เดือน ๙ จุลศักราช ๑๒๓๙
วันศุกร์ ขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๙ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙
พระยาศรีเข้ามาอ่านตราถึงเมืองตากตอบที่มีมา ๑๐ ฉะบับนั้น กับได้ร่างสัญญาหม่องโคทำป่าไม้ พระอินทคิรีส่งขึ้นไปใหม่ด้วย พระยามหามนตรีเข้ามาหาว่าด้วยชำระความ พระชลธารเอาประกาศจองนาคลองนครเนื่องเขตต์ที่ตีพิมพ์มาให้ดู เขียนหนังสือถึงกาพย์ฉะบับหนึ่ง สั่งด้วยทำครัวให้เหมากับฟืนให้ซื้อเข้าม้าให้เบิกม้าเจ้าของ เบิกของหลวงให้มีแต่ตัวเดียว ถ้า ๒ ตัวกืให้รับราชการเหมือนม้าหลวง อย่าให้เอาไปเลี้ยงบ้าน รักษาให้เหมือนกฎหมายกวอตเตอมาศเตอ กับเขียนถึงพระยาสุจริตฉะบับหนึ่ง ตอบที่ได้รับหนังสือไปรเวต ๒ ฉะบับ ว่าด้วยศาลต่างประเทศและเรื่องหนังสือพระยาศรี
พระยาภาษส่งหนังสืออาลบาศเตอ ๒ ฉะบับๆ หนึ่งว่าด้วยแผนที่คลองเปรมประชากร ส่วนตัวยังทำไม่แล้ว เพราะการมาก แต่ส่วนเจ้าปฤษฎางค์นั้นแล้วๆ แล้วว่าด้วยเจ้าปฤษฎางค์ไม่มีเงินเดือนด้วย ฉะบับหนึ่งว่าด้วยเงินเดือนๆ ๔ ปีจอที่ยังไม่ได้นั้น ส่วนตัวมีการมาก ได้สั่งหมอสายให้ไปชี้แจงไกล่เกลี่ยให้เข้าใจ รับหนังสือกาพย์ว่าด้วยหลวงสรจักรลาไปรักษาพระยาธรรมจรรยาที่ป่วย ตอบไปฉะบับหนึ่งยอมให้ไปแต่เงินเดือนเป็นหาฟเป การให้เปซายันว่าแทนเพิ่มเงินเดือนขึ้นอีก ๘ บาทเป็น ๓๒ บาท พระนายศรีเอาหนังสือเจ้าพระยาภาณุวงศ์ชี้แจงความประสงค์ที่ให้ออกไปพูดด้วยคอเวอนแมนต์เมืองบัตเตเวียมาให้ดู กรมภูธเรศยื่นสารบบใบสัจรับมา เดิม ๖๒๓ เรื่อง แต่มีตัวลูกแต่ไม่มีตัวความ ๑๔๗,๔๗๖ ตระลาการยื่นบัญชีว่า สัจค้างพระยาไกรศรีแต่ตรวจดูที่รับมาไม่มี ๕๖ เรื่อง
ออกขุนนาง พระนรินทรอ่านบอกเสมอใจฉะบับหนึ่ง ส่งสำเนาหนังสือพระนราฉะบับหนึ่ง พระยารัตนเศรษฐีฉะบับหนึ่ง คำให้การจีนเตียวจีนเตียบฉะบับหนึ่ง ว่าด้วยจีนเตียวจีนเตียบตั้งกองประชุมพวกจีนในกงษีที่เมืองระนองล่วงคำประกาศพระนายไวย แล้วส่งหนังสือคุณสุรวงศ์ตอบด้วยว่าจะจัดกองมอญขึ้นไปรับปืนที่สระบุรี พระพิเรนทรรวมความนครบาลปีมะแม วอก ระกา จอ กุน ชวด ฉลูนพศก รวม ๒๙๙ เรื่อง กับคำลูกขุนปรึกษาความอำแดงไทยโจทย์นายสิตนายสาตเขียนจีนเล็กจีนใหญ่ รั่ง, นา, เซง, จำเลยว่า ด้วยนายสิตเอาจอบตีนายคล้ำตาย นายเสอยื่นจำนวนคนคุก รับหนังสือกรมอดิศรว่าด้วยจะจัดทหารแตรฉะบับหนึ่ง ได้เขียนหนังสือสั่งกาพย์ว่าแตรให้กรมอดิศรว่าไปตามเดิม เซ็นฎีกา ๓ ฉบับ ตั้งกาพย์เป็นผู้รับพระบรมราชโองการ เมื่อคืนนี้ยายแก่คนหนึ่งอาศัยอยู่เรือนทับทิมพนักงานพระแสงนั่งผูกคอตายที่หน้าต่าง ได้สั่งให้เจ้าของเรือนสมโภชประตูวัง ฟังเทศน์
วันเสาร์ ขึ้น ๒ ค่ำ เดือน ๙ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙
ท่านกลางมาหาพูดเรื่องที่บ้านซึ่งพรหมบริรักษ์ และจ่ายวดขอ พระยาอภัยรณฤทธิ์มาพูดด้วยขัดข้องความนครบาลศาลชาติสุเรนทร ได้สั่งให้เอาตามนั้นเป็นถูกต้อง เขียนหนังสือถึงกรมอดิศร ว่าด้วยแตรนั้นไม่ได้ถอดถอนอะไรให้คุมไปตามเดิม กรมพิชิตยื่นริโปดความเดือน ๘๘ ความเดิม ๕๑ ความใหม่ ๙ ความแล้ว ๑๔ เรื่องคงพิจารณารวม ๖๐ เรื่องนั้น ๔๘ เรื่อง อีกฉะบับหนึ่ง รวมความยื่นเดิมทั้งเก่าใหม่ทีแล้วไปในจำนวนเดือน ๖, ๗, ๘, แล้ว ๖๘ ใหม่เดือน ๘๘ แล้วอีก ๒๗ เรื่อง รวมเป็น ๙๕ เรื่อง จมื่นวิชัยชุทธยื่นจำนวนปืนสไนเดอจ่ายทหารรวม ๑๒๓๓ บอกกับขุนอมรศักดาวุธลาไปเยี่ยมบิดาเมืองพระพิศณุโลก ๒ เดือน กาพย์จดหมายมาบอกว่านายศรพลลาไปแต่งงาน
ออกขุนนาง พระศรีอ่านบอกเมืองสุพรรณฉะบับหนึ่งว่ามีผู้ร้ายปล้น ๔ ราย ตั้งแต่เดือน ๗ แรม ๘ ค่ำถึงเดือน ๘๘ ขึ้นค่ำ ผู้ร้ายนั้นจับตัวยังไม่ได้ๆ แต่เจ้าสำนักที่เมืองอ่างทอง ได้สั่งให้พระพรหมบริรักษ์ออกไปชำระ กับได้สั่งให้กระลาโหมกรมท่ามีตราไปเมืองนครชัยศรีและกาญจนบุรี ช่วยสืบจับผู้ร้ายด้วย
พระยาพิพัฒโกษา ลาเจ้าหมื่นศรีสรรักษ์ และนายหนูไปราชการเมืองบัตเตเวีย ให้เสื้อยศและกระบี่กับดุมเสื้ออิฟนิงเดรสและกั๊กเป็นไปรเวตด้วย
คืนคำปรึกษาซึ่งพระพิเรนทรมาให้ไปฉะบับหนึ่ง กับกาพย์จดหมายว่าด้วยเสื้อทหารไม่พอกับคน แล้วจดหมายตอบกาพย์ด้วยเรื่องเสื้อทหารให้มีให้ครบตัวทหาร และให้คิดจ้างจีนเย็บเพราะลอรีแพงนักด้วยฉะบับหนึ่ง เซ็นใบสั่ง ๓ ฉบับ พระยาภาษนำหนังสือที่จะมีไปถึงคอลอแนลแอนซันฉะบับหนึ่ง เซ็นชื่อแล้วให้เจ้าหมื่นศรีถือไป เจ้าหมื่นศรีนำหนังสือเสมอใจมาให้ว่าด้วยลูกพระยาไชยสุรินทร์นำบาญแผนกสุราเมืองสมุทสงครามกาญจนบุรีราชบุรีที่ถอดจีนอุ่นนายอากรจีนแหยมประกันจีนเทงเจียงตัวอากร จีนตาดรับประกัน ทำใหม่ ๙ เดือน ๓๙๘ ชั่ง ๕ ตำลึง กาพย์ยื่นริโปดทหาร ในริโปดมีว่านายเฉลิมบิดพลิ้วได้จดหมายตอบไปให้เรียกมาว่าเสียสักครั้งหนึ่งก่อน กับให้คิดแบ่งดิวีชั่นด้วย ฟังเทศน์ด้วย
วันอาทิตย์ ขึ้น ๓ ค่ำ เดือน ๙ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙
พระยามหามนตรี พระอินทรเทพ พระพรหมบริรักษ์มาพูดด้วยเรื่องเจ๊กวิ่งราว กงซุลโปรตุเกศมาหาว่าจวนจะไปขอให้ชำระความเสียให้แล้วเร็วๆ กับพูดเรื่องตราเครื่องราชอิสสริยยศว่าราชทูตเข้ามาครั้งแผ่นดินทูลกระหม่อมได้รับไปจะขอเปลี่ยนอย่างใหม่ (เป็นการจองเอาเพราะได้คิดสอบปีตราออกแล้วปด) ได้ตอบไปตกลงเป็นยอมกัน แล้วเขียนหนังสือถึงท่านกรมท่าฉะบับหนึ่ง บอกเรื่องที่กงซุลโปรตุเกศมาพูดเขียนหนังสือถึงเซอแอนครูคลากไปรเวต และส่งต้นคอเรศปอนเดนเรื่องความหม่องไป๊ไปด้วย กับมิศเตออิเดนเลบเตอแนนเกาวนาด้วยฉะบับหนึ่ง ลูกหญิงทองมาให้ชื่อประสบสุวรรณ พระยาราชว่าด้วยเข้าแพงน้ำน้อยกลัวจะเกิดโจรผู้ร้ายเพราะโรงสีแย่งกันซื้อมาก ซื้อขายกันเดี๋ยวนี้ถัง ๔๐ ทนาน ๘๐ สัดเป็นเกวียน เข้านาทุ่งเกวียนละ ๑๕ ตำลึง นาปักเกวียนละ ๑๖ ตำลึง ๑ บาท นาสวนเกวียนละ ๑๖ ตำลึง ๓ บาท ได้เขียนหนังสือถึงท่านกรมท่าให้เร่งปรึกษาสมเด็จเจ้าพระยา จะได้ออกไปประกาศปิดเข้าเสีย ส่งต้นหนังสือพระยาราชไปด้วย
