ร่าย๏ ศรีสวัสดิวิชัย ไกรกรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร์ มหินทราโยทธยา สยามราชาธิราชสถิต ยิ่งพิศยิ่งพิศวง งงงวยแทบลืมพริบ แม้จักหยิบสิ่งงาม หรือกล่าวความขยาย บรรยายถึงสิ่งสรรพ์ อันควรชมทั้งหมด ต้องกำหนดเพลานาน นี้เป็นพยานความเจริญ เหล่าไทยเดิรขึ้นมา กว่าเมื่อปางก่อนกี้ ข้อนี้เห็นถนัดเจียว ถ้าเที่ยวไปในนคร สัญจรตามถนนหลวง ปวงรถม้าดาดาษ รถรางกลาดเกลื่อนไป รถจักร์ใช้จักร์รุด ไฟฟ้าจุดชัชวาล แลโอฬารเพลินตา เดิรไปมาแสนสุข ชนนฤทุกข์ทั่วหน้า พึ่งเดชพระผ่านฟ้า ปกเกล้าเย็นเกษม ทั่วนา ฯ
โคลง ๔๏ ไทยเปรมพึ่งบาทเจ้า |
จอมสยาม |
หมู่อมิตร์ขยาดนาม |
ท่านไท้ |
พระนำเทศสู่ความ |
เจริญยิ่ง เจริญนา |
เพื่อพวกเราจักได้ |
เทียบหน้าเทียมเขา ฯ |
๏ ฝูงเรามีโชคแท้ |
จริงจริง |
ซึ่งอาจแนบแอบอิง |
ชิดเจ้า |
สามารถฝากกายพิง |
แทบบาท ยุคลนา |
ขอพระเดชครอบเกล้า |
เหล่าข้าบาทบงสุ์ ฯ |
๏ พระองค์ประกอบด้วย |
เมตตา |
อีกพระทรงกรุณา |
เลิดล้น |
ยังซ้ำแทรกมุทิตา |
เอื้อโอบ |
พระอุเบกขาพ้น |
มนุษย์ทั้งดินแดน ฯ |
๏ เนืองแน่นเป็นขนัดด้วย |
บริพาร ท่านนอ |
อำมาตย์ข้าราชการ |
มากแล้ |
สมณพราหมณาจารย์ |
บำเพ็ญพรต |
ฝูงปราชญ์ช่างฉลาดแท้ |
รอบรู้สรรพศิลป์ ฯ |
๏ ปวงอรินทรชาติคร้าม |
หมู่ทหาร |
เหล่าราบม้าอาจราญ |
อะคร้าว |
ปืนใหญ่ผจญผลาญ |
พินาศ |
แม้อริเหยียบด้าว |
จักต้องประลัยศูนย์ ฯ |
๏ จำรูญจำรัสด้วย |
พานิช การแฮ |
ต่างชาติภาษาชนิด |
แข่งสู้ |
ฝรั่งจีนแขกม่านคิด |
พึ่งโพธิ พระนา |
ทุกเทศเขตต์แคว้นรู้ |
ร่มแท้ใดปาน ฯ |
โคลง ๓๏ อมรรัตนโกสินทร์ |
บุรินทรศกร้อย |
ยี่สิบสี่วัสส์คล้อย |
เคลื่อนแล้วกึ่งปี ฯ |
โคลง ๒๏ จอมธานีท่านได้ |
ทรงดำริจักให้ |
หน่อไท้เห็นเมือง |
ทั่วนา ฯ |
๏ พระเรืองฤทธิ์ทั่วด้าว |
อนุญาตให้หน่อท้าว |
เสด็จเบื้องเมืองพา |
ยัพเทอญ ฯ |
ร่าย๏ เจ้าสยามรัฐดำรง ทรงดำริจักใคร่ เสด็จไปจากนคร แรมรอนในมณฑล กรุงเก่าค้นถิ่นสถาน เบื้องเบาราณที่เหลือ เพื่อบำรุงบ่ให้ศูนย์ จำรูญปราการสถูป ประสงค์รูปเก็บไว้ ไท้จึงทรงอุตส่าห์ ส่องฉายาสาทิศ งามวิจิตร์วิไล ในกำหนดประพาส เลยส่งราชปิยบุตร ในที่สุดแห่งทาง รถไฟวางเสร็จไว้ แต่นั่นโอรสไท้ นอบเกล้าบังคมลา ฯ
โคลง ๔๏ โดยเสด็จพระผู้ผ่าน |
พิภพ สยามเฮย |
จรสู่บุระลพ |
เกียรติก้อง |
ใครเลยจักลี้หลบ |
ราชกิจ ได้ฤๅ |
จำจิตต์จำจากห้อง |
นุชเนื้อเนาวคุณ ฯ |
๏ บุญเอยเราก่อสร้าง |
ไว้ไฉน |
หนอจึ่งต้องครรไล |
จากเจ้า |
อยู่หลังแม่ดวงใจ |
จงสุข |
จงปล่อยแต่พี่เศร้า |
อุระร้าวแต่เดียว ฯ |
๏ บุรพชาติเราพรากให้ |
สัตว์สอง จากกระมัง |
กรรมจึงตามตอบสนอง |
ชาตินี้ |
กรรมตามแต่บุญผอง |
จักไม่ ตามฤๅ |
เดชะบุญก่อนกี้ |
โปรดข้าคืนสม ฯ |
๏ ฝากโฉมสมรแม่ไว้ |
แห่งใด ดีฤๅ |
ฝากเมฆเกรงวรุณไท |
ลอบกล้ำ |
ฝากโฉมลักษมีใน |
เกษียรสมุทร์ ก็ดี |
เกรงพระสี่กรปล้ำ |
ปลุกให้สลายศรี ฯ |
๏ ฝากองค์อุมาแม่เจ้า |
จอมสวรรค์ ดีกระมัง |
เกรงเกลือกองค์อินทร์ฝัน |
ใฝ่น้อง |
ฝากฟ้าขลาดทิวัน |
สอดเนตร์ สบแม่ |
ฝากน้ำเกรงนาคต้อง |
จิตต์ต้องใจสมร ฯ |
๏ ฝากมาตุหรือท่านไซร้ |
บุตร์หลาย |
ฝากมิตร์กริ่งมิตร์หมาย |
แตะต้อง |
เรียมนึกออกเรียมคลาย |
วิตกแน่ แล้วแม่ |
โฉมฝากใจแม่น้อง |
ยิ่งด้วยฝากใคร ฯ |
๏ จุดเทียนจุดธูปไหว้ |
พระสยาม |
พระฤทธิ์หมู่มนุษย์ขาม |
ทั่วหล้า |
ทำกรัญชลีสาม |
คาบคิด คนึงนา |
จุ่งประสิทธิ์พรข้า |
บาทให้คืนสม ฯ |
๏ กลกางกรกอดแก้ว |
กับอก |
ดาลอัสสุชลตก |
ต้องแก้ว |
จากนุชพี่อกฟก |
ฟุฟ่าม ฟอนแม่ |
โมงหนึ่งห่างห้องแคล้ว |
คลาดคล้ายขวบฉนำ ฯ |
๏ แม้อิศวรอวยฤทธิ์แม้น |
นารายณ์ |
เรียมจักทำโทกาย |
เทียบไว้ |
กายหนึ่งจักให้ผาย |
ผันราช การนอ |
กายหนึ่งพี่จักให้ |
อยู่เคล้าคลึงนาง ฯ |
๏ รักนวลรักยิ่งด้วย |
ดวงใจ |
หากกิจไผทไท |
ท่านใช้ |
สิตนิติ์ท่านขานไข |
คำกล่าว |
สุดแม่สิ้นชีพให้ |
ซุกไว้เสื่อคลุม ฯ |
๏ ลาพ่อลาแม่แล้ว |
ลาสมร |
ลาญาติพี่น้องสลอน |
สลับสลั้ง |
ลาลูกรักสนิทนอน |
ในอู่ |
ลามิตร์เพื่อนบ้านทั้ง |
ทาสใช้ชายหญิง ฯ |
โคลง ๓๏ ที่สามสิบเอ็ดตุลา |
เพลาโมงเศษเช้า |
พระราชาธิราชเจ้า |
เสด็จลี้จากสวน ดุสิตนา ฯ |
โคลง ๔๏ งามเอยงามเลิดล้วน |
ควรชม |
ราชรถจักรน่านิยม |
ดุจแก้ว |
แก้วจักรพรรดิ์สม |
นามเรียก จริงนอ |
ทัดมารุตเพริศแพร้ว |
รถไท้รองทรง ฯ |
๏ บงหมู่ราชญาติแฟ้น |
เป็นขนัด |
ยังอมาตย์เสนาจัด |
แห่ล้อม |
บ้างขี่ขับจักร์รัถ |
ตามเสด็จ |
มาสู่สถานรถพร้อม |
เพื่อเฝ้าทูลลออง ฯ |
ร่าย๏ ครั้นได้ฤกษ์พระองค์ เสด็จทรงวรราชรถ ประดับประดางดงามสุด ดุจพิมานเทวา ถึงเวลากำหนด รถไฟใช้จักร์เดิร เสียงเสทือนเสทินสนั่นหล้า เคลื่อนคลาจากสามเสน แล่นบ่มิเอนไกวกวัด ราชารัดทรงกล้อง ส่องฉายรูปริมทาง ระวางรถดำเนิร ดูน่าเพลินจิตต์จริง ทั้งชายหญิงราษฏร พากันจรมาดู ผู้เป็นเจ้าของตน ล้วนเปรมกมลทั่วหน้า เห็นเจ้าหล้าครานี้ บางคนชี้ท่านถูก บอกให้ลูกหลานจำ ธตรัสคำปราศรัย ให้ประชาชนปราโมทย์ โปรดไต่ถามความสุข ทุกข์ของชนทั่วถึง ต่างคำนึงยินดี ว่าเรามีเจ้าประเสริฐ เลิดยิ่งนายอื่นปวง ดุจเจ้าสรวงเลิดฟ้า ครั้นเพลาใกล้เที่ยง รถแล่นเคียงเทียบสถาน นามว่าบ้านพาชี จึ่งภูมีเจ้าหล้า เสด็จสู่ปรำดาดผ้า พิจิตร์แท้ควรชม ยิ่งนา ฯ
โคลง ๓๏ พระเสด็จขึ้นประทับ |
บัลลังก์ระยับเลิดฟ้า |
ราชญาติอำมาตย์ข้า |
บาทเฝ้าริมองค์ ฯ |
โคลง ๔๏ สุริยพงศ์อมาตย์อ้าง |
นามา |
ออกพระยาสุริยา |
นุวัตร์รั้ง |
สรรพราชกิจโยธา |
ธิการทั่ว |
จึ่งอ่านรายงานทั้ง |
นอบเกล้าถวายชัย ฯ |
๏ จอมไทยดำรัสโต้ |
ตอบคำ อมาตย์นา |
ไพเราะสุดควรจำ |
จดไว้ |
รถไฟเป็นเครื่องนำ |
ผลสู่ ประเทศแฮ |
ปวงราษฎรจักได้ |
สุขทั้งพูนสิน ฯ |
๏ แผ่นดินก็จักได้ |
รับผล อีกนา |
จักช่วยผูกประชาชน |
ชิดเข้า |
ความรักรัฐมณฑล |
จักเกิด ทวีพ่อ |
ความรักชาติจักเร้า |
เร่งให้ไทยเจริญ ฯ |
๏ ฟังเพลินเพลิดจิตต์แท้ |
คำตรัส |
รู้สึกความจริงชัด |
เช่นนั้น |
พระคุณประดุจฉัตร์ |
อันประเสริฐ |
ปกแผ่ไพศาลกั้น |
เหล่าข้าบาทบงสุ์ ฯ |
โคลง ๒๏ เมื่อพิธีเสร็จแล้ว |
เสด็จจากบัลลังก์แก้ว |
ธิราชไท้เสด็จเสวย ฯ |
|
๏ น่าเชยการแต่งพร้อม |
โต๊ะจัดพฤกษชาติห้อม |
เปรียบด้วยไพรวัน ฯ |
|
โคลง ๓๏ พลันพระผู้เพ็ญยศ |
กำหนดราชญาติไท้ |
ทั้งอำมาตย์บางท่านให้ |
นั่งพร้อมริมอาสน์ ท่านนา ฯ |
ร่าย๏ ครั้นพระเสวยสำเร็จ ธก็เสด็จยุรยาตร์ กรายกรนาดนวยงาม อำมาตย์ตามแน่นขนัด ดั่งฝูงสัตว์จัตุบาท เต้าตามราชสีห์นาย ผายสู่รถไฟหลวง ปวงพวกไปขึ้นนั่งแน่น ปวงพวกแล่นส่งไผท ยืนเรียงไปตามศักดิ์ พอรถจักร์เคลื่อนที่ มีเสียงผู้ส่งโห่ โห่ฮิ้วโร่สามคลา เป็นสัญญาแนะหมาย ถวายชัยมงคล รถผันพ้นพาชี รีบเร็วรี่บ่มิหยุด ดุจมารุตจวนฝน จนถับถึงลพบุรี ที่นั่นมีทหารรับ คำนับนาถถวายเพลง บรรเลงแตรสรรเสริญ รถเทียบเนินบ่มิช้า จึ่งบพิตร์เจ้าหล้า ย่างเยื้องจากรถ ไฟนา ฯ
โคลง ๓๏ ทวยราษฎรชายหญิงคลา |
กันมายืนนั่งเฝ้า |
พระบาทบพิตร์เจ้า |
เพื่อได้ชมบุญ ท่านแฮ ฯ |
๏ หมื่นขุนหลวงออกญา |
อีกเทศาสะพรั่งพร้อม |
ก้มศิโรตมางค์น้อม |
นบนิ้วถวายพร ท่านนา ฯ |
โคลง ๒๏ เผยพจน์ทักทั่วแล้ว |
เสด็จสู่ราชรถแพร้ว |
เพริศเพี้ยงองค์อินทร์ |
เสด็จเอย ฯ |
โคลง ๔๏ งามนราธิราชทั้ง |
งามรถ ทรงพ่อ |
งามแสะสองยาตร์พยส |
ย่างย้าย |
งามสารถีจรด |
สายขับ |
งามอัศวาภรณ์คล้าย |
พิษณุแสร้งสรรค์ถวาย ฯ |
ร่าย๏ ขับรถมาบ่มิหึง ถึงวังเบาราณราช จึ่งภูวนาถจรดล ยลนิเวศน์วังร้าง สร้างแต่ปางพระนารายณ์ ซึ่งตัวนายคอนสตัน ฟั่ลคันชาวกรีก หลีกมาพะพึ่งโพธิ โปรดความชอบความดี ให้เป็นที่ออกญา นามวิชาเยนทร เป็นผู้สอนผู้สั่ง เป็นผู้ตั้งต่อติด ประดิษฐ์คิดแต่งแปลน ให้แม้นแผนยุโรเปี้ยน บูรณ์ตามเขียนแบบแล้ว จึ่งพระทรงจักร์แก้ว โปรดเกล้ารางวัล ยศนา ฯ
โคลง ๓๏ พลันเพลินพิศเวียงวัง |
อีกแถวคลังสระแก้ว |
ตึกพระเจ้าเหาแล้ว |
เสด็จเข้าธัญญปรา สาทแฮ ฯ |
โคลง ๔๏ สรรเศียรวราหะต้ม |
เตียบรอง |
เป็ดไก่บายศรีตอง |
แต่งตั้ง |
สุราใส่ขวดซอง |
แทรกอยู่ |
รัชฎ์ธูปคำเทียนทั้ง |
ดอกไม้รายวาง ฯ |
๏ ปางปิ่นจักรพรรดิ์เจ้า |
จอมสยาม |
นบเทพนารายณ์สาม |
คาบแล้ว |
ราชญาติยุพราชตาม |
อย่างเยี่ยง พระนอ |
เสร็จกิจสังเวยแคล้ว |
คลาศเต้าตามฉนวน ฯ |
๏ เสด็จสู่นาเวศพร้อม |
พลพาย |
องครักษ์ตำรวจราย |
รอบข้าง |
เรือทรงแล่นฝ่าสาย |
สินธุ์เชี่ยว |
ลุทุ่งพรหมมาสตรกว้าง |
เทีบบหน้าพลับพลาศรี ฯ |
๏ แรมรุ่งโมงเศษเช้า |
จอมนรา |
เสด็จส่องฉายามหา |
ธาตุร้าง |
สถูปปรางค์อีกทั้งปรา |
สาทเก่า |
เย็นย่ำค่ำคืนค้าง |
แทบท้องทะเลลม ฯ |
ร่าย๏ ถึงที่สองวารา พิจิกายนมาส พระบาทบรมราชา คลาขบวนโดยรถไฟ ใช้จักร์ฉิวเฉียดพายุ บรรลุถึงบ่มิช้า ท่าเรือปากน้ำโพ อันโอฬารสราญตา พวกเทศาภิบาล เฝ้าณสถานรถไฟ ครั้นภูวนัยจอมกษัตริย์ ตรัสปราศรัยเสร็จสรรพ เสด็จประทับเรือกล รีบจรดลสู่วัด เขาถนัดหน้าศาลา ที่ว่าการมณฑล เรือประชาชนจอดแน่น แฟ้นเกลื่อนกลาดดาษดา เห็นราชาอภิวาท พระบาทตรัสให้เข้า มาเฝ้าใกล้พระองค์ ทรงทักทายถามข่าว ชาวนครสัคค์ปรีดา ต่างวันทาชมบุญ พระการุญยิ่งล้ำ ราษฎร์นิยมใครบ่ก้ำ กว่าไท้สยามินทร์ ได้เลย ฯ
โคลง ๒๏ จึงภูมินทรลบหล้า |
ธเสด็จบ่มิช้า |
ไต่ขึ้นบนบรร |
พตนา ฯ |
๏ พระนมัสการเสร็จแล้ว |
เสด็จกลับพลับพลาแก้ว |
จึ่งไท้เลยเสวย ฯ |
|
ร่าย๏ ถึงเวลาอันควร เคลื่อนคลาดกระบวนจากวัด ราษฎรขนัดกึกก้อง ซร้องส่งเสียงถวายชัย เรือกลไฟรีบแล่น แม้นมัตสยาน่าชม ลำน้ำอุดมธงเทียว ผ้าแดงเขียวประดับประดา ครั้นนาวาถึงตลาด ธเสด็จประพาสบ่มิเนิ่น ความเจริญแห่งพารา ปรากฎตาแน่แท้ ควรนึกปราโมทย์แล้ อุระตื้นเปรมกมล ฯ
โคลง ๔๏ ถึงกาลภูวนาถเจ้า |
จอมไทย |
เสด็จสู่สถานรถไฟ |
พรั่งพร้อม |
ประดาผู้ที่จะไป |
พายัพ |
อภิวาทแทบบาทน้อม |
นอบเกล้าบังคมลา ฯ |
๏ ราชาประสิทธิ์ให้ |
วรพร |
ขอทุกรูปสถาวร |
ดั่งกี้ |
ในระวางเมื่อสัญจร |
จงสุข ทั่วเทอญ |
ดำรัสเสร็จเช่นนี้ |
เหล่าข้าพูนเกษม ฯ |
๏ ขอเหล่าอริร้าย |
พ่ายพระ เดชเทอญ |
ขอทุกข์จงอย่าพะ |
ท่านไท้ |
ขอสุขอย่าเลยละ |
วรบาท ท่านเลย |
ขอพระชนม์ยืดได้ |
กว่าร้อยพรรษกาล ฯ |
๏ ปวงภัยอย่าพาดพ้อง |
วรองค์ ท่านเลย |
ให้พระฤทธิ์ดำรง |
เลิดหล้า |
ขอปวงพระราชวงศ์ |
จงสวัสดิ์ ทั่วนา |
เพื่อปกครองไพร่ฟ้า |
ราษฎร์ให้อยู่เย็น ฯ |
โคลง ๒๏ ราชรถอันเพริดแพร้ว |
เคลื่อนจากที่จอดแล้ว |
โอรสไท้เสด็จจร ฯ |
|
๏ สมเด็จหน่อพุทธเจ้า |
เสด็จล่องลำน้ำเข้า |
เทียบหน้าศาลามณ |
ฑลเอย ฯ |
โคลง ๔๏ นครสวรรค์นามมาตร์แม้น |
เมืองอินทร์ |
เหมาะหนักหนาภูมินทร์ |
แต่งให้ |
ออกญาอมรินทร์ |
ครองเขตต์ |
นครสัคค์ควรจักได้ |
สักร์ไว้เป็นจอม ฯ |
๏ องค์อินทร์มีเนตร์อ้าง |
นับพัน |
สอดส่องทั่วขอบขันธ์ |
แหล่งหล้า |
พระยาอมรินทร์ขยัน |
เทียมเทพ |
กล้องรูปสอดส่องคว้า |
ถ่ายล้วนสิ่งสรรพ์ ฯ |
๏ พระยาชลบุเรศร์ผู้ |
เป็นปลัด มณฑลนา |
ตอนค่ำตระเตรียมจัด |
เล่นพร้อม |
ผ้าป่าอีกเพลงขนัด |
หนาแน่น |
เริงน่าพลับพลาน้อม |
นอบเกล้าบำเรอไผท ฯ |
๏ วงชายร้องยั่วเย้า |
ยวนหญิง |
วงอิสัตรีประวิง |
ตอบโต้ |
คล้ายพี่ยวนหล่อนอิง |
แอบอก พี่นอ |
ยิ่งคิดยิ่งเจ็บโอ้ |
ห่างน้องนวลแข ฯ |
โคลง ๓๏ รุ่งที่สามพิจิกา |
ยุพราชาธิราชไท้ |
เสด็จสู่เรือจักร์ใช้ |
จักร์ย้อนลงปลาย น้ำนา ฯ |
โคลง ๒๏ เรือไฟไคลเทียบหน้า |
โรงทหารเสด็จไป่ช้า |
เสด็จขึ้นดำเนิรดู ฯ |
|
ร่าย๏ บงหมู่ข้าราชการ ฝ่ายทหารพลเรือน บมิแชเชือนแช่มช้า ลงยืนท่าอัญเชิญ พระดำเนิรสู่โรง ทหารโอ่โถงสอาดตา ที่ทวารากองเกียรติ ยืดยืนเหยียดเป็นแถว แนวกระทำคารวะ แด่พระหน่อพุทธเจ้า โอษฐ์นั้นเล่าร่ำร้อง ซร้องสรรเสริญบารมี พระจึ่งลีลาพลัน สู่ที่บัญชาการ ทั้งตรวจสถานพลสถิต พระเริงฤทธิ์สงคราม
ตามเสด็จเพื่ออธิบาย เหตุการณ์หลายควรฟัง เสด็จทั้งคลังทั้งโรง ฝึกหัดโถงควรชม แล้วจึ่งบรมโอรส ตามกำหนดถวายไว้ ได้ทรงปลูกต้นสัก เพื่อเป็นหลักตักเตือน เยือนใจผู้อยู่หลัง ถึงเมื่อครั้งธเสด็จ ครั้นเสร็จทรงตรวจแล้ว เสด็จลงนาเวศร์แก้ว กลับเข้าคืนพลับ พลานา ฯ
โคลง ๓๏ ครั้นได้ฤกษ์คลาขบวน |
ดูยวนตายิ่งล้ำ |
ดุจหมู่นาคเล่นน้ำ |
พิศแล้วเพลินตา ฯ |
โคลง ๔๏ งานกระบวนชลมารคล้วน |
นาวา เรียงแฮ |
งามเมื่อพระยาตรา |
ยับยั้ง |
งามเรือเปรียบอินทรา |
สนะล่อง |
งามติดงามต่อตั้ง |
ถี่ถ้วนล้วนงาม ฯ |
๏ เรือกลนำร่องน้ำ |
มณฑล เตรียมแฮ |
เรือที่นั่งศิริชล |
เทียบข้าง |
เรือมะโรงชักโยงกล |
จักร์แล่น กลางนา |
เรือเครื่องเทียบซ้ายสล้าง |
สลับล้วนกระบวนเรือ ฯ |
๏ ถัดมามหาดเล็กตั้ง |
ที่สาม รองเฮย |
พ่วงปิกนิกอมาตย์ตาม |
จัดทั้ง |
ปิกนิกมหาดเล็กยาม |
ตั้งเครื่อง |
เรือสี่หนึ่งยังยั้ง |
อยู่ท้ายรายไป ฯ |
๏ เรือกลหนึ่งไล่ท้าย |
เวหน นามฤๅ |
บรรทุกสรรพของขน |
เครื่องใช้ |
เรือกุ๊กผูกข้างยล |
เพลิดยิ่ง เพลินพ่อ |
สิบเอ็ดลำเรือไล้ |
ล่วงน้ำตามกัน ฯ |
๏ ฤกษ์รุ่งรุ่งฤกษ์แล้ว |
กระบวนจรัล แม่เฮย |
คลาดล่วงนครสวรรค์ |
ย่านน้ำ |
เจียนจิตต์จักจรจัล |
จอดถิ่น เจียวแม่ |
ตริยิ่งตริยิ่งช้ำ |
ชอกเพี้ยงทรวงสลาย ฯ |
๏ ชายใดโรคใดกล้ำ |
กลายกาย |
เทียบบ่อทัดทันราย |
ราคเร้า |
ราคร้อนอุระสลาย |
แสลงยิ่ง เจียวแม่ |
คืนและวันฝันเจ้า |
จ่อหน้ามาเยือน ฯ |
๏ กระบวนเบือนบากหน้าเข้า |
เกรียงไกร บ้านเฮย |
ทับกฤชกฤชเกรียงใด |
ตัดเจ้า |
ตัดพี่นี่ขาดไป |
ขณะสวาท แม่แม่ |
สวาทพี่ฤๅดีเร้า |
ร่านร้อนเรียมหวน ฯ |
๏ เกยไชยชื่อโด่งด้วย |
กุมภา หนึ่งนา |
ยาวใหญ่ร้ายกาจนา |
สิกพร้อย |
ตัวตายแต่หลานตา |
ยังอยู่ |
สองบาทจุดขาวน้อย |
ด่างพร้อมพรรณตา ฯ |
๏ ชุมแสงแสงทิพไซร้ |
ส่องสุม อยู่ฤๅ |
อกพี่ราวไฟรุม |
เร่าร้อน |
ไห้หวนคิดถึงชุม |
นุมอยู่ หลังนอ |
บุญพี่ชูพี่ย้อน |
กลับใกล้คืนสงวน ฯ |
๏ เมืองภูมิภูมิภาคด้วย |
เหตุไฉน |
ภูมิเพราะกายฤๅใจ |
ช่วยชี้ |
ฤๅมีเทพสถิตใน |
กิ่งรุกข์ ใดฤๅ |
ขอพระภูมิที่นี้ |
ประสิทธิ์ให้พธูเกษม ฯ |
๏ รูปกุญชรเพศอ้าง |
นามบรร พตแฮ |
ใครนะช่างคิดสรร |
ชื่อให้ |
คิดไปก็เดือดดัน |
ช้างบ่ มีเลย |
ผิวะมีจักได้ |
ขี่ขึ้นคืนสถาน ฯ |
๏ ถึง เวียงวิจิตร์แล้ว |
แลหา |
เมือง นี่บ่มีตา |
ยั่วค้อน |
พิ จารณ์มิสบสุดา |
นิ่มนุช เลยแม่ |
จิตร์ พี่ยังเร่าร้อน |
อุระไข้คนึงหา ฯ |
๏ พิจิตร์วิจิตร์คล้าย |
นามขนาน |
งามหมู่ทหารชาญ |
ศึกกล้า |
ฝ่ายเทศอภิบาล |
พร้อมพรั่ง |
