เดือน ๘ จุลศักราช ๑๒๓๙

วันจันทร์ ขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๘ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙

ท้าวแพนำคำแปลหนังสือพิมพ์เมืองสิงคโปร์ว่าด้วยจีนเมืองภูเก็ตเจ้าพระยาภาณุวงศ์ส่งมาให้ฉะบับหนึ่ง พระปรีชามาหาพูดด้วยเรื่องเลข จมื่นไชยยุทธจดจำนวนเลขข้อมือขวาที่เขาไชยฉิมพลีแขวงเมืองเพ็ชร สักขึ้นใหม่อีก ๑๐๐ คน แต่เลขรายนี้ว่ามีถึง ๑๐๐๐ เศษ มิศเตออาลบาศเตอมีหนังสือเพิ่มเติมข้อสัญญาเรื่องเงินอีกฉะบับหนึ่ง กรมภูธเรศยื่นสารบบคำปรึกษาชี้ขาดฉะบับหนึ่ง ได้มีหนังสือถึงพระยารองเมืองให้หาที่ทำตึกดินใหม่ฉะบับหนึ่ง ถึงวังหน้าปรึกษาเรื่องจินก้องฉะบับหนึ่ง ออกขุนนาง พระยาศรีอ่านบอกพระศรีเสนาว่าได้รับเงิน ๓๐ ชั่ง ค่าสะเบียงส่งขึ้นไปให้พระสุริยภักดีแล้ว หลวงภักดีณรงค์กลับลงมา พระยาราชเสนายื่นริโปดความกรมมหาดไทยจำนวนเดือน พระยาโชฎึกนำหนังสือองฮึงมาให้ขอชื่อวัด จ่าชำนาญเอาความมรดกพระยาสัมภาระที่พระยามหามนตรีชำระมาให้ ได้เซ็นคืนไปเป็นแล้วเสร็จ

วันอังคาร ขึ้น ๒ ค่ำ เดือน ๘ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙

รับเรื่องราวจีนยุ่นฉะบับหนึ่งด้วยเดิมเป็นเจ้าภาษี งิ้วละครจำนวนปีมเส็งเอกศก ปีมะเมียโทศก เงินหลวงค้าง ๘๔ ชั่ง จะขอผัดส่งปีละ ๑๐ ชั่ง ได้สั่งให้สมเด็จกรมพระมีหนังสือถึงท่านภูธราภัยให้งดเร่งเงิน ยอมให้ผัดตามเรื่องราว สมเด็จกรมพระได้ส่งจดหมายรายยอดเงินที่จะลดให้เจ้าภาษีอากรที่เงินหลวงค้าง และสมุดยอดบัญชีพระยาสุรศักดิ์และยอดบัญชีรายเจ้าภาษีส่งของนอก บัญชีพระยาสุรศักดิ์ที่ชำระเข้ามา ได้เซ็นยอดบัญชีพระยาสุรศักดิ์ที่หลวงอังคนีศรยื่นบัญชี ๙ เล่ม คงเงินยังไม่ได้เบิก ๔๑๘๔ ชั่ง ๑๒ ตำลึงนั้น ให้หลวงอังคนีศรเบิกหักจ่ายเงินที่เจ้าภาษีนายอากรส่งเงินหลวงค้าง ๒๘๑๓ ชั่ง ๒ สลึง คงให้เบิกจ่ายตัวเงิน ๑๓๙๑ ชั่ง ๑๑ ตำลึง ๓ บาท ๒ สลึง ๑ เฟื้อง บัญชีเจ้าภาษีส่งของคลังนอก บัญชีพระยาสุรศักดิ์นั้นเซ็นไว้ว่าลดเงินเจ้าภาษีนายอากรที่เงินหลวงค้างเมื่อใดก็ให้เจ้าพนักงานตั้งเบิกหักส่งเสีย เงิน ๔ ราย ๖๖๓ ชั่ง ๓ ตำลึง ๒ บาท ๓ สลึง ให้กรมพระนเรศไปถวายสมเด็จ ๓ ราย ได้สั่งเงินหมอสายล่วงหน้าค่าเรือไฟมีใบส่งพระสยามครั้งที่ ๒ เงิน ๕๐๐ ชั่ง กับได้ให้ร่างหนังสือสัญญาเรื่องที่อาลบาศเตอจะขายให้นั้นไปคิดทำสัญญาด้วย พระปรีชามาพูดด้วยเรื่องบ่อทองและเลขจมื่นวิชัยยุทธมาพูดด้วยเรื่องเลขสมัคเข้าเป็นทหาร ๑๐๐ คน ออกขุนนาง ทหารมหาดเล็กมาลาบวช ๗ คน พระยาศรีอ่านบอกพระยาคทาธร ๒ ฉะบับ ๆ หนึ่งว่าได้ให้ขุนชำนาญนำส่วยกระวานมาส่ง ฉะบับหนึ่งเอาผ้าปูมและแพรเขมรมาให้ พระนรินทรอ่านบอกเมืองไชยาส่งเงินค่านาฉะบับหนึ่ง ได้พูดเรื่องปืนใช้ในราชการทัพกับพระยามหาอำมาตย์ ๆ ว่าเกณฑ์ ๓ คน ปืนกระบอกหนึ่งและการอื่น ๆ กับปืนเมืองโคราชด้วย โลกทีปบอกพระยาทิตย์ยกราษีสงกรานต์เดือนพรุ่งนี้

