นางอุทัยกลอนสวด
สุรางคนางค์
๑ จะกล่าวตำนาน | |
เรื่องราวนิทาน | นานแล้วลับไป |
ยังมีนาคา | ครองพระเวียงไชย |
รี้พลมากมาย | เป็นจอมบาดาล |
๒ มีปราสาทแก้ว | |
ประเสริฐเพริศแพร้ว | เปรียบดังวิมาน |
ข้าสาวอเนก | มากมายครามครัน |
ห้อมล้อมจอมธรรม์ | ขับกล่อมราชา |
๓ มีนางมเหสี | |
ทรงกัลยาณี | มีศรีโสภา |
นามกรแห่งนาง | ชื่อวิมาลา |
ครองสนมซ้ายขวา | ใครจะเปรียบถึงสอง |
๔ นางมีธิดา | |
รูปทรงโสภา | เป็นนวลละออง |
รูปรวยแสล้ม | แก้มคือปรางทอง |
พระกรทั้งสอง | ดั่งงวงไอยรา |
๕ ท้าวผู้ทรงศักดิ์ | |
ให้ชื่อลูกรัก | ตามวงศ์ราชา |
ให้ชื่อลูกแก้ว | ตามเรียงมารดา |
ชื่อสมุทมาลา | อ้อนแอ้นเอวกลม |
๖ รูปคือเทวา | |
มีศรีโสภา | น่ารักน่าชม |
ใครจะเปรียบถึงสอง | ลำยองงามสม |
พิศดน่าชม | งามทั้วกายา |
๗ รูปทรงนางนาฏ | |
อย่างแกล้งแต่งวาด | พิจิตรรจนา |
เอวกลมนมพวง | ดวงพักตร์โสภา |
ฝูงนางนาคา | บ่เปรียบเทวี |
๘ โฉมยงนงลักษณ์ | |
งามจริงยิ่งนัก | วรลักษณ์มีศรี |
เพราเพริศเฉิดฉาย | ได้สิบห้าปี |
นางนาฏเทวี | ลาพระบิดร |
๙ นางแก้วทรามวัย | |
แปรปรวนป่วนใจ | พระทัยเดือดร้อน |
โศกเศร้าหมองศรี | เทวีบังอร |
เพลาเข้านอน | เดือดร้อนภายใน |
๑๐ ไฟราคเผาผลาญ | |
แห่งนางนงคราญ | ดาลเดือดพระทัย |
เจ้าทำมารยา | ลาพระจอมไตร |
เล่ห์กลทรามวัย | ลาพระภูธร |
๑๑ ลูกน้อยขอลา | |
พระราชบิดา | ทั้งพระมารดร |
จะไปจำศีล | ในแผ่นดินดอน |
ลาพระภูธร | จะไปจำศีล |
๑๒ พระพ่อได้ฟัง | |
ลูกน้อยร้อยชั่ง | อกพ่อเฉียวฉิน |
จะลาพ่อไป | พ่อไม่ฟังยิน |
เจ้าไปจำศีล | ไกลพระพันปี |
๑๓ เจ้าอย่าไปไกล | |
ลูกรักทรามวัย | พระทองมารศรี |
เจ้าลาพ่อไป | พ่อไม่ไยดี |
เกลือกสัตว์จะราวี | ลูกน้อยพังงา |
๑๔ ถ้าว่าพบครุฑ | |
มันจะสัประยุทธ | ด้วยลูกเสนหา |
พ่อนี้เป็นชาย | ยังกลัวครุฑา |
ลูกรักพ่ออา | ฉายาอย่าไป |
๑๕ นางนาฏฉายา | |
ได้ฟังบิดา | น้ำตาหลั่งไหล |
ลูกน้อยขอลา | จำศีลในไพร |
เจ็ดราตรีไซร้ | ลูกรักจักมา |
๑๖ พระพ่อได้ฟัง | |
ลูกน้อยร้อยชั่ง | ตามใจพังงา |
ลูกแก้วพ่อไป | อย่าได้อยู่ช้า |
ธำมรงค์ภูษา | เอาสนใจไป |
๑๗ แหวนแก้วลูกนี้ | |
ลูกรักมารศรี | จะนึกสิ่งใด |
เครื่องโภชนา | เงินทองข้าไท |
นิรมิตเอาได้ | ตามแต่ปรารถนา |
๑๘ ครั้นนางลาแล้ว | |
รับเอาแหวนแก้ว | คลาดแคล้วออกมา |
ผ้ารัตกัมพล | ของพระบิดา |
นางเอาออกมา | สำหรับบังอร |
๑๙ ทักษิณสามรอบ | |
เคารพนบนอบ | ลินลาบทจร |
บัดเดียวชำแรก | แทรกแผ่นดินดอน |
ถึงฝั่งสาคร | เล่นน้ำสำราญ |
๒๐ แปลงเพศเป็นงู | |
ว่ายน้ำวางวู่ | แล้วเลิกพังพาน |
ทำอิทธิฤทธา | สูงเท่าลำตาล |
เล่นน้ำฉ่าฉาน | ลอยล่องไปมา |
๒๑ สมความคิดแล้ว | |
นางทองน้องแก้ว | นิรมิตศาลา |
ครั้นเล่นน้ำแล้ว | นางแก้วขึ้นมา |
อยู่ในศาลา | เป็นสุขสำราญ |
๒๒ ยังมีเทวา | |
เจ้าไพรพฤกษา | เข้ามาเกี้ยวพาน |
พูดจาปราศรัย | ด้วยนางนงคราญ |
กล่าวเกลี้ยงเสียงหวาน | ด้วยนางเอววัลย์ |
๒๓ โอ้นางนาคี | |
ลำยองผ่องศรี | นางน้องจอมขวัญ |
เป็นนวลแสล้ม | แก้มคือลูกจัน |
เนื้ออ่อนผ่อนผัน | เอ็นดูพี่รา |
๒๔ พิศดูนวลนาง | |
อ้อนแอ้นเอวบาง | มีศรีโสภา |
อิงแอบแนบชม | บีบนมซ้ายขวา |
กอดแก้วกัลยา | ผ่านฟ้าเชยชม |
๒๕ นางตื่นขึ้นมา | |
แลเห็นเทวา | รูปงามอุดม |
นางพิศแลดู | เป็นครู่งามสม |
นางทองเอวกลม | กล่าวคำมารยา |
๒๖ นางจึ่งว่าไป | |
เจ้าเข้ามาไย | ที่ในศาลา |
พระมาถูกต้อง | หยอกน้องไยนา |
ข่มเหงยื้อคร่า | ดังว่าข้าไท |
๒๗ พี่ไม่ยื้อคร่า | |
เล้าโลมเจรจา | กล่าวเกลี้ยงปราศรัย |
เอ็นดูพี่บ้าง | นางปลื้มอาลัย |
เอออวยรวยให้ | เถิดนะเทวี |
๒๘ พี่ตั้งใจมา | |
ร่วมรักเสนหา | ด้วยนางมารศรี |
ว่าพลางฉวยผ้า | คว้ามือเทวี |
เจ้ายอดมารศรี | หนีพี่ไปไย |
๒๙ พระเอยอย่าต้อง | |
มาเล่นด้วยน้อง | ข้าไม่ปราศรัย |
ตัวน้องเป็นหญิง | สิ่งนี้อายใจ |
นางเร่งผลักไส | เชิญไปเถิดรา |
๓๐ จึ่งนางบังอร | |
วัดแว้งภูธร | ผลักมือซ้ายขวา |
พระเอยอย่าต้อง | วางน้องเสียรา |
แสนงอนค้อนตา | ให้พระทรามเชย |
๓๑ สิ่งนี้อายนัก | |
โฉมยงทรงศักดิ์ | อย่าควรเกินเลย |
ว่าพลางฉวยผ้า | คว้านางทรามเชย |
โอ้แก้วพี่เอย | เจ้าอย่าครวญคราง |
๓๒ ภิรมย์ชมน้อง | |
บีบนมสมสอง | นางน้องเอวบาง |
อุ้มขึ้นใส่ตัก | พระเคล้าคลึงนาง |
พระองค์บ่วาง | อรนุชนาคา |
๓๓ จูบแก้มจูบเกศ | |
พระองค์ทรงเดช | หอมรสมาลา |
หอมฟุ้งฉุนเฉียว | กลิ่นดังบุษบา |
จูบซ้ายย้ายขวา | ท้าวน้องทรามวัย |
๓๔ กระหวัดรัดน้อง | |
ดังแก้วแกมทอง | เรืองรองสุกใส |
คล้อยเคลื่อนเกลื่อนกลุ้ม | คลุ้มในพระท้ย |
สำราญบานใจ | ด้วยน้องฉายา |
๓๕ เอวบางร่างรัด | |
เต้าเต่งเคร่งครัด | ทั้งสองซ้ายขวา |
กอดจูบลูบต้อง | ทั่วทั้งกายา |
หอมรสมาลา | รวยรื่นชื่นใจ |
๓๖ กอดน้องนอนแนบ | |
พระทรวงทับแทบ | แอบองค์อรไท |
สนิทชิดเชื้อ | แนบเนื้อทรามวัย |
แสนสนิทพิสมัย | ชื้นในวิญญาณ์ |
๓๗ นางน้องขอโทษ | |
ผ่านฟ้าอย่าโกรธ | โปรดเกล้าเกศา |
จริตกระสัตรี | ฉันนี้แลนา |
โมโหโกรธา | อย่าถือน้องเลย |
๓๘ น้องได้ขัดขวาง | |
กลับกลอกนอกอย่าง | บ้างแล้วทรามเชย |
อดเสียเถิดรา | ผ่านฟ้าข้าเอย |
ตัวน้องมิเคย | คดีเดียงสา |
๓๙ น้องเอยเคยแล้ว | |
ลำยองผ่องแผ้ว | แล้วดั่งปรารถนา |
สำเร็จดังจิต | คิดในวิญญาณ์ |
โอ้พระราชา | จึ่งมาปรานี |
๔๐ พระจึ่งว่าเล่า | |
นางน้องขวัญข้าว | นางแก้วนารี |
พี่รักนักหนา | กัลยามีศรี |
ว่าเจ้าเทวี | พี่ไม่ถือเลย |
๔๑ นางน้องได้ยิน | |
โฉมตรูภูมินทร์ | ยินดีเสบย |
เจ้าคลายโศกศัลย์ | ไม่ป่วนปั่นเลย |
นางน้องทรามเชย | ชมพระราชา |
๔๒ สมสู่คู่ครอง | |
เชยชมสมสอง | ด้วยน้องพังงา |
นางน้องเทวี | มีศรีโสภา |
อยู่ด้วยเทวา | จนเจ้ามีครรภ์ |
๔๓ นางทรงครรภ์แก่ | |
รำจวนปรวนแปร | เป็นทุกขโศกศัลย์ |
เกลือกรู้ไปถึง | บิดาทรงธรรม์ |
ว่าลูกมีครรภ์ | ท่านจะฆ่าให้ตาย |
๔๔ จะทำไฉน | |
จะพาท้องไป | กลัวภัยฦๅสาย |
ครั้นโกรธขึ้นมา | จะฆ่าให้ตาย |
คิดถึงโฉมฉาย | อันอยู่ในครรภ์ |
๔๕ นางเมืองคิดแล้ว | |
สำรอกลูกแก้ว | ออกมาด้วยพลัน |
ออกมาเป็นไข่ | ใจแม่กระศัลย์ |
เจ้าเอาจอมขวัญ | ซ่อนไว้โดยจง |
๔๖ ซ่อนริมคงคา | |
จึ่งเอาภูษา | กับพระธำมรงค์ |
นางพิษฐานแล้ว | จึ่งพ่นพิษลง |
เหนือไข่บรรจง | เกลือกสัตว์บีฑา |
๔๗ แม้นสัตว์ตัวใด | |
คาบพาไข่ไป | ให้ม้วยมรณา |
เดชะพิษนาค | กลุ้มทั่วกายา |
ขอให้มรณา | มอดม้วยฉิบหาย |
๔๘ ข้าไหว้เทวา | |
ชั้นดาวดึงสา | อีกทั้งพระพาย |
ขอฝากลูกข้า | อย่ามีอันตราย |
เทวาทั้งหลาย | ช่วยคุ้มรักษา |
๔๙ ข้าไหว้พระพรหม | |
เลิศล้ำอุดม | อยู่ในเวหา |
ไหว้พระอินทร์เจ้า | ปิ่นเกล้าโลกา |
ช่วยคุ้มรักษา | เทวาทั้งหลาย |
๕๐ ข้าไหว้ฝูงผี | |
ลูกข้าไว้นี้ | อย่าได้กล้ำกราย |
ผีโป่งผีป่า | อย่ามาแวดชาย |
กระโหมดภูตพราย | อย่าให้ประลัย |
๕๑ ครั้นพิษฐานแล้ว | |
เมื่อนั้นนางแก้ว | แทรกแผ่นดินไป |
บัดเดียวลุถึง | เมืองพระจอมไตร |
เข้าไปกราบไหว้ | พระราชบิดา |
๕๒ เล่าให้พ่อฟัง | |
ข้าคิดใจหวัง | อาบน้ำคงคา |
แหวนพระธำมรงค์ | ห่อชายภูษา |
ครุฑาบินมา | คาบพาเอาไป |
๕๓ ลูกตกใจกลัว | |
โอ้พระทูนหัว | ลูกจักบรรลัย |
ข้าวิ่งลงน้ำ | มันจับฉวยได้ |
พระพ่อข้าไหว้ | ช่วยลูกด้วยรา |
๕๔ นางแกล้งใส่ไคล้ | |
เล่นชู้สบายใจ | ใส่ความครุฑา |
ว่าครุฑมันคาบ | ธำมรงค์ภูษา |
ลวงพระบิดา | ให้เธอตกใจ |
๕๕ จึ่งพระบิดา | |
สวมกอดฉายา | ลูกรักทรามวัย |
รับมิ่งสิ่งขวัญ | เจ้าแม่ตกใจ |
แต่นี้อย่าไป | ลูกรักพ่ออา |
๕๖ แหวนพระธำมรงค์ | |
ภูษาบรรจง | หายเสียไม่ว่า |
จะเสียชีวิต | นะแก้วพ่ออา |
ตกใจนักหนา | กำพร้าคนเดียว |
๕๗ พระพ่อไม่รู้ | |
ว่าลูกเล่นชู้ | ที่ในไพรเขียว |
แสร้งเพทุบาย | แต่พ่อคนเดียว |
ปัญญาเฉลียว | ลวงพระบิดา |
๕๘ แหวนแก้วธำมรงค์ | |
ภูษาบรรจง | ซ่อนไว้กลางป่า |
เก็บไว้ให้ลูก | แห่งนางฉายา |
ลวงพระบิดา | ว่าครุฑพาไป ๚ะ |
ฉบัง
๕๙ เมื่อนั้นยังมีคางคก | เต้นมายกยก |
จะใคร่แสวงหาอาหาร | |
๖๐ มาสบพบไข่นงคราญ | มุ่งหมายอาหาร |
ทีนี้ประสบพบกู | |
๖๑ เห็นแล้วจึ่งเล็งแลดู | เห็นผ้าปกอยู่ |
ขมํ้าก็กล้ำกลืนกิน | |
๖๒ ทั้งไข่ทั้งแหวนกินสิ้น | โดยใจถวิล |
ก็เต้นไปยังคงคา | |
๖๓ พิษนาคกลุ้มทั่วกายา | บัดเดี๋ยวมรณา |
คางคกก็มาบรรลัย | |
๖๔ เป็นคราบห่อไข่อยู่ใน | ครั้นอยู่นานไป |
ไข่นั้นก็ออกมาเป็นหญิง | |
๖๕ นีรมิตเป็นคนงามจริง | ออกมาเป็นหญิง |
รูปร่างงามจริงอย่างเขียน | |
๖๖ นิ้วมืองามคือลำเทียน | งามยิ่งกว่าเขียน |
ใครเลยจะเปรียบถึงสอง | |
๖๗ ผิวเนื้อเป็นนวลละออง | ขาวใสใยยอง |
เนื้อทองอันหมดราคี | |
๖๘ นีรมิตต้วน้อยมีศรี | ซ่อนตัวเทวี |
เข้าอยู่ในคราบคางคก | |
๖๙ งามจริงยิ่งกว่าทารก | เอารูปคางคก |
มาซ่อนตัวไว้ใครบ่เห็น | |
๗๐ คลานลงในน้ำว่ายเล่น | นางนาคมักเย็น |
ลงเล่นในน้ำคงคา | |
๗๑ นีรมิตข้าวน้ำโภชนา | เดชะฤทธา |
ภูษากับพระธำมรงค์ | |
๗๒ กินแล้วจึ่งนางคลานลง | ลอยล่องสระสรง |
อรไทก็ว่ายไปมา ๚ะ |
สุรางคนางค์
๗๓ เมื่อนั้นยังมี | |
สองเฒ่าบัดศรี | ยากไร้นักหนา |
เงินทองบ่มี | สิ่งสินนานา |
ไปเที่ยวสุ่มปลา | มาขายเลี้ยงกัน |
๗๔ ส่วนว่าสองเฒ่า | |
นามกรนั้นเล่า | ชื่อยายกาวัน |
เฒ่าเฒ่าสองคน | ช่างได้ประสมกัน |
ผัวยายกาวัน | ชื่อตากุลโกฐาส |
๗๕ เที่ยวสุ่มปลาขาย | |
ได้เช้าหางาย | ทุกวันบ่ขาด |
วันหนึ่งไปสุ่ม | ได้ปลาทายาด |
ตากุลโกฐาส | ชื่นชมหฤหรรษ์ |
๗๖ ไปขายตลาด | |
ตากุลโกฐาส | ดีใจใครจะทัน |
ไปขายได้เบี้ย | ผัวเมียเลี้ยงกัน |
ซื้อข้าวมาพลัน | สู่กันกินพลาง |
๗๗ อยู่วันหนึ่งเล่า | |
สุ่มปลาแต่เช้า | บ่ได้สักหาง |
พบนางคางคก | เข้าในชนาง |
ยิ้มหัวเราะพลาง | เทเสียทันใจ |
๗๘ ช้อนทีหนึ่งเล่า | |
เข้ามาดังเก่า | เฒ่าด่าจังไร |
เมื่อกูสุ่มปลา | มึงเข้ามาไย |
คางคกจังไร | เทเสียมินาน |
๗๙ เฒ่าด่าเฒ่าแช่ง | |
มันให้แขนง | เสียแรงป่วยการ |
แต่เช้าจนคํ่า | บ่ได้พบพาน |
เสียแรงป่วยการ | บ่ได้สักตัว |
๘๐ ขึ้งโกรธนักหนา | |
คางคกตายห่า | มันไม่รู้กลัว |
จะตีให้ตาย | อย่าให้เคยตัว |
ทั้งเมียทั้งผัว | ขึ้งโกรธคือไฟ |
๘๑ ทำปากงาบงาบ | |
อยู่แต่ในคราบ | ร้องว่าออกไป |
ว่าท่านยายเอย | ช่วยเลี้ยงข้าไว้ |
ตายายข้าไหว้ | เลี้ยงไว้เอาบุญ |
๘๒ ยึดไปเมื่อหน้า | |
ยายทูนหัวข้า | ข้าจะแทนคุณ |
พ่อแม่หาไม่ | เลี้ยงไว้เอาบุญ |
ข้าจะแทนคุณ | หม่อมยายกับตา |
๘๓ เมื่อนั้นสองเฒ่า | |
ได้ฟังคำเจ้า | คางคกเจรจา |
ทั้งเมียทั้งผัว | มองหน้ามองตา |
คางคกเจรจา | เกิดมาไม่เคยเห็น |
๘๔ มันรู้ภาษา | |
เพิ่งสอนเจรจา | เลี้ยงไว้ชมเล่น |
ให้อยู่เฝ้าเรือน | แทนเราเช้าเย็น |
ฟังเสียงพูดเล่น | เมื่อยามเหนื่อยมา |
๘๕ โกฐาสกาวัน | |
รับเอาหลานขวัญ | ชื่นชมหรรษา |
สองคนผัวเมีย | พากันขึ้นมา |
หัวเราะเริงร่า | คืนมาเรือนตน |
๘๖ คิดดูเห็นหลาก | |
คางคกตายซาก | เจรจาเหมือนคน |
ฤาให้คุณเรา | สองเฒ่าฉงน |
ฤาว่าจะพ้น | ความจนแลนา |
๘๗ ไม่รู้อาการ | |
ว่านางนงคราญ | ลูกนางนาคา |
เข้าอยู่ในนั้น | เจรจาออกมา |
เฒ่าทั้งสองรา | บ่รู้อาการ |
๘๘ ละเมอเอามา | |
เห็นรู้เจรจา | คิดน่าสงสาร |
ลอยอยู่ในน้ำ | ถ้อยคำอ่อนหวาน |
เรียกยายเรียกหลาน | น่าคิดอนิจจา |
๘๙ เอาขึ้นมาเรือน | |
เฒ่าจึ่งคลายเคลื่อน | คลาไคลไปมา |
เก็บผักมาต้ม | กินต่างโภชนา |
ทุกวันได้ปลา | มาขายเลี้ยงตัว |
๙๐ อดข้าวยังรุ่ง | |
เก็บแต่ผักบุ้ง | กินทั้งเมียผัว |
ตากุลโกฐาส | ความยากพ้นตัว |
ทั้งเมียทั้งผัว | ได้เช้าหางาย ๚ะ |
ยานี
๙๑ นางนาคอยู่ภายหลัง | ทองร้อยชั่งคิดจินดา |
นีรมิตโภชนา | เครื่องปิ้งจี่อันตระการ |
๙๒ เครื่องคั่วแลเครื่องเจียว | ทั้งข้าวเหนียวแลของหวาน |
ขนมอันตระการ | แต่งใส่พานนางบรรจง |
๙๓ กับข้าวทั้งคาวหวาน | ข้าวใส่จานเบญจรงค์ |
ถาดใหญ่แต่งใส่ลง | เต็มทั้งเรือนยายกาวัน |
๙๔ นีรมิตทุกสิ่งสิ้น | ทั้งของกินแต่งครบครัน |
น้ำใช้ตักใส่ขัน | กระบวยคันลอยลงใน |
๙๕ นีรมิตสำเร็จแล้ว | นางน้องแก้วคลานเข้าไป |
ในคราบเคยอาศัย | ใครบ่เห็นนางจอมขวัญ |
๙๖ สองเฒ่าครั้นกลับมา | ถึงเคหาเห็นอัศจรรย์ |
ใครหนอมาแกล้งสรรค์ | ผิดประหลาดแล้วแลนา |
๙๗ ฤๅหนึ่งพระอินทร์เจ้า | เห็นว่าเราอดข้าวปลา |
มาแต่งโภชนา | เอาไว้ท่ามาคิดฉงน |
๙๘ เร่งคิดผิดใจแล้ว | ฤๅลูกแก้วแม่เป็นคน |
เห็นแม่ได้ทุกข์ทน | แต่งไว้ท่ากระมังนา |
๙๙ จะว่านางคางคก | แก้วแอบอกของแม่อา |
เห็นแม่อดข้าวปลา | แต่งไว้ท่าเราทั้งสอง |
๑๐๐ ตายายทั้งสองรา | ค่อยเจรจาแล้วเยี่ยมมอง |
ตาเฒ่าลุกนั่งยอง | แหวกช่องมองดูซ้ายขวา |
๑๐๑ เดินแนบแอบเข้าไป | แฝงตนไว้แลไปมา |
ตกใจแลซ้ายขวา | ถอยออกมาเป็นหลายหน |
๑๐๒ เฒ่ายอบหมอบตัวลง | จิตบ่ตรงละลานลน |
ในจิตคิดฉงน | เขาท่ากลกระมังหนา |
๑๐๓ แต่ก่อนบ่ห่อนมี | มาวันนี้หลากแก่ตา |
เล็งแลแปรหน้ามา | ขบฟันให้ยายกาวัน |
๑๐๔ โบกมือให้ถอยหลัง | เฒ่าจึงนั่งลงด้วยพลัน |
ตกใจให้ตัวสั่น | ดังแม่มดเมื่อผีลง |
๑๐๕ หยุดยั้งเฒ่าชั่งใจ | คลานเข้าไปได้โดยจง |
ลุกขึ้นบ่ยืนตรง | คว้าได้เล่าเฒ่าถอยหลัง |
๑๐๖ คว้าได้ก็ใส่ปาก | ด้วยความอยากเป็นกำลัง |
กินพลางทางเหลียวหลัง | พากันแล่นทั้งสองคน |
๑๐๗ เฒ่าแล่นไปสุดแรง | ปากคอแห้งตาเหลือกลน |
แค้นคออะดักดล | ร้องเรียกยายช่วยด้วยรา |
๑๐๘ กาวันจึ่งเหลียวหลัง | ค่อยหยุดยั้งด้วยปัญญา |
หยุดก่อนเป็นไรนา | ตาเจ้าอาอย่าเพ่อไป |
๑๐๙ มากูจะไปดู | ให้รู้แท้แน่แก่ใจ |
ว่าแล้วจึงเข้าไป | ค่อยเยี่ยมมองช่องประตู |
๑๑๐ เข้าใกล้แลซ้ายขวา | เฒ่ายืนง่าอยู่เป็นครู่ |
ค่อยเยี่ยมมองแลดู | เฒ่าจึ่งรู้ด้วยปัญญา |
