มิตร์แท้

(ปอลกับยาร์เลต์นั่งเล่นไพ่ป๊อก ๒๑ อยู่)

ยาเลต์

ฉันชะนะอีกละซิ

ปอล

เออ (ส่งเงินให้) เอานี่ของแกสองแฟรงค์

ยาร์เลต์

แกนี่วันนี้แพ้ใหญ่เสียแล้วนะ ใจเห็นจะไม่มีอยู่ที่ไพ่ (หัวเราะเยาะ)

ปอล

แกละคอยแต่ล้อละก็ แกเองก็เคยเปนหนุ่มมาแล้วไม่ใช่หรือ

ยาร์เลต์

ก็เพราะยังนั้นนะซิฉันถึงเข้าใจ (ปอลทิ้งไพ่ ลุกไปที่น่าต่าง เสียงกลองเล็ก)

ปอล

เอ๊ะ นี่เจ้าพวกปรุสเซียมันจะยกไปไหนกันอีกละนี่

ยาร์เลต์

จะไปไหนก็ไป ถ้ามันไม่กวนละก็ฉันไม่ทุกข์เลย

ปอล

พุโท่ ยาร์เลต์ แกไม่นึกไปรบกะเขามั่งหรือ ไม่นึกไปช่วยป้องกันปารีสมั่งหรือ

ยาร์เลต์

ไม่ต้องถาม ฉันอยู่ที่นี่สบายดีอยู่แล้ว อยู่ดีว่าไม่ดี จะไปให้เขายิงเสียเหมือนนกเหมือนกาทำไม

ปอล

แกนี่อะไรพูดยังงี้ ปุ้โท่เอ๋ย ไม่นึกถึงชาติเรามั่งเลยเทียวหรือ สัตรูบุกบั่นเข้า มาถึงในเมืองเราแล้วแกยังจะนั่งเฉยได้หรือ

ยาร์เลต์

ไม่เฉยจะไปทำยังไงล่ะพ่อคุณ ฉันไม่แลเห็นว่าจะไปทำอะไรได้ ในเมืองนี้ทหารปรุสเซียก็อยู่ออกเต็มไปทั้งนั้น แล้วเขาก็ห้ามแล้วว่าไม่ให้ใครออกไปจากเมืองนี้ อยู่ดี ๆ จะวิ่งไปให้เขาฆ่าทำไม

ปอล

ถึงจะตายก็ไม่น่าเสียดายชีวิตร์ นึกเสียว่าตายให้บ้านเมืองของเรา

ยาร์เลต์

ฮือ ฉันต้องรับว่าฉันเสียดายชีวิตร์ คนเราไม่ได้ฟื้นจากตายได้เหมือนตื่นนอน ตายทีหนึ่งก็ตายเลย อีกอย่างหนึ่งการที่จะออกไปสู้ความตายเพื่อช่วยบ้านเมืองเดี๋ยวนี้นะ ฉันไม่แลเห็นประโยชน์พอเลย

ปอล

ทำไม ถ้าตายในสนามรบคนฝรั่งเศสจะไม่สรรเสริญหรือ

ยาร์เลต์

ความสรรเสริญเอามากินก็ไม่อิ่ม อีกอย่างหนึ่งเมื่อเราตายเสียแล้วเขาจะสรรเสริญหรือเขาจะด่าเราก็ไม่รู้เลย (ลุกขึ้นตบบ่าปอล) การที่แกอยากช่วยบ้านเกิดเมืองนอนน่ะก็เปนการดีในส่วนตัวแกอยู่แล้วละ แต่ขอให้แกนึกดูเถอะ ว่าจะมีประโยชน์อย่างไร พวกปรุสเซียเขาได้เปรียบทำอะไรก็ทำได้ตามใจ เราก็ต้องก้มหน้าทนเพราะเราแพ้เขา ถึงคราวเคราะห์เราจะไปฝืนเคราะห์อย่างไร ยอมอยู่เฉย ๆ อย่างนั้นดีกว่า รักษาชีวิตร์ไว้ทำประโยชน์ให้บ้านเมืองเราในคราวอื่นมิดีกว่าเอาชีวิตร์ไปพล่าเสียเดี๋ยวนี้หรือ เดี๋ยวนี้นะยังไง ๆ แกก็เปนจากไปปารีสไม่ได้ละ เพราะฉนั้นอย่าคิดไปดีกว่า

มารี

(พูดในโรง) เดี๋ยวเดียวและคะป้า

ปอล

อ้อ มารี (ลุกขึ้นไปที่ประตู)

ยาร์เลต์

(พูดป้อง) จึ ! นางนี่ละปอลออกชอบมากนักแล้ว ไม่ได้การ

(มารีเข้ามา)

ปอล

หล่อนต้องการอะไรหรือจ๊ะ

มารี

ฉันจะมาหาเข็มในกระเช้า (เดินไปที่โต๊ะเล็ก)

ปอล

ฉันช่วยหานะจ๊ะ (ไปที่โต๊ะ)

มารี

ไม่เปนไรหรอกค่ะ ฉันรู้แล้วว่าอยู่ที่ไหน

ปอล

(พูดกับยาร์เลต์) ยังไงไม่ลุกขึ้นคำนับแม่มารีล่ะ

ยาร์เลต์

(พูดกับปอล) ขี้เกียจ กะอีนางหลานยายเจ้าของโฮเตลก็จะต้องคำนับด้วย (ปอลโกรธ หันไปทางโต๊ะ กระตุ้นโต๊ะจนกระเช้าตก)