วันพุธ ขึ้น ๓ ค่ำ เดือน ๘ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙

กรมพิชิตอ่านตัดสินความ สรรเพธนำบัญชีเลขกองกุศลซ้ายจ่ายเดือนมายื่น พระยาราชเสนายื่นริโปดความ พระองค์สายเอาแผนที่ที่อาลบาศเตอจะขายมาให้ดู พระนายศรีเอาแบบฝาผนังเพดานวัดนิเวศน์ธรรมประวัติมาให้ ได้สั่งให้ทำตามนั้น คุณสุรวงศ์มาหาพูดด้วยเรื่องจิ้นก้องและทำรางปืนใหญ่ที่ป้อม ออกขุนนาง พระยาศรีอ่านบอกเมืองสระบุรีว่าตั้งตำบลโคกระบือขึ้นอีก ๒ ตำบล เมืองโคราชส่งปืนลงมากรุงเทพฯ และพระธานีกรมการโคราชลงมาจะเป็นพระมหาดไทยเอาสีผึ้งมาให้ด้วย พระยาพิพัฒอ่านบอกเมืองบางละบุงส่งผู้ร้ายฆ่ากันตาย ลูกเจ้าโสภณถวายตัว ๒ คน กับเซ็นใบสั่งฉะบับหนึ่ง ได้ให้เงินท่านเล็กทำบ้านครั้งที่ ๕ เงิน ๓๐๘ ชั่ง ถวายสมเด็จกรมพระช่วยการทำวัดบรมวงศ์อิศวรารามเงิน ๑๐๐ ชั่ง

วันพฤหัสบดี ขึ้น ๔ ค่ำ เดือน ๘ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙

กรมพิชิตอ่านตัดสินความ พระยาเวียงในเอาแผนที่ในวังมาให้ดูด้วยจะทำเรือนแต่ให้งดไว้ก่อน พระยาธรรมสารนิติยื่นสารบบสัจย้อนแล้วได้มอบให้กรมภูธเรศ วันนี้ได้เริ่มคิดที่จะตั้งศาลชำระความนครบาลค้างปีชวดอัฐศก จะให้ตำรวจทั้ง ๘ กรมเป็นตระลาการชำระในวังที่เจ้ากรมไม่มี จะให้ชักตำรวจหลงกับสรรพเพธไปด้วยศาลหนึ่ง ท่านกลางนำหนังสือขัดข้องว่าฎีกาที่สั่งให้ชำระนั้น เดี๋ยวนี้ติดความมรดกยังตัดสินไม่ได้ ให้กรมพิชิตไปตรวจ ได้รับหนังสือพระยาอัษฎงค์ฉะบับหนึ่งบอกด้วยเรื่องถนนบีศโรดและว่าด้วยก้องจีน กับเรื่องตั้งกงซุลจีนที่เมืองสิงคโปร์เกาะหมาก ว่ายังไม่ได้ปรึกษาและบอกข่าวภรรยาตายด้วย จดหมายถึงเจ้าพระยามหินทรฉะบับหนึ่งว่าด้วยเลขกองกุศลซ้ายที่หลวงอัคนารีคุมนั้นให้คิดเงินค่าราชการเอาแต่เพียงเดือน ๗ ที่รับไป ตั้งแต่เดือน ๘ ให้เรียกต่อสมุห์บัญชีด้วย ได้สั่งให้พระยาพิชิตคุมไปตามเดิมแล้วออกขุนนางที่พระที่นั่งอัมรินทร เมืองนครพนมส่งดอกไม้ทองเงินแล้วได้ให้ตราความชอบพระยามหาอำมาตย์มงกุฎสยามที่ ๑ พระยาโคราชมงกุฎที่ ๒ แล้วตั้งขุนนาง ๙ คน ขุนพิศณุแสนกรมมหาดไทยเป็นพระอร่ามรณวิชิตปลัดเมืองนครนายก ๑ ท้าวสุวรรณเป็นพระยาวิเศษสุรฤทธิ์เจ้าเมืองบริคัณหนิคม ๑ อาผาโตเป็นอุปฮาดเมืองบริคัณห ๑ ท้าวสุวรรณเป็นราชวงศ์เมืองบริคัณห ๑ ห้าววรวงศ์เป็นราชบุตรเมืองบริคัณห ๑ ห้าวคำพรรณเป็นขุนภักดีอุดมเดชผู้ช่วยเมืองบริคัณห ๑ ราชวงศ์เป็นพระรัตนวงศาเจ้าเมืองสุวรรณภูมิ ๑ ท้าวอุปชิตเป็นราชบุตร์เมืองสุวรรณภูมิ ๑ ท้าวบัวแก้วเป็นราชบุตรเมืองอัตบือ ๑ กับพระเทพผลูส่งคำปรึกษาโทษอ้ายพุกแทงหม่อมหลวงเจริญและอ้ายคำฉะบับหนึ่ง

วันศุกร์ ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๘ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙

ท่านภูธราภัย พระยาศรี พระยาราชเสนา เข้ามาหา พระยาศรีอ่านบอกเมืองพิชัยซึ่งมาแต่เมืองหลวงพระบาง ๒ ฉะบับ ฉะบับหนึ่งว่าฮ่อมาตั้งอยู่ที่ปลายเขตต์แดนพวน ท้าวขันตีบอกมา พระสุริยภักดีให้พระศรีสำโรงพระนครไทยยกไปช่วยได้รบกับฮ่อ ๕๐ คนที่นาเขาหมื่นทุ่งเชียงคำ ทัพพระศรีสำโรงแตกเสียพระนครไทยถูกปืนตาย แล้วพระสุริยภักดีจะให้พระศรีสำโรงไปแก้ตัวอีกแต่เดือน ๑๒ ขอให้กองทัพขึ้นไปช่วยสะเบียงก็ขัดสนด้วย ฉะบับหนึ่งว่าด้วยหนังสือตอบญวนและพระยาเมืองขวา เมืองลา เมืองเชียงรุ้ง มีหนังสือมาว่าข่ากำเริบนั้นสงบแล้วจะขอส่งครัวมาเมืองหลวงพระบาง กับพระศรีเสนาบอกมาว่าได้บอกไปตามหัวเมืองให้เตรียมสะเบียงอาหารไว้ทุก ๆ เมือง แล้วพระยาศรีอ่านตราตอบพระยาเทพประชุนอีกฉะบับหนึ่ง ว่าด้วยเรือจ้างและความแสนพันบุญเมืองลำพูนกับเรื่องทหารที่พระยาเทพขอขึ้นไปเชียงใหม่ แต่เรื่องเรือจ้างนั้นให้งดไว้ก่อน ให้ท่านภูธราภัยไปปรึกษามิศนอกซ์ดูว่าเขาจะเห็นอย่างไร กับร่างตราถึงพระยาสุจริตเมืองตากเรื่องส่งความไปมรแมนเรื่องความหม่องเปีย เรื่องน้อยดาวเรือง และเรื่องหลวงชมภูคีรีหนี กับเรื่องพระพลที่พระทิพรักษาคุมลงมาส่งแต่ถอดตรวนเสีย ได้ยกโทษพระทิพรักษาเพราะมีความชอบอยู่แต่ก่อน แล้วอ่านร่างศุภอักษรตอบเจ้าเชียงใหม่เรื่องขอโทษหลวงสุริยามาตย์นั้นยอมยกให้ แต่ส่งลงมากรุงเทพฯ จะได้ว่ากล่าวโทษที่ผิดพระราชบัญญัติ กับพระยาศรีอ่านบอกเมืองเกษวิสัยตาย ขอเจ้าเมืองใหม่และขอเลขที่สมัคในเมืองด้วย พระองค์ดิฐเอาแบบพระพุทธรูปและ พระเจดีย์วัดนิเวศน์ธรรมประวัติที่หล่อมาให้ดู กับได้ตัดสินความขุนทรงธรณีฟ้องพระอุภัยธานีไม่จริงนั้นให้เฆี่ยนขุนทรงธรณีโจทย์ ๓๐ แล้วถอดศักดิ์เป็นไพร่หลวงคงเมืองอุทัยธานี รับหนังสือพระยาพิพิธโภไคว่าไม่ขอรับคุมเลขกองกุศลซ้ายขอให้ยกไปสัสดี ออกขุนนาง พระยาพิพัฒทำบาญแผนกภาษีไม้ดำไม้แดงมาให้ตรวจดู เห็นเจ้าภาษีใหม่เงินสูงอยู่ชั่งเดียวเสียเปรียบเจ้าภาษีเก่ามาก เพราะต้องเสียค่าตราและธรรมเนียมต่าง ๆ ให้พระยาพิพัฒเรียกตัวเจ้าภาษีคนใหม่มาถามถ้ายอมแล้วจงให้ทำ ได้สั่งคำปรึกษาโทษอ้ายพุกแทงหม่อมหลวงเจริญ อ้ายคำ ให้ราชามาตย์ไปให้พระเทพผลู กรมพิชิตยื่นริโปดความศาลฎีกาจำนวนเดือน ๗ และความขุนวังอุทธรณ์ตระลาการในกรมกระลาโหมไม่จริงปิดคำตัดสินเสีย ได้สั่งให้เฆี่ยนขุนวังเสีย ๓๐ แล้วให้บังคับตามตัดสินเดิม พระวิสูตรสาครดิฐมาหา เขียนหนังสือถึงพระยาสุจริตฉะบับหนึ่ง เตือนสติเรื่องทำโทษพระพลแล้วเขียนถึงพระยาอัษฎงค์ถามข่าวเมียตายด้วย

วันเสาร์ขึ้น ๖ ค่ำ เดือน ๘ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙

วันนี้ตัดผม แล้วพระมหาเทพมาหาเอาคำให้การรายความที่ชำระพระยานครชัยศรี หลวงมนตรีนุชิตมาให้ ได้รับหนังสือคุณสุรวงศ์ฉะบับหนึ่ง ว่ากัปตันลอบตัศไปทำแผนที่แม่น้ำบางปะกงกลับมาขอให้พระโทรเลขนำเข้ามาหา ได้สั่งให้มาพรุ่งนี้ พระยากระลาโหมยื่นความเห็นจิ้นก้อง และได้เซ็นความขัดข้องรายท่านกลางมีจดหมายมา พระองค์หัศดินทรทำจดหมายขอเงินทำเรือน กับได้มีหนังสือถึงพระยาเทพประชุนที่เมืองตากฉะบับหนึ่ง ตอบใบที่หนึ่ง

วันอาทิตย์ ขึ้น ๗ ค่ำ เดือน ๘ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙

คุณแพนำจดหมายท่านกรมท่ามา ๒ ฉะบับๆ หนึ่งว่าด้วยห้างดิเบบรรทุกน้ำมันปิโตรเลียมเข้ามาถึง ๗๐๐๐ หีบ เป็นน้ำมัน ๑๔๐๐๐ ถังมากเกินขนาด จะยอมให้เอาน้ำมันขึ้นในหมู่บ้านคนไม่ได้กลัวจะเกิดเพลิง แล้วได้มีจดหมายให้ยังกงซุลฝรั่งเศสให้บังคับห้างดิเบเอาน้ำมันไปไว้เสียให้ไกลเรือนคน กับสำเนาหนังสือที่มีไปและกงซุลตอบมาฉะบับหนึ่ง ว่าได้บังคับไปแล้ว และว่าด้วยควรจะปลูกโรงไว้เป็นของคอเวอนแมนต์ไว้ของที่เป็นเชื้อเพลิง ฉะบับหนึ่งว่าด้วยห้างดิเบขอค่าขนน้ำมันกงซุลส่งมาแล้ว ทำร่างหนังสือที่จะตอบมาให้ดูด้วยแล้วเขียนหนังสือตอบท่านกรมท่าฉะบับหนึ่ง ว่าด้วยการที่จะทำโรงนั้น พระโทรเลขนำกัปตันลอบตัศเข้ามาหาเอาแผนที่แม่น้ำบางปะกงกับริโปดที่ไปทำมาให้ดู แล้วพูดด้วยลูกจ้างไม่พอใช้จะขออีก ได้สั่งพระโทรเลขให้คิดให้ตามสมควรกับการ ท่านภูธราภัย พระยาศรี หลวงเสนาภักดี เข้ามาหา ท่านภูธราภัยมาบอกว่าไปบ้านมิศนอกซ์ปรึกษาเขาดูเขาเห็นว่าควรจะมีฝ่ายเดียว แล้วพระยาศรีอ่านตราถึงพระยาเทพประชุนเรื่องเรือจ้างและอื่นๆ แต่เรื่องเรือจ้างนั้นพระยาเทพประชุนเป็นผู้ทราบการตลอดให้คิดผ่อนไปตามควร แล้วพระยาศรีพานายรอดบุตรพระยาจ่าแสนย์ถวายตัว เวลาเย็นออกไปหล่อเทียนพรรษา แล้วออกขุนนางที่เก๋งวรราชสภาภิรมย์นั้นด้วยทีเดียว พระยารองเมืองเอาหนังสือเรื่องที่รายอับดุลฮูเซนเกี่ยวอยู่นั้นมาให้ พระนรินทรยื่นงบเดือนภาษีฝิ่นภาษีร้อยชักสามจำนวนเดือน ๖ มาให้ พระยาพิพัฒยื่นริโปดความในกรมท่าเดือน ๕ เดือน ๖ เดือน ๗ และความลักกระบือส่งไปให้พระยาอภัยรณฤทธิ์ไม่รับชำระ รวมหนังสือ ๔ ฉะบับด้วยกัน พระขลุงลาไปว่าราชการเมือง ได้ให้เครื่องยศของข้างในโต๊ะ ๑ หีบ ๑ กา ๑ ท่านเล็กนำฎีกาหม่อมเจ้าอมรอำนวยในกรมอุดมมาให้ ได้ให้พระสิทธิไชยไปให้กรมพิชิตชำระ วังหน้ายื่นความเห็นจิ้นก้อง

วันจันทร์ ขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๘ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙

หมอสายมาหาพูดเรื่องที่อาลบาศเตอ พระเทพผลูบอกข่าวผู้ร้ายปล้นที่บางขุนนนท์เมื่อวัน ๖ ค่ำ ได้เซ็นไปให้เจ้าพระยายมราชสืบจับตัวให้ได้ กับได้มีหนังสือถึงพระยามหามนตรี พระอินทรเทพฉะบับหนึ่ง พระยาราชโยธาฉะบับหนึ่ง ๑ พระมหาเทพฉะบับหนึ่ง พระยารองเมืองฉะบับหนึ่ง ให้ช่วยสืบจับผู้ร้าย วันนี้ปิดทองพระพุทธรูปและพระคัมภีร์ เซ็นเรื่องราวเรื่องที่พระยารองเมืองมาให้เมื่อวานนี้ไปให้กรมพิชิตกับริโปดความกรมท่าด้วย ได้จดหมายถึงพระยาอภัยรณฤทธิ์ให้ชำระความลักกระมือที่กรมท่าส่งฉะบับหนึ่ง เซ็นฎีกาเงิน ๓ ฉะบับใบสั่งฉะบับหนึ่ง ออกขุนนาง พระนรินทรบอกว่าโคบรรทุกมาอีกมีหนังสือสำหรับตัวฉะบับเดียว ไปสืบได้ที่บ้านกงซุล แล้วได้มีหนังสือถึงเจ้าพระยาภาณุวงศ์ ๒ ฉะบับ ๆ หนึ่งว่าให้กำชับตำบลตั้งทำรูปพรรณโคกระบืออย่าให้ผิดพระราชบัญญัติ ฉะบับหนึ่งให้มีหนังสือถึงกงซุลให้พระมหาเทพลงไปสอบคำให้การเอาเสมียนพลัดไปด้วย กับได้สั่งพระนรินทรให้ไปกับพระมหาเทพด้วยอีกคนหนึ่ง รับหนังสือเจ้าพระยาภาณุวงศ์ฉะบับหนึ่งตอบเรื่องที่จะตั้งโรงไว้ของที่เป็นเชื้อเพลิง

