เดือน ๗ จุลศักราช ๑๒๔๒

วันที่ ๔๑๙๘ วันอาทิตย์ ขึ้น ๑ เดือน ๗ ปีมะโรง โทศก จุลศักราช ๑๒๔๒

เสด็จออกแต่บ่าย ๒ โมง ทรงอินสตรักชั่น

ค่ำออกขุนนาง พระยาศรีอ่านบอกหลวงเทเพนทร เรื่องไปชำระความงะเล็กที่เมืองไชบาดาลได้ตัวผู้ร้ายรับเป็นสัตย์ พระยาพิพัฒน์ทูลบอกเมืองนครไชยศรีฆ่ากันตาย ๒ เรื่อง ยังชำระอยู่ แล้วมีพระบรมราชโองการสั่งพระยาพิพัฒนโกษาว่าเจ้าพระยาภาณุวงศ์มหาโกษาธิบดี เป็นราชทูตออกไปราชการครั้งนี้ ถ้าจะมีราชการสั่งบังคับสิ่งใด พระยาพิพัฒน์เป็นแต่ปลัดทูลฉลองบังคับไม่ได้ จะต้องใช้ตราใหญ่ออกชื่อเจ้าพระยาศรีธรรมาธิราชดำเนินพระบรมราชโองการจึงจะสมควร แต่ธรรมเนียมเดิมที่เจ้าพระยาพระคลังบังคับทูตและกงสุลสยามทุกประเทศ เคยใช้แต่ตราน้อยนี้ตั้งแต่นี้ต่อไปก็ควรจะเลิกตราน้อยเสีย ควรต้องใช้ตราใหญ่อย่างมหาดไทยกลาโหม การครั้งนี้ให้ตั้งเป็นธรรมเนียมเสียทีเดียว

กรมหมื่นนเรศร์ถวายหนังสือมิสเตอร์กูลด์มีมาถึงเสมียนตรากรมมหาดไทย ๒ ฉะบับ ว่าด้วยปัลเครฟอยากพบพระยาราชเสนาจะสั่งข้อราชการเมืองเชียงใหม่เสียให้เสร็จ กับอยากพบเจ้านครด้วย ถ้าจะลงไปวันใดขอให้กำหนดวันไป เขาจะนัดผู้ที่เกี่ยวข้องให้มาคอยอยู่ (ทึกเอาคำที่พูดปรึกษากันเรื่องความมองคุณะเป็นตกลงจะเอาลงไปชำระที่บ้านเขา)

สมเด็จท่านร่างตอบไม่ยอมให้ไปฉะบับ ๑

(ด้วยยังไม่เป็นการตกลงกัน)

พระยาพิพัฒน์ถวายหนังสือพระยาสยามธุรพาห์ฉะบับ ๑ ว่าด้วยเขายินดีที่ไทยเห็นว่ารับราชการแข็งแรง กับว่าด้วยหนังสือพิมพ์ที่ลอนดอน ว่าด้วยเรื่องเมืองไทยกับว่าด้วยเมื่อปัลเครฟจะเข้ามามีหนังสือลับให้ ใจความที่ตั้งใจจะมาช่วยไทย สอดสำเนามาด้วย

หนังสือลับปัลเครฟให้เมซัน

หนังสือพิมพ์ต่าง ๆ คัดส่งมา

เจ้าพระยามหินทรจดหมายทูลขัดข้อง พระยาอนุรักษ์ไม่แต่งทนายไปว่าความ (สั่งพระยาอนุรักษ์ให้รีบไปว่าเสีย)

หลวงสัลยุทธจดหมายทูลไปช่วยการศพพระยามหาอำมาตย์

สมเด็จพระองค์น้อยถวายบัญชีตรวจคลัง

วันที่ ๔๑๙๙ วันจันทร์ ขึ้น ๒ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะโรง โทศก จุลศักราช ๑๒๔๒

บ่าย ๒ โมง เสด็จออกทรงเรียงอินสตรักชั่น แล้วกรมหมื่นนเรศร์ถวายหนังสือมิสเตอร์ปัลเครฟมีตอบสมเด็จกรมพระ เรื่องความที่พูดปรึกษากันที่วังท่านนั้นจะไม่เอาเป็นตกลง เขาไม่ยอมโกรธมาก

บ่าย ๔ โมง มิสเตอร์ปัลเครฟเฝ้า พระองค์เจ้าเทวัญเป็นล่าม ทูลว่าเรื่องข้อความที่จะให้ข้าหลวงเชียงใหม่ประพฤตินั้นจะมีมาที่กรมท่าพรุ่งนี้ กับว่าด้วยการทำหนังสือสัญญานั้น อังกฤษไม่ได้คิดแก่เพื่อชาติอื่นคิดมาแต่ฉะเพาะไทยต่ออังกฤษเท่านั้น กับทูลเรื่องที่สมเด็จมีหนังสือไปไม่ยอมรับคำที่พูดกัน เป็นตกลงว่าไม่เป็นราชการแกยอมไม่ได้ ทรงตอบว่าไม่ทรงทราบ แล้วทรงเรื่องความมองคุณะที่หลวงบริบาลตัดสินยังไม่สิ้นกระแสความ หนานอุต น้อยมหาชัย ยื่นเรื่องราวกล่าวโทษมองคุณะ แล้วทรงชี้แจงเรื่องความให้ฟังแกว่าแกจำไม่ได้ จึงโปรดเกล้า ฯ ว่าจะให้กรมหมื่นพิชิตลงไปชี้แจงให้แกฟังที่บ้านในวันพุธ แล้วแกทูลด้วยจะไปเที่ยวเมืองลพบุรีขอหนังสือสำหรับตัวไปด้วย รับสั่งให้กรมหมื่นนเรศร์ไปทูลสมเด็จให้ทำตราล่วงหน้าไป แล้วให้ทำตราน้อยเป็นหนังสือลับตัวแก ให้พระองค์เจ้าเทวัญส่งไปให้ เวลาทุ่มเศษปัลเครฟจึงกลับ

ออกขุนนาง พระศรีเสนาอ่านบอกหลวงวาสุเทพซึ่งขึ้นไปชำระความที่เมืองพระพิษณุโลกว่าผู้ร้ายชุกชุม มีราษฎรกล่าวโทษพระยาพระพิษณุโลกหลายฉะบับ ว่าไม่สืบจับผู้ร้ายบ้างที่จับได้ก็ปล่อยเสีย (โปรดเกล้า ฯ มีข้าหลวงไปช่วยชำระ)

๑ สำเนาหนังสือปัลเครฟตอบสมเด็จกรมพระ เรื่องคำที่ปรึกษากัน ท่านไม่ยอมว่าเป็นตกลงนั้นแกยอมไม่ได้ ถ้าไม่ถือดังนั้นผู้ใหญ่พูดกันเหมือนเด็กพูด

๒ สำเนาหนังสือมิสเตอร์กูลด์ มีมาที่พระยาศรีเรื่องความน้อยคำภู

๓ เรื่องราวน้อยคำภูกล่าวโทษเจ้านายเมืองบลว่ากดความไว้

๔ พระยาอนุรักษ์ถวายเรื่องราวขอย้ายตระลาการไม่ยอมไปว่าที่เจ้าพระยามหินทร

๕ ข้ดข้องเจ้าพนักงานกรมพระสุรัศวดี เรื่องเจ้าคุณทหาร จดหมายดำเนินพระบรมราชโองการมาสั่งให้จ่ายคนทำการโทรเลข

๖ รับหนังสือเยเนราลแกรนมีตอบพระราชหัตถ์เลขา

๗ มีพระราชหัตถ์ถึงกรมท่าเป็นไปรเวตอินสตรักชั่น

๘ มีพระราชหัตถ์ถึงกรมท่าบอกราชการกรุงเทพ ฯ

๙ มีพระราชหัตถ์ถึงกรมท่าส่งบัปลิคอินสตรักชั่นกับหนังสือต่างๆ คือ

๑๐ ปัปลิคอินสตรักชั่น

๑๑ กฎหมายคัดไปกับอินสตรักชั่น

๑๒ พระราชหัตถ์ถึง เซอเอนดรูคลาก

๑๓ พระราชหัตถ์ถึง เมซันพระยาสยามธุรพาห์

๑๔ พระราชหัตถ์ถึง แครฮานพระสยามธุรานุรักษ์

๑๕ พระราชหัตถ์ถึง มิสเตอร์เปรสซี

๑๖ พระราชหัตถ์ถึง เซอวิลเลียมรอบบินซัน

๑๗ พระราชศาส์นเป็ลเลตเตอออฟครีเดนต์ไป (เยอรมัน)

๑๘ พระราชศาส์นเป็ลเลตเตอออฟครีเดนต์ไป (ฝรั่งเศส)

๑๙ พระราชศาส์นเป็ลเลตเตอออฟครีเดนต์ไป (ออสเตรีย)

๒๐ พระราชศาส์นเป็ลเลตเตอออฟครีเดนต์ไป (วิลันดา)

๒๑ ดิโปลมา ตรามหาวราภรณ์ เปรซิเดนต์ฝรั่งเศส

๒๒ ดิโปลมา ตรามหาวราภรณ์ เคราวนปรินปรูเซีย

๒๓ ฎีกาหนานอุตน้อยมหาไชยกล่าวโทษมองคุณะ

๒๔ มีพระราชหัตถ์ถึงกรมท่าเรื่องปัลเครฟมาเฝ้าวันนี้

วันที่ ๔๒๐๐ วันอังคารขึ้น ๓ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะโรง โทศก จุลศักราช ๑๒๔๒

เช้าวันนี้ชักศพพระยามหาอำมาตย์ที่วัดกัลยาณมิต

บ่าย ๒ โมงเสด็จออกประทับห้องน้ำเงิน มิสเตอร์เดวิดบี. ซิกเกลส์ กงสุลอเมริกันเฝ้า บ่าย ๓ โมง มิสเตอร์ลอยผู้ว่าการกงสุลฝรั่งเศสเฝ้า บ่าย ๔ โมงมิสเตอร์เปไรรา กงสุลเยเนราลโปรตุเกตเฝ้า ทรงด้วยเรื่องจะขอแก้หนังสือสัญญา เขารับจะบอกไปถึงคอเวอนเมนต์ของเขาทุกชาติ

แล้วมิสเตอร์อาลบาสเตอเฝ้าทรงปรึกษาเรื่องความมองคุณะ ที่จะให้กรมหมื่นพิชิตลงไปหาปัลเครฟ แล้วมีพระราชหัตถ์ถึงสมเด็จกรมพระให้กรมหมื่นพิชิตไปถามหนานอุตน้อยมหาไชย และสืบพยานเรื่องความนี้ให้แน่นอนให้มิสเตอร์อาลบาสเตอออกไปด้วย

ออกขุนนาง พระศรีเสนาอ่านบอกเมืองอินทร์ เมืองปราจีนขอหน้าเพลิงเผาศพพระครูอินทรมุนี ยกกระบัตร พระนรินทรอ่านบอกหลวงนราธิกรฤทธิ์ข้าหลวงซึ่งไปเซอร์เวย์กับมิสเตอร์กาซีว่าได้ออกไปแต่กรุงเทพฯ วันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ถึงพระปฐมเจดีย์พักอยู่ที่ตึกริมวังแบ่งคนแบ่งช้างให้กลับไปเมืองทะวายบ้างแล้วได้ขึ้นส่องกล้องทำแผนที่บนพระปฐมเจดีย์บรรจบกับบรมบรรพต วันแรม ๑๒ ค่ำ เดือน ๖ ออกจากพระปฐมเจดีย์ไปพักอยู่ที่โรงหีบ แล้วไปตั้งกล้องทำแผนที่ ๆ บ้านโพหัก ส่องกล้องบรรจบกับพระปฐมเจดีย์แล้วยังพักอยู่ที่โรงหีบ

พระยาพิพัฒน์อ่านบอกเมืองจันทบุรีส่งเงินแทนส่วยรงค์ปีชวด ปีฉลู ปีขาล ปีเถาะ

มีพระราชหัตถ์ถึงมิสเตอร์ปัลเครฟบอกด้วยจะให้กรมหมื่นพิชิตลงไปชี้แจงเรื่องความมองคุณะพรุ่งนี้ ๔ โมงเช้าแล้วตกท้ายไปว่าจะให้มิสเตอร์อาลบาสเตอลงไปด้วย

เขามีตอบมาว่าจะยอมรับกรมพิชิตตามเวลากำหนด แต่มิสเตอร์อาลบาสเตอนั้นเขาขอรับพระราชทานให้ยกเสีย ด้วยเป็นคนอังกฤษจะมาเกี่ยวด้วยเรื่องความที่เป็นราชการไม่ได้

แล้วมีต่อไปอีกฉะบับ ๑ ให้มิสเตอร์ปัสดิเลลงไปแทน

รับหนังสือสมเด็จกรมหลวง ๒ ฉะบับ ๆ ๑ ว่าด้วยจีนโอจิว ขุนบาลกล่าวโทษเจ้าสาครว่าปลูกโรงทับที่หน้าศาลเจ้า

ฉะบับ ๑ ว่าด้วยภาษีเยื่อเคยซึ่งวิวาทกันด้วยลักเยื่อเคยในเขตต์แดนไทยมาขายในกรุงเทพ ฯ อ้างว่ามาแต่เขมรไม่ยอมเสียภาษีจะเสียร้อยละสาม

วันที่ ๔๒๐๑ วันพุธ ขึ้น ๔ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะโรง โทศก จุลศักราช ๑๒๔๒