เต็มยศขาวทั่วหน้า |
เพื่อเฝ้าทูลสนอง ฯ |
๏ เรือทรงเทียบท่าแล้ว |
เยาวราช |
เสด็จสถิตเหนือราชอาสน์ |
แต่งไว้ |
ข้าราชกิจอภิวาท |
เป็นขนัด |
อีกพ่อค้าจีนได้ |
แห่เฝ้าถวายพร ฯ |
๏ ตอนเย็นเสวยเสร็จแล้ว |
พระนิกร กิตินา |
จัดเล่นลครถวาย |
สนุกแท้ |
ไกรทองเมื่อธจร |
ขึ้นจาก ถ้ำแฮ |
พวกตลกพูดตลกแก้ |
ทุกข์ให้คลายครวญ ฯ |
๏ ข้ามเขตต์พิจิตร์เข้า |
สนามคลี |
สนามที่เงาะเดาะตี |
เทพแพ้ |
สังข์เสร็จศึกสมศรี |
สวาทรจ นาแม่ |
เรียมเสร็จราชกิจแล้ |
จักได้สมศรี ฯ |
๏ ครั้นเรือขบวนเคลื่อนเข้า |
เขตต์พิษ ณุโลกเฮย |
เรือพระกาญจนดิฐ |
ไพร่พร้อม |
จ้วงพายวาดท้ายชิด |
เรือพระ ที่นั่งนา |
จึ่งปลัดเทศาน้อม |
นอบเกล้าทูลเชิญ ฯ |
๏ ที่เจ็ดเรือจอดใกล้ |
ปากพิง |
หวนคิดถึงแม่หญิง |
ยอดฟ้า |
ยามสุขแม่เคยอิง |
แอบอก พี่นอ |
โอ้เปลี่ยวใจพี่ล้า |
ละห้อยสุชลคลอ ฯ |
๏ ปากพิงพิงเก่งแท้ |
เจียวนา |
นอนวิสูตรแล้วหนา |
ไป่โป้ |
มะกะสะยังลอดมา |
เจาะกัด ได้โอย |
โดยปากยุงพิงโอ้ |
เริดไร้นิทราศูนย์ ฯ |
โคลง ๓๏ เช้าที่แปดเพลา |
นาฬิกาล่วงแล้ว |
โมงหนึ่งนาเวศร์แก้ว |
แล่นขึ้นฝ่าสาย ชลนา ฯ |
โคลง ๒๏ ถึงพิษณุโลกไป่ช้า |
เที่ยงเศษจึงหยุดหน้า |
วัดข้ามลอยเรือ ฯ |
|
ร่าย๏ พอกระบวนตรงท่า หน้าวัดพระชินราช เสียงสินาดยิ่งดังสนั่น ครืนครั่นโครมคระครึก อธึกดุจอสนีบาต คำนับนาถบรม สมเด็จหน่อพุทธางกูร แตรสั้นประมูลเสียงแจ้ว พิณพาทย์แผ้วเสียงใส พระสวดชัยคาถา ราษฎรดาดาษมอง ปองใจจักเห็นองค์ ทรงเต็มยศขาวเสร็จ ธเสด็จเรือพาย กรายกรเข้าเทียบท่า เทศาเฝ้าทูลเชิญ เสด็จดำเนิรลิลาศ ขึ้นสู่ราชมาฬก ตกแต่งราชอาสน์ไว้ พระยาศรีสุริยาราชได้ นอบเกล้าอัญเชิญ ประทับนา ฯ
โคลง ๓๏ จึ่งเหล่าข้าราชการ |
เทศาภิบาลอยู่หน้า |
พร้อมหมู่ราชญาติข้า |
บาทเฝ้าวันทา ฯ |
โคลง ๔๏ พระยาศรีสุริยราชอ้าง |
นามขนาน |
เปิดอ่านอักษรสาร |
เสนาะถ้อย |
เปรมปลื้มจิตต์ใดปาน |
ใดเปรียบ ได้เลย |
ข้าราชกิจใหญ่น้อย |
ทั่วล้วนถวายพร ฯ |
๏ ยินดีรับเสด็จไท้ |
เยาวรา ชาเอย |
ซึ่งอุตส่าห์เสด็จมา |
ที่นี้ |
ขอเดชพระกรุณา |
ชินราช |
อันศักดิ์สิทธิ์แต่นี้ |
ประสิทธิ์ให้ไผทเจริญ ฯ |
๏ สมเด็จหน่อพุทธเจ้า |
ตรัสตอบ |
พลางหมู่อมาตย์นอบ |
เกศเกล้า |
ทรงปราโมทย์และขอบ |
ใจทั่ว กันนา |
ขอท่านทั้งหลายเฝ้า |
ชักชี้ในการ ฯ |
๏ อันผู้เป็นใหญ่แล้ว |
จำจัก |
ต้องพึ่งพาพำนัก |
ทั่วหน้า |
ใดผิดจงช่วยทัก |
ทานทัด |
เพื่อราชกิจเจ้าหล้า |
จักได้ดำเนิรดี ฯ |
ร่าย๏ ตอนบ่ายพระลูกยา ทรงอาชาเป็นขบวน มวญหมู่ราชบริพาร ห้อมแห่ตระการตาจริง สินธพวิ่งลำพองเผ่น ไต่เต้นตามมรรคา แลโรงพยาบาลพลัน ของมิสชันเนรี อเมรีกันชาติ แพทย์ทูลบาทอัญเชิญ ดำเนิรทอดพระเนตร์ ทั่วเขตต์โรงโอสถ อธิบายหมดถ้วนถี่ เครื่องมือมีมากครัน ทุกอันมีที่ใช้ ในการเวชวิทยา พระทัสนาสำเร็จ เสด็จขึ้นอาชาไนย ไปสู่โรงทหาร ผู้บัญชาการมณฑล ยศนายพลชั้นตรี หม่อมเจ้าศรีใสตาม เพื่อทูลความตามที่ พระจักมีสิ่งฉงน พยุหพลยืนแถวราย ถวายวันทยาวุธ เพริศแพร้วดุจพลพระราม ยามชำนะลงกา ยุวราชาดำเนิร บมิเมินมิเฉย บมิละเลยสิ่งใด ไผททัสนาสรรพ อีกมีรับสั่งโปรด ปล่อยนักโทษพ้นทัณฑ์ ในบ่ายวันนี้ไซร้ เพื่อเหล่าพลจักได้ นึกน้อมนิยมบุญ ท่านนา ฯ
โคลง ๔๏ ครั้นค่ำพระเสด็จขึ้น |
นมัสการ |
ณ พระธาตุวิหาร |
ชื่ออ้าง |
ดอกไม้รัชฎากาญจน์ |
แต่งพุ่ม ถวายนา |
พระพุทธชินราชสร้าง |
ประเสริฐสิ้นศิลป์คน ฯ |
๏ ปฏิมางามเลิดล้วน |
งามเจริญ เนตร์นา |
ยิ่งพิศหนักยิ่งเพลิน |
เพลิดแท้ |
หาคำเพื่อสรรเสริญ |
พระห่อน พอเลย |
งามหมดหาที่แก้ |
บ่ได้แห่งใด ฯ |
๏ ยามเนตร์สบแรกนั้น |
เปรียบดัง |
ได้สดับศัพท์เวงวัง |
วิเวกชื้น |
ดุจเพลงเสนาะประทัง |
ประทะโสต |
ยิ่งพิศจิตต์ยิ่งตื้น |
พากย์ด้วยยินดี ฯ |
๏ สมเด็จราเมศร์ไท้ |
ธำรง ศักดิ์นา |
เทียนธูปนมัสการองค์ |
พระแล้ว |
เปลื้องผ้าสะพักทรง |
อุทิศ บูชาแฮ |
แด่พระชินราชแผ้ว |
เพริศแพร้วสุพรรณพรรณ ฯ |
๏ ทุกคนต่างนอบน้อม |
ศิโรตมางค์ |
จุดธูปเทียนเบ็ญจางค์ |
ประดิษฐไว้ |
ปีติทั่วสรรพางค์ |
ทุกรูป |
ขอจงประสิทธิ์ให้ |
โรคทั้งภัยกษัย ฯ |
๏ ขอสิ่งข้าบาทนี้ |
นิยม |
ได้ดั่งจินดาสม |
เสร็จถ้วน |
นฤทุกข์เพื่อกลับชม |
คฤหาสน์ |
ชนที่ข้าสวาทล้วน |
สุขทั้งกายใจ ฯ |
๏ ขอความที่อาตม์นี้ |
เลื่อมใส |
ในพระรัตนตรัย |
จุ่งให้ |
เป็นผลสิทธิใน |
สิ่งสรรพ |
อันจิตต์ปรารถนาไซร้ |
จุ่งได้ดังประสงค์ ฯ |
โคลง ๓๏ เมื่อเสร็จทรงนมัสการ |
ธสมาทานสิกข์ห้า |
แล้วภิกษุส่งเสียงจ้า |
สวดซ้องเจ็ดตำนาน ฯ |
โคลง ๔๏ สงฆ์สวดมนตร์จบแล้ว |
พระองค์ |
เสร็จนมัสการลง |
สู่หล้า |
เสด็จประทับพลับพลาทรง |
ทอดพระเนตร์ |
มโหรสพส่งเสียงจ้า |
แจ่มแจ้วจับรำ ฯ |
๏ โขนประจำจับเหล้นเมื่อ |
พระยาวา นรเฮย |
สุครีพมหาเสนา |
ใหญ่สู้ |
กุมภกรรณอนุชลงกา |
อินทร์แต่ง กลนอ |
ขุนกบี่บ่รั่วรู้ |
รวบรึ้งพระยารัง ฯ |
๏ คนดูอยู่แน่นก้อง |
เฮฮา |
บ้างพิศโขนพิศราชา |
เกียรติอื้อ |
นี่หัวนั่นโกรธา |
มี่สนั่น อยู่เฮย |
ตำรวจร่าคร่ายื้อ |
ยุดห้ามความหาย ฯ |
๏ หุ่นจีนก็จัดไว้ |
วางเคียง โขนแฮ |
ด้านฟากพระระเบียง |
โบสถ์ตั้ง |
พิณพาทย์ดาษรายเรียง |
รุ่นแรก หัดเฮย |
เพลงเก่งพลางพลอดยั้ง |
อยู่ล้นหลามเหลือ ฯ |
๏ ปฐมยามย่ำล่วงแล้ว |
เวลา ดึกแฮ |
พระเสด็จกลับพลับพลา |
ไพร่ห้อม |
ปวงมโหรสพนา |
นาหยุด |
กองจุกช่องวงล้อม |
เร่งฆ้องรุมไฟ ฯ |
ร่าย๏ ครั้นรุ่งเช้าจวนเพล พระหน่อนเรนทรเสด็จ โดยเรือระเห็ดข้ามฟาก จากพลับพลาสู่วิหาร ทรงนมัสการพระพุทธ ชินราชสุทธวิไล อุไรสุกอร่ามเรือง เหลืองจับแสงสุริยง ครั้นพระสงฆ์สวดเสร็จ สมเด็จยุพราชา อาหารบิณฑบาตประเคน พิณพาทย์เล่นบรรเลงลั่น ครั้นพระฉันสำเร็จ สมเด็จโอรสเจ้า ทรงพระเต้าสิโนทก สงฆ์ยกพัดโมทนา ครั้นเพลาได้ฤกษ์ โปรดให้เบิกแว่นวง สมโภชองค์ปฏิมา ตามโบราณะประเพณี เสียงดนตรีบรรฦๅศัพท์ เสียงโห่รับโห่เรียง รายระเบียงอุโบสถ เปล่งเสียงหมดทุกตน ครั้นเทียนวนได้สาม รอบแล้วตามแบบบรรพ์ ทรงธรรม์ทรงเจิมกระแจะ แตะปฏิมาเพริศแพร้ว ทรงถวายอภิวาทแล้ว เสด็จข้ามคืนพลับ พลานอ ฯ
โคลง ๒๏ ครั้นรำไพบ่ายคล้อย |
เสด็จประพาสสถานใหญ่น้อย |
ฟากน้ำปราจิณ ฯ |
|
โคลง ๓๏ แล้วพระข้ามนมัสการ |
วิหารพระชินสิริแพร้ว |
อีกพระสาสดาเสร็จแล้ว |
ธิราชไท้คืนสถาน ฯ |
ร่าย๏ เพลาค่ำเทศา มาเชิญพระหน่อนาถ สู่ราชมาฬกประทับ เพื่อทรงสดับเพลงเสนาะ พิณพาทย์เพราะบรรเลง วังเวงวิเวกวอน เพลงไทยมอญจีนแขก แปลกเปลี่ยนเสียงน่าฟัง ยังมีเสภากลอน จับตอนขุนแผนสท้าน เดือดดาลขุนช้างบังอาจ ลักลอบนาฏวันทองไป ครั้นได้เวลาจวนห้า ทุ่มเทศาภิบาลเชิญ เสด็จดำเนิรห้องกลาง ซึ่งจัดวางโภชน์ไว้ ครั้นไผทเสวยเสร็จแล้ว เสด็จกลับพลับพลาแก้ว สู่ห้องไสยา ฯ
โคลง ๔๏ ที่สิบวาระเช้า |
เสด็จวัง จันทร์แฮ |
เพื่อบัดพลีเทพดัง |
แบบกี้ |
พร้อมโภชน์สุราสัง |
เวยอุทิศ |
ขอเทพสถิตที่นี้ |
ขจัดคุ้มโพยภัย ฯ |
๏ ทั้งในชนบททั้ง |
มรรคา |
จงสวัสดีปรีดา |
ทุกข์แคล้ว |
โรคาพาธอย่ามา |
เบียฬเบียด ได้เลย |
จนกลับคืนห้องแล้ว |
นุชเนื้ออุไรศรี ฯ |
ร่าย๏ บ่ายพระเสด็จลีลา โดยนาวาพายผจง ตรงทวนขึ้นเหนือน้ำ ถึงท่าทำไว้เสร็จ เสด็จโดยบาทดำเนิร สู่เชิงเทินค่ายเก่า ซึ่งฝ่ายเราตั้งรับ ทัพพะม่าแต่เบาราณ ซึ่งเหิมหาญมารบ ครั้นดำเนิรจบรอบเทิน เทศาเชิญพระลูกยา ทรงอาชาคลาขบวน หวนกลับลงทางใต้ เพื่อไผททอดพระเนตร เขตต์สถานสรรพราชกิจ อันสถิตอยู่ทางฝั่ง บุรพาตั้งเป็นแนว อีกสระแก้วใหญ่กว้าง ขวางแลลิ่วลิบตา ครั้นเพลายามเย็น เล่นละคอนตลกถวายพระองค์ ตอนสุวรรณหงส์หลงรัก นางยักษ์แปลงหลอกเนตร์ เหมือนนางเกษนิ่มนวล ครั้นเพลาจวนดึกไซร้ พระโอรสราชไท้ เสด็จขึ้นบรรทม ฯ
โคลง ๒๏ หิมะโปรยปรายชุ่มชื้น |
จันทรส่องแสงทั่วพื้น |
ฟากฟ้าสากล ฯ |
|
โคลง ๔๏ ยลแสงอัศะคะไซร้ |
ส่องเย็น |
แนะเนตร์นิมิตรเห็น |
นิ่มน้อง |
บำบวงบัดบำเพ็ญ |
บุญะกิ ริยาแม่ |
บุญจุ่งสื่อสารซร้อง |
ส่งสร้อยสายสมร ฯ |
ร่าย๏ ครั้นรุ่งขึ้นโมงเช้า เยาวราชเสด็จจากพลับพลา ทรงนาวามาดศรีชล น่ายลยิ่งเพลินตา เรือเสนาเป็นขนัด เยาวราชธวัชฟูโพยม ปืนใหญ่โครมครึกลั่น สนั่นยิงยี่สิบเอ็ดครา ถวายราชาหน่อนาถ เสนามาตย์ประดับกาย เต็มยศรายถวายกร ถวายพรพระภูบาล จงสำราญเจริญสุข ทุกข์อย่าพาลพระบาทได้ เทพอารักษ์ธิราชไท้ ตลอดทั้งบริพาร ฯ
โคลง ๔๏ แลตระการนาเวศร์ทั้ง |
เรือกระบวน |
งามธวัชตวัดยวน |
ยั่วฟ้า |
เรือไฟใช้จักรทวน |
น้ำดุจ ลมพ่อ |
จากพิษณุโลกไป่ช้า |
แล่นขึ้นทางอุดร ฯ |
๏ พรหมพิรามนามแปลกแท้ |
เทียวหนา |
ฤๅเรียกตามพรหมา |
ธิราชเจ้า |
ฤๅรามธะกรีฑา |
พลพัก ที่นอ |
มองจับบ่ได้เค้า |
เหตุทั้งนามกร ฯ |
๏ บรรลุอาวาสอ้าง |
ออกนาม |
วัดพระยาแมนตาม |
ไพร่พร้อง |
เป็นที่ที่เขาขาม |
จะติด หาดแล |
เรือติดกรากเราร้อง |
เรียกให้คนเข็น ฯ |
๏ ปางเมื่อพิษณุโลกเจ้า |
เมืองมี อำนาจนา |
อีกพิชัยบุรี |
ราชเรื้อง |
ต่างตริจะปันสี |
มาแม่น เขตต์พ่อ |
ตริร่วมลงเรือเยื้อง |
จากบ้านเรือนตน ฯ |
๏ พลพายพิษณุโลกนั้น |
ไป่ประมาท |
รีบเร่งจ้ำเรือปราด |
ฝ่าน้ำ |
พิไชยหมิ่นบังอาจ |
เมาหมด ลำนา |
เกะกะปะเปะค้ำ |
หาดแห้งเกยตอ ฯ |
๏ ฝ่ายใต้มาล่วงล้ำ |
บ้านพระยา แมนเอย |
ฝ่ายอุตร์ล่องลอยมา |
พะพ้อง |
ต่างฝ่ายต่างขึ้นอา |
รามปัก เขตต์พ่อ |
วัดจึ่งมีนามพร้อง |
เพรียกท้าวปันแดน ฯ |
๏ ถึงพิชัยบุระพี่นี้ |
ตริใน จิตต์พี่ |
เปรียบประหนึ่งตัวไป |
ศึกแกล้ว |
สู้ทนบากกายใจ |
เพื่อปราบ ริปูแฮ |
เสร็จศึกชัยชะนะแล้ว |
กลับห้องมณีศรี ฯ |
๏ ลุตรอนนอนหม่นไม้ |
อนิจจา |
ถนัดดั่งตัดรอนมา |
จากห้อง |
ทอนกายแต่เสนหา |
คงผูก ชิดแม่ |
มัจจุเท่านั้นน้อง |
ตัดได้ขาดจริง ฯ |
๏ ท่าญวนยวนยั่วเย้า |
เยือนยล |
เร้าเร่งรุดรุมรน |
ราคร้อน |
จำใจจำจากจน |
ใจเจ็บ |
คลาดขนิษฐคิดขึ้งค้อน |
คับแค้นคนึงครวญ ฯ |
๏ ป่าเซ่าเศร้าอุระแล้ว |
จำเฉย อยู่นา |
ชิดหล่อนหล่อนชวนเชย |
สร่างเศร้า |
หมอนไม้แนะเปรียบเขนย |
พี่บัด นี้แม่ |
เขนยอ่อนนอนห่างเจ้า |
กลับกระด้างดังขอน ฯ |
โคลง ๓๏ วันที่สิบสี่เที่ยงเศษ |
นาเวศร์แล่นบ่มิพลั้ง |
ถึงอุตรดิตถ์ยั้ง |
หยุดหน้าศาลเมือง ฯ |
โคลง ๔๏ ขอลานาเวศร์ทั้ง |
ผู้ไคล กรุงนา |
โอ้อกเอ๋ยจำไป |
ห่างห้อง |
นับวันนับจักไกล |
จากนุช |
ราชกิจคิดขัดข้อง |
ไป่ได้จำจรัล ฯ |
๏ ถึงผันพักตร์สู่เบื้อง |
ทิศอุดร ก็ดี |
ใจพี่จอดเคียงสมร |
สถิตใต้ |
แม้ไม่ขยาดมหิศร |
พิโรธ |
พี่จักลงเรือใช้ |
จักร์ร้นคืนเรือน ฯ |
โคลง ๓๏ ที่สิบห้าพฤศจิกา |
ทรงอาชาแช่มช้อย |
ราชญาติอมาตย์ต้อย |
ไต่เต้าตามเสด็จ ประพาสนา ฯ |
โคลง ๔๏ ยอกรก้มเกศเกล้า |
วันทา |
แทบพระแท่นศิลา |
อาสน์น้อม |
ผิวะโฉมวรนุชมา |
กับพี่ |
พี่จักพานุชค้อม |
เข่าคู้ถวายกร ฯ |
๏ ลับแลหลบลับลี้ |
หลังพนม |
พนมดั่งฉากชวนชม |
กีดกั้น |
กั้นกีดบ่ให้สม |
ใจมุ่ง |
มุ่งกลับต้องยับยั้ง |
จิตต์ไว้จงดี ฯ |
๏ ฝายหลวงหลวงจัดสร้าง |
แบ่งสินธุ์ |
เทินท่วมไหลเรื่อยริน |
หยาดย้อย |
จึงเมืองลับแลดิน |
อุดมยิ่ง อุดมนา |
ฝายแบ่งน้ำกรรมต้อง |
แบ่งข้าไกลนาง ฯ |
โคลง ๓๏ ที่สิบเจ็ดพฤศจิกา |
ยุพราชาไป่ยั้ง |
ตรัสให้ขบวนเสด็จตั้ง |
น่าเต้าสู่พา ยัพนา ฯ |
โคลง ๔๏ หนึ่งนาฬิกาเศษน้อย |
โอรสา ธิราชเฮย |
ทรงเครื่องสู่อาชา |
เพริศแพร้ว |
ปวงข้าพระบาทนา |
นาต่าง ตามมา |
พร้อมเสร็จพระเสด็จแคล้ว |
เคลื่อนคล้อยขบวนไคล ฯ |
๏ งามครันม้าที่นั่งคล้อย |
สารพัน งามพ่อ |
หางหกยกหางชัน |
เชิดหน้า |
ยกข้อยกเท้าผัน |
ผยองรวด เร็วนา |
สีสดประเสริฐม้า |
สนิทล้วนดำเนิร ฯ |
๏ บ้านด่านด่านสกัดกั้น |
กักใคร |
ขนานชื่อตามด่านไหน |
อยากรู้ |
ฤๅเปรียบด่านในใจ |
สกัดพราก ชู้แม่ |
กักรักรักจักสู้ |
ต่อต้านด่านถอย ฯ |
โคลง ๓๏ จากบ้านด่านบ่มิหึง |
ถึงพลับพลาประทับร้อน |
ลงแซ่เร่งแสะซ้อน |
ซบเข้าผ่อนเย็น ฯ |
โคลง ๒๏ เสวยพักพอร่มแล้ว |
สมเด็จหน่อนาถแคล้ว |
คลาศขึ้นสารแทน |
แสะนา ฯ |
ร่าย๏ งามกระบวนคชไต่เต้า ปวงคชเข้ากระบวนไป แลวิไลเพลิดเพลิน มีผู้เดิรตราตรวจ ตำรวจสี่ขึ้นม้า นำหน้าริ้วรายขบวน ม้าเจ้ายวนนำคลา ถัดแสะมาถึงสาร สองทหารหาญจบเจน ขึ้นช้างเขนนำไคล คชพระชัยนวโลหะ นำหน้าพระคชธาร ยังอีกสารที่นั่งรอง สองเชือกช้างโดยมี ล้วนสับศรีแลตระการ นอกนั้นสารหลายเชือก บริพารเลือกประจำตน ต่างจรดลลำดับเกียรติ บ่ยัดเยียดยาวขบวน แลดูควรเกียรติเจ้า ทั้งข้าพระบาทเข้า ต่อไท้ติดขนอง ท่านนา ฯ
โคลง ๔๏ ขี่คชลาลดไห้ |
หาศรี |
ศรีอยู่สุขฤๅทวี |
เทวษว้า |
ว้าเหว่พี่เอกี |
กลางกูบ |
กูบผิมีนุชอ้า |
กูบแม้นพิมานศรี ฯ |
๏ เห็นธารคิดเทียบครั้ง |
อิเหนาพา |
ระเด่นนุชบุษบาคลา |
ร่วมถ้ำ |
สองสมเสร็จสองมา |
ธารสระ สรงเฮย |
สองสนุกเสน่ห์ล้ำ |
เล่ห์เพี้ยงเสวยสวรรค์ ฯ |
๏ ครั้นดวงสุริเยศใกล้ |
อัสดงค์ |
ถึงป่าต้นผึ้งทรง |
หยุดยั้ง |
ภุมราช่วยบินลง |
ไปสื่อ สารที |
ยามนิทร์จิตต์พี่ตั้ง |
แต่ไคล้ใฝ่ฝัน ฯ |
๏ รุ่งขบวนคชคลาดข้าม |
สันพนม พรึงพ่อ |
แพร่นคเรศร์บังคม |
หน่อไท้ |
กล่าวแสดงจิตต์นิยม |
ปราโมทย์ |
จัดธูปเทียนดอกไม้ |
นอบเกล้าทูลถวาย ฯ |
๏ เดิรทางมาหว่างไม้ |
ไพรพนม |
พลางทอดทัศนาชม |
หมู่ไม้ |
โมกม่วงหมู่มันมยม |
ยางอยู่ รยับแม่ |
แม่อยู่สูจักได้ |
ช่วยชี้ชวนชม ฯ |
๏ นางชนีวิเวกไห้ |
โหยหวน |
แว่วหวาดว่านุชครวญ |
คร่ำข้อย |
ออกโอษฐเอ่ยผอูนอวน |
มาแม่ มาแม่ |
มาพี่จุ่มพิตน้อย |
เถิดน้องนวลอนงค์ ฯ |
๏ ที่ปากห้วยไร่ตั้ง |
พลับพลา |
เพื่อพระยุพราชา |
ประทับร้อน |
นึกถึงไร่รจนา |
นึกอิจ ฉาเฮย |
เงาะป่ายังได้ช้อน |
เชิดแก้มนางชม ฯ |
๏ ที่แรมแม่พวกไว้ |
ริมฝั่ง นทีนา |
ชลเนตร์แทบไหลหลั่ง |
รดหน้า |
ทำไฉนจักได้สั่ง |
ถึงพวก แม่นอ |
นอนเดียวเปลี่ยวจิตต์ว้า |
เหว่ทั้งคืนวัน ฯ |
๏ ที่สิบเก้าประทับร้อน |
ริมศาล อำเภอแฮ |
สูงเม่นราษฎรทยาน |
เบียดจ้อง |
เข้าตอกบุบผาตระการ |
โปรยเกลื่อน |
ปราโมทย์โอฐโห่ร้อง |
แซ่ซร้องถวายชัย ฯ |
๏ ครั้นถึงวัดเงี้ยวหยุด |
ประทับ |
ทรงเครื่องเรืองระยับ |
เพริศแพร้ว |
ขาวเต็มยศประดับ |
ตราแต่ง |
งามหมดงามเลิดแล้ว |
เลิดล้วนควรชม ฯ |
