เรื่องรับเซอร์ยอนเบาริงราชทูตอังกฤษ

หมายรับสั่งที่ ๑

เรื่องจัดของไปทักทูตที่เมืองสมุทปราการ

ด้วยท่านผู้สำเร็จราชการในกรมท่า รับพระบรมราชโองการใส่เกล้า ฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สั่งว่า พระยาราชวังสรรค์ พระยามหาอรรคนิกร พระยาสมุทบุรานุรักษ์ บอกขึ้นมาว่า ณวัน ๓ ๗ฯ๕ ค่ำ ปีเถาะยังเปนฉศก (พ.ศ. ๒๓๙๗) อยู่เพลาเช้า เห็นกำปั่นไฟมาทอดอยู่นอกสันดอนลำ ๑ จะเปนกำปั่นทูตอังกฤษ ฤๅทูตเมืองอเมริกันยังหาได้ความชัดไม่ โปรดเกล้า ฯ ให้จัด น้ำตาล กาแฟ ใบชา กล้วย ส้มส่งลงไปให้พระยามนตรีสุริยวงศ์ เตรียมไว้คอยทักทูตที่เมืองสมุทปราการตามเยี่ยงอย่างแต่ก่อน ถ้าเปนกำปั่นทูตแน่ก็จะให้ทักเสียทีเดียวนั้น ให้เจ้าพนักงานพระคลังสินค้าจัดกาแฟหนัก... ให้เจ้าพนักงานพระคลังในซ้ายจัดน้ำตาลทรายขาวหนัก ๕๐ ชั่ง ๑๐ ตำลึง ให้เจ้าพนักงานกรมท่าซ้ายจัดใบชาหีบใหญ่หีบ ๑ ให้พระแก้วพระคลังสวนจัดมะพร้าวอ่อน ๑๐๐ ทลาย กล้วย ๕๐ เครือ ส้มโอ ๓๐๐ ผล แล้วให้เจ้าพนักงานทั้งนี้เร่งจัดสิ่งของลงไปส่ง ให้พระยามนตรีสุริยวงศ์ณเมืองสมุทปราการ แต่ณวัน ๕ ๕ ค่ำ เพลาเช้าเปนการเร็วอย่าให้ขาดได้ตามรับสั่ง.

หมายรับสั่งที่ ๒

เรื่องจัดสิ่งของ ๆ หลวงไปทักทูตอังกฤษที่เรือกลไฟ

ด้วยท่านผู้สำเร็จราชการกรมท่า รับพระบรมราชโองการใส่เกล้าฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ สั่งว่า กำปั่นเซอยอนบริงทูตอังกฤษเข้ามาทอดอยู่ที่น่าป้อมปิดปัจนึก ตัวเซอยอนบริงขึ้นมาพักอยู่ที่ตึกน่าวัดประยุรวงศาราม ทหารกลาสีพักอยู่ในกำปั่นไฟนั้น แต่ก่อนเปนอย่างธรรมเนียมทูตมาจากต่างประเทศ เกณฑ์ให้ขุนศาล มหาดไทย กลาโหม จัตุสดมภ์ เวียนกันเอาสิ่งของไปทักแขกเมืองกว่าแขกเมืองจะกลับไป แลเมื่อครั้งแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เซอเยมสบรุกทูตอังกฤษเข้ามาครั้งนั้น โปรดเกล้า ฯ ให้เกณฑ์จีนเจ้าภาษีเวียนกันเอาสิ่งของไปทักแขกเมือง ครั้งนี้พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราชดำริห์เห็นว่า จะเกณฑ์ให้เจ้าภาษีเวียนกันเอาสิ่งของไปทักเหมือนอย่างเมื่อครั้งเซอเยมสบรุกนั้น ก็เปนที่เบียดเบียนเจ้าภาษีอากรไป จึงโปรดเกล้า ฯ ให้เจ้าพนักงานพระคลังมหาสมบัติ เบิกเงินหลวงออกซื้อสิ่งของไปพระราชทานทูตครั้งนี้ เพื่อจะให้เฉลิมพระเกียรติยศแก่นานาประเทศ เมื่อกำปั่นไฟ กำปั่นรบ ๒ ลำยังอยู่นอกสันดอน แล้วเข้ามาอยู่เมืองสมุทปราการ ก็โปรดให้เจ้าพนักงานซื้อของส่งแขกเมืองมิให้อดอยาก เดี๋ยวนี้กำปั่นไฟขึ้นมาทอดอยู่ที่ป้อมปิดปัจนึกแล้ว ให้เจ้าพนักงานพระคลังมหาสมบัติจัดซื้อ สุกร เป็ด ไก่ เผือกมัน ผลไม้ต่าง ๆ เครื่องกับเข้าพอสมควร ไปทักแขกเมืองที่กำปั่นไฟ แต่ณวัน ๑ ๕ ค่ำไป แล้วเว้น ๓ วันมาทักครั้งหนึ่งกว่าแขกเมืองจะกลับไป แลสิ่งของที่จะเอาไปทักนั้นครั้นจะกำหนดมามากแลน้อยก็มิได้ พระยาราชภักดี ก็ทรงพระมหากรุณาชุบเลี้ยงเปนอธิบดีผู้ใหญ่มีสติปัญญาอยู่แล้ว ให้จัดไปทักให้สมควรกับการเถิด เมื่อจะเอาของไปทักทูตครั้งไรให้บอกบาญชีต่อพระสุธรรมไมตรีให้รู้ด้วยจงทุกครั้ง จะได้จัดล่ามพนักงานนำเอาสิ่งของไปส่งที่กำปั่น

อนึ่งให้ชาวพระคลังราชการเอาไต้ไปจ่ายให้แขกเมืองใช้ที่ตึกหลวง น่าวัดประยุรวงศารามพอสมควรอย่าให้แขกเมืองขัดสน เมื่อจะเอาไต้ไปจ่ายครั้งไร ก็ให้บอกบาญชีต่อพระสุธรรมไมตรีให้รู้ด้วยจงทุกครั้งตามรับสั่ง

หมายรับสั่งที่ ๓

เรื่องพระราชทานเบี้ยเลี้ยงทูต

ด้วยท่านผู้สำเร็จราชการกรมท่า รับพระบรมราชโองการใส่เกล้า ฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ สั่งว่า เจ้าแผ่นดินอังกฤษเมืองวิลาศ แต่งให้เซอยอนบริงเจ้าเมืองฮ่องกงผู้สำเร็จราชการในเมืองจีน เปนทูตเข้ามาลำดับทางพระราชไมตรีกรุงเทพ ฯ กับอังกฤษให้ยิ่งขึ้นกว่าแต่ก่อน บัดนี้เซอยอนบริงขึ้นมาพักอยู่ตึกหลวงน่าวัดประยุรวงศารามแล้ว แต่ก่อนอย่างธรรมเนียมถ้าทูตมาแต่ต่างประเทศ โปรดเกล้า ฯ ให้เจ้าพนักงานจัดเอาเงินหลวงไปพระราชทานทูตค่ากับเข้าของกินเสมอทุกเดือนกว่าทูตจะกลับไป แลเมื่อเซอเยมสบรุกเช่นทูตเข้ามาครั้งแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวนั้น ก็โปรดพระราชทานเงินหลวงเปนค่ากับเข้าของกินเดือนละ ๓ ชั่ง ด้วยครั้งนั้นเซอเยมสบรุกหาได้เอากำปั่นขึ้นมาณกรุงเทพ ฯ ไม่ ครั้งนี้โปรดให้เซอบอบยริงเอากำปั่นขึ้นมาณกรุงเทพ ฯ มีอังกฤษนายไพร่ขึ้นมาด้วยมาก โปรดให้เอาเงินหลวงพระราชทานเซอยอนบริงเพิ่มขึ้นอิกเงิน ๕ ชั่ง เสมอทุกเดือนกว่าจะกลับไปนั้น ให้เจ้าพนักงานพระคลังวิเศษไปเบิกต่อเจ้าาหนักงานชาวพระคลังมหาสมบัติไปพระราชทานเซอยอนบริงกำหนดเดือนละครั้ง ตั้งแต่ณวันเดือน ๕ ปีเถาะยังเปนฉศกไปจงเสมอจงทุกเดือนกว่าแขกเมืองจะกลับไป เมื่อจะเอาเงินไปพระราชทานแขกเมืองนั้นให้บอกบาญชีต่อพระสุธรรมไมตรีให้รู้ด้วยจงทุกครั้ง

อนึ่งให้เจ้าพนักงานพระคลังมหาสมบัติจ่ายเงินให้ชาวพระคลังวิเศษไปพระราชทานทูตเดือนละ ๕ ชั่ง ตั้งแต่ณวันเดือน ๕ ปีเถาะยังเปนฉศก ไปเสมอทุกเดือนกว่าทูตจะกลับไปอย่าให้ขาดได้ตามรับสั่ง.