เช้าวันนี้กรมหมื่นพิชิตลงไปหามิสเตอร์ปัลเครฟเรื่องความมองคุณะเขาไม่ยอมรับเรื่องราวหนานอุตน้อยมหาไชย ที่กล่าวโทษมองคุณะในระหว่างความที่ยังไม่ได้ตัดสิน ถ้าตัดสินแล้วเขาจึงจะรับชำระ และหนานอุตน้อยมหาไชยนั้นเขาเห็นว่าไม่ผิดสิ่งใด ความผิดนั้นอยู่แก่เจ้านคร ขอให้ตรวจดูคำตัดสินหลวงบริบาล แล้วเขียนหนังสือตอบมาถวาย

บ่าย ๒ โมงมิสเตอร์คลากกงสุลเดนมาร์กเฝ้า บ่าย ๓ โมง มิสเตอร์ริชแมนผู้ว่าการกงสุลออสเตรียเฝ้า บ่าย ๔ โมงมิสเตอร์มูลเลอ กงสุลสวิเดน นอรเวย์ และผู้ว่าราชการกงสุลวิลันดาเฝ้า บ่าย ๕ โมง มิสเตอร์ยุกเกอ ผู้ว่าราชการกงสุลอิตาลีเฝ้า ทรงด้วยจะขอเปลี่ยนหนังสือสัญญาเขาก็รับจะบอกไปที่คอเวอนเมนต์ทุกคน แต่มูลเลอนั้นเมื่อจวนจะออกไปทูลว่าฝรั่งพร้อมกันทราบว่าจะเสด็จยุโรป ขอต่อไทยจริง ๆ ให้ปล่อยนักโทษก่อน ทรงตอบว่า คนไทยก็ขอต่อฝรั่งทั้งปวงบ้างว่าความเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับฝรั่งเลย ขอเสียเถิดอย่าให้วุ่นวาย เขาว่าตามพระทัย

เจ้าพระยาสุรวงศ์เฝ้าทรงปรึกษาด้วยการเมืองเชียงใหม่ที่กงสุลอังกฤษมีขึ้นมาจะให้ข้าหลวงใหม่ประพฤติ แต่เป็นการลบล้างสัญญาที่ทำไว้ ท่านรับจะร่างตอบ

ออกขุนนาง พระนรินทรอ่านบอกเมืองระนองเรื่องความผู้ร้ายที่ฆ่าหลวงคลังตายหนีไปเมืองมะริดโต้ตอบไปยังไม่ได้ตัวมา เขาว่าจะส่งถ้อยคำสำนวนไปมรแมนก่อน

เซ็นเรื่องราวพระยาอนุรักษ์

เจ้าพระยาสุรวงศ์จดหมายทูลขอเรือและเสลี่ยงที่สมเด็จเจ้าพระยาจะไปเอาบัญชีเลขหัวเมืองตะวันตกกับส่งร่างท้องตรามาถวาย

ร่างตรา

มีพระราชหัตถ์ตอบ พระราชทานพระบรมราชานุญาตกับส่งร่างตราคืนไป

มีพระราชหัตถ์สั่งเจ้าพระยามหามนตรี ให้จัดทหารไปกับสมเด็จเจ้าพระยา

พระยาพิพัฒน์ถวายหนังสือกงสุลอังกฤษส่งข้อบังคับสำหรับข้าหลวงเมืองเชียงใหม่ กับจะขอให้ข้าหลวงลงไปหา

ข้อบังคับข้าหลวงเป็นความ ๒ ข้อ

ทรงร่างหนังสือตอบ ให้พระยาพิพัฒน์ตอบไปด้วยสงสัยในข้อความที่เขามีขึ้นมาเรื่องส่งความมากรุงเทพ ๆ

พระยารองเมืองริโปตไฟไหม้เมื่อเวลาทุ่ม ๑ ที่โรงกะเบื้องริมหอกลองไหม้เชิงกลอนไปถึงอกไก่แล้วดับได้

สมเด็จพระองค์น้อยทูลด้วยนายสรพลกับนายสรการทูลลาไปช่วยการศพพระยามหาอำมาตย์ กับออฟฟิศใหญ่ในกำปนี ๖ ไม่มีตัวขอองค์จิตรให้ว่าที่กัปตันนายประจณแทนสรการ (เซ็นท้ายว่าดีแล้วส่งไป)

วันที่ ๔๒๐๒ วันพฤหัสบดี ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะโรง โทศก จุลศักราช ๑๒๔๒

บ่าย พระไพรัชนำหนังสือมิสเตอร์กูลด์มีขึ้นมาที่เสมียนตรา ส่งข้อเพิ่มเติมข้อบังคับข้าหลวงเชียงใหม่ที่ความยังขาดอยู่กับทั้งคำอังกฤษด้วยว่าวานนี้ไม่ได้มีมา

(หนังสือฉะบับนี้รีบมีขึ้นมาก่อนหนังสือเราตอบถามที่สงสัยข้อบังคับลงไปหน้าที่จะมีผู้ใดลงไปบอกจึงรีบมีขึ้นมาก่อนหนังสือเราลงไป เมื่อหนังสือเราตอบลง ไปสวนกันกับหนังสือฉะบับนี้)

บ่าย ๕ โมงทรงพระภูษาสี่กรมท่าฉลองพระองค์ราชแปดเตนดดำเสด็จไปพระราชทานเพลิงศพพระยามหาอำมาตย์ที่วัดกัลยาณ์ ประทับพลับพลา สมเด็จเจ้าพระยา เจ้าพระยาสุรวงศ์ และข้าราชการผู้ใหญ่ผู้น้อย กับมิสเตอร์ปัลเครฟและฝรั่งต่าง ๆ เฝ้า โปรดให้พระองค์เจ้าสวัสดิโสภณไปทอดผ้าและใส่เทียนแล้ว ทรงฝักแคเข้าไปพระราชทานเพลิง ย่ำค่ำกลับ

กรมหมื่นนเรศร์ถวายหนังสือสมเด็จกรมพระตอบมิสเตอร์ปัลเครฟเรื่องพูดกันปากเปล่าซึ่งยังไม่เป็นการตกลงกันแก้ไปด้วย การที่เป็นไปนั้นเพราะเข้าใจกันผิด

พระยาพิพัฒน์ถวายหนังสือปัลเครฟ ตอบหนังสือที่พระยาพิพัฒน์มีลงไป ว่าด้วยข้อบังคับข้าหลวงเมืองเชียงใหม่ยอมให้ข้าหลวงชำระความที่ไทยเป็นจำเลย ทั้งสิ้นแต่ความคนในบังคับอังกฤษทั้ง ๒ ฝ่ายนั้นไม่ให้รับชำระ

มีพระราชหัตถ์ถึงพระยาพลเทพ ว่าด้วยมีผู้ร้องด้วยเข้าเมืองไทยนั้นเสียไปไม่เหมือนแต่ก่อน ให้สืบสวนดูจะเป็นด้วยเหตุอันใด

สมเด็จกรมหลวงจดหมายถวายกล่าวโทษกรมหมื่นนเรศร์ ว่าไม่สั่งจ่ายฎีกาประจำเดือนทับถมมากส่งบัญชีฎีกาที่ส่งเข้ามา

วันที่ ๔๒๐๓ วันศุกร์ ขึ้น ๖ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะโรง โทศก จุลศักราช ๑๒๔๒

บ่ายเสมียนตรากรมท่าเฝ้าถวายหนังสือเจ้าพระยาสุรวงศ์ส่งร่างตอบหนังสือมิสเตอร์ปัลเครฟเรื่องข้อบังคับข้าหลวงเมืองเชียงใหม่ ไม่โปรด ทรงพระราชหัตถ์พระราชทานร่างของหลวงไปแล้ว พระไพรัชถวายหนังสือบิลเครฟ ส่งคำขอแก้ร่างประกาศข้าหลวงเมืองเชียงใหม่ รับสั่งให้กรมหมื่นนเรศร์ไปค้นประกาศที่วังสมเด็จกรมพระ

ออกขุนนาง พระศรีเสนาอ่านบอกเมืองพิษณุโลก ขอพระครูธรรมขัติวงศ์เมืองสวางคบุรีเป็นที่พระครูสังฆปาโมกข์

กับอ่านหนังสือเจ้าอุปราชเมืองนครมีมาถึงเจ้านคร ๆ เอามาแปลที่วังสมเด็จได้ความว่าเมืองเชียงใหม่มีหนังสือมาเมื่อเดือน ๔ ข้างแรมให้ยกคนไปตั้งเมืองเชียงแสน ด้วยแต่ก่อนเมืองเชียงตุงมีหนังสือมาบอกกำหนดมาให้เมืองเชียงใหม่แต่งคนไปปรึกษากับที่ห้วงลึก ครั้นเจ้าเชียงใหม่แต่งคนไปยังไม่ทันถึง ภายหลังมีหนังสือขอเลื่อนกำหนดไปใหม่อีก พวกนั้นกลับมาพบพวกเมืองเชียงแขงยกคนลงมาตั้งเมืองเชียงแสน ๓ กองคนประมาณ ๒๐๐ เศษเร่งให้คนเมืองนครยกขึ้นไป ได้ยกไปแต่วันขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือน ๕ ๒๐๐ คน

พระนรินทรอ่านบอกเมืองระนอง ๓ ฉะบับ ส่งภาษี ๕ อย่าง ฉะบับ ๑ ส่งปี้จีน ฉะบับ ๑ ขอเมืองฉวี เมืองตะโก ซึ่งขึ้นชุมพรไปขึ้นระนอง กล่าวโทษว่าผู้ร้ายชุกชุมมาก เมืองชุมพรไม่เป็นธุระ เมืองหลังสวน ๒ ฉะบับ ส่งภาษี ๕ อย่าง ว่าปีนี้มีกำไรเพิ่มเงินฝิ่นถวายอีก ๕ ชั่ง รวมเก่าใหม่ ๑๓๕ ชั่งฉะบับ ๑ ส่งปี้จีนแล้วทูลลาข้าหลวงซึ่งไปทำบัญชีเลขหัวเมืองตะวันตก

พระยาศรีทูลพระอินทรประสิทธิศร ผู้ว่าราชการเมืองอินทร์ กราบถวายบังคมลาบวชว่าเจ็บบนตัว อยู่วัดบวรนิเวศ ด้วยเป็นพี่น้องกับเสด็จ

๑ รับหนังสือมิสเตอร์ปัลเครฟทูลกำหนดวันไปเที่ยวลพบุรี

๒ มีพระราชหัตถ์ถึงสมเด็จพระองค์น้อย ยืมเรือปิกนิกให้ปัลเครฟไปเที่ยว

๓ มีพระราชหัตถ์ถึงพระยามหามนตรี ให้จัดคนจัดเรือให้ปัลเครฟไปเที่ยว

๔ มีพระราชหัตถ์ถึงกรมหมื่นอดิศรให้ปัลเครฟไปเที่ยว

๕ มีพระราชหัตถ์ถึงท้าวราชกิจ บอกกำหนดจะเสด็จพระราชดำเนินไปประพาสทะเล

๖ หนังสือเจ้าพระยาสุรวงศ์ส่งร่างตอบปัลเครฟ เรื่องข้อบังคับข้าหลวงเชียงใหม่

๗ ร่างตอบมิสเตอร์ปัลเครฟ

๘ มีพระราชหัตถ์ตอบไปส่งร่างของหลวงไปให้แก้

๙ ร่างตอบมิสเตอร์ปัลเครฟ ของหลวงทรง

๑๐ เจ้าพระยาสุรวงศ์มีตอบเห็นชอบตามพระกระแสฉะบับ ๑

๑๑ ร่างตอบที่ทรงแก้ใหม่ที่ใช้ตอบไป

๑๒ หนังสือกงสุลอังกฤษขอแก้คำประกาศข้าหลวงเชียงใหม่

๑๓ ต้นกฎหมายคำพะม่า คำอังกฤษ คำไทย แก้ที่เขาส่งมา

๑๔ คำแปลประกาศคำพะม่าแปลที่ออฟฟิศมหาดไทย

๑๕ คำแปลอังกฤษที่เขาแก้แปลใหม่

๑๖ พระยานรรัตน์จดหมายทูลขอหมายสำคัญ เงินทำใหม่ ขอต่อหางเลข ๕ ให้ยาวไป

๑๗ พระอินทรเทพทูลด้วยอ้ายโตไพร่หลวงยามใน หักคอเด็กตาย

๑๘ จ่ายงจดหมายทูล ด้วยรับเรือบรรทุกแร่ทองมาใช้บรรทุกหินทำถนนนั้นรั้วมาก ขอรับพระราชทานซ่อม

วันที่ ๔๒๐๔ วันเสาร์ขึ้น ๗ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะโรง โทศก จุลศักราช ๑๒๔๒

บ่ายไม่มีราชการอะไร เสด็จลงทอดพระเนตรงานที่พระตำหนักจนเกือบย่ำค่ำเสด็จขึ้น

ออกขุนนางพระศรีเสนาอ่านบอกกรุงเก่าชาวบ้านอรัญญิกขอที่พัทธเสมาสร้างวัดกว้าง ๔-๒-๐-๐ ยาว ๙-๒-๐-๐ วา เมืองสีทันดรบอกส่งส่วย กับบอกอุปฮาดตายขอราชวงศ์เป็นอุปฮาต

วันนี้พระยาราชเสนาลงไปหาปัลเครฟ กับเสมียนตรากรมท่า พูดเรื่องความค้างอยู่ที่เมืองเชียงใหม่ ๓ เรื่อง จะให้มิสเตอร์คีอินขึ้นไปว่าขอให้พระยาราชเสนารับชำระ รับสั่งให้สอบกับบอกพระยาเทพ พระยาเจริญ ดูถ้าสงสัยข้อใดข้อหนึ่งให้พระยาเจริญมาถามควรจะรับว่าก็จะได้ว่า ถ้าไม่ควรจะว่าก็จะโต้เถียงไป

