เพลงยาวความเก่า

๏ ฝากสารสุจริตกนิษฐา
ฝากจิตต์ที่สนิทสนองมา ฝากหน้ามาให้ดูช่วยชูนวล
ด้วยหมายมั่นอยู่ในวันได้พบพักตร์ จำเริญรักยังไม่วายหายหวน
แสนสนิทนั้นยังคิดไม่ขาดครวญ เมื่อวันจวนที่จรไปจากชาย
เจ้ายอกรอภิวาทขึ้นพาดพักตร์ ดั่งใครผลักตกไม้ฤไทยหาย
แต่ตลึงแลหน้าจนตาลาย ดั่งสายกายนี้จะยืดจะยาวตาม
แล้วก็หยุดยืนคิดพิศวง จะตามส่งก็ยังพรั่นขยั้นขาม
เพราะเกรงไภยที่ผู้ใหญ่พยายาม จะลวนลามจึงเสงี่ยมสงวนใจ
แล้วเจียมตัวด้วยว่าตัวเหมือนหิ่งห้อย จะรื้อรอยไปแข่งพระสุริยใส
ก็เหมือนหนังเมื่อยังไม่ออกไฟ หรือจะไปเชิดชี้ประชันงาร
ทั้งเภรีปี่พาทย์ก็ขัดสน ทั้งไร้คนเจรจาจะว่าขาน
ดั่งเชิดชื่อให้เขาลือด้วยลายพาล ประมาณเถิดมิใช่จะเกียดกัน
ใช่จะน้อยเสน่ห์บำรุงถนอม เจ้าก็ย่อมแจ้งจริงทุกสิ่งสรรพ์
ถ้าสมบูรณ์สมบัติเท่าทัดกัน หรือจะพลันหิริโอตป์ลอายกาย
เมื่อมีแต่สุจริตกับพิศวาส ฤๅอาจรักเพลินให้เกินหมาย
แล้วตกต่ำก็จำจะเจียนตาย ใครจะเห็นว่าเปนชายภักดีดี
เมื่อไรจำเริญในเกียรติยศ จะปรากฎเกียรติศัพท์เสน่ห์พี่
สงวนศักดิรักษาแต่อินทรีย์ ไว้ให้ดีเถิดจะมาดหมายฟัง
เจ้าก็ใช่ดรุณพึ่งรุ่นเริ่ม พอจะเพิ่มเพียรจำที่คำหลัง
ให้จำเริญความสวัสดิ์ในสัจจัง อย่าหวังใจเอาใจออกจากกัน
จึ่งจะควรสมาคมสมสู่ ที่พลัดคู่รสรักภิรมย์ขวัญ
ถ้ารู้รักรู้สงวนให้ควรกัน จะร่วมวันพิศวาสไม่คลาดคลาย
จะร่วมร้อนร่วมรสเจริญพักตร์ จะร่วมรักมิให้ร้างหมางสลาย
จนสูญสิ้นดินฟ้าชีวาวาย มิได้คลายคลาดคิดประคองครอง
เอ็นดูด้วยอย่าให้ม้วยไมตรีมิตร ที่ปล้ำคิดควรความนี้ตามหมอง
แสนถวิลสุดสิ้นที่ตรึกตรอง จงดูลักษณ์ที่จำลองนี้เถิดเอย ฯ ๒๖ คำ ฯ
๏ สารศรีนุสรเสนหา
จำเริญจิตต์ที่ได้สนิทสนองมา ด้วยจินตนาเนืองนิจไม่วายวัน
ถึงเชษฐาองค์อิศราราช ประเวศอาสน์เบื้องวังบวรสวรรค์
สงวนศักดิสุจริตไม่ผิดธรรม์ ถวัลยราชดำรงธเรษตรี
สมพักตรวรอรรคอิศเรศร์ สมเศวตวรฉัตรเฉลิมศรี
สมวงศองค์เอกนารี สมศรีสุภาพพร้อมเพรากาย
งามพจน์งามรสสุนทรสนอง ไม่มีสองสุดเสน่ห์ถนอมหมาย
เสาวนาสาราภิปรายระบาย ให้ทราบสายเสน่ห์แจ้งแสดงการ
แจ่มจิตต์ที่สนิทสนองพักตร์ จำเริญรักมิได้วายหายสมาน
แต่จำจนสู้ทนทรมาน ก็บันดาลเสื่อมเศร้าทุเลาครวญ
ดั่งได้ยลวิมลพักตรพี่ เสาวนีไพเราะเสนาะหวน
สำราญรื่นชื่นชมภิรมย์ชวน เอาสารสงวนแนบไว้ในอุรา
ซึ่งประสาทโอสถดังรสทิพย์ มายกหยิบทุกข์เทวษถวิลหา
ได้จำเริญเรียนประสิทธิวิทยา รักษาอารมณ์แล้วข่มใจ
รสสุคนธ์ปนธูปเทียนสนอง ปลงปองเคารพสบสมัย
จงจิตต์บูชิตเปนเนืองใน แจ่มใสโสมนัสประนมกร
อิ่มอาบมิตรภาพจรรยา ดั่งเชษฐานั่งแนบสโมสร
ด้วยเดชะเมตตาสถาวร ระงับร้อนโรคเร้าระทมกรม
พระคุณปูนเปรียบสุเมรุมาศ พสุธาอากาศไม่สาสม
สุดสนองที่จะต้องในอารมณ์ ให้ชมคุณที่การุญนุชาชาย
ก็ตั้งจิตต์จงรักภักดีพี่ น้องจึงมีความร้อนห่อนเหือดหาย
สุดสกนธ์แต่ทนระกำกาย เพียงจะวายวางชีพทุกทิวา
แต่ยินข่าวที่เขากล่าวประมาทพี่ พลอยทวีความเทวษด้วยเชษฐา
