ฉันท์เยาวพจน์

๏ เดือนแปดสิบเอ็ดขึ้น พฤหัส บดี
ปีวอกฉศกชัด เช่นใช้
จุลศักราชรัช พันเศษ สองนา
กับสี่สิบหกได้ แต่งสร้อยสืบสอน ฯ
๏ โคลงคาบกาพย์เกี่ยวเกี้ยว ประกับกัน
อีกจะกล่าวเป็นฉันท์ สืบไว้
เดิมพระพิษณุกรรม์ กล่าวสั่ง สอนนา
ทารกยกยักใช้ ชอบเต้นตามคะนอง ฯ
๏ โมรานามะแสร้ง เสกสรร
รวมประดิษฐ์คำขัน สืบไว้
นานจะเสื่อมสูนย์พรรค์ พวกเด็ก ลืมแฮ
ทารกจะกลับไผล้ พลิกเหล้นอย่างตรุณ ฯ
ร่าย บัดนี้จะกลับกล่าว โดยเรื่องราวทารก
มายอยกเปนกลอน อ้างอมรนำเหตุ
พอสังเกตเลาความ แต่งไปตามเด็กร้อง
ในทำนองสมมุติ คำกล่อมบุตรทุกถ้อย
รวมกว่าร้อยบทลำ เวสสุกรรมสั่งไว้
เด็กจำได้ดังนี้ ร้องกันมีมานาน
แต่โบราณบรม มาผะสมต่อตั้ง
เปนแต่หวังสืบผู้ แต่พอรู้เลาความ
อ้างยืมนามเทวา เติมมุสาเข้าแทรก
แถมเท็จแบกใส่บ่า ปดอยู่หน้าอยู่หลัง
พอประทังประทัต ตั้งบัญญัติตามชอบ
มาประกอบแกมกัน บำรุงขันทางคด
บมิปดไป่งาม ฟังอย่าตามเชื่อเล่ห์
คำเกเรโกโร ใช่ธรรมโมธรรมะ
ใช่คำพระคัมภีร์ ใช่บาลีบาลิง
ใช่คำจริงควรจด ล้วนคำปดแกมโกง
พอชักโยงใจเย็น ขออย่าเปนโทษา
ข้าขมาทั้งมวล หมดขะบวนเท่านี้
โดยฉะบับบอกจี้ จิ่งโจ้โจนหนี แลนา ฯ
๑๖ สรรพวัจนทารกา ปะทะปัฐะมา
นามะจิงโจ้ราชี  
๏ ประชุมประกอบวาที เป็นกลคุลี
คือฉันท์กาพย์กลอนปน  
๏ โบราณทารกยกขน กำลังทำวล
สนุกนิ์ระดมชุมนุม ฯ  
๑๔ ปางอินทรเทพยสถิตย์ ดุสิตมิ่งพิมานสวรรค์
เคยอาศนทิพยบคัน ก็ระคายธุลีเคือง
๏ จึงจักษุส่องอุปติเหตุ ก็ประจักษ์ประชาเมือง
ฝูงชนประกอบพจนเนือง ปะหระถ้อยบถูกทาง
๏ เล่นโขนกะโจนประดุจลิง ก็สนุกนิไปพลาง
ร้องลำบมีเสนาะระคาง คติเพลงบกินกัน
๏ ทารกจะเล่นก็สัปดน บมิกลจะกล่าวขัน
ลำเล่นบเป็นบวรธรรม์ ดำริแล้วก็ตรัสหา
๏ สั่งเทวท้าวพิษณุกรรม์ ประสิทธิพรประสาทมา
ท่านจงจรัสนฤมิตกา กคคล้ายชราชน
๏ สงเคราะห์มนุษย์บุรุษโล กยเหล่าตรุณสกล
สอนให้ประดิษฐ์พจนชน เสนาะชอบประกอบเพลง
๏ สั่งเสร็จเสด็จทิพพิมาน ทวารหับผธมเขลง
กับองค์มเหสิวรเพ็ง ศิริพักตรพึงชม
๏ บัดนั้นพระพิษณุกรรมสดับ ก็ประนตประนมคม
สำแดงระเห็ดประดุจลม ก็ตระบัดไผทดล
๏ สู่ร่มพระไทรรุขประเทศ พนแนวนิคมชน
ร่ายเวทประสิทธิวรมนต์ นฤมิตสกลธกลาย
๏ เป็นคนชราพิรุธร่าง กรกุมคทาผาย
เห็นเด็กมะเลี้ยงนิกรควาย ปะหระเล่นสนุกนิโลน
๏ จึ่งกล่าวภิปรายพจนถาม นินะเจ้าจะออกโขน
ฤๅชอบคะนองดุจทะโมน ก็จะช่วยประดิษฐ์เพลง
๏ มาลุงจะเล่นอุตริร้อง ก็สนุกนิครืนเครง
ทำนองเสนาะก็อลเวง ผิจะเต้นจะร้องรำ
๏ กูเคยคะนองขณะตรุณ และประดิษฐ์ประดับลำ
เพลงใดจะเล่นตะละระบำ ก็เสนาะสนุกนิดี ฯ
๒๘ บัดนั้นฝูงเด็ก  
ใหญ่น้อยจ้อยเล็ก ฟังเฒ่าพาที
ต่างวิ่งชิงแย่ง แข่งขันจรลี
คุณตามานี่ ข้าเล่นด้วยคน
๏ จะเล่นเปนไฉน  
จงช่วยสอนให้ ข้าก่อนตามกล
ยัดเยียดเบียดมา ลุงตาปู่ป่น
ชุลมุนวุ่นวน ล้อมรอบชอบใจ
๏ ฝ่ายท่านครูเฒ่า  
เห็นเด็กรุกเร้า รายเรียงเคียงไสว
เด็กเอ๋ยจงจำ ถ้อยคำกูไป
หลายอย่างทางไข ทำนองคล้องกัน
๏ มีทั้งเต้นรำ  
ไล่หาถ้าทำ ต่างต่างทางขัน
ร้องเร่เห่กล่อม นั่งล้อมเจรจัน
เพลงขับรับพัน หลายลำทำนอง
๏ ครูเฒ่าจึงสอน  
เด็กเล็กสลอน เล่นตามลำพอง
ที่มันชอบโลน โลดโผนตามคลอง
ช่วงไชยไล่จ้อง จับคว้าหากัน
๏ บ้างเข้าแม่สี  
เล่นชุ่มมรตี จ้ำจี้คำขัน
บ้างร้องจิงโจ้ เล่นโล้หลายพรรณ
กล่อมขับรับพลัน หลายรอบชอบที
๏ ต่างทำจำได้  
พร้อมพรักรักใคร่ เล่นสนุกคลุกคลี
ท่านครูผู้เฒ่า บอกเล่าตามมี
จบสิ้นยินดี ตามคำอำมรินทร์
๏ จึ่งว่าเด็กเอ๋ย  
เองอย่าลืมเลย สืบไว้ใจถวิล
สอนต่อกันไป จำใจอาจิณ
จำนงจงยิน เยี่ยงอย่างทางซน
๏ สำหรับทารก  
ผู้ใหญ่ไม่ยก ชูเชิดเกิดผล
ใช่เป็นประโยชน์ ใช่โทษจักปน
เล่นเปนกังวล แก้รำคาญใจ
๏ พระพิษณุกรรม์  
สอนเด็กทุกพรรค์ ทุกสิ่งคำไข
สืบข้อต่อกัน ทุกวันนี้ไป
ถ้าใครสงสัย ไปถามท่านดู
๏ ท่านสอนเด็กแล้ว  
ยูรยาตรคลาดแคล้ว เหาะไปสิงสู่
พิมานไกรลาส ปราสาทเฟื่องฟู
เดิมท่านเปนครู เท็จจริงชั่งเอย ๚
๒๕ ยอกรประนตน้อม สิรกราบสุเบ็ญจางค์
คุณทั่วทั้งโลกยมาวาง บนศิโรตรคือบัวรอง
๏ ข้าขอระเบียบพจน์ วรสุนทราสนอง
โดยเรื่องโบราณตรุณปอง เป็นกาพย์ฉันทบรรจง
๏ หวังสืบประยูรบุตร ปฏิบัติจะประสงค์
นานาเอนกนรจำนง จำแนกแยกระดับเพลง
๏ สำหรับตรุณเยาว์ จะประพฤติบรรเลง
สนานสนุกนิอลเวง วิเวกสัปดนซน ๚