หมายรับสั่งที่ ๔

ให้จุดไฟรายทางราชทูตเข้าเฝ้า

ด้วยจมื่นจงซ้าย รับพระบรมราชโองการใส่เกล้า ฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ สั่งว่า ณวัน ๖ ๕ ค่ำ เพลาค่ำ แขกเมืองจะเข้ามาเฝ้านั้น โปรดเกล้า ฯ ให้จุดตะเกียงช่องใบเสมาประตูพิมานไชยศรี ๕๔ ตะเกียง โคมแขวนทิมสงฆ์ ๖ โคมนั้น ให้ชาวพระคลังราชการจ่ายน้ำมันมะพร้าวให้แก่ขุนหมื่นวังนอก ๓๐ ทนาน ให้เร่งจ่ายให้แต่ณวัน ๖ ๕ ค่ำ เพลาบ่าย อย่าให้ขาดได้ตามรับสั่ง.

หมายรับสั่งที่ ๕

หมายกำหนดการเสด็จออกรับแขกเมือง

ด้วยท่านเจ้าพระยาผู้สำเร็จราชการกรมท่า รับพระบรมราชโองการใส่เกล้า ฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ สั่งว่า เจ้าวิกตอเรียเข้าเมืองวิลาศ ซึ่งเปนใหญ่ในชาติอังกฤษ แต่งให้เซอยอนบริงเจ้าเมืองฮ่องกง ผู้สำเร็จราชการเมืองจีน เปนทูตเข้ามาลำดับทางพระราชไมตรีซึ่งอังกฤษกับไทยได้รักใคร่กันมาแต่ก่อนให้ยิ่งขึ้น แล้วให้เซอยอนบริงทำหนังสือสัญญาเสียใหม่ให้ดีด้วยกันทั้งฝ่ายไทยแลฝ่ายอังกฤษนั้น กำหนดเซอยอนบริงจะได้เข้าเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาทในพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ณวัน ๒ ๕ ค่ำ ปีเถาะยังเปนฉศก เพลาเช้าเสด็จออกรับแขกเมืองอย่างแขกเมืองประเทศใหญ่นั้น ให้มหาดไทย กลาโหม กรมพระสัสดี หมายบอกเจ้าพนักงานแลข้าราชการผู้ใหญ่ผู้น้อย ฝ่ายทหาร พลเรือน ในพระบรมมหาราชวังจงทุกพนักงาน เมื่อวันแขกเมืองเข้าเฝ้านั้นให้นุ่งสมปักลาย ใส่เสื้อเข้มขาบชั้นใน เสื้อครุยขาวชั้นนอก

อนึ่งให้ชาวที่กรมวัง แต่งที่รับเสด็จบนพระที่นั่งบุษบกมาลามหาจักรพรรดิพิมานแห่ง ๑ ที่โรงพระวิสูตรรัตนกิรินีแห่งหนึ่ง ๑ แต่งที่แล้วให้เชิญพระเก้าอี้หุ้มทองคำ แลที่จะตั้งพานพระขันหมากเครื่องราชบริโภคตั้งด้วยแห่ง ๑

อนึ่งให้ชาวพระคลังพิมานอากาศ เอาพรมใหญ่ที่ใหม่งามดีไปปูในพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยแห่ง ๑ ที่ทิมดาบไว้กลองแห่ง ๑ แล้วให้จ่ายพรมให้จ่าศาลาปูศาลาลูกขุนในฝ่ายขวาที่พักแขกเมือง

อนึ่งให้จ่าศาลายืมพรมต่อชาวพระคลังพิมานอากาศไปปูที่ศาลาลูกขุนผ้ายกลาโหมแห่งหนึ่ง

อนึ่งให้กรมท่าจัดเก้าอี้ไปตั้งให้ฝรั่งนั่งที่ศาลาลูกขุนฝ่ายกลาโหมให้พอ

อนึ่งให้มหาดเล็กพนักงานน้ำร้อน จัดเครื่องน้ำชา กาแฟ ไปคอยเลี้ยงแขกเมืองณศาลา

อนึ่งให้ชาวพระคลังมหาสมบัติ เอาพานทองสองชั้นเข้าไปตั้งไว้ในพระที่นั่ง คอยรับหนังสือที่เซอยอนบริงจะทูลเกล้า ฯ ถวาย

อนึ่งให้ชาวพระอภิรมย์ จัดเครื่องเจ็ดชั้น ๒ เครื่องห้าชั้น ๑๐ เครื่องชุมสาย ๔ หักทองขวางเข้าไปตั้งในพระที่นั่ง

อนึ่งให้กรมแสงใน กรมแสงต้น จัดพระแสงทวน พระแสงปืน ให้กำนัลเชิญเข้าไปในพระที่นั่ง แล้วให้จัดพระแสงหอก พระแสงทวน พระแสงง้าวส่งให้มหาดเล็กตามอย่างแต่ก่อน

อนึ่งให้ชาวพระมาลาภูษา จัดพระมหาพิไชยมงกุฎ จัดพานพระภูษาแลพระกลดเชิญเข้าไปตั้งในพระที่นั่ง

อนึ่งให้พระนรินทรเสนี พระศรีสหเทพ พันพุฒอนุราช พันเทพราช เกณฑ์พระหลวงขุนหมื่นนั่งทิมดาบกรมวัง ๑๕๐ คน นั่งทิมสงฆ์ ๕๐ คน นั่ง (ศาลา) ลูกขุนซ้าย ๘๐ คน นั่ง (ศาลา) ลูกขุนขวา ๘๐ คน นั่งทิมคดน่าพระมหาปราสาท ๖๐ คน นั่งทิมดาบชั้นใน ๓ ทิม ๓๐๐ คน เกณฑ์ไพร่ยืนสองฟากถนนนอกประตูพิมานไชยศรีถือเครื่องอาวุธต่าง ๆ ถือดาบสองมือ ๑๒๐ คน ถือดาบเขน ๑๒๐ คน ถือดาบดั้ง ๑๒๐ คน ถือง้าว ๑๒๐ คน ถือตรี ๑๒๐ คน ถือกระบอง ๑๒๐ คน ถือทวนทอง ๑๒๐ คน ถือธนูหางไก่ ๑๒๐ คน ถือหอกคู่ ๑๒๐ คน ถือเสโลห์ ๑๒๐ คน ถือทวนจีน ๑๒๐ คน ถือปืนหลังม้า ๑๒๐ คน ถือดาบเชลย ๑๒๐ คน ถือดาบโล่ห์ ๑๒๐ คน ถือดาบกะเหรี่ยง ๑๒๐ คน รักษาพระองค์ถือปืนทองปราย ๑๐๐ คน ถือปืนปลายหอกรักษาประตู ๑๐๐ คน เกณฑ์หัดถือปืนรางแดง ๒๐๐ คน ถือกระบองกลึง ๑๖ คน ถือแส้หวาย ๔ คน ถือแส้หางม้า ๔ คน ถือกันชิงเกล็ด ๒ คน ถือโต๊ะกล้วยโต๊ะอ้อย ๕ คน

อนึ่งให้ชาวพระคลังวิเศษ จ่ายผ้าขาวเทศให้ ๔ ตำรวจทำเพดานปรำพระยาช้างพระยาม้า

อนึ่งให้หลวงมหามณเฑียรกรมแสงสรรพยุทธ จัดเครื่องดาวเครื่องกุดั่น เครื่องถมปัด ลูกภู่สำหรับช้างพระที่นั่ง ประดับช้างพระที่นั่งให้งามดี

