สักระวาน่าหนาว
บทที่ ๑
๏ สักระวาน่าหนาวชาวสยาม | ค่อยมีความปรีดิ์เปรมเกษมสันต์ |
ฤดูร้อนอ่อนแท้แพ้แรงครัน | ยามเหมันต์แรงทวีฤดีสบาย |
พิศนภางค์เห็นสว่างกระจ่างแจ่ม | แสนอะแร่มเรืองอร่ามยามเดือนหงาย |
ลมระรวยอวยกลิ่นผกากราย | แสนสบายทั่วหน้าประชา เอย ฯ |
บทที่ ๒
๏ สักระวาข้าขอแถลงเรื่อง | ให้ต่อเนื่องเปนกลอนสุนทรว่า |
แถลงเล่าเปนเค้าสักระวา | เช่นที่เคยเล่นมาแต่ก่อนกาล |
ขอผู้เปนกะวีมีความรู้ | โปรดอภัยให้ดนูผู้แต่งสาร |
แม้มิถูกเยี่ยงแยบแบบโบราณ | ขอให้ท่านเมตตาข้าเถิด เอย ฯ |
บทที่ ๓
๏ สักระวาโบราณท่านย่อมว่า | แม้หนาวลมห่มผ้าก็อุ่นได้ |
หนาวน้ำฟ้าท่านว่าจงผิงไฟ | หนาวอารมณ์ห่มอะไรจึ่งจะวาย |
หนาวอารมณ์โอ้ระทมระทดจิต | ไร้มิ่งมิตร์พิสวาทอันมาตร์หมาย |
หนาวตลอดทรวงร้าวหนาวทั้งกาย | หนาวแทบวายชีวิตปลิดไป เอย ฯ |
บทที่ ๔
๏ สักระวาต่อกลอนสุนทรถ้อย | ถึงหนุ่มน้อยบุญปลูกถูกสมัย |
ชื่อสวัสดิ์วัฒวงศ์เผ่าพงศ์ไทย | อย่าอึงไปข้าจะบอกซึ่งความลับ |
บิดาเขาชื่ออาเก๊าอยู่ตรอกแตง | ติดป้ายแดงขอบลายขายจันอับ |
มารดาเขาชาวสยามนามแม่ทรัพย์ | ฉนั้นนับว่าถูกลูกไทย เอย ฯ |
บทที่ ๕
๏ สักระวาอนุสนธิ์นิพนธ์พัจน์ | ถึงสวัสดิ์วัฒวงศ์พงศ์ไทยใหม่ |
รูปเขางามเอี่ยมโอ่โก้กระไร | ผิวเขาใสสะพรั่งดังเงินยวง |
จากโรงเรียนอะซัมชั่นนั้นผ่านมา | โรงศึกษามหาดเล็กเด็กในหลวง |
ชุบตัวใหม่ได้แน่สมแดดวง | ชนทั้งปวงย่อมนิยมชมเขา เอย ฯ |
บทที่ ๖
๏ สักระวานายสวัสดิ์ชงัดเพียร | อยู่โรงเรียนมหาดเล็กหกเดือนเล่า |
ก็สอบไล่ได้ที่ดีไม่เบา | ไม่ช้าเขาสมจิตติดแผงคอ |
ลองรับใช้อยู่ในราชสำนัก | แต่เพียงสักหกเดือนเท่านั้นหนอ |
เห็นว่าเปลืองวิชาการงานไม่พอ | เขาจึงขอลาออกนอกเทียว เอย ฯ |
บทที่ ๗
๏ สักระวานายสวัสดิ์ชัดฉกาจ | พ้นจากราชสำนักไม่พักเหี่ยว |
เพราะเงินเขารวยโขโก้นักเทียว | หาเพื่อนเที่ยวได้ถนัดไม่ขัดทาง |
เช้าเขาตื่นไม่สู้สายราวบ่ายโมง | แต่งโอ่โถงฟรีถนัดไม่ขัดขวาง |
เสื้อแพรริ้วงามเด็ดเมล็ดมะปราง | พันคอพลางแกว่งไม้เท้าก้าวไป เอย ฯ |
บทที่ ๘
๏ สักระวาน่าดูสวัสดิ์โก้ | ขึ้นขี่โมเต้อร์ไซค์แล่นไปจี๋ |
ไปเที่ยวก๋าน่าพระลานสำราญดี | ทั้งมีช่องได้พบพวกเพื่อนยา |
เห็นเพื่อนเก่าเขาออกมาจากวัง | สวัสดิ์ตั้งท่าเหมาะเยาะในหน้า |
สงสารจังถูกขังในโน้นนา | ไม่โก้ฟรีปรีดาเหมือนเรา เอย ฯ |
