอากรแก่เจ้าเมืองตะวันตกทั่วกัน แล้วจึงจะบอกเข้ามาครั้งหลัง
เสด็จประทับอยู่ครู่หนึ่งเสด็จขึ้นประทับออฟฟิศ รับสั่งกับกรมหมื่นเทววงศ์ และกัปตันลอฟตัส หมอกาวันเฝ้าครู่หนึ่ง เสด็จไปประทับซิตติงรูม พระองค์สวัสดิเฝ้าทรงหนังสือราชการ แล้วกรมหมื่นเทววงศ์เฝ้า รับสั่งเรื่องความเมืองนครศรีธรรมราช เก็บภาษีโคกระบือแขกสับเยกต์ไม่ยอมเสีย และทรงเรื่องความต่างประเทศจนเวลาเกือบทุ่ม กรมหมื่นพรหมเฝ้าถวายตัวอย่างธงริยะแมนทหารรักษาวัง แล้วเสด็จขึ้น
เวลาทุ่มเศษพระองค์สวัสดิ์เข้าไปเฝ้าข้างใน ทรงหนังสือราชการจนเวลา ๔ ทุ่ม กลับออกมาจากข้างใน
วัน ๔ ๑๒ฯ ๑๑ ค่ำ ปีวอก ฉศก จุลศักราช ๑๒๔๖
เวลาบ่าย ๕ โมงเศษเสด็จออกประทับห้องออกขุนนาง ทรงปิดทองพระ แล้วเสด็จขึ้นพระแท่นออกขุนนาง
พระยาศรีอ่านบอกพระยาสุนทรสงครามเมืองสุพรรณบุรีว่า ได้แต่งกรมการพร้อมด้วยเสนาออกเดินประเมินเก็บเงินค่านาได้ส่งมาครั้งก่อน ๑๔๐ ชั่ง เก็บได้ครั้งนี้อีก ๑๖๐ ชั่ง ให้กรมการและเสนาคุมเข้ามาส่งรวม ๒ ครั้ง ๓๐๐ ชั่ง ยังไม่เสร็จสิ้นจำนวน
พระนรินทรอ่านบอกพระยาเทพประชุนว่าได้รับตราพระคชสีห์อนุญาตให้กลับเข้ามา เพราะโจทก์จำเลยก็เจ็บป่วยและไข้เจ็บชุกชุมนั้น พระยายิริงก็หายป่วยแล้ว ได้บังคับให้สืบพะยานกันและให้สืบความข้อที่ว่าเจ้าพระยาสงขลาแต่งให้คนไปเก็บภาษีอากรเมืองยิริงแล้ว ถ้าได้ความอย่างไรก็จะแบ่งปันให้เป็นส่วนหลวงและส่วนเมืองยิริงบ้างตามสมควร และเรื่องเหมืองแร่ทองเมืองระแงะนั้น ได้หาตัวพระยาระแงะและจีนจองซึ่งเจ้าพระยาสงขลาตั้งเป็นหลวงสุวรรณภูมิไปเก็บภาษีทองแก่พวกจีนที่ทำแร่นั้นมาว่ากล่าวตกลงแล้วให้หลวงสุวรรณภูมิทำเป็นภาษีขึ้นกรุงเทพ ฯ ปีละ ๓๑ ตำลึงแขก ตั้งแต่ปีวอกไป
พระยาพิพัฒน์อ่านบอกพระยานนทบุรีว่า นายเอมอำแดงแก้วฟ้องว่ามีผู้ร้าย ๑๑-๑๒ คนขึ้นปล้นเรือน มีสาเหตุกับอำแดงคำ ได้เรียกตัวอำแดงคำมาถามไม่รับ ยังสืบสวนต่อไป
เสด็จขึ้นประทับออฟฟิศครู่หนึ่ง แล้วเสด็จไปประทับซิตติงรูม พระองค์สวัสดิ์เฝ้าทรงหนังสือราชการบ้าง แล้วกรมหมื่นเทววงศ์เฝ้ารับสั่งเรื่องสั่งของ ด้วยวันนี้หีบทรงพระอักษรใบเล็กซึ่งโปรดให้พระองค์เจ้าโสณบัณฑิตย์ออกไปทำที่ลอนดอนเข้ามาถึงใหม่กำลังทรงอยู่เมื่อเวลานั้นด้วย เวลาทุ่มเศษเสด็จขึ้น
เวลา ๔ ทุ่มพระองค์สวัสดิ์เข้าไป เฝ้าข้างในจน ๕ ทุ่มกลับออกมา
วัน ๕ ๑๓ฯ ๑๑ ค่ำ ปีวอก ฉศก จุลศักราช ๑๒๔๖
เวลาบ่ายวันนี้ มิสเตอร์ปีเอศ ฮาเมล กงสุลเยเนอราลฮอลันดา จะได้เข้าเฝ้าถวายพระราชสาส์นสมเด็จพระเจ้าวิลเลี่ยมที่ ๓ กรุงนิเทอแลนด์ถวายแสดงข่าวเศร้าโศกด้วยปรินซ์ออเรนซ์พระราชบุตรสิ้นพระชนม์ จะได้เฝ้าที่พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท มีตำรวจ มหาดเล็กทหารแต่งเต็มยศเฝ้าบนพระที่นั่ง หน้าพระที่นั่งมีกาศออเนอ ๒๐๐ แตรวง ๑
เวลาบ่าย ๔ โมงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงฉลองพระองค์ครึ่งยศทหาร ทรงเครื่องราชอิสสริยยศนิเทอแลนด์ไลออนของกรุงนิเทอแลนด์ เสด็จออกประทับดรอนิงรูม ตำรวจมหาดเล็กทหารเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เจ้าพนักงานกรมวัง กรมท่า ราชแอดเดอแกมป์นำมิสเตอร์ปี เอส ฮาเมล กงสุลเยเนอราลฮอลันดาเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาททูลเกล้า ฯ ถวายพระราชสาสน์กรุงนิเทอแลนด์ พระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชปฏิสันถารและแสดงพระราชหฤทัยเศร้าโศกด้วยสมเด็จพระเจ้ากรุงนิเทอแลนด์ แล้วกงสุลถวายบังคมลากลับไป
เสด็จประทับห้องออกขุนนางทรงปิดทองพระแล้วพระองค์สวัสดิ์เฝ้า ทรงพระราชหัตถ์ครู่หนึ่งเสด็จขึ้นพระแท่นออกขุนนาง
พระนรินทรอ่านบอกพระยาสุรินทรฤาไชยเมืองเพ็ชรบุรีถวายพระราชกุศลทำบุญสวดมนต์เลี้ยงพระในการเฉลิมพระชนม์พรรษาและได้ตามประทีปโคมไฟ ๓ วัน ฉะบับ ๑ บอกพระขยันสงครามปลัดเมืองนครเขื่อนขันธ์ ถวายพระราชกุศลสวดมนต์เลี้ยงพระและตามประทีปในการเฉลิมพระชนม์พรรษา ๓ วัน
แล้วพระราชทานสัญญาบัตรขุนท่องสื่อคนเก่า เป็นหลวงมงคลรัตนราชมนตรี ๑ นายเวทมหาดเล็ก เป็นหลวงอุปการโกษากร กรมพระคลังมหาสมบัติ ๑ ขุนศรีสำรวจเป็นจ่าชำนาญทั่วด้าว สำหรับจางวางตำรวจขวา ๑ หม่อมสนิททหารมหาดเล็ก เป็นสุบลุตเตอเนนต์ อินเยอเนียทหารมหาดเล็ก ๑ นายเสงี่ยมซายันเมเยอ เป็นแอสซิสเตนควอเตอมาศเตอ ทหารมหาดเล็ก ๑ นายปาน เป็นสับลุตเตอร์แนนด์อินยิเนียทหารมหาดเล็ก ๑ แล้วเสด็จขึ้นข้างในที่เดียว
วัน ๖ ๑๔ฯ ๑๑ ค่ำ ปีวอก ฉศก จุลศักราช ๑๒๔๖
เวลาเช้าเจ้าพนักงานเชิญพระบรมโกศพระบรมอัฐิในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวขึ้นสถิตย์บนบุษบกทองคำแว่นฟ้าทองคำ มีเครื่องสูงบังแซกล้อม เชิญพระประจำวันพระชันษาตั้งบนพระที่นั่งเศวตรฉัตรณพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย มีแตรสังข์มโหระทึกกลองชะนะประโคมตามเวลา ด้วยวันนี้เป็นดิถีมหาประสูติมงคลสมัยในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวตามจันทรคติกาล
เวลาเช้า ๔ โมงเศษเสด็จออกประทับพระที่นั่งอมรินทร ทรงจุดเทียนนมัสการ พระเทพกระวีถวายศีล แล้วพระสงฆ์วัดที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงซ่อมแซมและวัดธรรมยุติการวม ๒๐ รูปถวายพรพระจบแล้ว เสด็จทรงทอดผ้าไตร ๒๐ พระสงฆ์ ๒๐ รูป สดับปกรณ์แล้วรับพระราชทานฉัน ๆ แล้วถวายอนุโมทนาถวายอติเรกถวายพระพรลากลับไป สดับปกรณ์อีก ๑๐๐ แล้วพระราชทานเงินพระบรมวงศานุวงศ์แล้วเสด็จขึ้น
เวลายามเศษโปรดให้สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศเสด็จไปทรงจุดเทียนที่พระที่นั่งอมรินทร พระสงฆ์ที่รับพระราชทานฉันเมื่อเช้า สวดธรรมจักกัปวัตนสูตร เวลา ๔ ทุ่มเศษเสด็จออกพระที่นั่งอมรินทร ทรงทอดผ้าเช็ดปากเช็ดหน้าธูปเทียนสดับปกรณ์อีก ๒๐ ตามเคย แล้วทรงจุดเทียนทรงธรรม พระเทพโมฬีขึ้นถวายเทศนาทานมัยกัณฑ์ ๑ เทศน์จบเสด็จทรงประเคนไตรแพรและบริกขารสมณบริโภคกับวัตถุจัตุปัจจัยเป็นมูลค่า ๑๐ ตำลึง พระสงฆ์ถวายอติเรกถวายพระพรลาไป เวลา ๒ ยามเศษทรงลอยประทีปตามจารีตบุพพราชประเพณีสืบมา เวลา ๗ ทุ่มเศษเสด็จขึ้น
วัน ๗ ๑๕ฯ ๑๑ ค่ำ ปีวอก ฉศก จุลศักราช ๑๒๔๖
เวลาเช้า ๔ โมงเศษเสด็จออกพระที่นั่งอมรินทร ทรงจุดเทียนนมัสการแล้ว ทรงศีลแล้วทรงทอดผ้าไตร ๒๐ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ถานาเปรียญอันดับวัดราชประดิษฐ ๒๐ รูปสดับปกรณ์ แล้วทรงประเคนพระสงฆ์รับพระราชทานฉัน ครั้นฉันแล้วพระสงฆ์ถวายอนุโมทนาอติเรกถวายพระพรลากลับไป แล้วสดับปกรณ์อีก ๑๐๐ ด้วยวันนี้เป็นวันดิถีที่เสด็จสวรรคตแห่งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวตามจันทรคติกาล แล้วพระราชทานเงินส่วนที่ตึกหน้าวัดประยูรวงศารามแก่พระราชโอรส พระราชนัดดาในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวตามเคย และพระราชทานเงินสลึงพระบรมวงศานุวงศ์แล้วเสด็จขึ้น
เวลา ๔ ทุ่มเศษเสด็จออกประทับพระที่นั่งอมรินทร ทรงจุดเทียนนมัสการ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ พระสงฆ์ ๒๐ รูปสวดอนัตตลักขณสูตรจบแล้ว ทรงทอดผ้าเช็ดหน้าเช็ดปากธูปเทียนสดับปกรณ์ แล้วทรงจุดเทียนทรงธรรม เจ้าพระประภากรขึ้นถวายเทศนาศีลมัยกัณฑ์ ๑ จบลงทรงประเคนไตรแพรสมณบริกขารต่าง ๆ และวัตถุจัตปัจจัยเป็นมูลค่า ๑๐ ตำลึง พระสงฆ์ถวายอติเรกถวายพระพรลากลับไป เวลา ๒ ยามเสด็จลงทรงลอยพระประทีปตามธรรมเนียมโบราณจารีตขัติยประเพณีสืบมา เวลา ๗ ทุ่มเสด็จขึ้นประทับพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท
อนึ่งเมื่อทรงธรรมนั้น ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานตั้งกรรมสัมปาทิกสภาผู้จัดการหอพระสมุดวชิรญาณซึ่งเปลี่ยนใหม่ตามกฎหมายของหอพระสมุดนั้น ด้วยวันนี้เป็นวันเคารพรอบที่จะต้องเปลี่ยนผู้จัดการหอพระสมุด พระราชโอรสพระราชนัดดาผู้มีหุ้นส่วนและสมาชิกทั้งปวงพร้อมกันเลือกต่าง ๆ กัน แต่ที่ตกลงตามความนิยมของสมาชิกเป็นอันมากนั้นเลือกกรมหมื่นเทววงศ์วโรประการเป็นสภานายก ๑ พระองค์เจ้าไชยานุชิตเป็นเลขาธิการ ๑ แล้วกรมหมื่นเทววงศ์สภานายกเลือกกรรมสัมปาทิกผู้ช่วยตามธรรมเนียมเดิม ๔ องค์ คือ กรมหมื่นประจักษ์เป็นปฏิคมผู้รับรองสมาชิก ๑ พระองค์สวัสดิ์เป็นบรรณารักษ์ผู้รักษาหนังสือในหอ ๑ พระองค์ดิศวรกุมารเป็นสารานิยกรเจ้าพนักงานหนังสือพิมพ์ที่จะออก ๑ พระองค์เจ้าศรีเสาวภางค์เป็นเหรัญญิกผู้เก็บเงินตรวจเงิน ๑ และเลือกกรรมสัมปาทิกที่เป็นขุนนางเพิ่มใหม่อีก ๒ นายสำหรับเป็นผู้ช่วยการหนังสือพิมพ์ คือพระยาภาศกรวงศ์ ๑ พระยานรรัตน ๑ อุปนายกนั้นสมาชิกฝ่ายในเลือกพระองค์เจ้าประภัศรเป็นอุปนายก ๑ ท่านทั้งปวงนี้ได้รับพระราชทานตราตั้งในเวลาวันนี้ทั้งนั้น
วันนี้สมเด็จกรมพระ กรมหมื่นเทววงศ์ โหรมีชื่อทั้งปวงคำนวณจันทรุปราคาถวายเวลา ๙ ทุ่มมีนาฑีต่าง ๆ กัน เจ้าพนักงานตั้งพระแท่นสรงมุรธาภิเศกสนานข้างพระที่นั่งราชฤาดี กรมแสงตั้งกล้องส่องตามธรรมเนียมด้วย ครั้นเวลา ๙ ทุ่ม ๕๗ นาที ขอบมณฑลพระจันทร์ขาดข้างทิศบูรพาเป็นจันทรุปราคา โหรสั่งประโคมพิณพาทย์แตรสังข์ฆ้องชัยตามโบราณจารีตสืบมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกพระที่นั่งราชฤาดี ทรงผลัดพระภูษาผ้าทรงสพักโขมพัตร เสด็จเข้าสู่ที่สรงมุรธาภิเศกสนาน เจ้าพนักงานประโคมแตรสังข์ฆ้องชัยพิณพาทย์ ภูษามาลา ถวายพระเต้าต่าง ๆ เป็นอันมาก ชาวที่ถวายพระเต้า ๕ กระษัตร์ พราหมณ์ถวายน้ำพระมหาสังข์ต่าง ๆ เป็นอันมาก สรงแล้วเสด็จประทับพระที่นั่งสนามจันทร์ พระราชทานเงินพระบรมวงศานุวงศ์ข้าราชการผู้ใหญ่ผู้น้อยเป็นอันมาก พระราชทานรางวัลกรมหมื่นประจักษ์และกรมหมื่นเทววงศ์ ซึ่งได้ทรงถวายคำนวณว่า ๘ ทุ่ม ๕๗ นาฑีถูกทั้ง ๒ พระองค์ ๆ ละ ๕ ตำลึง หมื่นวิจารณ์ภักดีโหรคำนวณเวลา ๘ ทุ่ม ๕๒ นาฑีบาทใกล้ ๓ ตำลึง ครั้นเวลา ๑๐ ทุ่มพระจันทร์เข้าในฉายา เคราะห์สิ้นดวงเป็นสัพคาธ เวลา ๑๐ ทุ่มเศษเสด็จขึ้น เวลาโมกขบริสุทธิ์นั้นรุ่งแล้วไม่เห็นพระจันทร์