๑๑๑ กาวันจึ่งเรียกผัว | ตาอย่ากลัวเร่งเข้ามา |
ชะรอยเทวดา | ท่านมาโปรดเราทั้งสอง |
๑๑๒ สองเฒ่าชวนกันกิน | โดยถวิลคิดสมพอง |
ฤๅว่าใครมาลอง | เราทั้งสองเห็นผิดที |
๑๑๓ กินแลัวจึงถามหลาน | นางนงคราญมารศรี |
น้ำไน่ไฟอัคคี | ใครขอให้ได้มาทำ |
๑๑๔ กระออมน่าก็ใหญ่ | ใครตักให้เห็นผิดลา |
ฤๅใครแกล้งมาทำ | ให้แก่เจ้าบอกตามจริง |
๑๑๕ จึงเล่าให้ยายฟัง | ทองร้อยชั่งบอกทุกสิ่ง |
หลานแต่งไว้ท่าจริง | แต่นี้ไปอย่านึกเดา |
๑๑๖ แต่นี้ไปเมื่อหน้า | อย่าสุ่มปลาดุจดังเก่า |
อยู่เรือนทุกค่ำเช้า | หลานจะเลี้ยงยายสืบไป |
๑๑๗ ยายเฒ่าคิดฉงน | ชะรอยคนเข้าอยู่ใน |
วันนี้อย่าไปไกล | คอยจงได้จับเอาตน |
๑๑๘ ไปซ่อนอยู่ที่ลับ | คอยมองจับให้ชอบกล |
ฉายาจึ่งขวายขวน | ถอดรูปตนคลานออกมา |
๑๑๙ นางทำเหมือนดังเก่า | จึ่งสองเฒ่าเห็นฉายา |
รูปนางงามรจนา | คือนางฟ้ามาแต่สวรรค์ |
๑๒๐ สองเฒ่าแล่นเข้ามา | ถึงฉายาร้องรับขวัญ |
บุญเรามาพบกัน | ชาติก่อนนั้นลูกของยาย |
๑๒๑ แล่นไล่ตามลูกแก้ว | ไม่ทันแล้วนางกลับกลาย |
เข้าคราบแล่นหนียาย | นางโฉมฉายหนีแม่ไป |
๑๒๒ แล่นมานางแกล้งหนี | ตัวเท่านี้รอดที่ไหน |
ยกหลานมากอดไว้ | ร่ำร้องไห้วอนไปมา |
๑๒๓ วอนแล้ววอนอีกเล่า | นางนงเยาว์ถอดเสียรา |
คางคกรูปชั่วช้า | เจ้าเอามาสวมไว้ไย |
๑๒๔ อยู่เป็นคนดีกว่า | ได้เห็นหน้าเพื่อนเข็ญใจ |
เฒ่าวอนเท่าใดใด | นางอรไทไม่ไยดี |
๑๒๕ ตั้งแต่วันนั้นมา | นางฉายาเลี้ยงสองศรี |
สองเฒ่าก็ยินดี | ทุกคํ่าเช้าเป็นอัตรา ๚ะ |
สุรางคนางค์ พิลาป
๑๒๖ บทนี้ยกไว้ | |
กล่าวถึงนางไท้ | ผู้เป็นมารดา |
แต่แม่แรกไข่ | ซ่อนไว้กลางป่า |
ลูกแก้วแม่อา | ป่านนี้เป็นไฉน |
๑๒๗ แม่กลัวบิดา | |
มิได้ไปหา | ลูกรักทรามวัย |
เป็นหญิงฤๅชาย | บ่รู้กลใด |
กูจะเที่ยวไป | ให้รู้อาการ |
๑๒๘ ว่าแล้วลินลา | |
แทรกแผ่นดินมา | หาลูกสงสาร |
แต่แม่จากแก้ว | คลาดแคล้วมานาน |
บ่ได้พบพาน | ลูกรักแม่เอย |
๑๒๙ เที่ยวหาลูกแก้ว | |
เห็นเงียบอยู่แล้ว | แม่เรียกทรามเชย |
แม่มาเที่ยวหา | กำพร้าแม่เอย |
บ่เห็นลูกเลย | แม่จะขาดใจตาย |
๑๓๐ นางเล็งแลหา | |
ในไพรพฤกษา | ร้องไห้บ่วาย |
ไม่เห็นลูกแล้ว | นางแก้วใจหาย |
แม่จะทำลาย | ตายด้วยลูกยา |
๑๓๑ อกช้ำแดงเดือด | |
น้ำตาคีอเลือด | อาบหน้าฉายา |
เที่ยวหาทั่วจบ | บ่พบเลยนา |
นางทรงโศกา | กำพร้าแม่เอย |
๑๓๒ ซังเซเร่หา | |
ไม่พบลูกยา | น้ำตาบ่เสบย |
มิพบลูกแล้ว | นางแก้วทรามเชย |
น้ำตาแม่เอย | เร่งไหลออกมา |
๑๓๓ ร้องไห้กลิ้งเกลือก | |
ทอดองค์ลงเสือก | ในกลางแฝกคา |
สองมือตีอก | แล้วฟายน้ำตา |
ลูกรักแม่อา | กำพร้าแม่เอย |
๑๓๔ ล้มแล้วลุกขึ้น | |
ร้องไห้สะอื้น | ร่ำไรบ่เสบย |
มิได้เห็นพักตร์ | ลูกรักทรามเชย |
ทำฉันใดเลย | ลูกรักทรามวัย |
๑๓๕ ฤๅหนึ่งเยียวกา | |
พานพบลูกยา | คาบพาเอาไป |
ฤๅครุฑกระลี | อินทรีในไพร |
เอาลูกมาให้ | ข้าราพระเอย |
๑๓๖ นางร้องไห้ร่ำ | |
หน้าเผือดเลือดช้ำ | น้ำตาบ่เสบย |
อยู่แห่งใดหนา | กำพร้าทรามเชย |
ทูนหัวแม่เอย | ใครพาดรธาน |
๑๓๗ แต่นี้เมือหน้า | |
แม่กินน้ำตา | เป็นภักษาหาร |
ตัวแม่ไปอยู่ | ถึงเมืองบาดาล |
ลูกรักสงสาร | อยู่เหนือดินดอน |
๑๓๘ มิพบลูกแก้ว | |
ลินลาศคลาดแคล้ว | นางแก้วบทจร |
ไคลคลาดยาตรา | ถึงฝั่งสาคร |
นางแก้วสายสมร | แทรกพื้นดินไป ๚ะ |
ฉบัง
๑๓๙ เมื่อนั้นจึ่งนางฉายา | อยู่ด้วยยายตา |
สองราเป็นสุขทุกวัน | |
๑๔๐ นีรมิตข้าวปลาครามครัน | กินอยู่สบสรรพ์ |
สองเฒ่าได้พึ่งเทพี | |
๑๔๑ นางไม่ถอดรูปเทวี | นางเมืองมีศรี |
เข้าอยู่ในคราบคางคก[๑] | |
๑๔๒ อยู่มาวันหนึ่งอุโบสถ | ฝูงคนปรากฏ |
จะใคร่ให้มีเทศนา | |
๑๔๓ นางน้องได้ยินเขาว่า | วอนยายกับตา |
ว่าข้าจะไปฟังธรรม์ | |
๑๔๔ ตาเฒ่าได้ฟังหุนหัน | จะไปฟังธรรม์ |
จะนั่งที่ไหนไม่อาย | |
๑๔๕ เขาเกลียดเขาชังทั้งหลาย | ดังฤๅไม่อาย |
แลมึงจะขายหน้ากู | |
๑๔๖ รูปร่างเนื้อหนังหดหู่ | กูน่าอดสู |
พาอีขี้ร้ายมายา | |
๑๔๗ นางน้องร้องไห้ไปมา | ยายเอ็นดูข้า |
จงให้ลูกไปฟังธรรม์ | |
๑๔๘ เมื่อนั้นจึ่งยายกาวัน | ว่าแก่ผัวขวัญ |
มันไปก็ตามปัญญา | |
๑๔๙ นางนาคได้ฟังยายว่า | ชื่นชมหรรษา |
จึ่งแต่งเมี่ยงหมากธูปเทียน ๚ะ |
ยานี นางกราย
๑๕๐ ครั้นรุ่งวันพระนั้น | นางจอมขวัญจะฟังธรรม์ |
นีรมิตผ้าแพรพรรณ | ผ้าห่มนั้นปักด้วยทอง |
๑๕๑ ธูปเทียนแลเมี่ยงหมาก | เห็นงามหลากไม่มีสอง |
ข้าสาวอยู่ก่ายกอง | นั่งห้อมล้อมนางเทวี |
๑๕๒ นางถอดรูปออกแล้ว | นางน้องแก้วงามมีศรี |
คือทองหมดราคี | ศรีแสล้มงามพึงชม |
๑๕๓ ผมเผ้าเฟื้อยเหนือบ่า | เนื้อนมหน้างามอุดม |
อ้อนแอ้นอรเอวกลม | นวลละอองคือทองคำ |
๑๕๔ นางเมืองเยื้องย่างเดิน | เมื่อดำเนินดังจะรำ |
แขนอ่อนอย่างระบำ | เหมือนนางหงส์เมื่อลินลา |
๑๕๕ ดวงหน้าคือวงเดือน | สองแขนเหมือนงวงไอยรา |
เต้านางทั้งซ้ายขวา | คือบัวทองต้องติดใจ |
๑๕๖ ผมดำคือแมงทับ | พรรณระยับงามสุกใส |
เสียงหวานอ่อนเอาใจ | ว่าสิ่งไรเพราะทุกคำ |
๑๕๗ สองเฒ่าเห็นรูปทรง | เร่งพิศวงใจพสิกคว่ำ |
นี่เรามาสิ้นกรรม | เพราะหลานขวัญเราแลนา |
๑๕๘ จึ่งให้นามกร | หลานบังอรงามโสภา |
คิดกันทั้งสองรา | นางฉายาชื่ออุทัย |
๑๕๙ ถอดรูปวันอาทิตย์ | เห็นมิผิดแก่หัวใจ |
แต่เช้างามสุกใส | ชื่ออุทัยนางเทวี |
๑๖๐ ครั้นนางแต่งตัวแล้ว | นางน้องแก้วดำเนินศรี |
ข้าสาวนั่งพัดวี | ชูพานพระศรีห้อมล้อมไป |
๑๖๑ ลางนางนุ่งผ้าปัก | เห็นงามนักหน้าละไม |
เมื่อย่างดำเนินใน | แต่งแง่ให้ชายเชยชม |
๑๖๒ ลางนางนุ่งผ้าแดง | เห็นเป็นแสงงามอุดม |
ผ้านางแต่งให้ห่ม | แลดูนมเห็นรองรอง |
๑๖๓ ลางนางนั้นเล่าไซร้ | ห่มสไบปักลวดทอง |
นุ่งผ้าเนื้อลำยอง | เนื้อละเอียดหน้าเป็นใย |
๑๖๔ ลางนางนุ่งผ้าปัก | ห่มสะพักลายกิ่งไม้ |
ชายเห็นต้องติดใจ | น่าใคร่ได้มากอดนอน |
๑๖๕ ลางนางห่มเครือวัลย์ | ผ้านุ่งนั้นลายเขียวอ่อน |
ชายเห็นเป็นอาวรณ์ | นางเนื้ออ่อนน่าเอ็นดู |
๑๖๖ ลางนางนุ่งลายปัก | ห่มสะพักสีมันปู |
สาวน้อยน่าเอ็นดู | น่าสมสู่เป็นเมียขวัญ |
๑๖๗ ลางนางนุ่งงามนัก | ห่มสะพักลายเครือวัลย์ |
ชายเห็นใจกระสัน | จะใคร่ได้นางสายสมร |
๑๖๘ วงหน้าคือพระจันทร์ | สองคิ้วนั้นคือกงศร |
เฉิดฉายปลายนมงอน | นัยน์เนตรน้องคือตาทราย |
๑๖๙ พระกรเจ้าทั้งสอง | เมื่อเยื้องย่องทอดแขนกราย |
อ้อนแอ้นสบตาชาย | อ่อนละมุนทั่วทั้งตัว |
๑๗๐ แห่ห้อมล้อมอุทัย | เห็นไสวคือดอกบัว |
เอวบางช่างแต่งตัว | หมู่ข้าสาวห้อมล้อมไป |
๑๗๑ สองเฒ่าแลลงมา | สุดลูกตาเห็นไสว |
ตามดูนางอุทัย | ทั้งผัวเมียแล่นเสือกสน |
๑๗๒ ครั้นถึงในอาราม | สงฆ์ไถ่ถามแก่ฝูงคน |
สาวน้อยงามชอบกล | นางจรดลมาแต่ใด |
๑๗๓ ลางคนวิ่งตามดู | เห็นโฉมตรูละลานใจ |
แป้งผัดทัดดอกไม้ | หอมกลิ่นไปอยู่รวยรวย |
๑๗๔ งามจริงยิ่งเทวา | พิศดูหน้างามสะสวย |
ข้าสาวรูปงามรวย | ได้ชมเล่นเย็นในใจ |
๑๗๕ แปลกหน้ามิรู้จัก | จะใคร่ทักนางทรามวัย |
เกลือกนางมิปราศรัย | อดสูใจเป็นนักหนา |
๑๗๖ ตาเถนแลยายชี | ภิกขุณีทั้งสีกา |
แลดูนางฉายา | เณรร้องว่ามาแต่ไหน |
๑๗๗ รูปร่างนางสาวน้อย | คือทองย้อยงามสุกใส |
ปักปิ่นแซมไม้ไหว | หน้าเป็นใยงามโสภา |
๑๗๘ นมงอนปลายช้อยชด | ใจระทดด้วยฉายา |
แป้งสดชะมดทา | นมเต่งตั้งดังบัวทอง |
๑๗๙ สองแก้มดังไข่ปอก | นวลละลอกงามลำยอง |
เนื้อเหลืองงามเรืองรอง | วงคิ้วน้องสุดหางตา |
๑๘๐ ขึ้นบนโรงธรรมแล้ว | จุดเทียนแก้วด้วยศรัทธา |
ปูผ้ากราบสามลา | นางฉายาฟังเทศน์อยู่ |
๑๘๑ พระสงฆ์เทศนา | ปากนั้นว่าตาแลดู |
ผิดพลั้งยั้งเป็นครู่ | ฝูงคนดูทั้งหญิงชาย ๚ะ |
สุรางคนางค์
๑๘๒ บทนี้ยกไว้ | |
จะกล่าวถึงไท้ | การบราชา |
ท้าวผู้เสวยราชย์ | ในเมืองพารา |
รี้พลช้างม้า | เต็มทั้งเรือนหลวง |
๑๘๓ มีนางมเหสี | |
เลิศล้ำนารี | ครองสนมทั้งปวง |
ข้าสาวชาวแม่ | เต็มทั้งเรือนหลวง |
เงินทองทั้งปวง | อเนกมากมี |
๑๘๔ พระราชกุมาร | |
แห่งนางนงคราญ | ได้สิบหกปี |
เป็นนวลละออง | ลำยองมีศรี |
นามกรภูมี | กายสุทธกุมาร |
๑๘๕ วันนั้นท่านท้าว | |
ได้ยินเขาป่าว | รู้แล้วบ่นาน |
จะใคร่ฟังธรรม | เทศนาอาจารย์ |
จึ่งพระภูบาล | สั่งแก่เสนา |
๑๘๖ สั่งแล้วบ่นาน | |
เจ้าสุทธกุมาร | จึ่งเสด็จลินลา |
ไพร่ฟ้าข้าหลวง | ทั้งปวงซ้ายขวา |
แห่ห้อมล้อมมา | เข้าในโรงธรรม์ |
๑๘๗ แลเห็นอุทัย | |
พิศวงหลงใหล | ในใจกระสัน |
เจ้างามประเสริฐ | เลิศกว่าทั้งนั้น |
พระน้องจอมขวัญ | ลูกเต้าของใคร |
๑๘๘ มีผัวฤๅยัง | |
นางทองร้อยชั่ง | ท้าวน้องทรามวัย |
แม้นว่ามีผัว | จะกลัวอันใด |
จะเอาให้ได้ | ไม่ไว้ตัวเลย |
๑๘๙ รูปงามพิจิตร | |
แม้นเสียชีวิต | ไม่คิดตัวเลย |
เที่ยวหาทุกเมือง | ไม่มีเหมือนเลย |
ทองทั้งตัวเอย | จะได้เชยเมื่อไร |
๑๙๐ | ส่วนนางเอววัลย์ |
ค่อยนั่งฟังธรรม์ | บ่ได้หวั่นไหว |
นางเปลื้องภูษา | อาภรณ์สไบ |
รัดเกล้าแหวนใส่ | บูชาพระธรรม์ |
๑๙๑ นีรมิตใหม่เล่า | |
งามยิ่งกว่าเก่า | ลายทองเครือวัลย์ |
ครั้นถึงเวลา | พอจบพระธรรม์ |
อุทัยจอมขวัญ | กรวดน้ำพิษฐาน |
๑๙๒ ครั้นว่าเสร็จแล้ว | |
อุทัยนางแก้ว | ออกมาบ่นาน |
ข้าสาวชาวแม่ | แห่ห้อมนงคราญ |
พระราชกุมาร | แลดูอุทัย |
๑๙๓ พระราชกุมาร | |
เห็นนางไปบ้าน | ติดตามนางไป |
ครั้นถึงเคหา | เรือนนางอาศัย |
มหาดเล็กคนใช้ | แล่นไปพรั่งพรู |
๑๙๔ เข้าล้อมเรือนไว้ | |
สองเฒ่าตกใจ | หน้าขาวเหมือนหนู |
ส่งหลานมาให้ | มหาดเล็กเข้าขู่ |
สองเฒ่าหดหู่ | ตกใจนักหนา |
๑๙๕ ส่วนนางอุทัย | |
เข้าในคราบได้ | สอนยายกับตา |
ใครล้อมเรือนไว้ | ไสคอเสียรา |
คนชั่วชาติข้า | ชอบว่าให้ถอง |
๑๙๖ ไปบอกแก่เจ้า | |
ถ้ารักหลานเรา | ไปปลูกตะพานทอง |
จะนับคณนา | ร้อยห้าสิบห้อง |
แล้วด้วยเครื่องทอง | จนถึงเรือนเรา |
๑๙๗ ถ้าว่าทำได้ | |
จะส่งหลานให้ | เป็นคู่คลึงเคล้า |
แม้ว่ามิได้ | ที่ไหนจะเอา |
จะเก้อไปเปล่า | อายใจโฉมงาม |
๑๙๘ เห็นว่าเข็ญใจ | |
ล้อมเรือนตูไว้ | ทำได้หยาบหยาม |
เป็นเกี่ยวดองกัน | ทำให้แต่งาม |
อย่าทำวู่วาม | จะชวดได้เมีย |
๑๙๙ ไปทูลเจ้าฟ้า | |
ว่ายายกับตา | โกรธคือไฟเลีย |
แค้นใจนักหนา | ขับตูข้าเสีย |
ทั้งผัวทั้งเมีย | ขับให้ไปทูล |
๒๐๐ เขายิ้มหัวร่อ | |
ขี้ริ้วพันคอ | พาลเฒ่าสถูล |
ดังฤๅมาใช้ | ให้เราไปทูล |
ชีวิตจะสูญ | ยังจะรู้ฤๅนา |
๒๐๑ เขาจึ่งกลับไป | |
ทูลแก่ท้าวไท | การบราชา |
ว่าเฒ่าตัดพ้อ | มากมายหนักหนา |
แม้นรักหลานข้า | จะมาเป็นเกี่ยวดอง |
๒๐๒ ให้ปลูกปราสาท | |
อันงามโอภาส | อีกทั้งตะพานทอง |
แต่หัวบันได | ร้อยห้าสิบห้อง |
จนถึงเรือนน้อง | อุทัยเทวี ๚ะ |
ยานี
๒๐๓ บัดนั้นท้าวการบ | ตบพระหัตถ์เร่งโกรธา |
พลอดผิดอนิจจา | ช่างข้อนว่าเป็นเกี่ยวดอง |
๒๐๔ ตัวเตี้ยต่ำต่อตีน | จะปีนข้ามภูเขาทอง |
จะข้ามทะเลนอง | มาคิดปองเอาดาวเดือน |
๒๐๕ เมื่อตัวมันเป็นข้า | อาจเจรจาใครจะเหมือน |
โทษฆ่าเสียทั้งเรือน | ใครจะเหมือนเฒ่าสองรา |
๒๐๖ ไปปรึกษานครบาล | อย่าได้นานผูกคอมา |
ฟันเสียในป่าช้า | ทั้งสองราอย่าทันนาน |
๒๐๗ กาวินผู้เมียรัก | จึ่งทูลทักนางทัดทาน |
ฟันเสียไม่เข้าการ | คนทั้งบ้านจะนินทา |
๒๐๘ ขอลูกเขาไม่ให้ | เอาโทษใส่ไม่เข้ายา |
ฝูงคนจะฦๅชา | ว่าคุมเหงไพร่พลเมือง |
๒๐๙ คิดอ่านกันดีกว่า | ไม่เห็นว่าจะแค้นเคือง |
ให้ปลูกเป็นบ้านเมือง | อันโตใหญ่จงทำตาม |
๒๑๐ เรือนเฒ่าสองผัวเมีย | กระท่อมเตี้ยเห็นมิงาม |
ปลูกใหม่จึงทำตาม | ทำจงงามแล้วด้วยทอง |
๒๑๑ ให้เฒ่าปลูกแม่เรือน | ให้งามเหมือนปราสาททอง |
ดังจิตเราคิดปอง | จงเฒ่าสองเร่งทำพลัน |
๒๑๒ ให้ปลูกปราสาทแก้ว | สำเร็จแล้วสิบห้าวัน |
จะทำประกวดกัน | ให้จงทันได้ฤกษ์ดี |
๒๑๓ ปราสาทแลตะพาน | ตกนักงานไว้ข้างนี้ |
ข้างโน้นทำจงดี | เป็นปราสาทราชวัง |
๒๑๔ ถ้าว่าสองเฒ่าแพ้ | ชีวิตแล้โดยกูหวัง |
ผูกคอไปนอกวัง | ถึงป่าช้าจะฆ่าเสีย |
๒๑๕ การบเห็นชอบแล้ว | นางน้องแก้วผู้เป็นเมีย |
ช่างคิดให้ฆ่าเสีย | เฒ่าผัวเมียเห็นแพ้เรา |
๒๑๖ การบเห็นชอบแล้ว | คำเมียแก้วนางนงเยาว์ |
ให้สารถึงสองเฒ่า | ตามคำเจ้ามีบัญชา |
๒๑๗ โอ้โอะมิเป็นการ | เห็นในสารท่านว่ามา |
ชีวิตกูนี้นา | เห็นมิช้าจะพลันตาย |
๒๑๘ จะคิดประการใด | อีจังไรทำวุ่นวาย |
ตัวกูจะพลอยตาย | อีขี้ร้ายมันเอาผัว |
๒๑๙ กอดคอกันร้องไห้ | น้ำตาไหลคิดถึงตัว |
ตีอกแล้วชกหัว | ตัวจะตายแล้วแลนา |
๒๒๐ ฟังท่านตกเอาเรือน | ใครจะเหมึอนอกกูอา |
ท่านเป็นท้าวพญา | สอนให้ว่าทุกสิ่งอัน |
๒๒๑ กูนึกว่ามึงดี | จะฝากผีฝากไข้กัน |
มิรู้ว่าอาธรรม์ | แกล้งทำกันฉันนี้นา |
๒๒๒ มึงนิ่งอยู่ว่าไร | จะทำใดก็ว่ามา |
อย่าให้กูเวทนา | ตูสองรามิรู้วาย |
๒๒๓ ทำได้ฤๅมิได้ | อีจังไรจะฉิบหาย |
แต่งแง่อวดผู้ชาย | เป็นต้นปลายเพราะมึงนา |
๒๒๔ ตัวมึงตายทำเนา | ตูสองเฒ่าต้องขื่อคา |
จะต้องพระอาญา | ม้วยมรณาทีนี้แล |
๒๒๕ โอ้อกกูนี้นา | รับอาญาเมื่อภายแก่ |
ใครเลยจะเหลียวแล | ช่วยแก้ไขได้เล่าหนา |
๒๒๖ โอ้ตัวกูนี้เล่า | จะสูญเปล่าเห็นมิช้า |
เที่ยงแท้แล้วแลนา | ความตายมาถึงตัวกู |
๒๒๗ สองเฒ่าร่ำร้องไห้ | สลบไปแน่เป็นครู่ |
หายใจอยู่ฟูฟู | บ่รู้สึกจะหางาย |
๒๒๘ จึงเรียกหลานไปใหม่ | อีอุทัยมึงดูดาย |
จะละให้กูตาย | อีขี้ร้ายไม่นำพา |
๒๒๙ เมื่อนั้นนางอุทัย | กลั้นมิได้ร้องว่ามา |
จะปลูกเมื่อไรนา | ให้เร่งมาทำแข่งกัน |
๒๓๐ ใช้ให้คนไปป่า | ตัดไม้มาขมีขมัน |
พรุ่งนี้จะแข่งกัน | ใครไม่ทันทำฉันใด |
๒๓๑ ถ้าว่าข้างนี้แพ้ | ชีวิตแลอย่าได้ไว้ |
ฟันเสียให้บรรลัย | เพราะว่าแพ้แก่ชายจริง |
๒๓๒ ถ้าว่าข้างผู้ชาย | รี้พลหลายแพ้ผู้หญิง |
แม้ว่าจะทำจริง | เห็นว่าหญิงเร็วกว่าชาย |
๒๓๓ สองเฒ่าจึ่งดีใจ | ยกมือไหว้นางโฉมฉาย |
เจ้ายกน้ำหน้ายาย | เห็นมิอายแก่คนเลย |
