จักรวัติคำฉันท์

 

๑๒ นโมน้อมนมัสการ พระทรงญาณวราคุณ
ธรู้แจ้งประเสริฐสุน ทรธรรมกิเลศผลาญ
๏ มนัสน้อมวันทนา พระธรรมามโหฬาร
พระผู้เลิศปรีชาชาญ แสดงดีวิถีทาง
๏ จะให้ถึงศิวาลัย กษัยทุกขให้เบาบาง
มละบาปกิเลศจาง ประหารหักให้ห่างหาย
๏ ขยมน้อมประนมหัดถ์ บุรุษอัษฐคู่หมาย
ธทรงมรรคและผลหลาย พระสาวกวรญาณ
๏ บิดามาตุข้านบ เคารพน้อมนมัสการ
ธผู้ครูอาจารย์ชาญ อภิวาทน์ผู้มีคุณ
๏ เดชะน้อมนมัสการ รตนญาณเจริญบุญ
อิกท่านพิเศษสุน ทเรศเรืองคุโณฬาร์
๏ ขอจงขจัดไภย โรคาไข้และทุกขา
พิบัติอุบัทวนานา นิราศข้าผู้เกลากลอน
๏ จะกล่าวจักรวัติวัตร ประจงจัดนุศาสน์สอน
ธเรศตรีผู้บิดร ธโอวาทดนัยไทย
๏ พระบาลีนิกายแจ้ง ปาฏิกวรรคไข
ข้อความอันมาใน จักรวัตติสูตรา
๏ พระจอมอารย์บรรหารตรัส พระสัทธรรมเทศนา
แก่หมู่สงฆ์สาวกา ประมาณมากยี่สิบพัน
๏ ณที่พร้อมสมาคม อุดมบรรพสัตว์สรรพ์
อมรหมู่มนุษย์อัน สถิตย์เพื่อจะฟังธรรม
๏ ณภายใต้พฤกษาชาติ ประกาศนามกรสำ
เหนียกเรียกมคธคำ มาตุลพฤกษ์ธกล่าวแถลง
๏ ประเทศนับกรีสมี ณถิ่นที่นิคมแขวง
นครมาตุละแสดง มกรูตชื่อระบือคำ ฯ
๑๖ พระสรรเพ็ชญ์ตรัสอดีตเรื่องนำ มาแจ้งแสดงธรรม
นิทานก่อนธเล่าความ  
๏ มีบรมขัติยทรงนาม ทัฬหะเนมิราชคาม
ภิรานุภาพมหึมา  
๏ เปนจักรพรรดิมหา ราชธิราชา
จาตุรันต์นรินทรปิ่นสรวง  
๏ เปนใหญ่ในทวีปทั้งปวง ครองเขตรนิเวศหลวง
มหานคราธานี  
๏ พร้อมสัตตรัตนโภคี จักรรัตนหัสดี
นารีมณีอัศดร  
๏ ปรินายกราชมหิศร ราชบุตรบวร
ดนัยเชษฐเจษฎา  
๏ อิกขุนธนรัตน์อมัจจา ครบเจ็ดรตนา
ประเสริฐสมบัติสมบูรณ์  
๏ พระราชอาชญาบิดสูรย์ ผ่านแผ่นเพิ่มพูล
ในสี่ทวีปแดนสถาน  
๏ อิกทวีปน้อยเนื่องบริวาร สองพันประมาณ
เปนเขตรอาณาจอมสกล  
๏ องค์อรรคราชทั่วภูมิดล ไป่มีผู้ผจญ
ตลอดแดนสมุทสาคร  
๏ ท้าวทรงทศพิธบวร ราชธรรมมหิศร
จตุสังคหะธรรมในประชา  
๏ ทั่วหมู่นิกรนานา พราหมณ์ชีพฤฒา
มาตยาราษฎร์ทั่วสถาน  
๏ พระไทยการุญบริบาล เว้นทัณฑประหาร
ร่มเย็นเปนสุขทุกคะณา  
๏ สิ้นกาลนานนับทิวา ราตรีมาสา
ได้ร้อยพันปีมากหลาย  
๏ วันหนึ่งจึงตรัสบรรยาย แก่ราชบุรุษนาย
หนึ่งว่าอย่าประมาทจงระวัง  
๏ หมั่นดูทิพยจักรแม้ยัง คงสถิตย์ที่ดัง
แต่ก่อนบ่เคลื่อนลดสถาน  
๏ จงดูเนืองเนืองนิจการ ล่วงวัยคืนนาน
ถ้าเคลื่อนลดลงจงแถลง  
๑๑ อำมาตยก็ทำตาม วรราชพจน์แสดง
หมั่นดูระวังระแวง วรทิพยจักรา
๏ ครั้นล่วงจิรากาล ทิวนานก็เนิ่นมา
นับเดือนและปีคลา ศตล่วงก็ลับหลาย
๏ อำมาตยก็ยลจักร จวนาคละเคลื่อนคลาย
จากที่สถิตยหมาย พิปลาศประหลาดใจ
๏ ตรงหน้าพระบัญชร รตนปรางค์กนกใน
จึ่งทูลพระจอมไท ธิบดินนรินทรา
๏ สมเด็จพระจักรพรรดิ ธก็ได้สดับอา
ดูรเหตุพระชนม ก็จะเสื่อมจะจวนกาล