พรุ่งนี้จะเสด็จประพาสทะเล วันนี้ทรงตราบัวแก้วให้ท้าวศรีสัจจารักษาไว้ ถ้าเสมียนตราจะมาประทับให้จดหมายไว้ว่าเรื่องใดๆ แล้วพระราชทานมีดตัดกระดาด ที่มีพระราชลัญจกรประทับครั่งเป็นอักษรพระนามให้ไว้ประทับประจำถุง

มีพระราชหัตถ์ถึงสมเด็จกรมพระ เรื่องพระยานรรัตน์ขออนุญาตหมายสำคัญเงินใหม่ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ต่อหางเลข ๕

จมื่นวิชัยยุทธทูลเกล้า ฯ ถวายจำนวนทหารซึ่งไปตามเสด็จประพาสทะเลพรุ่งนี้

มีพระราชหัตถ์ถึงเจ้าพระยามหินทร ให้เคาน์ซิลรักษาพระราชวัง

มีพระราชหัตถ์ถึงกรมท่าบอกด้วยเสด็จประพาสทะเล กับชี้แจงกระแสพระราชดำริ เรื่องที่โปรดเกล้า ฯ ให้มีท้องตราไปถึงท่าน

พระนรินทรถวายคำแปลหนังสือ พระยาตรังกานูตอบตราที่กำชับไปมิให้พวกแขกในเมืองไปเข้าพวกที่เป็นศัตรูรายายะโฮ

เจ้าพระยาสุรวงศ์ถวายงบปีเถาะเอกศก ภาษีฝิ่น

เจ้าพระยาสุรวงศ์ถวายงบปีเถาะเอกศก ร้อยชักสาม

สมเด็จพระองค์น้อยจดหมายหทูล ด้วยพระองค์เจ้าประดิษฐ์วรการป่วยเป็นไข้ตายเสด็จไม่ได้

มีพระราชหัตถ์ชวนอาลบาสเตอให้ไปตามเสด็จ

แกตอบพระราชหัตถ์มาฉะบับ ๑ จะตามเสด็จพระราชดำเนิน

สมเด็จพระองค์น้อยทูล ด้วยนายสรการป่วยมารับราชการประจำเวรไม่ได้

วันที่ ๔๒๐๕ วันอาทิตย์ขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะโรง โทศก จุลศักราช ๑๒๔๒

เวลาบ่ายโมงเศษ เสด็จวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ทอดพระเนตรงานแล้ว บ่าย ๒ โมง เสด็จลงตำหนักแพ สมเด็จเจ้าพระยา เจ้าพระยาสุรวงศ์เฝ้าส่งเสด็จพร้อมด้วยข้าราชการผู้ใหญ่ผู้น้อยหลายนาย ประทับตรัสอยู่ด้วยท่านจนบ่าย ๒ โมง เสด็จลงเรือพระที่นั่งเวสาตรี เจ้านายข้าราชการที่ตามเสด็จคือ กรมหมื่นนเรศร์ ๑ กรมหมื่นพิชิต ๑ พระองค์เจ้าเทวัญ ๑ พระองค์เจ้าดิศวรกุมาร ๑ พระองค์เจ้าสวัสดิโสภณ ๑ พระองค์เจ้าสาย ๑ เจ้าหมื่นไวย ๑ แต่งเป็นทหาร นายเล่ห์อาวุธ ๑ นายราชภัณฑ์ ๑ มิสเตอร์อาลบาสเตอ ๑ กับท้าวราชกิจเป็นผู้ทำเครื่อง ข้างใน พระองค์เจ้าสว่าง กับพระองค์เจ้าเสาวภาตามเสด็จกับมีข้างในอีก ๑ กับเจ้าเข่ง เรือนฤเบนทรบุตรีนั้น พระองค์เจ้าศรีวิลัย พระองค์เจ้าสุวภักตร์ พระองค์เจ้าบัณฑรวรรณ กับข้างในไม่สู้มากนักตามเสด็จ ออกเรือพระที่นั่งขึ้นไปกลับหน้าวัดฝรั่งแล้วล่องลงมาถึงเมืองสมุทรปราการ บ่าย ๕ โมงทอดสมอ เสด็จขึ้นนมัสการพระพุทธเจดีย์พร้อมด้วยข้างใน หลวงอินทรอาวุธถวายโคลงรามเกียรติ์ที่เขาคิดห้องหนึ่งแล้วเสด็จกลับ พวกเมืองสมุทรถวายแล้วพระยาสมุทรไปด้วย ออกเรือพระที่นั่งเวลาเกือบทุ่ม เวลานั้นลมมากคลื่นใหญ่เดือนมืด นำร่องนำทางผิดเกือบติด เวลา ๔ ทุ่มเศษจึงพ้นสันดอน จะไปทอดเกาะสีชังไม่ได้ด้วยไม่มีที่บัง ต้องไปทอดที่อ่าวกระสือ ไปถึงอ่าวกระสือ ๓ ยาม มีเรือกันโบตป้อมไปตามเสด็จด้วยลำ ๑ กรมท่าพระไพรัชไป

ที่ปากน้ำท้าวราชกิจนำเครื่องคุณหญิงพันฝากมาถวาย มีการทำบุญวันเกิด (เมื่อวันศุกร์ขึ้น ๑๓ ค่ำเดือน ๗ มีพระราชหัตถ์ประทานพรไปแต่ลงวันๆ นี้)

คราวนี้เอาช่าง ๑๐ หมู่มาเก็บหินไปก่อเขาด้วย หม่อมเจ้าจันเป็นผู้นำมา มาเรือยอช สมเด็จกรมหลวง หลวงนริศร์ เป็นนายเรือ

วันที่ ๔๒๐๖ วันจันทร์ขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะโรง โทศก จุลศักราช ๑๒๔๒

เวลาเช้า เสด็จทรงเรือโบต ๔ กระเชียงพร้อมด้วยข้างใน เสด็จไปประทับเรือนฤเบนทรหน่อยหนึ่งแล้วเสด็จขึ้นหาด ศรีมหาราชา ซึ่งอยู่หน้าอ่าวกระสือ ทรงเก็บหอยแล้วไปเห็นรอยเนื้อเข้า ให้ทหารเรือขึ้นไล่รอบเกาะ อาลบาสเตอเป็นหัวหน้านำขึ้นไปก็ไม่ได้ไม่มี จึงเสด็จลงเรือพระที่นั่งไปประทับหาดริมฝั่งตรงบ้านคน มิสเตอร์อาลบาสเตอทูลว่าที่นาตรงนี้งามนักเหมือนเมืองยุโรป จึงเสด็จทรงพระดำเนินไปทอดพระเนตรนาจีนเหียบบ่าวเจ้าคุณทหารเป็นเจ้าของบ้าน จึงผูกม้าแดงม้า ๑ มีเครื่องฝรั่ง ขาดศีรษะนกแต่รัดทึบไม่มี ด้วยชาวบ้านนั้นเขาไม่ได้ใช้ ต้องเอาผ้าขาวม้าผูกบางเหียนนั้นเป็นบางเหียนไทยแต่ขาดด้วย ถวายเป็นม้าพระที่นั่ง ทรงไปจนถึงที่นา จึงทอดพระเนตรเห็นลูกม้ามี ๒ ม้า ผู้ ๑ เมีย ๑ โปรดให้จับจะทรงซื้อมัน จึงเลยจับแม่ม้าและม้าเหล่านั้นมาถวายเจ้านายทรงทุกพระองค์ แต่ไม่มีเครื่องเชือกผ่าปากหลังเปล่าทั้งนั้น แต่องค์สวัสดิโสภณนั้นได้เบาะใบ ๑ ทรงม้าไปจนถึงสวนมะพร้าว ให้ทหารขึ้นมะพร้าวอ่อนเลี้ยงกันแล้วเสด็จกลับ เวลานั้นพระยาบางลมุงไปคอยรับเสด็จอยู่ที่บางพระ ทราบเข้ามาเฝ้าที่นั้นด้วย เมื่อเสด็จกลับพระราชทานเงินบาท เงินสลึง เงินเฟื้อง ที่มีติดไป ให้จีนเหียบ รวมเป็นเงินซื้อลูกม้ามาตัว ๑ เอาไปลงเรือกันโบต กับพระนายไวยเอาเครื่องม้าที่ทรงมาเสียด้วย ว่าเป็นเครื่องที่นั่งแล้วไม่ควรจะให้ใครร่วม

บ่าย ออกเรือแต่อ่าวกระสือไปเกาะสีชัง ถึงบ่าย ๔ โมงทอดเหนือแหลมวัดเอาแหลมบังลม แล้วเสด็จทรงเรือพระที่นั่งโบต พร้อมด้วยข้างในเสด็จไปรับพระองค์เจ้าข้างในที่เรือนฤเบนทรมาลงเรือที่นั่งไปประพาสเกาะขามเก็บหอยแล้วมาที่เกาะสีชัง ทอดพระเนตรวัดและแจกเงินราษฎรที่ถวายของแล้วกลับมาเรือพระที่นั่ง รับสั่งให้พระยาสมุทรไปสืบดูหนูบุญเลิศอยู่หรือไม่ ถ้าอยู่เสด็จไปที่ไร่เขา ได้ความว่าไม่อยู่ มารดาไปเมืองตราษ แต่บิดาไปท่าจีน จึงพระราชทานเงินให้พระยาสมุทรไว้พระราชทานบิดาเขา ๑๐ ตำลึง แล้วให้พระยาสมุทรขึ้น ด้วยสิ้นแขวงเขา ให้พาช่าง ๑๐ หมู่ไปเลือกศิลา แล้วให้แต่งให้กรมการส่ง แรมที่เกาะสีชัง

วันที่ ๔๒๐๗ วันอังคารขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะโรง โทศก จุลศักราช ๑๒๔๒

วันที่ ๔๒๐๘ วันพุธขึ้น ๑๑ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะโรง โทศก จุลศักราช ๑๒๔๒

วันที่ ๔๒๐๙ วันพฤหัสบดีขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะโรง โทศก จุลศักราช ๑๒๔๒

วันที่ ๔๒๑๐ วันศุกร์ขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะโรง โทศก จุลศักราช ๑๒๔๒

เวลาตี ๑๑ คืนนี้ ออกเรือพระที่นั่งเวสาตรีแต่เกาะสีชังมาอ่างศิลาโมงเศษ ถึงเวลาเช้า ๒ โมงเสด็จทรงเรือโบตพร้อมด้วยข้างใน ไปรับข้างในเรือนฤเบนทรแล้ว เสด็จขึ้นสะพานฉนวนอ่างศิลา พระไพรัชนำเฝ้าถวายผ้าพื้นผ้าเช็ดปาก แล้วเสด็จประพาสตลาดซื้อของต่างๆ แล้วอ้อมไปเข้าวัดอ่างศิลา แล้วกลับมาแวะทอดพระเนตรค่ายหลวง เสด็จขึ้นไปเก็บมะม่วงในสวนจนเช้า ๓ โมงเสด็จกลับมาลงเรือ ขรัวยายอิ่มมาคอยเฝ้าอยู่ที่สะพาน แวะตรัสด้วยครู่หนึ่งเสด็จกลับ

เช้า ๕ โมงออกเรือพระที่นั่งกลับมากรุงเทพฯ บ่าย ๒ โมงพบเรือบุษบาถือหนังสือพระยาพิพัฒนโกษามาส่ง ถึงสันดอนเข้าปากอ่าวเวลาบ่าย ๓ โมง ทอดสมอเรือพระที่นั่งใต้ป้อมผีเสื้อสมุทร สมเด็จเจ้าพระยาท่านลงเรือสุริยมณฑล จะไปทำบัญชีเลขหัวเมืองตะวันตก ล่องลงมาทอดสมอคอยรับเสด็จอยู่ พอเรือพระที่นั่งทอดสมอแล้ว ท่านลงเรือโบตมาเฝ้าทูลละออง ฯ กราบถวายบังคมลา ประทับตรัสกับท่านที่ห้องสลูน เฝ้าอยู่สักครึ่งชั่วโมงท่านกลับไป แล้วเสด็จไปเรือสุริยมณฑลส่งท่านประทับอยู่สักครึ่งชั่วโมงเสด็จกลับ

บ่าย ๕ โมง พระราชทานเทียนให้พระยาสมุทรไปบูชาพระสมุทรเจดีย์ แล้วถอนสมอเรือพระที่นั่งแล่นขึ้นมากรุงเทพฯ ถึงลัดบน ๒ ทุ่มเศษ ต้องรอเรือพระที่นั่งเดินช้าๆ ขึ้นด้วยเวลานั้นเป็นเวลาน้ำพึ่งจะลง เรือกำปั่นซึ่งทอดอยู่กำลังขวางลำ ครั้นเดินเร็วกลัวจะโดน ถึงตำหนักแพยาม ๑ เสด็จขึ้น เจ้าพระยามหินทร เจ้าพระยาศรีพิพัฒน์ พระยาอภัยรณฤทธิ์ และข้าราชการอีกหลายนายคอยเฝ้ารับเสด็จ เจ้าพระยามหินทรถวายร่างประกาศเรื่องเลขซึ่งเร่งให้เจ้าหมู่นำสักและรับตั๋วพิมพ์ เดิมว่าหม่อมราชวงศ์ให้รับหนังสือพิมพ์คุ้มสักด้วย รับสั่งให้ยกเสีย ยังนับพอได้ใกล้อยู่ ให้รับแต่เพียงหม่อมหลวงเถิด แล้วพระราชทานไข่จละเม็ด ๘๐๐ ให้แจกกัน แล้วเสด็จขึ้น

กรมหมื่นนเรศร์ถวายบอกพระยาคธาธร สมเด็จกรมพระฝากไว้แต่เมื่อเสด็จขึ้น ๘ ค่ำ ๒ ฉะบับๆ ๑ บอกถึงพระยาศรีเรื่องจัดการบ่อพลอย

