ประกอบด้วยโภชนากระยาหาร |
ทุกถิ่นฐานบริบูรณ์หนักหนา |
อยู่เย็นเปนสุขทุกทิวา |
เช้าค่ำอัตราทั้งราตรี |
ประหนึ่งว่าจะไม่มีค่ำคืน |
รวยรื่นเปนสุขเกษมศรี |
ไม่เห็นเช่นว่าจะเปนถึงเพียงนี้ |
มาเยินยับอัปรีย์ศรีศักดิ์คลาย |
ทั้งถนนหนทางอารามราช |
มาวินาศสิ้นสุดสูญหาย |
สารพัดย่อยยับกลับกลาย |
อันตรายไปจนพื้นปัฐพี |
เมื่อพระกาลจะมาผลาญดังทำนาย |
แสนเสียดายภูมิพื้นกรุงศรี |
บริเวณอื้ออลด้วยชลธี |
ประดุจเกาะอสุรีลงกา |
เปนคันขอบชอบกลถึงเพียงนี้ |
มาเสียสูญไพรีอนาถา |
ผู้ใดใครเห็นจะไม่นำพา |
อยุธยาอาภัพลับไป |
เห็นจะสิ้นอายุพระนคร |
ให้อาวรณ์ผู้รักษาหามีไม่ |
เปนป่าหญ้ารกดังพงไพร |
แต่จะสาบสูญไปทุกทิวา |
คิดมาก็เปนน่าอนิจจัง |
ด้วยกรุงเปนที่ตั้งพระสาสนา |
ทั้งอารามเจดีย์ที่บูชา |
ปฏิมาฉลององค์พระทรงญาณ |
ก็ทลายยับยุ่ยเปนผุยผง |
เหมือนพระองค์เสด็จดับสังขาร |
ยังไม่สิ้นสาสนามาอรธาน |
ทั้งเจดีย์วิหารก็สูญไป |
เสียดายพระนิเวศน์บุรีวัง |
พระที่นั่งทั้งสามงามไสว |
ตั้งเรียบรเบียบชั้นเปนหลั่นไป |
อำไพวิจิตรรจนา |
มุขโถงมุขเด็จมุขกระสัน |
เปนเชิงชั้นลวดลายล้วนเลขา |
เพดานในไว้ดวงดารา |
ผนังฝาดาดแก้วดังวิมาน |
ที่ตั้งบัลลังก์แก้วทุกองค์ |
ทวารลงอัฒจันท์น่าฉาน |
ปราบพื้นรื่นราบดังพระลาน |
มีโรงคชาธารตระการตา |
ทิมดาบคดลดพื้นกำแพงแก้ว |
เปนถ่องแถวยืดยาวกันหนักหนา |
เปนที่แขกเฝ้าเข้าวันทา |
ดั่งเทวานฤมิตประดิษฐไว้ |
สืบทรงวงศ์กษัตริย์มาช้านาน |
แต่บุราณแล้วไม่นับพระองค์ได้ |
พระที่นั่งซึ่งตั้งอยู่ข้างใน |
มีสระชลาไลยชลธี |
ชื่อที่นั่งบรรยงก์รัตนาสน์ |
ที่ประพาสมัจฉาในสระศรี |
ทางเสด็จเสร็จสิ้นสารพันมี |
เปนที่กษัตริย์สืบมา |
ก็สูญสิ้นศรีมลายหายหมด |
จะปรากฎสักสิ่งไม่มีว่า |
อันถนนหนทางมรรคา |
คิดมาก็เสียดายทุกสิ่งอัน |
ร้านเรียบเปนระเบียบด้วยรุกขา |
ขายของนานาทุกสิ่งสรรพ์ |
ทั้งพิธีปีเดือนคืนวัน |
สารพันจะมีอยู่อัตรา |
รดูใดก็ได้เล่นเกษมสุข |
แสนสนุกทั่วเมืองหรรษา |
ตั้งแต่นี้แลหนาอกอา |
อยุธยาจะสาบสูญไป |
จะหาไหนได้เหมือนกรุงแล้ว |
ดังดวงแก้วอันสิ้นแสงใส |
นับวันแต่จะยับนับไป |
ที่ไหนจะคืนคงมา |
ไป่ปรากฎเหตุเสียเหมือนดังนี้ |
มีแต่บรมสุขา |
ครั้งนี้มีแต่พื้นพสุธา |
อนิจจาสังเวชทนาใจ |
ทั้งนี้เปนต้นด้วยผลเหตุ |
จะอาเภทกษัตริย์ผู้เปนใหญ่ |