๏ สวรรคตมละไอ สุริยราชมโหฬาร
ทรงโทมนัสดาล อดุระแน่ตระหนักความ
๏ ทรงทราบประจักษ์ชัด จะวิบัติวิบากตาม
เหตุจักบพักถาม ชนมาชราแรง
๏ ทรงดำริห์ในพระไทย ผิจะใคร่ผนวชแสวง
ทางพรหมโลกแจง จตุพรหมวิหารฌาน
๏ จึ่งอื้นพระโอษฐตรัส วรราชโองการ
ให้หาพระกุมาร ปียะเชยฐบุตรา
๏ แล้วมอยพระศฤงคาร วรราชมณฑิรา
สมบัติพระขัติยา กุละเนื่องประพันธุ์พงศ์
๏ โปรดให้พระโอวาท ตรุณราชบุตรองค์
เพื่อให้ดำรงทรง พระเศวตฉัตรไชย
๏ มอบเสร็จมละมง คลราชสมบัติไคล
จรสู่อุยานไพ บุลยพฤกษ์ผกาผล
๏ ทรงพรตอิสีเพศ พหิเขตรที่ไพชยนต์
ก่อสร้างกุศลผจญ อกุศลณไตรทวาร ฯ
๑๔ ปางเมื่อพระจอมนรคณา ธละราชศฤงคาร
ทรงผนวชราชอุทยาน คณนาก็เจ็ดวัน
๏ ทิพยจักรวิบุลอดุลเดช ณนิเวศวิบัติพลัน
กลับกลายก็คล้ายอคนิอัน สิขิดับวะวับหาย
๏ อำมาตย์ก็นำยุบลทูล บดิสูรย์คดีธิบาย
ทิพยจักรนิรานครวาย จรลับก็ดับสูญ
๏ สมเด็จชนินทรสดับ กิติศัพท์ก็อาดูร
ทุกขโทมนัสอุระก็พูล ระอุร้อนฤทัยศัลย์
๏ เสด็จจากนิเวศจรคระไคล ธก็ไปอุยานพลัน
โดยอานุภาพนิกรอัน อมัจจราชก็แห่มา
๏ ดลด้าวพระดาบสนรินทร์ วรปิ่นนราบิดา
บังคมบรมชนกา ศิรก้มประนมกร
๏ ทูลถามระหัศอุรเหตุ วรเชษฐมหิศร
จักรแก้วพิบัตินิรนคร จะกระทำประการใด
๏ ให้คืนสถิตย์กลบุรา ณประเทศพระเวียงไชย
ขอองค์พระจอมอธิปไตย ธแนะเหตุวิเศษสอน ฯ
๑๖ ปางองค์นักสิทธิบิดร สดับพจน์จอมนคร
ธอื้นโอยฐแจ้งแถลงไข  
๏ ว่าอันจักรรัตนาไมย บเหมือนโภไค
สิ่งอื่นอันเนื่องวงศ์มา  
๏ ต่อกระษัตริย์มีบุญบุรพา ปฏิบัติอัตรา
ซึ่งราชธรรมบริบูรณ์  
๏ เหตุสองอย่างนี้เพิ่มพูล จักเกิดเกื้อกูล
แก่ขัติยราชทรงธรรม์  
๏ แม้พ่อตั้งจิตรนิจนิรันดร์ ประพฤติตามทางอัน
จักรพรรดิราชกอปมา  
๏ ทิพยจักรก็จักคืนภารา สมมาดปราถนา
เพราะประพฤติตามธรรมส่ำสม  
๏ ถ้าพ่อจินดาปรารมภ์ ประพฤติตามอนุกรม
จักรพรรดิราชก่อนกาล  
๏ จงกอปสุจริตไตรทวาร อกุศลประหาน
ทางกายวาจาจิตรตน  
๏ กายกรรมสามอย่างอย่าฉงน เปนทางอกุศล
ฆ่าสัตวลักทรัพย์มิจฉา  
๏ กอบกิจผิดกามธรรมดา ล่วงละเมิดภรรยา
ธิดาผู้อื่นสมาคม  
๏ วจีกรรมมีสี่นิยม คำเท็จคำคม
ประกาศพันธุ์พงศ์วงศ์วาร  
๏ อิกคำส่อเสียดใช่การ ยุยงร้าวราน
ให้ท่านขึ้งเคียดเดียดฉันท์  
๏ อนึ่งกล่าวถ้อยคำรำพรรณ เปลืองป่วยการอัน
บได้ประโยชน์เสื่อมหาย  
๏ มโนกรรมสามอย่างบรรยาย อภิชฌามุ่งหมาย
จะลักจะฉ้อในใจ  
๏ พยาบาทอาฆาฏตริไป จะฆ่าสัตวใน
อารมณ์นึกแช่งชนชัง  
๏ มิจฉาทิฐิผิดคิดหวัง ความสุขทุกขัง
ดีชั่วเปนเองปราศผล  
๏ ไป่ถือบาปบุญเยี่ยงยล ชนกชนนีตน
ก็ว่าเกิดตามกันมา  
๏ สิรินับกรรมบถคณนา สิบอย่างอกุสลา
พึงเว้นเปนทางอบาย  
๏ บำเพ็ญสุจริตในกาย วาจาจิตรหมาย
กุศลกรรมบถสิบแสวง  