เคยงามพักตรวรลักษณ์จำเริญตา ก็นับวันแต่ท่าจะอัประมาน
จะขุ่นคล้ำช้ำใจอยู่ในอก แสนวิตกอนิจจาน่าสงสาร
เสียเนื้อที่เปนเชื้ออนงค์นาน มาพ้องพานอุปวาทประมาทกัน
เคยสมบุรณ์ในจุลจักรพรรดิ์ ภิรมย์สวัสดิ์วีรราชจำเริญขวัญ
สงวนศักดิบริรักษ์ไม่วายวัน ก็สารพรรณจะนิราสแรมไกล
ดั่งดวงเดือนเลื่อนลับพโยมหน เคยวิมลกระจ่างสว่างไสว
ครั้นเมฆาราคินเข้าบังใบ ที่อำไพก็สิ้นสง่างาม
ไม่ชูช่วงดวงพรายระสายแสง แจ่มแจ้งประภัศรสนาม
อันอกน้องปองไว้ไม่วายความ เสียดายงามที่จะอัประมานมัว
เหล่าพาลจะประมาณประมาทหมาย เพราะราคีระคายระคนกลั้ว
จึงตรึกตรองตรอมจิตต์คิดถึงตัว มิใช่ชั่วแต่ว่ากรรมแล้วจำจน
จะเห็นใจก็แต่ในสุรารักษ์ จะประจักษ์แจ้งจริงทุกสิ่งฉงน
กับสุจริตที่ไม่คิดทรชน ก็ลุดลบันดาลฤไทยแคลง
จะหักหาญรานร้าพยาบาท อย่าอาฆาฏคุมคิดเคืองแสวง
ทั้งมาลารสสุคนธ์วิมลแสดง แบ่งจิตต์จำนงจงบูชา
จะตั้งหน้าอยู่ประสาสุจริต สิโนทกจะอุทิศปราถนา
ให้บำบัดมลทินและนินทา ลุจินดาได้พบประสบกัน
อนุชาจะจำนงจงสัตย์ ช่วยกำจัดทุกข์โทมนัสศัลย์
ขอเทเวศร์สิงสู่กำภูฉัตรชั้น นิรันดรเชิญช่วยพยาบาล
กว่าจะสูญชนมาชีวาวาตม์ จนพินาศสูญสิ้นอวสาน
อันน้องนี้ไม่มีเสน่ห์นาน อันพวกพาลพาเหียรไม่เวียนปอง
รักพี่เพียงดวงใจไนยเนตร จงเจตนาพบประสบสนอง
มิได้คิดเอาชีวิตเข้ารับรอง ป้องกันอันตรายระคายเคือง
ให้บำบัดตัดพาลการติฉิน ระคินสิ้นหมดไม่ปลดเปลื้อง
แสนเศร้าก็บันเทาที่บรรเทือง จะเรืองรื่นชื่นชมสัตยา
ผลสัตย์จงเปนปทัฏฐาน ขอบันดาลดลเจตพระเชษฐา
บอกน้องอย่าให้ปองจินตนา เสนหาแต่นุชสุดชีวี
ให้ร่วมสุขร่วมทุกข์ร่วมสวาท อย่าบำราศรักร่วมอารมณ์พี่
บำรุงรักมักจืดประเวณี ร่วมปีร่วมเดือนอย่าเคลื่อนคลา
แม้นเวียนวัฏปัฏิสนธิ์สถานใด ขอให้ได้สมสุขเสนหา
จงพบประสบสร้อยศาสดา อันโอฬาริกภาพจงพร้อมกัน
อย่ารู้ร้างอารมณ์ภิรมย์ร้าง อย่าหมางมิตรเมินสเทินผัน
จงรู้รักรู้สงวนให้ควรกัน ที่หมายมั่นอย่าประมาทประมาณนาน
ทุเรศนี้ยิ่งทุรัสถ์กำจัดจิตต์ แสนคนึงก็ยิ่งคิดคเนสาร
แม้นเชษฐามีมิตรจิตต์ประมาณ อย่าลืมอ่านควรคิดที่จิตต์จง
นับวันแต่จะเว้นไม่เห็นพักตร์ อันความรักนี้มิลืมอาลัยหลง
สงวนศักดิรักเร่งบำรุงองค์ เหมือนดำรงชีพน้องให้นานไกล
เดชะผลกุศลสร้างปางสนอง จะไม่ต้องทุกข์ทนกมลไหม้
ฝ่ายน้องจะครองชีวาไป พอจะได้ตั้งจิตต์จินตนา
คำคิดประดิษฐ์กลอนนุสรศรี โดยมีมิตรภาพเสนหา
จำลองลักษณ์ต่างพักตรอนุชา ให้ทัศนาแทนนุชคนึงปอง
ขอจงยำคำคิดประสิทธิสัตย์ ลืมวัจนาวอนนุสรสนอง
อย่าลืมระบอบชอบที่ไมตรีตรอง เมื่อรักน้องแล้วอย่าลืมเอนดูเอย ฯ ๖๖ คำ ฯ
๏ เอ๊ะผิดจริตแล้วนะอกเอ๋ย
เจ้าหรือมาเปนไม่เห็นเลย ดีร้ายคนเคยมาคิดทำ
จึงซนงอนซ่อนเงื่อนเสงี่ยมปิด นี่นอนคิดหรือจึ่งคมคารมขำ
ไม่ประมาณเลยว่าการมลทินทำ จะปิดงำหรือมาเชิดขึ้นชูงาม
เสียแรงรู้ที่จะอยู่ในรังฉลาด นี่ประมาทอยู่หรือไม่จะใคร่ถาม
ก็ย่อมแจ้งอยู่ด้วยกันว่าควันความ สงวนงามไว้ท่าก็กว่าเดือน
หรือน้อยใจจึงไม่แลนี่แน่เจ้า สัญญาเราว่ากระไรจึงไม่เหมือน