๑. บทร้องจิงโจ้

๏ จิงโจ้เอย มาโย้สำเภา หมาไล่เห่า จิงโจ้ตกน้ำ หมาไล่ซ้ำ จิงโจ้ดำหนี ได้กล้วยสองหวี ทำขวัญจิงโจ้ โห่ฮิ้ว ๚

เรี่องจิงโจ้

๓๕ สรวมชีพขอถวาย บังคมคำขยาย จิงโจ้เอ๋ยวิกล รูปพรรณขบขัน ฤๅว่ามันมีขน ไฉนจึ่งสัปดน ลงไปโย้สำเภา

๏ สุนัขน้ำอยู่ไหน เห็นสำเภาโย้ไป ตามไล่ตะโกนเห่า จิงโจ้ตกตะลึง โจนผึงตกสำเภา สุนัขไล่ซํ้าเจ้า ดำหนีระรี่ไป

๏ ไฉนในชลธี ได้กล้วยอีกสองหวี น่าที่จะสงสัย ผู้ใดจะช่วยมัน ทำขวัญเปนไฉน จิงโจ้ก็พูดได้ มันจึงโห่ฮิ้ว เอย ๚

๒. บทร้องโพนเพน

๏ โพนเพนเอย กระเดนสายนาค น้ำท่วมฟาก กระจายดอกพริก อีแม่ระริก อีแม่ระรวย ไปตัดตองกล้วย มารองบายศรี รัสมีตีฆ้องหน้าวง อ้ายคงเป่าปี่ กระดี่ชะมด อ้ายคดตีแฉ่ง ค้างคาวปากแหว่ง อุ้มลูกมาดู สะดุดขี้หมู สะดุดขี้หมา หกล้มปากแตก สะดุดหญ้าแพรก แตกเสียทำเนา พี่เพรานกกระจอก ผักบุ้งหญ้างอก ทองหลางใบมน ชนก้นยายมอญ ปิดประตูใส่กลอน นอนเสียกลางวัน ไก่ขันเอ๊กเอ๊ก ๚