วัน ๑ ๑ฯ ๑๑ ค่ำ ปีวอก ฉศก จุลศักราช ๑๒๔๖
เวลาเช้า ๔ โมงเศษโปรดเกล้า ฯ ให้สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเสด็จไปพระที่นั่งอมรินทร ทรงจุดเทียนนมัสการพระราชาคณะพระครูถานา ๒๘ รูป ถวายพรพระแล้วทรงประเคน เจ้าพนักงานภูษามาลาเชิญพระบรมอัฐิออกมา เชิญขึ้นประดิษฐานบนพระที่นั่งเสวตรฉัตรและโต๊ะจีน เวลาบ่ายเสด็จออกพระที่นั่งอมรินทร ทรงทอดผ้า พระสงฆ์ที่รับพระราชทานฉัน ๒๔ รูปสดับปกรณ์ เป็นกาลานุกาลตามสมัยเช่นเคยทรงบำเพ็ญพระราชกุศล อีก ๔ รูปนั้นขึ้นไปสดับปกรณ์ในพระราชวังบวร พระสงฆ์ถวายอนุโมทนาอติเรกถวายพระพรลา โปรดให้สดับปกรณ์อีก ๕๐๐ เสด็จขึ้น
เวลายามเศษโปรดให้สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเสด็จไปทรงธรรม พระอมรโมฬีถวายเทศนาภาวนามัยกัณฑ์ ๑ เทศน์จบทรงประเคนไตรแพรสมณบริกขารและวัตถุจัตุปัจจัยเป็นมูลค่า ๑๐ ตำลึง แล้วพระสงฆ์ถวายอติเรกถวายพระพรลาไป
อนึ่งเวลา ๒ ทุ่มเศษพระองค์สวัสดิ์เข้าไปเฝ้าข้างในจนเวลา ๔ ทุ่มเศษ
เวลา ๕ ทุ่มเศษเสด็จทรงลอยพระประทีปตามธรรมเนียมโบราณจารีตสืบมา เวลา ๒ ยามเศษเสด็จขึ้น
วัน ๒ ๒ฯ ๑๑ ค่ำ ปีวอก ฉศก จุลศักราช ๑๒๔๖
เวลาบ่าย ๔ โมงเศษเสด็จออกประทับห้องออกขุนนาง ทรงปิดทองพระ แล้วเสด็จขึ้นพระแท่นออกขุนนาง
พระยาศรีอ่านบอกพระโบราณบุรานุรักษ์ พระพิทักษ์เทพธานี กรมการกรุงเก่า ฉะบับ ๑ รายงานน้ำฝนต้นข้าว พระอาทิตย์ยกขึ้นราศีกันย์กึ่งราศี น้ำฝน ๗๒๒ เซ็นต์ มากกว่ากึ่งราศีกันย์ปีมะแม ๔๐๗ เซ็นต์ น้ำท่าน้อย ๑-๘ คืบ ราษฎรทำนาแล้วต้นข้าวงามดี ฉะบับ ๑ บอกพระยาวิเศษฤาไชยเมืองฉะเชิงเทราถวายพระราชกุศลทำบุญเลี้ยงพระสวดมนต์และตามประทีป ๓ วัน ในการเฉลิมพระชนม์พรรษา ฉะบับ๑ บอกหลวงอนุชิตพิทักษ์ ข้าหลวงผู้รักษาเมืองนครนายก ถวายพระราชกุศลทำบุญเลี้ยงพระตามประทีปการเฉลิมพระชนม์พรรษา ๓ วัน ฉะบับ ๑ บอกพระยาพิสุทธิธรรมธาดาเมืองลพบุรี ถวายพระราชกุศลทำบุญสวดมนต์เลี้ยงพระตามประทีปในพระนารายณ์ราชวัง ๓ วันในการเฉลิมพระชนม์พรรษา
พระนรินทรอ่านบอกพระยากาญจนดิฐบดี เมืองกาญจนดิฐ ส่งเงินค่านาจำนวนปีมะเมียจัตวาศก ๔๑ ชั่ง ๑๑ ตำลึง ๑ สลึง ๑ เฟื้อง เสร็จสิ้นจำนวนนาแล้ว
พระยาพิพัฒน์โกษาอ่านบอกพระยาสุนทรบุรีเมืองนครไชยศรี ๒ ฉะบับ ๆ หนึ่งถวายพระราชกุศลทำบุญเลี้ยงพระสวดมนต์ในศาลากลางและตามประทีป ๓ วัน ในการเฉลิมพระชนม์พรรษา ฉะบับ ๑ รายงานน้ำฝนพระอาทิตย์ขึ้นราศีกรกฎสั้นราศี ฝนตกรองน้ำได้ ๘ ทสางค์ น้อยกว่าปีกลาย ๑ นิ้ว ๕ ทสางค์ ราศีสิงห์รองน้ำได้ ๔ นิ้ว ๘ ทสางค์ น้อยกว่าปีกลาย ๒ นิ้ว ๖ ทสางค์
เสด็จประทับอยู่ครู่หนึ่งเสด็จขึ้นประทับออฟฟิศ กัปตันลอฟตัสเฝ้าถวาย แผนที่ทะเลที่แกไปเซอรเวที่เขียนแล้ว แล้วเสด็จไปประทับซิตติงรูม พระองค์ทองแถมเฝ้าถวายแผนที่ตำหนักข้างในที่บางปอิน รับสั่งถึงการบางปอินครู่หนึ่ง พระองค์สายมาเฝ้ารับสั่งเรื่องทหารที่จัดคนส่วนเมืองตะวันออกเป็นและเรื่องอื่น ๆ เวลาบ่าย ๕ โมงเศษเสด็จขึ้น
เวลา ๒ ทุ่มเศษพระองค์สวัสดิ์เข้าไปเฝ้าข้างในจน ๔ ทุ่มเศษ
วัน ๓ ๓ฯ ๑๑ ค่ำ ปีวอก ฉศก จุลศักราช ๑๒๔๖
พระยาศรีอ่านบอกพระยาพิไชยสุนทรเมืองอุทัยธานี ๒ ฉะบับ ฉะบับ ๑ ถวายพระราชกุศลทำบุญเลี้ยงพระสวดมนต์และตามประทีปในการเฉลิมพระชนม์พรรษา ๓ วัน ฉะบับ ๑ ขอที่ผูกพัทธสีมาวัดบ้านหนองบัวโดย ยาว ๗ วา ๒ ศอก กว้าง ๕ วา ๒ ศอก
พระนรินทรอ่านบอกพระยาประสิทธิ์สงครามเมืองกาญจนบุรี ๒ ฉะบับ ๆ ๑ ส่งเงินค่านาจำนวนปีมะแมเบญจศก ๖๑ ชั่ง ๑๘ ตำลึง ๒ บาท ๑ เฟื้อง ฉะบับ ๑ รายงานน้ำฝน พระอาทิตย์ยกขึ้นราศีเมษ ฝนตกรองน้ำได้ ๑ นิ้ว ๔ ทสางค์ น้อยกว่าปีกลาย ๑ นิ้ว ๘ ทสางค์ ราศีพฤษน้ำฝน ๑ นิ้ว ๑ ทสางค์ น้อยกว่าปีกลาย ๑ นิ้ว ๗ ทสางค์ ราศีเมถุน ๖ ทสางค์ น้อยกว่าปีกลาย ๖ นิ้ว มีน้ำเหนือมาวัดหลักศอก ๑ น้อยกว่าปีกลาย ๒ ศอก ราษฎรทำนามากแล้ว
พระยาพิพัฒน์โกษาอ่านบอกพระยาสุนทรบุรีเมืองนครไชยศรี ๒ ฉะบับ ๆ หนึ่งว่า นายพุกว่านายรุ่งกับพรรคพวกขึ้นไปบนเรือนเกิดทะเลาะกับอำแดงเข็มภรรยานายพุก นายรุ่งฟันอำแดงเข็มตาย เอาตัวมาถามนายรุ่งรับเป็นสัตย์ ฉะบับ ๑ จีนหรุ่นผัวอำแดงเพงฟ้องว่ามีผู้ร้ายขึ้นปล้น จำหน้าได้ว่านายกล่อมกับพวก ได้ตัวนายกล่อมมาถามยังพิจารณาต่อไป
เสด็จขึ้นประทับออฟฟิศครู่หนึ่งเสด็จไปประทับซิตติงรูม พระองค์สวัสดิ์เฝ้าทรงหนังสือราชการ แล้วกรมหมื่นเทววงศ์เฝ้าจนเวลาทุ่มเศษเสด็จขึ้น