หรือว่าตรึกแต่เมื่อชี้คดีเตือน นี่ใครเยื้อนจึงมาภ้อจะก่อการ
เสน่ห์เจ้าเท่าฤทัยนัยเนตร ที่สังเกตดุจดวงฤดีสมาน
ถ้ามีเดชดังสยมบรมญาณ จะสรรค์พิมานมณีเนาวรัตนพราย
แก้วผลึกนั้นจะแล่งเปนฝาฉลอง ถนอมน้องมิให้มีเศร้าศรีสลาย
มิให้ลมอุบัติพัดกราย ชื่อว่าชายมิให้กรายพิมานเมิน
ถึงจะเมียงพระอุมาสมรเมื้อ จะแนบเนื้อแนบนางไม่หางเหิน
สำลีอ่อนแลจะซ้อนให้นางเดิร มิให้เกินกึ่งก้อยจะกันกาย
แต่ปางหลังตั้งถวิลเพราะกินเทวษ ครั้นมีเหตุหรือมาหักจนรักหาย
เมื่อยามชื่นดั่งจะกลืนไว้ในกาย นี่คราวหน่ายหรือจึงเหน็บให้เจ็บใจ
ถ้าแม้นรู้ว่าจะมากด้วยราครัก ใครจะห้ามให้เจ้าหักอารมณ์ได้
แต่โดยดีก็จะมีอาไลยใจ นี่กระไรเลยนะเจ้าดั่งเมามัน
แล้วมิหนำซ้ำกล่าวเพลงยาวภ้อ จะตอบต่อก็เปนตึงตัวหัน
นี่อวดฤทธิ์หรือว่าคิดนั้นคมครัน จะประชันหรือจึ่งชี้คดีมา
หรือเห็นพี่นี้เออาตภาพ จะกระหนาบเอาด้วยน้อยวาสนา
หรือแคลงสัตย์ที่เราวัจนามา จึงเปรียบกากับราชหงส์ทอง
หงส์จริงแต่หงส์ลงตกปลัก ครุฑก็จริงปีกหักลงตกหนอง
เห็นกาดำนั้นจะล้ำกว่าหงส์ทอง ด้วยว่าต้องตามวาสนากัน
อันตาโลกก็ว่าหงส์ดีกว่ากา สุวาดีกว่านกแสกแถกถามขวัญ
อันนกเค้าและเหล่ากานั้น วิสัยคนเหมือนกันก็ยินดี
แต่กาเข้ารคนปนหงส์ จะพาพงศ์ให้เสียศักดิศรี
เสื่อมเดชเพราะหน้ากากะลี ที่ความดีนั้นก็วางไว้ต่างกัน
แต่ขุนหงส์ผู้ทรงศรีสวัสดิ์ ยังกอดสัตย์รักร่วมภิรมย์ขวัญ
สงวนศักดิรักษาไม่อาธรรม์ ก็สำคัญอยู่ว่าศักดิสกุณี
แต่สาวหงส์ผู้ทรงวิลัยลักษณ์ มารับรักแล้วก็หน่ายเสน่ห์หนี
จะล้างขนที่เปนกาหน้ากะลี จึงพาทีพิศวาสนิราสไป
ให้ละห้อยคอยความจะถามนก แต่ร้อนอกเคร่าท่ามาเปนไหน
หรือแคลงคำที่ทำสัญญาไว้ นั้นฟักไข่หรือว่าหน่ายเสียดายรอย
หรือยังห่วงมุจลินท์สินธุสระ จะหลีกละแล้วก็รอทำท้อถอย
ให้คอยความอยู่ถึงสามเดือนคล้อย หรือราครักนั้นจะร้อยอยู่รึงรัง
หรือเห็นการาคีมีกว่าหงส์ ถวิลวงศอยู่ไม่วายหายหวัง
หรือจะเมินได้ด้วยเพลินแต่ลำพัง หรือคราวสุขเจ้าสั่งสนองมา
ดั่งฤๅหงส์วงศสกุโณเรศ มาละเพศทิ้งพรรณภาษา
ไปร่วมชาติกาจแกมสกุลกา กลับเอาตมแต้มหน้าว่านวลงาม
ถึงจะคาบมัจฉมางส์มาวางให้ ก็เข้าใจว่ามณีศรีสยาม
แต่โดยดำก็จะร่ำพิไรงาม จะจัดความเชิดชี้อาวรณ์ชร
ถึงจะเห็นเงาหางที่กลางเศียร ก็จะเวียนถวิลเดาว่าเงาหงอน
ถึงจะใส่เกราะคาให้กาจร ก็จะว่าอาภรณ์ที่หงส์ทรง
ดั่งฤๅดวงมณฑาทิพยรส ไม่ปรากฎกลกลิ่นเท่ากาหลง
ดั่งละรสคนธ์ไว้ไม่ทานทรง หรือไปจงทัดดอกสเดาเดิร
เพราะว่าหงส์มิได้คงแก่คำสัตย์ ให้วิบัติทำผิดให้คิดเขิน
จะร่ำเรื่องเล่าก็เครื่องจะทำสเทิน ไม่ควรการที่จะเกินการดอก เอย ฯ ๔๘ คำ ฯ
๏ สารศรีนุสรสารา
อัญขยมบรมเชษฐา โอภามหาดิเรกเอกองค์
แจ่มจัดอยู่ในสัตย์สุจริต ดั่งลิขิตสิงหนาทประสาทส่ง
ตั้งพรตอดจิตต์คิดจำนง ดำรงรสทศเที่ยงทางธรรม์
โดยดำริห์ตริตรองตรึงสัตย์ โทมนัสดังไตรรัตนสร้างสรรค์
ปราการทวารเพ็ชรเจ็ดชั้น กางกั้นสรรพสิ้นราคินคาย
สงวนงำแง่เงื่อนบ่เยื้อนแย้ม แนมปนรคนคล้ำคำสลาย