ปอล

โอ้ย แล้วกันของหกหมด ฉันจะเก็บเอง หล่อนอย่าเลย (ลงคุกเข่าเก็บของและพูดไปพลาง) เออวันนี้เปนยังไงมั่งจ๊ะ เจ้าพวกปรุสเซียกวนอีกไหม

มารี

เขาก็มาอยู่กันแน่นในห้องกินเข้าตามเคยและคะ (ยาร์เลต์จุดบุหรี่) แหมฉันเข้าไปในนั้นเกือบไม่ได้ กินเหล้ากันออกเมาแล้วสูบบุหรี่กันออกคลุ้งไป (ไอแคก ๆ)

ปอล

จุ ๆ ยาร์เลต์ แกดับบุหรี่เสียหน่อยเถอะน่า (ยาร์เลต์กลับพ่นควันไปทางปอล) พุทโธ่ !

ยาร์เลต์

พิลึกจริง หลงใหญ่เสียแล้ว

ปอล

(พูดกับมารี) ฉันต้องขอโทษแทนยาร์เลต์เพื่อนของฉัน แกจะต้องออกไปเดินนอกบ้านตามเคยของแก

ยาร์เลต์

หามิได้ ฉันไม่คิดจะออกจากบ้านนี้ จนกว่าพวกปรุสเซียจะไปหมด

มารี

(หัวเราะ) มองซิเออร์ยาร์เลต์ก็เหมือนดีฉันเหมือนกัน ดีฉันไม่อยากไปไหนเลย กลัวพวกปรุสเซีย (หยิบกระเช้า) ฉันกลับไปช่วยป้าทำงานเสียที (ออกไป ปอลไปส่งถึงประตู)

ยาร์เลต์

ปอล ปอล ถ้าแกไม่ระวังตัวจะติดบ่วงนางมารีนะ

ปอล

นี่แกไม่รู้หรือว่าฉันรักแม่มารี และฉันคิดจะแต่งงานกะหล่อน

ยาร์เลต์

เอ๊ะ ถึงยังงั้นเทียวหรือ

ปอล

ยังงั้นซิ

ยาร์เลต์

ตรึกตรองดูเสียให้ดีก่อนนะ เรื่องมีเมียนี่และสำคัญนัก ถ้าไม่หาเมียที่ชั้นเดียวกับตัวเราเองละมันก็อาจจะพาให้เราฉิบหายได้นะ ดูแต่ฉันซิ เมื่อแรกนี้ฉันก็เปนคนมีเงินเหมือนแกและ ก็เดี๋ยวนี้ล่ะ ฮึ ! เดี๋ยวนี้ถ้าฉันไม่ปอกลอกแกกินก็อดตาย

ปอล

(เข้าไปจับบ่ายาร์เลต์) แกอย่าพูดยังงั้นซิ ฉันเต็มใจให้แกทุกอย่าง ถ้าไม่ได้แกฉันก็คงเอาตัวไม่รอดเปนแน่ นี่หากว่าได้อาไศรยแกเปนผู้ใหญ่คอยตักเตือน

ยาร์เลต์

ก็ถ้าแกรักฉันละก็แกเลิกความคิดแต่งงานกับนางหลานสาวยายเจ้าของโฮเตลเสียละเปนดี เชื่อฉันเถอะ อ้ายเรื่องมีเมียไม่ใช่คนชั้นเดียวกันนี้เปนไม่ดีแน่

ปอล

เออ ฉันอยากถามแกอยู่นานแล้วว่าแกทำไมถึงไม่คิดหาเมียมั่งเลย

ยาร์เลต์

(หัวเราะ) อ๋อฉันน่ะพอแล้ว เคยแต่งงานกับเขาครั้งหนึ่งฉันก็พอไม่ต้องการอีกละ ก็นี่ฉันเปนคนเหลวไหลยังงี้ก็ไม่ใช่เพราะเมียหรือ

ปอล

ทำไมเมียแกเปนคนไม่ดีหรือ

ยาร์เลต์

ไม่ใช่ เขาเปนคนดี ดีเกินฉันไป

ปอล

เล่าเรื่องให้กันฟังหน่อยเถอะน่ะ

ยาร์เลต์

เรื่องมันนานมาแล้ว อย่าคุ้ยเขี่ยขึ้นอีกเลย

ปอล

เล่าไปเถอะน่า เผื่อฉันจะได้จำไว้เปนคติได้บ้าง

ยาร์เลต์

ก็เอา ฉันน่ะเดิมก็เปนคนมีเงิน แต่ฉันไปรักผู้หญิงชั้นต่ำกว่าตัวฉัน พวกญาติเพื่อนฝูงเขาช่วยกันตักเตือนฉัน แต่ฉันดื้อเหมือนแกแหละ เพราะเวลานั้นฉันยังหนุ่ม ฉันก็ขืนแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้นจนได้ ก็อยู่กินด้วยกันจนรักใคร่ปรองดองกันดี แต่มามีข้อเดือดร้อนก็คือญาติพี่น้้องเขาพากันโกรธฉันหมด ฉันนะก็ไม่เคยต้องทำงานอะไร ก็เลยไม่รู้ว่าจะทำอะไร เมียฉันหรือก็ออด ๆ แอด ๆ เจ็บร่ำไป ฉันต้องเสียค่ารักษาพยาบาลเสมอ เงินมีแต่ทางเสียไม่มีทางได้ ก็ตกลงจนลง ๆ ทุกที