เรื่องโพนเพน

๒๘ กาลนั้นโพนเพน  
หลักร้างโอนเอน กระเด็นชลธี
ลอยตามสายนาค ไม่อยากใยดี
ตามบุญเวรี นาคาพาไป
๏ ครั้นน้ำท่วมฟาก  
พริกออกดอกมาก กระจายไสว
อีแม่ระริก เห็นพริกดีใจ
กู่เกลี้ยงเสียงใส ร้องเรียกแม่ระรวย
๏ เราจักทำขวัญ  
เจ้าจงช่วยกัน ไปตัดตองกล้วย
มารองบายศรี รัสมีพุ่งพวย
มโหรีมีด้วย ตีฆ้องหน้าวง
๏ พิณพาทย์วงไหน  
ฆ้องกลองคือใคร เว้นไว้อ้ายคง
ให้มันเป่าปี่ ฟังดีเสียงหลง
แหบหวลชวนส่ง นิ้วกระดี่จี้ไช
๏ ชะมดกระแจะ  
จวงจันทน์เจิมแยะ ฤกษ์ดีก่อนไถง
ประโคมพิณพาทย์ ยังขาดตัวใคร
อ้ายคดอยู่ไหน ตีแฉ่งแผ่งดี
๏ ค้างคาวปากแหว่ง  
อุ้มบุตรร่องแร่ง มาดูมโหรี
มรรคาชำรุด สะดุดป่นปี้
หมูหมามาขี้ ล้มปากแตกแตน
๏ หนทางสกปรก  
เดินบุกเข้ารก ลำบากยากแสน
สะดุดหญ้าแพรก แตกทำเนาแคลน
พบพี่เพราแหงน นกกระจอกออกอึง
๏ ชายฝั่งทางซอก  
ผักบุ้งพุ่งงอก รกเรี้ยวเที่ยวถึง
ทองหลางใบมน ชนก้นยายกึง
ยายมอญร้องอึง ชนก้นกูวา
๏ แกหนีเข้านอน  
ปิดประตูใส่กลอน นอนกลางวันหวา
ยามเที่ยงไก่ขัน อัศจรรย์นักหนา
ไก่แจ้ขันจ้า เอกอีเอ๊กเอ๊ก เอย ๚

๓. บทร้องเสือข้ามฟาก

๏ เสือข้ามฟาก กินหมากกินพลู เสือปักกะตู กินพลูใบเหลือง ๚

เรื่องเสือข้ามฟาก

๓๕ ครานั้นเสือเฒ่า โดดน้ำตามเขา ละล้าละลังลอยไป ว่ายน้ำข้ามฟาก ก็ลุตลิ่งทันใด หิวหอบบอบใจ จะจับจิงโจ้ก็โจนหาย

๏ เที่ยวเดินซ่องแซ่ง หิวหอบท้องแห้ง ซระทรุดซระเซทรงกาย อดเหนียวเปรี้ยวปาก ประดุจเจียรจวนตาย หมากพลูเคี้ยวคาย ถึงปักกะตูก็แลมอง

๏ ตั้งตาชำเลือง พบพลูใบเหลือง จะกละจะกลามกินลอง เสือหิวบัดสี บคิดแก่กายลำพอง พบภักษ์พอครอง ก็ครางระแรกกระหึมครึม เอย ๚

๔. บทร้องขะโมยปล้นพระฤๅษี

๏ เมื่อโน้น ขะโมยเข้าปล้นพระฤๅษี สมบัติสิ่งใดก็ไม่มี ฉวยได้ฝาละมีก็เหาะไป ๚

เรื่องขะโมยปล้นพระฤๅษี

๑๖ เมื่อโน้นยังมีฤๅษี อยู่ยังกุฎี
ก็เชี่ยวในเชิงชีฌาน  
๏ มัวนั่งหลับตาเล็งญาณ พวกโจรใจหาญ
ก็โห่เข้าล้อมพร้อมกัน  
๏ มันหวังว่าดีมีครัน รู้เวทเทศธรรม์
คงรวยสมบัติเงินทอง  
๏ องค์เดียวเปลี่ยวดีควรปอง พวกเราทั้งผอง
เข้าปล้นขรัวตาอาจารย์  
๏ พร้อมใจเข้าตรงจงผลาญ ตรูกันฟันบาน
ประตูก็พังดังโครม  
๏ ขรัวตาตกใจไล่โถม จงฟังทีโยม
นี่โทษอะไรไม่มี  
๏ พวกโจรร้องว่าอย่าหนี ทำผิดกิจชี
โทษถึงปราชิกลึก  
๏ สีกาเข้าห้องต้องสึก โจทก์หาว่าดึก
ก็ปล้ำก็ปลุกคลุกคลี  
๏ เงินทองมีฤๅฤๅษี มาให้โดยดี
พอถ่ายที่โทษถึงตน  
๏ ขรัวตาบอกว่ากูจน ปาเพ็ญมรรคผล
ไม่มีสมบัติขัดจริง  
๏ นี่ใครโจทนาว่าอิง ปล้ำหาพาหญิง
ก็ยังไม่เคยเชยชวน  
๏ พวกโจรโกรธฉุนหุนหวน แกอย่าสำนวน
เอาไฟเข้าลนก้นถาม  
๏ ดาบศโดดดิ้นโครมคราม โจรไพรไล่จาม
ก็ผลุดเข้าครัวตีโบย  
๏ ฉวยได้ฝาละมีดีโหวย เหาะรี่หนีขะโมย
ก็เชิดก็ชูดู เอย ๚  