วโรรสพรตเพริศเพราพราย หมายแม้นสุเมรุมั่นตรึงตรง
งามพจน์งามรสรังรัก งามศักดิงามศักดิสูงส่ง
สมพักตรวรลักษณเอกองค์ สมวงศพงศศักดิ์นัครินทร์
ดั่งดวงจินดาวชิราวุธ สูงสุดประเสริฐเฉิดฉิน
จำรูญพูลพ้นราคิน ดั่งทินกรขจรภพจบจักรวาฬ
ซึ่งประสาทโศกสร้อยเสาวนี มาสู้สิ้นอินทรีย์อวสาน
เสาวนาสาราเร่งสำราญ ปานอินทรประสิทธิ์อมฤตฟ้า
น้องทุพลทนทรมานกาย สารสายสุดเสน่ห์ในเลขา
ประทับแทบแนบนิทร์ในอุรา หวนหาอาโภคตรึกตลึง
ชื่นเชยเสบยบานด้วยสารสนอง ถึงหม่นหมองพัวพันขันขึง
รสรักหักหาญรานรึง คนึงพจน์ดั่งรสทิพย์มาโทรมกาย
แต่ลักลอดสอดซ่อนวรลักษณ์ ศักราชประสาทพจน์กำหนดหมาย
ได้จำเริญรสธรรม์บรรยาย มิได้คลายเคลื่อนอรรถวิปัสนา
ทั้งสุคนธ์ปนธูปเทียนสนอง ปลงปองแทบเศียรศิรสา
ใสสุทธพุทธภาคบูชา โถมนาบูชิตนิตย์เนืองนาน
แจ่มจิตต์ในมิตรเมตตาภาพ อิ่มอาบหฤไทยใสสานต์
ดังเชษฐามานั่งแนบมัสการ เสงี่ยมสารระงับดับร้อนรน
ที่สงสารรานราพยาบาท ก็ขาดคิดปลงจิตต์หาเพิ่มผล
ค่อยบำบัดตัดบาปธรรมปน อกุศลรคนคิดค่อยเบาบาง
พระคุณปูนเปรียบเทียบภิยโย ดั่งมโหฆ์มหรณพสะสาง
ถึงปัถพีตรีภพไม่ปูนปาง ชี้ทางช่องชอบระบอบบรรพ์
ยิ่งเพิ่มพูลจำรูญรักรึงสวาท มิอาจที่จะกลั้นกรรแสงศัลย์
แล้วตรึกตราสารทุกข์แต่ปางบรรพ์ ฟั่นฝืนคืนคิดไม่นิทรา
รสรักหนักทรวงดวงเจต เนตรนองไม่คล่องขัดทางอัสสาส์
ถอนใจสอื้นฝืนวิญญา ดั่งภูผามาทับทรวงดวงแด
ถึงช้ำระยำยับสรรพสรรพางค์ ก็ไม่เจ็บเท่าเริศร้างห่างแห
ดั่งดวงเดือนจะเลื่อนลอยแล ตั้งแต่จะคล้อยลับนับวันแรม
โอ้สงสารแสนเทวษด้วยเชษฐา เคยผ่องแผ้วพักตราจะแจ่ม
จะค่นคล้ำรคนปนแปม แกมรายหมายเหมือนเกลื่อนเมฆบัง
อกเอ๋ยมิเคยคล้ำจำหม่นหมอง จะตริตรองตรอมจิตต์คิดความหลัง
เมื่อยามย่ำค่ำเคยเสบยฟัง สอนสั่งประสานเสียงสำเนียงนวล
คิดปางจวนสมัยจำไกลพักตร์ ร้างรักแรมโรยโหยหวน
จำร้างภิรมย์ชื่นชมชวน แถวสวนมาลีมาลาลาน
มาร้างเสาวคนธ์กล้ำกลืนสวาท ชรอยกรรมบำราศโอ้สงสาร
สู้ถวิลสุดสิ้นสิ่งสำราญ พล่านพลุ่งรุ่งรอนซ่อนเด็ดเดียว
จะยลหนขวาหาหนหาย แลยลซ้ายซ้ำเศร้าแสนเปล่าเปลี่ยว
ดั่งอัคนิรุทร์จุดจิตต์เจียว เสียวสวาทไม่ขาดคิดเปนนิจกาล
โอ้แสนสุดเสนหาในครานี้ เวรีมาจำนงจงผลาญ
ดั่งราชหงส์หลงติดบ่วงพราน คนึงนานนึกสมุทร์มุจลินท์
จะเหิรหาวเวหาสผาดผันผยอง พ้นทำนองแน่นนักหนักถวิล
สุดคิดสุดฤทธิ์จะโบยบิน แต่ดิ้นโดยโหยหาธราธาร
ดั่งนุชสุดถวิลกินเทวษ ก็สุดเจตสุดโศกสุดสงสาร
ถึงท่านที่ทนทุกข์ทรมาน ก็ไม่ปานปูนร้อนที่แรมชม
รสรักร้อนนักดังเพลิงสุม ทุกข์ทุ่มทับทรวงแสนสะสม
อุระดั่งจะพุพองกรม อารมณ์ก็ไม่ชื่นปรองปรีดา
ถึงจะสิ้นชีวังสุดสังขาร ได้ส่งสารสนองพจน์เชษฐา
พอได้ยลวิมลพักตรา จะก้มหน้าสู่ช่องจำนองกาล
ก็ไม่รู้ว่าอาวรณ์ร้อนรนถวิล ถึงชีวิตจะสิ้นปริโยสาน
ได้ร่วมเขตยังอาเภทให้บันดาล ทุรัสถานปานเปรียบพนมบัง
จำจนทนกรรมนำสนอง ด้วยทั้งสองได้ประมาทแต่ชาติหลัง
ถึงชีวิตอนิจจีรัง สิ่งใดพลาดพลั้งทั้งเคลือบแคลง