๏ เคารพปฏิบัติอย่าแคลง เคลิบเคลิ้มระแวง
ระวังตั้งใจในกุศล  
๏ ยกซึ่งธงไชยโสภณ เงื้อพระหอกประจญ
พิมลพิหมดบาปสูญ  
๏ ธงไชยหอกเพ็ชรไพบูลย คือกรรมบถพูล
เพิ่มผลกุศลสิบประการ  
๏ ดำรงสุจริตไพศาล ผ่องแผ้วไตรทวาร
ประหานหักโทษโหดมลาย  
๏ ก่อธรรมสามอย่างโดยหมาย รักขธรรมบรรยาย
อาวรณคุตติธรรมา  
๏ รักขธรรมคือทรงรักษา ในขัณฑสีมา
มณฑลเขตรแคว้นแดนนคร  
๏ สมณะชีพราหมณ์รายฎร ให้สุขสโมสร
ด้วยขันติธรรม์มั่นคง  
๏ เว้นซึ่งเคียดเบียดปลดปลง อภัยเพื่อประสงค์
สิ่งสุขทั่วนิกรนานา  
๏ อาวรณธรรมจาคา พระราชทานคฤหา
เสื้อผ้าเงินทองของสงวน  
๏ คุตติธรรมป้องกันตามควร โจรร้ายรบกวน
ย่ำยีบีฑาฝูงชน  
๏ ทรงขจัดป้องปัดผจญ ไป่ให้มาระคน
ขุ่นข้องในหมู่ราษฎร  
๏ อิกภัยพิบัติดัสกร สัตวร้ายกุญชร
กาษรเสือแรดโคลา  
๏ ทรงขจัดสรรพภัยพาธา ในพระภารา
คุ้มครองป้องกันอันตราย  
๏ ธรรมทั้งสามตามดังบรรยาย เจือธรรมทั้งหลาย
สิบสองในวัตรจรรยา ฯ  
๑๔ พระบาลีเปนพระพุทธพจน์ ปรากฎธรรมเทศนา
จักรวัติวัตรพรรณา แสดงคุณวิบุลผล
๏ บทยปฐมบรมขัติยนาถ สงเคราะหราชนรชน
ฝ่ายในและหมู่พยุหพล บำรุงให้สถาพร
๏ มหิษีและราชปิยบุตร วรนุชธิดาสมร
อันเตบุริกชนนิกร ประสาทประสิทธิ์พิพิธภัณฑ์
๏ อนึ่งประทานวรโอวาท ในราชบรรพสัชสรรพ์
ให้ตั้งอยู่ในสุจริตธรรม์ ทั้งทานศีลบำเพ็ญผล
๏ ทรงรวังรักยาราชบริษัท อุบัทวภัยในมณฑล
ไป่ให้เกิดจลาจลวิกล นิกรทั่วเกษมสานต์
๏ นี้เปนปฐมในจักรวัติวัตร ธตรัสสอนโดยพิสดาร
ที่สองให้บทพจนบรรหาร อนุศาสน์โอวาทแถลง
๏ ให้ทรงสงเคราะห์ขัติยทุกองค์ ในแดนวงนครแขวง
เมืองขึ้นและออกนอกในกระแพง ธปกป้องพิบัติไภย
๏ อิกพระราชทานธนะบำนาญ สถานถิ่นและโภไค
ด้วยพระกรุณามุทุฤไทย ให้ร่มเย็นเปนสุขา
๏ บทสามให้ทรงสงเคราะหกิจ ในอิศรพงศา
พระราชวงศทุกองค์ขัติยนรา ประสาททรัพย์ประดับกาย
๏ อิกยั่วยานสารตุรงครถ ทั้งเครื่องยศอร่ามพราย
ควรแก่คุณานุรูปธนะบวาย เถลิงลักษณ์เปนศักดิ์ศรี
๏ บทสี่ให้ทรงบำรุงผดุงสุข บำบัดทุกขพวกพราหมณชี
อิกทั้งหมู่คฤหบดี ด้วยจาคาวัดถาภรณ์
๏ ทั้งโภชนากระยารสพิเศษ แก่พราหมณเพศคณนิกร
ทวิชชาติผู้มีมนะสังวร ให้สุขอยู่กระเษมสันต์
๏ คฤหบดีที่ครองคฤหฐาน พระราชทานทุกสิ่งอัน
แอกไถและพืชบุพพรรณ อปรัณณะนานา
๏ โคใช้มหิงษจตุบท ให้ปรากฎในภารา
เครื่องที่จะเลี้ยงในชนมา ยุชีพให้ทุกทวยชน
๏ บทห้าให้ทรงสงเคราะห์แก่ชาว ชนบททุกตำบล
ปัจจันตเขตรที่ทรพล ให้ได้สุขทุกวันวาร
๏ ตามควรแก่คุณชนนิกร ระงับร้อนพอสำราญ
เข้ากล้าแลธัญญะหิรญกาญ จนพืชนถั่วงา ฯ
๑๙ บทหกให้ทรงทนุบำรุงสมณะพราหมณา
อันสงบอกุสลา ประหาร
๏ ผู้ผนวชในพระพุทธสาสนะอันอุฬาร
ว่าสมณะขนาน สมญา
๏ อนึ่งประเสริฐด้วยมุ่งอมัตบทพรตจริยา
