พระราชนิพนธ์บทร้องลคร เรื่องนิทราชาคริช
๑ บทอาบูหะซันร้อง ตอนสิ้นทรัพย์ครั้งแรก
(ร้องลำพระยาโศก)
๏ อนิจจาตัวกูไม่รู้สึก | เหิมฮึกมั่งมีสี่สิน |
ฟูมฟายจ่ายมื้อซื้อกิน | บำเรอพวกทมิฬจนสิ้นตัว |
ทั้งเล่นทั้งกินจนสิ้นทรัพย์ | ระยำยับหมดดีมีแต่ชั่ว |
เปนหนี้เขามากครันพันพัว | จะคิดออกตัวอย่างไรเอย ฯ |
----------------------------
๒ บทอาบูหะซันร้อง ตอนเมื่อไปเที่ยวลองใจเพื่อน
(ร้องลำมอญร้องไห้)
๏ บัดนั้น | อาบูรู้สึกนึกเฉลียว |
คบเพื่อนไม่ดีเช่นนี้เทียว | กรูเกรียวแต่ยังมั่งมี |
ยามจนค่นแค้นแสนขัด | พวกเพื่อนเชือนสบัดหน้าหนี |
มิหนำซ้ำว่าด่าตี | เพราะตัวกูไม่ดีมาแต่เดิม |
เพื่อนฝูงจูงจิตรคิดคึก | จนไม่รู้สึกฮึกเหิม |
กอบโกยเหล้าเข้าเฝ้าเติม | เจือเจิมเลี้ยงดูหมู่มิตร |
เสียแรงกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงขุน | ไม่มีบุญคุณแต่สักหนิด |
กลับซ้ำทรยศคดคิด | เจ็บจิตรเจียนเลือดตากระเด็น ฯ |
----------------------------
๓
๏ อกเอ๋ยอกเราเปล่าแท้ | ปรวนแปรวิปริตผิดหมาย |
หวังจะอิงพิงเพื่อนเกลื่อนกลาย | กลับจิตรคิดร้ายราวี |
ยามศุขพร้อมพรักพรรคเพื่อน | ยามทุกข์บ่ายเบือนหน้าหนี |
โอ้ช่างอาภัพอัปรี | ไม่มีความคิดผิดแล้วเอย ฯ |
----------------------------
๔ บทยุนุกร้องถวายพระพรกาหลิบ
(เพลงสรรเสริญพระบารมี)
๏ จึงร้องประกาศก้อง | โกลา หลเฮย |
ขอพระทรงธรรมา | ธึกไท้ |
จงเสวยศุขหรรษา | สมัยเมื่อ นี้แฮ |
ดั่งพระเปนเจ้าให้ | ค่อยน้อมถวายพร ฯ |
----------------------------
๕ บทนางบำเรอขับ ห้องที่ ๑
(เขมรเป่าใบไม้)
๏ ข้าพระบำเรอบรมบาท | องค์ไทธิราชรังสรรค์ |
พระบำรุงเลี้ยงหล้าสามัญ | เหมือนฉัตรกั้นร่มเกษประชากร |
พึ่งพระเดชาเปนผาศุก | นฤทุกข์ภิญโญสโมสร |
เปนศุขทุกวันนิรันดร | อวยพรภูลเพิ่มพระบารมี |
พระองค์ทรงธรรม์ทศพิธ | สุจริตบำรุงกรุงศรี |
ขาดเข็ญเย็นเกล้าชาวบุรี | ยินดีด้วยพระเดชทุกเขตรเอย ฯ |
๖ บทนางบำเรอขับ ห้องที่ ๒
(สารถีชักรถ)
๏ ข้าบาทพนักงานขานขับ | คำนับในเบื้องบทศรี |
ขอถวายบรรเลงเพลงดนตรี | โดยมีมาโนชจำนง |
ด้วยถวิลจินดาสามิภักดิ์ | พำนักในพระประยูรหงส์ |
มอบถวายกายชีวิตรจิตรปลง | ในพระทรงทศพิธฤทธิไกร |
พระเสด็จจากสวรรค์ชั้นฟ้า | ลงมาผ่านภพสบสมัย |
