โคลงแลกลอนยอพระเกียรติ ๓ รัชกาล

พระยาไชยวิชิต (เผือก) แต่ง

----------------------------

๏ บังคมบรมบาทไท้ ทั้งสาม
สืบพระวงษ์ทรงนาม ยอดฟ้า
เสวยราชสมบัติตาม ลำดับ
สามแผ่นดินเจ้าหล้า เลิศล้ำกรุงกระษัตร
๏ สรวมชีพข้าบาทผู้ ภักดี
ทูลลอองบทศรี ใส่เกล้า
ขอแสดงพระเดชตรี ศวรราช
ยกพระยศจอมเจ้า ทวีปไว้ชมบุญ ฯ
๏ บุญองค์อิศรราชเลี้ยง โลกา
คือคู่บูรพเทพา ผ่านเกล้า
อกราษฎรประชา ชมชื่น
เย็นทั่วศกเส้นเผ้า ภพพื้นภูลเกษม ฯ
๏ สุริยาพิโยคร้าง รถทรง
ฤๅอิศรพรหมลง สู่หล้า
พระกฤษณ์พิศณุพงษ์ ภูวนารถ พระฤๅ
เสด็จจากสีหาศน์ฟ้า ผ่านพื้นชมพู ฯ
๏ พระแก้วพระก่อเกล้า ธาตรี
กอปพิภพภูลศรี เศกหล้า
เปนเฉลิมมิ่งโมฬี หลักโลกย์
สิบทิศไท้ถ้วนหน้า นอบน้อมถวายกร ฯ
๏ พระเดชดุจร่มฟ้า เย็นดิน
คือรศอำมฤตย์ริน เรี่ยเกล้า
กระษัตรทั่วธรณินทร์ ในทวีป นี้นา
เอาพระเดชปกเผ้า อยู่เพี้ยงโพธิ์ทอง ฯ
๏ พระมลายความโศกสิ้น ขาดเข็ญ
ดับกลียุคเย็น ทั่วหล้า
ไตรเตรียกพิภพเปน ผาศุก
แผ้วแผ่นภูวอกฟ้า สว่างร้อนใจเมือง ฯ
๏ พระเสด็จมาคลี่ฟ้า ดินขยาย
แผ่แผ่นสิมาผาย กว่ากว้าง
ไพบูลย์ทั่วทุกพาย ไพโรจ
เพื่อพระบารมีสร้าง สืบให้ภูลเกษม ฯ
๏ พระญาณส่องโลกย์เพี้ยง พันแสง ส่องแฮ
พระแจ่มคือจันทร์แจง จรัสหล้า
พระตรัสพ่างพระแสดง โดยสาสน์
จูงจิตรนิกรสู่ฟ้า ชื่นชี้ชมสวรรค์ ฯ
๏ พระไทยพระเที่ยงแท้ ศรัทธา
ในพระรัตนไตรยา ยิ่งแล้ว
หวังเสร็จแก่ปรมา สมโพธิ
เปนพระสรรเพชญ์แผ้ว โลกย์ให้เห็นผล ฯ
๏ ทรงศีลบริสุทธิด้วย จัตุพรหม วิหารแฮ
ทรงพระขันตยารมณ์ เลิศแล้ว
ทรงธรรม์เฉกพระสยม ภูวนารถ
ทรงพระการุญแหน้ว หนึ่งเพี้ยงกรุณา ฯ
๏ พระยศพระยอดฟ้า สุเมรุทอง เทียมแฮ
พระเกียรดิกรุงกระษัตรสยอง ยอบเกล้า
พระคุณพระมาครอง ภพแผ่น นี้นา
ทุกทิศไทเทพเท้า ทั่วฟ้าสรรเสริญ ฯ
๏ พระมากอบก่อหล้า หลากสวรรค์
มาผ่านภูวมาผัน แผ่นพื้น
มาเปนปิ่นภพจรร โลงโลกย์
มาแจ่มใจเมืองรื้น อยู่เพี้ยงพึงชม ฯ
๏ เสมอองค์อำมเรศเจ้า จอมสวรรค์
พรหมพิศณุรังสรรค์ เศกสร้าง
กรุงศรีอยุทธยาขวัญ ตาโลกย์ เลิศแฮ
งามมิ่งเมืองแม้นผ้าง แผ่นพื้นภูมิเดิม ฯ
๏ ปราสาทสูงส่งฟ้า เจียนจันทร์ แจ่มแฮ
พระที่นั่งสุธาสวรรย์ รุ่งเร้า
จักรพรรดิพิมานสรรค์ ทรงสล่าง
ดิเรกภพจอมเจ้า แจ่มฟ้าดินดู ฯ
๏ อยุทธยาพิฦกกว้าง กรวมสมุท
เพียงภพเมืองพรหมสุทธ สู่หล้าง
แสนโกฏิกุรุงมนุษย์ นับยาก แล้วแฮ
บุญบพิตรเจ้าสร้าง เศกขึ้นคงเกษม ฯ
๏ บารมีปานเมศแม้น นฤมิตร
ทุกเทศเกรงทุกทิศ ท่านสร้าง
พระเดชประดุจปลิด เดือนเด็ด ได้แฮ
กรุงเก่าสูญเศิกมล้าง ล่มแล้วลอยคืน ฯ
๏ พระศรีรัตนรูปแก้ว มรกฏ
กอปพระเกียรดิไกรยศ ยอดไท้
เสมอองค์พระสุคต คงเสด็จ
ปองโปรดภูวนารถให้ สืบสร้างโพธิญาณฯ
พระแสงขรรค์เพ็ชรไท้ ท่านทรง
พ่างพระพิศณุพงษ์ ผ่านฟ้า
พระเสด็จจำแลงลง โลมโลกย์ นี้แฮ
ปราบอรินร่อนข้า ข่มมล้างลาญเข็ญ ฯ
๏ สังข์ทักษิณวัฏเพี้ยง นารายน์ ทรงแฮ
เมืองเทศมาทูลถวาย ปิ่นเกล้า
ดุจแสดงพระเดชขจาย ขจรโลกย์
ว่าจากกษิรสินธุ์เต้า แต่ฟ้าครองดิน ฯ
๏ ช้างเผือกพงษ์ชาติเชื้อ ฉัททันต์
แลเล่ห์เอราวรรณ ผ่องแผ้ว
เฉลิมพระนครขวัญ เมืองมิ่ง
