- คำนำ
- พระราชประวัติสังเขป
- ที่ ๑
- ที่ ๒
- ที่ ๓
- ที่ ๔
- ที่ ๕
- ที่ ๖
- ที่ ๗
- ที่ ๘
- ที่ ๙
- ที่ ๑๐
- ที่ ๑๑
- ที่ ๑๒
- ที่ ๑๓
- ที่ ๑๔
- ที่ ๑๕
- ที่ ๑๖
- ที่ ๑๗
- ที่ ๑๘
- ที่ ๑๙
- ที่ ๒๐
- ที่ ๒๑
- ที่ ๒๒
- ที่ ๒๓
- ที่ ๒๔
- ที่ ๒๕
- ที่ ๒๖
- ที่ ๒๗
- ที่ ๒๘
- ที่ ๒๙
- ที่ ๓๐
- ที่ ๓๑
- ที่ ๓๒
- ที่ ๓๓
- ที่ ๓๔
- ที่ ๓๕
- ที่ ๓๖
- ที่ ๓๗
- ที่ ๓๘
- ที่ ๓๙
- ที่ ๔๐
- ที่ ๔๑
- ที่ ๔๒
- ที่ ๔๓
- ที่ ๔๔
- ที่ ๔๕
- ที่ ๔๖
- ที่ ๔๗
- ที่ ๔๘
- ที่ ๔๙
- ที่ ๕๐
- ที่ ๕๑
- ที่ ๕๒
- ที่ ๕๓
- ที่ ๕๔
- ที่ ๕๕
- ที่ ๕๖
- ที่ ๕๗
- ที่ ๕๘
- ที่ ๕๙
- ที่ ๖๐
- ที่ ๖๑
- ที่ ๖๒
- อธิบายคำ
ที่ ๔๘
เรือมหาจักรี ในช่องทเลเกาะอังกฤษ
วันที่ ๒๙ กรกฎาคม ๓๐ร.ศ. ๑๑๖
ถึงแม่เล็ก,
ยังอีกฉบับเดียวเปนสิ้นตอนนี้ คือเล่าถึงคลองกีล ฉันออกจากโคเปนเฮเกนวันที่ ๒๖ มาถึงปากช่องอ่าวกีลเวลาบ่าย ที่นี่เปนที่ ๆ พึ่งขุดคลองขึ้นใหม่ เปิดเมื่อปี ๑๘๙๕ เมืองกีลเองอยู่ห่างคลองทางชั่วโมงหนึ่ง ลักษณที่ทำเหมือนสุเอส แต่การที่ทำภายหลังง่ายกว่า แลทางสั้นไม่ถึงร้อยกิโลมีเตอร์ ผ่านเมืองเชลซวิก ที่แย่งเอามาจากเดนมาร์กที่แผ่นดินมีสูงไม่มากนัก มีที่ราบมาก เปนทุ่งปลูกอะไร ๆ งาม มีดินดีดลอด มีบีชคุมฝอยใต้ดินที่ใช้เปนฟืนขุดขึ้นมากองไว้มาก มันมีเพียงศอกเดียวเท่านั้น ในคลองนี้ขุดดีกว่าคลองสุเอส ลงเขื่อนศิลาตลอด แต่เปนเขื่อนลาด ๆ กันคลื่นเรือเท่านั้น แต่เช่นนั้นพังก็มี ที่ต้นคลองปลายคลองมีประตูน้ำ ทำแขงแรงทีเดียว น้ำข้างต้นคลองปลายคลองผิดกันเล็กน้อย เพราะฉนั้นประตูข้างโน้นปิดอยู่เสมอ ปลายคลองออกแม่น้ำเอลบ์ ที่เมืองฮัมเบิคเปนเมืองท่าค้าขายใหญ่ แม่น้ำนี้เมืองเบอร์ลินตั้งอยู่ ในคลองสุเอสเขาใช้ไฟฟ้าติดหัวเรือ แต่ที่นี่ใช้เสาโคมไฟฟ้ารายตลอดสองข้างคลอง แลทุ่นที่บอกร่องน้ำ ใช้ดวงเล็ก ๓ ดวงมีโคมนอก สว่างแต่พอเห็นคันคลองเท่านั้น มีตะพานรถไฟหลายตะพาน ที่เปนตะพานสูงเรือลอด เปนโค้งใหญ่ เรือเดินเข้าไปใกล้ แลดูช่างลอดไม่ได้เสียจริง ๆ แรกเห็นเพียงปลายเสาจะโดน ยิ่งใกล้เข้าไปเลงดูตรงกับที่เสาต่อ ร้องได้ว่าโครมเดี๋ยวนี้ ครั้นไปถึงเหลืออยู่ข้างบนเปน ๖ ฟิต ร้องกันออกเฮอแต่เสาหลังเปนแต่เพียงพอจะระดังแกรก ๆ แต่ก็ช่างหลุดไปง่ายดายเสียจริง ๆ เขาเล่ากันว่าเมื่อคราวมารับฉันที่สวิเดน พวกกลาสีอึงกันใหญ่ ร้องเสาหักเดี๋ยวนี้ ๆ พอหลุดได้ฮากันลั่น คุยกันเกือบไม่ได้ยินอะไร ว่านี่ไปบางกอกเล่าให้ใคร่ฟัง ว่าเรือกำปั่นลอดตะพานได้ก็จะไม่เชื่อ มันโง่มันไม่เคยเห็นอะไร พวกเขาเองฉลาดเต็มที่ทีเดียว