ปรากฎพระยศฦๅไชย | แผ่ไปทั่วทุกธานี |
พระเจ้าทรงธรรม์บรมนารถ | บำรุงราษฎร์บ้านเมืองเรืองศรี |
ล้วนนิยมชมพระบารมี | ชาวบุรีเบิกบานสำราญเอย ฯ |
----------------------------
๗ บทนางบำเรอขับ ห้องที่ ๓
(สีนวล)
๏ โอ้ดวงจันทร์ผันผยองล่องลอยฟ้า | ดวงดารารอบรายทั้งซ้ายขวา |
แสงโสมส่องสว่างกระจ่างตา | แสงดาราระยับรับแสงจันทร์ |
ดูดวงเดือนหงายเหมือนพรายพริ้ม | ดาวสลับรับยิ้มอยู่ฉายฉัน |
เดือนประดับดาราสง่าครัน | ดาวได้จันทร์เปนจอมงามพร้อมเอย ฯ |
----------------------------
๘ บทนางบำเรอขับ ห้องที่ ๔
(หกบท)
๏ สรวมชีพบังคมบรมบาท | พระทรงธรรมิกราชเรืองศรี |
ข้าบาทสนมนาฎนารี | ขอถวายดนตรีบรรเลงลาน |
ร้องระบำบำเรอบรมราช | บรรโลมลเวงเพลงพาทย์ขับขาน |
เสนอเสนาะลำนำชำนาญ | สำเริงสำราญร้องร่ายถวายเอย ฯ |
----------------------------
๙ บทนางดาวพระศุกร์
(ร้องลำแขกมอญ)
๏ พระเอยพระทรงยศ | ดังจันทรปรากฎไม่หม่นหมอง |
ดาวพระศุกร์เสมอข้าฝ่าลออง | ผู้ถวายถ้วยทองใบนี้เอย ฯ |
----------------------------
๑๐ บทนางชื่นจิตร
(ร้องลำจีนแส)
๏ พระเอยพระทรงฤทธิ์ | ชื่นจิตรนี้จงจำนงหมาย |
พระไม่รับถ้วยสุราก็ท่าตาย | ชื่นจะกลายลงเปนชํ้าระกำเอย ฯ |
----------------------------
๑๑ บทนางสร้อยจิตร
(ร้องลำเชิดฉิ่ง)
๏ พระเอยพระทรงธรรม์ | พระผูกพันฤไทยน้องหนักหนา |
เหมือนสร้อยทองคล้องจิตรติดวิญญา | ถ้วยสุรานี้ถวายหมายรักเอย ฯ |
----------------------------
๑๒ บทนางอรุณ
(ร้องลำช้างประสานงา)
๏ พระเอยพระทรงเดช | สุริเยศยามอุไทยย่อมไขแสง |
อันความรักน้องนี้แท้แต่จะแรง | ชื่อแลกายหมายแสดงภักดีเอย ฯ |
----------------------------
๑๓ บทนางเศร้าจิตร
(ร้องลำอักษรสำอาง)
๏ พระเอยพระผ่านเกล้า | ชื่อน้องเศร้าจะขอเสี่ยงวาศนา |
แม้นพระองค์ทรงรับถ้วยสุรา | จะเปลี่ยนนามตามเวลายินดีเอย ฯ |
----------------------------
๑๔ บทนางจันทรประไพ
(ร้องลำเทพบรรธม)
๏ พระเอยพระผ่านฟ้า | ดวงดาราฤๅจะเทียบเปรียบเดือนฉาย |
เว้นแต่แรมจำลับจะรับอาย | พระโปรดเกล้าอย่าให้คล้ายจันทรเอย ฯ |
----------------------------
๑๕ บทนางพวงไข่มุก
๏ บุษบาบานเบิกสร้อย | เสาวคนธ์ |
ฝูงภมรมัววน | หวี่ร้อง |
นารีแรกรุ่นยล | กำดัด สวาดินา |