มิได้พิจารณาข้าไทย |
เคยใช้ก็เลี้ยงด้วยเมตตา |
ไม่รู้รอบประกอบในราชกิจ |
ประพฤติการแต่ที่ผิดด้วยอิจฉา |
สุภาษิตท่านกล่าวเปนราวมา |
จะตั้งแต่งเสนาธิบดี |
ไม่ควรจะให้อัครฐาน |
จะเสียการแผ่นดินกรุงศรี |
เพราะไม่ฟังตำนานโบราณมี |
จึงเสียทีเสียวงศ์กษัตรา |
เสียยศเสียศักดินัคเรศ |
เสียทั้งพระนิเวศน์วงศา |
เสียทั้งตระกูลนานา |
เสียทั้งไพร่ฟ้าประชากร |
สารพัดจะเสียสิ้นสุด |
ทั้งการยุทธก็ไม่เตรียมฝึกสอน |
จึงไม่รู้กู้แก้พระนคร |
เหมือนหนอนเบียนให้ประจำกรรม |
อันจะเปนเสนาบดี |
ควรที่จะพิทักษ์อุปถัมภ์ |
ประกอบการหว่านปรายไว้หลายชั้น |
ป้องกันปัจจาอย่าให้มี |
นี่ทำหาเปนเช่นนั้นไม่ |
เหมือนไพร่ชาติชั่วช้ากระทาสี |
เหตุไภยใกล้กลายร้ายดี |
ไม่มีที่จะรู้สักประการ |
ศึกมาแล้วก็ล่าไปทันที |
มิได้มีเหตุเสียจึงแตกฉาน |
ตีกวาดผู้คนไม่ทนทาน |
เผาบ้านเมืองยับจนกลับไป |
ถึงเพียงนี้ละไม่มีที่จะกริ่งเลย |
ไม่เคยรู้ล่วงลัดจะคิดได้ |
ศึกมาชิงล่าเลิกกลับไป |
มิได้เห็นจะฝืนคืนมา |
จะคิดโบราณอย่างนี้ก็หาไม่ |
ชาติไพร่หลงฟุ้งแต่ยศถา |
ครั้นทัพเขายกกลับมา |
จะองอาจอาสาก็ไม่มี |
แต่เลี้ยวลดปดเจ้าทุกเช้าค่ำ |
จนเมืองคร่ำเปนผุยยับยี่ |
ฉิบหายตายล้มไม่สมประดี |
เมืองยับอัปรีย์จนทุกวัน ฯ |
๏ เหตุเสียกรุงศรีอยุธยา |
เหมือนคำที่ว่าไม่เษกสรรค์ |
ชล่าใจเคยได้แต่ครั้งนั้น |
จึงประชิตติดพันแต่นั้นมา |
แตกยับกลับไปก็หลายหน |
คิดกลจะลวงให้หลงหา |
แต่งคนให้ถือหนังสือมา |
เจรจาความเมืองเปนไมตรี |
ทำไว้แต่พอให้รอรั้ง |
ขยับยกเข้ามาตั้งตนาวศรี |
จะเดิรมั่นกันติดทางตี |
ทำนองทีจะคิดให้ชิดไว้ |
เห็นจะผ่อนโยธาอาหาร |
มันคิดการมิให้ใครสงไสย |
จะนิ่งอยู่ดูเบาเอาใจ |
เห็นเหตุไภยจะเกิดการมา |
จะเร่งรัดตัดคิดมันเสียก่อน |
บั่นรอนอย่าให้ทันแน่นหนา |
จำจะคิดให้ผิดแต่ก่อนมา |
เปนทัพหน้านาวายกไป |
ตามทางทเลไปสงขลา |
จะขุดพสุธาเปนคลองใหญ่ |
ให้เรือรบออกประจบเอาเมืองไทร |
ปากใต้ฝ่ายทเลให้พร้อมกัน |
จึงจะยกไปตีเอามฤท |
จะปิดปากน้ำเสียให้มั่น |
ทัพเรือมันจะพลอยเข้าช่วยกัน |
จะตีบั่นเกยทัพให้ยับไป |
รบไหนจะให้ยับลงที่นั่น |
แต่กึ่งวันไม่ให้ทนทานได้ |
จะทำการครั้งนี้ให้มีไชย |
จะไว้เกียรติให้สืบทั้งแผ่นดิน |
มันทำเมืองเราก่อนเท่าใด |
จะทดแทนมันให้หมดสิ้น |
มันจิตต์อหังการ์ทามิฬ |