อนึ่งให้กรมม้า จัดเครื่องม้าพระที่นั่ง ผูกม้าพระที่นั่งประดับให้งามดี แล้วให้กรมช้าง กรมม้า จัดพระยาช้าง พระยาม้ามาผูกยืนตามที่แต่งไว้เหมือนอย่างทุกครั้ง

อนึ่งให้กรมแสงในซ้าย กรมแสงสรรพยุทธ คลังเสื้อหมวก คลังวิเศษ จ่ายเครื่องอาวุธ ๑๔ อย่าง ๆ ละ ๑๒๐ เสื้อหมวก กางเกงเกี้ยวลายให้แก่ผู้ต้องเกณฑ์ให้ครบจำนวน

อนึ่งให้ขุนมหาสิทธิโวหาร ขุนอักษรประเสริฐ กรมพระอาลักษณทูลเบิกแขกเมือง เมื่อทรงพระราชปฏิสัณฐาร ๓ ครั้งแล้ว ให้อาลักษณกราบทูลสืบคำแขกเมืองต่อไป

อนึ่งให้เจ้าพระยาแลพระยา ฝ่ายทหาร พลเรือน เอาพานทองโต๊ะทอง ถาดทองเครื่องยศสิ่งของซึ่งได้รับพระราชทานเข้าไปตั้งกินในที่เฝ้าตามตำแหน่งจงทุกคน

อนึ่งให้ชาวพระคลังมหาสมบัติ เอาเจียดทอง เจียดถม เข้าไปตั้งให้ขุนนางตามตำแหน่ง แล้วให้เอากะโถนถมตะทอง ขันน้ำถมตะทอง เข้าไปตั้งให้แขกเมืองในที่เฝ้า ๒ สำรับ

อนึ่งให้ขุนนางจีน ขุนนางแขก ขุนนางฝรั่ง ขุนนางพม่า ขุนนางทวาย ขุนนางมอญ ขุนนางลาว แต่งตัวตามเพศของตัวให้เข้ามาพร้อมกันในที่เฝ้า

อนึ่งให้ชาวพระคลังวิเศษ คอยรับเครื่องราชบรรณาการเข้าไปตั้งทูลเกล้าฯ ถวายตามอย่างแต่ก่อน

อนึ่งเมื่อเสด็จออกให้มหาดเล็กตีกรับสัญญา แล้วให้ตัว ๔ ชาววังชักม่านสองไข แล้วให้ชาวนาฬิกาประโคมมโหรทึกขึ้นเมื่อเสด็จออก แล้วให้หลวงราชมานูชูดอกไม้ทองเปนสัญญา ให้ห้ามประโคมกลองชนะ แตรสังข์ เมื่อเสด็จออกเสด็จขึ้นทั้ง ๒ ครั้ง

อนึ่งให้นายประภาษมณเฑียรปลัดวังซ้าย นายเสถียรรักษาปลัดวังขวาออก ไปรับแขกเมือง แล้วให้หลวงราชฤทธานนท์ หลวงนนทเสนกับล่ามพนักงานนำแขกเมืองเดินเปนคู่ ๆ กันเข้าประตูพิมานไชยศรั แล้วให้นำเข้าไปในพระทวารพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ครั้นถึงที่น่าพระที่นั่งบุษบกมาลามหาจักรพรรดิพิมานในที่เฝ้าแล้ว ให้กราบถวายบังคม ๓ ครั้ง

อนึ่งให้ขุนทินบรรณาการ ขุนธารกำนัล ตั้งหมากเวียนให้แขกเมืองรับพระราชทาน แล้วให้ตำรวจน่า ตำรวจวังคอยห้ามปาก ห้ามเสียง ห้ามสูง ห้ามต่ำตัดน่าฉานตามอย่างแต่ก่อน

อนึ่งถ้าเสด็จขึ้นแล้ว ให้ข้าราชการแลแขกเมืองกราบถวายบังคม ให้ชาววังชักม่านสองไขปิดเสีย ถ้าแขกเมืองยังไม่ลุกจากที่ให้ข้าราชการนั่งสงบอยู่ อย่าให้ลุกเดินไปเดินมาเปนอันขาดทีเดียว ถ้าแขกเมืองกราบถวายบังคมลุกจากที่แล้ว ให้หลวงราชฤทธานนท์ หลวงนนทเสน จัดคนถือกระบองทอง ๔๐ คน ถือกระบี่ฝักหนัง ๒ คน ยืนที่ในหว่างประตู ๒ ชั้น ให้เบิกกระบองทอง เบิกกระบี่ฝักหนัง ต่อกรมแสงใน แล้วให้ขุนหมื่นคุมไพร่ข้างละคน แล้วล่ามพนักงานนำแขกเมืองออกมาพักอยู่ที่ทิมภายชาววังชั้นในก่อน ให้ขุนนางออกไปสิ้นแล้ว จะเสด็จออกพระที่นั่งดุสิดาภิรมย์ ไปประทับที่โรงพระวิสูตรรัตนกิรินีนั้น ให้ชาวพระราชยานเชิญพระที่นั่งทองคำคอยเสด็จที่เกย

อนึ่งให้เจ้าพนักงานอภิรมย์ พนักงานราชยาน จัดแคร่มีเก้าอี้ตั้งจัดสัประทน แล้วจัดแคร่ตามอย่างธรรมเนียมขุนนางไทยขี่นั้น ๑๑ แคร่ ให้มีสัประทนคนหามให้ครบลงไปเตรียมคอยรับทูตที่ประตูท่าพระ

อนึ่งให้มหาดเล็กรับพานพระขันหมากต่อท่านพนักงานข้างในเชิญไปตั้งที่พระที่นั่ง แล้วเชิญไปตั้งที่โรงพระวิสูตรรัตนกิรินีด้วย

อนึ่งให้กรมพระสัสดีขวา หมายบอกเจ้ากรม ปลัตกรม ให้ทูลพระเจ้าพี่ยาเธอ กรมสมเด็จพระเดชาดิศร ๑ กรมพระพิทักษ์เทเวศร์ ๑ กรมหลวงภูวเนตรนรินทรฤทธิ์ ๑ กรมหลวงมหิศวรินทรามเรศ ๑ รวม ๔ พระองค์ พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงเทเวศร์วัชรินทร์ ๑ กรมขุนสรรพศิลป์ปรีชา ๑ กรมหลวงวงศาธิราชสนิท ๑ กรมขุนสถิตย์สถาพร ๑ กรมหมื่นถาวรวรยศ ๑ กรมหมื่นอลงกฏกิจปรีชา ๑ กรมหมี่นวรศักดาพิศาล ๑ กรมหมื่นภูบาลบริรักษ์ ๑ กรมหมื่นวรจักรธรานุภาพ ๑ สมเด็จเจ้าฟ้ามหามาลา ๑ รวม ๑๐ พระองค์ พระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นเชษฐาธิเบนทร์ ๑ กรมหมื่นอมเรนทรบดินทร์ ๑ กรมหมื่นภูมินทรภักดี ๑ กรมหมื่นราชสีหวิกรม ๑ กรมหมื่นอุดมลักษณสมบัติ ๑ กรมหมื่นอุดมรัตนราษี ๑ กรมหมื่นภูบดีราชหฤไทย ๑ รวม ๗ พระองค์ พระเจ้าลูกยาเธอ กรมหมื่นมเหศวรศิววิลาศ ๑ พระองค์เจ้าสุประดิษฐ์ ๑ รวม ๒ พระองค์ รวมทั้งสิ้น ๒๓ พระองค์ ให้แต่งพระองค์ผ้าทรงเขียนทองพื้นสี ฉลองพระองค์อย่างน้อยข้างใน ครุยกรองสีข้างนอก แล้วให้เอาพานหมากเสวย พระเต้า บ้วนพระโอษฐ์น้อย เข้าไปตั้งในพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย เหมือนครั้งเสด็จออกแขกเมืองครั้งก่อน แล้วให้เชิญเสด็จเข้ามาให้พร้อมกันจงทุกพระองค์ แต่ณวัน ๒ ๕ ค่ำ เพลาเช้า

ให้เจ้าพนักงานเตรียมให้พร้อมตามกำหนด ถ้าขัดขวางสงไสยที่ข้อไหนให้ไปเฝ้าทูลถามสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ามหามาลาก่อน ให้เจ้าพนักงานเตรียมการให้พร้อม จะกำหนดเมื่อไรให้ไปฟังดูที่ศาลาลูกขุนจงทุกพนักงานตามรับสั่ง.