ชายแต่ตอมจักต้อง | ไต่เต้าตามหา ฯ |
๏ บุษบาบ่เลือกเคล้า | หมู่ภมร |
แต่สัตรีงามงอน | ห่อนหง้าย |
ต่อองค์เอกอดิศร | จึงสบ สมรนา |
ผิวตํ่าจำจิตรหม้าย | อยู่แล้วโหยหา ฯ |
----------------------------
๑๖ บทนางพวงไข่มุก ตอนวางยาสลบ
๏ บารมีพระมากพ้น | รำพัน |
พระพิทักษ์ยุติธรรม์ | ถ่องแท้ |
บริสุทธดุจดวงตวัน | ส่องโลก ไซ้แฮ |
ทวยราษฎร์รักบาทแม้ | ยิ่งด้วยบิตุรงค์ ฯ |
๏ ยืนยงจงรักเบื้อง | บาทมูล ท่านเฮย |
ข้าบาทราชนิกูล | ใหญ่น้อย |
พระสนมสนิทภูล | พิศวาศ ท่านนา |
ความเคียจเกียจคร้านก้อย | กึ่งนั้นฤๅมี ฯ |
๏ เจริญศรีชนมชีพยั้ง | ยืนนาน ยิ่งเทอญ |
พระพลปฏิภาณ | จุ่งแผ้ว |
ดำรงศิริราชฐาน | สมบัติ |
ทอนทุกข์ศุขสวัสดิแคล้ว | คลาดพ้นพรรค์ภัย ฯ |
----------------------------
๑๗ บทนางจอบแก้วมารดาเมื่ออาบูถูกจับไปขัง
(ร้องลำโอ้ร่าย)
๏ โอ้ว่าอาบูลูกรัก | เคราะห์กรรมนำชักให้เกิดเข็ญ |
แม่ถนอมเลี้ยงเจ้าเช้าเย็น | หวังจะเปนเพื่อนยากฝากกาย |
เมื่ออยู่ดีดีหลัดหลัด | เขาจับผูกมัดน่าใจหาย |
ขังกรงกรากเปลี่ยวเดียวดาย | ชีวิตรแม่นี้จะวายเพราะลูกเอย ฯ |
----------------------------
๑๘ บทนางจอบแก้ว ตอนเมื่อไปเยี่ยมอาบูหะซัน
(ร้องลำโอ้ปี่)
๏ โอ้ทรามสุดสวาดิของแม่เอ๋ย | ไม่ควรเลยทุกข์ทนป่นปี้ |
มาต้องถูกโพยโบยตี | เขาไม่ปรานีสักนิดเดียว |
แม่เลี้ยงเจ้าแต่เยาว์จนคุ้มใหญ่ | ก็มิได้ว้าวุ่นฉุนเฉียว |
เจ้ายังไม่ปรากฎรศไม้เรียว | เปรียะเดียวมิได้ต้องข้องระคาย |
โอ้คราวนี้ถูกตีออกย่อยยับ | เขาซํ้าปรับเอาเปนบ้าน่าใจหาย |
แผลเปนรอยบั้งไปทั้งกาย | เพียงชีวีแม่จะวายด้วยลูกเอย ฯ |
----------------------------
๑๙ บทอาบู
(ร้องลำลมพัดชายเขา)
๏ ร่มร่มลมเรื่อยเฉื่อยเฉื่อยพัด | ฟ้าขจัดเมฆหมองงามผ่องใส |
ไม่หนาวร้อนพอสบายคลายฤๅไทย | หอมมาไลยที่ถือติดมือมา |
คิดคราวเคยพร้อมพร้องพ้องเพื่อน | พอเกลื่อนความทุกข์เปนศุขา |
ติดใจจะใคร่ได้เพื่อนพูดจา | คอยหาแขกเดินจะเชิญเอย ฯ |
----------------------------
๒๐ บทอาบูหะซันครวญเมื่อพบกาหลิบครั้งที่ ๒
๏ โอ้โอ๋อนิจายังมาสรวล | ทำแยบยวลเยาะเย้ยเฉลยไข |
จงลืมตาดูเล่นบ้างเปนไร | ทั้งหลังไหล่ย่อยยับเปนสับปลา |
น้อยฤๅรักชักไปใส่กรงกราก | ทั้งฉุดลากทรกรรมซ้ำเปนบ้า |