ปอล

แล้วยังไงล่ะ

ยาร์เลต์

แล้วก็มีลูกออกมาคนหนึ่ง พอมีลูกก็ยิ่งร้ายใหญ่ เพราะหาพี่เลี้ยงเอี้ยงนม เสียเงินเข้าไปอีก อยู่มาวันหนึ่งเมียเขาไม่สบายยังไรไม่ทราบพาลด่าว่าฉันใหญ่ ฉันก็นิ่งทนอยู่หน่อย แล้วก็ลุกออกจากห้องลงกระไดเรือนไป

ปอล

ก็เมียแกล่ะ

ยาร์เลต์

เขาก็อยู่ที่บ้านนั่นนะซิ

ปอล

ก็แล้วเมื่อไรแกถึงได้กลับไปอีกล่ะ

ยาร์เลต์

ฉันไม่ได้กลับไปอีก ฉันเลยไม่ได้พบกับเมียฉันอีกเลยตั้งแต่วันนั้น

ปอล

พุทโธ่ อะไรแกทิ้งลูกทิ้งเมียแกเสียได้ยังงั้นเทียวหรือ

ยาร์เลต์

ไม่ทิ้งก็ต้องอดตายกันหมด ธรรมดาคนเราย่อมต้องรักตัวยิ่งกว่าคนอื่น ถ้าฉันต้องเลี้ยงแต่ตัวฉันเองคนเดียวก็คงจะพอหาได้ แต่ถ้าต้องเลี้ยงลูกเมียด้วยละก็ต้องอดทั้งสามคนแน่

ปอล

แล้วแกทำยังไงต่อไป

ยาร์เลต์

ฉันก็เที่ยวซัดเซคะเนจรไป บางวันก็ได้กินดีราวกะเจ้า บางวันจะหาอัฐซื้อเข้ากินสักอัฐก็ไม่มี แต่เที่ยวอยู่ยังงี้หลายปีจึงไปเจอะขุมทรัพย์เข้า

ปอล

ที่ไหน

ยาร์เลต์

ที่ตัวแกเอง ถ้าฉันไม่ได้รับความกรุณาของแกแล้วก็คงต้องอดตาย เพราะฉันยังถือเกียรติยศผู้ดีอยู่พอที่จะไม่ขอทานกลางถนน

ปอล

แล้วแกได้ข่าวเรื่องลูกเมียแกบ้างหรือเปล่า

ยาร์เลต์

พอฉันไปจากบ้านเสียสักปีหนึ่งหรือสองปี ฉันไดัรับหนังสือจากเพื่อนคนหนึ่งบอกข่าวว่า เมียฉันเจ็บมากจวนจะตาย เวลานั้นฉันเพอินเงินเกลี้ยงกระเป๋า กำลังจัดการจะหาเงินเสียค่าเดินทางก็พอได้รับข่าวว่าเธเรสเมียฉันตายเสียแล้ว ลูกก็ตายเสียด้วยเหมือนกัน (ตอนท้ายพูดเสียงเครือ)

ปอล

แกเสียใจหรือ

ยาร์เลต์

เสียใจ ฉันนึกขึ้นถึงที่ได้เคยรักกันเปนนักหนามาแต่ก่อน และนึกถึงความดีของเธเรส เสียใจที่ไปไม่ทันได้พบก่อนตาย (เช็ดน้ำตา) เมียฉันคนนั้นเขาเปนคนดีจริง ๆ เขาดีเกินวาสนาฉันไป เพราะฉนั้นถึงอยู่ด้วยไม่ได้ตลอด

ปอล

ฉันเห็นใจ (เข้าไปตบไหล่ยาร์เลต์)

ยาร์เลต์

เมื่อแกรู้แล้วว่าฉันเปนคนยังไง แกควรจะไล่ฉันเสียไม่ควรคบอีกเลย

ปอล

ที่ไหนได้ แกจะมาทิ้งฉันเสียเดี๋ยวนี้ได้หรือ แกเปรียบเหมือนคนนำทาง ถ้าแกไปเสียฉันคงต้องหลงเปนแน่

ยาร์เลต์

ที่จริงฉันปิดความเรื่องเมียฉันไว้ เพราะกลัวแกจะรู้ความจริงว่า ฉันเปนคนชนิดไรแล้วแกจะไล่ฉันเสีย แต่นี่ฉันยอมขยายเพราะฉันรักแกจริง และไม่อยากให้แกได้ความเดือดร้อนเพราะได้เมียไม่สมควร

ปอล

ขอบใจในการที่แกหมายดีต่อฉันเช่นนั้น แต่ถ้าแกนึกว่าเรื่องของแกจะทำให้ฉันเปลี่ยนความคิดละก็แกคิดผิดทีเดียว ฉันยังตั้งใจอยู่เต็มที่ว่าจะขอมารีเปนเมีย ฉันจะเลี้ยงได้ เพราะยังงั้นขอให้แกเข้าใจเสียเถิดว่า ฉันจะทำตามความแนะนำของแกทุกอย่าง เว้นแต่ในเรื่องมารีนี้ ฉันจะต้องเอาตามใจฉันเอง ฉันจะไปหาหล่อนเดี๋ยวนี้ (ออกไปจากห้อง)

