นางอุทัยกลอนสวด

สุรางคนางค์

จะกล่าวตำนาน
เรื่องราวนิทาน นานแล้วลับไป
ยังมีนาคา ครองพระเวียงไชย
รี้พลมากมาย เป็นจอมบาดาล
มีปราสาทแก้ว
ประเสริฐเพริศแพร้ว เปรียบดังวิมาน
ข้าสาวอเนก มากมายครามครัน
ห้อมล้อมจอมธรรม์ ขับกล่อมราชา
มีนางมเหสี
ทรงกัลยาณี มีศรีโสภา
นามกรแห่งนาง ชื่อวิมาลา
ครองสนมซ้ายขวา ใครจะเปรียบถึงสอง
นางมีธิดา
รูปทรงโสภา เป็นนวลละออง
รูปรวยแสล้ม แก้มคือปรางทอง
พระกรทั้งสอง ดั่งงวงไอยรา
ท้าวผู้ทรงศักดิ์
ให้ชื่อลูกรัก ตามวงศ์ราชา
ให้ชื่อลูกแก้ว ตามเรียงมารดา
ชื่อสมุทมาลา อ้อนแอ้นเอวกลม
รูปคือเทวา
มีศรีโสภา น่ารักน่าชม
ใครจะเปรียบถึงสอง ลำยองงามสม
พิศดน่าชม งามทั้วกายา
รูปทรงนางนาฏ
อย่างแกล้งแต่งวาด พิจิตรรจนา
เอวกลมนมพวง ดวงพักตร์โสภา
ฝูงนางนาคา บ่เปรียบเทวี
โฉมยงนงลักษณ์
งามจริงยิ่งนัก วรลักษณ์มีศรี
เพราเพริศเฉิดฉาย ได้สิบห้าปี
นางนาฏเทวี ลาพระบิดร
นางแก้วทรามวัย
แปรปรวนป่วนใจ พระทัยเดือดร้อน
โศกเศร้าหมองศรี เทวีบังอร
เพลาเข้านอน เดือดร้อนภายใน
๑๐ ไฟราคเผาผลาญ
แห่งนางนงคราญ ดาลเดือดพระทัย
เจ้าทำมารยา ลาพระจอมไตร
เล่ห์กลทรามวัย ลาพระภูธร
๑๑ ลูกน้อยขอลา
พระราชบิดา ทั้งพระมารดร
จะไปจำศีล ในแผ่นดินดอน
ลาพระภูธร จะไปจำศีล
๑๒ พระพ่อได้ฟัง
ลูกน้อยร้อยชั่ง อกพ่อเฉียวฉิน
จะลาพ่อไป พ่อไม่ฟังยิน
เจ้าไปจำศีล ไกลพระพันปี
๑๓ เจ้าอย่าไปไกล
ลูกรักทรามวัย พระทองมารศรี
เจ้าลาพ่อไป พ่อไม่ไยดี
เกลือกสัตว์จะราวี ลูกน้อยพังงา
๑๔ ถ้าว่าพบครุฑ
มันจะสัประยุทธ ด้วยลูกเสนหา
พ่อนี้เป็นชาย ยังกลัวครุฑา
ลูกรักพ่ออา ฉายาอย่าไป
๑๕ นางนาฏฉายา
ได้ฟังบิดา น้ำตาหลั่งไหล
ลูกน้อยขอลา จำศีลในไพร
เจ็ดราตรีไซร้ ลูกรักจักมา
๑๖ พระพ่อได้ฟัง
ลูกน้อยร้อยชั่ง ตามใจพังงา
ลูกแก้วพ่อไป อย่าได้อยู่ช้า
ธำมรงค์ภูษา เอาสนใจไป
๑๗ แหวนแก้วลูกนี้
ลูกรักมารศรี จะนึกสิ่งใด
เครื่องโภชนา เงินทองข้าไท
นิรมิตเอาได้ ตามแต่ปรารถนา
๑๘ ครั้นนางลาแล้ว
รับเอาแหวนแก้ว คลาดแคล้วออกมา
ผ้ารัตกัมพล ของพระบิดา
นางเอาออกมา สำหรับบังอร
๑๙ ทักษิณสามรอบ
เคารพนบนอบ ลินลาบทจร
บัดเดียวชำแรก แทรกแผ่นดินดอน
ถึงฝั่งสาคร เล่นน้ำสำราญ
๒๐ แปลงเพศเป็นงู
ว่ายน้ำวางวู่ แล้วเลิกพังพาน
ทำอิทธิฤทธา สูงเท่าลำตาล
เล่นน้ำฉ่าฉาน ลอยล่องไปมา
๒๑ สมความคิดแล้ว
นางทองน้องแก้ว นิรมิตศาลา
ครั้นเล่นน้ำแล้ว นางแก้วขึ้นมา
อยู่ในศาลา เป็นสุขสำราญ
๒๒ ยังมีเทวา
เจ้าไพรพฤกษา เข้ามาเกี้ยวพาน
พูดจาปราศรัย ด้วยนางนงคราญ
กล่าวเกลี้ยงเสียงหวาน ด้วยนางเอววัลย์
๒๓ โอ้นางนาคี
ลำยองผ่องศรี นางน้องจอมขวัญ
เป็นนวลแสล้ม แก้มคือลูกจัน
เนื้ออ่อนผ่อนผัน เอ็นดูพี่รา
๒๔ พิศดูนวลนาง
อ้อนแอ้นเอวบาง มีศรีโสภา
อิงแอบแนบชม บีบนมซ้ายขวา
กอดแก้วกัลยา ผ่านฟ้าเชยชม
๒๕ นางตื่นขึ้นมา
แลเห็นเทวา รูปงามอุดม
นางพิศแลดู เป็นครู่งามสม
นางทองเอวกลม กล่าวคำมารยา
๒๖ นางจึ่งว่าไป
เจ้าเข้ามาไย ที่ในศาลา
พระมาถูกต้อง หยอกน้องไยนา
ข่มเหงยื้อคร่า ดังว่าข้าไท
๒๗ พี่ไม่ยื้อคร่า
เล้าโลมเจรจา กล่าวเกลี้ยงปราศรัย
เอ็นดูพี่บ้าง นางปลื้มอาลัย
เอออวยรวยให้ เถิดนะเทวี
๒๘ พี่ตั้งใจมา
ร่วมรักเสนหา ด้วยนางมารศรี
ว่าพลางฉวยผ้า คว้ามือเทวี
เจ้ายอดมารศรี หนีพี่ไปไย
๒๙ พระเอยอย่าต้อง
มาเล่นด้วยน้อง ข้าไม่ปราศรัย
ตัวน้องเป็นหญิง สิ่งนี้อายใจ
นางเร่งผลักไส เชิญไปเถิดรา
๓๐ จึ่งนางบังอร
วัดแว้งภูธร ผลักมือซ้ายขวา
พระเอยอย่าต้อง วางน้องเสียรา
แสนงอนค้อนตา ให้พระทรามเชย
๓๑ สิ่งนี้อายนัก
โฉมยงทรงศักดิ์ อย่าควรเกินเลย
ว่าพลางฉวยผ้า คว้านางทรามเชย
โอ้แก้วพี่เอย เจ้าอย่าครวญคราง
๓๒ ภิรมย์ชมน้อง
บีบนมสมสอง นางน้องเอวบาง
อุ้มขึ้นใส่ตัก พระเคล้าคลึงนาง
พระองค์บ่วาง อรนุชนาคา
๓๓ จูบแก้มจูบเกศ
พระองค์ทรงเดช หอมรสมาลา
หอมฟุ้งฉุนเฉียว กลิ่นดังบุษบา
จูบซ้ายย้ายขวา ท้าวน้องทรามวัย
๓๔ กระหวัดรัดน้อง
ดังแก้วแกมทอง เรืองรองสุกใส
คล้อยเคลื่อนเกลื่อนกลุ้ม คลุ้มในพระท้ย
สำราญบานใจ ด้วยน้องฉายา
๓๕ เอวบางร่างรัด
เต้าเต่งเคร่งครัด ทั้งสองซ้ายขวา
กอดจูบลูบต้อง ทั่วทั้งกายา
หอมรสมาลา รวยรื่นชื่นใจ
๓๖ กอดน้องนอนแนบ
พระทรวงทับแทบ แอบองค์อรไท
สนิทชิดเชื้อ แนบเนื้อทรามวัย
แสนสนิทพิสมัย ชื้นในวิญญาณ์
๓๗ นางน้องขอโทษ
ผ่านฟ้าอย่าโกรธ โปรดเกล้าเกศา
จริตกระสัตรี ฉันนี้แลนา
โมโหโกรธา อย่าถือน้องเลย
๓๘ น้องได้ขัดขวาง
กลับกลอกนอกอย่าง บ้างแล้วทรามเชย
อดเสียเถิดรา ผ่านฟ้าข้าเอย
ตัวน้องมิเคย คดีเดียงสา
๓๙ น้องเอยเคยแล้ว
ลำยองผ่องแผ้ว แล้วดั่งปรารถนา
สำเร็จดังจิต คิดในวิญญาณ์
โอ้พระราชา จึ่งมาปรานี
๔๐ พระจึ่งว่าเล่า
นางน้องขวัญข้าว นางแก้วนารี
พี่รักนักหนา กัลยามีศรี
ว่าเจ้าเทวี พี่ไม่ถือเลย
๔๑ นางน้องได้ยิน
โฉมตรูภูมินทร์ ยินดีเสบย
เจ้าคลายโศกศัลย์ ไม่ป่วนปั่นเลย
นางน้องทรามเชย ชมพระราชา
๔๒ สมสู่คู่ครอง
เชยชมสมสอง ด้วยน้องพังงา
นางน้องเทวี มีศรีโสภา
อยู่ด้วยเทวา จนเจ้ามีครรภ์
๔๓ นางทรงครรภ์แก่
รำจวนปรวนแปร เป็นทุกขโศกศัลย์
เกลือกรู้ไปถึง บิดาทรงธรรม์
ว่าลูกมีครรภ์ ท่านจะฆ่าให้ตาย
๔๔ จะทำไฉน
จะพาท้องไป กลัวภัยฦๅสาย
ครั้นโกรธขึ้นมา จะฆ่าให้ตาย
คิดถึงโฉมฉาย อันอยู่ในครรภ์
๔๕ นางเมืองคิดแล้ว
สำรอกลูกแก้ว ออกมาด้วยพลัน
ออกมาเป็นไข่ ใจแม่กระศัลย์
เจ้าเอาจอมขวัญ ซ่อนไว้โดยจง
๔๖ ซ่อนริมคงคา
จึ่งเอาภูษา กับพระธำมรงค์
นางพิษฐานแล้ว จึ่งพ่นพิษลง
เหนือไข่บรรจง เกลือกสัตว์บีฑา
๔๗ แม้นสัตว์ตัวใด
คาบพาไข่ไป ให้ม้วยมรณา
เดชะพิษนาค กลุ้มทั่วกายา
ขอให้มรณา มอดม้วยฉิบหาย
๔๘ ข้าไหว้เทวา
ชั้นดาวดึงสา อีกทั้งพระพาย
ขอฝากลูกข้า อย่ามีอันตราย
เทวาทั้งหลาย ช่วยคุ้มรักษา
๔๙ ข้าไหว้พระพรหม
เลิศล้ำอุดม อยู่ในเวหา
ไหว้พระอินทร์เจ้า ปิ่นเกล้าโลกา
ช่วยคุ้มรักษา เทวาทั้งหลาย
๕๐ ข้าไหว้ฝูงผี
ลูกข้าไว้นี้ อย่าได้กล้ำกราย
ผีโป่งผีป่า อย่ามาแวดชาย
กระโหมดภูตพราย อย่าให้ประลัย
๕๑ ครั้นพิษฐานแล้ว
เมื่อนั้นนางแก้ว แทรกแผ่นดินไป
บัดเดียวลุถึง เมืองพระจอมไตร
เข้าไปกราบไหว้ พระราชบิดา
๕๒ เล่าให้พ่อฟัง
ข้าคิดใจหวัง อาบน้ำคงคา
แหวนพระธำมรงค์ ห่อชายภูษา
ครุฑาบินมา คาบพาเอาไป
๕๓ ลูกตกใจกลัว
โอ้พระทูนหัว ลูกจักบรรลัย
ข้าวิ่งลงน้ำ มันจับฉวยได้
พระพ่อข้าไหว้ ช่วยลูกด้วยรา
๕๔ นางแกล้งใส่ไคล้
เล่นชู้สบายใจ ใส่ความครุฑา
ว่าครุฑมันคาบ ธำมรงค์ภูษา
ลวงพระบิดา ให้เธอตกใจ
๕๕ จึ่งพระบิดา
สวมกอดฉายา ลูกรักทรามวัย
รับมิ่งสิ่งขวัญ เจ้าแม่ตกใจ
แต่นี้อย่าไป ลูกรักพ่ออา
๕๖ แหวนพระธำมรงค์
ภูษาบรรจง หายเสียไม่ว่า
จะเสียชีวิต นะแก้วพ่ออา
ตกใจนักหนา กำพร้าคนเดียว
๕๗ พระพ่อไม่รู้
ว่าลูกเล่นชู้ ที่ในไพรเขียว
แสร้งเพทุบาย แต่พ่อคนเดียว
ปัญญาเฉลียว ลวงพระบิดา
๕๘ แหวนแก้วธำมรงค์
ภูษาบรรจง ซ่อนไว้กลางป่า
เก็บไว้ให้ลูก แห่งนางฉายา
ลวงพระบิดา ว่าครุฑพาไป ๚ะ

ฉบัง

๕๙ เมื่อนั้นยังมีคางคก เต้นมายกยก
จะใคร่แสวงหาอาหาร
๖๐ มาสบพบไข่นงคราญ มุ่งหมายอาหาร
ทีนี้ประสบพบกู
๖๑ เห็นแล้วจึ่งเล็งแลดู เห็นผ้าปกอยู่
ขมํ้าก็กล้ำกลืนกิน
๖๒ ทั้งไข่ทั้งแหวนกินสิ้น โดยใจถวิล
ก็เต้นไปยังคงคา
๖๓ พิษนาคกลุ้มทั่วกายา บัดเดี๋ยวมรณา
คางคกก็มาบรรลัย
๖๔ เป็นคราบห่อไข่อยู่ใน ครั้นอยู่นานไป
ไข่นั้นก็ออกมาเป็นหญิง
๖๕ นีรมิตเป็นคนงามจริง ออกมาเป็นหญิง
รูปร่างงามจริงอย่างเขียน
๖๖ นิ้วมืองามคือลำเทียน งามยิ่งกว่าเขียน
ใครเลยจะเปรียบถึงสอง
๖๗ ผิวเนื้อเป็นนวลละออง ขาวใสใยยอง
เนื้อทองอันหมดราคี
๖๘ นีรมิตต้วน้อยมีศรี ซ่อนตัวเทวี
เข้าอยู่ในคราบคางคก
๖๙ งามจริงยิ่งกว่าทารก เอารูปคางคก
มาซ่อนตัวไว้ใครบ่เห็น
๗๐ คลานลงในน้ำว่ายเล่น นางนาคมักเย็น
ลงเล่นในน้ำคงคา
๗๑ นีรมิตข้าวน้ำโภชนา เดชะฤทธา
ภูษากับพระธำมรงค์
๗๒ กินแล้วจึ่งนางคลานลง ลอยล่องสระสรง
อรไทก็ว่ายไปมา ๚ะ

สุรางคนางค์

๗๓ เมื่อนั้นยังมี
สองเฒ่าบัดศรี ยากไร้นักหนา
เงินทองบ่มี สิ่งสินนานา
ไปเที่ยวสุ่มปลา มาขายเลี้ยงกัน
๗๔ ส่วนว่าสองเฒ่า
นามกรนั้นเล่า ชื่อยายกาวัน
เฒ่าเฒ่าสองคน ช่างได้ประสมกัน
ผัวยายกาวัน ชื่อตากุลโกฐาส
๗๕ เที่ยวสุ่มปลาขาย
ได้เช้าหางาย ทุกวันบ่ขาด
วันหนึ่งไปสุ่ม ได้ปลาทายาด
ตากุลโกฐาส ชื่นชมหฤหรรษ์
๗๖ ไปขายตลาด
ตากุลโกฐาส ดีใจใครจะทัน
ไปขายได้เบี้ย ผัวเมียเลี้ยงกัน
ซื้อข้าวมาพลัน สู่กันกินพลาง
๗๗ อยู่วันหนึ่งเล่า
สุ่มปลาแต่เช้า บ่ได้สักหาง
พบนางคางคก เข้าในชนาง
ยิ้มหัวเราะพลาง เทเสียทันใจ
๗๘ ช้อนทีหนึ่งเล่า
เข้ามาดังเก่า เฒ่าด่าจังไร
เมื่อกูสุ่มปลา มึงเข้ามาไย
คางคกจังไร เทเสียมินาน
๗๙ เฒ่าด่าเฒ่าแช่ง
มันให้แขนง เสียแรงป่วยการ
แต่เช้าจนคํ่า บ่ได้พบพาน
เสียแรงป่วยการ บ่ได้สักตัว
๘๐ ขึ้งโกรธนักหนา
คางคกตายห่า มันไม่รู้กลัว
จะตีให้ตาย อย่าให้เคยตัว
ทั้งเมียทั้งผัว ขึ้งโกรธคือไฟ
๘๑ ทำปากงาบงาบ
อยู่แต่ในคราบ ร้องว่าออกไป
ว่าท่านยายเอย ช่วยเลี้ยงข้าไว้
ตายายข้าไหว้ เลี้ยงไว้เอาบุญ
๘๒ ยึดไปเมื่อหน้า
ยายทูนหัวข้า ข้าจะแทนคุณ
พ่อแม่หาไม่ เลี้ยงไว้เอาบุญ
ข้าจะแทนคุณ หม่อมยายกับตา
๘๓ เมื่อนั้นสองเฒ่า
ได้ฟังคำเจ้า คางคกเจรจา
ทั้งเมียทั้งผัว มองหน้ามองตา
คางคกเจรจา เกิดมาไม่เคยเห็น
๘๔ มันรู้ภาษา
เพิ่งสอนเจรจา เลี้ยงไว้ชมเล่น
ให้อยู่เฝ้าเรือน แทนเราเช้าเย็น
ฟังเสียงพูดเล่น เมื่อยามเหนื่อยมา
๘๕ โกฐาสกาวัน
รับเอาหลานขวัญ ชื่นชมหรรษา
สองคนผัวเมีย พากันขึ้นมา
หัวเราะเริงร่า คืนมาเรือนตน
๘๖ คิดดูเห็นหลาก
คางคกตายซาก เจรจาเหมือนคน
ฤาให้คุณเรา สองเฒ่าฉงน
ฤาว่าจะพ้น ความจนแลนา
๘๗ ไม่รู้อาการ
ว่านางนงคราญ ลูกนางนาคา
เข้าอยู่ในนั้น เจรจาออกมา
เฒ่าทั้งสองรา บ่รู้อาการ
๘๘ ละเมอเอามา
เห็นรู้เจรจา คิดน่าสงสาร
ลอยอยู่ในน้ำ ถ้อยคำอ่อนหวาน
เรียกยายเรียกหลาน น่าคิดอนิจจา
๘๙ เอาขึ้นมาเรือน
เฒ่าจึ่งคลายเคลื่อน คลาไคลไปมา
เก็บผักมาต้ม กินต่างโภชนา
ทุกวันได้ปลา มาขายเลี้ยงตัว
๙๐ อดข้าวยังรุ่ง
เก็บแต่ผักบุ้ง กินทั้งเมียผัว
ตากุลโกฐาส ความยากพ้นตัว
ทั้งเมียทั้งผัว ได้เช้าหางาย ๚ะ

ยานี

๙๑ นางนาคอยู่ภายหลัง ทองร้อยชั่งคิดจินดา
นีรมิตโภชนา เครื่องปิ้งจี่อันตระการ
๙๒ เครื่องคั่วแลเครื่องเจียว ทั้งข้าวเหนียวแลของหวาน
ขนมอันตระการ แต่งใส่พานนางบรรจง
๙๓ กับข้าวทั้งคาวหวาน ข้าวใส่จานเบญจรงค์
ถาดใหญ่แต่งใส่ลง เต็มทั้งเรือนยายกาวัน
๙๔ นีรมิตทุกสิ่งสิ้น ทั้งของกินแต่งครบครัน
น้ำใช้ตักใส่ขัน กระบวยคันลอยลงใน
๙๕ นีรมิตสำเร็จแล้ว นางน้องแก้วคลานเข้าไป
ในคราบเคยอาศัย ใครบ่เห็นนางจอมขวัญ
๙๖ สองเฒ่าครั้นกลับมา ถึงเคหาเห็นอัศจรรย์
ใครหนอมาแกล้งสรรค์ ผิดประหลาดแล้วแลนา
๙๗ ฤๅหนึ่งพระอินทร์เจ้า เห็นว่าเราอดข้าวปลา
มาแต่งโภชนา เอาไว้ท่ามาคิดฉงน
๙๘ เร่งคิดผิดใจแล้ว ฤๅลูกแก้วแม่เป็นคน
เห็นแม่ได้ทุกข์ทน แต่งไว้ท่ากระมังนา
๙๙ จะว่านางคางคก แก้วแอบอกของแม่อา
เห็นแม่อดข้าวปลา แต่งไว้ท่าเราทั้งสอง
๑๐๐ ตายายทั้งสองรา ค่อยเจรจาแล้วเยี่ยมมอง
ตาเฒ่าลุกนั่งยอง แหวกช่องมองดูซ้ายขวา
๑๐๑ เดินแนบแอบเข้าไป แฝงตนไว้แลไปมา
ตกใจแลซ้ายขวา ถอยออกมาเป็นหลายหน
๑๐๒ เฒ่ายอบหมอบตัวลง จิตบ่ตรงละลานลน
ในจิตคิดฉงน เขาท่ากลกระมังหนา
๑๐๓ แต่ก่อนบ่ห่อนมี มาวันนี้หลากแก่ตา
เล็งแลแปรหน้ามา ขบฟันให้ยายกาวัน
๑๐๔ โบกมือให้ถอยหลัง เฒ่าจึงนั่งลงด้วยพลัน
ตกใจให้ตัวสั่น ดังแม่มดเมื่อผีลง
๑๐๕ หยุดยั้งเฒ่าชั่งใจ คลานเข้าไปได้โดยจง
ลุกขึ้นบ่ยืนตรง คว้าได้เล่าเฒ่าถอยหลัง
๑๐๖ คว้าได้ก็ใส่ปาก ด้วยความอยากเป็นกำลัง
กินพลางทางเหลียวหลัง พากันแล่นทั้งสองคน
๑๐๗ เฒ่าแล่นไปสุดแรง ปากคอแห้งตาเหลือกลน
แค้นคออะดักดล ร้องเรียกยายช่วยด้วยรา
๑๐๘ กาวันจึ่งเหลียวหลัง ค่อยหยุดยั้งด้วยปัญญา
หยุดก่อนเป็นไรนา ตาเจ้าอาอย่าเพ่อไป
๑๐๙ มากูจะไปดู ให้รู้แท้แน่แก่ใจ
ว่าแล้วจึงเข้าไป ค่อยเยี่ยมมองช่องประตู
๑๑๐ เข้าใกล้แลซ้ายขวา เฒ่ายืนง่าอยู่เป็นครู่
ค่อยเยี่ยมมองแลดู เฒ่าจึ่งรู้ด้วยปัญญา
๑๑๑ กาวันจึ่งเรียกผัว ตาอย่ากลัวเร่งเข้ามา
ชะรอยเทวดา ท่านมาโปรดเราทั้งสอง
๑๑๒ สองเฒ่าชวนกันกิน โดยถวิลคิดสมพอง
ฤๅว่าใครมาลอง เราทั้งสองเห็นผิดที
๑๑๓ กินแลัวจึงถามหลาน นางนงคราญมารศรี
น้ำไน่ไฟอัคคี ใครขอให้ได้มาทำ
๑๑๔ กระออมน่าก็ใหญ่ ใครตักให้เห็นผิดลา
ฤๅใครแกล้งมาทำ ให้แก่เจ้าบอกตามจริง
๑๑๕ จึงเล่าให้ยายฟัง ทองร้อยชั่งบอกทุกสิ่ง
หลานแต่งไว้ท่าจริง แต่นี้ไปอย่านึกเดา
๑๑๖ แต่นี้ไปเมื่อหน้า อย่าสุ่มปลาดุจดังเก่า
อยู่เรือนทุกค่ำเช้า หลานจะเลี้ยงยายสืบไป
๑๑๗ ยายเฒ่าคิดฉงน ชะรอยคนเข้าอยู่ใน
วันนี้อย่าไปไกล คอยจงได้จับเอาตน
๑๑๘ ไปซ่อนอยู่ที่ลับ คอยมองจับให้ชอบกล
ฉายาจึ่งขวายขวน ถอดรูปตนคลานออกมา
๑๑๙ นางทำเหมือนดังเก่า จึ่งสองเฒ่าเห็นฉายา
รูปนางงามรจนา คือนางฟ้ามาแต่สวรรค์
๑๒๐ สองเฒ่าแล่นเข้ามา ถึงฉายาร้องรับขวัญ
บุญเรามาพบกัน ชาติก่อนนั้นลูกของยาย
๑๒๑ แล่นไล่ตามลูกแก้ว ไม่ทันแล้วนางกลับกลาย
เข้าคราบแล่นหนียาย นางโฉมฉายหนีแม่ไป
๑๒๒ แล่นมานางแกล้งหนี ตัวเท่านี้รอดที่ไหน
ยกหลานมากอดไว้ ร่ำร้องไห้วอนไปมา
๑๒๓ วอนแล้ววอนอีกเล่า นางนงเยาว์ถอดเสียรา
คางคกรูปชั่วช้า เจ้าเอามาสวมไว้ไย
๑๒๔ อยู่เป็นคนดีกว่า ได้เห็นหน้าเพื่อนเข็ญใจ
เฒ่าวอนเท่าใดใด นางอรไทไม่ไยดี
๑๒๕ ตั้งแต่วันนั้นมา นางฉายาเลี้ยงสองศรี
สองเฒ่าก็ยินดี ทุกคํ่าเช้าเป็นอัตรา ๚ะ