รักเช่นนี้เข็ดหลาบตราบชีวา | มิขอเห็นแล้วอย่ามารํ่าไรเอย ฯ |
----------------------------
๒๑ บทกาหลิบปลอบอาบูหะซัน
๏ น้องเอยน้องพี่ | อย่าพาทีหักหวนด่วนว่า |
มิใช่มีขุ่นข้องหมองวิญญา | จะได้มาล่วงล่อก่อเหตุการณ์ |
วิสัยรักคงจะชักให้กันศุข | อย่างนี้ทุกคนมิใช่ฤๅไรท่าน |
จงดำริห์หลังน่าอย่าด่วนราน | คนรักนานนานพบประสบเอย ฯ |
----------------------------
๒๒ บทอาบูหะซันร้องกับภรรยา ตอนแต่งงานแล้ว
(ร้องลำต้นเพลงฉิ่ง)
อาบู | ๏ ชื่นเอ๋ยชื่นใจ | เพราะพี่ได้นิ่มน้องประคองขวัญ |
นอซา | น้องดีใจเหมือนได้พี่ที่ร่วมครรภ์ | นับวันจะเกษมเปรมปรีดา |
อาบู | พระผ่านเกล้าเจ้าประคุณการุณเลี้ยง | ได้ชื่อเสียงยศศักดิ์หนักหนา |
นอซา | แม่เหนือเกล้าเจ้าประคุณกรุณา | ผดุงผดายกย่องให้ฟ่องฟู |
อาบู | พึ่งพระคุณอุ่นเกล้าทุกเช้าคํ่า | ประทานซ้ำสินทรัพย์นับอักขู |
นอซา | โอ้เย็นใจเช้าคํ่าแม่ค้ำชู | ทั้งเกื้อกู้สารพัดจัดประทาน |
อาบู | ขอพระจงทรงพระชนม์พ้นเรือนร้อย | สัตรูน้อยใหญ่พินาศอย่าอาจหาญ |
นอซา | ขอพระแม่แผ่พระยศกำหนดนาน | ประสงค์ประการใดให้นึกได้เอย ฯ |
----------------------------
๒๓ บทนางนอซา ฯ ทูลนางมเหษีเมื่ออาบูหะซันแกล้งทำตาย
(ร้องลำมอญร้องไห้)
๏ โอ้คราวนี้ชีวีม้วยสังขาร์
เพราะหะซันพลันสิ้นชนมา | ละตัวข้าโดดเดี่ยวอยู่เปลี่ยวกาย |
แต่วิวาห์อยู่มาไม่มีขัด | นี่หลัดหลัดสิ้นชีวาน่าใจหาย |
ข้ารักแท้รักตลอดจนวอดวาย | ข้าจะตายเสียเพราะชํ้าระกำเอย ฯ |
----------------------------
๒๔ บทนางมเหษีครวญ นางกำนัลรับ
(ร้องลำโอ้ไห้)
๏ โอ้นางนอซาตอลอัวดัด | มาพรากพลัดสามีที่สืบสาย |
เหลือแต่ตัวคนเดียวเปลี่ยวกาย | สิ้นสบายยามเคราะห์จำเภาะทัน |
กรรมจริงหนอนางนอซาตอลนี้ | มีสามีกับเขาคนดลอาสัญ |
แลทั้งแสนเสียดายอ้ายหะซัน | มาจากกันสูญหายเปนหม้ายเอย ฯ |
----------------------------
๒๕ บทอาบูทูลกาหลิบ เมื่อนางนอซาตอลอัวดัดแกล้งทำตาย
(ร้องลำโอ้ร่าย)
๏ พระเอยพระผ่านเกล้า | ข้าพระเจ้าเศร้าจิตรเปนหนักหนา |
ด้วยนอซาตอลภรรยา | สูญสิ้นชีวาอาไลย |
อันความรักของข้านั้นเหลือลด | แสนกำสรดโสกาน้ำตาไหล |
รักสนิทจิตรเสน่ห์ไม่แหนงใจ | แต่นี้ไปอยู่เดียวเปลี่ยวใจเอย ฯ |
----------------------------