ยาร์เลต์

ไม่ได้การ ถ้าขืนปล่อยปอลเห็นจะแต่งงานกะอีนางมารีเสียจริง ไม่ได้ ๆ ถ้าปอลมีเมีย อีนางเมียก็จะมากีดขวาง เราก็จะเข้าไม่ได้สนิทเหมือนแต่ก่อน จะคิดยังไงดีหนอ ต้องคิดให้คู่นี้แตกกันเสียให้ได้ ถ้าเมียมั่งมีก็ไม่ว่า เพราะเงินคงมีพอ นี่ปอลหรือก็ไม่ใช่คนมั่งมีเหลือเกิน ถ้าต้องเลี้ยงเมียเข้าไปอีกคนก็ไม่มีอะไรเหลือมาถึงเราเท่านั้นเอง ไม่ได้ต้องคิดจัดการให้ดี ฮือ ! จะทำยังไงดี นี่นางมารีจะไม่มีผู้ชายอื่นเคยรักอยู่เก่าบ้างหรือไงหนอ มันควรจะมีนี่ เอาน่า มันไม่มีเราก็จัดการให้มันมีขึ้นให้ได้ซิน่า (เดินไปนั่งที่โต๊ะหยิบกระดาษแลปากกามา) ต้องคิดอ่านเขียนหนังสือถึงนางมารีต่างว่ามาจากชู้ ต้องดัดลายมือ (เขียนพลางอ่านพลาง) ถึงแม่มารียอดที่รักของฉัน หมู่นี้ทำไมหล่อนจึงหายไป ฉันมาคอยหล่อนอยู่ที่ที่เก่า ๒ วันแล้วไม่เห็นหล่อนมา หรืออ้ายพวกปรุสเซียมันจะกันไว้ไม่ให้หล่อนมาดอกกระมัง หล่อนลืมเสียแล้วหรือที่หล่อนว่าไว้ว่าจะรักฉันตราบเท่าวันตาย (พูดกับคนดู) อิตอนนี้ออกดี ๆ แฮะ (เขียนต่อไป) ถ้าหล่อนมาได้ขอให้มาหน่อยเถอะวันนี้ ถ้าไม่มาอกพี่จะแตกเสียแน่แล้ว แต่พี่ผู้มีความรักอย่างยิ่ง ชาลส์ (พูด) เออได้การละ นี่เจ้าปอลเห็นเข้าก็หึงฉิว นางมารีพอถูกต่อว่าเข้าก็คงไม่รับก่อนแล้วถูกซักหนักเข้าคงแสนงอนโกรธ เราก็จะได้มีช่องเข้ายุแหย่เสียใหญ่ ได้การแน่ละ ฮะ ! ฮะ ! (ปอลกับมารีเข้ามา ยาร์เลต์ซ่อนกระดาษข้างหลัง)

ปอล

เอ๊ะ ! นั่นแกซ่อนอะไร เงินหรือ

ยาร์เลต์

ไม่ใช่หรอก แต่ฉันหวังใจว่าจะทำให้กลายเปนเงินได้ (หัวเราะ) เปล่าหรอกหนังสือฉันเขียนค้างอยู่ ฉันจะไปเขียนในห้องนอนฉันก็ได้ (ออกไปจากห้อง)

ปอล

เออ ! ตาแก่แกไปเสียเองแล้วไม่ต้องไล่แก ดี ๆ มาเถอะแม่มารีมานั่งด้วยกัน (พากันไปนั่งเคียงกันบนเก้าอี้ยาว) ไหนหล่อนบอกให้ฉันชื่นใจอีกสักทีเถิดว่าหล่อนรักฉัน

มารี

ฉันรักเธอจริง ๆ จะต้องบอกซ้ำสักกี่หนเทียว (ปอลกอด)

ปอล

เปนธรรมดาอยู่เอง เพราะฉันรักหล่อนมานมนานแล้ว แต่ยังไม่กล้าแสดงให้หล่อนรู้ กลัวหล่อนจะไม่รักฉัน

มารี

อะไร ปอลก็ สงสัยได้นี่

ปอล

แน่ละ

มารี

ฉันจะสารภาพให้ฟังนะ ฉันนึกรักเธอตั้งแต่แรกเธอมาอยู่ที่นี่ใหม่ ๆ แน่

ปอล

ฉันรักหล่อนฉันเห็นหล่อนครั้งแรกเทียว เออนี่ หล่อนเคยรักกะใครมาก่อนฉันมั่งแล้วหรือยังน่ะ

มารี

อุ๊ยอะไรซักยังงี้ เดี๋ยวฉันจะเคืองนี่

ปอล

เอ้ายังงั้นเลิก ไม่พูดถึงความเก่าละ ก็ว่าแต่เมื่อเรากันแล้วน่ะจะไปอยูที่ไหนดี

มารี

แล้วแต่เธอสิคะ

ปอล

อ๊ะ หล่อนเลือกสิ ส่วนฉันน่ะตัวหล่อนอยู่ที่ไหนที่นั่นก็เมืองสวรรค์ไปคราวหนึ่งแหละ

มารี

ยังไง ๆ พาฉันไปปารีสหน่อยนะคะ ฉันยังไม่เคยไปเลยแหละ เขาว่าสนุกนัก

ปอล

อะไรอยู่แค่นี้ก็ไม่เคยไปปารีสหรือ

มารี

โธ่ ก็ฉันไม่เสรษฐีเหมือนเธอนี่ จะได้ไปเที่ยวไหนเที่ยวได้ตามใจ

ปอล

ที่จริงฉันก็ไม่ใช่เสรษฐีหรอก เปนแต่มีเงินอยู่เปล่า ก็ใช้สำหรับเที่ยวเปิดในตาเสียมั่งเท่านั้นแหละ ฉันดีใจที่ฉันได้มาแวะที่เมืองนี้ ไม่ยังงั้นก็ไม่ได้พบหล่อน