งามประเสริฐเลิศแล้ว ทั่วหล้าฦๅบุญ ฯ
๏ คชรัตน์อัฐทิศทั้ง สืบสกูล
ศรีสวัสดิ์ไพบูลย์ภูล ผ่องแผ้ว
เฉลิมมิ่งมไหสูรย์ สุรราช
ตัวต่อตัวคู่แก้ว ค่าฟ้ามาเมือง ฯ
๏ อำนวยอเนกช้าง สารทรง
พรหมอิศรอัคนิพงษ์ เพริศพร้อม
มาเปนเอกอาศน์องค์ อิศเรศ
โรงระวางในล้อม รอบริ้วราชวัง ฯ
๏ สินธพเทียมเทียบม้า ทินกร
เปนเอกอาศน์อัศดร เลิศล้น
สุรเดชดุจไกรสร สีหราช
งามละตัวม้าต้น คู่ม้าเมืองสวรรค์ ฯ
๏ ราชรถรจเรขเรื้อง รังษี
บุษบกพิมานมณี โตกตั้ง
เทียมรถพระศุลี ลอยโลกย์ ลงแฮ
คือพระสูริย์เสด็จยั้ง อยู่เหยี้ยมภูวดล ฯ
๏ นาวาวิจิตรเหลี้ยม ลำทรง
ฉลุภาพพรรณบรรจง กิ่งแก้ว
บัลลังก์ที่นั่งหงษ์ เหมราช
ม่านปักทองพรรณแพร้ว เพริศพร้อมพรายตา
เรือโขนที่นั่งเจ้า จอมกระษัตร
ชื่อสุดสายตาตัด ป่าใต้
หนึ่งประจำทวีปวัด ลำมาด
ยาวตลอดโขนไซ้ กว่าเส้นเศษวา ฯ
๏ เรือศรีประกอบล้วน ลายทอง
ที่นั่งบัลลังก์ลออง เลิศล้ำ
จักรพรรดิภิรมย์ฉลอง เฉลิมชื่อ
ลอยล่องฟ่องฟูน้ำ คล่องคล้ายพายลม
๏ ตระการวังวัดแพร้ว พรรณราย
เรืองรัตนรังษีฉาย โชติช้อย
พื้นแผ่นแว่นทองทราย โรยรื่น
พวงระย้าแก้วย้อย ยาบชั้นฉัตรทอง ฯ
๏ มณฑปประดับแก้ว กอปโสม
สูงยอดสูงสุดโพยม เยี่ยมฟ้า
โอภาษพิศเพียงโคม แขวนเมฆ
ไตรโลกย์เล็งทั่วหล้า แหล่งล้วนอภิวันท์ ฯ
๏ ไพหารพุทธภาคย์แก้ว มรกฏ
ล้ำพิมานโสฬศ พร่างแพร้ว
ในลายระบายรจ เรขภาพ
ผนังนอกทองถมแก้ว ก่ำฟ้าดินดู ฯ
๏ อารามงามเงื่อนสร้าง รายเรียง
วัดพระเชตุพนเพียง หยาดหล้า
พิหารทิศแถวรเบียง บรรเจิด
รยะยอดเจดีย์จ้า แจ่มด้วยหอไตร ฯ
๏ โสภาอาวาศสร้าง สุดงาม
วัดอรุณราชธาราม รุ่งฟ้า
วัดราชบุรณนาม สระเกษ
วัดระฆังวัดหน้า ปธาตุทั้งวัดทอง ฯ
๏ กุฎีดูสอาดอ้าน อาศรม
สงฆ์สโมสรชม ชื่นหน้า
เปนสถานที่อิฐารมณ์ ภูลศุข ไซ้แฮ
คือจะจูงใจหล้า โลกย์ไหว้วานชม ฯ
๏ พระสรรค์ทุกสิ่งสร้าง มูลมี มากนา
เอกละอันแสดงปี่ ป่วยอ้าง
เปนประดิษฐประดับศรี อยุทธเยศ ยิ่งแฮ
อยุทธยายาวยศกว้าง กว่าฟ้าดินแถลง ฯ
๏ พระเกียรดิพระกฤษณเกล้า กรุงทวาร์ วดีแฮ
คือคู่สุริยจันทรา ส่องสิ้น
จักกล่าวพระยศปรา กฎโลกย์ ถึงแฮ
ร้อยปากพูดพันลิ้น เล่าแล้วฤๅวาย ฯ
๏ พิศดารพระเดชพ้น พึงแสยง
ฤๅร่ำสรรพสิ่งแถลง ถี่ถ้วน
กลกลอนกล่าวแสดง สมเษป ไซ้นา
ยังยิ่งยศไทล้วน เลิศพ้นเยียรยอ ฯ
๏ ไว้เปนราวเรื่องรู้ รำพรรณ
เสมอมิ่งมณฑาสวรรค์ รื่นเร้า
กลกระแจะเจิมจันทน์ จรุงกลิ่น
หอมพิไลยโลมเล้า เลิศแล้วควรดม ฯ
๏ ใช่เชิงจักเชิดชี้ รำพรรณ
คิดพระคุณคืนวัน หว่านไหว้
ไป่มีสิ่งสนองอัน ใดอื่น แลนา
ยังพระยศไทไว้ ชั่วฟ้าดินฟัง ฯ
๏ พระไตรพระเกียรดิเพี้ยง พระกฤษณ์
ปางเสด็จแสดงศิลป์สิทธิ แกว่นแกล้ว
ผลาญเผ่าไพรีฤทธิ รอนราพ
รอนเรียบเสี้ยนศึกแผ้ว แผ่นพื้นชมพู ฯ
๏ รามาธิราชเรื้อง รณรงค์ เท่าใด
มล้างเหล่าอสุรพงษ์ มอดม้วย
สมเด็จอิศวรมง กุฎโลกย์ นี้แฮ
ปราบอรินราบด้วย เดชล้ำลาญแสยง ฯ
๏ พลหาญหักศึกได้ โดยหวัง
เข้าที่ไหนหักพัง ที่นั้น
ทรหดอดทนหนัง เหนียวแน่น
คนหนึ่งนับหมื่นหมั้น ไม่ท้อถอยหนี ฯ
๏ พลปืนพื้นยิ่งแหม้น หมดดำ
พลดาบปลาบเปลือยรำ ฟาดฟ้อน
พลหอกเฮี่ยมกำยำ แทงทิ่ม แทงแฮ
พลโล่ห์เขนเข้าต้อน ตัดเกล้ากลางสนาม
