เดือน ๗ จุลศักราช ๑๒๓๙

จดหมายเหตุพระราชกิจรายวัน

พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

วันอาทิตย์ ขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๗ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙

เวลาเช้าตื่นนอนแล้วกินเข้าเหมือนอย่างเมื่อวานนี้ ไม่มีการอะไรคิดโคลงยังค่ำ จนเวลาบ่ายเรือเมล์มาถึง พระยามหามนตรีนำหนังสือพระอินทรเทพส่งเรื่องประกาศให้ราษฎรมารับเรือที่ผู้ร้ายลัก จมื่นวิไชยยุทธบอกจำนวนทหารและบอกเรื่องคนแทนทหาร ได้แก้ไขประกาศนั้นบ้างแล้วส่งกลับคืนไป ลงเรือลักษยุมมีแล่นตามลมขึ้นไปถึงหัวเกาะแล้วแล่นก้าวลงไปจนกลางเกาะเกิด แล่นตามลมกลับขึ้นมาจอดที่สะพานเวลา ๒ ทุ่มเศษ แล้วลงเรือขะนูไปเฝ้าเสด็จยายที่ตำหนัก กลับมาเวลายามหนึ่ง เวลา ๕ ทุ่มยายศรีวิไลยมาถึงได้ข่าวว่าไฟไหม้ที่คลองผดุงกรุงเกษมประมาณสักร้อยหลังเรือน

วันจันทร์ ขึ้น ๒ ค่ำ เดือน ๗ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙

อะไรๆ เหมือนตามเคย ให้กรมพิชิตร่างประกาศเรื่องให้เรียกชื่อคนให้ตลอดชื่อส่งลงไปตีพิมพ์ประกาศที่กรุงเทพฯ พระยาราชมาบอกด้วยเรื่องหากันว่าทำเงินแดงที่กรุงเก่าชำระว่าไม่ถึงทำเองเป็นแต่รับใช้ ได้สั่งไว้แต่เดิมให้ทำโทษตามฐานใช้เงินแดง บัดนี้ซัดกันต่อออกไปอีกแต่ไม่มีหลักได้สั่งให้งดไว้ทำโทษแต่ชั้นความเดิม กับเอาท้องตราหาตัวพระสยามลาวบดีกับตระลาการลงไปด้วยเรื่องความต้องซู่หาว่าจับตัวจำขังตรางไว้ถึง ๑๕ วันแล้วเรียกเงินค่าธรรมเนียมตรางและเมื่อจับนั้นกระบือหายไป ๕ ตัว อีกข้อหนึ่งว่าด้วยกรมการเมืองนครนายกจับหนังสือสำหรับตัวโคกระบือปลอมไปจากเมืองสระบุรีได้ให้ส่งตัวผู้ทำหนังสือปลอมนั้นลงไป ได้สั่งพระยาราชให้ตามพระสยามลาวบดีลงไปกรุงเทพฯ แต่อ้ายกรมการที่ทำหนังสือปลอมนั้น ให้เอา ตัวลงมาถามเป็นคำให้การที่บางปอินนี้ เวลาเย็นลงเรือลักษยุมมีที่สะพานแล่นขึ้นไปหัวเกาะ แล้วก้าวกลับขึ้นไปถึงหัวเกาะเกิดกลับขึ้นมาจอดที่สะพานเวลาทุ่มเศษ

วันอังคาร ขึ้น ๓ ค่ำ เดือน ๗ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙

เรือเมล์พระยามหามนตรีมาถึงได้รับหนังสือท่านกรมท่าส่งสำเนาประกาศห้ามตกเข้าฉะบับหนึ่ง สำเนาหนังสือไปอินเดียเรื่องความเมืองเชียงใหม่ฉะบับหนึ่ง หนังสือหมอความวิลันดามีขึ้นมาฉะบับหนึ่ง หนังสือท่านกรมท่าตอบหมอความฉะบับหนึ่ง หนังสือพระสยามธุรพาห์ถึงมิศเตอเบดแมนฉะบับหนึ่ง ได้จดหมายตอบท่านกรมท่าฉะบับหนึ่ง ไปรเวตฉะบับหนึ่ง คำประกาศห้ามตกเข้านั้นให้พระยาราชส่งกรมขุนบดินทรตีพิมพ์ จดหมายถึงคุณสุรวงศ์เรื่องเมืองจีนฉะบับหนึ่ง พระพิเรนทรนำจดหมายเจ้าพระยายมราชบอกด้วยการไฟไหม้ที่กรุงเทพฯ ฉะบับหนึ่งว่าวันอาทิตย์ขึ้น ๑ ค่ำเดือน ๗ เวลาบ่าย ๒ โมงเศษเกิดเพลิงไหม้ที่ตลาดหน้าวัดแก้วฟ้าไหม้ตึกหลังหนึ่งเรือน ๒๐ หลัง โรง ๓๐ หลัง รวม ๕๑ หลัง จีนเงินเป็นต้นไฟอำเภอตามจับตัวยังหาได้ไม่ วันนี้กรมเจริญมาถึงเวลาบ่ายลงเรือลักษยุมมีที่สะพานแล่นตามลมขึ้นไปหัวเกาะแล้วก้าวกลับขึ้นไปจนถึงเกาะเกิดอ้อมเกาะทางในกลับมาขึ้นที่สะพานเวลาทุ่มเศษ

วันพุธ ขึ้น ๔ ค่ำ เดือน ๗ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙

แกรซีเอาแปลนวัดมาให้ดู พระยามหามนตรีเอาหนังสือพระยารองเมืองบอกเรื่องไฟไหม้มาให้ ว่าเกิดเพลิงขึ้นที่บ้านอิ่มหม้ายน้องพระยามหานุภาพ (ภู) ที่ถึงแก่กรรมบ้านอยู่ริมคลองผดุงกรุงเกษมฝั่งใต้ต่อกับวัดแก้วฟ้าเข้ามา ไหม้ข้ามคลองข้างเหนือมาด้วยจนถึงบ้านพระอนุรักษโยธา (น้อย) นอกราชการฝั่งคลองข้างใต้ถึงตึกแถวหน้าสะพานเหล็กเพลิงจึงหยุด

ไฟไหม้นั้นฟากคลองข้างเหนือตึก ๓ ห้องหลัง ๑ เรือนเครื่องสับ ๒ หลัง เรือนเครื่องผูก ๗ หลัง รวม ๙ หลัง โรง ๑๒ หลัง รวมทไหม้ข้างเหนือ ๒๒ หลัง