๒๓๔ สองเฒ่าจึ่งร้องว่า | หมู่เสนาบอกหลานเขย |
อย่าช้ากว่านั้นเลย | พรุ่งนี้เหวยปลูกเรือนพลัน |
๒๓๕ อำมาตย์จึ่งกลับไป | ทูลท้าวไทพระทรงธรรม์ |
บอกว่ายายกาวัน | ปลูกเรือนพลันพรุ่งนี้นา |
๒๓๖ พญามาฉงน | มันได้คนที่ไหนมา |
บอกว่าใช้ไปป่า | ดูน้ำหน้ามันพรุ่งนี้ ๚ะ |
ฉบัง
๒๓๗ ครั้นค่ำเที่ยงคืนราตรี | อุทัยเทวี |
นีรมิตปรางค์ปราสาทไชย | |
๒๓๘ มุขทองแกมแก้วสุกใส | เห็นงามประไพ |
ใครเลยจะเทียบถึงสอง | |
๒๓๙ เสามุมนั้นย่อมด้วยทอง | หน้าต่างเรืองรอง |
ประดับด้วยแก้วรจนา | |
๒๔๐ แลเห็นสูงสุดลูกตา | เติบใหญ่มหึมา |
แลเห็นก็งามรุ่งเรือง | |
๒๔๑ ข้าสาวชาวแม่นองเนือง | ห้อมล้อมนางเมือง |
ขับกล่อมนางแก้วเทวี | |
๒๔๒ มโหรทึกกึกก้องดนตรี | ฆาตกลองเภรี |
ไพรเพราะเสนาะนักหนา | |
๒๔๓ สองเฒ่าจึ่งตื่นขึ้นมา | ตกใจนักหนา |
แลเห็นเคหาเรืองรอง | |
๒๔๔ ชะรอยบุญเราทั้งสอง | อุทัยลำยอง |
ทำแข่งด้วยท้าวการบ | |
๒๔๕ หลานเรานึกเอาได้ครบ | ท่านท้าวการบ |
ก็แพ้แก่หลานเราจริง | |
๒๔๖ น่าอายเป็นชายแพ้หญิง | เห็นหลากจริงจริง |
ทีนี้ตกนักงานยาย | |
๒๔๗ เมื่อนั้นจึ่งพระฦๅสาย | แต่เช้าก่อนงาย |
ท้าวเสด็จนั่งบนเกย ๚ะ |
สุรางคนางค์
๒๔๘ ท้าวเล็งแลมา | |
เห็นหลากนักหนา | จะว่าอันใด |
สูงสุดตามอง | ย่อมทองสุกใส |
เจดีย์ก็หาใช่ | ทุกวันบ่เห็น |
๒๔๙ ตากุลโกฐาส | |
เห็นผิดประหลาด | ปลูกปราสาทเป็น |
เข็ญใจไร้ทรัพย์ | เป็นคนยากเย็น |
ผู้คนไม่เห็น | สงสัยใจเรา |
๒๕๐ เรียกนางกาวิน | |
เมียรักภูมินทร์ | ให้มาดูเอา |
สิ่งไรไฉยา | สูงกว่าของเรา |
จะว่าสองเฒ่า | เห็นผิดนักหนา |
๒๕๑ สั่งให้ไปดู | |
แต่ล้วนชาวหมู่ | แล่นพรูกันมา |
ครั้นถึงแลเห็น | ปราสาทรจนา |
ย่อมทองโสภา | แกมแก้วมณี |
๒๕๒ เขาจึ่งทูลเล่า | |
ปราสาทสองเฒ่า | อุทัยเทวี |
ท่านท้าวตกใจ | ไม่สมประดี |
อีเฒ่าบัดสี | ควรเราแพ้มัน |
๒๕๓ เราให้สัญญา | |
เฒ่าทั้งสองรา | ถ้าแพ้จะฟัน |
เป็นท้าวพญา | ควรมาแพ้มัน |
คิดก่อนผ่อนผัน | ให้เชิญตัวมา |
๒๕๔ จึ่งสั่งสาวศรี | |
สูไปบัดนี้ | เชิญยายกับตา |
ไปบอกยายเจ้า | ว่าเราให้หา |
เชิญยายกับตา | มานัดการงาน |
๒๕๕ สาวใช้แล่นไป | |
นั่งลงกราบไหว้ | กาวันบ่นาน |
มีโองการใช้ | ให้ยายไปสถาน |
จะนัดการงาน | แล้วจึ่งปลูกเรือน |
๒๕๖ เฒ่าร้องตวาดให้ | |
เห็นว่าเข็ญใจ | ดูถูกใครจะเหมือน |
ให้เราไปหา | จะนัดปลูกเรือน |
ดูถูกใครจะเหมือน | ท่านเป็นพญา |
๒๕๗ ขอลูกสาวท่าน | |
จะนัดการงาน | ให้ต้องไปหา |
เห็นผิดทำเนียม | แต่บูราณมา |
แต่งคำเจรจา | เราไม่พอใจ |
๒๕๘ เราเจ็บหัวเข่า | |
ชราแก่เฒ่า | เราไม่ยักไป |
งกงกวันวัน | จะทันที่ไหน |
น่าแค้นแน่นใจ | กูไม่เคยเห็น |
๒๕๙ เกิดมาอาภัพ | |
เห็นว่าน้อยทรัพย์ | กลับมาว่าเล่น |
มุสาวาทา | เราว่าไม่เป็น |
พูดเพราะหัวเราะเล่น | เห็นน่าบัดศรี |
๒๖๐ มั่งมีเหมือนกัน | |
ผ้าผ่อนแพรพรรณ | เงินทองมากมี |
เป็นเกี่ยวดองกัน | ผ่อนผันแต่ดี |
มาทำย่ำยี | มิดีนักหนา |
๒๖๑ แรกเริ่มเดิมที | |
ทรงธรรม์พันปี | มีคำสัญญา |
ยึดมาหายสิ้น | ล่อลิ้นเจรจา |
โอ้พระราชา | คิดน่าอดสู |
๒๖๒ แต่งกลวาจา | |
ถ้อยคำสัญญา | ขันหมากรากพลู |
ว่าแล้วหายไป | พระไม่อดสู |
ทีท่วงลวงกู | การบราชา |
๒๖๓ สัญญาแก่กัน | |
กลัวเราจะฟัน | ทำนบนอบมา |
จะนัดปลูกเรือน | ให้คนมาหา |
ข่มเหงเจรจา | ไม่มาเกรงใจ |
๒๖๔ เมื่อกูคิดมา | |
ต้องให้ไปหา | อย่าเลยกูไม่ไป |
กูเจ็บหัวเข่า | เดินมิได้ไกล |
ผูกช้างสารใหญ่ | รับตูคนละตัว |
๒๖๕ ให้ผูกช้างพลาย | |
รับท่านผู้ชาย | ตาเฒ่าผู้ผัว |
แล้วผูกช้างพัง | รับยายอีกตัว |
ทั้งเมียทั้งผัว | จะไปด้วยกัน |
๒๖๖ สาวศรีมาทูล | |
แก่พระนเรนทร์สูร | ปิ่นเกล้าไอศวรรย์ |
จึงผูกช้างสาว | สองตัวมาพลัน |
รับยายกาวัน | ตากุลโกฐาส |
๒๖๗ สองเฒ่าแต่งตัว | |
ทั้งเมียทั้งผัว | เคยนุ่งผ้าขาด |
เฒ่าห่มชมพู | ดูงามทายาด |
ตากุลโกฐาส | ขึ้นช้างล่อไป |
๒๖๘ ขี่ช้างตามกัน | |
เห็นช้างชับมัน | ร้องให้หยุดไว้ |
จะเดินดีกว่า | ว่าช้างจังไร |
ซับมันตัวใหญ่ | โยกย้ายไปมา |
๒๖๙ เคยขี่ช้างน้อย | |
คนตามเป็นร้อย | แต่ก่อนโพ้นมา |
ล่ำสันเติบใหญ่ | สูงเพียงหลังคา |
ตกมันเป็นบ้า | แข้งขาโทงเทง |
๒๗๐ ส่วนยายกาวัน | |
ตกใจตัวสั่น | งกงันไปเอง |
กูนึกว่าดี | ขึ้นขี่โคลงเคลง |
จะเดินไปเอง | กูไม่ขี่เลย |
๒๗๑ ส่วนว่าหม่อมตา | |
ขี่ช้างไปหน้า | ถึงวังที่เขย |
นั่งท่ากาวัน | เดินมิทันเลย |
ข้าเหนื่อยตาเหวย | ละล้าละลัง |
๒๗๒ เดินตามกันไป | |
ถึงท้องพระโรงไชย | ระเสริดระสรัง |
ปูสาดลาดพรม | ให้สองเฒ่านั่ง |
หมอนอิงพิงหลัง | สองเฒ่าบ่นาน |
๒๗๓ นั่งลงกราบไหว้ | |
สมเด็จท้าวไท | การบภูบาล |
ท้าวจึ่งปราศรัย | สองเฒ่าบ่นาน |
เรานัดการงาน | แล้วจึ่งปลูกเรือน |
๒๗๔ สองเฒ่าตัดพ้อ | |
แรกเริ่มเดิมขอ | ข้าได้ตักเตือน |
ให้ทำสะพาน | แล้วจึ่งปลูกเรียน |
เร่งทำให้เหมือน | เรือนเฒ่าสองรา |
๒๗๕ ทำสะพานทอง | |
ร้อยห้าสิบห้อง | จนถึงเคหา |
ปลูกปราสาทแก้ว | เลิศแล้วโสภา |
เร่งเร็วอย่าช้า | ให้ทันฤกษ์ดี |
๒๗๖ ไหนว่าแข่งกัน | |
ใครแพ้จะฟัน | ให้ม้วยเป็นผี |
ถ้าว่าข้าแพ้ | จะม้วยชีวี |
หยักเหยาเซ้าซี้ | ข้านี้ไม่เคย |
๒๗๗ พญาอายใจ | |
สะท้อนถอนใจ | พระทัยไม่เสบย |
เพราะว่าผิดแล้ว | จะโทษใครเลย |
โอ้อกกูเอย | แพ้แล้วแลนา |
๒๗๘ ว่าแล้วกาวน | |
กราบลาทรงธรรม์ | การบราชา |
ท่านท้าวตรัสสั่ง | เวียงวังคลังนา |
เร่งรัดตรวจตรา | อย่าช้าโดยหวัง |
๒๗๙ ให้แต่งเกณฑ์แห่ | |
ข้าสาวชาวแม่ | เซ็งแซ่แตรสังข์ |
เป่าปี่ตีฆ้อง | ดาบทองสะพรั่ง |
โล่เขนดาบดั้ง | หน้าหลังซ้ายขวา |
๒๘๐ ให้แต่งคานหาม | |
ทั้งคู่ดูงาม | หามยายกับตา |
เชิญขึ้นนั่งใน | หามไปเคหา |
อภิรมกั้นมา | ยายตาทั้งสอง |
๒๘๑ นางสาวชาวใน | |
ให้แต่งตัวไว้ | สไบริ้วทอง |
นุ่งผ้าลายปัก | สะพักลายทอง |
แห่ห้อมทั้งสอง | หม่อมยายหม่อมตา |
๒๘๒ ทั้งพัชนี | |
อีกจามรศรี | เครื่องสูงแห่มา |
ข้าสาวชาวแม่ | ทั้งซ้ายแลขวา |
หม่อมยายหม่อมตา | ไปกว่าจะถึงเรือน |
๒๘๓ ชาวในรับสั่ง | |
ละล้าละลัง | เร่งรัดตักเตือน |
ตรวจตราครบครัน | เร็วพลันใครจะเหมือน |
ครั้นแล้วจึ่งเคลื่อน | รับยายกับตา |
๒๘๔ แห่ห้อมล้อมไป | |
ธงเทียวไสว | ทั้งซ้ายทั้งขวา |
ดุจพระพันปี | มีพระบัญชา |
รับยายกับตา | ขึ้นสู่คานหาม |
๒๘๕ ชาวพลหนุ่มหนุ่ม | |
ชวนกันเข้ากลุ้ม | รุมกันเข้าหาม |
หามผัวไปหน้า | หามเมียไปตาม |
คนดูไม่งาม | แก่ตาเลยนา |
๒๘๖ สองเฒ่ามิเคย | |
ขึ้นนั่งบ่เฉย | เหลียวหลังเหลียวหน้า |
งกงกงันงัน | ผันซ้ายหันขวา |
ตัวสั่นไปมา | กว่าจะถึงเรือนตน ๚ะ |
ฉบัง
๒๘๗ เมื่อนั้นการบราชา | ตรัสสั่งเสนา |
ทุกหมู่ทุกกรมมากมาย | |
๒๘๘ เกณฑ์ไว้ได้ห้าร้อยปลาย | เร่งแจกกฎหมาย |
ให้ป่าวไปทั่วอย่านาน | |
๒๘๙ บ้างเกณฑ์ให้ตัดกระดาน | จะปลูกสะพาน |
แลเสาปราสาทเรือนหลวง | |
๒๙๐ ไม้ไหล้เสร็จสรรพทั้งปวง | ให้ทำการหลวง |
แต่ล้วนคนงานทหาร | |
๒๙๑ เมื่อนั้นพระราชกุมาร | บุตรพระภูบาล |
ท่านท้าวการบเจ้าเมือง | |
๒๙๒ จึ่งทรงพิษฐานเนืองเนือง | เทวาเสื้อเมือง |
พระอินทร์พระพรหมยมกาล | |
๒๙๓ เจ้าทรงสัจจาพิษฐาน | เดชะสมภาร |
ได้ตรัสเป็นพระมุนี | |
๒๙๔ โปรดสัตว์ในโลกโลกี | เป็นพระชินศรี |
อย่าให้ข้าอัปราชัย | |
๒๙๕ ถ้าคู่กันแล้วจริงไซร้ | เทวาข้าไหว้ |
อย่าให้ข้าแพ้แก่หญิง | |
๒๙๖ ถ้าแม้มิคู่กันจริง | ข้าว่าทุกสิ่ง |
อย่าได้มาช่วยเลยนา | |
๒๙๗ บัดเดี๋ยวร้อนถึงอินทรา | จึ่งเล็งแลมา |
ก็เห็นเจ้าสุทธกุมาร | |
๒๙๘ พระอินทร์จึ่งรู้อาการ | บัดเดี๋ยวบ่นาน |
ก็ลงมาช่วยทันใจ | |
๒๙๙ นีรมิตสะพานนั้นไป | แต่หัวบันได |
จนถึงเรือนยายกับตา | |
๓๐๐ ครั้นรุ่งจึ่งพระราชา | เห็นหลากนักหนา |
ใครหนอมาทำสะพาน | |
๓๐๑ หลังคาหน้าต่างทุกประการ | แสงแก้วประพาฬ |
ประดับเป็นนาคนาคา | |
๓๐๒ พรายแพร้วด้วยแก้วจินดา | ปราสาทโสภา |
เห็นงามก็รุ่งเรืองฉาย | |
๓๐๓ ท้าวจึ่งรู้ด้วยแยบคาย | เทวาทั้งหลาย |
ท่านลงมาช่วยบัดดล | |
๓๐๔ โอ้อกกูนี้มิจน | เห็นว่าจะพ้น |
ความอายแก่เฒ่าทั้งสอง | |
๓๐๕ เทวามาช่วยคุ้มครอง | เห็นเราทั้งสอง |
เคยคู่กันแล้วก่อนมา | |
๓๐๖ สองเฒ่าเห็นหลากนักหนา | หลานกับพญา |
ฤทธาก็มีเสมอกัน | |
๓๐๗ พญาให้หากาวัน | เมื่อแรกทำนั้น |
มิบอกแก่เราว่าไร | |
๓๐๘ ถ้ารู้จะแข่งกันไป | เห็นมิเป็นไร |
บรางว่าแพ้แก่กัน | |
๓๐๙ ท้าวไทจะให้ทำขวัญ | ลงโรงด้วยพลัน |
ทรงธรรม์ให้แต่งบายศรี | |
๓๑๐ เจ็ดชั้นทำให้จงดี | เพื่อนสาวมากมี |
แห่ห้อมมาล้อมอยู่ไสว | |
๓๑๑ แต่งเครื่องเลี้ยงคนที่ไป | ของดีทั้งไว้ |
จะเลี้ยงขุนนางทั้งหลาย ๚ะ |
ยานี
๓๑๒ ครั้นว่าถึงวันดี | พระภูมีแต่งตัวมา |
กายสุทธพระราชา | แห่ห้อมมางามไสว |
๓๑๓ ลูกท้าวแลพญา | แต่งตัวมาห้อมล้อมไป |
ขันหมากพระทรามวัย | เห็นประไพงามพอตา |
๓๑๔ ขนมทุกสิ่งพรรณ | เหล้าเข้มนั้นมากนักหนา |
เป็ดไก่แลเนื้อพล่า | พระราชาทำมงคล |
๓๑๕ ขันหมากพระจอมปรางค์ | ใส่หลังช้างด้วยบัดดล |
มากมายมาเกลื่อนกล่น | จะลงโรงพระราชา |
๓๑๖ ผู้เฒ่าแลผู้แก่ | ขึ้นช้างแห่ไปข้างหน้า |
ทั้งหลายห้อมล้อมมา | พระราชาขี่ช้างไป |
๓๑๗ ถึงโรงพิธีแล้ว | จึ่งพระแก้วเข้านั่งใน |
เพื่อนบ่าวพระจอมไตร | ล้อมท้าวไทพระราชา |
๓๑๘ ส่วนว่านางอุทัย | แต่งตัวไปงามโสภา |
เพื่อนสาวเจ้าฉายา | คือนางฟ้ามาแต่สวรรค์ |
๓๑๙ นีรมิตข้าสาวใช้ | ขนของไปจะเลี้ยงกัน |
ขนมทุกสิ่งพรรณ | เครื่องต้นนั้นเลี้ยงราชา |
๓๒๐ แต่งให้รี้พลกิน | ขนมจีนใส่น้ำยา |
ให้ทำแกล้มสุรา | ขนออกมาบ่หวาดไหว |
๓๒๑ เลี้ยงแล้วสิ้นทุกคน | จึ่งให้ขนของกลับไป |
มูลนายแลบ่าวไพร่ | โซเซไปจนถึงเรือน[๒] |
๓๒๒ บายศรีเอามาตั้ง | ท้าวจึ่งสั่งให้จุดเทียน |
แว่นแก้วเอามาเวียน | ให้สองเจ้าเข้านั่งกลาง |
๓๒๓ เวียนมาข้างเบื้องขวา | คนเข้ามาพัดวีพลาง |
จึ่งท้าวมานั่งกลาง | นั่งเคียงข้างนางอุทัย |
๓๒๔ ผู้เฒ่าจึ่งให้พร | แก่บังอรสองทรามวัย |
อายุจงยืนไป | เสวยราชัยแทนราชา |
๓๒๕ แขกเมืองเข้ามาไหว้ | ถวายดอกไม้ทุกภาษา |
ฝาหรั่งวิลันดา | ทั้งคุลาแลเมงมอญ |
๓๒๖ จีนจามทั้งพราหมณ์เทศ | ของวิเสทมาสลอน |
ดอกไม้แลเงินก้อน | ทั้งหัวแหวนอันรจนา ๚ะ |
สุรางคนางค์
๓๒๗ ครั้นทำขวัญแล้ว | |
เมื่อนั้นพระแก้ว | จึ่งขับพลไป |
ลูกขุนหัวเมือง | ช้างม้าข้าไท |
รี้พลไสว | กลับคืนไปเมือง |
๓๒๘ เมื่อนั้นภูบาล | |
อยู่ด้วยนงคราญ | บ่ได้แค้นเคือง |
เที่ยงคืนกระสัน | คนหลับทั้งเมือง |
จึ่งพระบุญเรือง | กล่อมแก้วกัลยา |
๓๒๙ อุ้มขึ้นเตียงทอง | |
สวมกอดนางน้อง | ต้องนมซ้ายขวา |
นางผลักพระหัตถ์ | ท้าวรัดตรึงตรา |
เล้าโลมไปมา | เจ้าอย่าวุ่นวาย |
๓๓๐ พระเอยอย่าต้อง | |
ตัวน้องจะร้อง | จะชวดเปล่าดาย |
ตัวน้องเป็นหญิง | ย่อมกริ่งเกรงชาย |
มาทำวุ่นวาย | ฉันนี้มิเคย |
๓๓๑ สิ่งนี้อายนัก | |
พระทองทรามรัก | อย่าเพ่อก่อนเลย |
ว่าพลางฉวยผ้า | คว้ามือทรามเชย |
โอ้แก้วพี่เอย | เจ้าอย่ากลัวเกรง |
๓๓๒ พระน้องฉายา | |
คือดังแก้วตา | เจ้าอย่าครื้นเครง |
แต่พี่กับเจ้า | เรารู้กันเอง |
เจ้าอย่ากลัวเกรง | เลยนะฉายา |
๓๓๓ จูบแก้มจูบเกศ | |
พระจูบอัคเรศ | หอมรสมาลา |
รวยรวยประทิ่น | เหมือนกลิ่นจำปา |
จูบแก้มซ้ายขวา | ท้าวน้องอุทัย |
๓๓๔ กอดไว้คลึงเคล้า | |
หอมกลิ่นองค์เจ้า | รสเร้าเอาใจ |
รวยรวยประทิ่น | เหมือนกลิ่นอุทัย |
หอมฟุ้งเอาใจ | อบองค์พี่ยา |
๓๓๕ พระเร่งรัดรึง | |
โลมเล้าเคล้าคลึง | จึ่งทำมารยา |
นางทองบุญฦๅ | ผลักมือซ้ายขวา |
เหลียวแลแปรมา | ช้อยหางตาไป |
๓๓๖ เอวบางร่างน้อย | |
ลำยองทองย้อย | สร้อยฟ้ามาลัย |
ใช่พี่ไม่รัก | ผันพระพักตร่ไป |
มิควรด้วยไย | อุทัยไฉยา |
๓๓๗ นางน้องก้มเกล้า | |
รับคำพระเจ้า | ใส่เกล้าเกศา |
ว่าพระโฉมฉิน | ล่อลิ่นเจรจา |
ได้แล้วก็ลา | ร้างไว้ภายหลัง |
๓๓๘ พี่ตั้งใจรัก | |
โฉมยงทรงศักดิ์ | พี่ไม่เกลียดชัง |
ยอดมิ่งกิ่งฟ้า | เจ้าอย่าคิดหวัง |
สาวน้อยร้อยชั่ง | พี่ไม่ให้อาย |
๓๓๙ รูปคือเทวา | |
หาในใต้ฟ้า | ไม่เหมือนโฉมฉาย |
พระนุชงามเพริศ | เลิศสบใจชาย |
พี่ตั้งใจหมาย | รักแก้วเสนหา |
๓๔๐ จูบเน้นเคล้นนม | |
กอดจูบลูบชม | ภิรมย์วิญญาณ์ |
นอนแนบแอบองค์ | ปลงในกามา |
ชื่นชมเสนหา | ในราตรีกาล |
๓๔๑ กอดน้องนอนแนบ | |
พระทรวงทับแทบ | แอบองค์นงคราญ |
สนิทชิดชม | ภิรมย์สงสาร |
พึ่งแรกพบพาน | รักสุดเสน่ห์เอย |
๓๔๒ น้องได้ขัดขวาง | |
กลับกลอกนอกทาง | บ้างแล้วทรามเชย |
อดเสียเถิดหนา | ผ่านฟ้าข้าเอย |
เพราะน้องมิเคย | คดีเดียงสา |
๓๔๓ น้องได้ผลักไส | |
พ้อตัดวัดให้ | ถูกไท้ราชา |
รอยข่วนรอยเล็บ | เจ็บพระกายา |
โทษมีแก่ข้า | อุทัยเทวี |
๓๔๔ โอ้พระราชา | |
คิดดูเถิดรา | มารยากระสัตรี |
ครั้นอวยด้วยง่าย | ชายไม่ว่าดี |
นินทาย่ำยี | มิดีพระเอย |
๓๔๕ น้องได้ตัดพ้อ | |
ลำยองทองหล่อ | โฉมงามทรามเชย |
คิดมิรู้แล้ว | พระแก้วข้าเอย |
น้องไม่เสบย | ทรงพระเมตตา |
๓๔๖ น้องอวยด้วยแล้ว | |
พระทัยผ่องแผ้ว | แล้วแต่ปรารถนา |
สำเร็จดังจิต | คิดในวิญญาณ์ |
โอ้พระราชา | จงมาปรานี |
๓๔๗ พระจึ่งว่าเล่า | |
นางน้องนงเยาว์ | อุทัยเทวี |
พี่รู้แล้วหนา | มารยากระสัตรี |
เจ้ายอดมารศรี | น้องแก้วพี่อา |
๓๔๘ พี่ไม่ถือน้อง | |
คิ้วต่อคอปล้อง | น้องรักเสนหา |
ไม่ถือเจ้าเลย | ทรามเชยพี่อา |
โมโหโกรธา | อย่าว่าไปเลย |
๓๔๙ อุทัยได้ยิน | |
โฉมตรูภูมินทร์ | พระทองทรามเชย |
คลายโศกศัลย์แล้ว | ผ่องแผ้วเสบย |
ภิรมย์ชมเชย | ด้วยพระราชา |
๓๕๐ สมสู่อยู่กิน | |
ด้วยพระภูมินทร์ | เป็นช้านานมา |
จึ่งขุดสระใหญ่ | ที่ในพารา |
ลงเล่นคงคา | เป็นนิรันดร ๚ะ |
สุรางคนางค์
๓๕๑ เมื่อนั้นยังมี | |