สำเนาหนังสือพระยาคธาธร ถึงมิสเตอร์นิวแมน เรื่องคำไสกลับเข้ามา

ฉะบับ ๑ เป็นหนังสือพระยาคธาธร ทูลสมเด็จเรื่องจัดการบ่อพลอย

หนังสือพระยาพิพัฒน์ถึงพระไพรัช ให้ถวายหนังสือกงสุลอังกฤษ

หนังสือกงสุลอังกฤษตอบเรื่องข้อบังคับข้าหลวงเมืองเชียงใหม่

หนังสือพระยาพิพัฒน์ถึงพระไพรัชอีกฉะบับ ๑ ให้ถวายหนังสือกงสุลฝรั่งเศส เรื่องเตือนความเงินห้างยุเลียนค้างอ้ายสำอางกับเรื่องกลั่นเหล้า

หนังสือพระยาพิพัฒน์ ว่าด้วยกงสุลฝรั่งเศสมีหนังสือมาเรื่องเหล้ากอฮอล์ ได้ไปเรียนเจ้าพระยาสุรวงศ์ๆท่านรับจะร่างตอบ

หนังสือกงสุลฝรั่งเศสเดือนความเงินค้างอ้ายสำอาง เตือนเรื่องกลั่นเหล้ากอฮอล์

หนังสือพระยาอัษฎงค์ ว่าด่วยคอเวอเนอสิงคโปรคนใหม่มาถึง

หนังสือกรมท่า ๒ ฉะบับๆ ๑ บอกไปถึงสิงคโปร์ ได้ไปหาคอเวอเนอและบอกกำหนดลงเรือเมล์กับขอเงินเติมอีก

ฉะบับ ๑ บอกพระยาภาสไปถึงรับพระราชหัตถ์เลขา และหนังสือต่างๆ

วันที่ ๔๒๑๑ วันเสาร์ขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะโรง โทศก จุลศักราช ๑๒๔๒

วันวิศาขบูชา

เวลาเช้าเลี้ยงพระที่พระที่นั่งอมรินทร ๒๐ รูป ไม่เสด็จออก เวลาบ่าย ๒ โมงเสด็จออกทรงร่างหนังสือตอบมิสเตอร์ปัลเครฟ เรื่องข้อบังคับข้าหลวงเมืองเชียงใหม่ กับรับหนังสือให้กรมหมื่นพิชิตเก็บความมองคุณะเรียงเนื้อความเป็นย่อ ๆ ส่งกรมท่า

บ่าย ๕ โมงเสด็จลงพระตำหนักทูลกระหม่อมชายเสวยที่พระตำหนักจนยาม ๑ เสด็จขึ้น ทรงเครื่องเสด็จพุทธรัตนสถานแล้วเสด็จออกทางพระที่นั่งอนันตสมาคม เมื่อเวลา ๕ ทุ่มเสด็จวัดพระศรีรัตนศาสดาราม สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ถวายเทศน์ เวลา ๗ ทุ่มเสด็จขึ้น

มิสเตอร์ปัลเครฟ กลับลงมาแต่ลพบุรีถึงบ่าย ๕ โมงวันนี้

รับโทรเลขฉะบับ ๑ เรือกงสีเข้ามา

มีพระราชหัตถ์ถึงกรมท่าตอบหนังสือที่มีมา ๒ ฉะบับว่าด้วยเรื่องไม่ไปกินเลี้ยงที่คอเวอเนอนั้น ทรงเห็นชอบด้วย กับว่าได้ส่งบิลเติมไป

รับหนังสือพระยาอัษฎงค์บอก ด้วยกรมท่าไปถึงและลงเรือเมล์ไปเมื่อวันอาทิตย์ขึ้น ๘ ค่ำเดือน ๗ มีสลุตส่ง ๑๙ นัด

มีพระราชหัตถ์ตอบไปฉะบับ ๑ ว่าด้วยเรื่องสัญญาและเรื่องคอเวอเนอคนใหม่จองหอง กลัวจะเหมือนเซอร์วิลเลียมเยอวอย

สำเนาหนังสือพระยาพิพัฒน์ตอบปัลเครฟเรื่องข้อบังคับข้าหลวงเชียงใหม่

มีพระราชหัตถ์ถึงพระยาพิพัฒน์ สั่งให้ตอบหนังสือปัลเครฟและกงสุลฝรั่งเศส

รับหนังสือกงสุลอเมริกันว่าเรือรบอเมริกันเข้ามาลำหนึ่งเข้าปากอ่าวไม่ได้ ขอรับพระราชทานยืมเรือไฟไปรับ ออฟฟิศเซอส่งเรืออรรคเรศให้

พระยาพิพัฒน์ส่งหนังสือพระยาสยามธุรพาห์มีมาว่าด้วยหนังสือพิมพ์เรื่องเมืองจีนว่าด้วยเมืองซึ่งอยู่ในบำรุงมีบรรณาการ

กับหนังสือพระสยามธุรานุรักษ์ ว่าด้วยเปลี่ยนที่ว่าการกงสุลและว่าด้วยเสด็จยุโรป

วันที่ ๔๒๑๒ วันอาทิตย์ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะโรง โทศก จุลศักราช ๑๒๔๒

วิศาขบูชา

มีเลี้ยงพระที่พระที่นั่งอมรินทร ๒๐ ไม่เสด็จออกวันนี้มีตั้งพระครูด้วยเข้าไปรับสัญญาบัตรที่พระที่นั่งบรมราชสถิตย์มโหฬาร พระสังฆปาโมกข์ ไปอยู่วัดเมืองพระพิษณุโลก

กลางวันไม่มีราชการอันใด พระราชทานไข่จละเม็ดให้ท่านเทวัญไปพระราชทานมิสเตอร์ปัลเครฟเป็นของฝาก ๒๐๐ ฟอง

บ่าย ๔ โมงเสด็จตำหนักเสวยแล้วเสด็จพุทธรัตนสถาน

๕ ทุ่มเสด็จวัดพระแก้วทรงดอกไม้แล้วเข้าไปในพระอุโบสถ จุดเทียนรุ่งนมัสการแล้วเดินเทียน พระเทพโมฬีถวายเทศน์ เสวยในพระอุโบสถ เวลา ๗ ทุ่มเศษเสด็จขึ้น

มีพระราชหัตถ์ถึงกรมท่าบอกด้วยเงินที่ท่านซื้อบิลไปเสมียนตราไปสืบที่ห้างมาเกินกว่ากำหนด ๖๐๐ ชั่ง ถ้าไม่พอให้อีก ๖๐๐ เป็น ๑๒๐๐ พอแล้วจึงไม่ส่งเติมไป

รับหนังสือปัลเครฟขอบพระเดชพระคุณที่ไปเที่ยวเป็นสุขสบาย

รับโทรเลขว่า เรืออรรคเรศลงไปกงสุลอเมริกันไปในเรือออกปากน้ำเมื่อบ่าย ๒ โมง

พระยาพิพัฒน์ถวายหนังสือ พระยาอัษฎงค์บอกด้วยส่งหนังสือและเรื่องกรมท่าไปถึงและลงเรือเมล์ไปมีสลุตส่ง

วันที่ ๔๒๑๓ วันจันทร์แรม ๑ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะโรง โทศก จุลศักราช ๑๒๔๒

วิศาขบูชา

เช้ามีเลี้ยงพระสดับปกรณ์กาลานุกาลที่พระที่นั่งอมรินทร ๒๖ รูป แต่ไม่ได้เสด็จออกทรงพระราชดำเนินไม่สู้ถนัด บ่ายพระยามหามนตรีเฝ้าถวายรายงานพระที่นั่งใหม่

บ่าย ๕ โมงเสด็จตำหนักอย่างวานนี้แล้วเสด็จพุทธรัตน ๒ ยามเสด็จออกทางพระที่นั่งอนันตสมาคม ทรงจุดดอกไม้แล้วเสด็จเข้าในพระอุโบสถ จุดเทียนรุ่งแล้วเดินเทียน พระศรีวิสุทธิวงศ์ถวายเทศนี้ ๘ ทุ่มเสด็จขึ้น

มีพระราชหัตถ์ สั่งจมื่นไชยาภรณ์ ทำโทษผู้ร้ายทำเงินแดง เฆี่ยน ๓ ยก ส่งคุกจนตาย

พระยาพิพัฒน์ถวายหนังสือมิสเตอร์กูลด์มีขึ้นมาขอหนังสือเดินทางให้มิสเตอร์ตีวินไปเมืองเหนือ กับที่ศาลเขามอบความหลายเรื่องที่ค้างอยู่ที่เมืองเชียงใหม่ให้ขึ้นไปว่า ขอท้องตราให้ข้าหลวงชำระ ส่งสารบบความมาด้วย

สารบบความพะม่าล้างที่เมืองเชียงใหม่ ๙ เรื่อง

มีพระราชหัตถ์ถึงพระยาพิพัฒน์ให้นำหนังสือนี้ไปถวายสมเด็จกรมพระให้สอบความกับบอกพระยาเทพ พระยาเจริญ ควรรับว่าให้ว่า ถ้าควรโต้เถียงก็จะได้โต้เถียงไป

วันที่ ๔๒๑๔ วันอังคารแรม ๒ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะโรง โทศก จุลศักราช ๑๒๔๒

บ่าย ๒ โมงเสด็จออกทรงคำปรึกษาลูกขุน ทรงเซ็น ๓ ฉะบับ ส่งพระยามหามนตรีฉะบับ ๑ พระพิเรนทรฉะบับ ๑ พระยารองเมืองฉะบับ ๑

พระองค์สายเฝ้าถวายหนังสือรับจำนำที่ตำบลเหนือวัดลาดบัวขาวรายอาลบาสเตอ แล้วทรงร่างหนังสือจะพระราชทานสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ พระยารองเมืองเฝ้าถวายแผนที่ ๆ นาปทุมวันที่จะซื้อทำสวน

ออกขุนนาง เมืองพรม กรุงเก่า บอกน้ำฝนต้นเข้าเทียบราศีเมษมากกว่าปีเถาะศอก ๑ เมืองจันทบุรีส่งส่วยอาศนา เมืองตราษส่งหวายเพศเดา

ค่ำมีพระราชหัตถ์สั่งพระยาไชยสุรินทร ยกที่รายอาลบาสเตอพระราชทานสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ

รับหนังสือสมเด็จเจ้าฟ้าภาณุรังษี ทูลเตือนที่ท่านทูลขอนายพัดข้าพระองค์เจ้าชิตซึ่งยังไม่ได้ทรงเซ็น (เซ็นพระราชทาน)

พระไพรัชถวายหนังสือปัลเครฟมีมาบอกด้วยจะทำการเฉลิมพระชนมพรรษาควีน

ทรงสั่งให้พระไพรัชแต่งเต็มยศไปให้พร

กงสุลอเมริกันมีหนังสือมาที่กรมท่า ขอกำหนดให้พวกเรือรบเฝ้า

นายเสน่ห์ถวายหนังสือว่าด้วยการบ่อทองจะของดการโม่แร่ก่อนด้วยแร่มีน้อยไม่พอทำ เสียค่าโสหุ้ยมากไม่ได้กำไร จะขอรับพระราชทานขุดแร่ไว้ให้มากแล้วจึงจะทำการ

กรมหมื่นนเรศร์ถวายเรื่องราวพระยาสุจริต ขอทำสวนในน่าดิปิลที่วัง ที่วัดมหาธาตุ ที่ตึกวิชาเยนทรทูลเกล้า ฯ ถวาย

ริโปตสมเด็จกรมหลวง ชำระความฆ่าพระวัดโมฬีโลกลักกะจกเรื่องสามก๊ก

เจ้าพระยาพลเทพจดหมายถวาย ว่าด้วยเรื่องเข้าเสียเป็นด้วยน้ำมากน้ำน้อย เกี่ยว นวด ไม่ทันน้ำหนักจึงน้อยไป

วันที่ ๔๒๑๕ วันพุธแรม ๓ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะโรง โทศก จุลศักราช ๑๒๔๒

บ่าย ๒ โมง พระยารองเมือง พระนายไวย กัปตันริเจลิว เฝ้าถวายแผนที่ปทุมวัน ทรงตรวจตัดที่ซึ่งจะต้องพระราชประสงค์ ให้กัปตันริเจลิวไปปักกรุย พระยาไชยสุรินทรถวายหนังสือรับจำนำโรงสีดาเนีย พระยารองเมืองถวายแผนที่ตลาดริมวัดสามจีน สมเด็จพระองค์น้อยเฝ้า พระราชทานหนังสือนายพัดข้าพระองค์ชิต ฯ

ออกขุนนาง พระศรีเสนาอ่านศุภอักษรเมืองเชียงใหม่บอกความเมืองเชียงแสน เหมือนหนังสือเจ้าอุปราชเมืองนครมีลงมา แต่กล่าวโทษเจ้าอุปราชเมืองนครว่าไม่เอาคนไปตั้งและรักษา มีแต่คนเมืองเชียงใหม่ เมืองลำพูนเข้าไปตั้ง ๕๐๐ เท่านั้น กับส่งต้นหนังสือเมืองเชียงตุง เมืองเชียงแข็งลงมา ใจความลงกันว่า การที่ว่ากันแต่ก่อนจะไม่ตั้งทั้ง ๒ ฝ่าย ซึ่งเมืองเชียงใหม่เอาคนไปตั้งครั้งนี้ผิดกับคำที่พูดไว้ ให้เร่งถอนเสีย ถ้าในเดือน ๗ ไม่ถอนสัปทนกับงาช้างจะต้องฟัดกัน แต่เมืองเชียงแข็งนั้นใหญ่โต ว่าจะยกคนมาทางเมืองพาปูน ตองอู และทางเมืองต่างๆ มารวมกันตีเชียงใหม่ เมือง ๑๒ พันนามาตีหลวงพระบาง รับสั่งว่าที่จะยกมาทางพาปูน ตองอู นั้นมาไม่ได้ด้วยเป็นของอังกฤษ การเรื่องนี้ไม่ต้องกลัวเลย ให้พระยาศรีถามเจ้านครเรื่องคนแล้วให้รีบมีหนังสือขึ้นไปถึงเจ้าอุปราชให้ส่งคนไปโดยเร็วกับเมืองที่เมืองเชียงแข็งว่าจะยกมานั้น ให้ไปสอบแผนที่ๆ อาลบาสเตอมาถวายทอดพระเนตร