๏ พลง้าวยาวย่างเยื้อง ฟันฟอน
ตัวขาดปาดปานบอน บ่คร้าน
พลธนูคู่คมศร เสียบอก
ปืนใหญ่ยิงต่อต้าน ต่อตั้งแตกกระจาย
๏ ช้างเขนเคยศึกสู้ ปืนหลัก
เสยส่ายร่ายแรงหัก ค่ายข้น
สุรภาพปราบไตรจักร จบทวีป ได้แฮ
แล่นทลวงลุยปล้น ศึกสู้สงคราม ฯ
๏ ม้าศึกสินธพห้าว กำแหง
เร็วก็เร็วเรี่ยวแรง รบสู้
เสียงโกลนกระทบแผง เพียงคลื่น
โจมทัพขับเข้าหลู้ ไล่ล้างกลางแปลง ฯ
๏ โคต่างบรรทุกเข้า ของเสบียง
สำหรับทัพลำเลียง เลิศแท้
หาบคอนผ่อนพอเพียง เบาบ่า คนแฮ
เสียงกระดึงพรวนแผร้ เพรียกพื้นแผ่นดิน ฯ
๏ เรือรบเรืออย่างป้อม ปืนยิง
ดูสง่างามจริง จอดถ้า
ใช้ใบแล่นแลวิง เวียนเนตร น้อยฤๅ
พวกค่าศึกนึกหน้า พ่ายแพ้แต่ไกล ฯ
๏ เรือแจวแคล่วคล่องไหล้ ลาดตระเวน
จับสลัดจัดเจน จบแคว้น
อาสาปากน้ำเกณฑ์ กันเที่ยว ตรวจแฮ
ฝ่าคลื่นฝืนลมแหล้น ทั่วท้องกลางทเล ฯ
๏ ทัพเรือสมุหห้าว กลาโหม
รอนราบปราบณรงค์โรม ฝ่ายใต้
นายกทัพบกโจม ตีฝ่าย เหนือนา
ทุกทั่วหัวเมืองไส้ สุดสิ้นดินแดน ฯ
๏ พระเดชดุจภาคพื้น อากาศ
ประดับดวงดาวดาษ ดื่นฟ้า
ยิ่งพิศยิ่งโอภาษ พวยพุ่ง
ดังพระจันทร์แจ่มหล้า โลกย์เหลื้อนลอยโพยม
๏ ปางพระปิ่นโลกย์คล้อย คลาพล
ปราบมิ่งเมืองโดยกล ง่ายง้าง
ทุกเทศอ่อนเอาตน รองบาท พระนา
เปนร่มฉัตรแก้วก้าง อยู่โพ้นพึงเกษม ฯ
๏ ปางตีศรีสัตนาคแพ้ พังเมือง
กับนครปาศักดิเปลือง ป่นด้วย
เมืองหลวงพระบางเมือง โขงพ่าย แล้วแฮ
เมืองมิ่งลาวหลายม้วย ทุกแคว้นหัวเมือง ฯ
๏ ได้องค์โอรสเจ้า เวียงจันท์
กับเหล่าขัติยพันธุ์ ชิดเชื้อ
ครั้นเสด็จสู่ไอสวรรย์ เสวยสวัสดิ
โปรดมอบเมืองคืนเนื้อ หน่อท้าวลาวครอง
๏ พระตั้งพระแต่งไว้ ตามวงษ์
กระษัตรสมมุติคง ผ่านเต้า
ใครดีภักดีจง ใจซื่อ ก็ดี
ใครเท็จทุรโทษเท้า เทียบม้วยเปนเอง ฯ
๏ ปางกรุงอังวะผู้ ใจทิษ ฐินา
ยังบ่ขามแขงฤทธิ ว่าแกล้ว
เชาเมืองม่านมาติด ฤๅต่อ ทานแฮ
เสียแก่ทัพไทยแล้ว แหลกหล้าหลายปาง
๏ ปางแมงจันจ่าเจ้า เมืองทวาย
สามิภักดิมาดหมาย มอบม้วย
อพยพแน่งนางทวาย ทูลบาท พระนา
เข้าอยู่เปนข้าด้วย พระเดชไท้ทรงธรรม
๏ ปางเจ้าเชียงใหม่รู้ แรงฤทธิ พระนา
พญาน่านพญานครคิด ชอบแท้
นำพลพระไปติด เมืองม่าน
มล้างเหล่าเชียงแสนแพ้ เพื่อด้วยบารมี ฯ
๏ สิบเก้าเจ้าฟ้าฝ่าย ตวันตก
ขอเอาพระเดชปก ร่มเกล้า
เชียงตุงพญายองยก อพยพ มาแฮ
เชียงของเชียงแขงเข้า สู่เงื้อมบทมาลย์ ฯ
๏ ปางญวนเปนศึกสู้ กันเอง
องไทเตรินตริเกรง ปิ่นเผ้า
เชียงสือพรากเมืองเพรง ทูลบาท พระนา
เพราะเดชพระปกเกล้า กลับได้เมืองคืน ฯ
๏ ปางมอญมัตหมะทิ้ง เทเมือง
แปรจิตรคิดขุ่นเคือง ทุกบ้าน
ทั้งสามสิบสองเมือง มาสู่ พระนา
พระโปรดให้อยู่หย้าน ฟากน้ำเมืองประทุม
๏ ปางองค์อนุเจ้า เวียงจันท์
ประทุษฐจิตรผิดผัน อาจอ้าง
ยกทัพทาเขตรขัณฑ์ โคราช นั้นฤๅ
พระยกพยุหไปล้าง แหลกสิ้นสูญวงษ์ ฯ
๏ ปางพระไปปราบพื้น กัมพุช
เสร็จส่ายสงครามยุทธ แย่งแล้ว
ปางคืนพระนครอยุท ธยายศ ยิ่งแฮ
เสวยพิภพเพียงแผ้ว แผ่นฟ้าดินเกษม ฯ
๏ พระเดชดับศึกเสี้ยน สิบทิศ
แพ้พ่ายอาญาสิทธิ เสียบเกล้า
เมืองเอกออกอกนิษฐ ฤๅนับ ถึงเลย
ขอมแขกลาวญวนเข้า เขตรแคว้นจนจีน ฯ
๏ พระฤทธิโอภาษเพี้ยง ทินกร
