คำอธิบายศัพท์

กรม ลำดับ หมวดหมู่ คุ้มภัยทุกกรม หมายถึง คุ้มภัยทุกอย่าง
กรรณ หู
กรรตรา เสน่ห์ สะกด (ส. กรฺตร)
กรรตราสงค์ กรรตรา (เสน่ห์) + สงค์ (ความเกี่ยวพัน) ความหมาย โดยรวมคือ ผูกมัดไว้ด้วยเสน่ห์
กรรทรรณ กรรท (ส. กรุท) สั่น คราง + อรณ (ส.) จากไป ไปเป็นของผู้อื่น เรียมโรทดกรรทรรณ ตัวพี่ ต้องร้องไห้ ครีาครวญเมื่อน้องจากไป
กรรทิตัง ถูกกระทำให้หวั่นไหวคร่ำครวญ (ส. กรุท + ิต)
กระแน่ง แน่ง นางงาม เติม กระ หน้าศัพท์ เป็น กระแน่ง ลักษณะเดียวกับ ทำ เป็น กระทำ
กระบี่ ลิง แผลงมาจาก กปิ
กระเมริม คระเมิม ดุร้าย น่ากลัว
กระหนกระหาย กระวนกระวาย เดือดร้อน
กระเหม่น เขม้น มอง เพ่งมอง
กลอยสวาดิ หญิงอันเป็นที่รัก ร่วมรักใคร่
กลั้ว เคล้า ระคน
กลาภัย กลา ส่วนหนึ่ง กลาภัย ส่วนแห่งความน่ากลัว ในที่นี้หมายถึง ตกอยู่ในห้วงแห่งภัย
กังขา ความเคลือบแคลง ความสงสัย
กังขาน กังขา + แปลง เป็น ให้รับส่งสัมผัสตามบังคับคำประพันธ์
กัจฉา ปลายแขน
กัณฐ์ คอ
กันแสง ร้องไห้
กัลปหุกา กัลปหูกา

กัลป ประเสริฐ หู + ผู้บวงสรวง ผู้บูชา

อรองค์ทรงศุภลักษณะ คิดคือกัลปหูกา

หมายถึงนางสีดาเป็นผู้มีลักษณะอันประเสริฐ ควรเป็นผู้ที่ได้รับการบูชา

กัลเหา

กลมกล่อม อ่อนหวาน แผลงจาก กัลเอา
ก้าง กั้น ขวาง
กาญจนลดา ลดาทอง ไม้เถาทอง
กามัย ความปรารถนา
กามาสาร

กามา (ความรัก) + สาร (อันบุคคลพึงระลึกถึง)

คุณาวรบิดุรามารดูรกามาสาร หมายถึง คุณของบิดา มารดาผู้ประเสริฐอันเป็นที่รักพึงระลึกถึง

กำจัด พลัด แยก
กำดึง ทำให้รู้
กิตย กิจ เรื่องราว ข้อความ
กินนร คนครึ่งนก ถ้าเป็นเพศหญิงเรียกว่า กินรี
กี กี่ เท่าไร กีเมื่อฤๅสมกัน เมื่อไรจะได้อยู่ร่วมกัน
กุมพล ต้นฉบับตัวเขียนบางเล่มใช้ กุมภณฑ์ ยักษ์ตนหนึ่งในเรื่องรามเกียรติ์
กุมกัณฑ์ กุมภ + อัณฑ ผู้มีอัณฑะดังหม้อ หมายถึง ยักษ์
กุมภีล์ จระเข้
เกลือก เกรง แม้ว่า
เกศ ผม บางครั้งหมายถึง ศีรษะ
เก้าแก้ว แก้วเก้าประการ หรือเนาวรัตน์ ได้แก่ เพชร ทับทิม มรกต บุษราคัม โกเมน นิล มุกดา เพทาย ไพฑูรย์
เกี้ยว รัด เกี่ยว พัน เช่น กอดเกี้ยวคือกาญจนลดา
แก้ว ประเสริฐ ดีเลิศ บางทีใช้ในความหมายแทนหญิงที่รัก
แก้วกับตน หญิงที่รัก
โกญจ นกกระเรียน
โกฏิ จำนวนลิบล้าน
โกมุท บัวชนิดหนึ่งดอกสีแดง
โกลา เอิกเกริก วุ่นวาย ตัดศัพท์จาก โกลาหล
โกลาคีรี ชื่อภูเขา
ไกรศรี ยิ่งด้วยสิริ มีสิริยิ่ง หนุกาไกรศรี คางที่มีสิริยิ่ง
ไกรลาส ชื่อเขาที่ประทับของพระศิวะ