หมายรับสั่งที่ ๖

เรื่องจ่ายเลขเข้ากระบวนตั้งรับแขกเมือง

ด้วยท่านเจ้าพระยาผู้สำเร็จราชการกรมท่า รับพระบรมราชโองการใส่เกล้าฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ สั่งว่ากำหนดแขกเมืองจะเข้าเฝ้าทูลลออง ฯ ณวัน ๒ ๕ ค่ำ ปีเถาะยังเปนฉศก เพลาเช้า ซึ่งสั่งไปแต่ก่อนว่าให้จ่ายเลขให้กรมช้าง ถือแส้หวาย ๔ คน ถือแส้หางม้า ๔ คน ถือกระบองกลึง ๑๖ คน จ่ายให้อภิรมย์ถือกรรชิงเกล็ด ๒ คน จ่ายให้ราชมันถือโต๊ะกล้วยโต๊ะอ้อย ๕ คน รวม ๓๑ คน ยังหาพอไม่นั้น ให้พันพุฒอนุราช พันเทพราช จ่ายเลขเพิ่มขึ้นอิกให้แก่กรมช้าง ถือแส้หวาย ๘ คน ถือแส้หางม้า ๒ คน ถือกระบองกลึง ๑๔ คน ให้แก่อภิรมย์ถือกรรชิงเกล็ด ๑๐ คน ให้แก่ราชมันถือเครื่องยศกล้วย อ้อย หญ้า หม้อน้ำ ๑๙ คน รวม ๕๓ คน ให้เร่งจ่ายแต่ณวัน ๑ ๕ ค่ำ เพลาบ่ายให้ทันกำหนด จะได้เอาไปคอยเตรียมรับแขกเมืองณวัน ๒ ๕ ค่ำ เพลาเช้า

อนึ่งให้กรมช้างรับเลขต่อพันพุฒอนุราช พันเทพราช รวม ๒๔ คน แล้วให้เบิกแส้หวาย ๘ แส้หางม้า ๒ กระบองกลึง ๑๔ มงคลแดง ต่อคลังแสงสรรพยุทธ แล้วให้เบิกกางเกงริ้วทองรุ้ง เกี้ยวลายต่อชาวพระคลังเสื้อหมวก มานุ่งห่มคอยเตรียมรับแขกเมืองณโรงช้างณวัน ๒ ๕ ค่ำ เพลาเช้าให้ทันกำหนด

อนึ่งให้อภิรมย์จัดกรรชิงเกล็ดอิก ๑๐ คัน ให้รับเลขต่อพันพุฒอนุราช พันเทพราช ๑๐ คนนุ่งกางเกงยก ใส่เสื้อมัศรู่มาคอยเตรียมรับแขกเมืองณโรงช้างให้ทันกำหนด

อนึ่งให้ราชมันกรมวังรับเลขต่อพันพุฒอนุราช พันเทพราช ๑๙ คน ให้เบิกกางเกงริ้วทองรุ้ง เกี้ยวลาย ต่อชาวคลังเสื้อหมวก แล้วให้รับโต๊ะเงินใส่กล้วย ๓ ใส่อ้อย ๓ ใส่หญ้า ๓ โต๊ะทองขาวใส่กล้วย ๓ อ้อย ๓ หญ้า ๓ รวม ๑๙ ใบต่อวิเศษ แล้วให้รับหม้อน้ำเงิน ๓ หม้อน้ำทองขาว ๓ รวม ๖ ใบใส่น้ำต่อขุนศรีสยุมพรมาคอยรับแขกเมืองณโรงช้าง ณวัน ๒ ๕ ค่ำ เพลาเช้าให้ทันกำหนด

อนึ่งให้คลังแสงสรรพยุทธจ่ายแส้หวาย แส้ห้างม้า กระบองกลึง ให้คลังเสื้อหมวกจ่ายกางเกง เสื้อ หมวก ให้คลังวิเศษจ่ายเกี้ยวลาย ให้แก่ผู้ต้องเกณฑ์ให้พอแต่ณวัน ๑ ๕ ค่ำ เพลาบ่าย อย่าให้ขาดได้ตามรับสั่ง.

หมายรับสั่งที่ ๗

เรื่องจัดการเพิ่มเติม

ด้วยท่านเจ้าพระยาผู้สำเร็จราชการกรมท่า รับพระบรมราชโองการใส่เกล้า ฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ สั่งว่า ซึ่งสั่งไปแต่ก่อนว่าเซอยอนบริงแขกเมืองอังกฤษจะได้เข้าเฝ้าทูลลออง ฯ ในพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ณวัน ๒ ๕ ค่ำ เพลาเช้านั้น แจ้งอยู่ในหมายครั้งก่อนนั้นแล้ว บัดนี้สิ่งของยังขาดอยู่ให้เติมขึ้นอิกนั้น ให้สนมพลเรือนรับพวงมาไลยใส่ตลุงน่า ๑ หลัง ๑ รวม ๒ พวง รับภู่กลิ่นแขวนต่อท่านข้างในไปแขวนที่โรงพระวิสูตรรัตนกิรินี แต่ณวัน ๒ ๕ ค่ำ เพลาเช้า

อนึ่งให้ชาวพระอภิรมย์จัดกรรชิงเกล็ดปักราวพระวิสูตรรัตนกิรินี ๒ ถือที่แท่นพระยา ๒ รวม ๔ คัน

อนึ่งให้แสงปืนต้นจัดปืนคาบศิลารางเขียง ๗ บอก กำนัน ๗ คน ขึ้นนั่งหลังช้างทั้ง ๗ ช้างตามรับสั่ง.

หมายรับสั่งที่ ๘

เรื่องจัดเรือรับแขกเมือง

ด้วยท่านเจ้าพระยาผู้สำเร็จราชการในกรมท่า รับพระบรมราชโองการใส่เกล้าฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สั่งว่า เจ้าวิกตอเรียเมืองวิลาศซึ่งเปนใหญ่ในชาติอังกฤษ แต่งให้เซอยอนบริงเจ้าเมืองฮ่องกงผู้สำเร็จราชการฝ่ายเมืองจีน เปนทูตเข้ามาลำดับทางพระราชไมตรีณกรุงเทพฯ กำหนดเซอยอนบริงขุนนางอังกฤษซึ่งเข้ามาเซอยอนบริงจะได้เข้าเฝ้าทูลลอองฯ ออกใหญ่ ณวัน ๒ ๕ ค่ำ ปีเถาะยังเปนฉศกเพลาเช้านั้น เซอยอนบริงว่าขุนนางอังกฤษซึ่งจะเข้าเฝ้ากับเซอยอนบริง ๒๑ คน จะขอเรือหลวงขี่เข้าไปเฝ้านั้น ให้มหาดไทย กลาโหม พันพุฒอนุราช พันเทพราชเกณฑ์เรือหลวงเกณฑ์เลขบรรจุพลพายให้ครบกระทงเร่งลงไปรับเซอยอนบริงกับขุนนางอังกฤษที่ตึกหลวงน่าวัดประยุรวงศารามขี่เข้าเฝ้า แต่ณวัน ๒ ๕ ค่ำ ปีเถาะยังเปนฉศก เพลาย่ำรุ่งให้พร้อมกัน แลเจ้าพนักงานซึ่งต้องเกณฑ์ทั้งนี้จัดเรือสิ่งใด ตกแต่งเรืออย่างใดจะเปนสักกี่วา ถ้าไม่เข้าใจให้ไปทูลถามพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงวงศาธิราชสนิท อย่าให้ขาดได้ตามรับสั่ง.