ร่าย๏ ครั้นเพลาสมควร เคลื่อนคลาขบวนดำเนิร กองตำรวจเดิรนำแห่ กองทหารแพร่แห่งาม นครินทร์ตามบนม้า นำหน้าอาชาทรง ทหารแซงองค์สองข้าง สล้างสลอนสลับแลตระการ ราชบริพารแห่ห้อม ล้อมบ่มิใกล้เหลือเกิน เดิรบ่มิไกลเกินงาม ตามเสด็จไท้พอควร ขบวนผ่านทางประตูชัย เข้าในพาราแพร่ ตุ๊สวดแซ่คาถาชัย ถวายพรไผทนเรนทร ราษฎรเรียงดาดาษ ถวายอภิวาทน์องค์เจ้า เข้าตอกเกลื่อนกลาดโปรย บุบผาโรยตามวิถี ครั้นภูมีลุพลับพลา หน้าจวนผู้ครองเมือง เสด็จย่างเยื้องขึ้นบัลลังก์ ข้าบาทสะพรั่งเฝ้าระดะ พระบริรักษ์โยธี ที่ผู้ว่าราชการ จึ่งอ่านสารไพเราะ เสนาะแสดงความยินดี ปีติแทนเสนา มาตยาประจำแพร่นคร ภูธรดำรัสตอบ ขอบใจพอสมควร มวญหมู่ข้าบาทคำนับ รับดำรัสหน่อพุทธเจ้า แล้วจึ่งเฝ้าเรียงตน จนครบตัวทั่วหน้า จึ่งโอรสาธิราชไท้ เสด็จสู่จวนจัดไว้ เพื่อท้าวเธอแรม อยู่นา ฯ
โคลง ๓๏ รุ่งขึ้นพระภูบาล |
ทอดพระเนตรสถานใหญ่น้อย |
จนแดดจวนบ่ายคล้อย |
จึ่งได้เสด็จคืน สถานนา ฯ |
โคลง ๒๏ ครั้นสองโมงบ่ายแล้ว |
เสด็จสู่พลับพลาแก้ว |
โปรดให้ขบวนเดิร ฯ |
|
โคลง ๔๏ กระบวนบ้องไฟจัดล้วน |
ควรยล |
รูปสัตว์ผูกชอบกล |
มากแล้ |
ดนตรีฉาบกลองอน |
อึงมี่ |
พิศพิศวิจิตร์แท้ |
ปลาดล้วนควรดู ฯ |
๏ ชาวเพลงเปล่งศัพท์ร้อง |
ถวายชัย |
แด่พระหน่อนาถไผท |
ผ่านฟ้า |
กรกรีดกรายฟ้อนไป |
วนประทัก ษิณนอ |
จนผจบสามรอบช้า |
แช่มช้อยชวนชม ฯ |
ร่าย๏ เช้าวันที่ซาว
เอ็ด เสด็จโดยขบวนอาชา ตามถนนมาณอาราม นามช่อแฮปรากฎ กำหนดตามตำนาน ว่าในลานมีหมาก หากผู้ใดขบเคี้ยว เมาแรงเรี่ยวเหลือทน จนพระศรีสรรเพ็ชญ์ เสด็จจารึกมาถึง จึ่งมีพุทธบัญชา ให้ตาค่อมปีนป่าย เก็บหมากทลายหนึ่งลง มาถวายองค์ตถาคต พระแสดงพจน์สั่งไว้ นำหมากไปเถิดเจ้า เคี้ยวบ่มิเมาอีกเลย เคี้ยวเสบยเหมือนหมากอื่น ชนแตกตื่นฦๅแซ่ กิตติศัพท์แผ่ฟุ้งขจร นครซึ่งตั้งขึ้นใหม่ จึ่งได้นามแพร่ชี้ สาเหตุนามเช่นนี้ ดั่งแจ้งในตำนาน ฯ
โคลง ๔๏ ยี่สิบสองพิจิกเช้า |
ภูธร |
ทรงคชหมดงามงอน |
สุดเค้า |
ราชบริพารสลอน |
ตามเสด็จ |
จากแพร่ขบวนคชเต้า |
ไต่ข้ามน้ำยม ฯ |
๏ ขึ้นดอยลงห้วยหมู |
เลียบไหล่ เขานา |
บุกป่าฝ่าพงไพร |
สักอ้อ |
ลำบากทั่วกายใน |
อกชอก ช้ำเฮย |
ช้างเหวี่ยงเพียงป่างซ้อ |
พักร้อนผ่อนกาย ฯ |
๏ ครั้นขบวนถึงที่กั้น |
ปันเขตต์ |
ระวางแพร่ลำปางประเทศ |
ราชไซร้ |
เจ้าบุญวาทก้มเกศ |
เกล้าประณต |
แสดงพจน์เชิญหน่อไท้ |
ผ่านเข้าสิมาขัณฑ์ ฯ |
๏ ยินเสียงสุโนกร้อง |
เรียกรัง |
อกพี่เพียบเพียงพัง |
เผ่าร้อน |
ยามเย็นแม่เยือนยัง |
เตียงมาศ |
เห็นแต่เตียงนุชข้อน |
อุระไห้หาเรียม ฯ |
๏ เดิรในไพรประจวบสิ้น |
แสงสุ ริยันพ่อ |
ขบวนคชจึ่งบรรลุ |
เขตต์ต้า |
อุทานเปล่งสาธุ |
ถึงพลับ พลาแฮ |
เย็นเยือกเกลือกห่มผ้า |
ปิดป้องปกคลุม ฯ |
๏ หนาวลมห่มผ้าอุ่น |
สบายใจ |
หนาวฤดูผิงไฟ |
อุ่นได้ |
หนาวอกพึ่งสิ่งใด |
บอุ่น ได้เลย |
หนาวอื่นหมื่นแสนไซร้ |
ไป่สู้หนาวอารมณ์ ฯ |
๏ รุ่งเช้าขึ้นสู่ช้าง |
เดิรต่อ |
เที่ยงเศษถึงผาคอ |
พักร้อน |
คิดเทียบเปรียบถึงศอ |
นุชนาฎ |
งามยิ่งหงส์ยามค้อน |
ขอดแสร้งยวนผัว ฯ |
๏ รำไพยังไม่คล้อย |
ลงหนัก |
ถึงที่ปางเปือยชัก |
ชื่อชี้ |
ตะแบกช่วยแบกความหนัก |
ในอก ข้อยที |
หนักโศกไร้เสน่ห์นี้ |
หนักพ้นทนนาน ฯ |
๏ แม่จางประทับร้อน |
ในกลาง วิถีนา |
นึกหวาดแม้แม่จาง |
จืดข้า |
ข้าคงรีบแสวงทาง |
ปลงชีพ เสียนา |
หมดรักจักอยู่ว้า |
เหว่เศร้าอีกใย ฯ |
๏ ราตรีมีมากด้วย |
ดารา |
เปรียบประหนึ่งนัยนา |
มากกลุ้ม |
กลางวันพระสุริยา |
มีเดี่ยว ดวงแม่ |
แต่โลกนี้มืดคลุ้ม |
เมื่อไร้แสงตวัน ฯ |
๏ ฉันนั้นมะนะแล้ว |
มีสรรพ ธรรมเฮย |
มากยิ่งดาราระยับ |
เพริศแพร้ว |
ในจิตต์นั้นซิกลับ |
มีสิ่ง เดียวนา |
แต่มาตรขาดรักแล้ว |
มนุษย์สิ้นยินดี ฯ |
๏ แม่เมาะคิดเมาะเจ้า |
แจ่มศรี |
เมาะอุ่นหมอนอุ่นมี |
ลูกไม้ |
เราสามเมื่อราตรี |
นอนร่วม เมาะนา |
ลูกตื่นแม่ตื่นให้ |
ลูกน้อยดื่มนม ฯ |
๏ ซาวห้าพิจิกเช้า |
ขบวนสาร เดิรแฮ |
ยั้งหยุดผาลาดขนาน |
ชื่อห้วย |
โอ้อาสน์อ่อนนุ่มปาน |
ใดลาด ไว้นา |
ผิวนุชบ่นั่งด้วย |
อาสน์คล้ายผาแปง ฯ |
๏ ตอนบ่ายทรงม้ารวด |
ลุรัด พระบาทนา |
จึงพระหน่อนาถขัต |
ติเยศเจ้า |
เครื่องเต็มยศขาวถนัด |
ทรงเสร็จ |
เสด็จประทับอัยอาสน์เข้า |
สู่เบื้องลำปาง ฯ |
๏ เสนาอำมาตย์ผู้ |
บริพาร ท่านนอ |
บ้างแต่งตามแบบทหาร |
แห่ห้อม |
บ้างแต่งเครื่องนิลตระการ |
อย่างมหาด เล็กแฮ |
งานดุจทวยเทพล้อม |
แวดท้าวสักรินทร์ ฯ |
๏ ถึงกาลกำหนดเจ้า |
บุญวาท วงศ์นา |
นำธูปเทียนถวายนาถ |
หน่อไท้ |
อัญเชิญยุคลบาท |
เข้าสู่ เวียงแฮ |
พระรับคำโปรดให้ |
เคลื่อนคล้อยขบวนดล ฯ |
โคลง ๒๏ ชนมากมวญริบริ้ว |
ได้ฤกษ์จึงโห่ฮิ้ว |
โห่ฮิ้วขบวนคลา ฯ |
|
โคลง ๔๏ กองหน้าดาดาษด้วย |
จีนจาม |
ตกแต่งตัวงดงาม |
เงื่อนงิ้ว |
กลองตีปี่เป่าตาม |
ฉาบตอด |
มังกระธุชนำริ้ว |
โบกใบ้บอกขบวน ฯ |
๏ สิงห์โตโผเผ่นเลี้ยว |
ลำพอง |
อ้าโอษฐงาบงับประลอง |
เล่นแก้ว |
กลอกเนตร์เหลือกโลมสยอง |
แสยะแยก ทนต์นา |
คาบเล่นคายเล่นแล้ว |
คลุกเคล้าธุลีถนน ฯ |
๏ ถัดมาถึงม่านทั้ง |
หญิงชาย |
ชายเนตร์ย่างบาทกราย |
หัตถ์ฟ้อน |
ฟ้อนพลางร่ำคำถวาย |
ไชเยศร์ |
ไชเยศร์อย่างรู้ย้อน |
ยอกย้ายไกลองค์ ฯ |
๏ สุดม่านสบหมู่เงี้ยว |
สักดำ ปึ๊ดนา |
สดัมภ์หัตถ์กุมร่มกำ |
มหริดกั้น |
เฉวียงถือบุษปคำ |
รพนบ พระนอ |
จิตต์ที่คดก่อนนั้น |
มละล้างมลายศูนย์ ฯ |
๏ พวกเจ้าแต่งเยี่ยงเจ้า |
เบาราณ |
โพกศีร์ษะแดงตระการ |
นุ่งโก้ง |
ถือขอขี่คอสาร |
กั้นสัป ทนนา |
ช้างส่ายขอสับโป้ง |
คชคร้ามคมขอ ฯ |
๏ ลูกช้างเชิงแช่มช้อย |
ชวนชม |
สามเชือกชูธงลม |
สบัดพลิ้ว |
เจนหัดจัดมาผสม |
ขบวนเสด็จ |
เดิรเรียบตามรายริ้ว |
เรียบเพี้ยงพลเดิร ฯ |
๏ เสียงแตรแต๋แต่แต้ |
ทหารตาม |
บ่าแบกอาวุธวาม |
วาบว้า |
อกใหญ่ไหล่ผึ่งงาม |
ทีโอ่ |
ทรหดอดทนกล้า |
เผด็จเสี้ยนศัตรูกษัย ฯ |
๏ พระชัยเนาวโลหะตั้ง |
เหนือพระสุพรรณ์ ภาชน์เฮย |
เนาณกูบกาญจนบรร |
เจิดแพร้ว |
ช้างงาบ่มีมันหัน |
พักตร์ผึ่ง หูเอย |
ช้างสง่าพระงามแผ้ว |
ผ่องแม้นแมนสวรรค์ ฯ |
๏ ช้างทรงองค์เอกผู้ |
เพ็ญยศ |
งามยิ่งไอราพต |
ฟากฟ้า |
หาญห้าวฮึกห่อนขยด |
ขยาดเซี่ยง สิ่งนา |
สมพระเกียรติ์ดิลกหล้า |
สถิตเบื้องบัลลังก์ ฯ |
๏ ผู้เดิรแทบสี่เท้า |
สารทรง |
พระพิเรนทรเทพองค |
รักษ์ท้าว |
นายร้อยเอกไชยยง |
ยวดยิ่ง ยงนา |
เราอีกนายแดงด้าว |
ติดต้อยตามหลัง ฯ |
๏ พระยาราชวัลลภสร้อย |
อนุสิษฐ์ นำนา |
หลวงอภิรักษ์ราชฤทธิ์ |
คู่ต้น |
กับนายจ่ายงประชิด |
ชักหมวด |
มหาดเล็กตามหลามล้น |
คู่เค้าเคียงแซง ฯ |
๏ บัดถึงช้างหม่อมเจ้า |
สององค์ |
ปิยบุตร์ถูกถวิลทรง |
ต่อท้าย |
สุดช้างหมดขบวนคง |
เหลือแต่ |
ตำรวจภูธรย้าย |
ยาตร์เยื้องระวังหลัง ฯ |
๏ กระบวนเดิรเกินทุ่งเข้า |
เขตต์เวียง |
ทวยราษฎร์ยืนรายเรียง |
เรียบหน้า |
โปรยตอกดอกไม้เสียง |
สาธุ สนั่นนอ |
แคว้นโห่โห่โห่จ้า |
ราษฎร์ฮิ้วโห่ตาม ฯ |
๏ ถึงคุ้มทรงพักแล้ว |
ออกพลับพลา |
ให้เหล่าเสวกามา |
นบไท้ |
เจ้าหลวงอ่านสารา |
รับเสด็จ |
และเบิกอมาตย์ให้ |
ใฝ่เฝ้าเรียงตัว ฯ |
๏ รัชฎากุกุฎเจ้า |
นครถวาย |
นิเทศตำนานหมาย |
ชื่อด้าว |
ทรงตอบขอบใจหลาย |
ท่านทั่ว |
เสร็จกิจพิธีท้าว |
เสด็จขึ้นคืนสถาน ฯ |
โคลง ๒๏ คุ้มหลวงผจงจัดไว้ |
เจ้าคิดจิตต์ตั้งให้ |
ธยั้งอยู่สราญ |
จริงนา ฯ |
โคลง ๔๏ วันที่ซาวหกนั้น |
เสด็จไป |
ทรงเปิดโรงเรียนไทย |
ฤกษ์เช้า |
บุญวาทวิทยาลัย |
ขนานชื่อ ประทานนอ |
เป็นเกียรติยศแด่เจ้า |
ปกแคว้นลำปาง ฯ |
๏ โรงทหารพระเสด็จแล้ว |
ทรงตรวจ ทั่วแฮ |
สินธพทรงเร็วรวด |
ไต่เต้า |
ทอดพระเนตร์วัดหมวด |
เงี้ยวจัด สร้างเฮย |
แลปลาดแปลกเนตร์เค้า |
ผิดเพี้ยนแบบไทย ฯ |
๏ ครั้นรำไพบ่ายคล้อย |
ลงถนัด |
พระเสด็จระเห็ดสู่วัด |
พระแก้ว |
ครัวทานกระบวนจัด |
แห่ผ่าน ถวายนา |
ไตรบาตร์ขรินทร์แพร้ว |
ประดับล้วนแลวิไล ฯ |
โคลง ๓๏ รุ่งเช้าพระภูบาล |
สถานราชการใหญ่น้อย |
เสด็จตรวจเห็นเรียบร้อย |
ทั่วทั้งถิ่นสถาน ฯ |
โคลง ๔๏ ครั้นสี่โมงบ่ายไท้ |
เยาวราช |
สู่เขตต์วัดพระบาท |
เสด็จเต้า |
ขึ้นประทับราชอาสน์ |
บนพลับ พลานอ |
ปวงอมาตย์ราชภัฏเฝ้า |
ขนัดหน้าบัลลังก์ ฯ |
๏ ขบวนบอกไฟจัดล้วน |
ผจงถวาย |
คู่แห่กุมธุชกราย |
ออกหน้า |
ราชบุตรและเจ้านาย |
ฟ้อนเฉิด ฉายพ่อ |
เสียงปี่เป่าเสียงจ้า |
แจ่มแจ้วจังหวะเจน ฯ |
โคลง ๓๏ ที่ซาวแปดเพลา |
สองนาฬิกาล่วงแล้ว |
ทรงสินธพเพริดแพร้ว |
พยสเยื้องดำเนิรขบวน ฯ |
โคลง ๒๏ บริพารห้อมแห่สล้าง |
เสด็จนมัสณวัดอ้าง |
ชื่อชี้ลำปางหลวง ฯ |
|
โคลง ๔๏ พระจุดธูปเทียนน้อม |
นมัสการ |
องค์พระแก้วตระการ |
สุทธ์เนื้อ |
ศักดิ์สิทธิ์ตามตำนาน |
แบบเบื้อง เพรงพ่อ |
ขอพระกรุณาเอื้อ |
โอบคุ้มภัยพาล ฯ |
๏ บ้านชมพูประทับร้อน |
กลางวิถี |
ยินชื่อตำบลมี |
จิตต์เศร้า |
หวนนึกตรึกถึงสี |
สใบสด |
นุชห่มสมสีเข้า |
พักตร์น้องงามเหลือ ฯ |
โคลง ๓๏ ที่ยี่สิบเก้าประพาส |
ตามถนนตลาดทั่วแล้ว |
เสด็จกลับที่ประทับแพร้ว |
ทิพใกล้เพลา เที่ยงเฮย ฯ |
โคลง ๔๏ เจ้าลำปางอีกเจ้า |
บุตรหลาน ปวงเฮย |
รวมคณะข้าราชการ |
ครบถ้วน |
บายศรีจัดตั้งงาน |
สมโภช พระแฮ |
ประดิษฐ์ประดอยประดับล้วน |
ดอกไม้เมียงงาม ฯ |
๏ ตามภาษาซึ่งเรียกใช้ |
ถวายขวัญ |
จัดกระบวนเบี่ยงหัน |
สู่ไท้ |
บ่ายควายสุริยผัน |
เทียบเหลี่ยม เมรุแฮ |
ให้เลื่อนกระบวนไล้ |
ล่วงพ้นมณฑลทวาร ฯ |
๏ งามสครานกระบวนแห่ห้อม |
บายศรี |
กับคชหนึ่งเชือกมี |
เครื่องพร้อม |
ประทับด้วยหิรัญฉวี |
เฉวียนฉวัด งามนา |
เจ้านครมาน้อม |
นอบไท้ทูลถวาย ฯ |
๏ สองชายดาบหอกเข้า |
เคียงตน |
รำร่ายรายเรียงกล |
เศิกสู้ |
กลองปี่มี่อลวน |
ไวว่อง หัตถ์เฮย |
ปวงราษฎร์ต่างกันรู้ |
เร่งร้นยลกระบวน ฯ |
๏ กาลควรโอรสไท้ |
ทรงธรรม์ |
ทรงเครื่องครึ่งยศจรัล |
ออกท้อง |
พระโรงรัตน์ราชภัฏผัน |
ตามพระ เสด็จเฮย |
ประโคมครึกเสียงกึกก้อง |
ต่างก้มเกศถวาย ฯ |
๏ พนักงานชายผู้เฒ่า |
บังคม |
พระบาทสมเด็จบรม |
หน่อไท้ |
จับสารอ่านยกชม |
พระเดช พระนา |
เปล่งร่ายถวายพรให้ |
เสด็จด้าวโดยเกษม ฯ |
ร่าย๏ ข้าเปรมปลื้มถวายพระ วรมงคลสวัสดี ลาภจุ่งมีแต่ไผท ชัยจงมีแต่นาถ ศักราชขึ้นใสศรี เป็นวันดีล้ำเลิด กล้วยเกิดเครือคำสุทธ์ พุทธเจ้ามาโปรดสัตว์ พระยาจักรรัตน์สมภพ เป็นเจ้าลบแหล่งโลก อะโศกสร้างธาตุชินสีห์ แปดหมื่นปีสี่พัน มั่นปีเดือนวันงาม ยามวันนี้ดีเหลือ ปางเมื่อยุพราชา โอรสาธิราชเสด็จ ระเห็ดจากปรางค์ปราสาท กรุงสยามราชนครมา พาเสนาอำมาตย์ มาประพาสเมืองบน หนทางเดิรแสนยาก หลากห้วยแร่หินชา เขาโตหนาใหญ่กว้าง ป่าช้างด่านดงดอน เสียงบ่างร่อนรี่ร้อง อสุรผีก้องในป่า มันช่างล่ายามดึก พลึกพล่ำเสียงควรสทก นกจุกชลุยกระทิงทืด ร้องอืออืดเสียงวาง นกเค้าคางแมกมืด ยืดปีกอ้าผวาบิน ตามหลืบหินห้วยสี ฝูงนางชะนีโหยหุม กุมก่งไม้หย่อนย้อย พลางโอษฐครางอืดอ้อย วิ่งร้องกลางอรัญ ฯ
๏ สามสิบสองขวัญราชา จุ่งมาอย่าเรื้อรัง ดั่งข้อยถวายพรพร้อง เชิญร่ำร้องจุ่งมาดี ฟังมโหรีพิณพาทย์ พร้อมระนาดฆ้องกลอง เสียงลั่นก้องครื้นครั่น ยามทูลขวัญปิ่นเกล้า เชิญพระขวัญเจ้าจุ่งมาดี แปงใบศรีไว้ถวาย ส่ำหลายชั้นเสมอกัน ประดับด้วยพรรณ์บุบผาสด หอมรสเล้าละเมาวอน ซ้อนแซมสอดณยอดกาบ ทั้งกุหลาบดาวเรือง จำปาเมืองจำปาแขก ใส่ซ้อนแซกซ้อนกัน อีกเบ็ญวรรณเบ็ญมาศ ดอกหลากชาติหลายสี ยังจำปีรสอุ่น ทั้งยี่สุ่นคำแล ฟันกระแตจันทร์กึ่งซีก มณฑาอีกกลิ่นชวาด ดวงบุบผชาติดาษดา การะเกดพิเศษล้ำ แลคำปวงเกี่ยงทา เกตวาคันธ์หอมอ่อน ดอกซ่อนน้อยกลิ่นดี ทั้งสารภีหอมสอาด ยี่หุบชวาดมลิลา กระดังงาหอมค่ะคืน หอมเย็นยืนกลิ่นสนิท สลิดบานควะชาวใต้ ใช่ชื่อดอกขจร แสงทอช้อนแดงลำเจียก ลาวเรียกดอกเกียเหมย ดอกบุบผาเผยหลายอย่าง ต่างฟุ้งกลิ่นเลิดล้น มีหลากพรรณ์สุดพ้น จักพร้องพรรณนา ฯ
๏ โภชนาหารชุเยื่อง อันเป็นเครื่องรับพระขวัญ เนื้อหมูมันปิ้งอั่ว หอมรสทั่วโรงชัย ของอันใดก็มีสรรพ์ ในขันศรีประดิษฐ ปิดนมแมวภายบน สนิทเชียงชนแต่งไว้ เหนือขันดอกไม้เหมาะดี มีกัทลีกล้วยอ้อย ขนมใหญ่น้อยชุอัน อีกบุหรี่พันยากลุ่ม พลูดอกหนุ่มใบบาง จัดจีบวางไว้เสี้ยง มีหมากเมี่ยงทานยอง เชิญสามสิบสองพระขวัญ แห่งทรงธรรม์มาเสวย ข้าบาทเลยถวายชัย ขอเทพไททรงฤทธิ์ ประสิทธิ์ให้ชนม์ธยืนยาว จวบร้อยซาวพรรษา พ้นโรคาพาธภัย ชัยชะนะลาภสวัสดี จุ่งมีแด่ท่านไท้ สิทธิ์ดั่งข้าบาทได้ กล่าวถ้อยถวายขวัญ ฉะนี้เทอญ ฯ
โคลง ๔๏ ครั้นคำพรจบแล้ว |
ราชา |
ตรัสตอบราชเสนา |
ดั่งนี้ |
ยินดีที่ท่านพา |
กันสู่ เรานา |
พร้อมต่างตั้งจิตต์ชี้ |
ช่องชั้นเชิงเกษม ฯ |
๏ เปรมจิตต์เราติดตื้น |
เต็มทรวง |
ยลท่านหนึ่งชนปวง |
เปล่งหน้า |
มาสึงดั่งหนึ่งดวง |
ดาวจ่อ จันทร์เฮย |
เหตุเพื่อรับรองข้า |
แข่งข้อกันฉลอง ฯ |
๏ ทั้งผองจงสุขสิ้น |
ถึงกัน |
ทุกข์โศกโรคทุกพรรณ์ |
อย่าใกล้ |
หนึ่งบุเรศร์ขอบเขตต์ขัณฑ์ |
จงขาด ศัตรูแฮ |
จุ่งท่านอีกอื่นได้ |
ดุจข้าไปหน ฯ |
๏ สารดำรัสลงจบแล้ว |
บัดใจ |
เจ้าจับสายด้ายไคล |
ค่อมเกล้า |
พันหัตถ์ราชบุตร์ไท |
ท้าวครอบ สยามเฮย |
มี่สนั่นลั่นเสียงเร้า |
โห่ร้องบรรเลงถวาย ฯ |
โคลง ๓๏ พิธีรายนี้เสร็จ |
เสด็จประทับเฉลียงบ่มิช้า |
ราชญาติอมาตย์ข้า |
บาทเฝ้าเรียงสลอน ฯ |
โคลง ๔๏ ลูกกุยเปรียบคู่เข้ม |
หมัดแขง |
คู่เปรียบเทียบเทียมแรง |
เรี่ยวใกล้ |
ต่างคู่ต่างสำแดง |
ฝีหัตถ์ |
ปล้ำกอดสอดต่อยให้ |
เหมาะเป้งยอมลา ฯ |
๏ คนหอกถือหอกอ้า |
กำยำ |
คนดาบดาบคู่กำ |
เหมาะหมั้น |
เคียงคู่เชิดชูรำ |
ชวนพิศ |
กรายกรีดเป็นเชิงชั้น |
วิจิตรแท้แลเพลิน ฯ |
๏ ยามเย็นหมู่ม่านผู้ |
สวามิภักดิ์ |
จัดเล่นละครชัก |
แบบไซร้ |
ถวายแด่พระทรงศักดิ์ |
เพื่อเพลิด เพลินพ่อ |
แสดงจิตต์จงรักให้ |
ประจักษ์แจ้งแด่ไท ฯ |
โคลง ๓๏ วันสิ้นเดือนพฤศจิกา |
พระสุริยาบ่ายน้อย |
ทรงอัศว์งามแช่มช้อย |
เชิดหน้าชูกัณฐ์ ฯ |
โคลง ๔๏ ม้าทรงงามเลิดล้วน |
ชวนชม ยิ่งนอ |
ฝีบาทฉิวเฉียดลม |
พัดกล้า |
อาชาชาติชูสม |
ชูศักดิ์ |
เหมาะอาสน์องค์เจ้าฟ้า |
หน่อไท้สยามินทร์ ฯ |
๏ บ้านดอกบัวอยู่แคว้น |
ลำปาง เวียงนา |
เห็นชื่อถิ่นพี่พลาง |
ละห้อย |
ประทุมเทียบเปรียบถันนาง |
ประทุมพ่าย |
บัวโบกขรณีน้อย |
หนึ่งนั้นอาบนาง ฯ |
๏ ขบวนม้ารีบไต่เต้า |
ตามมรรค์ ราบแฮ |
ถึงวัดธาตุเสด็จอัน |
ค่ายตั้ง |
เออราวกับแสร้งสรรค์ |
นามเรียก แหล่งพ่อ |
เหมือนทราบพระจักยั้ง |
หยุดม้าแรมคืน ฯ |
๏ ธันวะที่หนึ่งไท้ |
ทรงสาร |
ผูกเครื่องสัประคับกาญจน์ |
กูบซ้อน |
รีบเดิรบ่มินาน |
บรรลุ |
จำคล่าประทับร้อน |
ผ่อนช้างพอสบาย ฯ |
๏ เย็นแรมยินบ้านชื่อ |
แม่เมาะ หลวงนา |
ชิประหนึ่งมาแกล้งเยาะ |
ยั่วเย้า |
แสร้งสกิดจิตต์ให้เหาะ |