ไฟไหม้ฟากคลองข้างใต้เรือนฝากระดาน ๑๒ หลัง เรือนเครื่องสับ ๖ หลัง เรือนเครื่องผูก ๕ หลัง รวม ๑๑ หลัง โรง ๒๓ หลัง รวมที่ไหม้ข้างใต้ ๔๖ หลัง รวมที่ไหม้ทั้งหมด ๖๘ หลัง แต่สะพานเหล็กนั้น พื้นกบบังตาที่เป็นไม้หมอนเสาไหม้ม้ารถเดินไม่ได้ กับเสาเตลิกราฟฟากคลองข้างใต้ไหม้ ๔ เสา ต้นไฟนั้นจีนเงินเป็นลูกจ้างไส้หูเผาปูนของอิ่ม เมื่อขณะไฟติดขึ้นจีนเงินก็ไม่อยู่ยังไม่ได้ตัวจีนเงิน ได้ตอบถึงพระยารองเมืองฉะบับหนึ่ง ว่าให้หาเสาเตลิกราฟเปลี่ยนที่ไฟไหม้เสีย แล้วให้ไปบอกคุณสุรวงศ์ให้เจ้าพนักงานกรมโทรเลขมาขึงสายเสียให้แล้วโดยเร็ว กับสะพานเหล็กนั้นให้พระยารองเมืองทำเสียให้แล้วดังแต่ก่อน ให้เอาเงินรายค่าตลาดใช้ พระยาภาษเอาหนังสือพระยาอัษฎงค์มาให้ว่าด้วยจีนกำเริบที่เมืองระนอง และเมืองภูเก็ต กับตึกที่ถนนบิซโรดเมืองสิงคโปร์นั้น ว่าตรัศตีไรเฟอรอินสตีติวเช่น ผู้รักษาสกูลใหญ่ อยากจะเช่าเป็นสกูลผู้หญิงเรียนหนังสือ ตัวเขาอยู่ในรักษาสกูลเหมือนกัน ได้ตอบพระยาอัษฎงค์ฉะบับหนึ่ง เวลาเย็นไปดูการที่วัด สมเด็จมาถึงได้พูดด้วยเรื่องวัดเวลาเกือบค่ำ กับท่านกลางมาถึงมาหาพูดเรื่องจับสุราที่อ่างทอง กงซุลโปรตุเกศมีหนังสือขึ้นมา

วันพฤหัสบดี ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๖ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙

พระยาราชมาหา บอกด้วยเรื่องได้ตัวกรมการเมืองสระบุรีมาชำระ ซึ่งทำหนังสือโคกระบือไม่ลงชื่อกำนันให้ตีคนละ ๒๐ ที พระยามหามนตรีได้เอาหนังสือพระยารองเมืองบอกเรื่องผู้ร้ายปล้นหมื่นสนิทรักษาอำแดงจ้อยภรรยา ทั้งโรงทำนาอยู่ที่หนองแขมแขวงกรุงเทพฯ เวลาเย็นไปที่วัดสวดมนต์ก่อฤกษ์ ค่ำมีหนังและดอกไม้ เวลา ๒ ทุ่มกลับ วันนี้ท่านภูธราภัยมาถึงบอกด้วยเรื่องความที่กรมการเมืองสระบุรีจับต้องซู่ซึ่งไม่มีหนังสือสำหรับตัวส่งลงไปกรุงเทพฯ นั้นได้ปรึกษากับมิศนอกซ์ตัดสินแล้ว ได้รับหนังสือคุณสุรวงศ์ฉะบับหนึ่งบอกด้วยจะซื้อดินดำไว้ใช้ราชการ และส่งริโปดไฟไหม้ที่พระยารองเมืองยื่นมาให้ด้วย

วันศุกร์ ขึ้น ๖ ค่ำ เดือน ๗ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙

เวลาเช้า ๓ โมงไปก่อฤกษ์วัดเกลี่ยปูนโรยทองป่นเงินป่นก่อนแล้ววางศิลาแล้วก่ออิฐเงินอิฐทองต่อไป พระฉันแล้วพระธรรมราชาและพระที่ทำโคมช่วยงานมาหา ได้ถวายของไทยทานธูปเทียน เช้าได้ให้คุณแพทำสำรับไปส่งเวลาหนึ่งกับได้แจกอัฐจีนที่ทำงานในวัดด้วย เวลา ๕ โมงเศษกลับ กับได้สั่งพระยานนท์ให้กลับไปคอยสืบจับผู้ร้ายที่ปล้นหมื่นสนิทรักษา หลวงจักรยานนำหนังสือคุณสุรวงศ์มาให้ว่าด้วยกัปตันลอบตัศทำแผนที่แม่น้ำบางปะกงมาให้ดู และเห็นว่าโรงสีโรงหีบมีขึ้นในแม่น้ำไปภายหน้าเรือจะเดินเข้าออกเป็นประโยชน์กับลูกค้าทั่วไป ว่าได้จัดเรือพิฦกฦๅชัยให้กัปตันลอบตัศไปหยั่งน้ำ กับริโปต คำตราสินพระยารองเมืองยื่นด้วยเรื่องปล้นหมื่นสนิทรักษามาด้วยฉะบับหนึ่ง ได้ตอบ ๒ ฉะบับ ๆ หนึ่งว่าด้วยเรื่องที่ซ่อมสะพาน และเรื่องความโคกระบือที่ชำระได้ความแตกออกเป็น ๒ เรื่อง ฉะบับหนึ่งเรื่องกัปตันลอบตัศไปทำแผนที่ที่บางปะกง และเรื่องผู้ร้ายปล้นหมื่นสนิทรักษา เวลาเย็นไปที่วัด เสด็จยายเสด็จไปก่อฤกษ์ด้วย แล้วกลับมานั่งที่สะพานหน้าวัง

วันเสาร์ ขึ้น ๗ ค่ำ เดือน ๗ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙

เวลาเช้าไปที่ศาลเจ้าด้วย วันนี้มีงานเล่นลครสังเวยปีใหม่ นายรองบำเรอนำหนังสือเจ้าพระยามหินทรมาให้ฉะบับหนึ่ง ส่งร่างหมายประกาศจำหน่ายชราตายพิการ และร่างหมายให้ส่งเงินคำราชการค้างเก่า ๕ จำนวน และร่างหมายเก่ามาด้วยเป็น ๔ ฉะบับ ได้ตอบเจ้าพระยามหินทรฉะบับหนึ่ง ว่าให้ลงพิมพ์ประกาศใหม่ ๒ ฉะบับเสียทีเดียว นายรื่นมหาดเล็กบุตรพระยาศรีได้นำหนังสือพระยาศรีมาให้ฉะบับหนึ่ง คัดบอกส่งส่วยเมืองสุรินทรเมืองสองครดอน เมืองหนองลหารส่งเงินส่วยเร่ว กับจัดซื้อช้างและขอตั้งอุปราชเมืองหนองลหาร กับหนังสือพระยามหาอำมาตย์ด้วย ๓ ฉะบับ ไม่ได้ตอบ พระยาศรีทำหนังสือใบรับให้นายรื่นไว้ เวลาบ่ายสมเด็จมาหาลาขึ้นไปกรุงเก่า ค่ำไปศาลเจ้าและแวะดูหนังหน่อยหนึ่ง ค่ำพระยามหามนตรีนำหนังสือพระยาศรีคัดบอกพระปรีชาว่าพระวิชิตสงครามปลัดเมืองนครเสียมราฐส่งหีบบอกข้อราชการมาฉะบับหนึ่งว่า เจ้าเมืองสูตรนิคมแต่งให้หลวงมนตรีสงครามออกไปลาดตระเวนรักษาด่านพนมศกต่อแดนเมืองชีแครง จับตัวมโนยงได้ส่งไว้ที่พระยานุภาพไตรภพ ๆ ถามว่าจะมีหนังสือไปยังเลอเรเปรยันตังหรือยังไร ได้ตอบพระยาศรีไปฉะบับหนึ่ง อนึ่งวันนี้ได้มีหนังสือถึงเจ้าคุณกลางฉะบับหนึ่ง ให้พรในการแซยิดครบรอบ ๖๐ ปี ให้เงินขวัญด้วยปีละ ๒ ตำลึงเป็นเงิน ๖ ชั่ง