หมายรับสั่งที่ ๙

อธิบายเรื่องเรือรับราชทูต

ด้วยท่านเจ้าพระยาผู้สำเร็จราชการในกรมท่า รับพระบรมราชโองการใส่เกล้า ฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ สั่งว่า ซึ่งหมายสั่งไปแต่ก่อนว่ากำหนดเซอยอนบริงกับขุนนางอังกฤษ ๒๑ คน จะได้เข้าเฝ้าทูลลออง ฯ ออกใหญ่ ณวัน ๒ ๕ ค่ำ เพลาเช้า ให้มหาดไทยกลาโหมเกณฑ์เรือหลวง ให้พันพุฒอนุราช พันเทพราชเกณฑ์เลขบรรจุพลพายให้ครบกระทงลงไปรับเซอยอนบริงณตึกหลวงน่าวัดประยุรวงศาราม ณวัน ๒ ๕ ค่ำ เพลาเช้าให้พอนั้น ความแจ้งอยู่ในหมายแต่ก่อนนั้นแล้ว แต่ความซึ่งว่าให้จัดเรือหลวงนั้นหาชัดไม่นั้น ให้มหาดไทย กลาโหมเกณฑ์เรือ อสุรวายุภักษ์ลำ ๑ เรือมังกร ๒ ลำ เรือเหรา ๒ ลำ เรือกิเลน ๒ ลำ รวม ๗ ลำ ที่เกณฑ์ลงไปรับเซอยอนบริงที่เมืองสมุทปราการครั้งก่อน แล้วให้พันพุฒอนุราช พันเทพราช เกณฑ์เลขลงบรรจุเรือ ใส่เสื้อแดง ใส่หมวกแดง ใส่กางเกงแดง ให้ครบกระทงจงทุกลำ ให้ดาดหลังคาตกแต่งเรือทำให้เหมือนอย่างเมื่อลงไปรับเซอยอนบริงที่เมืองสมุทปราการ แล้วให้นายเรือจัดเสื่ออ่อนปูให้เต็มให้มีหมอนอิงจงทุกลำ แล้วให้เจ้าพนักงานทั้งนี้เร่งแต่งเรือลงไปรับเซอยอนบริงแต่ณวัน ๒ ๕ ค่ำ ปีเถาะยังเปนฉศก เพลาเช้าย่ำฆ้องรุ่งให้ทันกำหนด ให้เจ้าพนักงานฟังเอาหมายนี้แน่ตามรับสั่ง.

หมายรับสั่งที่ ๑๐

เลื่อนกำหนดแขกเมืองเข้าเฝ้า

ด้วยเจ้าพระยาผู้สำเร็จราชการกรมท่า รับพระบรมราชโองการใส่เกล้า ฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ สั่งว่า ซึ่งสั่งไปแต่ก่อนว่าเซอยอนบริงกับขุนนาง ทหารแขกเมืองจะเข้าเฝ้าทูลลออง ฯ นั้น บัดนี้กำหนดแขกเมืองจะได้เข้าเฝ้า ณวัน ๔ ๑๔ ๕ ค่ำ ปีเถาะสัปตศก เพลาเช้าเปนแน่นั้น ให้มหาดไทย กลาโหม กรมสัสดี พันพุฒอนุราช พันเทพราช หมายบอกเจ้าพนักงานซึ่งเกณฑ์กระบวนบกเรือ รับแขกเมืองตามหมายรับสั่งซึ่งสั่งมาแต่ก่อนให้รู้จงทั่วทุกพนักงาน แลข้าราชการผู้ใหญ่ผู้น้อย ฝ่ายทหาร พลเรือน เจ้าต่างกรม เจ้ายังไม่ได้ตั้งกรมตามกำหนดจะนุ่งจะห่มนั้นให้เอาตามข้อรับสั่งเดิม แลผู้ต้องเกณฑ์แต่ก่อนนั้นเตรียมการให้พร้อมจงทุกพนักงาน

อนึ่งให้สนมพลเรือนรับพวงมาไลย รับภู่กลิ่นต่อท่านข้างในไปแขวนโรงพระวิสูตรรัตนกิรินีให้พร้อม อย่าให้ขาดได้ตามรับสั่ง.

หมายรับสั่งที่ ๑๑

เรื่องจัดเรือ ๕ ลำรับแขกเมือง

ด้วยเจ้าพระยาผู้สำเร็จราชการกรมท่า รับพระบรมราชโองการใส่เกล้า ฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ สั่งว่า ซึ่งสั่งไปแต่ก่อนว่า เซอยอนบริงกับขุนนาง ทหารแขกเมืองจะเข้าเฝ้าทูลลออง ฯ นั้น บัดนี้กำหนดแขกเมืองจะได้เข้าเฝ้า ณวัน ๔ ๑๔ ๕ ค่ำ ปีเถาะสัปตศกเพลาเช้าเปนแน่นั้น ให้นายเวรมหาดไทยหมายบอกล้อมวังซ้ายเรือมังกรจำแลงลำ ๑ ล้อมวังขวาเรือมังกรแผลงฤทธิ์ลำ ๑ อาสาใหม่กรมวังซ้ายเรือเหราล่องลอยสินธุ์ลำ ๑ อาสาใหม่กรมวังขวาเรือเหราลินลาสมุทลำ ๑ อาสาวิเศษขวาเรือวายุภักษ์ลำ ๑ รวม ๕ ลำ แลให้ผู้ซึ่งต้องเกณฑ์ทั้งนี้รับเลขต่อพันพุฒอนุราช พันเทพราช มาบรรจุพลพายให้ครบกระทง แล้วให้ยกเรือลงน้ำแต่วัน ๓ ๑๓ ๕ ค่ำเช้า ครั้นรุ่งขึ้นณวัน ๔ ๑๔ ๕ ค่ำ เช้าให้ถอยเรือไปรับแขกเมือง ให้มีเสื่ออ่อนหมอนอิงจงทุกลำ แต่เรือวายุภักษ์ให้มารับเอาพรมที่วังสมเด็จพระเจ้านัองยาเธอ เจ้าฟ้ามหามาลา พลพายใส่เสื้อแดง กางเกงแดง หมวกแดง นุ่งห่มตามรับสั่งเดิมให้ทันกำหนดตามรับสั่ง.

หมายรับสั่งที่ ๑๒

เกณฑ์จุกช่องล้อมวงเสด็จวัดอรุณ

ด้วยเจ้าพระยาธรรมาธิกรณ์ รับพระบรมราชโองการใส่เกล้า ฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ สั่งว่า ณวัน ๗ ๑๐ ๕ ค่ำ เพลาเช้าเสด็จทางชลมารคไปทรงปรนนิบัติพระสงฆ์ณวัดอรุณราชวรารามนั้น เกณฑ์ให้เบิกปืนหลักทองไปจุกช่องล้อมวง ทางบก กรมกองกลาง ซ้าย ๑ ขวา ๑ กรมเรือกัน ซ้าย ๑ ขวา ๑ กรมอาสาวิเศษ ซ้าย ๑ ขวา ๑ รวม ๖ บอก แล้วให้ผู้ซึ่งต้องเกณฑ์ทั้งนี้เร่งเอาปืนไปจุกช่องล้อมวงตามตำแหน่งให้ทันเสด็จเหมือนอย่างทุกครั้งตามรับสั่ง.