นามว่าพราหมณา ก็ควร
๏ เพราะทรงคุณธรรมดำรงคงสถิตยบเรรวน
ให้จอมมหิศวร อำรุง
๏ ควรถวายไทยธรรมบูชารักษาพยุง
ป้องกันภัยเครื่องสดุ้ง อย่ามี
๏ ให้อยู่เปนสุขนิรทุกข์พิพัฒนสวัสดี
เว้นพิบัติย่ำยี สกนธ์
๏ ที่เจ็ดให้บรมจอมสถานผ่านภูมิดล
โปรดอไภยในมณฑล นคร
๏ แก่นานาปักษาชาติและมฤคสุกร
มัจฉาในชโลธร ทั้งปวง
๏ ห้ามปรามเพื่อมิให้ยิงและจับดักแลตักตวง
ด้วยสวิงชนางล่วง ประหาร
๏ ให้เอนกสรรพสัตว์โสมนัสสุขสำราญ
ทั่วทุกหมู่ดิระฉาน คณา
๏ ที่แปดในจักรวัติวัตรขัติจริยา
ให้องค์บรมนรา ธิปไตย
๏ ห้ามปรามแก่ประชานิกรรายฎรอยู่ใน
รัชะจังหวัดบให้ ทุจริต
๏ ละบาปกรรมที่จะนำวิบากอันเปนพิษ
ตั้งอยู่ในการกิจ กุศล
๏ รักษาเบญจเวรวิรัติปฏิบัติวิมล
แผ้วผ่องกายสกนธ์ วาจา
๏ ทำจิตรให้ตั้งมั่นในสรรพธรรมกุศลา
เพื่อผลเพิ่มสุขา พิบูลย์
๏ ด้วยราโชวาทประสาทประสิทธิเพราะกิจนุกูล
เพิ่มสุขเกิดเพิ่มพูล ประชา ฯ
๒๑ ที่เก้าในราชธรรมขัติยา บวรพจนสุภา
ษิตกถา ธสั่งสอน
๏ ให้ทรงสงเคราะห์ประชากร ทลิทชนในนคร
ผู้ไร้ทุนรอน ธนะทุกพรรค์
๏ จงทรงสละทรัพยแบ่งสรร รชฏสุวรรณปัน
พอเกษมสันต์ สุขารมณ์
๏ เปนทุนอุดหนุนทรัพยส่ำสม ธนชนะอนุกรม
ชื่นชมเลี้ยงชีพ ชนมา
๏ เพิ่มพูลสมบัติโภคา นรชนคณประชา
ในพระภารา ธเรศตรี
๏ ที่สิบให้จอมนราธิบดี พระกมลธเปรมปรีดิ์
จรลีสู่สม ณพราหมณา
๏ ใต่ถามข้ออรรถธรรมปฤษณา กุศลอกุศลา
โทษและคุณา ประโยชนผล
๏ สิ่งใดไร้ประโยชนอกุศล นิรคุณะธผจญ
ให้พ้นอย่าพ้อง พะแผ้วพาล
๏ จงมีความเพียรหักประหาร อกุศละสละทาน
กอปการกุศล ผลไพบูลย์
๏ เปนธรรมสำหรับนเรสูร สุริยวรประยูร
ควรทรงเพิ่มพูล เพียรประกอบ
๏ สมณะพราหมณผู้รู้รอบ หิตะคุณะระบอบ
ธรรมที่ชอบ ธปรีชา
๏ ทรมานโทษะและโมหา มนะบละวิริยา
บันเทากามา ก็เบาบาง
๏ สอนง่ายสิ่งใดควรละวาง สติก็ตริจะให้จาง
ประพฤติโดยทาง ที่ถูกตรง
๏ มานะเก้าประการธปลดปลง มุทุหทยะก็คง
กรุณประสงค์ แต่สุขสานต์
๏ สมณะพราหมณใดทรงธาร วรคุณะมโหฬาร
ดุจบรรหาร ที่พรรณา
๏ ควรบรมจอมภพจะคบหา มนะอภิรมยา
เสพสมาคม ธเนืองนิจ
๏ ที่สิบในธรรมะวรกิจ บวรขัติยมหิศ
สราธิบพิตร กระษัตรีย์
๏ โดยสังเขปย่อข้อคดี สุพจนวรวาที
ในบาฬีจักรวัติ สูตรแสดง ฯ
๒๘ ถ้ากล่าวพิสดาร  
เพิ่มบทวิถาร อิกสองบทแถลง
นับเปนสิบสอง ถูกต้องอย่าแคลง
ท่านกล่าวให้แจ้ง โอวาทจอมอารย์
๏ อะธรรมะราคะ  
พึ่งให้เพียรสละ ในมิจฉาจาร
หญิงสิบสองเหล่า พึงสละประหาร
อคะมนิยฐาน ที่ไม่ควรถึง
๏ หญิงอันพงศา  
ทั้งสองชนา อนุญาตรำพึง
เพื่ออาวาหะ วิวาหะคะนึง
ให้ไว้แต่หึง กาลเปนทารกา
๏ ที่สองมีนาม  
หญิงท่านหวงห้าม สปริทัณฑา
ขัตยราชมนตรี ตั้งเขตรอาชญา
ผู้ใดคบหา ปรับไหมเฆี่ยนตี
๏ ธนะกิตตา  