บทที่ ๙
๏ สักระวายามค่ำย่ำเย็นลง | สวัสดิ์คงแต่งโอ่โก้นักหนา |
แล้วรีบเร่งเร็วไปมิได้ช้า | หาภักษากินโก้ที่โฮเตล |
แล้วไปดูภาพยนตร์สนใจจินต์ | จำชาร์ลีแชปลินไว้เลียนเล่น |
อีกมองดูนารีที่งามเด่น | หนังเลิกเล่นแล้วชวนหล่อนไป เอย ฯ |
บทที่ ๑๐
๏ สักระวาพานางสำอางค์องค์ | ไปถนนราชวงศ์ลุ่มหลงใหญ่ |
กินเข้าต้มอิ่มหนำสำราญใจ | แล้วเลยไปเคหาแม่นารี |
ปลื้มประโลมอรไทยที่ในห้อง | ประทีปส่องมรกฎแสนสดสี |
อีกสองวันต้องไปหามิตานี | เออเช่นนี้สิสนุกแสนสุข เอย ฯ |
บทที่ ๑๑
๏ สักระวาอาเก๊าแสนเศร้าจิต | รำพึงคิดถึงบุตร์สุดสงสาร |
เฝ้าแต่เที่ยวร่ำไปไม่ทำงาน | ไม่ได้การจะฉิบหายและขายตน |
จึงปฤกษาอาทรัพย์และปรับทุกข์ | ลูกเรารักแต่สนุกจะปี้ป่น |
ฉันใดจะได้เห็นมันเปนคน | อั๊วนี่จนใจแท้แม่ทรัพย์ เอย ฯ |
บทที่ ๑๒
๏ สักระวาแม่ทรัพย์รับปฤกษา | จึงตอบว่าลื้อเหนอเซ่อไปได้ |
เอาไปฝากเจ้าคุณท่านเปนไร | ให้เข้ารับราชการงานโอฟิซ |
ในไม่ช้าจะได้เห็นเปนขุนนาง | คงมีทางสมหมายนายชอบจิต |
ลงทุนของกำนัลท่านสักนิด | คงสมคิดเราแท้แน่ละ เอย ฯ |
บทที่ ๑๓
๏ สักระวาไม่ช้านายสวัสดิ์ | ก็ได้พลัดไปเข้ากระทรวงหนึ่ง |
อย่าออกนามดีกว่าข้าคำนึง | ถึงกฎหมายหมิ่นประมาทมิอาจโว |
เปนเสมียนสำรองท่านลองใช้ | เงินเดือนหาได้ไม่แต่ก็โก้ |
ทำท่าเปนขุนนางวางภูมโต | เที่ยวคุยโอ้ถึงโอฟิซติดปาก เอย ฯ |
บทที่ ๑๔
๏ สักระวาชายงามผู้ทรามเปลี่ยว | มีเพื่อนเที่ยวพร้อมพรั่งดังถวิล |
ช่วยสนุกสุขสนานในการกิน | อีกชี้ถิ่นที่เล่นอย่างเย็นใจ |
แต่ละคืนกลับดึกพิลึกแท้ | แต่พ่อแม่จะว่าก็หาไม่ |
เชื่อว่าเขาคงติดงานการท่านใช้ | สองดีใจชมบุตร์สุดรัก เอย ฯ |
บทที่ ๑๕
๏ สักระวาอยู่มามิช้านัก | สวัสดิ์รักกัญญามารศรี |
ชื่อว่าสาวสร้อยระย้ายอดนารี | เรียนอยู่ที่แหม่มโคล์โก้นักแฮะ |
ตาขำคมผมมวยสรวยสมหน้า | ฟันมุกดาเด่นขาวราวกับแกะ |
สะเอวกลมนมเต่งเก่งจริงและ | น่าต้องแตะกายกอดยอดหญิง เอย ฯ |
บทที่ ๑๖
๏ สักระวาคอยหาซึ่งโอกาศ | รู้จักนาฎนวลลอองผู้ผ่องศรี |
คอยด้อมมองจ้องอยู่ดูท่วงที | จนโชคดีได้สมอารมณ์ปอง |
ไปพบหล่อนในห้างอันกว้างใหญ่ | หล่อนนั้นไซร้ชุลมุนวุ่นซื้อของ |
ผ้าเช็ดหน้าหล่อนหล่นปนลออง | สวัสดิ์จ้องจ้วงหยิบคืนหล่อน เอย ฯ |
บทที่ ๑๗
๏ สักระวาคราเมื่อรู้จักแล้ว | เพียรจะพบนางแก้วไม่หยุดหย่อน |