หาลูก เมียแฮ |
เออป่านนี้สองเจ้า |
หลับแล้วหรือไฉน ฯ |
๏ เช้าขบวนคลาคลาดขึ้น |
ดอยลุย ห้วยนา |
คชขับเดิรรวดฉุย |
ไป่ช้า |
บรรลุป่างจำปุย |
ตั้งพลับ พลาแฮ |
พอพักหายเมื่อยล้า |
จึ่งเต้าต่อไป ฯ |
๏ ที่ตำบลปางหละไท้ |
หยุดผทม |
กายสั่นซ้ำหนาวอารมณ์ |
จิตต์ข้อง |
เออชะอมจุ่งช่วยอม |
ความทุกข์ บ้างเทอญ |
ยิ่งยาตร์ยิ่งห่างน้อง |
ดุจแสร้งสละนาง ฯ |
๏ ที่สามธเสด็จด้วย |
พาชี |
ขบวนแวะปางดีหมี |
ชิดห้วย |
อาหารรสแม้ดี |
กลายขื่น |
เพราะนุชบ่อยู่ด้วย |
ภักษ์เพี้ยงดีขม ฯ |
๏ ยามเย็นยุพราชไท้ |
แรมงาว บูรนา |
ตัวพี่นี้ดูราว |
บุรุษไข้ |
กายภายนอกนั้นหนาว |
สทกสั่น |
ทรวงสิรันทดไหม้ |
หม่นเพี้ยงเพลิงเผา ฯ |
๏ รุ่งขึ้นทรงคชเต้า |
กลางไพร |
พอเที่ยงถึงบ้านไฉน |
ชื่อร้อง |
เออนามถิ่นนี้ใคร |
ช่างริ เรียกนอ |
ประหนึ่งแนะให้กู่ก้อง |
เรียกน้องกลางอรัญ ฯ |
๏ ครั้นถึงปางสักแล้ว |
ธพัก แรมนา |
ชวนพี่คนึงถึงสักร์ |
เทพไท้ |
ขอเป็นที่สำนัก |
ร่มแด่ ข้อยเทอญ |
เทวราชประสาทพรให้ |
ทุกข์ข้าบรรเทา ฯ |
๏ โผผวากายตื่นขึ้น |
ชะนีกู่ ก้องแฮ |
เสียงแว่วเสียงดูราว |
เรียกข้อย |
ผัวผัวถนัดตู |
ข้าหวาด |
นึกว่านุชแน่งน้อย |
แนะให้นอนเคียง ฯ |
๏ รุ่งวันคำรบห้า |
ธันวา คมเฮย |
เสด็จประทับอัยอาสน์คลา |
คลาดเยื้อง |
งามคชเปรียบเอรา |
วัณเลิด สรวงพ่อ |
เดิรส่ายกรายสู่เบื้อง |
เขตต์แคว้นแดนพะเยา ฯ |
๏ ถึงห้วยแห่งหนึ่งอ้าง |
สองสบ |
เหมือนเมื่อแรกพี่พบ |
นิ่มน้อง |
พี่แลเนตร์น้องหลบ |
เนตร์พี่ |
คล้ายเมื่อเราร่วมห้อง |
แรกได้สองสม ฯ |
๏ ขับคชจรดบาทเต้า |
กลางผลู |
แลลิ่วทิวพนมดู |
เยี่ยมฟ้า |
มรรคาแหวกกลางภู |
ผากระหนาบ |
ผาประดุจกรพี่อ้า |
โอบน้องเคียงทรวง ฯ |
๏ จรดลจนบ่ายใกล้ |
หนึ่งนา ฬิกาเฮย |
จึ่งลุบ้านแม่กา |
พักร้อน |
แม้ยืมปีกกามา |
เติมติด ได้แล |
พี่จักบินร่อนย้อน |
รี่ร้นแรมเรือน ฯ |
๏ ตอนบ่ายขับม้าผ่าน |
แลเห็น |
ที่ตำรวจร้อยเอกเย็น |
เซ่นม้วย |
เพราะไล่รุกเงี้ยวเป็น |
สามารถ |
สนองเดชภูเบศร์ด้วย |
ชีพครั้งจำเป็น ฯ |
๏ เย็นเซ่นเด็นมาร์กเชื้อ |
ชาติไฉน |
สวามิภักดิ์ตราบบรรลัย |
ชีพได้ |
ควรเราที่เป็นไทย |
จำเยี่ยง |
ผิวะเหตุโอกาสไซร้ |
เกิดแล้วไป่สยอง ฯ |
๏ สี่โมงบ่ายยาตรเข้า |
พารา พะเยาแฮ |
พะเยาแนะนึกถึงครา |
ก่อนกี้ |
แรกรักแม่เยาว์นา |
รียอด หญิงแม่ |
ปวงกิจคิดหลีกลี้ |
เพื่อได้เชยนาง ฯ |
๏ ยามเย็นแลจากหน้า |
ต่างไป |
สายเนตร์บ่เห็นไกล |
หมอกคลุ้ม |
เหมือนอากาศทายใจ |
พี่ถูก |
จิตต์พี่ดั่งหอกหุ้ม |
ห่อไว้มัวมน ฯ |
๏ ที่หกประพาสห้วง |
น้อยนาม หนองแฮ |
สรรพนกบินร่อนหลาม |
ลิ่วล้ำ |
ต่างพรรณต่างต้อยตาม |
กันติด |
บ้างโบกบ้างเล่นน้ำ |
ว่ายน้ำแลสลอน ฯ |
๏ นกกระสาอ้าปีกกว้าง |
โผผัน |
นกแขวกแหวกเวียนพรรณ |
พฤกษ์พร้อย |
นกเปล้าเรียกหากัน |
อึงมี่ |
นกอีโก้งโหย่งต้อย |
ไต่เต้าตามแหน ฯ |
๏ ฝูงเป็ดบินเฟื่องฟื้น |
ฟูโพยม |
ฝูงไก่น้ำถาบโถม |
แทบฟ้า |
ฝูงยางเศวตโฉม |
เจริญเนตร์ |
ฝูงพริกแอบแทบหญ้า |
แหวกไซร้หากิน ฯ |
๏ พิศพรรณนกหลากล้วน |
แลเพลิน |
เร่ร่อนระเห็ดเหิร |
เรียกร้อง |
ต่างนกต่างชวนเชิญ |
ชิดคู่ กันนา |
นกสวาทเราคลาดห้อง |
อกแห้งระบมเหลือ ฯ |
๏ ที่เจ็ดราเมศร์ไท้ |
จรดล |
โดยคชยาตร์ตามถนน |
ไป่อ้อม |
แวะอาวาสพระตน |
หลวงทุ่ง เอี๋ยงพ่อ |
ทรงจุดเทียนนมัสน้อม |
เกศก้มบูชา ฯ |
๏ แปดสิบเพิ่มแปดร้อย |
พรรษกาล |
ปรากฎตามตำนาน |
ชักชี้ |
ตาเฒ่าหนึ่งคิดการ |
กับมิ่ง เมียแฮ |
สร้างพระองค์ใหญ่นี้ |
เสร็จด้วยตนสอง ฯ |
๏ แม้เราสองได้ร่วม |
บำเพ็ญ |
บุญแบบสองเฒ่าเป็น |
แน่น้อง |
คงไม่ถูกพรากกระเด็น |
ยามสวาท เลยแม่ |
กรรมไล่เราจึ่งต้อง |
โศกเศร้าทรวงโทรม ฯ |
๏ ครั้นตะวันเที่ยงเศษน้อย |
สารทรง |
ถึงพลับพลาห้วยขง |
ประทับร้อน |
เมื่อสำเร็จเสวยองค์ |
พระเทียบ ยศแฮ |
ขึ้นประทับอัยอาสน์อ้อน |
แอ่นเพี้ยงอมรินทร์ ฯ |
๏ เย็นแรมริมฝั่งน้ำ |
แม่อิง |
โอ้อกแม่เคยพิง |
พาดพ้อง |
บัดนี้ทุกข์แทนหญิง |
อิงอก พี่นา |
ทุกข์หนักชักจิตต์ข้อย |
ขุ่นแค้นเคืองเฝือ ฯ |
๏ รุ่งเช้ากระบวนผ่านแคว้น |
แม่ใจ |
ถนนผ่าบ้านเป็นไทว |
ซีกแท้ |
เออบ้านนี่นึกไป |
คล้ายจิตต์ พี่จริง |
สะดำซีกอยู่ใต้แต้ |
ซีกซ้ายมาเหนือ ฯ |
๏ ช้างทรงยุพราชไท้ |
เดชอดูลย์ |
เดิรรวดเร็วแทบประมูล |
แสะซ้อน |
ข้ามเขาเขตต์ลำพูน |
บมิเนิ่น |
ถึงแม่เย็นประทับร้อน |
ผ่อนข้างกลางวิถี ฯ |
๏ แม่เย็นเย็นเปรียบด้วย |
น้ำมนตร์ |
รดแต่งเราสองคน |
เหมาะหมั้น |
แสนสุขเมื่อยามตน |
ถูกอุทก เย็นแฮ |
เออนึกถึงบัดนั้น |
สุขแท้ใดปาน ฯ |
๏ เมืองพานแต่งที่ไท้ |
แรมพลาง |
นึกอีกถึงวิวาห์นาง |
กับข้อย |
ชื่อชวนเทียบพานวาง |
มงคลแฝด |
มงคลผูกนางแน่งน้อย |
ติดข้าเคียงสงวน ฯ |
๏ พานบุรีเขตต์จรดแคว้น |
นวรัฐ เหนือแฮ |
ใต้ติดลำปางสกัด |
กีดกั้น |
ลำพูนเขตต์มาพลัด |
แขวงอยู่ กลางนา |
พานพลัดโดดเดี่ยวฉนั้น |
เดี่ยวคล้ายตัวกู ฯ |
๏ ที่เก้าเช้าหน่อไท้ |
ทรงคช ดำเนิรแฮ |
ไป่เนิ่นพานบุระหมด |
เขตต์เค้า |
เจ้าอินทวโรรส |
สุริยะ วงศนา |
รับเสด็จพรมแดนเจ้า |
เกศก้มอัญเชิญ ฯ |
๏ ห้วยทรายขาวประทับยั้ง |
กลางวัน |
วิเวกอาศัยสรรพ์ |
มิ่งไม้ |
เออทรายเศวตเทียบทัน |
ฉวีนุช ได้ฤๅ |
งาคชหมดขาวไซร้ |
ชิดน้องนวลจาง ฯ |
๏ ที่ประทับแรมแต่งตั้ง |
ริมทาง น้ำนา |
ห้วยซ่านซ่านคนึงพลาง |
สร่างเศร้า |
นึกแรกจุมพิตนาง |
กายซ่าน สุขจริง |
สร้วมสอดกอดคลึงเคล้า |
กระแหนะน้องเพียงทรวง ฯ |
๏ ที่สิบหน่อพุทธเจ้า |
ทรงหัด ถีนา |
เดิรเลียบป่าก่อชัฎ |
ชื่อใช้ |
ประสงค์เพลิงรุ่งลุกจัด |
จำก่อ |
รายรักเริ่มแล้วไซร้ |
ห่อนต้องก่อเลย ฯ |
๏ แม่ผงนามเรียกร้อง |
สายคง คาแฮ |
นึกเปรียบแป้งเสกประสงค์ |
ฬ่อชู้ |
ไม่จำจักมีผง |
ผูกเสน่ห์ พี่เลย |
แป้งเสกใดจักสู้ |
โอดเจ้าวอนผัว ฯ |
ร่าย๏ กองตำรวจภูธร แลสลับสลอนเดิรนำ ทหารกำยำเดิรเรียบ เหยียบพสุธาครืนครั่น ต่อนั้นข้าราชการ นายทหารตำรวจ รวดนำหน้าม้าทรง ถัดพระองค์ราชภัฏ ล้วนขึ้นอัศว์จัดสรรค์ เลือกแผกพรรณ์แผกเทศ เนตร์ยามยลย่อมชม สมพระเกียรติ์ราชา ครั้นขบวนคลาถึงทวาร เวียงตระการแต่งธง บงหมู่ราษฎรซ้อง โห่ก้องถวายเยาวราช ฝ่ายสินาดส่งเสียง เปรี้ยงปังโครมคะครึก อธึกยี่สิบเอ็ดนัด คำนับขัตติยกุมาร ไทยเมืองทยานยัดเยียด หมู่เงี้ยวเบียดกันมอง ย้าวนั่งยองจ้องชะเง้อ มูเซอกลุ่มรุมดู พระภูธรหน่อไท้ ยกหัตถ์เหนือเกศไหว้ นอบน้อมนิยมชม ฯ
โคลง ๓๏ ธเสด็จประทับพลับพลา |
จนสุริยาบ่ายคล้อย |
จึ่งเสด็จโดยบาทต้อย |
ไต่เต้าตามถนน ฯ |
โคลง ๔๏ สมเด็จราเมศร์ไท้ |
นายพล จเรเฮย |
เสด็จตรวจเชียงรายพหล |
หักเสี้ยน |
แลอธึกพิลึกกล |
เศิกพะ พ่ายแฮ |
ปราบเหล่าโจรเงี้ยวเหี้ยน |
หมดสิ้นมลายศูนย์ ฯ |
๏ กลางวันประทับห้วย |
สันทราย |
ไฉนจักมีวันวาย |
โศกเศร้า |
นารีหมื่นแสนหลาย |
หลากดุจ ทรายแม่ |
สรรสักคนคล้ายเจ้า |
โลกนี้มีฤๅ ฯ |
๏ ถึงวันเจ็ดยอดใกล้ |
เมืองเชียง รายแฮ |
ขบวนจัดตั้งรายเรียง |
เรียบแล้ว |
แห่นำเสด็จเข้าเวียง |
บมิเนิ่น |
ทรงอัศว์ดำเพริดแพร้ว |
ย่างเยื้องตามถนน ฯ |
ร่าย๏ วันรุ่งขึ้นภูบาล สถานราชการน้อยใหญ่ ไท้ทรงตรวจสำเร็จ ทั้งได้เสด็จทรงนมัส วัดสิงห์วัดกลางเวียง เรียงทองสองอาวาส อีกประพาสตลาดเงี้ยว เลี้ยวลดไปตามถนน จนแสงโสมส่องจัด พระจึงรัดรีบกลับ มายังพลับพลาพลัน ครั้นถึงสี่โมงบ่าย กรายกรออกหน้าพลับพลา เพื่อทัศนากระบวนแห่ ครัวทานแส้เสียงเดิร ดูเพลินตาน่าชม น่านิยมรูปสัตว์ สารพัดผูกงามงอน ยังแลฟ้อนฟังร้อง ซร้องส่งเสียงถวายชัย ไทยเมืองมูเซอร์เงี้ยว เลี้ยวลดหลามเข้าขบวน มวญมากหลายภาษามี ล้วนยินดีจงรัก สวามิภักดิ์แด่พระเจ้า อยู่หัวเดชปกเกล้า ไพร่ฟ้าอยู่เย็น ฯ
โคลง ๓๏ ครั้นค่ำแห่ดอกไม้เพลิง |
เริงรุ่งจุดกระจ่างจ้า |
แสงควบเดือนสว่างหล้า |
ขับสิ้นแสงพลัน ฯ |
โคลง ๔๏ วันนี้จันทร์แจ่มตื้น |
เต็มดวง |
บังหมู่ดาราปวง |
แวดล้อม |
ศะศิดุจเจ้าสรวง |
เปล่งรัศ มีแฮ |
ดาวดุจบริพารน้อม |
นบเกล้ายอมกลัว ฯ |
๏ อันตัวนุชนาฎแม้น |
จันทร |
หญิงอื่นดุจดารากร |
ใหญ่น้อย |
จักเผยอแข่งศรีสมร |
สมรขับ ลุ่ยฮา |
หญิงอื่นเทียบนุชต้อย |
ต่ำสิ้นสีจาง ฯ |
๏ นางเองแม้เปรียบด้วย |
ดวงเดือน |
ผิวพักตร์เจ้าไป่เลือน |
เจื่อนแพ้ |
จันทรรัศมีเฟือน |
ยามลุ แรมแม่ |
แต่รัศมีนุชแล้ |
นิตย์ตื้นเพ็ญพูน ฯ |
๏ คิดประมูลเปรียบนุชด้วย |
ดวงไถง |
อันส่องสอดแสงใส |
สว่างหล้า |
แม้อาทิตย์ตกไป |
สกลมืด ฉะนี้นา |
แม้นุชห่างพี่ว้า |
จิตต์คลุ้มกมลหมอง ฯ |
โคลง ๓๏ รุ่งเช้าธทรงคช |
ลดเลื่อนริมฝั่งน้ำ |
ไป่เนิ่นเดิรลุถ้ำ |
พระพร้องนามขนาน ฯ |
โคลง ๔๏ ยามนมัสการพระเพี้ยง |
คูหา |
หวนระลึกถึงเรื่องชวา |
แต่งไว้ |
เมื่ออิเหนาลักบุษบา |
มาสู่ ถ้ำแฮ |
จัดแต่งคูหาไล้ |
ลูบล้วนงามคม ฯ |
๏ แม้ถามพี่นี้ตริ |
เช่นไร |
จักดาษทองอีกไย |
เล่าน้อง |
ตัวนางสถิตที่ไหน |
ประดับที่ นั่นแม่ |
สมรอยู่แล้วจักต้อง |
แต่งแต้มอีกฤๅ ฯ |
๏ กลับทางเรือล่องน้ำ |
แม่กก |
ชื่อสถิตจิตต์พี่ฟก |
ชอกช้ำ |
น้องมาจักอิงอก |
กกกอด พี่นา |
กกจักกลายกลับกล้ำ |
สระแก้วกลางสรวง ฯ |
โคลง ๓๏ วันที่สิบสามธันวา |
สุริยายังอ่อนเช้า |
คชอาสน์ยุพราชเจ้า |
ยาตร์เยื้องจากเชียง รายเฮย ฯ |
โคลง ๔๏ เที่ยงเศษหยุดประทับช้าง |
แม่กอน บ้านนา |
ฝันใฝ่ไขว่หาสมร |
ดุจข้า |
กรคว้าเปล่ากอดถอน |
ฤทัยเจ็บ จริงแฮ |
รู้สึกนึกละอายอ้า |
ไขว่คว้าหาลม ฯ |
๏ เดิรจนถึงห้วยถนัด |
ซ่านหลวง นามพ่อ |
ทรวงซ่านซ่านแสบทรวง |
โศกซ้อน |
ประหนึ่งใครลักปลิดดวง |
ใจทอด ทิ้งนา |
รายราครุมร่าร้อน |
ซ่านซ้ำทรวงโทรม ฯ |
๏ โป่งภูเฟื่องที่ไท้ |
ธพัก เสวยแฮ |
ภูประดุจปราการยักษ์ |
ก่อแกล้ง |
เพราะอสูรคิดลอบลัก |
เคียงเสน่ห์ นุชแม่ |
ยามบ่สมคิดแสร้ง |
กักน้องหลังภู ฯ |
๏ แม่สวยสรวยจักสู้ |
แม่สาว พี่ฤๅ |
ปรางแม่ขาวยิ่งขาว |
ไข่ต้ม |
ศรรามเปรียบขนงราว |
ตามพ์เปรียบ มาศแม่ |
มฤคเนตร์สบเนตร์ก้ม |
หน้าม้วนเมินอาย ฯ |
๏ ที่สิบห้าวาระตั้ง |
พลับพลา |
ตำบลเรียกสันก้างปลา |
ชื่อชี้ |
แม้ไปอีกมากรา |
ตรีจัก |
ซูบเพราะโศกนิตย์ฉะนี้ |
กิ่งก้างปลาเทียม ฯ |
๏ ยิ่งเดิรดูยิ่งเศร้า |
ทรวงรัน ทดฮือ |
แลสบเนตร์แต่สรรพ์ |
หมู่ไม้ |
หวังเพลินเนตร์บ่หัน |
สิ่งเพลิด เพลินเลย |
จนลุป่าก๊อได้ |
แอบเข้านอนคราง ฯ |
๏ กลางคืนหิมะหยดย้อย |
ราวฝน ตกแฮ |
เยือกเย็นทั่วทุกคน |
ขดคู้ |
ดูประหนึ่งฟากฟ้าชล |
เนตร์หลั่ง |
ช่วยโศกด้วยเชฏฐผู้ |
เริศไร้ไกลสมร ฯ |
๏ ธันวาคมล่วงแล้ว |
วันเรียง สิบหกแฮ |
ภูวนาถแรมที่เวียง |
ป่าเป้า |
ควรจักพักพหลเกรียง |
ไกรอยู่ |
แม้อยู่จริงจักเข้า |
เรื่องแท้เจียวหนา ฯ |
๏ ทหารครายิงแข่งเข้ม |
ชิงราง วัลเฮย |
หวังถูกตรงศูนย์กลาง |
นับห้า |
พี่หมายที่ใจนาง |
เลงรัก |
ถูกเหมาะกรพี่อ้า |
โอบน้องเนาทรวง ฯ |
๏ รุ้งผ่านบ้านป่างิ้ว |
กลางวิถี |
หาพิมานฉิมพลี |
บ่ได้ |
แม้พระยาครุฑมี |
พี่จัก |
วานถาบถาสู่ใต้ |
รับน้องมาเคียง ฯ |
๏ หยุดเสวยริมบ้านแม่ |
เจดีย์ เรียกเฮย |
ตามสถูปณคีรี |
เซิดซ้อน |
แม้จริงเช่นฦๅผี |
ปอบอยู่ นี่นา |
ไตรรัตน์เดชคงต้อง |
เตลิดสิ้นฤทธิ์มลาย ฯ |
๏ ที่โป่งน้ำร้อนนาถ |
ประทับแรม |
อุทกกำมถันแกม |
เดือดได้ |
อันรักถูกทุกข์แถม |
จักไม่ เดือดฤๅ |
ไฟราคเผาผากไหม้ |
อกร้อนเรียมเตรียม ฯ |
๏ ที่สิบแปดทางไต่ข้าม |
สันบรร พตพ่อ |
ปรากฎนามเขาปัน |
ย่านน้ำ |
ผีเอยอุทกกัน |
สำเร็จ แล้วนา |
ไยอุตส่าห์แสร้งห้ำ |
หั่นข้อยจากเรือน ฯ |
๏ เดิรเบียดบรรพตข้าม |
ลำธาร มากแฮ |
พักผ่อนกระบวนสาร |
ป่างอั้น |
อั้นอึดอุระพี่ราน |
เรียมแยะ เจียวแม่ |
หากราชกิจไท้กั้น |
กีดต้องจำจร ฯ |
๏ เย็นนอนโป่งป่าอ้อ |
กลางพน |
พนเหลือบเหลียวแลยล |
แต่อ้อ |
อ้อล้อมประดุจคน |
ทำค่าย |
ค่ายกักใจย่อมท้อ |
ทเวศเว้าหานาง ฯ |
๏ ห้วยหนานสึกใหม่เศร้า |
ใจยวน จริงนา |
สุดคิดทำโหยหวน |
เห่ร้อง |
โอละเห่โอละหึกครวญ |
ทิดคร่ำ คนึงแม่ |
ลวงพี่สึกสิน้อง |
หลีกหน้าหาผัว ฯ |
๏ ชรอยหนานสึกใหม่นี้ |
หากรอน ใจเฮย |
ป่วนจิตต์เจ็บจำมรณ์ |
เผ่นห้วย |
ผิพี่เจอะเจ้าจร |
จากแผก เห่แม่ |
เรียมจักโดดห้วยด้วย |
ทิดได้เป็นสอง ฯ |
๏ ห้วยชุมภูพักร้อน |
ผ่อนกาย |
ภูสลับซับซ้อนหลาย |
ช่วงชั้น |
ดูไปก็คล้ายลาย |
ฉากหน้า เตียงแฮ |
เป็นฉากจริงกั้นฉะนั้น |
ไป่ช้าถึงนาง ฯ |
๏ ถึงดอยสระเกศเจ้า |
เณรบัว |
ยลสบแว่นแก้วมัว |
สระเกล้า |
หากพี่ทัศนาตัว |
น้องสระ พี่เฮย |
ฤๅพี่จักแฝงเจ้า |
หาดล้นดลเคียง ฯ |
๏ วันที่ยี่สิบเช้า |
สองนา ฬิกาเฮย |
สมเด็จโอรสา |
ธิราชเจ้า |
ยุรยาตร์จากพลับพลา |
ลงสู่ ปรำแฮ |
เจ้าอุปราชนอบเกล้า |
นบน้อมบังคมคัล ฯ |
๏ อัญเชิญพระบาทไท้ |
หน่อกษัตริย์ |
ทรงเปิดถนนพึ่งตัด |
ใหม่ไซร้ |
ถนนแก้วนวรัฐ |
ประทานชื่อ |
เป็นเกียรติยศให้ |
แก่ผู้อำนวยการ ฯ |
๏ การพิธีเสร็จแล้ว |
หน่อไท |
ทรงอัศว์รีบรัดไป |
ไป่ยั้ง |
จนถึงพลับพลาชัย |
ตำบลแม่ คาวนา |
จึ่งจัดกระบวนตั้ง |
แห่เข้าในเมือง ฯ |
๏ ทรงเครื่องเต็มยศได้ |
เวลา ลุแฮ |
ออกประทับหน้าพลับพลา |
ฝรั่งเฝ้า |
เสร็จเสด็จสู่เกยชลา |
ประทับราช ยานนอ |
จึ่งอมาตย์โดยเสด็จเจ้า |
แห่ห้อมล้อมมา ฯ |
ร่าย๏ งามคราขบวนเยื้องยาตร์ งามดาดาษขบวนเดิร เพลินพิศขบวนชวนยล จึงจรดลนำหน้า ถับถึงพะม่าทั้งมวญ ประเลรัญจวนให้ฟัง ต่อหลังมาถึงเงี้ยว เดิรก่ายเกี่ยวแกมกัน ทุกพรรณเดิรเป็นขนัด แตรวงขัดบรรเลง ทำเพลงเดิรหลายอย่าง บ้างต่างต่างเพลงภาษา ถึงพลากรกระบวนยุทธ์ รีบรุดเรียงจัตุรตน ถัดพลมาถึงเจ้า ขับคชเข้ากระบวนจร นำภูธรดำเนิรสดวก มีทั้งพวกดรุณบุรุษ ยุดดาบหอกหัตถ์ล้อม ล้อมพระยุรยาตรา พวกปี่ชวากลองชนะ ประโคมครึกกึกก้อง เลื่อนลั่นท้องทิวลู่ ยังอีกหมู่เทียวธวัช สบัดปลายปลิวอยู่ระยับ สลับสีพรรณต่าง ๆ ล้วนหลากอย่างหลายประการ ถึงราชยานบ่มิช้า หน่อเจ้าหล้าเลอบล โทแถวพหลแซงข้าง บ้างแข่งแย่งกันมา อีกอาชาหม่อมเจ้า สององค์เต้าไต่งาม ข้าในกรมตามติดไท ต่างไต่เต้าต่อไล้ ล่วงพ้นมรรคา ฯ
โคลง ๔๏ พาราล้วนประดับด้วย |
ธงเทียว |
ผ้าหลากเหลืองแดงเขียว |
ม่วงจ้า |
ราษฎรเบียดแน่นเหลียว |
แลสบ |
องค์พระหน่อเจ้าหล้า |
ต่างน้อมนิยมแล ฯ |
๏ ขบวนแห่เสียงสนั่นล้ำ |
เลอโพยม |
เสียงสินาดครืนโครม |
เกริกก้อง |
ฟังราวจักเหี้ยนโหม |
หักเศิก |
เสียงโห่ฮิ้วแซ่ซ้อง |
ลั่นพื้นดินไหว ฯ |
๏ ไคลถึงจวนแห่งข้า |