๕. บทร้องจักกะจี้จักกะเจ่า

๏ จักกะจี้จักกะเจ่า หญ้างอกบนเขา จักกะเจ่าขึ้นไข่ สองมือเข้ารีด จักกะจีดขี้ไหล ๚

เรื่องจักกะจี้จักกะเจ่า

๑๑ บัดนี้มุนีนารถ จรจากกุฎีไป
เหาะหนีขะโมยไพร ก็ลุเขาพนมวัน
๏ หยุดยอดคีรินทร ที่ชะงุ้มชะเง้อหัน
หินหักกะพักปัน จักกะจี้กระโจนไป
๏ เห็นหญ้าชะงุ้มเขา จักกะเจ่าจะขึ้นไข่
ฤๅษีก็ดีใจ กรกุมตระกองฉวย
๏ มุนีสนุกนัก บมิคิดจะเขินขวย
โดดตุบตะครุบพวย ดุจพานะรินทร์รำ
๏ สองกรตระกองรีด จักกะจีดก็ถึงกรรม
ไข่ไหลกระเด็นดำ ตระหลบฟุ้งกระจายเหม็น
๏ ดาบศก็อาบัติ ระเห็ดวัดตะวันเย็น
โจรไพรบได้เห็น ก็เจริญสมาธิฌาน ๚

๖. บทร้องเจ้าการะเกต

๏ เจ้าการะเกตเอย ขี่ม้าเทศว่าจะไปท้ายวัง ชักกฤชออกแกว่ง ว่าจะแทงฝรั่ง เมียห้ามไม่ฟัง เจ้าการะเกต เอย ๚

เรื่องเจ้าการะเกต

๑๘ โอระว่าเจ้าการะเกตเอย ชวนเมียไปชมเชย
ที่ท้ายตลาดหลังวัง  
๏ ขับขี่มโนมัยใจหวัง พอพบพวกฝรั่ง
ซระเซซระซุนเมาซาน  
๏ อาจขวางทางม้าด้วยโวหาร ทำทีขยับพาล
วิวาทเข้ากั้นกีดกวน  
๏ การะเกตโกรธวุ่นหุนหวน ชักกฤชประชิตชวน
จะแทงฝรั่งรำเพลง  
๏ เมียวิ่งเข้าชิงกฤชคิดเกรง อึกกะทึกครึกเครง
เมียขอสักครั้งฟังคำ  
๏ การะเกตเงื้อกฤชแทงถลำ พลัดตกหกขะมำ
ฝรั่งก็ลี้หนีไป  
๏ ไม่เชื่อเมียห้ามเปนไฉน เมื่อยขัดถนัดใจ
ก็พาเมียกลับมา เอย ๚  

๗. บทร้องช้างงาลัด

ผัดพ่อผัด ช้างงาลัด แทงคนไม่เข้า

ไล่ให้ทัน ให้มันสองหัว ให้ผัวสองคน

ผัดเจ้าล่อ เข้าเหนียวสองห่อ ไม่พอกันกิน

ช้าง ๆ ตัดเต่าร้าง ช้างกินใบไผ่ วัวกินหญ้า ม้ากินสลัดได เจ้าสังข์ศิลปไชย ทาขมิ้นเหลืองอ่อน บู้หรี่บ้าหรั่น นางจันตะละแมะ นางสั้นหน้าแกะ โจ๊ะจ๊ะโจ๋งถิ่ง ฯ

รวม ๔ บท

เรื่องช้างงาลัด

๒๘ ครานั้นเจ้าพลาย  
สารซับมันพราย วิ่งคว้างวางมา
ตัวแก่นงาเกก ร้ายกาจเก่งก๋า
ฝูงเด็กเฮฮา ล่อล้อพัลวัน
๏ ร้องผัดพ่อผัด  
พลายเฒ่างาลัด งุ่มง่ามงกงัน
แทงคนไม่เข้า ไล่เราให้ทัน
แถมให้เผือกมัน อีกผัวสองคน
๏ ข้าผัดเจ้าล่อ  
เข้าเหนียวสองห่อ มันไม่เป็นผล
ไม่พอกันกิน มากมายหลายตน
เล่นสนุกนิซุกซน พ่อพลายไล่แทง
๏ เลี้ยวไล่ไปมา  
ท้องแห้งหิวหญ้า เข้าดงแอบแฝง
คนตัดเต่าร้าง แบกมาเต็มแรง
พบพลายยืนแข็ง เคี้ยวใบไผ่กิน
๏ เหลียวดูข้างขวา  
เห็นวัวกินหญ้า ทำทีผันผิน
กลับหลังมาเล่า พบม้าใจทมิฬ
เห็นมันเคี้ยวกิน สลัดไดในดง
๏ เจ้าสังข์ศิลป์ไชย  
รูปโฉมประไพ ผิวเนื้อนวลหงส์
ทาขมิ้นเหลืองอ่อน ตกแต่งแปลงองค์
เดินตัดลัดพง หนีพลายกรายมา
๏ เห็นห้างวางพรรณ  
บู้หรีบ้าหรั่น สิ่งของนานา
สาวน้อยนั่งขาย ชายเนตรส่องหา
นางหนึ่งโสภา นั่งเรียงเคียงกัน
๏ นางจันตะละแมะ  
นางสั้นหน้าแกะ รูปงามนามขัน
เจ้าสังข์ชอบใจ รักใคร่ผูกพัน
จึ่งร้องเพลงพลัน ถิ่งโจ๋งจ๊ะเอย ๚