พาราบุรี | อุโลมนคร |
ท่านท้าวเจ้าเมือง | ทรงพระนามกร |
กัญจาภูธร | ธิราชราชา |
๓๕๒ มีนางมเหสี | |
อันดับภูมี | ชื่อนางสนตรา |
เสวยราชสมบัติ | ในเมืองพารา |
รี้พลช้างม้า | ข้าไทเงินทอง |
๓๕๓ บ้านนอกเมืองหน้า | |
ขึ้นแก่ราชา | อเนกก่ายกอง |
แขกเมืองส่วยไร่ | ดอกไม้เงินทอง |
ช้างม้าเนืองนอง | เป็นส่วยอัตรา |
๓๕๔ นางมีบุตรี | |
สาวน้อยมีศรี | ชื่อนางฉันนา |
ได้สิบห้าปี | มีศรีโสภา |
กายสุทธราชา | ขอนางเทวี |
๓๕๕ ให้ราชสารมา | |
ขอนางฉันนา | แรกได้เจ็ดปี |
แต่ยังไม่ได้ | อุทัยเทวี |
ครั้นว่าได้ดี | ลืมนางฉันนา |
๓๕๖ คิดว่าจะไป | |
เมื่อก่อนขอไว้ | ยังมิได้ฉายา |
รูปร่างใครจะเหมือน | อุ่นเรือนเสนหา |
แต่ต่ำใต้หล้า | หาไหนจะมี |
๓๕๗ จึ่งท้าวกัญจา | |
เห็นลูกพังงา | ได้สิบห้าปี |
จะเสกลูกแก้ว | ให้เป็นมเหสี |
ด้วยพระภูมี | กายสุทธราชา |
๓๕๘ การบภูบาล | |
วันนั้นให้สาร | ขอนางฉายา |
ลูกรักของเรา | โดยใจปรารถนา |
เหตุไรไม่มา | ล่อลวงฤๅไฉน |
๓๕๙ ถ้าว่าลวงล่อ | |
กูจะเห็นต่อ | ยึดยาวกันไป |
เป็นท้าวพญา | เจรจาลวงใคร |
ทำอย่างลูกไม้ | ขอแล้วละเสีย |
๓๖๐ น่าคิดอนิจจา | |
ให้สารนั้นมา | เจรจาขอเมีย |
ให้ปันกันแล้ว | ควรฤๅมาละเสีย |
ให้ไร้ผัวเมีย | สิ้นคนทั้งเมือง |
๓๖๑ ให้ราชสารมา | |
ตัดพ้อนักหนา | เร่งโกรธแค้นเคือง |
ทำให้เราได้อาย | แก่ไพร่พลเมือง |
ฝูงคนฦๅเลื่อง | ทั่วทั้งพารา |
๓๖๒ ครั้นเข้าถวายสาร | |
การบจึ่งอ่าน | รู้ในสารตรา |
วางสารลงไว้ | หาลูกเข้ามา |
กายสุทธพ่ออา | พ่อว่ามิฟัง |
๓๖๓ รบให้ขอเมีย | |
ะวางนางเสีย | กลับมาเกลียดชัง |
ได้ใหม่ลืมเก่า | ใจเจ้าคิดหวัง |
ฉันนาชิงชัง | รักข้างอุทัย |
๓๖๔ รูปร่างพอดี | |
ขืนมาเซ้าซี้ | จำให้ข้าไป |
เมื่อแรกไปขอ | ยังมิได้อุทัย |
จนละนางไว้ | คนเดียวเอกา |
๓๖๕ พระพ่อมิฟัง | |
แม้นว่าเกลียดชัง | ตามกรรมเวรา |
เจ้าไปอยู่ก่อน | จึ่งค่อยผ่อนมา |
ฟังคำพ่อว่า | เจ้าอย่าน้อยใจ |
๓๖๖ ท้าวจึ่งตอบสาร | |
มิช้ามินาน | เดือนหน้าจะไป |
แต่งการมงคล | วิวาห์ไปใหม่ |
อรนุชสุดใจ | ฉันนาเทวี |
๓๖๗ แต่งช้างแต่งม้า | |
แพรพรรณผืนผ้า | นับด้วยกุลี |
มงกุฎอาภรณ์ | แต่ล้วนของดี |
สำหรับภูมี | ท่านท้าวทรงธรรม์ |
๓๖๘ เสร็จแล้วบ่ช้า | |
รี้พลช้างม้า | ตามมาแจจัน |
มิใคร่จะไป | ท้าวไททรงธรรม์ |
โศกาจาบัลย์ | กันแสงร่ำไร ๚ะ |
ยานี
๓๖๙ กอดแก้วแล้วร้องไห้ | ชลเนตรไหลลงโซมองค์ |
กราบนบซบเกล้าลง | เหนือตักท้าวผู้เป็นผัว |
๓๗๐ นางเมืองร่ำร้องไห้ | น้ำตาไหลลงโซมตัว |
กราบลงกับตักผัว | พระอยู่หัวของเมียเอย |
๓๗๑ มิทันจะถึงปี | พระสามีผู้ทรามเชย |
เมียไห้อยู่เบยเบย | แก้วเมียเอ๋ยกรรมเวรา |
๓๗๒ อยู่ได้ไม่กี่วัน | พระจอมขวัญของเมียอา |
จะไห้ฟายนาตา | แก้วกำพร้าเพื่อนเข็ญใจ |
๓๗๓ ความรักยังมิวาย | พระฦๅสายละเมียไว้ |
ตัดช่องแต่พอไป | ละเมียไว้อยู่ภายหลัง |
๓๗๔ ฝูงคนจะมุ่งหมาย | ว่าหญิงร้ายผัวเกลียดชัง |
กรรมอะไรมาแต่หลัง | ทองร้อยชั่งจากเมียไป |
๓๗๕ เมียไม่ทำให้ผิด | แต่สักนิดเท่ายองใย |
ควรฤๅมาจากไป | ทิ้งเมียไว้ที่กลางหน |
๓๗๖ อาภัพตัวเองไซร้ | ขึ้นต้นไม้ไม่ถึงบน |
ตั้งใจให้เป็นผล | ไม่รอดชั่วด้วยพระเลย |
๓๗๗ ตั้งแต่วันนี้ไป | น้ำตาไหลบ่เสบย |
กี่เดือนกี่ปีเลย | จะไต้เชยพระจอมไตร |
๓๗๘ แต่ก่อนเคยพรากพลัด | ลูกสิงสัตว์อันใดใด |
หนาเวรมาซัดให้ | จึ่งมาได้เราสองรา |
๓๗๙ แม่กาเลี้ยงกาเหว่า | โดยตั้งเขาเล่าลือมา |
ใช่ชาติเชื้อลูกกา | กลับไปหากาเหว่าคืน |
๓๘๐ ช้างแล่นอย่าฉุดหาง | ผิดท่าทางไร้โหดหืน |
ใช่ช้างจะหยุดยืน | ยึดมิหยุดว่าทำเนา |
๓๘๑ วัวลืมบ่กินหญ้า | ไซร้ไยมาจะข่มเขา |
ที่รักบ่รักเรา | จะว่าเล่ามิยืดไป |
๓๘๒ เจ้าสุทธกุมาร | เห็นนงคราญให้ร่ำไร |
จะไปมิใคร่ไป | ขืนใจไปให้อางขนาง |
๓๘๓ จึ่งโลมโฉมอุทัย | อย่าร้องไห้ร่ำครวญคราง |
พี่ไปเจ้าอยู่พลาง | พี่จะกลับคืนมาหา |
๓๘๔ มิไปก็จำไป | ขัดมิได้เพราะวาจา |
ได้ขอนางฉันนา | ไว้ก่อนแล้วแก้วสงสาร |
๓๘๕ ท่านท้าวกัญจาราช | พ่อนางนาฏโกรธโองการ |
ขอลูกร้างไว้นาน | คิดไฉนจึ่งไม่มา |
๓๘๖ จำให้พี่จากแก้ว | วิบากแล้วแก้วพี่อา |
จำใจจากไฉยา | กินน้ำตาทุกเพรางาย |
๓๘๗ ร้กน้องได้ด้วยยาก | ความลำบากเพียงปางตาย |
ฝูงเทพเจ้าทั้งหลาย | ช่วยขวนขวายเอาใจปลง |
๓๘๘ บุญเราได้สร้างแล้ว | จึ่งได้แก้วมาแนบองค์ |
โดยใจพี่จำนง | มารตัวร้ายมาริษยา |
๓๘๙ คิดไปมิใคร่จาก | อกจะครากด้วยพังงา |
เจ้ากรรมนั้นตามมา | ให้สองรามาพลัดกัน |
๓๙๐ เร่งคิดเร่งขัดอก | น้ำตาตกถึงเมียขวัญ |
จะจากพรากพลัดกัน | กับเอววัลย์น้ำตาไหล |
๓๙๑ เร่งคิดอกจะหัก | แต่นี้จักเห็นหน้าใคร |
ใครจะเหมือนอุทัย | เพื่อนเข็ญใจของเรียมอา |
๓๙๒ กอดคอนางเข้าไว้ | สะอื้นไห้ร่ำไปมา |
น้ำเนตรอาบพักตรา | แก้วกัลยาจะนานเห็น |
๓๙๓ มิพอที่จะจาก | กรรมวิบากมาจำเป็น |
เวรกรรมมาทำเข็ญ | ให้สองรามาพลัดกัน |
๓๙๔ ดังฤๅมาจากข้า | เมียเห็นหน้าอยู่ทุกวัน |
แต่นี้จะไกลกัน | สักกี่วันจะเห็นเลย |
๓๙๕ พระองค์ไปมีเมีย | ละข้าเสียนะทรามเชย |
เพื่อนนอนของเมียเอย | บาปใดเลยให้ไกลกัน |
๓๙๖ เพื่อนกินพระขวัญข้าว | ทุกค่ำเช้าเป็นนิรันดร์ |
ดังฤๅพระทรงธรรม์ | จากอกเมียไปเสียไกล |
๓๙๗ การบแลกาวิน | ครั้นได้ยินก็ลุกไป |
ปลอบโยนนางอุทัย | อยู่ด้วยแม่อย่าโศกา ๚ะ |
พิลาป
๓๙๘ ครั้นวายโศกแล้ว | |
เมื่อนั้นพระแก้ว | ให้หาช่างทอง |
จะหล่อรูปไป | ให้เหมือนนางน้อง |
ได้ชมรูปทอง | ต่างน้องอุทัย |
๓๙๙ ครั้นรุ่งขึ้นมา | |
จะได้เห็นหน้า | พระน้องทรามวัย |
จะชมรูปทอง | ต่างน้องอุทัย |
กลั้นน้ำตาไว้ | กว่าจะได้กลับมา |
๔๐๐ หล่อรูปหนึ่งเล่า | |
ให้เหมือนผัวเจ้า | องค์ท้าวนี้นา |
เอาไว้ให้นาง | ชมต่างพี่ยา |
ไว้ดูต่างหน้า | เมื่อยามกระศัลย์ |
๔๐๑ คิดแล้วบ่นาน | |
จึ่งพระภูบาล | หาช่างมาพลัน |
หล่อรูปสองไท้ | ทำให้เหมือนกัน |
รูปองค์หนึ่งนั้น | เหมือนพระราชา |
๔๐๒ รูปหนึ่งเหมือนนาง | |
อุทัยเอวบาง | ไปด้วยพี่ยา |
รูปหนึ่งพี่ให้ | อุทัยไฉยา |
รูปพระราชา | ไว้ให้นางชม |
๔๐๓ จึ่งเอาภูษา | |
ของพระราชา | ทั้งนุ่งทั้งห่ม |
มานุ่งรูปทอง | เร่งพิศเร่งชม |
เหมือนพระเอวกลม | ดั่งทองพิมพ์เดียว |
๔๐๔ จึ่งเอาภูษา | |
ของนางฉายา | อุทัยทรามเปลี่ยว |
ภูษาลายทอง | ลำยองผืนเดียว |
เหลือบแปรแลเหลียว | พิศเพียรยิ่งเหมือน |
๔๐๕ ผมเผ้าปากคอ | |
เอวบางคิ้วต่อ | เหมือนนางเพื่อนเรือน |
ห่มผ้าลายทอง | ช่างยิ้มย่องเหมือน |
ลำคอตกเกลื้อน | เป็นเพื่อนสองคน |
๔๐๖ ท้าวต่อหีบใหญ่ | |
ใส่รูปทองไว้ | หามไปบัดดล |
มิให้ใครรู้ | ปากผู้คำคน |
ทำเป็นเล่ห์กล | ดั่งหามเงินทอง |
๔๐๗ จะยกพลไป | |
จึ่งฝากนางไว้ | ท่านไท้ทั้งสอง |
บิดามารดา | อย่าได้เศร้าหมอง |
ขอฝากนางน้อง | อุทัยเมียขวัญ |
๔๐๘ รักข้าเท่าไร | |
แม่รักอุทัย | ให้ได้เท่ากัน |
อย่าเป็นลำเอียง | รักเป็นอาธรรม์ |
ผิดชอบผ่อนผัน | อย่าถือโทษเลย |
๔๐๙ ค่ำเช้าเรียกหา | |
ครั้นถึงเพลา | แม่เรียกทรามเชย |
ช่วยเอาใจใส่ | นางไม่คุ้นเคย |
ทูนหัวลูกเอย | ลูกจักลาไป |
๔๑๐ ลาแล้วออกมา | |
พิศแลดูหน้า | น้ำตาลามไหล |
เป็นห่วงหน่วงหนัก | เพราะรักอุทัย |
พี่จักลาไป | ค่อยอยู่เถิดรา |
๔๑๑ เจ้าสุทธกุมาร | |
เสด็จขึ้นคชสาร | กลั้นโศกโศกา |
น้ำตาพี่เอย | เร่งไหลออกมา |
คือท่อธารา | ไหลลงแดงฉัน |
๔๑๒ แต่นี้นับปี | |
น้องแก้วมารศรี | นับเดือนนับวัน |
เร่งแลเร่งไกล | บ่ได้เห็นกัน |
โอ้แก้วจอมขวัญ | ค่อยอยู่เถิดรา |
๔๑๓ ค่อยอยู่เถิดเจ้า | |
อยู่ด้วยปิ่นเกล้า | กว่าพี่จะมา |
โอ้อกกูเอย | ไหนเลยจะอยู่ช้า |
มิได้เห็นหน้า | พี่จะกลั้นใจตาย |
๔๑๔ บุญเหลือเนื้อถี่ | |
ครองตัวท่าพี่ | อยู่ด้วยตายาย |
ครานี้แลนา | น้ำตาบ่วาย |
จะตีอกสลาย | ท่าพี่อาวรณ์ |
๔๑๕ อุทัยไฉยา | |
จงเจ้ารักษา | บิดามารดร |
ค่ำเช้าอุตส่าห์ | อย่าให้อนาทร |
ฟังคำพี่สอน | นอนด้วยแม่ผัว |
๔๑๖ เจ้าอย่าคบทาส | |
แม่อย่าประมาท | เพราะชาติคนชั่ว |
เจ้าคบคนดี | เป็นศรีแก่ตัว |
ร้อยชั่งฟังผัว | ท้าวน้องอุทัย |
๔๑๗ โอ้ทองร้อยชั่ง | |
เจ้าอยู่ภายหลัง | พี่สั่งความไว้ |
อุตส่าห์ปกป้อง | ตัวน้องอุทัย |
ครองตัวเจ้าไว้ | ท่าพี่แลนา |
๔๑๘ คำนึงถึงเจ้า | |
ถึงโฉมเฉลา | ลำเพาพี่อา |
รวยรวยประทิ่น | ดังกลิ่นกัลยา |
แก้มน้องซ้ายขวา | พี่ยามาชม |
๔๑๙ แก้มคือลูกอิน | |
รวยรวยประทิ่น | เหมือนกลิ่นทรามชม |
รสกลิ่นภูษา | กัลยาเคยห่ม |
แต่นี้จะวายชม | เอวกลมพังงา |
๔๒๐ คล้ายคล้ายได้ยิน | |
อุทัยเพื่อนอิน | เหมือนเจ้าเจรจา |
แจ้วแจ้วน่าฟัง | เสียงดั่งสาลิกา |
ยวนในวิญญาณ์ | ราชาหยุดฟัง |
๔๒๑ อรนุชบังอร | |
เอวกลมนมงอน | ทั้งสองเต่งตั้ง |
ปีกปลิวคิ้วเหิน | ดำเนินในวัง |
ข้าสาวสะพรั่ง | ห้อมล้อมจอมขวัญ |
๔๒๒ อุทัยเจ้าพี่ | |
นับเดือนนับปี | นับคืนนับวัน |
นางน้องพี่อา | เจ้าอย่าโศกศัลย์ |
จากแก้วนวลจันทร์ | ขวัญเมืองพี่อา |
๔๒๓ ครวญพลางละห้อย | |
น้ำเนตรหยดย้อย | ละห้อยคอยหา |
บรรเทาโศกศัลย์ | กลั้นโศกโศกา |
โฉมยงยาตรา | ขึ้นช้างกระโจมทอง |
๔๒๔ รี้พลทั้งปวง | |
ไพร่ฟ้าข้าหลวง | อเนกก่ายกอง |
แห่ทั้งซ้ายขวา | ช้างม้าเนืองนอง |
อเนกก่ายกอง | แห่พระราชา |
๔๒๕ ทรงช้างวางไป | |
ธงเทียวไสว | ไกลสุดลูกตา |
เปล่าใจเปล่าจิต | ทรงฤทธิ์โศกา |
ร้อยชั่งพังงา | ป่านนี้เป็นไฉน |
๔๒๖ อุทัยไฉยา | |
เจ้าแสนโศกา | ครวญคร่ำร่ำไร |
ถึงพระผ่านเกล้า | เจ้าจากเมียไป |
พระทองทรามวัย | ให้เมียโศกศัลย์ |
๔๒๗ โอ้พระผ่านฟ้า | |
ตัวเราสองรา | ไม่เคยไกลกัน |
จำไกลกันแล้ว | นับเดือนนับวัน |
น้องแก้วกระศัลย์ | ถึงพระพี่ยา |
๔๒๘ ดังฤๅพระทอง | |
เจ้ามาละน้อง | คนเดียวเอกา |
พระร่วมชีวิต | คิดถึงฉันนา |
โอ้พระราชา | มาหนีน้องไป |
๔๒๙ เหลียวแลแปรหา | |
น้องน้อยก่อนรา | นะพระทรามวัย |
พ่อเคยถูกต้อง | หยอกน้องอุทัย |
รวยรื่นชื่นใจ | ที่ในเรือนจันทน์ |
๔๓๐ โอ้พระร่วมจิต | |
พระร่วมชีวิต | คิดถึงเมียขวัญ |
หล่อรูปทองไว้ | ให้ชมทุกวัน |
โอ้พระทรงธรรม์ | ไกลเมียแล้วนา |
๔๓๑ พระหล่อรูปไว้ | |
เห็นงามสุกใส | ต่างองค์ราชา |
เอวบางร่างกลม | ชมต่างพี่ยา |
ไม่สนิทติดตรา | เหมือนพระภูธร |
๔๓๒ เห็นรูปพระองค์ | |
เฉิดฉันบรรจง | คิ้วก่งวงศร |
สะสวยรวยดี | มิเท่าบังอร |
โอ้พระภูธร | เปล่าแล้วแลนา |
๔๓๓ เมื่อยามเข้านอน | |
คิดถึงภูธร | ร่ำไรไห้หา |
เที่ยงคืนสงัด | กลัดในวิญญาณ์ |
ใครเลยจะมา | กล่อมให้น้องนอน |
๔๓๔ ใจจิตคิดถึง | |
ครวญคร่ำรำพึง | ถึงพระภูธร |
ในจิตคิดไป | ไม่คลายเดือดร้อน |
เวลาเข้านอน | ฉะอ้อนวอนใคร |
๔๓๕ โอ้พระยอดสร้อย | |
เอวบางร่างน้อย | ไกลจากเมียไป |
รี้พลอัดแอ | ยิ่งแลยิ่งไกล |
โอ้พระจอมไตร | กลับมาก่อนรา |
๔๓๖ นางทองทั้งตัว | |
เจ้าคิดถึงผัว | เร่งไห้โหยหา |
ไห้แล้วไห้เล่า | ไม่วายน้ำตา |
ทั้งสองยายตา | โลมเล้าเอาใจ |
๔๓๗ ท่านจะเอาฤกษ์พา | |
ดังฤๅเจ้ามา | ร้องไห้ร่ำไร |
แข็งใจเจ้าแม่ | กลั้นน้ำตาไว้ |
ค่อยอยู่นานไป | จะได้พบกัน |
๔๓๘ อุทัยไฉยา | |
ได้ฟังยายว่า | ค่อยคลายโศกศัลย์ |
ชำระพระองค์ | สระสรงทุกวัน |
นางนาฏจอมขวัญ | เล่นน้ำสระศรี |
๔๓๙ อุทัยไฉยา | |
ครั้นถึงเวลา | ชื่นชมยินดี |
พระนุชเนื้อเย็น | เล่นน้ำนที |
สระโบกขรณี | เป็นนิจทุกวัน ๚ะ |
ชมดง
๔๔๐ บัดนั้นภูบาล | |
ขึ้นทรงคชสาร | รี้พลแจจัน |
ครั้นถึงป่าใหญ่ | ชมไม้ทุกพรรณ |
นกหกผกผัน | จับอยู่ไสว[๓] |
๔๔๑ เข้าในดงหลวง | |
ชมไม้ทั้งปวง | ในกลางพงไพร |
ฟังเสียงจักรจั่น | แม่ม่ายลองไน |
มี่ก้องร้องไป | พระไห้โศกา |
๔๔๒ เสด็จเข้าดงหลวง | |
ชมไม้ทั้งปวง | ต่างพรรณพรรณนา |
ต้นงิ้วสล้าง | หมากปรางไม้หว้า |
ละมุดสีดา | พะวาลำใย |
๔๔๓ หมากตูมเนืองนอง | |
มะค่าพลวงพลอง | ตะโกหมากไฟ |
ตะเคียนยูงยาง | อ้อยช้างกร่างไกร |
เต็งรังโพไทร | มีในดงหลวง |
๔๔๔ กระแบกสัตตบรรณ | |
กระถินอินจัน | มีพรรณทั้งปวง |
บ้างอ่อนบ้างแก่ | เล็งแลเป็นพวง |
รี้พลทั้งปวง | เอาเป็นอาหาร |
๔๔๕ มะเดื่อมะดูก | |
ลูกไม้ส้มสูก | หมากพร้าวจาวตาล |
ทุเรียนมังคุด | ละมุดหอมหวาน |
แต่ล้วนตระการ | สารพันจะมี |
๔๔๖ จิกแจงจิ่งจ้อ | |
แสมสมอ | สนรักสักขี |
หอมดอกลำดวน | ยวนใจภูมี |
เมื่อยามราตรี | พระพายชายโชย |
๔๔๗ เข้าดงอำพัน | |
หอมกลิ่นจวงจันทน์ | กรลบโบกโบย |
มีทั้งพุดตาน | ดอกบานมิรู้โรย |
พระทรงไห้โหย | ครวญถึงอุทัย |
๔๔๘ เข้าดงพุดตาน | |
มะลิผลิบาน | หอมฟุ้งเอาใจ |
รวยรวยประทิ่น | ดังกลิ่นอุทัย |
โอ้แก้วทรามวัย | ใจพี่จะขาดตาย |
๔๔๙ เข้าดงชะมด | |
หอมกลิ่นปรากฏ | รสเร้าเอาใจ |
รวยรวยประทิ่น | หอมกลิ่นบ่วาย |
เหมือนกลิ่นโฉมฉาย | อุทัยเทวี |
๔๕๐ เข้าดงคัดเค้า | |
หอมกลิ่นรินเร้า | ดอกมะลิโรยมี |
รวยรวยประทิ่น | หอมกลิ่นมาลี |
เหมือนกลิ่นเทวี | อุทัยไฉยา |
๔๕๑ เข้าดงเบญจมาศ | |
ใจพี่จะขาด | ด้วยรสมาลา |
รวยรวยประทิ่น | ดังกลิ่นภูษา |
อุทัยติดมา | ท้าวน้องเอวกลม |
๔๕๒ เข้าดงอัญชัน | |
หอมรินกลิ่นคันธ์ | รสเร้าอุดม |
รวยรวยประทิ่น | ดุจดังกลิ่นผม |
กลิ่นเนื้อกลิ่นนม | น้องแก้วฉายา |
๔๕๓ เข้าดงพุดซ้อน | |
พุดลาใบอ่อน | พิจิตรรจนา |
รวยรวยประทิ่น | ดังกลิ่นพังงา |
เมื่อสรงคนธา | หอมชื่นใจผัว |
๔๕๔ เข้าดงสารภี | |
หอมฟุ้งมากมี | กรลบทั้งตัว |
ดังกลิ่นอุทัย | ทรามวัยของผัว |
โอ้ทองทั้งตัว | หอมยิ่งนักหนา |
๔๕๕ ชมพรรณดอกไม้ | |
หอมฟุ้งเอาใจ | พระทัยโหยหา |
กระถินอินไทร | มีในหิมวา |
พระพายชายมา | กลิ่นนั้นหอมหวาน |
๔๕๖ ผลไม้ทุกสิ่ง | |
ผลออกงามยิ่ง | มีในไพรสาณฑ์ |
ลูกแก้วลูกเกด | ฝ้ายเทศตระการ |
คิดถึงนงคราญ | ท้าวน้องอุทัย |