ที่เคืองขัดหทัยได้ร้อนรน ก็กลงำเงื่อนเอื้อนอำแถลง
ต่อแค้นขัดจึงจัดจริงแจง แพร่งพร้องถ้อยสลายหลายครา
จงงดโทษโปรดปลดอดโทษัน พาเหียรและมหันตโทษา
สิโนทกตกตั้งเมตตา อโหสิเวราอย่าราราน
อนุชามาปลงจำนงจิตต์ นบนิ้วชุลิตแล้วธิษฐาน
อารักษ์ศักดิ์สิทธิ์เปนทิพพยาน ในสถานที่สถิตอุทุมพร
เดชะตบะสัตย์ไม่วิบัติเบือน จะเอื้อนคิดจิตต์จงสโมสร
นอกนี้ไม่มีจิตต์คิดอาวรณ์ อนุสรแสนสนิทจิตต์ปลงปอง
แต่เชษฐาจินดาดังดวงเนตร์ จงเจตจงพบสบสมสอง
ภักดีเอาอินทรีย์เข้ารับรอง ป้องกันมั่นขึงตรึงตรง
เอาชีวันตั้งต้านผลาญเผ่าร้าย ก็สลายหล่นลุ่ยแผ้วผุยผง
ราคินยินร้ายไม่รคายคง รงับลงด้วยสัตย์กัตเวที
ผลสัตย์จงเปนปทัฏฐาน ขอบันดาลดลจิตต์วิถี
นอกนุชอย่าให้สุจริตมี ให้ยินดีแต่นุชสุดชีวัง
ขอจงยำคำคิดประสิทธิ์สัตย์ ดั่งเลื่อมเก็จเพ็ชรรัตน์นรังสรรค์
ได้ร่วมสุขร่วมทุกข์ประดุจกัน ร่วมวันร่วมเดือนอย่าเคลื่อนคลาย
จงแผ้วผ่องพ้นกรรมบำราศ ร่วมอาสน์สองสวาทเหมือนมาดหมาย
ร่วมรักสมัคจิตต์อันเดียวดาย ดั่งสายกระแสสินธุ์เนื่องแนวกัน
ความสนิทจิตต์จงปลงสวาท จำบำราศขาดเคียดข้อเดียดฉัน
ให้สมบูรณ์พูลสุขทุกนิรันดร์ จนชีวันเสร็จสิ้นสูญวิญญาณ
แม้นเวียนวัฏปัฏิสนธิ์สถานใด ขอให้ได้ร่วมอาสน์ราชฐาน
จนพบสบสร้อยศาสดาจารย์ พ้นพาลตรีภพพ้นพร้อมกัน
ขอพรพระบวรเชษฐา รังรักมหาโลกาสวรรค์
ช่วยค้ำชูพระคุณคู่ชีวัน ดั่งกันดั่งกำหนดประทศกรม
ขอพระจัตุโลกเลื่อนแหล่งหล้า ช่วยพิทักษ์เชษฐาให้สุขสม
บูรณ์ด้วยช่วยภักดีข้อนิยม จงตั้งนุกรมร่วมพงศ์พันธุ์
ให้เปนที่อาศรัยในนครินทร์ สมถวิลยินดีในสาวสวรรค์
ทั้งเทเวศร์สิงสู่ภูฉัตรชั้น นิรันดรเชิญช่วยพยาบาล
ดลจิตต์ให้สถิตนคเรศ อย่าจงเจตทุเรศออกนอกสถาน
ให้ชื่นชมภิรมย์กลิ่นญาณ เบิกบานอิ่มเอิบมโนใน
จงบำบัดตัดความครั้งฉาวฉ่า เฮฮาครึกครื้นอย่าตื่นใกล้
อนุชาจะม้วยชีวาไป พอสลัดซัดให้เห็นพักตรกัน
อันคิดประดิษฐ์กลอนนุสรสาร ใช่จะก่อการเปรมเกษมสันต์
แต่รำลึกจารึกตรึกจาบัลย์ สรรพพร้อมทุกล้วนที่วัจนา
ฉลองลักษณ์ต่างพักตรมาทูลถวาย ลายรบายจงเจตยังเชษฐา
เขียนพลางพลางนองชลนา คลั่งคลอตาเช็ดสุชลเนืองเนือง
ใช่จะแกล้งแต่งพจน์มารจนา ยกถวิลจินดาให้เสียบเรื่อง
แถลงตามความแค้นขุ่นเคือง อุระเรืองดั่งเพลิงแรงแสงพราย
แม้นนุชพอสุดสิ้นชีวัง ก็ดุจดั่งพักตรที่เคยถวาย
ดั่งทอดจิตต์สถิตแทบแนบกาย ชื่นชมภิรมย์คลายรำพึงเอย ฯ ๙๘ คำ ฯ
๏ ได้ยินเขาระบินระบือข่าว ว่าคราวนี้มีลาภเสนหา
ได้ดวงโกสุมสองสวาทมา แต่นิเวศนฐานาใด
เมื่อแรกทัศนามุ่งมาด คือใครไปพูดพาดเพียรให้
หรือมุลนายคิดยอมพร้อมใจ หากให้หิ้วหาถวายมา
กับบุษบงในวงก์วารีเก่า ข้างไหนจะเพราเพริศประเสริฐกว่า
หรือแต่ละกลคนละอย่างด้วยต่างมา เห็นบุบผชาติกับบุษบาจะเจ่าใจ
หรือปันเวรแต่ที่รจนา หรือสุริยาส่องทั่วหาเว้นไม่
เก่าใหม่รายตัวทั่วไป ข้อนี้ยังมิได้ทัศนา
ไม่ประกอบชอบเชิงทั้งสองฝ่าย ให้จะอายความขึ้งหึงษา
จะสอดใส่เกสรให้ร่วงรา เห็นบุษบาจะบอบบางหมางใจ