หมายรับสั่งที่ ๑๓

สั่งกระบวนพยุหยาตราเสด็จวัดอรุณในพิธีสงกรานต์

ด้วยเจ้าพระยาธรรมาธิกรณาธิบดี รับพระบรมราชโองการใส่เกล้าฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ สั่งว่า จะเสด็จทางชลมารคกระบวนพยุหยาตราไปวัดอรุณราชวราราม แขกเมืองจะได้เข้าเฝ้าทูลลอองฯ กำหนดณวัน ๗ ๑๐ ๕ ค่ำ ปีเถาะสัปตศกเพลาเช้านั้น ให้มหาดไทย กลาโหม กรมพระสัสดี เกณฑ์กระบวนแห่รับเสด็จที่วัดอรุณราชวราราม มหาดเล็กนั้น เจ้าหมื่น นายเวร จ่า หุ้มแพร รองหุ้มแพร ให้นุ่งผ้ายกไหมนุ่งปูม ใส่เสื้อเข้มขาบ เสื้ออัดตลัด โพกขลิบ ขัดดาบ แต่เจ้ากรม เจ้าหมื่น นายเวร นั้น ให้ใส่หมวกตุ้มปี่ ที่ยังไม่มีหมวกตุ้มปี่ให้ไปยืมต่อชาวพระมาลาภูษา แต่ข้าทูลลออง ฯ ฝ่ายทหาร พลเรือน พระยา พระหลวง ที่นอกจากเข้ากระบวนแห่เสด็จ ให้นุ่งสมปักลาย ใส่เสื้อเข้มขาบ เสื้ออัดตลัดชั้นใน เสื้อครุยขาวชั้นนอก จงทุกหมู่ทุกกรม ที่ได้รับพระราชทานเครื่องยศเจียด กระบี่ ก็ให้เอาตามด้วยจงทุกคน แล้วให้เกณฑ์มหาดเล็ก ๔ เวรเปนอินทร์พรหม ๑๖ เชิญพระแสงหว่างเครื่องสั้น ๔ ยาว ๖ เจ้าหมื่นเชิญพระแสงนั่งรายตีนตองในเรือพระที่นั่ง ๔ รวม ๓๐ แต่อินทร์พรหม พระแสงหว่างเครื่องนั้น ให้ตามไปรับที่วัดอรุณราชวราราม เชิญพระแสงหว่างเครื่องให้นุ่งปูม ใส่เสื้ออย่างน้อย โพกขลิบ แล้วให้เกณฑ์ข้าทูลลออง ฯ เปนคู่เคียง เจ้าพระยายมราช เจ้าพระยามหาศิริธรรม พระยาสุรเสนา พระยามหาอำมาตย์ พระยานครราชสิมา พระยาราชภักดี พระยาราชสุภาวดี พระยาโชฎึกราชเศรษฐี พระยาศรีพิพัฒ พระยาสีหราชฤทธิไกร พระยามนตรีสุริยวงศ์ พระยาวรพงศ์พิพัฒน์ ให้นุ่งสมปักลาย ใส่เสื้อเข้มขาบชั้นใน เสื้อครุยขาว ใส่ชฎาพอก ให้ไปเตรียมเคียงที่พระที่นั่งพุดตาลที่วัดอรุณราชวรารามตามกำหนด ให้ยืมชฎาพอกที่ชาวพระมาลาภูษา

อนึ่งให้เกณฑ์ปี่พาทย์ ๔ สำรับ กลองแขก ๔ สำรับ ปี่พาทย์จีน ๒ สำรับ ปี่พาทย์มอญ ๒ สำรับ แตรสังข์ให้พร้อม ไปเตรียมประโคมที่วัดอรุณราชวรารามให้พร้อม

อนึ่งให้มหาดเล็กรับเครื่องใหญ่น้อยต่อท่านข้างในเชิญไปตามเสด็จลงเรือพระที่นั่งจงทุกสิ่ง ให้เหมือนอย่างเสด็จออกแขกเมืองจงทุกครั้ง แลเจ้าพนักงานที่ลงเรือพระที่นั่งนุ่งยกไหม นุ่งปูม ใส่เสื้ออย่างน้อยโพกขลิบจงทุกคน

อนึ่งให้กรมพระสัสดีหมายบอกเจ้ากรม ปลัดกรมให้ทูลเจ้าต่างกรม เจ้าที่ยังไม่ได้ตั้งกรมไปตามเสด็จนั้น ให้ทรงเขียนทองพื้นสีเสื้ออย่างน้อยสี เสื้อครุยสี ให้เอาพานหมากเสวย พระเต้า บ้วนพระโอษฐ์น้อย จงทุกพระองค์ ทั้งนี้อย่าให้ขาดได้ตามรับสั่ง.

หมายรับสั่งที่ ๑๔

สั่งกระบวนพยุหยาตราเสด็จวัดอรุณ

ด้วยเจ้าพระยาธรรมาธิกรณาธิบดี รับพระบรมราชโองการใส่เกล้า ฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ สั่งว่า กำหนดณวัน ๗ ๑๐ ๕ ค่ำ เพลาเช้าจะเสด็จทางชลมารคเปนกระบวนพยุหยาตราไปทรงปรนนิบัติพระสงฆ์ฉันฉลองพระทรายณวัดอรุณราชวรารามนั้น ให้มหาดไทย กลาโหม เกณฑ์เรือประตูน่า ๒ ประตูหลัง ๒ ใส่เสื้อผ้าแดง มงคลแดง กางเกงสำหรับลำ นายเรือใส่เข้มขาบ ใส่หมวกตุ้มปี่ เรือนำเสด็จ เรือตามเสด็จ พลพายตามธรรมเนียมให้พร้อมทันกำหนดเหมือนอย่างแต่ก่อน

อนึ่งให้พันพุฒอนุราช พันเทพราช จ่ายเลขให้แก่ผู้ต้องเกณฑ์เข้ากระบวนให้ครบจำนวนจงทุกลำให้เร่งจ่ายให้ทันกำหนด

อนึ่งให้ชาวพระคลังเสื้อ หมวก ธง จ่ายเสื้อหมวก กางเกง ธงให้แก่ผู้ต้องเกณฑ์ให้พอจงทุกลำ

อนึ่งให้ชาวพระอภิรมย์จัดเครื่องสูงลงเรือพระที่นั่งเอกไชย ๓ ลำ พัดโบก ๑ จามร ๑ ให้นุ่งห่มตามเคยให้เร่งไปลงเรือพระที่นั่งให้พร้อม รับเลขต่อพันพุฒอนุราช พันเทพราช ๑๗ คนตามเคย

อนึ่งให้เกณฑ์เจ้ากรมไพร่หลวงนั่งกองจุกช่องล้อมวงทางน้ำทางบกให้พร้อม

อนึ่งให้หมื่นเทวาทิตจัดกลองมโหรทึกลงเรือเอกไชยคู่ชักตามเคยให้ทันกำหนด

อนึ่งให้กรมเมือง นครบาลกำกับไล่เรือแพ กรุยหลักตอ แลอาศพ สัตว์ มนุษย์ ในน้ำบนบกอย่าให้กีดขวางทางเสด็จได้เปนอันขาด

อนึ่งให้นายเวรกรมวัง นายเวรทนายเลือกไปยกสำรับคาวหวานถวายพระสงฆ์นั้น แต่ณวัน ๑๐ ๕ ค่ำ เพลาเช้า แล้วให้ชาวที่ไปแต่งที่รับเสด็จให้พร้อม

อนึ่งให้ชาวพระคลังราชการเอาเสื่อไปปูทางรับเสด็จ แลขุนนางเฝ้าเหมือนอย่างเคย

อนึ่งให้ชาวพระมาลาภูษาจัดพระเครื่องต้นลงเรือพระที่นั่งรองให้พร้อม ให้เชิญพระกลดไปถวายในเรือพระที่นั่งกิ่งรับที่วัดอรุณให้พร้อมเหมือนอย่างเคย

อนึ่งให้มหาดไทย กลาโหม หมายบอกข้าทูลลออง ฯ ผู้ใหญ่ผู้น้อยฝ่ายทหาร พลเรือน นำเสด็จตามเสด็จ ให้นุ่งสมปักลาย คาดเสื้อครุยขาว

อนึ่งให้กรมพระสัสดีหมายทูลเจ้าต่างกรม เจ้ายังไม่ได้ตั้งกรมซึ่งตามเสด็จ ให้ทรงผ้าเกี้ยวเขียนทองสี ทรงเสื้อครุยสีทุกพระองค์

อนึ่งให้กรมแสงในซ้าย เชิญพระแสงไปทอดที่เรือพระที่นั่งให้พร้อมตามเคย แล้วให้ส่งพระแสงให้มหาดเล็กสำหรับเชิญนั่งรายตีนตองเหมือนอย่างแต่ก่อน

อนึ่งให้มหาดเล็กรับพระแสงต่อกรมพระแสงในเชิญลงเรือพระที่นั่งให้พร้อมตามเคย

อนึ่งให้เกณฑ์หัดแสงในจัดกำนันถือปืนรางแดง ใส่เสื้อเสนากุฎลาย ใส่กางเกงเกี้ยวลาย ลงเรือตาร้ายลำละ ๖ คน แล้วให้ไปรับที่วัดเหมือนอย่างแต่ก่อน แลให้ผู้ต้องเกณฑ์ทั้งนี้เตรียมการให้พร้อมจงทุกพนักงานตามรับสั่ง.