พระนรินทรอ่านบอกเมืองกาญจนบุรี เรื่องกะเหรี่ยงตีเขตต์แดนไทย ซึ่งกงสุลอังกฤษว่าขึ้นมาว่า ไปเก็บเงินกะเหรี่ยงในเขตต์แดนอังกฤษ พระสุวรรณคีรีชำระได้ความว่า แขวงนั้นเป็นแขวงเมืองสังค่ะละบุรี ตรวจแผนที่ก็เถียงกัน จะมีหนังสือไปยังเจ้าพนักงานกรมท่า ให้มีไปยังกงสุลอังกฤษ

พระไพรัชถวายบัญชีชื่อพวกเรือรบอเมริกัน คำสปิชให้พรควีนให้พระไพรัชไปสปิชที่บ้านกงสุลอังกฤษ

เซ็นพระราชหัตถ์ฟุลเปาเวอส่งกรมท่า ซึ่งจะไปแก้สัญญา ๔ ฉะบับ ไปเมืองเยอรมัน

ไปเมืองออสเตรีย

ไปเมืองวิลันดา

ไปเมืองฝรั่งเศส

สมเด็จกรมพระจดหมายถวาย เรื่องความห้างยุเลี่ยน ค้างเงินอ้ายสำอางที่ตระลาการปรึกษาพร้อมกันลงชื่อเข้ามาถวาย

ความเห็นตระลาการ ๘ นาย จะให้เขาสาบาน ถ้าสาบานได้จะยอมใช้

รับสั่งให้หาเจ้าพระยามหินทรให้มาเฝ้าพรุ่งนี้

มีพระราชหัตถ์สั่งจมื่นไชยาภรณ์หำโทษอ้ายขุนเนรทำเงินแดง

มีพระราชหัตถ์ถึงพระยารองเมือง ให้ขายที่ระบาดนุดอาหารรายมองซวยวัดเช่าทำโรงเลื่อย พระองค์เจ้าเทวัญ

เซ็นบานแผนก ๒ ฉะบับ

วันที่ ๔๒๑๖ วันพฤหัสบดีแรม ๔ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะโรง โทศก จุลศักราช ๑๒๔๒

บ่าย ๒ โมงเช้าพระยามหินทร เฝ้าทรงเรื่องความห้างยุเลียนค้างเงินอ้ายสำอางนั้น ตระลาการให้สาบานไม่ถูก ด้วยอ้ายสำอางเป็นลูกหนี้ หลวงริบมาก็ยังไม่ท่วมเงิน ประการหนึ่งริมราชบาตรไม่มีธรรมเนียมที่จะให้ใช้หนี้ ประการหนึ่ง ฟ้องก็เกินกำหนดด้วย กระแสพระราชดำริเห็นว่าควรจะโต้ได้ แกทูลว่าความเห็นนั้นเห็นว่าเป็นการยุตติธรรม และพูดยืนยันอื่นๆ ไปมาก ไม่ถูกกับกระแสพระราชดำริกริ้วมาก มีพระราชหัตถ์ถึงสมเด็จกรมพระไม่ยอมใช้เงินรายนี้ พระศรีเฝ้าถวายคำอาลบาสเตอสอบแผนที่กับคำเจ้านครลำปาง

ออกขุนนางไม่มีราชการอะไร

วันนี้มิสเตอร์ปัลเครฟมีดินเนอในการวันเกิดควีน เชิญคนไทยไปหลายคน คือ สมเด็จกรมพระ ๑ สมเด็จพระองค์น้อย ๑ กรมหมื่นนเรศร์ ๑ กรมหมื่นพิชิต ๑ กรมหมื่นอดิศร ๑ พระองค์เจ้าเทวัญ ๑ พระองค์เจ้าดิศวรกุมาร ๑ หม่อมเจ้าอลังการในสมเด็จกรมพระ ๑ เจ้าพระยาสุรวงศ์ ๑ พระยาพิพัฒน์ ๑ พระยาวิสูตรโกษาวังหน้า ๑ พระไพรัชแต่งเต็มยศไปให้พร ส่วนในราชการเวลา ๔ โมงเช้า ค่ำจุดโคมและดอกไม้ไฟ

พระพหลถวายเรื่องราวกล่าวโทษพระยารองเมืองว่า ถือเอาที่ซึ่งพระราชทานเขาแล้วเอาเป็นที่หลวง ซึ่งจะพระราชทานพระยาสุจริต (มีหนังสือพระยารองเมืองอนุญาตเป็นสำคัญถวายมา)

หนังสือพระยารองเมือง ถึงพระพหล

วันนี้พระยารองเมืองเฝ้าพระราชทานเรื่องราวนี้ให้ดู ให้ให้การมา

เจ้าพระยาศรีพิพัฒน์เฝ้าถวายบัญชีปี้จีนจำนวนปีชวด อัฐศก

เจ้าพระยาศรีพิพัฒน์เฝ้าถวายบัญชีปี้จีนจำนวนปีเถาะ เอกศก

เจ้าพระยาศรีพิพัฒน์เฝ้าถวายเรื่องราวทูลด้วยเงินรายทำพระบรมบรรพตซึ่งโปรดเกล้า ฯ ให้งดการนั้นยังค้างอยู่ขอรับพระราชทานเบิกเงิน (โปรดเกล้า ฯ พระราชทานให้เบิก)

มีพระราชหัตถ์ถึงสมเด็จกรมพระเรื่องความห้างยุเลียนค้างเงินอ้ายสำอางนั้นไม่ยอมใช้เงินหลวงให้เอาเงินตระลาการใช้

คำให้การเจ้านครเรื่องราชการเมืองเชียงแสนว่า คนส่งไป ๔๐๐ แล้วจะมีหนังสือสั่งไปให้เตรียมคนไว้อีก ๒,๐๐๐

คำมิสเตอร์อาลบาสเตอสอบแผนที่ที่พะม่าจะยกมาๆ ไม่ได้ ด้วยเป็นเขตต์อังกฤษ

มีพระราชหัตถ์พระราชทาน ที่ตำบลบางคอแหลมริมวัดลาดบัวขาวรายรับจำนำมิสเตอร์อาลบาสเตอที่ ๑ พระราชทานสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ

มีพระราชหัตถ์พระราชทานที่ตลาดตำบลคลองผะดุงกรุงเกษมฝั่งตะวันตกใกล้วัดสามจีน พระราชทานสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ

เซ็นพระราชหัตถ์สำคัญพระราชทานเงินค่าของให้พระองค์เจ้าเทวัญ ๒ ฉะบับ พระราชทานเงินทำวังฉะบับ ๑

องค์ดิศ ฯ จดหมายทูลลาไปดินเนอบ้านกงสุลอังกฤษ

วันที่ ๔๒๑๗ วันศุกร์ แรม ๕ ค่ำเดือน ๗ ปีมะโรง โทศก จุลศักราช ๑๒๔๒

บ่าย ๒ โมงพระไพรัชเฝ้าถวายเตเลแกรมเจ้าพระยาภาณุวงศ์มีเข้ามาว่าไปถึงคอนวันแรมค่ำ ๑ แล้ว พระยารองเมืองเฝ้าเรื่องที่พระราชทานพระยาสุจริต กับทรงด้วยที่ตลาดเสาชิงช้าจะทำพระราชทานสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ กับรับสั่งให้พระไพรัชคัดสำเนาหนังสือเจ้าพระยาทิพากรวงศ์มีถึงกงสุลต่างประเทศเรื่องสั่งของไม่มีสัญญาไม่ให้มาถวาย

บ่าย ๔ โมงกงสุลอเมริกันพากัปตันเรือรบกับออฟฟิศเซอ รวม ๑๓ นายเฝ้า

ออกขุนนางพระยาพิพัฒน์อ่านบอกเมืองตราษ ขุนรองปลัดอายุ ๗๐ ปีตาย (มีความสงสัยว่าเป็นแต่ขุนรองปลัดเท่านั้นทำไมจึงถึงมีใบบอก) ข้าหลวงไปเซอเวย์ทางทำโทรเลขเมืองชุมพรกลับเข้ามา หลวงประจักรชวการ มิสเตอร์เดวิดซันกัปตันลอฟตัสเฝ้าพร้อมกับขุนนาง ได้ทำแผนที่ตลาดไปถึงเมืองตรัง ครั้งนี้กัปตันลอฟตัสได้ต้นไม้ที่ทำยางอินเดียรอบเบอมาถวาย รับสั่งว่าควรจะทำเป็นส่วยดีกว่าส่วยกะดาน

มิสเตอร์อาลบาสเตอทูลด้วยเอเยนต์ห้างไดนาเมนต์เข้ามาจะขอลองโตปิโดถวาย

พระยาพิพัฒน์จดหมายทูลด้วยห้างมากวนส่งบิลที่เจ้าพระยาภาณุวงศ์ใช้เงินมารับเงิน ๒ ฉะบับ (โปรดเกล้าฯ ให้เบิกคลัง) กับหนังสือเมซันมีเข้ามา ๒ ฉะบับ ๆ ๑ บอกด้วยเรื่องเปลี่ยนมินิสตรีเมืองอังกฤษ กับบอกข่าวมิสเตอร์นอกซ์ได้ตราคอมมันเตอเซนต์ไมล์เคอลเซ็นต์ยอช

ฉะบับ ๑ ส่งสำเนาหนังสือมิสเตอร์ปอลปิกเกนแปกบอกข่าว ถวายตราเจ้าเมืองเยอรมัน

สำเนาหนังสือปิกเกนแปกถึงเมซันบอกเรื่องจะไป ถวายตราปรินซคาล ปรินซวิลเลียม

ฉะบับ ๑ บอกด้วยถวายตราแล้ว

นายจ่างมหาดเล็กบุตรพระยาราชสงครามขอรับพระราชทานเลขพระวิสูตรโยธามาตย์ (เซ็นพระราชทาน)

สมเด็จกรมพระทูลด้วยกรมการเมืองปราจีนบอกข่าวช้างสีประหลาดเข้ามา

ใบบอกกรมการเมืองปราจีนบุรี

พระนรินทรถวายสำเนาหนังสือเจ้าพระยาสุรวงศ์มีไปถึงพระยาพิพัฒน์ให้ส่งความไปยังกงสุลอังกฤษเรื่องกะเหรี่ยงเก็บเงินเมืองสังคะละบุรี

พระยารองเมืองจดหมายทูลเรื่องที่พระพหล

วันที่ ๔๒๑๘ วันเสาร์แรม ๖ ค่ำเดือน ๗ ปีมะโรง โทศก จุลศักราช ๑๒๔๒

บ่ายเสด็จออกอาลบาสเตอเฝ้าทรงด้วยความมองคุณะ พระไชยยศเฝ้าถวายงบปีเงินมีในพระคลังที่ไปลงบัญชีเติม

บ่าย ๔ โมงมิสเตอร์ปัลเครฟเฝ้าทรงอยู่จนยาม ๑ แกมาดูห้องไลเบอรีและออฟฟิศแล้วจึงกลับไป

แกกราบทูลขอรับพระราชทานจัดสกุลในเมืองไทยถวาย โปรดพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้

พระไพรัชคัดสำเนาหนังสือเจ้าพระยาทิพากรวงศ์มีไปถึงกงสุลต่างประเทศเรื่องสั่งของให้มีสัญญามาถวาย

พระยาพิพัฒน์ถวายหนังสือกงสุลวิลันดาถึงกรมท่าส่งหนังสือ มิสเตอร์เยมูลเลอทูลเกล้า ฯ ถวาย

หนังสือกงสุลทูลนำหนังสือมิสเตอร์เยมูลเลอ

เรื่องราวมิสเตอร์เยมูลเลอขอผูกเช่าทำหนองพานโพดแขวงเมืองลพบุรี

เรื่องนี้รับสั่งให้กรมหมื่นนเรศรคัดสำเนาไปถวายสมเด็จกรมพระให้ท่านทรงไล่เลียงดูว่าหนองนี้ได้ทำกันหรือไม่ ทำเลที่เป็นอย่างไร

วันที่ ๔๒๑๙ วันอาทิตย์แรม ๗ ค่ำเดือน ๗ ปีมะโรง โทศก จุลศักราช ๑๒๔๒

วันนี้เปลี่ยนเวลาออฟฟิศใหม่ มีกำหนดเวลาเสด็จออกบ่าย ๒ โมงทรงพระอักษรสั่งหนังสือเก่าๆ ที่ค้างอยู่หลายฉะบับ บ่าย ๕ โมงเลิกอออฟฟิศ เสด็จลงทอดพระเนตรงานที่พระตำหนัก เวลาทุ่ม ๑ จึงเสด็จกลับ

กรมหมื่นนเรศรีรวมทองคำใบ ทองคำลิ่ม เงินแท่งญวน ที่ปลวกกินตู้เหล็กทูลเกล้า ฯ ถวาย เก็บตู้ใหม่ในที่อย่างเดิม