ออกขุนนาง พระยาศรีอ่านบอกเมืองพระตะบองว่าลูกค้าไปค้าสืบได้ความว่า นักองค์วัดถามาตั้งอยู่เมืองตะโพงขมุง นโรดมจัดทัพไปรบวัดถาจะยอมแล้วจะอยู่ที่เมืองดะโพงขมุง นโรดมไม่ยอมจัดคนและเรือไปรับ จะให้มาอยู่เมืองพนมเปญ ภายหลังวัดถาหนีเสียก่อนนโรดมให้ตามจับ พระนรินทรอ่านบอกเมืองราชบุรีส่งเงินค่านาสิ้นจำนวน พระยาพิพัฒอ่านบอกเมืองนครชัยศรีจับหม่อมหลวงแฉล้มคุมกระบือไปไม่มีหนังสือสำหรับตัวและเดินทางว่าไม่ทราบหมายประกาศกรมการ ได้สั่งไปให้ว่ากันเสียเพราะฟ้องกันเอง เจ้าพระยามหินทรยื่นจำนวนเกณฑ์เลขสมกำลัง ๕ จำนวน แต่จำนวนฉลูสิ้นปีจึงจะบอก คง ๔ จำนวน คน ๑๕๙๔๑๗ คน ยกไม่เกณฑ์ ๕๘๑๒ คน คิดเงิน ๒๕๙ ชั่ง ๑๓ ตำลึง ๓ บาท ๒ สลึง คงเกณฑ์ ๑๕๓๖๐๕ คน เก็บ ๕๐๕๗ ชั่ง ๑๖ ตำลึง ๓ บาท ยก ๒๕๒๘ ชั่ง ๑๘ ตำลึง ๑ บาท ๒ สลึง รวม ๗๕๘๖ ชั่ง ๑๕ ตำลึง ๒ สลึง พระยาศรีนำหนังสือพระยาคทาธรไปรเวตบอกมาถึงว่า สืบราชการเมืองเขมรว่าคับแค้นเข้ามาก ได้คัดสำเนาไว้ด้วยกรมมหาดไทยยื่นริโปดความเดือน ๘๘ ความเดิม ๖๗ ใหม่ ๑๖ รวม ๘๓ นั้น แล้วไป ๒๐ เรื่อง คงค้าง ๖๓ เรื่อง กาพย์จดหมายมา ๓ ฉะบับ ๆ หนึ่ง ว่าด้วยจะเหมาทำสำรับเลี้ยงทหาร ฉะบับหนึ่งว่าด้วยจัดแบ่งเซกชั่นและจดหมายถึงทหารที่หนีให้มาหา กับหมึกปากกาจะให้ซื้อจ่ายหรือเป็นของนายกอมปนี กับได้ส่งจำนวนแบ่งเซกชั่นมาด้วย ได้จดหมายตอบไปฉะบับหนึ่ง เซ็นใบสั่งหนึ่งใบ พระเศวตวรสรรพางค์เจ็บเป็นไข้สารสมทมแต่วานนี้ เวลาเช้า ๒ โมง ตายเวลา ๘ ทุ่มเศษ
วันจันทร์ ขึ้น ๔ ค่ำ เดือน ๙ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙
ท่านกรมท่าส่งสำเนาหนังสือกงซุลฝรั่งเศส ว่าด้วยเรือรบอันติลบเข้ามาส่งกงซุลคนใหม่ จดหมายถึงพระยาเทพประชุนข้าหลวงเมืองเชียงใหม่ฉะบับหนึ่ง ส่งสำเนาหนังสือมิศเดอเฟาลถึงสีเกรตรีร่างกุ้งฉะบับหนึ่ง สีเกรตรีร่างกุ้งตอบฉะบับหนึ่ง กับสำเนาหนังสือถึงคุณสุรวงศ์ฉะบับหนึ่ง คุณสุรวงศ์ตอบฉะบับหนึ่ง กับสำเนามีไปถึงมิศเตออิเดนแลบเตอแนนเกาวนาเบงคอลฉะบับหนึ่ง มิศเตออิเดนมีตอบมาฉะบับหนึ่ง รวม ๖ ฉะบับด้วยกัน ให้ไปคิดราชการ กับที่ปรึกษากับพระยาสุจริตเรื่องทำทางและเขตต์แดนเมืองเชียงใหม่เห็นการอย่างไรให้บอกมาด้วย
เขียนหนังสือ ถึงพระสุจริตให้แต่งกรมการเอาหนังสือขึ้นไปให้พระยาเทพ แล้วเขียนถึงท่านกลางอีกฉะบับหนึ่ง เตือนชำระความที่กงซุลโปรตุเกศเตือน พระยาภาษเอาหนังสือแครฮานมาให้ฉะบับหนึ่ง ว่าพวกเจ้าพนักงานเอกซหิบิเชนได้มีหนังสือมาเชิญเขาไปแบ่งที่ตั้งของพร้อมกันกับพวกเมืองเอเชียทั้งปวง เขาไม่อาจไปเพราะยังไม่ได้ตราตั้งเจ้าพนักงานนั้นจึงมีตอบมาอีกฉะบับหนึ่งว่าดูเหมือนไทยจะไม่ไปตั้งของเขาส่งสำเนาเข้ามาด้วย แล้วเขียนหนังสือถึงเจ้าพระยาภาณุวงศ์ให้มีตราตั้งเหมือนหมอจันดเลเสีย พระยานุรักษ์ยื่นบัญชีทาสจำนวนปีฉลูเบ็ญจศก ๑๒๑๕ ที่จะช่วยให้กรมนเรศรวมบัญชี กรมพิชิตอ่านตัดสินความเรื่องหนึ่ง ท่านกลางจดหมายมาว่าน้าฉายเฉิดอ้อนวอนให้ช่วยขอเงินกลางปีให้ เขียนหนังสือถึงสมเด็จสั่งให้ยกเงินกรมพระเทวศให้น้าฉายเฉิดปีละ ๕ ชั่ง หม่อมเจ้าหญิงประสบสุวรรณลูกทองปีละ ๕ ตำลึง ให้แต่ปีหน้าไป พระยาศรีจดจำนวนพวกลาวฝ่ายเหนือไปทัพยังไม่ได้ตรามาให้
ออกขุนนาง พระยาศรีบอกลา พระพรหมบริรักษ์ หลวงศรีราชสงคราม ไปชำระผู้ร้ายสุพรรณ พระจงรณฤทธิ์ปลัดเมืองสวรรคโลกถือหนังสือพระสุริยภักดีมาลากลับขึ้นไปเมืองหลวงพระบาง พระนรินทรนำกอปีคำร้องสุราลายเซ็นที่กงซุลโปรตุเกศ ฝรั่งเศส วิลันดาไม่ยอม ไปยังท่านกรมท่าให้ส่งคอเวอนแมนต์ ให้เงินพระองค์วรรณวังหน้าค่าเรือนที่ไล่ที่ทำโรงรถ ๑๐ ชั่ง คืนคำลูกขุนปรึกษาพระพิเรนทรเอามาให้ตำรวจไปให้พิเรนทร หลวงเทพราชธาดา หลวงนายเดช หลวงไกรนารายน์ จ่ายงยื่นบัญชีทาส เซ็นใบสั่งจ่ายงาช้าง ๑ ฉะบับ ฎีกาด้วยฉะบับหนึ่ง แล้วกรมเจริญมานัดด้วยจะแห่ต้นโพธิไปวัดเทพศิรินทรวัน ๑๑ ค่ำ ท่านเล็กเขียนหนังสือมาเตือนด้วยทหารลูกหมู่
วันอังคาร ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๙ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙
รับเรื่องราวขุนวิถีธรรมสัญจรเรื่องหนึ่ง ท่านกรมท่าจดหมายมาขอกำหนดวันกงซุลฝรั่งเศสจะเฝ้าฉะบับหนึ่ง กับส่งสำเนาหนังสือมองซิเออเดอเวียนกงซุลใหม่แจ้งความฉะบับหนึ่ง สำเนาหนังสือเมซั่น ๒ ฉะบับว่าด้วยยังไม่ได้มากรุงเทพฯ และเรื่องจีนฉะบับหนึ่งว่าด้วยตั้งห้างวิลกินซอน เป็นห้างหลวงตามสั่งไปฉะบับหนึ่ง ส่งสำเนาหนังสือห้างวิลกินซอนขอบใจมาด้วยจดหมายตอบท่านกรมท่าฉะบับหนึ่ง นัดให้มาวัน ๙ ค่ำ กับเขียนถึงพระยามหามนตรีด้วยอีกฉะบับหนึ่ง ให้ทำบัญชีทหารลูกหมู่ที่จะให้ท่านเล็กว่าการมาให้
ออกขุนนาง พระยาศรีอ่านบอกน้ำฝนต้นเข้าเมืองลพบุรีว่าฝนแล้งมากทั้งมีตัวหนอนกินด้วย จะได้สักส่วนเสียห้าส่วน พระยาพิพัฒอ่านบอกเมืองสมุทปราการจับกระบือเมืองฉะเชิงเทราผิดพระราชบัญญัติ ชาติสุรินทรยื่นริโปดความเดือน
วันพุธ ขึ้น ๖ ค่ำ เดือน ๙ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙
เขียนหนังสือถึงเจ้าพระยามหินทรถามด้วยทาสพ้นค่าตัวเก็บค่าราชการอย่างไร แล้วเขียนหนังสือถึงพระยาราชให้ซื้อที่นาริมบางปอิน ๑๕๐๐ ไร่ กับกระบือด้วย ๑๐๐ ตัว สำหรับจะได้ให้ทาสที่จะช่วย คุณแพนำร่างประกาศปิดเข้าและหนังสือถึงกงซุลต่างประเทศที่ท่านกรมท่าส่งมาให้ เขียนหนังสือตอบแล้วแก้ไปด้วยฉะบับหนึ่ง กาพย์จดหมายบอกมาด้วยคนออดรีเวนออกนั้น ว่าให้เปลี่ยนกันเข้ามาวันละคนทุกๆ กอมปนีเงินเดือนเป็นหาฟเป แต่หมอนั้นว่ารักษาไม่เต็มมือ ได้อาศัยหมอคนทหารในกอมปนี ๖ และยาหมอกาวัน จมื่นวิชัยชุทธมาบอกด้วยเลขสมัคทหารเมืองเพ็ชร์ ๑๐๐ คน ออกไปพระที่นั่งอมรินทรทำขวัญนาคเทวาธิราช และหลวงนายฤทธิ์พูดกับสมเด็จเรื่องเมืองเชียงใหม่ พระยาพิพัฒอ่านบอกเมืองนนท์จับกระบือ กับพระอินทราสาเจ้าเมืองพนัศนิคมให้
วันพฤหัสบดี ขึ้น ๗ ค่ำ เดือน ๙ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙
วันนี้เปลี่ยนสมุดใช้กระดาษใหญ่เป็นราชการวันแรก เช้า ๕ โมงเศษไปวัดพระแก้วบวชนาคเทวาธิราชหลวงนายฤทธิ์บ่าย ๒ โมงเศษกลับ รับหนังสือท่านกรมท่าฉะบับหนึ่ง ว่าด้วยประกาศปิดเข้าครั้งปีชวดฉอศกนั้นผิดกันกับครั้งนี้ เพราะห้ามไทยก่อนฝรั่งเดือนหนึ่ง แต่ครั้งนี้คิดจะผ่อนให้เสมอกัน อนึ่งได้ให้พระศรีธรรมสาสนเอาร่างประกาศไปให้สมเด็จเจ้าพระยาดูที่ราชบุรี เขียนหนังสือตอบไปฉะบับหนึ่งว่าพระศรีธรรมสาสนกลับมาให้ออกประกาศเถิด