๒๖ บทกาหลิบร้องปลอบมเหษี
(ร้องลำโอ้ชาตรี)
๏ น้องเอ๋ยน้องรัก | จะหมองภักตร์เสียเพราะเจ้าเศร้าโศกศัลย์ |
ธรรมดาก็ต้องตายวายชีวัน | เพราะเหตุอันพระเจ้าตรัสดำรัสมา |
ว่ามนุษย์ถึงกาลปานกำหนด | คือสิ้นหมดซึ่งทุกข์แลศุขา |
พระองค์ประสงค์ซึ่งวิญญา | แม่จงอย่ารํ่าไห้พิไรเอย ฯ |
----------------------------
๒๗ บทเมศเรอร้องเมื่อไปชัณสูตรศพ
(ร้องลำมอญแปลง)
๏ เออตัวเราจะไปดูให้รู้ชัด | ว่าอัวดัดฤๅหะซันมันตักไษย |
แต่ตัวเรารู้แน่อยู่แก่ใจ | ที่บรรลัยแท้แท้แน่นอซา |
บัดนี้มเหษีท่านยังเถียง | ส่งสำเนียงขู่เข็ญเปนหนักหนา |
จำเราจะไปดูไม่อยู่ช้า | ได้กลับมาทูลแจ้งแถลงเอย ฯ |
----------------------------
๒๘ บทนางมเหษีเมื่อกริ้วเมศเรอ
(ร้องลำศัพท์ไทย)
๏ โอ้โอ๋เมศเรอ โกหกทูลเสนอ หยิ่งเย่อจริงจริง มึงนะมึงหนา
ถือว่าเปนหญิง เออข้าไม่นิ่ง ยังกริ่งในใจ
๏ จริงฤๅโกหก เอาใดมายก สาธกท้าวไท ประดิษฐ์พูดเอง
นั่งเน่งทำไม อัวดัดที่ไหน คือใครที่ตาย
๏ อย่าพูดตอแหล พูดจริงแท้แท้ ใครแน่วอดวาย กูรู้ดอกหนา
หาดีใส่กาย พูดปดถวาย จะขายเขาฤๅ ๚
----------------------------
๒๙ บทนางพระนมร้อง เมื่อไปชัณสูตรศพ
(ร้องลำกบเต้น)
๏ เฮ้ยเฮ้ยเหนื่อยนัก หัวอกแทบหัก เกือบชักใจหาย เมศเรอระยำ
พูดพรํ่าวุ่นวาย โกหกเจ้านาย ถือกายว่าดี
๏ เออต้องไปดู ใจเต้นอยากรู้ จึงสู้จรลี โอโหอ้ายเมศร์
ชาติคนผีเปรต วิเศษเต็มที น่าตบน่าต่อย ปากพล่อยป่นปี้ ให้เจ้าบุรี มเหษีเถียงกัน ๚
----------------------------
๓๐ บทกาหลิบ นางมเหษี นางกำนัล ยุนุกร้องที่ศพอาบูหะซันแลนางนอซาตอล
(ร้องลำธรณีร้องไห้)
กาหลิบ | ๏ อ้าเจ้าหะซัน | มาม้วยชีวัน |
โอ้นอซาตอล | แช่มช้อยโฉมปาน | |
สงสารมาตาย | ||
นางมเหษี | ๏ โอ้เจ้าทั้งสอง | ไม่เคืองขุ่นข้อง |
จึงสิ้นชีพิตร | ดับจิตรสูญหาย | |
ทำลายชีวา | ||
(ร้องพร้อมกัน) | ๏ โอ้ว่าอาบู | อัวดัดโฉมตรู |
พระเจ้าประสงค์ | จำนงวิญญา | |
จากหล้าไปเอย ๚ |
----------------------------
๓๑ บทร้องสรรเสริญพระบารมีเมื่อลาโรง
(โคลงพระยาศรีสุนทรโวหารน้อยแต่ง)
๏ ความ ศุขสมบัติทั้ง | บริวาร |
เจริญ พละปฏิภาณ | ผ่องแผ้ว |
จง ยืนพระชนม์นาน | นับร้อย เศษเฮย |
มี พระเกียรติเลิศแล้ว | เล่หเพี้ยงเพ็ญจันทร์ ฯ |