สุรางคนางค์ พิลาป

๑๒๖ บทนี้ยกไว้
กล่าวถึงนางไท้ ผู้เป็นมารดา
แต่แม่แรกไข่ ซ่อนไว้กลางป่า
ลูกแก้วแม่อา ป่านนี้เป็นไฉน
๑๒๗ แม่กลัวบิดา
มิได้ไปหา ลูกรักทรามวัย
เป็นหญิงฤๅชาย บ่รู้กลใด
กูจะเที่ยวไป ให้รู้อาการ
๑๒๘ ว่าแล้วลินลา
แทรกแผ่นดินมา หาลูกสงสาร
แต่แม่จากแก้ว คลาดแคล้วมานาน
บ่ได้พบพาน ลูกรักแม่เอย
๑๒๙ เที่ยวหาลูกแก้ว
เห็นเงียบอยู่แล้ว แม่เรียกทรามเชย
แม่มาเที่ยวหา กำพร้าแม่เอย
บ่เห็นลูกเลย แม่จะขาดใจตาย
๑๓๐ นางเล็งแลหา
ในไพรพฤกษา ร้องไห้บ่วาย
ไม่เห็นลูกแล้ว นางแก้วใจหาย
แม่จะทำลาย ตายด้วยลูกยา
๑๓๑ อกช้ำแดงเดือด
น้ำตาคีอเลือด อาบหน้าฉายา
เที่ยวหาทั่วจบ บ่พบเลยนา
นางทรงโศกา กำพร้าแม่เอย
๑๓๒ ซังเซเร่หา
ไม่พบลูกยา น้ำตาบ่เสบย
มิพบลูกแล้ว นางแก้วทรามเชย
น้ำตาแม่เอย เร่งไหลออกมา
๑๓๓ ร้องไห้กลิ้งเกลือก
ทอดองค์ลงเสือก ในกลางแฝกคา
สองมือตีอก แล้วฟายน้ำตา
ลูกรักแม่อา กำพร้าแม่เอย
๑๓๔ ล้มแล้วลุกขึ้น
ร้องไห้สะอื้น ร่ำไรบ่เสบย
มิได้เห็นพักตร์ ลูกรักทรามเชย
ทำฉันใดเลย ลูกรักทรามวัย
๑๓๕ ฤๅหนึ่งเยียวกา
พานพบลูกยา คาบพาเอาไป
ฤๅครุฑกระลี อินทรีในไพร
เอาลูกมาให้ ข้าราพระเอย
๑๓๖ นางร้องไห้ร่ำ
หน้าเผือดเลือดช้ำ น้ำตาบ่เสบย
อยู่แห่งใดหนา กำพร้าทรามเชย
ทูนหัวแม่เอย ใครพาดรธาน
๑๓๗ แต่นี้เมือหน้า
แม่กินน้ำตา เป็นภักษาหาร
ตัวแม่ไปอยู่ ถึงเมืองบาดาล
ลูกรักสงสาร อยู่เหนือดินดอน
๑๓๘ มิพบลูกแก้ว
ลินลาศคลาดแคล้ว นางแก้วบทจร
ไคลคลาดยาตรา ถึงฝั่งสาคร
นางแก้วสายสมร แทรกพื้นดินไป ๚ะ

ฉบัง

๑๓๙ เมื่อนั้นจึ่งนางฉายา อยู่ด้วยยายตา
สองราเป็นสุขทุกวัน
๑๔๐ นีรมิตข้าวปลาครามครัน กินอยู่สบสรรพ์
สองเฒ่าได้พึ่งเทพี
๑๔๑ นางไม่ถอดรูปเทวี นางเมืองมีศรี
เข้าอยู่ในคราบคางคก[๑]
๑๔๒ อยู่มาวันหนึ่งอุโบสถ ฝูงคนปรากฏ
จะใคร่ให้มีเทศนา
๑๔๓ นางน้องได้ยินเขาว่า วอนยายกับตา
ว่าข้าจะไปฟังธรรม์
๑๔๔ ตาเฒ่าได้ฟังหุนหัน จะไปฟังธรรม์
จะนั่งที่ไหนไม่อาย
๑๔๕ เขาเกลียดเขาชังทั้งหลาย ดังฤๅไม่อาย
แลมึงจะขายหน้ากู
๑๔๖ รูปร่างเนื้อหนังหดหู่ กูน่าอดสู
พาอีขี้ร้ายมายา
๑๔๗ นางน้องร้องไห้ไปมา ยายเอ็นดูข้า
จงให้ลูกไปฟังธรรม์
๑๔๘ เมื่อนั้นจึ่งยายกาวัน ว่าแก่ผัวขวัญ
มันไปก็ตามปัญญา
๑๔๙ นางนาคได้ฟังยายว่า ชื่นชมหรรษา
จึ่งแต่งเมี่ยงหมากธูปเทียน ๚ะ

ยานี นางกราย

๑๕๐ ครั้นรุ่งวันพระนั้น นางจอมขวัญจะฟังธรรม์
นีรมิตผ้าแพรพรรณ ผ้าห่มนั้นปักด้วยทอง
๑๕๑ ธูปเทียนแลเมี่ยงหมาก เห็นงามหลากไม่มีสอง
ข้าสาวอยู่ก่ายกอง นั่งห้อมล้อมนางเทวี
๑๕๒ นางถอดรูปออกแล้ว นางน้องแก้วงามมีศรี
คือทองหมดราคี ศรีแสล้มงามพึงชม
๑๕๓ ผมเผ้าเฟื้อยเหนือบ่า เนื้อนมหน้างามอุดม
อ้อนแอ้นอรเอวกลม นวลละอองคือทองคำ
๑๕๔ นางเมืองเยื้องย่างเดิน เมื่อดำเนินดังจะรำ
แขนอ่อนอย่างระบำ เหมือนนางหงส์เมื่อลินลา
๑๕๕ ดวงหน้าคือวงเดือน สองแขนเหมือนงวงไอยรา
เต้านางทั้งซ้ายขวา คือบัวทองต้องติดใจ
๑๕๖ ผมดำคือแมงทับ พรรณระยับงามสุกใส
เสียงหวานอ่อนเอาใจ ว่าสิ่งไรเพราะทุกคำ
๑๕๗ สองเฒ่าเห็นรูปทรง เร่งพิศวงใจพสิกคว่ำ
นี่เรามาสิ้นกรรม เพราะหลานขวัญเราแลนา
๑๕๘ จึ่งให้นามกร หลานบังอรงามโสภา
คิดกันทั้งสองรา นางฉายาชื่ออุทัย
๑๕๙ ถอดรูปวันอาทิตย์ เห็นมิผิดแก่หัวใจ
แต่เช้างามสุกใส ชื่ออุทัยนางเทวี
๑๖๐ ครั้นนางแต่งตัวแล้ว นางน้องแก้วดำเนินศรี
ข้าสาวนั่งพัดวี ชูพานพระศรีห้อมล้อมไป
๑๖๑ ลางนางนุ่งผ้าปัก เห็นงามนักหน้าละไม
เมื่อย่างดำเนินใน แต่งแง่ให้ชายเชยชม
๑๖๒ ลางนางนุ่งผ้าแดง เห็นเป็นแสงงามอุดม
ผ้านางแต่งให้ห่ม แลดูนมเห็นรองรอง
๑๖๓ ลางนางนั้นเล่าไซร้ ห่มสไบปักลวดทอง
นุ่งผ้าเนื้อลำยอง เนื้อละเอียดหน้าเป็นใย
๑๖๔ ลางนางนุ่งผ้าปัก ห่มสะพักลายกิ่งไม้
ชายเห็นต้องติดใจ น่าใคร่ได้มากอดนอน
๑๖๕ ลางนางห่มเครือวัลย์ ผ้านุ่งนั้นลายเขียวอ่อน
ชายเห็นเป็นอาวรณ์ นางเนื้ออ่อนน่าเอ็นดู
๑๖๖ ลางนางนุ่งลายปัก ห่มสะพักสีมันปู
สาวน้อยน่าเอ็นดู น่าสมสู่เป็นเมียขวัญ
๑๖๗ ลางนางนุ่งงามนัก ห่มสะพักลายเครือวัลย์
ชายเห็นใจกระสัน จะใคร่ได้นางสายสมร
๑๖๘ วงหน้าคือพระจันทร์ สองคิ้วนั้นคือกงศร
เฉิดฉายปลายนมงอน นัยน์เนตรน้องคือตาทราย
๑๖๙ พระกรเจ้าทั้งสอง เมื่อเยื้องย่องทอดแขนกราย
อ้อนแอ้นสบตาชาย อ่อนละมุนทั่วทั้งตัว
๑๗๐ แห่ห้อมล้อมอุทัย เห็นไสวคือดอกบัว
เอวบางช่างแต่งตัว หมู่ข้าสาวห้อมล้อมไป
๑๗๑ สองเฒ่าแลลงมา สุดลูกตาเห็นไสว
ตามดูนางอุทัย ทั้งผัวเมียแล่นเสือกสน
๑๗๒ ครั้นถึงในอาราม สงฆ์ไถ่ถามแก่ฝูงคน
สาวน้อยงามชอบกล นางจรดลมาแต่ใด
๑๗๓ ลางคนวิ่งตามดู เห็นโฉมตรูละลานใจ
แป้งผัดทัดดอกไม้ หอมกลิ่นไปอยู่รวยรวย
๑๗๔ งามจริงยิ่งเทวา พิศดูหน้างามสะสวย
ข้าสาวรูปงามรวย ได้ชมเล่นเย็นในใจ
๑๗๕ แปลกหน้ามิรู้จัก จะใคร่ทักนางทรามวัย
เกลือกนางมิปราศรัย อดสูใจเป็นนักหนา
๑๗๖ ตาเถนแลยายชี ภิกขุณีทั้งสีกา
แลดูนางฉายา เณรร้องว่ามาแต่ไหน
๑๗๗ รูปร่างนางสาวน้อย คือทองย้อยงามสุกใส
ปักปิ่นแซมไม้ไหว หน้าเป็นใยงามโสภา
๑๗๘ นมงอนปลายช้อยชด ใจระทดด้วยฉายา
แป้งสดชะมดทา นมเต่งตั้งดังบัวทอง
๑๗๙ สองแก้มดังไข่ปอก นวลละลอกงามลำยอง
เนื้อเหลืองงามเรืองรอง วงคิ้วน้องสุดหางตา
๑๘๐ ขึ้นบนโรงธรรมแล้ว จุดเทียนแก้วด้วยศรัทธา
ปูผ้ากราบสามลา นางฉายาฟังเทศน์อยู่
๑๘๑ พระสงฆ์เทศนา ปากนั้นว่าตาแลดู
ผิดพลั้งยั้งเป็นครู่ ฝูงคนดูทั้งหญิงชาย ๚ะ

สุรางคนางค์

๑๘๒ บทนี้ยกไว้
จะกล่าวถึงไท้ การบราชา
ท้าวผู้เสวยราชย์ ในเมืองพารา
รี้พลช้างม้า เต็มทั้งเรือนหลวง
๑๘๓ มีนางมเหสี
เลิศล้ำนารี ครองสนมทั้งปวง
ข้าสาวชาวแม่ เต็มทั้งเรือนหลวง
เงินทองทั้งปวง อเนกมากมี
๑๘๔ พระราชกุมาร
แห่งนางนงคราญ ได้สิบหกปี
เป็นนวลละออง ลำยองมีศรี
นามกรภูมี กายสุทธกุมาร
๑๘๕ วันนั้นท่านท้าว
ได้ยินเขาป่าว รู้แล้วบ่นาน
จะใคร่ฟังธรรม เทศนาอาจารย์
จึ่งพระภูบาล สั่งแก่เสนา
๑๘๖ สั่งแล้วบ่นาน
เจ้าสุทธกุมาร จึ่งเสด็จลินลา
ไพร่ฟ้าข้าหลวง ทั้งปวงซ้ายขวา
แห่ห้อมล้อมมา เข้าในโรงธรรม์
๑๘๗ แลเห็นอุทัย
พิศวงหลงใหล ในใจกระสัน
เจ้างามประเสริฐ เลิศกว่าทั้งนั้น
พระน้องจอมขวัญ ลูกเต้าของใคร
๑๘๘ มีผัวฤๅยัง
นางทองร้อยชั่ง ท้าวน้องทรามวัย
แม้นว่ามีผัว จะกลัวอันใด
จะเอาให้ได้ ไม่ไว้ตัวเลย
๑๘๙ รูปงามพิจิตร
แม้นเสียชีวิต ไม่คิดตัวเลย
เที่ยวหาทุกเมือง ไม่มีเหมือนเลย
ทองทั้งตัวเอย จะได้เชยเมื่อไร
๑๙๐ ส่วนนางเอววัลย์
ค่อยนั่งฟังธรรม์ บ่ได้หวั่นไหว
นางเปลื้องภูษา อาภรณ์สไบ
รัดเกล้าแหวนใส่ บูชาพระธรรม์
๑๙๑ นีรมิตใหม่เล่า
งามยิ่งกว่าเก่า ลายทองเครือวัลย์
ครั้นถึงเวลา พอจบพระธรรม์
อุทัยจอมขวัญ กรวดน้ำพิษฐาน
๑๙๒ ครั้นว่าเสร็จแล้ว
อุทัยนางแก้ว ออกมาบ่นาน
ข้าสาวชาวแม่ แห่ห้อมนงคราญ
พระราชกุมาร แลดูอุทัย
๑๙๓ พระราชกุมาร
เห็นนางไปบ้าน ติดตามนางไป
ครั้นถึงเคหา เรือนนางอาศัย
มหาดเล็กคนใช้ แล่นไปพรั่งพรู
๑๙๔ เข้าล้อมเรือนไว้
สองเฒ่าตกใจ หน้าขาวเหมือนหนู
ส่งหลานมาให้ มหาดเล็กเข้าขู่
สองเฒ่าหดหู่ ตกใจนักหนา
๑๙๕ ส่วนนางอุทัย
เข้าในคราบได้ สอนยายกับตา
ใครล้อมเรือนไว้ ไสคอเสียรา
คนชั่วชาติข้า ชอบว่าให้ถอง
๑๙๖ ไปบอกแก่เจ้า
ถ้ารักหลานเรา ไปปลูกตะพานทอง
จะนับคณนา ร้อยห้าสิบห้อง
แล้วด้วยเครื่องทอง จนถึงเรือนเรา
๑๙๗ ถ้าว่าทำได้
จะส่งหลานให้ เป็นคู่คลึงเคล้า
แม้ว่ามิได้ ที่ไหนจะเอา
จะเก้อไปเปล่า อายใจโฉมงาม
๑๙๘ เห็นว่าเข็ญใจ
ล้อมเรือนตูไว้ ทำได้หยาบหยาม
เป็นเกี่ยวดองกัน ทำให้แต่งาม
อย่าทำวู่วาม จะชวดได้เมีย
๑๙๙ ไปทูลเจ้าฟ้า
ว่ายายกับตา โกรธคือไฟเลีย
แค้นใจนักหนา ขับตูข้าเสีย
ทั้งผัวทั้งเมีย ขับให้ไปทูล
๒๐๐ เขายิ้มหัวร่อ
ขี้ริ้วพันคอ พาลเฒ่าสถูล
ดังฤๅมาใช้ ให้เราไปทูล
ชีวิตจะสูญ ยังจะรู้ฤๅนา
๒๐๑ เขาจึ่งกลับไป
ทูลแก่ท้าวไท การบราชา
ว่าเฒ่าตัดพ้อ มากมายหนักหนา
แม้นรักหลานข้า จะมาเป็นเกี่ยวดอง
๒๐๒ ให้ปลูกปราสาท
อันงามโอภาส อีกทั้งตะพานทอง
แต่หัวบันได ร้อยห้าสิบห้อง
จนถึงเรือนน้อง อุทัยเทวี ๚ะ

ยานี

๒๐๓ บัดนั้นท้าวการบ ตบพระหัตถ์เร่งโกรธา
พลอดผิดอนิจจา ช่างข้อนว่าเป็นเกี่ยวดอง
๒๐๔ ตัวเตี้ยต่ำต่อตีน จะปีนข้ามภูเขาทอง
จะข้ามทะเลนอง มาคิดปองเอาดาวเดือน
๒๐๕ เมื่อตัวมันเป็นข้า อาจเจรจาใครจะเหมือน
โทษฆ่าเสียทั้งเรือน ใครจะเหมือนเฒ่าสองรา
๒๐๖ ไปปรึกษานครบาล อย่าได้นานผูกคอมา
ฟันเสียในป่าช้า ทั้งสองราอย่าทันนาน
๒๐๗ กาวินผู้เมียรัก จึ่งทูลทักนางทัดทาน
ฟันเสียไม่เข้าการ คนทั้งบ้านจะนินทา
๒๐๘ ขอลูกเขาไม่ให้ เอาโทษใส่ไม่เข้ายา
ฝูงคนจะฦๅชา ว่าคุมเหงไพร่พลเมือง
๒๐๙ คิดอ่านกันดีกว่า ไม่เห็นว่าจะแค้นเคือง
ให้ปลูกเป็นบ้านเมือง อันโตใหญ่จงทำตาม
๒๑๐ เรือนเฒ่าสองผัวเมีย กระท่อมเตี้ยเห็นมิงาม
ปลูกใหม่จึงทำตาม ทำจงงามแล้วด้วยทอง
๒๑๑ ให้เฒ่าปลูกแม่เรือน ให้งามเหมือนปราสาททอง
ดังจิตเราคิดปอง จงเฒ่าสองเร่งทำพลัน
๒๑๒ ให้ปลูกปราสาทแก้ว สำเร็จแล้วสิบห้าวัน
จะทำประกวดกัน ให้จงทันได้ฤกษ์ดี
๒๑๓ ปราสาทแลตะพาน ตกนักงานไว้ข้างนี้
ข้างโน้นทำจงดี เป็นปราสาทราชวัง
๒๑๔ ถ้าว่าสองเฒ่าแพ้ ชีวิตแล้โดยกูหวัง
ผูกคอไปนอกวัง ถึงป่าช้าจะฆ่าเสีย
๒๑๕ การบเห็นชอบแล้ว นางน้องแก้วผู้เป็นเมีย
ช่างคิดให้ฆ่าเสีย เฒ่าผัวเมียเห็นแพ้เรา
๒๑๖ การบเห็นชอบแล้ว คำเมียแก้วนางนงเยาว์
ให้สารถึงสองเฒ่า ตามคำเจ้ามีบัญชา
๒๑๗ โอ้โอะมิเป็นการ เห็นในสารท่านว่ามา
ชีวิตกูนี้นา เห็นมิช้าจะพลันตาย
๒๑๘ จะคิดประการใด อีจังไรทำวุ่นวาย
ตัวกูจะพลอยตาย อีขี้ร้ายมันเอาผัว
๒๑๙ กอดคอกันร้องไห้ น้ำตาไหลคิดถึงตัว
ตีอกแล้วชกหัว ตัวจะตายแล้วแลนา
๒๒๐ ฟังท่านตกเอาเรือน ใครจะเหมึอนอกกูอา
ท่านเป็นท้าวพญา สอนให้ว่าทุกสิ่งอัน
๒๒๑ กูนึกว่ามึงดี จะฝากผีฝากไข้กัน
มิรู้ว่าอาธรรม์ แกล้งทำกันฉันนี้นา
๒๒๒ มึงนิ่งอยู่ว่าไร จะทำใดก็ว่ามา
อย่าให้กูเวทนา ตูสองรามิรู้วาย
๒๒๓ ทำได้ฤๅมิได้ อีจังไรจะฉิบหาย
แต่งแง่อวดผู้ชาย เป็นต้นปลายเพราะมึงนา
๒๒๔ ตัวมึงตายทำเนา ตูสองเฒ่าต้องขื่อคา
จะต้องพระอาญา ม้วยมรณาทีนี้แล
๒๒๕ โอ้อกกูนี้นา รับอาญาเมื่อภายแก่
ใครเลยจะเหลียวแล ช่วยแก้ไขได้เล่าหนา
๒๒๖ โอ้ตัวกูนี้เล่า จะสูญเปล่าเห็นมิช้า
เที่ยงแท้แล้วแลนา ความตายมาถึงตัวกู
๒๒๗ สองเฒ่าร่ำร้องไห้ สลบไปแน่เป็นครู่
หายใจอยู่ฟูฟู บ่รู้สึกจะหางาย
๒๒๘ จึงเรียกหลานไปใหม่ อีอุทัยมึงดูดาย
จะละให้กูตาย อีขี้ร้ายไม่นำพา
๒๒๙ เมื่อนั้นนางอุทัย กลั้นมิได้ร้องว่ามา
จะปลูกเมื่อไรนา ให้เร่งมาทำแข่งกัน
๒๓๐ ใช้ให้คนไปป่า ตัดไม้มาขมีขมัน
พรุ่งนี้จะแข่งกัน ใครไม่ทันทำฉันใด
๒๓๑ ถ้าว่าข้างนี้แพ้ ชีวิตแลอย่าได้ไว้
ฟันเสียให้บรรลัย เพราะว่าแพ้แก่ชายจริง
๒๓๒ ถ้าว่าข้างผู้ชาย รี้พลหลายแพ้ผู้หญิง
แม้ว่าจะทำจริง เห็นว่าหญิงเร็วกว่าชาย
๒๓๓ สองเฒ่าจึ่งดีใจ ยกมือไหว้นางโฉมฉาย
เจ้ายกน้ำหน้ายาย เห็นมิอายแก่คนเลย
๒๓๔ สองเฒ่าจึ่งร้องว่า หมู่เสนาบอกหลานเขย
อย่าช้ากว่านั้นเลย พรุ่งนี้เหวยปลูกเรือนพลัน
๒๓๕ อำมาตย์จึ่งกลับไป ทูลท้าวไทพระทรงธรรม์
บอกว่ายายกาวัน ปลูกเรือนพลันพรุ่งนี้นา
๒๓๖ พญามาฉงน มันได้คนที่ไหนมา
บอกว่าใช้ไปป่า ดูน้ำหน้ามันพรุ่งนี้ ๚ะ