ไม่พบสมปราถนาแสนอาวรณ์ | เขียนอักษรแถลงแจ้งจิตไป |
ว่าไมเดียร์พี่ละเหี่ยในดวงจิต | เมื่อไรจะได้คิสส์พิสมัย |
ไอลัฟหล่อนบังอรจงเชื่อไอ | โอริไปลให้ดีสักที เอย ฯ |
บทที่ ๑๘
๏ สักระวาสร้อยระย้าได้รับสาร | แม่นงคราญนึกขันหาน้อยไม่ |
หล่อนรู้ชัดว่าสวัสดิ์นั้นคือใคร | จึ่งจงใจล้อเล่นเปนอาทิ |
จึ่งเขียนตอบขอบใจเปนนักหนา | แต่ตูข้าเปนอนงค์จงตรองตริ |
จะใจง่ายดายฉนั้นแล้วกันซิ | ชนจะติแต้มร้ายอายเขา เอย ฯ |
บทที่ ๑๙
๏ สักระวาหนุ่มตะกอพอรับสาร | ยิ่งทราบสร้านทรวงรักเปนนักหนา |
ตอบย้อนไปไมเดียร์เฮียร์ไอว่า | โอแม่ดาร์ลิงสร้อยผู้กลอยใจ |
อันตัวพี่มีเอดุเคชั่น | ได้เรียนจบครบสรรพ์ทันสมัย |
หล่อนก็เปนนารีซีวิไลซ์ | ฉนั้นไซร้ควรคู่ดูเหมาะ เอย ฯ |
บทที่ ๒๐
๏ สักระวาทรามเชยเฉลยสาร | จดหมายวานนี้อ่านก็นึกขัน |
คุณคงนึกว่าสร้อยรู้น้อยครัน | เพราะฉนั้นจะหลอกเล่นตามใจ |
เมื่อแต่งงานกับสร้อยเรียบร้อยแล้ว | อันแม่แก้วเมียเก่าเอาไว้ไหน |
จะไว้บ้านเดียวกันหรือฉันใด | ขอจงได้แถลงแจ่มแจ้ง เอย ฯ |
บทที่ ๒๑
๏ สักระวาตอบถ้อยแม่สร้อยถาม | ขอบอกความสัจจาอย่าฉงน |
นางแก้วกับงามปลอดยอดกมล | คนละชั้นไม่เทียบอย่าเปรียบกัน |
เมียเกเรเกเสทั้งเพไซร้ | เปนห่วงใยนิ่มน้องจงเชื่อฉัน |
เมียคนที่พาโชแบบโก้นั้น | คือแจ่มจันทร์สร้อยระย้ายาใจ เอย ฯ |
บทที่ ๒๒
๏ สักระวานารีมีสารตอบ | ว่าฉันขอบใจพี่หาน้อยไม่ |
แต่ดิฉันตั้งจิตคิดมั่นใจ | ว่าจะไม่ร่วมผัวกับใครเลย |
ดิฉันนี้มีวิชาอยู่พอตัว | คงหาผัวไม่ยากนะพี่เอ๋ย |
ทั้งขุนหลวงพระพระยาพอหาเชย | ได้เสบยเปนแน่แท้เทียว เอย ฯ |
บทที่ ๒๓
๏ สักระวานายสวัสดิ์ออกขัดจิต | ย้อนลิขิตว่าน้องจงตรองหน่อย |
อยากได้ผัวแก่ชราอายุร้อย | แม่สาวสร้อยจะสุขได้ฉันใด |
หวังสบายกลับจะกลายเปนรำคาญ | คอยแต่นั่งพยาบาลสามีไข้ |
จะเปนสุขสนุกได้ฉันใด | ขอสายใจไตร่ดูให้ดี เอย ฯ |
บทที่ ๒๔
๏ สักระวาสาวสร้อยตอบถ้อยว่า | ภัสดาหนุ่มน้อยก็อาจไข้ |
เช่นคุณเองก็เก่งหยอกเมื่อไร | เคยได้ไปแอบหามิตานี |
อันผัวแก่แม้ไข้ขอให้เพียง | บำรุงเลี้ยงฟุ่มเฟือยเรื่อยเต็มที่ |
ก็จะได้เปนสุขสนุกดี | ทรัพย์สินมีมากใช้พอใจ เอย ฯ |
บทที่ ๒๕
๏ สักระวานายสวัสดิ์แสนขัดจิต | นางมิ่งมิตร์ตอบตัดและขัดขวาง |
เฝ้าคนึงอึ้งอ้ำคลำหาทาง | ที่ให้นางนึกรักสมัคใจ |