ขจร ฟุ้งไป (ฟ้า) + จร (ไป) ว่า ไปในอากาศ
ขรรค ขรรค์ พระขรรค์ อาวุธชนิดหนึ่งมีคมสองด้าน คล้ายรูปคมหอก ด้ามสั้น
ขาม ครั่นคร้าม เกรงกลัว
ชินเขต น่าจะเป็น ขิลเขต ขีล (หลัก) + เขต (แคว้น แดน)
ขินี น่าจะตัดศัพท์จาก ยักขินี นางยักษ์
เขจร ไปในอากาศ ใช้ในความหมายว่า ไป
เขโฬ เขฬะ นํ้าลาย
ไข เปิด เปิดออก แสดง

คณ คณา คณะ หมู่ เหล่า
คตุธัง น่าจะเป็น คตุฏัง คต (ไปแล้ว) + อุฏํ (อาศรม) คตุฏัง ไปแล้วจากอาศรม
คทา ตะบอง
คนธรรพ คนธรรพ์ ชาวสวรรค์พวกหนึ่ง มีความชำนาญในการดนตรีและขับร้อง
ครครึกครครืน ครึกครื้น เอิกเริก เสียงดังอึกทึก
คระหนคระหาย กระหนกระหาย เดือดร้อนกระวนกระวายด้วยความปรารถนา
คลายคลาย เคลื่อนไป คล้อยไป
คนธ คันธ กลิ่นหอม
คัล เฝ้าอย่างเข้าเฝ้าเจ้านาย
ค่า คะเน ประมาณ เช่น ฤๅค่าใครเห็น
คาม บ้าน หมู่ ในที่นี้หมายถึง หมู่ หรือ ประชุม เช่น เคยชมสัตวอนุจรตาม คู่เคียงสังโยคคาม
คำรบ ครั้ง ครบ ถ้วน
คิวา คีวา คอ
คุโณ คุณ ยิ่ง ธรรมอันชนสั่งสม
เคือง ฝืดเคือง ลำบาก ไม่สะดวก
แค้น คับใจ เจ็บใจ ติด ขัด
แค้นคา ขัดข้อง ติดค้างอยู่
ไคล ไป

จร ไป เที่ยวไป
จรด ถึง จ่อให้ถึง
จรล จรัล ไป เดินไป
จรัง จร ไป
จรี มีด หอก ดาบ ในที่นี้น่าจะมาจาก จร ลงวิภัติเป็น จรี หมายถึง ไป มีอาการไป
จล หวั่นไหว
จักรปาณี ผู้ถือจักร หมายถึง พระนารายณ์
จักรวาฬ จักรวาฬา จักรวาล
จักษุ จักษู ตา
จักษุธาร น้ำตา
จัตดูรเทพย จัตตุรเทพ จตุรเทพ หมายถึง ท้าวจตุโลกบาล เทวดาผู้รักษาทิศทั้ง ๔
จันทิมา พระจันทร์ ดวงจันทร์
จาบัลย์ จำบัลย์ จำบาล สะอึกสะอื้น ครํ่าครวญทุรนทุราย
จินดา จินต จินตา ความคิด
จินต์จล คิดหวั่น หวาดหวั่น
จินเต ในความคิด
จุติ เคลื่อน ตายเพื่อไปเกิด ใช้กับเทวดา
จุมพิต จูบด้วยปาก จุมพิตถนังค จูบด้วยปากที่ถัน
เจียร เนิ่นนาน แผลงศัพท์จาก จิร เป็น เจียร จำเนียร
แจจัน เบียดเสียดยัดเยียดกัน อึกทึก อื้ออึง
โจษจล โจษจน โจษจัน พูดกันเซ็งแซ่ ส่งเสียงอื้ออึง