ฉบัง

๒๓๗ ครั้นค่ำเที่ยงคืนราตรี อุทัยเทวี
นีรมิตปรางค์ปราสาทไชย
๒๓๘ มุขทองแกมแก้วสุกใส เห็นงามประไพ
ใครเลยจะเทียบถึงสอง
๒๓๙ เสามุมนั้นย่อมด้วยทอง หน้าต่างเรืองรอง
ประดับด้วยแก้วรจนา
๒๔๐ แลเห็นสูงสุดลูกตา เติบใหญ่มหึมา
แลเห็นก็งามรุ่งเรือง
๒๔๑ ข้าสาวชาวแม่นองเนือง ห้อมล้อมนางเมือง
ขับกล่อมนางแก้วเทวี
๒๔๒ มโหรทึกกึกก้องดนตรี ฆาตกลองเภรี
ไพรเพราะเสนาะนักหนา
๒๔๓ สองเฒ่าจึ่งตื่นขึ้นมา ตกใจนักหนา
แลเห็นเคหาเรืองรอง
๒๔๔ ชะรอยบุญเราทั้งสอง อุทัยลำยอง
ทำแข่งด้วยท้าวการบ
๒๔๕ หลานเรานึกเอาได้ครบ ท่านท้าวการบ
ก็แพ้แก่หลานเราจริง
๒๔๖ น่าอายเป็นชายแพ้หญิง เห็นหลากจริงจริง
ทีนี้ตกนักงานยาย
๒๔๗ เมื่อนั้นจึ่งพระฦๅสาย แต่เช้าก่อนงาย
ท้าวเสด็จนั่งบนเกย ๚ะ

สุรางคนางค์

๒๔๘ ท้าวเล็งแลมา
เห็นหลากนักหนา จะว่าอันใด
สูงสุดตามอง ย่อมทองสุกใส
เจดีย์ก็หาใช่ ทุกวันบ่เห็น
๒๔๙ ตากุลโกฐาส
เห็นผิดประหลาด ปลูกปราสาทเป็น
เข็ญใจไร้ทรัพย์ เป็นคนยากเย็น
ผู้คนไม่เห็น สงสัยใจเรา
๒๕๐ เรียกนางกาวิน
เมียรักภูมินทร์ ให้มาดูเอา
สิ่งไรไฉยา สูงกว่าของเรา
จะว่าสองเฒ่า เห็นผิดนักหนา
๒๕๑ สั่งให้ไปดู
แต่ล้วนชาวหมู่ แล่นพรูกันมา
ครั้นถึงแลเห็น ปราสาทรจนา
ย่อมทองโสภา แกมแก้วมณี
๒๕๒ เขาจึ่งทูลเล่า
ปราสาทสองเฒ่า อุทัยเทวี
ท่านท้าวตกใจ ไม่สมประดี
อีเฒ่าบัดสี ควรเราแพ้มัน
๒๕๓ เราให้สัญญา
เฒ่าทั้งสองรา ถ้าแพ้จะฟัน
เป็นท้าวพญา ควรมาแพ้มัน
คิดก่อนผ่อนผัน ให้เชิญตัวมา
๒๕๔ จึ่งสั่งสาวศรี
สูไปบัดนี้ เชิญยายกับตา
ไปบอกยายเจ้า ว่าเราให้หา
เชิญยายกับตา มานัดการงาน
๒๕๕ สาวใช้แล่นไป
นั่งลงกราบไหว้ กาวันบ่นาน
มีโองการใช้ ให้ยายไปสถาน
จะนัดการงาน แล้วจึ่งปลูกเรือน
๒๕๖ เฒ่าร้องตวาดให้
เห็นว่าเข็ญใจ ดูถูกใครจะเหมือน
ให้เราไปหา จะนัดปลูกเรือน
ดูถูกใครจะเหมือน ท่านเป็นพญา
๒๕๗ ขอลูกสาวท่าน
จะนัดการงาน ให้ต้องไปหา
เห็นผิดทำเนียม แต่บูราณมา
แต่งคำเจรจา เราไม่พอใจ
๒๕๘ เราเจ็บหัวเข่า
ชราแก่เฒ่า เราไม่ยักไป
งกงกวันวัน จะทันที่ไหน
น่าแค้นแน่นใจ กูไม่เคยเห็น
๒๕๙ เกิดมาอาภัพ
เห็นว่าน้อยทรัพย์ กลับมาว่าเล่น
มุสาวาทา เราว่าไม่เป็น
พูดเพราะหัวเราะเล่น เห็นน่าบัดศรี
๒๖๐ มั่งมีเหมือนกัน
ผ้าผ่อนแพรพรรณ เงินทองมากมี
เป็นเกี่ยวดองกัน ผ่อนผันแต่ดี
มาทำย่ำยี มิดีนักหนา
๒๖๑ แรกเริ่มเดิมที
ทรงธรรม์พันปี มีคำสัญญา
ยึดมาหายสิ้น ล่อลิ้นเจรจา
โอ้พระราชา คิดน่าอดสู
๒๖๒ แต่งกลวาจา
ถ้อยคำสัญญา ขันหมากรากพลู
ว่าแล้วหายไป พระไม่อดสู
ทีท่วงลวงกู การบราชา
๒๖๓ สัญญาแก่กัน
กลัวเราจะฟัน ทำนบนอบมา
จะนัดปลูกเรือน ให้คนมาหา
ข่มเหงเจรจา ไม่มาเกรงใจ
๒๖๔ เมื่อกูคิดมา
ต้องให้ไปหา อย่าเลยกูไม่ไป
กูเจ็บหัวเข่า เดินมิได้ไกล
ผูกช้างสารใหญ่ รับตูคนละตัว
๒๖๕ ให้ผูกช้างพลาย
รับท่านผู้ชาย ตาเฒ่าผู้ผัว
แล้วผูกช้างพัง รับยายอีกตัว
ทั้งเมียทั้งผัว จะไปด้วยกัน
๒๖๖ สาวศรีมาทูล
แก่พระนเรนทร์สูร ปิ่นเกล้าไอศวรรย์
จึงผูกช้างสาว สองตัวมาพลัน
รับยายกาวัน ตากุลโกฐาส
๒๖๗ สองเฒ่าแต่งตัว
ทั้งเมียทั้งผัว เคยนุ่งผ้าขาด
เฒ่าห่มชมพู ดูงามทายาด
ตากุลโกฐาส ขึ้นช้างล่อไป
๒๖๘ ขี่ช้างตามกัน
เห็นช้างชับมัน ร้องให้หยุดไว้
จะเดินดีกว่า ว่าช้างจังไร
ซับมันตัวใหญ่ โยกย้ายไปมา
๒๖๙ เคยขี่ช้างน้อย
คนตามเป็นร้อย แต่ก่อนโพ้นมา
ล่ำสันเติบใหญ่ สูงเพียงหลังคา
ตกมันเป็นบ้า แข้งขาโทงเทง
๒๗๐ ส่วนยายกาวัน
ตกใจตัวสั่น งกงันไปเอง
กูนึกว่าดี ขึ้นขี่โคลงเคลง
จะเดินไปเอง กูไม่ขี่เลย
๒๗๑ ส่วนว่าหม่อมตา
ขี่ช้างไปหน้า ถึงวังที่เขย
นั่งท่ากาวัน เดินมิทันเลย
ข้าเหนื่อยตาเหวย ละล้าละลัง
๒๗๒ เดินตามกันไป
ถึงท้องพระโรงไชย ระเสริดระสรัง
ปูสาดลาดพรม ให้สองเฒ่านั่ง
หมอนอิงพิงหลัง สองเฒ่าบ่นาน
๒๗๓ นั่งลงกราบไหว้
สมเด็จท้าวไท การบภูบาล
ท้าวจึ่งปราศรัย สองเฒ่าบ่นาน
เรานัดการงาน แล้วจึ่งปลูกเรือน
๒๗๔ สองเฒ่าตัดพ้อ
แรกเริ่มเดิมขอ ข้าได้ตักเตือน
ให้ทำสะพาน แล้วจึ่งปลูกเรียน
เร่งทำให้เหมือน เรือนเฒ่าสองรา
๒๗๕ ทำสะพานทอง
ร้อยห้าสิบห้อง จนถึงเคหา
ปลูกปราสาทแก้ว เลิศแล้วโสภา
เร่งเร็วอย่าช้า ให้ทันฤกษ์ดี
๒๗๖ ไหนว่าแข่งกัน
ใครแพ้จะฟัน ให้ม้วยเป็นผี
ถ้าว่าข้าแพ้ จะม้วยชีวี
หยักเหยาเซ้าซี้ ข้านี้ไม่เคย
๒๗๗ พญาอายใจ
สะท้อนถอนใจ พระทัยไม่เสบย
เพราะว่าผิดแล้ว จะโทษใครเลย
โอ้อกกูเอย แพ้แล้วแลนา
๒๗๘ ว่าแล้วกาวน
กราบลาทรงธรรม์ การบราชา
ท่านท้าวตรัสสั่ง เวียงวังคลังนา
เร่งรัดตรวจตรา อย่าช้าโดยหวัง
๒๗๙ ให้แต่งเกณฑ์แห่
ข้าสาวชาวแม่ เซ็งแซ่แตรสังข์
เป่าปี่ตีฆ้อง ดาบทองสะพรั่ง
โล่เขนดาบดั้ง หน้าหลังซ้ายขวา
๒๘๐ ให้แต่งคานหาม
ทั้งคู่ดูงาม หามยายกับตา
เชิญขึ้นนั่งใน หามไปเคหา
อภิรมกั้นมา ยายตาทั้งสอง
๒๘๑ นางสาวชาวใน
ให้แต่งตัวไว้ สไบริ้วทอง
นุ่งผ้าลายปัก สะพักลายทอง
แห่ห้อมทั้งสอง หม่อมยายหม่อมตา
๒๘๒ ทั้งพัชนี
อีกจามรศรี เครื่องสูงแห่มา
ข้าสาวชาวแม่ ทั้งซ้ายแลขวา
หม่อมยายหม่อมตา ไปกว่าจะถึงเรือน
๒๘๓ ชาวในรับสั่ง
ละล้าละลัง เร่งรัดตักเตือน
ตรวจตราครบครัน เร็วพลันใครจะเหมือน
ครั้นแล้วจึ่งเคลื่อน รับยายกับตา
๒๘๔ แห่ห้อมล้อมไป
ธงเทียวไสว ทั้งซ้ายทั้งขวา
ดุจพระพันปี มีพระบัญชา
รับยายกับตา ขึ้นสู่คานหาม
๒๘๕ ชาวพลหนุ่มหนุ่ม
ชวนกันเข้ากลุ้ม รุมกันเข้าหาม
หามผัวไปหน้า หามเมียไปตาม
คนดูไม่งาม แก่ตาเลยนา
๒๘๖ สองเฒ่ามิเคย
ขึ้นนั่งบ่เฉย เหลียวหลังเหลียวหน้า
งกงกงันงัน ผันซ้ายหันขวา
ตัวสั่นไปมา กว่าจะถึงเรือนตน ๚ะ

ฉบัง

๒๘๗ เมื่อนั้นการบราชา ตรัสสั่งเสนา
ทุกหมู่ทุกกรมมากมาย
๒๘๘ เกณฑ์ไว้ได้ห้าร้อยปลาย เร่งแจกกฎหมาย
ให้ป่าวไปทั่วอย่านาน
๒๘๙ บ้างเกณฑ์ให้ตัดกระดาน จะปลูกสะพาน
แลเสาปราสาทเรือนหลวง
๒๙๐ ไม้ไหล้เสร็จสรรพทั้งปวง ให้ทำการหลวง
แต่ล้วนคนงานทหาร
๒๙๑ เมื่อนั้นพระราชกุมาร บุตรพระภูบาล
ท่านท้าวการบเจ้าเมือง
๒๙๒ จึ่งทรงพิษฐานเนืองเนือง เทวาเสื้อเมือง
พระอินทร์พระพรหมยมกาล
๒๙๓ เจ้าทรงสัจจาพิษฐาน เดชะสมภาร
ได้ตรัสเป็นพระมุนี
๒๙๔ โปรดสัตว์ในโลกโลกี เป็นพระชินศรี
อย่าให้ข้าอัปราชัย
๒๙๕ ถ้าคู่กันแล้วจริงไซร้ เทวาข้าไหว้
อย่าให้ข้าแพ้แก่หญิง
๒๙๖ ถ้าแม้มิคู่กันจริง ข้าว่าทุกสิ่ง
อย่าได้มาช่วยเลยนา
๒๙๗ บัดเดี๋ยวร้อนถึงอินทรา จึ่งเล็งแลมา
ก็เห็นเจ้าสุทธกุมาร
๒๙๘ พระอินทร์จึ่งรู้อาการ บัดเดี๋ยวบ่นาน
ก็ลงมาช่วยทันใจ
๒๙๙ นีรมิตสะพานนั้นไป แต่หัวบันได
จนถึงเรือนยายกับตา
๓๐๐ ครั้นรุ่งจึ่งพระราชา เห็นหลากนักหนา
ใครหนอมาทำสะพาน
๓๐๑ หลังคาหน้าต่างทุกประการ แสงแก้วประพาฬ
ประดับเป็นนาคนาคา
๓๐๒ พรายแพร้วด้วยแก้วจินดา ปราสาทโสภา
เห็นงามก็รุ่งเรืองฉาย
๓๐๓ ท้าวจึ่งรู้ด้วยแยบคาย เทวาทั้งหลาย
ท่านลงมาช่วยบัดดล
๓๐๔ โอ้อกกูนี้มิจน เห็นว่าจะพ้น
ความอายแก่เฒ่าทั้งสอง
๓๐๕ เทวามาช่วยคุ้มครอง เห็นเราทั้งสอง
เคยคู่กันแล้วก่อนมา
๓๐๖ สองเฒ่าเห็นหลากนักหนา หลานกับพญา
ฤทธาก็มีเสมอกัน
๓๐๗ พญาให้หากาวัน เมื่อแรกทำนั้น
มิบอกแก่เราว่าไร
๓๐๘ ถ้ารู้จะแข่งกันไป เห็นมิเป็นไร
บรางว่าแพ้แก่กัน
๓๐๙ ท้าวไทจะให้ทำขวัญ ลงโรงด้วยพลัน
ทรงธรรม์ให้แต่งบายศรี
๓๑๐ เจ็ดชั้นทำให้จงดี เพื่อนสาวมากมี
แห่ห้อมมาล้อมอยู่ไสว
๓๑๑ แต่งเครื่องเลี้ยงคนที่ไป ของดีทั้งไว้
จะเลี้ยงขุนนางทั้งหลาย ๚ะ

ยานี

๓๑๒ ครั้นว่าถึงวันดี พระภูมีแต่งตัวมา
กายสุทธพระราชา แห่ห้อมมางามไสว
๓๑๓ ลูกท้าวแลพญา แต่งตัวมาห้อมล้อมไป
ขันหมากพระทรามวัย เห็นประไพงามพอตา
๓๑๔ ขนมทุกสิ่งพรรณ เหล้าเข้มนั้นมากนักหนา
เป็ดไก่แลเนื้อพล่า พระราชาทำมงคล
๓๑๕ ขันหมากพระจอมปรางค์ ใส่หลังช้างด้วยบัดดล
มากมายมาเกลื่อนกล่น จะลงโรงพระราชา
๓๑๖ ผู้เฒ่าแลผู้แก่ ขึ้นช้างแห่ไปข้างหน้า
ทั้งหลายห้อมล้อมมา พระราชาขี่ช้างไป
๓๑๗ ถึงโรงพิธีแล้ว จึ่งพระแก้วเข้านั่งใน
เพื่อนบ่าวพระจอมไตร ล้อมท้าวไทพระราชา
๓๑๘ ส่วนว่านางอุทัย แต่งตัวไปงามโสภา
เพื่อนสาวเจ้าฉายา คือนางฟ้ามาแต่สวรรค์
๓๑๙ นีรมิตข้าสาวใช้ ขนของไปจะเลี้ยงกัน
ขนมทุกสิ่งพรรณ เครื่องต้นนั้นเลี้ยงราชา
๓๒๐ แต่งให้รี้พลกิน ขนมจีนใส่น้ำยา
ให้ทำแกล้มสุรา ขนออกมาบ่หวาดไหว
๓๒๑ เลี้ยงแล้วสิ้นทุกคน จึ่งให้ขนของกลับไป
มูลนายแลบ่าวไพร่ โซเซไปจนถึงเรือน[๒]
๓๒๒ บายศรีเอามาตั้ง ท้าวจึ่งสั่งให้จุดเทียน
แว่นแก้วเอามาเวียน ให้สองเจ้าเข้านั่งกลาง
๓๒๓ เวียนมาข้างเบื้องขวา คนเข้ามาพัดวีพลาง
จึ่งท้าวมานั่งกลาง นั่งเคียงข้างนางอุทัย
๓๒๔ ผู้เฒ่าจึ่งให้พร แก่บังอรสองทรามวัย
อายุจงยืนไป เสวยราชัยแทนราชา
๓๒๕ แขกเมืองเข้ามาไหว้ ถวายดอกไม้ทุกภาษา
ฝาหรั่งวิลันดา ทั้งคุลาแลเมงมอญ
๓๒๖ จีนจามทั้งพราหมณ์เทศ ของวิเสทมาสลอน
ดอกไม้แลเงินก้อน ทั้งหัวแหวนอันรจนา ๚ะ

สุรางคนางค์

๓๒๗ ครั้นทำขวัญแล้ว
เมื่อนั้นพระแก้ว จึ่งขับพลไป
ลูกขุนหัวเมือง ช้างม้าข้าไท
รี้พลไสว กลับคืนไปเมือง
๓๒๘ เมื่อนั้นภูบาล
อยู่ด้วยนงคราญ บ่ได้แค้นเคือง
เที่ยงคืนกระสัน คนหลับทั้งเมือง
จึ่งพระบุญเรือง กล่อมแก้วกัลยา
๓๒๙ อุ้มขึ้นเตียงทอง
สวมกอดนางน้อง ต้องนมซ้ายขวา
นางผลักพระหัตถ์ ท้าวรัดตรึงตรา
เล้าโลมไปมา เจ้าอย่าวุ่นวาย
๓๓๐ พระเอยอย่าต้อง
ตัวน้องจะร้อง จะชวดเปล่าดาย
ตัวน้องเป็นหญิง ย่อมกริ่งเกรงชาย
มาทำวุ่นวาย ฉันนี้มิเคย
๓๓๑ สิ่งนี้อายนัก
พระทองทรามรัก อย่าเพ่อก่อนเลย
ว่าพลางฉวยผ้า คว้ามือทรามเชย
โอ้แก้วพี่เอย เจ้าอย่ากลัวเกรง
๓๓๒ พระน้องฉายา
คือดังแก้วตา เจ้าอย่าครื้นเครง
แต่พี่กับเจ้า เรารู้กันเอง
เจ้าอย่ากลัวเกรง เลยนะฉายา
๓๓๓ จูบแก้มจูบเกศ
พระจูบอัคเรศ หอมรสมาลา
รวยรวยประทิ่น เหมือนกลิ่นจำปา
จูบแก้มซ้ายขวา ท้าวน้องอุทัย
๓๓๔ กอดไว้คลึงเคล้า
หอมกลิ่นองค์เจ้า รสเร้าเอาใจ
รวยรวยประทิ่น เหมือนกลิ่นอุทัย
หอมฟุ้งเอาใจ อบองค์พี่ยา
๓๓๕ พระเร่งรัดรึง
โลมเล้าเคล้าคลึง จึ่งทำมารยา
นางทองบุญฦๅ ผลักมือซ้ายขวา
เหลียวแลแปรมา ช้อยหางตาไป
๓๓๖ เอวบางร่างน้อย
ลำยองทองย้อย สร้อยฟ้ามาลัย
ใช่พี่ไม่รัก ผันพระพักตร่ไป
มิควรด้วยไย อุทัยไฉยา
๓๓๗ นางน้องก้มเกล้า
รับคำพระเจ้า ใส่เกล้าเกศา
ว่าพระโฉมฉิน ล่อลิ่นเจรจา
ได้แล้วก็ลา ร้างไว้ภายหลัง
๓๓๘ พี่ตั้งใจรัก
โฉมยงทรงศักดิ์ พี่ไม่เกลียดชัง
ยอดมิ่งกิ่งฟ้า เจ้าอย่าคิดหวัง
สาวน้อยร้อยชั่ง พี่ไม่ให้อาย
๓๓๙ รูปคือเทวา
หาในใต้ฟ้า ไม่เหมือนโฉมฉาย
พระนุชงามเพริศ เลิศสบใจชาย
พี่ตั้งใจหมาย รักแก้วเสนหา
๓๔๐ จูบเน้นเคล้นนม
กอดจูบลูบชม ภิรมย์วิญญาณ์
นอนแนบแอบองค์ ปลงในกามา
ชื่นชมเสนหา ในราตรีกาล
๓๔๑ กอดน้องนอนแนบ
พระทรวงทับแทบ แอบองค์นงคราญ
สนิทชิดชม ภิรมย์สงสาร
พึ่งแรกพบพาน รักสุดเสน่ห์เอย
๓๔๒ น้องได้ขัดขวาง
กลับกลอกนอกทาง บ้างแล้วทรามเชย
อดเสียเถิดหนา ผ่านฟ้าข้าเอย
เพราะน้องมิเคย คดีเดียงสา
๓๔๓ น้องได้ผลักไส
พ้อตัดวัดให้ ถูกไท้ราชา
รอยข่วนรอยเล็บ เจ็บพระกายา
โทษมีแก่ข้า อุทัยเทวี
๓๔๔ โอ้พระราชา
คิดดูเถิดรา มารยากระสัตรี
ครั้นอวยด้วยง่าย ชายไม่ว่าดี
นินทาย่ำยี มิดีพระเอย
๓๔๕ น้องได้ตัดพ้อ
ลำยองทองหล่อ โฉมงามทรามเชย
คิดมิรู้แล้ว พระแก้วข้าเอย
น้องไม่เสบย ทรงพระเมตตา
๓๔๖ น้องอวยด้วยแล้ว
พระทัยผ่องแผ้ว แล้วแต่ปรารถนา
สำเร็จดังจิต คิดในวิญญาณ์
โอ้พระราชา จงมาปรานี
๓๔๗ พระจึ่งว่าเล่า
นางน้องนงเยาว์ อุทัยเทวี
พี่รู้แล้วหนา มารยากระสัตรี
เจ้ายอดมารศรี น้องแก้วพี่อา
๓๔๘ พี่ไม่ถือน้อง
คิ้วต่อคอปล้อง น้องรักเสนหา
ไม่ถือเจ้าเลย ทรามเชยพี่อา
โมโหโกรธา อย่าว่าไปเลย
๓๔๙ อุทัยได้ยิน
โฉมตรูภูมินทร์ พระทองทรามเชย
คลายโศกศัลย์แล้ว ผ่องแผ้วเสบย
ภิรมย์ชมเชย ด้วยพระราชา
๓๕๐ สมสู่อยู่กิน
ด้วยพระภูมินทร์ เป็นช้านานมา
จึ่งขุดสระใหญ่ ที่ในพารา
ลงเล่นคงคา เป็นนิรันดร ๚ะ

