ที่ ๑๑

เรือมหาจักรี เมืองเวนิส

วันศุกร์ที่ ๑๔ พฤษภาคม ๓๐ร.ศ. ๑๑๖

ถึงแม่เล็ก,

ด้วยฉันได้จดหมายเรื่องวันนี้มาเปนความย่อ เพราะหาเวลาไม่ได้ ที่เขียนด้วยเส้นดินสอ เพราะมาในรถไฟ วันที่ ๑๖ เวลา ๒ ยาม เขียนหมึกจะเลอะ แต่ไม่สดวกนักบางทีจะขาดได้ แต่ทิ้งไว้คงจะลืม

เวลาที่พวกไทยเรามานั้น เขาแต่งเต็มยศ คนอื่น ๆ เขาแต่งตามยศ แม่เล็กคงจะรู้ได้ว่าอย่างไร แต่จรูญนั้นแต่งเสื้อดิโปลมาติกเลบตแนลคอลแนลฮยูม กับหมอยาร์แต่งเปนทหารเราตามยศที่เทียบตรงกัน ฉันพึ่งลงมาจากตะพานแต่เห็นจะเปนสวัสดิ์เปนผู้เห็นก่อน เขาฮุเรแลคำนับ ได้ความภายหลังว่า จีระจำฉันไม่ได้เลย ว่าถ้าพบกลางถนนจะไม่รู้จักว่าใครทีเดียว แต่เช่นนั้นยังต้องถามเปนนาน ฉันต้องบอกเรื่องขันของแม่เล็ก คือเขากราบบาทด้วย ฉันก็ออกเหวตามแบบ ทางเรือที่เข้ามานั้นเปนคันกั้นน้ำสองข้างบาง ๆ เหมือนที่ยาวา มีเสาโคมที่ปลายคัน เห็นเรืออเมริกันเปนเรือรบอย่างใหญ่ที่เขาเรียกว่าแบลเติลเข้าอู่อยู่ลำหนึ่ง เรือรบอิตาเลียน ๓ ลำสลุด เรือยังไม่ทันทอดสมอ ดู๊กออฟเยนัว๑๒๔ลงเรือไฟเล็กมาคอยรับ ออกมายืนอยู่นอกเก๋ง แต่งตัวเต็มยศเกือบไม่ใคร่ทัน พอเรือทอดสมอก็ขึ้นมา ดูแก่ไปกว่าแต่ก่อนมาก เพราะหัวล้านแลหนวดหงอกมาก แต่ท่าทางก็อย่างเก่านั้นเอง แต่พูดกระซี้กระซ้อมากขึ้นกว่าแต่ก่อน นั่งพูดกันสองต่อสองปิดประตูอย่างโก้หร่านแล้วนำให้รู้จักแอดดิกงคนหนึ่ง กับคนใช้อีกคนหนึ่ง ไวสแอดมีราลคนหนึ่ง เรียแอดมีราลประจำอาสแนลคือโรงทำปืนคนหนึ่ง กับนายเรือทุกลำ ฝ่ายทหารบกเยเนราลผู้บังคับการคนหนึ่ง กับนายทหารอีกบ้าง ฝ่ายพลเรือนแม ๑ ปรีเฟก ๑ กับผู้อื่นอีก สนทนากันนานจึงกลับไป แล้วฉันลงเรือกรรเชียงไปเยี่ยมตอบในครู่เดียวนั้น ดู๊ก๑๒๔มาอยู่ที่โฮเตล รอแยลคานิเวรต่อติดเดินได้ถึงกับโฮเตลที่ลูกโตมาอยู่ เมืองอิตาเลียนปักหลังหนึ่ง ธงช้างปักหลังหนึ่ง อยู่ตรงเรือจอดทีเดียว

(พระปรมาภิไธย) จุฬาลงกรณ์ ป ร.

  1. ๑๒๔. เจ้าธอมะโซแห่งวงศ์ซาวอย ดู๊กออฟเยนัว (พระภาตาของกวีนแมคริตา พระมเหษีพระเจ้าอุมเบอโตกรุงอิตาลี) ชาตะ พ.ศ. ๒๓๙๖ เคยเสด็จมากรุงสยามใน พ.ศ. ๒๔๒๓

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