หลวงใหญ่ มณฑลนา |
ซึ่งจัดให้หน่อไผท |
ประทับยั้ง |
ราชยานเทียบเกยไชย |
ธเสด็จ |
ยุรยาตร์โดยบาททั้ง |
หมดเต้าตามองค์ ฯ |
๏ ครั้นทรงผ่อนพักแล้ว |
ออกพลับ พลาพ่อ |
ขึ้นสู่บัลลังก์ระยับ |
แต่งไว้ |
ปวงข้าบาทคำนับ |
นอบเกศ |
เดิรผ่านเรียงตัวให้ |
หน่อท้าวทรงยล ฯ |
๏ ทุกตนผ่านเฝ้าเสร็จ |
สรรพลง |
เจ้าราชสัมพันธวงศ |
ออกหน้า |
โอมอ่านพจน์ชัยมง |
คลเลิด |
ถวายหน่อพระดิลกหล้า |
ขอบแคว้นแดนสยาม ฯ |
๏ งามของถวายเอี่ยมล้วน |
เงินตระการ |
เป็นรูปเก้งเผ่นทยาน |
เหยียบมั่น |
หลังสุนัขดั่งตำนาน |
ท่านกล่าว |
ว่าแปลกเป็นนิมิตฉะนั้น |
จึ่งสร้างเมืองลง ฯ |
โคลง ๓๏ ครั้นพระองค์ดำรัสตอบ |
ขอบจิตต์นับแต่เจ้า |
ครองเขตต์ตลอดข้าเฝ้า |
เสด็จไท้คืนสถาน ฯ |
โคลง ๔๏ ที่ภูบาลสถิตล้วน |
ควรชม ยิ่งนา |
ทั้งที่ประทับประทม |
ดาษผ้า |
ผนังแลหลากสีผสม |
สีสลับ |
การจัดเป็นเกียรติอ้า |
โอ่แท้แต่ไผท ฯ |
โคลง ๓๏ ข้าหลวงใหญ่พายัพ |
จัดที่ประทับท่านไท้ |
เข้าแบบยุโรปให้ |
สุดคล้ายแบบจริง ฯ |
โคลง ๔๏ วันที่ซาวเอ็ดเช้า |
เยาวรา ชาเฮย |
ทรงรถเทียมอาชา |
สี่เต้า |
ขับเร็วเร่งในพา |
รานพ ราษฐ์พ่อ |
แวะเสด็จทรงเยี่ยมเจ้า |
ครอบแคว้นเชียงอินทร์ ฯ |
๏ หน่อนรินทร์เสด็จตรวจทั้ง |
โรงทหาร |
เริงรุกอาจณรงค์ราญ |
พ่ายแพ้ |
ทั้งตำรวจผู้ผลาญ |
โจรราบ |
ชนคิดทุจริตแล้ |
ไม่พ้นราชทัณฑ์ ฯ |
๏ ครั้นแสงตวันบ่ายคล้อย |
ภูบาล |
เสด็จประพาสถิ่นช่างสาน |
ช่างปั้น |
อีกช่างรัชฎาตระการ |
แต่งประดิษฐ์ |
ลายสลักเป็นเชิงชั้น |
หมดล้วนควรชม ฯ |
โคลง ๓๏ วันรุ่งขึ้นเวลา |
นาฬิกา สามเศษเช้า |
พระเสด็จขบวนรถเข้า |
เขตต์กั้นปราการ ฯ |
๏ ทุกสถานราชการเสด็จ |
ทอดพระเนตร์เสด็จไป่ช้า |
ราชรถขับทวีม้า |
รีบร้นคืนสถาน ฯ |
โคลง ๔๏ ภูบาลทรงพร้อมครี่ง |
ยศขาว |
อิศริยาภรณ์วาว |
วับแพร้ว |
สามโมงบ่ายเศษราว |
ครึ่งเศษ โมงนา |
ทรงเครื่องเรืองระยับแล้ว |
เหมาะได้เวลาถึง ฯ |
๏ จึงยุรยาตร์ออกท้อง |
พระโรงพลัน |
เจ้าอมาตย์เสนานันต์ |
แน่นเฝ้า |
ประชุมถวายพระวรขวัญ |
หน่อนาถ |
พานรัชฎ์จัดครบเก้า |
ลำดับชั้นบายศรี ฯ |
๏ มีพร้อมบุบผชาติซ้อน |
สลับตระการ เนตร์จริง |
อีกสรรพโภชนาหาร |
หลากล้วน |
ทั้งเมี่ยงหมากรองพาน |
คำสุก |
ผจงแต่งไพจิตร์ถ้วน |
ครบสิ้นสิ่งปวง ฯ |
๏ ข้าหลวงใหญ่และเจ้า |
ครองนคร |
ทั้งอมาตย์บุตรหลานสลอน |
สลับเฝ้า |
ฉะเพาะพักตร์พระภูธร |
ทูลบาท พระนา |
ฉันทะมอบบุรุษเถ้า |
กล่าวฉะนี้ทูลขวัญ ฯ |
ร่าย๏ ศักราชอันใสศรี เป็นวันดีแวนยิ่ง เทพไทยมิ่งมหิทธิศักดิ์ อัครมหาสุริยเทวบุตร์ ตนใหญ่รุดเข้าสู่ อยู่ณห้องยามดี จันทร์มีศรีย้ายถูก ลูกชื่อว่ามหาชัย อังคารไปสู่เมษ พิเศษใดบกลาย ศุกร์เสาร์ย้ายไปนา ถูกราศีอุตมาสน์ พฤหัสชาติถูกมหา ชัยราหูไปเป็นคู่ พุธเข้าสู่เมถุน สุนทรบวรมิ่งมิตร์ อาทิตย์ได้อุสา ลักขณามหาโชคดี วันนี้เหลือประเสริฐ เป็นวันเลิดชัยชะนะ เป็นวันพระปราบศัตรู สัพพัญญูทรงแท่นแก้ว ปราบแพ้แล้วหมู่พล มารอันผจญมงคลการ ท่านยอเป็นวันดี หยิบบายศรีหลายส่ำ หื้อเป็นลำดับสลับ ประดับไปด้วยบุบผาพรรณ อันหอมรสละเมาวอน ปักแซมซ้อนยอดกาบ มีทั้งกุหลาบดาวเรือง จำปาเมืองจำปาแขก จัดซ้อนแซกซ้อนกัน เบญวรรณและเบญมาศ ดอกหลายชาติหลายสี ดอกจำปีหอมอุ่น ดอกยี่สุ่นคำแล ฟันกระแตจันทร์กึ่งซีก อีกมณฑาชวะชะวาด เสาวรสชาติสีงาม บุบผาหลามหลากมี ดอกลีลาลาวร้อง คนที่ห้องในวัง เรียกดังว่าซ่อนกลิ่น หอมเย็นสิ้นกลิ่นหวาน ดอกบานควะหอมอ่อน ใต้เรียกขจรนั่นไซร้ แสงใสคือลำเจียก โยนกเรียกเกียงเหมย บุบผาเผยกลิ่นสอาด ดูดาดาษสะพรั่งพร้อม เพื่อว่าจะแต่งน้อม นอบเกล้าทูลขวัญ ฯ
โคลง ๔๏ อันโภชน์เอมโอษฐ์ล้วน |
หลากดี |
จัดแต่งเคียงบายศรี |
เสร็จไว้ |
เชิญขวัญพระภูมี |
อย่าเนิ่น |
จงเสด็จบริโภคให้ |
อิ่มสิ้นสิ่งสรรพ์ ฯ |
ร่าย๏ พระนักธรรม์เหนือเกศ มาต้องเขตต์พารา เครื่องบูชารับมิ่ง มีหลากสิ่งหลายอัน เศียรสุกรมันต้มใหม่ ใส่โตกใหญ่จัดแสดง มีทั้งแกงและตับต้ม สุกเปื่อยล้มพานแถม มีหมูแนมไส้กรอก บมิยอกหลายกระบวน เนื้อปิ้งหวนตัดสอด เข้าขาวปลอดบริสุทธิ์ ดังดอกพุฒงามงอน นึ่งสุกอ่อนรองพาน ขนมน้ำตาลหวานจะจ้อย ขนมน้ำอ้อยเปียกสาคู เข้าตูแกมน้ำมะพร้าว กล้วยเขียวขาวกลิ่นถนอม ทั้งกล้วยหอมกล้วยตีบ บ่แห้งลีบสุกงามดี จัดบายศรีทุกเยื่อง สรรพครบเครื่องทูลขวัญ บุหรี่พันยากลุ่ม พลูดอกหนุ่มใบบาง เจียนจีบวางพร้อมเสี้ยง อีกหมากเมี่ยงเรียงรอง ในพานยองยอดเหมาะ มะพร้าวเฉาะดูตระการ น้ำหอมหวานเย็นใจ โภชน์อันใดจัดแล้ว เพื่อรับพระมิ่งแก้ว หน่อเจ้าจอมสยาม ฯ
โคลง ๒๏ สามสิบสองขวัญท่านไท้ |
มาเถิดจงอย่าได้ |
อยู่ด้าวดงแดน ฯ |
|
ร่าย๏ แสนวิเศษจอมขวัญ อย่าแผผันเที่ยวเล่น อย่าลนเต้นระหกระเหิน อย่าไปเพลินอยู่เงิ่น เขาเขิ่นเหวหืดถ้ำ อย่าไปล้ำในป่า ที่อาศัยเสือหมี ทั้งยักษิณีผีพง และดงโขลงช้างเถื่อน ธบ่มีเพื่อนจะตกใจ ยินสัตว์ใหญ่สัตว์น้อย ยามค่ำคล้อยจิ้งหรีดร้อง เสียงสนั่นก้องแดนไพร เสียงแมลงใยแซ่ซ้อง เสียงลิงร้องโหยคราง ยังเสียงบ่างค่างมี ดังอสนีผีโป่งป่า เวลาคืนมืดค่ำ เสียงพลิกพล่ำปุนกลัว ขวัญจะระรัวส่ายสั่น อุระเจียนลั่นเป็นผงผุย นกจุกชะลุยคะทึงทืด จักร้องอืดเสียงวาง นกเค้าคางแมกมืบ อยู่ตามหลืบดอยดอน หมาป่าหอนร่าเล่น วิ่งเต้นโดดยืนยล แม้ขวัญดลพบไซร้ มักจักไล่ขบกัด ในแนวชัฎด่านกว้าง ฝูงช้างมากมวญมี ฝูงชะนีโหนหย่อนห้อย เกาะกิ่งย้อยอวยคราง อย่าไปกลางแดนไพร ป่าไม้แกมแรดหมู่ อย่าไปอยู่แกมฟาน เสียงเพรียกขานโขกก้อง เสือโคร่งร้องสยองเย็น ขวัญอย่าเร้นในดง อย่าละเลิงหลงที่โถงกว้าง ตามหว่างเวิ้งเชิงผา พฤกษาหลากแกมแขม แซมคาและหญ้าแฝก ลมพัดแยกกวัดไกว ปลายใบหันเนือกน้อม ควันหมอกอ้อมโอบท้อง ทุ่งทำหมองหม่นใจ ขวัญอย่าไปจมทราย ชายพระสมุทร์คลื่นใหญ่ ฟองเต้นไต่เป็นเปียว หันแต่น้ำเขียวขอบฟ้า ลมกล้าฟาดฟองเฟือน เงือกงูเลื่อนมาตามคลื่น ดูน่าตื่นน่ากลัว ดูน่าระรัวตกใจ สินธุไหลใช่ตื้น คลื่นใหญ่เครงคละครื้น ทุกเช้าคืนวัน ฯ
โคลง ๓๏ ขวัญภูธรขอเชิญ |
มาฟังเพลินระนาดฆ้อง |
พิณพาทย์ศัพท์กึกก้อง |
แจ่มแจ้วดุริยางค์ ฯ |
ร่าย๏ ฟังเปิงมางกลองแขก จะเข้แซกซอสี กระจับปี่วังเวง บรรเลงสั่งเสียงวอน ดุจละคอนฟากฟ้า เลอลบหล้าแดนดิน ขวัญภูมินทร์อย่าเนิ่น อัญเชิญมาครบงาม ยามเมื่อพระราชา ยาตราเจียนจากห้อง ทั้งแดดต้องลมเชย พระก็บ่เคยยุรยาตร์ จากปราสาทวังใน ยามกลางไพรประเวศ สู่ท้องเทศหัวเมืองลาว ท้าวจำผทมป่ากว้าง ทรงนั่งช้างกระเทือน บ่เหมือนเดิรกำปั่น ฟ้าร้องลั่นขวัญหาย หนีจากกายพระบ่แค่ แม้ไปอยู่ที่ใด เชิญมาไวอย่าช้า พระเสด็จมาครานี้ เดชบารมีปกเกล้า หมู่ข้าเฝ้าทั่วไป ในประเทศลาวเฉียง ชนในเวียงและนอก จัดกันออกทั่วหน้า ทำพลับพลารับนารถ ผู้ฉลาดการโยธา ขีดเขียนมาเป็นอย่าง ทางประจันตะเขตต์หนไกล บ่เหมือนในมหานคร ไม้ไผ่ซ้อนแซมรอง บ่เหมือนท้องพระโรงเลย ธบ่เคยจักต้อง พักห้องแฝกแขมคา ยามราชาประพาส เชิญนารถมายั้งยับ ประทับตามข้าบาท แต่งถวายกลาดตามทาง พระอย่าครางกริ้วโกรธ ขอธโปรดกรุณา เมื่อมาถึงบัดนี้ ที่นครแล้วสรรพเสร็จ เชิญพระเสด็จประทับ พลับพลาระยับจำรูญครัน อันข้าบาททั้งหลาย ผจงจัดถวายในเมือง มุงกระเบื้องหลายหลัง ยังฝากระดานตระการตา อันพระยาสุรสีห์ มียศหากเคยทำ เหมือนพระโรงคำงามบ่เศร้า เชิญพระเข้าบรรทม ข้าบาทนิยมแฝงใฝ่ ในเบื้องบาทธุลี ดั่งพระมุนีโปรดโลก โชคจงมีแต่ไท้ ชนม์ยืดได้ยาวโยชน์ เป็นผู้โปรดหมู่ประชา ขอสีมายืนเที่ยง อย่าเบี่ยงบ่ายเฟือนคลอน ทุกข์ราษฎรรำงับ บำรุงสรรพสุขชน ทั่วมณฑลขอบกว้าง ภัยอย่ามาสถิตข้าง บาทไท้ภูมี ฯ
โคลง ๔๏ บัดนี้ข้อยจักได้ |
กุญชร หนึ่งนา |
ผูกเครื่องครบงามงอน |
เศิกกล้า |
ยังอีกอัศว์สุนทร |
นวลสว่าง |
สองสัตว์ควรอาสน์อ้า |
แห่งไท้ทรงธรรม์ ฯ |
ร่าย๏ สรรพอันตรายเศร้าโศก สรรพโรคพยาธิภัย สรรพจัญไรแลเสนียด อย่ามาเบียดเบียฬพาล สมดังสารข้อยพร้อง สามสิบสองวรขวัญ แห่งนักธรรม์เหนือเกศ เลิดวิเศษสุรศักดิ์ อัครวรลักษณ์สมบูรณ์ยิ่ง พระมิ่งแก้วราชา เสด็จมาแล้วอย่าคืนคลาย หน่ายแหนงพระกายังค์ อย่าเปปังอย่าสะดุ้ง อย่าแตกฟุ้งซ่านเซ็น อย่าแยกกระเดนเหินไกล จงสดใสดังแก้ว แวววับค่าควรเมือง อย่าขุ่นเคืองเศร้าโศก เชิญบริโภคเสวยพลัน สรรพโภชน์พร่ำพร้อม อันข้อยน้อมทูลถวาย จัดแต่งรายไว้ท่า เนื้อปลาหลากยำผัด สารพัดมวญมากครัน พระขวัญสามสิบสองไซร้ แห่งนารถไท้จงแขง แรงไปยิ่งกว่าเก่า ได้ร้อยเท่าพันทวี ทุกข์อย่ามีมาต้อง ภัยอย่าพาดพ้องไผท จงตกไปลุ่มธรณี ขอภูมีมีฤทธิ์ ฤทธิ์ยิ่งภิญโญยศ ปรากฎทั้งอานุภาพ ปราบปวงเศิกศัตรู ในหมู่โขงชมพูทวีป ใต้ฟ้ากลีบพสุธา แม้มาสู่จุ่งมลาย ทั้งฝ่ายเหนือปักษ์ใต้ ให้มากราบยอบระบอบ นอบพึ่งโพธิสมภาร พระจงสราญตลอดเฒ่า ขอพระหน่อพุทธเจ้า จุ่งได้ดังประสงค์ปวงนา ฯ
โคลง ๓๏ ชนน์พระจงเต้าไต่ |
ได้ผจบจวบขวบร้อย |
ยี่สิบปีดังข้อย |
พร่ำพร้องทูลขวัญแม่เทอญ ฯ |
โคลง ๔๏ ครั้นอ่านสารเสร็จเจ้า |
ครองนพี สีนา |
ดำเนิรด่วนแทบบายศรี |
หยิบด้าย |
มัดกรพระภูมี |
ตามแบบ |
เพื่อปัดปวงสิ่งร้าย |
ชวดสิ้นไกลไผท ฯ |
๏ อนึ่งในกาละนี้ |
ตามธรรม เนียมแฮ |
มีลูกกุยกำยำ |
ต่อยเป้ง |
ดนตรีปี่กลองทำ |
เพลงจ๊ะ โจ๋งฮา |
ตวัดกอดสอดหมัดเท้ง |
ถูกหน้าฮาครืน ฯ |
ร่าย๏ ที่ยี่สิบสามธันวา เช้านาฬิกาสามโมง เสด็จสู่โรงพยาบาล วิทยาคารโรงสวด นักบวชอเมริกะชาติ ปวงคำนับบาทภูมี เปรมปรีดีจริงใจ ที่ไผททรงกรุณา ราชาเสด็จทอดพระเนตร์ ทั่วขอบเขตต์เหล่านั้น พลันพระเสด็จขึ้นรถ ลดเลี้ยวกลับพลับพลา ครั้นเวลาล่วงบ่าย เสด็จผันผายออกยัง บัลลังก์จัดหน้าจวน ให้คลาขบวนครัวทาน ผ่านหน้าไท้ถวายองค์ ตั้งบรรจงคิดจัด ผูกรูปสัตว์รูปคน หุ่นยนตร์หลากหน้าดู ไทยเมืองกรูเข้าขบวน ฟ้อนน่ายวนตายิ่ง แม่หญิงแต่งกายงาม หมู่ตุ๊ตามลดเลี้ยว ม่านจีนเงี้ยวจงรัก ภักดีพร้อมหน้ากัน อุตส่าห์สรรพ์ประดาประดับ สรรพบริขารหมดมี ที่ควรภิกษุใช้ คิดจัดเพื่อจักให้ พิศแล้วเจริญตา ฯ
โคลง ๔๏ สุริยาเลื่อนลับแล้ว |
ราชา |
ทรงเครื่องครึ่งยศคลา |
เพริศแพร้ว |
พร้อมอมาตย์ราชเสนา |
แหนแห่ เสด็จเฮย |
ประทับราชรถคล้อย |
เคลื่อนด้าวแดนวัง ฯ |
๏ หยุดยั้งคุ้มท่านเจ้า |
นพีสี |
เจ้าจึ่งรีบจรลี |
รับไท้ |
ชวนเสวยโภชนมี |
รสหลาก |
ข้าราชกิจปวงได้ |
นั่งล้อมเรียงตน ฯ |
๏ บัดดลเจ้าขึ้นเปล่ง |
วาจา |
แสงจิตต์ปลื้มปรีดา |
สุดเค้า |
จบจึ่งโห่สามลา |
ดื่มเพื่อ พระเฮย |
ดำรัสตอบขอบใจเจ้า |
จิบซ้ำคลาสอง ฯ |
๏ การผองลงเสร็จแล้ว |
ทรงธรรม์ |
จึ่งเสด็จจรจัล |
สู่ห้อง |
ทอดพระเนตร์ละคอนอัน |
จักเล่น ถวายนา |
จับเมื่อรามละท้อง |
เถื่อนเข้านครครอง ฯ |
๏ ที่สองระเวงสั่งให้ |
หาสอง เมืองนา |
แขกฝรั่งเจ้าทั้งสอง |
แข่งแกล้ว |
ชุดสามเมื่อวันทอง |
ขัดทัพ ลูกฮา |
กาละควรเลิกแล้ว |
พระด้นดลสถาน ฯ |
๏ การรื่นเริงแห่งนี้ |
ควรเชย |
ใดสนุกบ่อละเลย |
จัดไว้ |
โดยหวังจักให้เผย |
พระเกียรติ ท่านนา |
คิดจัดสรรพสิ่งให้ |
นารถไท้ทรงสราญ ฯ |
ร่าย๏ ครั้นรุ่งขึ้นพระองค์ ทรงรัถยานขับรี่ สู่ที่ตั้งโรงเรียน อ่านเขียนหนังสือสยาม เล่าบ่นตามกำหนด หมดทั้งเลขวิทยา ราชาทอดพระเนตรเสร็จ ผันพักตรเสด็จโดยบาท สู่อาวาสเจดีย์หลวง ปวงบริพารแห่นำ พระกระทำนมัสการเหมาะ ฉะเพาะพักตร์องค์ปฏิมา ยืนใหญ่หน้าแลตระการ ตามตำนานกล่าวเค้า ว่าเจ้านครนพีสี มังรายมีนามชัด จัดสร้างขึ้นบูชา ทั้งสร้างอาวาสเสร็จ แล้วพระเสด็จยุรยาตร์ โดยบาทสู่หลักเมือง ตามเรื่องราวกล่าวไว้ ใต้หลักกระทะรองมี สี่ทิศรูปคำอิง ทิศหนึ่งสิงห์พึงประจักษ์ ทิศหนึ่งพยัคฆ์ยืนเผ่น อีกทิศเป็นดาบส ที่สี่คชยืนกราน ตำนานเล่าต่อมา ว่าเทวดาท่านใช้ ให้กุมภัณฑ์สองตน ดลแบกอินท์บินเหาะ ลงมาฉะเพาะเชียงใหม่ แล้วเลยให้อยู่อารักษ์ รูปพระยายักษ์ทั้งทวี บัดนี้นั่งกำยำ กรกำตะบองมองเขม้น แม้นเห็นใครกล้ำกราย หมายอันตรายหลักไซร้ ยักษ์จักได้สังหาร ผลาญชีพเสียแม่นมั่น ครั้นเสร็จพลีจึงไผท ไคลโดยรถเร็วยิ่ง สู่พระสิงห์อาราม ตามคำกล่าวกันว่า พระนารายณ์มหาราช นารถสถิตทวาราวดี มีโองการให้ส่ง สงฆ์ไปทวีปลังกา ครั้นถึงกาละสงฆ์ถึง จึงพระเจ้านพีสี มีอักษรนอบเกล้า แทบบาทเจ้าจอมภพ ทั้งถวายครบบรรณาการ ขอพระราชทานปฏิมา แบบลังกาทวีปไซร้ ไว้สักการะสักองค์ จึงพระทรงเดชอุดม บรมกษัตริย์ครองอโยธ โปรดพระราชทานพระสิหิงค์ มาเป็นมิ่งเมืองแมน เจ้ายวนแสนปรีดา จัดสร้างอาวาสนี้ ปรากฎตามเรื่องชี้ เช่นข้อยจำมา ฯ
โคลง ๔๏ ยี่สิบหกธันวะเช้า |
ภูมี |
เสด็จออกนอกนพีสี |
แด่นด้าว |
ทรงรถผูกพาชี |
สีเศวต |
ทั้งสี่สินธพก้าว |
กุบพร้อมควรยล ฯ |
๏ ถึงตำบลออกชื่อชี้ |
ป่ายาง |
หยุดรถที่นั่งพลาง |
ผ่อนม้า |
แล้วดำเนิรต่อตามทาง |
เข้าเขตต์ ลำพูนพ่อ |
ผ่านวัดอุโมงค์ไป่ช้า |
จึ่งได้เสด็จลง ฯ |
๏ อินทยงยศโชติเจ้า |
ครองนคร |
หริภุญชัยขจร |
เกียรติกี้ |
รับเสด็จพระภูธร |
พร้อมธูป เทียนแฮ |
นอบเกศเชิญเสด็จลี้ |
ลาศเข้าในเมือง ฯ |
๏ พระเรืองเดชยั้งอยู่ |
พอควร |
จึงเสด็จโดยรถสวน |
มรรคเต้า |
ถึงเหมืองเง่ารอบขบวน |
เจนจัด |
เพื่อแห่นำเสด็จเข้า |
สู่เบื้องเวียงไชย ฯ |
ร่าย๏ ได้เวลาพระองค์ ทรงเต็มยศขาวเสร็จ เสด็จประทับเลอบัลลังก์ ตรัสสั่งให้ขบวนคลา นำหน้าคือปี่กลอง รองพลธวัชถนัดมือ นำพลถือปืนไฟ ไคลเป็นแถวเรียงสอง ต่อถึงกองตำรวจ เดิรเรียงรวดควรยล ต่อถึงพลหอกราย พลดาบผายผันตาม งามหัตถีประดับรัชฏ์ ถัดถึงกลองชนะตี รองนี้ถึงกองทหาร แลตระการซับซ้อนเรียง แล้วถึงเสลี่ยงเครื่องยศ กับคชผูกจำลองทอง รองจากนั้นถึงอัย พระชัยนวโลหะ ช้างพระที่นั่งเดิรตาม แลดูอร่ามรุ่งเรือง แต่งเครื่องดำล้ำเลิด เชิดชูเกียรติราชา พระยาวังขวาวังซ้าย กรายกรเดิรท้ายช้าง สล้างสลับราชภัฏตาม งามพลหอกแห่สลอน เสนาซ้อนแถวเรียง เคียงแซงสองข้างไผท ถัดไปข้างที่นั่งรอง สองราชญาติทรงเทริด ยามขบวนเฉิดฉายฉัน จรจัลผ่านหน้าไป ไทยเมืองโปรยเข้าตอก ดอกไม้เกลื่อนตามมรรค์ เมื่อขบวนบรรลุบ้าน ท่านข้าหลวงประจำนคร พระวรราชโอรส เสด็จจากคชเสวยพลัน ครั้นตอนบ่ายเสวยเสร็จ เสด็จออกที่พลับพลา ข้าราชการจึ่งเข้า เฝ้าเพื่อถวายอภิวาท จึ่งเจ้าราชสัมพันธ์ พลันอ่านสารแทนปวง เจ้าหลวงข้าราชกิจ สถิตที่นครลำพูน ทั้งทูลถวายสิ่งสำคัญ อันปรากฎตำนานมี ฤษีสองตนถนัด กับนกหัศดินทร์คาบ กาบหอยเชิดอยู่ไซร้ ครั้นตรัสตอบเสร็จไท้ เสด็จขึ้นเสร็จงาน ฯ
โคลง ๓๏ ครั้นรุ่งขึ้นเวลา |
นาฬิกาสามเศษเช้า |
ยุรยาตร์หมู่อมาตย์เต้า |
ไต่ต้อยตามองค์ ฯ |
๏ ทรงเยี่ยมเจ้าครองนคร |