สุรางคนางค์

๓๕๑ เมื่อนั้นยังมี
พาราบุรี อุโลมนคร
ท่านท้าวเจ้าเมือง ทรงพระนามกร
กัญจาภูธร ธิราชราชา
๓๕๒ มีนางมเหสี
อันดับภูมี ชื่อนางสนตรา
เสวยราชสมบัติ ในเมืองพารา
รี้พลช้างม้า ข้าไทเงินทอง
๓๕๓ บ้านนอกเมืองหน้า
ขึ้นแก่ราชา อเนกก่ายกอง
แขกเมืองส่วยไร่ ดอกไม้เงินทอง
ช้างม้าเนืองนอง เป็นส่วยอัตรา
๓๕๔ นางมีบุตรี
สาวน้อยมีศรี ชื่อนางฉันนา
ได้สิบห้าปี มีศรีโสภา
กายสุทธราชา ขอนางเทวี
๓๕๕ ให้ราชสารมา
ขอนางฉันนา แรกได้เจ็ดปี
แต่ยังไม่ได้ อุทัยเทวี
ครั้นว่าได้ดี ลืมนางฉันนา
๓๕๖ คิดว่าจะไป
เมื่อก่อนขอไว้ ยังมิได้ฉายา
รูปร่างใครจะเหมือน อุ่นเรือนเสนหา
แต่ต่ำใต้หล้า หาไหนจะมี
๓๕๗ จึ่งท้าวกัญจา
เห็นลูกพังงา ได้สิบห้าปี
จะเสกลูกแก้ว ให้เป็นมเหสี
ด้วยพระภูมี กายสุทธราชา
๓๕๘ การบภูบาล
วันนั้นให้สาร ขอนางฉายา
ลูกรักของเรา โดยใจปรารถนา
เหตุไรไม่มา ล่อลวงฤๅไฉน
๓๕๙ ถ้าว่าลวงล่อ
กูจะเห็นต่อ ยึดยาวกันไป
เป็นท้าวพญา เจรจาลวงใคร
ทำอย่างลูกไม้ ขอแล้วละเสีย
๓๖๐ น่าคิดอนิจจา
ให้สารนั้นมา เจรจาขอเมีย
ให้ปันกันแล้ว ควรฤๅมาละเสีย
ให้ไร้ผัวเมีย สิ้นคนทั้งเมือง
๓๖๑ ให้ราชสารมา
ตัดพ้อนักหนา เร่งโกรธแค้นเคือง
ทำให้เราได้อาย แก่ไพร่พลเมือง
ฝูงคนฦๅเลื่อง ทั่วทั้งพารา
๓๖๒ ครั้นเข้าถวายสาร
การบจึ่งอ่าน รู้ในสารตรา
วางสารลงไว้ หาลูกเข้ามา
กายสุทธพ่ออา พ่อว่ามิฟัง
๓๖๓ รบให้ขอเมีย
ะวางนางเสีย กลับมาเกลียดชัง
ได้ใหม่ลืมเก่า ใจเจ้าคิดหวัง
ฉันนาชิงชัง รักข้างอุทัย
๓๖๔ รูปร่างพอดี
ขืนมาเซ้าซี้ จำให้ข้าไป
เมื่อแรกไปขอ ยังมิได้อุทัย
จนละนางไว้ คนเดียวเอกา
๓๖๕ พระพ่อมิฟัง
แม้นว่าเกลียดชัง ตามกรรมเวรา
เจ้าไปอยู่ก่อน จึ่งค่อยผ่อนมา
ฟังคำพ่อว่า เจ้าอย่าน้อยใจ
๓๖๖ ท้าวจึ่งตอบสาร
มิช้ามินาน เดือนหน้าจะไป
แต่งการมงคล วิวาห์ไปใหม่
อรนุชสุดใจ ฉันนาเทวี
๓๖๗ แต่งช้างแต่งม้า
แพรพรรณผืนผ้า นับด้วยกุลี
มงกุฎอาภรณ์ แต่ล้วนของดี
สำหรับภูมี ท่านท้าวทรงธรรม์
๓๖๘ เสร็จแล้วบ่ช้า
รี้พลช้างม้า ตามมาแจจัน
มิใคร่จะไป ท้าวไททรงธรรม์
โศกาจาบัลย์ กันแสงร่ำไร ๚ะ

ยานี

๓๖๙ กอดแก้วแล้วร้องไห้ ชลเนตรไหลลงโซมองค์
กราบนบซบเกล้าลง เหนือตักท้าวผู้เป็นผัว
๓๗๐ นางเมืองร่ำร้องไห้ น้ำตาไหลลงโซมตัว
กราบลงกับตักผัว พระอยู่หัวของเมียเอย
๓๗๑ มิทันจะถึงปี พระสามีผู้ทรามเชย
เมียไห้อยู่เบยเบย แก้วเมียเอ๋ยกรรมเวรา
๓๗๒ อยู่ได้ไม่กี่วัน พระจอมขวัญของเมียอา
จะไห้ฟายนาตา แก้วกำพร้าเพื่อนเข็ญใจ
๓๗๓ ความรักยังมิวาย พระฦๅสายละเมียไว้
ตัดช่องแต่พอไป ละเมียไว้อยู่ภายหลัง
๓๗๔ ฝูงคนจะมุ่งหมาย ว่าหญิงร้ายผัวเกลียดชัง
กรรมอะไรมาแต่หลัง ทองร้อยชั่งจากเมียไป
๓๗๕ เมียไม่ทำให้ผิด แต่สักนิดเท่ายองใย
ควรฤๅมาจากไป ทิ้งเมียไว้ที่กลางหน
๓๗๖ อาภัพตัวเองไซร้ ขึ้นต้นไม้ไม่ถึงบน
ตั้งใจให้เป็นผล ไม่รอดชั่วด้วยพระเลย
๓๗๗ ตั้งแต่วันนี้ไป น้ำตาไหลบ่เสบย
กี่เดือนกี่ปีเลย จะไต้เชยพระจอมไตร
๓๗๘ แต่ก่อนเคยพรากพลัด ลูกสิงสัตว์อันใดใด
หนาเวรมาซัดให้ จึ่งมาได้เราสองรา
๓๗๙ แม่กาเลี้ยงกาเหว่า โดยตั้งเขาเล่าลือมา
ใช่ชาติเชื้อลูกกา กลับไปหากาเหว่าคืน
๓๘๐ ช้างแล่นอย่าฉุดหาง ผิดท่าทางไร้โหดหืน
ใช่ช้างจะหยุดยืน ยึดมิหยุดว่าทำเนา
๓๘๑ วัวลืมบ่กินหญ้า ไซร้ไยมาจะข่มเขา
ที่รักบ่รักเรา จะว่าเล่ามิยืดไป
๓๘๒ เจ้าสุทธกุมาร เห็นนงคราญให้ร่ำไร
จะไปมิใคร่ไป ขืนใจไปให้อางขนาง
๓๘๓ จึ่งโลมโฉมอุทัย อย่าร้องไห้ร่ำครวญคราง
พี่ไปเจ้าอยู่พลาง พี่จะกลับคืนมาหา
๓๘๔ มิไปก็จำไป ขัดมิได้เพราะวาจา
ได้ขอนางฉันนา ไว้ก่อนแล้วแก้วสงสาร
๓๘๕ ท่านท้าวกัญจาราช พ่อนางนาฏโกรธโองการ
ขอลูกร้างไว้นาน คิดไฉนจึ่งไม่มา
๓๘๖ จำให้พี่จากแก้ว วิบากแล้วแก้วพี่อา
จำใจจากไฉยา กินน้ำตาทุกเพรางาย
๓๘๗ ร้กน้องได้ด้วยยาก ความลำบากเพียงปางตาย
ฝูงเทพเจ้าทั้งหลาย ช่วยขวนขวายเอาใจปลง
๓๘๘ บุญเราได้สร้างแล้ว จึ่งได้แก้วมาแนบองค์
โดยใจพี่จำนง มารตัวร้ายมาริษยา
๓๘๙ คิดไปมิใคร่จาก อกจะครากด้วยพังงา
เจ้ากรรมนั้นตามมา ให้สองรามาพลัดกัน
๓๙๐ เร่งคิดเร่งขัดอก น้ำตาตกถึงเมียขวัญ
จะจากพรากพลัดกัน กับเอววัลย์น้ำตาไหล
๓๙๑ เร่งคิดอกจะหัก แต่นี้จักเห็นหน้าใคร
ใครจะเหมือนอุทัย เพื่อนเข็ญใจของเรียมอา
๓๙๒ กอดคอนางเข้าไว้ สะอื้นไห้ร่ำไปมา
น้ำเนตรอาบพักตรา แก้วกัลยาจะนานเห็น
๓๙๓ มิพอที่จะจาก กรรมวิบากมาจำเป็น
เวรกรรมมาทำเข็ญ ให้สองรามาพลัดกัน
๓๙๔ ดังฤๅมาจากข้า เมียเห็นหน้าอยู่ทุกวัน
แต่นี้จะไกลกัน สักกี่วันจะเห็นเลย
๓๙๕ พระองค์ไปมีเมีย ละข้าเสียนะทรามเชย
เพื่อนนอนของเมียเอย บาปใดเลยให้ไกลกัน
๓๙๖ เพื่อนกินพระขวัญข้าว ทุกค่ำเช้าเป็นนิรันดร์
ดังฤๅพระทรงธรรม์ จากอกเมียไปเสียไกล
๓๙๗ การบแลกาวิน ครั้นได้ยินก็ลุกไป
ปลอบโยนนางอุทัย อยู่ด้วยแม่อย่าโศกา ๚ะ

พิลาป

๓๙๘ ครั้นวายโศกแล้ว
เมื่อนั้นพระแก้ว ให้หาช่างทอง
จะหล่อรูปไป ให้เหมือนนางน้อง
ได้ชมรูปทอง ต่างน้องอุทัย
๓๙๙ ครั้นรุ่งขึ้นมา
จะได้เห็นหน้า พระน้องทรามวัย
จะชมรูปทอง ต่างน้องอุทัย
กลั้นน้ำตาไว้ กว่าจะได้กลับมา
๔๐๐ หล่อรูปหนึ่งเล่า
ให้เหมือนผัวเจ้า องค์ท้าวนี้นา
เอาไว้ให้นาง ชมต่างพี่ยา
ไว้ดูต่างหน้า เมื่อยามกระศัลย์
๔๐๑ คิดแล้วบ่นาน
จึ่งพระภูบาล หาช่างมาพลัน
หล่อรูปสองไท้ ทำให้เหมือนกัน
รูปองค์หนึ่งนั้น เหมือนพระราชา
๔๐๒ รูปหนึ่งเหมือนนาง
อุทัยเอวบาง ไปด้วยพี่ยา
รูปหนึ่งพี่ให้ อุทัยไฉยา
รูปพระราชา ไว้ให้นางชม
๔๐๓ จึ่งเอาภูษา
ของพระราชา ทั้งนุ่งทั้งห่ม
มานุ่งรูปทอง เร่งพิศเร่งชม
เหมือนพระเอวกลม ดั่งทองพิมพ์เดียว
๔๐๔ จึ่งเอาภูษา
ของนางฉายา อุทัยทรามเปลี่ยว
ภูษาลายทอง ลำยองผืนเดียว
เหลือบแปรแลเหลียว พิศเพียรยิ่งเหมือน
๔๐๕ ผมเผ้าปากคอ
เอวบางคิ้วต่อ เหมือนนางเพื่อนเรือน
ห่มผ้าลายทอง ช่างยิ้มย่องเหมือน
ลำคอตกเกลื้อน เป็นเพื่อนสองคน
๔๐๖ ท้าวต่อหีบใหญ่
ใส่รูปทองไว้ หามไปบัดดล
มิให้ใครรู้ ปากผู้คำคน
ทำเป็นเล่ห์กล ดั่งหามเงินทอง
๔๐๗ จะยกพลไป
จึ่งฝากนางไว้ ท่านไท้ทั้งสอง
บิดามารดา อย่าได้เศร้าหมอง
ขอฝากนางน้อง อุทัยเมียขวัญ
๔๐๘ รักข้าเท่าไร
แม่รักอุทัย ให้ได้เท่ากัน
อย่าเป็นลำเอียง รักเป็นอาธรรม์
ผิดชอบผ่อนผัน อย่าถือโทษเลย
๔๐๙ ค่ำเช้าเรียกหา
ครั้นถึงเพลา แม่เรียกทรามเชย
ช่วยเอาใจใส่ นางไม่คุ้นเคย
ทูนหัวลูกเอย ลูกจักลาไป
๔๑๐ ลาแล้วออกมา
พิศแลดูหน้า น้ำตาลามไหล
เป็นห่วงหน่วงหนัก เพราะรักอุทัย
พี่จักลาไป ค่อยอยู่เถิดรา
๔๑๑ เจ้าสุทธกุมาร
เสด็จขึ้นคชสาร กลั้นโศกโศกา
น้ำตาพี่เอย เร่งไหลออกมา
คือท่อธารา ไหลลงแดงฉัน
๔๑๒ แต่นี้นับปี
น้องแก้วมารศรี นับเดือนนับวัน
เร่งแลเร่งไกล บ่ได้เห็นกัน
โอ้แก้วจอมขวัญ ค่อยอยู่เถิดรา
๔๑๓ ค่อยอยู่เถิดเจ้า
อยู่ด้วยปิ่นเกล้า กว่าพี่จะมา
โอ้อกกูเอย ไหนเลยจะอยู่ช้า
มิได้เห็นหน้า พี่จะกลั้นใจตาย
๔๑๔ บุญเหลือเนื้อถี่
ครองตัวท่าพี่ อยู่ด้วยตายาย
ครานี้แลนา น้ำตาบ่วาย
จะตีอกสลาย ท่าพี่อาวรณ์
๔๑๕ อุทัยไฉยา
จงเจ้ารักษา บิดามารดร
ค่ำเช้าอุตส่าห์ อย่าให้อนาทร
ฟังคำพี่สอน นอนด้วยแม่ผัว
๔๑๖ เจ้าอย่าคบทาส
แม่อย่าประมาท เพราะชาติคนชั่ว
เจ้าคบคนดี เป็นศรีแก่ตัว
ร้อยชั่งฟังผัว ท้าวน้องอุทัย
๔๑๗ โอ้ทองร้อยชั่ง
เจ้าอยู่ภายหลัง พี่สั่งความไว้
อุตส่าห์ปกป้อง ตัวน้องอุทัย
ครองตัวเจ้าไว้ ท่าพี่แลนา
๔๑๘ คำนึงถึงเจ้า
ถึงโฉมเฉลา ลำเพาพี่อา
รวยรวยประทิ่น ดังกลิ่นกัลยา
แก้มน้องซ้ายขวา พี่ยามาชม
๔๑๙ แก้มคือลูกอิน
รวยรวยประทิ่น เหมือนกลิ่นทรามชม
รสกลิ่นภูษา กัลยาเคยห่ม
แต่นี้จะวายชม เอวกลมพังงา
๔๒๐ คล้ายคล้ายได้ยิน
อุทัยเพื่อนอิน เหมือนเจ้าเจรจา
แจ้วแจ้วน่าฟัง เสียงดั่งสาลิกา
ยวนในวิญญาณ์ ราชาหยุดฟัง
๔๒๑ อรนุชบังอร
เอวกลมนมงอน ทั้งสองเต่งตั้ง
ปีกปลิวคิ้วเหิน ดำเนินในวัง
ข้าสาวสะพรั่ง ห้อมล้อมจอมขวัญ
๔๒๒ อุทัยเจ้าพี่
นับเดือนนับปี นับคืนนับวัน
นางน้องพี่อา เจ้าอย่าโศกศัลย์
จากแก้วนวลจันทร์ ขวัญเมืองพี่อา
๔๒๓ ครวญพลางละห้อย
น้ำเนตรหยดย้อย ละห้อยคอยหา
บรรเทาโศกศัลย์ กลั้นโศกโศกา
โฉมยงยาตรา ขึ้นช้างกระโจมทอง
๔๒๔ รี้พลทั้งปวง
ไพร่ฟ้าข้าหลวง อเนกก่ายกอง
แห่ทั้งซ้ายขวา ช้างม้าเนืองนอง
อเนกก่ายกอง แห่พระราชา
๔๒๕ ทรงช้างวางไป
ธงเทียวไสว ไกลสุดลูกตา
เปล่าใจเปล่าจิต ทรงฤทธิ์โศกา
ร้อยชั่งพังงา ป่านนี้เป็นไฉน
๔๒๖ อุทัยไฉยา
เจ้าแสนโศกา ครวญคร่ำร่ำไร
ถึงพระผ่านเกล้า เจ้าจากเมียไป
พระทองทรามวัย ให้เมียโศกศัลย์
๔๒๗ โอ้พระผ่านฟ้า
ตัวเราสองรา ไม่เคยไกลกัน
จำไกลกันแล้ว นับเดือนนับวัน
น้องแก้วกระศัลย์ ถึงพระพี่ยา
๔๒๘ ดังฤๅพระทอง
เจ้ามาละน้อง คนเดียวเอกา
พระร่วมชีวิต คิดถึงฉันนา
โอ้พระราชา มาหนีน้องไป
๔๒๙ เหลียวแลแปรหา
น้องน้อยก่อนรา นะพระทรามวัย
พ่อเคยถูกต้อง หยอกน้องอุทัย
รวยรื่นชื่นใจ ที่ในเรือนจันทน์
๔๓๐ โอ้พระร่วมจิต
พระร่วมชีวิต คิดถึงเมียขวัญ
หล่อรูปทองไว้ ให้ชมทุกวัน
โอ้พระทรงธรรม์ ไกลเมียแล้วนา
๔๓๑ พระหล่อรูปไว้
เห็นงามสุกใส ต่างองค์ราชา
เอวบางร่างกลม ชมต่างพี่ยา
ไม่สนิทติดตรา เหมือนพระภูธร
๔๓๒ เห็นรูปพระองค์
เฉิดฉันบรรจง คิ้วก่งวงศร
สะสวยรวยดี มิเท่าบังอร
โอ้พระภูธร เปล่าแล้วแลนา
๔๓๓ เมื่อยามเข้านอน
คิดถึงภูธร ร่ำไรไห้หา
เที่ยงคืนสงัด กลัดในวิญญาณ์
ใครเลยจะมา กล่อมให้น้องนอน
๔๓๔ ใจจิตคิดถึง
ครวญคร่ำรำพึง ถึงพระภูธร
ในจิตคิดไป ไม่คลายเดือดร้อน
เวลาเข้านอน ฉะอ้อนวอนใคร
๔๓๕ โอ้พระยอดสร้อย
เอวบางร่างน้อย ไกลจากเมียไป
รี้พลอัดแอ ยิ่งแลยิ่งไกล
โอ้พระจอมไตร กลับมาก่อนรา
๔๓๖ นางทองทั้งตัว
เจ้าคิดถึงผัว เร่งไห้โหยหา
ไห้แล้วไห้เล่า ไม่วายน้ำตา
ทั้งสองยายตา โลมเล้าเอาใจ
๔๓๗ ท่านจะเอาฤกษ์พา
ดังฤๅเจ้ามา ร้องไห้ร่ำไร
แข็งใจเจ้าแม่ กลั้นน้ำตาไว้
ค่อยอยู่นานไป จะได้พบกัน
๔๓๘ อุทัยไฉยา
ได้ฟังยายว่า ค่อยคลายโศกศัลย์
ชำระพระองค์ สระสรงทุกวัน
นางนาฏจอมขวัญ เล่นน้ำสระศรี
๔๓๙ อุทัยไฉยา
ครั้นถึงเวลา ชื่นชมยินดี
พระนุชเนื้อเย็น เล่นน้ำนที
สระโบกขรณี เป็นนิจทุกวัน ๚ะ