เวลา ๒ ทุ่มเศษกรมหมื่นศิริธัชพระองค์สวัสดิ์เข้าไปเฝ้าข้างในจน ๕ ทุ่ม
วัน ๔ ๔ฯ ๑๑ ค่ำ ปีวอก ฉศก จุลศักราช ๑๒๔๖
เวลาบ่าย ๔ โมงเศษเสด็จออกประทับห้องออกขุนนาง ทรงปิดทองพระ แล้วเสด็จขึ้นพระแท่นออกขุนนาง
พระยาศรีอ่านบอกพระราชสัมภารากรข้าหลวงเมืองนครเชียงใหม่ว่า ณวัน ๖ ๒ฯ ๙ ค่ำ กรมหมื่นพิชิตเสด็จออกณที่ประทับเมืองเชียงใหม่ หลวงอนุรักษ์นำแก้วแสงซึ่งเจ้าเมืองตุงแต่งให้คุมสิ่งของมาทูลเกล้า ฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวณกรุงเทพฯนั้น เข้าเฝ้า กรมหมื่นพิชิตถวายของเหล่านั้น คือ แก้วมหานิลทรายดำ ๒ ลูก แหวนทองคำแก้วกือ (คือทับทิม) ๑ ดวง แหวนทองคำแก้วเลื่อน (คือแหวนนิล) ๓ ดวง แก้วหนองลาว ๗ ลูก (คล้ายโมรา) ออมแก้วหิน (ขวดหยก) ๑ ลูก ปืนดาบ ๒ บอก ม้าเลาเหลือง ๒ ม้า และว่าได้ส่งของทั้งปวงนั้นลงมาแล้ว แต่ม้านั้นจะส่งมาภายหลัง ฉะบับ ๑ บอกพระยาพิสุทธิธรรมธาดาเมืองลพบุรีว่า โปรดให้ซ่อมวัดไลซึ่งเป็นวัดรูปศรีอารย์ จะพระราชทานพระราชทรัพย์ ๓๐๐ ชั่งนั้น ขอเบิกไปใช้ ๑๐๐ ชั่งก่อน พอจัดการทำไป
พระนรินทรอ่านบอกพระยาอมรินทรฤาไชยเมืองราชบุรีว่า ราษฎรร้องหลายรายว่ามีผู้ร้ายลักโคไปขายให้ เยโร อันตัน ฝรั่ง ถ้าเจ้าของตามทันต้องไถ่หลายราย เจ้าเมืองกรมการจะเรียกมาชำระก็เป็นการขัดข้อง จะโปรดเกล้า ฯ ประการใด ฉะบับ ๑ บอกพระมหาสิงคิคุณเมืองกำเนิดนพคุณ ว่าหลวงสรเสนีเจ้ากรมอาสาจามเชิญตราพระราชสีห์ออกไปให้สืบจับอ้ายอินผู้ร้ายฆ่าคนตายซึ่งหนีมาแต่เมืองทะวายนั้น ได้แต่งกรมการออกสืบจับได้ตัวอ้ายอินมาถามรับเป็นสัตย์ (โปรดให้สอบกับคำให้การซึ่งกงสุลส่งมาด้วย)
แล้วพระเทพรัตนนรินทร์กรมพระคลังทอง นำเครื่องแก้วแหวนต่าง ๆ ขุนเสน่ห์สรชิตนำปืนดาบ ๒ บอกซึ่งส่งมาแต่เชียงใหม่ว่าเป็นของเชียงตุงถวายทอดพระเนตร ขึ้นประทับออฟฟิศครู่หนึ่ง เสด็จไปประทับซิตติงรูมประเดี๋ยวหนึ่งเสด็จขึ้น
เวลา ๒ ทุ่มพระองค์สวัสดิ์เข้าไปเฝ้าจน ๔ ทุ่มเศษ
วัน ๕ ๕ฯ ๑๑ ค่ำ ปีวอก ฉศก จุลศักราช ๑๒๔๖
เวลาเที่ยงเศษพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินทรงรถพระที่นั่งเทียมม้า ๔ ม้า พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ มีทหารม้าและตำรวจขี่ม้านำเสด็จ ทหารมหาดเล็กขี่ม้าและรถพระที่นั่งรอง พระบรมวงศานุวงศ์ตามเสด็จพระราชดำเนินแต่พระบรมมหาราชวัง เสด็จไปประทับวัดราชประดิษฐ์ที่ ๑ เสด็จไปประทับในพระอุโบสถ นายสนิททูลรายงานพระสงฆ์จำพรรษา ๓๙ รูป ทรงจุดเทียนนมัสการแล้วทรงถวายพระกฐิน พระสงฆ์รับแล้วอุปโลกสมมติถวายสมเด็จพุทธโฆษาจารย์แล้วสวดญัตติทุติยกรรมจบ เสด็จทรงประเคนผ้าไตรปีฐานานุกรมเปรียญ ๙ รูปแล้ว พระสงฆ์ครองผ้า แล้วทรงพระกรุณาโปรดให้สมเด็จกรมหลวงภาณุพันธุ์ถวายบริกขาร พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา เสด็จพระราชดำเนินกลับทรงรถพระที่นั่งเสด็จไปประทับวัดบวรนิเวศที่ ๒ เสด็จประทับในพระอุโบสถ นายรองสนิททูลรายงานพระสงฆ์จำพรรษา ๓๐ รูป ทรงจุดเทียนนมัสการแล้วถวายพระกฐิน พระสงฆ์รับแล้วอุปโลกสมมติถวายกรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์แล้วสวดญัตติทุติยกรรมวาจาจบลง เสด็จทรงประเคนไตรปีหม่อมเจ้า พระราชาคณะ ฐานานุกรม เปรียญ รวม ๑๘ รูป พระสงฆ์ครองผ้าแล้ว โปรดให้สมเด็จกรมหลวงจักรพรรดิถวายบริกขารเป็นอันมาก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา เสด็จพระราชดำเนินทรงรถพระที่นั่งกลับไปประทับวัดมหรรณพารามที่ ๓ เสด็จประทับในพระอุโบสถ นายไชยขรรค์ทูลรายงาน พระสงฆ์จำพรรษา ๕๐ รูป ทรงจุดเทียนนมัสการแล้วถวายพระกฐิน พระสงฆ์รับแล้วอุปโลกสมมติให้พระพินิจพินัย แล้วสวดญัตติทุติยกรรมวาจาจบ เสด็จทรงประเคนไตรปีฐานานุกรมเปรียญ ๕ รูป พระสงฆ์ครองผ้าแล้วกรานกฐิน โปรดให้หม่อมเจ้าพรประสิทธิถวายบริกขาร พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา เสด็จพระราชดำเนินกลับ ทรงรถพระที่นั่งเสด็จไปประทับวัดมหาธาตุที่ ๔ เสด็จประทับในวิหารพระเจดีย์ซึ่งบรรจุพระอัฐิกรมพระราชวังบวรรัชชกาลที่ ๑ ทรงจุดเทียนนมัสการและเครื่องทองน้อย แล้วเสด็จออกทางหลังพระวิหารเสด็จประทับพระอุโบสถ นายพินัยราชกิจทูลรายงานพระสงฆ์จำพรรษา ๒๙๘ รูป ทรงจุดเทียนนมัสการและถวายพระกฐิน พระสงฆ์รับแล้วอุปโลกสมมติถวายพระคุณาจาริยวัตรแล้วสวดญัตติทุติยกรรมวาจาจบ เสด็จทรงประเคนไตรปี พระราชาคณะพระครูฐานาเปรียญ ๑๖ รูป พระสงฆ์ครองผ้าแล้วกรานกฐิน โปรดให้สมเด็จกรมพระถวายบริกขาร พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา เสด็จกลับทรงรถพระที่นั่งกลับพระบรมมหาราชวัง
เวลา ๒ ทุ่มพระองค์สวัสดิ์เข้าไปเฝ้าข้างในจนยามเศษกลับออกมา