แล้วจรสู่ที่ตั้ง |
สถานราชกิจทั่วทั้ง |
หมดแล้วคืนสถาน ฯ |
โคลง ๔๏ ตอนบ่ายเสวยเสร็จแล้ว |
พระองค์ |
เสด็จสู่โรงตำรวจทรง |
ตรวจแล้ว |
เลยสู่วัดพระคง |
ขุดพระ พิมพ์พ่อ |
คำกล่าวว่าพระแผ้ว |
ผ่องคุ้มภัยสรรพ์ ฯ |
๏ ทรงธรรม์จากวัดแล้ว |
เสด็จตรง |
ทอดพระเนตร์ไฟผจง |
จัดไว้ |
ราชภาติกะวงศ |
นำน่า ฟ้อนแฮ |
จุดเสร็จครบหมดไท้ |
กลับเข้าคืนจวน ฯ |
โคลง ๓๏ เช้าซาวเจ็ดเสด็จวัด |
เจดีย์หลวงชัดชื่อชี้ |
ครั้นนมัสเสร็จลาสลี้ |
ประพาสร้านริมทาง ฯ |
โคลง ๔๏ ปางเมื่อตวันบ่ายเจ้า |
อินทยง ยศแฮ |
พร้อมบุตรหลานญาติวงศ |
แวดเฝ้า |
บายศรีพิจิตรผจง |
ประดิษฐ์จัด มานา |
สมโภชสมเด็จเจ้า |
อย่างเบื้องแบบบรรพ์ ฯ |
๏ อันสิ่งใดจักต้อง |
จำมี |
มาเพื่อถวายศรี |
มิ่งแก้ว |
จัดมาหมดล้วนดี |
หลากหลาก |
บุบผชาติชวาดแพร้ว |
เพริศล้ำจำเริญตา ฯ |
๏ ราชาทรงเครื่องแผ้ว |
ผ่องระยับ |
ครึ่งยศขาวตราประดับ |
เสร็จไซร้ |
เสด็จออกนอกขึ้นประทับ |
เลออาสน์ |
บุรุษเฒ่ามาฉะเพาะไท้ |
อ่อนถ้อยถวายขวัญ ฯ |
ร่าย๏ อันว่าสุไชโย บังคโรถมเลิส ธมาเกิดลำดับมี ปีเดือนวันใหม่อ้า หนุ่มหน้าปานกลางสุข นฤทุกข์ยันขึ้นใหญ่ บุญชักไขว่ถึงกาล พระภูบาลยุรยาตร์ ประพาสถึงหริภุญชัย สราญในอิศรผ่านเผ้า โอรสเจ้าเสวยรมย์ ข้าบาทประณมกรัญชลี มีเจ้านครเป็นเค้า เฝ้าพร้อมด้วยเทวี บุตรบุตรีวงศญาติ สโมสรอมาตย์พร้อมมุน ท้าวพระยาขุนน้อยใหญ่ ทั้งบ่าวไพร่มากมี แต่งใบศรีบัวจีบ ก้านกาบคีบมงคล ขันใบบนมียอด ประดับจอกลอดปลายขัน หื้อโสภัณแช่มช้อย ทั้งกล้วยอ้อยหมากพลู งามชื่นชูเฉิดฉัน แต่งขันมงคลน้ำพร้อม เส้นสืบล้อมไหมขาว ดอกดวงพราวหอมโหด รสเร้าโรดพลายพรรณ์ มีครบครันตกแต่ง ดังแหล่งนี้เคยทำ ขันคำเหลืองเครื่องง้า ผ้าเสื้อเสื่อหมอนหนา มาทั้งสาดพรมวิไล ยังม้าวใส่แขนถนัด ธำมะรงค์รัตน์ครบคาด สุภสอดราชชัยชู กุณฑลหูห้างสอด เครื่องรับยอดมิ่งแก้ว พระนักธรรม์เพริศแพร้ว พรั่งพร้อมสิ่งสรรพ์
ขวัญสมเด็จอย่าเล็ดลอด ชักขอดเข้ามากลาง สามสิบสองวางไว้เรียก ครัวเครื่องเวียกจงเสวย ให้ทรงเสบยทุกเยื่อง พร่ำพร้อมเครื่องชวนชม ทั้งเข้าต้มขนมหวาน ผจงจัดพานหลายตั้ง มังสะพร้อมคู่จำยาม ลำดับตามตั้งไว้ เป็นของไขว่แกมสุรา มังสังวราห์ชวะชวาด อีกอุทกหยาดฟองฟู ขวัญภูธรศักดิ์ทรง พระองค์ทองเจื่องจ้า จงเข้ามาเสวยอยู่ เลี้ยงทุกหมู่มามวญ ขวัญพระหวนมาเถิด อย่าเพลิดอยู่ป่าไม้ อย่าไปเขาเนายอด อย่าจอดด้าวแดนไกล อย่าคิดไคลไหนเลย เชิญมาเสวยเมืองมิ่ง สุขสร้างสิ่งบารมี หื้อเป็นศรีเมืองสะอาด สมบูรณ์ราชนิเวศน์ เขตต์ขอบสถานใหญ่กว้าง พอแหล่งช้างแสนพลาย พระจงผายสู่มนเทียร พะเหียรดังอินทราธิราช เลออาสน์สถิตอยู่กลาง หมู่สุรางค์สาวสวรรค์ หื้อเหมือนจันทร์ท้องฟ้า ปราศเมฆฟ่าจรัสองค์ จงเป็นฉัตรใบใหญ่ ปกหุ้มไพร่เย็นเมือง เดชะเรืองแผ่กว้าง เป็นเจ้าช้างเปลื่องปัถวี เมืองนี้วิเศษเจียงคาน มีปราการเขื่อนขั้น หมั้นเจดีย์หลวงหมายโลก มั่งมูนโชคลาภา มีอาวาสธาตุเป็น ที่บำเพ็ญบูชา โอฬาร์สรรพสิ่งไซร้ หริภุญชัยธานี มีดุริยางค์เกริกก้อง พิณพาทย์ฆ้องเสียงมอ ระนาดตะโพนซอหลายสิ่ง มะโข้งมะหิ่งเดงดัง ระฆังกะดายปี่แต้ ขลุ่ยแคลนแน่ซอจ้อย ร้อยร้องขับเสภา ทำเพลงนานามาก หลากภาษาซ้องมี่ หมายพลีองค์เจ้าฟ้า เกียรติเกริกหล้าแดนดิน เชิญพระนรินทร์หน่อเจ้า แผ่ฤทธิ์พระปกเกล้า เหล่าข้าประชามวญ มากนา ฯ
โคลง ๔๏ สำนวนจบจึ่งเจ้า |
ครองนคร |
อภิวาทหน่อภูธร |
ดิลกหล้า |
หยิบด้ายผูกพระกร |
บมิเนิ่น |
ขอพระองค์เจ้าฟ้า |
จุ่งพ้นภัยพาล ฯ |
๏ ในการประเสริฐนี้ |
เจ้าลำพูน |
นอบเกศบังคมทูล |
แด่ไท้ |
ถวายสินธพมีตระกูล |
ผ่านคู่ หนึ่งนา |
เป็นอาสน์สมดั่งได้ |
มุ่งไว้หมายพลี ฯ |
โคลง ๓๏ ครั้นพิธีจบเสร็จ |
เสด็จพลับพลามิช้า |
คู่ลูกกุยเปรียบท้า |
ต่อยเข้มแข็งแรง ฯ |
โคลง ๒๏ แข็งต่างชกต่างแก้ |
โดยเหมาะข้างหนึ่งแพ้ |
หลีกลี้หนีไกล ฯ |
|
ร่าย๏ ยามเย็นไผททรงรถ งดงามม้าเทียมสี่ สู่ที่คุ้มเจ้าหลวง ปวงราชภัฏตามองค์ เจ้าอินทยงยศจร รับภูธรแทบทวาร เชิญขึ้นสถานที่อยู่ สู่บัลลังก์ตั้งไว้ แล้วสั่งให้ลิเกเล่น เป็นเรื่องพระยาน้อย ต้อยชมตลาดร้านแป้ง แย่งภรรยามะเทิ่งไป เป็นใจเราแม้ถูก ยื้อลูกเมียเช่นนั้น จักกลั้นโกรธบมิไหว คงครรไลไล่ตาม พยายามยื้อแย่งคืน แม้นขืนขัดเจ้านาย จักต้องมะลายชีพไซร้ คงมิได้อาลัยนา เมื่อเพลาสมควร เจ้าทูลชวนราชา คลาเข้าเสวยเครื่องว่าง อันจัดอย่างประณีตสรรพ์ ครั้นพระองค์เสร็จเสวย เจ้าหลวงเผยกล่าวคำ สำแดงจิตต์ยินดี ที่เสด็จถึงลำพูนไชย ไผทจึงมีดำรัสตอบ ขอบใจตัวเจ้าหลวง กับปวงเจ้าบุตรหลาน ผู้จัดการรับเสด็จ เสร็จออกประทับบัลลังก์ ให้เริ่มตั้งวงเพลง บรรเลงเรื่องโคบุตร สุดรักอัครมเหษี ลี้หลบทิ้งนางอำพัน นางเดือดดันรันทดแสน ขึ้งแค้นเหลือขัดใจ จึงสาวใช้สนิทพลัน รับฉันทะเจ้าตน จรดลสู่อาวาส หาเถรฉลาดทางเสน่ห์ หญิงเจ้าเล่ห์เจ้ากล อ้อนวอนจนเถรยอม พร้อมใจทำตามงก พวกตลกเล่นสนุกนัก ชักคนดูเฮฮา จนเพลาดึกไซร้ จึ่งเสด็จทรงรถให้ ขับเข้าคืนสถาน ฯ
โคลง ๔๏ ครั้นดวงสุริยล้ำ |
อัมพร |
องค์พระเกียรติกำจร |
จังหวัดฟ้า |
ทรงรถเลิดดังอมร |
รัตนาสน์ |
สี่อัศว์ขาวสอาดอ้า |
ย่างเยื่องไวครัน ฯ |
๏ บรรลุอาวาสอ้าง |
นามมา เก่าแฮ |
เรียกอุโมงค์ใต้รา |
เมศร์ยั้ง |
เพื่อพักผ่อนอาชา |
ราวกึ่ง โมงพ่อ |
ริมนั่นถึงที่กั้ง |
สกัดแคว้นนพี ฯ |
๏ ภูมีทรงรถร้าน |
ตามทาง |
ถนนเรียบเปรียบระดับวาง |
แบบเค้า |
ไปประทับที่ป่ายาง |
อีกครู่ |
แล้วรีบรัดเร่งเต้า |
ไต่เข้าเชียงอินทร์ ฯ |
โคลง ๓๏ รุ่งวันที่ยี่สิบเก้า |
สมเด็จเจ้าเสด็จช้าง |
พร้อมหมู่ราชภัฏสล้าง |
สลับต้อยตามไผท ฯ |
โคลง ๔๏ คชไคลไป่เนิ่นช้า |
ถึงพนม |
ดอยสุเทพนามนิยม |
ออกอ้าง |
แม้มีสุรเทพสม |
ดังชื่อ |
จงเมตตาค่อยบ้าง |
ประสิทธิ์ให้จินต์สม ฯ |
๏ พนมชันสูงเยี่ยมช้าง |
ยังอาจ |
ปีนแทบเขตต์อาวาส |
ยอดไซร้ |
สรรพสิ่งจักสามารถ |
กระทำเสร็จ |
แม้อุตส่าห์คงจักได้ |
หมดสิ้นดังประสงค์ ฯ |
๏ ยามลงพระเสด็จเต้า |
โดยบาท |
ลงรวดลุผาลาด |
จึ่งยั้ง |
เจ้าหลวงและปวงญาติ |
วงศสะพรั่ง |
ต่างประดิษฐโภชน์ตั้ง |
เครื่องไท้ราชา ฯ |
๏ แม้อาสนะลาดล้วน |
แผ่นผา ก็ดี |
ฤๅยี่ภู่ปูหนา |
นุ่มแล้ |
แม้มีโภชนา |
เอมโอช |
โอชะจักช่วยแก้ |
อาสน์กระด้างกลายสบาย ฯ |
๏ ครั้นบ่ายเสวยเสร็จแล้ว |
ภูวนาถ |
เสด็จไต่ลงโดยบาท |
แทบพื้น |
แล้วพระจึ่งทรงราช |
รถเฉิด ฉันพ่อ |
เสียงบาทอัศวครั่นครื้น |
ขับเข้าเวียงชัย ฯ |
๏ แล้วไผททรงเครื่องขึ้น |
อาชา |
ควบสู่คลับยิมคา |
นะไซร้ |
ฝรั่งริเล่นนานา |
เฉลิมเกียรติ พระนอ |
แสดงจิตต์ปราโมทย์ได้ |
รับไท้ราชา ฯ |
๏ สมาชิกยืนเยียดค้อม |
คำนับ |
นายกนำท้าวประทับ |
ที่แล้ว |
หญิงเชิญเครื่องเทียบกับ |
สุธารส |
พวกเล่นคลีจึ่งแคล้ว |
คลาศเข้าตีถวาย ฯ |
๏ กรหมายเก็งเหมาะไม้ |
กอบแรง |
ยงต่อยงยุดแยง |
แย่งแย้ง |
ต่างควบต่างตีแขง |
เข้าเขตต์ |
เหวี่ยงวัดแวงว่องแว้ง |
ไขว่คว้าขวับเขวียว ฯ |
๏ บัดเดียวคลีจบแล้ว |
แข่งอัศ วาเฮย |
ล้วนสุภาพบุรุษชัด |
เจ็ดผู้ |
นายเทียบมหาดเล็กรัช |
ทายาท |
ขี่ควบถึงก่อนกู้ |
เกียรติไว้ในสนาม ฯ |
๏ สามลาฝูงฝรั่งร้อง |
ถวายชัย ฮูเลฮา |
ฮิโห่โห่ฮิ้วไทย |
ต่อแต้ม |
บัดถ้วยรัชฏ์อำไพ |
ยืนยอบ ถวายนา |
ทรงรับที่ระฦกแย้ม |
โอษฐเอื้อนยินดี ฯ |
๏ จนระพีจรจวบใกล้ |
อัสดง |
เสด็จกลับบริพารบง |
แวดล้อม |
บ่ชิดบ่ไกลองค์ |
เกินเงื่อน งามพ่อ |
ดูดุจทวยเทพห้อม |
แห่เจ้าไตรตรึงส์ ฯ |
โคลง ๓๏ ที่สามสิบเสด็จจร |
วัดพระนอนชื่ออ้าง |
ที่ข่วงสิงห์สิงห์ข่วงช้าง |
เผือกซ้อนยวนตา ฯ |
๏ บ่ายราชาประพาส |
กาศและตามที่ร้าน |
ถนนท่าแพทั่วด้าน |
โปรดซื้อสิ่งของบ้างนา ฯ |
โคลง ๔๏ วันที่สามสิบเอ็ดเช้า |
จีนคณะ |
ผู้ร่มเย็นพึ่งพะ |
โพธิไท้ |
นำของจัดถวายพระ |
เยาวราช |
หมายมุ่งจะเสด็จให้ |
ประจักษ์แจ้งกตัญญู ฯ |
๏ ภูธรตอนบ่ายเต้า |
สู่ศา ลาเฮย |
ทรงแจกทานแก่ยา |
จกต้อย |
ในการที่คล้ายวา |
ระประสูติ มานา |
คนแก่นับห้าร้อย |
เศษปลื้มถวายพร ฯ |
๏ ตอนเย็นสงฆ์สวดซ้อง |
พุทธมนตร์ |
รวมยี่สิบหกตน |
นับถ้วน |
ในงานมิ่งมงคล |
สมัยประเสริฐ |
ปวงอมาตย์อีกเจ้าล้วน |
อยู่พร้อมเพรียงกัน ฯ |
ร่าย๏ ครั้นการเจริญพุทธมนตร์ มงคลสำเร็จไซร้ ไท้ประทับโต๊ะเสวยพลัน บรรดาเหล่าเจ้านาย อมาตย์หลายคนสะพรั่ง ทั้งชาวยุโรปบางท่าน ที่พระราชทานเกียรติยศ หมดเชิญรับพระราชทาน อาหารเย็นร่วมไท้ นั่งไกลใกล้ตามควร มวญมากปลื้มพร้อมกัน ครั้นจวนอิ่มควรเวลา จึงออกยานามมี สุรสีห์วิสิษฐศักดิ์ กล่าวพจน์ชักชวนประดา ผู้มาประชุมเรียงราย ถวายพระพรเยาวราช นารถจึงมีดำรัสตอบ ขอบใจพอควรการ แล้วภูบาลลีลา สู่พลับพลาพิธี เจ้านพีสีจัดเพลง มาบรรเลงเริงเล่น เป็นเครื่องเพลิดเพลินจริง ทั้งชายหญิงตั้งใจ เล่นให้สนุกเต็มที่ มีทั้งตลกแกมขัน ครั้นสองยามภูบาล สู่อุทยานดำเนิร เหล่ารับเชิญภาคหลัง ตั้งแถวเฝ้าพระองค์ พระเสด็จทรงโต๊ะเลย เสวยเครื่องว่างพอควร ทั้งทรงชวนให้เจ้า บางคนเข้ายืนห้อม ล้อมที่โต๊ะนั่นไซร้ ครั้นเสร็จเสวยหน่อไท้ เสด็จขึ้นจวนพลัน ฯ
โคลง ๔๏ ที่หนึ่งมกระใกล้ |
ถึงเพล |
สมเด็จพระหน่อนเรนทร์ |
ราชไท้ |
เสด็จออกและทรงประเคน |
บิณฑบาต |
เจ้าอมาตย์บางท่านได้ |
จัดพร้อมมาถวาย ฯ |
๏ เรียงรายสำรับตั้ง |
เป็นขนัด |
ต่างที่ต่างประจงจัด |
อร่ามล้วน |
เพื่อสนองพระคุณขัต |
ติยราช กุมารแฮ |
ผู้ถูกทรงเกณฑ์ถ้วน |
ทั่วหน้าปรีดิ์ครัน ฯ |
๏ สงฆ์ฉันสำเร็จแล้ว |
โมทนา |
สวดเสร็จถวายพรลา |
บพิตรเจ้า |
จึ่งปวงพวกที่มา |
ตามเสด็จ |
ชวนชักกันเข้าเฝ้า |
เกศน้อมถวายพร ฯ |
๏ นำวรพระยาราชสร้อย |
วัลลภา นุสิษฐ์แฮ |
เกศก่งกล่าววาจา |
แด่ไท้ |
ข้าบาทต่างปรีดา |
ดลสู่ พระเฮย |
ดุมคู่หนึ่งจัดได้ |
จักน้อมนำถวาย ฯ |
๏ เรี่ยรายกันทุกผู้ |
ปวงตาม เสด็จมา |
เป็นเครื่องระฦกยาม |
ประสูติท้าว |
หนึ่งชันม์พระพลันงาม |
ห่อนงด สราญเลย |
หนึ่งพระจักต่อด้าว |
จุ่งได้ฤทัยเจริญ ฯ |
๏ จงดำเนิรแต่ทิศขึ้น |
ตลอดครา |
ข้าจักเปรมปรีดา |
ทั่วผู้ |
ศัตรูหมู่พาลมา |
จงพะ พ่ายนอ |
จงสิทธิ์ดังข้าอู้ |
อ่านโอ้อวยถวาย ฯ |
๏ ตอนบ่ายหมู่ม่านเงี้ยว |
พากัน |
พร้อมกับตั้งสู้พลัน |
นอบเกล้า |
เฝ้าทูลบาททรงธรรม์ |
อ้าอ่าน สารแฮ |
แสดงจิตต์ภักดิ์แด่เจ้า |
ปกแคว้นแดนสยาม ฯ |
๏ มีความปราโมทย์พร้อม |
ถวายชัย |
ยุพราชเจริญวัย |
วุฒิแผ้ว |
ขอเดชะพระไตรย |
รัตนเลิด |
จงปัดปวงปัทว์แคล้ว |
คลาศไร้วรองค์ ฯ |
๏ ไผทจึ่งทรงตอบโต้ |
วาจา |
ขอบจิตต์ปวงผู้มา |
สู่ไท้ |
พระองค์ก็เมตตา |
หมู่ม่าน ครันแฮ |
ขอสิ่งประเสริฐได้ |
ประสิทธิ์ให้เจริญเทอญ ฯ |
ร่าย๏ อนึ่งในบ่ายวันนี้ พระนพีสีพิศาลคุณ สุนทรพรตเค้าคณะ ธรรมยุติกะนิกาย ถวายธรรมเทศนา มงคลคาถาที่ เก้ามีเนื้อความธรรม ตะโปพรหมจริยะ อริยะสัจจานทัสน์ นิพพานสัจฉิกิริยา สี่นี้นาเป็นสิ่ง มิ่งมงคลอุดมสรรพ์ ครั้นเทศนาสำเร็จ พระเสด็จสู่ศาลา ผู้ดีชราหญิงชาย ถวายอภิวาทคอยเฝ้า หน่อนาถเจ้าจำแนก ผ้าย้ายแยกครบเค้า เจ้าราชสัมพันธวงศ์ นำจำนงถวายพร สุนทรพจน์จะเจน ถวายนเรนทรยุพราช ให้พระปราศข้องทุกข์ เสวยสุขทุกคืนวัน ครั้นกล่าวเสร็จภูบาล ทรงโปรยทานทั่วไป ให้ปวงเสนามาตย์ ทั้งราชภัฏคนงาน ทั้งหมดขานศัพท์ซ้อง ชวนชักกันกึกก้อง โห่ฮิ้วถวายราชานอ ฯ
โคลง ๓๏ ออกยาสุรสีห์วิสิษฐ์ |
ศักดิ์คิดเชิญเหล่าข้า |
บาทอีกฝรั่งครบหน้า |
พรั่งพร้อมสโมสร ฯ |
๏ เฝ้าวรบาทภูบาล |
ในอุทยานนั่นไซร้ |
เพื่อพระเกียรติหน่อไท้ |
ธิราชเจ้าจอมสยาม ฯ |
โคลง ๔๏ ยามเย็นเยาวราชไท้ |
ทรงรัถ ยานแฮ |
ทอดพระเนตรประทีปจัด |
แต่งซุ้ม |
ในวันประสูติขัต |
ติโยรส |
บ้านราษฎรและคุ้ม |
แต่ล้วนควรยล ฯ |
โคลง ๓๏ ทุกถนนประพาสทั่วถึง |
จึงหวนรถไต่เต้า |
ม้าสี่ขับรี่เข้า |
สู่เบื้องจวนพลัน ฯ |
โคลง ๔๏ ครั้นสองทุ่มเศษได้ |
เวลา |
ผู้พระทรงกรุณา |
โปรดให้ |
อัญเชิญนั่งโต๊ะครา |
นี้ร่วม พระนอ |
เดิรด่วนสู่นาถไท้ |
พรั่งพร้อมเพรียงกัน ฯ |
๏ ทรงธรรม์จึ่งโปรดให้ |
จับฉลาก |
มีเครื่องแต่งมวญมาก |
จัดตั้ง |
ต่างตนแต่งเครื่องหลาก |
หลายชนิด |
ไทยฝรั่งจีนแขกทั้ง |
หมดล้วนชวนยล ฯ |
๏ ทุกตนบริโภคแล้ว |
ภูธร |
จึ่งเสด็จนำหมู่จร |
ออกหน้า |
ไปทอดพระเนตรละคอน |
เจ้าจัด ถวายนา |
สนุกนักจักเริงร้า |
โอษฐเอื้อนฮาหา ฯ |
ร่าย๏ ที่สองวาระเช้า หน่อพุทธเจ้าทรงรถ แสนงามงดม้าเรียบ สองคู่เหยียบดินสนั่น รถหลายคันขับตาม ข้ามฟากทางสะพานดล ถึงตำบลจะสร้าง โรงเรียนกว้างควรดู อันเหล่าครูผู้เพียร สอนคฤสเตียนลัทธิ อะเมริกะชาติ ฉลาดจัดทำขึ้นไว้ ปางรถไผทขับถึง จึงอาจารย์แฮร์ริส เชิญพระอิศรธำรง ทรงดำเนิรสู่บัลลังก์ ฟังครูแมคกิลเวรี่ กล่าววาทีอ่านอ้อน วอนพระผู้เป็นใหญ่ ในสกลเป็นที่นบ คำรพแห่งพวกเขา ให้ธเอาธุระ ปกป้องพระราชา และโอรสาธิราช ให้สองนาถภิญโญยศ พจน์จบลงอาเมน หมอแมคเคนจึ่งอ่าน สารเป็นภาษาสยาม มีเนื้อความยืดยาว กล่าวว่าชาวอเมริกะ ได้รับพระกรุณา แห่งราชาจอมไทย ได้อยู่เย็นเป็นสุข นฤทุกข์ภัยพาล อาจกอบการบมิขัด สอนลัทธิเยซู ปวงรู้สึกพระคุณ พระการุญภาพยิ่ง มิ่งเมืองนี้เจริญวัย อาศัยพระปรีชา ญาณแห่งราชานาถ ราษฎรไทยเหลือเกษม ชาติอื่นเปรมทั่วกัน ครั้นผองจบอาจารย์ แฮร์ริสอ่านสารเปรื่อง อธิบายเรื่องปรารภ จบแล้วเชิญยุพราช ให้ยุรยาตรทรงวาง ศิลากลางสนามใหญ่ ให้เป็นฤกษ์เหลือดี ครั้นภูมีตรัสตอบ ขอบใจเสร็จเสด็จลง ทรงจับเกรียงถือปูน แล้วศิลาศูนย์ทรงวาง กลางที่ตามกำหนด ประทับรถบมิช้า สารถีขับสี่ม้า กลับเข้าคืนที่ประทับนา ฯ
โคลง ๔๏ สุริยาเคลื่อนบ่ายคล้อย |
เพลา ควรแฮ |
เสด็จประทับราชรถา |
ขับด้น |
สู่สถานถิ่นพลา |
กรจัด รับนา |
พระยาฤทธิไกรร้น |
รับไท้ทูลเชิญ ฯ |
๏ นำดำเนิรสู่ที่ได้ |
จัดสรร |
ภายนอกผิวยลฉัน |
เฉกป้อม |
ภายในช่างผ่อนผัน |
แผกพลับ พลานอ |
ประดิษฐ์เยี่ยงคูหาห้อม |
ห่อห้องยลหาย ฯ |
๏ นายทหารช่างจัดถ้ำ |
ที่วิไล |
ในสถิตโรงเมรัย |
หลากล้น |
รูปคชอีกสิงห์ไกร |
เกรียงหมอบ |
ต่างๆช่างแคะค้น |
คิดตั้งต่างกัน ฯ |
๏ การขันแข่งเริ่มต้น |
ระวางพล ทหารแฮ |
แข่งคู่แข่งเร็ววน |
วิ่งเปี้ยว |
สามขาคู่โทตน |
เท้าติดกันนา |
ข้างไล่ข้างลดเลี้ยว |
หลีกลี้หนีตน ฯ |
๏ บัดดลธเสด็จด้วย |
มาตยา ปวงนอ |
ยลสิ่งปวงประดา |
ประดับไว้ |
รอบราชพลับพลา |
เสร็จเสด็จ เสวยแฮ |
พระยาฤทธิไกรได้ |
ดื่มพร้องยินดี ฯ |
๏ พาทีเสร็จแล้วเริ่ม |
บุบผยุทธ |
ต่างเหวี่ยงวิ่งอึงอุตม์ |
แอบขว้าง |