ชมดง

๔๔๐ บัดนั้นภูบาล
ขึ้นทรงคชสาร รี้พลแจจัน
ครั้นถึงป่าใหญ่ ชมไม้ทุกพรรณ
นกหกผกผัน จับอยู่ไสว[๓]
๔๔๑ เข้าในดงหลวง
ชมไม้ทั้งปวง ในกลางพงไพร
ฟังเสียงจักรจั่น แม่ม่ายลองไน
มี่ก้องร้องไป พระไห้โศกา
๔๔๒ เสด็จเข้าดงหลวง
ชมไม้ทั้งปวง ต่างพรรณพรรณนา
ต้นงิ้วสล้าง หมากปรางไม้หว้า
ละมุดสีดา พะวาลำใย
๔๔๓ หมากตูมเนืองนอง
มะค่าพลวงพลอง ตะโกหมากไฟ
ตะเคียนยูงยาง อ้อยช้างกร่างไกร
เต็งรังโพไทร มีในดงหลวง
๔๔๔ กระแบกสัตตบรรณ
กระถินอินจัน มีพรรณทั้งปวง
บ้างอ่อนบ้างแก่ เล็งแลเป็นพวง
รี้พลทั้งปวง เอาเป็นอาหาร
๔๔๕ มะเดื่อมะดูก
ลูกไม้ส้มสูก หมากพร้าวจาวตาล
ทุเรียนมังคุด ละมุดหอมหวาน
แต่ล้วนตระการ สารพันจะมี
๔๔๖ จิกแจงจิ่งจ้อ
แสมสมอ สนรักสักขี
หอมดอกลำดวน ยวนใจภูมี
เมื่อยามราตรี พระพายชายโชย
๔๔๗ เข้าดงอำพัน
หอมกลิ่นจวงจันทน์ กรลบโบกโบย
มีทั้งพุดตาน ดอกบานมิรู้โรย
พระทรงไห้โหย ครวญถึงอุทัย
๔๔๘ เข้าดงพุดตาน
มะลิผลิบาน หอมฟุ้งเอาใจ
รวยรวยประทิ่น ดังกลิ่นอุทัย
โอ้แก้วทรามวัย ใจพี่จะขาดตาย
๔๔๙ เข้าดงชะมด
หอมกลิ่นปรากฏ รสเร้าเอาใจ
รวยรวยประทิ่น หอมกลิ่นบ่วาย
เหมือนกลิ่นโฉมฉาย อุทัยเทวี
๔๕๐ เข้าดงคัดเค้า
หอมกลิ่นรินเร้า ดอกมะลิโรยมี
รวยรวยประทิ่น หอมกลิ่นมาลี
เหมือนกลิ่นเทวี อุทัยไฉยา
๔๕๑ เข้าดงเบญจมาศ
ใจพี่จะขาด ด้วยรสมาลา
รวยรวยประทิ่น ดังกลิ่นภูษา
อุทัยติดมา ท้าวน้องเอวกลม
๔๕๒ เข้าดงอัญชัน
หอมรินกลิ่นคันธ์ รสเร้าอุดม
รวยรวยประทิ่น ดุจดังกลิ่นผม
กลิ่นเนื้อกลิ่นนม น้องแก้วฉายา
๔๕๓ เข้าดงพุดซ้อน
พุดลาใบอ่อน พิจิตรรจนา
รวยรวยประทิ่น ดังกลิ่นพังงา
เมื่อสรงคนธา หอมชื่นใจผัว
๔๕๔ เข้าดงสารภี
หอมฟุ้งมากมี กรลบทั้งตัว
ดังกลิ่นอุทัย ทรามวัยของผัว
โอ้ทองทั้งตัว หอมยิ่งนักหนา
๔๕๕ ชมพรรณดอกไม้
หอมฟุ้งเอาใจ พระทัยโหยหา
กระถินอินไทร มีในหิมวา
พระพายชายมา กลิ่นนั้นหอมหวาน
๔๕๖ ผลไม้ทุกสิ่ง
ผลออกงามยิ่ง มีในไพรสาณฑ์
ลูกแก้วลูกเกด ฝ้ายเทศตระการ
คิดถึงนงคราญ ท้าวน้องอุทัย
๔๕๗ มาด้วยพี่รา
ลูกไม้ในป่า จะเก็บมาให้
เจ้ากินเล่นพลาง ให้สำราญใจ
ครวญพลางทางไห้ ไม่วายน้ำตา
๔๕๘ ในป่าพงพี
ลูกไม้อันมี เป็นเหยื่อสกุณา
ลิงค่างบ่างชะนี เสือสีห์ในป่า
โนรีสาลิกา สัตวานวลจันทร์
๔๕๙ ฟังเสียงนกร้อง
คิดถึงท้าวน้อง อุทัยจอมขวัญ
สองตัวจับอยู่ เป็นคู่เคล้ากัน
พลัดพรากเมียขวัญ มาคนเดียวดาย
๔๖๐ ชมบนหลังช้าง
ร้องไห้ครวญคราง ปิ้มจะวางวาย
ป่านนี้ไห้หา น้ำตาบ่วาย
จะเป็นฤๅตาย ไม่รู้สำคัญ
๔๖๑ ชมไม้ชมนก
กลิ่นแก้วกับอก ท้าวน้องจอมขวัญ
ฟังเสียงเรไร มีในหิมวันต์
ฟังเสียงจักรจั่น พระกลั้นน้ำตา
๔๖๒ ฟังเสียงนกร้อง
กำสรดถึงน้อง อุทัยไฉยา
เสียงนกเขาขัน พระกลั้นน้ำตา
โอ้แก้วพี่อา ป่านนี้เป็นไฉน
๔๖๓ เสียงกาเหว่าร้อง
สนั่นมี่ก้อง ในท้องพงไพร
แรดช้างเสือสีห์ ชะนีร่ายไม้
จิ้งจอกหมาไน วิ่งไล่ตามกัน
๔๖๔ ฟังเสียงชะนีร้อง
กำสรดเศร้าหมอง ถึงน้องจอมขวัญ
พระกอดรูปทอง ร้องไห้ทุกวัน
คิดถึงเมียขวัญ ท้าวน้องอุทัย
๔๖๕ โอ้แก้วพี่อา
มาด้วยเรียมรา ชมสัตว์ในไพร
โคถึกมฤคี เสือสีห์วิ่งไป
พี่จะบอกให้ พระนุชเมียขวัญ ๚ะ
๔๖๖ บัดนั้นราชา
กับเหล่าโยธา ดั้นป่าหิมวันต์
มาโดยสามเดือน คล้อยเคลื่อนเขตขัณฑ์
เมืองท้าวทรงธรรม์ อุโลมนคร
๔๖๗ ครั้นถึงเมืองแล้ว
เมื่อนั้นพระแก้ว จึ่งบทจร
เข้าไปในเมือง อุโลมนคร
จึ่งพระภูธร ให้สารเข้าไป
๔๖๘ ทูตถือสารตรา
เร่งเร็วมิช้า มาถึงพระโรงไชย
จึ่งเข้าถวายสาร แก่พระภูวไนย
ว่าพระทรามวัย กายสุทธจรลี
๔๖๙ ท้าวรับสารตรา
อ่านดูมิช้า ในอักษรศรี
ว่าท้าวการบ ถวายอัญชลี
ลูกรักโฉมศรี ฝากใต้บาทา
๔๗๐ ผิดพลั้งสั่งสอน
เจ้ายังเด็กอ่อน ไม่รู้เดียงสา
ขอฝากไว้ด้วย เหมือนช่วยเมตตา
ข้ากับราชา เป็นทองแผ่นเดียวกัน
๔๗๑ จบอ่านสารตรา
จึ่งสั่งเสนา ให้เชิญมาพลัน
รี้พลทั้งหลาย มากมายครามครัน
ไพร่พร้อมเพรียงกัน รับเจ้าเข้ามา
๔๗๒ สั่งนางชาวใน
ให้แต่งเครื่องไว้ เลี้ยงพระลูกยา
รี้พลทั้งหลาย อย่าให้เขาว่า
เลี้ยงเขาที่มา อย่าช้าเร็วไว
๔๗๓ ชาวเครื่องรับสั่ง
วิ่งมาละล้าละลัง สั่งกันวุ่นไป
ให้แต่งสำรับ ตามนายตามไพร่
เครื่องเสวยแต่งไว้ เลี้ยงพระราชา
๔๗๔ ครั้นแต่งเสร็จสรรพ
เสนาไปรับ เชิญเจ้าเข้ามา
รี้พลทั้งหลาย มายมากนักหนา
แห่ห้อมเข้ามา ถึงพระโรงไชย
๔๗๕ ชาวเครื่องยกมา
เลี้ยงดูราชา ทั้งนายทั้งไพร่
ทั่วกันเสร็จแล้ว จึ่งขนของไป
จึ่งพระทรามวัย ขึ้นเฝ้าราชา
๔๗๖ ท้าวเห็นเขยขวัญ
รูปโฉมทรงธรรม์ คือทองทาบทา
ฉันนาลูกเรา มิเท่าราชา
เหมือนหงส์กับกา วาสนาผิดกัน
๔๗๗ ลูกเขยโสภา
ลูกเราชั่วช้า ไม่งามสักอัน
กรรมเวรเป็นสาว หัวขาวทั้งนั้น
ชั่วช้าอาธรรม์ รักท่านลูกเขย
๔๗๘ ท้าวจึ่งตรัสมา
ดูก่อนลูกยา เจ้างามทรามเชย
บิดามารดา เจ้าอยู่เสบย
ทางมาลูกเอย ยากง่ายเป็นไฉน
๔๗๙ พระรับโองการ
กราบทูลภูบาล ให้ทราบพระทัย
ว่าพระบิดา มารดานั้นไซร้
ทุกข์โศกโรคภัย สิ่งใดไม่พาน
๔๘๐ อันหนทางมา
รี้พลโยธา มาสุขสำราญ
ตราบเท่าถึงเมือง แห่งพระภูบาล
จงแจ้งบทมาลย์ แห่งพระทรงธรรม์
๔๘๑ เมื่อนั้นภูบาล
ครั้นได้ฟังสาร โองการหาวัน
ตาขุนโหรเฒ่า เข้ามาด้วยพลัน
เราจะทำขวัญ วันใดจะดี
๔๘๒ โหรกราบบาทา
ดูตามตำรา ฤกษ์ยามนาที
เดือนหกขึ้นคํ่า ฤกษ์ยามนั้นดี
วันศุกร์มีศรี ดีนักราชา
๔๘๓ เมื่อนั้นพระแก้ว
ครั้นถามโหรแล้ว จึ่งสั่งเสนา
ให้แต่งโรงทอง เรืองรองรจนา
เร่งเร็วอย่าช้า ให้ทันฤกษ์ไชย
๔๘๔ เสนารับสั่ง
วิ่งมาละล้าละลัง สั่งกันวุ่นไป
ให้แต่งโรงทอง เรืองรองสุกใส
เสร็จแล้วจึ่งไป กราบทูลราชา
๔๘๕ จึ่งแต่งทำขวัญ
อภิเษกด้วยกัน กับนางฉันนา
บายศรีลำยอง แว่นทองเอามา
ทำขวัญพังงา เสกลูกเขยขวัญ
๔๘๖ ท่านท้าวกัญจา
จึ่งสั่งให้หา นักเลงมาพลัน
เทพทองละคร ฟ้อนรำขยัน
ท้าวแต่งทำขวัญ ลูกรักสองรา
๔๘๗ ไต่ลวดลอดบ่วง
ฝูงคนทั้งปวง ตามดูไปมา
บ้างขึ้นปลายไม้ ลำแพนผาลา
หัวหกลงมา เห็นน่าตกใจ
๔๘๘ บ้างดีดกระจับปี่
บางคนชักสี ซอเพลงปี่ไฉน
เพลงไพรเพราะรับ ขับกันทั่วไป
มโหรีปี่ไฉน ฟังเพราะนักหนา
๔๘๙ ครั้นครบเจ็ดวัน
ท้าวแต่งทำขวัญ ลูกรักเสนหา
ครั้นทำขวัญแล้ว จึ่งเสกราชา
กับนางฉันนา ให้อยู่ด้วยกัน ๚ะ

ฉบัง

๔๙๐ ครั้นเมื่อเที่ยงคืนราตรี จึ่งพระภูมี
ก็เล้าก็โลมฉายา
๔๙๑ ร่วมรักมิได้เสนหา ครั้นแล้วออกมา
ราชาไปหารูปทอง
๔๙๒ เคล้าคลึงกันอยู่คู่สอง กับด้วยรูปทอง
นวลละอองเจ้าแกล้งหล่อมา
๔๙๓ ร้องไห้ร่ำไรโหยหา อุทัยไฉยา
ป่านนี้จะเป็นฉันใด
๔๙๔ ยังรุ่งกอดรูปทองไว้ น้ำตาหลั่งไหล
ถึงนางอุทัยเทวี
๔๙๕ บ่ได้หลับในราตรี ฉันนาเทวี
ก็นอนอยู่คนเดียวดาย
๔๙๖ ครั้นเช้าเสวยข้าวเพรางาย ใจท้าวคิดหมาย
จะเรียกรูปทองมาเสวย
๔๙๗ โอโอะอุทัยเจ้าพี่เอย ไยมิมาเสวย
อาหารด้วยพี่เลยนา
๔๙๘ เสวยแล้วคืนเข้าไปหา รูปอันหล่อมา
เข้าเคล้าเข้าคลึงชมเชย
๔๙๙ พระเจ้าบ่ไปหาเลย ฉันนาทรามเชย
คอยหาผัวเจ้าทุกวัน
๕๐๐ เหตุไรผัวรักจอมขวัญ มิมาสักวัน
ตั้งแต่วันนั้นหายไป
๕๐๑ กูเห็นหลากแท้แก่ใจ แต่วันนั้นไป
คุ้มเท่าวันนี้บ่ห่อนมา
๕๐๒ เมื่อนั้นจึ่งนางฉันนา รำพึงไปมา
จะใคร่ไปดูในห้อง
๕๐๓ หีบใหญ่มิใช่เงินทอง เสวยแล้วเข้าห้อง
ในหีบนั้นมีอันใด
๕๐๔ วันนั้นท้าวเธอเสด็จไป เฝ้าบิดาไท้
ทรามวัยเธอมิได้อยู่
๕๐๕ นงเยาว์จึ่งเข้าไปดู นางน้องจึ่งรู้
ว่ารูปผู้ใดเล่านา
๕๐๖ รูปเมียฤๅว่ามารดา ช่างงามนักหนา
เจ้าจึ่งไปถามทาสี
๕๐๗ นางเอาผ้าผ่อนของดี ให้แก่ทาสี
ปลอบถามอย่าได้อำพราง
๕๐๘ ทาสีจึ่งเล่าแก่นาง ข้าไม่อำพราง
รูปหล่อคือนางอุทัย
๕๐๙ เมียท้าวอยู่เมืองโพ้นไซร้ รูปงามสุกใส
เหมือนรูปอันหล่อพิมพ์เดียว
๕๑๐ นางจึ่งยกรูปฉุนเฉียว ขว้างเสียบัดเดี๋ยว
ทรามเปลี่ยวทิ้งลงคงคา ๚ะ

สุรางคนางค์ พิลาป

๕๑๑ รูปหล่อหายแล้ว
ใครลักเมียแก้ว รูปทองของกู
กูเห็นอัศจรรย์ ทุกวันยังอยู่
โอโอะอกกู รูปทองมาหาย
๕๑๒ ร้องไห้กลิ้งเกลือก
ทอดองค์ลงเสือก น้ำตาบ่วาย
มีกรรมฉันใด รูปทองมาหาย
จะขาดใจตาย ครานี้แลนา
๕๑๓ สองมือตีทรวง
หาทั้งเรือนหลวง มิพบกลับมา
เที่ยวหาที่เก่า ในหีบเล่าหนา
มิพบฉายา รูปทองพี่เอย
๕๑๔ ล้มแล้วลุกขึ้น
ร้องไห้สะอื้น น้ำตาบ่เสบย
ใครลักพาไป บ่ได้เห็นเลย
รูปทองพี่เอย ไปอยู่แห่งใด
๕๑๕ เรามาสองคน
ได้ยากทุกข์ทน มาแต่เมืองไกล
ได้เห็นหน้าเจ้า พี่ค่อยคลายใจ
เจ้าละพี่ไว้ คนเดียวเอกา
๕๑๖ โอ้ทองร้อยชั่ง
เจ้าอยู่ภายหลัง เป็นฉันใดนา
รูปทองของเจ้า พี่หล่อเอามา
มารร้ายริษยา พารูปทองไป
๕๑๗ ชีวิตกูอา
เห็นว่ามิช้า จะมาบรรลัย
รูปทองหายแล้ว กูเอยอยู่ไย
นึ่งตายก่อนไข้ ไม่อยู่เลยนา
๕๑๘ โอ้นางอุทัย
เจ้ามิมาได้ หล่อแต่รูปมา
กลิ่นอายของเจ้า ติดพระภูษา
ห่มรูปทองมา ใครพาเอาไป
๕๑๙ เมื่อนั้นโฉมฉาย
ลุกขึ้นผันผาย ถามข้าทันใด
ว่าใครขึ้นมา พารูปทองไป
มันจึ่งทูลไท ว่านางฉายา
๕๒๐ ข้าขัดมิได้
ท่านหามลงไป ทิ้งน้ำเสียรา
พระเจ้าจึ่งรู้ ว่านางฉันนา
แกล้งนางฉายา อุทัยเทวี
๕๒๑ ควรฤๅทำได้
ไม่คิดเกรงใจ สักเท่าธุลี
กูมาสองคน รูปทองผ่องศรี
มิได้ปรานี เอาขว้างน้ำเสีย
๕๒๒ มิได้เห็นหน้า
พี่หล่อรูปมา ดูหน้าต่างเมีย
ควรฤๅทำได้ ไปขว้างน้ำเสีย
ไม่เห็นหน้าเมีย จะกลั้นใจตาย
๕๒๓ แค้นขัดกลัดเดือด
น้ำตาคือเลือด อาบหน้าบ่วาย
แต่วันนี้ไป อยู่คนเดียวดาย
คิดมาใจหาย ตายด้วยรูปทอง
๕๒๔ เปล่าอกเปล่าใจ
ร้องไห้ร่ำไร น้ำตาฟูมฟอง
ร่ำถึงทรามวัย อุทัยเนื้อทอง
ครวญหานางน้อง บ่ได้เห็นเลย
๕๒๕ ขึ้งโกรธนักหนา
ไม่แลดูหน้า ฉันนาทรามเชย
กริยาพาที ไม่มีบ้างเลย
โอ้ตัวกูเอย เหมือนขืนใจมา
๕๒๖ นอนอยู่คนเดียว
มิได้แลเหลียว กล้ำกรายฉันนา
ครวญถึงอุทัย ไม่วายน้ำตา
พี่จะไปหา ไม่ได้เหมือนใจ
๕๒๗ เมื่อนั้นฉันนา
คิดแค้นนักหนา ขึ้งโกรธคือไฟ
จะเล่าให้ใครฟัง นางอายแก่ใจ
ออกปากไม่ได้ ผัวไม่ไยดี
๕๒๘ ขัดอกแค้นใจ
เอาตัวให้ได้ อุทัยเทวี
จะตีให้ตาย วายชีพเป็นผี
ผัวรักแต่นี้ จะครวญหาใคร
๕๒๙ จึ่งให้ไปหา
เฒ่าโกหกมา จ้างให้แกไป
จะทำเล่ห์กล เอาตัวให้ได้
เงินทองกองให้ จงได้ตัวมา
๕๓๐ ยังมีโกหก
เที่ยวไปไล่นก ที่ในเวหา
ขึ้นขี่เรือน้อย ชักยนต์ไคลคลา
ได้นกแล้วมา ขายกินทุกวัน
๕๓๑ สองเฒ่าผัวเมีย
ขายนกได้เบี้ย ผัวเมียเลี้ยงกัน
ขึ้นสำเภาแล้ว ชักยนต์ไปพลัน
เร็วคือจังหัน ทันแล้วจับเอา
๕๓๒ แลเห็นนกยูง
บินมาเป็นฝูง เฒ่าชักสำเภา
ไปบนเวหา เฒ่าคว้าจับเอา
ใส่ท้องสำเภา เอาแคร่ทับลง
๕๓๓ ชักยนต์ลงมา
สาวใช้ไปหา ว่าต้องประสงค์
สำเภาสำอาง นวลนางจำนง
ว่าต้องประสงค์ ทั้งตัวสองรา
๕๓๔ สองเฒ่าตกใจ
เป็นเหตุอันใด ท่านจึ่งให้หา
ท่านท้าวเจ้าเมือง ฤๅนางฉายา
จึ่งใช้ให้มา หาข้าว่าไร
๕๓๕ จึ่งชวนกันมา
ปีนขึ้นนาวา ชักยนต์วางไป
บัดเดียวมาถึง ซึ่งหน้าเกยไชย
สองเฒ่าเข้าไป กราบไหว้ฉันนา
๕๓๖ นางจึ่งปราศรัย
ดีเนื้อดีใจ เห็นตายายมา
จงยายเอ็นดู ช่วยไปอาสา
เงินทองเสื้อผ้า ข้าจะให้รางวัล
๕๓๗ ไปเอาอุทัย
ถึงเมืองโพ้นไซร้ ได้มาจงพลัน
ยายเที่ยวยายถาม ให้รู้สำคัญ
ครั้นพบตัวมัน ล่อลวงเอามา
๕๓๘ เอวบางร่างน้อย
หน้าตาแช่มช้อย สาวน้อยโสภา
ครั้นเวลาเย็น ลงเล่นคงคา
ยายไถ่ถามหา ล่อลวงเล่ห์กล
๕๓๙ ท้าวเธอหลงไหล
รูปอีอุทัย งามยิ่งกว่าคน
ยายเอ็นดูข้า มาช่วยทังวน
ล่อลวงเล่ห์กล เอาตัวมันมา
๕๔๐ ยายเฒ่ารับคำ
ตามบุญตามกรรม ข้าเฒ่าแลนา
เจ้าอย่าตกใจ ไว้นักงานข้า
จะไปอาสา เอามาถวาย
๕๔๑ สองเฒ่ากราบลา
แห่งนางฉันนา เฒ่ามาคิดหมาย
ขึ้นขี่สำเภา ชักยนต์ผันผาย
ลมพัดถูกสาย สำเภาแล่นมา
๕๔๒ พระพายพัดต้อง
ถูกสำเภาทอง สองเฒ่าเร่งมา
ทางสามเดือนปลาย เฒ่ามาบ่ช้า
มาบนเวหา ถึงวันเดียวดาย
๕๔๓ ครั้นถึงเมืองแล้ว
สองเฒ่าใจแกล้ว ถามหาโฉมฉาย
ว่านางอุทัย เป็นเมียเจ้านาย
มิได้มากราย หาเจ้าเลยนา
๕๔๔ เขาจึ่งบอกเล่า
ว่านางหนุ่มเหน้า อยู่ในพารา
ครั้นเวลาเย็น ลงเล่นคงคา
ในสระปทุมา หน้าพระนคร
๕๔๕ เฒ่าจึ่งเข้าไป
นั่งลงกราบไหว้ อุทัยบังอร
ว่าข้าสองรา มาหาสายสมร
นาวาสัดจอน[๔] ถวายแก่เทวี
๕๔๖ จึ่งนางยอดสร้อย
แลเห็นเรือน้อย ชื่นชมยินดี
เอาเรือนาวา มาให้เราขี่
ทำวนยายมี ประสงค์สิ่งใด
๕๔๗ สำเภานาวา
งามหนอพอตา น่ารักเหลือใจ
สารพัดของเรา จะเอาอันใด
ข้าพระถวาย ตามใจฉายา
๕๔๘ นางจึ่งว่าเล่า
ขอบใจยายเจ้า สมความปรารถนา
นางจึ่งขึ้นเล่น สำเภานาวา
พิศดูไปมา ในท้องสำเภา
๕๔๙ สองเฒ่าจึ่งว่า
ในท้องนาวา สนุกนะเจ้า
เฒ่าเปิดลิ้นแคร่ เชิญแม่ณหัวเจ้า
ในท้องสำเภา เป็นเล่ห์เป็นกล
๕๕๐ นางจึ่งลงไป
มันปิดแคร่ไว้ แล้วชักสายยนต์
ขึ้นบนเวหา มิช้าบัดดล
นางร้องเสือกสน ในท้องสำเภา
๕๕๑ ข้าสาวชาวแม่
ร้องไห้เซ็งแซ่ ไปบอกสำเนา
การบกาวิน ได้ยินคำเขา
ร้องไห้ถึงเจ้า เรียกหาอุทัย ๚ะ