อนึ่งวันนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงฉลองพระองค์ครึ่งยศทหาร ทรงสร้อยมหาจักรีบรมราชวงศ์และจักรีดารา เจ้านายทรงฉลองพระองค์ขัติยตระกูลดำ ทรงเครื่องราชอิสสริยยศต่าง ๆ กัน ข้าราชการพลเรือนสวมเสื้อยศดำ ประดับเครื่องอิสสริยยศต่าง ๆ กัน ตำรวจและทหารแต่งเต็มยศ
วัน ๖ ๖ฯ ๑๑ ค่ำ ปีวอก ฉศก จุลศักราช ๑๒๔๖
เวลาบ่ายโมงเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกพระที่นั่งจักรี ทรงพระราชยานลงยาราชาวดีพร้อมด้วยกระบวนนำกระบวนตามเสด็จโดยกระบวนราบแต่พระบรมมหาราชวังไปออกประตูพระนคร เสด็จประทับวัดจักรวรรดิราชาวาสที่ ๑ เสด็จประทับในพระอุโบสถ ทรงจุดเทียนนมัสการ นายสนิททูลรายงานพระสงฆ์จำพรรษา ๒๗๕ รูป แล้วทรงถวายพระกฐิน พระสงฆ์รับแล้วอุปโลกสมมติให้พระวรญาณมุนี แล้วสวดญัตติทุติยกรรมจบ เสด็จทรงประเคนไตรปี พระราชาคณะฐานาเปรียญ ๗ รูป พระสงฆ์ครองผ้าแล้วกรานกฐิน โปรดให้กรมหมื่นภูธเรศถวายบริกขาร พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา เสด็จกลับทรงพระราชยานไปประทับวัดสัมพันธวงศ์ที่ ๒ เสด็จเข้าในประอุโบสถ ทรงนมัสการ นายรองสนิททูลรายงานพระสงฆ์จำพรรษา ๓๘ รูป ทรงถวายพระกฐิน พระสงฆ์รับแล้วสมมติอุปโลกให้พระสมุห์แล้วสวดญัตติทุติยกรรมจบ เสด็จทรงประเคนไตรปีฐานา ๑ พระสงฆ์ครองผ้าแล้ว โปรดให้กรมหมื่นศิริธัชถวายบริกขาร พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา เสด็จพระราชดำเนินกลับทรงพระราชยานไปประทับวัดปทุมคงคาที่ ๓ เสด็จประทับในพระอุโบสถทรงนมัสการ นายไชยขรรค์ทูลรายงานพระสงฆ์จำพรรษา ๕๒ รูป ทรงถวายพระกฐิน พระสงฆ์รับแล้วอุปโลกสมมติให้พระพรหมมุนี แล้วสวดญัตติทุติยกรรมวาจาจบ เสด็จทรงประเคนไตรปีฐานา ๕ รูป กับโปรดเกล้า ฯ พระราชทานผ้าไตรพระโพซึ่งเป็นพระชราและรับสั่งว่าอยู่มานานด้วยไตร ๑ พระสงฆ์ออกไปครองผ้าแล้วกรานกฐิน โปรดให้กรมหมื่นประจักษ์ถวายบริกขาร พระสงฆ์ถวายอนุโมทนาแล้ว เสด็จทรงพระราชยานพร้อมด้วยกระบวนนำกระบวนตามเสด็จพระราชดำเนินกลับ พระบรมมหาราชวังเวลาบ่าย ๔ โมงเศษ
วันนี้ พระเจ้าอยู่หัวทรงฉลองพระองค์อย่างเครื่องราชอิสสริยยศจักรีบรมราชวงศ์ เจ้านายทรงเครื่องจักรีบ้าง ทรงฉลองพระองค์เยียรบับบ้าง ทรงเครื่องราชอิสสริยยศต่าง ๆ กัน ข้าราชการสวมเสื้อเยียรบับเข้มขาบ ประดับเครื่องราชอิสสริยยศต่าง ๆ กันตามที่ได้รับพระราชทาน ตำรวจทหารแต่งเต็มยศ สวมเครื่องอิสสริยยศตามที่ได้เหมือนกัน
วัน ๗ ๗ฯ ๑๑ ค่ำ ปีวอก ฉศก จุลศักราช ๑๒๔๖
วันนี้เว้นเสด็จพระราชดำเนินพระราชทานพระกฐินตามเช่นเคยมาทุกปี
เวลาบ่าย ๔ โมงเศษเสด็จออกประทับห้องออกขุนนาง ทรงปิดทองพระแล้วเสด็จขึ้นพระแท่นออกขุนนาง
พระนรินทร์อ่านบอกหลวงนราธิกรฤทธิ์ ว่าด้วยโปรดเกล้า ฯ ให้เร่งเงินภาษีอากรหัวเมืองตะวันตกไปส่งกงสุลสยาม เมืองสิงคโปร์ ปินัง ให้ฝากแบงก์นั้นได้เร่งไปทุกเมืองแล้ว วัน ๕ฯ ๑๑ ค่ำ พระยาภูเก็ตให้กรมการคุมเงินภาษีเมือภูเก็ตมาบรรทุกเรือพิทธยัมรณยุทธเิน ๒๘๕๘๒๖-๒๑-๑ เหรียญ ออกไปส่งกงสุลสยามเมืองปีนัง หลวงทวีปสยามกิจได้ทำรีสิตให้กรมการไปแล้ว เอาเงินไปฝากฮ่องกงเซี่ยงไฮ้แบงก์ ๑๕๐๐๐๐ เหรียญ ชาเตอแบงก์ ๑๓๕๘๒๖-๒๑-๐ เหรียญ แบงก์ทำรีสิตให้กงสุลสยามแบงก์ละ ๔ ฉะบับ จะมอบให้พระยาภูเก็ตฉะบับ ๑ ให้หลวงนรารักษาไว้ฉะบับ ๑ หลวงทวีปจะรักษาไว้ฉะบับ ๑ จะส่งมาถวายกรมหมื่นเทววงศ์ฉะบับ ๑ ถ้าเร่งได้เงินอีกเท่าใดจะบอกมาครั้งหลัง
เสด็จขึ้นประทับออฟฟิศประเดี๋ยวหนึ่งเสด็จขึ้นข้างในทีเดียว
วัน ๑ ๘ฯ ๑๑ ค่ำ ปีวอก ฉศก จุลศักราช ๑๒๔๖
เวลาบ่ายโมงเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกทางพระที่นั่งจักรี ทรงพระที่นั่งราชยานลงยาราชาวดี พร้อมด้วยกระบวนนำกระบวนตามเสด็จพระราชดำเนินไปประทับวัดพระเชตุพนที่ ๑ เสด็จประทับในพระอุโบสถทรงนมัสการ นายรองกวดทูลรายงานพระสงฆ์จำพรรษา ๒๘๑ รูป ทรงถวายพระกฐิน พระสงฆ์รับแล้วอุปโลกสมมติให้พระพิมลธรรมแล้วสวดญัตติทุติยกรรมจบ ทรงทอดผ้าไตรปี พระธรรมถาวร ๑ ฐานาพระอัษฐิสมเด็จกรมพระปรมานุชิต ๖ องค์ สดับปกรณ์พระอัษฐิแล้วทรงประเคนไตรปี พระราชาคณะพระครูฐานาเปรียญอีก ๒๕ รูป พระสงฆ์ครองผ้าแล้วกรานกฐิน โปรดให้กรมหลวงวรศักดาประเคนบริกขาร พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา เสด็จพระราชดำเนินกลับ ทรงพระราชยานไปประทับวัดราชบุรณที่ ๒ เสด็จประทับในพระอุโบสถทรงจุดเทียนนมัสการ นายเล่ห์อาวุธทูลรายงานพระสงฆ์จำพรรษารวม ๒๒๒ รูป ทรงถวายพระกฐิน พระสงฆ์รับแล้วอุปโลกสมมติให้พระโพธิวงศ์แล้วสวดญัตติทุติยกรรมจบ เสด็จทรงประเคนไตรปีพระราชาคณะพระครูฐานาเปรียญ ๑๔ รูป พระสงฆ์ครองผ้าแล้วกรานกฐิน โปรดให้กรมหมื่นพรหมวรานุรักษ์ถวายบริกขาร พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา เสด็จกลับทรงพระราชยานไปประทับวัดราชบพิธที่ ๓ เสด็จประทับในพระ อุโบสถทรงจุดเทียนนมัสการ นายพลพันทูลรายงานพระสงฆ์จำพรรษา ๓๔ รูป ทรงถวายพระกฐิน พระสงฆ์รับแล้วอุปโลกถวายเจ้าพระอรุณแล้วญัตติทุติยกรรมวาจาจบ เสด็จทรงประเคนผ้าไตรปี หม่อมเจ้าพระเปรียญฐานานุกรมเปรียญ ๗ รูป พระสงฆ์ครองผ้าแล้ว โปรดให้สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศทรงประเคนบริกขาร พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา
อนึ่งเมื่อเวลาเสด็จจากวัดราชบุรณนั้น ฝนตกเล็กน้อย พอเสด็จถึงวัดราชบพิธก็ตก จึงเสด็จวัดสุทัศน์ไม่ได้ โปรดให้ไปเอาไตรพระกฐินวัดสุทัศน์มาถวาย ทรงจบพระหัตถ์แล้วพระราชทานให้สมเด็จกรมหลวงจักรพรรดิพงศ์เสด็จไปทอดพระกฐินวัดสุทัศน์ ซึ่งเดิมกะว่าจะเสด็จเป็นที่ ๔ นั้น เสด็จพระราชดำเนินกลับเข้าพระบรมมหาราชวัง ทางประตูเทวาพิทักษ์
วันนี้พระเจ้าอยู่หัวทรงเครื่องอย่างวานนี้ แต่ทรงเครื่องราชอิสสริยยศนพรัตนราชวราภรณ์ พระบรมวงศานุวงศ์ข้าราชการแต่งพระองค์แต่งตัวอย่างเวลาวานนี้
วัน ๒ ๙ฯ ๑๑ ค่ำ ปีวอก ฉศก จุลศักราช ๑๒๔๖
เวลาบ่ายโมงเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงฉลองพระองค์เยียรบับทรงเครื่องราชอิสสริยยศมหาสุราภรณ์ เสด็จออกทางพระที่นั่งจักรี ทรงพระราชยานไปประทับที่ท่าราชวรดิฐ เสด็จลงทรงเรือพระที่นั่งเอนกชาติภุชงค์ เรือพระที่นั่งเพชรรัตนดารารายเป็นที่นั่งรอง เรือพระที่นั่งศรีสุนทรชัยทรงผ้าไตร พร้อมด้วยเรือดั้งกันและเรือนำตามเป็นอันมาก เสด็จพระราชดำเนินไปประทับวัดอรุณราชวรารามที่ ๑ เสด็จขึ้นประทับในพระอุโบสถทรงจุดเทียนนมัสการ นายสนิททูลรายงานพระสงฆ์จำพรรษา ๑๐๕ รูป ทรงถวายพระกฐินพระสงฆ์รับแล้วอุปโลกสมมติให้พระสากยบุตร แล้วสวดญัตติทุติยกรรมวาจาจบ เสด็จทรงประเคนไตรปี พระครูราชาคณะฐานานุกรม ๘ รูป พระสงฆ์ครองผ้าแล้วกรานกฐิน แล้วโปรดให้สมเด็จกรมหลวงจักรพรรดิถวายบริกขาร พระสงฆ์ถวายอนุโมทนาแล้ว เสด็จกลับลงทรงเรือพระที่นั่ง เสด็จไปประทับวัดโมฬีโลกยารามที่ ๒ เสด็จประทับในพระอุโบสถทรงนมัสการ นายรองสนิทรายงานพระสงฆ์จำพรรษา ๔๖ รูป ทรงถวายพระกฐิน พระสงฆ์รับแล้วอุปโลกสมมติให้พระเทพมุนี แล้วสวดญัตติทุติยกรรมวาจาจบ เสด็จทรงประเคนไตรปีถานานุกรม ๔ รูป พระสงฆ์ครองผ้าแล้วกรานกฐิน โปรดให้กรมหมื่นเทววงศ์ถวายบริกขาร พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา เสด็จกลับลงทรงเรือพระที่นั่งเสด็จไปประทับวัดหงส์รัตนารามที่ ๓ ทรงนมัสการ นายพลพันทูลรายงานพระสงฆ์จำพรรษา ๘๘ รูป ทรงถวายพระกฐิน พระสงฆ์รับแล้วอุปโลกสมมติให้พระประสิทธิ์สุตคุณ แล้วสวดญัตติทุติยกรรมจบ เสด็จทรงประเคนไตรปีฐานานุกรมเปรียญ ๖ รูป พระสงฆ์ครองผ้าแล้วกรานกฐิน โปรดให้กรมหมื่นบริรักษ์นรินทรฤทธิ์ถวายบริกขาร พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา เสด็จพระราชดำเนินกลับทรงเรือพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับพระบรมมหาราชวังเวลาบ่าย ๔ โมงเศษ
วันนี้เจ้านายข้าราชการแต่งพระองค์แต่งตัวเหมือนวัน ๗ ค่ำ
วัน ๓ ๑๐ฯ ๑๑ ค่ำ ปีวอก ฉศก จุลศักราช ๑๒๔๖
เวลาบ่ายโมงเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงฉลองพระองค์เยียรบับ ทรงเครื่องราชอิสสริยยศมหาวราภรณ์ เสด็จทรงเรือพระที่นั่งเพชรรัตนดาราราย เรือพระที่นั่งรัตนดิลกเป็นรอง เรือพระที่นั่งประภัศรชัยทรงผ้าไตร พร้อมด้วยเรือนำเรือตาม เสด็จพระราชดำเนินไปประทับวัดกัลยาณมิตรที่ ๑ เสด็จประทับในพระอุโบสถทรงจุดเทียนนมัสการ นายสนิททูลรายงานพระสงฆ์จำพรรษา ๘๐ รูป ทรงถวายพระกฐินพระสงฆ์รับแล้วอุปโลกสมมติให้พระปริยัติบัณฑิตย์แล้ว สวดญัตติทุติยกรรมวาจาจบ เสด็จทรงประเคนไตรปีฐานานุกรม ๗ รูป พระสงฆ์ครองผ้าแล้วกรานกฐิน โปรดให้กรมหมื่นอดิศรถวายบริกขารพระสงฆ์ถวายอนุโมทนา เสด็จพระราชดำเนินกลับ ไปประทับท่าฉนวนวัดประยูรวงศ์ที่ ๒ ทรงพระราชยานพร้อมด้วยกระบวนนำกระบวนตามเสด็จ ไปประทับเกยหน้าวัดประยูรวงศ์เสด็จในพระอุโบสถทรงนมัสการ นายรองสนิททูลรายงานพระสงฆ์จำพรรษา ๑๗๒ รูป ทรงถวายพระกฐิน พระสงฆ์อุปโลกสมมติให้พระธรรมภาณพิลาสและสวดญัตติทุติยกรรมวาจาจบ เสด็จประเคนไตรปีฐานาเปรียญ ๘ รูป พระสงฆ์ครองผ้าแล้วกรานกฐิน โปรดให้เจ้าพระยาสุรวงศ์ถวายบริกขาร พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา เสด็จกลับทรงพระราชยานเสด็จพร้อมกระบวนนำกระบวนตามเสด็จไปประทับวัดบุบผารามที่ ๓ เสด็จเข้าในพระอุโบสถทรงนมัสการ นายไชยขรรค์ทูลรายงานพระสงฆ์จำพรรษา ๕๓ รูป ทรงถวายพระกฐิน พระสงฆ์รับแล้วอุปโลกสมมติให้พระปลัดภู่เพราะพระวิเชียรมุนีอาพาธเป็นโรคชราลงมาไม่ได้ ต้องให้พระเทพกระวีมาถวายอติเรกอุปโลกแล้ว สวดญัตติทุติยกรรมวาจาจบ เสด็จทรงประเคนไตรปีฐานานุกรมเปรียญ ๓ รูป พระสงฆ์ครองผ้าแล้ว โปรดให้พระองค์สวัสดิ์ถวายบริกขาร พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา เสด็จกลับทรงพระราชยานไปประทับวัดพิชัยญาติที่ ๔ เสด็จประทับในพระอุโบสถทรงนมัสการ นายพินัยราชกิจทูลรายงานพระสงฆ์จำพรรษา ๗๗ รูป ทรงถวายพระกฐินพระสงฆ์รับแล้วอุปโลกสมมติให้พระอริยกระวี แล้วสวดญัตติทุติยกรรมจบ เสด็จทรงประเคนไตรปีพระครูฐานานุกรม ๕ รูป พระสงฆ์ครองผ้าแล้ว โปรดเกล้า ฯ ให้เจ้าพระยาศรีพิพัฒน์ถวายบริกขาร พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา เสด็จพระราชดำเนินกลับ ทรงเรือพระที่นั่งเสด็จกลับพระบรมมหาราชวัง บ่าย ๔ โมงเศษ วันนี้พระบรมวงศานุวงศ์ข้าราชการแต่งตัวอย่างเวลาวานนี้
วัน ๔ ๑๑ฯ ๑๑ ค่ำ ปีวอก ฉศก จุลศักราช ๑๒๔๖
เวลาบ่ายโมงเศษ ทรงฉลองพระองค์ขัติยตระกูลทรงสร้อยจักรี เสด็จทางจักรีมหาปราสาท ทรงพระราชยานไปประทับท่าราชวรดิฐ ทรงเรือพระที่นั่งเอนกชาติภุชงค์ เรือพระที่นั่งเพชรรัตนดารารายเป็นที่นั่งรอง เรือศรีสุนทรชัยทรงผ้าไตร เสด็จพร้อมด้วยเรือนำเรือตาม เสด็จโดยชลมารคไปเข้าคลองผดุงกรงเกษมข้างใต้ เสด็จประทับฉนวนวัดมหาพฤฒารามที่ ๑ เสด็จประทับในพระอุโบสถ ทรงจุดเทียนนมัสการแล้ว เสด็จขึ้นเกยที่ปลูกเสมอพระพักตรพระประธาน ทรงปิดทองพระพักตรพระประธาน พระอมรโมฬีพระครูธรรมจริยาภิรมย์พระสงฆ์ทั้งปวงสวดชัยมงคล เจ้าพนักงานประโคมแตรสังข์ฆ้องชัยพิณพาทย์พร้อมกัน ทรงปิดทองแล้วโปรดให้เจ้านายขึ้นไปปิดทองด้วย เสด็จลงมาประทับพระราชอาศน์ นายรองกวดทูลรายงานพระสงฆ์จำพรรษา ๓๗ รูป แล้วทรงถวายพระกฐิน พระสงฆ์รับแล้วอุปโลกสมมติให้พระครูธรรมจริยาภิรมย์ แล้วสวดญัตติทุติยกรรมวาจาจบ เสด็จทรงประเคนไตรปีฐานานุกรม ๑ รูป พระสงฆ์ครองผ้าแล้วกรานกฐิน โปรดให้พระองค์เจ้าจุมพลสมโภชถวายบริกขาร พระสงฆ์ถวายอนุโมทนาพระอมรโมฬีถวายอติเรก เสด็จกลับทรงเรือพระที่นั่ง เสด็จไปประทับวัดเทพศิรินทราวาสที่ ๒ เสด็จประทับในพระอุโบสถทรงจุดเทียนนมัสการ นายเล่ห์อาวุธทูลรายงานพระสงฆ์จำพรรษา ๔๗ รูป แล้วทรงถวายพระกฐินพระสงฆ์รับแล้วอุปโลกสมมติให้พระอริยมุนี แล้วสวดญัตติทุติยกรรมวาจาจบ เสด็จทรงประเคนไตรปี หม่อมเจ้าพระพระครูถานานุกรม ๔ รูป พระสงฆ์ครองผ้าแล้ว โปรดให้สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธถวายบริกขาร พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา เสด็จพระราชดำเนินกลับลงทรงเรือพระที่นั่ง เสด็จไปประทับวัดโสมนัสส์วิหารที่๓ เสด็จประทับในพระอุโบสถทรงนมัสการ นายพลพันทูลรายงานพระสงฆ์จำพรรษา ๗๘ รูป ทรงถวายพระกฐินพระสงฆ์รับแล้วอุปโลกสมมติ ถวายสมเด็จพระวันรัตแล้วสวดญัตติทุติยกรรมวาจาจบ เสด็จทรงประเคนผ้าไตรปีพระราชาคณะ หม่อมราชวงศ์พระเปรียญฐานานุกรมเปรียญรวม ๑๗ รูป พระสงฆ์ครองผ้าแล้ว ทรงพระกรุณาโปรดให้พระองค์เจ้าดิศวรกุมารถวายบริกขาร พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเรือพระที่นั่ง เสด็จไปประทับวัดนามบัญญัติที่ ๔ เสด็จประทับในพระอุโบสถทรงจุดเทียนนมัสการ นายรองพิจิตรทูลรายงานพระสงฆ์จำพรรษา ๕๐ รูป ทรงถวายพระกฐินพระสงฆ์รับแล้ว อุปโลกสมมติให้พระกิติสารมุนีแล้ว สวดญัตติทุติยกรรมวาจาจบ เสด็จทรงประเคนไตรปี กรมหมื่นวชิรญาณ ๑ พระครูฐานานุกรมเปรียญ ๑๒ รูปพระสงฆ์ครองผ้าแล้วโปรดให้กรมหมื่นพรหมวรานุรักษ์ถวายบริกขาร พระสงฆ์ถวายอนุโมทนาแล้ว ประทับตรัสกับกรมหมื่นวชิรญาณครู่ ๑ เสด็จกลับทรงเรือพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับออกคลองผดุงกรุงเกษมข้างเหนือมาประทับท่าราชวรดิษฐ์ประทับทอดพระเนตรเรือข้าราชการถวายลำครู่หนึ่ง เสด็จขึ้นพระบรมมหาราชวังเวลาย่ำค่ำเศษ
วันนี้เจ้านายข้าราชการแต่งพระองค์แต่งตัวอย่างวัน ๕ฯ ๑๑ ค่ำ คือวันแรกพระราชทานพระกฐิน
เวลาทุ่มเศษเสด็จลงสมโภชเดือนพระเจ้าลูกเธอ ซึ่งประสูติวัน ๕ ๘ฯ ๑๑ ค่ำ พระราชทานพระนามว่า พระเจ้าลูกเธอพระองค์เจ้าหญิงวิลาสเลขา
วัน ๕ ๑๒ฯ ๑๐ ค่ำ ปีวอก ฉศก จุลศักราช ๑๒๔๖