หญิงท่านไถ่มา ด้วยทรัพย์ตามมี
เลี้ยงเปนภรรยา รักขานารี
ไป่ให้ราคี บุรุษคบหา
๏ โภคะวาสินี  
นับเปนที่สี่ มีโดยสมญา
บุรุษให้ทรัพย์ไว้ หมายได้ยุพา
มาเปนภรรยา ด้วยให้ศฤงคาร
๏ หญิงเคารบห้า  
ท่านกล่าวพรรณนา โดยชื่อนงพาล
ปฏะวาสินี ชายหมายสมัคสมาน
ให้ผ้าปริหาร นุ่งห่มกายา
๏ ที่เคารบหก  
หญิงแบกหาบยก ภาระทูนมา
ชายรับธุระ ปลงปละภารา
ลงจากหัดถา หมายจะสู่สม
๏ ภัตติกาที่เจ็ด  
หญิงรับจ้างเสร็จ ในเรือนนิยม
หมายได้ค่าจ้าง ชายคบสมาคม
เปนคู่ภิรมย์ ร่วมรักสโมสร
๏ ที่แปดทาสี  
ของคหบดี รักใคร่บังอร
เลี้ยงเปนภรรยา รักษาอาทร
บ่ให้ทุกข์ร้อน ร่วมกามปรีดา
๏ ฉันทะวาสินี  
นั้นคือสัตรี จิตรรักตามมา
อยู่กับบุรุษ โดยสุทธเจตนา
เพื่อเปนภรรดา โดยใจนารี
๏ หญิงญาติมอบให้  
อยู่กับชายใด ให้เปนสามี
บุรุษได้เปนใหญ่ รักใคร่สัมคี
เมตาปราณี นับเปนคู่ครอง
๏ อิกหญิงชะเลย  
(ระบาตรคามเคย อนาถจำนอง
พามาเลี้ยงไว้) ท่านได้ปกป้อง
รักร่วมปรองดอง เปนภรรยาตน
๏ อนึ่งมหุติกา  
ชายร่วมคบหา แต่ครู่หนึ่งดล
ร่วมรสสังวาส มาตรแต่ครั้งหน
หนึ่งนับว่าชน มีคู่สู่สม
๏ สิรินับสิบสอง  
นารีที่ข้อง ไม่ควรสมาคม
เปนมิจฉาจาร ท่านกล่าวนิยม
อย่าพึงปรารมภ์ ร่วมรักสมัคสมาน ฯ
๑๒ อนึ่งพึงมละกามรติผิด ณจิตรวิการ
โดยนามอะนังคะละขนาน ณทุจริต
๏ ในเชษฐประยุรกุละคณา วุฒาก็คิด
สังวาสภิรมย์กลสนิท ณย่าและยาย
๏ อิกมัคอุจาระมุขมี วิธีภิปราย
ใช่ทางจะมุ่งภิรมยหมาย จะเสวนา
๏ ผิดจากระบอบชนนิกร บห่อนจะผา
สุกสวัสดินำครหะมา ก็มากก็มูล
๏ อนึ่งนามอกาละทุจริต ก็ผิดบพูล
เพิ่มสุขขจัดนิระพิบูลย์ จะเสื่อมคุณา
๏ ทาเรศประกอบทุกขและไข้ กษัยสุขา
ไป่มีภิรมยรติณกา มะจิตรนิราส
๏ อิกหญิงอุทรครุมหันต์ ณครรภ์ประดาษ
ไม่ควรจะสังวาส รติภิรมย์
๏ นารีตรุณปฐมไวย บได้นิยม
การกามะสะวะนาคม นิราฤดี
๏ สัตรีชราทุพละกาย ก็หน่ายบมี
จิตรคิดจะสามคี ณเสวกิจ
๏ นงพาลจะใกล้ชนะมลาย จะวายชีวิต
ทุกขแทบจะปลดจะปลิด ประไลยจะลาญ
๏ ไม่ควรภิรมยรติคะนึง จะพึงสมาน
ควรจอมนรินทรภูบาล ธเกลียดธไกล
๏ อนึ่งนามอเทศะทุจริต ธคิดไกษย
ในที่สถานปิฎกไตร ธรจนา
๏ ที่ใกล้อุประจารพระวรสถูป และรูปปฏิมา
พุทธพิมพ์และพระมหา โพธิพฤกษสถาน
๏ ไป่ควรประพฤติวสลธรรม กรรมสมาจาร
ในที่กล่าวปริหาร ก็แจ้งคดี
๏ รวมบทสุพจนบวรประกาศ นุศาสนมุนี
ในข้ออธรรมราคะฤดี ก็เสร็จประสงค์ ฯ
๑๑ ที่สิบสองในวัติ ขัติยธรรมควรดำรง
วรโอวาทแห่งองค์ พระชนกาธิบดี
๏ วิสมะโลโภ จงทรมานมนินทรีย์
ทรัพย์ท่านผู้อิ่มมี อย่าคิดน้อมจะนำมา
๏ เจ้าทรัพย์มิได้ให้ ยังห่วงใยเก็บรักษา
ใช่กิจแสวงหา ด้วยจิตรบาปที่หยาบคาย
๏ โลภจิตรมีแปดดวง อภิธรรมบรรยาย
จะเติมพจนภิปราย สังเขปข้อย่อวาที