กรมพิชิตนำขัดข้องลูกขุนร้องด้วยลักษณพยานช้อ ๗ ซึ่งสมเด็จเจ้าพระยาตั้งไว้ ว่าให้รับอุทธรณ์พยานขึ้นลูกขุนปรึกษา บัดนี้พยานอุทธรณ์ต่อกันไปเหลือที่จะสั่งฟ้อง ได้เขียนจดหมายถึงสมเด็จเจ้าพระยาที่เมืองราชบุรีส่งคำลูกขุนร้องไปให้ตรึกตรองด้วย พระยาราชมีหนังสือมาฉะบับหนึ่ง ตอบที่จดหมายไปเมื่อวานนี้ ว่าที่นาที่บางปอินจะซื้อมากนั้นไม่ได้เพราะไม่มีที่ จะขอขึ้นไปตรวจดูการ เห็นจะต้องขุดคลองจึงจะได้ที่นา แต่กระบือนั้นจะให้กรมการจัดซื้อให้ได้ ได้จดหมายตอบไปฉะบับหนึ่งว่าด้วยซื้อที่นา ซื้อกระบือ และการบรรจุพระเจดีย์วัดนิเวศน์ธรรมประวัติ และทำพิธีพิรุณศาสตร์ที่บางปอินด้วย เขียนหนังสือถึงพระองค์ดิฐฉะบับหนึ่ง สั่งให้ไปถามฤกษ์บรรจุพระเจดีย์ที่สมเด็จกรมพระ และที่จะหล่อพระชนม์พรรษา วัน ๖ ค่ำนั้นเป็นได้ เจ้าพระยามหินทรตอบเรื่องเลขทาสที่ถามไปว่า เลขทาสพ้นค่าตัวแล้วต้องสักเป็นสมเก็บข้าราชการตามหมู่หรือตามสมัค แต่ครั้งนี้จะเป็นการทำบุญแล้วก็แล้วแต่จะโปรด กรมนเรศเอารายงานบางปอินมาให้ดู
กาพย์เขียนหนังสือมาว่า หม่อมราชวงศ์เจริญนั้นพระยาภาสขอให้ไปทำบางกะโลที่บางปอิน แต่เงินเดือนนั้นเป็นหาฟเป การนั้นนายกอมปนีรับไป เขียนตอบฉะบับหนึ่งยอมให้หม่อมราชวงศ์เจริญไปทำการ และหมอนั้นจะเพิ่มขึ้นอีก ๒ คนผลัดเปลี่ยนกันกับริโปดทุก ๆ วันนั้นให้จดแต่สั้นๆ ทีแรกจึงลงชื่อกับจำหน่าย
ออกขุนนาง นายเล่ห์อาวุธลาไปว่าราชการเมืองตะกั่วทุ่ง พระยาพิพัฒอ่านบอกเมืองพนัศนิคมส่งเงินค่านา พระวุฒิการบอกรายปาราชิกอ้ายแจ้รับเป็นสัจ เขียนหนังสือถึงท่านเล็กบอกด้วยเปลี่ยนสมุดกอปีวันแรกตามเคย สารประเสริฐเอาหนังสือเจ้าพระยาภาณุวงศ์มาให้ ว่า ไปวิสิตตอบกงซุลฝรั่งเศสใหม่ ๆ ว่ากระแดนแฉลยังมาไม่ทัน แต่กงซุลเห็นว่าเฝ้าวันนั้นเป็นวันใหญ่อยากจะรับเอกซกวาดเตอเสียด้วย เขียนตอบไปฉะบับหนึ่งว่าจะให้เอกซกวาดเตอไปก่อนนั้นเก้ออยู่จะมีแต่คำสปิชรับกงซุลเท่านั้น แต่การที่เขาจะว่าไม่เชื่อนั้นให้ชี้แจงความในเอกซกวาดเตอเสียด้วย ตั้งความมรดกวันก่อนให้หลวงนายเดชไป ๒ เรื่อง
วันศุกร์ ขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๙ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙
ท่านใหญ่นำธูปเทียนขึ้นมาลาว่าชายสุภสวัสดิ์ของเกษมสันต์ตายแล้วลาไปรดน้ำด้วย เขียนหนังสือถึงพระยารองเมืองฉะบับหนึ่ง ว่าด้วยที่พระวินัยรักขิตหน้าบ้านลาวกรมม้าคลองเปรมประชากร ว่าจมื่นไกรเพ็ชรพาพวกไปปลูกเรือนได้ไปว่าพระยารองเมืองตัดสินไม่ตกลงเอามายกให้ศรีวิไลยนั้น ความอย่างไรให้บอกมาให้ทราบ กับเตือนเรื่องทาสที่จะช่วยด้วยรับหนังสือท่านกรมท่าว่าพระศรีธรรมสาสนกลับมาแต่ราชบุรี สมเด็จเจ้าพระยาตอบมาเห็นด้วยในการปิดเข้านั้น ส่งต้นหนังสือสมเด็จเจ้าพระยาเข้ามาได้คัดไว้ฉะบับหนึ่ง กับได้เรียกล่ามกงซุลมาชี้แจงเรื่องเอกซกวาดเตอด้วย เขียนตอบท่านกรมท่าให้ออกประกาศวันแรมค่ำเดือน ๙ ปิดเดือน ๑๐ แรม ๒ ค่ำ กับที่ไม่ต้องให้เอกซกวาดเตอนั้นดีแล้ว เขียนหนังสือถามข่าวชายสุภสวัสดิ์ของเกษมสันต์ตายฉะบับหนึ่ง เย็นขี่รถไปทางถนนบำรุงเมืองแวะวัดเทพศิรินทร แล้วกลับทางถนนเจริญกรุงแวะสวนสราญรมย์เก็บกรรณิกาหน่อยหนึ่งกลับ พระองค์ดิฐเขียนหนังสือเข้ามาว่าไปเฝ้าสมเด็จท่านกำหนดวันที่จะตั้งพิธีพิรุณศาสตรที่บางปอินวันแรม ๑๐ ค่ำ ๑๓ ค่ำ สิ้นการพิธีบรรจุพระเจดีย์ทีเดียว แต่จะหล่อพระชนม์พรรษาวันแรม ๒ ค่ำนั้นขอเลื่อนไปวันขึ้น ๔ ค่ำเดือน ๑๐ ให้พ้นเขตต์จันเสียหน่อย ส่งเงินถวายสมเด็จช่วยในการทำวัด ๑๐๐ ชั่ง ทองฝากกล้องเป็นรูปผู้หญิงนอนเป็นกล้อง ๓ คันมาให้ ได้สั่งเงินให้ทองทำบ้านครั้งที่ ๔ เป็นสิ้นจำนวนเงิน ๒๐ ชั่ง แล้วเขียนจดหมายไปด้วยฉะบับหนึ่ง รับสำเนาคำสปิชกงซุลฝรั่งเศสส่งมาแต่ท่านกรมท่า วันนี้น้าประเสริฐศักดิ์เอาความพระรจนากับหลวงอุทยานาธิกรที่ชำระมาให้ ฟังเทศน์ มหาบุญเทศน์
วันเสาร์ ขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๙ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙
กาพย์มีหนังสือมาว่าด้วยตระลาการในทหาร เดิมพระยาภาษจ้างหลวงสิทธิพลไชย นอกราชการ กับให้นายจีนมหาดเล็กเวรศักดิ์เป็นสารวัดมาช่วยชำระ กาพย์ขอนายจีนไปเป็นตระลาการขาดทีเดียว แต่หลวงสิทธิพลไชยนั้น ขอยกเสีย เพราะการนั้นมีน้อยได้เขียนจดหมายตอบไปฉะบับหนึ่งยอมตามนั้น กับได้สั่งให้คิดจัดทหารที่จะไปบางปอินแรม ๗ ค่ำเสียด้วย
ออกอมรินทรแต่งตัวเต็มยศทหารมหาดเล็ก เจ้าขุนนางเสื้อเยรบับเข้มขาบ มองซิเออชาเลเดอเวียเนกงซุล ๑ ล่าม ๒ ออฟฟิศเซอในเรือแอนติลบ ๖ คน รวม ๙ คน กงซุลสปีชแล้วเราก็สปีชตอบ พระยาศรีมาหาจดสารบบความนครบาลเคาน์ซิลชำระมาให้เดิม ๕๙๑ แล้ว ๑๘๕ ส่งกลับไป ๔๐๘ เรื่อง แล้วออกตัวด้วยเรื่องกรมทหารเมืองสุพรรณบอกว่าอ้ายปลอดผู้ร้ายจำไว้คุกออกไปได้ไปทำร้ายที่เมืองสุพรรณ แต่ไม่ทราบว่าไปได้ด้วยเหตุใด ได้สั่งพรหมบริรักษ์พร้อมกันกับพระยามหามนตรีว่าให้คิดจับตัวถ้าเหลือกำลังแล้วแต่การ แต่ยังไม่ได้มาบอกสั่งไป แต่อ้ายปลอดหนีไปได้นั้นได้ความผู้คุมให้มีประกัน วันนี้สั่งเงินค่าของ ๔ ฉะบับ สั่งเงินให้ขุนมหามณเฑียรานุรักษ์ช่วยการทิ้งกระจาดเจ้า ๑๐ ตำลึง
พระเทพผลูเอาคำปรึกษาวางบทความอ้ายจีน อ้ายโจทย์ อ้ายจ๊อก อ้ายปั้น อ้ายปาน อ้ายปุ้ย อ้ายเป้า อ้ายรื่น จำเลยไปย่องเบาฆ่าจีนเหียบตาย อ้ายปานเป็นผู้ลงมือ
วันอาทิตย์ ขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๙ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙
กรมพิชิตอ่านตัดสินความอุทธรณ์ตระลาการเรื่องปาราชิกเรื่องหนึ่ง แล้วพูดเรื่องความนครบาลเก่า เขียนหนังสือถึงท่านยมราช ต่อว่าด้วยความนครบาลปีจอและปีกุนสัปตศกที่ยื่นกรมพิชิตมีแต่โจทย์จำเลยหนีเสียเป็นอันมาก ครั้นจะให้ตำรวจชำระโจทย์จำเลยก็ไม่มีก็จะค้าง จึงยอมให้ท่านยมราชกับพระพิเรนทรเป็นผู้ช่วยชำระการต่อไปอย่าให้เป็นดังนี้ได้อีกฉะบับหนึ่งสั่งประหารชีวิตอ้ายปานที่พระเทพผลูยื่น ท่านกรมท่าส่งสำเนาหนังสือมิศเตออับกากงซุลเมืองกัลกัตตาบอกด้วยคอเวอนแมนด์อินเดียรับเป็นกงซุลแล้วออกประกาศด้วย ได้ส่งประกาศนั้นมาด้วย
ออกขุนนางพระยาศรีอ่านบอกพระยาประทุมเทวาเมืองหนองคายว่าไปสืบราชการเมืองเชียงขวาง ได้ความอย่างบอกพระสุริยภักดีนั้น แล้วพระยาศรีบอกว่าพระปรีชาให้ปลัดเมืองปราจิณคุมตัวจมื่นทิพเสนาเข้ามาได้สั่งให้จำแล้ว ให้พระยาอภัยรณฤทธิ์พระยามนตรึพระยาศรีชำระ ๆ สองอย่างไม่ได้ราชการหนึ่ง กับที่มีผู้ฟ้องหนึ่ง พระยาพิพัฒอ่านบอกเมืองนนท์ว่า เผาศพหลวงสยามขยันนนทเขตต์ แล้วยื่นหนังสือฉะบับหนึ่ง ว่าเมืองนครชัยศรีบอกเข้ามาว่าขุนราชภักดีกำนันบ้านอ้อมใหญ่มาลุแก่โทษ กล่าวโทษขุนสุพรรณภาษีว่าตั้งพวกประชุมกันเป็นตั้วเหี่ย หลายแห่ง