ออกขุนนาง ๒ ทุ่ม พระศรีเสนาอ่านบอกเมืองอินทร์ผู้ร้ายปล้นกระบือแต่งตัวปลอมเป็นตองซู ครั้นกรมการจะจับคุมเกรงอยู่ว่าจะต่อสู้ก็จะเป็นอันตรายลงบ้าง ไม่ทราบว่าจะเป็นตองซูหรือปลอม บอกเป็นการขัดข้องลงมา โปรดเกล้า ฯ ให้พระยาพิพัฒน์มีหนังสือส่งไปถามมิสเตอร์ปัลเครฟเป็นแต่การสงสัย ถ้ามีเหตุดังนี้เจ้าเมืองกรมการจะมีอำนาจสักเพียงใด กับหลวงวาสุเทพบอกราษฎรกล่าวโทษพระไชยราช ปลัดเมืองพระพิษณุโลกเรื่องลงเงินกับผู้ร้ายปล่อยเสียฉะบับ ๑ (โปรดเกล้า ฯ ให้จมื่นไชยาภรณ์ขึ้นไปชำระด้วยหลวงวาสุเทพ ถำหนักหนาอย่างใหญ่โตไปให้ลงมาชำระที่กรุงเทพ ฯ) เมืองนนท์บอกฆ่ากันตายฉะบับ ๑ ปล้นฉะบับ ๑ ยังชำระอยู่ พระยาปราจีนกราบถวายบังคมลาไปรักษาราชการ

หม่อมเจ้าหญิงวงศ์ถวายเรื่องราวกล่าวโทษหม่อมเจ้าทั่ง เจ้าสวัสดิ์ตระลาการว่ากดความไว้ (เซ็นให้กรมขุนบดินทรว่าเสียให้แล้ว)

พระยามหามนตรีถวายบัญชีฝีพายเรือ ทหารเรือตามเสด็จบางปอิน

สมเด็จพระองค์น้อยถวายบัญชีทหารมหาดเล็กตามเสด็จบางปอิน กับส่งเรื่องราวหม่อมราชวงศ์วงขอเลข (สั่งพระราชทานให้)

มีพระราชหัตถ์สั่งเจ้าพระยามหินทรให้เคาน์ซิลรักษาวังตามเคย

มีพระราชหัตถ์สั่งเจ้าพระยาพลเทพพระราชทานที่นาเหลือมอ้อให้พระสิทธิไชยทำ

มีพระราชหัตถ์ถึงกรมท่าบอกส่งฟูลเปาเวอสำหรับเมืองออสเตรีย เมืองเยอรมัน ฝรั่งเศส วิลันดา กับบอกเรื่องปัลเครฟทำการวันเกิดควีน และเรื่องเรือรบอเมริกันเข้ามา

กรมหมื่นนเรศร์ถวายหนังสือ สมเด็จกรมพระ ฝากมาหลายฉะบับ

ฉะบับ ๑ หนังสือตอบปัลเครฟเรื่องความงะพูลฟ้องนนตาคันทะ เรื่องลักช้างซึ่งจะเอาเงินกับพระอินทรคิรี

ฉะบับ ๑ ปัลเครฟตอบมาให้ถอดพระอินทรคิรี ว่าสมคบผู้ร้าย

ฉะบับ ๑ หนังสือสมเด็จถวายความเห็นเรื่องจะตอบกงสุลอังกฤษ ซึ่งขอแก้หมายประกาศเมืองเชียงใหม่

ฉะบับ ๑ หนังสือสมเด็จถวายว่าด้วยประชุมตระลาการเรื่องความห้างมา แลยุเลี่ยนค้างเงินอ้ายสำอาง ทำความเห็นถวายคนละฉะบับกับท่านร่างตอบกงสุลฝรั่งเศสส่งมาด้วย

ฉะบับ ๑ ความเห็นเจ้าพระยาพลเทพเรื่องความห้างยุเลียนค้างเงินอ้ายสำอาง

ฉะบับ ๑ ความเห็นเจ้าพระยามหินทร เรื่องความห้างยุเลี่ยนค้างเงินจ่ายสำอาง

ฉะบับ ๑ ความเห็นพระยาราชภักดี เรื่องความห้างยุเลียนค้างเงินอ้ายสำอาง

ฉะบับ ๑ ความเห็นพระยากลาโหมราชเสนา เรื่องความห้างยุเลียนค้างเงินอ้ายสำอาง

ฉะบับ ๑ ความเห็นพระยาศรีสิงหเทพ เรื่องความห้างยุเลียนค้างเงินอ้ายสำอาง

ฉะบับ ๑ ความเห็นพระยามหามนตรี เรื่องความห้างยุเลียนค้างเงินอ้ายสำอาง

ฉะบับ ๑ ความเห็นพระยาอินทราธิบดีสีหราชรองเมือง เรื่องความห้างยุเลียนค้างเงินอ้ายสำอาง

ฉะบับ ๑ ความเห็นพระยาสุริยภักดี เรื่องความห้างยุเลียนค้างเงินอ้ายสำอาง

ฉะบับ ๑ ความเห็นร่างหนังสือตอบกงสุลฝรั่งเศส เรื่องความห้างยุเลียนค้างเงินอ้ายสำอาง

สมเด็จกรมหลวงจดหมายทูลว่าเวลา ๔ ทุ่ม ๑๔ นาที วันนี้หม่อมเจ้าหญิงน้องพระองค์เจ้าเศรษฐวงศ์วราวัฒน์ ประสูติองค์ ๑

วันที่ ๔๒๒๐ วันจันทร์แรม ๘ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะโรง โทศก จุลศักราช ๑๒๔๒

เวลาเช้า ๒ โมง จะเสด็จพระราชดำเนินไปบางปอิน ปล่อยเรือพระประเทียบไปก่อน เช้า ๒ โมงเศษ เสด็จวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ทอดพระเนตรแล้วเสด็จเข้าไปในพระอุโบสถ ทรงนมัสการ และทอดพระเนตรหม่อมราชวงศ์แจ้งขัดพื้นพระอุโบสถเป็นตัวอย่างถวาย โปรดเกล้า ฯ ว่าจะจ่ายคนให้ขัด พวกหม่อมราชวงศ์นั้นให้เป็นแต่คอยชักเงา แล้วเสด็จมาตำหนักแพ ลงเรือพระที่นั่งโสภณภควดี สมเด็จพระองค์น้อย กรมหมื่นนเรศร พระองค์เจ้าเทวัญ พระองค์เจ้าดิศวรกุมาร พระองค์เจ้าสวัสดิโสภณ กับหัวหมื่น พระนายไวยสรรเพธ หลวงนายฤทธิ์ ไปเรือพระที่นั่ง พระยาประภากรวงศ์เป็นกัปตัน ออกเรือเวลาเช้า ๓ โมงครึ่ง ขึ้นไปถึงทางตลาดจวนจะเข้าเกร็ดพบเรือราชสีห์ จมื่นทิพเสนากับปลัดวังซ้ายลงมากราบทูลว่า เรือพระที่นั่งพระองค์เจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ ซึ่งเรือปานมารุตจูงไปนั้นล่มที่บางพูด สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้ากรรณาภรณ์เพ็ชร์รัตน์สิ้นพระชนม์ จึงรีบแล่นเรือพระที่นั่งขึ้นไปถึงบางพูด เช้า ๕ โมงเห็นเรือไฟและเรือพระประเทียบทอดอยู่กลางน้ำที่เขาดำทราย เหนือบ้านพระยาเกียรติ์หน่อย ประทับเรือพระที่นั่งเข้าที่เรือปานมารุต ไล่เลียงกรมหมื่นอดิศรกับพระยามหามนตรีด้วยเรื่องเรือล่ม พระยามหามนตรีทูลว่า เรือราชสีห์ซึ่งจูงเรือพระองค์เจ้าสุขุมาลย์นั้นไปหน้าใกล้ฝั่งตะวันออก เรือโสรวารซึ่งพระยามหามนตรีไปจูงเรือพระองค์เจ้าเสาวภาตามไปเป็นที่สอง แนวเดียวกัน เรือยอชสมเด็จกรมหลวงซึ่งจูงเรือกรมสมเด็จพระสุดารัตนราชประยูร ไปทางฝั่งตะวันตกแล่นตรงกันกับเรือราชสีห์ แล้วเรือปานมารุตแล่นสวนขึ้นมาช่องกลางห่างเรือโสรวารสัก ๑๐ ศอก พอเรือปานมารุตแล่นขึ้นไปใกล้เรือราชสีห์ก็เบนหัวออก เรือพระประเทียบเสียท้ายปัดไปทางตะวันออก ศีร์ษะเรือไปโดนข้างเรือโสรวารน้ำเป็นละลอกปะทะกันกดศีร์ษะเรือพระประเทียบจมคว่ำลง พระยามหามนตรีว่าได้ลงน้ำดำเข้าไปในเก๋ง เชิญเสด็จสมเด็จพระเจ้าลูกเธอออกมา ก็สิ้นพระชนม์เสียแล้ว แต่กรมหมื่นอดิศรซัดพระยามหามนตรีว่า เป็นเพราะเรือโสรวารหนีตื้นออกมา จึงเป็นเหตุเรือปานมารุตแล่นห่างกว่า ๑๐ ศอก ต่างคนต่างซัดกัน จึงโปรดเกล้าฯ ให้เจ้านายขึ้นไปไล่เลียงดูที่คนอื่น ๆ ทีละคนสองคนแยกถันถาม จึงได้ความว่าพระองค์เจ้าสุนันทาก็สิ้นพระชนม์ด้วยกับแก้วพระพี่เลี้ยงอีกคน ๑ ตาย และคนที่อยู่ในเก๋งออกไม่ทันบ้าง ที่สลบก็แก้ฟื้นขึ้นได้หลายคน จึงไล่เลียงได้ความว่า เมื่อเรือล่มคว่ำนั้น พระองค์เจ้าสุนันทาประทับอยู่ในเก๋งยังเสด็จออกไม่ได้ จึงได้ช่วยกันหงายเรือขึ้น การที่หงายนั้นว่าช้าอยู่มากกว่าครึ่งชั่วโมงจึงได้เสียท่วงที เมื่อเชิญพระศพขึ้นมาที่เรือปานมารุตแล้วก็ช่วยแก้ไขกันมาก ครั้งนี้เผอิญให้หลวงราโชมาในเรือปานมารุตด้วย ได้ช่วยแก้เต็มกำลังก็ไม่ฟื้น ชาวบ้านที่แก้พวกข้าหลวงรอดหลายคน เอามาแก้ก็ไม่ฟื้นได้ เมื่อได้ความดังนี้แล้วจึงได้กราบใต้ฝ่าละออง ฯ ว่าพระองค์เจ้าสุนันทาสิ้นพระชนม์ด้วย เมื่อเรือพระที่นั่งมาประทับไล่เลียงอยู่นั้นสัก ๑๐ มินิตกว่าก็ไม่ทราบ ไม่มีใครกราบบังคมทูล และกรมสมเด็จพระสุดารัตน์กับเจ้านายก็มาประชุมพร้อมอยู่ในเรือปานมารุต พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็เสด็จขึ้นไปประทับอยู่ในเรือปานมารุต ให้ช่วยกันแก้ไข ด้วยพระองค์ยังร้อนอ่อนอยู่ จนบ่าย ๒ โมงก็ไม่ฟื้นขึ้นได้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเศร้าโศกเสียพระทัยยิ่งนัก แต่ทรงพระวิตกอยู่ด้วยเรือพระที่นั่งพระองค์เจ้าสว่างซึ่งสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศเสด็จไปในนั้นด้วย ออกเรือไฟก่อนเลยขึ้นไปเสียแล้ว กลัวจะไปเป็นเหตุตามทาง แล้วสมเด็จกรมพระซึ่งจะมาจัดการทางนี้ก็ล่วงหน้าไปเสียก่อนด้วย จึงโปรดเกล้าฯ ให้กรมหมื่นนเรศร์จัดเรือไฟขึ้นไปตามให้เสด็จกลับลงมา กรมหมื่นนเรศร์จัดให้จมื่นทิพเสนาปลัดวังซ้ายลงเรือราชสีห์ขึ้นไป แล้วภายหลังให้หลวงนายสิทธิ์ลงเรือกระมุทมาลาตามขึ้นไปทูลสมเด็จกรมพระให้เสด็จกลับลงมาด้วย แต่เรือกระมุทไปทันเรือราชสีห์ก็ลงเรือราชสีห์ไป เรือกระมุทกลับลงมา เรือราชสีห์ได้ไปแต่ ๕ โมงเช้า ประทับคอยสมเด็จกรมพระและสมเด็จพระเจ้าลูกเธออยู่จนบ่าย ๔ โมงยังไม่เห็นเสด็จ ไม่ทรงไว้พระทัยกลัวเรือราชสีห์จะไปมีเหตุ จึงรับสั่งให้กรมหมื่นนเรศร์ลงเรือพระที่นั่งโสภณขึ้นไปตามอีก ประทับคอยอยู่ย่ำค่ำ รับสั่งให้พระองค์สายจัดเรือพระที่นั่งเวสาตรีรับพระศพ และเชิญเสด็จเจ้านายที่ไปเรือเล็กขึ้นประทับบนเรือพระที่นั่งเวสาตรี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็เสด็จประทับมาในเรือพระที่นั่งนั้นด้วย เชิญพระศพขึ้นจวนทุ่มไว้ที่ห้องสลูน

เวลายามเศษสมเด็จกรมพระเสด็จลงมาถึงทรงปรึกษาด้วยจะจัดการเชิญพระศพตกลงแล้ว สมเด็จกรมพระท่านล่วงหน้ากลับลงไปกรุงเทพ ฯ ก่อน แล้วโปรดเกล้า ฯ ให้พระนายไวยขึ้นไปตามเรือพระที่นั่งสมเด็จพระเจ้าลูกเธออีก พอ ๔ ทุ่มจึงมาถึง