๏ โลภเกิดปรากฎ สหรคตทิษฐิมี
โสมนัสปรีดี แต่ลำพังฤไทยตน
๏ โสมนัสประวัติจิตร กับทิษฐิมารคน
เกิดเพราะปะระชน คุณประกาศให้ปราถนา
๏ อนึ่งทิษฐินิราส มีแต่โลภะจินดา
โสมนัสอุบัติอา ศรัยเพราะตนประสงค์เอง
๏ อิกผู้อื่นยุยง มาส่งเสริมคุณาเพรง
ใช่เกิดเพราะตนเอง คณนาก็สี่แถลง
๏ อนึ่งทิษฐิกับจิตร อุเบกขาธกล่าวแสดง
เกิดเองและเรี่ยวแรง เพราะผู้อื่นมาพรรณา
๏ สิรินับอิกก็สอง ทิษฐิข้องอุเบกษา
อนึ่งทิษฐินิรา อิกสองจิตรก็เหมือนกัน
๏ ครบแปดดังกล่าวแถลง โลภะแจ้งในอภิธรรม์
ธีรชนท่านรำพรรณ สรุปถ้อยให้น้อยความ
๏ ขัติยวัติทวาทศ สุพจนควรพยายาม
ธรรเมศพิเศษคาม ภิรกระษัตรธบรรหาร
๏ ว่าพ่อผู้โอรส ปิยดนัยจงวิจารณ์
จำถ้อยไว้กอปการ ปฏิบัติในวัตรธรรม
๏ อย่าประมาทให้ขาดสูญ จากประยูรบวรพันธุ์
จงเพียรให้เกิดพลัน ทิพย์จักรรัตนา ฯ
๑๕ วรรสพจนธรรมา ล้วนประเสริฐถา
วดำรง  
๏ วรรสพจนยรรยง ควรรพีพงศ
ธบำรุง  
๏ วรรสพจนเพื่อผดุง จอมธเรศกรุง
ภิบาลสถาน  
๏ วรรสพจนบรรหาร แห่งพระภูบาล
วราราช  
๏ วรรสพจนโอวาท สรวมประสาทนาถ
ดนัยไท  
๏ วรรสพจนอวยไชย เพื่อพิบัติไภย
พินาศสุญ  
๏ วรรสพจนเพิ่มพูล ธรรมเกื้อกูล
สุขารมณ์  
๏ วรรสพจนส่ำสม ควรจะชื่นชม
ประพฤติตาม  
๏ นรชนคณะในสาม ภพจะเข็ดขาม
พระเดชา  
๏ ธิระชนคณะเมธา ยินจริยา
จะสรรเสริญ  
๏ สิริยประยุรจะเพลิดเพลิน ยศจะจำเริญ
ธราดล  
๏ ศุภสิริสุขสโสภณ เกิดวิบุลผล
ก็อาจิณ ฯ  
๑๒ พระนราธิปไต ยดไนยมนุษิน
ทรองคธิบดินทร ธก็รับพจนา
๏ ปิตุเรศรมหิศร ธประสิทธิกถา
อภิวาทกรสา ธุชุลีก็ประนม
๏ มนะปรีดิภิรัต วรอรรถะนิยม
ขณะนี้ก็จะสม ปนิธานมนะสา
๏ ธก็น้อมศิรกราบ สุรภาพอภิวา
ทนแทบวรบา ทชนกธิบดี
๏ อภิวันทนะลา วรราชฤษี
ธก็จากจรลี อุทยานนิรคลา
๏ ธเสด็จยุรยาตร วรราชรถา
คณะหมู่อมจา ชนแห่คะระไล
๏ ก็ลุกรุงธสถิต ณวิจิตรมไห
สุริยาธิปไพ บุลราชศฤงคาร
๏ วรองคนริน ทรปิ่นนรสถาน
ธก็ทรงอภิบาล วรธรรมจริยา ฯ
๏ จอมปราณประพฤติวิริยกิจ จตุพิธสังคหา
ในหมู่นรานรประชา บริษัทณกรุงไกร
๏ อนึ่งทรงสถิตณวรธรรม กุศลกรรมบถไพ
บูลด้วยธตั้งพระหฤไทย จะผดุงกุศลผล
๏ รักษาอุโบสถบขาด วรนาถธโสภณ
แผ้วผ่องพระไทยศุภกมล ธก็เพียรประกอบธรรม์
๏ ทวาทศณพรตสุริยพงศ ธดำรงระบอบบรรพ์
สิบสองณบทพจนรำพรรณ บิตุราชธตรัสสอน
๏ ล่วงกาลบนานทิวสะจวบ ศศิเพ็ญณอำพร
เต็มดวงก็ลอยนภขจร ก็ลุบัณรัสมี
๏ เสร็จสรงสุคนธวรกลิ่น มุระธาภิษิตศรี
สังขกรดก็ครบบุรพิธี วรราชสรงสนาน
๏ เสร็จสรงประทับพระวรอาสน ณประสาทมโหฬาร
เบื้องบนพระมณฑิรพิมาน ธก็เยี่ยมณบัญชร
๏ ด้วยบุญบุเรภวะประกอบ และระบอบมหิศร
ภพนี้ธทรงคุณบวร ราชจรรมจรรยา
๏ ทิพยจักรสถิตกษิรสมุท บริสุทธิคุโณฬาร์
ปราจิณโลกบุรพทิศา จิรที่สถิตสถาน