พระศรีกาฬสมุด ยื่นขัดข้อง กรมสัสดีด้วยเจ้าพนักงานรับเงินกรมพระคลังมหาสมบัติจะให้ยื่นรายคนให้เลอียดผิดกับข้อพระราชบัญญัติกรมสัสดี กับจะให้เผาเงินส่งนั้น เจ้าพนักงานสัสดีไม่มีเงิน ใช้การประโยชน์สิ่งใดไม่ได้ เขียนหนังสือถวายสมเด็จว่าด้วยคิดสอบเครื่องตวงวัดชั่งที่สั่งมาแล้วให้ออกประกาศเสียฉะบับหนึ่ง อีกฉะบับหนึ่งส่งต้นหนังสือขัดข้องกรมสัสดีไปให้ท่านตัดสิน วันนี้คุณสุรวงศ์กลับมาถึงแต่ทะเลได้เขียนหนังสือคัดสำเนาหนังสือเมืองนครชัยศรีบอกส่งไปให้คิดด้วย กาพย์มีหนังสือมาฉะบับหนึ่ง ว่าด้วยคเดดดิศเข้ามาอยู่ในวัง กับแตรนั้นไม่รู้จำนวนเข้าเวรตรวจไม่ได้ และส่งตัวอย่างริโปดมาด้วย ตอบไปถึงกาพย์ฉะบับหนึ่ง ว่าให้คเดดเข้าเวรกับเพิ่มเงินเท่าซายันต์ออกเดือนหาฟเป กับจดหมายถึงกรมอดิศรด้วยอีกฉะบับหนึ่ง ว่าให้ยื่นจำนวนแตรเข้าเวรกับผู้รับพระบรมราชโองการเสีย ฟังเทศน์ โหรทั้งปวงคำนวณจันทรุปราคาวัน ๑๔ ค่ำมายื่น
วันจันทร์ ขึ้น ๑๑ ค่ำ เดือน ๙ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙
กรมพิชิตอ่านตัดสินความ รับหนังสือพระยาราชแต่เปิดดูเป็นบัญชีค่านาจำนวนปีจอฉศกที่ได้ส่งคลังมหาสมบัติเงินฉะบับหนึ่ง อีกฉะบับหนึ่งตั้งแต่ปีกุนตรีศกถึงปีระกาเป็นปี ๆ ไป
เวลาบ่าย ๔ โมงเศษไปวัดเทพศิรินทรทางถนนเจริญกรุงแล้วเลี้ยวทางหน้าบ้านหมอสาย ไปนั่งที่พลับพลาเรียกกระบวนแห่ ๆ แล้วเกือบย่ำค่ำ ขึ้นเสลี่ยงไปในวัดจุดเทียนรับศีล แล้วควงต้นโพธิ์ขึ้น พอขึ้นบนฐานแล้ว ไปดูให้เอาลงที่เวลาเกือบทุ่มสวดมนต์แล้วกลับทางถนนบำรุงเมือง รับหนังสือกาพย์ว่าด้วยนายฤทธิ์โปรโวตซายันต์ จับนายเป้าทหารแตรเมาสุราด่าด้วย เขียนหนังสือตอบฉะบับหนึ่งให้พร้อมกับกรมอดิศรชำระได้จริงให้ทำโทษ คุณสุรวงศ์ตอบด้วยเรื่องขุนสุพรรณภาษีประชุมจีนตั้งพวกเป็นตั้วเหี่ยฉะบับหนึ่ง ว่าขอตั้งพระยาโชฎึกพระยารองเมืองพระนรินทร หาจีนหัวหน้ามาทำทานบนอย่างสมเด็จเจ้าพระยาทำเมื่อปีมะโรงสัมฤทธิศก พระวุฒิการจดจำนวนพระ ๓ คณะที่รับฉะบับและลานไปสร้างคัมภีร์วัดนิเวศน์ธรรมประวัติ ๑๐๕ คัมภีร์นั้นแล้วไป ๕๔ คัมภีร์ ฟังเทศน์
วันอังคาร ขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๙ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙
เขียนหนังสือถึงคุณสุรวงศ์ฉะบับหนึ่ง ว่าที่จะตั้งตระลาการ ๓ นาย เรียกจีนหัวหน้ามาทำทานบนนั้นก็ดีแล้ว แต่ขอเติมท้ายหน่อยหนึ่งว่า การซึ่งจีนประชุมกันนี้มักจะเป็นการโจรผู้ร้ายและเป็นอันตรายแก่ภาษีอากร ถ้าเหตุเกิดขึ้นแล้วขอให้เสนาบดีช่วยกันให้มาก ๆ อย่าเฉยเสีย รับหนังสือคุณสุรวงศ์ฉะบับหนึ่ง ว่าคูลนิตทำแผนที่ตัวอย่างตึกดินใหม่แล้วขอเข้ามาหาพร้อมกับพระมหาสงครามด้วย สมเด็จเจ้าพระยามีหนังสือตอบมาฉะบับหนึ่ง ด้วยเรื่องลูกขุนร้องขัดข้องลักษณพยาน แต่ท่านเห็นความดีแล้วแต่เติมที่ขาดบ้างเล็กน้อย แล้วท่านมาหาด้วยกลับแต่ราชบุรี เรื่องขัดข้องลูกขุนนั้นตกลงเป็นให้รับค้านพยาน แต่ต้องสืบว่าจริงหรือไม่จริงให้ตระลาการมีอำนาจ แต่ข้อที่ตระลาการเข้ากับลูกความแล้วให้ฟ้องได้ในกำหนด ๗ วัน กับเรื่องต่างๆ ได้ปรึกษาอีกหลายเรื่อง
ท่านกรมท่า ส่งสำเนาหนังสือเมซั่นว่าด้วยมีผู้จะรับการแทนแครฮานในการเอกซหิบิเชนฝรั่งเศส ซึ่งแครฮานป่วยนั้นกับเรื่องเด็กไปเรียนหนังสือเยอรมันนั้นยังไม่ได้รับหนังสือท่านกรมท่า อีกฉะบับหนึ่งสำเนามิสเฟาล์กงซุลสยามที่ร่างกุ้งบอกว่าส่งหนังสือและหีบเพลง ๓ หีบของบาบูสะอินโดรมะหุนเตกออยู่ที่กัลกัตตามาให้ แต่ได้รับหนังสือหีบเพลง ๓ หีบยังไม่ได้ เขียนตอบท่านกรมท่าฉะบับหนึ่ง ว่าด้วยแขกให้ของนั้นยังไม่ได้รับให้รอตอบไว้ก่อน แต่หนังสือเมซั่นนั้นได้สอบกับหนังสือแครฮานมีมานั้นวันสูงกว่าเมซั่น ๆ เขียนทีหลัง กับเรื่องเด็กนั้นเห็นท่านเล็กจะมีหนังสือไป กับสมเด็จเจ้าพระยาท่านพูดว่าควรจะมีไวสกงซุลหรือแอคติงกงซุลที่มรแมน ให้มิศเตอเฟาล์หาคนตั้ง รับหนังสือพระยาราชบอกด้วยที่นาวัดนิเวศน์ธรรมประวัติซื้อได้ กับกรมนเรศเอาหนังสือแกรซีฟ้องหลวงวิเศษว่าให้เจ้าปูนขายปูนราคาแพง กับเจ้าภาษีเก็บเงินภาษีเป็น ๒ ชั้นมาให้ดู ได้ตอบพระยาราชฉะบับหนึ่ง ว่าจะซื้อที่นาต่อฤดูหน้า กับส่งสำเนาหนังสือแกรซีร้องที่กรมนเรศไปให้ว่ากล่าวเสียให้แล้วด้วย รับหนังสือกาพย์ว่าด้วยชำระนายเป้าได้ตามหา ขอทำโทษอย่างสูง กับหลวงศัลยุทธไปบ้านเกินกำหนด ๑๐ มินิต นายสารการเกิน ๒ ชั่วโมงกับ ๔๕ มินิต ได้ตอบฉะบับหนึ่งให้ทำโทษ กับหลวงศัลยุทธนั้นเป็น ๒ หนแล้ว แต่เวลาน้อยให้ยกโทษเสียก่อน ถึงนายสารการนั้นเกินเวลามาก แต่เป็นการคราวแรกยกไว้
ออกขุนนาง พระยาศรีอ่านบอกเมืองนครสวรรค์ ๒ ฉะบับ ๆ หนึ่งว่าคนคุมช้างมา ๒ ช้าง พัง ๑ พลาย ๑ กำนันไปถามว่ามีตั๋วพิมพ์หรือ คนก็โดดหนีไป ได้ออกประกาศให้เจ้าของมารับช้างก็ยังไม่มีใคร ฉะบับหนึ่งน้ำฝนต้นเข้า หลวงเทียรฆราชมาเอาผ้าแดงเหนือลงมาให้ ๒๐ ผืน พระนรินทรอ่านบอกเมืองราชบุรี น้ำฝนต้นเข้า เซ็นฎีกา ๒ แซงชั่น ๒ หลวงนายเดชส่งคัดฟ้องมรดกเซ็นไปให้ชำระเรื่องหนึ่ง
วันพุธ ขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือน ๙ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙
วันนี่ได้สั่งสรรเพธให้เป็นเจ้าหมู่คนที่จะช่วยในวันเฉลิมพระชนม์พรรษา กับสั่งให้กรมพิชิตเป็นผู้ช่วยวางเงินและถามไถ่ที่อัฏฏวิจารณ์ศาลาด้วย พระมหาสงครามกับคูลนิตเอาแผนที่ตึกดินและตัวอย่างมาให้ดู แล้วคูลนิตเอาแบบพระที่นั่งต่าง ๆ ให้ดูด้วย วันนี้สั่งให้รื้อหลังคาพระที่นั่งสมมติเทวราชอุปบัติทำห้องกินเข้าด้วย พระยาจ่าแสนย์เข้ามาบอกว่าพระยานุภาพไตรภพบอกมาฉะบับหนึ่ง ว่าพระมโนจำนงเจ้าเมืองมโนไพรฟ้องมาว่า พระสุริยภักดีกรมการเมืองเก็บเข้าแก่ราษฎรคนละ ๕ ถัง ส่งให้กองทัพพวกนักองค์วัดถา ได้สั่งให้เอาตัวมาชำระ กับพระนครพราหมณ์บอกถึงพระยาจ่าแสนย์ว่าจับผู้ร้ายได้ ผู้ร้ายซัดต่อๆ ว่าคนนั้นคนนั้นปล้นที่นั้นๆ จะให้ชำระต่อไปหรืออย่างไร ได้สั่งไปว่าถ้าไม่มีโจทย์แล้วก็ไม่ต้องชำระเพราะจะเป็นการสาวความยาวนัก แล้วยื่นสารบบความรวมทั้งเก่าใหม่ที่ได้ยื่นมาแล้วจนถึงเดือน ๘๘ เดือน ๙ ขึ้นค่ำ ความเก่า ๑๐๒ ใหม่ ๒๙ รวม ๑๓๑ นั้นชำระแล้ว เก่า ๔๖ ใหม่ ๑๔ รวม ๖๐ ยังคงค้างเก่า ๕๖ ใหม่ ๑๕ รวม ๗๑ เรื่อง ยังเร่งโจทย์จำเลยกับขุนศาลอยู่ยังไม่ได้ตัว สั่งเงินให้กรมพระนเรศทำพระที่นั่งบางปอินในสวน ๕๐ ชั่ง ย่ำค่ำไปวัดพระแก้วแล้วไปท้องสนาม สมเด็จท่านเอาพระคันธารราฐที่เป็นตัวอย่างพระชันษาเดิมนั้น ท่านเอาเงินมุ่ลไปหล่อไว้มาให้ ได้ตั้งในเตียงมณฑล แล้วถวายผ้าพระครองแล้วรับศีลถวายเทียนเสด็จจุดเทียนไชยแล้วประกาศพระสวดมนต์ ไปที่หอพระคันธารราฐบูชาแล้วกลับมาที่พลับพลา ให้สวัสดิ์ไปจุดเทียนที่เทวรูป