ช้างหนีไล่อุตลุด |
ตลบหลีก กันนา |
กระดาษบุบผชาติสล้าง |
สลับซ้อนเรียงสี ฯ |
๏ ภูมีจึ่งเสด็จขึ้น |
สู่พลับ พลาเฮย |
การเล่นต่างร้องรับ |
เริ่มต้น |
เพลาสองทุ่มลับ |
เศษล่วง หน่อยนอ |
กาละควรธร้น |
รีบเข้าคืนสถาน ฯ |
โคลง ๓๏ วันที่สามจวนเพล |
ธทรงประเคนกับเข้า |
ถวายแก่สี่ตู๊ะเจ้า |
เรียกร้องครูบา ปวงแฮ ฯ |
โคลง ๓๏ นิมนตมาตนที่หนึ่ง |
ถึงที่สามที่ห้า |
รวมสวดซ้องเสียงจ้า |
อย่างเบื้องแบบโย นกนอ ฯ |
โคลง ๔๏ ถึงวันที่สี่ได้ |
โมงสาม เศษแล |
พระเสด็จบริพารตาม |
ติดต้อย |
เรือนางปะลำงาม |
เป็นอาสน์ |
ผูกหน้าโขนพู่ห้อย |
ข้างเบื้องแบบบรรพ์ ฯ |
๏ ครั้นได้วรฤกษ์แล้ว |
ขบวนจรัล |
ปวงพวกส่งเสด็จพลัน |
โห่ร้อง |
พระสงฆ์สวดชยัน |
โตเพิ่ม มงคลนา |
เสียงสินาดยิงสนั่นก้อง |
ส่งไท้ทรงธรรม ฯ |
๏ ลำเอกพระยายอดสร้อย |
เมืองขวาง |
ลงเพื่อจักนำทาง |
เสด็จไท้ |
น้อยสมพะมิตร์พลาง |
คุมตำรวจ |
ลงอยู่ลำโทไซร้ |
ติดต้อยตามดี ฯ |
๏ ลำตรีนำหน่อไท้ |
ภูบาล |
บรรทุกหมู่พลทหาร |
เศิกกล้า |
หลวงสรชิตพลการ |
คุมแม่น |
เรือแล่นบ่ห่างหน้า |
ที่นั่งไท้ราชา ฯ |
๏ งามนาวาพระผู้ |
เพ็ญยศ |
งามรูปแม้นหล่อหมด |
เชิดช้อย |
งามลายกนกเขียนงด |
งามอร่าม |
งามพู่จามรีย้อย |
หยาดเย้ายวนลม ฯ |
๏ งามสมเป็นอาสน์ไท้ |
สถิตเหนือ เกศนา |
งามยิ่งเรืออื่นเหลือ |
เปรียบได้ |
งามอีกเหล่าลูกเรือ |
แลสะพรั่ง |
งามธวัชเยาวราชไท้ |
ช่อฟ้าแลไสว ฯ |
๏ ถัดไปเรืออื่นล้น |
แล่นหลาม |
แลหลากแต่ล้วนงาม |
เงื่อนล้ำ |
เปรียบหมู่มัสยาตาม |
พระยานาค นายนอ |
แลลิ่วหลามแหล่งน้ำ |
ลิบล้ำลำบึง ฯ |
๏ วันนี้หมู่ม่านได้ |
คิดจัด เรือนา |
มีแม่หญิงงามหัดถ์ |
อ่อนฟ้อน |
เข้าพิณพาทย์แห่ขัต |
ติยราช กุมารแฮ |
หมายมุ่งจักให้ช้อน |
เชิดอ้าเกียรติไผท ฯ |
๏ จงใจจัดให้คล้าย |
แห่องค์ |
อังวะขัตติยะพงศ์ |
เกียรติฟุ้ง |
เพื่อแสดงซึ่งความจง |
จิตต์ภักดิ์ |
ส่งเสด็จแทบท้องคุ้ง |
เกศก้มบังคมลา ฯ |
๏ นาวาผ่านบ้านท่า |
แสนยศ |
อีกสบปะปรากฎ |
ภีนไซร้ |
ถึงมียศกำหนด |
แสนอย่าง ก็ดี |
แม้ยศกันบ่ให้ |
สบน้องยอมคืน ฯ |
๏ ครั้นถึงปากทลุไท้ |
หยุดผทม |
นามที่ชวนอารมณ์ |
เหว่ว้า |
แม้อาจทลุโลกสม |
ดั่งชื่อ ตำบลนา |
พี่จักมิรอช้า |
รีบร้นดลสถาน ฯ |
๏ แม่ขานหวานเสนาะแท้ |
จับใจ |
ทนรับจากห้องใน |
แจ่มแจ้ว |
แม้ลี้จักลี้ไย |
หลบภัศ ดาฤๅ |
มาเถิดนางยิ่งแก้ว |
ค่าน้องควรเมือง ฯ |
๏ ถึงจอมทองจึ่งไท้ |
เยาวราช แรมนา |
ขอเดชะพระธาตุ |
ปกป้อง |
เรือจงอย่าเกยหาด |
เดิรสดวก ไปเทอญ |
ข้อยจักได้ลุห้อง |
นิทรน้องเนาเรือน ฯ |
๏ แม่สวยสรวยจักสู้ |
นวลนาง ได้ฤๅ |
ตัวนุชยิ่งสาวสุรางค์ |
ฟากฟ้า |
แม่แจ่มศะศิแจ่มจาง |
ยามปรียบ แม่แม่ |
จันทร์ส่องมาสบหน้า |
นุชแล้วจำขวย ฯ |
๏ เรือล่องตามร่องน้ำ |
เร็วมา |
ผาดชิดเฉียดตีนผา |
วิ่งชู้ |
หนุ่มสาวรอบลักพา |
กันเร็ด หนีพ่อ |
เกรงจักพรากสวาทสู้ |
โดดให้ประลัยรวม ฯ |
๏ ถึงฮอดนอนนึกปลื้ม |
ในใจ |
เรารอดสรรพโรคภัย |
ฬ่อหน้า |
น้ำสรงซึ่งพระชัย |
โลหนพ |
เยาวราชทรงรดข้า |
บาทคุ้มภัยสรรพ์ ฯ |
๏ ที่เจ็ดเรือจอดแคว้น |
มืดกา |
จวนหมดเขตต์แดนทา |
ฮนไซร้ |
พระยาสุจริตรักษา |
ตากนะ ครินทรแฮ |
มารับเสด็จนาถไท้ |
ที่นี้ถวายพร ฯ |
๏ ผ่านเกาะวางหมากข้า |
ขอผอง พรเฮย |
เมี่ยงหมากพลูหนุ่มวาง |
เซ่นเจ้า |
ขอเจ้าจุ่งให้สอง |
สบสวาท ไวเทอญ |
ให้ล่องเรือสดวกเข้า |
จวบแคว้นแดนกรุง ฯ |
๏ ผาฆ้องคิดฆ้องเมื่อ |
วิวาหะ |
เราสะดับพุทธมนตร์พระ |
สวดซ้อง |
น้ำเศกกรอกสังข์ประ |
เกล้าเกศ |
หึ่มหึ่มฆ้องลั่นก้อง |
ประกาศให้ชัยเฉลิม ฯ |
๏ ถึงอุมแปชื่อห้วย |
แหล่งปัน เขตต์แฮ |
พายัพโยนกขัณฑ์ |
ขอบด้าว |
กับเมืองตากต่อกัน |
ไปจาก นี่นา |
ใจเบิกไม่กี่ก้าว |
จักได้เห็นเรือน ฯ |
๏ ลุผาหญ้าละล้ำ |
แลหลาม ย่านนา |
หญ้าละผาจะงาม |
ห่อนได้ |
เหมือนชายเมื่อถึงยาม |
หญิงหลีก ละพ่อ |
จักหมดศรีสง่าไซร้ |
บัดนั้นทันที ฯ |
๏ ห้อมแสนนึกครั้งอยู่ |
นวพา ราเฮย |
ตามกาศนับแสนนา |
เรศห้อม |
สาวรุ่นมุ่นเกศา |
ซิ่นนุ่ง สวยดี |
เนตรพิศแต่จิตต์น้อม |
เสน่ห์น้องนางเดียว ฯ |
๏ แก่งค้อนค้อนขอดสู้ |
ดวงสมร ได้ฤๅ |
ยามแม่แสร้งทำงอน |
เงื่อนเย้า |
ค้อนควักจักให้วอน |
ง้อเล่น |
แม้พี่รู้เท่าเจ้า |
กลับยิ้มยวนเคียง ฯ |
๏ ลุแก่งช้างร้องล่อง |
สดวกดี |
เสียงคชฟังบ่มี |
สักเตื้อ |
ยินอยู่แต่วารี |
ไหลประทะ หินแฮ |
ฤๅอุทกอทึกเกื้อ |
กอบให้นามขนาน ฯ |
๏ ที่เกาะพระแก้วยุพ |
ราชา แรมเฮย |
ตั้งจิตต์คิดบูชา |
ประณตไหว้ |
ขอรัตนปฏิมา |
จงโปรด |
ป้องปกข้าบาทให้ |
กลับบ้านดายดี ฯ |
๏ ผาม่านเปรียบม่านแก้ว |
กิริยา |
แผนพ่อพิศเลขา |
สลับสล้าง |
แหวกมองสบเสนหา |
นางแน่ง น้อยแม่ |
เรียมพี่แหวกแกรกบ้าง |
เผื่อได้เคียงเนียง ฯ |
๏ แก่งสร้อยชวนโศกโอ้ |
สายใจ |
ยามแรกตัวพี่ไคล |
ห่างสร้อย |
สายสร้อยเอี่ยมอุไร |
พันตวัด กายแม่ |
นึกอิจฉาสร้อยน้อย |
ชิดน้องอยู่เนือง ฯ |
๏ อุมทลุแม้ทลุได้ |
จริงอย่าง นามนา |
คงปราดไปเคียงนาง |
นิ่มเนื้อ |
นี่แก่งกลับมาขวาง |
ทางผิด ชื่อฮือ |
โอ้แก่งไยบ่เอื้อ |
โอบบ้างเลยหนอ ฯ |
๏ แก่งอาบนางน่าเศร้า |
ใจเหลือ |
ผิวะนุชมาเหนือ |
นี่ไซร้ |
พี่คงสั่งรอเรือ |
ชวนนุช อาบจริง |
นางเงือกงามแม้ได้ |
สบน้องเมินอาย ฯ |
๏ หาดผาเหล็กที่ตั้ง |
พลับพลา |
ก้อนเหล็กยังต่อยผา |
ละเอียดได้ |
แม้เพียรสิ่งใดมา |
ข้องขัด ได้ฤๅ |
เพียรเปรียบก้อนเหล็กไซร้ |
ต่อยก้อนหินทลาย ฯ |
๏ แก่งสองแควชื่อฉะนี้ |
เหตุไร |
ฤๅศิลาแบ่งไหว |
ย่านน้ำ |
สายน้ำแบ่งแยกไกล |
กลับร่วม สายแม่ |
แม้พรากสองสวาทล้ำ |
ไม่ช้ากลับรวม ฯ |
๏ ผาหมอนแก่งแนะให้ |
หวนคราง ครวญเฮย |
เขนยยั่วตริเป็นนาง |
สุดเศร้า |
หนำซ้ำแก่งผาขวาง |
กางกีด พี่นา |
ยิ่งอยากรวดถึงเจ้า |
กลับแกล้งขวางทาง ฯ |
๏ เกาะค้างเออเกาะนี้ |
น่าขาม ชื่อจริง |
แม้นี่เรือติดตาม |
ชื่อบ้าง |
พี่คงคิดพยายาม |
ว่ายต่อ ไปนา |
คงมิยอมหยุดค้าง |
อยู่แม้โมงเดียว ฯ |
๏ ครั้นถึงตละน้อย |
ตละหลวง คู่แฮ |
ชวนนึกขึ้นในดวง |
จิตต์ข้อย |
ตละเม็งหมื่นแสนปวง |
สรวยสุด |
หาเทียบเปรียบนุชน้อย |
หนึ่งได้ไป่มี ฯ |
๏ แก่งผาประทุนผ่านแล้ว |
ไป่นาน นักนา |
บรรลุแหล่งท่าพิมาน |
เหมาะมั่น |
ประทุนแม่นิ่มนงคราญ |
เคียงอยู่ |
พิมานเทียบประทุนนั้น |
พี่ต้องขอประทุน ฯ |
๏ เรือล่องตามน้ำลิ่ว |
แลลาย ตาเฮย |
ผ่าเกาะผายแก่หลาย |
แหล่งบ้าน |
เกาะขมิ้นนึกขมิ้นสาย |
สวาทชุบ สไบแม่ |
เดียดสุทินขมิ้นจ้าน |
จับเนื้อนวลเสมอ ฯ |
๏ ล่วงขมิ้นลุย่านบ้าน |
ปูนมี นามนา |
ปูนว่าปูนปนสี |
เสียดเคล้า |
ยามจีบแม่ควักทวี |
เทวศคร่ำ สูฤๅ |
ฤๅแม่มีสุขไป่เศร้า |
อยากแจ้งใจไฉน ฯ |
๏ วังหม้อมีธาตุตั้ง |
แต่กาล ก่อนนา |
ได้นบพระธาตุมาน |
มนัสแผ้ว |
จุดเทียนธูปนมัสการ |
เศียรประณต |
จงประสิทธิ์ให้ข้าแคล้ว |
คลาศพ้นปวงภัย ฯ |
๏ แรมบ้านตาดตีนตั้ง |
พารา เก่าแฮ |
เดิมเรียกตักกะสิลา |
ชื่อใช้ |
เรียกตามแหล่งวิทยา |
ลัยพุทธ กาลพ่อ |
ผู้เสร็จศึกษาไซร้ |
สุขสิ้นจิตต์สม ฯ |
๏ หนองบัวเหนือชื่อบ้าน |
ผ่านมา |
นึกเมื่อพลายแก้วพา |
นิ่มน้อง |
วันทองจากเคหา |
พักเก็บ บัวแม่ |
แสนสุขใดบ่ข้อง |
ขัดให้คลายเกษม ฯ |
ร่าย๏ วันที่สิบสองไซร้ เรือทรงไท้จอดหน้า ที่ว่าราชการเมือง ตากเรืองเกียรติแต่ก่อนมา ครั้นสามนาฬิกาบ่าย พระผันผายสู่สถาน ว่าราชการตากนคร ภูธรทอดพระเนตรเสร็จ เสด็จประทับณห้องกลาง พลางเหล่าข้าราชการ ทั้งฝ่ายทหารพลเรือน บมิเชือนช้ารีบไคล ไปยืนเรียงเรียบแถว แล้วผู้ว่าราชการ เนืองจึงขานนามกร ถวายภูธรเรียงตน จนครบทุกท่านเสร็จ พระเสด็จสู่ลาน ทวยหาญตั้งแถวไว้ ให้ทรงตรวจเป็นขนัด ยังฝึกหัดกำลังกาย หมายให้พลากรแข็ง แรงเริงรุดปัจจามิตร ยามประชิดบ่มิย่อ ต่อนั้นหัดท่าปืน ยืนนั่งยิงสรไฟ น่ามิใคร่ครั่นคร้าม ขามขยาดยามโรมรัน ครั้นธทอดพระเนตรเสร็จ สมเด็จหน่อนาถไท้ ธครรไลสู่วัด บริษัทกิมเซ่งหลี มีหลวงจิตรจำนง ลงนามเป็นหัวหน้า ศรัทธาปฏิสังขรณ์ งามงอนเงื่อนงามงด อุโบสถถูปวิหาร กุฎาคารโรงเรียน สอนอ่านเขียนเลขวิชชา ธธรรมยุติกาสงฆ์สถิต หลวงจิตรจำนงทูลวอน ให้ภูธรธขนาน นามประทานวัดใหม่ ไท้กรุณาโปรดให้ ไว้ว่าสีตลาราม ตามนามเดิมหลวงจิตร แล้วบพิตรธกลับ มาสู่พลับพลาพลัน ในวันพรุ่งตอนเช้า ธเข้าสู่ศาลเมือง ทรงฟังเรื่องราวคดี อันมีในวันนั้น ครั้นตะวันบ่ายได้สาม นาฬิกาตามกำหนด ธเลี้ยวลดประพาส ตามตลาดเลยสู่วัด หัวเดียษถนัดแนวทาง เสวยเครื่องว่างนานา อันข้าราชกิจมี จิตต์ยินดีแต่งไว้ ยามหน่อไท้เสวยเสร็จ เสด็จลงนาเวศน้อย แล่นล่องตามร่องคล้อย เคลื่อนเข้าคืนสถาน ฯ
โคลง ๓๏ วันที่สิบสี่เพลา |
นาฬิกาเกือบห้า |
นาเวศทรงโอ่อ้า |
ล่องน้ำแลเพลิน ฯ |
โคลง ๔๏ เชียงทองนึกเมื่อครั้ง |
ขุนแผน |
ทำศึกเชียงทองแดน |
สุดแกล้ว |
ได้ลาวรูปงามแสน |
ยามเศิก สิ้นแล |
พี่เสร็จราชกิจแล้ว |
สุขได้ดั่งพลาย ฯ |
๏ บ้านห้วยแม่ท้อผ่าน |
ริมทาง |
นึกหวั่นว่านวลนาง |
อยู่ห้อง |
จักคอยพี่กลับพลาง |
จิตต์จัก ท้อแม่ |
รอหน่อยเถอะนิ่มน้อง |
ไป่ช้าผัวเคียง ฯ |
๏ ประจำรักรักพี่ต้อง |
ประจำจริง |
ค้นโลกบ่พบหญิง |
เปรียบเจ้า |
ใจพี่เปรียบผีสิง |
ศาลจอด ใจแม่ |
หญิงอื่นหมื่นแสนเก้า |
โกฏิแพ้นางเดียว ฯ |
๏ เย็นเรือสมเด็จเจ้า |
จอดวัง เจ้านา |
นามถิ่นเหมาะดูดัง |
คาดไว้ |
ว่าไผทจักต้องยั้ง |
ยับอยู่ พนมพ่อ |
ควรยิ่งควรที่ไท้ |
จักยั้งวังพนม ฯ |
๏ พรมแดนเมืองตากนี้ |
จรดเพียง |
คลองชื่อวังเจ้าเตียง |
เขตต์เข้า |
ต่อไปลุแดนเวียง |
กำแพงเพ็ชร์ |
เรือผ่านหน้าศาลเจ้า |
ที่นี้ถือขลัง ฯ |
๏ ท่าดูนนำตริได้ |
ในครา นี้เฮอ |
ก่อนรักแม่หนักหนา |
อยู่แล้ว |
แต่ยามห่างเสนหา |
มาเดี่ยว |
ความรักนางยิ่งแก้ว |
เติบขึ้นทวีคูณ ฯ |
๏ เรือจอดณเกาะน้อย |
นามขนาน พิมูนนา |
พระวิเชียรปราการ |
ประณตไท้ |
กราบทูลแก่ภูบาล |
ในบัด นี้แฮ |
กำหนดประพาสไว้ |
หมดสิ้นในเมือง ฯ |
๏ ที่สิบหกเรือผ่านใกล้ |
วัดดำ น้ำนา |
ที่พิสูจน์ความกระทำ |
อย่างกี้ |
ผู้ดำอดทนชำ |
นะถนัด |
เป็นแบบมาเช่นนี้ |
เมื่อครั้งเบาราณ ฯ |
๏ เออเกาะปู่เจ้าเอะ |
ไฉนนา |
จึ่งหยิบชื่อนี้มา |
ยกให้ |
ฤๅปู่ฤทธิเรืองอา |
นุภาพ |
เกิดเมตตาชาวใต้ |
ล่องน้ำมาเยียน ฯ |
๏ จวนเที่ยงเรือจอดหน้า |
กำแพงเพ็ชร์ |
เรืองเกียรติรับศึกเผด็จ |
ศึกแพ้ |
จุดพลุลั่นรับเสด็จ |
แทนสินาด |
ทวยราษฎร์ลงเรือแปล้ |
เพียบน้ำแข่งถวาย ฯ |
โคลง ๒๏ บ่ายสี่โมงล่วงแล้ว |
พระเสด็จจากเรือแก้ว |
เสด็จเต้าตามทาง ฯ |
|
โคลง ๓๏ ศาลากลางศาลคุก |
ทุกสถานทรงตรวจไซร้ |
ทั่วหมดจึงหน่อไท้ |
กลับเข้าคืนสถาน ฯ |
๏ ค่ำภูบาลเสวยเสร็จ |
เสด็จออกมุขหน้าแล้ |
ละคอนตลกเล่นสนุกแท้ |
ทั่วทั้งหมดเริง ยิ่งนา ฯ |
โคลง ๔๏ วันพรุ่งโอรสเจ้า |
ทรงอา ชาแฮ |
ดลสู่เขตต์พารา |
เก่าไซร้ |
ข้ามคูป่ายปีนปรา |
การเก่า |
พิศพิศเวียงนี้ให้ |
เหี่ยวแห้งใจจริง ฯ |
๏ มิ่งเมืองเรืองเกียรติฟุ้ง |
แต่ครา ก่อนแฮ |
เป็นที่มีราชา |
ดิลกด้าว |
ศรีรัตนปฏิมา |
เคยสถิต |
กำแพงเพ็ชร์เดชอะคร้าว |
บัดนี้เป็นพง ฯ |
๏ ปลงจิตต์ลองคิดย้อน |
ยามเวียง |
มีนิเวศน์ประสาทเรียง |
สลับสล้าง |
บริบูรณ์สรรพสิ่งเพียง |
เวียงฟาก ฟ้าพ่อ |
พลรบครบแสะช้าง |
พรั่งพร้อมเสนา ฯ |
๏ อาวาสปรางค์ธาตุล้วน |
แลตระการ |
พร้อมอุโบสถ์กุฎีวิหาร |
เลิดล้ำ |
เทวรูปสถิตสถาน |
ไพจิตร |
หาเขตต์เวียงใดก้ำ |
กว่านี้มีฤๅ ฯ |
๏ ชนฦๅเดชราชเจ้า |
กำแหง เก่านา |
ปวงดัษกรพ่ายแรง |
ฤทธิไท้ |
ไป่นานซิพยัคฆ์แฝง |
ในนิเวศน์ ร้างพ่อ |
นี่แนะให้เห็นได้ |
โลกล้วนอนิจจา ฯ |
๏ ราชาเกียรติเกริกกล้ำ |
แดนไตร |
ทรงยศปรากฎใน |
แหล่งหล้า |
ถึงกาลธล่วงไป |
ตามโลก |
อัครเรศเดชโอ่อ้า |
ไป่เพี้ยงปวงตน ฯ |
๏ แม้ชนผู้จัดสร้าง |
ของสถาน |
จักล่วงลับไปนาน |
แน่ไซร้ |
ป้อมคูและปราการ |
ยังอยู่ |
แสดงความอุตส่าห์ให้ |
ประจักษ์แจ้งแก่ตา ฯ |
๏ แต่ปราการและป้อม |
ประตูคง |
ยังต้องทะลายลง |
สักครั้ง |
มั่นจริงก็แต่ตรง |
บุญบาป |
เราจึงควรแต่ตั้ง |
จิตต์เกื้อการกุศล ฯ |
โคลง ๓๏ ปวงข้าราชการเมือง |
จัดเครื่องเอมโอชไว้ |
ถวายแด่พระหน่อไท้ |
เสร็จล้วนยินดี ฯ |
๏ โภชนาหารรสหลาก |
ทั้งบุหรี่หมากจัดพร้อม |
ผู้ว่าราชกิจน้อม |
เกศเกล้าทูลถวาย ฯ |
โคลง ๔๏ บ่ายห้าโมงเศษแล้ว |
ภูบาล |
ยุรยาตรสู่ทำเลสถาน |
กะตั้ง |
ศาลาว่าราชการ |
เมืองใหม่ |
ถึงถิ่นธยับยั้ง |
อยู่หน้าพารา ฯ |
๏ เทศาก้มเกศน้อม |
ทูลเยาว ราชแฮ |
เชิญเสด็จทรงเจิมเสา |
เอกไซร้ |
เสานี้จักถือเอา |
เป็นหลัก ฤกษ์นา |
ข้าราชกิจจักได้ |
สวัสดิ์พร้อมเพรียงกัน ฯ |
๏ ทรงธรรม์โปรดรับถ้อย |
ทูลวอน |
ธแตะแจะเจิมขอน |
เสร็จแล้ว |
ทรงปักธวัชเงื่อนงอน |
หมายแหล่ง |
พิณพาทย์ส่งเสียงแจ้ว |
แจ่มจ้าเจนประโคม ฯ |
โคลง ๓๏ เช้าที่สิบแปดทรงเรือ |
ถ่อแทบเหนือย่านน้ำ |
เสด็จสู่พระธาตุล้ำ |
เลิดล้วนยวนตา ฯ |
๏ พญาตะก่าที่ล่วงลับ |
กับพะโป้เกรียงไซร้ |
ปฏิสังขรณ์ใหม่ไว้ |
แทบหน้าไตรตรึงศ์ เก่านา ฯ |
โคลง ๔๏ ได้ฤกษ์เรือล่องน้ำ |
แลสลอน |
แลจับแสงทิณกร |
กระจ่างจ้า |
เรือทรงพระภูธร |
เยาวราช |
นำหน้าดูอาจอ้า |
โอ่คล้ายเรือหงส์ ฯ |
๏ เกาะแขกนึกแปลกเจ้า |
จุฬา |
พลัดพรากจากเมืองมา |
แปลกด้าว |
เจ้าไม่ห่วงเคหา |
และลูก เมียฤๅ |
ข้าห่างนิดยังร้าว |
อกช้ำระกำใจ ฯ |
๏ เรือเดิรจนจวบใกล้ |
เวลา เที่ยงแฮ |
จึงทอดท่าหน้าอา |
วาสไซร้ |
ตำบลวังพระธาตุรา |
ชาเสด็จ |
ทอดพระเนตร์เมืองเก่าใกล้ |
ที่นี้ในดง ฯ |
๏ เทพนครเมืองเก่านี้ |
ตามนิยม เรียกนา |
อีกว่าท้าวแสนปม |
ธสร้าง |
แต่ดูร่องรอยผสม |
กับเรื่อง |
ชะรอยจะเป็นค่ายร้าง |
แต่ครั้งธนบุรี ฯ |
๏ วัดพิกุลชื่อเย้า |
ยั่วยวน |
นึกเมื่อคราแม่นวล |
อบผ้า |
พิกุลตระหลบหวน |
กลิ่นอ่อน |
กลิ่นบ่จางจืดอ้า |
อบเย้าอยู่เสมอ ฯ |
๏ บ้านโคนค่ายเก่าตั้ง |
หว่างวัน พฤกษ์พ่อ |
ประชุมทัพไทยเพื่อประชัน |
ประชิดเสี้ยน |
พระยานครสวรรค์ |
เป็นแม่ ทัพนา |
เมงม่านสังหารเหี้ยน |
พ่ายแพ้กรุงธน ฯ |
๏ เรือล่องตามร่องน้ำ |
เวียนวน |
เลี้ยวลดคดแทบทน |
บ่ได้ |
เหมือนแสร้งมิให้ดล |
ถึงถิ่น เลยแม่ |
ลุท่าพุทราไท้ |
หยุดยั้งบรรทม ฯ |
๏ เออวังนางรั้งชื่อ |
เก่งจริง |
ใจพี่ราวยอดหญิง |
แม่รั้ง |
นางรั้งอยู่ใครชิง |
ไปห่อน ได้เลย |
รักพี่จอดจู่ยั้ง |
อยู่ใกล้ใจเพียง ฯ |
๏ แม่ลาดนามหมู่บ้าน |
ริมทาง |
นึกเมื่ออยู่ใกล้นาง |