๘. บทร้องใครตดก้นเน่าก้นหนอน

ใครตด ก้นเน่าก้นหนอน พระอินทร์ถือศร ขี่ม้าไล่ฟัน ดวงจันทร์ลั่นป้อ ยอเปี้ยวเลี้ยวปั๋งยั้งปู๊ด ฯ

มดตะนอย ต่อยใบพลู ถ้าใครแลดู คนนั้นขี้ตด ฯ

มดตะนอย ต่อยก้นขัน ถ้าใครยิงฟัน คนนั้นขี้ตด ฯ

รวม ๓ บท

เรื่องใครตดก้นเน่าก้นหนอน

๑๖ พระพายชายฉินกลิ่นฉิว สบนาสิกปลิว
ฤๅใครขยายวาโย  
๏ เราจักจับยามมระโค ธาตุร้ายพุงโร
ด้วยโรคอุบัติเบียดเบียน  
๏ เด็กนั่งเป็นวงกงเกวียน นับนิ้ววงเวียน
เพื่อตกทิศราหูจร  
๏ ใครขยายก้นเน่าก้นหนอน พระอินทร์ถือศร
ขี่ม้าไล่ฟันดวงเดือน  
๏ ลั่นป้อยอเปี้ยวเลี้ยวเชือน ต่อปั๋งยั้งเบือน
ก็ปูดลงตนตัวเอ็ง  
๏ บ๊ะเราดอกหรือโดนเผง นับยามผิดเพลง
จะขอผะเดียงเลี้ยงดู  
๏ ว่ามดตะนอยต่อยใบพลู ถ้าใครแลดู
ผู้นั้นอย่าเถียงเที่ยงธรรม์  
๏ กับมดตะนอยต่อยก้นขัน แม้ใครยิงฟัน
คนนั้นก็แท้แน่ เอย ๚  

๙. บทร้องนางแมวขอฝน

นางแมวเอย ท่านให้ขอฝน ขอน้ำมนต์ รดหัวนางแมวบ้าง ขอเบี้ยค่าจ้าง หามนางแมวมา ให้ถูกทั้งข้าว อย่าให้ข้าวตายฝอย ข้าวเกวียนละสองร้อย อ้อยลำละยี่สิบ ไปซื้อหมากดิบ ถึงเมืองไชโย ลูกสาวโต ๆ เร่งให้มีลูก ข้าวก็ให้ถูก ลูกไม้อย่าให้แพง ทำตาแดง ๆ ร่อนรับร่อนเร่ ฝนก็เทลงมา ๆ ๚

เทวะดาวลาหก ฝนฟ้าไม่ตก อกลูกจะแตกคราก ผลกรรมลำบาก ลูกนี้ก็ไม่ว่า ขนข้าวในนา ขนปลาในน้ำ ข้าวโภชน์ข้าวฟ่าง ผลไม้นานา ขอเชิญแมวมา ว่าจะให้ขอฝน ขอน้ำมนต์ รดหัวแมวบ้าง ขอเบี้ยค่าจ้าง หามนางแมวมา ให้ถูกทั้งข้าว อย่าให้ข้าวตายฝอย ข้าวเกวียนละสองร้อย อ้อยลำละยี่สิบ ไปซื้อหมากดิบ ถึงเมืองไชยโย ลูกสาวโต ๆ เร่งให้มีลูก ข้าวก็ให้ถูก ลูกไม้อย่าให้แพง ทำตาแดง ๆ ร่อนรับร่อนเร่ ฝนก็เทลงมา ๚

ปั้นเมฆเสียก่อน มีละครสามวัน หัวล้นชนกัน ฝนก็ลั่นลงมา ๆ แมวหางขอด ตลอดหางยาว สี่เท้าดำแดง แมวกินปลาย่าง แมวกินปลาแห้ง ฝนตกหน้าแล้ง อยู่ที่ต้นสะเดา เย็นทั้งรากข้าว ปลาหลดปลาไหล ปลากะทิงวิ่งไล่ อยู่ที่ในท้องนา นางเมขลาเอ๊ย มาจากเมืองบน ท่านให้ขอฝน ฝนก็เทลงมา ๆ ๚

ฝนตกแดดออก นกกระจอกเข้ารัง แม่หม้ายใส่เสื้อ ถ่อเรือไปดูหนัง ๚

รวม ๔ บท

เรื่องนางแมวขอฝน

๓๕ ฝนฟ้าเจ้าข้าเอ๋ย ก่อนไฉนบเคย มาเลิกแล้งเลยหาย เดือนแปดเปนวสันต์ เคยพิรุณโปรยปราย เมฆตั้งกลับกระจาย จึงจะขอนางแมว