ตามเชื้อเก่าเขาย่อมดูถูกหญิง | นึกว่าสิ่งที่พอจะล่อได้ |
คืออวดมีอวดมั่งตั้งหน้าใหญ่ | นึกแน่ใจคงสมอารมณ์ เอย ฯ |
บทที่ ๒๖
๏ สักระวาต่อมาสวัสดิ์โง่ | ก็แต่งตัวฟรีโก้ยิ่งกว่าเก่า |
คอยเที่ยวกรอล่อตาแม่นงเยาว์ | ทุกค่ำเช้าเฝ้าคิดยวนจิตนาง |
หล่อนออกปากอะไรหาให้สิ้น | ทั้งเพ็ชร์นิลแหวนกำไลไม่ขัดขวาง |
นางจะไปหนไหนไฝ่ตามนาง | จนราร้างกิจการงานหมด เอย ฯ |
บทที่ ๒๗
๏ สักระวาท่านมหาอำมาตย์ใหญ่ | ได้ลองใช้นายสวัสดิ์หกเดือนกว่า |
เห็นว่าไม่เปนเรื่องเคืองอัชฌา | เช้าก็มาแสนสายบ่ายกลับวัน |
ครั้นตักเตือนก็ง้อขอแก้ตัว | แต่เมามัวลืมคำที่ร่ำมั่น |
เตือนจนเบื่อไม่เชื่อไม่ฟังกัน | ออกจากกระทรวงฉันดีกว่า เอย ฯ |
บทที่ ๒๘
๏ สักระวานายสวัสดิ์สบัดหน้า | คำนับลาเจ้าคุณขุ่นไปบ้าน |
บอกบิดาว่าลาออกจากงาน | เพราะนายท่านไม่ชอบตัวลูกยา |
อันลูกไซร้ไม่เปนหัวประจบ | ไม่นอบนบลีนเตียเคลียเปนข้า |
ทุกวันนี้คนดีมีวิชา | ต้องเสียท่าคนช่าง ป. จ. เอย ฯ |
บทที่ ๒๙
๏ สักระวาอาเก๊าไม่เข้าจิต | มิได้คิดว่าลูกกล่าวมุสา |
เห็นว่าเปนคนดีมีวิชา | ไหนจะมาพูดปดสด ๆ ฉนี้ |
จึ่งปลอบว่าลูกยาอย่าเสียใจ | เตี่ยจะช่วยลูกให้เจริญศรี |
จะพาไปฝากตัวเจ๊สัวฮี้ | มิช้าทีสมหวังมั่งมี เอย ฯ |
บทที่ ๓๐
๏ สักระวาแม่ทรัพย์กลับฉงน | หรือลูกตนจะหลอกตาเตี่ยให้ |
แกอุส่าห์พยายามสืบถามไป | มิช้าใยแจ้งจริงทุกสิ่งอัน |
แกแสนโกรธติโทษนายสวัสดิ์ | ปดถนัดน่าเฆี่ยนเจียนอาสัญ |
อันเงินทองของใช้ไม่ให้ปัน | จนกว่ามันนี่นะจะดี เอย ฯ |
บทที่ ๓๑
๏ สักระวานายสวัสดิ์ข้องขัดจิต | แต่สุดคิดขัดแม่หรือแปรผัน |
ทั้งนายเตี่ยกลัวเมียเสียมากครัน | เพราะฉนั้นหมดท่าหาอุบาย |
จึงก้มกราบมารดาว่าลูกชั่ว | ละเลิงตัวเล่นล้วนจวนฉิบหาย |
ขอคุณแม่เมตตาแก่ลูกชาย | โปรดภิปรายช่วยชี้วิถี เอย ฯ |
บทที่ ๓๒
๏ สักระวาแม่ทรัพย์รับลูกยอ | แกก็พอใจมากหาน้อยไม่ |
จึงตอบว่าลูกยาก็เติบใหญ่ | ควรตั้งใจแล้วเจ้ามีเย่าเรือน |
นี้ก็เปนธรรมดามารดาไซร้ | ย่อมมั่นใจว่าแม้ลูกมีเพื่อน |
เสนหายาจิตอยู่ติดเรือน | ย่อมคิดเหมือน ๆ กันทังนั้น เอย ฯ |
บทที่ ๓๓
๏ สักระวานายสวัสดิ์ยกหัดถ์ไหว้ | แล้วถามไปว่าเมียของดิฉัน |
จะหาได้ที่ไหนลูกใครกัน | และหล่อนนั้นรูปร่างเปนอย่างไร |
ขอคุณแม่รู้นาว่าลูกนี้ | เปนคนฟรียังสยามตามสมัย |
ต้องขอเลือกหญิงงามตามพอใจ | จะจัดไปอย่างเก่าไม่เอา เอย ฯ |