เมื่อยามเวลาเสวยเคยเฝ้า จะชิงเข้าตำแหน่งนั่งใกล้
ด้วยสิชอบทำนองคล่องใช้ จะคัดใหม่ให้ห่างระวางชม
ฝ่ายใหม่ครั้นได้อัประมาน จะมีแต่หมอบกรานคลานก้ม
ไหนจะเงยหน้าเรียงขึ้นเคียงคม จะประนมแน่นิ่งอยู่ด้วยดี
ฝ่ายเก่าที่ชอบเชิงกัน จะรำพรรณเพ็ททูลถ้วนถี่
จะสัพยอกหยอกเย้าให้ถึงที จะบุ้ยเบี้ยวปากชี้ให้กันดู
ถึงนางใหม่จะแต่งกระบวรถวาย ก็จะคลายด้วยสทกสเทือนอยู่
เกลือกจะเปนเหมือนสองงามตรู เมื่อพระลอพาสู่ภารา
ก็มิได้นอบน้อมอัญชลี นางลักษณวดีเสนหา
แต่ประเทียบเปรียบปรายกันไปมา ต่อพระลอว่าขานจึงสมานกัน
จะเปนเหมือนสองนางเมื่อแรกมา หรือวันทากันสุขเกษมสันต์
ถ้ารู้รักสมัคสมานกัน นั่นแลสองบุษบันจะรื่นรส
ขอพระผู้แบ่งภาคมา จงปราบบาทบริจาให้ปรากฎ
จะเปนที่สรรเสริญเจริญยศ เชยชดให้กลัดระบัดงาม
ฝ่ายเราผู้เอาอารมณ์ถึง คนึงไม่ประจักษ์จึงซักถาม
จะประสงค์ข้างไหนเปนใจความ ถ้าไม่งามก็เก่าจะขอทาน
ถึงมิประสิทธิประสาทให้ขาดเปลื้อง แต่ตามเรื่องที่วอนว่าขาน
เหมือนหนึ่งพราหมณ์ชีพ่อขอทาน เมื่อมีการสูรย์จันทร์อุปราคา
มาดแม้นมิให้ถ่ายด้วยพัสดุ แต่ที่รุเสียเปลี่ยนก็ไม่ว่า
หาไม่ก็แต่ที่อพลา เหมือนตัวข้าที่ผู้แต่งลักษณ์
แม้นงดโทษจะโปรดประทานให้ จะรับส่วยส่งใบใช้ฝัก
ทั้งตัวจะถวายเปนอาลักษณ์ ด้วยสมัคมุ่งมาดสวาทเอย ฯ ๓๒ คำ ฯ
๏ ถ่ายจิตต์ออกจารึกเจริญสาร
ศรีศุภสุนทรในกลอนการ สมานมิตรมอบมิตรไมตรีมา
โดยดำริห์แรกเรื่องภิรมย์รัก ประจักษ์ถวิลที่พี่จินตนาหา
เจ้าโฉมทิพยเกสรสุมาลา อย่าร้างรักโรยราให้แรมวัน
ขอมอบชีวิตจิตต์กายจนตายจาก ขอฝากขวัญขวัญใจจงรับขวัญ
ขอร่วมร้อนร่วมเย็นเปนนิรันดร์ ร่วมพันธุมิตรร่วมประยูรวงศ์
แต่ทนทุกข์ขุกคิดไม่ขาดสวาท เปนเหลือมาดที่จะมุ่งหมายประสงค์
สุดคิดสุดจิตต์ที่ใจจง หมายไม่คงครองชีพชีวาวาย
เพราะแสนร้อนสุดรนด้วยทนรัก ยิ่งกว่าผลักแผ่นฟ้าสุธาหงาย
วิดสมุทร์ขุดเขาคิรีทลาย ว่ายเมฆไปชลอวิมานอินทร์
ก็ไม่เหมือนพยายามในความรัก นั้นสุดหนักอกโอ้อาวรณ์ถวิล
ดำริห์รักหนักจิตต์เปนอาจิณ ก่นแต่กินเทวษไห้ไม่วายวัน
อย่าเมินมิตรมอบเสน่ห์พี่เทรัก อย่าผละผลักใจสูญสวาทสั้น
สงสารอกเถิดที่โอ้ประมาณครัน แต่จิตต์หวั่นเร่าเร้าก็เหลือกรอม
ตราสวาทมิได้ขาดวันถวิล เพราะไกลกลิ่นไกลกลั้วกลิ่นถนอม
ไกลเนื้อที่จะแนบนวลประนอม ไกลจอมเสน่ห์น่าปราณีชม
ไม่เปนกินเปนนอนแต่ร้อนรัก อกจะหักเสียด้วยทุกข์ระทมถม
เจ็บนักกลัดทรวงแสนระทม ดั่งต้องคมอาวุธในหว่างแด
เชิญสมรช่วยสมานประสานรส เปนโอสถเสนหารักษาแผล
ถึงมิเยื้อนก็แต่พอเอื้อนอาลัยแล มาพอแก้ใจเศร้าที่สุดทน
ขอมโนปรีดีไมตรีจิตต์ กับสุจริตจารึกเรื่องอนุสนธิ์
อย่าเคลือบแคลงแหนงใจว่าใส่กล ในนิพนธ์พื้นจริงผจงวาง
แต่ตั้งใจมาก็จวบเข้าขวบปี จงปราณีเถิดอย่าเมินสเทินหมาง
เหมือนช่วยชีพไว้ให้รอดตลอดปาง อย่าเสียทางรวางรักภัคินี
เจ้าดั่งดวงมณฑาทิพยเทศกาล ควรจะบานแบ่งรับพระสุริยศรี
แม้นเนิ่นนานเกลือกพาลไพรีมี จะราคีขุ่นข้องระคายกาย
หรือคิดขามอยู่ในความอุปวาท ด้วยเกรงชาติเกสรจะหล่นสลาย