ผลาญเผ่าไพรีรอน หักห้าว
อยุทธยามหานคร เขษมศุข ไซ้แฮ
ทุกเทศทุกไทท้าว ส่วยซ้องมาถวาย ฯ
๏ เสร็จศึกสู่ศุขไท้ เสวยรมย์
เกษมพระภูธรชม ชื่นหล้า
โดยพระเดชอุดม กรุงเทพ ท่านแฮ
แสนสนุกแม้นเมืองฟ้า เล่าเลื้องชมบุญ ฯ
๏ พระบาทภูวนารถเจ้า จอมกระษัตร
พระเสด็จอยู่เสวยสวัสดิ ผ่านเผ้า
บำรุงพระไตรรัตน์ โรงโรจ
เรืองรุ่งผดุงผดาเท้า ท่วนห้าพันปี ฯ
๏ ปางยกปิฎกไท้ ธำรง ธรรมแฮ
โปรดประชุมเชิญสงฆ์ อ่านซ้อม
ผิดเพี้ยนเปลี่ยนแปลงลง ลานใหม่
ในวัดมหาธาตุพร้อม อยู่เพี้ยงอรหันต์ ฯ
๏ เช้าเพนผจงภาชน์ตั้ง แต่งถวาย
ไตรจิวรแพรพราย เพริศพร้อม
นาเนกบริขารหลาย เหลือกล่าว
เปนดิเรกทานน้อม นอบเนื้อชินวงษ์ ฯ
๏ ละองค์อุปรโภคพ้น พรรณา
งามละอันเอาตา ใช่น้อย
ถวายต่างรัตนบุบผา พวงมาศ
เปนบำเรอรมยช้อย ชื่นชี้ชมทาน ฯ
๏ เพรงพระอชาตไท้ อุปถัมภ์ เท่าใด
ทรงพระศรัทธาทำ เทียบนี้
ยอยกปิฎกกรรม สงฆกิจ
เปนเบญจคำรบกี้ ก่อนโพ้นพึงกัน ฯ
๏ ปางฉลองอาวาศไท้ โปรยทาน ท่านแฮ
เพียงพิรุณรัตนบันดาล ดื่นหล้า
แสนสรรพสิ่งตระการ โกยแจก
วรรณิพกถ้วนหน้า เพรียกพร้องถวายพร
๏ ทรงธรรม์ทรงทอดทิ้ง ฉลากหลาย
เหล่าพระสุริยวงษ์ปราย โปร่ยให้
เงินทองไถ่แทนสพาย ผ้าห่อ เอาแฮ
ยาจกยาใจได้ ลาภแคล้วยากจน ฯ
๏ สังฆทานหว่านทั่วถ้วน โกษฐกอง
สบงยกจีวรกรอง ส่านย้อม
คัมภีร์ย่ามปักทอง ขวางเทศ ทำแฮ
ครบเครื่องบริขารน้อม อเนกไท้อวยทาน ฯ
๏ บริจาคแสนทรัพย์เหนื้อง นิจกาล
เปนมหามหัศทาน ท่วนหน้า
บพิตรเพิ่มสมภาร สมโพธิ ไซ้แฮ
เปนนักขัตฤกษ์หล้า หลากเหล้นงานฉลอง
๏ มหรศพเสียงสนั่นพื้น ธรณินทร์
บัณเฑาะว์ดุริยางค์พิณ พาทย์ฆ้อง
ระบำบทคือบิน บรรเจิด
เสนาะเรื่องรามเกียรดิร้อง ร่ายช้าชมเกษม ฯ
๏ อิเหนาเสาวภาคย์เพียง พิศวง
อุณรุทฤทธิรงค์ รุ่งฟ้า
พระสุวรรณสังข์ทรง รูปเงาะ
หุ่นลครโขนหน้า ปลุกปลื้มใจดู ฯ
๏ แสนสนุกทุกหนุ่มหน้า สาวสรรค์
ไพเราะรศโอฐอัน ขับอ้าง
กล่าวกลอนสุนทรฉันท์ ฉ่ำชื่น
ยอพระยศเจ้าช้าง เผือกผู้ครองเมือง ฯ
๏ แผ่นดินเพียงแผ่นฟ้า มาปอง เปนแฮ
เกิดบ่อเงินบ่อทอง บ่อแก้ว
สมบูรณ์สมบัตินอง นับโกฏิ
เปนมโหฬาร์แล้ว เลิศด้วยบารมี ฯ
๏ กรุงศรีอยุทธเยศแม้น เมืองสวรรค์
ฦๅเล่าชมข่าวขวัญ ทั่วหล้า
สรรเสริญสมเด็จธรร มฤกราช
ทรงพระคุณล้นฟ้า เลิศพื้นภพไตร ฯ
๏ เสนาะเสียงทุกปากผู้ ถวายพร
ชูช่อบงกชกร กึ่งเกล้า
จงเจริญสวัสดิถาวร วรบาท พระนา
เปนปิ่นปกภพเท้า ท่วนร้อยพันปี ฯ
๏ เสวยรมย์ชมชื่นหล้า ไอสวรรย์
คงคู่สุริยาจันทร์ แจ่มแจ้ง
ปรากฏพระยศอัน โอภาษ
ตราบสมุทสุดดินแส้ง ฝั่งฟ้าอย่าสูญ ฯ
๏ สรวมศรีศุภสวัสดิสร้อย สถาผล
สรวมสิทธิศุขวิมล เลิศแล้ว
สรวมไชยสุขุมงคล ดิเรก
สรวมสิ่งสมบูรณ์แผ้ว ผ่องเพียงเสวยสวรรค์ ฯ
๏ สรรเสริญพระเกียรดิเบื้อง บาทบงษุ์
สมเด็จบรมวงษ์ สืบไว้
พระเดชพระคุณทรง สวัสดิภาพ
ควรคู่บูชาไหว้ ค่ำเช้าชมบุญ ฯ
๏ จบบทพจนพากย์พื้น ภูมความ
แสดงพระเดชโดยสยาม พากย์ไว้
เพลงยาวลิลิตตาม เติมต่อ ไปแฮ
เปนจดหมายถวายใต้ บาทเบื้องบทศรี ฯ
๏ ขอถวายกายจิตรน้อม ประนต
แทบพระบาทบงกช คู่แก้ว
จะกล่าวพระเกียรดิจด หมายเหตุ
กรุงเก่าเศร้าสูญแล้ว แต่งตั้งพระนคร ฯ