๔๕๗ มาด้วยพี่รา | |
ลูกไม้ในป่า | จะเก็บมาให้ |
เจ้ากินเล่นพลาง | ให้สำราญใจ |
ครวญพลางทางไห้ | ไม่วายน้ำตา |
๔๕๘ ในป่าพงพี | |
ลูกไม้อันมี | เป็นเหยื่อสกุณา |
ลิงค่างบ่างชะนี | เสือสีห์ในป่า |
โนรีสาลิกา | สัตวานวลจันทร์ |
๔๕๙ ฟังเสียงนกร้อง | |
คิดถึงท้าวน้อง | อุทัยจอมขวัญ |
สองตัวจับอยู่ | เป็นคู่เคล้ากัน |
พลัดพรากเมียขวัญ | มาคนเดียวดาย |
๔๖๐ ชมบนหลังช้าง | |
ร้องไห้ครวญคราง | ปิ้มจะวางวาย |
ป่านนี้ไห้หา | น้ำตาบ่วาย |
จะเป็นฤๅตาย | ไม่รู้สำคัญ |
๔๖๑ ชมไม้ชมนก | |
กลิ่นแก้วกับอก | ท้าวน้องจอมขวัญ |
ฟังเสียงเรไร | มีในหิมวันต์ |
ฟังเสียงจักรจั่น | พระกลั้นน้ำตา |
๔๖๒ ฟังเสียงนกร้อง | |
กำสรดถึงน้อง | อุทัยไฉยา |
เสียงนกเขาขัน | พระกลั้นน้ำตา |
โอ้แก้วพี่อา | ป่านนี้เป็นไฉน |
๔๖๓ เสียงกาเหว่าร้อง | |
สนั่นมี่ก้อง | ในท้องพงไพร |
แรดช้างเสือสีห์ | ชะนีร่ายไม้ |
จิ้งจอกหมาไน | วิ่งไล่ตามกัน |
๔๖๔ ฟังเสียงชะนีร้อง | |
กำสรดเศร้าหมอง | ถึงน้องจอมขวัญ |
พระกอดรูปทอง | ร้องไห้ทุกวัน |
คิดถึงเมียขวัญ | ท้าวน้องอุทัย |
๔๖๕ โอ้แก้วพี่อา | |
มาด้วยเรียมรา | ชมสัตว์ในไพร |
โคถึกมฤคี | เสือสีห์วิ่งไป |
พี่จะบอกให้ | พระนุชเมียขวัญ ๚ะ |
๔๖๖ บัดนั้นราชา | |
กับเหล่าโยธา | ดั้นป่าหิมวันต์ |
มาโดยสามเดือน | คล้อยเคลื่อนเขตขัณฑ์ |
เมืองท้าวทรงธรรม์ | อุโลมนคร |
๔๖๗ ครั้นถึงเมืองแล้ว | |
เมื่อนั้นพระแก้ว | จึ่งบทจร |
เข้าไปในเมือง | อุโลมนคร |
จึ่งพระภูธร | ให้สารเข้าไป |
๔๖๘ ทูตถือสารตรา | |
เร่งเร็วมิช้า | มาถึงพระโรงไชย |
จึ่งเข้าถวายสาร | แก่พระภูวไนย |
ว่าพระทรามวัย | กายสุทธจรลี |
๔๖๙ ท้าวรับสารตรา | |
อ่านดูมิช้า | ในอักษรศรี |
ว่าท้าวการบ | ถวายอัญชลี |
ลูกรักโฉมศรี | ฝากใต้บาทา |
๔๗๐ ผิดพลั้งสั่งสอน | |
เจ้ายังเด็กอ่อน | ไม่รู้เดียงสา |
ขอฝากไว้ด้วย | เหมือนช่วยเมตตา |
ข้ากับราชา | เป็นทองแผ่นเดียวกัน |
๔๗๑ จบอ่านสารตรา | |
จึ่งสั่งเสนา | ให้เชิญมาพลัน |
รี้พลทั้งหลาย | มากมายครามครัน |
ไพร่พร้อมเพรียงกัน | รับเจ้าเข้ามา |
๔๗๒ สั่งนางชาวใน | |
ให้แต่งเครื่องไว้ | เลี้ยงพระลูกยา |
รี้พลทั้งหลาย | อย่าให้เขาว่า |
เลี้ยงเขาที่มา | อย่าช้าเร็วไว |
๔๗๓ ชาวเครื่องรับสั่ง | |
วิ่งมาละล้าละลัง | สั่งกันวุ่นไป |
ให้แต่งสำรับ | ตามนายตามไพร่ |
เครื่องเสวยแต่งไว้ | เลี้ยงพระราชา |
๔๗๔ ครั้นแต่งเสร็จสรรพ | |
เสนาไปรับ | เชิญเจ้าเข้ามา |
รี้พลทั้งหลาย | มายมากนักหนา |
แห่ห้อมเข้ามา | ถึงพระโรงไชย |
๔๗๕ ชาวเครื่องยกมา | |
เลี้ยงดูราชา | ทั้งนายทั้งไพร่ |
ทั่วกันเสร็จแล้ว | จึ่งขนของไป |
จึ่งพระทรามวัย | ขึ้นเฝ้าราชา |
๔๗๖ ท้าวเห็นเขยขวัญ | |
รูปโฉมทรงธรรม์ | คือทองทาบทา |
ฉันนาลูกเรา | มิเท่าราชา |
เหมือนหงส์กับกา | วาสนาผิดกัน |
๔๗๗ ลูกเขยโสภา | |
ลูกเราชั่วช้า | ไม่งามสักอัน |
กรรมเวรเป็นสาว | หัวขาวทั้งนั้น |
ชั่วช้าอาธรรม์ | รักท่านลูกเขย |
๔๗๘ ท้าวจึ่งตรัสมา | |
ดูก่อนลูกยา | เจ้างามทรามเชย |
บิดามารดา | เจ้าอยู่เสบย |
ทางมาลูกเอย | ยากง่ายเป็นไฉน |
๔๗๙ พระรับโองการ | |
กราบทูลภูบาล | ให้ทราบพระทัย |
ว่าพระบิดา | มารดานั้นไซร้ |
ทุกข์โศกโรคภัย | สิ่งใดไม่พาน |
๔๘๐ อันหนทางมา | |
รี้พลโยธา | มาสุขสำราญ |
ตราบเท่าถึงเมือง | แห่งพระภูบาล |
จงแจ้งบทมาลย์ | แห่งพระทรงธรรม์ |
๔๘๑ เมื่อนั้นภูบาล | |
ครั้นได้ฟังสาร | โองการหาวัน |
ตาขุนโหรเฒ่า | เข้ามาด้วยพลัน |
เราจะทำขวัญ | วันใดจะดี |
๔๘๒ โหรกราบบาทา | |
ดูตามตำรา | ฤกษ์ยามนาที |
เดือนหกขึ้นคํ่า | ฤกษ์ยามนั้นดี |
วันศุกร์มีศรี | ดีนักราชา |
๔๘๓ เมื่อนั้นพระแก้ว | |
ครั้นถามโหรแล้ว | จึ่งสั่งเสนา |
ให้แต่งโรงทอง | เรืองรองรจนา |
เร่งเร็วอย่าช้า | ให้ทันฤกษ์ไชย |
๔๘๔ เสนารับสั่ง | |
วิ่งมาละล้าละลัง | สั่งกันวุ่นไป |
ให้แต่งโรงทอง | เรืองรองสุกใส |
เสร็จแล้วจึ่งไป | กราบทูลราชา |
๔๘๕ จึ่งแต่งทำขวัญ | |
อภิเษกด้วยกัน | กับนางฉันนา |
บายศรีลำยอง | แว่นทองเอามา |
ทำขวัญพังงา | เสกลูกเขยขวัญ |
๔๘๖ ท่านท้าวกัญจา | |
จึ่งสั่งให้หา | นักเลงมาพลัน |
เทพทองละคร | ฟ้อนรำขยัน |
ท้าวแต่งทำขวัญ | ลูกรักสองรา |
๔๘๗ ไต่ลวดลอดบ่วง | |
ฝูงคนทั้งปวง | ตามดูไปมา |
บ้างขึ้นปลายไม้ | ลำแพนผาลา |
หัวหกลงมา | เห็นน่าตกใจ |
๔๘๘ บ้างดีดกระจับปี่ | |
บางคนชักสี | ซอเพลงปี่ไฉน |
เพลงไพรเพราะรับ | ขับกันทั่วไป |
มโหรีปี่ไฉน | ฟังเพราะนักหนา |
๔๘๙ ครั้นครบเจ็ดวัน | |
ท้าวแต่งทำขวัญ | ลูกรักเสนหา |
ครั้นทำขวัญแล้ว | จึ่งเสกราชา |
กับนางฉันนา | ให้อยู่ด้วยกัน ๚ะ |
ฉบัง
๔๙๐ ครั้นเมื่อเที่ยงคืนราตรี | จึ่งพระภูมี |
ก็เล้าก็โลมฉายา | |
๔๙๑ ร่วมรักมิได้เสนหา | ครั้นแล้วออกมา |
ราชาไปหารูปทอง | |
๔๙๒ เคล้าคลึงกันอยู่คู่สอง | กับด้วยรูปทอง |
นวลละอองเจ้าแกล้งหล่อมา | |
๔๙๓ ร้องไห้ร่ำไรโหยหา | อุทัยไฉยา |
ป่านนี้จะเป็นฉันใด | |
๔๙๔ ยังรุ่งกอดรูปทองไว้ | น้ำตาหลั่งไหล |
ถึงนางอุทัยเทวี | |
๔๙๕ บ่ได้หลับในราตรี | ฉันนาเทวี |
ก็นอนอยู่คนเดียวดาย | |
๔๙๖ ครั้นเช้าเสวยข้าวเพรางาย | ใจท้าวคิดหมาย |
จะเรียกรูปทองมาเสวย | |
๔๙๗ โอโอะอุทัยเจ้าพี่เอย | ไยมิมาเสวย |
อาหารด้วยพี่เลยนา | |
๔๙๘ เสวยแล้วคืนเข้าไปหา | รูปอันหล่อมา |
เข้าเคล้าเข้าคลึงชมเชย | |
๔๙๙ พระเจ้าบ่ไปหาเลย | ฉันนาทรามเชย |
คอยหาผัวเจ้าทุกวัน | |
๕๐๐ เหตุไรผัวรักจอมขวัญ | มิมาสักวัน |
ตั้งแต่วันนั้นหายไป | |
๕๐๑ กูเห็นหลากแท้แก่ใจ | แต่วันนั้นไป |
คุ้มเท่าวันนี้บ่ห่อนมา | |
๕๐๒ เมื่อนั้นจึ่งนางฉันนา | รำพึงไปมา |
จะใคร่ไปดูในห้อง | |
๕๐๓ หีบใหญ่มิใช่เงินทอง | เสวยแล้วเข้าห้อง |
ในหีบนั้นมีอันใด | |
๕๐๔ วันนั้นท้าวเธอเสด็จไป | เฝ้าบิดาไท้ |
ทรามวัยเธอมิได้อยู่ | |
๕๐๕ นงเยาว์จึ่งเข้าไปดู | นางน้องจึ่งรู้ |
ว่ารูปผู้ใดเล่านา | |
๕๐๖ รูปเมียฤๅว่ามารดา | ช่างงามนักหนา |
เจ้าจึ่งไปถามทาสี | |
๕๐๗ นางเอาผ้าผ่อนของดี | ให้แก่ทาสี |
ปลอบถามอย่าได้อำพราง | |
๕๐๘ ทาสีจึ่งเล่าแก่นาง | ข้าไม่อำพราง |
รูปหล่อคือนางอุทัย | |
๕๐๙ เมียท้าวอยู่เมืองโพ้นไซร้ | รูปงามสุกใส |
เหมือนรูปอันหล่อพิมพ์เดียว | |
๕๑๐ นางจึ่งยกรูปฉุนเฉียว | ขว้างเสียบัดเดี๋ยว |
ทรามเปลี่ยวทิ้งลงคงคา ๚ะ |
สุรางคนางค์ พิลาป
๕๑๑ รูปหล่อหายแล้ว | |
ใครลักเมียแก้ว | รูปทองของกู |
กูเห็นอัศจรรย์ | ทุกวันยังอยู่ |
โอโอะอกกู | รูปทองมาหาย |
๕๑๒ ร้องไห้กลิ้งเกลือก | |
ทอดองค์ลงเสือก | น้ำตาบ่วาย |
มีกรรมฉันใด | รูปทองมาหาย |
จะขาดใจตาย | ครานี้แลนา |
๕๑๓ สองมือตีทรวง | |
หาทั้งเรือนหลวง | มิพบกลับมา |
เที่ยวหาที่เก่า | ในหีบเล่าหนา |
มิพบฉายา | รูปทองพี่เอย |
๕๑๔ ล้มแล้วลุกขึ้น | |
ร้องไห้สะอื้น | น้ำตาบ่เสบย |
ใครลักพาไป | บ่ได้เห็นเลย |
รูปทองพี่เอย | ไปอยู่แห่งใด |
๕๑๕ เรามาสองคน | |
ได้ยากทุกข์ทน | มาแต่เมืองไกล |
ได้เห็นหน้าเจ้า | พี่ค่อยคลายใจ |
เจ้าละพี่ไว้ | คนเดียวเอกา |
๕๑๖ โอ้ทองร้อยชั่ง | |
เจ้าอยู่ภายหลัง | เป็นฉันใดนา |
รูปทองของเจ้า | พี่หล่อเอามา |
มารร้ายริษยา | พารูปทองไป |
๕๑๗ ชีวิตกูอา | |
เห็นว่ามิช้า | จะมาบรรลัย |
รูปทองหายแล้ว | กูเอยอยู่ไย |
นึ่งตายก่อนไข้ | ไม่อยู่เลยนา |
๕๑๘ โอ้นางอุทัย | |
เจ้ามิมาได้ | หล่อแต่รูปมา |
กลิ่นอายของเจ้า | ติดพระภูษา |
ห่มรูปทองมา | ใครพาเอาไป |
๕๑๙ เมื่อนั้นโฉมฉาย | |
ลุกขึ้นผันผาย | ถามข้าทันใด |
ว่าใครขึ้นมา | พารูปทองไป |
มันจึ่งทูลไท | ว่านางฉายา |
๕๒๐ ข้าขัดมิได้ | |
ท่านหามลงไป | ทิ้งน้ำเสียรา |
พระเจ้าจึ่งรู้ | ว่านางฉันนา |
แกล้งนางฉายา | อุทัยเทวี |
๕๒๑ ควรฤๅทำได้ | |
ไม่คิดเกรงใจ | สักเท่าธุลี |
กูมาสองคน | รูปทองผ่องศรี |
มิได้ปรานี | เอาขว้างน้ำเสีย |
๕๒๒ มิได้เห็นหน้า | |
พี่หล่อรูปมา | ดูหน้าต่างเมีย |
ควรฤๅทำได้ | ไปขว้างน้ำเสีย |
ไม่เห็นหน้าเมีย | จะกลั้นใจตาย |
๕๒๓ แค้นขัดกลัดเดือด | |
น้ำตาคือเลือด | อาบหน้าบ่วาย |
แต่วันนี้ไป | อยู่คนเดียวดาย |
คิดมาใจหาย | ตายด้วยรูปทอง |
๕๒๔ เปล่าอกเปล่าใจ | |
ร้องไห้ร่ำไร | น้ำตาฟูมฟอง |
ร่ำถึงทรามวัย | อุทัยเนื้อทอง |
ครวญหานางน้อง | บ่ได้เห็นเลย |
๕๒๕ ขึ้งโกรธนักหนา | |
ไม่แลดูหน้า | ฉันนาทรามเชย |
กริยาพาที | ไม่มีบ้างเลย |
โอ้ตัวกูเอย | เหมือนขืนใจมา |
๕๒๖ นอนอยู่คนเดียว | |
มิได้แลเหลียว | กล้ำกรายฉันนา |
ครวญถึงอุทัย | ไม่วายน้ำตา |
พี่จะไปหา | ไม่ได้เหมือนใจ |
๕๒๗ เมื่อนั้นฉันนา | |
คิดแค้นนักหนา | ขึ้งโกรธคือไฟ |
จะเล่าให้ใครฟัง | นางอายแก่ใจ |
ออกปากไม่ได้ | ผัวไม่ไยดี |
๕๒๘ ขัดอกแค้นใจ | |
เอาตัวให้ได้ | อุทัยเทวี |
จะตีให้ตาย | วายชีพเป็นผี |
ผัวรักแต่นี้ | จะครวญหาใคร |
๕๒๙ จึ่งให้ไปหา | |
เฒ่าโกหกมา | จ้างให้แกไป |
จะทำเล่ห์กล | เอาตัวให้ได้ |
เงินทองกองให้ | จงได้ตัวมา |
๕๓๐ ยังมีโกหก | |
เที่ยวไปไล่นก | ที่ในเวหา |
ขึ้นขี่เรือน้อย | ชักยนต์ไคลคลา |
ได้นกแล้วมา | ขายกินทุกวัน |
๕๓๑ สองเฒ่าผัวเมีย | |
ขายนกได้เบี้ย | ผัวเมียเลี้ยงกัน |
ขึ้นสำเภาแล้ว | ชักยนต์ไปพลัน |
เร็วคือจังหัน | ทันแล้วจับเอา |
๕๓๒ แลเห็นนกยูง | |
บินมาเป็นฝูง | เฒ่าชักสำเภา |
ไปบนเวหา | เฒ่าคว้าจับเอา |
ใส่ท้องสำเภา | เอาแคร่ทับลง |
๕๓๓ ชักยนต์ลงมา | |
สาวใช้ไปหา | ว่าต้องประสงค์ |
สำเภาสำอาง | นวลนางจำนง |
ว่าต้องประสงค์ | ทั้งตัวสองรา |
๕๓๔ สองเฒ่าตกใจ | |
เป็นเหตุอันใด | ท่านจึ่งให้หา |
ท่านท้าวเจ้าเมือง | ฤๅนางฉายา |
จึ่งใช้ให้มา | หาข้าว่าไร |
๕๓๕ จึ่งชวนกันมา | |
ปีนขึ้นนาวา | ชักยนต์วางไป |
บัดเดียวมาถึง | ซึ่งหน้าเกยไชย |
สองเฒ่าเข้าไป | กราบไหว้ฉันนา |
๕๓๖ นางจึ่งปราศรัย | |
ดีเนื้อดีใจ | เห็นตายายมา |
จงยายเอ็นดู | ช่วยไปอาสา |
เงินทองเสื้อผ้า | ข้าจะให้รางวัล |
๕๓๗ ไปเอาอุทัย | |
ถึงเมืองโพ้นไซร้ | ได้มาจงพลัน |
ยายเที่ยวยายถาม | ให้รู้สำคัญ |
ครั้นพบตัวมัน | ล่อลวงเอามา |
๕๓๘ เอวบางร่างน้อย | |
หน้าตาแช่มช้อย | สาวน้อยโสภา |
ครั้นเวลาเย็น | ลงเล่นคงคา |
ยายไถ่ถามหา | ล่อลวงเล่ห์กล |
๕๓๙ ท้าวเธอหลงไหล | |
รูปอีอุทัย | งามยิ่งกว่าคน |
ยายเอ็นดูข้า | มาช่วยทังวน |
ล่อลวงเล่ห์กล | เอาตัวมันมา |
๕๔๐ ยายเฒ่ารับคำ | |
ตามบุญตามกรรม | ข้าเฒ่าแลนา |
เจ้าอย่าตกใจ | ไว้นักงานข้า |
จะไปอาสา | เอามาถวาย |
๕๔๑ สองเฒ่ากราบลา | |
แห่งนางฉันนา | เฒ่ามาคิดหมาย |
ขึ้นขี่สำเภา | ชักยนต์ผันผาย |
ลมพัดถูกสาย | สำเภาแล่นมา |
๕๔๒ พระพายพัดต้อง | |
ถูกสำเภาทอง | สองเฒ่าเร่งมา |
ทางสามเดือนปลาย | เฒ่ามาบ่ช้า |
มาบนเวหา | ถึงวันเดียวดาย |
๕๔๓ ครั้นถึงเมืองแล้ว | |
สองเฒ่าใจแกล้ว | ถามหาโฉมฉาย |
ว่านางอุทัย | เป็นเมียเจ้านาย |
มิได้มากราย | หาเจ้าเลยนา |
๕๔๔ เขาจึ่งบอกเล่า | |
ว่านางหนุ่มเหน้า | อยู่ในพารา |
ครั้นเวลาเย็น | ลงเล่นคงคา |
ในสระปทุมา | หน้าพระนคร |
๕๔๕ เฒ่าจึ่งเข้าไป | |
นั่งลงกราบไหว้ | อุทัยบังอร |
ว่าข้าสองรา | มาหาสายสมร |
นาวาสัดจอน[๔] | ถวายแก่เทวี |
๕๔๖ จึ่งนางยอดสร้อย | |
แลเห็นเรือน้อย | ชื่นชมยินดี |
เอาเรือนาวา | มาให้เราขี่ |
ทำวนยายมี | ประสงค์สิ่งใด |
๕๔๗ สำเภานาวา | |
งามหนอพอตา | น่ารักเหลือใจ |
สารพัดของเรา | จะเอาอันใด |
ข้าพระถวาย | ตามใจฉายา |
๕๔๘ นางจึ่งว่าเล่า | |
ขอบใจยายเจ้า | สมความปรารถนา |
นางจึ่งขึ้นเล่น | สำเภานาวา |
พิศดูไปมา | ในท้องสำเภา |
๕๔๙ สองเฒ่าจึ่งว่า | |
ในท้องนาวา | สนุกนะเจ้า |
เฒ่าเปิดลิ้นแคร่ | เชิญแม่ณหัวเจ้า |
ในท้องสำเภา | เป็นเล่ห์เป็นกล |
๕๕๐ นางจึ่งลงไป | |
มันปิดแคร่ไว้ | แล้วชักสายยนต์ |
ขึ้นบนเวหา | มิช้าบัดดล |
นางร้องเสือกสน | ในท้องสำเภา |
๕๕๑ ข้าสาวชาวแม่ | |
ร้องไห้เซ็งแซ่ | ไปบอกสำเนา |
การบกาวิน | ได้ยินคำเขา |
ร้องไห้ถึงเจ้า | เรียกหาอุทัย ๚ะ |
สุรางคนางค์ พิลาป
๕๕๒ แลเห็นนาวา | |
อยู่บนเวหา | สุดตาแลไป |
นางร้องลงมา | สุดเสียงอุทัย |
นางแม่ข้าไหว้ | ช่วยลูกด้วยรา |
๕๕๓ นางร้องเท่าไร | |
มันหับแคร่ไว้ | ให้มั่นตรึงตรา |
เรียกจนสุดเสียง | อุทัยไฉยา |
ค่อยอยู่เถิดรา | ลูกจักลาตาย |
๕๕๔ ค่อยอยู่เถิดแม่เจ้า | |
ลูกรักก้มเกล้า | กราบลาฦๅสาย |
วันนี้แลนา | ลูกจะลาตาย |
คุณตากับยาย | ค่อยอยู่เถิดรา |
๕๕๕ ปานนี้พระพ่อ | |
น้ำตาไหลคลอ | ร้องไห้โหยหา |
ปานนี้พระแม่ | กินแต่น้ำตา |
จะร้องไห้หา | ลูกแก้วสายสมร |
๕๕๖ โอ้กรรมแก่ตัว | |
พลัดพรากจากผัว | เพียงจักม้วยมรณ์ |
ครั้งนี้พลัดพราก | จากพระมารดร |
หัวอกบังอร | เพียงแตกทำลาย |
๕๕๗ โอ้ตัวกูอา | |
เป็นคนกำพร้า | เห็นหน้าตายาย |
ปานนี้ตีอก | ล้มคว่ำล้มหงาย |
ด้วยลูกมาหาย | น้ำตาบ่เสบย |
๕๕๘ โอ้พระผัวแก้ว | |
ตัวน้องตายแล้ว | ไม่เห็นใจเลย |
ใครจะไปบอก | แก่พระทรามเชย |
ทูนหัวเมียเอย | ร้องไห้ไม่วาย |
๕๕๙ โอโอะพระทอง | |
คิดว่านางน้อง | อยู่หลังสบาย |
พระฝากน้องไว้ | แก่ญาติทั้งหลาย |
บ่รู้ว่าหาย | จากแก้วแล้วนา |
๕๖๐ สองมือตีอก | |
น้ำตาไหลตก | กับท้องนาวา |
สลบแล้วฟื้น | วอนยายกับตา |
เอ็นดูเถิดหนา | อย่าพาข้าไป |
๕๖๑ วอนยายวอนตา | |
เฒ่าไม่นำพา | ชักยนต์ไปไกล |
แม้นเอาเงินทอง | ข้าวของสิ่งไร |
หลานน้อยจะให้ | อย่าพาไปเลย |
๕๖๒ ส่วนนางกาวิน | |
กลิ้งเกลือกกลางดิน | ร้องไห้อยู่เบยเบย |
ผัวเจ้าฝากไว้ | อุทัยแม่เอย |
พระลูกทรามเชย | กลับมาจะหาใคร |
๕๖๓ โอ้พระลูกแก้ว | |
ผัวเจ้าฝากแล้ว | มิใคร่จะไป |
รักเมียน้อยฤๅ | ซื่อต่ออุทัย |
ควรฤๅหายไป | อุทัยแม่เอย |
๕๖๔ กลับมาก่อนรา | |