บทที่ ๓๔
๏ สักระวาแม่พ่อหัวร่อร่วน | ฟังสำนวนลูกเราเขาเก่งก๋า |
เขาจะตามใจตนค้นภรรยา | แต่ว่าเงินทองเขาเอาจากใคร |
โตปานนี้ไม่มีอาชีวะ | จะเลี้ยงครอบครัวนั้นฉันใดได้ |
ไม่ให้เราเลือกให้ก็ตามใจ | หาเองเราไม่ให้ทุนเรา เอย ฯ |
บทที่ ๓๕
๏ สักระวาหนุ่มตะกอฟังพ่อแม่ | นึกว่าแย่เสียทีแกปี้ป่น |
ต้องยินยอมอ่อนน้อมดูสักหน | พอให้พ้นทุกข์ไปในครานี้ |
จึงตอบว่าข้าขออภัยโทษ | อันจะโปรดปลูกฝังทั้งทีนี้ |
สุดแท้แต่จะเมตตาปรานี | ตัวลูกนี้ประนอมพร้อมใจ เอย ฯ |
บทที่ ๓๖
๏ สักระวามารดายินดีแท้ | จึงตอบแก่ลูกชายสายสมร |
แม่เห็นว่ากิมลี้ศรีบังอร | ลูกอากรไล่เห่าเขาเหมาะดี |
เขามั่งมีเงินทองเข้าของถม | แสนอุดมมั่งคั่งทั้งดินที่ |
ผืนโต ๆ อะโขเขามากมี | ผัดพรุ่งนี้จะไปขอให้พ่อ เอย ฯ |
บทที่ ๓๗
๏ สักระวานายสวัสดิ์ข้องขัดจิต | รำพึงคิดถึงวิวาห์น่าใจหาย |
นึกถึงสาวสร้อยระย้าน่าเสียดาย | แทบจะตายเพราะเศร้าเหงาวิญญา |
โอ้อกเอ๋ยหวังเชยพักตร์แฉล้ม | หวังจูบแก้มกอดดมชมเกษา |
หวังฟังคำพริ้งพร้อยกลอยอุรา | แต่นี้นาจะต้องพรากจากกัน เอย ฯ |
บทที่ ๓๘
๏ สักระวายิ่งคิดจิตยิ่งไข้ | ถอนใจใหญ่หยิบกระดาษวาดอักษร |
ถึงแม่สาวสร้อยระย้าสง่างอน | ขอบังอรเมตตาอย่าข้อนเคาะ |
ด้วยแม่พ่อจะขอภรรยาให้ | จะคำนึงฐานใดไม่เห็นเหมาะ |
ต้องจำทนก้มหน้าเปนคราเคราะห์ | อย่าเยาะเลยแก้วตาปรานี เอย ฯ |
บทที่ ๓๙
๏ สักระวาสาวสร้อยตอบถ้อยว่า | ช่างเจรจาพลอดพล่อยน้อยไปฤา |
คุณเปนชายสมัยใหม่ใคร ๆ ลือ | คุณมีชื่อว่าโก้นะเจ้าคะ |
เหตุไฉนยอมให้เขาบังคับ | จับแต่งงานปานเป็ดหรือไก่ล่ะ |
หรือเต็มใจแต่ไถลหลอกเล่นนะ | ชรอยจะลวงสร้อยหนอยแน่ เอย ฯ |
บทที่ ๔๐
๏ สักระวาหนุ่มน้อยตอบถ้อยเฉลย | โอ้อกเอ๋ยดาร์ลิงกริ่งใจได้ |
อันนางสาวกิมลี้ดีอย่างไร | จึงจะได้เปรียบสร้อยกลอยวิญญา |
สร้อยเหมือนแสงสุริยงยามส่งศรี | ส่วนกิมลี้เหมือนหิ่งห้อยน้อยนักหนา |
สร้อยคือหงส์สกุณีลี้คือกา | ฤาจะมาแข่งขันกันได้ เอย ฯ |
บทที่ ๔๑
๏ สักระวาบังอรย้อนตอบถ้อย | พ่อหนุ่มน้อยฉอเลาะเหมาะเฉลย |
ช่างค้นหาสิ่งเทียบและเปรียบเปรย | กระไรเลยนึกว่าเขาไม่เข้าใจ |
อันแสงสูรย์และหงส์องค์อุดม | เอาไว้ชมดูเล่นเห็นพอได้ |
แต่ที่แท้สูรย์แพ้แสงโคมไฟ | หงส์อุไรแพ้นกขุนทอง เอย ฯ |
บทที่ ๔๒
๏ สักระวาชายอ่านดาลดวงจิต | ตอบมิ่งมิตร์หน้าแฉล้มช่างแนมเหน็บ |
ทุก ๆ คำตำใจได้ดังเล็บ | หล่อนหยิกเจ็บเลือดอาบทราบสรรพางค์ |
แม้เลือกได้ฤาจะไม่สนิธน้อง | เคียงประคองคู่ใจไม่เหินห่าง |
ถึงตัวไกลใจยังคงคู่นาง | รักไม่วางวายกระสันสักวัน เอย ฯ |
บทที่ ๔๓
๏ สักระวาสาวสร้อยตอบถ้อยแถลง | แม้ไม่แสร้งเสรหลอกจะบอกให้ |
เวลานี้ยังไม่มีซึ่งชายใด | จะมาไฝ่ขอน้องคู่ครองกัน |
แม้สมัคจะดำรงคงไมตรี | ก็ไม่มีผู้ใดจะเดียดฉัน |
จะโต้ตอบสาราไปมากัน | เชิงฉันมิตร์นั้นไม่เปนไร เอย ฯ |
บทที่ ๔๔
๏ สักระวานายสวัสดิ์วัฒวงศ์ | กำลังหลงสร้อยระย้าหาน้อยไม่ |
ครั้นได้รับสารตอบแสนชอบใจ | ยิ่งรักใหญ่ทุกวันพันทวี |
ถึงแต่งงานแล้วก็ปานมิได้แต่ง | ทุกหนแห่งเที่ยวรอกรอโฉมศรี |
สิ้นเกรงใจในส่วนแม่กิมลี้ | ประพฤติฟรีโก้เล่นเช่นก่อน เอย ฯ |
บทที่ ๔๕
๏ สักระวาอยู่มามิช้านัก | เกิดขลุกขลักเปนการรำคาญใหญ่ |
เจ๊สัวฮี้ตรวจบาญชีเงินหายไป | โกรธเปนไฟว่าจะร้องฟ้องคดี |
แต่อาเก๊าเว้าวอนขอผ่อนใช้ | เงินนั้นให้แทนบุตร์จนเต็มที่ |
การค้าขายกำไรก็ไม่มี | พอหมดณี่นายเตี่ยเอี้ยเทียว เอย ฯ |
บทที่ ๔๖
๏ สักระวานายสวัสดิ์ขัดข้องใหญ่ | เจ๊สัวไล่แล้วหนอพ่อหมดท่า |
อันการงานใด ๆ จะไฝ่หา | ก็ลำบากเลือดตาแทบกระเด็น |
แต่กระนั้นตามวิสัยคนใจแตก | ก็ไม่แปลกเปลี่ยนใจในทางเล่น |
เล่นม้าเล่นตีผีไม่มีเว้น | เพราะเปนเย็นตลแมนแสนโก้ เอย ฯ |
บทที่ ๔๗
๏ สักระวาอาชีพหามีไม่ | ฉนั้นไซร้นายสวัสดิ์ขัดสนเหลือ |
ครั้นไปขอเงินพ่อมาจุนเจือ | เงินก็เมื้อหมดเสร็จเจ็ดวันไป |
คิดอุบายย้ายยักชักชวนมิตร์ | ช่วยกันคิดลวงพ่อเห็นพอได้ |
ช่วยกันหนุนอาเก๊าเช่าเรือไฟ | ขนเข้าไปซัวเถาเอาทุน เอย ฯ |
บทที่ ๔๘
๏ สักระวาเจ้าท่าตรวจกำปั่น | เห็นว่ามันเก่าเกินเดินไมได้ |
จึงห้ามเรือมิให้ออกทเลใหญ่ | ฉนั้นไซร้อาเก๊าก็เข้าร้าย |
เจ้าของเรือไม่ยอมจะคืนทรัพย์ | ฝ่ายโรงสีก็ปรับเขาฉิบหาย |
อาเก๊าแก่แย่ยับอีกอับอาย | รากเลือดวายชีวามิช้า เอย ฯ |
บทที่ ๔๙
๏ สักระวาแม่ทรัพย์นับว่าดี | รักสามีจริงนาน่าสงสาร |
ยามวิโยคโศกใจดังไฟราน | ปริเทวนาการอยู่หลายวัน |
แล้วรำพึงถึงธรรมดาโลก | มีแต่โศกเสื่อมสุขทุกสิ่งสรรพ์ |
ไม่มีสิ่งเที่ยงแท้แต่สักอัน | เหตุฉนั้นยอมสละจะดี เอย ฯ |
บทที่ ๕๐
๏ สักระวาคิดฉนั้นแกผันผาย | หาลูกชายชี้แจงแถลงไข |