เมื่ออยู่ที่โคเปนเฮเคนเขาอนุญาตให้ขึ้นบกทุกวัน ฉันขี่รถพบเสมอ เดินสองสามคนเดียวก็มี เที่ยวเบิกเที่ยวบานไม่กลัวฝรั่งมังค่าเลย พอเห็นฉันเข้ายืนคำนับอมยิ้มทุกคน เก๋กันเต็มที่ทีเดียว เวลาหนึ่งฉันเห็นเดินคุยกับฝรั่ง ยกมือกางแขนใช้ใบ้เหยวทีเดียว อ้ายฝรั่งก็พิศวงงงงวยอยู่ข้างจะเรี่ยมมากไม่เสียพระเกียรติยศเลย แต่โรคสำหรับบุรุษถึงต้องหายาเติม เงินมันใช้เงินบาททั้งนั้น แลกออกเนื้อได้เกือบสองเท่าทุกคน เจ้าแผ่นดินลงมาแจกเหรียญให้พวกที่ฉันใช้อยู่ ดูอ้ายคนที่ได้ ทำท่าทางยืนกึกกักดีขึ้นมาก เฉลิมพระชนม์พรรษาจะแจกเหรียญบ่าวของฉันทั้งลำ ฉันเพลีนเล่าเรื่องกลาสีไปเสียแล้ว จับเรื่องคลองใหม่ คลองนี้ขุดเพื่อจะให้เรือรบเดิน จึงต้องขออนุญาตก่อนจึงจะเดินได้ ลงทุนมากเก็บเงินได้ไม่คุ้มค่ารักษา ปีกลายนี้มีเรือเดิน ๖,๐๐๐ ลำ มีเวลาน้ำแขงบ้างแต่น้อย ต้องมีเรือย่อย น้ำในกลางคลองจืดฤๅกร่อยเล็กน้อย บ้านคนข้างปากคลองมีมาก แต่กลาง ๆ มีแต่โรง ๆ ตะพานที่หันพับไปได้มีหลายตะพาน ไม่ใคร่มีหนองน้ำที่กว้าง แต่เรือต้องหลีกกันน้อยแห่ง คลองนี้คดไปไม่ตรงเหมือนคลองสุเอสบางตอน โดยกว้างเท่าสุเอสอย่างย่อม ๆ ในทเลบอลติคมีป้อมมีทหารแขงแรงมาก สลุดสองแห่ง เรือรบมีอยู่แต่สองลำ เพราะกองทัพไปเสียข้างเหนือ เห็นไม่ใคร่ถนัดเพราะฝนตกหนัก และหมอกมากด้วย ในเรือไม่ได้ชักสแตนดาด หาไม่ก็ได้สสุดกันวันยังค่ำคืนยังรุ่ง ทางที่มาประมาณ ๗ ชั่วโมง แต่ธรรมดาเดินช้ากว่านี้มาก พ้นคลองมาแล้วไม่มีอันใด นอกจากมีคลื่นเท่านั้น ค่ำวันนี้จะถึงตำบลโอเวศเปนฝั่งเกาะอังกฤษไม่มีอะไร แต่จะต้องพัก ถ้าไปอีกก็ถึงปอตเมาท์ในค่ำวันนี้ เพราะกะเวลาเหลือเผื่อหมอก ต้องเดินช้าลงมา ๔ น๊อต ครั้นไปรออยู่เปล่าๆ ก็จะถอยหลัง แล่นเบาๆ ก็เปลือง ตกลงเปนจอดนอนเสียเงียบๆ รุ่งขึ้นก็ไปให้ถึงเวลาเที่ยงที่ดู๊กออฟยอก๒๕๔จะลงมาทีเดียว
ขอให้ส่วนบุญล่วงน่าว่าจะได้เข้าโบถ อุปสมบทเปน โต๊ะฮะยีโพกเขียวในเวลาพรุ่งนี้ แลขอจองหองขึ้นอีก ๓ วา
ผัวที่รักของแม่เล็ก
(พระปรมาภิไธย) จุฬาลงกรณ์ ป. ร.
-
๒๕๔. ดู๊กออฟยอกนี้ คือ พระเจ้ายอชที่ ๕ พระเจ้าแผ่นดินอังกฤษในเวลานี้ พระราชโอรสของพระเจ้าเอดเวอด ที่ ๗ กับกวีนอาเลกซานดรา ชาตะ วันที่ ๓ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๐๘ ได้สืบราชสมบัติต่อพระบิดาวันที่ ๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๕๓ อภิเศกสมรสเมื่อวันที่ ๖ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๓๖ กับกวีนมารี ชาตะ วันที่ ๒๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๑๐ มีพระโอรส ๔ พระธิดา ๑ รวม ๕ องค์. ↩