ฉกามา ฉกามาพจรภพ สวรรค์ทั้ง ๖ ชั้น ประกอบด้วย จาตุมหาราชิกา ดาวดึงส์ ยามา ดุสิต นิมมานรดี ปรนิมมิตวสวัดดี
ฉวย คว้าไปโดยเร็ว
ฉาน แสงกล้า แสงที่กระจายออกไป
ฉายา เงา ร่มไม้
เฉลย พูดตอบ

ชงฆ ชงฆา แข้ง หน้าแข้ง
ชนดา ชนฺตฺฤ ลงวิภัติเป็น ชนฺตา ผู้ทำให้เกิด ผู้ให้กำเนิด หมายถึง บิดามารดา
ชมพู ชมพูทวีป ทวีปหนึ่งตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเขาพระสุเมรุ
ชรล ชรลา ชล ชลา น้ำ
ชรอ่ำ ชอ่ำ ฉ่ำ มืดครึ้ม
ชรอื้อ ชอื้อ อื้อ มืดมัว ครึ้ม อับแสง
ชลนัยน์ นํ้าตา
ชลสีทันดร นํ้าในทะเลสีทันดร
ชออร ชะอ้อน ฉะอ้อน ออดอ้อน สำออย
ชัชวัด ชุต ชุติ ซ้อนพยัญชนะต้น แปลงสระอุเป็น และแผลง เป็น รูปสำเร็จเป็น ชัชวัด ความรุ่งเรือง สว่างไสว
ชัชวาล สว่าง รุ่งเรือง
ชาตบุษป ชาตบุษย์ บัวชนิดหนึ่ง
ชานิ ชานี ภรรยา มเหสี
ชาเย ชาเยศ ภรรยา
ชีวาตม ชีวาตม์ ชีว + อาตม ชีวิตของตน
ชูษณ ชุษณะ ขาว สว่างรุ่งเรือง รัตนชูษณ แก้วอันสว่างรุ่งเรือง
โชงการ ตัดศัพท์จาก ราโชงการ คำดำรัสของพระเจ้าแผ่นดิน
โชติ ความสว่าง ความรุ่งเรือง
โชรก โชก เปียกชุ่ม

ซรน ซน ซอกแซก ไม่อยู่นิ่ง
ซรอน ซอน ซุก แฝงเร้น
ซรับ ซับ ซ้อนกัน สับสน
ซาบ เอิบอาบเข้าไป

ฐาน ฐานา หลักแหล่ง ที่ตั้ง

ดังฤๅ เหตุใด เหตุไฉน
ดัศ

ดัส ปลุกให้ตื่น (ข. ฎาส่)

ฤดีดัศ ตื่นใจ ปลุกให้ตื่นใจ

ดาย

๑. ง่าย ฉวยพาได้ดาย คว้าไปได้อย่างเร็ว โดยง่าย

๒. โดดเดี่ยว ลำพัง

ด้าว แว่นแคว้น แผ่นดิน
ดำกล งาม แผลงจาก ถกล
ดำเกิง รุ่งเรือง สูงศักดิ์ แผลงจาก เถกิง
ดุจกร ดุจก่อน เหมือนก่อน เช่น จักร่ำกี่วารเห็น อนงคนุชดุจกร
ดุษฎี ความยินดี ความชื่นชม
ดุษณี นิ่ง ความนิ่ง
ดูร เร็ว ด่วน (ส. ตุร) อาดูรดูรหา ด่วนหาด้วยความเป็นทุกข์ ทั้งกายและใจ
เดียรฉา ตัดศัพท์จาก เดียรัจฉาน
เดื่อง กระเดื่อง แหนง หมางใจ
เดือด พลุ่งพล่าน เดือดแด จิตใจพลุ่งพล่าน