วันอาทิตย์ ชื้น ๘ ค่ำ เดือน ๗ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙

พระยาราชมาหาว่าได้ตัวกรมการที่เขียนหนังสือเดินทางด้วยเส้นดินสอมาแล้วให้ตีเสีย ๓๐ ที พระยามหามนตรีนำหนังสือพระยารองเมืองมาให้ฉะบับหนึ่ง พระอินทรเทพฉะบับหนึ่ง แต่ไม่มีราชการอะไร พระยารองเมืองมาด้วยเรื่องทำเสาสายโทรเลขและสะพาน กับได้ตัวผู้ร้ายที่ปล้นหมื่นสนิทรักษาได้ให้พระยามหามนตรีตอบไป พระยาภาษได้ส่งหนังสือเจ้าพระยาภาณุวงศ์มาให้ฉะบับหนึ่ง ว่าด้วยเตลิกราฟที่จะให้คนไปไซ่ง่อน กับส่งสำเนาหนังสือชะวะเลียติแซเฟอราชทูตออสเตรียที่เมืองญี่ปุ่นมา ๒ ฉะบับเป็นราชการฉะบับหนึ่ง ไปรเวตฉะบับหนึ่ง ได้ตอบท่านกรมท่าไป ๒ ฉะบับ เป็นราชการฉะบับหนึ่ง ไปรเวตฉะบับหนึ่ง

วันจันทร์ ขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๗ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙

เวลาเช้าโมงหนึ่งได้ไปถ่ายรูปบนเรืออรเทพลักษมี เรือลักษยูมมีที่หัวเกาะนอก เวลา ๓ โมงเช้ากลับ เย็นลงเรือขะนูไปทางคลองข้างเหนือขึ้นที่บ้านยายศรีวิไลย ฝนตกมากที่บางปอินได้พบคราวแรก เวลาเกือบทุ่มหนึ่งกลับทางคลองที่มาต้องใส่เสื้อฝนเพราะฝนยังไม่ขาดเมล็ด

วันอังคาร ขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๗ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙

พระยามหามนตรีนำหนังสือคุณสุรวงศ์ฉะบับหนึ่ง พระยารองเมืองฉะบับหนึ่ง รวม ๒ ฉะบับมาให้ หนังสือคุณสุรวงศ์ว่าด้วยผู้ร้ายขึ้นเรือนนายแย้มบ้านบางกระบือแขวงกรุงเทพฯ ฆ่านายแย้มตาย กับส่งบัญชีดินดำจ่ายกองทัพมาด้วยฉะบับหนึ่งได้ตอบด้วยฉะบับหนึ่ง หนังสือพระยารองเมืองบอกเรื่องผู้ร้ายฆ่านายแย้มตายที่คุณสุรวงศ์บอกมานั้นให้พระยามหามนตรีตอบไป

วันพุธ ขึ้น ๑๑ ค่ำ เดือน ๗ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙

เวลาบ่ายไปที่จัดดูที่ทางต่าง ๆ ด้วยได้รื้อโรงที่ทำเฟาเดชั่นแล้ว

วันพฤหัสบดี ขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๗ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙

พระยาราชมาหาบอกว่า กงซุลฝรั่งเศส กงซุลอังกฤษต่อว่าขึ้นมาด้วยจับสุราคนสัปเยก กับได้สั่งให้จัดคนขึ้นเป็นทหารสำหรับเกาะ แต่คนบุตร์หมูในเกาะนั้นได้ ๖๐ คน จะต้องเอาคนในมหาดไทย ๖ กองเพิ่มขึ้น

วันศุกร์ ขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือน ๗ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙

เวลาเย็นได้ลงเรือขะนูไปทางคลองข้างเหนือขึ้นที่สวนจะทำใหม่ดูการและปักคลองที่จะขุดเข้ามาในสวนนั้น วันนี้ได้คิดทำสะพานต่อตรงพระที่นั่งวโรภาษพิมานไปสวน ได้สั่งให้ลงมือทำในเดือนหน้าแล้วกลับลงเรือมาทางคลองเดิม ได้รับหนังสือคุณสุรวงศ์ฉะบับหนึ่ง ส่งบอกพระนราธิราชภักดีข้าหลวงเมืองหลังสวนว่าด้วยจีนวิวาทที่เมืองระนองเมืองภูเก็ต ได้รับหนังสือเสมอใจ ๓ ฉะบับ และส่งสำเนาหนังสือเสมอใจมาด้วย กับพระเทพผลูยื่นคำตราสินฆ่ากันตาย ๒ เรื่อง คัดสำเนาส่งมาด้วย ไม่ได้ตอบด้วยพรุ่งนี้จะไปกรุงเทพฯ แล้ว หนังสือท่านกลางมีมาฉะบับหนึ่ง ส่งสำเนาหนังสือกงซุลโปรตุเกศเตือนเรื่องสุราเมืองอ่างทอง พระวุฒิการนำหนังสือสมเด็จกรมพระมาให้ฉะบับหนึ่ง ว่ากำหนดการชักศพพระองค์ถา พระองค์เบญจางค์วันแรม ๒ ค่ำเผาแรม ๓ ค่ำนั้น ได้สั่งให้มีแต่งานกลางคืน กลางวันไม่ต้อง กับส่งโคลงที่ถวายท่านไปคิดมาให้ด้วย

วันเสาร์ ขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๗ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙

เวลาเช้า ๓ โมงเศษไปที่ศาลเจ้าบูชาแล้วกลับมาลงเรือโสภณ ออกจากบางปอินเวลา ๔ โมงเศษ ถึงกรุงเทพฯ บ่าย ๒ โมง เวลานี้ไม่มีใครมารับเพราะอยู่ข้างวันไปหน่อย ได้พูดกับอาลบาศเตอและพระยาอภัยรณฤทธิ์บ้างสองสามคำแล้ว เวลาค่ำ ๒ ทุ่มลงไปพุทธรัตนสถานจุดเทียนรุ่งแล้วเดินเทียน พวกอุบาสิกาสวดมนต์จบแล้วออกไปจุดดอกไม้ที่ข้างภูวดล แล้วออกไปวัดพระแก้วจุดเทียนรุ่งและเดินเทียนตามเคยเหมือนอย่างทุกปี ได้พูดกับท่านกลางด้วยเรื่องกงซุลต่าง ๆ ฟ้องนายอากรสุราเป็นต้น พระนรินทรนำนายพุ่มผู้ถือหนังสือบอกเจ้าหมื่นเสมอใจเจ้าหมื่นไวยมาแต่เมืองภูเก็ต แจ้งข้อราชการว่าจีนยังวิวาทกับแขกและไทยอีก ๒ รายยังชำระสืบสวนอยู่ เจ้าหมื่นไวยเจ้าหมื่นเสมอใจจะขอกลับเข้ามากรุงเทพฯ ได้เอาหนังสือบอกพระนรามาเทียบดูเห็นว่าพระนายไวยจะไปเมืองระนองแล้ว เพราะหนังสือบอกพระนายไวยฉะบับนี้วันอ่อนกว่าหนังสือบอกพระนรา ได้มอบหนังสือบอกพระนราให้พระนรนทรไปด้วยแล้วเข้าไปฟังเทศน์ พระสาสนโสภณเทศนาคัพโภกันติกปสูติมงคลกัณฑ์ต้นกัณฑ์หนึ่งพระยาศรีเอาบัญชีโคมมาให้เวลา ๒ ยามเสด็จกลับ

วันอาทิตย์ ขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๗ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙

เจ้าพระยาภาณุวงศ์มาหาพูดด้วยเรื่องเตลิกราฟที่สมเด็จเจ้าพระยาสั่งไว้ กรมหลวงวรศักดาพิศาลยื่นความเห็นเรื่องเตลิกราฟฉะบับหนึ่ง เวลาค่ำไปพุทธรัตนและวัดพระแก้วเหมือนอย่างเมื่อวานนี้ ได้พูดกับพระยารองเมืองด้วยเรื่องความผู้ร้ายและซื้อที่ฟอกโฮเตลและการอื่น ๆ พระยาจันทบุรีเข้ามาหาเวลาวันนี้ ได้ถามถึงการเมืองและการพระเจดีย์ พูดกันกับท่านกลางด้วยเรื่องกงซุลต่างประเทศ ฟ้องนายอากรสุราเป็นต้นแล้วมาฟังเทศน์ พระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณวัดราชประดิษฐเทศนาบรรพชานาภิสัมโพธิกถากัณฑ์หนึ่ง เวลา ๒ ยามกลับเข้ามา วันนี้ได้รับหนังสือความเห็นคุณสุรวงศ์เรื่องจิ้นก้องฉะบับหนึ่ง

วันจันทร์ แรม ๑ ค่ำ เดือน ๗ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙

พระนานาเอาบัญชีเงินภาษีอากรในพระคลังสินค้าจำนวนปีชวดอัฐศกมายื่น พระองค์สายเอาแบบเรือที่เมชั่นส่งเข้ามาให้ดูแล้วได้ส่งคืนไป เจ้าพระยาภูธราภัยมาหาพูดด้วยการต่างๆ แล้วคุณสุรวงศ์มาพูดด้วยเรื่องเตลิกราฟเรื่องจิ้นก้องและสุราอื่นๆ พลบค่ำจึงได้ออกไปกินเข้าเย็นผิดเวลา จนเวลาค่ำได้ลงไปพุทธรัตน ปวดท้องและแน่นอยู่ในท้องหาได้ออกไปวัดพระแก้วไม่ ให้สวัสดิโสภณไปแทน ได้จดหมายถึงท่านกรมท่าให้ร่างหนังสือกงซุลฝรั่งเศสเรื่องเตลิกราฟ

วันอังคาร แรม ๒ ค่ำ เดือน ๗ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙

ท่านกรมท่าส่งสำเนาหนังสือถึงกงซุลฝรั่งเศสเรื่องเตลิกกราฟเข้ามา ได้แก้ไขแล้วจดหมายส่งไปให้คุณสุรวงศ์ดู และคัดสำเนาส่งไปให้สมเด็จเจ้าพระยาอีกฉะบับหนึ่ง มีจดหมายไปด้วย ได้มอบให้พระนรินทรไป ออกขุนนาง พระยาศรีอ่านบอกเมืองตากแปดฉะบับเรื่องราษฎรกล่าวโทษพระพลนายด่าน ว่าข่มเหงต่างๆ และยื่นบัญชีไม้ต่ำกว่าจำนวนมอบตราให้พะม่าคนในสัปเยกเก็บไม้แทน พระยาสุจริตได้หาตัวมาชำระรับบ้างไม่รับบ้างขัดแข็งไม่ให้การ พระยาสุจริตจำตรวนพระพล ๆ ด่าตรวนเปรียบ พระยาสุจริตเฆี่ยนเสีย ๓๐ ที ฉะบับหนึ่งว่าหลวงชมภูคีรีหนีไปอยู่เขตต์แดนพะม่าอังกฤษ เขียนหนังสือทิ้งไว้ว่านายด่านพระชัยพระเชียงทองข่มเหง แล้วมีหนังสือมาถึงพระยาสุจริตกรมการฉะบับหนึ่ง ว่าขอให้ชำระความและจะลงมากรุงเทพฯ และบอกการอื่นๆ อีกเล็กน้อย พระนรินทรนำจดหมายคุณสุรวงศ์ตอบ กับสำเนาหนังสือถึงกงซุลฝรั่งเศสว่าดีแล้ว หลวงชาติสุรินทรยื่นริโปดความซึ่งได้ชำระในศาลกระลาโหม ๗ วัน เจ้าพระยามหินทรยื่นสำเนาข้อบังคับสำหรับกรมสัสดี ซึ่งจะรับจำหน่ายเลขไพร่สมเนื้อความ ๑๐ ข้อ กับถามด้วยเลขนายจรพรหมธิบาลนอกราชการนำสักคนหนึ่งจะให้ตั้งสังกัดว่ากรมไร ได้สั่งให้ตั้งว่าเป็นราชนิกูล กับส่งสำเนาหนังสือถึงกงซุลฝรั่งเศสให้พระไพไป วันนี้ชักศพพระองค์ขนิษฐาเบ็ญจางค์ วัดสุวรรณ