เวลา ๔ ทุ่มครึ่งเป็นเวลาน้ำขึ้นออกเรือพระที่นั่งเวสาตรีล่องลงมากะเวลาจะให้ถึงตำหนักแพก่อนน้ำลงจะได้จอดง่าย แต่เรือเล็ก ๆ นั้นให้พระยาประภาอยู่ กักไว้ต่อน้ำลงจึงให้ปล่อยลงมา ครั้นจะให้ลงมาพร้อมกันก็จะเป็นที่กีดเกะกะ ด้วยเป็นเวลาเดือนมืด เรือพระที่นั่งเวสาตรี ต่อเดินสโลมาช้า ๆ ถึงตำหนักแพ ๘ ทุ่ม ประทับฉนวน

สมเด็จกรมหลวงและเจ้าพระยาสุรวงศ์มาเฝ้าในเรือพระที่นั่ง รับฉลองพระเดชพระคุณในการพระเมรุทุกอย่าง ประทับอยู่จนเวลาย่ำรุ่งเครื่องก็ยังไม่พร้อม เจ้านายข้าราชการมาพร้อมกันที่ตำหนักแพมาก

วันที่ ๔๒๒๑ วันอังคาร แรม ๙ ค่ำเดือน ๗ ปีมะโรง โทศก จุลศักราช ๑๒๔๒

เวลาย่ำรุ่งแล้ว สมเด็จกรมพระจัดเครื่องลงไปที่ตำหนักแพ สรงพระศพในห้องสลูนเรือพระที่นั่งเวสาตรี เวลานั้นไม่ได้เสด็จมาประทับ โปรดเกล้าฯ ให้พระองค์เจ้าเทวัญเชิญพระสุคนธ์มาสรงพระศพ การสรงพระศพครั้งนี้ภูษามาลาเรียกมาให้พร้อมกันไม่ทันมีน้อยตัว กรมหมื่นนเรศร์กับพระองค์เจ้าเทวัญ และพระองค์เจ้าสายต้องช่วยกันทรงเครื่องพระศพ พร้อมด้วยภูษามาลา ๓ คน เชิญพระศพขึ้นจากเรือพระที่นั่งเวลาเช้า ๒ โมง ตั้งกระบวนแห่แต่ตำหนักแพ ไปเข้าประตูศรีสุนทรไว้ที่หอธรรมสังเวช พระองค์เจ้าสวัสดิโสภณ กับพระองค์เจ้าไชยันต์มงคลประคองพระโกศพระองค์เจ้าสุนันทา หม่อมเจ้ากรรเจียก กับหม่อมเจ้าเล็ก ในกรมหมื่นมเหศวร ประคองพระโกศสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ

ที่หอธรรมสังเวชนั้นตั้งแว่นฟ้า ๓ ชั้น ประกอบพระโกศพระศพพระองค์เจ้าสุนันทาทรงพระลองทองน้อย ประดับเฟื่องดอกไม้ฝา เอว เต็มที่ พระศพสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ ทรงพระลองมณฑปเล็ก ประดับเฟื่องดอกไม้เต็มที่เหมือนกัน ตั้งเครื่องสูงเครื่อง ๕ และชุมสายด้วย ข้างพานพระภูษาโยงตั้งเหมเข้าปักแว่นด้วย

เมื่อแห่พระศพขึ้นมาแล้ว เสด็จพระราชดำเนินตามขึ้นมาประทับทอดพระเนตรประกอบพระโกศ รับสั่งให้พระยานรรัตน์ไปยกพระแท่นประสูติของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอที่สิ้นพระชนม์มาตั้ง ให้พระสวดพระอภิธรรมประกอบ เสร็จแล้วทรงสดับปกรณ์ทอดพระภูษาโยง ๒ องค์ประทับกัน ผ้าไตร ๖๐ ผ้าขาวพับ ๖๐ แล้วเสด็จขึ้นเวลาเช้า ๔ โมงเศษ

ไม่ได้เสด็จเข้าไปประทับในที่ ประทับในห้องเขียว ไม่ทรงสบาย เสียพระทัยมาก พระองค์สาย พระยานรรัตน์ หลวงราโช พระนายไวย นายเล่ห์อาวุธ เข้าไปประจำอยู่ในพระที่นั่ง

อนึ่งหอธรรมสังเวชนั้นชำรุดมากรับสั่งให้สมเด็จกรมหลวงกับสมเด็จพระองค์น้อยเป็นผู้ซ่อม สมเด็จกรมหลวงทำข้างนอก สมเด็จพระองค์น้อยทำข้างใน กรมขุนเจริญเป็นผู้แต่ง สมเด็จกรมหลวงให้ไปเอาฉากญี่ปุ่นของพระองค์เจ้าเทวัญมากันพระศพ

บ่ายเสด็จที่วัด พระองค์เจ้ามนุศ และสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์กับพระราชาคณะรวมหมดด้วยกัน ๗ รูป มาเฝ้าเยี่ยมในพระที่นั่ง วันนี้เป็นวันลงมือไว้ทุกข์ เจ้านายทรงดำ ข้าราชการพันแขน

ย่ำค่ำแล้วเสด็จออกหอธรรมสังเวช รับสั่งให้พระยาอนุรักษ์ทำอาสน์สงฆ์ให้เต็มครึ่งหนึ่งตั้งธรรมาสน์พระแท่นสวดบนนั้น จะได้เป็นที่สดับปกรณ์ พระองค์เจ้าเทวัญ ฯ กับ พระยาราชประสิทธิ์นอนประจำหอธรรมสังเวช

รับหนังสือกงสุลอังกฤษถวายถามข่าวฉะบับ ๑

เสด็จเข้าที่ในห้องเขียว หมอและพวกข้าหลวงเดิมนอนประจำในพระที่นั่ง คือพระองค์สาย หลวงราโช พระยานรรัตน์ และพระนายไวย จ่ายง เล่ห์อาวุธ

วันที่ ๔๒๒๒ วันพุธแรม ๑๐ ค่ำเดือน ๗ ปี มะโรง โทศก จุลศักราช ๑๒๔๒

เวลาเช้า ๒ โมงเศษเสด็จออกหอธรรมสังเวชเลี้ยงพระที่สวดพระอภิธรรม ๘ รูป ๔ โมงเสด็จขึ้น โปรดให้พระองค์เจ้าประดิษฐวรการ หล่อพระนาคปรกประจำวันพระองค์เจ้าสุนันทา พระห้ามสมุทรประจำวันสมเด็จพระเจ้าลูกเธอด้วยทองคำ กับหล่อพระฉลองพระองค์เท่าขนาดด้วยทั้ง ๒ พระองค์

กลางวันกรมหมื่นพิชิตเฝ้าอ่านหนังสือถวาย กรมหมื่นนเรศร์เฝ้า พระองค์ทรงคิดพระโกศทรงพระอัฏฐิจะทำเหมือนพระโกศสมเด็จพระนางโสมนัสเอาพระธำมรงค์ประดับเป็นดอกไม้และประจำยาม หม่อมเจ้าประวิชเป็นผู้เขียน แล้วทูลด้วยการที่ทำพระเมรุซึ่งสมเด็จกรมพระท่านกะการต่างๆ แล้วกรมหมื่นพิชิตทูลด้วยเรื่องความที่เกิดเหตุนี้ คือรับสั่งให้กรมหมื่นพิชิตไปทูลสมเด็จกรมพระ ฯ สมเด็จกรมหลวง สมเด็จพระองค์น้อยเล่าความที่เป็นอันตรายครั้งนี้แล้วแต่ท่านจะทรงพระเมตตา ด้วยการภายหน้ายังจะมีที่ไปมาก ทาผู้ที่จะฝากชีวิตกับผู้ใดได้ไม่ จะขอฝากกับท่านทั้ง ๓ พระองค์ แล้วแต่ท่านจะเมตตา แล้วกรมพิชิตกลับมาทูลว่าท่านก็คิดอยู่เหมือนกันจะไต่สวนฉลองพระเดชพระคุณ อนึ่งวันนี้พระอินทรเทพจัดประดาน้ำไปดำของที่เรือล่มได้มาส่งหลายสิ่ง

เวลา ๒ ทุ่มเสด็จออกหอธรรมสังเวช สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ถวายเทศน์ เป็นกัณฑ์ของหลวง เครื่องกัณฑ์สังเค็ดน้อย พระเทพโมฬีถวายเทศน์ เป็นกัณฑ์ของเจ้าภาพ รับสั่งด้วยการทำพระเมรุกับสมเด็จกรมพระ ๆ ทูลด้วยรถชำรุดมากจะต้องซ่อมไปแต่เดี๋ยวนี้ทีเดียว โปรดเกล้า ฯ ว่าจะให้กรมพิชิตเป็นผู้ทำ แล้วทรงขอบใจเจ้านายผู้ชายมาพร้อมกันในที่พระศพ และทรงบ่นเสียพระทัยที่เจ้านายผู้หญิงนั้นไม่พร้อมกันเหมือนครั้งพระศพสมเด็จพระเทพ เวลา ๔ ทุ่มเศษเสด็จขึ้น

อนึ่งกลางวัน วันนี้พระราชทานทองสายรัดพระองค์สมเด็จพระเจ้าลูกเธอไปหล่อพระ

อนึ่งรับหนังสือคนต่างประเทศถามข่าวพระศพหลายฉะบับ โปรดเกล้า ฯ ให้เอาไปปักที่เหมเข้าข้างพระภูษาโยงแว่นปักไหมนั้น ให้เอาแว่นส่องไฟไปเปลี่ยนตามกระแสพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงไว้

ค่ำทรงกะการเครื่องทำบุญและของแจกในการพระเมรุ และจะทำสกูลที่วังกรมหมื่นอุดม จะใช้เงินเป็นส่วนของพระองค์เจ้าสุนันทา

วันนี้จัดการซ่อมหอธรรมสังเวช

วันที่ ๔๒๒๓ วันพฤหัสบดีแรม ๑๑ ค่ำเดือน ๗ ปีมะโรง โทศก จุลศักราช ๑๒๔๒

เช้า ๓ โมงเสด็จออกหอธรรมสังเวชเลี้ยงพระเหมือนวานนี้ วันนี้มีสามหาบ ๖ หาบ เป็นส่วนของเจ้าภาพตามธรรมเนียมพระศพอย่างสูงที่เคยมีมาแต่ก่อน ๕ โมงเช้า เสด็จขึ้น

บ่ายโมงสมเด็จกรมหลวง กับสมเด็จพระองค์น้อย กรมหมื่นพิชิต กรมหมื่นภูธเรศ ไปพร้อมกันที่วังสมเด็จกรมพระ ชำระความเรื่องเรือล่ม ถามตั้งแต่กรมหมื่นอดิศร ตลอดไปจนคนเลวที่ไปในเรือประเทียบ (จึ่งได้ความว่า การที่เรือล่มนี้ถ้าช่วยกันทันทีหงายเรือขึ้นแล้ว พระองค์เจ้า และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เห็นจะไม่เป็นอันตราย ที่พระยามหามนตรีทำการช้าไปไม่สมควรกับเหตุ ด้วยเรือล่มแล้วไม่ให้คนโดดลงไปโดยเร็วและเรียกคนช่วยกันให้พร้อมหงายเรือให้ทันท่วงที มัวแต่เรียกเรือสำปั้นพายไปแล้วยังมิหนำคนชาวบ้านมาช่วยห้ามเสีย ที่กราบทูลว่าลงไปดำได้ศพสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเองนั้น ในคำให้การบางคนก็ว่าลงน้ำ บางคนก็ว่าไม่ได้ลง แต่มีตัวคนที่ดำได้ให้การซัดหลายปาก การที่ทูลจะจริงหรือเท็จนั้นยังไม่ได้ความแน่ แต่เสียงคนพูดต่างๆ ความที่ชำระวันนี้จนค่ำยังไม่ได้เรียงเทียบสอบกัน) ชำระกันจนค่ำ

กลางวันกรมหมื่นนเรศร์เข้าไปเฝ้า กราบทูลด้วยพระนามพระองค์เจ้าสุนันทา สมเด็จกรมพระ ท่านจะทรงออกตราเกณฑ์ไม้ โปรดเกล้า ฯ ให้ใช้สมเด็จพระนางเจ้าอย่างสมเด็จพระนางโสมนัศ แต่ให้ท่านทรงค้นดูร่างรับสั่งเดิมมีอย่างไร กรมหมื่นนเรศร์กลับไปทูลให้ท่านค้นแล้วได้ความมาทูลว่า สมเด็จพระนางเจ้าอย่างพระกระแส (จึงได้ตกลงร่างหมายเกณฑ์ไม้, มหาดไทยออกหมายก่อนว่า “การพระศพสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์”) แล้วทรงคิดเครื่องทำพระโกศพระอัฏฐิสมเด็จพระนาง

เวลา ๒ ทุ่มเสด็จออกหอธรรมสังเวช พระธรรมวโรดมถวายเทศน์กรรมปรเภทกัณฑ์หลวง พระอริยมุนีถวายเทศน์กัณฑ์เจ้าภาพ จบแล้วรับสั่งถามสมเด็จกรมพระ สมเด็จกรมหลวง สมเด็จพระองค์น้อย เรื่องชำระความท่านทูลตามเรื่อง จึงกริ้วพระยามหามนตรีว่าแกล้งไม่ช่วยกันจริงๆ และทูลปดและอะไรๆอื่นๆ ไปมาก โปรดเกล้า ฯ ให้ถอนทหารให้พระยานรรัตน์ว่า แต่ ฝีพายนั้นรับสั่งว่าพระพิเรนทรนั้นทำราชการฉลองพระเดชพระคุณมา ทรงเห็นว่ามีความสัตย์ซื่อสุจริตตลอดตั้งแต่เจ้าพระยายมราชๆ เล่าก็เป็นข้าหลวงเดิมทูลกระหม่อม คงจะตั้งใจจงรักภักดีต่อใต้ฝ่าละออง ฯ เป็นที่วางพระราชหฤทัยได้ ประการหนึ่งเจ้าพระยายมราชก็เคยว่าฝีพายมาแต่ก่อน ทรงมอบฝีพายให้พระพิเรนทรว่า ให้ไปเรียกบัญชีส่งเสียกันแต่ในค่ำวันนี้ เรือไฟต่างๆ นั้นทรงมอบพระองค์สายให้ไปเรียกในค่ำวันนี้เหมือนกัน แล้วเสด็จขึ้นเกือบ ๕ ทุ่ม