เพลงยาว

๏ ขอถวายกายจิตรน้อม ประนต
แทบพระบาทบงกช คู่แก้ว
จะกล่าวพระเกียรติยศ หมายเหตุ
กรุงเก่าเศร้าสูญแล้ว แต่งตั้งพระนคร ฯ

๏ จะกล่าวบทจดหมายเหตุไว้ ถึงธานีพิไชยกรุงเก่า เปนทางร่วมบกน้ำทุกลำเนา ประเทศใดไม่เท่าเทียมทัด อาณาเขตรมณฑลก็กว้างขวาง แต่ก่อนเปนเมืองสร้างจอมกระษัตร ประกอบด้วยแก้วเก้าเนาวรัตน์ สมบูรณ์ภูลสมบัติก็มากมี ตึกกว้านร้านเรืองแถวถนน ผู้คนคับคั่งทั้งกรุงศรี ประชาชนหนุ่มสาวชาวบุรี ศุขเกษมเปรมปรีดิ์ทุกปีมา อันลูกค้าวานิชสิ้นทั้งหลาย ก็ไปมาค้าขายทุกภาษา สนุกสนานปานเปรียบเมืองฟ้า เปนมหานคเรศวิเศษนัก ประดับไปด้วยที่เจดีย์สถาน ล้วนตระการหลายแห่งเปนแหล่งหลัก ประเทศอื่นตื่นกันมาพึ่งพัก ทั้งรักทั้งกลัวไปทั่วทิศ พระองค์ผู้ดำรงนคเรศ มีพระเดชศักดาอาญาสิทธิ ปราบปรามตามทางทศพิธ บำรุงจิตรไพร่ฟ้าประชากร สิ่งไรร้อนก็ระงับดับเข็ญ ให้อยู่เย็นเปนศุขสโมสร ถ้อยความข้องขัดก็ตัดรอน ผันผ่อนเปรียบเทียบให้เงียบลง สมณะสามเณรก็เจนจัด ปฏิบัติตามกิจจริตสงฆ์ เล่าเรียนรศธรรม์มั่นคง เคร่งครัดตัดตรงทุกองค์ไป จะว่าข้างพุทธจักรก็หนักหนา เหมือนจะเตือนศรัทธาให้เลื่อมใส ฝ่ายข้างอาณาจักรนั้นไซ้ ก็งดงามตามในยุติธรรม์ อันเสนาข้าเฝ้าทูลลออง ปรองดองไม่มีที่เดียดฉัน ราชการเย็นร้อนก็ผ่อนกัน เปนศุขทุกวันทุกเวลา แต่ปกป้องครองราชสมบัติ สืบวงษ์พงษ์กระษัตรมาหนักหนา เปนศึกแล้วก็กลับเปนศุขมา ในศรีอยุทธยาธานี เมื่อถึงกาลบ้านเมืองจะย่อยยับ มีทัพมาประชิดติดกรุงศรี ศึกพม่ามาล้อมถึงสามปี ไม่มีแม่ทัพออกรับรอง ด้วยขุนนางต่างคนก็ร้าวฉาน ไม่ร่วมคิดกิจการเปนเจ้าของ สาละวนขนหาแต่เงินทอง มุ่งมองอิจฉากันท่าเดียว เมื่อไม่มีสามัคคีรศรัก ถึงมากสักโกฏิเสนแม้นขับเคี่ยว ไม่พร้อมมูลสมาคมกลมเกลียว ก็เหมือนมีคนเดียวไม่ได้การ ครั้นแต่งพวกอาสาออกฝ่าฟัน แต่กองเดียวเท่านั้นเข้าหักหาญ ไม่มีกองหนุนด้วยช่วยรบราญ จะทนทานไปได้เท่าไรมี ทัพช่วยเข้ามาล้อมอ้อมโอบหลัง ตีประดังบัดดลก็ป่นปี้ บรรดาคนที่อยู่ในบุรี ก็ดูเล่นเช่นนี้ทุกทีมา อันทแกล้วทหารการยุทธ เครื่องสาตราอาวุธก็หนักหนา ผู้คนกล่นกลาดดาษดา ไม่น่าจะแตกตายพรายพลัด เหมือนไม่มีผู้ใหญ่ใช้สอย แต่ผู้น้อยฤๅจะรับทัพกระษัตร แม้นเสนาบดีที่ชงัด กับต่างกรมระดมตัดเสียแต่ไกล ทัพพม่าก็จะล่าเลิกหนี จะเหยียบชานบุรีที่ไหนได้ ไม่ควรจะละเลยเฉยไว้ นิ่งให้มาทำถึงกำแพง ถึงกระนั้นถ้ามั่นคงอยู่ รบสู้ให้เต็มเข้มแขง ฤดูน้ำท่วมที่ไม่มีแปลง อ้ายโปแมงจะย้ายโยกขึ้นโคกวัด เหมือนลิงจับเกาะอยู่จะสู้ใคร ท่องน้ำไปไหนได้ถนัด ต่างกองต่างกระจายพรายพลัด เราก็จัดเรือไว้ให้มากมาย เอาปืนใหญ่ออกไล่ล้อมยิง ก็จะวิ่งลงน้ำระส่ำระสาย จับเปนเล่นก็ได้ทั้งไพร่นาย ถ้าขืนสู้อยู่ก็ตายด้วยลายปืน จะทรหดอดทนที่ไหนได้ ยิงกระหน่ำร่ำไปให้แตกตื่น น้ำก็ฦกซึ้งสุดจะหยุดยืน เห็นไม่คืนกลับหลังถึงอังวะ พวกพม่าน่าที่จะฉิบหาย ยับย่อยลอยตายเปนสวะ ในทำนองสงครามงามชนะ ไม่ควรจะกลับเปนไปเช่นนี้ ฤๅสาสนาเกือบกึ่งถึงกาล จะสูญสิ้นถิ่นฐานทั้งกรุงศรี เหมือนทำนายนารายน์ลพบุรี ธานีจะเกิดยุคขุกเคือง ครั้นดูในไตรเพทพยากรณ์ พระนครถึงฆาฏเข้าเรื่อง สุดสิ้นวาศนาชตาเมือง จะเปล่าเปลืองไปเปนเช่นทำนาย ครั้นมาเห็นภูมฐานบ้านช่อง แม่น้ำลำคลองก็ใจหาย รั้ววังวัดวาน่าเสียดาย ยับระยำทำลายแหลกล้าง นี่หากทุ่งกรุงไกรเปนไร่นา เข้าปลาสารพัดไม่ขัดขวาง ผู้คนอาไศรยจึงไม่ร้าง แต่เรือนเย่าเบาบางห่างไป ด้วยเหตุพระนครนั้นถอยถด เลื่อนลดลงไปสร้างข้างใต้ ประเทศที่อุทยานตระการใจ ด้วยพื้นพรรณผลไม้มากมี คือกรุงเทพอมรรัตนโกสินทร์ มหินทรอยุทธยาวดีศรี สนุกสนานกว่าปานบ้านเมืองดี เปนที่สรรเสริญเจริญยศ จะว่าข้างทางน้ำก็จำเภาะ ป้อมค่ายรายเหมาะทุกแห่งหมด เชิงเทินแต่ละชั้นดังบรรพต งามสง่าปรากฏในการยุทธ ป้อมใหญ่หลังหาดประหลาดล้ำ ดังลอยน้ำอยู่น่าเมืองสมุท ใครเห็นสั่นหัวไม่กลัวทรุด ราวกะผุดขึ้นมาจากบาดาล สารพัดจัดแจงทุกแห่งหน ในภาคพื้นมณฑลราชฐาน ดังนิมิตรด้วยฤทธิราชการ เปนมหามโหฬารสอ้านตา สมเด็จสรรเพชญ์บรมนารถ พระบาทดังฉัตรชั้นกั้นหล้า ทรงมหาอานุภาพได้ปราบดา เปนมหาสมมุติวิสุทธิวงษ์ เสด็จมาปราบเข็ญให้เย็นยุค เกษมศุขชื่นชมสมประสงค์ บ้านเมืองกลับฟื้นคืนคง สืบวงษ์กระษัตรามาช้านาน ทุกสิ่งแสนโภไคยไอสูรย์ สมบูรณ์สมบัติพัศถาน รื่นรวยด้วยโพธิสมภาร บรรณาการมาทั่วทุกหัวเมือง กรุงกระษัตรเขตรขอบรอบนอก เปนเมืองออกสุดหล้าฟ้าเหลือง แต่งดอกไม้เงินทองนองเนือง ทูลถวายใต้เบื้องบทมาลย์ ปีหนึ่งถึงกำหนดมาเฝ้าแหน ทุกไทท้าวด้าวแดนแน่นน่าฉาน เสื้อผ้าสารพัดจัดประทาน ตามยศศักดิอรรคฐานทั่วกัน พระเดชาปรากฎกัมปนาท ไหวหวาดทุกประเทศเขตรขัณฑ์ สิ่งใดไม่เคยเห็นแต่ก่อนนั้น ก็มีมาสารพันมากมาย พระเจ้าเวียงเชียงใหม่ได้ช้าง เผือกผู้คู่สร้างมาถวาย พระยาน่านซัดเชือกได้เผือกพลาย ขาวผ่องพรรณรายคล้ายกัน พระเขมรเมืองโทโพธิสัตว ได้เสวตรคชรัตน์รังสรรค์ ล้วนเผือกผู้โสภาลาวรรณ เชื้อฉัททันต์ประเสริฐเลิศปาง ฝ่ายเมืองนครราชสิมา นางพระยาเผือกผ่องต้องอย่าง กับพิมายนางรองเปนสองช้าง ชักนำทำทางมากรุงไกร ประทานชื่อพระเทพกุญชร บวรเลิศฟ้าไม่หาได้ พังหนึ่งพึงพิศอำไพ ชื่อพระอินทรไอยรารัตน์ เผือกพังทั้งสองงามสม ที่นั่งทรงองค์บรมกระษัตร พลายสามสมบูรณ์ภูลพิพัฒน์ บรรจงจัดชื่อเสียงให้เลี้ยงดู หนึ่งชื่อพระยาเสวตรกุญชร ตั้งตามนามกรเผือกผู้ พระยาเสวตรไอยราน่าชมชู รูปร่างหางหูก็ดงาม หนึ่งพระยาเสวตรคชลักษณ์ ประเสริฐศักดิพังสองพลายสาม ดังช้างแก้วปรากฏงดงาม บังเกิดเพิ่มเติมตามพระบารมี