วันพุธ แรม ๓ ค่ำ เดือน ๗ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙

คุณสุรวงศ์จดหมายส่งเรื่องราวมอญมีชื่อ ๔ คนมาฉะบับหนึ่ง ว่าเดิมมีผู้ร้ายลักโคมา ๖๓ โค สืบได้ข่าวว่าเข้ามากรุงเทพฯ โจทย์จึงได้ตามเข้ามาพบโคอยู่ที่เรือแขกเบเดน ๓๑ โค ได้ไปอายัติไว้ต่อกงซุลอังกฤษ แล้วภายหลังเบเดนบรรทุกโคเข้ามาอีก ๑๑ โค ก็ได้ไปอายัติไว้อีก รวมเป็นโค ๔๒ โค ได้ให้พระนรินทรลงไปสืบคำอายัติและขอหนังสือเดินทางตั๋วรูปพรรณมาดู มีหนังสือเดินทางฉะบับหนึ่ง ไม่มีชื่อผู้ขายฉะบับหนึ่ง มีชื่อผู้ขายฎีกาพิมพ์รูปพรรณโคเขียนรวมลงในฎีกาพิมพ์ฉะบับเดียว มีฎีกาพิมพ์มา ๒ ฉะบับ ใส่ชื่อหลวงมนตรีนุชิตกรมการนายตำบล ไม่มีชื่อกำนัน รองกำนันตามพระราชบัญญัติ ได้ให้พระนรินทรไปบอกท่านกรมท่า ๆ มีตราให้หาพระนครชัยศรีหลวงมนตรีนุชิตเข้ามา ขอให้ตำรวจเป็นตระลาการชำระ จึงได้จดหมายตอบรับคุณสุรวงศ์ไปฉะบับหนึ่ง จดหมายถึงเจ้าพระยาภาณุวงศ์ฉะบับหนึ่ง ว่าได้ตั้งให้พระมหาเทพเป็นตระลาการ และให้เรียกผู้ขายเข้ามาด้วย เจ้าพระยามหินทรเจ้าพระยาภาณุวงศ์ยื่นความเห็นเรื่องจิ้นก้อง ออกขุนนาง พระยาศรีอ่านบอกส่งส่วย พระนรินทรอ่านบอกเมืองกาญจนดิฐ ๓ ฉะบับ เมืองประทุมธานีฉะบับหนึ่งส่งส่วยและปี้จีน กับยื่นงบเดือนภาษีฝิ่นภาษีร้อยชักสาม จำนวนเดือน ๕ หลวงจินดารักษ์กลับมาแต่เมืองตากเอาแหวนทับทิมมาให้วงหนึ่ง หลวงชาติสุรินทรนำคำปรึกษาโทษอ้ายภู่แทงนายกล่ำตาย ได้สั่งให้ประหารชีวิต ได้มอบเรื่องราวมอญ ๔ คนให้พระยามหาเทพเป็นตระลาการ กับได้จดหมายอนุญาตข้อบังคับในกรมพระสุรัสวดีให้เจ้าพระยามหินทร

วันพฤหัสบดี แรม ๔ ค่ำ เดือน ๗ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙

เจ้าพระยาศรีพิพัฒพระยาราชมาปรึกษาด้วยเรื่องจิ้นก้องได้ส่งเรื่องราวเจ้าระเบียบ ความเมียมีชู้ ให้กรมภูธเรศชำระ ไชยานำเรื่องราวเจ้าจอมมารดาเที่ยงเงินค้าง นายสินศรีไกลาสกับนิ่มเมียขอให้ช่วยเร่ง ได้สั่งให้พระยาธรรมจรรยาเร่งพระนรินทรเอาคำแปลหนังสือพิมพ์เมืองปีนังว่าด้วยเรื่องเมืองภูเก็ตมาให้ดู พระยาพิพัฒอ่านบอกเมืองสมุทสงครามส่งส่วย จ่าหาญขอเลข สั่งให้กรมพระสุรัสวดีหักให้ ได้ให้เงินพระองค์ประเสริฐศักดิ์ล่วงหน้าทำเครื่องมโหรี ๑๐ ชั่ง ให้รางวัลเจ้าฉายทำหีบพระคัมภีร์ชั่งหนึ่ง รางวัลพระสุพรรณทำสังวาล ๔ ชั่ง

วันศุกร์ แรม ๕ ค่ำ เดือน ๗ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙

พระยาศรีเอาร่างตราถึงพระยาเทพประชุนว่าด้วยเรื่องเมืองเชียงแสนที่พะม่ามาตั้งนั้น ให้พระยาเทพประชุนคิดการตามท้องตราซึ่งมีขึ้นไปแต่ก่อน และได้มอบหนังสือกงซุลฝรั่งเศสซึ่งมีหนังสือเจ้าพระยาภาณุวงศ์ขึ้นมา ว่าด้วยเรื่องมโนยงและตั้งแต่นี้ไปถ้าจะมีการเกี่ยวข้องกับเมืองพนมเปญ ให้พระยานครเสียมราฐมีหนังสือไปถึงเลอเรเปยันตังทีเดียว ได้สั่งให้พระยาศรีมีตราออกไปถึงพระยานุภาพไกรภพให้เขาทราบ และให้เอาต้นหนังสือกงซุลฝรั่งเศสไปคืนท่านกรมท่าเสียด้วย กรมพิชิตอ่านคำปรึกษาตัดสินความ ออกขุนนาง พระนรินทรอ่านบอกเมืองชุมพรส่งเงินปี้จีนและเงินค่าอัฐเมืองหลังสวนบอกส่งค่านาและค่าอัฐ อากรดีบุก และจะขอตั้งโรงคลวงให้เป็นของหลวง กับจะขอตั้งเจ้าเมืองพะโตะ พระเทพผลูเอาคำให้การผู้ร้ายรายอ้ายพุกแทงหม่อมหลวงเจริญมาให้ดู

วันเสาร์ แรม ๖ ค่ำ เดือน ๗ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙

กรมภูธเรศ กรมพิชิต นำเรื่องความและเรื่องใบสัจต่าง ๆ พระยากระสาปน์ พระยาเจริญ พระยาอภัยรณฤทธิ์ พระยากระลาโหม พระยาราชโยธา มาปรึกษาเรื่องจิ้นก้อง ออกขุนนาง พระนรินทรเอาหนังสือสมเด็จเจ้าพระยาถึงคุณสุรวงศ์ตอบด้วยเรื่องจิ้นก้อง โสเอาแผนที่บ้านมาให้ดู ได้ให้พระยาราชรองเมืองไปสอบและพูดกับพระยากระลาโหม ได้จดหมายถึงสมเด็จกรมพระ และส่งสำเนาหนังสือสมเด็จเจ้าพระยาขึ้นไปกรุงเก่า

วันอาทิตย์ แรม ๗ ค่ำ เดือน ๗ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙

พระมหาเทพว่าด้วยผู้ร้ายปล้นเรือ ได้สั่งให้เฆี่ยน ๕๐ ที เอาตัวไปจำไว้ณคุก พระยาธรรมจรรยาจดหมายมาขอมอบความเรื่องเจ้าระเบียบให้กรมภูธเรศด้วยตัวป่วยอยู่ จดหมายถึงกรมหลวงวรศักดาพิศาลขอออกตัวไม่ไปนั่งโต๊ะที่วังฉะบับหนึ่งด้วยไม่สบายเป็นหวัด อีกฉะบับหนึ่งให้พรในวันเกิดกับส่งเงิน ๖ ชั่ง ๑๒ ตำลึงให้นายจ่ายวดเอาไปถวายเป็นเงินขวัญในการวันประสูติ เซ็นและประทับตราพระราชสาสนให้พรกวีนวิกตอเรียในการที่เป็นเอมเปรศออฟอินเดีย ท้าวแพเอาหนังสือเจ้าพระยาภาณุวงศ์มาให้ ว่าด้วยเรื่องที่จะซื้อโรงและที่ของมิศเตอฟอก ได้รับมงคลกถาเล่มหนึ่งของพระสาสนโสภณ กรมพิชิตอ่านคำตัดสินความ ออกขุนนาง พระศรีธรรมสาสนเอาสำเนาคอเรศปอนเดนที่มีไปมากับกงซุลฝรั่งเศสและกงซุลโปรตุเกศด้วยเรื่องนายอากรจับน้ำสุราต่างประเทศ ได้จดหมายสั่งถึงท่านกลางฉะบับหนึ่ง ให้จัดเสียให้แล้ว และได้มอบเรื่องราวพระยามนูที่ลูกหนี้ลักตราตีใบเสร็จให้พระยารองเมืองไปชำระ ถ้าขัดข้องให้กรมพิชิตพระยาอนุชิตช่วย วันนี้ไม่สู้สบายเป็นหวัดครั่นตัวไป

วันจันทร์ แรม ๘ ค่ำ เดือน ๗ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙

เซ็นฎีกา ๖ ฉะบับ แล้วพระองค์สายเอาปิ๊นสวิศแลนด์มาให้ดูสามอย่าง เวลาค่ำลงไป พุทธรัตนสถาน ให้ไชยันต์ไปจุดเทียนที่วัดพระแก้ว วันนี้ยังไม่สบายอยู่

วันอังคาร แรม ๙ ค่ำ เดือน ๗ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙

สมเด็จเจ้าพระยามีหนังสือตอบเรื่องเตลิกราฟจิ้นก้องฉะบับหนึ่ง ได้เขียนตอบไปฉะบับหนึ่ง แล้วเรียกเจ้าพระยาภาณุวงศ์มาสั่งให้หยุดหนังสือที่จะมีไปถึงกงซุลฝรั่งเสีย พระนายศรีนำหนังสือออเรนเตลแบงค์มีมาขอริสิตเก่าคืน ได้เซ็นชื่อในริสิตทั้งภาษาไทยและภาษาฝรั่ง ให้นายหนูบุตร์พระยากระสาปน์ไปมอบให้พระนายศรี ได้รับหนังสือตอบสมเด็จกรมพระที่ได้สั่งสำเนาหนังสือสมเด็จเจ้าพระยามีมานั้นขึ้นไปถวายฉะบับหนึ่ง ท่านกลางมีจดหมายบอกมาว่าด้วยความรายสุราเมืองอ่างทองนั้นเปรียบเทียบโจทย์จำเลยยอมกัน พระยาอภัยรณฤทธิ์ยื่นความเห็นเรื่องจิ้นก้อง ออกขุนนาง พระนรินทรอ่านบอกเมืองเพ็ชร์บุรีแรกนา เมืองนครเชื่อนขันธ์ปักที่วิสุงคามสีมาและคืนเครื่องยศ พระยาพิพัฒอ่านบอกพระครูเจ้าคณะวัดอะไรไม่รู้เลยตาย และได้ตัวพระยานครชัยศรีและหลวงมนตรีนุชิตเข้ามา พระเทพผลูเอาคำปรึกษาวางบทโทษอ้ายจีนแป้นอ้ายเทียม ฆ่านายเล็กตายมาให้

วันพุธ แรม ๑๐ ค่ำ เดือน ๗ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙

พระรัตนโกษามาพูดเรื่องเอกซหิบิเชน น้าฉายเฉิดมาบอกด้วยราคาหีบหนังสือวัดราชบพิธ พระนานายื่นรายภาษีจำนวนปีฉลู อาลบาศเตอเอาแผนที่อิศเตินเควศชั่นมาให้แล้วพระยาภาษเอากลับ พระดิฐการมาบอกว่า เรือบรรทุกเสาศิลาพระที่นั่งนั้นเป็นเรือใหญ่จะถ่ายขนลำเลียงมายาก ท่านกรมท่าขอให้ขึ้นมาจอดที่ท่าขุนนาง วันนี้ได้ส่งฎีกาไปให้กรมพิชิต ได้รับหนังสือพระอินทรเทพเรื่องความพระยาอาหารกล่าวโทษอ้ายถึกอีเป้า ขุนศรีแผ้ว และพระยาอาหารว่าปรับยังไม่สมยศ ได้สั่งให้ปรับเสียใหม่ ถ้าไม่ตกลงให้ขึ้นลูกขุนปรึกษาได้รับเรื่องราว จั่นภรรยา สาตบุตร์ พระยาราชประสิทธิ์กล่าวโทษอุทธรณ์หลวงนายเดชฉะบับหนึ่ง กับได้ส่งเรื่องราวซุ่นคืนกรมขุนบดินทรไป ให้ไปร้องที่กรมพิชิต เพราะความในศาลฎีกา พระอมรเอาหนังสือมาให้ขอสั่งเครื่องแต่งตัวทหารปืนใหญ่เพิ่มเติมขึ้นอีก ด้วยหัดลูกหมู่ขึ้นใหม่ยังไม่มีเสื้อหมวก เวลาบ่าย ๕ โมงได้ขึ้นรถไปเผาศพพระนมพลับ แต่ไปหยุดที่ประตูผีจุดผักแคไป ได้ให้กรมนเรศไปทอดผ้าและเทียนไปใส่ ของหลวงที่ให้เป็นยศพระนมนั้น คราวนี้ได้ยกแต่ฉัตร์เบญจรงค์และโขนหุ่น นอกนั้นก็ให้ไปตามธรรมเนียม แต่เผาคราวนี้มีศพหลวงพิพิธพยุหพล หลวงศรีหัศเดช เผาตามด้วย กลับมาออกขุนนางที่สนามหญ้า ได้ให้คำปรึกษาวางบทโทษอ้ายจีนแป้น อ้ายเทียมฆ่านายเล็กตายแก่พระเทพผลูไป หลวงอินทรโกษาได้ส่งบัญชีจ่ายน้ำมันจำนวนเดือน ๖ ปีฉลูมาให้

วันพฤหัสบดี แรม ๑๑ ค่ำ เดือน ๗ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙

พระยาไชยสุรินทรนำบานแผนกมาให้ฉะบับหนึ่ง เป็นสุราค่าน้ำ บ่อนเบี้ย ๘ ราย หลวงสวัสดิ์โกษาเอามาฉะบับหนึ่ง ภาษีปลาสดน้ำจืดน้ำเค็ม ได้เซ็นมอบคืนไปให้ทั้ง ๒ ราย หม่อมเจ้าแฉ่งลูกกรมอนันต์เอาตัวอย่างลายเพดานวิหารเก๋งวัดบวรนิเวศน์มาให้ดู พระยาภาษมาบอกว่าฝรั่งจะมาเล่นหีบเพลงซอให้ลู ได้นัดไปวันจันทร์ให้มาเล่น แล้วได้ให้คำประกาศเรื่องจิ้นก้อง ๒ ฉะบับให้ดูเรียงความเห็นเข้ามา พระนายศรีได้เอาแบบแผนที่ที่จะตั้งพระพุทธรูปและพระเจดีย์วัดนิเวศน์ธรรมประวัติมาให้ กรมภูธเรศทำหนังสือมาขอพระครูพิเซต พระยามนู หลวงจักรปาณี หลวงศรีมโหสถ ตรวจใบสัจ คุณสุรวงศ์จดหมายเข้ามาฉะบับหนึ่ง ว่าไปตากอากาศที่อ่างศิลากลับเข้ามากรุงเทพฯ ไม่สู้สบายขอพัก ๒, ๓ วัน จะเข้ามาหา เจ้าพระยาศรีพิพัฒ พระยาราช ยื่นความเห็นเรื่องจิ้นก้อง รวมกันฉะบับหนึ่ง พระยากระสาปน์ พระยาเจริญ พระยาราชโยธารวมกันอีกฉะบับหนึ่ง กรมพิชิตอ่านคำตัดสินความ ออกขุนนาง พระยาราชเสนาอ่านบอกเมืองโคราชว่าเจ้าเมืองจันทึกตายขอเป็นใหม่ ว่าเจ้าเมืองรัตนบุรีไม่เป็นราชการขอราชบุตร์เป็นเจ้าเมือง แล้วพระนรินทรอ่านบอกเมืองราชบุรีฉะบับหนึ่งว่าได้เผาศพพระครูอินทโมลีแล้ว บอกเมืองกาญจนบุรีฉะบับหนึ่ง ว่าได้เผาศพพระครูจันทรังษีแล้วเหมือนกัน แล้วไปยื่นบัญชีตำบลตั้งโคกระบือในหัวเมืองกรมพระกระลาโหมด้วย กับได้สั่งพระยาพิพัฒโกษาให้รวมบัญชีตั้งโคกระบือในกรมท่ามาให้ดู ได้สั่งพระยารองเมืองให้เปรียบเทียบความเจ๊กทำครัวกับโปลิศวิวาทกันนั้นให้แล้วกันเสีย กับได้สั่งเรื่องราวจั่นภรรยา สาตบุตร์ พระยาราชประสิทธิ์อุทธรณ์หลวงนายเดช ว่าความมรดกเก่าที่หลวงนายเดชเปรียบเทียบยอมกันแล้วนั้น บัดนี้หลวงศรีเทพกลับไปฟ้องศาลหลวงว่าทรัพย์มรดกยังอยู่ที่จั่นสาตยักยอกไว้อีก หลวงนายเดชไม่นำฟ้องขึ้นมาให้เกาะจำเลยเอาเอง ให้พระสิทธิไชยไปให้กรมพิชิตชำระ กับเด็กที่จะไปยุโรปเรียนหนังสือเยอรมันนั้นเข้ามาถวายตัวด้วย

วันศุกร์ แรม ๑๒ ค่ำ เดือน ๗ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙

กรมพิชิตอ่านคำตัดสินความอำแดงขาวกล่าวโทษพระยาเจริญ ว่าตัดสินไม่เป็นยุติธรรม ได้ตรวจดูเห็นพระยาเจริญตัดสินชอบแล้ว อำแดงขาวละเมิดกฎหมาย ได้ให้ปรับตามศักดินาพระยาเจริญ แต่ตระลาการสงสัยว่าเงินค่าละเมิดซึ่งปรับนั้น พระยาเจริญราชไมตรีได้รับตราเครื่องราชอิสสริยยศ จะควรได้รับแก่พระยาเจริญหรือส่งเป็นหลวงตามกฎหมายเดิมนั้นเห็นว่าเบี้ยละเมิดนี้ แต่โบราณก็ตั้งไว้สำหรับปรับตระลาการลูกความซึ่งละเมิดพระราชอาญาพระเจ้าแผ่นดินให้ส่งเงินเป็นหลวง กับข้อพระราชบัญญัติในตราเครื่องราชอิสสริยยศนั้นยังบกพร่องอยู่ ให้กรมพิชิตทำหมายประกาศเป็นพระราชกำหนด เพิ่มเติมพระราชบัญญัตินั้นให้ชัดขึ้น พระปรีชามาพูดเรื่องเลขที่จะหักคืนหมู่นั้น ท่านกลางจดหมายมาว่าได้สอบบัญชีพระยาสุรศักดิ์ และถามหลวงอังคนิศร ว่ารายเจ้าระเบียบค้างนั้นไม่มีในบัญชี ได้ตอบไปฉะบับหนึ่งว่า ให้จดหมายบอกกรมขุนบดินทรไปเป็นสิ้นธุระในเจ้าพนักงานคลัง พระยามหามนตรีได้บอกจำนวนคนช่วยในการทำศพพระนมพลัดมาฉะบับหนึ่ง คุณสุรวงศ์มีหนังสือมาฉะบับหนึ่ง ส่งสำเนาหนังสือไปรเวตถึงเจ้าหมื่นไวยและเสมอใจมาให้ดูที่ทราบข่าวว่าจะกลับแล้วส่งคืนไป อาลบาศเตอยื่นริโปดที่จะทำทางและคลองแต่กรุงเทพฯ ไปเมืองสมุท กับเอศติเมตทำเตลิกราฟไปบางปอินด้วย เทวัญได้เอาเครื่องยศอุณากรรณ์มาคืน ได้ให้หีบลงยาและหีบทองหีบกาไหล่ กับตราฟรานซิศโยเสฟตราภัทรากรณ์คืนเทวัญไป กับเทวัญขอเลขอุณากรรณ์ได้สั่งให้หักให้ด้วย เซ็นใบสั่ง ๒ ฉะบับ ฎีกา ๓ ฉะบับ แซงชั่น ๔ กับได้สั่งให้ยกแซงชั่นถังน้ำหลวงพินิจจะทำนั้นหนึ่ง คุณสุรวงศ์มาหาพูดด้วยเรื่องจะจัดการป้อมและอาวุธ เจ้าพระยาภูธราภัยยื่นความเห็นจิ้นก้อง ออกขุนนาง พระยาราชเสนาลา พระยานครนายก และขอขุนพิศณุเทพเป็นปลัดเมืองนครนายก พระยาพิพัฒลา พระไชยชลธีเจ้าเมืองประจันตคิรีเขตร์ไปเมือง และพระพิพิธนายกองส่วยเมืองจันทบุรีมาหาเอาผ้ามาให้ พระนรินทรอ่านบอกเมืองภูเก็ต พระไพ จมื่นสุรเดชลาไปเพ็ชร์บุรี