ออกขุนนาง พระยาศรีอ่านบอกน้ำฝนต้นเข้ากรุงเก่าให้กรมนเรศไปเอากระดาษมาเขียนหนังสือถึงคุณสุรวงศ์เรื่องตึกดินที่สมเด็จเจ้าพระยาว่า สมเด็จยื่นจันทรุปราคาแล้วได้พูดราชการต่าง ๆ เวลา ๔ ทุ่มเศษกลับ จมื่นวิชัยยุทธเขียนหนังสือว่าด้วยจัดออฟฟิศเซอนอนเวรเป็น ๓ ผลัดๆ ละ ๑๕ วัน รับคำให้การจมื่นทิพเสนา
วันพฤหัสบดี ขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๙ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙
เทวัญยื่นจันทรุปราคา เขียนหนังสือถึงพระยารองเมืองให้วางคนระวังโจรผู้ร้ายเพราะจะปิดเข้า กลัวคนที่ทำกินทางนั้นจะไม่มีที่ทำกินก็จะเกิดวิ่งราวปล้นกันขึ้น ถ้ามีแล้วขอให้รู้โดยเร็ว พระยาเจริญมาหาได้ให้คำลูกขุนขัดข้องลักษณพยานไปให้ช่วยแก้ กับหนังสือสมเด็จเจ้าพระยาตอบด้วย พระยาเจริญว่ากงซุลฝรั่งเศสส่งบิลห้างดีเบควดตีมาว่า ค้างเงินกรมพระเทเวศซื้อของและเจ้าขาวซื้อ ว่าเป็นของกรมพระบ้างเป็นเงิน ๓๐๐ เหรียญเศษ กับมีค่าดอกเบี้ยและเสียค่าธรรมเนียมกงซุลด้วย จดหมายถึงสมเด็จกรมพระฉะบับหนึ่งให้ท่านสอบสวนใช้เขาเสีย คุณสุรวงศ์ตอบหนังสือวานนี้มาฉะบับหนึ่งว่าขอพระยาราชสงคราม พระสามภพพ่ายไปปัก ให้พระมหาสงครามทำตามแบบคูลนิต ถ้าเห็นว่าการช้าก็ให้เจ้ากรมปลัดกรมไพร่หลวงเป็นนายด้านก็เห็นจะได้ จดหมายถึงท่านภูธราภัยฉะบับหนึ่ง คุณสุรวงศ์ฉะบับหนึ่ง ท่านกรมท่าฉะบับหนึ่ง ให้คิดกำชัยหัวเมืองด้วยโจรผู้ร้ายในการที่จะปิดเข้าครั้งนี้ แต่ฉะบับคุณสุรวงศ์นั้น ว่าด้วยตึกดินข้างท้ายด้วย กับจดหมายถึงท่านยมราชให้บังคับกองตระเวนซ้ายขวา และโปลิศกรุงเทพฯ ฉะบับหนึ่ง พระยามหามนตรีบังคับทหารรักษาถนนฉะบับหนึ่ง กาพย์จดหมายมาว่าได้ทำโทษนายเป้าเสพสุราแล้ว กับส่งแปลนโรงทหารม้าที่แกรซีคิดจะทำที่คลังทหารนั้นมาด้วยให้งดไว้ก่อน กับแซงชั่นซ่อมแซมโรงด้วย ได้ส่งให้กรมนเรศไป วันนี้วันโกนแต่ปิดทองด้วยเพราะหนังสือคั่งมาก
กลางวันไฟไหม้โรงสีเข้าหมอสายกับเจ๊สัวฟัก หน้าบ้านพระองค์สายประเดี๋ยวดับ แต่งตัวแล้วแต่ไม่ได้ออกไป พระยาภาษมาบอก ว่าพระยาอัษฎงค์มีหนังสือส่งหีบเพลงของแขกที่ฝากมาแต่กัลกัตตามา กับหนังสือพิมพ์ด้วย ย่ำค่ำเศษไปวัดพระแก้วและท้องสนาม พระสวดมนต์ตามเคย พูดกับสมเด็จจนเวลา ๔ ทุ่มครึ่งพระสวดมนต์จบกลับ กับวันนี้พระนรินทรอ่านบอกเมืองระนองฉะบับหนึ่ง พระยารัตนเศรษฐีและลูก ๒ คน พระสัจจามาหาด้วย
เจ้าพระยามหินทรว่าด้วยความมรดกมารดาขุนพินิจนิกรเป็นกับบุตรเลี้ยง ว่าถูกเสมียนตระลาการโยกโคลงให้ ๆ การจำหน่ายไม่ตกเพราะสืบพยานได้แต่ ๑๒ คนไม่ท่วมของ กับเรียงความเห็นมาด้วยฉะบับหนึ่ง กาพย์จดหมายมาว่าเป่าแตรไฟไหม้ทหารขาด ๔ คนกับจับบ่าวทหารลักชามได้
วันนี้ท่านเล็กบอกว่าทองแถมเจ็บเป็นไข้ กับกาพย์บอกว่าทหารเจ็บมากด้วย ได้จดหมายถึงหมอสายให้ๆ หมอไปรักษา วันนี้ไม่ได้นอนอ่านหนังสือเซอร์ยอนเบาริงแต่งอยู่จน ๓ ยามออกไปคอยดูจันทรจับ เวลา ๓ ยาม ๔๔ หรือ ๔๕ เห็นจับ เวลา ๑๐ ทุ่มได้ออกไปข้างนอกอาบน้ำแล้วได้ความว่าจับเวลา ๔๗ มินิตเป็นแน่ แจกเงินหลวงโลกากร ๕ ตำลึงเป็นบาทถูก หมื่นพิทักษ์เทวา ๓ ตำลึงบาทเคียง กลับเข้ามาย่ำรุ่งกินเข้าแล้วนอนเกือบโมง
วันศุกร์ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๙ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙
ตื่นนอนบ่าย ๒ โมงเศษเกือบ ๓ โมง ออกไปปิดทองแล้วหลวงพินิจนำแผนที่เมืองกระบิลซึ่งมิศเตอแปทำฝากมาให้ ย่ำค่ำเศษออกไปวัดพระแก้ว แล้วไปท้องสนามพระสวดมนต์ตามเคย แต่วันนี้ได้ไปจุดเทียนบูชาเทวรูปที่พลับพลาริมกำแพงด้วย พระยาพิพัฒอ่านบอกเมืองนนท์ ๒ ฉะบับ ๆ หนึ่งน้ำฝนต้นเข้า ฉะบับหนึ่งขอปืนสำหรับเมือง วันนี้พูดกับสมเด็จด้วยราชการต่าง ๆ ได้สั่งให้ทำพิธีต่อไป กลับ ๔ ทุ่มเศษ เมื่อกลางวันกาพย์จดหมายบอกเข้ามาด้วยทหารยามประตูย่ำค่ำจับบ่าวหม่อมเจ้าสาลี่ว่าเอาน้ำมนต์เข้าวัง ได้สั่งให้ปรับตามธรรมเนียม อีกฉะบับหนึ่งบอกด้วยกอปราลชมกอมปนีที่ ๖ ถึงกำหนดไปบ้านแล้วไม่กลับมาให้คนมาบอกว่าเป็นลมขอรักษาตัว ๒-๓ วัน ได้ให้หมอไปตรวจแล้วมีคนมาฟ้องว่าสูบฝิ่นด้วย เขียนหนังสือตอบไปฉะบับหนึ่งว่าด้วยทหารขาดไฟไหม้และทำโทษคนลักชามเมื่อวานนี้ กับนายชมไม่กลับให้ไปตรวจนั้นดีแล้ว ถ้าสูบฝิ่นต้องขังเสียให้อดให้ได้ กับกาพย์ยื่นหนังสือไปรเวตว่าด้วยทหารใส่เสื้อไม่เหมือนกัน เพราะจมื่นสราภัยกับหลวงศัลยุทธขอให้มีริกุเลแช่นเสีย
วันเสาร์ แรม ๑ ค่ำ เดือน ๙ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙
กรมนเรศ เทวัญ ยื่นบัญชีทาสที่ให้รวมจะช่วยในวันเฉลิมพระชนม์พรรษา แล้วให้กรมพิชิตไปถามปากคำ กรมพิชิตอ่านคำตัดสินความ พระเทพผลู ขุนวิถีธรรมสัญจร หากันด้วยเรื่องเงินกู้ ๑ อีกเรื่องหนึ่งนายกร นายเรือง หากันด้วยเรื่องทาส แล้วยื่นสารบบความแพ่งกลางเดือน ๘๘ ความเดิม ๓๖ ใหม่ ๘ รวม ๔๔ แล้ว ๑ ยังค้างชำระ ๔๓ เรื่อง กับสารบบใบสัจ ซึ่งหลวงเทพราชธาดาทำแต่เดือน ๕ ถึงเดือน ๘๘ รวม ๕๙ เรื่อง แล้ว ๕๐ เรื่อง คงค้าง ๙ เรื่อง กาพย์นำจดหมายจมื่นวิชิตมาให้ดูฉะบับหนึ่ง ว่านายคำบุตร์หม่อมราชวงศ์น้อยเป็นทหารไปรเวตในกอมปนี บ้านอยู่สามเสนวิวาทกับจีนชาวเรือ จีนชาวเรือไปกล่าวโทษ กรมขุนบดินทรไม่มีหมาย มาจับตัวเอาเอง จดหมายต่อว่ากรมขุนบดินทรฉะบับหนึ่ง ด้วยผิดในข้อบังคับทหาร มนุษย์ยื่นจำนวนฎีกาซึ่งได้เซ็นไปในเดือน ๘๘ รวม ๒๔ เรื่อง พระยาเวียงในเอาแผนที่ในวังแถวนอกมาให้ดูแล้วให้กรมนเรศไปคิดทำเรือน รับหนังสือพระยาราชแต่บางปอินว่าด้วยได้ชำระหลวงวิเศษเจ้าภาษีผู้ขายปูน ได้ความไม่สมแกรซีฟ้อง การที่จะก่อขึ้นไปให้ถึงที่ตั้งพระเจดีย์ก็ไม่มาก แกรซีไม่รับทำทันก็จะรับทำเอง แต่ขอกรมนเรศขึ้นไปชี้แจงการ คุณแพมาบอกว่าเบดแมนตายจะฝังวันนี้ ได้สั่งให้จมื่นสราภัยไปช่วยการฝังศพ ให้เงิน ๑๐๐ เฟื้อง ผ้าขาว ๒ พับ