สุรางคนางค์ พิลาป

๕๕๒ แลเห็นนาวา
อยู่บนเวหา สุดตาแลไป
นางร้องลงมา สุดเสียงอุทัย
นางแม่ข้าไหว้ ช่วยลูกด้วยรา
๕๕๓ นางร้องเท่าไร
มันหับแคร่ไว้ ให้มั่นตรึงตรา
เรียกจนสุดเสียง อุทัยไฉยา
ค่อยอยู่เถิดรา ลูกจักลาตาย
๕๕๔ ค่อยอยู่เถิดแม่เจ้า
ลูกรักก้มเกล้า กราบลาฦๅสาย
วันนี้แลนา ลูกจะลาตาย
คุณตากับยาย ค่อยอยู่เถิดรา
๕๕๕ ปานนี้พระพ่อ
น้ำตาไหลคลอ ร้องไห้โหยหา
ปานนี้พระแม่ กินแต่น้ำตา
จะร้องไห้หา ลูกแก้วสายสมร
๕๕๖ โอ้กรรมแก่ตัว
พลัดพรากจากผัว เพียงจักม้วยมรณ์
ครั้งนี้พลัดพราก จากพระมารดร
หัวอกบังอร เพียงแตกทำลาย
๕๕๗ โอ้ตัวกูอา
เป็นคนกำพร้า เห็นหน้าตายาย
ปานนี้ตีอก ล้มคว่ำล้มหงาย
ด้วยลูกมาหาย น้ำตาบ่เสบย
๕๕๘ โอ้พระผัวแก้ว
ตัวน้องตายแล้ว ไม่เห็นใจเลย
ใครจะไปบอก แก่พระทรามเชย
ทูนหัวเมียเอย ร้องไห้ไม่วาย
๕๕๙ โอโอะพระทอง
คิดว่านางน้อง อยู่หลังสบาย
พระฝากน้องไว้ แก่ญาติทั้งหลาย
บ่รู้ว่าหาย จากแก้วแล้วนา
๕๖๐ สองมือตีอก
น้ำตาไหลตก กับท้องนาวา
สลบแล้วฟื้น วอนยายกับตา
เอ็นดูเถิดหนา อย่าพาข้าไป
๕๖๑ วอนยายวอนตา
เฒ่าไม่นำพา ชักยนต์ไปไกล
แม้นเอาเงินทอง ข้าวของสิ่งไร
หลานน้อยจะให้ อย่าพาไปเลย
๕๖๒ ส่วนนางกาวิน
กลิ้งเกลือกกลางดิน ร้องไห้อยู่เบยเบย
ผัวเจ้าฝากไว้ อุทัยแม่เอย
พระลูกทรามเชย กลับมาจะหาใคร
๕๖๓ โอ้พระลูกแก้ว
ผัวเจ้าฝากแล้ว มิใคร่จะไป
รักเมียน้อยฤๅ ซื่อต่ออุทัย
ควรฤๅหายไป อุทัยแม่เอย
๕๖๔ กลับมาก่อนรา
ให้แม่เห็นหน้า กำพร้าทรามเชย
ผัวเจ้ากลับมา จะหาใครเลย
ลูกรักแม่เอย แม่จะขาดใจตาย
๕๖๕ ส่วนยายกาวัน
ตกใจตัวสั่น ไม่มีน้ำลาย
ปากแห้งคอขม ล้มคว่ำล้มหงาย
ร้องไห้ไม่วาย น้ำตาบ่เสบย
๕๖๖ ผัวเมียงกงัน
ล้มพะปะกัน บ่รู้สึกเลย
ใครพาเอาไป อุทัยแม่เอย
ร้องไห้เบยเบย สลบไม่รู้ตัว
๕๖๗ สลบซบไป
ล้มลงร้องไห้ ทั้งเมียทั้งผัว
ข้าสาวยกขึ้น จึ่งรู้สึกตัว
โอ้แม่ทูนหัว ไปแห่งใดนา
๕๖๘ หลับตาร้องไห้
กอดข้าสาวไว้ นึกว่าฉายา
ครั้นรู้สึกตัว บ่เห็นเลยนา
แม่มาตามหา บ่พบลูกเลย
๕๖๙ พระคุณของแม่
เจ้าไม่เหลียวแล แม่บ้างทรามเชย
ควรฤๅหนีตัว ทูนหัวแม่เอย
แต่นี้ใครเลย ช่วยได้เล่านา
๕๗๐ เจ้าปลูกเรือนไว้
ใครจะอยู่ได้ ลูกแก้วแม่อา
เรือนหลวงจะเปล่า จะเซาโรยรา
ฟูกแพรหมอนผ้า ทีนี้จะเปล่าดาย
๕๗๑ ข้าไทเงินทอง
สิ่งสินก่ายกอง ยังอยู่มากมาย
ไว้ให้แก่ใคร ลูกรักมาหาย
รั้ววังทั้งหลาย แต่นี้ใครจะครอง
๕๗๒ ไห้พลางครวญพลาง
เฒ่าร้องไห้คราง น้ำตาฟูมฟอง
เจ้าจากแม่ไป ลงในสำเภาทอง
ด้วยเฒ่าทั้งสอง ไปเมืองแห่งใด
๕๗๓ เงินทองทั้งหลาย
ข้าหญิงข้าชาย เจ้าไม่เอาไป
เจ้าไปแต่ตัว ทูนหัวอยู่ไหน
มาพาแม่ไป เป็นเพื่อนด้วยรา
๕๗๔ ล้มแล้วลุกขึ้น
ร้องไห้สะอื้น ฟูมฟายน้ำตา
ลูกแก้วแม่เอย แม่ไปด้วยรา
จะได้เห็นหน้า ที่ในเมืองผี
๕๗๕ แม่จะอยู่ไย
จะตายตามไป อุทัยเทวี
ขอม้วยดับจิต ไม่คิดชีวี
ตายเสียยังดี กว่าอยู่เป็นคน
๕๗๖ คิดฤๅหนึ่งเล่า
จะตายตามเจ้า ลำเพานิฤมล
ด้วยเชือกกระหวัด รัดคอบัดดล
ให้ม้วยวายชนม์ พ้นความรำคาญ
๕๗๗ คิดฤๅหนึ่งเล่า
จะก่อเพลิงเผา เป็นเปลวบ่นาน
จะแล่นเข้าไป ให้ไฟเผาผลาญ
ตายไปบ่นาน ในเปลวอัคคี
๕๗๘ เมืองหลวงใหญ่กว้าง
ข้าสาวของนาง ช้างม้ามากมี
สองเฒ่าพาไป ชมไม้ไพรศรี
ให้จงรู้ที่ แล้วจึ่งคืนมา
๕๗๙ แม้นตายดินดอน
ถึงจะม้วยมรณ์ แม่ได้เห็นหน้า
เจ้าขึ้นไปตาย ถึงบนเวหา
สองเฒ่ามันพา เอาแก้วแม่ไป
๕๘๐ ปานนี้สองเฒ่า
มันหักคอเจ้า ลูกรักทรามวัย
กินเป็นอาหาร มอดม้วยบรรลัย
เป็นตายไฉน เปล่าแล้วแลนา
๕๘๑ ฤๅหนึ่งผัวเจ้า
ใช้ให้สองเฒ่า เอาสำเภามา
รับเจ้าไปชม สู่สมเสน่หา
ลูกแก้วแม่อา มิบอกว่าไร
๕๘๒ ฤๅหนึ่งยักษ์มาร
แปลงเพศมาผลาญ ล่อลวงไฉน
รับเจ้าไปชม ฤๅมันพาไป
ใส่เรือมันไว้ กินเป็นอาหาร
๕๘๓ ฤๅเพชพญาธร
เหาะเหิรเดินจร พาลูกสงสาร
ไปไว้เป็นเมีย ในป่าหิมพานต์
ลูกรักสงสาร พาไปชมเชย
๕๘๔ ฤๅกรุงพาลี
พาซอกซอนหนี เทวีแม่เอย
แม่ร้องเรียกหา บ่ขานแม่เลย
อุ่นอกแม่เอย แม่จะทำฉันใด
๕๘๕ คล้ายคล้ายแก่ตา
ไม่ได้เห็นหน้า กำพร้าสายใจ
แม่คร่ำครวญหา ฉายาอุทัย
เจ้าละแม่ไว้ คนเดียวเอกา
๕๘๖ เรียกแล้วเรียกเล่า
ไม่เห็นหน้าเจ้า อุทัยไฉยา
แม่แลดูเล่า เห็นเปล่าแก่ตา
ทุกวันเคยมา เล่นน้ำสระศรี
๕๘๗ วันนี้หายไป
เปล่าอกเปล่าใจ ไม่รู้สมประดี
สงัดเหงาเงียบ เย็นเยียบทั้งบุรี
ดังป่าช้าผี ไม่มีเจ้าเลย
๕๘๘ เร่งแลเร่งเปล่า
ไม่เห็นหน้าเจ้า อุทัยทรามเชย
หนีเร้นซ่อนแม่ แลไม่เห็นเลย
ชีวิตแม่เอย จะม้วยเป็นผี
๕๘๙ ตีอกฟกชํ้า
เที่ยวหาริมน้ำ สระโบกขรณี
ไปอยู่แห่งใด อุทัยเทวี
กลิ้งเกลือกกับที่ น้ำตาหลั่งไหล
๕๙๐ เฒ่าทั้งสองรา
ไม่พบลูกยา กลับมาทันใด
ข้าสาวชาวแม่ เถ้าแก่ร่ำไร
ถึงนางอุทัย สลบซบเซา ๚ะ

ฉบัง

๕๙๑ เมื่อนั้นโกหกทั้งสอง พาเอานางน้อง
อุทัยไปบนเวหา
๕๙๒ ได้นางใส่ลงนาวา ชักยนต์ไคลคลา
บัดเดียวก็ถึงนคร
๕๙๓ ชักยนต์ลงหน้าบัญชร ฉันนาบังอร
ครั้นเห็นก็ถามทันใด
๕๙๔ ได้ตัวมันมาฤๅไม่ สองเฒ่าทูลไป
ว่านางอุทัยได้มา
๕๙๕ ได้ฟังจึ่งนางฉันนา กริ้วโกรธโกรธา
แลเจ้าบ่ให้วุ่นวาย
๕๙๖ ข้าสาวชาวแม่ทั้งหลาย อย่าให้วุ่นวาย
เกลือกรู้ไปถึงราชา
๕๙๗ ชาวแม่ทั้งหลายอย่าช้า ไปผูกคอมา
ฆ่าเสียให้ม้วยบรรลัย
๕๙๘ ข้าสาวชาวแม่แล่นไป ผูกคออุทัย
บ้างตีบ้างตบทำโพย
๕๙๙ ใช้ให้ข้าไทตีโบย ว่าเป็นขโมย
แต่ก่อนเพิ่งได้ตัวมา
๖๐๐ กล่าวคำมุสาวาทา ว่านางฉายา
แต่ก่อนเป็นโจรมานาน ๚ะ

ยานี

๖๐๑ นางเมืองแม่ร้องไห้ น้ำตาไหลลงโซมตัว
ยกมือขึ้นเหนือหัว คิดถึงตัวนางฉายา
๖๐๒ โอ้ตัวกูนี้เล่า จะสูญเปล่าเห็นมิช้า
เที่ยงแท้แล้วแลนา ความตายมาถึงตัวเรา
๖๐๓ ข้าไม่มีความผิด แต่สักนิดคิดแบ่งเบา
ผิดชอบมิทันเล่า สูชาวเจ้าฆ่าให้ตาย
๖๐๔ แม่เอยช่วยด้วยรา เขาตีด่าให้วอดวาย
ไม่ถามตามต้นปลาย ท่านทั้งหลายไม่ปรานี
๖๐๕ นางน้องร้องเท่าใด บ่ปราศรัยมันเร่งตี
บ่ห่อนจะปรานี นางเทวีม้วยมรณา
๖๐๖ เทวีหายเสียงร้อง เลือดฟูมฟองทั้งกายา
นางให้เอาหวายมา ผูกคอลากทั้งน้ำเสีย
๖๐๗ ทำให้สาแก่ใจ หนำพระท้ยเธอรักเมีย
ตายแล้วลอยน้ำเสีย ดูหน้าเมียพระราชา
๖๐๘ ชาตินางเป็นลูกนาค ครั้นมันลากลงคงคา
ได้เย็นเป็นคืนมา กัลยาไห้ร่ำไร
๖๐๙ นางเจ็บปวดยิ่งนัก กระดูกหักชํ้าภายใน
รอยแตกเลือดลามไหล นั่งร้องไห้ริมคงคา
๖๑๐ ชะรอยอีคนนี้ มเหสีพระราชา
ชื่อโฉมนางฉันนา ให้ตีด่ากูจำตาย
๖๑๑ กูคิดจะผูกภัย อีจังไรให้วอดวาย
มาตีเจ้าจำตาย อีขึ้ร้ายหึงเจ้าผัว
๖๑๒ คิดแล้วนางร้องไห้ น้ำตาไหลคิดถึงตัว
ร้องไห้ถึงเจ้าผัว พระทูนหัวของเมียอา
๖๑๓ พลัดพ่อแม่มาแล้ว เห็นหน้าแก้วยายกับตา
มาพลัดพระราชา กินน้ำตาไม่ราวัน
๖๑๔ ครั้งนี้มาพลัดพราก กรรมวิบากมาจากกัน
ป่านฉะนี้ยายกาวัน ไห้โศกศัลย์แล้วแลนา
๖๑๕ คิดมาน่าลิงโลด คนเดียวโสดอยู่เอกา
คนเดียวเปลี่ยวนักหนา กินน้ำตาไม่ราวัน
๖๑๖ เร่งคิดเร่งขัดอก น้ำตาตกให้กระศัลย์
ใครเลยจะป้องกัน จะผันหน้าไปหาใคร
๖๑๗ ไม่มีที่สำนัก ไม่รู้จักท่านผู้ใด
วันนี้จะนอนไหน นั่งร้องไห้ริมคงคา
๖๑๘ คิดพลางนางร่ำไห้ น้ำตาไหลลงโซมหน้า
โอ้ตัวกูนี้อา มาได้ยากเพราะผัวขวัญ ๚ะ
๖๑๙ เมื่อนั้นจึ่งยายเฒ่า ขายน้ำเต้าอยู่ทุกวัน
ผักนางทุกสิ่งอัน ใส่เรือพลันไปเร่ขาย
๖๒๐ ตะแกนั้นชื่อยายทู ขายบวบงูแลผักหาย[๕]
จึ่งร้องเรียกหญิงชาย ซื้อของยายก็มาดู
๖๒๑ ชาวเพื่อนร้องถามไป ขายอะไรท่านยายทู
มะระฤาบวบงู ใคร่จะรู้จงบอกมา
๖๒๒ ยายทูจึ่งบอกเล่า ขายน้ำเต้าแลแตงกวา
ทั้งบวบงูได้มา อย่าสงกาว่าไม่มี
๖๒๓ มาซื้อของยายบ้าง ทั้งผักนางมีถ้วนถี่
ถั่วแมงลักผักชี เรือยายนี้มีอักโข
๖๒๔ ทั้งสมจุกส้มซ่า ผลพะวาแลตะโก
เหล้าเข้มเต็มไหโต ทั้งส้มโอกินแกล้มกัน
๖๒๕ ปลาสวายแลเนื้อย่าง ยายใส่อ่างมามันมัน
สมควรด้วยเหล้านั้น ยายแกล้งสรรเอามาขาย
๖๒๖ อย่าว่าแต่เท่านั้น ทุกสิ่งพรรณมีมากมาย
ชอบใจท่านทั้งหลาย ยายจะขายนะหลานอา
๖๒๗ ทั้งกระแจะแลน้ำมัน ชักชวนกันมาซื้อทา
หอมฟุ้งทั้งกายา แบ้งผัดหน้างามเป็นนวล
๖๒๘ ใครซื้อก็อย่าช้า เร็วเร็วมายายจะด่วน
ลอดช่องวุ้นขนุนกวน ยายจะด่วนไปเร่ขาย
๖๒๙ เขาจึ่งนับเบี้ยให้ แก่ยายไซร้เป็นมากมาย
ขึ้นเหนือลงทางใต้ อุตส่าห์พายท่านยายเอย
๖๓๐ พายซ้ายแล้วพายขวา เขาร้องว่าอยู่เบยเบย
อุตส่าห์ท่านยายเอย ยายเร่งพุ้ยไปวุ่นวาย
๖๓๑ มาพบนางอรไท นั่งร้องไห้ที่หาดทราย
นางน้องร้องเรียกยาย นั่งลงไหว้เห็นแต่ไกล
๖๓๒ จึ่งพายเรือเข้ามา ถึงฉายาก็ปราศรัย
ไถ่ถามนางทรามวัย เจ้ามาไยแต่คนเดียว
๖๓๓ นางจึ่งเข้าไปใกล้ ยกมือไหว้ด้วยฉับเฉียว
ข้ามาแต่คนเดียว ขออาศัยด้วยยายรา
๖๓๔ พ่อแม่ข้าหาไม่ บ้านเมืองไกลซัดจรมา
พบโจรที่กลางป่า มันตีด่าฆ่าให้ตาย
๖๓๕ มันทำบ่เกรงกลัว แหลกทั้งตัวย่อมหนามหวาย
คิดว่าข้าน้อยตาย ผูกคอลากลอยน้ำมา
๖๓๖ ลอยมาปะหาดทราย มาพบยายหมายพึ่งพา
จงยายได้เมตตา เอ็นดูข้าเลี้ยงเอาบุญ ๚ะ

สุรางคนางค์

๖๓๗ เมื่อนั้นยายเฒ่า
จึ่งจอดเรือเข้า รับเอานางมา
ไปอยู่ด้วยยาย สบายนักหนา
ค่ำเช้าข้าวปลา ยายจะหาให้กิน
๖๓๘ ยายต้มน้ำพลัน
ประคบหลานขวัญ โดยใจถวิล
แต่ล้วนหนามหวาย ยายเก็บเสียสิ้น
แต่หัวจดตีน ได้ทะนานปลาย
๖๓๙ อยู่มาหลายวัน
นางนาฏจอมขวัญ ความเจ็บค่อยคลาย
เก็บผักใส่เรือ แต่เช้าก่อนงาย
พายไปเร่ขาย หน้าวังฉันนา
๖๔๐ นางผูกเวรไว้
ผลาญมันให้ได้ จึ่งนางฉายา
นีรมิตเป็นแก่ อายุชรา
ผมดำคือกา แสงงามใสศรี
๖๔๑ ฟันหักแก้มตอบ
อายุร้อยรอบ เหมือนพรหมจารี
เส้นผมนั้นดำ ดังสิบห้าปี
พายตามนที ขายผักไปพลาง
๖๔๒ ฉันนาเทวี
ชนม์สิบห้าปี ผมหงอกเบาบาง
เป็นทุกข์โศกเศร้า ผมเผ้าแห่งนาง
ใครทำได้บ้าง กูจะให้รางวัล
๖๔๓ นางแพ้เกศา
เจ็บใจไฉยา เป็นทุกข์โศกศัลย์
ถ้าใครทำได้ จะให้รางวัล
ผ้าผ่อนแพรพรรณ เงินทองแลนา
๖๔๔ ข้าสาวทูลเล่า
แม่ค้าน้ำเต้า ผมดำคือกา
อายุแก่เฒ่า ยืดยาวชรา
ผมดำคือกา ข้าเห็นอัศจรรย์
๖๔๕ ครั้นนางได้ฟัง
ฉันนาจึ่งสั่ง ให้หามาพลัน
ข้าสาวดีใจ เห็นจะได้รางวัล
มันจึ่งชวนกัน ไปหาตัวมา
๖๔๖ ยายจอดเรือไว้
เชิญยายเข้าไป อย่าได้อยู่ช้า
ตัวยายแก่เฒ่า ผมเผ้าคือกา
ว่านางให้หา จะถามถึงผม
๖๔๗ จึ่งยายเข้าไป
ถึงนางทรามวัย ฉันนาทรามชม
เจ้าจึ่งไถ่ถาม นางงามเอวกลม
เหตุไรจึ่งผม ยายดำนักหนา
๖๔๘ ยายจึ่งว่าเล่า
เกศาข้าเจ้า หงอกแต่ก่อนมา
ข้าเจ้าได้เรียน ปลูกด้วยตำรา
เจ็ดวันแลนา ดำงามพึงใจ
๖๔๙ ฉันนาจึ่งว่า
ยายเอ็นดูข้า ช่วยมาปลูกให้
แม้นยายจะเอา เงินทองเท่าไร
ค่าจ้างจะให้ ถึงใจหม่อมยาย
๖๕๐ ยายเฒ่าจึ่งว่า
เจ็บปวดนักหนา แทบประดาตาย
เจ้าจะกลั้นได้ฤๅ นางไทโฉมฉาย
นางว่าเป็นตาย จงยายเอ็นดู
๖๕๑ แม้นเจ้ากลั้นได้
ผู้คนข้าไท อย่าให้เขาอยู่
บิดามารดา อย่าให้ท่านรู้
อุตส่าห์กลั้นอยู่ กว่าจะได้เจ็ดวัน
๖๕๒ ฉันนาจึ่งว่า
แฟงฟักผักหญ้า ทั้งนั้นด้วยกัน
เงินห้าตำลึง ให้ถึงมือพลัน
พรุ่งนี้นัดกัน แต่เราทั้งสอง
๖๕๓ พรุ่งนี้ยายมา
ช่วยปลูกเกศา ดั่งข้านึกปอง
ข้าจ้างของยาย ร้อยห้าตำลึงทอง[๖]
สุดแต่ผมน้อง เหมือนแต่ก่อนมา
๖๕๔ ยายเฒ่าดีใจ
ครั้นขายผักได้ ลงเรือไคลคลา
นีรมิตดังเก่า เป็นสาวโสภา
ล่องตามคงคา พายมาหายาย
๖๕๕ ยายเฒ่าดีใจ
เจ้าช่างขายได้ เงินทองมากมาย
ชะตาราศี เจ้าดีเหลือหลาย
มาช่วยยายขาย ยายจะได้กินทาน
๖๕๖ นางผูกเวรี
ฉันนาคนนี้ ให้ม้วยวายปราณ
กูจะปองฆ่า เวราตามผลาญ
เคยทำแก่ท่าน ให้ม้วยอาสัญ
๖๕๗ ครั้นรุ่งขึ้นเช้า
นางนาฏนงเยาว์ เก็บผักมาพลัน
ใส่ลงในเรือ แล้วนางผายผัน
ลงเรือด้วยพลัน พายตามสาคร
๖๕๘ นีรมิตเป็นแก่
ผมเผ้าดำแล เหมือนดังแต่ก่อน
ขายผักหน้าวัง ฉันนาสายสมร
ครั้นเช้านางคอน เรือเข้ามาพลัน
๖๕๙ จึ่งนางฉันนา
เชิญยายขึ้นมา เจรจาด้วยกัน
ข้าสาวชาวแม่ ให้ขับเสียพลัน
มุ้งม่านกางกั้น อยู่แต่สองคน
๖๖๐ นางโกนเกศา
แล้วจึ่งเอาผ้า มารัดเป็นกล
เอาปลายมีดสับ ย่อยยับทั้งตน
เลือดทุกเส้นขน นางทนโศกา
๖๖๑ เอาปลาร้าใส่
กลั้นเจ็บมิได้ โหยไห้เวทนา
หม้อแกงครอบไว้ เหนือเกล้าฉายา
เอาสีผึ้งมา ปิดให้มั่นคง
๖๖๒ เคยทำแก่ท่าน
เวราตามผลาญ ฉันนาโฉมยง
บาปนั้นทันตา พาให้ไหลหลง
ใจนางจำนง บ่ได้กลัวเกรง
๖๖๓ ยายจึ่งลาไป
ฝูงข้าฝูงไท อย่าให้ครื้นเครง
เงินทองค่าจ้าง นางห่อมาเอง
บ่ได้ครื้นเครง นางลงเรือไป
๖๖๔ แต่วันนั้นมา
ไม่ลงเรือค้า หน้าวังนางไท้
ค่อยอยู่แต่เรือน บ่กลับคืนไป
นีรมีตรูปใหม่ ให้เหมือนก่อนมี
๖๖๕ เงินทองมากมาย
เต็มห่อตะพาย ค่าจ้างมากมี
อยู่แต่เรือนยาย ซื้อขายตามมี
อุทัยเทวี ฟังข่าวฉันนา
๖๖๖ คอยฟังแยบคาย
ถ้ามันมิตาย จะเวียนไปหา
จะทำยำยี ให้ม้วยมรณา
ทีนี้เห็นว่า จะม้วยอาสัญ
๖๖๗ ส่วนนางฉันนา
เจ็บปวดนักหนา คอยหาทุกวัน
สองมือกุมหัว ร้องไห้ตัวสั่น
กลางคืนกลางวัน ลำบากกายา
๖๖๘ เป็นหนอนทั้งหัว
ร้องไห้รักตัว ทนทุกข์เวทนา
มันกินสมอง หนองไหลออกมา
เต็มหน้าเต็มตา ทั่วทั้งตัวนาง
๖๖๙ น้ำหนองไหลพราว
หนอนตัวรียาว ออกจากปากนาง
ข้างนอกนั้นไซร้ แต่ล้วนไข่ขาง
นางร้องไห้คราง น้ำตาบ่เสบย
๖๗๐ โอ้ตัวกูอา
ยายเฒ่าแม่ค้า กูไม่คุ้นเคย
นับได้เจ็ดวัน มันไม่มาเลย
โอ้อกกูเอย จะม้วยมรณา
๖๗๑ จะม้วยอาสัญ
เจ็บพ้นที่กลั้น กินแต่น้ำตา
อุตส่าห์กลั้นไว้ ไม่บอกมารดา
กินแต่น้ำตา ค่ำเช้าเพรางาย
๖๗๒ โอ้กรรมแล้วแล
ถ้ามิบอกแม่ เห็นว่าจะตาย
ไปบอกมารดา ให้มาแก้คลาย
เห็นว่าจะตาย บัดนี้แลนา
๖๗๓ เรียกหาสาวใช้
เร่งเร็วเข้าไป บอกพระมารดา
ว่าลูกจะตาย วันนี้แลนา
บิดามารดา ให้มาจงพลัน
๖๗๔ ข้าสาวแล่นมา
อกนางสนตรา มารดาจอมขวัญ
บอกท้าวกัญจา บิดาจอมขวัญ
พระพ่อทรงธรรม์ ว่านางไห้หา
๖๗๕ บอกทั้งภูบาล
ผัวนางนงคราญ ให้เร่งเร็วมา
ว่านางจะตาย วันนี้แลนา
ขอแลดูหน้า วันเดียวนี้แล
๖๗๖ สนตรานงเยาว์
ฟังข้าสาวเล่า อกเปล่าปรวนแปร
เจ้าเจ็บอันใด จึ่งไม่บอกแม่
ต่อวันนี้แล จึ่งใช้มาพลัน
๖๗๗ นางจึ่งเข้ามา
ทูลพระราชา ท้าวผู้ทรงธรรม์
ว่านางฉันนา ให้มาจงพลัน
ทั้งลูกเขยขวัญ ให้เร่งเร็วมา ๚ะ