ตรเบง ตระเบ็ง เปล่งเสียงออกไปอย่างดัง
ตรลบ ตลบ ฟุ้งไป
ตระกอง กอด
ตระบัด ทันทีทันใด
ตระหลิ้ว น่าจะแผลงมาจาก ติ้ว ซึ่งมีความหมายว่า เฟ็ด แฟบลงไป ฟุบลงไป
ตรับ ฟัง
ตรีพิภพ ตรีภพ โลกทั้งสาม
ตฤณ หญ้า
ต่อยุทธ ต่อสู้
ตะทึกตะถึก น่าจะหมายถึง ใจเต้น อาการใจเต้นอย่างแรง
ตา คราว ตาทุกขาภาร คราวที่มีทุกข์หนัก
ตาว เดี๋ยวนี้ ทันใดนั้น (ป. ตาว)
ติง ไหว เคลื่อนไหว
ติมิรังค มืด เมฆังติมิรังค เมฆมืด
เต้า ไป
ไต่ เดินไป ไปด้วยความลำบาก

ถนงค ถนังค ถันนังค์ ถน + องค นม เต้านม
ถับ รวดเร็ว ทันใด
ถามัศ กำลัง เรี่ยวแรง ถาม (ส.) + (เข้าลิลิต)
เถิง ถึง
เถื่อน ป่า
แถก กางออก แถกถา กาง (ปีก) ออกโบยบิน

ทบ เพิ่มเข้ามา ทั่วโลกทบทาง เพิ่มเข้ามาทุกทิศทุกทางทั่วภพ
ทรหวน พัดหอบเอาไป
ทราย กวาง เนื้อทราย เช่น ป่างเมื่อตรัสใช้ ให้เรียมตามทราย
ทฤฆายุศม ทีฆายุ มีอายุยืนยาว
ทฤษา ทฤษฎี เห็น มองเห็น
ทวน กลับ ย้อนกลับ ทวนเทา ย้อนกลับไปกลับมา
ทวย ทวิ แปลง  ิ เป็น ทั้งสอง สองชงฆ์ทวยบาทา แข้งและเท้าทั้งสอง
ทศทิศเทวา เทวดาในทิศทั้งสิบ
ทศศิโรตม์ ทศศีรา ผู้มีสิบเศียร หมายถึง ทศกัณฐ์
ทักขิณา ทักขิณ ทักษิณ เบื้องขวา
ทัง ทั้ง ทังสอง ทั้งสอง
ทังวน ทำวน ห่วงใย วุ่นวายใจ
ทัดทาย ทัดทาน พูดทักท้วง ห้ามปราม
ทันต ฟัน
ท่าว ล้ม ยอบลง ทรุดลง
ทิวากร ดวงอาทิตย์
ทิวารตี กลางวันและกลางคืน
เทวยาคาศน์ น่าจะมาจาก เทวยา (เทวี, นางกษัตริย์, นางฟ้า) + ขาทิ (เครื่องประดับจำพวกแหวนหรือกำไล) เทวยาขาทิ์ หมายถึง แหวนหรือกำไลมือของนางฟ้า
เทวารุกโข รุกขเทวดา
เทา ไป
โทรมนัส โทมนัส ความเสียใจ เป็นทุกข์ใจ

ธราดล พื้นแผ่นดิน
ธานา รุ่งเรือง (ส. ธานา) หญิงธานา หญิงผู้รุ่งเรือง
ธำมรงค์ แหวน