อันตัวแม่นี้แก่ลงแล้วไซร้ | จะอยู่ไปไม่สราญนานกี่วัน |
แม่จึ่งคิดสะสมบ่มกุศล | ไว้ช่วยตนเดินจบภพสวรรค์ |
อันสมบัติพัสถานทุกสิ่งอัน | ขอมอบพลันให้ลูกปลูกฝัง เอย ฯ |
บทที่ ๕๑
๏ สักระวาฟังแม่แกขานไข | นายสวัสดิ์ดีใจเปนนักหนา |
เห็นแก่ตัวเปนใหญ่ไฝ่เงินตรา | นึกแต่ว่าจะได้โก้โอ่เต็มตัว |
จึ่งตอบว่าคุณแม่แก่ปานนี้ | บวชเปนชีดีละจะยังชั่ว |
ไม่ควรห่วงเงินทองของพันพัว | อย่าได้กลัวลูกจะเลี้ยงเพียงพอ เอย ฯ |
บทที่ ๕๒
๏ สักระวามารดาไปบวชแล้ว | ฝ่ายลูกแก้วเปนสุขสนุกโข |
เลี้ยงเพื่อนฝูงจูงหญิงวิ่งเที่ยวโช | แสนจะโก้ก๋าใหญ่ไม่วายวัน |
ของดี ๆ มีราคาค่าไม่น้อย | ซื้อกำนัลสาวสร้อยทุกสิ่งสรรพ์ |
หล่อนอิดเอื้อนเตือนให้รับไว้พลัน | ฉนั้นหล่อนเกรงใจรับไว้ เอย ฯ |
บทที่ ๕๓
๏ สักระวาไม่ช้าสมบัติเหี้ยน | ใช้จนเตียนแต่ยังไม่กลับจิต |
อ้อนวอนขอพ่อตามาเปนนิตย์ | เพราะสิ้นคิดสิ้นท่าจะหาเอง |
ในที่สุดไล่เห่าแกเว้าว่า | เตือนก็กลับโกรธาทำตาเป๋ง |
ครั้นแกโกรธโกรธตอบไม่ชอบเพลง | ลุกผางเผงเดินออกนอกบ้าน เอย ฯ |
บทที่ ๕๔
๏ สักระวาพ่อตาอุราร้าว | เรียกลูกสาวออกมาว่าลูกเอ๋ย |
ผัวของเจ้ามันใช้ไม่ได้เลย | ขืนนิ่งเฉยจะยิบฉิบหายไป |
เหมือนคบเหี้ยพลอยเสียราศีเปล่า | อีกตัวเจ้าเขาจะรักก็หาไม่ |
จะคงอยู่กับมันไปฉันใด | อย่ากันเสียเปนไรลูกรัก เอย ฯ |
บทที่ ๕๕
๏ สักระวาอย่าจากนางกิมลี | นายสวัสดิ์ยินดีหาน้อยไม่ |
เขียนจดหมายถึงสร้อยผู้กลอยใจ | ว่าโอไมสวี๊ตหาร์ตไออ๊าสก์ยู |
ทูบีแกล๊ดวิดมีที่ฟรีแล้ว | ได้เชยแก้วกนิษฐามหาหรู |
โดยเต็มที่ไม่มีใครกีดอยู่ | จะได้ลัฟแต่ยูผู้เดียว เอย ฯ |
บทที่ ๕๖
๏ สักระวาสาวสร้อยค่อยคำนึง | ถึงฐานะของสวัสดิ์แสนขัดสน |
อันการที่มีผัวเปนตัวตน | ต้องหาคนมั่นคงยงยืนนาน |
อันสวัสดิ์ขัดสนจนปานนี้ | เปนเมียเขาไม่มีซึ่งหลักฐาน |
จะพลอยพากันฉิบหายแทบวายปราณ | ไม่เปนการเลิกทีดีกว่า เอย ฯ |
บทที่ ๕๗
๏ สักระวาตรึกตราเช่นนั้นไซร้ | จึ่งตอบนายสวัสดิ์ไปเปนคำว่า |
ฉันขอโทษเธอโปรดกรุณา | จะขอแจ้งกิจจาโดยจริงใจ |
ดิฉันชอบสนุกและสุขสพรั่ง | แสนเกลียดชังความจนทนไม่ไหว |
อันสิ่งของดี ๆ ที่คุณให้ | ดิฉันได้รวบรวมส่งคืน เอย ฯ |
บทที่ ๕๘
๏ สักระวาน่าสงสารนายสวัสดิ์ | อ่านสารทราบความชัดก็มืดหน้า |
หวลคำนึงถึงตัวแสนชั่วช้า | เลวยิ่งกว่าเดรฉานสามาญแท้ |
ครั้นเมื่อค่อยวายคลายกำสด | ไปประณตนบราบกราบกรานแม่ |