๏ จับเจ้าใส่กรงหาม ขะบวนแห่แลหลาม นางวิฬาร์ว่าแปว ดุจรู้ภาษา ทำแต่ตาแบ้งแบว ไม่ดิ้นกระโดดแหยว เด็กก็ร้องขอพร

๏ ข้าจะขอฟ้าฝน อีกจะขอน้ำมนต์ รดศีร์ษะเปียกปอน ปีนี้ข้าวจะถูก ผลไม้ก็ถาวร วิฬาร์เอยขอพร จงสฤษดิ์สมบูรณ์

๏ บันดาลลมตลบเมฆ หมอกพยับอติเรก ก็บดบังแสงสูรย์ นางวิฬาร์ตาแดง พระพิรุณเพิ่มพูล วายุพัดมามูล ฝนก็เทลงมา

๏ เทวดาวลาหก ฝนฟ้าก็บตก อกลูกจะแตกหวา ผลกรรมลำบาก บุตรก็บนินทา ขนข้าวที่ในนา ขนปลาที่ในชล

๏ ข้าวโภชน์แลข้าวฟ่าง ผลไม้ต่าง ฯ ขอเชิญวิฬาร์ดล บันดาลพระพิรุณ ว่าจะให้ขอฝน อีกจะขอน้ำมนต์ รดศีร์ษะนางวิฬาร์

๏ จะขออัฐค่าจ้าง หามนางวิฬาร์พลาง ให้ถูกทั้งข้าวปลา อย่าให้ข้าวตายฝอย เกวียนละไพราคา อ้อยอีกลำหนึ่งหนา สองเก๊ก็พอกิน

๏ ซื้อหมากดิบไชโย ลูกสาวใครโต จงจิตต์คิดถวิล เร่งให้มีบุตรเสีย ข้าวให้ถูกอาจิณ ผลไม้อย่าสิ้น บมิแพงทุกพรรณ

๏ ฝ่ายว่านางวิฬาร์ เจ้าก็นั่งกลอกตา แดง ๆ แสงฉัน ทำร่อนรับร่อนเร่ ฝนก็เทลงพลัน น้ำก็ท่วมไหลหลั่น ลบตลิ่งนาดำ ๚

๑๑ บทหนึ่งก็ร้องต่อ ที่จะขอพรุณพรำ
ปั้นเมฆเสียก่อนทำ มีละครอีกสามวัน
๏ บางรับขยับท่า ว่าหัวล้นจะชนกัน
ฟ้าร้องคะนองลั่น ฝนก็เทลงมาพรู
๏ วิฬาร์นี้หางขอด ปัดตลอดจะขบหนู
หางยาวน่าเอ็นดู ทั้งสี่เท้าก็ดำแดง
๏ นางแมวกินปลาย่าง วิฬาร์ง้างเอาปลาแห้ง
ฝนตกระดูแล้ง อยู่ที่ต้นสะเดาดี
๏ จงเย็นทั้งรากข้าว ปลาหลดไหลกระเจิงหนี
ทั้งปลากะทิงมี ก็วิ่งไล่อยู่ในนา
๏ นางเมขลาเอ่ย แม่มาจากสวรรค์หวา
ท่านขอพิรุณนา ฝนก็เทลงมาปรอย
๏ เดชกุศลมี โดยวิธีโบราณถ้อย
ร้องวนเปนก้นหอย ฝนก็เทลงมาจริง
๏ นำท่วมทุกนาทุ่ง ทั้งผักบุ้งก็งามพริ้ง
ข้าวปลาก็ถูกยิ่ง กว่าเก่าก่อนที่เคยขาย
๏ ทั้งผลไม้สวน ก็ดุดกอุดมหลาย
ฝูงชนก็สบาย เปนสุขสิ้นระคายหมอง
๏ ได้พึ่งพระบารเมศ เพราะพระเดชพระคุณครอง
การุญให้แห่ร้อง วิฬาร์บทโบราณ เอย ๚
๓๕ วาระนี้จะกล่าว  
หญิงแม่หม้ายยังสาว ผัวมะร้างหลายปี
ออกมาเล่นน้ำฝน สัปดนนารี
เย็นสบายกายี สรรเสริญนางวิฬาร์
๏ ครั้นกระจ่างหายหมอก  
ฝนก็ตกแดดออก นกกระจอกบินถลา
กลับสถิตย์รวงรัง สุขเกษมปรีดา
หญิงเปนหม้ายผัวหย่า ก็ใส่เสื้อกันหนาว
๏ ยังคิดความสนุก  
เจ้าก็หายคลายทุกข์ ยังจะอยากเปนสาว
จรลีลงท่า ขี่ชะล่าเรือยาว
น้ำแห้งตลิ่งหาว ถ่อไปดูหนังตะลุง ๚