จะล้างให้สุดสิ้นอย่าสงกา |
การเสร็จสำเร็จลงเมื่อใด |
ซึ่งคิดไว้ขอให้สมปราถนา |
แม้นมิได้ก็ไม่กลับคืนมา |
จะเห็นเมืองพม่าในครั้งนี้ |
เกรงกริ่งอยู่แต่ข้างทัพบก |
จะไม่ยกหักได้ให้ถึงที่ |
เกลือกมันกั้นตัดทางตี |
จะตัดที่เสบียงอาหารไว้ |
ไม่สมคเนให้เรรวน |
ทำป่วนไม่หักเอามันได้ |
เท่านี้ดอกที่วิตกใจ |
จะทำให้เสียการเหมือนทวาย |
เมื่อชนะแล้วกลับแพ้ให้แชไป |
จึงเสียไชยเสียเชิงไม่สมหมาย |
พากันหนีแต่ไม่มีอันตราย |
ถ้าเสียหายอย่างอื่นไม่เปนไร |
อันกรุงรัตนอังวะครั้งนี้ฤๅ |
จักพ้นเนื้อมืออย่าสงไสย |
พม่าจะมาเปนข้าไทย |
จะได้ใช้สร้างกรุงอยุธยา |
แมสมดังจิตต์ไม่ผิดหมาย |
จะเสี่ยงทายตามบุพเพวาสนา |
จะได้ชูกู้ยกนัครา |
สมดังปราถนาทุกสิ่งอัน |
ถ้าเสร็จการอังวะลงตราบใด |
จะพาใจเปนสุขเกษมสันต์ |
อ้ายชาติพม่ามันอาธรรม์ |
เที่ยวล้างขอบขันฑ์ทุกภารา |
แต่ก่อนก็มิให้มีความสุข |
รบรุกฆ่าฟันเสียหนักหนา |
แต่บ้านร้างเมืองเซทั้งวัดวา |
ยับเยินเปนป่าทุกตำบล |
มันไม่คิดบาปกรรมอ้ายลำบาก |
แต่พลัดพรากจากกันทุกแห่งหน |
มันเหล่าอาสัตย์ทรชน |
ครั้งนี้จะป่นเปนธุลี |
เพราะเหตุบาปกรรมมาซ้ำเติม |
จะพูลเพิ่มให้รยำยับยี่ |
ด้วยทำนายว่าไว้แต่ก่อนมี |
เหมือนครั้งมอญไปตีเอานัครา |
คือหงส์มาหลงกินน้ำหนอง |
เหตุต้องเมืองมอญหงสา |
ตัวนายอองไจยคือพรานป่า |
คิดฆ่าหงส์ตายจึงได้ดี |
คือพม่ามาตีเอามอญได้ |
ก็สมในทำนายเปนถ้วนถี่ |
ยังแต่พยัคฆ์เรืองฤทธี |
จะกินพรานที่ยิงหงส์ตาย |
บัดนี้ก็ถึงแก่กำหนด |
จะปรากฎโดยเหตุเปนกฎหมาย |
ทัพเราเข้าต้องคำทำนาย |
คือเสือร้ายอันแรงฤทธา |
จะไปกินพรานป่าที่ฆ่าหงส์ |
ให้ปลดปลงม้วยชีพสังขาร์ |
แล้วมีคำทำนายบุราณมา |
ว่าพม่าจะสิ้นซึ่งรูปกาย |
ถ้าผู้ใดใครเห็นให้เขียนไว้ |
จึงจะได้ประจักษ์สืบสาย |
เหตุเปนเห็นต้องเหมือนคำทาย |
อังวะจะฉิบหายในครั้งนี้ |
ถ้าพร้อมใจพร้อมจิตต์ช่วยคิดการ |
จะสำราญทั่วโลกเกษมศรี |
นี่จนใจสิ่งไรก็ไม่มี |
เห็นทีจะตะพายไปตามจน |
จะไปได้ฤๅมิได้ยังไม่รู้ |
จะเสือกสู้ไปตามขัดสน |
ถ้าสุดคิดผิดหมายที่ผ่อนปรน |
ก็จะบลบวงสรวงแก่เทวา |
เดชะเทเวศร์ช่วยอวยไชย |
ที่คิดไว้ขอให้สมปราถนา |
ตั้งแต่สวรรค์ชั้นกามา |
ตลอดจนมหาอัครพรหม |
ขอจงมาช่วยอวยพรไชย |
ที่มาดไว้ให้ได้ดังประสงค์ |
จงดลใจไทยกรุงให้นิยม |
ช่วยรดมกันให้สิ้นศึกเอย ฯ |