ก็ใช่กาลอย่ารำคาญเคืองระคาย จงหมายมาดเถิดที่มุ่งมิตรใจ
แล้วจะหมางว่าพี่หมิ่นประมาทอาจ เพราะสวาทใช่จะลามในความใคร่
ย่อมเกิดกับสำหรับโลกมาแต่ไร สุดวิสัยซึ่งจะห้ามความติเตียน
ถึงดินน้ำลมไฟทิวากร ศศิธรส่องทิศสถิตเสถียร
ก็ไม่พ้นคนตำหนิติเตียน ย่อมมีเสี้ยนหนามเหน็บคือนินทา
ก็เปนวิสัยครหาชล่าลิ้น ถึงไฟดินลมฝนไม่พ้นว่า
ไม่เว้นตัวทั่วกันเปนธรรมดา ย่อมมีมามากแล้วแต่ก่อนกาล
อันมธุรสสุนทรอักษรสวัสดิ์ เปนคำสัตย์จริงใจมาในสาร
มิใช่จะล่อลิ้นแต่งสำนวนพาล แล้วจะรานรอนรักนิราไกล
เหมือนวิทเยศลอบโลมตระโบมสมาน ฤดีดาลแล้วจะหน่ายนั้นหาไม่
ขอเชิญสมานรับสารอย่าถือใจ ตระกูลใช่จรกาจะเสื่อมพงศ์
ตัวเจ้าก็เปนวงศอสัญเพศ เรียมประเวศจากห้องครรไลหงส์
อย่าถือใจเลยใช่น้ำจะต่ำวงศ์ ถึงจะคงยังนิเวศน์สงวนนวล
แม้นลมรานพานผิวจะหมองพักตร์ อย่าราแรมรสรักฤดีหวน
อย่าเนิ่นนักชักช้าให้เรียมครวญ ขอเชิญนวลเสนาะถ้อยสุหร่ายคำ
มาสรงโสรจพี่ด้วยรสวาทีทิพย์ ประจงหยิบมาในกลอนสุนทรขำ
อยาเมินเมียงสมรม้วนคดีอำ ยั่วให้ช้ำเย้าให้พี่ภักดีกรอม
ให้ตรงจริงเหมือนหนึ่งสิ่งสนองนุช อันโกมุทอย่าเจือพาลให้รานหอม
จะเสื่อมกลิ่นรสฟุ้งบำรุงออม วานอย่าน้อมรสรักให้เรรวน
อันสิ่งเกษมขอให้สมสวาทพักตร์ เจริญรักอย่าให้เร้ารานสงวน
แต่คิดค่อนนอนคอยในข่าวนวล หวังประมวลมอบใจมาในมิตร
เมื่อกุศลจะส่งผลให้ประจักษ์ ยังมีเทพารักษ์อันศักดิ์สิทธิ์
รับบวงสรวงว่าจะช่วยให้สมคิด ที่ร้อนจิตต์นั้นค่อยคลายบันเทากรม
จึงตั้งจิตต์แต่งกลอนอักษรสนอง หวังประคองมิให้เคืองระคายขม
ใช่คัดเงาเกลาคำสำนวนคม แสนระทมเหลือทนประทังกาย
หนึ่งอย่าประเจิดแจ้งให้ประจักษ์ ที่ในลักษณ์เล็ดลอดมาถึงสาย
สมรปิดอย่าให้แซ่กระแสระคาย ที่เรียมหมายจงให้สมอารมณ์ปอง
แม้นเมตตาขอให้มีสาราตอบ โดยระบอบอย่าให้เสื่อมนุสรสนอง
จะได้คลายอุราช้ำระกำตรอง ประจงปองอย่าให้ป่วยไมตรีเอย ฯ ๕๖ คำ ฯ
๏ สดับข่าวกล่าวทรงอนงค์สนม
ว่างามจริงยิ่งนางในนิคม ก็นึกชมโฉมน้องต้องติดใจ
หวังสวาทมาดมุ่งบำรุงสงวน ให้รัญจวนหวนคิดพิสมัย
แต่สู้ตรอมออมรักหนักฤทัย ด้วยเกรงภัยเพราะมิควรจะลวนลาม
ครั้นแจ้งเหตุว่าประเวศสถานสถิต ก็ตั้งจิตต์สดับข่าวสืบสาวถาม
ด้วยนึกแหนงจะใคร่แจ้งที่ใจความ ยังรักงามอยู่หรือสิ้นไม่ยินดี
ถ้าสิ่งสำราญการเสน่ห์ไม่รู้ประสงค์ เหมือนหนึ่งองค์บุษบายาหยี
ก็จะเข้าปะตาปาเปนนางชี นี่เห็นทีจะยังคิดจิตต์พะวง
ไม่ทราบฤทัยในอาวรณ์สมรนาฎ จะจงสวาทหวังตระกูลประยูรหงส์
หรือจะเพียงมยุราทิชาพงศ์ หรือจะปลงสวาทถึงชาติกา
จะถามใครก็ไม่แจ้งประจักษ์หู จะนิ่งดูบุพเพพาสนา
ฉวยตัดขาดพลาดลงตรงพาลา เหมือนจินดาดวงสลายเสียดายนวล
ก็ใช่การแต่สงสารจึงช่วยสอน จงผันผ่อนให้เห็นงามนะทรามสงวน
ถึงมิเลิศก็แต่เพียงให้เคียงควร ถนอมนวลอย่าให้หมองข้องคำคน
อย่านึกแหนงแคลงจิตต์คิดสงสัย ที่จริงจังหวังจะให้เปนพักผล
ไม่ตริตรองแล้วก็เห็นเปนเล่ห์กล ความกังวลด้วยว่ารักจึงตักเตือน