มารี

แล้วเธอพาฉันไปเที่ยวมั่งนะคะ

ปอล

ได้ซิ คิดอ่านไปหาบ้านอยู่ในปารีสก็ได้ แต่ถึงจะอยู่ไหน ๆ ก็คงมีความศุขเท่ากันแหละ คนสองคนถ้ารักกันเหมือนฉันกะหล่อนละก็อยู่ไหน ๆ ก็เปนศุข (ยาร์เลต์เข้ามาเห็นเขากำลังกอดกันอยู่ยืนเสียเพียงประตู)

ปอล

อะไรเล่า นั่นมายืนทำไมอยู่ที่ประตูเล่า

ยาร์เลต์

อย่าเพ่อโกรธเลยน่ะพ่อคุณเถอะ ฉันไม่อยากกวนแกหรอกเวลานี้ ฉันก็เคยเปนหนุ่มมาเหมือนกันนี่นา

ปอล

มีธุระอะไรก็ว่ามา

ยาร์เลต์

มีคนเอาหนังสือมาให้แก เขาว่าเปนการด่วน (ส่งหนังสือให้ ปอลรับไปฉีกอ่านแล้วกระหมวดคิ้ว)

ปอล

(พูดป้อง) ตายเฉพาะจะเรียกกันเวลานี้ แต่ทำยังไงได้เราสาบาลไว้แล้ว (ดัง) มารี ฉันจะต้องออกไปข้างนอกประเดี๋ยวคอยฉันอยู่ในนี้แหละนะ

มารี

คะ (ปอลออกไป มารีหยิบเสื้อเด็กออกมาเย็บ)

ยาร์เลต์

(พูดคนเดียว) เอ๊ะ นี่เจ้าปอลปรูดปราดไปไหนนะ ชะชะเวลากำลังหวานยังงี้เปนเราก็ไม่ยักไป ฮือ ! ที่จริงอ้ายเจ้าปอลนี่หน้าตามันก็ดีหรอก นางนี่หน้าตาท่าทางพอใช้ แต่ไม่ได้มันกีดเรา ต้องคิดกำจัด ฮือ ! สวยอยู่ อ้ายเรานี่ก็ยังไม่แก่เหลือเกินหรอกนะ อยู่เปล่า ๆ ไปพูดกะเขาเล่นมั่งก็เห็นจะได้หรอก (จัดผ้าผูกและนั่งลง) แอม ! วันนี้อากาศดี

มารี

ดีหรอกคะ

ยาร์เลต์

เออหล่อนมาอยู่กะป้าหล่อนที่นี่นานแล้วหรือจ๊ะ

มารี

คะ ฉันมาอยู่ตั้งแต่ยังเล็ก ๆ

ยาร์เลต์

แล้วก็มาดามน่ะ เปนป้าหล่อนจริง ๆ หรือ

มารี

ไม่ใช่หรอกคะ ฉันเรียกว่าป้า เพราะว่าได้เลี้ยงฉันมาแต่เล็ก

ยาร์เลต์

(พูดป้อง) ฮึ ! ตายละปอลเอ๊ย นางนี่เปนลูกกระยาจกอะไรก็ไม่รู้ ยายเจ้าของโฮเตลไปเก็บมาจากไหนก็ไม่รู้ (ดัง) ก็พ่อแม่หล่อนล่ะจ๊ะ

มารี

คุณแม่ตายเสียตั้งแต่ฉันยังเล็กคะ แต่คุณพ่อน่ะฉันไม่เคยรู้จักเลย

ยาร์เลต์

อ๊า ทำไมยังงั้นล่ะ

มารี

พ่อแกทิ้งคุณแม่ไปเสียแต่เมื่อฉันเกิดใหม่ ๆ แน่คะ

ยาร์เลต์

เออ ๆ แล้วคุณแม่หล่อนทำยังไงล่ะ

มารี

ก็ต้องตากินไปตามแต่จะได้และคะ แต่แรกคุณแม่เย็บเสื้อขายก็ได้เงินมาพอเลี้ยงกันได้มั่ง แต่คุณแม่ทำงานไม่ใคร่ได้มาก หาเงินใช้ค่าเช่าบ้านไม่พอ ต้องเปลี่ยนบ้านใหม่บ่อย ๆ เปลี่ยนจากดีมาหาเลวร่ำไป จนลงปลายเช่าได้ต้องเล็กนิดเดียว พอคุณพ่อไปได้แล้วสักสามปี คุณแม่ก็ตั้งต้นเจ็บออดแอดมากขึ้น ทำงานได้น้อย ยิ่งเจ็บบ่อยก็ยิ่งหาเงินซื้อยาได้น้อยเข้าทุกที ในเวลานี้คุณแม่บ่นถึงคุณพ่อบ่อย ๆ ท่านยังเชื่ออยู่ว่าคุณพ่อจะกลับแต่คอย ๆ ก็ไม่เห็นมา