ครั้นปีมเสงเบญจศก สมุหนายกบดีศรี ไปกวาดครัวพนมเปนเห็นได้ที ก็ต่อดีตลอดแคว้นแดนกัมพุช ได้ช้างเผือกผู้สู่สมโภช ไพโรจรูจีสีสัตบุษย์ รูปงามต้องตามตำหรับยุทธ ผ่องผุดพ่วงพีฉวีวรรณ ชื่อพระยามงคลหัศดินทร์ คชินทรเทพรังสรรค์ พระบารมีเปนที่อัศจรรย์ ได้ช้างเฉลิมขวัญอันเลิศแล้ว เจ้าพระยานครราชสิมา ได้คชาสีสังข์ดังช้างแก้ว บริสุทธิประเสริฐเพริศแพร้ว ผ่องแผ้วเผือกผู้คู่นคร แห่แหนพร้อมมูลมาทูลถวาย ทำโรงรายสำนักที่พักผ่อน อุปถัมภ์บำรุงแรมร้อน จะหลับนอนกินอยู่ไม่ดูเบา ข้าหลวงกรมการทุกบ้านเมือง ส่งเนื่องมาถึงทุ่งกรุงเก่า เดือนสามขึ้นเก้าค่ำเวลาเช้า ก็รับเข้าโรงสมโภชพิธี พร้อมด้วยพุทธสาตรไสยสาตร พฤฒิบาศโดยควรถ้วนถี่ ตามตำราคชสารบ้านเมืองดี แล้วให้มีการเล่นเปนหกวัน จึงนำช้างเผือกผู้ลงสู่แพ เกณฑ์แห่ตามมีกันที่นั่น เรือดั้งชักคู่เคียงเรียงกัน เสียงสนั่นพิณพาทย์ระนาดฆ้อง ออกจากท่าศาลาเกวียนกรุงเก่า เลี้ยวเข้าทางวัดตองปุพอจุช่อง น้ำก็เชี่ยวเหนี่ยวชักไปตามคลอง แพล่องลอยมาในสาชล ดังชลอวิมานฟ้าคลาเคลื่อน ลิ่วเลื่อนคว้าง ๆ มากลางหน หญิงชายตามดูทุกผู้คน ประชาชนชมโพธิสมภาร กำหนดล่องสองคืนสามวัน ก็ถึงท้ายตลาดขวัญดังบรรหาร พระบาทบรมนารถโปรดปราน เสด็จทางชลธารขึ้นไปรับ พร้อมด้วยพระประยูรวงษา ข้าเฝ้าท้าวพระยาเปนลำดับ กระบวนแห่น่าหลังคั่งคับ ให้รีบรับแพช้างวางมา ประทับถึงท่าพระที่ตะพาน พนักงานแห่แหนแน่นหนา ขึ้นสู่โรงสมโภชโชตนา ที่นั่งน่าจักรวรรดิจัดแจง ตั้งพิธีสมโภชทำขวัญ เจ็ดคืนเจ็ดวันบรรจงแต่ง โปรดประทานชื่อช้างไม่คลางแคลง ตามตำแหน่งเผือกเอกไอยรา ชื่อพระยามงคลนาคินทร์ สุดสิ้นไม่มีที่จะหา บริสุทธิสีสังข์โสภา วิบูลย์ลักษณ์เลิศฟ้าธาตรี มีช้างตระกูลสีประหลาด คเชนทรชาติเชื้อดามพหัตถี ม้าเทศสินธพนที ก็หลายอย่างต่างศรีโสภา เรือกิ่งแก้วกนกวิหคหงษ์ บัลลังก์ทรงลอยน้ำประจำท่า ครุธกระบี่ศรีประกอบเหรา เรือน่ารูปสัตวชัดเหมือนเปน เรือโขนที่นั่งทรงองค์กระษัตร ยาวสนัดวัดวาก็กว่าเส้น หัวเมืองตัดมาดถวายไม่วายเว้น แต่ก่อนใครได้เห็นเหมือนเช่นนี้

ช่างเหล็กเจ๊กช่างทำปืนใหญ่ เชื่อมชิดสนิทในได้ที่นี่ เหล็กเสืองเครื่องขันขยันดี ราวกับฝีมือนอกเอาออกกลึง ช่างแสงแต่งลวดลายฉลัก กระสุนสักห้านิ้วหกนิ้วกึ่ง รเบิดดูดีร้ายก็หลายตึง ไม่แตกร้าวคราวหนึ่งถึงสิบนัด ผู้แก่เถ้าเล่าว่าไม่เคยเห็น เหมือนทำเล่นคล่อง ๆ ไม่ข้องขัด พระดำริห์ตริใช้ได้ก็ชัด เปนมหามหัศอัศจรรย์ จาฤกคร่ำทำไว้ว่ารักษา พระสาสนาในประเทศเขตรขัณฑ์ หวังพระยศจดจำเปนสำคัญ ไปกว่าห้าพันปีประมาณ ปืนทองลองหล่อเหมือนปืนนอก ทลายค่ายหลายบอกในราชฐาน โรงเรียงเคียงแถวแนวปราการ ป้อมประตูทุกด้านออกลานตา