โทรเลข ๒ ฉะบับๆ ๑ เรือบางกอกเข้ามา พระยาภาสมาด้วย ๒ เรือออกไป ๒ ลำ

วันที่ ๔๒๒๔ วันศุกร์ แรม ๑๒ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะโรง โทศก จุลศักราช ๑๒๔๒

เวลาเช้า ๓ โมงเสด็จออกเลี้ยงพระ เวลาเช้า ๕ โมง เสด็จขึ้น

วานนี้โปรดเกล้า ฯ ให้พระองค์เจ้าสายจัดเรือไฟขึ้นไปเชิญพระพุทธรูปฉลองพระองค์สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าอิศริยาลงกรณ์ที่พระราชวังบางปอิน ลงมาถึงเช้าวันนี้ รับสั่งให้กรมขุนเจริญยกบุษบกพระพุทธรูปพระชนม์พรรษามาตั้ง กรมเจริญยกบุษบกพระชันษาพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้ามา แต่ฉัตรยอดนั้นลดเป็น ๕ ชั้นเย็บด้วยตาดทองแดง

บ่ายรับสั่งให้กรมหมื่นนเรศร์ไปทูลสมเด็จกรมพระว่า พระนามนั้นให้ใช้แต่สมเด็จพระนางเธอ (ด้วยกระแสพระราชดำริว่าสมเด็จพระนางเจ้านั้นไว้ใช้ให้แปลเป็นคำอังกฤษว่าควีน) กับการทำบุญที่หอธรรมสังเวช ให้ยกเทศน์เวรมามีเสมอทุกวัน ถ้าวันยกให้มีสังเค็ดน้อย กับพระสวดพระอภิธรรมนั้นวันยกมีผ้าขาวสดับปกรณ์ ๑๖ พับ คงเป็น ๓ วันครั้งหนึ่ง กับสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ ๒ พระองค์ประทับอยู่ที่ตำหนักไม่สู้ทรงสบาย บรรทมไม่ใคร่หลับหวาดอยู่บ่อย ๆ ให้มีสวดมนต์และสมโภชที่พระที่นั่งไพศาลทักษิณ กลางวันๆ นี้รับสั่งไล่เลียงหลวงราโชด้วยเรื่องเรือล่ม หลวงนายสิทธิ์ (เที่ยง) ถวายอยู่งานพัดอยู่สอดกราบทูลที่นั้นช่วยแก้พระยามหามนตรี ยกเอานายอินคนท้ายมาว่าเป็นคนขี้เมา กริ้วว่าเป็นคนสอดแนมเพราะมีสาเหตุลักพาข้าหลวงสมเด็จพระนางครั้งก่อน โปรดเกล้า ฯ ให้ไล่ออกไปแต่พระที่นั่งและถอดเสีย สั่งสัญญาบัตรตั้งนายจ่ายง (จู) เป็นหลวงนายสิทธิ์ นายเล่ห์อาวุธ (จัน) เป็นนายจ่ายงในวันนั้น

๒ ทุ่มเศษเสด็จออกหอธรรมสังเวช พระมหาเอม ๔ ประโยควัดพระเชตุพน ถวายเทศน์มหาสมัยสูตรกัณฑ์หลวงจบแล้วมีผ้าสะบงธูปเทียนสดับปกรณ์ ของพระสัพพีองค์ละสิ่งเหมือนเทศน์เวรถวายเทศน์กัณฑ์เจ้าภาพ ทรงกับสมเด็จกรมพระเรื่องการพระเมรุ เจ้าพระยาสุรวงศ์เฝ้าด้วย กับเจ้าพระยาสุรวงศ์ทูลขอเบี้ยเลี้ยงหัดโขนนั้นโปรดพระราชทานพระบรมราชานุญาต ๔ ทุ่มเศษเสด็จขึ้น

อนึ่งพระยาภาสกลับมาแต่สิงคโปร์เฝ้ารับสั่งให้ร่างหนังสือตอบฝรั่งที่ถามข่าวการพระศพ วันนี้พระราชทานรางวัลอ้ายเถอะข้าพระองค์เจ้าเทวัญซึ่งดำได้ทูลกระหม่อม ๑๐ ชั่ง หลวงราโชผู้ช่วยแก้ ข้าหลวงผู้ช่วยแก้และปฏิบัติ

สำเนาร่างหนังสือตอบถามข่าวการพระศพ

โทรเลขเรือมาตาแบนเข้ามา

เจ้าพระยาสุรวงศ์จดหมายถวายด้วยชำระ บุตรหมู่ ขึ้นฝึกหัดไว้รับราชการ ขอรับพระราชทานเบิกเบี้ยเลี้ยงตามเคย

พระนรินทรถวายสำเนาหนังสือกงสุลอังกฤษตอบเรื่องกะเหรี่ยงเมืองกาญจนบุรีซึ่งว่าด้วยจับคนและเขตต์แดน

พระยาพิพัฒน์ถวายอีกฉะบับ ๑ ความเดียวกัน

พระยาพิพัฒน์ถวายสำเนา หนังสือผู้ว่าการต่างประเทศเมืองฝรั่งเศสมีมายังกงสุลว่าด้วยการเสด็จยุโรปเขามีความยินดี

พระยาพิพัฒน์ถวายสำเนาหนังสือมีไปยังกงสุลอังกฤษเรื่องคนปลอมเป็นตองซูปล้นที่เมืองอินทร์

สำเนามิสเตอร์ปัลเครฟตอบฉะบับ ๑

มีพระราชหัตถ์พระราชทานไชยมงคลกรมหลวงวรศักดิ์ทำการแซยิดพระชันษาครบ ๖๘ รอบ พระราชทานเงินปีละ ๒ บาท เงิน ๑๓๖ บาท

วันที่ ๔๒๒๕ วันเสาร์แรม ๑๓ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะโรง โทศก จุลศักราช ๑๒๔๒

เช้า ๔ โมงเศษ เสด็จหอธรรมสังเวชเลี้ยงพระ เวลาเที่ยงแล้วเสด็จขึ้น อนึ่งของที่เรือล่มพวกดำทรายดำได้ พระยาพิพัฒน์นำมาส่งพระราชทานรางวัลตามมากตามน้อย

บ่ายทรงด้วยแว่นฟ้าตั้งพระศพ รับสั่งถามกรมหมื่นนเรศร์ กรมหมื่นนเรศร์เขียนอย่างถวาย ชั้น ๑ ฐานเฉียง ชั้น ๒ ชั้นคู่ ชั้น ๓ แว่นฟ้า ชั้นต้น ชั้น ๔ แว่นฟ้า ชั้น ๒ ชั้น ๕ แว่นฟ้า ชั้นยอด แล้วมีบัวกลุ่มอีกชั้น ๑ โปรดเกล้า ฯ ว่าพระเมรุใหญ่สูงเสาถึง ๑๕ วา ถ้าตั้งชั้นแต่เท่านี้อากาศจะมากนักไม่งาม รับสั่งให้ไปทูลสมเด็จกรมพระเติมชั้นคู่ขึ้นอีกชั้น ๑

บ่าย ๓ โมง ที่พระตำหนักสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ มีสวดมนต์ ๕ รูป สวดจบแล้วเชิญเสด็จสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพาหุรัดมณีมัย ไปเวียนเทียนสมโภชที่พระที่นั่งไพศาลทักษิณ เสร็จแล้วเสด็จกลับขึ้นมารับน้ำพระมหาสังข์บนพระที่นั่ง

วันนี้เป็นวันสวดมนต์ทำบุญเคารพ ๗ วัน เวลาทุ่มเศษเสด็จออกประทับอัฏฏวิจารณศาลา ทอดพระเนตรพระญวนทำกงเต็ก พระยาโชฎึกเป็นผู้จัดของเครื่องกระดาษเป็น ๒ สำรับ พระยาโชฎึกบูชาสมเด็จพระนาง พระสวัสดิวามดิษฐ์บูชาสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ ประทับอยู่ครู่หนึ่งเสด็จหอธรรมสังเวช

มีสวดมนต์รายหลวง ๑๐ รูป รายเจ้าภาพ ๕ รูป รวม ๑๕ รูป พระธรรมยุติกาทั้งนั้น สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์นำรายหลวง พระอริยมุนีนำรายเจ้าภาพ แล้วพระญวนเข้ามาสวดบูชา ๗ องค์ ๘ องค์ทั้งพระครู แต่พระครูนั้นชะราไม่ได้สวด สวดมนต์จบแล้วทรงทอดผ้าไตร ย่าม รายหลวงสดับปกรณ์ แล้วพระนางเธอพระองค์เจ้าสว่างวัฒนาทรงทอดผ้าไตร ย่าม รายเจ้าภาพจึงสดับปกรณ์ ๆ เสร็จแล้ว ถวายอดิเรก ถวายพระพรลากลับ แล้วพระธรรมเจดีย์ถวายเทศน์

กัณฑ์หลวง พระอมรโมลีถวายเทศน์ กัณฑ์เจ้าภาพเครื่องกัณฑ์ยกทั้ง ๒ กัณฑ์ เวลา ๕ ทุ่มเศษเสด็จขึ้นไปประทับโรงกงเต็กหน่อยหนึ่ง

วันนี้โปรดเกล้า ฯ ให้พระองค์เจ้าดิศวรกุมาร พระยานรรัตนราชมานิต พระมหาเทพ ไปตรวจทหารในสวนสราญรมย์ ตั้งแต่บ่ายโมงจน ๕ ทุ่มจึงแล้ว

รับหนังสือมิสเตอร์อาลบาสเตอ ว่าด้วยเรื่องทหาร

บัญชีทหารเดิมของพระยามหามนตรี ถวายไว้ก่อนเสด็จบางปอิน

บัญชีทหารหลวงสรภัณฑ์ยื่นพระยานรรัตน์ครั้งนี้

บัญชีรวมทหารที่ตรวจได้

บัญชีรวมยอดทหารตรวจสอบที่ผิดกัน

มีพระราชหัตถ์ถึงเจ้าพระยาภาณุวงศ์บอกข่าวที่เกิดเหตุ

วันที่ ๔๒๒๖ วันอาทิตย์แรม ๑๔ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะโรง โทศก จุลศักราช ๑๒๔๒

เช้า ๓ โมงเสด็จออกเลี้ยงพระที่หอธรรมสังเวช ๕ รูป ฉันแล้วถวายของไทยทาน แล้วมีสดับปกรณ์รายร้อย พระบิณฑบาตรเวรเงินสลึง ๑๐๐ สลึง เวลา ๕ โมงเศษเสด็จขึ้น โปรดเกล้า ฯ ให้เจาะประตูหอธรรมสังเวชใหม่ทางหอราชพิธีกรรม ให้พระเดิน

กลางวันพระองค์สายพาหม่อมเจ้าจร หม่อมเจ้ายินดี หม่อมเจ้าปรีดา เฝ้าทรงเรื่องทำรูปสัตว์ทองของแจก โปรดเกล้า ฯ ให้หม่อมเจ้าจรทำครอบทำรูปสัตว์ หม่อมเจ้ายินดีเป็นผู้หุ้มทองคำ หม่อมเจ้าปรีดานั้น ให้ทำเรือแหวดสังเค็ด

อนึ่ง โปรดเกล้า ฯ ให้พระองค์เจ้าเทวัญ ฯ สอบบัญชีทหารที่ไปตรวจ กับที่พระยามหามนตรียื่นขาดตรวจไม่มีตัวเป็นตัวจ้างคงมีตัวทหารแต่ จึงโปรดเกล้า ฯ ให้พระมหาเทพไปหาตัวพระยามหามนตรีมา มีพระกะทู้ถามที่เก๋งวรสภาภิรมย์

เวลา ๒ ทุ่มเสด็จออกประทับโรงกงเต็กก่อน แล้วเสด็จไปหอธรรมสังเวช พระญวนไปสวดบูชาพระศพ แล้วสดับปกรณ์ผ้าขาว พระญวนชักทุกองค์ แล้วสวดมนต์พระ ๑๕ รูป เหมือนวานนี้ รายหลวง

รายเจ้าภาพ สวดจบแล้วสดับปกรณ์ผ้าไตร ย่าม เหมือนวานนี้ แล้วพระโพธิวงศ์ถวายเทศน์ กัณฑ์หลวง ถวายเทศน์กัณฑ์เข้าภาพ เครื่องกัณฑ์ยกทั้ง ๒ กัณฑ์ แล้วเสด็จไปประทับอัฑฒจันท์ศาลา ทอดพระเนตรพระญวนสวดแล้ว เผาสิ่งของหน้าโรงกะสาปณ์ พระราชทานรางวัลพระญวนองค์ละ ๓ ๗ องค์ นอกนั้นองค์ละ ๒ เสด็จขึ้น ๕ ทุ่มเศษ

เวลา ๒ ยามพระมหาเทพ นำคำให้การพระยามหามนตรี แก้พระกะทู้เข้ามาทูลเกล้า ฯ ถวาย เรื่องเรือล่มสารภาพ เรื่องทหารนั้นว่าตรวจยังไม่ทั่วไม่สารภาพสนิท ค่ำวันนี้ยังมิได้ทรงสั่งพระกะทู้ โปรดเกล้า ฯ ให้ลงพระราชอาชญาจำไว้โรงช้าง

พระกะทู้ถามและคำแก้พระกะทู้พระยามหามนตรี

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