๏ ผุดพ้นชลาสลิละเขตร ก็ประเวศณคัคณานต์
ลอยเลื่อนโพยมจรทยาน ก็สถิตตรงบัญชร
๏ ด้วยเดชอุภัยกุศลผล นิรมลมหิศร
บันดาลตระหนักคุณบวร ทิพยจักก็คืนมา ฯ
๑๖ ปางองค์สมเด็จราชา เอกราชมหา
บพิตรผู้ผ่านธรณี  
๏ เยี่ยมบัญชรทอดทฤษฎี ยลทิพยจักรลี
ลาศมาโดยท้องคัคณานต์  
๏ เลื่อนลอยเสมอบัญชรสถาน งามพร้อมตระการ
ทั้งดุมแลกำสมบูรณ์  
๏ พระไทยโสมนัสเพิ่มพูน ทิพยจักรห่อนสูญ
เกิดขึ้นได้โดยปราถนา  
๏ ทรงพระดำริห์จินดา คำเก่าเล่ามา
จักรพรรดิราชมหิศร  
๏ ย่อมมีจักรรัตนบวร มาโดยอัมพร
สถิตหน้ามหาไพชยนต์  
๏ บัดนี้จักรรัตนโสภณ ล่องลอยเวหน
มาอยู่ตรงแกลแลเห็น  
๏ ชรอยเราควรคู่จักเปน จักรพรรดิร่มเย็น
ตลอดเขตรด้าวสาคร  
๏ จอมภพมีจิตรสโมสร ภิรมย์เอมอร
เฉวียงสพักพระอังษา  
๏ เสด็จจากวรอาสน์ยาตรา ทรงสุวรรณภิงคา
ระพระเต้าทองคำอำไพ  
๏ โดยหัดถ์เบื้องซ้ายท้าวไท หัดถ์ขวาภูวไนย
ธประพรมน้ำสุคนธา  
๏ โสรจสรงทิพจักวรา ตรัสพระวาจา
ประสาทประสิทธิโองการ  
๏ วรจักรจงไปในสถาน ทั่วทิศพิศาล
พิสัยเขตรด้าวสากล  
๏ จงชนะทั่วทิศมณฑล อาจปราบผจญ
อริราชศัตรูนานา  
๏ ทิพยจักรก็ลอยเวหา โดยทิศบุรพา
อนิละบถสัญจร  
๏ บรมจักรพรรดิราชภูธร เสด็จด้วยนิกร
เสนาสี่เหล่าตามไป  
๏ วรจักรหยุดอยู่สถานใด ทรงตั้งทัพไชย
ประเทศที่นั้นโดยหมาย  
๏ กระษัตริยสามันตราชทั้งหลาย พากันผันผาย
มารับเสด็จจอมประชา  
๏ ขัติราชในทิศบุรพา เชิญบรมจุฑา
ธิราชผู้เรืองเดชขจร  
๏ ให้ประทับภายในนคร เพื่อให้ทรงสอน
โอวาทสุภาษิตแถลง  
๏ จอมนรินทรปิ่นภพจึ่งแสดง เบญจเวรแจกแจง
ให้เว้นทุศีลโทษา  
๏ สัตว์เปนอย่าปลงชีวา หนึ่งเว้นอทินนา
ทานานุกิจผิดธรรม  
๏ พึงเว้นปรทารเสวกรรม มฤจฉาอย่าทำ
ประเพณีล่วงในกาม  
๏ อนึ่งคำมุสาวาทพึงขาม เข็ดอย่าลวนลาม
กล่าวถ้อยที่เท็จอำพราง  
๏ พึงเว้นน้ำเมาละวาง สุราเปนทาง
ที่ตั้งแห่งความประมาทใจ  
๏ เว้นเวรห้าอย่างจงไกษย ตั้งสติอยู่ใน
สุจริตธรรมอันอุดม  
๏ ก่อสร้างทางธรรมส่ำสม โดยคำนิยม
นิเทศที่กล่าวสารสอน  
๏ บรมจักรพรรดิภูธร แสดงธรรมบวร
โอวาทแก่หมู่ขัติยา  
๏ ซึ่งอยู่ในทิศบุรพา โดยดังพรรณา
สังเขปข้อคำสำคัญ ฯ  
๑๙ จักรอันเลิศก็นิราคระไลบุรพทิศพลัน
ทักษิณทิศจรัล นุคลา
๏ จักรพรรดิราชธก็เสด็จประเวศอนุสถา
นะในด้าววราจักร คระไลย
๏ แม้ทิพจักรจรหยุดสถิตยณประเทศใด
ท้าวตั้งณพลไกร นุกรม
๏ สามนตราชณประเทศทักษิณก็ชม
ชื่นในพระบรม จุฑา
๏ จักรพรรดิราชธประสาทประสิทธิวจนกถา
โอวาทแก่คณา กระษัตริย์
๏ ให้เว้นจากทุจริตประกอบคุณวิรัติ
เบญจางคเวรสงัด ประหาร
๏ จักรทิพจากณประเทศทักษิณสถาน
ดลปัจฉิมภาคธาร ทิศา
๏ จอมภพนำคณะพลพหลจตุรคลา
ตามจักรจรามา สถิต
๏ สามนตราชธก็เปรมกมลโสภณจิตร