ขออภัยที่ได้ผิดมากแท้ | ขอคุณแม่ช่วยข้าครานี้ เอย ฯ |
บทที่ ๕๙
๏ สักระวาแม่ทรัพย์รับขวัญบุตร์ | ความรักยุดยึดใจไม่แปรผัน |
อันตัวลูกได้สติสิดีครัน | ต่อแต่นี้ทีจะหมั่นในการงาน |
ลูกจงจิตคิดอยากทำการใด | ณแห่งไหนแม่จะพาไปฝากท่าน |
แต่ลูกต้องตั้งสัตย์ปฏิญาณ | จะทำงานยืดไปไม่ทิ้ง เอย ฯ |
บทที่ ๖๐
๏ สักระวานายสวัสดิ์ยกหัดถ์ไหว้ | แล้วตอบไปว่าลูกไม่แลเห็น |
ว่าจะพึ่งแห่งใดได้ร่มเย็น | เช่นพระราชสำนักพระจักรา |
ลูกเคยอยู่ภายในไพล่วิ่งออก | มาข้างนอกเพราะคิดผิดนักหนา |
บัดนี้เห็นโทษตัวอันชั่วช้า | นึกอายหน้ามิอาจกลับไป เอย ฯ |
บทที่ ๖๑
๏ สักระวาแม่ทรัพย์รับปากว่า | แม่จะลองไปหาท่านผู้ใหญ่ |
ท่านมีความเมตตาหาน้อยไม่ | ไม่ไฝ่ผูกเวราลูกอย่ากลัว |
รุ่งขึ้นไซร้แกไปหาเจ้าคุณ | ขอพึ่งบุญบารมีไว้เหนือหัว |
พ่อสวัสดิ์รู้สึกสำนึกตัว | จะละชั่วเปนแท้แน่แล้ว เอย ฯ |
บทที่ ๖๒
๏ สักระวาท่านผู้ใหญ่ใจอารี | นึกเห็นแก่แม่ชีน่าสงสาร |
จึ่งรับนายสวัสดิ์ไว้ให้ทำงาน | เปนสำรองราชการในกองกลาง |
สังกัดกรมมหรศพลองดูที | เงินเดือนญี่สิบไซร้ใช้ต่าง ๆ |
แม้งานแขงแรงดีอาจมีทาง | ได้ขเยื่อนเลื่อนอย่างพอใจ เอย ฯ |
บทที่ ๖๓
๏ สักระวานายสวัสดิ์วัฒวงศ์ | สมประสงค์เข้าสำนักหลักฐานได้ |
ก็ทำงานขันเข้มอย่างเต็มใจ | บ่อมิได้มัวเล่นเช่นเคยมา |
สมัคประจำการกรมพรานหลวง | ในเวลาทั้งปวงแต่งเสือป่า |
เลิกแต่งกายโก้ฟรีที่เคยมา | กิริยาเสงี่ยมเจียมตัว เอย ฯ |
บทที่ ๖๔
๏ สักระวากล่าวกลอนสุนทรแถลง | มิได้แสร้งกล่าวเปรียบเทียบใครหนอ |
หวังแต่จะสำแดงแถลงพอ | ช่วยแนะข้อคติแห่งโบราณ |
อันผู้ใดไฝ่ตามแต่ใจตน | มักต้องทนทุกข์ภัยไร้สุขศานติ์ |
แม้รู้จักข่มใจไม่ยากนาน | ได้พ้นทุกข์สุขสราญยั่งยืน เอย ฯ |
บทที่ ๖๕
๏ สักระวาจำลาสหายแล้ว | ขอเกลอแก้วอยู่สุขสนุกสนาน |
กลอนนี้เพียงเรียงเล่นเปนประมาณ | แก้รำคาญระหว่างว่างกิจจา |
อันบทกลอนกระท่อนกระแท่นบ้าง | และแต่งอย่างสัประดนปนภาษา |
ขอเพื่อนจงใจดีมีเมตตา | โปรดอภัยให้ข้าบ้างเถิด เอย ฯ |
บทที่ ๖๖
๏ สักระวาหนาวจิตคิดไฉน | จะห่มผ้าผิงไฟก็ไม่หาย |
ได้แต่ขอนบนอบและมอบกาย | กราบถวายแทบเบื้องบาทบงสุ์ |
ขอพึ่งพระบารมีโมลีโลก | บุญโศลกอุ่นอารมณ์สมประสงค์ |
ขอพระมงกุฎเกศประเทศทรง | พระยศยงยืนอยู่คู่ฟ้า เอย ฯ |
ศรีอยุธยา