หมายรับสั่งที่ ๑๕

เกณฑ์กระบวนแห่พระราชสาส์นไปส่งเรืออังกฤษ

ด้วยพระยารักษมณเฑียร รับพระบรมราชโองการใส่เกล้า ฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ สั่งว่า เซอยอนบริงแขกเมืองจะได้กราบถวายบังคมลาออกไป กำหนดณวัน ๑ ๖ ค่ำ ปีเถาะสัปตศก จึงโปรดเกล้า ฯ ให้มีพระราชสาส์นมอบให้เซอยอนบริงราชทูตเชิญไปด้วยฉบับ ๑ พระราชสาส์นใหญ่กำหนดจะได้แห่ไปส่งณเมืองสมุทปราการลงเรือกำปั่น ณวัน ๑ ๖ ค่ำ เพลาเช้านั้น ให้กรมท่าเกณฑ์กระบวนแห่ บก เรือ ให้พร้อมเหมือนอย่างแห่พระราชสาส์นไปเมืองจีนแต่ก่อน กระบวนบกนั้นรับพระราชสาส์นในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม แห่ออกประตูวิเศษไชยศรี ลงเรือที่ท่าพระ กระบวนเรือพระราชสาส์นลงเรือเอกไชย ให้มีเรือดั้งคู่ ๑ เร่งเกณฑ์ให้พร้อมจงทุกพนักงานทั้งกระบวนบกกระบวนเรือเหมือนอย่างเคยแห่พระราชสาส์นอย่าให้ขาดได้

อนึ่งให้เรือกราบมีกันยายาว ๙ วา ๑๐ วา ไปส่งแขกเมืองเหมือนเมื่อไปรับ ให้เกณฑ์พระบรมมหาราชวัง มหาดไทย เจ้าพระยานิกรบดินทร์ลำ ๑ พระยามหาอำมาตย์ลำ ๑ กลาโหม พระยาสุรเสนาลำ ๑ พระยาเทพอรชุนลำ ๑ กรมเมือง พระยายมราชลำ ๑ กรมวัง เจ้าพระยาธรรมาลำ ๑ กรมนา เจ้าพระยาพลเทพลำ ๑ กรมท่าซ้ายพระยาโชฎึกราชเศรษฐีลำ ๑ กรมท่าขวา พระยาจุฬาราชมนตรีลำ ๑ คลังสินค้า พระยาศรีพิพัฒน์ลำ ๑ คลังมหาสมบัติ พระยาราชภักดีลำ ๑ กรมพระสัสดี พระยาราชสุภาวดีลำ ๑ ล้อมพระราชวัง พระยาเพ็ชรพิไชยลำ ๑ รวม ๑๓ ลำ เกณฑ์พระบวรราชวัง กลาโหม พระยาเสนาภูเบศร์ลำ ๑ กรมเมือง พระยาพิไชยบุรินทราลำ ๑ กรมวัง พระยามณเฑียรบาลลำ ๑ กรมนา พระยาเกษตรรักษาลำ ๑ กรมท่า พระยาราชานุประดิษฐ์ลำ ๑ คลังมหาสมบัติ พระยาศิริไอสวรรย์ ลำ ๑ รวม ๖ ลำ รวมทั้งสิ้น ๑๙ ลำ ทั้งนี้ ให้บรรจุพลพายให้ครบกระทง แล้วให้มีนายกำกับไปคนหนึ่ง เรือนั้นให้ปูเสื่อ ปู่พรม มีเบาะ มีหมอน ให้พร้อมจงทุกลำ ถอยไปคอยรับแขกเมืองแต่เพลาย่ำรุ่ง ลงไปส่งให้ถึงเมืองสมุทปราการ

อนึ่งให้พันพุฒอนุราช พันเทพราช จ่ายเลขให้บรรจุเรือรูปสัตว์ให้เต็มทั้ง ๗ ลำ พลพายให้ครบกระทง เร่งจ่ายให้แต่ณวัน ๗ ๖ ค่ำ ทั้งนี้อย่าให้ขาดได้ตามรับสั่ง.

หมายรับสั่งที่ ๑๖

เกณฑ์กระบวนแห่พระราชสาส์นไปส่งเรืออังกฤษ

ด้วยพระรักษมณเฑียร รับพระบรมราชโองการใส่เกล้า ฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ สั่งว่า เซอยอนบริงแขกเมืองจะได้กราบถวายบังคมลาออกไป ณวัน ๖ ค่ำ ปีเถาะสัปตศก จึงโปรดเกล้า ฯ ให้มีพระราชสาส์นมอบให้เซอยอนบริง ราชทูตเชิญออกไปด้วยฉบับหนึ่ง พระราชสาส์นลงเรือเอกไชยณประตูท่าพระ แห่ลงไปส่งลงเรือกำปั่นณเมืองสมุทปราการ แลเรือรูปสัตว์ ๗ ลำนั้นรับแขกเมืองณตึกฝรั่ง ริมวัดประยุรวงศ์ลงไปส่งณเมืองสมุทปราการ ให้นายเรือมารับเลขต่อพันพุฒอนุราช พันเทพราช มาบรรจุพลพายให้ครบกระทงนั้น ให้นายเวรมหาดไทยหมายบอกนายเรือ เรือรูปสัตว์รับทูต กรมอาสาวิเศษขวา เรือวายุภักษ์ลำ ๑ ผูกม่านทอง อาสาใหม่กรมวังซ้ายเรือเหราลำ ๑ ผูกม่านเขียวบังสาด อาสาใหม่กรมวังขวาเรือเหราลำ ๑ ผูกม่านเขียวบังสาด ล้อมพระราชวังซ้ายเรือมังกรลำ ๑ ผูกม่านลายวิลาด ล้อมพระราชวังขวาเรือมังกรลำ ๑ ผูกม่านลายวิลาด ให้ดาดสีหลังคา ปูเสื่ออ่อน พรมเจียม หมอนอิง พลพาย ใส่เสื้อ ใส่หมวก ใส่กางเกง แต่งตัวตามเคยจงทุกลำ เรือดั้งแห่พระราชสาส์น เรือดั้งกองกลางซ้ายลำ ๑ ขวาลำ ๑ รวม ๒ ลำ ให้ดาดสีหลังคาให้เอาสีใหม่ดาด ผูกภู่ผ้าน่าโขนให้พร้อมงามดี ให้มีนายเรือสำหรับลำ ๆ ละคน ให้รับกลองชนะลำละ ๕ ใบ ให้มีธงปักน่ากันยาลำละ ๒ คัน พลพายใส่เสื้อแดง หมวกแดง กางเกงแดง จงทุกคน แลให้ผู้ซึ่งต้องเกณฑ์ทั้งนี้มาคอยเตรียมรับทูต มาคอยเตรียมแห่พระราชสาส์น แต่ณวัน ๔ ๖ ค่ำ เพลาเช้าโมงหนึ่งให้ทันกำหนดตามรับสั่ง.

หมายรับสั่งที่ ๑๗

สั่งกระบวนแห่พระราชสาส์นไปส่งเรืออังกฤษ

ด้วยพระยารักษมณเฑียร รับพระบรมราชโองการใส่เกล้า ฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ สั่งว่า หมายสั่งมากรมท่าให้หมายเกณฑ์กระบวนแห่พระราชสาส์นซึ่งมีออกไปถึงพระนางเจ้ากรุงลอนดอนซึ่งเปนใหญ่ในชาวอังกฤษเปนกระบวนทางบก ทางเรือ เหมือนอย่างแห่พระราชสาส์นไปเมืองจีนนั้น กำหนดเซอยอนบริงจะได้กราบถวายบังคมลาล่องจากกรุง ฯ ณวัน ๖ ค่ำ ปีเถาะสัปตศก เพลาเช้าโมงหนึ่งนั้น ให้มหาดไทย กลาโหม เกณฑ์เรือเอกไชยสำหรับใส่พระราชสาส์น ๑ ลำ เรือดั้งเปนคู่ชัก ๒ ลำ ให้จัดแจงตกแต่งเหมือนกระบวนเสด็จ เรือดั้งนั้นให้รับมโหรทึกลงเรือด้วย ให้ผู้ต้องเกณฑ์เรือรับเลขต่อพันพุฒอนุราช พันเทพราช บรรจุพลพายใส่เสื้อแดงหมวกแดง ลงเรือเอกไชย ลงเรือดั้งให้ครบกระทง ให้มาคอยเตรียมแห่ณประตูท่าพระ รับพระราชสาส์นลงไปส่งณเมืองสมุทปราการ ถ้าพระราชสาส์นลงเรือเอกไชยแล้ว ให้เรือเอกไชยคอยรับอาลักษณ์ รับปี่กลอง รับแตรสังข์พร้อมแล้วจึงให้ออกเรือ