จะว่าข้างสิ่งของท้องน้ำ สลุบลำกำปั่นก็หนักหนา อแจจีนสำเภาเลากา ยี่ปุ่นกระลาป๋าเข้ามากรุง แพรม้วนโหมดตาดอัตลัด ลายสุหรัดล้นเหลือจนเบื่อนุ่ง ก้าละหม้าเฟื้องหนึ่งครึ่งกระบุง ส่านวิลาดคาดพุงไม่เอื้อเฟื้อ เข้มขาบริ้วทองของเมืองนอก ตาดดอกอย่างดีมีจนเหลือ พวกขุนนางทำผ้าน่าโขนเรือ พรมเจียมราวกะเสื่อเหลือใช้ ภูมบ้านบันดาศักดิอรรคฐาน เรือนชานอวดโอ่กันโตใหญ่ กระจกฉากโคมแก้วออกแพร้วไป ทั้งหอนั่งหอในเรือนนอน เงินทองของเข้าเมียสาวแส้ มั่งมีดีแน่กว่าแต่ก่อน พิณพาทย์ราตโพนโขนลคร อึกกระทึกฝึกสอนทุกเจ้านาย เสื้อแสงแต่งประกวดกันหนักหนา สร้อยตาบเต็มประดาน่าฉิบหาย เพราะมั่งมีศรีศุขสนุกสบาย ไม่ร้อนรนขวนขวายเหมือนก่อนกาล

อันวัดวาอาวาศประหลาดสร้าง ยักย้ายหลายอย่างโบถวิหาร ช่อฟ้าหางหงษ์ทรงบุราณ ไม่ทนทานว่ามักหักพัง พระอารามนามราชโอรส น่าบันชั้นลดลายฝรั่ง กระเบื้องเคลือบสอดสีมีพนัง เปนอย่างนอกออกปลั่งปลาบปลิว ลางหลังตั้งวงเปนทรงเก๋ง จีนสำเพ็งพวกแซ่แต้จิ๋ว วิชาช่างจ้างทำเปนแถวทิว แจกติ้วให้ตัวตั้งครัวเลี้ยง หอระฆังทั้งที่วิหารราย แยบคายมั่นคงทรงเฉลียง ปูนผิวเต็มดีด้วยฝีเกรียง พระระเบียงยักอย่างมาข้างไทย ดูพิฦกตึกสงฆ์สองคณะ คันถ์ธุระนั้นอยู่เปนหมู่ใหญ่ วิปัศนากุฏิเคียงเรียงกันไป ที่จงกรมร่มไม้รุกขมูล แท่นศิลาน่านั่งบริกรรม บำเพ็ญธรรมกรรมฐานที่สูญ พระศรัทธาเปนเดิมเพิ่มภูล ยกหนูนสาสนาสารพัด เหลือมนุษย์สุดสร้างได้อย่างนี้ เปนยอดทานบารมีโพธิสัตว พวกผู้ดีได้อย่างไปสร้างวัด เปนทรงนอกออกอัดทุกแห่งมา

ในวังวัดพระศรีรัตนาราม เฉลิมนามทรงสร้างไว้ข้างน่า เปนที่ถือน้ำพระพัฒน์สัจจา พระมหาอุโบสถงดงาม ฐานบัตรน่าบันชั้นผนัง เสามุขสุกปลั่งทองอร่วม รยับแสงสีแก้วแวววาม เฉลียงงามสามชั้นเปนหลั่นลด มณฑปในทองคำทำแท่นฐาน พระประธานแท้แก้วมรกฏ เกิดแต่ที่วิบูลบรรพต สีสดเนื้อน้ำสำปะนี อมรินทร์อินทร์องค์ทรงสร้าง ไม่คลาศเคลื่อนเหมือนอย่างพระชินสีห์ แต่สาสนาได้สามร้อยปี เปนเฉลิมธานีบุรีรัตน์ ตกอยู่ประเทศใดได้ต่อมา ตามบุพเพพาศนามหากระษัตร ถ้าเมืองใดไพบูลย์ภูลพิพัฒน์ พระพุทธรัตน์ไปอยู่บุรีนั้น พระบารมีเปนที่เลิศแล้ว ได้พระแก้วมาไว้ในเขตรขัณฑ์ เปนที่เคารพอภิวันท์ ทุกภาษาพากันมามัสการ

พระมหามณฑปนพมาศ ใหญ่โตโอภาษในราชฐาน ยอดซุ้มหุ้มทองบางตะพาน ดังวิมานเมืองฟ้าดุษดี ในผนังตั้งแต่งตู้กระจก สำหรับไว้ไตรปิฎกเปนที่ที่ ฉลากงาจาฤกทุกคัมภีร์ พระธรรมขันธ์นั้นมีประมวญครบ ราชบัณฑิตย์ช่างจานลงลานถวาย ทุกปีมามากมายหลายจบ บรรจงจนทรายอ่อนร่อนลบ ตามฉบบทานถูกผูกอังกา กรอบหนังสือทองคำแล้วซ้ำถม ผ้าหุ้มคลุมบรรธมพระภูษา ทรงห่อกับพระหัดถ์ด้วยศรัทธา ไว้สืบสาสนาให้ถาวร สารพัดจัดแจงแต่งบูชา ตุ๊กกระตาล้วนหินศิลาอ่อน รูปมนุษย์อุณรุทกับกินร พเนจรยืนอยู่เปนคู่เคียง หณุมานวานรินทร์ยิ้มย่อง วิมาลาไกรทองเปนทีเถียง รจนากับเจ้าเงาะเหมาะเมียง ฝรั่งเรียงเมียผัวตัวสำคัญ