วันเสาร์ แรม ๑๓ ค่ำ เดือน ๗ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙

พระองค์ดิฐเอาแบบเชิงเทียนที่สั่งมาให้ดูแล้ว ได้มอบแปลนที่จะตั้งพระพุทธรูปและพระเจดีย์วัดนิเวศน์ธรรมประวัติไปให้หล่อด้วย พระโทรเลขนำมิศเตออาลบาศเตอเข้ามาว่าด้วยการที่จะทำถนนและคลองแต่กรุงเทพฯ ไปปากน้ำและทำเตลิกราฟไปบางปอิน กับได้พูดเรื่องก้องเมืองจีนด้วย แล้วอาลบาศเตอได้ให้หนังสือร่างสัญญาที่จะยืมเงินมาให้ดูตรวจด้วย พระมหาเทพเอาคำให้การความโคมอญที่ชำระ พระยานครชัยศรี หลวงมนตรีนุชิตมาให้ จมื่นวิไชยยุทธเอาบัญชีจำนวนทหารที่ไปเมืองภูเก็ตมาให้ดู ท้าวแพเอาหนังสือเจ้าพระยาภาณุวงศ์มาให้ฉะบับหนึ่ง ส่งสำเนาหนังสือกงซุลเมืองปีนังว่าด้วยข่าวจีนวิวาทที่เมืองภูเก็ต ท่านกลางมีหนังสือมาว่าด้วยเรื่องเงินค้างฉะบับหนึ่ง ประทับตราข้อเพิ่มเติมพระราชบัญญัติในศาลฎีกา พระนายไวยมีหนังสือมาแต่เมืองภูเก็ตว่าด้วยที่จัดการนั้น สรรเพธทำหนังสือมารับประกันปลัดเมืองอุทัยคนเก่าฉะบับหนึ่ง สมเด็จกรมพระได้ส่งหนังสือเจ้าพระยามหินทรว่าเรื่องความภาษีฝิ่นและอื่น ๆ มาไปดู ออกขุนนาง พระยาศรีอ่านบอกพระยามหาอำมาตย์ว่าด้วยเรื่องส่วยกับบอกอุปฮาดเมืองโพนพิสัยขอเมืองประชุนชนาลัยมาขึ้น กับบอกพระปรีชาว่าเลขไพร่หลวงล้อมวังไปได้ กับบุตร์เลขคงเมือง จะขอบุตร์หมู่ให้คืนเป็นเลขคงเมือง แล้วพระยาศรีได้ยื่นบัญชีตั้งตำบลโคกระบือฉะบับหนึ่ง พระนรินทรเอาร่างตอบเจ้าหมื่นไวยเจ้าหมื่นเสมอใจมาให้ดูชอบแล้ว ให้มีไป ขุนสมุทนำหนังสือพระยาเทพประชุนมีมาแต่เมืองตากมาให้ฉะบับหนึ่ง พระศรีกาฬสมุดนำเรื่องราวในกรมสัสดีมาให้ ได้จดหมายถึงคุณสุรวงศ์เรื่องถนนไปปากน้ำกับเรื่องให้ทำระดับน้ำคลองเปรมประชากรและเตลิกราฟไปบางปอินกับจิ้นก้องกงซุลเยอรมันพูด

วันอาทิตย์ แรม ๑๔ ค่ำ เดือน ๗ ปีฉลูนพศก จุลศักราช ๑๒๓๙

ได้รับหนังสือคุณสุรวงศ์ส่งต้นหนังสือสมเด็จเจ้าพระยามีมาถึงนั้นฉะบับหนึ่ง ว่าด้วยการที่จะซ่อมปืนใหญ่ที่ป้อม ๔ ปากน้ำ ได้มีหนังสือถึงเจ้าพระยาภาณุวงศ์ฉะบับหนึ่ง ว่าที่มิศเตอฟอกที่จะซื้อนั้นให้ซื้อเป็นรายพระคลังข้างที่ น้าประเสริฐศักดิ์เอาฎีกาเจ้าระเบียบขอเพิ่มเติมคำมาให้ ได้เซ็นไปให้กรมภูธเรศชำระ วันนี้ปิดทองพระพุทธรูปและพระคัมภีร์ด้วย ออกขุนนาง หลวงเสนาภักดีอ่านบอกหลวงบริหาร หลวงสิงหฬ ๖ ฉะบับ ว่าด้วยเมืองผาปูนมีหนังสือมาเรื่องความแสนพันบุญเมืองลำพูนแล้วขอผัดบอกลงมากรุงเทพฯ ก่อน กับเมืองเชียงแสนมีหนังสือมา และหลวงสุริยามาตย์ส่งบัญชีความเงินที่ศาลเมืองเชียงใหม่ กับแห่รูปที่ส่งขึ้นไปให้เจ้าเชียงใหม่ด้วยฉะบับหนึ่ง กับเรื่องไม้ที่จะทำเสาธงนั้นว่ามีแล้ว เมื่อหน้าน้ำจึงจะได้เอาลงมา เจ้าเชียงใหม่มีศุภอักษรมา ๒ ฉะบับบอกด้วยเรือจ้าง เจ้าเมืองผาปูนมีหนังสือเข้ามาจะขอตั้งฝ่ายเดียว แต่เงินค่าจ้างนั้นจะแบ่งให้ครึ่งหนึ่ง เจ้าเชียงใหม่และข้าหลวงตอบให้ จะขอบอกลงมากรุงเทพฯ ก่อน อีกฉะบับหนึ่งขอโทษหลวงสุริมาตย์ที่ทำชู้กับเจ้าอุบลวรรณา พระยาเทพประชุนบอกลงมาฉะบับหนึ่ง ว่าไปถึงเมืองตากแล้วและขอทหารที่กลับมาแต่เชียงใหม่อยู่ที่เมืองตากนั้น กลับขึ้นไปเมืองเชียงใหม่ด้วย พระยาสุจริตบอกลงมา ๒ ฉะบับ ฉะบับหนึ่งว่าด้วยอ้ายนันทาปล้นตีชิงแย่งช้างราษฎร ฉะบับหนึ่งว่าลาวเมืองลำพูนชื่อน้อยดาวเรืองเที่ยวต้อนลาวที่ลงมาค้าขายที่เมืองจับตัวไว้ วันนี้สมเด็จกรมพระเข้ามาได้ปรึกษาด้วยการต่างๆ มาก วันนี้ได้เซ็นเรื่องราวสัสดีคืนพระศรีกาฬสมุดฉะบับหนึ่ง นายศรีทำความเห็นเรื่องจิ้นก้องมาให้ฉบับหนึ่ง

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