ยานี

๖๗๘ นางเมืองจึ่งวางมา เห็นลูกยาน้ำตาไหล
แก้วแม่เป็นไฉน เลือดลามไหลฉะนี้นา
๖๗๙ เป็นหนองเต็มทั้งตัว ลูกทูนหัวของแม่อา
บิดาแลมารดา ฟายน้ำตาไห้ระงม
๖๘๐ จึ่งเล่าแต่ต้นมา อีแม่ค้ามันปลูกผม
รูปมันมิพึงชม แต่เผ้าผมงามโสภา
๖๘๑ มันว่าปลูกผมได้ สับเลือดไหลใส่ปลาร้า
แล้วเอาหม้อแกงมา ครอบหัวข้าพระเทวี
๖๘๒ เล่าให้พ่อเจ้าฟัง ทุกสิ่งอันเป็นถ้วนถี่
ผมปลูกลูกว่าดี อีบัดศรีทำให้ตาย
๖๘๓ ผมปลูกลูกน้อยรัก แม่ค้าผักทำวุ่นวาย
พระแม่แก้ให้คลาย ลูกโฉมฉายจะมรณา
๖๘๔ เล่าพลางนางเจ็บหนัก ล้มกับตักพระมารดา
บัดเดียวสิ้นชีวา นางฉันนาขาดใจตาย
๖๘๕ บิดาแลมารดา ไห้โศกาอยู่วุ่นวาย
แม่ค้าฆ่าเจ้าตาย นางโฉมฉายจึ่งวายชนม์
๖๘๖ ท้าวให้ผูกคอมา หมู่แม่ค้าสิ้นทุกคน
ให้เกาะทุกตำบล ใส่ตรุไว้จำให้ตาย
๖๘๗ รับสั่งจังหวัดแขวง ทั่วทุกแห่งจงกฎหมาย
แม่ค้าฆ่าเจ้าตาย จับแยบคายผูกคอมา
๖๘๘ ไถ่ถามจงละเอียด บ้างส่อเสียดกันนักหนา
ผูกคอเหล่าแม่ค้า คร่าเอามาบ่ปราศรัย
๖๘๙ แม่ค้าสิ้นทั้งหลาย เห็นวุ่นวายแล่นหนีไป
ลางคนเขาจับได้ ต่างร้องไห้อยู่อึงอล
๖๙๐ จับได้เขาไถ่ถาม แก้เนื้อความไปตามจน
ข้าขายทุกตำบล แต่หน้าวังมิได้มา
๖๙๑ ท้าวให้ใส่ตรุไว้ นั่งร้องไห้ฟายน้ำตา
มารับซึ่งอาญา ต้องขื่อคาได้ทุกข์ทน
๖๙๒ เมื่อนั้นนางสนตรา โหยไห้หาถึงลูกตน
แก้วแม่มาวายชนม์ เพราะแม่ค้ามาชิงชัง
๖๙๓ มีผัวไม่ถึงปี มาหน่ายหนีสิ้นชีวัง
ละแม่อยู่ภายหลัง ทองร้อยชั่งของแม่เอ๋ย
๖๙๔ เจ้าเกิดมาคนเดียว แม่จะเหลียวหาใครเลย
เปล่าอกเปล่าใจเอย ทองอุไรไปแต่ตัว
๖๙๕ ได้เจ้ามาเป็นเพื่อน อรอุ่นเรือนแม่ชมชัว
แม่แต่งให้มีผัว ทองทั้งตัวหนีแม่ไป
๖๙๖ ไร้ลูกอยู่ถดถอย นางยอดสร้อยอรทรามวัย
จำให้แม่ร่ำไร ตายด้วยเจ้าแก้วแม่เอย
๖๙๗ สองคนแต่แม่เล่า ได้เห็นเจ้าผู้ทรามเชย
แม่ไห้อยู่เบยเบย บาปใดเลยให้มรณา
๖๙๘ เสียแรงแม่ปลูกฝัง ทองร้อยชั่งของแม่อา
เจ้าให้แม่โหยหา กินน้ำตาบ่เสบย
๖๙๙ เจ้าสุทธกุมาร ลูกสงสารผู้เป็นเขย
มาอยู่ไม่คุ้นเคย พระลูกเขยจะคืนไป
๗๐๐ แม่คิดลิงโลดนัก เพียงอกหักน้ำตาไหล
มาอยู่แล้วคืนไป แม่อาลัยถึงจอมขวัญ
๗๐๑ หัวอกแม่หกคว่ำ ร้องไห้ร่ำอยู่ทุกวัน
ข้าสาวชาวกำนัล นั่งห้อมล้อมศพเทวี
๗๐๒ ใครช่างคิดอ่านให้ ฟังคำใครปลูกเกศี
บ่รู้เท่าธุลี นางเทวีถึงความตาย
๗๐๓ ลูกน้อยของแม่อา ควรฤๅมานิ่งดูดาย
ดังฤๅมานอนตาย คนทั้งหลายมันชิงชัง
๗๐๔ เมื่อนั้นท้าวกัญจา สั่งเสนาแลชาววัง
ให้ปลูกโรงโขนหนัง ทำเมรุใหญ่จงฉับพลัน
๗๐๕ เมรุทิศรอบไสว เมรุทองใหญ่จงกวดขัน
สิงสัตว์จงทุกพรรณ ตามเคยทำแต่ก่อนมา
๗๐๖ แต่งม้าให้ชักรถ จงปรากฏงามโสภา
ขุนการเร่งตรวจตรา ตามบัญชาพระจุมพล
๗๐๗ เมืองออกแลเมืองหน้า เร่งให้มาทุกตำบล
หัวเมืองสิ้นทุกหน บาดหมายไปให้เข้ามา
๗๐๘ เสร็จแล้วการทั้งปวง จึ่งข้าหลวงทูลราชา
บ่าวไพร่โกนเกศา พระราชาชักศพไป
๗๐๙ กรรชิงแลระบำ ทั้งคนรำแลดอกไม้
กรวดลาวแลกรวดไทย จังหันใส่ไฟพะเนียง
๗๑๐ ช่อม่วงดอกฝอยทอง ประทัดร้องก้องส่ำเสียง
ลูกพลุจุดรายเรียง เห็นพ่างเพียงดวงดารา
๗๑๑ ละครแลเทพทอง บ้างรำร้องมีนานา
ลอดบ่วงรำผาลา ขึ้นปลายไม้หกคะเมน
๗๑๒ ไต่ลวดลอดเชือกหนัง มอญตีดั้งเล่นครื้นเครง
เป็นหมู่ดูนักเลง ย่อมเล่นโขนตามเรื่องไป
๗๑๓ ยกศพใส่เชิงตะกอน จึ่งภูธรให้จุดไฟ
เผาศพนางทรามวัย ไหม้เป็นเถ้าธุลีผง
๗๑๔ ถวายพระเพลิงแล้ว ลูกเขยแก้วคิดจำนง
จะบวชเป็นพระสงฆ์ จะบรรจงส่งบุญไป
๗๑๕ พ่อตาเห็นชอบแล้ว พระลูกแก้วบวชหน้าไฟ
จะแบ่งบุญนั้นให้ อรไทพ้นอบาย
๗๑๖ ในใจแสร้งทำกล กลัวปากคนเขาทั้งหลาย
แสร้งทำเป็นธิบาย ใครบ่รู้น้ำพระทัย
๗๑๗ ครั้นว่าจะไปลา กลัวพ่อตาจะน้อยใจ
คิดอ่านบวชหน้าไฟ แล้วจะไปดังใจหมาย
๗๑๘ รำลึกถึงอุทัย น้ำตาไหลไม่รู้วาย
ป่านนี้นางโฉมฉาย ไห้หาพี่มิวายเลย
๗๑๙ ตั้งแต่รูปทองหาย ใจพี่ชายไม่เสบย
ขวัญข้าวของพี่เอย บาปใดเลยมาบีฑา
๗๒๐ กันแสงแกล้งร่ำไร น้ำตาไหลถึงฉันนา
พระทัยของราชา ทรงโศกาถึงอุทัย
๗๒๑ จะบวชสักพรรษา แล้วจะลาพ่อตาไป
คิดแล้วจึ่งท้าวไท หาธูปเทียนเครื่องทั้งหลาย
๗๒๒ อาจารย์อุปัชฌาย์ นิมนต์มานั่งเรียงราย
แต่งนาคงามเฉิดฉาย คนทั้งหลายแห่ไสว
๗๒๓ เสลี่ยงคานหามทอง มารับรองเจ้านาคไป
ล่อโตแทงวิสัย รำแพนไปหน้าราชา
๗๒๔ เมื่อนั้นนางอุทัย เดินออกไปให้สบตา
ขวางหน้าพระราชา ท้าวแลมาว่าอุทัย
๗๒๕ เหลียวแลแปรพระพักตร์ ว่าน้องรักกูฤๅใคร
เดินคล้อยหน้ากูไป เหมือนทรามวัยดังพิมพ์เดียว
๗๒๖ ฤๅเห็นว่าอยู่ช้า เจ้ามาหาพี่ทรามเปลี่ยว
มาไยแต่องค์เดียว เห็นผิดเจียวนางจะมา
๗๒๗ หลากแหลกแปลกแก่ใจ นางอุทัยฤๅไรนา
หยุดก่อนชาวเราอา จะดูหน้าให้รู้จัก
๗๒๘ เขาเร่งหามเจ้าไป น้ำพระทัยเธอโกรธนัก
แค้นใจเพียงอกหัก จะหยุดอยู่พักดูโฉมงาม
๗๒๙ ยกก้นกระแทกลง นั่งบ่ตรงบนคานหาม
เหลียวดูนางโฉมงาม ท้าวร้องห้ามอย่าเพ่อไป
๗๓๐ จะดูให้รู้จัก นางเมียรักกูฤๅไร
คนหามเร่งหามไป น้ำพระทัยตั้งบ่ตรง
๗๓๑ ฝูงคนเข้าแห่หาม ถึงอารามแล้ววางลง
บวชเรียนโดยจำนง จึ่งพระสงฆ์บวชท้าวไท
๗๓๒ บวชแล้วบ่คลายคลาด จึ่งพระบาทผู้จอมไตร
ขึ้นอยู่กุฎีใหญ่ กว่าจะได้พรรษาเดียว
๗๓๓ บวชอยู่ตามศรัทธา แล้วจะลาพระทรามเปลี่ยว
อุตส่าห์พรรษาเดียว จะทนเทียวอยู่ตามบุญ ๚ะ

สุรางคนางค์

๗๓๔ เมื่อนั้นอุทัย
นางนาฏทรามวัย คิดถึงราชา
นางเอาแป้งหอม ใส่ลงนาวา
ล่องตามคงคา ถึงวัดท้าวไท
๗๓๕ ครั้นนางคิดแล้ว
เมื่อนั้นนางแก้ว ร้องขายขึ้นไป
พระองค์ได้ยิน สะเทิ้นหวั่นไหว
ใครหนอจงใจ เหมือนนางฉายา
๗๓๖ พระองค์จึ่งใช้
ให้คนแล่นไป เอาตัวเข้ามา
ใครร้องขายแป้ง บ่เกรงเลยนา
วางวู่เข้ามา เห็นชอบฤๅไร
๗๓๗ เราจะใคร่รู้
ได้ยินแก่หู เหมือนเสียงอุทัย
ใช้คนไปหา เอามาให้ได้
ให้หายสงสัย สนเท่ห์ไปมา
๗๓๘ เขาจึ่งกลับไป
ทูลแก่ท้าวไท ไม่พบเลยนา
พระองค์ได้ยิน เดือดดิ้นวิญญาณ์
จะลาพรรษา ไปหาอุทัย
๗๓๙ อยู่วันหนึ่งเล่า
นางไปแต่เช้า ร้องขายขึ้นไป
ซื้อบ้างฤๅขา ท่านชาวบ้านใต้
แป้งหอมเอาใจ ซื้อไว้ไล้ทา
๗๔๐ เมื่อนั้นจอมไตร
เผยแกลแลไป นึกว่าฉายา
นางพายเรือหนี บ่เห็นเลยนา
ให้คนตามหา บ่พบเทวี
๗๔๑ ผุดลุกขึ้นนั่ง
ใจจิตคิดหวัง ไม่สมประดี
วันนี้แกล้งคอย สาวน้อยคนนี้
เป็นตายตามที ตามกรรมเวรา
๗๔๒ เมื่อนั้นอุทัย
พายเรือเข้าไป ตรงหน้าราชา
ร้องขายน้ำมัน เหมือนแต่ก่อนมา
ให้เขาเข้าคร่า จับตัวอุทัย
๗๔๓ เถียงกันไปมา
ท่านท้าวให้หา เชิญตัวเข้าไป
เหตุใดพระเจ้า มาเกาะข้าไย
เกลือกเลื่องฦๅไป ว่าหยอกสีกา
๗๔๔ พระองค์ทรงธรรม
ไม่อยู่แก่กรรม เขาจะนินทา
ใครห่อนพระเจ้า มาเกาะสีกา
ทำให้ฦๅชา อย่าอย่าถอยไป
๗๔๕ แม้นว่าเข้าเกาะ
อย่ามาทะเลาะ เลยนางทรามวัย
เขากลุ้มรุมเข้า เอาตัวมาได้
เชิญเจ้าเข้าไป ให้ท้าวไถ่ถาม
๗๔๖ เขาพาตัวไป
ถึงกุฎีใหญ่ ท้าวไทโฉมงาม
เจ้าจึ่งเข้าไป กราบไหว้ทูลความ
ข้าพระติดตาม จึ่งได้ตัวมา
๗๔๗ เมื่อนั้นพันปี
ลุกขึ้นจากที่ จึ่งวางมาหา
ครั้นถึงแลเห็น อุทัยไฉยา
จึ่งฟายน้ำตา สะอื้นร่ำไร
๗๔๘ ร้องไห้กำสรด
อกท้าวระทด ด้วยนางทรามวัย
แต่พี่จากแก้ว นานแล้วเหลือใจ
น้ำตาหลั่งไหล ถึงนางทรามเชย
๗๔๙ ร้องไห้กำสรด
ระทวยระทด บ่รู้สึกเลย
ฟื้นขึ้นมาได้ ร่ำไห้บ่เสบย
โอ้อกเรียมเอย บาปใดตามทัน
๗๕๐ ควันวายโศกแล้ว
เมื่อนั้นพระแก้ว จึงถามเมียขวัญ
เป็นเหตุอันใด ให้พลัดพรากกัน
รี้พลทั้งนั้น จึ่งไม่เอามา
๗๕๑ นางสะอื้นไห้
มิใคร่เล่าได้ กลั้นทั้งน้ำตา
เพราะว่าสองเฒ่า มาถวายนาวา
ครั้นได้มันพา มาในทางบน
๗๕๒ พามาเรื่อยรี่
ข้าพระลงขี่ มันจึ่งชักยนต์
มันหับแคร่ไว้ ร้องไห้เสือกสน
บ่รู้ตำบล แห่งหนใดเลย
๗๕๓ ให้นางฉันนา
ผูกคอตีด่า ข้าพระทรามเชย
ตีด้วยกระบอง ข้าร้องอยู่เบยเบย
ด่าข้าทรามเชย ว่าเป็นขโมย
๗๕๔ ตีด้วยหนามหวาย
ให้ม้วยวอดวาย รุมกันทำโพย
มันจึ่งร้องด่า ว่าเป็นขโมย
มันให้ทำโบย จนตัวข้าตาย
๗๕๕ แล้วตีด้วยไม้
เลือดย้อยลามไหล ไม่ม้วยวอดวาย
ฟกชํ้าแตกหัก ข้าพระจำตาย
แล้วให้เอาหวาย ผูกคอลากไป
๗๕๖ ผ้าลุ่ยสิ้นตัว
โอ้พระทูนหัว บ่เห็นหน้าใคร
มันลากลงน้ำ คว่ำหน้าลอยไป
เล่าพลางนางไห้ ไม่วายน้ำตา
๗๕๗ ลอยปะหาดทราย
เมื่อจะพบยาย ฟื้นเป็นขึ้นมา
ข้าอยู่อาศัย ได้เป็นฤๅช้า
จึ่งรอดชีวา ได้เห็นผัวขวัญ
๗๕๘ พระคุณบุญปลูก
เลี้ยงข้าเหมือนลูก เพื่อนยากด้วยกัน
จะลาท้าวไท ด่วนไปเห็นหวั่น
เกลือกนางจอมขวัญ ฉันนามาเห็น
๗๕๙ ทั้งนี้เพราะใคร
พระองค์แกล้งใช้ ฉันนาทำเข็ญ
ว่าพลางนางหยอก สัพยอกยั่วเล่น
ฉันนาทำเข็ญ บ่รู้เลยนา
๗๖๐ เจ้าอย่าตัดพ้อ
แรกเริ่มเดิมขอ พี่ขืนใจมา
มิใคร่จะอยู่ได้ จำใจพี่ยา
เสกสรรเจรจา เยาะเย้ยไยไพ
๗๖๑ พี่กินน้ำตา
มิได้เห็นหน้า พระทองทรามวัย
ถ้าพี่มิรัก หล่อรูปมาไย
มิเชื่อน้ำใจ พี่บ้างเลยนา
๗๖๒ ตัวพี่อยู่ไกล
แต่ในน้ำใจ คิดถึงไฉยา
อุทัยน้องรัก รักกว่าฉันนา
เสือขบฟ้าผ่า ได้แก่เทวี
๗๖๓ นางจึ่งว่าเล่า
ขอบใจพระเจ้า ช่างสบถดี
ข้าหาผิดไม่ เสือจะทำไมมี
กลัวแต่พันปี อย่าได้ใว้ใจ
๗๖๔ แม้นน้องมิฟัง
บาปพี่แต่หลัง ได้แก่ทรามวัย
ถ้ารักฉันนา ฟ้าผ่าต้นไม้
ท้าวน้องอุทัย มิเชื่อพี่เลย
๗๖๕ ข้าเชื่อทุกสิ่ง
สบถนักยิ่ง จึ่งนางทรามเชย
ฉันนาเมียรัก อย่าพักว่าเลย
นางฉันนาเอย ป่านนี้จะครวญหา
๗๖๖ เมื่อนั้นพระองค์
จะปลงเพศสงฆ์ เข้าไปทูลลา
ไปหาปิ่นเกล้า ท่านท้าวพ่อตา
ว่าจะขอลา ไปหามารดร
๗๖๗ จะกลับคืนไป
เมืองข้าโพ้นไซร้ ถึงพระนคร
มีโองการตรัส แก่พระภูธร
ตามใจบังอร ลูกรักทรามวัย
๗๖๘ จึ่งนางสนตรา
ครั้นแลเห็นหน้า น้ำตาลามไหล
ให้แม่ลิงโลด กระโมจร่ำไร
จะห้ามมิได้ มิใช่ท่วงที
๗๖๙ ร้องไห้ถึงลูก
โอ้พระบุญปลูก ฉันนาเทวี
ผัวเจ้าไปแล้ว ลูกแก้วโฉมศรี
ตั้งแต่วันนี้ เปล่าแล้วแลนา
๗๗๐ ตั้งแต่ร้องไห้
ทนโศกบ่ได้ ไม่วายน้ำตา
ฉันนาแม่เอย แม่ไปด้วยรา
จะได้เห็นหน้า กำพร้าคนเดียว
๗๗๑ เจ้าลาแม่ไป
นับวันจะไกล เจ้าไม่แลเหลียว
แต่นี้จะอยู่ แต่แม่คนเดียว
เร่งคิดเร่งเปลี่ยว อกแล้วแลนา
๗๗๒ โอ้พระเอวบาง
มาหาแม่บ้าง ลูกรักแม่อา
แม่เห็นหน้าเจ้า เหมือนเห็นฉันนา
แม่กินน้ำตา ต่างข้าวเพรางาย
๗๗๓ เจ้าสุทธกุมาร
ลาพระภูบาล ทั้งสองโฉมฉาย
ครั้นทูลลาแล้ว พระแก้วฦๅสาย
เสด็จทรงช้างพลาย มาหาเมียขวัญ
๗๗๔ เมื่อนั้นพระองค์
ใจจิตคิดปลง สึกออกด้วยพลัน
ชมนางนารี พันปีกระสัน
พึ่งแรกพบกัน รักสุดเสนหา
๗๗๕ ตายแล้วเกิดใหม่
บุญตัวเราไซร้ จำจรให้มา
มิเคยร้างแก้ว บุญแล้วแลนา
พระยอดกิ่งฟ้า มาเราคืนไป
๗๗๖ จึ่งสั่งเสนา
รี้พลช้างม้า ขับมาไสว
แต่ล้วนของเรา ให้เอาคืนไป
ขอมลาวมอญไทย ให้คืนไปเมือง
๗๗๗ พลช้างพลม้า
พลรถโยธา ขับมานองเนือง
มนตรีเสนา มาเราไปเมือง
ฝูงคนฦๅเลื่อง ทั้งเมืองพารา
๗๗๘ ขับพลกลับไป
สมเด็จท้าวไท ขึ้นช้างวางมา
ท้าวน้องอุทัย ไปตามราชา
ขึ้นช้างยาตรา ลินลาคลาไคล
๗๗๙ ฤกษ์ดีแล้วเสร็จ
แต่ตีสิบเอ็ด ท้าวเสด็จไป
ด้วยหมู่ไพร่ฟ้า ช้างม้าข้าไท
แห่ห้อมล้อมไป ถึงไพรพฤกษา ๚ะ

ยานี

๗๘๐ ยายเฒ่าเป็นแม่ค้า ครั้นคํ่ามาคอยลูกตน
ตามหาเจ้าทุกหน ทุกตำบลเที่ยวไถ่ถาม
๗๘๑ ตะวันเร่งตกต่ำ เวลาค่ำได้สองยาม
เที่ยวหาลูกโฉมงาม กินน้ำตาไห้ร่ำไร
๗๘๒ แม่ยากอยู่ถดถอย ฤๅลูกน้อยหนีแม่ไป
จะให้แม่ขาดใจ ด้วยทรามวัยแก้วแม่เอย
๗๘๓ เจ้ามาโปรดแม่แล้ว โอ้ลูกแก้วผู้ทรามเชย
สาวน้อยของแม่เอย บาปใดเลยมาตามผลาญ
๗๘๔ แม่คิดถึงคุณเจ้า ลูกหนุ่มเหน้านางนงคราญ
เจ้าพลัดมาต่างบ้าน แม่พบพานเลี้ยงเจ้าไว้
๗๘๕ เจ้าให้แม่ลิงโลด ฤๅเจ้าโกรธแม่ว่าไร
อุ่นเรือนเพื่อนเข็ญใจ กรรมสิ่งไรนะลูกอา
๗๘๖ เป็นทุกข์ยิ่งเศร้าสร้อย ด้วยลูกน้อยไปไกลตา
เมื่อใดจะกลับมา ให้แม่เห็นเพื่อนเข็ญใจ
๗๘๗ เป็นทุกข์อยู่เศร้าสร้อย ถึงลูกน้อยไห้ร่ำไร
ปานนี้ไปอยู่ไหน แม่ร่ำไรฝั่งคงคา
๗๘๘ มืดค่ำย่ำชมัว ไม่คิดตัวยายเลยนา
จงพบสบฉายา แก้วกำพร้าเพื่อนเข็ญใจ
๗๘๙ ฤๅว่าเจ้าค้าขาย พบผู้ชายเขาพาไป
สาวน้อยเขาใส่ใจ พาไปไว้แล้วชมเชย
๗๙๐ แม่เจ้าไปมีผัว ทองทั้งตัวของยายเอย
มิบอกแก่ยายเลย แก้วแม่เอยด่วนหนีไป
๗๙๑ ไม่พบกลับคืนมา ก่นน้ำตาไห้ร่ำไร
ล้มตัวลงหลับใหล คิดถึงไท้นางไฉยา ๚ะ