ยาร์เลต์

นี่ใครบอกหล่อน หล่อนคงจำไม่ได้เอง

มารี

คุณป้าเล่าให้ฉันฟังคะ

ยาร์เลต์

(พูดเสียงกระชาก) ถ้ายังงั้นแกก็โกหกให้หล่อนฟังละ นี่อะไรแต่งมาแกล้งด่ากัน-

มารี

(ตกใจ) อะไรคะ นี่ทำไมนายโกรธดีฉัน

ยาร์เลต์

เปล่า ๆ ฉันเผลอตัวไป ขอโทษเถอะ หล่อนเล่าต่อไปเถอะ ฉันอยากฟังจริง ๆ แล้วยังไงต่อไปล่ะ

มารี

คราวนี้คุณแม่ก็เจ็บมากขึ้นทุกที จนลงปลายต้องไปอยู่โรงพยาบาล ป้านี่แหละคะแกเคยชอบกะคุณแม่มานมนาน แล้วแกรับดีฉันมาอยู่ด้วย เมื่อคุณแม่ยังอยู่ในโรงพยาบาล ป้าพาดีฉันไปเยี่ยมบ่อย ๆ ไปทีไรก็เห็นแต่ซีดลงผอมลงทุกที จนหน้าเหลือนิดเดียวแขนขาก็เล็กนิดหนึ่ง ฉันร้องไห้เสียตาบวม ๆ ทุกทีเทียวคะ น่าสงสารจริง ๆ นึกขึ้นมาเดี๋ยวนี้ยังน้ำตาจะไหล (เช็ดน้ำตา) แล้วเมื่อจะตายน่ะเรียกฉันเข้าไปสั่งว่า ถ้าคุณพ่อมาเมื่อแม่ตายเสียแล้วขอให้บอกด้วยว่าแม่รักอยู่จนวันตาย และการที่เปนมาแล้วนั้นแม่ไม่ถือโทษเลย.

ยาร์เลต์

คุณแม่หล่อนชื่อไร

มารี

ชื่อเธเรสวาเรนน์

ยาร์เลต์

(ตลึง) เธเรส ! เธเรส !

มารี

ท่านรู้จักคุณแม่ฉันหรือ

ยาร์เลต์

จ๊ะ ๆ ฉันได้เคยรู้จักตั้งแต่ยังสาว ๆ อยู่ ไหนหล่อนมีรูปไหม

มารี

คะ ฉันมีรูปคุณแม่อยู่รูปหนึ่ง เขาว่ากันว่าเหมือนเมื่อได้กะคุณพ่อใหม่ ๆ นี่แน่คะ (หยิบรูปออกมาจากกระเช้าเครื่องเย็บส่งให้ยาร์เลต์ ยาร์เลต์รับไปมองดูอยู่ครู่หนึ่ง)

ยาร์เลต์

(พูดคนเดียว) ถูกแล้ว ถูกแล้ว นี่รูปเธเรสเมียเราเอง ยังงั้นมารีก็ลูกสาวเราเอง พุทโธ่ ๆ ไม่รู้เกือบทำเสียเจ็บปวด (หันไปทางมารี)

มารี

ไหนล่ะคะรูปของฉัน

ยาร์เลต์

มารี มารี (ตรงเข้าไปตั้งท่าจะกอด)

มารี

อุ๊ยตาย ! ตาย ! คุณเปนบ้าหรือไง ! อุ๊ย ! ปอล ช่วยด้วย (ปอลวิ่งเข้ามาผลักยาร์เลต์ล้มลง มารีวิ่งหนีออกจากห้องทิ้งรูปแม่ไว้)

ปอล

ยาร์เลต์ นี่แกยังไง แกเมาหรือคลั่งไปยังไง

ยาร์เลต์

(ลุกขึ้นนั่งบนเก้าอี้) ประเดี๋ยว ประเดี๋ยว

ปอล

ไม่ได้ตอบมา ทำไมแกถึงไปกอดแม่มารี แกหรือฉันนับถือราวกับพี่ แกทำได้นี่

ยาร์เลต์

ฟังฉันหน่อย แกจำได้ไหมที่ฉันเล่าถึงเรื่องเมียที่ฉันทิ้งไปเสียน่ะ

ปอล

เออ แล้วเกี่ยวข้องยังไงในเรื่องนี้

ยาร์เลต์

ผู้หญิงคนนั้นแหละคือแม่มารี มารีเปนลูกฉันเอง

ปอล

อ๊ะ ! ก็ไหนแกว่าลูกแกตายยังไงล่ะ

ยาร์เลต์

เขาบอกมาผิดไป มารีเปนลูกฉันแน่

ปอล

แกรู้ได้ยังไง

ยาร์เลต์

รู้ได้ด้วยรูปนั่น มารีบอกว่านั่นรูปแม่ของเขา ก็นั่นรูปเมียฉันเอง

ปอล

มารีรู้ไหมล่ะ

ยาร์เลต์

ไม่รู้ ฉันบอกไม่ทัน แกก็ตึงตังเข้ามาเสีย

ปอล

มารีเปนลูกสาวแกนี่เอง (เดินเข้าไปจับบ่ายาร์เลต์) แกรู้ไหมว่าฉันรักมารียิ่งกว่าชีวิตร์และหมายว่าจะได้แต่งงานกับหล่อน