ปรีดาเจริญคิด ภิรมย์
๏ มารับเสด็จวรราชบพิตรคุณอุดม
โดยจิตรชื่นชม ฤดี
๏ จาตุรันตราชอนุศาสนนุสนธิกลคดี
ศีลห้าวจีมี กถา
๏ ทิพยจักรจากณสถานปจิมจรคลา
สู่อุตรามา ก็คง
๏ ปิ่นธานีธก็ย้ายพหลจตุรงค์
เนาที่ฉะเพาะตรง ณจักร
๏ ทรงสอนหมู่นรราชสมันตะธตระหนัก
เบญจะศีลก็เปนหลัก กุศล
๏ ทิพยจักรนำวรราชธเที่ยวผจญ
ทั่วด้าวแดนธราดล ฉมา
๏ ที่สุดแดนณสมุทสาครชลา
แผ่เดชทั่วคณานา นิกร ฯ
๒๑ จักรทิพย์กลับมาก็คืนนคร วรรตนบวร
ตรงพระบัญชร ก็ลอยสถิต
๏ คงอยู่ในปรางก็เปนนิจ อจลวรสฤษดิ์
จักรประเสริฐสิทธิ ธเรศตรี
๏ อิกเกิดดวงแก้วจรัสศรี วรรตนมณี
แสงสว่างที่ สถิตสถาน
๏ เมื่อราตรีมืดพโยมมาน นิรศศิบพะพาน
กาฬะปักขก็ดาล นภาไลย
๏ ดวงแก้วมณีแสงสว่างไป สกลนครใน
ดุจอุไทยไข รพีพรรณ
๏ ชุมชนคิดว่าสว่างวัน นรชนิกอนันต์
ต่างก็ชวนกัน ประกอบการ
๏ แสงดวงมณีรัตนชัชวาล ยวรคุณอุฬาร
จอมนราบาล ธชื่นชม
๏ อนึ่งเกิดหัสดีพิเศษสม บุรณธนอุดม
ควรจะรื่นรมย์ ก็ผ่องศรี
๏ ขาวทั่วทั้งกายคชินทรี ยรตนหัสดี
นามกรมี ประกาศคุณ
๏ ไปโดยเวหาสประเสริฐสุน ทรคชก็วิบุล
เกียรติเจริญจรุญ ธราดล
๏ อิกทังอัศดรก็โสภณ ชวนจรสถล
เร็วก็ปานกล กะจักรผัน
๏ กายขาวพักตรดำฉวีวรร ณวรคุณมหันต์
เผ่าตระกูลพันธุ์ อาชาไนย
๏ นามกรรัตนามโนไมย ภิรมยหฤไทย
องค์อธิปไตย ก็สมบูรณ์
๏ อิกนารีรัตนก็เพิ่มพูล อภิรติยจรูญ
จอมบดีสูร ธปรีดา
๏ ทรงรูปพร้อมเบญจกัลยา อุตรกุรุกุมาร์
แดนอุบัติสถา นะถิ่นเดิม
๏ สัมผัสอ่อนละเอียดก็ส่งเสริม สุขหทยะเผดิม
พูนผดุงเพิ่ม พระเกียรดิ์ทวี
๏ อนึ่งองค์เชษฐบุตรประเสริฐศรี รตนคุณและมี
นามกรที่ ปรินายก
๏ อิกขุนธนรัตนดิลก ธนะชละณธิปก
อาจหยิบยก ก็ทูลถวาย
๏ ครบเจ็ดรัตนาอภิปราย วจนและอธิบาย
บทขยายเดิม นิพนธสาร
๏ สรรเสริญจักรพรรดิภูบาล วิบุลคุณอุฬาร
แก้วก็เจ็ดประการ ธไพบูลย์
๑๒ พระจอมจักรพรรดินรินทรา นราธิราชก็เพิ่มพูล
ลุโสภณณะไอสูรย์ ประจักษทั่วณโลกา
๏ ธดำรงพิภพสถิตย ประหนึ่งอิศรธาดา
ภิบาลในพระภารา ขจัดภัยทุกทวยชน
๏ สถิตในราชสมบัติ พิไชยฉัตรธดำกล
ประมาณกาลก็จวบดล พระชนมาพิราไลย
๏ พระเชษฐบุตรถวัลยรัช ณสมบัติและเวียงไชย
ธสืบเนื่องพระวงศไท ธิราชเจ้านราบาล
๏ ก็เปนจักรพรรดิองค์ ธดำรงประเทศสถาน
ประมาณปีก็เนิ่นนาน สวรรคตนิราคลา
๏ ธสืบเนื่องพระจักรพรรดิ กระษัตรเจ็ดพระองค์มา
ผดุงเกียรติพระเดชา ตลอดด้าวธราดล
๏ ก็ด้วยเหตุวิบุลวัตร์ ทวาทัศกุศลผล
พระกอบธรรมโสภณ วิมลเลิศประเสริฐศรี
๏ พระจอมอารย์ประทานรส สุพจน์ธรรมวาที
จะให้เกิดสวัสดี ภิบาลองค์กระษัตรา
๏ ธเรศตรีประกอบกิจ พิพิธธรรมจรรยา
จะก่อเกิดพิพัฒอา ยุยาวยงดำรงนาน ฯ

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