อนึ่งให้ ๔ ตำรวจรับพระราชยานต่อพันเงินองค์ ๑ ยืมพรมน้อยต่อพระคลังพิมานอากาศ ๑ แล้วให้ไปรับเลขต่อพันพุฒอนุราช พันเทพราช มาใส่เสื้อแดง หมวกแดง กางเกงแดง หามพระราชยานไปรับกล่องพระราชสาส์นณพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม แห่ออกประตูวิเศษไชยศรีลงประตูท่าพระ

แล้วให้มหาดไทย กลาโหม เกณฑ์หลวง ขุนหมื่นเปนคู่แห่ เดินเท้า นุ่งสมปักลาย ใส่เสื้อครุย ลำพอกขาว แห่น่า ๓๐ แห่หลัง ๒๐ รวม ๕๐ คู่ ให้เกณฑ์ไพร่ใส่เสื้อแดง หมวกแดง กางเกงแดง ถือปืนแห่น่า ๒๐ ถือธงแห่น่า ๒๐ แห่หลัง ๑๐ รวม ๕๐ คู่ แล้วให้เกณฑ์ปี่คัน ๑ แตรงอน ๓ คู่ แตรฝรั่ง ๒ คู่ กลองชนะ ๑๕ คู่ จ่ากลอง ๑ สังข์ ๑ มโหรทึก ๒ สำรับ ใส่เสื้อแดง หมวกแดง กางเกงแดง คอยรับแห่ที่ประตูวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ออกประตูวิเศษไชยศรีไปประตูท่าพร

อนึ่งให้พันทองรับเลขต่อพันพุฒอนุราช พันเทพราช มาแต่งตัวตามเคย เชิญเครื่องสูงแห่น่า ๖ แห่หลัง ๔ รวม ๑๐ องค์

ให้ชาวพระมาลาภูษาเชิญพระกลดองค์ ๑ ไปกั้นพระราชสาส์น ครั้นคู่แห่พร้อมแล้วให้อาลักษณ์เชิญกล่องพระราชสาส์นทรงเหนือพระราชยาน เอาด้ายดิบผูกให้มั่นคงอย่าให้โคลงได้ ให้กรมพระอาลักษณ์เดินเคียงพระราชยานข้างละ ๒ คน ถ้าพระราชสาส์นลงเรือเอกไชยแล้วให้ปี่กลองแตรสังข์ลงเรือเอกไชย ปี่คัน ๑ กลองชนะ ๕ คู่ แตรงอนคู่ ๑ แตรฝรั่งคู่ ๑ สังข์คู่ ๑ ประโคมพระราชสาส์นลงไปส่งให้ถึงเมืองสมุทปราการ

อนึ่งให้กรมพระตำารวจน่า ๘ กรม จัดหัวหมื่นตำรวจถือหวายแห่ ๒๐ คน ให้เตรียมแห่ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม แห่เรือประตูท่าพระ แลให้อาลักษณ์รักษาพระราชสาส์นไปด้วย ๒ คน

อนึ่งให้พันพุฒอนุราช พันเทพราช จ่ายเลขให้หลวงราชมานูตีกลองชนะ ๓๐ ให้บรรจุเรือเอกไชย เรือดั้งให้ครบกระทง ให้พันทองเชิญเครื่องสูง ๑๐ ให้สี่ตำรวจหามราชยาน ๔

ให้เกณฑ์หัดแสงปืนจ่ายปืนคาบศิลาให้คู่แห่ ๔๐ บอก ให้กรมพระกลาโหมจ่ายเสื้อแดง หมวกแดง กางเกงแดง ธงจีนให้ฝีพาย ให้คู่แห่ ให้พันเงินจ่ายพระราชยานให้สี่ตำรวจองค์ ๑ ให้คลังพิมานอากาศจ่ายพรมน้อยให้สี่ตำรวจปูพระราชยานผืน ๑

แลให้ผู้ต้องเกณฑ์ทั้งนี้เร่งจัดแจงการมาเตรียมแห่พระราชสาส์นให้พร้อม ให้เร่งแห่พระราชสาส์นลงเรือ แต่ณวัน ๒ ๖ ค่ำ เพลาเช้า ให้ทันเซอยอนบริงล่องจากกรุงเทพ ฯ

อนึ่งซึ่งสั่งไปแต่ก่อนว่า ให้เกณฑ์เรือแห่พระราชสาส์นลงไปส่งเซอยอนบริงณเมืองสมุทปราการ ณวัน ๖ ค่ำนั้น เลื่อนไปณวัน ๖ ค่ำ ปีเถาะสัปตศก เพลาเช้าโมงหนึ่ง ให้เจ้าพนักงานผู้ต้องเกณฑ์ฟังเอาหมายรับสั่งฉบับนี้เปนแน่ อย่าให้ขาดได้ตามรับสั่ง.

จะเสด็จลงประทับตำหนักน้ำให้แขกเมืองทูลลา

ด้วยเจ้าหมื่นสรรพเพธภักดี รับพระบรมราชโองการใส่เกล้า ฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ สั่งว่า ณวัน ๕ ๖ ค่ำ เพลาเช้าโมงหนึ่ง จะเสด็จออกบนพระที่นั่งดุสิดาภิรมย์ส่งพระราชสาส์นบนเกย แล้วจะเสด็จไปพระตำหนักน้ำทอดพระเนตรกระบวนแห่ โปรดเกล้า ฯ สั่งให้เจ้าพนักงานแวะเรือเซอยอนบริงเข้าที่แพลอย แล้วให้เจ้าพนักงานพาเซอยอนบริงเข้าเฝ้าที่พระตำหนักน้ำ จะพระราชทานของให้เซอยอนบริงนั้น ให้มหาดเล็กรับของต่อท่านข้างในที่จะพระราชทานเซอยอนบริงลงไปเตรียมที่พระตำหนักน้ำแต่เพลาเช้าโมงหนึ่งให้พร้อม

อนึ่งโปรดเกล้า ฯ สั่งว่า การที่จะแห่พระราชสาส์น ณวัน ๕ ๖ ค่ำ เพลาเช้าโมงหนึ่งนั้น ให้เจ้าพนักงานผู้ที่ต้องเกณฑ์ทุก ๆ พนักงานตระเตรียมไว้ให้พร้อมแต่เพลาย่ำรุ่งอย่าให้ขาดได้ ถ้าเจ้าพนักงานจะขัดข้องสงไสยด้วยการงานสิ่งใด ห้ามมิให้กราบทูลฉลอง โปรดเกล้า ฯ ให้ไปทูลถามพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงวงศาธิราชสนิท พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่่นวรจักรธรานุภาพ สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ามหามาลา ทั้ง ๓ พระองค์นี้ ให้มหาดไทย กลาโหม หมายบอกเจ้าพนักงานซึ่งสั่งมาทั้งนี้ให้รู้จงทั่ว อย่าให้ขาดได้ตามรับสั่ง.

  1. ๑. ผู้สำเร็จราชการกรมท่าเวลานั้น สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาปรยุรวงศ์ยังถือตราบัวแก้ว เจ้าพระยาทิพากรวงศ์ยังเปนเจ้าพระยาผู้ช่วยราชการกรมท่า

  2. ๒. พระยามนตรีสุริยวงศ์ ชุ่ม บุตรสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยุรวงศ์

  3. ๓. ในร่างหมายยังไม่ได้ลงว่าเท่าใด

  4. ๔. เข้าใจว่า พระยาราชภักดี ช้าง ต้นสกุลเทพหัสดิน ณกรุงเทพ

  5. ๕. เซอยอนเบาริงได้เข้าเฝ้าเปนส่วนพระองค์ก่อน แล้วจึงเสด็จออกรบเต็มยศทีหลัง

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