ให้แม่เห็นหน้า | กำพร้าทรามเชย |
ผัวเจ้ากลับมา | จะหาใครเลย |
ลูกรักแม่เอย | แม่จะขาดใจตาย |
๕๖๕ ส่วนยายกาวัน | |
ตกใจตัวสั่น | ไม่มีน้ำลาย |
ปากแห้งคอขม | ล้มคว่ำล้มหงาย |
ร้องไห้ไม่วาย | น้ำตาบ่เสบย |
๕๖๖ ผัวเมียงกงัน | |
ล้มพะปะกัน | บ่รู้สึกเลย |
ใครพาเอาไป | อุทัยแม่เอย |
ร้องไห้เบยเบย | สลบไม่รู้ตัว |
๕๖๗ สลบซบไป | |
ล้มลงร้องไห้ | ทั้งเมียทั้งผัว |
ข้าสาวยกขึ้น | จึ่งรู้สึกตัว |
โอ้แม่ทูนหัว | ไปแห่งใดนา |
๕๖๘ หลับตาร้องไห้ | |
กอดข้าสาวไว้ | นึกว่าฉายา |
ครั้นรู้สึกตัว | บ่เห็นเลยนา |
แม่มาตามหา | บ่พบลูกเลย |
๕๖๙ พระคุณของแม่ | |
เจ้าไม่เหลียวแล | แม่บ้างทรามเชย |
ควรฤๅหนีตัว | ทูนหัวแม่เอย |
แต่นี้ใครเลย | ช่วยได้เล่านา |
๕๗๐ เจ้าปลูกเรือนไว้ | |
ใครจะอยู่ได้ | ลูกแก้วแม่อา |
เรือนหลวงจะเปล่า | จะเซาโรยรา |
ฟูกแพรหมอนผ้า | ทีนี้จะเปล่าดาย |
๕๗๑ ข้าไทเงินทอง | |
สิ่งสินก่ายกอง | ยังอยู่มากมาย |
ไว้ให้แก่ใคร | ลูกรักมาหาย |
รั้ววังทั้งหลาย | แต่นี้ใครจะครอง |
๕๗๒ ไห้พลางครวญพลาง | |
เฒ่าร้องไห้คราง | น้ำตาฟูมฟอง |
เจ้าจากแม่ไป | ลงในสำเภาทอง |
ด้วยเฒ่าทั้งสอง | ไปเมืองแห่งใด |
๕๗๓ เงินทองทั้งหลาย | |
ข้าหญิงข้าชาย | เจ้าไม่เอาไป |
เจ้าไปแต่ตัว | ทูนหัวอยู่ไหน |
มาพาแม่ไป | เป็นเพื่อนด้วยรา |
๕๗๔ ล้มแล้วลุกขึ้น | |
ร้องไห้สะอื้น | ฟูมฟายน้ำตา |
ลูกแก้วแม่เอย | แม่ไปด้วยรา |
จะได้เห็นหน้า | ที่ในเมืองผี |
๕๗๕ แม่จะอยู่ไย | |
จะตายตามไป | อุทัยเทวี |
ขอม้วยดับจิต | ไม่คิดชีวี |
ตายเสียยังดี | กว่าอยู่เป็นคน |
๕๗๖ คิดฤๅหนึ่งเล่า | |
จะตายตามเจ้า | ลำเพานิฤมล |
ด้วยเชือกกระหวัด | รัดคอบัดดล |
ให้ม้วยวายชนม์ | พ้นความรำคาญ |
๕๗๗ คิดฤๅหนึ่งเล่า | |
จะก่อเพลิงเผา | เป็นเปลวบ่นาน |
จะแล่นเข้าไป | ให้ไฟเผาผลาญ |
ตายไปบ่นาน | ในเปลวอัคคี |
๕๗๘ เมืองหลวงใหญ่กว้าง | |
ข้าสาวของนาง | ช้างม้ามากมี |
สองเฒ่าพาไป | ชมไม้ไพรศรี |
ให้จงรู้ที่ | แล้วจึ่งคืนมา |
๕๗๙ แม้นตายดินดอน | |
ถึงจะม้วยมรณ์ | แม่ได้เห็นหน้า |
เจ้าขึ้นไปตาย | ถึงบนเวหา |
สองเฒ่ามันพา | เอาแก้วแม่ไป |
๕๘๐ ปานนี้สองเฒ่า | |
มันหักคอเจ้า | ลูกรักทรามวัย |
กินเป็นอาหาร | มอดม้วยบรรลัย |
เป็นตายไฉน | เปล่าแล้วแลนา |
๕๘๑ ฤๅหนึ่งผัวเจ้า | |
ใช้ให้สองเฒ่า | เอาสำเภามา |
รับเจ้าไปชม | สู่สมเสน่หา |
ลูกแก้วแม่อา | มิบอกว่าไร |
๕๘๒ ฤๅหนึ่งยักษ์มาร | |
แปลงเพศมาผลาญ | ล่อลวงไฉน |
รับเจ้าไปชม | ฤๅมันพาไป |
ใส่เรือมันไว้ | กินเป็นอาหาร |
๕๘๓ ฤๅเพชพญาธร | |
เหาะเหิรเดินจร | พาลูกสงสาร |
ไปไว้เป็นเมีย | ในป่าหิมพานต์ |
ลูกรักสงสาร | พาไปชมเชย |
๕๘๔ ฤๅกรุงพาลี | |
พาซอกซอนหนี | เทวีแม่เอย |
แม่ร้องเรียกหา | บ่ขานแม่เลย |
อุ่นอกแม่เอย | แม่จะทำฉันใด |
๕๘๕ คล้ายคล้ายแก่ตา | |
ไม่ได้เห็นหน้า | กำพร้าสายใจ |
แม่คร่ำครวญหา | ฉายาอุทัย |
เจ้าละแม่ไว้ | คนเดียวเอกา |
๕๘๖ เรียกแล้วเรียกเล่า | |
ไม่เห็นหน้าเจ้า | อุทัยไฉยา |
แม่แลดูเล่า | เห็นเปล่าแก่ตา |
ทุกวันเคยมา | เล่นน้ำสระศรี |
๕๘๗ วันนี้หายไป | |
เปล่าอกเปล่าใจ | ไม่รู้สมประดี |
สงัดเหงาเงียบ | เย็นเยียบทั้งบุรี |
ดังป่าช้าผี | ไม่มีเจ้าเลย |
๕๘๘ เร่งแลเร่งเปล่า | |
ไม่เห็นหน้าเจ้า | อุทัยทรามเชย |
หนีเร้นซ่อนแม่ | แลไม่เห็นเลย |
ชีวิตแม่เอย | จะม้วยเป็นผี |
๕๘๙ ตีอกฟกชํ้า | |
เที่ยวหาริมน้ำ | สระโบกขรณี |
ไปอยู่แห่งใด | อุทัยเทวี |
กลิ้งเกลือกกับที่ | น้ำตาหลั่งไหล |
๕๙๐ เฒ่าทั้งสองรา | |
ไม่พบลูกยา | กลับมาทันใด |
ข้าสาวชาวแม่ | เถ้าแก่ร่ำไร |
ถึงนางอุทัย | สลบซบเซา ๚ะ |
ฉบัง
๕๙๑ เมื่อนั้นโกหกทั้งสอง | พาเอานางน้อง |
อุทัยไปบนเวหา | |
๕๙๒ ได้นางใส่ลงนาวา | ชักยนต์ไคลคลา |
บัดเดียวก็ถึงนคร | |
๕๙๓ ชักยนต์ลงหน้าบัญชร | ฉันนาบังอร |
ครั้นเห็นก็ถามทันใด | |
๕๙๔ ได้ตัวมันมาฤๅไม่ | สองเฒ่าทูลไป |
ว่านางอุทัยได้มา | |
๕๙๕ ได้ฟังจึ่งนางฉันนา | กริ้วโกรธโกรธา |
แลเจ้าบ่ให้วุ่นวาย | |
๕๙๖ ข้าสาวชาวแม่ทั้งหลาย | อย่าให้วุ่นวาย |
เกลือกรู้ไปถึงราชา | |
๕๙๗ ชาวแม่ทั้งหลายอย่าช้า | ไปผูกคอมา |
ฆ่าเสียให้ม้วยบรรลัย | |
๕๙๘ ข้าสาวชาวแม่แล่นไป | ผูกคออุทัย |
บ้างตีบ้างตบทำโพย | |
๕๙๙ ใช้ให้ข้าไทตีโบย | ว่าเป็นขโมย |
แต่ก่อนเพิ่งได้ตัวมา | |
๖๐๐ กล่าวคำมุสาวาทา | ว่านางฉายา |
แต่ก่อนเป็นโจรมานาน ๚ะ |
ยานี
๖๐๑ นางเมืองแม่ร้องไห้ | น้ำตาไหลลงโซมตัว |
ยกมือขึ้นเหนือหัว | คิดถึงตัวนางฉายา |
๖๐๒ โอ้ตัวกูนี้เล่า | จะสูญเปล่าเห็นมิช้า |
เที่ยงแท้แล้วแลนา | ความตายมาถึงตัวเรา |
๖๐๓ ข้าไม่มีความผิด | แต่สักนิดคิดแบ่งเบา |
ผิดชอบมิทันเล่า | สูชาวเจ้าฆ่าให้ตาย |
๖๐๔ แม่เอยช่วยด้วยรา | เขาตีด่าให้วอดวาย |
ไม่ถามตามต้นปลาย | ท่านทั้งหลายไม่ปรานี |
๖๐๕ นางน้องร้องเท่าใด | บ่ปราศรัยมันเร่งตี |
บ่ห่อนจะปรานี | นางเทวีม้วยมรณา |
๖๐๖ เทวีหายเสียงร้อง | เลือดฟูมฟองทั้งกายา |
นางให้เอาหวายมา | ผูกคอลากทั้งน้ำเสีย |
๖๐๗ ทำให้สาแก่ใจ | หนำพระท้ยเธอรักเมีย |
ตายแล้วลอยน้ำเสีย | ดูหน้าเมียพระราชา |
๖๐๘ ชาตินางเป็นลูกนาค | ครั้นมันลากลงคงคา |
ได้เย็นเป็นคืนมา | กัลยาไห้ร่ำไร |
๖๐๙ นางเจ็บปวดยิ่งนัก | กระดูกหักชํ้าภายใน |
รอยแตกเลือดลามไหล | นั่งร้องไห้ริมคงคา |
๖๑๐ ชะรอยอีคนนี้ | มเหสีพระราชา |
ชื่อโฉมนางฉันนา | ให้ตีด่ากูจำตาย |
๖๑๑ กูคิดจะผูกภัย | อีจังไรให้วอดวาย |
มาตีเจ้าจำตาย | อีขึ้ร้ายหึงเจ้าผัว |
๖๑๒ คิดแล้วนางร้องไห้ | น้ำตาไหลคิดถึงตัว |
ร้องไห้ถึงเจ้าผัว | พระทูนหัวของเมียอา |
๖๑๓ พลัดพ่อแม่มาแล้ว | เห็นหน้าแก้วยายกับตา |
มาพลัดพระราชา | กินน้ำตาไม่ราวัน |
๖๑๔ ครั้งนี้มาพลัดพราก | กรรมวิบากมาจากกัน |
ป่านฉะนี้ยายกาวัน | ไห้โศกศัลย์แล้วแลนา |
๖๑๕ คิดมาน่าลิงโลด | คนเดียวโสดอยู่เอกา |
คนเดียวเปลี่ยวนักหนา | กินน้ำตาไม่ราวัน |
๖๑๖ เร่งคิดเร่งขัดอก | น้ำตาตกให้กระศัลย์ |
ใครเลยจะป้องกัน | จะผันหน้าไปหาใคร |
๖๑๗ ไม่มีที่สำนัก | ไม่รู้จักท่านผู้ใด |
วันนี้จะนอนไหน | นั่งร้องไห้ริมคงคา |
๖๑๘ คิดพลางนางร่ำไห้ | น้ำตาไหลลงโซมหน้า |
โอ้ตัวกูนี้อา | มาได้ยากเพราะผัวขวัญ ๚ะ |
๖๑๙ เมื่อนั้นจึ่งยายเฒ่า | ขายน้ำเต้าอยู่ทุกวัน |
ผักนางทุกสิ่งอัน | ใส่เรือพลันไปเร่ขาย |
๖๒๐ ตะแกนั้นชื่อยายทู | ขายบวบงูแลผักหาย[๕] |
จึ่งร้องเรียกหญิงชาย | ซื้อของยายก็มาดู |
๖๒๑ ชาวเพื่อนร้องถามไป | ขายอะไรท่านยายทู |
มะระฤาบวบงู | ใคร่จะรู้จงบอกมา |
๖๒๒ ยายทูจึ่งบอกเล่า | ขายน้ำเต้าแลแตงกวา |
ทั้งบวบงูได้มา | อย่าสงกาว่าไม่มี |
๖๒๓ มาซื้อของยายบ้าง | ทั้งผักนางมีถ้วนถี่ |
ถั่วแมงลักผักชี | เรือยายนี้มีอักโข |
๖๒๔ ทั้งสมจุกส้มซ่า | ผลพะวาแลตะโก |
เหล้าเข้มเต็มไหโต | ทั้งส้มโอกินแกล้มกัน |
๖๒๕ ปลาสวายแลเนื้อย่าง | ยายใส่อ่างมามันมัน |
สมควรด้วยเหล้านั้น | ยายแกล้งสรรเอามาขาย |
๖๒๖ อย่าว่าแต่เท่านั้น | ทุกสิ่งพรรณมีมากมาย |
ชอบใจท่านทั้งหลาย | ยายจะขายนะหลานอา |
๖๒๗ ทั้งกระแจะแลน้ำมัน | ชักชวนกันมาซื้อทา |
หอมฟุ้งทั้งกายา | แบ้งผัดหน้างามเป็นนวล |
๖๒๘ ใครซื้อก็อย่าช้า | เร็วเร็วมายายจะด่วน |
ลอดช่องวุ้นขนุนกวน | ยายจะด่วนไปเร่ขาย |
๖๒๙ เขาจึ่งนับเบี้ยให้ | แก่ยายไซร้เป็นมากมาย |
ขึ้นเหนือลงทางใต้ | อุตส่าห์พายท่านยายเอย |
๖๓๐ พายซ้ายแล้วพายขวา | เขาร้องว่าอยู่เบยเบย |
อุตส่าห์ท่านยายเอย | ยายเร่งพุ้ยไปวุ่นวาย |
๖๓๑ มาพบนางอรไท | นั่งร้องไห้ที่หาดทราย |
นางน้องร้องเรียกยาย | นั่งลงไหว้เห็นแต่ไกล |
๖๓๒ จึ่งพายเรือเข้ามา | ถึงฉายาก็ปราศรัย |
ไถ่ถามนางทรามวัย | เจ้ามาไยแต่คนเดียว |
๖๓๓ นางจึ่งเข้าไปใกล้ | ยกมือไหว้ด้วยฉับเฉียว |
ข้ามาแต่คนเดียว | ขออาศัยด้วยยายรา |
๖๓๔ พ่อแม่ข้าหาไม่ | บ้านเมืองไกลซัดจรมา |
พบโจรที่กลางป่า | มันตีด่าฆ่าให้ตาย |
๖๓๕ มันทำบ่เกรงกลัว | แหลกทั้งตัวย่อมหนามหวาย |
คิดว่าข้าน้อยตาย | ผูกคอลากลอยน้ำมา |
๖๓๖ ลอยมาปะหาดทราย | มาพบยายหมายพึ่งพา |
จงยายได้เมตตา | เอ็นดูข้าเลี้ยงเอาบุญ ๚ะ |
สุรางคนางค์
๖๓๗ เมื่อนั้นยายเฒ่า | |
จึ่งจอดเรือเข้า | รับเอานางมา |
ไปอยู่ด้วยยาย | สบายนักหนา |
ค่ำเช้าข้าวปลา | ยายจะหาให้กิน |
๖๓๘ ยายต้มน้ำพลัน | |
ประคบหลานขวัญ | โดยใจถวิล |
แต่ล้วนหนามหวาย | ยายเก็บเสียสิ้น |
แต่หัวจดตีน | ได้ทะนานปลาย |
๖๓๙ อยู่มาหลายวัน | |
นางนาฏจอมขวัญ | ความเจ็บค่อยคลาย |
เก็บผักใส่เรือ | แต่เช้าก่อนงาย |
พายไปเร่ขาย | หน้าวังฉันนา |
๖๔๐ นางผูกเวรไว้ | |
ผลาญมันให้ได้ | จึ่งนางฉายา |
นีรมิตเป็นแก่ | อายุชรา |
ผมดำคือกา | แสงงามใสศรี |
๖๔๑ ฟันหักแก้มตอบ | |
อายุร้อยรอบ | เหมือนพรหมจารี |
เส้นผมนั้นดำ | ดังสิบห้าปี |
พายตามนที | ขายผักไปพลาง |
๖๔๒ ฉันนาเทวี | |
ชนม์สิบห้าปี | ผมหงอกเบาบาง |
เป็นทุกข์โศกเศร้า | ผมเผ้าแห่งนาง |
ใครทำได้บ้าง | กูจะให้รางวัล |
๖๔๓ นางแพ้เกศา | |
เจ็บใจไฉยา | เป็นทุกข์โศกศัลย์ |
ถ้าใครทำได้ | จะให้รางวัล |
ผ้าผ่อนแพรพรรณ | เงินทองแลนา |
๖๔๔ ข้าสาวทูลเล่า | |
แม่ค้าน้ำเต้า | ผมดำคือกา |
อายุแก่เฒ่า | ยืดยาวชรา |
ผมดำคือกา | ข้าเห็นอัศจรรย์ |
๖๔๕ ครั้นนางได้ฟัง | |
ฉันนาจึ่งสั่ง | ให้หามาพลัน |
ข้าสาวดีใจ | เห็นจะได้รางวัล |
มันจึ่งชวนกัน | ไปหาตัวมา |
๖๔๖ ยายจอดเรือไว้ | |
เชิญยายเข้าไป | อย่าได้อยู่ช้า |
ตัวยายแก่เฒ่า | ผมเผ้าคือกา |
ว่านางให้หา | จะถามถึงผม |
๖๔๗ จึ่งยายเข้าไป | |
ถึงนางทรามวัย | ฉันนาทรามชม |
เจ้าจึ่งไถ่ถาม | นางงามเอวกลม |
เหตุไรจึ่งผม | ยายดำนักหนา |
๖๔๘ ยายจึ่งว่าเล่า | |
เกศาข้าเจ้า | หงอกแต่ก่อนมา |
ข้าเจ้าได้เรียน | ปลูกด้วยตำรา |
เจ็ดวันแลนา | ดำงามพึงใจ |
๖๔๙ ฉันนาจึ่งว่า | |
ยายเอ็นดูข้า | ช่วยมาปลูกให้ |
แม้นยายจะเอา | เงินทองเท่าไร |
ค่าจ้างจะให้ | ถึงใจหม่อมยาย |
๖๕๐ ยายเฒ่าจึ่งว่า | |
เจ็บปวดนักหนา | แทบประดาตาย |
เจ้าจะกลั้นได้ฤๅ | นางไทโฉมฉาย |
นางว่าเป็นตาย | จงยายเอ็นดู |
๖๕๑ แม้นเจ้ากลั้นได้ | |
ผู้คนข้าไท | อย่าให้เขาอยู่ |
บิดามารดา | อย่าให้ท่านรู้ |
อุตส่าห์กลั้นอยู่ | กว่าจะได้เจ็ดวัน |
๖๕๒ ฉันนาจึ่งว่า | |
แฟงฟักผักหญ้า | ทั้งนั้นด้วยกัน |
เงินห้าตำลึง | ให้ถึงมือพลัน |
พรุ่งนี้นัดกัน | แต่เราทั้งสอง |
๖๕๓ พรุ่งนี้ยายมา | |
ช่วยปลูกเกศา | ดั่งข้านึกปอง |
ข้าจ้างของยาย | ร้อยห้าตำลึงทอง[๖] |
สุดแต่ผมน้อง | เหมือนแต่ก่อนมา |
๖๕๔ ยายเฒ่าดีใจ | |
ครั้นขายผักได้ | ลงเรือไคลคลา |
นีรมิตดังเก่า | เป็นสาวโสภา |
ล่องตามคงคา | พายมาหายาย |
๖๕๕ ยายเฒ่าดีใจ | |
เจ้าช่างขายได้ | เงินทองมากมาย |
ชะตาราศี | เจ้าดีเหลือหลาย |
มาช่วยยายขาย | ยายจะได้กินทาน |
๖๕๖ นางผูกเวรี | |
ฉันนาคนนี้ | ให้ม้วยวายปราณ |
กูจะปองฆ่า | เวราตามผลาญ |
เคยทำแก่ท่าน | ให้ม้วยอาสัญ |
๖๕๗ ครั้นรุ่งขึ้นเช้า | |
นางนาฏนงเยาว์ | เก็บผักมาพลัน |
ใส่ลงในเรือ | แล้วนางผายผัน |
ลงเรือด้วยพลัน | พายตามสาคร |
๖๕๘ นีรมิตเป็นแก่ | |
ผมเผ้าดำแล | เหมือนดังแต่ก่อน |
ขายผักหน้าวัง | ฉันนาสายสมร |
ครั้นเช้านางคอน | เรือเข้ามาพลัน |
๖๕๙ จึ่งนางฉันนา | |
เชิญยายขึ้นมา | เจรจาด้วยกัน |
ข้าสาวชาวแม่ | ให้ขับเสียพลัน |
มุ้งม่านกางกั้น | อยู่แต่สองคน |
๖๖๐ นางโกนเกศา | |
แล้วจึ่งเอาผ้า | มารัดเป็นกล |
เอาปลายมีดสับ | ย่อยยับทั้งตน |
เลือดทุกเส้นขน | นางทนโศกา |
๖๖๑ เอาปลาร้าใส่ | |
กลั้นเจ็บมิได้ | โหยไห้เวทนา |
หม้อแกงครอบไว้ | เหนือเกล้าฉายา |
เอาสีผึ้งมา | ปิดให้มั่นคง |
๖๖๒ เคยทำแก่ท่าน | |
เวราตามผลาญ | ฉันนาโฉมยง |
บาปนั้นทันตา | พาให้ไหลหลง |
ใจนางจำนง | บ่ได้กลัวเกรง |
๖๖๓ ยายจึ่งลาไป | |
ฝูงข้าฝูงไท | อย่าให้ครื้นเครง |
เงินทองค่าจ้าง | นางห่อมาเอง |
บ่ได้ครื้นเครง | นางลงเรือไป |
๖๖๔ แต่วันนั้นมา | |
ไม่ลงเรือค้า | หน้าวังนางไท้ |
ค่อยอยู่แต่เรือน | บ่กลับคืนไป |
นีรมีตรูปใหม่ | ให้เหมือนก่อนมี |
๖๖๕ เงินทองมากมาย | |
เต็มห่อตะพาย | ค่าจ้างมากมี |
อยู่แต่เรือนยาย | ซื้อขายตามมี |
อุทัยเทวี | ฟังข่าวฉันนา |
๖๖๖ คอยฟังแยบคาย | |
ถ้ามันมิตาย | จะเวียนไปหา |
จะทำยำยี | ให้ม้วยมรณา |
ทีนี้เห็นว่า | จะม้วยอาสัญ |
๖๖๗ ส่วนนางฉันนา | |
เจ็บปวดนักหนา | คอยหาทุกวัน |
สองมือกุมหัว | ร้องไห้ตัวสั่น |
กลางคืนกลางวัน | ลำบากกายา |
๖๖๘ เป็นหนอนทั้งหัว | |
ร้องไห้รักตัว | ทนทุกข์เวทนา |
มันกินสมอง | หนองไหลออกมา |
เต็มหน้าเต็มตา | ทั่วทั้งตัวนาง |
๖๖๙ น้ำหนองไหลพราว | |
หนอนตัวรียาว | ออกจากปากนาง |
ข้างนอกนั้นไซร้ | แต่ล้วนไข่ขาง |
นางร้องไห้คราง | น้ำตาบ่เสบย |
๖๗๐ โอ้ตัวกูอา | |
ยายเฒ่าแม่ค้า | กูไม่คุ้นเคย |
นับได้เจ็ดวัน | มันไม่มาเลย |
โอ้อกกูเอย | จะม้วยมรณา |
๖๗๑ จะม้วยอาสัญ | |
เจ็บพ้นที่กลั้น | กินแต่น้ำตา |
อุตส่าห์กลั้นไว้ | ไม่บอกมารดา |
กินแต่น้ำตา | ค่ำเช้าเพรางาย |
๖๗๒ โอ้กรรมแล้วแล | |
ถ้ามิบอกแม่ | เห็นว่าจะตาย |
ไปบอกมารดา | ให้มาแก้คลาย |
เห็นว่าจะตาย | บัดนี้แลนา |
๖๗๓ เรียกหาสาวใช้ | |
เร่งเร็วเข้าไป | บอกพระมารดา |
ว่าลูกจะตาย | วันนี้แลนา |
บิดามารดา | ให้มาจงพลัน |
๖๗๔ ข้าสาวแล่นมา | |
อกนางสนตรา | มารดาจอมขวัญ |
บอกท้าวกัญจา | บิดาจอมขวัญ |
พระพ่อทรงธรรม์ | ว่านางไห้หา |
๖๗๕ บอกทั้งภูบาล | |
ผัวนางนงคราญ | ให้เร่งเร็วมา |
ว่านางจะตาย | วันนี้แลนา |
ขอแลดูหน้า | วันเดียวนี้แล |
๖๗๖ สนตรานงเยาว์ | |
ฟังข้าสาวเล่า | อกเปล่าปรวนแปร |
เจ้าเจ็บอันใด | จึ่งไม่บอกแม่ |
ต่อวันนี้แล | จึ่งใช้มาพลัน |