ย่ำค่ำไปวัดพระแก้วและท้องสนาม พระยาพิพัฒอ่านบอกเมืองระยองว่า เสนานาบังที่นาช่อหลวงได้จำไว้ พูดกับสมเด็จกับกาพย์เรื่องทหารแล้วกลับเวลายามเศษ
แล้วกรมขุนบดินทรตามเข้ามาหาพูดด้วยเรื่องเกาะตัวหม่อมหลวงคำเอาคำหาคำให้การเข้ามาให้ กับร่างหมายเฉลิมพระชนม์พรรษาด้วย
วันอาทิตย์ แรม ๒ ค่ำ เดือน ๙ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙
พระชัยยศมาพูดด้วยเงินพระคลังข้างที่มีตัวอยู่คลังนอกถึง ๓๐๐๐ เศษแล้วอยากจะให้ส่งไว้พระคลังข้างใน กับบอกด้วยทำเงินบาทที่โรงกระสาปน์ทั้งเก่าใหม่ด้วย
กรมนเรศนำหนังสือกรมเจริญมาให้ ๒ ฉะบับ ๆ หนึ่งขอกาพย์ไปช่วยจัดการในงานวันเกิด ฉะบับหนึ่งบอกให้ไปประชุมในวัน ๖ ค่ำ กับตัวอย่างมอนิแมนคุณปลัดน้อยที่วัดนิเวศน์ธรรมประวัติแกรซีเอามาให้ด้วย จดหมายถึงกาพย์ให้ร่างริกุเลแช่นแต่งตัวทหารเข้ามากับให้ไปช่วยการกรมเจริญด้วย รับหนังสือโสณบัณฑิตย์ว่าด้วยที่บ้านซึ่งขอวังหน้ายังไม่ตกลง จดหมายถึงพระยารองเมืองให้ว่ากล่าวขอร้องเสียให้แล้วด้วยฉะบับหนึ่ง กรมขุนบดินทรจดหมายเข้ามาว่าด้วยไปเกาะหม่อมหลวงดำนั้นจดหมายตอบไปฉะบับหนึ่ง แจ้งความในพระราชบัญญัติทหารไปด้วย ท่านกรมท่าส่งสำเนาหนังสือราชทูตโปรตุเกศที่เมืองมลกาบอกได้รับเป็นราชทูตไทยด้วย พระอินทรเทพ พระเทพผลู บอกด้วยคนกินเหล้าแล้ววิวาทกันตายที่คลองภาษีเจริญ คนละฉะบับ
จดหมายถึงพระอินทรเทพให้พร้อมกันกับพระยามหามนตรีชำระ พระยาภาษนำหีบกระจับปี่หีบซอและหนังสือตำราต่าง ๆ ซึ่งเป็นของบาบูเมืองกัลกัตตาฝากมาให้นั้นเข้ามาให้ กับมิสเตอยุเกอฝากหนังสือมาให้ฉะบับหนึ่ง ว่าได้พรรณเข้ามาแต่เมืองพม่าเข้ามาให้ลองปลูกดูในกรุงเทพฯ นี้จะดีหรือไม่ดี จดหมายตอบขอบใจไปฉะบับหนึ่งแล้ว จดหมายถึงพระยาราชว่าด้วยที่นาซึ่งจะให้ทาสที่ช่วยในวันเฉลิมพระชนม์พรรษาเอาที่นาคลองเปรมประชากร ๗๐๐ ไร่ กับกระบือนั้น ๖๐ ตัวเป็นแน่อย่าให้ต่ำลงมา กับเรื่องแกรซีนั้นให้กรมนเรศจดหมายสั่งไปให้ยืมปูนบางปอินไปใช้ก่อน กับพรรณเข้ายุเกอให้ให้มารับปลูกด้วย รับหนังสือหมอแมกฟาลันด์ขอบใจด้วยช่วยเงินทำสกูลเพ็ชร์บุรี
ย่ำค่ำไปวัดพระแก้วและท้องสนาม สวดมนต์ตามธรรมเนียม พระนรินทรอ่านบอกเมืองระนองส่งเงินอากรดีบุก ค่านา กับบอกเมืองภูเก็ตส่งเงินอากรดีบุกค่านา แต่หักไว้ใช้ราชการครั้งจีนกำเริบบ้าง รับหนังสือเสมอใจบอกด้วยส่งเงินเข้ามาตามบอก วันนี้สั่งให้เลิกการพิธี กลับเวลายามเศษ รับหนังสือจมื่นสราภัยออกตัวด้วยใส่เสื้อดำผิด ตอบไปฉะบับหนึ่งให้รักษาในราชการอย่าให้ผิด วันนี้เสด็จยายประชวรรำมนาดกระทบปลายปัฏฆาฏด้วย
วันจันทร์ แรม ๓ ค่ำ เดือน ๙ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙
รับหนังสือสมเด็จกรมพระขัดข้องด้วยรายฎีกาหลวงอังคนิศรเบิกเงินไม่สักหลังฎีกาให้หักเงินค้างเจ้าภาษีนายอากรตามที่ส่งไปในท้ายบัญชีครั้งก่อน จะขอตัวเงินไปใช้พระชัยยศด้วยเงินรายนี้ได้รองไปแล้ว จดหมายตอบฉะบับหนึ่งว่าให้เอาตามคำสั่งเดิมเพราะตัวเงินที่หลวงอังคนิศรจะได้ไปนั้นยังมีถึง ๑๓๐๐ ชั่งเศษ รับหนังสือพระนายศรีแต่เมืองสิงคโปร์ว่าได้ไปหากอลอแนลแอนซัน แล้วจะโดยสารเรือไปบัตเตเวียต่อไป บำรุงนำเรื่องราวขุนจงรักษ์ราชากรกล่าวโทษพระยาศรี พระยาโชฎึก ว่าเอาตัวมาจำตรวนเร่งเงินรายประกันจีนเง็กฮุย ๆ ได้จำนำที่บ้านใช้พ้นจากตัวประกันแล้ว
ออกขุนนาง พระยาศรีอ่านบอกพระยาปรีชา ๓ ฉะบับว่าด้วยน้ำฝนต้นเข้า เข้าราคาเกวียนละ ๗ ตำลึง ๒ บาท กับสักเลขขึ้นอีกและเรื่องคน พระพรหมบริรักษ์บอกมาแต่เมืองสุพรรณฉะบับหนึ่ง ว่ายังไม่ได้ตัวผู้ร้าย กับเมืองพิศณุโลกบอกมาด้วยรับพระแก้วซึ่งหนีได้ส่งลงมา พระนรินทรอ่านบอกเมืองปราณส่งแตงอุลิตเข้ามาให้ ๕๐๐ พระศรีสมบัติเขียนหนังสือขอตราความชอบ ฟังเทศน์
วันอังคาร แรม ๔ ค่ำ เดือน ๙ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙
รับหนังสือพระนายศรีอีกฉะบับหนึ่ง ว่าซึ่งจะโดยสารไปเรือลำก่อนนั้น บัดนี้เรือนั้นจะไม่แวะบัตเตเวีย จะต้องไปเรือลำใหม่ กับกงซุลไทยที่บัตเตเวียบอกเตลิกราฟตามมาที่พระยาอัษฎงค์ว่าจะออกไปด้วยราชการอะไร พระยาอัษฎงค์ได้ตอบไปแล้ว เขียนหนังสือตอบไปฉะบับหนึ่ง ให้เงินพระคลังข้างที่ไปใช้สอย ๑๐ ชั่ง แล้วเขียนใบสั่งเงินให้หลวงพินิจซื้อบิลส่งไป พระยามหามนตรีคัดคำหาคำให้การเรื่องความขุนกลางเข้ามาให้ พระเจริญเข้ามาบอกด้วยลักษณพยานซึ่งไปปรึกษาสมเด็จเจ้าพระยา แล้วนำความมรดกอำแดงสัมฤทธิ์เข้ามาให้ กับพูดด้วยความมรดกซึ่งเจ้าพระยามหินทรมาว่าด้วย พระยาอภัยรณฤทธิ์เข้ามาให้เขียนคำสั่งทำโทษ จมื่นทิพเสนา (รุ้ง) ให้ไปด้วย แล้วออกไปที่พระที่นั่งทำใหม่ดูให้เขียนด้วย เซ็นแซงชั่นฉะบับหนึ่ง
ออกขุนนาง พระยาศรีอ่านบอกเมืองตาก ๒ ฉะบับว่าได้ชำระทำโทษประหารชีวิตอ้ายพรามกับส่งเมียอ้ายพรามและฟ้อง ๖๐ เรื่อง กับคำปรึกษาโทษลงมาด้วย ให้เงินเบี้ยเลี้ยงค่าหลวงเอาเงินสินบลให้ด้วย หลวงบริบาลบอกมาแต่เมืองเชียงใหม่ ๕ ฉะบับว่าด้วยเมืองเชียงตุงและลาวไม่ส่งคน และทำตึกหลวงกับเจ้านายลาวเข้ากับโจทย์จำเลยความและได้ชำระความแล้วไป ๑๑ เรื่อง เงิน ๑๐๐๐ เศษ ศุภอักษรเมืองเชียงใหม่มีมาด้วยเมืองเชียงตุงฉะบับหนึ่ง แล้วพระยาศรียื่นสัญญาป่าไม้มาให้ดูแล้วคืนไป เรื่องเจ้านายเข้ากับโจทย์จำเลยนั้น ได้ให้พระยาศรี มีศุภอักษรไปต่อว่าด้วย พระยาพิพัฒอ่านบอกเมืองจันทบุรีส่งเงินมาแทนต้นไม้ทองเงินเครื่องบรรณาการ พระนรินทรนำหนังสือคุณสุรวงศ์ขอจีนซิมขิม จีนซิมขี้ เป็นผู้ช่วยเมืองระนองทั้ง ๒ คน ให้สัญญาบัตร์ จดหมายให้พรกรมเจริญในการวันเกิด กับสั่งเงินส่งไปถวายท่านด้วย ๕ ชั่ง ให้นายชิตไป นายดั่นทหารม้ายื่นเรื่องราวกล่าวโทษหลวงศรีมโหสถว่าปรึกษาชี้ขาดไม่ถูก หลวงนายเดชคัดฟ้องมรดกให้เรื่องหนึ่ง เจ้าพระยามหินทรมีหนังสือบอกมาด้วย พระอาหารไปขายเข้าระบาทว์นุดอาหารได้เงิน ๔๒ ชั่งเศษ หลวงอังคนิศรจมื่นสราภัยว่าด้วยขอตัวเงินในฎีกาไปใช้พระไชยยศ เพราะเจ้าของเงินรายนี้เป็นหนี้พระยาสุรศักดิ์ ถ้าหักเสียและไม่มีเงินใช้หนี้พระยาไชยยศ รับหนังสือรายาเบนาริศ ๒ ฉะบับ ๆ หนึ่งเป็นหนังสืออังกฤษ ฉะบับหนึ่งเป็นหนังสือสังสกฤต กาพย์เขียนหนังสือมา ๒ ฉะบับ ว่าด้วยนายศรพลลาไปเยี่ยมพระมหาเทพ ฯ ฉะบับหนึ่งเล็กว่าด้วยเครื่องชักรูปห้างมูลเลอจะขายราคานอก ฟังเทศน์