๑๐. บทร้องตั้งไข่ล้ม

ตั้งไข่ล้ม ต้มไข่กิน ไข่ตกดิน ใครอย่ากินไข่เน้อ

ไกวแขนเสีย จะด่วนไปไร่ ลูกร้องไห้ ด่วนไปด่วนมา

แม่ใครมา น้ำตาใครไหล ได้เบี้ยสองไพ ติดก้นแม่มา

ใครอิ่มก่อน ไปดูโขนดูหนัง ใครอิ่มทีหลัง ล้างถ้วยล้างชาม

เฉิบ ๆ กินข้าวไม่เปิบ กินแต่ปลาเปล่า ๆ

โตงเตงโตงเว้า กินแต่ของเขา ของตัวเก็บไว้

รวม ๖ บท

เรื่องตั้งไข่ล้ม

๑๑ นางแม่ลูกอ่อนเอ๋ย จรเลยกระเจิงเดิน
ดูหนังตะลุงเพลิน สละบุตรบนำพา
๏ ทารกละห้อยโหย ก็กระหายตะโกนหา
พี่ปลอบประโลมพา กนิฐน้อยพอคลายใจ
๏ แต่แต่อุแม่นา อรโอบตระกองไสย
ลงเปลก็เห่ไกว บสงบตะบึงแจ
๏ มาพี่จะบดป้อน กระยาเปียกอร่อยแหล
ชันสอกระออแอ กรกวักระแด่วดู
๏ เออเจ้าจะตั้งไข่ พี่ก็ปลอบประโลมหนู
โอบอุ้มตระกองชู ว่าไข่ล้มจะต้มกิน
๏ พี่ช่างระเบียบพจน์ ดุจฉันท์วิเชียรอินทร์
ฟองใดนะตกดิน ใครจะกินไข่เน้อ เอย ๚

เรี่องไกวแขนเสีย

๒๘ แม่หม้ายดูหนัง  
กลับมาเซซัง เสียงบุตรวายเวย
เจ้าไกว่แขนเดิน รีบด่วนจรเลย
โอ้บุตรกูเอ๋ย ร่ำไห้โหยหา
๏ เจ้ารีบลีลาศ  
ขะวีขะวาด ด่วนไปด่วนมา
โตงเตงฟัดอก เขาโห่หุยฮา
เจ็บใจอาตมา ขวยเขินเคืองใคร
๏ เพราะพ่ออ้ายหนู  
แกล้งขยำทำกู บมีปราไสย
ชายเห็นชายเคาะ เย้ยเยาะไยไพ
เจ้ารีบครรไลย วิ่งเหยาะเหย่ามา
๑๒ อรเร่งจรคลา มรคาทุรไกล
วัจน์คนมันก็ไข บริภาษนิวิกล
๏ สุดจะอายอัประหยด กิติพจน์นรชน
อรรีบจรดล ก็ลุคฤหสถาน

เรื่องแม่ใครมา

๑๖ พี่ออหนูน้อยยลมาร- ดาด่วนมาพาน
ก็ร้องด้วยคำลำคอ  
๏ เออแม่ใครมาโน่นหนอ น้ำตาใครคลอ
นิ่งเถิดนะน้องกินนม  
๏ อีกทั้งจะได้กินขนม อัฐแม่มีถม
ได้เบี้ยสองไพติดมา  
๏ นี้เมื่อยังบเดียงสา ครั้นค่อยวัฒนา
ก็ป้อนก็เปิบอาหาร  
๏ ทารกตาลขะโมยมาพาน ชอบมัจฉมังสหวาน
ก็เลือกก็เล็มกินปลา  
๏ พี่สาวรำฬ่อไปมา ร้องโดยภาษา
ทารกคะนองกำเริบ  
๏ เต้นรำทำร้องเฉิบ ฯ กินข้าวไม่เปิบ
กินปลาเปล่า ๆ หมดกัน  
๏ มันช่างกินช้านานครัน ไปไหนไม่ทัน
มันหลอนว่าเสียงกลองดัง ๚  

เรื่องใครอิ่มก่อนดูโขนดูหนัง

๑๖ ใครอิ่มก่อนดูโขนดูหนัง ใครอิ่มทีหลัง
ล้างถ้วยล้างชามคนเดียว  
๏ น้องมันฉลาดเฉลียว ส่วนของมันเหนียว
กินของของพี่หมดชาม  
๏ นางพี่จึงแสร้งทำถาม ของกูตะกลาม
ของเองอยู่ไหนไม่เอา  
๏ คือว่าโตงเตงโตงเว้า กินแต่ของเขา
ของตัวเก็บไว้ไม่กิน ๚  

๑๑. บทร้อง ๗ บท

หมุบหมิบคีบชน มนไหม้ให้หา เลขผาหัวแดง กินแตงโมดิบ

ขี้ตู่กลางนา ขี้ตาตุ๊กแก ขี้มูกคนแก่ อูดแออูดแอ อรแน้อรชร

เขย่งเกงกอย เห็นงัวกินอ้อย ที่ไหนบ้างเน้อ

รีรีข้าวสาร สองทะนานข้าวเปลือก เลือกท้องใบลาน พานเอาคนข้างหลังไว้

กา ๆ ได้ลูกมึงมา มายัดใส่พก กูได้ลูกนก มาโยนเล่น พ่อมึงเต้น แม่มึงรำ อ้ายลูกกาดำ ร้องกา ๆ