๖๗๗ นางจึ่งเข้ามา | |
ทูลพระราชา | ท้าวผู้ทรงธรรม์ |
ว่านางฉันนา | ให้มาจงพลัน |
ทั้งลูกเขยขวัญ | ให้เร่งเร็วมา ๚ะ |
ยานี
๖๗๘ นางเมืองจึ่งวางมา | เห็นลูกยาน้ำตาไหล |
แก้วแม่เป็นไฉน | เลือดลามไหลฉะนี้นา |
๖๗๙ เป็นหนองเต็มทั้งตัว | ลูกทูนหัวของแม่อา |
บิดาแลมารดา | ฟายน้ำตาไห้ระงม |
๖๘๐ จึ่งเล่าแต่ต้นมา | อีแม่ค้ามันปลูกผม |
รูปมันมิพึงชม | แต่เผ้าผมงามโสภา |
๖๘๑ มันว่าปลูกผมได้ | สับเลือดไหลใส่ปลาร้า |
แล้วเอาหม้อแกงมา | ครอบหัวข้าพระเทวี |
๖๘๒ เล่าให้พ่อเจ้าฟัง | ทุกสิ่งอันเป็นถ้วนถี่ |
ผมปลูกลูกว่าดี | อีบัดศรีทำให้ตาย |
๖๘๓ ผมปลูกลูกน้อยรัก | แม่ค้าผักทำวุ่นวาย |
พระแม่แก้ให้คลาย | ลูกโฉมฉายจะมรณา |
๖๘๔ เล่าพลางนางเจ็บหนัก | ล้มกับตักพระมารดา |
บัดเดียวสิ้นชีวา | นางฉันนาขาดใจตาย |
๖๘๕ บิดาแลมารดา | ไห้โศกาอยู่วุ่นวาย |
แม่ค้าฆ่าเจ้าตาย | นางโฉมฉายจึ่งวายชนม์ |
๖๘๖ ท้าวให้ผูกคอมา | หมู่แม่ค้าสิ้นทุกคน |
ให้เกาะทุกตำบล | ใส่ตรุไว้จำให้ตาย |
๖๘๗ รับสั่งจังหวัดแขวง | ทั่วทุกแห่งจงกฎหมาย |
แม่ค้าฆ่าเจ้าตาย | จับแยบคายผูกคอมา |
๖๘๘ ไถ่ถามจงละเอียด | บ้างส่อเสียดกันนักหนา |
ผูกคอเหล่าแม่ค้า | คร่าเอามาบ่ปราศรัย |
๖๘๙ แม่ค้าสิ้นทั้งหลาย | เห็นวุ่นวายแล่นหนีไป |
ลางคนเขาจับได้ | ต่างร้องไห้อยู่อึงอล |
๖๙๐ จับได้เขาไถ่ถาม | แก้เนื้อความไปตามจน |
ข้าขายทุกตำบล | แต่หน้าวังมิได้มา |
๖๙๑ ท้าวให้ใส่ตรุไว้ | นั่งร้องไห้ฟายน้ำตา |
มารับซึ่งอาญา | ต้องขื่อคาได้ทุกข์ทน |
๖๙๒ เมื่อนั้นนางสนตรา | โหยไห้หาถึงลูกตน |
แก้วแม่มาวายชนม์ | เพราะแม่ค้ามาชิงชัง |
๖๙๓ มีผัวไม่ถึงปี | มาหน่ายหนีสิ้นชีวัง |
ละแม่อยู่ภายหลัง | ทองร้อยชั่งของแม่เอ๋ย |
๖๙๔ เจ้าเกิดมาคนเดียว | แม่จะเหลียวหาใครเลย |
เปล่าอกเปล่าใจเอย | ทองอุไรไปแต่ตัว |
๖๙๕ ได้เจ้ามาเป็นเพื่อน | อรอุ่นเรือนแม่ชมชัว |
แม่แต่งให้มีผัว | ทองทั้งตัวหนีแม่ไป |
๖๙๖ ไร้ลูกอยู่ถดถอย | นางยอดสร้อยอรทรามวัย |
จำให้แม่ร่ำไร | ตายด้วยเจ้าแก้วแม่เอย |
๖๙๗ สองคนแต่แม่เล่า | ได้เห็นเจ้าผู้ทรามเชย |
แม่ไห้อยู่เบยเบย | บาปใดเลยให้มรณา |
๖๙๘ เสียแรงแม่ปลูกฝัง | ทองร้อยชั่งของแม่อา |
เจ้าให้แม่โหยหา | กินน้ำตาบ่เสบย |
๖๙๙ เจ้าสุทธกุมาร | ลูกสงสารผู้เป็นเขย |
มาอยู่ไม่คุ้นเคย | พระลูกเขยจะคืนไป |
๗๐๐ แม่คิดลิงโลดนัก | เพียงอกหักน้ำตาไหล |
มาอยู่แล้วคืนไป | แม่อาลัยถึงจอมขวัญ |
๗๐๑ หัวอกแม่หกคว่ำ | ร้องไห้ร่ำอยู่ทุกวัน |
ข้าสาวชาวกำนัล | นั่งห้อมล้อมศพเทวี |
๗๐๒ ใครช่างคิดอ่านให้ | ฟังคำใครปลูกเกศี |
บ่รู้เท่าธุลี | นางเทวีถึงความตาย |
๗๐๓ ลูกน้อยของแม่อา | ควรฤๅมานิ่งดูดาย |
ดังฤๅมานอนตาย | คนทั้งหลายมันชิงชัง |
๗๐๔ เมื่อนั้นท้าวกัญจา | สั่งเสนาแลชาววัง |
ให้ปลูกโรงโขนหนัง | ทำเมรุใหญ่จงฉับพลัน |
๗๐๕ เมรุทิศรอบไสว | เมรุทองใหญ่จงกวดขัน |
สิงสัตว์จงทุกพรรณ | ตามเคยทำแต่ก่อนมา |
๗๐๖ แต่งม้าให้ชักรถ | จงปรากฏงามโสภา |
ขุนการเร่งตรวจตรา | ตามบัญชาพระจุมพล |
๗๐๗ เมืองออกแลเมืองหน้า | เร่งให้มาทุกตำบล |
หัวเมืองสิ้นทุกหน | บาดหมายไปให้เข้ามา |
๗๐๘ เสร็จแล้วการทั้งปวง | จึ่งข้าหลวงทูลราชา |
บ่าวไพร่โกนเกศา | พระราชาชักศพไป |
๗๐๙ กรรชิงแลระบำ | ทั้งคนรำแลดอกไม้ |
กรวดลาวแลกรวดไทย | จังหันใส่ไฟพะเนียง |
๗๑๐ ช่อม่วงดอกฝอยทอง | ประทัดร้องก้องส่ำเสียง |
ลูกพลุจุดรายเรียง | เห็นพ่างเพียงดวงดารา |
๗๑๑ ละครแลเทพทอง | บ้างรำร้องมีนานา |
ลอดบ่วงรำผาลา | ขึ้นปลายไม้หกคะเมน |
๗๑๒ ไต่ลวดลอดเชือกหนัง | มอญตีดั้งเล่นครื้นเครง |
เป็นหมู่ดูนักเลง | ย่อมเล่นโขนตามเรื่องไป |
๗๑๓ ยกศพใส่เชิงตะกอน | จึ่งภูธรให้จุดไฟ |
เผาศพนางทรามวัย | ไหม้เป็นเถ้าธุลีผง |
๗๑๔ ถวายพระเพลิงแล้ว | ลูกเขยแก้วคิดจำนง |
จะบวชเป็นพระสงฆ์ | จะบรรจงส่งบุญไป |
๗๑๕ พ่อตาเห็นชอบแล้ว | พระลูกแก้วบวชหน้าไฟ |
จะแบ่งบุญนั้นให้ | อรไทพ้นอบาย |
๗๑๖ ในใจแสร้งทำกล | กลัวปากคนเขาทั้งหลาย |
แสร้งทำเป็นธิบาย | ใครบ่รู้น้ำพระทัย |
๗๑๗ ครั้นว่าจะไปลา | กลัวพ่อตาจะน้อยใจ |
คิดอ่านบวชหน้าไฟ | แล้วจะไปดังใจหมาย |
๗๑๘ รำลึกถึงอุทัย | น้ำตาไหลไม่รู้วาย |
ป่านนี้นางโฉมฉาย | ไห้หาพี่มิวายเลย |
๗๑๙ ตั้งแต่รูปทองหาย | ใจพี่ชายไม่เสบย |
ขวัญข้าวของพี่เอย | บาปใดเลยมาบีฑา |
๗๒๐ กันแสงแกล้งร่ำไร | น้ำตาไหลถึงฉันนา |
พระทัยของราชา | ทรงโศกาถึงอุทัย |
๗๒๑ จะบวชสักพรรษา | แล้วจะลาพ่อตาไป |
คิดแล้วจึ่งท้าวไท | หาธูปเทียนเครื่องทั้งหลาย |
๗๒๒ อาจารย์อุปัชฌาย์ | นิมนต์มานั่งเรียงราย |
แต่งนาคงามเฉิดฉาย | คนทั้งหลายแห่ไสว |
๗๒๓ เสลี่ยงคานหามทอง | มารับรองเจ้านาคไป |
ล่อโตแทงวิสัย | รำแพนไปหน้าราชา |
๗๒๔ เมื่อนั้นนางอุทัย | เดินออกไปให้สบตา |
ขวางหน้าพระราชา | ท้าวแลมาว่าอุทัย |
๗๒๕ เหลียวแลแปรพระพักตร์ | ว่าน้องรักกูฤๅใคร |
เดินคล้อยหน้ากูไป | เหมือนทรามวัยดังพิมพ์เดียว |
๗๒๖ ฤๅเห็นว่าอยู่ช้า | เจ้ามาหาพี่ทรามเปลี่ยว |
มาไยแต่องค์เดียว | เห็นผิดเจียวนางจะมา |
๗๒๗ หลากแหลกแปลกแก่ใจ | นางอุทัยฤๅไรนา |
หยุดก่อนชาวเราอา | จะดูหน้าให้รู้จัก |
๗๒๘ เขาเร่งหามเจ้าไป | น้ำพระทัยเธอโกรธนัก |
แค้นใจเพียงอกหัก | จะหยุดอยู่พักดูโฉมงาม |
๗๒๙ ยกก้นกระแทกลง | นั่งบ่ตรงบนคานหาม |
เหลียวดูนางโฉมงาม | ท้าวร้องห้ามอย่าเพ่อไป |
๗๓๐ จะดูให้รู้จัก | นางเมียรักกูฤๅไร |
คนหามเร่งหามไป | น้ำพระทัยตั้งบ่ตรง |
๗๓๑ ฝูงคนเข้าแห่หาม | ถึงอารามแล้ววางลง |
บวชเรียนโดยจำนง | จึ่งพระสงฆ์บวชท้าวไท |
๗๓๒ บวชแล้วบ่คลายคลาด | จึ่งพระบาทผู้จอมไตร |
ขึ้นอยู่กุฎีใหญ่ | กว่าจะได้พรรษาเดียว |
๗๓๓ บวชอยู่ตามศรัทธา | แล้วจะลาพระทรามเปลี่ยว |
อุตส่าห์พรรษาเดียว | จะทนเทียวอยู่ตามบุญ ๚ะ |
สุรางคนางค์
๗๓๔ เมื่อนั้นอุทัย | |
นางนาฏทรามวัย | คิดถึงราชา |
นางเอาแป้งหอม | ใส่ลงนาวา |
ล่องตามคงคา | ถึงวัดท้าวไท |
๗๓๕ ครั้นนางคิดแล้ว | |
เมื่อนั้นนางแก้ว | ร้องขายขึ้นไป |
พระองค์ได้ยิน | สะเทิ้นหวั่นไหว |
ใครหนอจงใจ | เหมือนนางฉายา |
๗๓๖ พระองค์จึ่งใช้ | |
ให้คนแล่นไป | เอาตัวเข้ามา |
ใครร้องขายแป้ง | บ่เกรงเลยนา |
วางวู่เข้ามา | เห็นชอบฤๅไร |
๗๓๗ เราจะใคร่รู้ | |
ได้ยินแก่หู | เหมือนเสียงอุทัย |
ใช้คนไปหา | เอามาให้ได้ |
ให้หายสงสัย | สนเท่ห์ไปมา |
๗๓๘ เขาจึ่งกลับไป | |
ทูลแก่ท้าวไท | ไม่พบเลยนา |
พระองค์ได้ยิน | เดือดดิ้นวิญญาณ์ |
จะลาพรรษา | ไปหาอุทัย |
๗๓๙ อยู่วันหนึ่งเล่า | |
นางไปแต่เช้า | ร้องขายขึ้นไป |
ซื้อบ้างฤๅขา | ท่านชาวบ้านใต้ |
แป้งหอมเอาใจ | ซื้อไว้ไล้ทา |
๗๔๐ เมื่อนั้นจอมไตร | |
เผยแกลแลไป | นึกว่าฉายา |
นางพายเรือหนี | บ่เห็นเลยนา |
ให้คนตามหา | บ่พบเทวี |
๗๔๑ ผุดลุกขึ้นนั่ง | |
ใจจิตคิดหวัง | ไม่สมประดี |
วันนี้แกล้งคอย | สาวน้อยคนนี้ |
เป็นตายตามที | ตามกรรมเวรา |
๗๔๒ เมื่อนั้นอุทัย | |
พายเรือเข้าไป | ตรงหน้าราชา |
ร้องขายน้ำมัน | เหมือนแต่ก่อนมา |
ให้เขาเข้าคร่า | จับตัวอุทัย |
๗๔๓ เถียงกันไปมา | |
ท่านท้าวให้หา | เชิญตัวเข้าไป |
เหตุใดพระเจ้า | มาเกาะข้าไย |
เกลือกเลื่องฦๅไป | ว่าหยอกสีกา |
๗๔๔ พระองค์ทรงธรรม | |
ไม่อยู่แก่กรรม | เขาจะนินทา |
ใครห่อนพระเจ้า | มาเกาะสีกา |
ทำให้ฦๅชา | อย่าอย่าถอยไป |
๗๔๕ แม้นว่าเข้าเกาะ | |
อย่ามาทะเลาะ | เลยนางทรามวัย |
เขากลุ้มรุมเข้า | เอาตัวมาได้ |
เชิญเจ้าเข้าไป | ให้ท้าวไถ่ถาม |
๗๔๖ เขาพาตัวไป | |
ถึงกุฎีใหญ่ | ท้าวไทโฉมงาม |
เจ้าจึ่งเข้าไป | กราบไหว้ทูลความ |
ข้าพระติดตาม | จึ่งได้ตัวมา |
๗๔๗ เมื่อนั้นพันปี | |
ลุกขึ้นจากที่ | จึ่งวางมาหา |
ครั้นถึงแลเห็น | อุทัยไฉยา |
จึ่งฟายน้ำตา | สะอื้นร่ำไร |
๗๔๘ ร้องไห้กำสรด | |
อกท้าวระทด | ด้วยนางทรามวัย |
แต่พี่จากแก้ว | นานแล้วเหลือใจ |
น้ำตาหลั่งไหล | ถึงนางทรามเชย |
๗๔๙ ร้องไห้กำสรด | |
ระทวยระทด | บ่รู้สึกเลย |
ฟื้นขึ้นมาได้ | ร่ำไห้บ่เสบย |
โอ้อกเรียมเอย | บาปใดตามทัน |
๗๕๐ ควันวายโศกแล้ว | |
เมื่อนั้นพระแก้ว | จึงถามเมียขวัญ |
เป็นเหตุอันใด | ให้พลัดพรากกัน |
รี้พลทั้งนั้น | จึ่งไม่เอามา |
๗๕๑ นางสะอื้นไห้ | |
มิใคร่เล่าได้ | กลั้นทั้งน้ำตา |
เพราะว่าสองเฒ่า | มาถวายนาวา |
ครั้นได้มันพา | มาในทางบน |
๗๕๒ พามาเรื่อยรี่ | |
ข้าพระลงขี่ | มันจึ่งชักยนต์ |
มันหับแคร่ไว้ | ร้องไห้เสือกสน |
บ่รู้ตำบล | แห่งหนใดเลย |
๗๕๓ ให้นางฉันนา | |
ผูกคอตีด่า | ข้าพระทรามเชย |
ตีด้วยกระบอง | ข้าร้องอยู่เบยเบย |
ด่าข้าทรามเชย | ว่าเป็นขโมย |
๗๕๔ ตีด้วยหนามหวาย | |
ให้ม้วยวอดวาย | รุมกันทำโพย |
มันจึ่งร้องด่า | ว่าเป็นขโมย |
มันให้ทำโบย | จนตัวข้าตาย |
๗๕๕ แล้วตีด้วยไม้ | |
เลือดย้อยลามไหล | ไม่ม้วยวอดวาย |
ฟกชํ้าแตกหัก | ข้าพระจำตาย |
แล้วให้เอาหวาย | ผูกคอลากไป |
๗๕๖ ผ้าลุ่ยสิ้นตัว | |
โอ้พระทูนหัว | บ่เห็นหน้าใคร |
มันลากลงน้ำ | คว่ำหน้าลอยไป |
เล่าพลางนางไห้ | ไม่วายน้ำตา |
๗๕๗ ลอยปะหาดทราย | |
เมื่อจะพบยาย | ฟื้นเป็นขึ้นมา |
ข้าอยู่อาศัย | ได้เป็นฤๅช้า |
จึ่งรอดชีวา | ได้เห็นผัวขวัญ |
๗๕๘ พระคุณบุญปลูก | |
เลี้ยงข้าเหมือนลูก | เพื่อนยากด้วยกัน |
จะลาท้าวไท | ด่วนไปเห็นหวั่น |
เกลือกนางจอมขวัญ | ฉันนามาเห็น |
๗๕๙ ทั้งนี้เพราะใคร | |
พระองค์แกล้งใช้ | ฉันนาทำเข็ญ |
ว่าพลางนางหยอก | สัพยอกยั่วเล่น |
ฉันนาทำเข็ญ | บ่รู้เลยนา |
๗๖๐ เจ้าอย่าตัดพ้อ | |
แรกเริ่มเดิมขอ | พี่ขืนใจมา |
มิใคร่จะอยู่ได้ | จำใจพี่ยา |
เสกสรรเจรจา | เยาะเย้ยไยไพ |
๗๖๑ พี่กินน้ำตา | |
มิได้เห็นหน้า | พระทองทรามวัย |
ถ้าพี่มิรัก | หล่อรูปมาไย |
มิเชื่อน้ำใจ | พี่บ้างเลยนา |
๗๖๒ ตัวพี่อยู่ไกล | |
แต่ในน้ำใจ | คิดถึงไฉยา |
อุทัยน้องรัก | รักกว่าฉันนา |
เสือขบฟ้าผ่า | ได้แก่เทวี |
๗๖๓ นางจึ่งว่าเล่า | |
ขอบใจพระเจ้า | ช่างสบถดี |
ข้าหาผิดไม่ | เสือจะทำไมมี |
กลัวแต่พันปี | อย่าได้ใว้ใจ |
๗๖๔ แม้นน้องมิฟัง | |
บาปพี่แต่หลัง | ได้แก่ทรามวัย |
ถ้ารักฉันนา | ฟ้าผ่าต้นไม้ |
ท้าวน้องอุทัย | มิเชื่อพี่เลย |
๗๖๕ ข้าเชื่อทุกสิ่ง | |
สบถนักยิ่ง | จึ่งนางทรามเชย |
ฉันนาเมียรัก | อย่าพักว่าเลย |
นางฉันนาเอย | ป่านนี้จะครวญหา |
๗๖๖ เมื่อนั้นพระองค์ | |
จะปลงเพศสงฆ์ | เข้าไปทูลลา |
ไปหาปิ่นเกล้า | ท่านท้าวพ่อตา |
ว่าจะขอลา | ไปหามารดร |
๗๖๗ จะกลับคืนไป | |
เมืองข้าโพ้นไซร้ | ถึงพระนคร |
มีโองการตรัส | แก่พระภูธร |
ตามใจบังอร | ลูกรักทรามวัย |
๗๖๘ จึ่งนางสนตรา | |
ครั้นแลเห็นหน้า | น้ำตาลามไหล |
ให้แม่ลิงโลด | กระโมจร่ำไร |
จะห้ามมิได้ | มิใช่ท่วงที |
๗๖๙ ร้องไห้ถึงลูก | |
โอ้พระบุญปลูก | ฉันนาเทวี |
ผัวเจ้าไปแล้ว | ลูกแก้วโฉมศรี |
ตั้งแต่วันนี้ | เปล่าแล้วแลนา |
๗๗๐ ตั้งแต่ร้องไห้ | |
ทนโศกบ่ได้ | ไม่วายน้ำตา |
ฉันนาแม่เอย | แม่ไปด้วยรา |
จะได้เห็นหน้า | กำพร้าคนเดียว |
๗๗๑ เจ้าลาแม่ไป | |
นับวันจะไกล | เจ้าไม่แลเหลียว |
แต่นี้จะอยู่ | แต่แม่คนเดียว |
เร่งคิดเร่งเปลี่ยว | อกแล้วแลนา |
๗๗๒ โอ้พระเอวบาง | |
มาหาแม่บ้าง | ลูกรักแม่อา |
แม่เห็นหน้าเจ้า | เหมือนเห็นฉันนา |
แม่กินน้ำตา | ต่างข้าวเพรางาย |
๗๗๓ เจ้าสุทธกุมาร | |
ลาพระภูบาล | ทั้งสองโฉมฉาย |
ครั้นทูลลาแล้ว | พระแก้วฦๅสาย |
เสด็จทรงช้างพลาย | มาหาเมียขวัญ |
๗๗๔ เมื่อนั้นพระองค์ | |
ใจจิตคิดปลง | สึกออกด้วยพลัน |
ชมนางนารี | พันปีกระสัน |
พึ่งแรกพบกัน | รักสุดเสนหา |
๗๗๕ ตายแล้วเกิดใหม่ | |
บุญตัวเราไซร้ | จำจรให้มา |
มิเคยร้างแก้ว | บุญแล้วแลนา |
พระยอดกิ่งฟ้า | มาเราคืนไป |
๗๗๖ จึ่งสั่งเสนา | |
รี้พลช้างม้า | ขับมาไสว |
แต่ล้วนของเรา | ให้เอาคืนไป |
ขอมลาวมอญไทย | ให้คืนไปเมือง |
๗๗๗ พลช้างพลม้า | |
พลรถโยธา | ขับมานองเนือง |
มนตรีเสนา | มาเราไปเมือง |
ฝูงคนฦๅเลื่อง | ทั้งเมืองพารา |
๗๗๘ ขับพลกลับไป | |
สมเด็จท้าวไท | ขึ้นช้างวางมา |
ท้าวน้องอุทัย | ไปตามราชา |
ขึ้นช้างยาตรา | ลินลาคลาไคล |
๗๗๙ ฤกษ์ดีแล้วเสร็จ | |
แต่ตีสิบเอ็ด | ท้าวเสด็จไป |
ด้วยหมู่ไพร่ฟ้า | ช้างม้าข้าไท |
แห่ห้อมล้อมไป | ถึงไพรพฤกษา ๚ะ |
ยานี
๗๘๐ ยายเฒ่าเป็นแม่ค้า | ครั้นคํ่ามาคอยลูกตน |
ตามหาเจ้าทุกหน | ทุกตำบลเที่ยวไถ่ถาม |
๗๘๑ ตะวันเร่งตกต่ำ | เวลาค่ำได้สองยาม |
เที่ยวหาลูกโฉมงาม | กินน้ำตาไห้ร่ำไร |
๗๘๒ แม่ยากอยู่ถดถอย | ฤๅลูกน้อยหนีแม่ไป |
จะให้แม่ขาดใจ | ด้วยทรามวัยแก้วแม่เอย |
๗๘๓ เจ้ามาโปรดแม่แล้ว | โอ้ลูกแก้วผู้ทรามเชย |
สาวน้อยของแม่เอย | บาปใดเลยมาตามผลาญ |
๗๘๔ แม่คิดถึงคุณเจ้า | ลูกหนุ่มเหน้านางนงคราญ |
เจ้าพลัดมาต่างบ้าน | แม่พบพานเลี้ยงเจ้าไว้ |
๗๘๕ เจ้าให้แม่ลิงโลด | ฤๅเจ้าโกรธแม่ว่าไร |
อุ่นเรือนเพื่อนเข็ญใจ | กรรมสิ่งไรนะลูกอา |
๗๘๖ เป็นทุกข์ยิ่งเศร้าสร้อย | ด้วยลูกน้อยไปไกลตา |
เมื่อใดจะกลับมา | ให้แม่เห็นเพื่อนเข็ญใจ |
๗๘๗ เป็นทุกข์อยู่เศร้าสร้อย | ถึงลูกน้อยไห้ร่ำไร |
ปานนี้ไปอยู่ไหน | แม่ร่ำไรฝั่งคงคา |
๗๘๘ มืดค่ำย่ำชมัว | ไม่คิดตัวยายเลยนา |
จงพบสบฉายา | แก้วกำพร้าเพื่อนเข็ญใจ |
๗๘๙ ฤๅว่าเจ้าค้าขาย | พบผู้ชายเขาพาไป |
สาวน้อยเขาใส่ใจ | พาไปไว้แล้วชมเชย |
๗๙๐ แม่เจ้าไปมีผัว | ทองทั้งตัวของยายเอย |
มิบอกแก่ยายเลย | แก้วแม่เอยด่วนหนีไป |
๗๙๑ ไม่พบกลับคืนมา | ก่นน้ำตาไห้ร่ำไร |
ล้มตัวลงหลับใหล | คิดถึงไท้นางไฉยา ๚ะ |
สุรางคนางค์
๗๙๒ เมื่อนั้นราชา | |
เสด็จไปถึงป่า | ชมสัตว์ในไพร |
ละมั่งกวางทอง | เยื้องย่องคลาไคล |
งัวเพลาะตัวใหญ่ | ไล่กันไปมา |
๗๙๓ ถึกเถื่อนเกลื่อนกลาด | |
คชสีห์สีหราช | เดียรดาษในพนา |