นิจจาเอ๋ยเมื่อเคยสุขสำราญรื่น จะสิ้นชื่นหรือจะคืนได้ชื่นเหมือน
เสียดายพักตรผิวผ่องเพียงดวงเดือน เคยแต่เลื่อนลอยฟ้านภาลัย
มาแรมลับพยับเมฆมัวหมอง ไม่คืนส่องโลกแล้วหรือไฉน
จงรักงามเถิดอย่าขามเคืองฤทัย จงตรึกไตรดูให้ควรนวลอนงค์
ขอเชิญน้องพร้องตอบสาราสนอง เจ้าอย่าข้องเคืองคิดเปนพิษสง
ปฤกษากันตามญาติประยูรวงศ์ จงคงครองวังเช่นหลัง เอย ฯ ๒๒ คำ ฯ
๏ อนงค์ในใต้ฟ้าไม่หาเหมือน
ดั่งอับสรสุราฤทธิแกล้งบิดเบือน ผันผยองล่องเลื่อนลงสู่สุธา
จึงทรงลักษณวิลัยประไพพิศ ให้ต้องจิตต์เตือนสวาทดั่งวาสนา
ได้อบรมสมสนิทวนิดา แต่ป่างมาแม่นมั่นสำคัญใจ
จึงไม่วายถวิลถึงคำนึงนาฏ กำสรดสวาทเพียงอกช้ำจะทำไฉน
จะได้ดวงบุษบงที่จงฤทัย อันอยู่ในนทีสีทันดร
แสนลึกเหลือประมาณจะผ่านข้าม ให้ประหวั่นครั่นคร้ามสยดสยอน
แม้นรสสุมาลย์รานขั้วลงสาคร ก็จะช้อนเกสรไปเวียนชม
นี่สุดเอื้อมสุดอดกำสรดโศก หวังวิโยคด้วยอาลัยจะใคร่สม
มิได้วายวันหน่ายนึกนิยม ดั่งศรคมกรมร้อยอุราเรียม
ถึงพิษศรก็บห่อนจะเจ็บเทวษ อันพิษเนตรทราบเนื้อนี้เหลือเสงี่ยม
เหลือดำรงที่จะจงน้ำใจเจียม มิได้เทียมทางสวาทจะขาดใจ
ถึงหย้าหรันวันเห็นระเด่นคู่ จะกล้าสู้เสียชีวิตด้วยพิสมัย
ส่วนพระน้องมิได้ปลงจงฤทัย หย้าหรันได้ดวงสวาทเพราะอาจอง
จะอาจบ้างอย่างระเด่นให้เห็นหาญ แต่เกลือกการจะไม่เสร็จสมประสงค์
ก็สำหรับจะได้อัประมานวงศ์ ถ้าณรงค์เถิดจะรอนให้อ่อนแรง
นี่ยากใจด้วยอยู่ในอาชญาจักร จึงยากรักยากฤทธิทั้งคิดแถลง
ยากสิ้นจนชั้นสารวิถารแสดง ยากจะแจ้งให้เจ้าเยื้อนเสมือนกรอม
หย้าหรันตั้งความเพียงแต่เขียนผ้า พี่เลขาแต่อักษรมาวอนถนอม
พระน้องแค้นด้วยไม่แจ้งเพราะแปลงปลอม ครั้นรู้ว่าเชษฐายอมไมตรีกัน
นี่คงนามอยู่จะขามไม่ควรคิด อย่าเบือนบิดว่าใช่คู่ตุนาหงัน
เหมือนแกล้งชายจะให้วายชีวาวัน ขอเชิญขวัญเนตรน้องตรึกตรองดู
ใช่จะแต่งลิ้นล่อพอหลงใหล พี่มิให้อัประยศอดสู
เจ้างามเสงี่ยมเทียมสุวรรณกำภู จะควรคู่แต่กับแก้วมณีดวง
ทั้งประยูรยศยิ่งทุกสิ่งพร้อม สมเปนจอมอนงค์นางรวางหวง
มิจำไกลก็ไม่ร้างไปห่างทรวง จงหนักหน่วงชั่งฤทัยอย่าใจเบา
หวังปลูกรักไว้เปนรั้วเพราะกลัวร้าย จะกล้ำกรายก็ต้องเกรงเจ้าของเขา
ดั่งพระนุชบุษบาดาหาเนา นางได้เศร้าก็เพราะแสนเสียดายวงศ์
แค้นอิเหนากุเรปันไปหมันหยา ได้จินตหราพิสมัยแล้วใหลหลง
ดาหาเกิดภัยพาลการณรงค์ เพราะชิงองค์บุษบาในธานี
นี่แลนะใจชายนี้หลายจิตต์ ก็ควรคิดแล้วที่กลัวเอาตัวหนี
ด้วยเห็นเช่นเปนอย่างแต่ปางนี้ อันคำพี่ใช่เช่นระเด่นลวง
พี่รักจริงแม้นใครชิงตุนาหงัน จะขอประจัญพันตูจนสู่สรวง
นี่เปนณรงค์ร้อนใจอยู่ในทรวง ยากจะล่วงล้างรักที่หนักแด
แม้นยาหยีเจ้ามีเมตตาบ้าง ช่วยผลาญเสี้ยนอุรพางค์ให้ห่างแห
ด้วยรสวารีรักอย่าชักแช ถ้ารับแน่แล้วจงเงียบไมตรีงำ
จงเห็นจริงเถิดนะน้องจำลองสวาท ลงกระดาษมาด้วยแสนเสน่ห์หนำ
พอให้ทราบสายสมรไว้ก่อนคำ ต่อได้แล้วจึงจะร่ำให้เห็น เอยฯ ๓๘ คำ ฯ

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