วันพุธ แรม ๕ ค่ำ เดือน ๙ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙
เขียนหนังสือถึงสมเด็จกรมพระฉะบับหนึ่ง ส่งเรื่องราวหลวงอังคนิศรจมื่นสราภัยว่าด้วยสั่งไปก่อนนั้น ให้ท่านคิดตรึกตรองใหม่เป็นไปรเวต พระยามหามนตรีจดหมายเข้ามาฉะบับหนึ่ง ว่าจับผู้ร้ายปล้นเมืองสุพรรณได้ที่คลองบางหลวง ตามพระพรหมบริรักษ์ตอบมา รับหนังสือท่านเล็กว่าด้วยไปวังกรมเจริญกลับมารถโดนเจ๊กตายที่สพานช้างโรงสีเพราะบังเหียนขาด สั่งเงินให้หมอสายส่งเมชั่นครั้ง ๓ ค่าเรือใบไฟเงิน ๕๐๐ ชั่ง พระยาภาษบอกว่าช่างเขียนเยอรนันซึ่งเขียนรูปมาให้อยากจะได้เห็นลายมือขอเข้ามา ได้เขียนหนังสือสั่งพระยาภาษให้ตอบขอบใจเขาแล้ว ให้ส่งหนังสือนั้นไปให้เขาดูเซ็นชื่อไป ๒ อย่างทั้งไทยอังกฤษ จดหมายถึงเจ้าพระยาภาณุวงศ์ว่าซอซึ่งบาบูกัลกัตตาให้นั้นได้รับแล้ว กับหนังสือมหาราชาเบนาริศนั้น ว่ามีของด้วย ให้ช่วยสืบดูว่ายังค้างอยู่ที่ไหน แล้วค่ำเขียนไปอีกฉะบับหนึ่ง ว่าอย่าให้ตามเพราะเป็นของรายสมเด็จเจ้าพระยาเอามานั้นเอง แต่หนังสือนี้จะค้างอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้แต่วันนั้นลงมาแต่เดือนหก จดหมายสั่งให้พระยาอาหารไปรับพรรณเข้าที่ยุเกอให้แล้วให้แบ่ง ๔ ส่วน ส่งพระยาราช ๒ ส่วน กรมท่ากระลาโหมคนละส่วน
วันพฤหัสบดี แรม ๖ ค่ำ เดือน ๙ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙
กาพย์เขียนหนังสือมาว่าหม่อมราชวงศ์แปลกโปรโวตฟ้องหม่อมราชวงศ์แดงสัปลุตเตอแนลทหารอินเยอเนีย ว่าหม่อมราชวงศ์แดงว่าคำหยาบช้าถึงมารดาและเอาแซ่ม้าตี จะขอโจทย์ไปอยู่กอมปนี ๖ ได้เรียกหม่อมราชวงศ์แดงมาถามว่าเป็นแต่การหยอกกันเล่น เขียนตอบไปฉะบับหนึ่ง ควรสอบคำให้การคำรับถูกต้องแล้วเพียงนั้นก็ให้แล้วกันเสีย ถ้าหาเป็นการจริงจังควรต้องสืบ ถ้าเพียงหยอกเท่านั้น กล่าวโทษนายไม่จริงก็มีความผิด แต่เห็นว่าเล็กน้อยภาคทัณฑ์ไว้ แล้วให้คงกอมปนีอยู่ตามเดิม พระนานายื่นบัญชีซ่อมเครื่องแต่งเรือนสุขุมาลย์ให้เงินไป ๒ ฉะบับ จ่ายวดนำเรื่องราวคลังในขวาฟ้องกล่าวโทษพระรัตนสมบัติ ว่าคัดคำให้การแล้วเพิ่มเติมคำเอาเองถวายสมเด็จ ได้เซ็นคืนไปไม่รับเพราะข้ามสมเด็จมา คุณแพนำหนังสือสำเนามิศเตอมูลเลอร์ผู้ว่าการกงซุลสวิเดนนอรเว ท่านกรมท่าส่งมาว่าได้กระแดนแฉนมา จะขอเข้ามาหารับเอกซกวาดเตออย่างกงซุลทั้งปวง แต่ท่านกรมท่าเห็นว่าเป็นคนเยอรมันไม่ใช่ชาตินอรเวสวิดเดนและเป็นกงซุลพ่อค้าด้วย จะไม่ให้เฝ้าใหญ่ จะขอให้แต่ขนาดกลางรับในพระที่นั่งบรมราชสถิตย์มโหฬารเป็นไปรเวต เพราะมีกระแดนแฉนจึงให้รับต่อพระหัตถ์พระเจ้าแผ่นดินเท่านั้น กับส่งสำเนากระแดนแฉนมาด้วย แล้วคุณแพเล่าว่า สมเด็จเจ้าพระยาท่านกรมท่ามาเยี่ยมประชวรเสด็จยาย แต่ส่งกาดเข้าไปครั้นจะมาหาด้วยก็กลัวจะเป็นมาหาไม่ได้มาเยี่ยม
จดหมายตอบไปฉะบับหนึ่งว่าดีแล้ว ถึงจะใส่เสื้อเยรบับด้วยก็ได้แต่ให้มีแต่กรมท่า กับต่อไปถ้าหนังสือชื่อของเป็นคำฝรั่งจะเขียนไทยแล้วให้มีคำอังกฤษกำกับด้วย
ออกขุนนาง พระยาพิพัฒอ่านบอกเมืองตราษว่าด้วยต่อเรือกันโบตไว้ลาดตะเวนเสร็จแล้วได้เอาเงินส่วยรองไป ได้สั่งให้หักใช้เสียทีเดียว กับเมืองนนท์บอกมาฉะบับหนึ่งว่าพ่อคนหนึ่งนั่งกินเข้าลูกเล็กตีนตกลงไปในฟากเรือนให้ลูกใหญ่ไปรับก็ไม่ไป จึงได้เอาไม้กระบอกขว้างไปถูกหัวกระดูกแตกตาย ได้สั่งให้เลิกกันเพราะเป็นพ่อลูกไม่แกล้ง
วันศุกร์ แรม ๗ ค่ำ เดือน ๙ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙
อาลบาศเตอเขียนหนังสือแล้วมาหาพูดด้วยเรื่องพงศาวดารเชียงใหม่ พระศรีสุนทรเอาเรื่องราวพระแก้วซึ่งเป็นพระราชนิพนธ์ทูลกระหม่อมมาให้ พระนายไวยมาหาพูดด้วยเรื่องที่จะไปบางปอิน ได้สั่งให้บอกคูลนิตไปดูกระจกที่พระยารัตนเศรษฐีให้ แล้วคิดที่ติดเสียที่พระที่นั่ง จดหมายสั่งกรมพิชิตให้บังคับความแพ่งกลางแพ่งเกษม พระไชยยศจดหมายมาว่าด้วยเงินเหรียญคลังข้างในซึ่งแลกไปทำโรงกระสาปน์นั้น บัดนี้ได้รับเงินบาทมาแล้ว แต่เงินกำไรยังรวมอยู่ในเงินงวดยังไม่ได้ส่งคลังใน จดหมายถึงพระยาพิพิธโภไคให้ชักเงินงวดกำไรโรงกระสาปน์ส่งคลังใน คิดชั่งละสิบสลึงตามโรงกระสาปน์ส่งเงิน ๓๐๐๐๐ ชั่ง เป็นเงิน ๙๓๗ ชั่ง ๑๐ ตำลึง รับหนังสือกาพย์ ๒ ฉะบับ ๆ หนึ่งว่าด้วยจัดทหารไปบางปอินกับเรื่องความหม่อมราชวงศ์แปลก หม่อมราชวงศ์แดงนั้น ตกลงเป็นหาไม่จริง ฉะบับหนึ่งว่าด้วยรับหนังสือพระยาอัษฎงค์ให้ลูกเข้ามากรุงเทพฯ แล้วจะขอพามาหาด้วย กับมีหนังสือฉะบับเล็กว่าด้วยเรื่องรูปมาอิกฉะบับหนึ่ง จดหมายตอบไปฉะบับหนึ่งให้มีโทษขัง กับลูกพระยาอัษฎงค์นั้นให้มาพรุ่งนี้ปิดทองหนังสือ
ออกขุนนาง พระยาศรีอ่านบอกเมืองอุไทยธานี ๒ ฉะบับ ๆ หนึ่งว่าด้วยรับจ้างไม่มีหนังสือ ฉะบับหนึ่งน้ำฝนต้นเข้า เข้าเกวียนละ ๗ ตำลึง กับเมืองฉะเชิงเทราบอกด้วยน้ำฝนต้นเข้า เข้าเกวียนละ ๑๐ ตำลึง ๒ บาท แต่มีหนอนกัดด้วย พระยาจ่าแสนย์บอกด้วยกรมการคุมศพพระยามหานุภาพลงมาถึงกับกรมการนั้นมีของกำนัลมาให้ด้วย และนำคำปรึกษาเรื่องเงินแดงเมืองฉะเชิงเทรา กับคำโอวาทให้พระพิทักษ์อุไทยเขตต์ปลัดขวา พระศรีสุนทรเทพ ปลัดซ้ายเมืองอุไทยธานีด้วย เขียนหนังสือถึงมิสเตออาลบาศเตอฉะบับหนึ่ง บอกด้วยเรื่องเมือง ท่านเล็กนำฎีกาหม่อมเจ้าบรรจงในกรมสถิตย์สถาพรฟ้องนายเทพาทำชู้กับน้องสาวแล้วสมคบทาสไปด้วย อุทธรณ์เจ้ายินดีไม่ชำระกลับเอาฟ้องเก่าของนายเทพา ซึ่งกรมพระเทเวศให้ยกเสียมาชำระ เจ้าเมฆินกรมอมเรนทรยื่นเรื่องราวกล่าวโทษพระครูพิเชต ว่าปรึกษาไม่เอาคำพยานด้วย เซ็นฎีกาและแซงชั่น หลวงนายเดชคัดความมรดกมาให้เรื่องหนึ่ง ฟังเทศน์ นายชิตยื่นเรื่องราวยืมเงินทำทุนซื้อเข้า ๔๐๐ ชั่ง
วันเสาร์ แรม ๘ ค่ำ เดือน ๙ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙
ปิดทองหนังสือและบรรจุพระบรมธาตุพระเจดีย์วัดนิเวศน์ธรรมประวัติที่จะเอาไปเรือไรซิงซันในเวลาพรุ่งนี้ กาพย์พาลูกพระยาอัษฎงค์มาหา นำหนังสือพระยาอัษฎงค์มาให้ฉะบับหนึ่ง ว่าด้วยให้ลูกเข้ามาจัดการโรงสี พระยาศรีมาพูดเรื่องความราชบุตรเมืองเชียงใหม่ฟ้องเจ้ากาลวิโลรส ว่าไม่มีคำได้ตัดสินเป็นแต่เจ้ากาลวิโลรส ว่าพระเจ้าอังวะให้คนมาซื้อช้างจึงถวายไปให้เป็นเกียรติยศ ก็ตัดสินกัน ตัดผม แล้วเขียนหนังสือถึงกรมขุนบดินทรเตือนให้ทำการโรงพิมพ์ จดหมายถึงท้าวภัณฑสารให้ให้เงินนายชิตยืม ๔๐๐ ชั่ง จดหมายถึงมิศเตออาลบาศเตอ บอกด้วยตัดสินความราชบุตรกับเจ้ากาลวิโลรสกับบอกเรื่องประเทศราช ๔ อย่าง กับพระเจ้าแผ่นดินไทยควรเป็นเอมปเรอ
ออกขุนนาง พระนรินทรอ่านบอกเมืองเพ็ชร์บุรีน้ำฝนต้นเข้า พระยาพิพัฒอ่านบอกเมืองสมุทรสงครามน้ำฝนต้นเข้าเหมือนกัน จดหมายตอบเจ้าพระยามหินทรให้เจ้าหมู่มาเผาเงินเอง กับค่าฎีกานั้นอย่าให้ต้องซื้อให้โรงพิมพ์หลวงเบิกเงินไปใช้ค่ากระดาษ จดหมายตอบหลวงอังคนิศร จมื่นสราภัยฉะบับหนึ่ง ไม่ได้ยอมให้หักเงินเพราะไม่มีสิ่งไรเป็นสำคัญในบัญชี ถ้าลูกหนี้พระยาสุรศักดิ์มีเท่าไรให้ยื่นเรื่องราวมาจะช่วยชำระให้ ฟังเทศน์ สมเด็จกรมพระจดหมายเป็นใบเล็กมาฉะบับหนึ่ง ถามจะมีดอกไม้เพลิงในการบรรจุพระเจดีย์วัดนิเวศน์ สั่งให้มีวันหนึ่งและลาที่จะไปด้วย กาพย์จดหมายบอกด้วยนายถมซายันอินเยอเนียบิดพลิ้ว กับทำโทษหม่อมราชวงศ์แปลกแล้ว กับเจ้าเข่งเอาหนังสือพระยาภาษมีมาว่าเมียเจ็บขอหมอในทหาร กรมจมื่นสราลัยให้ไปเยี่ยมเยียนด้วย ได้จดหมายตอบกาพย์ฉะบับหนึ่ง ว่าด้วยให้จัดแบ่งการทหารอินเยอเนียใหม่เพราะการอยู่ข้างมากกับเงินเดือน กับควรขังนายถม เรื่องพระยาภาษขอนั้นยอมให้ได้
วันอาทิตย์ แรม ๙ ค่ำ เดือน ๙ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙
เช้า ๓ โมงเศษ มีเจ้านายมาส่งแล้วได้ออกไปที่ตำหนักแพ สั่งพระนรินทรให้บอกคุณสุรวงศ์ดูแลราชการ มีการสิ่งใดให้บอกขึ้นไปบางปอิน แล้วลงเรือโสภณออกเวลา ๔ โมงเช้า ถึงบางปอินบ่าย ๒ โมงครึ่งไปที่ศาลเจ้า แล้วกลับมาดูวิววัดบนเรือนสูงแล้วกินเข้ามุขด้านสระ เย็นข้ามไปวัดดูการแล้วย่ำค่ำกลับ เมื่อจะลงเรือไปวัดนั้นพระยามหามนตรีเอาเกี้ยว ๔ คนหามอย่างจีนมาให้ ได้ขี่ไปจนถึงสพานแล้วลงเรือ กับได้สั่งพระยานุรักษ์ให้คนลงไปเอาต้นโพธิ์ขึ้นมาปลูกด้วย วันนี้พระสาสนโสภณกับพระครูพุทธ้ขึ้นมาบางปอินด้วยเรือโสรวาร
วันจันทร์ แรม ๑๐ ค่ำ เดือน ๙ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙
พระยาอ่างทอง หลวงบำราศเอาของมาให้ ได้พูดกันพระยาอ่างทองเรื่องผู้ร้ายปล้นเมืองสุพรรณ เย็นลงเรือเก๋งข้ามไปวัดขี่เสลี่ยงไปกำลังฝนตกไปถึงโรงพิธี แล้วฝนตกอยู่จนกลับมา ถวายผ้าแล้วจุดเทียนรับศีล แล้วพระสาสนโสภณจุดเทียนไชย ราชาคณะ ๔ องค์ที่สวดพิธีฝนนี้ คือ พระธรรมราชา พระพรหมเทพาจารย์ พระญาณรักขิต พระปริยัติวงศาจารย์ สมเด็จกรมพระและพระยาราชมาด้วย เวลายามเศษสวดมนต์จบแล้วกลับมากินเข้า
วันอังคาร แรม ๑๑ ค่ำ เดือน ๙ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙
พระยามหามนตรี นำหนังสือพระอินทรเทพบอกด้วยผู้ร้ายมาให้ดู ได้สั่งไปให้พระอินทรเทพชำระ และขี่เกี้ยวไปที่ศาลเจ้าและกลับมาดูงิ้วที่พลับพลาอยู่ครู่หนึ่ง กลับมากินเข้าแล้วกลับไปที่โรงพระญวนสวด ทิ้งกระจาดให้เงินทำบุญ ๑๐๐ บาท แล้วเวียนเทียนศาลเจ้าพ่อของที่พระยานรนารถทำมาถึงก็ได้ทิ้งกระจาด แล้วทิ้งทานเจ้านายข้าราชการราษฎรในสระแล้ว กลับเข้าไปทิ้งข้างในแล้วไปสวน ค่ำไปที่โรงพิธีฝนแต่ไปขึ้นสะพานใหม่ตรงโรงพิธีสวดมนต์จบเวลายามเศษกลับ วันนี้พระสาสนโสภณได้สวดกัปปิยกุฏิแล้วกลับลงไปกรุงเทพฯ ด้วยเรือนกอินทรีย์ วันนี้ได้กับริโปดทหารมหาดเล็กเฝ้าวังมา ๒ ฉะบับ
วันพุธ แรม ๑๒ ค่ำ เดือน ๙ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙
พระยามหามนตรีนำหนังสือมาแต่กรุงเทพฯ ด้วยเรือนกอินทรีย์มาให้ เป็นหนังสือท้าวนางบอกพระอาการเสด็จยาย และพระองค์แม้นเขียนและในวังสบายดีอยู่ด้วยกันหมด เสด็จยายฝากของมาให้กับหนังสือท้าวภัณฑสารบอกมาฉะบับหนึ่ง ว่าด้วยได้กับเงินกำไรโรงกระสาปน์ที่พระไชยยศส่งนั้นแล้ว กับจมื่นวีไชยยุทธบอกริโปดทหารเฝ้าวังมาด้วยฉะบับหนึ่ง เย็นลงเรือขะนูไปทางคลองในสวนขึ้นที่กลางสวนเดินไปดูการพอฝนตกก็กลับ ค่ำไปโรงพิธีสวดมนต์ตามเคย สมเด็จเอาริ้วสระขนานใหญ่ ปีขานโทศก ศักราช ๑๑๙๒ มาให้ เป็นกระบวนช้างเล่มหนึ่ง
วันพฤหัสบดี แรม ๑๓ ค่ำ เดือน ๙ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙
เวลาย่ำรุ่งไปที่วัดจุดเทียนรับศีลแล้ว ขึ้นไปบรรจุพระเจดีย์แล้วกลับลงมาชักต้นโพธิ์ลงที่ แล้วเลี้ยงพระถวายของไทยทานเล็กน้อยแล้วกลับขึ้นไปดูวิวบนร่างร้านที่บรรจุพระเจดีย์อีก แล้วได้ปิดทองด้วย เวลา ๒ โมงเศษกลับ กินเข้าแล้วนอน เวลาบ่าย ๒ โมงเศษตื่น พระยามหามนตรีนำหนังสือพระยารองเมืองซึ่งมีมาถึงนั้นมาให้ดู ว่าจ่าแผลงไปจับอายุบแขกสัปเยกต์อังกฤษเล่นไพ่ ๓ ใบมาจำตรวน นิวแมนมีหนังสือขึ้นมา พระยารองเมืองตอบไกล่เกลี่ยไปฉะบับหนึ่งแล้ว ส่งตัวแขกกลับคืนไปแล้ว พระวิสูตรสาครดิฐขึ้นมาเที่ยว แล้วแวะมาหาพูดกันอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง แล้วลงเรือขะนูข้ามไปที่สวนดูการแล้วไปลงเรือที่กลางคลองพายไปแวะบ้านยายศรีวิไลยครู่หนึ่งกลับ วันนี้เวียนเทียนพระเจดีย์ ขึ้นไปดูจุดดอกไม้เพลิงที่พระที่นั่งชั้นสูง แล้วสมเด็จเอาริ้วกระบวนม้ามาให้
วันศุกร์ แรม ๑๔ ค่ำ เดือน ๙ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙
สั่งพระยาราชให้หาทาสที่กรุงเก่า ที่เหนือปีฉลูเบ็ญจศก ๑๒๑๕ ขึ้นไปจะช่วยในการเฉลิมพระชนม์พรรษานั้น แล้วไปที่ศาลเจ้าครู่หนึ่ง กลับมาลงเรือโสภณออกเวลาเที่ยง ๑๕ มินิต พอมาถึงบางคูวัดเรือต้องเดินช้า ๆ เพราะกรับรองไฟยุบใส่ไฟสติมไม่ขึ้น แล้วให้เรือนกอินทรีย์จูงไปพอได้แก้กรับ แวะวัดปรมัยยิกาวาศดูการแล้ว ล่องลงไป เรือนกอินทรีย์ไม่ได้จูง ถึงตำหนักแพเวลา ๕ โมงเศษ มีขุนนางพระยาอภัยรณฤทธิ์ พระโทรเลข ราชเศรษฐี แล้วเข้าไปข้างใน
อนึ่งที่บางปอิน รับหนังสือเจ้าพระยามหินทรฉะบับหนึ่ง ส่งความเห็นจะจัดการในสัสดีเร่งเงินมา กับยอดบัญชี ขุนหมื่นคัดขึ้นและไพร่หลวงจ่ายคงกรมส่วยด้วย
กาพย์จดหมายมาว่าด้วยเงินเดือนทหารที่ขาดวันนั้นจะคิดอย่างไรกับเจ้าต๋งไม่มีผู้ยื่นบัญชี กรมอดิศรไม่เข้าเวรถึง ๒ วิกจะให้ทำอย่างไร
ได้เขียนตอบฉะบับหนึ่ง เงินเดือนขาดพ้น ๗ วันจึงคิดลด แต่เจ้าต๋งให้เบิกไปเดือนหนึ่งก่อนแล้วจึงจะย้าย กรมอดิศรนั้นต้องตามกฎหมาย รับหนังสือพระยาเทพประชุนมาแต่เชียงใหม่ไปรเวต ๓ ฉะบับ