ยาร์เลต์

ก็ทำไมเดี๋ยวนี้ก็จะไม่แต่งหรือ

ปอล

ไม่ได้น้ะซิ (ยกมือลูบหน้า) ไม่ได้ ไม่ได้

ยาร์เลต์

ทำไมเปนอะไร บอกให้ฉันทราบทีหรือ

ปอล

เรื่องราวมันเปนเช่นนี้ เมื่อทหารปรุสเซียมาถึงเมืองนี้ พวกคนหนุ่ม ๆ ด้วยกันได้ชวนกันสาบาลตัว ตั้งเปนกองทหารขึ้นกองหนึ่ง คอยหาโอกาศจะรบข้าศึกช่วยแผ่นดิน เมื่อวานซืนนี้เตรียมกันพร้อมแล้วว่า จะยกเข้าตีกองระวังด่านข้าศึก พอจะยกออกเพอินเขาจับได้ นายทหารก็สั่งให้กลับบ้านให้หมด และพูดไว้ว่าถ้าขืนคิดเช่นนี้อีกจะต้องลงโทษอย่างหนัก เพราะพวกฉันไม่ได้แต่งเสื้อทหาร ต้องนับเหมือนเปนโจรปล้น วันนี้เองพวกนั้นคิดออกรบอีก หนังสือนั่นที่แกเอามาให้ฉันน่ะเปนหนังสือเรียกตัวฉันให้ไปเข้ากอง

ยาร์เลต์

แล้วได้ยกหรือเปล่าล่ะ

ปอล

ยกที่ไหน พอกำลังจัดกระบวนอยู่ซิ พวกทหารปรุสเซียล้อมไว้เสียไม่มีทางออกเทียว นายทหารเขาก็พูดว่า “ฉันได้บอกแล้วว่าอย่าให้ทำ ขืนทำต้องลงโทษเปนตัวอย่าง จะต้องยิงเสียสามคนขอให้เดินออกมาดี ๆ สามคน” นึกดูเถอะยาร์เลต์ พอนายทหารเรียกยังงั้นแล้ว ไม่มีใครออกไปจนคนเดียว แล้วยังจะอุส่าห์อวดตัวว่ารักชาติได้

ยาร์เลต์

ก็แกล่ะ

ปอล

พุทโธ่ ฉันจะนิ่งทนอยู่ได้หรือ ทหารปรุสเซียจะได้พากันเยาะว่าฝรั่งเศสเปนชาติขี้ขลาด ฉันก็เดินออกไปก่อน

ยาร์เลต์

พุทโธ่ ปอลแกไม่นึกถึงมารีมั่งเลย

ปอล

นึกแล้ว แต่จะทำยังไงได้ เมื่อมันถึงที่ก็ต้องตาย ฉันเชื่อว่ามารีคงจะโกรธฉันเปนแน่ ถ้าฉันไม่ทำเช่นนั้น นี่ฉันน่ะลาเขามาครู่หนึ่งสำหรับมาลามารี

ยาร์เลต์

ขอทีเถอะ ถึงยังไงอย่าเพ่อให้รู้เลย

ปอล

ก็จริงอยู่ ยังไม่ควรบอกให้รู้ เอาทีหลังแกจัดการบอกยังไงให้ดี คิดอ่านบอกเสียยังไงอย่าให้เปนทุกข์มากนัก บอกเสียว่าฉันตายในที่รบหรืออะไรก็ได้

ยาร์เลต์

ยังงั้น ๆ เอาไว้เปนพนักงานฉันเอง

ปอล

ยังงั้นฉันต้องไปขอพยมารีเสียนิดหนึ่งเปนครั้งที่สุด (ออกไปจากห้อง)

ยาร์เลต์

ตาย ๆ จะทำยังไง ปอลจะต้องตาย ลูกเราก็จะมิต้องทุกข์โศกเหลือเกินหรือ (นายทหารปรุสเซียเข้ามา)

นายทหาร

เวลาหมดแล้ว อ้าวเจ้าหนุ่มนั่นไปไหนล่ะ

ยาร์เลต์

คุณขอรับ จำเปนหรือที่จะต้องยิงเจ้าหนุ่มนั่น

นายหหาร

จำเปน เขาทำผิดข้อบังคับ

ยาร์เลต์

ก็ยิงคนอื่นไม่ได้หรือ

นายทหาร

ก็ให้เลือกตามสมัค คนนี้สมัคคนหนึ่ง

ยาร์เลต์

ทำไม ใครเปนต้นคิดควรเอาคนนั้นลงโทษถึงจะถูก

นายทหาร

ฉันไม่มีเวลาเถียงกับท่าน ฉันต้องทำน่าที่ของฉัน

ยาร์เลต์

ก็ควรอยู่แล้ว แต่ท่านจะทำน่าที่ด้วยกรุณาไม่ได้หรือ

นายทหาร

ฉันก็ได้กรุณาแล้วถึงได้ขอแต่สามคน ที่จริงควรจะยิงเสียทุกคน

ยาร์เลต์

พุทโธ่ ๆ คุณนึกดูเถิด เจ้าหนุ่มคนนี้กำลังรักผู้หญิงอยู่ ผู้หญิงก็รักเขา ถ้าท่านฆ่าเจ้าหนุ่มก็เสมอกับฆ่าผู้หญิงด้วย ท่านไม่สงสารบ้างเลยหรือ ผู้ที่ไม่มีผิดจะต้องพลอยทุกข์ด้วย