วันอังคาร ขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๘ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙

พระยาอภัยรณฤทธิ์มาหาพูดเรื่องพระสุริยภักดีให้พระศรีสำโรงไปรบฮ่อแตกมานั้น แล้วพูดออดๆ แอดๆ ต่างๆ พระยามหามนตรีมาพูดเรื่องผู้ร้ายปล้น พระวุฒิการเอาบาญชีตั้งพระมหาให้ดู กับกรมภูธเรศนำร่างหมายรับสั่งให้เคาน์ซิลมารับใบสัจมาให้ด้วยอีกฉะบับหนึ่ง ออกขุนนาง พระยาศรีอ่านบอกพระศรีเสนา ๒ ฉะบับ ๆ หนึ่งส่งผู้ร้ายปล้น ฉะบับหนึ่งว่าด้วยต้องซู่คุมกระบือมาถูกปล้น กับเมืองฉเชิงเทราบอกด้วยผู้ร้ายลักกระบือหนีเขามาในแขวงกรุงเทพฯ ได้สั่งให้พระยารองเมืองช่วยสืบ หลวงศักดิเสนีกลับมาจากเมืองเสียมราฐเอาผ้าหางกระรอกมาให้ ๕ ผืน กับได้ถามถึงจมื่นทิพเสนาว่ายังไม่กลับมาเป็นแต่สั่งลงมาถึงหัวเมืองรายทางว่าให้ปลูกที่ไว้คอยรับจะกลับฟุ้งซ่านมาก ได้สั่งพระยาศรีให้มีตราถึงหัวเมืองให้จับตัวส่งมา หลวงชาติสุรินทรยื่นริโปดความในกรมกระลาโหมจำนวนเดือน ๗ ความเดิม ๕๕ ใหม่ ๒๐ รวม ๗๕ นั้น ชำระแล้ว ๒๙ คง ๔๘ แล้วได้มอบร่างหมายใบสัจไปให้คุณสุรวงศ์ดู กับได้สั่งไปว่าความใบสัจในกรมพระกระลาโหมพอที่จะทำแล้วได้ไม่ต้องส่งมาก็ให้ทำเสียด้วย วันนี้ตั้งขุนนาง ๕ คน ขุนสกลราชถานเป็นหลวงพิมานไพชยนต์ ๑ ขุนแผลงสท้านเป็นหลวงพิศณุเทพ ๑ ขุนพิพิธอักษรเป็นขุนแผลงสท้าน ๑ นายรอดบุตร์พระยาจ่าแสนย์เป็นขุนมหาวิชัย ๑ นายเล็กเป็นขุนวิเศษสงคราม ๑ เซ็นฎีกาเงิน ๓ ฉะบับ แซงชั่น ๓ ฉะบับ กรมเจริญกะประมาณราคาทำวัดเทพศิรินทรมาให้ดูได้รับหนังสือคุณสุรวงศ์ฉะบับหนึ่งว่า พระยาเทพมีหนังสือบอกทุกข์สุขออดๆ แอดๆ แล้วส่งต้นหนังสือและร่างตอบมาให้ดูด้วย แล้วได้ส่งคืนไป วันนี้ได้ลงไปเฝ้าเสด็จยาย

วันพุธ ขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๘ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙

ไม่มีราชการอะไร จนถึงวันเสาร์แรม ๕ ค่ำเดือน ๘

วันอาทิตย์ แรม ๖ ค่ำ เดือน ๘ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙

พระยามหามนตรีมาพูดเรื่องผู้ร้าย พระยารองเมืองเอาคำลูกขุนปรึกษาความ นายแสงฟันอำแดงแจ่มมารดาภรรยาอำแดงเหมือน ภรรยาฟ้องหย่า กับเรื่องลาวทาสนายพิไนย พระยาพิไชยบุรินทรามาบอกบ่าวไปโพนช้างในป่าแขวงเมืองกาญจนบุรีได้ช้างพังช้างหนึ่งสูง ๓ ศอก สีตัวดำตาดำสีผลหว้าแก่เล็บก็ดำด้วย ได้สั่งให้พระกำแพงไปดู ออกขุนนาง พระยาศรีอ่านบอกเมืองนครนายก ๒ ฉะบับ ๆ หนึ่งว่าด้วยน้ำฝนต้นเข้า ฉะบับหนึ่งว่าคนคุมกระบือมาแต่แขวงเมืองนนท์ ๑๒ กระบือ ไม่มีหนังสือเดินทางและตั๋วพิมพ์ ได้ส่งตัวเข้ามา กับพระพิทักษ์เขตร์ขันธ์ลงมา เอาทองทรายมาให้พระศรีสุนทรเทพด้วย ตั้งขุนนาง ๙ คน หลวงภักดีโยธาเป็นพระนครภักดีศรีขันธเสมา ผู้ว่าราชการเมืองจันทึกขึ้นเมืองโคราช ๑ ราชบุตร์เป็นพระศรีนครชัยเจ้าเมืองรัตนบุรี ขึ้นเมืองโคราช ๑ อุปฮาดเป็นพระสุริยศักดิ์สุนทร เจ้าเมืองประชุนชนาลัย ขึ้นเมืองโพนพิสัย ๑ อัคฮาดเป็นพระศรีเกษตราธิชัย เจ้าเมืองศิริเกษตรวิสัยขึ้นเมืองสุวรรณภูมิ ๑ ท้าวศรีวรวงศ์เป็นพระวรสารสุรไกร ผู้ช่วยราชการเมืองหนองคาย ๑ ราชบุตรเป็นพระนครศรีบริรักษ์เจ้าเมืองขอนแก่น ๑ ท้าวเสริมบุตรพระนครศรีบริรักษ์คนเก่าเป็นราชบุตรเมืองขอนแก่น ๑ ท้าวมหาวงศ์เป็นอุปฮาดเมืองหนองลหาร ๑ ท้าวสุริยวงศ์เป็นราชวงศ์เมืองหนองลหาร ๑ กับได้ให้ตราความชอบขุนนางอีก ๒ คน พระยาเพ็ชรรัตนสงครามเจ้าเมืองเพ็ชรบูรณ์ตราช้างเผือกที่ ๔ นายตาดมหาดเล็กบุตรพระยาจ่าแสนย์ตรามงกุฎที่ ๕ กับพระยาเพ็ชรบูรณ์ลาไปเมืองด้วย พระศรีกาฬสมุดเอาเรื่องราวเฟื่องภรรยาหลวงอัคนารีเก่าว่าเรื่องเลขกองกุศลซ้ายมาให้ พระยาราชเสนานำหนังสือท่านภูธราภัยเรื่องความพระปูควันกล่าวโทษพระยาพิศณุโลก หลวงศัลยุทธนำหนังสือพระยาเพ็ชรชฎา ว่าด้วยความปุ้ยและนายหรุ่น