ม้ามอนรสิงห์ | กระทิงมหิงสา |
เสือเหลืองเยื้องมา | เสือปลาวิ่งไป |
๗๙๔ ชมพรรณฝูงช้าง | |
เดินอยู่สล้าง | ที่กลางพงไพร |
พลายพังพรั่งพรู | ดูงามไสว |
ชมเล่นเย็นใจ | กับอุทัยเทวี |
๗๙๕ ช้างพลายช้างเนียม | |
ตกมันเหี้ยมเกรียม | ในพนาลี |
บริวารมั่งคั่ง | หน้าหลังมากมี |
สมเด็จพันปี | ชี้ให้ชมพลาง |
๗๙๖ เหลียวแลเห็นสัตว์ | |
ม้ามิ่งสิงคนัด | โตเต้นเล่นหาง |
ลิงค่างหมีเม่น | เต้นไต่ตามทาง |
ชะนีแลบ่าง | วางขึ้นพฤกษา |
๗๙๗ จิ้งจอกกระจ้อน | |
หมาไนไล่หอน | แล่นซอนไปมา |
ลิงลมลิงจุ่น | ร่ายไม้พฤกษา |
โจนไล่ไปมา | ไก่ฟ้าพญาลอ |
๗๙๘ ส่วนนางอุทัย | |
เหลียวแลแปรไป | พระทัยพึงพอ |
ข้าไม่เคยเห็น | เป็นน่าหัวร่อ |
พระทัยพึงพอ | ถามพระราชา |
๗๙๙ ข้าแต่พันปี | |
โปรดเกล้าเกศี | ทรงพระเมตตา |
เมียรักขอถาม | โฉมงามบอกข้า |
ฝูงสัตว์ในป่า | อเนกมากมี |
๘๐๐ สัตว์นั้นชื่อไร | |
เดินตามกันไป | ในป่าพงพี |
เมืองเราโพ้นไซร้ | บ่ได้จะมี |
ทรงธรรม์พันปี | บอกแก่เมียรา |
๘๐๑ จึ่งพระจอมจักร | |
บอกแก่เมียรัก | อุทัยไฉยา |
สัตว์นั้นเจ้าพี่ | มฤคีมฤคา |
กวางทองเลียงผา | เที่ยวหาอาหาร |
๘๐๒ สัตว์นั้นชื่อไร | |
สำคัญโตใหญ่ | เที่ยวในดงดาน |
ลางตัวไล่ฟัด | สัตว์เป็นอาหาร |
ลางตัวรุกราน | ระเห็จเตร็ดไป |
๘๐๓ สัตว์นั้นเจ้าพี่ | |
ชื่อว่าเสือสีห์ | อินทรียโตใหญ่ |
ผาดโผนโจนร้อง | ในท้องพงไพร |
เลียงผาหมาใน | อรไทอย่ากลัว |
๘๐๔ อุทัยไฉยา | |
ทูลถามราชา | เจ้าฟ้าผู้ผัว |
เห็นสัตว์หมู่นั้น | จอมขวัญอย่ากลัว |
นางทองทั้งตัว | ถามพระราชา |
๘๐๕ สัตว์นั้นชื่อไร | |
ผาดโผนโจนไป | ในไพรพฤกษา |
หน้าเค้าเว้าวอก | กลอกตาไปมา |
ดูดูราชา | เห็นน่าตกใจ |
๘๐๖ เมื่อนั้นภูเบศร | |
ชำเลืองพระเนตร | ผันแปรแลไป |
สองข้างริมทาง | ลิงข้างในไพร |
บอกแก่ทรามวัย | อุทัยไฉยา |
๘๐๗ ลิงนั้นเจ้าพี่ | |
ชื่อว่าชะนี | ห้อยโหนโจนมา |
ผาดโผนโจนไล่ | แกว่งปลายพฤกษา |
บอกแก้วกัลยา | เจ้าอย่าตกใจ |
๘๐๘ ฟังเสียงนกร้อง | |
กระเหว่ามี่ก้อง | ในท้องพงไพร |
แขกเต้าสาลิกา | ในพนาลัย |
จึ่งนางทรามวัย | ถามพระราชา |
๘๐๙ นั่นเสียงอะไร | |
ไพรเพราะเอาใจ | ในไพรพฤกษา |
พระองค์ทรงเดช | ทรงพระเมตตา |
บอกแก่เมียรา | นั่นเสียงอันใด |
๘๑๐ เมื่อนั้นราชา | |
บอกนางฉายา | ท้าวน้องทรามวัย |
สาลิกาแขกเต้า | นกเปล้าระวังไพร |
การเวกเสียงใส | ไก่แก้วโนรี |
๘๑๑ นกอะไรพระเจ้า | |
จับอยู่คลึงเคล้า | ค่าไม้สักขี |
บ้างบินบ้างจับ | กลอกกลับสับตี |
บ้างจับกับที่ | ขันขานต่อกัน |
๘๑๒ นกนั้นฤๅนะเจ้า | |
บินว่อนร่อนเคล้า | ชื่อนกนวลจันทร์ |
สองตัวจับอยู่ | เป็นคู่เคียงกัน |
จับอยู่เรียงรัน | เคล้ากันไปมา |
๘๑๓ นกอะไรพระเจ้า | |
จับอยู่ซบเซา | เหนือกิ่งพฤกษา |
บินเบือนเชือนออก | กลอกตาไปมา |
น่ากลัวนักหนา | นะพระจอมไตร |
๘๑๔ นกนั้นฤๅเจ้า | |
ทองคำลำเพา | เจ้าอย่าตกใจ |
ชื่อนกเค้าแมว | ทิ้งทูตจังไร |
นกแสกแถกไถล | ในป่าพนาลี |
๘๑๕ รี้พลกล่นเกลื่อน | |
แรมทางสามเดือน | จึ่งถึงบุรี |
เร่งตั้งพลับพลา | ให้พระเทวี |
อุทัยโฉมศรี | อยู่นอกพารา |
๘๑๖ ตั้งอยู่นอกเมือง | |
พระทองบุญเรือง | ให้คนรักษา |
เสด็จไปแต่องค์ | ตรงเข้าพารา |
ครั้นถึงบิดา | จึ่งบังคมพลัน |
๘๑๗ พระองค์กราบเกล้า | |
ทูลแก่พระเจ้า | บิดาทรงธรรม์ |
ข้าพระไปอยู่ | ด้วยนางเมียขวัญ |
เป็นเหตุอัศจรรย์ | นางนั้นมาตาย |
๘๑๘ เหตุด้วยแม่ค้า | |
มาปลูกเกศา | ให้นางวอดวาย |
ครั้นถ้วนเจ็ดวัน | ฉันนามาตาย |
ข้าพระฦๅสาย | จึ่งบวชหน้าไฟ |
๘๑๙ กายสุทธจึ่งถาม | |
พระแม่โฉมงาม | ถึงนางอุทัย |
เป็นไรไม่เห็น | นางน้องทรามวัย |
อุทัยไปไหน | ไม่มาเกริ่นกราย |
๘๒๐ พระแม่ถอนใจ | |
เจ้าจะว่าไป | ใจแม่จะขาดตาย |
ได้สี่เดือนแล้ว | ลูกแก้วมาหาย |
ลูกรักโฉมฉาย | หายไปแลนา |
๘๒๑ นางลงอาบน้ำ | |
สองเฒ่าเจ้ากรรม | ชักยนต์เรือมา |
ครั้นถึงฉวยได้ | พาไปเวหา |
แม่กินน้ำตา | ร้องไห้อยู่เบยเบย |
๘๒๒ แม่คิดว่าเจ้า | |
ใช้ให้สองเฒ่า | มารับทรามเชย |
หาไม่จริงแล้ว | ลูกแก้วทรามเชย |
ทำฉันใดเลย | แก่อกแม่อา |
๘๒๓ เจ้าอย่าอาลัย | |
แม่จะขอให้ใหม่ | ลูกไท้ลูกพญา |
ให้เหมือนอุทัย | นะแก้วแม่อา |
เจ้าอย่าโศกา | ร้องไห้ร่ำไร |
๘๒๔ ฝากแล้วฝากเล่า | |
เหมือนลมปากเปล่า | ให้นางหายไป |
เขาตีนางตาย | ถึงเมืองโพ้นไซร้ |
บุญนางทรามวัย | ข้าจึ่งได้มา |
๘๒๕ ให้เร่งเร็วไป | |
รับนางอุทัย | อยู่ในพลับพลา |
ทั้งแม่ทั้งพ่อ | ทั้งยายทั้งตา |
ผูกช้างผูกม้า | ปราบทั้งหนทาง |
๘๒๖ ราชวัติฉัตรธง | |
แผ้วถางให้ตรง | ถึงพลับพลานาง |
รีบแต่งจงสรรพ | รับนางเอวบาง |
ท้าวให้ผูกช้าง | กูบเงินกูบทอง |
๘๒๗ แตรสังข์อึงมี่ | |
ฆ้องกลองเป่าปี่ | รี้พลเนืองนอง |
ข้าสาวชาวแม่ | เถ้าแก่ก่ายกอง |
มารับนางทอง | ถึงป่าหิมวันต์ |
๘๒๘ ท่านท้าวทั้งสอง | |
เป็นเกี่ยวเป็นดอง | กับยายกาวัน |
ทั้งผัวทั้งเมีย | ขึ้นช้างด้วยกัน |
รี้พลทั้งนั้น | แห่ห้อมล้อมมา |
๘๒๙ ครั้นแลเห็นนาง | |
ลงจากหลังช้าง | สวมกอดฉายา |
คิดว่าตายแล้ว | ลูกแก้วแม่อา |
บุญเรานักหนา | จึ่งมาพบกัน |
๘๓๐ สองเฒ่ากำสรด | |
หัวอกระทด | ร้องไห้งกงัน |
กาวินพระทอง | ร้องไห้รำพัน |
เพียงม้วยอาสัญ | ด้วยนางเทวี |
๘๓๑ ไห้แล้วไห้เล่า | |
สวมกอดนงเยาว์ | ลูกแก้วโฉมศรี |
เจ้าละแม่แล้ว | ลูกแก้วมาหนี |
ลูกรักเทวี | ใครพาเจ้าไป |
๘๓๒ เล่าถึงความยาก | |
มิทันออกปาก | โศกาอาลัย |
โอ้พระทูนหัว | จนตัวบรรลัย |
มิใคร่เล่าได้ | ร้องไห้ไปพลาง |
๘๓๓ ทั้งนี้ฉันนา | |
ให้สองเฒ่ามา | ล่อลวงอำพราง |
เอาใส่เรือไป | ข้าไห้ครวญคราง |
เอาไปให้นาง | ฉันนาทำโพย |
๘๓๔ บ้างตบบ้างต่อย | |
ทำข้ายับย่อย | ว่าเป็นขโมย |
คร่าลูกขึ้นไป | เอาไม้ไล่โบย |
รุมกันทำโพย | เลือดย้อยลามไหล |
๘๓๕ ตีด้วยกระบอง | |
บ้างกดคอถอง | ข้าจึ่งตายไป |
มันเอาหวายมา | ผูกคอทรามวัย |
ให้ลากลงไป | ทิ้งน้ำจมหาย |
๘๓๖ ข้าไม่ถึงกรรม | |
มันลากลงน้ำ | ลอยปะหาดทราย |
เมื่อกรรมมิจน | พ้นที่เคยตาย |
วันนั้นพบยาย | เลี้ยงดูรักษา |
๘๓๗ แกต้มน้ำแล้ว | |
ประคบลูกแก้ว | จึ่งรอดตัวมา |
ครั้นข้าคลายแล้ว | จึ่งพบราชา |
อยู่ในวัดวา | มารับเอาไป |
๘๓๘ รับไว้กุฎี | |
สึกออกจากชี | ไปลาท้าวไท |
กัญจาธิราช | พระบาทจอมไตร |
ครั้นได้ฤกษ์ไชย | จึ่งพากันมา |
๘๓๙ ชวนกันร้องไห้ | |
ได้ยากเหลือใจ | ลูกแก้วแม่อา |
บุญเจ้ามาสบ | พบพระราชา |
จึ่งชวนกันมา | เห็นหน้าตายาย |
๘๔๐ โอ้พระลูกรัก | |
บุญเจ้ามากนัก | กว่าคนทั้งหลาย |
แก้วแม่รอดแล้ว | พ้นจากความตาย |
ทีนี้ตายาย | พึ่งบุญเทวี |
๘๔๑ จึ่งพระบิดา | |
ว่าแก่พังงา | ลูกรักโฉมศรี |
มาเราเข้าไป | ในพระบุรี |
เชิญพระเทวี | ขึ้นช้างกระโจมทอง |
๘๔๒ ขึ้นข้างวางมา | |
รี้พลถ้วนหน้า | วิ่งมาก่ายกอง |
ห้อมล้อมนางไป | ไสวเนืองนอง |
บัดเดียวพระทอง | ถึงพระพารา |
๘๔๓ การบภูบาล | |
มีพระโองการ | วิเสทซ้ายขวา |
ให้แต่งบายศรี | อันงามโสภา |
ทำขวัญฉายา | สะใภ้ภูมี |
๘๔๔ บายศรีงามสรรพ | |
แล้วสองสำรับ | ประดับงามดี |
ชั้นหนึ่งลายทอง | ลำยองมีศรี |
ชั้นสองรูจี | ด้วยแก้วประพาฬ |
๘๔๕ ชั้นสามนั้นเล่า | |
ประเสริฐเพริศเพรา | แสงแก้วชัชวาล |
เรืองรุ่งพุ่งพวย | สะสวยใดจะปาน |
ประดับอลงการ | ด้วยแก้วมณี |
๘๔๖ ชั้นสี่ลงมา | |
ล้วนแก้วมุกดา | ประไพใสศรี |
เป็นแสงระยับ | สรรพสวยรวยดี |
เฉิดฉันชั้นสี่ | งามดีเอาใจ |
๘๔๗ ประดับชั้นห้า | |
รัศมีโสภา | เห็นงามไสว |
แกะเป็นกระหนก | ผันผกขึ้นไป |
สร้อยสนอำไพ | แสงใสรัศมี |
๘๔๘ ถึงชั้นหกนั้น | |
เฉิดฉายพรายพรรณ | สีสันงามดี |
แก้วเพชรประดับ | รุ่งเรืองรูจี |
ประไพใสศรี | รัศมีชัชวาล |
๘๔๙ ครั้นถึงชั้นเจ็ด | |
งามล้ำสำเร็จ | ด้วยแก้วสูริย์กานต์ |
ประเสริฐเลิศแล้ว | ผ่องแผ้วใดจะปาน |
แสงแก้วชัชวาล | ทุกชั้นบายศรี |
๘๕๐ จานเงินจานทอง | |
จานแก้วลำยอง | เรืองรุ่งรูจี |
ล้ำเลิศเฉิดฉัน | ทุกชั้นบายศรี |
สารพันอันมี | ขนมนมเนย |
๘๕๑ สำเร็จเสร็จแล้ว | |
เมื่อนั้นพระแก้ว | การบทรามเชย |
ให้ยกเข้ามา | อย่าได้ช้าเลย |
แต่งทำตามเคย | แต่บูราณมา |
๘๕๒ ยังนางอุทัย | |
ให้ประดับไป | ด้วยพระภูษา |
ข้าสาวชาวแม่ | แห่ทั้งซ้ายขวา |
สมโภชฉายา | อุทัยจอมขวัญ |
๘๕๓ วันนี้วันดี | |
ฤกษ์งามนาที | ดีแล้วพญาวัน |
พ่อผัวแม่ผัว | นั่งอยู่พร้อมกัน |
รับมิ่งสิ่งขวัญ | อุทัยไฉยา |
๘๕๔ ขวัญข้าวเจ้าอยู่ | |
ขวัญนางโฉมตรู | อยู่บนเวหา |
เมื่อเฒ่าพาไป | ใส่เรือนาวา |
เชิญขวัญเจ้ามา | ดั่งเก่าคืนคง |
๘๕๕ เชิญขวัญลูกรัก | |
ขวัญนางจอมจักร | เมื่อตกน้ำลง |
ขวัญอยู่ป่าช้า | เชิญมาสมองค์ |
ขวัญอยู่กลางดง | เชิญจงเข้ามา |
๘๕๖ พ่อเชิญขวัญเจ้า | |
ขวัญนางหนุ่มเหน้า | ผจญฉันนา |
เมื่อตัวเจ้าตาย | ลอยในคงคา |
เชิญขวัญเจ้ามา | ดั่งเก่าใจปอง |
๘๕๗ เชิญขวัญเจ้ามา | |
ขวัญอยู่ตีนท่า | ที่ห้วยที่คลอง |
ขวัญอยู่คงคา | เชิญมาสมสอง |
ในธารห้วยหนอง | ที่ช่องน้ำไหล |
๘๕๘ ขวัญอยู่จอมผา | |
อยู่ปลายพฤกษา | อย่าช้ามาไว |
อยู่ที่ก้อนเส้า | เฝ้าอยู่เตาไฟ |
อย่าเที่ยวไปไกล | เชิญขวัญเจ้ามา |
๘๕๙ พ่อเชิญขวัญเจ้า | |
ขวัญอยู่จอมเขา | ในถ้ำคูหา |
อยู่จอมเขาเขียว | เที่ยวท่องไปมา |
เชิญขวัญกัลยา | สมนางอุทัย |
๘๖๐ เชิญพระขวัญเอย | |
อย่าได้ไปเลย | ชมสัตว์ในไพร |
เสือสีห์แรดช้าง | ขวัญนางตกใจ |
เชิญขวัญทรามวัย | กลับยังพารา |
๘๖๑ พ่อเชิญขวัญเจ้า | |
ขวัญนางนงเยาว์ | เฝ้าอยู่คงคา |
ชมพรรณเงือกงู | ราหูกุ้งปลา |
เชิญพระขวัญมา | อย่าช้าจงพลัน |
๘๖๒ เชิญขวัญเทวี | |
มาชมบายศรี | มีอยู่เรียงรัน |
พระญาติแห่ห้อม | นั่งล้อมพร้อมกัน |
เรียกมิ่งเชิญขวัญ | เอววัลย์อุทัย |
๘๖๓ ครั้นทำขวัญแล้ว | |
เมื่อนั้นพระแก้ว | การบทรงไชย |
สมโภชลูกรัก | มาแต่เมืองไกล |
นักเลงเพลงใน | ละครเทพทอง |
๘๖๔ บ้างดีดกระจับปี่ | |
รับกับมโหรี | สีซอขับร้อง |
มีทั้งโรงหนัง | คนรำทำนอง |
ฝูงคนก่ายกอง | ตามดูไปมา |
๘๖๕ ครั้นทำขวัญแล้ว | |
อภิเษกลูกแก้ว | แทนพระบิดา |
จึ่งเวนพระนคร | แก่สองพังงา |
นางราชกัญญา | ข้าไทเงินทอง |
๘๖๖ สิบสองพระคลัง | |
ข้าสาวสะพรั่ง | มากมายเนืองนอง |
รี้พลโยธา | เสนาก่ายกอง |
เสร็จแล้วพระทอง | ให้พรสองศรี |
๘๖๗ แขกเมืองมาไหว้ | |
เงินทองดอกไม้ | ก่ายกองมากมี |
ฝาหรั่งวิลันดา | คุลาตานี |
ลาวขอมมากมี | พม่าเมงมอญ |
๘๖๘ จีนจามพราหมณเทศ | |
ฝาหรั่งวิเสท | ทุกกรุงพระนคร |
ชวนกันปรีดา | เข้ามาสลอน |
เมืองขึ้นภูธร | มากมายเหลือตรา |
๘๖๙ ขออายุเจ้า | |
ยืนจงแก่เฒ่า | ได้พันพระวษา |
จงอยู่เสวยราชย์ | กับนาฏฉายา |
ครองราษฎ์ประชา | โรคาอย่าพาน |
๘๗๐ ขอมีเดชะ | |
เดโชตะบะ | ปราบทั่วสงสาร |
ศัตรูแพ้พ่าย | อย่าได้มาพาน |
ผู้ใดกล้าหาญ | แพ้ภัยหน่ายหนี |
๘๗๑ ท้าวผู้เสวยราช | |
ครองเมืองพระบาท | บ่ได้ราคี |
ท้าวจึ่งให้ทาน | คนยากบ่มี |
ทั่วทั้งบุรี | เมืองพระภูธร ๚ะ |
ยานี
๘๗๒ ท่านให้ตีฆ้องป่าว | ทุกแดนด้าวขึ้นภูบาล |
ให้เร่งมาอย่านาน | บอกฝูงราษฎร์ประชาชน |
๘๗๓ บ้านนอกแลขอกนา | ให้เร่งมาทุกตำบล |
ตามคำพระจุมพล | ท้าวตรัสสั่งมิทันนาน |
๘๗๔ ให้ป่าวทุกตำบล | ตามจุมพลมีโองการ |
รอบเมืองพระภูบาล | ตามโองการกูตรัสไป |
๘๗๕ ครั้นรู้แล้วทั่วกัน | ว่าทรงธรรม์พระจอมไตร |
กับนางผู้ทรามวัย | ท้าวป่าวให้ไปรับทาน |
๘๗๖ ท่านท้าวจึ่งตรัสสั่ง | หมู่ชาววังให้ตั้งการ |
ทำเป็นศาลาทาน | สำเร็จแล้วดังจำนง |
๘๗๗ วาดเขียนสิ้นทุกห้อง | แกมด้วยทองงามบรรจง |
ครั้นแล้วจึ่งพระองค์ | แต่งให้คนอยู่รักษา |
๘๗๘ เงินทองขนออกไป | กองไว้ในที่ศาลา |
คนยากนั้นเข้ามา | แต่งเลี้ยงไว้จึ่งให้ทาน |
๘๗๙ ครั้งนั้นเกิดมั่งมี | ได้เป็นดีเพราะภูบาล |
พระองค์เจ้าให้ทาน | ปรากฏไปทั่วทิศา |
๘๘๐ ฟุ้งเฟื่องฦๅปรากฏ | ในโสฬสกรุงพารา |
ฝูงคนเกลื่อนกล่นมา | ด้วยเจ้าฟ้าบำเพ็งทาน |
๘๘๑ แผ่นดินก็ไหวหวั่น | ฟ้าก็ลั่นทุกสถาน |
เดชะสมภารท่าน | อัศจรรย์ถึงนาคา |
๘๘๒ พระสมุทรก็เป็นฟอง | ลั่นกึกก้องในเวหา |
ดาวดึงส์แลพรหมา | ทุกชั้นฟ้าก็หวั่นไหว |
๘๘๓ เทวาจึ่งให้พร | แก่บังอรสองทรามวัย |
ทั้งสองครองกันไป | โรคแลภัยอย่ามาพาน |
๘๘๔ พระองค์จงได้ตรัส | ได้โปรดสัตว์ในสงสาร |
เดชะพระสมภาร | สร้างมานานตามรักษา |
๘๘๕ เจ้าสุทธกุมาร | กับนงคราญงามโสภา |
สุขเกษมเปรมปรีดา | ยืดยาวมาได้ช้านาน |
๘๘๖ บิดาแลมารดา | ม้วยมรณาถึงแก่กาล |
เมื่อนั้นพระภูบาล | ปลงศพท้าวเจ้าจอมไตร |
๘๘๗ ส่วนพระบิดาโสด | สิริสุทโธทน์แลท้าวไท |
มารดานั้นเล่าไซร้ | พระสิริมหามายา |
๘๘๘ กายสุทธกุมาร | ครั้นสิ้นกาลม้วยมรณา |
กลับชาตินั้นคืนมา | คือสิทธารถราชกุมาร |
๘๘๙ นางนาฏผู้ทรามวัย | นางอุทัยร่วมสงสาร |
กลับชาติแล้วบ่นาน | พระพิมพาสายสมร |
๘๙๐ กัญจาผู้นเรนทร์ | อานนท์เถรงามบวร |
นางนาฏสายสมร | อันดับท้าวผู้ทรามวัย |
๘๙๑ ครั้นกลับชาติมาแล้ว | ไคลคลาดแคล้วจากภพไป |
เสวยทิพย์สมบัติใน | วิมานฟ้าอันอุดม |
๘๙๒ นางฟ้าได้ถึงหมื่น | งามช้อยชื่นน่าพึงชม |
อ้อนแอ้นลำเอวกลม | นั่งห้อมล้อมท้าวเทวา |
๘๙๓ นางสวรรค์บำเรอกล่อม | มาแห่ห้อมทั้งซ้ายขวา |
ฝูงเทพเทวา | สาวน้อยน้อยงามสะคราญ |
๘๙๔ ทั้งนี้เกิดด้วยบุญ | อันเพิ่มพูนสร้างสมภาร |
ขับกล่อมพระภูบาล | ในสวรรค์วิมานทอง ๚ะ |
[๑] สัมผัสไม่ส่งกับบทต่อไป
[๒] สัมผัสไม่ส่งกับบทต่อไป
[๓] ตั้งแต่บทที่ ๔๓๘-๔๖๕ ไม่มีในเอกสารเลขที่ ๑๖๔ น่าจะแต่งเพิ่มขึ้นภายหลัง
[๔] สัดจอน = สัดจอง
[๕] ตั้งแต่บทที่ ๖๑๘-๖๒๘ ไม่มีในเอกสารเลขที่ ๑๖๔ แต่ปรากฏในเอกสารเลขที่ ๑๖๓ เข้าใจว่าน่าจะแต่งเพิ่มขึ้นภายหลัง
[๖] เอกสารเลขที่ ๑๖๓ ว่า “ห้าร้อยตำลึงทอง”