นายทหาร

ฉันไม่อยากเถียงกับท่าน คนหนุ่มนั่นอยู่ไหน

ยาร์เลต์

ถ้าหาคนเต็มใจตายแทน ท่านจะยกชีวิตร์เจ้าหนุ่มได้ไหม

นายทหาร

ได้ แต่เดี๋ยวนี้หมดเวลาที่จะเที่ยวหาเสียแล้ว

ยาร์เลต์

(พูดกับคนดู) จะหาใครแทนได้เล่า พุทโธ่ ชีวิตร์ปอลเท่านั้นเมื่อไหร่ยังมารีอีก เออก็ตัวเรานี่ก็อยู่ในโลกมานานแล้ว ได้ทำความดีไว้น้อยเหลือเกินคิดใช้หนี้เสียบ้างเถอะ ปล่อยให้หนุ่มสาวเขาได้ความศุข อ้ายเรามันแก่แล้ว ตายเสียก็คงไม่มีใครอาไลยอาวรณ์นัก (พูดกับนายทหาร) คุณกับตัน คนแทนหาได้แล้ว

นายทหาร

ที่ไหน

ยาร์เลต์

ข้าพเจ้าเอง

นายทหาร

ก็ตามใจ ยังนั้นก็มาซิ

ยาร์เลต์

ขอประทานเขียนหนังสือสักฉบับเถอะขอรับ

นายทหาร

ได้ แต่ขอให้เร็วหน่อย (ออกไปนอกห้อง ยาร์เลต์ไปนั่งเขียนหนังสือที่โต๊ะแล้วไว้ที่โต๊ะ พอเสร็จมารีเข้ามาและตรงเข้าไปหายาร์เลต์)

มารี

คุณพ่อ ! (ยาร์เลต์ตลึง) ปอลบอกฉันแล้ว ขอโทษเถอะนะคะที่ดีฉันไม่รู้จัก (ยาร์เลต์)

ยาร์เลต์

ปอลอยู่ไหน

มารี

ปอลตกกระไดขาเคล็ดไปแล้วละคะ ป้ากำลังรักษาอยู่ ให้มาตามคุณพ่อไปเดี๋ยวนี้

ยาร์เลต์

พ่อมีธุระยังไปไม่ได้ หล่อนไปก่อนเถอะ

มารี

ไม่ได้ดีฉันต้องเอาคุณพ่อไปด้วย (นายทหารเข้ามา)

นายทหาร

ถึงเวลาแล้วไปหรือยัง

มารี

อะไรกัน นี่จะเอาพ่อฉันไปไหน (นายทหารจะพูดแต่พอแลสบตายาร์เลต์ก็นิ่ง) คุณพ่อเขาจะเอาไปไหน

ยาร์เลต์

ยังไงก็ไม่ทราบ เห็นจะเรียกไปถามอะไรหน่อยเท่านั้นแหละ

มารี

อะไร ออกไม่เชื่อ โธ่หลอกฉันน่ะ (วิ่งไปดูที่หน้าต่าง) อุ๊ยทหารมาตั้งแถวทำไมกัน (แลมาดูพ่อแล้วดูนายทหารทั้งสองคนหลบตามารี มารีตลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้ววิ่งไปกอดยาร์เลต์) คุณพ่อ ! คุณพ่อ ! (สลบไป ยาร์เลต์กับนายทหารช่วยกันพยุงไปถึงเก้าอี้นอนอุ้มขึ้นนอน ยาร์เลต์แลดูอยู่ครู่หนึ่งแล้วก้มลงไปจูบ)

ยาร์เลต์

คุณกับตัน ผมไปได้แล้ว (เดินออกไปกับนายทหาร)

ปอล

(ในโรง) ยาร์เลต์ ! มารี ! (ปอลเดินเขยกเข้ามาในห้อง) เอ๊ะ นี่ยาร์เลต์หายไปข้างไหนนะ เอ๊ะ (เห็นหนังสือ) เออนี่หนังสือละไร (ฉีกออกดู) หนังสือยาร์เลต์ (อ่าน) (ถึงปอล ฉันขอลาแกละ ฉันจะออกไปตายแทนแก อย่าเสียใจไปเลยฉันก็แก่แล้ว แกยังหนุ่มยังไม่ควรจะตาย ฉันขอฝากแม่มารีด้วย หล่อนไม่มีพ่อแม่แล้ว เพราะฉนั้นมีอยู่แต่ตัวแกที่จะเปนที่พึ่งได้ต่อไป ขอพระเจ้าจงคุ้มเกรงรักษาแกกับมารีให้อยู่กินด้วยกันให้เปนศุขด้วยเถิด แต่สหายผู้มีความรักใคร่ในตัวแกเปนอย่างยิ่ง) ยาร์เลต์ (พูด) ไม่ได้ ยอมไม่ได้จริง ๆ เอ๊ะ ก็นี่หายไปไหนล่ะ (เดินไปพบมารี) มารี ! เปนอะไรล่ะนี่ (ก้มลงไปมอง) แม่มารี ! เอ๊ะ (คลำอก) ใจยังเต้นอยู่เห็นจะสลบ เอ๊ะ ก็นี่ยาร์เลต์ไปไหนเสียล่ะ (วิ่งไปมองที่หน้าต่าง) ยาร์เลต์ ! ยาร์เลต์ ! (เสียงปืนยิงข้างนอก ปอลปิดตาเซ แล้วซบสลบลงไปกับพื้น)

(ปิดม่าน)

----------------------------

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