รูปจีนโจโฉโตโคร่งคร่าง ถือง้าวยาวอย่างออกลั่นถัน เฮียก๋งไหว้เจ้าเปนเหล่ากัน ยืนหันเข้าหาน่าโต๊ะเตียง ศิลาลายแต่ละแผ่นทำแท่นที่ ขัดสีเอาเงาดูเกลาเกลี้ยง ประกอบก่อหินก้อนชง่อนเคียง ที่เปนเตียงแต่งตั้งน่านั่งนอน มีเสาหินแลเห็นเปนปล่องเปลาะ บรรจงเจาะเดือยคุดไม่หลุดถอน กลมเกลี้ยงเพียงกลึงด้วยภมร แต่ก่อนตั้งโคมตามอร่ามเรือง ยักษ์โตริมประตูดูใจหาย ประดับลายเบญจรงค์ทรงเครื่อง พระปรางทองเจดีย์ศรีประเทือง รุ่งเรืองรจนาสารพัน รูปฤๅษีดีบุกหลอมหล่อ นั่งหัวร่อราวกับเปนเห็นขัน รูปศิลาแต่งตั้งไว้ทั้งนั้น แต่ละสิ่งละอันเปนขวัญตา เครื่องแก้วเครื่องทองของวิเศษ หลายอย่างต่างประเทศก็หนักหนา ล้วนบรรจงทรงอุทิศบูชา พระศรัทธาปลดเปลื้องเนืองนิตย์ จะว่าข้างทางพระราชกุศล บำเพ็ญผลทรงสร้างอย่างอุกฤษฐ ทั้งปฏิปติบูชาแลอามิศ วัตถุทานอุทิศเปนนิตย์ไป โรงทานปานโรงกัลปพฤกษ์ ตามแต่นึกปราถนามาก็ได้ อันยาจกวรรณิพกพวกเข็ญใจ ก็อิ่มทั่วกันไปด้วยไทยทาน พระปัญญาบารมีนั้นแก่กล้า เปนยอดยิ่งศรัทธาอภินิหาร เห็นกระแสแน่ในโพธิญาณ ประมาณกาลจะนับลำดับไป ในอนาคตวงษ์นั้นองค์หนึ่ง แต่ไม่รู้ดูถึงว่าองค์ไหน คงได้ตรัสเปนแท้แน่ใจ โปรดฝูงเวไนยแลสาวก พระองค์นี้ที่สามเสวยราชย์ ศักราชพันร้อยแปดสิบหก กำหนดสาวนะมาศ์สาธก ปีวอกฉศกเสวยรมย์ ข้าบาทผู้พิทักษ์รักษากรุง บำรุงพระเกียรติยศเปนปฐม พระเดชพระคุณควรนิยม แต่งไว้ให้ชมทุกค่ำเช้า แม้นม้วยดินสิ้นฟ้าอากาศ ทั้งทเลเมรุมาศขุนเขา อย่าเสื่อมสิ้นถ้อยคำสำเนา พระยศอย่าเศร้าสูญ เอย ๚

ฯ บทเพลงยาว ๒๑๔ คำ ฯ

๏ อยุทธยายศยิ่งบ้าน เมืองดี
รังสฤษดิสองสามปี ก็แล้ว
แสนสนุกทุกธานี ฤๅร่ำ ถึงเอย
แล้วก็มีช้างแก้ว เผือกผู้พรรณราย ฯ
พระยา ยามความต่อตั้ง กตัญญู
ไชย สวัสดิชอบชู ชื่อไว้
วิ เศษสุจริตดู ดียิ่ง ดีนา
ชิต สนิทสนองรองใต้ บาทเบื้องบทมาลย์ ฯ
สิท ขาดราชกิจเจ้า จอมกษัตร
ธิ ราชโองการตรัส สั่งใช้
สาต สอนทุกสิ่งจัด เจนจบ
ตรา ชื่อความชอบไว้ แต่งตั้งตามควร ฯ
มหา นคเรศร้าง ภูมฐาน
ประ กอบธัญญาหาร ที่ตั้ง
เทศ กาลไร่นาการ กรุงเก่า
ราช กิจอยู่ผู้รั้ง รอบแคว้นแขวงกรุง
ชาติ วงษ์พงษ์เผ่าผู้ ภักดี
เสนา นับเนื่องเสนี สืบเชื้อ
ธิบ ดินทรราชีย์ โปรดชุบ เลี้ยงแฮ
ดี ก็เพราะก่อเกื้อ กอบด้วยราชการ ฯ
๏ เปนไวยวรนารถแล้ว หลายปี
เปนธิเบศรบดี แต่งตั้ง
เปนไชยวิชิตมี ความชอบ
ทรงโปรดให้ไปรั้ง ที่หมั้นเมืองกรุง ฯ
๏ ศรีปราชญ์มหาราชเจ้า จอมครู
กลอนกล่าวโคลงฉันท์ชู เชิดแล้ว
สารแสดงพระเดชภู ธรราช นี้นา
ฟังเสนาะเพราะแจ้วแจ้ว แจ่มแจ้งใจความ ฯ
๏ เดชะสัตย์ซื่อตั้ง สุจริต
ต่อพระบาทบพิตร ผ่านเกล้า
ทำบุญย่อมอุทิศ ทุกเมื่อ
ขอศุขสมบูรณ์เท้า ท่วนทั้งแสนกัลป์ ฯ
๏ ว่าไว้หวังลูกเต้า หลานเหลน
บุญบ่เกิดทันเหน หากรู้
พระเดชพระคุณเปน ปิ่นโลกย์ เลิศแฮ
ฟังเล่นเปนกระทู้ เกิดพู้นภายหลัง ฯ
๏ กลความตามต่อตั้ง กลกลอน
ไพเราะเพราะอักษร สดับด้วย
เพลงยาวกล่าวกลอนคอน โคลงกาพย์ ก็ดี
ฉันท์ลิลิตหมดม้วย เลิศล้วนสุขุม ฯ
๏ ภายน่าหายากแล้ว ลมกลอน
เปนที่สุดสุนทร เท่านี้
สมเด็จปิ่นนิกร ปกเกษ
โปรดประสาสน์สอนชี้ ค่ำเช้าเปนครู ฯ
๏ เสียดายหลายเล่มล้วน สมุดเขียน
พระราชนิพนธ์เพียร ผูกไว้
อิเหนาเรื่องรามเกียรดิ์ บทแบบ ในแฮ
บทนอกบอกบทให้ ฝึกฟ้อนลครโรง ฯ
๏ หอยสังข์สวมเงาะเหล้น ขันคนอง
มณีพิไชยไกรทอง เอกอ้าง
คาวีหลากเล่นฉลอง วังวัด พระนา
สมโภชพระยาช้าง เผือกผู้มาเมือง ฯ
๏ จะสูญจะเสื่อมสิ้น สำนวน
เปนที่ศุขเกษมสรวล สุดไซ้
สำหรับพระนครควร คติโลกย์ แลนา
ขอยกพระยศไว้ คู่ฟ้าดินภังค์ ฯ
๏ สรรเสริญพระเดชล้ำ ลมเฉลย
ซับซาบโอชาเชย ค่ำเช้า
เอมอ่านอิ่มใจเสบย สบายจิตร
ยิ่งกว่าสาวสมเคล้า แรกชู้ชวนเกษม ฯ
๏ เกิดไปในภพเบื้อง ใดใด แลนา
เปรมปราชญ์ปรีชาไวย กว่านี้
บทกลอนกล่าวพึงไพ เราะเรื่อย เรวแฮ
ตราบเสร็จสำเร็จลี้ ล่วงเข้านฤพาน ฯ

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