เจ้านกสีชมภูเอย จับอยู่ที่ไม้เรียว ร้องต้อยตริดติดเตียว อ้ายปัดติเตียว ๆ เอย

นกเอี้ยงเอย มาเลี้ยงควายเฒ่า
ควายกินข้าว นกเอี้ยงหัวโต
จับต้นโพธิ์ ร้องไห้หงิง ๆ
จับต้นขิง เขาก็ยิงลงมา
จับต้นข่า เขาก็ด่าเจ้าให้
จับต้นไทร ไถลถลาก
จับต้นหมาก เขาก็ลากลงมา
จับต้นจำปา นกเอี้ยงหัวโต ๚

รวม ๗ บท

๏ เด็กเอยเคยเล่น  
เมื่อเล็กเราเปน ชวนกันหรรษา
ข้าหยอกหนูหน่อย ค่อยหัดเวรจา
มานี่เถิดหนา ข้าเล่นด้วยคน
๏ เล่นทายไม่ถูก  
มือหยิบจมูก หมุบหมีบคีบชน
มนไหม้ให้หา เลขผาเวียนวน
ศีร์ษะแดงมน กินแตงโมดิบ
๏ เท่านี้วนเวียน  
ชอบใจไล่เปลี่ยน หยอกเย้ายุบยิบ
ตีความไม่เห็น ร้องเล่นซุบซิบ
ฟังไม่ได้สิบ ไม่ศัพท์สิ่งใด
๏ เจ้าก้มหัวลง  
ชักผ้าคลุมปง ทุบหัวลงไป
ทายว่าใครโขก ไม่รู้สงสัย
หมอบมองร้องไข ขี้ตู่กลางนา
๏ ขี้ตาตุ๊กแก  
ขี้มูกคนแก่ อรแน้อรตา
มันร้องเช่นนี้ ตามมีต่อมา
ปลายส่งลงว่า อู๊ดแออู๊ดแอ
๏ ทายถูกคนไหน  
ก้มหัวลงไป คอยทุบตอแย
มันเล่นพิลึก พิกลเกินแปล
ถ้อยคำจำแน่ อย่างนี้มีมา
๏ ที่มันเต้นโลด  
พลันขึ้นกระโดด เขย่งไปหา
ข้างหนึ่งคอยถาม กล่าวตามตำรา
เขย่งไปหา ปากร้องละเมอ
๏ เขย่งเกงกอย  
เห็นวัวกินอ้อย ที่ไหนบ้างเน้อ
ถามว่าวัวไหน บอกไปเถิดเกลอ
แดงดำร่ำเพ้อ แกล้งกล่าวเปนกล
๏ แม้ว่าวัวดำ  
บอกตกน้ำครำ บรรลัยวายชนม์
วัวแดงเล่าไซร้ ก็ทายสัปดน
ฟังไม่เป็นผล ตกน้ำแกงตาย
๏ มานี่เถิดเจ้า  
จับมือกันเข้า ทั้งสองบคลาย
พวกหนึ่งเข้าลอด มุดไปทั้งหลาย
ร้องเล่นตามสบาย ทั้งสองคอยพาน
๏ พร้อมกันขันขบ  
ปากร้องคอยหลบ รีรีข้าวสาร
สองทะนานข้าวเปลือก เลือกท้องใบลาน
ลอดพ้นใจบาน พานคนหลังไว้
๏ กั้นอยู่ในคอก  
มันมิให้ออก ต้องมีคำไข
ทายถูกถามแก้ กุญแจอันใด
นากเงินทองไฉน ถูกเปิดปล่อยกัน
๏ ชวนเชือนเพื่อนเล่น  
ลมพัดเย็น ๆ ชมนกหกหัน
นกสีชมภู จับอยู่เรียววัลย์
ช่างพูดขยัน ต้อยตริดติดเตียว
๏ นั่นนกเอี้ยงเล่า  
มาเลี้ยงควายเฒ่า หัวโตตัวเดียว
บินจับต้นโพธิ์ พุ่มไม้ใบเขียว
ร้องไห้ใจเหี่ยว เสียงหงิง ๆ งอ
๏ ไปจับต้นขิง  
เด็กเล็กไล่ยิง ลงมาจอนจ่อ
หนีไปต้นข่า เขาด่าเขาทอ
จับไทรใจห่อ งันงกอกผวา
๏ ทำไถลถลาก  
หนีไปจับหมาก มันลากลงมา
สงสารนกเอี้ยง เลี่ยงหลีกบินถลา
ไปจับจำปา หัวโตเท่ากะบุง
๏ หนีภัยไปพ้น  
หยุดพักไซร้ขน ค่อยคลายวายนุง
หายเหนื่อยบินไป เด็กไล่ปาผลุง
บินลัดตัดทุ่ง ไปสู่รังตน
๏ มันปาไม่ถูก  
นางกาแม่ลูก พลัดลงบัดดล
ซ้ำถูกลูกนก ตกตายวายชนม์
อ้ายเด็กซุกซน สร้างกำม์ทำนรก
๏ ร้องฬ่อกา ๆ ได้ลูกมึงมา
กูซ่อนใส่พก อีกตัวหนึ่งไซร้
ก็ได้ลูกนก จะแกล้งฉีกอก
โยนเล่นเย้ยหยัน  
๏ กล่าวโดยเด็กร้อง เป็นลำทำนอง
สัมผัสฟัดกัน ดูไม่เปนผล
ตามซนคำขัน มากมายหลายพรรณ
รวบรวมขยายเอย ๚  

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