เวลาบ่ายโมงเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงฉลองพระองค์ขาว เสด็จออกทางพระที่นั่งจักรี ทรงพระราชยานไปประทับท่าราชวรดิฐ เสด็จลงทรงเรือพระที่นั่งรัตนดิลก เรือพระที่นั่งบุษบกพิศาลเป็นรอง เรือพระที่นั่งศรีประภัศรชัยทรงผ้าไตร เสด็จพร้อมกระบวนนำกระบวนตาม เสด็จเข้าคลองบางกอกใหญ่ เสด็จไปประทับท่าฉนวนวัดนางชีที่ ๑ เสด็จประทับในพระอุโบสถทรงจุดเทียนนมัสการ นายสนิททูลรายงานพระสงฆ์จำพรรษา ๓๓ รูป ทรงถวายพระกฐินพระสงฆ์อุปโลกสมมติให้พระครูศีลขันธ์สุนทรแล้วสวดญัตติทุติยกรรมจบ เสด็จทรงประเคนไตรปีฐานานุกรม ๒ รูป พระสงฆ์ครองผ้าแล้วกรานกฐิน โปรดให้พระองค์เจ้าศรีเสาวภางค์ถวายบริกขาร พระสงฆ์ถวายอนุโมทนาโปรดให้ศุภรัตไปนำผ้าไตรพระกฐินวัดนางนองมาถวาย ทรงจบพระหัตถ์แล้วพระราชทานกรมหมื่นนฤบาลมุขมาตย์ไปทอดพระกฐิน ซึ่งเดิมกำหนดไว้ว่าจะเสด็จพระราชดำเนินเป็นที่ ๓ นั้นแล้ว เสด็จทรงเรือพระที่นั่งไปประทับท่าฉนวนวัดราชโอรสเป็นที่ ๒ ทรงจบพระหัตถ์ผ้าไตรพระกฐินวัดหนังซึ่งเดิมกำหนดว่าจะเสด็จเป็นที่ ๒ นั้น พระราชทานพระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าเยาวมาลย์นฤมลเสด็จไปทอด แต่เจ้าพนักงานนำเสด็จไปทอดวัดนางนองเสียสับกันกับที่พระราชทานไป กรมหมื่นนฤบาลต้องไปทอดวัดหนัง พระเจ้าอยู่หัวเมื่อพระราชทานผ้าไตรพระเจ้าลูกเธอแล้ว เสด็จขึ้นไปประทับในพระอุโบสถทรงนมัสการ นายพิจิตรทูลรายงานพระสงฆ์จำพรรษา ๖๒ รูป ทรงถวายพระกฐินแล้วพระสงฆ์อุปโลกสมมติให้พระปรากรมมุนี แล้วสวดญัตติทุติยกรรมวาจาจบ เสด็จทรงประเคนไตรปีฐานานุกรม ๕ โปรดให้ศุภรัตนำไตรปีไปถวายพระสังฆวรวิมลด้วย พระสงฆ์ครองผ้าแล้วกรานกฐิน โปรดให้กรมขุนเจริญผลภูลสวัสดิ์ถวายบริกขาร พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา เสด็จไปประทับพระวิหารพระไสยาศน์ ทรงนมัสการตามเคยแล้ว เสด็จมาประทับทรงจุดเทียนนมัสการที่ต้นพิกุล ที่มีเก๋งบนค่าคบริมพระอุโบสถตามเช่นเคยมาทุกคราว เสด็จกลับทรงเรือพระที่นั่ง เสด็จกลับพระบรมมหาราชวังเวลาบ่าย ๕ โมงเศษ
วันนี้เจ้านายแต่งพระองค์ ข้าราชการแต่งตัวอย่างเวลาวานนี้
อนึ่ง เมื่อเวลาวานนี้ลงนามพระเจ้าลูกเธอซึ่งสมโภชว่าพระองค์เจ้าหญิงวิลาสเลขานั้นผิดไป พระนามที่ถูกนั้นพระองค์เจ้าเยาวภาพงศสนิท เป็นถูกต้อง
วัน ๖ ๑๓ฯ ๑๑ ค่ำ ปีวอก ฉศก จุลศักราช ๑๒๔๖
เวลาบ่าย ๒ โมงเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงฉลองพระองค์ขาว เสด็จออกทางพระที่นั่งจักรีทรงพระราชยานไปประทับท่าราชวรดิฐ เสด็จลงทรงเรือพระที่นั่งทวยเทพถวายกร เรือพระที่นั่งจักรพรรดิภิรมย์เป็นรอง เรือพระที่นั่งชลพิมานชัยทรงผ้าไตร เสด็จพร้อมด้วยกระบวนเรือนำเรือตาม เสด็จเข้าคลองมอญประทับวัดเครือวัลที่ ๑ เสด็จประทับในพระอุโบสถทรงนมัสการ นายสนิททูลรายงานพระสงฆ์จำพรรษา ๓๘ รูป ทรงถวายพระกฐิน พระสงฆ์รับแล้วอุปโลกให้พระเทพกระวี แล้วสวดญัตติทุติยกรรมวาจาจบ เสด็จทรงประเคนไตรปีฐานานุกรม ๔ รูป พระสงฆ์ครองผ้าแล้ว โปรดให้พระยาอภัยรณฤทธิ์ถวายบริกขาร พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา เสด็จพระราชดำเนินทรงเรือพระที่นั่งไปประทับวัดพระยาทำที่ ๒ เสด็จประทับในพระอุโบสถทรงนมัสการ นายรองสนิททูลรายงานพระสงฆ์จำพรรษา ๓๗ รูปทรงถวายพระกฐิน พระสงฆ์อุปโลกสมมติให้พระครูศีลสุนทราษรวิจิตรแล้ว สวดญัตติทุติยกรรมวาจาจบ เสด็จทรงประเคนไตรปีฐานาเปรียญ ๔ รูป พระสงฆ์ครองผ้าแล้วกรานกฐิน โปรดให้พระองค์เจ้าวรวรรณากรถวายบริกขาร พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา เสด็จกลับทรงเรือพระที่นั่งไปประทับวัดนาคกลางที่ ๓ เสด็จประทับในพระอุโบสถทรงนมัสการ นายไชยขรรค์ทูลรายงานพระสงฆ์จำพรรษา ๓๕ รูป ทรงถวายพระกฐิน พระสงฆ์รับแล้วอุปโลกสมมติให้พระครูสมณคณาจารย์ แล้วสวดญัตติทุติยกรรมวาจาจบ เสด็จทรงประเคนไตรปีฐานานุกรม ๒ รูป พระสงฆ์ครองผ้าแล้วกรานกฐิน โปรดให้ พระองค์วัฒนานุวงศ์ถวายบริกขาร พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา เสด็จกลับลงทรงเรือพระที่นั่ง เสด็จไปประทับวัดชิโนรสารามที่ ๔ เสด็จประทับในพระอุโบสถทรงนมัสการ นายพินัยทูลรายงานพระสงฆ์จำพรรษา ๗ รูป ทรงถวายพระกฐิน พระสงฆ์อุปโลกให้พระเนกขัมมุนีแล้ว สวดญัตติทุติยกรรมวาจาจบ เสด็จทรงประเคน ไตรปีฐานานุกรม ๓ รูป พระสงฆ์ครองผ้าแล้วกรานกฐิน โปรดให้พระองค์เจ้าไชยานุชิตถวายบริกขาร พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา เสด็จพระราชดำเนินกลับ ทรงเรือพระที่นั่งกลับพระบรมมหาราชวังเวลาบ่าย ๕ โมงเศษ วันนี้เจ้านายทรงเครื่องข้าราชการแต่งตัวเหมือนเวลาวานนี้
รวมกฐินที่เสด็จพระราชดำเนิน พระราชทานในกรุงปีนี้ ๒๗ พระอาราม กรมพระ กรมหมื่น หม่อมเจ้าพระ พระราชาคณะผู้ใหญ่ผู้น้อย พระครูฐานานุกรมเปรียญ ที่ได้รับพระราชทานไตรพระกฐิน และไตรปีรวม ๒๒๙ รูป และพระสงฆ์ในพระอารามที่เสด็จพระราชทานพระกฐิน ๒๗ พระอาราม พระสงฆ์ ๒๓๑๗ รูป ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานกรมพระราชวังบวร และพระบรมวงศานุวงศ์ฝ่ายหน้าฝ่ายใน ข้าราชการไปทอดกฐินทั้งในกรุงและหัวเมืองอีก ๘๘ พระอาราม นอกกรุงจะเสด็จพระราชดำเนินอีก ๔ พระอาราม รวมพระกฐินหลวงในปีนี้ ๑๑๙ พระอาราม
วัน ๗ ๑๔ฯ ๑๑ ค่ำ ปีวอก ฉศก จุลศักราช ๑๒๔๖
วันนี้ไม่มีราชการอะไร ไม่ได้เสด็จออก เวลา ๒ ทุ่มเศษ พระองค์สวัสดิ์เข้าไปเฝ้าข้างในเวลา ๔ ทุ่มกลับออกมา