วันจันทร์ แรม ๗ ค่ำ เดือน ๘ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙

ท่านกรมท่ามาหา พระนานายื่นจำนวนภาษีอากรในคลังสินค้าจำนวนเดือน ๖ ปีฉลูนพศก พระยาอภัยรณฤทธิ์มาพูดเรื่องทำงาน นายพิมานรัฐยา พระยารองเมืองมาบอกเรื่องจับผู้ร้ายบางขุนนนท์ได้ กับว่าเป็นทาสอยู่ในพระชลธาร รู้เบาะแสอีก ได้ตามพระชลธารมาได้สั่งให้สืบจับตัว ท่านกลางมีหนังสือมาด้วยสุราเมืองสมุทสงคราม จะขอจำจีนอุ่นจีนแหยม เขียนหนังสือถึงดอกเตอเธรมันสตาเนียศกงซุลเยอรมัน ขอบใจที่เป็นธุระส่งเด็กไปเรียนหนังสือ กับได้สั่งไปว่ากลับจากบางปอินให้มาหา ออกขุนนาง พระยาจ่าแสนย์นำหนังสือท่านภูธราภัยตัดสินความรายทาสนายพินัยมาให้ตรวจแล้วคืนไปตัดสินความพระปูควันให้ไปด้วย ตัดสินความปุ้ยนายหรุ่นให้พระยาเพ็ชรชฎาไปในเรื่องราวตัดสินความเฟื่องให้พระศรีกาฬสมุดไปด้วย เซ็นฟ้องมรดกให้หลวงนายเดช ๒ ฉะบับ

วันอังคาร แรม ๘ ค่ำ เดือน ๘ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙

เวลาเช้า ๓ โมง มีเจ้านายมาคอยส่งหลายคนหยุดพูดหน่อยหนึ่งแล้วมาที่ตำหนักแพ มีคุณสุรวงศ์และขุนนางผู้น้อยหลายคนมาส่ง ได้พูดราชการกับคุณสุรวงศ์แล้วลงเรือโสภณออกเวลา ๓ โมงเศษ ถึงวัดปากอ่าวได้ขึ้นไปดูการต่างๆ แล้วให้ชื่อวัดใหม่ด้วย ได้ทำกระดานสลักชื่อขึ้นไปแต่กรุงเทพฯ ๔ แผ่น แผ่นหนึ่งเป็นชื่อภาษาไทยว่า “วัดปรมัยยิกาวาศ” อีกแผ่นหนึ่งเป็นชื่อภาษารามัญว่า วัดปริมัยยิกาวาศเหมือนกัน สองแผ่นนี้ได้สั่งให้พระคุณวงศ์แขวนไว้ที่โรงธรรมสำหรับสัปบุรุษจะได้อ่าน กระดานอีก ๒ แผ่นนั้นสลักลายลงพื้นขาวเส้นแดงแขวนไว้ที่สะพานคนจะได้อ่าน ว่าวัดนี้เพราะเสด็จยายทรงสร้าง จึงได้ให้นามวัดปรมัยยิกาวาศ เป็นหนังสือมอญแผ่นหนึ่งไทยแผ่นหนึ่ง แล้วกลับลงเรือมีของกำนัลพระยานนท์ยกระบัตรมาให้ ถึงเกาะบางปอินเวลาบ่ายโมงเศษ กินเข้าที่ชั้นล่างห้องกลาง แล้วไปลงเรือโล้มีแจว ๒ มือ แจวคนเดียวอย่างเรือจ้างสิงคโปร์ พระยามหามนตรีทำมาให้ อีกลำหนึ่งมีแจวคัดตะกูดเหมือนเจ๊กโล้เรือแจวเดียว ได้แจวเรือ ๒ แจวนั้นไปทางคลองข้างเหนือจนถึงกลางคลองแล้วกลับ เวลาเย็นไปดูการที่วัดแล้วกลับย่ำค่ำ กินเข้าที่มุขด้านสระ