นิ่มน้อง |
เสื่อพรมแม่ลาดพลาง |
จัดโภชน์ |
ยามเสร็จเสียงเพราะพร้อง |
เพรียกให้มากิน ฯ |
๏ ราษฎรฦๅเล่าอ้าง |
คนที่ วังนา |
เป็นแหล่งหลากกุมภีล์ |
สถิตไซร้ |
ชะรอยเกรงพระบารมี |
เยาวราช |
จึ่งบ่โผล่ขึ้นให้ |
ประจักษ์แจ้งแก่ตา ฯ |
๏ เกาะสะพานนากผ่านแล้ว |
ชวนคำ นึงนอ |
ถึงกษัตริย์ตามนิยายจำ |
จดไว้ |
ผู้ปองพระธิดาทำ |
สะพานนาก ทองพ่อ |
พี่ก็ยอมแม้ได้ |
สู่น้องเคียงสงวน ฯ |
๏ นั่งเหลียวแลย่านน้ำ |
เพลินเผลอ |
นาเวศหน่อนาถเลอ |
โลกไซร้ |
ลุที่ว่าการอำเภอ |
ขาณุ |
จอดพลับพลาแต่งไว้ |
เพื่อท้าวเธอแรม ฯ |
๏ บ้านแสนตออยู่ใกล้ |
พลับพลา |
ชนอยู่ที่เกศา |
ประหลาดแท้ |
สีแดงแข่งสุริยา |
โพยมพยับ |
ดูดุจยุโรปแส้ |
ตกค้างหว่างไทย ฯ |
๏ ตีกระเชียงเรือล่องน้ำ |
ทวนลม |
เนิบเนิบถึงหาดชะอม |
ชื่อบ้าน |
อันเป็นที่สองพรม |
แดนต่อ |
กำแพงเพ็ชร์เขตต์ต่อต้าน |
เขตต์แคว้นสัคค์นคร ฯ |
๏ บ้านใหม่ใหม่ด้วยเหตุ |
อันใด |
ชื่อใหม่ตัวบ้านไฉน |
จึ่งร้าง |
สุภาษิตขานไข |
คำเปรียบ |
ภายนอกใสสุกสล้าง |
แก่นไซร้เป็นโพรง ฯ |
๏ ท่าจันชื่อแม้นท่า |
พระจันทร์ |
กรุงเทพมหานครอัน |
เกียรติก้อง |
ชวนจิตต์พี่ชายจรัล |
จอดนุช |
เรียมพี่เหาะสู่ห้อง |
นิ่มน้องเนากรุง ฯ |
๏ บ้านน้ำหักหักน้ำ |
อย่างไร |
จักหักของอ่อนไฉน |
จักได้ |
ชะรอยยากเทียบหักใจ |
หายโศก |
ยิ่งรักยิ่งหักให้ |
เหือดแห้งห่อนหาย ฯ |
๏ ร่องน้ำดูดุจแกล้ง |
เคี้ยวคด |
เพื่อหน่วงให้ห่างรส |
สวาทว้า |
จอดแรมน่าบรรพต |
อำเภอสถิต |
อึดอัดเออช่างช้า |
ดุจแกล้งแชเชือน ฯ |
๏ นาวาผ่านบ้านเกาะ |
หูกวาง |
บึงใหญ่มีอยู่ทาง |
นี่ไซร้ |
มีถนนตัดข้างกลาง |
บึงนั่น |
อีกพะเนียดเก่าใช้ |
จับช้างโขลงดง ฯ |
๏ ถนนข้ามบึงใหญ่นี้ |
ถมครา |
พระพุทธเจ้าเสือลิลา |
จับช้าง |
ช้างต้นถลำราชา |
พิโรธ โอรสแฮ |
หาว่าจักคิดล้าง |
ชีพไท้บิตุรงค์ ฯ |
๏ องค์ขัตติเยศเจ้า |
อยุธยา ตรัสเฮย |
อ้ายลูกเห็นกูชรา |
อยู่ไซร้ |
ชวนกันคิดกบฎมา |
ทำหล่ม ไว้แฮ |
ยามตกมันจักได้ |
โดดเข้ารุมประหาร ฯ |
๏ คชาธารข้ามเขตต์ |
บึงขวาง แล้วแล |
แปรพักตรข้างปฤษฎางค์ |
จึ่งท้าว |
เด็มเอารสสองพลาง |
พระพิโรธ นักนา |
ยกพระแสงของ้าว |
เงือดเงื้อหมายฟัน ฯ |
๏ บัณฑูรน้อยเชิดด้าม |
ขอรับ |
ปิดพระเชฏฐาฉับ |
ไป่ต้อง |
แล้วสองเร่งรีบขับ |
ช้างแล่น |
หนีรุดตามเถื่อนท้อง |
ทุ่งทั้งป่าพง ฯ |
๏ บิตุรงค์ขับช้างไล่ |
หมายประหาร |
จวนชิดจึงนายควาน |
นั่งท้าย |
จ้องขอเกี่ยวท้ายสาร |
ไว้ถนัด |
ช้างที่นั่งจึงย้าย |
ยาตรเยื้องไป่ทัน ฯ |
๏ ครั้นโอรสหลบพ้น |
จึงนารถ |
มีราชโองการประภาษ |
แก่ข้า |
ทูลละอองธุลีพระบาท |
จงติด ตามแฮ |
จับกบฎสองอย่าช้า |
จับให้ตัวกู ฯ |
๏ หมู่เสนามาตย์ร้น |
รีบไป |
ทันจับสองหน่อไผท |
ธิราชเจ้า |
นำองค์รีบครรไล |
สู่ค่าย หลวงแฮ |
ธสั่งให้ผูกเข้า |
หลักแล้วลงอาญา ฯ |
๏ ราชาสั่งให้เฆี่ยน |
เป็นนิตย์ |
รับเสด็จบรมบพิตร |
เดชเรื้อง |
เช้ายกบ่ายยกคิด |
สมโทษ |
จนกว่าพระจักเยื้อง |
ยาตรเข้าคืนนคร ฯ |
๏ วรโอรสจึ่งใช้ |
นายผล ไปนา |
เชิญพระไอยิกาดล |
สู่ไท้ |
เจ้าแม่จึ่งวอนยุคล |
ขอโทษ |
ไผทโปรดยกโทษให้ |
ขับเข้าคืนกรุง ฯ |
๏ ท่าลบลบโศกเศร้า |
หมองศรี ได้ฤๅ |
คิดหักรักสักที |
ห่อนได้ |
ยิ่งหักรักยิ่งทวี |
รักหนัก |
รักกลบลบสุขไซร้ |
สุขสิ้นศูนย์สลาย ฯ |
๏ ลุบ้านเต้าเลี้ยวจอด |
เรือทรง |
ที่นี่เหล่าจีนผจง |
จัดสร้าง |
ศาลาเพื่อผู้ลง |
ขึ้นตรวจ การนา |
ทำเหมาะดีอยู่ข้าง |
ฝั่งน้ำลำโพ ฯ |
๏ พระเสด็จจรอยู่เบื้อง |
ศาลา |
เพื่อคณะไหหลำคลา |
ระยอบเฝ้า |
กิมฮวยธูปเทียนมา |
ถวายนารถ |
ครั้นเสร็จเยาวราชเจ้า |
ยาตรเยื้องคืนเรือ ฯ |
๏ นาวาคลาเคลื่อนคล้อย |
ลอยตาม น้ำนอ |
ไป่เนิ่นถึงเขตต์คาม |
ชื่อชี้ |
หมู่บ้านหาดทรายงาม |
ปรากฎ |
ขบวนหยุดอยู่ที่นี้ |
เพื่อท้าวเธอแรม ฯ |
๏ ครั้นรุ่งโมงเศษเช้า |
ยี่สิบสอง วาระแฮ |
นาเวศงามเรืองรอง |
เลิดล้น |
บริพารพิศดุจกอง |
เรือรบ |
งามหมดยามเคลื่อนพ้น |
หาดบ้านทรายงาม ฯ |
๏ แล่นหลามหลากแล่นคล้อย |
เคลื่อนคลา |
ถึงปากน้ำโพนา |
เวศไซร้ |
เข้าเทียบท่าอันประดา |
ประดับธวัช |
กาละควรจึ่งไท้ |
ย่างเยื้องจากเรือ ฯ |
๏ ตลาดเหนือธผ่านแล้ว |
เสด็จตรง |
สู่วัดธรรมฐิติวงศ |
ชื่อชี้ |
โรงเรียนจัดจำนง |
สอนวิทย์ |
ทอดพระเนตรเสร็จธลี้ |
ลาศพ้นอาราม ฯ |
๏ เสด็จตามถนนตลาดได้ |
ถึงศาล อำเภอนา |
ลงสู่นาวาตระการ |
ล่องน้ำ |
ลุหน้าที่ว่าการ |
มณฑลจึ่ง |
ประทับพลับพลาล้ำ |
เลิดล้วนแลวิไล ฯ |
ร่าย๏ ซาวสามมังกรมาศ ยุพราชเจ้าแต่งองค์ ทรงเครื่องครึ่งยศขาว พราวพริ้งเพริศชวนชม พิศท่าคมท่าทหาร สามโมงนรินทรเสด็จออก ทหารบอกเดิรขบวน มวญหมู่ข้าตามขนัด บัดถึงพลับพลาหลวง ปวงข้าราชกิจเฝ้า จึ่งหม่อมเจ้าคำรบ นบเกศเกล้าทูลสาร ว่าปวงทหารนครสัคค์ จิตต์จงรักต่อไท้ ได้เรี่ยรายสร้างสะพาน ทหารนฤมิตนามตระหนัก เพื่อเป็นหลักที่ระลึก นึกถึงคราวเสด็จประพาส ขาดคำทูลยินโห่ โร่รับฮิ้วสามที พิณพาทย์ตีสรรเสริญ จบเพลงเมิลพระยาชล หัวหน้าพลเรือนคำนับ รับฉันทะอภิวาท เทพพระบาทยุคล ว่าผองพลเรือนเฉลี่ย เรี่ยรายทรัพย์สรรสร้าง สะพานช้างหนึ่งสำเร็จ ขอเชิญเสด็จพระองค์ ทรงเปิดให้เป็นฤกษ์ เบิกทางให้ราษฎร ได้สัญจรไปมา เปรมปรีดาทั่วผู้ รู้ระฦกคุณคราวเสด็จ พอกล่าวเสร็จโห่ก้อง โห่ฮิ้วร้องรับเพลงก่อน นรินทรตอบเสร็จ ธก็เสด็จสู่สะพาน ตัดสายม่านแพรขึง ดึงแพรสีปกป้าย ฝ่ายพิณพาทย์บรรเลง เป็นเพลงสาธุการ เสร็จเปิดสะพานท่านท้าว ยาตร์กลับทางเก่าก้าว สู่ห้องตำหนักน้ำ ท่านนา ฯ
โคลง ๒๏ ยามเย็นทรงแสะเต้า |
ตามมรรคริมฝั่งเข้า |
สู่เบื้องโรงทหาร ฯ |
|
โคลง ๔๏ หม่อมเจ้าคำรบผู้ |
บัญชา การเฮย |
แต่งเครื่องมีโอชา |
รสไว้ |
ตั้งโต๊ะที่ศาลา |
บัญชากิจ |
เชิญเสด็จพระหน่อไท้ |
นาถเข้าไปเสวย ฯ |
๏ ครั้นกาลเลี้ยงเสร็จแล้ว |
เหล่าทหาร |
ถือประทีปแลลาน |
เนตรล้ำ |
ร้องยอเกียรติภูบาล |
เดิรวก เวียนแฮ |
เพลงเสนาะคำเพราะซ้ำ |
เนตรนั้นแลเพลิน ฯ |
๏ สโมสรนามออกอ้าง |
จัตุรงค์ |
เริงเล่นลิเกวง |
หนึ่งไซร้ |
หมายประเลงพระเผ่าพงศ์ |
สมมติเทพ |
และหมู่ราชภัฎให้ |
สนุกพร้อมเพรียงกัน ฯ |
โคลง ๓๏ ครั้นเวลาดึกควร |
จวนเที่ยงคืนอยู่แล้ว |
ยุพราชทรงอัศว์แผ้ว |
สิริเข้าคืนสถาน ฯ |
โคลง ๔๏ ที่ยี่สิบสี่เช้า |
เวลา ควรแฮฺ |
เสด็จประทับกลนาวา |
เคลื่อนคล้อย |
สู่บึงบรเพ็ดรา |
ชาประพาส |
ปวงราษฎร์แควใหญ่น้อย |
มุ่งหน้าพระองค์ ฯ |
๏ พระทรงเรือเล็กเลี้ยว |
ตามลำ คลองแฮ |
ประทับพลับพลาปรำ |
หว่างน้ำ |
เสวยเครื่องราษฎรทำ |
เทียบจัด ถวายนา |
เลิดอร่อยรสล้ำ |
น่าลิ้มลองดู ฯ |
๏ หมู่มัสยาเลี้ยวไล่ |
เวียนวน |
แหวกว่ายตามสายชล |
แช่มช้อย |
ยิ่งพิศยิ่งเยือนยล |
ยวนเนตร์ |
หลายหลากพรรณใหญ่น้อย |
กว่าร้อยเรียงราย ฯ |
๏ ต่างว่ายเคียงคู่เคล้า |
คลึงชม |
แสนสุขสมคู่สม |
สวาทไซร้ |
...... |
...... |
สาจิตต์สูบ่ได้ |
รับน้องมาเคียง ฯ |
๏ สุริยาเพียงยอดไม้ |
บัดดล |
สู่เรือที่นั่งกล |
กลับหน้า |
แล่นเรือล่องลำชล |
ถึงถับ |
กาละถ้วนโมงห้า |
บ่ายได้พอดี ฯ |
โคลง ๒๏ ยี่สิบห้าวาระเช้า |
นาเวศสมเด็จเจ้า |
เคลื่อนคล้อยจากนคร |
สัคค์นา ฯ |
โคลง ๔๏ ผ่านบ้านกลางแดดแจ้ง |
สุริยา ส่องแฮ |
บ้านร่มเงาพฤกษา |
อยู่บ้าง |
ฝ่ายเราสิจำคลา |
กลางแดด ร้อนนา |
ร้อนอกโอ้อกร้าง |
เริ่มไร้เสน่หา ฯ |
๏ ร้อนอากาศอาบน้ำ |
บรรเทา |
ร้อนแดดพอแฝงเงา |
ร่มได้ |
ร้อนในอุระเรา |
เหลือหลีก |
ร้อนอกราคหมกไหม้ |
หม่นเพี้ยงเพลิงรุม ฯ |
๏ ย่านมัทรีตริเจ้า |
มัทรี |
ยามทราบโพธิสัตว์ศรี |
กษัตริย์ไซร้ |
ยกกุมารประทานชี |
หินะชาติ แล้วนา |
เหลือโศกนางร่ำไห้ |
นึกไว้สงสาร ฯ |
๏ เรือทรงพระหน่อไท้ |
ภูมี ล่องแล |
ลุแหล่งยางเศรษฐี |
ที่ตั้ง |
อำเภอพยุหคีรี |
เวียงเก่า |
ขบวนเสด็จถึงจึ่งรั้ง |
อยู่ใกล้ศาลอำเภอ ฯ |
๏ ท่าน้ำอ้อยนึกอ้อย |
หวานจริง |
ยังไป่สู้ยามหญิง |
สวาทล้ำ |
นั่งแนบแอบเอนอิง |
แทบอก |
หวานเสน่ห์รสอื่นก้ำ |
กว่านี้มีฤๅ ฯ |
๏ มโนรมย์สมชื่อแม้ |
นางมา ด้วยพี่ |
นี่สิมัวคนึงหา |
แต่เจ้า |
เสียดายมิอาจพา |
มาเที่ยว นี้แม่ |
แม่จักชวนสร่างเศร้า |
สวาทน้องเสวยรมย์ ฯ |
๏ วัดโคกนามวัดโอ้ |
สะกิดใจ |
อาวาสนามดุจใคร |
แซ่งเย้า |
ชื่อชวนใฝ่ฝันไป |
ว่าอยู่ บ้านแม่ |
ตาเหลือบบ่เห็นเจ้า |
จึงรู้สึกตน ฯ |
๏ เกาะตารักให้ตริ |
ถึงครา หลังแล |
แรกพี่พบกัลยา |
นิ่มน้อง |
ตาพี่ลักจับตา |
นุชหลบ ตาพี่ |
ตาสบตาต่างต้อง |
จิตต์พ้องเสน่หา ฯ |
๏ ธรรมามูลแวะขึ้น |
พิมพ์จักร |
มาฝากแม่ยอดรัก |
ยิ่งแก้ว |
จักรจงช่วยพิทักษ์ |
เราเถิด |
ขอโรคภัยจุ่งแคล้ว |
คลาศพ้นตนไป ฯ |
๏ ไชยนาทนฤนารถก้อง |
ฦๅชัย บารมี |
ยามพระเหลือเกศไทย |
ชนะเสี้ยน |
บรเทศศัตรูกษัย |
สิบทิศ |
พระเดชพระปราบเหี้ยน |
ระยอบน้อมยอมกลัว ฯ |
๏ พระไชยนฤนารถผู้ |
ครองเวียง |
จัดที่ประทับเคียง |
เขตต์บ้าน |
ละคอนเล่นซ้องเสียง |
เจนบท |
ตำรวจทหารตรวจด้าน |
พิทักษ์ไท้ทรงธรรม์ ฯ |
๏ วันรุ่งธเสด็จขึ้น |
สู่สถาน |
ที่ว่าสรรพราชการ |
ใหญ่น้อย |
และเสด็จตรวจโรงทหาร |
ชาญศึก |
ครั้นเสด็จทรงเรือคล้อย |
ล่องน้ำตามกาล ฯ |
๏ บางแม่ลูกอ่อนโอ้ |
อกเรา |
ยามจากลูกยังเยาว์ |
อยู่แท้ |
ตนจรแต่ใจเนา |
เคหะ เคียงแม่ |
เจ็บอกฟกสุดแก้ |
เกศก้มจำทน ฯ |
๏ สรรพยาขนานชื่อบ้าน |
นาวา ผ่านเฮย |
ดีแต่ชื่อยาหา |
ห่อนได้ |
ขนานใดจักรักษา |
คลายโรค ได้นอ |
ข้อยเจ็บหนักยิ่งไข้ |
พิษกล้ายากลัว ฯ |
๏ ครั้นนาวาล่องพ้น |
พรมแดน |
ไชยนาทเข้าสิงห์แสน |
สุขไซร้ |
สู้ทนอดใจแขวน |
รอไม่ ช้าเลย |
ก็จะกลับถึงได้ |
กอดน้องเนาทรวง ฯ |
๏ จวนค่ำเรือต้นหน่อ |
นฤบดินทร์ |
ลอยล่องลุเมืองอินทร์ |
อับอั้ง |
จึ่งสิงหนครินทร์ |
รับเสด็จ |
เตรียมผูกพลับพลาตั้ง |
เสด็จให้ไผทแรม ฯ |
๏ ท่างามนึกเมื่อครั้ง |
แรกยาม |
พี่ประสบสมรแม่ทราม |
สวาทนั้น |
ท่วงทีท่าหล่อนงาม |
ทุกท่า |
แสนโกรธผู้เกียดกั้น |
กักน้องนางงาม ฯ |
๏ โคกขามชวนให้นึก |
ต่อไป |
เห็นฉับพี่จงใจ |
เสน่ห์น้อง |
ใช่เกรงใช่ขามใคร |
จึ่งสงบ ไว้ที |
ขามแต่นุชจักข้อง |
ผิวะข้อยทำเหิม ฯ |
๏ บ้านสมัคต่อเรื่องข้าง |
บนมา |
พอพี่ทราบกัลยา |
สมัคแล้ว |
เหลือที่จะปรีดา |
ทรวงซ่าน |
ยามยาตร์ยังหอแก้ว |
ดุตเข้าวิมานสรวง ฯ |
๏ เรือทรงหน่อนาถเจ้า |
ธรณี |
บรรลุสิงหบุรี |
จอดใกล้ |
เขตต์จวนนครินทร์มี |
ปรากฎ นามมา |
พระราชพินิจจัยให้ |
จัดตั้งพลับพลา ฯ |
๏ บ่ายทรงเครื่องเสร็จไซร้ |
ไผทพลาง |
จรสู่ศาลากลาง |
บุระนี้ |
นครินทรยาตร์นำทาง |
ธเสด็จ |
นำหมู่อมาตย์ลี้ |
ลาศเฝ้าเรียงตน ฯ |
๏ ครั้นทรงตรวจทั่วแล้ว |
ภูมี |
ยุรยาตร์โดยพาชี |
ไต่เต้า |
สู่ตำบลชื่อจักษี |
แพรวัด |
พระพุทธไสยาสน์เข้า |
ประณตน้อมบูชา ฯ |
๏ จากสิงห์ขบวนล่องล้ำ |
งามตระการ |
แล่นผ่านบ้านหมื่นหาญ |
ชื่อชี้ |
นึกถึงเรื่องนิทาน |
ทิดเพ็ด |
เพราะอดทนทิตนี้ |
จึ่งได้ดังหมาย ฯ |
๏ ถึงไชโยหยุดยั้ง |
นาวา |
พระเสด็จขึ้นสู่อา |
วาสนั้น |
นมัสการพระปฏิมา |
กรเกตุ |
คุณพระเป็นฉัตรกั้น |
เกศข้าทั้งปวง ฯ |
๏ ที่อาวาสใหญ่นั้น |
เทศา ภิบาลแฮ |
ครองเขตต์กรุงเทพทวา |
ระไซร้ |
โบราณบุรา |
นุรักษ์ นามเฮย |
มาประณตโอรสไท้ |
ปกแคว้นแดนดิน ฯ |
๏ เกินไชโยหน่อยแล้ว |
เรือกล ไฟแฮ |
มาพ่วงเรือจรดล |
ล่องน้ำ |
เห็นเรือนโรงกระมล |
ดูอิ่ม |
ไป่เนิ่นอกพี่ช้ำ |
จักได้หายระบม ฯ |
๏ ครั้นห้าโมงบ่ายแล้ว |
เรือทรง |
ลุอ่างทองจอดตรง |
ท่าไซร้ |
หน้าจวนหม่อมอมรวงศ์ |
วิจิตร |
นคเรศจัดที่ไว้ |
เพื่อท้าวแรมสราญ ฯ |
๏ พรุ่งสองโมงเศษเช้า |
ภูบาล |
เสด็จแวะทรงตรวจสถาน |
ที่ตั้ง |
ศาลาว่าราชการ |
เมืองอ่าง ทองแฮ |
ทอดพระเนตรทั่วเขตต์ทั้ง |
หมดแล้วคืนเรือ ฯ |
๏ เรือนางปะพ่วงข้าง |
เรือมะโรง |
เรือเครื่องเคียงแคมโยง |
เหมาะซ้าย |
แล่นเร็วบ่มิโคลง |
แคลงคลื่น |
แล่นเฉียดพายุย้าย |
ล่องน้ำงามเหลือ ฯ |
๏ พอขบวนเรือล่องเลี้ยว |
บางไทร |
ตึกตึกใจเต้นกระไร |
แค่แล้ว |
ลุบางปอินไผท |
ธประทับ แรมแฮ |
งามสุดราชวังแพร้ว |
เพริศพริ้งเพลินตา ฯ |
๏ นึกถึงจะกลับบ้าน |
แสนปรี ดาแฮ |
ยามห่างนุชพี่มี |
แต่เศร้า |
สามเดือนเปรียบสามปี |
เหลือเนิ่น |
ตรอมจิตต์คิดถึงเจ้า |
ไป่เว้นวายวัน ฯ |
๏ จักผันพักตร์สู่ใต้ |
ฤๅเหนือ ก็ดี |
เดิรบกฤๅลงเรือ |
แช่มช้า |
ขึ้นช้างขับม้าเหลือ |
ห้ามนึก |
แลเหลือบใดเห็นหน้า |
นุชเย้าอยู่เสมอ ฯ |
๏ มีคำท่านกล่าวไว้ |
เหมาะดี |
ยามจากทุกข์มากมี |
หม่นไหม้ |
ยิ่งทุกข์สุขยิ่งทวี |
ตามส่วน |
ยามกลับถึงห้องไซร้ |
จักล้างกันหาย ฯ |
๏ ตามคำที่กล่าวนี้ |
ชอบกล |
พี่นึกถึงยามดล |
สู่บ้าน |
กรกอดนุชเปรมกระมล |
ปีติ |
ทรวงชิดทรวงสองส้าน |
สุขสิ้นดังหวัง ฯ |
โคลง ๓๏ วันสิ้นเดือนมกรา |
นาฬิกาสามเศษเช้า |
สมเด็จเยาวราชเจ้า |
เสด็จเบื้องสถานรถ ไฟนา ฯ |
๏ งามงดรถหลังทรง |
แห่งองค์หน่อนารถไท้ |
ได้ฤกษ์รถจักร์ใช้ |
จักร์เข้าสู่กรุง ฯ |
โคลง ๔๏ บรรลุกรุงเทพแล้ว |
หรรษา |
ยิ่งพิศยิ่งเพลินพา |
เพลิดยิ้ม |
สมเป็นปิ่นพารา |
สมมติเทพ สถิตจริง |
ทวยราษฎร์แสนสุขปิ้ม |
เปรียบคล้ายเมืองแมน ฯ |
๏ แสนงามแสนเงื่อนพร้อม |
เจริญใจ |
โสมส่องแสงสดใส |
สุกแท้ |
แสงจับระยับอำไพ |
จรูญจรัส |
ยวนเนตรนคเรศแล้ |
เลิดแคว้นแดนไทย ฯ |
๏ วิไลนิเวศน์ท้าว |
จอมสยาม |
ปราสาทปรางมาศงาม |
เพริศแพร้ว |
ประเสริฐพระอาราม |
อุโบสถ |
องค์พระมรกตแก้ว |
เหล่าข้าปวงนิยม ฯ |
๏ บังคมบรมนารถผู้ |
ธำรงฤทธิ์ |
เดชะพระบารมีบพิตร |
ผ่านฟ้า |
ปกเกศทั่วทุกทิศ |
ข้าบาทเกษมนา |
พระเกียรติพระเกริกหล้า |
ลบล้ำปัถพี ฯ |
๏ ภูมีเอาเดชป้อง |
ปกราษฎร์ |
หมู่ปัจจามิตรขยาด |
ทั่วด้าว |
ระยอบหมอบแทบบาท |
บงกช |
เหมือนหมู่เทพนบท้าว |
สักรผู้ครองสรวง ฯ |
๏ ขอปวงอมรเทพคุ้ม |
จักรพรรดิ ราชแฮ |
ตลอดเหล่าเผ่าพงศขัต |
ติเยศร์ไซร้ |
อีกขอจุ่งสยามรัฐ |
บาลยิ่ง เจริญนา |
ปวงอุปัทว์จงอย่าได้ |
พะพ้องเพียรพาล ฯ |
โคลง ๒๏ ทุกประการอย่าช้า |
จงสิทธิ์สมดั่งข้า |
บาทพร้องพร่ำถวาย |
สิ้นเทอญ ฯ |
โคลง ๔๏ เรื่องนี้หนานชื่อแก้ว |
เมืองบูรพ์ เริ่มแฮ |
น้อยสบจินดาพูน |
เพิ่มถ้อย |
หนานขวายอีกนายมยูร |
รวมสี่ |
ตริแต่งตนละน้อย |
รวบร้อยกรองสาร ฯ |
๏ ขนานนามลิลิตเบื้อง |
พายัพ |
จบเสร็จบริบูรณ์ระงับ |
เท่านี้ |
ใดพร่องปราชญ์เชิญรับ |
ฉันท์เพิ่ม |
ที่ผิดโปรดช่วยชี้ |
ชักให้ลงทาง ฯ |