สุรางคนางค์

๗๙๒ เมื่อนั้นราชา
เสด็จไปถึงป่า ชมสัตว์ในไพร
ละมั่งกวางทอง เยื้องย่องคลาไคล
งัวเพลาะตัวใหญ่ ไล่กันไปมา
๗๙๓ ถึกเถื่อนเกลื่อนกลาด
คชสีห์สีหราช เดียรดาษในพนา
ม้ามอนรสิงห์ กระทิงมหิงสา
เสือเหลืองเยื้องมา เสือปลาวิ่งไป
๗๙๔ ชมพรรณฝูงช้าง
เดินอยู่สล้าง ที่กลางพงไพร
พลายพังพรั่งพรู ดูงามไสว
ชมเล่นเย็นใจ กับอุทัยเทวี
๗๙๕ ช้างพลายช้างเนียม
ตกมันเหี้ยมเกรียม ในพนาลี
บริวารมั่งคั่ง หน้าหลังมากมี
สมเด็จพันปี ชี้ให้ชมพลาง
๗๙๖ เหลียวแลเห็นสัตว์
ม้ามิ่งสิงคนัด โตเต้นเล่นหาง
ลิงค่างหมีเม่น เต้นไต่ตามทาง
ชะนีแลบ่าง วางขึ้นพฤกษา
๗๙๗ จิ้งจอกกระจ้อน
หมาไนไล่หอน แล่นซอนไปมา
ลิงลมลิงจุ่น ร่ายไม้พฤกษา
โจนไล่ไปมา ไก่ฟ้าพญาลอ
๗๙๘ ส่วนนางอุทัย
เหลียวแลแปรไป พระทัยพึงพอ
ข้าไม่เคยเห็น เป็นน่าหัวร่อ
พระทัยพึงพอ ถามพระราชา
๗๙๙ ข้าแต่พันปี
โปรดเกล้าเกศี ทรงพระเมตตา
เมียรักขอถาม โฉมงามบอกข้า
ฝูงสัตว์ในป่า อเนกมากมี
๘๐๐ สัตว์นั้นชื่อไร
เดินตามกันไป ในป่าพงพี
เมืองเราโพ้นไซร้ บ่ได้จะมี
ทรงธรรม์พันปี บอกแก่เมียรา
๘๐๑ จึ่งพระจอมจักร
บอกแก่เมียรัก อุทัยไฉยา
สัตว์นั้นเจ้าพี่ มฤคีมฤคา
กวางทองเลียงผา เที่ยวหาอาหาร
๘๐๒ สัตว์นั้นชื่อไร
สำคัญโตใหญ่ เที่ยวในดงดาน
ลางตัวไล่ฟัด สัตว์เป็นอาหาร
ลางตัวรุกราน ระเห็จเตร็ดไป
๘๐๓ สัตว์นั้นเจ้าพี่
ชื่อว่าเสือสีห์ อินทรียโตใหญ่
ผาดโผนโจนร้อง ในท้องพงไพร
เลียงผาหมาใน อรไทอย่ากลัว
๘๐๔ อุทัยไฉยา
ทูลถามราชา เจ้าฟ้าผู้ผัว
เห็นสัตว์หมู่นั้น จอมขวัญอย่ากลัว
นางทองทั้งตัว ถามพระราชา
๘๐๕ สัตว์นั้นชื่อไร
ผาดโผนโจนไป ในไพรพฤกษา
หน้าเค้าเว้าวอก กลอกตาไปมา
ดูดูราชา เห็นน่าตกใจ
๘๐๖ เมื่อนั้นภูเบศร
ชำเลืองพระเนตร ผันแปรแลไป
สองข้างริมทาง ลิงข้างในไพร
บอกแก่ทรามวัย อุทัยไฉยา
๘๐๗ ลิงนั้นเจ้าพี่
ชื่อว่าชะนี ห้อยโหนโจนมา
ผาดโผนโจนไล่ แกว่งปลายพฤกษา
บอกแก้วกัลยา เจ้าอย่าตกใจ
๘๐๘ ฟังเสียงนกร้อง
กระเหว่ามี่ก้อง ในท้องพงไพร
แขกเต้าสาลิกา ในพนาลัย
จึ่งนางทรามวัย ถามพระราชา
๘๐๙ นั่นเสียงอะไร
ไพรเพราะเอาใจ ในไพรพฤกษา
พระองค์ทรงเดช ทรงพระเมตตา
บอกแก่เมียรา นั่นเสียงอันใด
๘๑๐ เมื่อนั้นราชา
บอกนางฉายา ท้าวน้องทรามวัย
สาลิกาแขกเต้า นกเปล้าระวังไพร
การเวกเสียงใส ไก่แก้วโนรี
๘๑๑ นกอะไรพระเจ้า
จับอยู่คลึงเคล้า ค่าไม้สักขี
บ้างบินบ้างจับ กลอกกลับสับตี
บ้างจับกับที่ ขันขานต่อกัน
๘๑๒ นกนั้นฤๅนะเจ้า
บินว่อนร่อนเคล้า ชื่อนกนวลจันทร์
สองตัวจับอยู่ เป็นคู่เคียงกัน
จับอยู่เรียงรัน เคล้ากันไปมา
๘๑๓ นกอะไรพระเจ้า
จับอยู่ซบเซา เหนือกิ่งพฤกษา
บินเบือนเชือนออก กลอกตาไปมา
น่ากลัวนักหนา นะพระจอมไตร
๘๑๔ นกนั้นฤๅเจ้า
ทองคำลำเพา เจ้าอย่าตกใจ
ชื่อนกเค้าแมว ทิ้งทูตจังไร
นกแสกแถกไถล ในป่าพนาลี
๘๑๕ รี้พลกล่นเกลื่อน
แรมทางสามเดือน จึ่งถึงบุรี
เร่งตั้งพลับพลา ให้พระเทวี
อุทัยโฉมศรี อยู่นอกพารา
๘๑๖ ตั้งอยู่นอกเมือง
พระทองบุญเรือง ให้คนรักษา
เสด็จไปแต่องค์ ตรงเข้าพารา
ครั้นถึงบิดา จึ่งบังคมพลัน
๘๑๗ พระองค์กราบเกล้า
ทูลแก่พระเจ้า บิดาทรงธรรม์
ข้าพระไปอยู่ ด้วยนางเมียขวัญ
เป็นเหตุอัศจรรย์ นางนั้นมาตาย
๘๑๘ เหตุด้วยแม่ค้า
มาปลูกเกศา ให้นางวอดวาย
ครั้นถ้วนเจ็ดวัน ฉันนามาตาย
ข้าพระฦๅสาย จึ่งบวชหน้าไฟ
๘๑๙ กายสุทธจึ่งถาม
พระแม่โฉมงาม ถึงนางอุทัย
เป็นไรไม่เห็น นางน้องทรามวัย
อุทัยไปไหน ไม่มาเกริ่นกราย
๘๒๐ พระแม่ถอนใจ
เจ้าจะว่าไป ใจแม่จะขาดตาย
ได้สี่เดือนแล้ว ลูกแก้วมาหาย
ลูกรักโฉมฉาย หายไปแลนา
๘๒๑ นางลงอาบน้ำ
สองเฒ่าเจ้ากรรม ชักยนต์เรือมา
ครั้นถึงฉวยได้ พาไปเวหา
แม่กินน้ำตา ร้องไห้อยู่เบยเบย
๘๒๒ แม่คิดว่าเจ้า
ใช้ให้สองเฒ่า มารับทรามเชย
หาไม่จริงแล้ว ลูกแก้วทรามเชย
ทำฉันใดเลย แก่อกแม่อา
๘๒๓ เจ้าอย่าอาลัย
แม่จะขอให้ใหม่ ลูกไท้ลูกพญา
ให้เหมือนอุทัย นะแก้วแม่อา
เจ้าอย่าโศกา ร้องไห้ร่ำไร
๘๒๔ ฝากแล้วฝากเล่า
เหมือนลมปากเปล่า ให้นางหายไป
เขาตีนางตาย ถึงเมืองโพ้นไซร้
บุญนางทรามวัย ข้าจึ่งได้มา
๘๒๕ ให้เร่งเร็วไป
รับนางอุทัย อยู่ในพลับพลา
ทั้งแม่ทั้งพ่อ ทั้งยายทั้งตา
ผูกช้างผูกม้า ปราบทั้งหนทาง
๘๒๖ ราชวัติฉัตรธง
แผ้วถางให้ตรง ถึงพลับพลานาง
รีบแต่งจงสรรพ รับนางเอวบาง
ท้าวให้ผูกช้าง กูบเงินกูบทอง
๘๒๗ แตรสังข์อึงมี่
ฆ้องกลองเป่าปี่ รี้พลเนืองนอง
ข้าสาวชาวแม่ เถ้าแก่ก่ายกอง
มารับนางทอง ถึงป่าหิมวันต์
๘๒๘ ท่านท้าวทั้งสอง
เป็นเกี่ยวเป็นดอง กับยายกาวัน
ทั้งผัวทั้งเมีย ขึ้นช้างด้วยกัน
รี้พลทั้งนั้น แห่ห้อมล้อมมา
๘๒๙ ครั้นแลเห็นนาง
ลงจากหลังช้าง สวมกอดฉายา
คิดว่าตายแล้ว ลูกแก้วแม่อา
บุญเรานักหนา จึ่งมาพบกัน
๘๓๐ สองเฒ่ากำสรด
หัวอกระทด ร้องไห้งกงัน
กาวินพระทอง ร้องไห้รำพัน
เพียงม้วยอาสัญ ด้วยนางเทวี
๘๓๑ ไห้แล้วไห้เล่า
สวมกอดนงเยาว์ ลูกแก้วโฉมศรี
เจ้าละแม่แล้ว ลูกแก้วมาหนี
ลูกรักเทวี ใครพาเจ้าไป
๘๓๒ เล่าถึงความยาก
มิทันออกปาก โศกาอาลัย
โอ้พระทูนหัว จนตัวบรรลัย
มิใคร่เล่าได้ ร้องไห้ไปพลาง
๘๓๓ ทั้งนี้ฉันนา
ให้สองเฒ่ามา ล่อลวงอำพราง
เอาใส่เรือไป ข้าไห้ครวญคราง
เอาไปให้นาง ฉันนาทำโพย
๘๓๔ บ้างตบบ้างต่อย
ทำข้ายับย่อย ว่าเป็นขโมย
คร่าลูกขึ้นไป เอาไม้ไล่โบย
รุมกันทำโพย เลือดย้อยลามไหล
๘๓๕ ตีด้วยกระบอง
บ้างกดคอถอง ข้าจึ่งตายไป
มันเอาหวายมา ผูกคอทรามวัย
ให้ลากลงไป ทิ้งน้ำจมหาย
๘๓๖ ข้าไม่ถึงกรรม
มันลากลงน้ำ ลอยปะหาดทราย
เมื่อกรรมมิจน พ้นที่เคยตาย
วันนั้นพบยาย เลี้ยงดูรักษา
๘๓๗ แกต้มน้ำแล้ว
ประคบลูกแก้ว จึ่งรอดตัวมา
ครั้นข้าคลายแล้ว จึ่งพบราชา
อยู่ในวัดวา มารับเอาไป
๘๓๘ รับไว้กุฎี
สึกออกจากชี ไปลาท้าวไท
กัญจาธิราช พระบาทจอมไตร
ครั้นได้ฤกษ์ไชย จึ่งพากันมา
๘๓๙ ชวนกันร้องไห้
ได้ยากเหลือใจ ลูกแก้วแม่อา
บุญเจ้ามาสบ พบพระราชา
จึ่งชวนกันมา เห็นหน้าตายาย
๘๔๐ โอ้พระลูกรัก
บุญเจ้ามากนัก กว่าคนทั้งหลาย
แก้วแม่รอดแล้ว พ้นจากความตาย
ทีนี้ตายาย พึ่งบุญเทวี
๘๔๑ จึ่งพระบิดา
ว่าแก่พังงา ลูกรักโฉมศรี
มาเราเข้าไป ในพระบุรี
เชิญพระเทวี ขึ้นช้างกระโจมทอง
๘๔๒ ขึ้นข้างวางมา
รี้พลถ้วนหน้า วิ่งมาก่ายกอง
ห้อมล้อมนางไป ไสวเนืองนอง
บัดเดียวพระทอง ถึงพระพารา
๘๔๓ การบภูบาล
มีพระโองการ วิเสทซ้ายขวา
ให้แต่งบายศรี อันงามโสภา
ทำขวัญฉายา สะใภ้ภูมี
๘๔๔ บายศรีงามสรรพ
แล้วสองสำรับ ประดับงามดี
ชั้นหนึ่งลายทอง ลำยองมีศรี
ชั้นสองรูจี ด้วยแก้วประพาฬ
๘๔๕ ชั้นสามนั้นเล่า
ประเสริฐเพริศเพรา แสงแก้วชัชวาล
เรืองรุ่งพุ่งพวย สะสวยใดจะปาน
ประดับอลงการ ด้วยแก้วมณี
๘๔๖ ชั้นสี่ลงมา
ล้วนแก้วมุกดา ประไพใสศรี
เป็นแสงระยับ สรรพสวยรวยดี
เฉิดฉันชั้นสี่ งามดีเอาใจ
๘๔๗ ประดับชั้นห้า
รัศมีโสภา เห็นงามไสว
แกะเป็นกระหนก ผันผกขึ้นไป
สร้อยสนอำไพ แสงใสรัศมี
๘๔๘ ถึงชั้นหกนั้น
เฉิดฉายพรายพรรณ สีสันงามดี
แก้วเพชรประดับ รุ่งเรืองรูจี
ประไพใสศรี รัศมีชัชวาล
๘๔๙ ครั้นถึงชั้นเจ็ด
งามล้ำสำเร็จ ด้วยแก้วสูริย์กานต์
ประเสริฐเลิศแล้ว ผ่องแผ้วใดจะปาน
แสงแก้วชัชวาล ทุกชั้นบายศรี
๘๕๐ จานเงินจานทอง
จานแก้วลำยอง เรืองรุ่งรูจี
ล้ำเลิศเฉิดฉัน ทุกชั้นบายศรี
สารพันอันมี ขนมนมเนย
๘๕๑ สำเร็จเสร็จแล้ว
เมื่อนั้นพระแก้ว การบทรามเชย
ให้ยกเข้ามา อย่าได้ช้าเลย
แต่งทำตามเคย แต่บูราณมา
๘๕๒ ยังนางอุทัย
ให้ประดับไป ด้วยพระภูษา
ข้าสาวชาวแม่ แห่ทั้งซ้ายขวา
สมโภชฉายา อุทัยจอมขวัญ
๘๕๓ วันนี้วันดี
ฤกษ์งามนาที ดีแล้วพญาวัน
พ่อผัวแม่ผัว นั่งอยู่พร้อมกัน
รับมิ่งสิ่งขวัญ อุทัยไฉยา
๘๕๔ ขวัญข้าวเจ้าอยู่
ขวัญนางโฉมตรู อยู่บนเวหา
เมื่อเฒ่าพาไป ใส่เรือนาวา
เชิญขวัญเจ้ามา ดั่งเก่าคืนคง
๘๕๕ เชิญขวัญลูกรัก
ขวัญนางจอมจักร เมื่อตกน้ำลง
ขวัญอยู่ป่าช้า เชิญมาสมองค์
ขวัญอยู่กลางดง เชิญจงเข้ามา
๘๕๖ พ่อเชิญขวัญเจ้า
ขวัญนางหนุ่มเหน้า ผจญฉันนา
เมื่อตัวเจ้าตาย ลอยในคงคา
เชิญขวัญเจ้ามา ดั่งเก่าใจปอง
๘๕๗ เชิญขวัญเจ้ามา
ขวัญอยู่ตีนท่า ที่ห้วยที่คลอง
ขวัญอยู่คงคา เชิญมาสมสอง
ในธารห้วยหนอง ที่ช่องน้ำไหล
๘๕๘ ขวัญอยู่จอมผา
อยู่ปลายพฤกษา อย่าช้ามาไว
อยู่ที่ก้อนเส้า เฝ้าอยู่เตาไฟ
อย่าเที่ยวไปไกล เชิญขวัญเจ้ามา
๘๕๙ พ่อเชิญขวัญเจ้า
ขวัญอยู่จอมเขา ในถ้ำคูหา
อยู่จอมเขาเขียว เที่ยวท่องไปมา
เชิญขวัญกัลยา สมนางอุทัย
๘๖๐ เชิญพระขวัญเอย
อย่าได้ไปเลย ชมสัตว์ในไพร
เสือสีห์แรดช้าง ขวัญนางตกใจ
เชิญขวัญทรามวัย กลับยังพารา
๘๖๑ พ่อเชิญขวัญเจ้า
ขวัญนางนงเยาว์ เฝ้าอยู่คงคา
ชมพรรณเงือกงู ราหูกุ้งปลา
เชิญพระขวัญมา อย่าช้าจงพลัน
๘๖๒ เชิญขวัญเทวี
มาชมบายศรี มีอยู่เรียงรัน
พระญาติแห่ห้อม นั่งล้อมพร้อมกัน
เรียกมิ่งเชิญขวัญ เอววัลย์อุทัย
๘๖๓ ครั้นทำขวัญแล้ว
เมื่อนั้นพระแก้ว การบทรงไชย
สมโภชลูกรัก มาแต่เมืองไกล
นักเลงเพลงใน ละครเทพทอง
๘๖๔ บ้างดีดกระจับปี่
รับกับมโหรี สีซอขับร้อง
มีทั้งโรงหนัง คนรำทำนอง
ฝูงคนก่ายกอง ตามดูไปมา
๘๖๕ ครั้นทำขวัญแล้ว
อภิเษกลูกแก้ว แทนพระบิดา
จึ่งเวนพระนคร แก่สองพังงา
นางราชกัญญา ข้าไทเงินทอง
๘๖๖ สิบสองพระคลัง
ข้าสาวสะพรั่ง มากมายเนืองนอง
รี้พลโยธา เสนาก่ายกอง
เสร็จแล้วพระทอง ให้พรสองศรี
๘๖๗ แขกเมืองมาไหว้
เงินทองดอกไม้ ก่ายกองมากมี
ฝาหรั่งวิลันดา คุลาตานี
ลาวขอมมากมี พม่าเมงมอญ
๘๖๘ จีนจามพราหมณเทศ
ฝาหรั่งวิเสท ทุกกรุงพระนคร
ชวนกันปรีดา เข้ามาสลอน
เมืองขึ้นภูธร มากมายเหลือตรา
๘๖๙ ขออายุเจ้า
ยืนจงแก่เฒ่า ได้พันพระวษา
จงอยู่เสวยราชย์ กับนาฏฉายา
ครองราษฎ์ประชา โรคาอย่าพาน
๘๗๐ ขอมีเดชะ
เดโชตะบะ ปราบทั่วสงสาร
ศัตรูแพ้พ่าย อย่าได้มาพาน
ผู้ใดกล้าหาญ แพ้ภัยหน่ายหนี
๘๗๑ ท้าวผู้เสวยราช
ครองเมืองพระบาท บ่ได้ราคี
ท้าวจึ่งให้ทาน คนยากบ่มี
ทั่วทั้งบุรี เมืองพระภูธร ๚ะ

ยานี

๘๗๒ ท่านให้ตีฆ้องป่าว ทุกแดนด้าวขึ้นภูบาล
ให้เร่งมาอย่านาน บอกฝูงราษฎร์ประชาชน
๘๗๓ บ้านนอกแลขอกนา ให้เร่งมาทุกตำบล
ตามคำพระจุมพล ท้าวตรัสสั่งมิทันนาน
๘๗๔ ให้ป่าวทุกตำบล ตามจุมพลมีโองการ
รอบเมืองพระภูบาล ตามโองการกูตรัสไป
๘๗๕ ครั้นรู้แล้วทั่วกัน ว่าทรงธรรม์พระจอมไตร
กับนางผู้ทรามวัย ท้าวป่าวให้ไปรับทาน
๘๗๖ ท่านท้าวจึ่งตรัสสั่ง หมู่ชาววังให้ตั้งการ
ทำเป็นศาลาทาน สำเร็จแล้วดังจำนง
๘๗๗ วาดเขียนสิ้นทุกห้อง แกมด้วยทองงามบรรจง
ครั้นแล้วจึ่งพระองค์ แต่งให้คนอยู่รักษา
๘๗๘ เงินทองขนออกไป กองไว้ในที่ศาลา
คนยากนั้นเข้ามา แต่งเลี้ยงไว้จึ่งให้ทาน
๘๗๙ ครั้งนั้นเกิดมั่งมี ได้เป็นดีเพราะภูบาล
พระองค์เจ้าให้ทาน ปรากฏไปทั่วทิศา
๘๘๐ ฟุ้งเฟื่องฦๅปรากฏ ในโสฬสกรุงพารา
ฝูงคนเกลื่อนกล่นมา ด้วยเจ้าฟ้าบำเพ็งทาน
๘๘๑ แผ่นดินก็ไหวหวั่น ฟ้าก็ลั่นทุกสถาน
เดชะสมภารท่าน อัศจรรย์ถึงนาคา
๘๘๒ พระสมุทรก็เป็นฟอง ลั่นกึกก้องในเวหา
ดาวดึงส์แลพรหมา ทุกชั้นฟ้าก็หวั่นไหว
๘๘๓ เทวาจึ่งให้พร แก่บังอรสองทรามวัย
ทั้งสองครองกันไป โรคแลภัยอย่ามาพาน
๘๘๔ พระองค์จงได้ตรัส ได้โปรดสัตว์ในสงสาร
เดชะพระสมภาร สร้างมานานตามรักษา
๘๘๕ เจ้าสุทธกุมาร กับนงคราญงามโสภา
สุขเกษมเปรมปรีดา ยืดยาวมาได้ช้านาน
๘๘๖ บิดาแลมารดา ม้วยมรณาถึงแก่กาล
เมื่อนั้นพระภูบาล ปลงศพท้าวเจ้าจอมไตร
๘๘๗ ส่วนพระบิดาโสด สิริสุทโธทน์แลท้าวไท
มารดานั้นเล่าไซร้ พระสิริมหามายา
๘๘๘ กายสุทธกุมาร ครั้นสิ้นกาลม้วยมรณา
กลับชาตินั้นคืนมา คือสิทธารถราชกุมาร
๘๘๙ นางนาฏผู้ทรามวัย นางอุทัยร่วมสงสาร
กลับชาติแล้วบ่นาน พระพิมพาสายสมร
๘๙๐ กัญจาผู้นเรนทร์ อานนท์เถรงามบวร
นางนาฏสายสมร อันดับท้าวผู้ทรามวัย
๘๙๑ ครั้นกลับชาติมาแล้ว ไคลคลาดแคล้วจากภพไป
เสวยทิพย์สมบัติใน วิมานฟ้าอันอุดม
๘๙๒ นางฟ้าได้ถึงหมื่น งามช้อยชื่นน่าพึงชม
อ้อนแอ้นลำเอวกลม นั่งห้อมล้อมท้าวเทวา
๘๙๓ นางสวรรค์บำเรอกล่อม มาแห่ห้อมทั้งซ้ายขวา
ฝูงเทพเทวา สาวน้อยน้อยงามสะคราญ
๘๙๔ ทั้งนี้เกิดด้วยบุญ อันเพิ่มพูนสร้างสมภาร
ขับกล่อมพระภูบาล ในสวรรค์วิมานทอง ๚ะ


[๑] สัมผัสไม่ส่งกับบทต่อไป

[๒] สัมผัสไม่ส่งกับบทต่อไป

[๓] ตั้งแต่บทที่ ๔๓๘-๔๖๕ ไม่มีในเอกสารเลขที่ ๑๖๔ น่าจะแต่งเพิ่มขึ้นภายหลัง

[๔] สัดจอน = สัดจอง

[๕] ตั้งแต่บทที่ ๖๑๘-๖๒๘ ไม่มีในเอกสารเลขที่ ๑๖๔ แต่ปรากฏในเอกสารเลขที่ ๑๖๓ เข้าใจว่าน่าจะแต่งเพิ่มขึ้นภายหลัง

[๖] เอกสารเลขที่ ๑๖๓ ว่า “ห้าร้อยตำลึงทอง”

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