วันพุธ แรม ๙ ค่ำ เดือน ๘ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙

วันนี้เจ๊กอินเอาของมาให้ เวลาเย็นลงเรือสุนทรทิพอาสน์ ตีกันเชียงขึ้นไปหัวเกาะแล้วล่องตามน้ำลงไปท้ายเกาะนอก แล้วเลี้ยวกลับขึ้นมาจอดสะพานวัด ขึ้นดูการต่าง ๆอยู่จนเวลาย่ำค่ำกลับ

วันพฤหัสบดี แรม ๑๐ ค่ำ เดือน ๘ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙

เวลาเช้า ๒ โมงลงไปดูสวน ให้ปักคลองเล็กออกไปจากหนองในสวน ไปออกคลองข้างหลัง แล้วกลับมาชักรูปที่มุขริมสระ ได้ชักรูปแคบบิเนต ๑ รูปกาศ ๑ หลวงบำราศเอาของมาให้ เวลาเย็นลงเรือสุนทรทิพอาสน์ ตีกันเชียงขึ้นไปหัวเกาะแล้วเลี้ยวล่องลงมาถึงกลางเกาะ ฝนตกต้องขึ้นที่สะพานริมวัดซึ่งปลูกไว้รับพระสาสนโสภณเมื่อคราวก่อฤกษ์นั้น พอขึ้นถึงบนบกฝนก็หายแล้วดูการวัดต่อไป จนเวลาย่ำค่ำข้ามกลับมาวัง

วันศุกร์ แรม ๑๑ ค่ำ เดือน ๘ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙

เวลาเช้า ๒ โมงลงเรือโสภณขึ้นไปจอดที่วังจันทร์ กินเข้าแล้วเรียกกระบวนแห่ แล้วตามไปวัดบรมวงศ์อิศรวรารามไปที่กุฎี อ่านหนังสือประกาศถวายกุฎีแล้วให้สมเด็จลงชื่อด้วยเป็นเจ้าของถวายพร้อมกัน ในกุฎีมีพระธรรมราชา พระธรรมไตรโลกเป็นประธาน เมื่อถวายของเสร็จแล้วไปดูพระอุโบสถแล้วจึงกลับมาบรรจุพระเจดีย์ เวลาบ่ายโมงเศษ กลับมานั่งที่พลับพลา สมเด็จให้นำช้างพระยาพิชัยบุรินทรามาให้ดูใช้ไม่ได้ เพราะตาและเล็บไม่สนิท แต่รูปงาม ได้สั่งให้รับไว้ เวลาบ่าย ๒ โมงกลับมา สมเด็จเอาลูกเต่าสองตัวติดกันมาให้ เต่านั้นเป็นลูกพึ่งแตกจากไข่ใหม่ ๆ ทีเดียวติดกันที่อก วันนี้แกรซีขึ้นมาแต่กรุงเทพฯ เอาแบบโบสถ์มาให้ดู และพระพิเรนทรนั้นกลับมาแต่ลพบุรีมาหาที่นี้ด้วย หลวงจักรยานเอาหนังสือคุณสุรวงศ์มาให้ ๒ ฉะบับ ๆ ใหญ่ว่าด้วยหนังสือกงซุลต่างประเทศตอบเรื่องสุราลายเซ็นที่ยอมบ้างไม่ยอมบ้างนั้น ส่งสำเนาหนังสือกงซุลและร่างบอกถึงคอเวอนแมนต์ต่างประเทศ ส่งกรมท่ามาให้ดู ฉะบับเล็กขอให้อาลบาศเตอแปลหนังสือที่ส่งไปที่เจ้าพระยาภาณุวงศ์กับขุนสุพรรณภาษีเจ้าพนักงานโรงกงษีฝิ่นเมืองนครชัยศรีมาแจ้งต่อพระนรินทรว่าจับจีนจูผู้ร้ายปล้นบางขุนนนท์ได้ ได้จดหมายถึงมิศเตออาลบาศเตอฉะบับหนึ่งส่งต้นหนังสือไปให้แปลเป็นคำอังกฤษ ให้ตำรวจเอาไปให้ในคลองเปรมประชากร แล้วจดหมายตอบคุณสุรวงศ์ด้วยฉะบับหนึ่ง ส่งสำเนาหนังสือกงซุล ๑๐ ฉะบับคืนไป ท่านกลางมีหนังสือมา ๒ ฉะบับ เรื่องสุราเมืองสมุทสงคราม เมืองราชบุรี เมืองกาญจนบุรี ให้จีนเทงเกียน จีนตาด ทำ ๙ เดือน เงิน ๓๙๘ ชั่ง ๕ ตำลึง ฉะบับหนึ่งว่าทองคำจะกาไหล่ฐานพระวัดราชบพิธไม่มีทองจะจ่าย ได้จดหมายตอบฉะบับหนึ่งว่าให้ระวังการผ่อนผันให้ดีอย่าให้ผิดพระราชบัญญัติ กับรายทองคำให้กมลาสยืมทองข้างใน เย็นไปดูการวัดและสั่งให้ทำการต่างๆ วันนี้เวลากลางวันไปกรุงเก่า ฝนตกมากที่นี่

วันเสาร์ แรม ๑๒ ค่ำ เดือน ๘ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙

วันนี้เวลากลางวันฝนตก เย็นไปที่วัดได้สั่งแกรซีให้ทำการอีก ๘ อย่าง คือแก้พื้นพระอุโบสถให้เลื่อนออกไปถึงกลางโบสถ์หนึ่ง แก้พื้นกุฎีให้ปูกระดานหนึ่ง แก้ตำหนักเสด็จที่วัดและกุฎีพระสาสนโสภณให้เป็น ๒ ชั้นหนึ่ง ที่หน้าโบสถ์ ๒ ข้างเดิมคิดไว้จะปลูกต้นโพธิข้างหนึ่งต้นกร่างข้างหนึ่งนั้น ได้สั่งให้ปลูกต้นโพธิข้างด้านแม่น้ำนั้นหนึ่ง ข้างด้านวังให้ทำเป็นซุ้มไว้พระคันธารราฐหนึ่ง ทำศาลาสำหรับขุนนางพักต่อซุ้มพระคันธารราฐมาหนึ่ง ทำศาลาเทียบสำหรับริมสะพานน้ำตรงหอฉันออกไปทั้ง ๒ ข้างๆ ละหลังหนึ่ง หลังหอฉันตรงกลางทำมอนิแมนไว้อัฐิคุณปลัดน้อยหนึ่ง เวลาย่ำค่ำแล้วเกือบทุ่มกลับ วันนี้ได้เรียงตำราพระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยาไว้เป็นแบบราชการโดยละเอียด แล้วจะทำทุก ๆ พระราชพิธีและราชการสำคัญ ๆ ไว้เป็นแบบอย่าง

วันอาทิตย์ แรม ๑๓ ค่ำ เดือน ๘ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙

ได้รับหนังสือมิศเตออาลบาศเตอตอบ ได้รับหนังสือฉะบับหนึ่งอยู่ที่บางหลวงเชียงราก เวลาบ่ายเจ้าปฤษฎางค์มาหาว่าเดินแต่ศาลาหลัก ๗๐ เข้าไปในคลองเปรมประชากร ตัดตรงมาบางปอินทางประมาณหลัก ๒๐๐ เส้น เอาแผนที่ๆ ชักระดับน้ำมาให้ดูแต่ทำไว้นั้น ๓ อย่าง ชักระดับที่นา ๑ ที่จะทำถนน ๑ พื้นคลองน้ำขึ้นลง ๑ ได้ให้รางวัลเงินเป็นเบี้ยเลี้ยง แล้วได้สั่งคุณแพให้จัดสะเบียงให้ด้วย ให้พระยามหามนตรีเอาเรือไปส่ง พระอมรกลับมาแต่ปากน้ำ เอาบัญชีปืนที่ป้อมมาให้ดู เขียนหนังสือถวายสมเด็จกรมพระที่กรุงเก่าฉะบับหนึ่ง ถามด้วยการทำพระแสงศร ๓ เล่ม เย็นไปศาลเจ้าและเดินเลียบไปรอบสระ กลับมานั่งอยู่ที่สะพานเวลาทุ่มหนึ่งขึ้น

วันจันทร์ แรม ๑๔ ค่ำ เดือน ๘ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙

อาลบาศเตอเอาคำแปลหนังสือเรื่องสุรามาให้ แล้วได้ให้ตรวจโคลงที่ทำคำแปลนั้นจะผิดหรือถูกอย่างไร จดหมายถวายสมเด็จกรมพระฉะบับหนึ่ง ให้ท่านส่งโคลงพิธี ๑๒ เดือนไปให้ที่ในวังด้วย แล้วได้รับหนังสือสมเด็จบอกด้วยการทำศร ๓ เล่มฉะบับหนึ่ง วันนี้ถ่ายรูปด้วยหญิงบัณฑรวรรณรูปกาศรูปหนึ่ง เวลาค่ำสักสิบทุ่มผู้ร้ายลักของจับได้ให้พระยามหามนตรีชำระ

วันอังคาร แรม ๑๕ ค่ำ เดือน ๘ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙

พระยาราชพระยามหามนตรีเอาคำให้การผู้ร้ายย่องเบาที่จับได้คืนนี้นั้น ว่าเป็นไพร่หลวงคนในเกาะนี้ ได้สั่งให้เฆี่ยนอ้ายทูบผู้ร้าย ๖๐ ที ส่งคุกในเกาะบางปอิน ๓ ปี วันนี้พระนายไวยซึ่งกลับมาจากเมืองภูเก็ตขึ้นมาหานำหนังสือคุณสุรวงศ์ บอกว่าผู้ร้ายปล้นบางขุนนนท์หนีลงเรือไปเมืองปราณได้ให้อำเภอลงเรือไปจับผู้ร้ายแล้ว แกรซีเอาแผนที่มาให้ดู ให้มหาดเล็กเอาเทียนไปบูชาเจ้าแล้วลงเรือเวลาบ่ายโมงถึงกรุงเทพฯ บ่าย ๔ โมงเศษ ให้คนไปตามพระนรินทร พระยารองเมือง พระองค์ดิฐมาหา ได้ส่งคำแปลเรื่องสุราที่อาลบาศเตอแปลเป็นอังกฤษคืนไปให้คุณสุรวงศ์ แล้วได้พูดเรื่องเมืองภูเก็ตสั่งไปถึงคุณสุรวงศ์ด้วย พระยารองเมืองนั้นพูดเรื่องผู้ร้ายปล้น พระองค์ดิฐพูดเรื่องพระในหอราชกรมานุสร

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