นฤบดี นรบดี ผู้เป็นใหญ่ในหมู่มนุษย์ พระราชา
นวย เยื้องกราย
นักขัต

นข นขา เล็บ

ทศานักขัต เล็บทั้งสิบ

นันต์ มากมาย ไม่มีที่สิ้นสุด ตัดศัพท์จาก อนันต์
นาคา นาคี นาค อมนุษย์จำพวกหนึ่ง มีถิ่นอาศัยในนาคพิภพ
นาภิ นาภี สะดือ ท้อง
นารท นารทมุนี ฤๅษีตนหนึ่ง ตามเนื้อความในราชาพิลาปคำฉันท์ ว่าเป็นผู้มอบแหวนของพระอิศวรให้แก่นางสีดา
นิ นี้
นิทร นิทรา นิเทร นิไทร นอน การนอน
นิมลา นิ + มล ปราศจากมลทิน ไม่มีราคี
นิรา ปราศจาก
นิฤมล นิรมล ปราศจากมลทิน
นิฤมาณ นิรมาณ การสร้าง การทำ
นิฤยา นิรยา นรก
นิลดา นิลตา มีความเป็นนิล ในที่นี้ใช้ในความหมายว่า ดำดั่งนิล
นิลุบล บัวขาบ
นุ นั้น
นุจร ไปตาม ตัดศัพท์จาก อนุจร
นุชมาลย์ อนุช (น้อง) + มาลย์ (ดอกไม้) ในที่นี้หมายถึง นางอันเป็นที่รัก
เน่ง นิ่ง ไม่ไหวติง
เนา อยู่
เนียม

คู่ จำนวนสอง (ข. นึม)

เนียมแนบนิทรา เราทั้งสองแนบนอน

เนืองนันต์ จำนวนมาก มากมาย
แนบ แอบ เบียดชิดสนิท

บง มอง แลดู
บงกช เกิดแต่โคลน (ส. ปงฺก + ช) หมายถึง บัว
บรมจักรรัตน์ ผู้มีจักรแก้วอันยิ่งใหญ่ คือ พระจักรพรรดิ์ ในที่นี้หมายถึง พระราม
บรรทม นอน
บรรทับ ประทับ แนบ กดแนบลง เช่น อุระบรรทับอุรา
บรรพต ภูเขา
บเริ่ม น่าจะมาจาก บริรม ปริรม ชอบใจ ยินดี บเริ่มเราชายเลิศคน ยินดีว่าเราเป็นยอดชาย
บฤษฐี ปฤษฐี หลัง เบื้องหลัง
บั้น ส่วน ตอน
บันทำ ทำ
บัพภาร เงื้อม ชะง้ำ (ป ปพฺภาร)
บาบี คนมีบาป คนมีความชั่ว
บำรัด แต่ง แผลงจาก ปรัด เช่น บำรัดพยัชนีรมเยอ
บิญจางค์ เบญจางค์ องค์ห้า บิญจางค์คณาคีต หมายถึง เบญจดุริยางค์ คือ เครื่องดนตรีห้าอย่าง
บิดุรา บิตุรา บิดา พ่อ
บีฑา เบียดเบียน รบกวน
บุจฉา ปุจฉา ถาม
บุรพ บูรพ เบื้องหน้า ก่อน
บุษปผา

ดอกไม้ สร้างคำโดยการรวมศัพท์

ปุษฺป (ส.) และ ปุปฺผ (ป.)

บูรณ์ เต็ม บริบูรณ์
บูราปัจฉา บุร + ปัจฉ เบื้องหน้าและเบื้องหลัง
เบกษา ความเพ่ง (ป. เปกฺขา, ส. เปฺรกฺษา)
เบญจชลธาร แม่นํ้าสำคัญห้าสาย คือ คงคา ยมุนา อจิรวดี สรภู และ มหิมหานที
เบือน หันไป เบือนบ่าย หันหน้ามุ่งไป

ประชาบดี เทพเจ้าผู้เป็นใหญ่ในหมู่สรรพสัตว์
ประทุมา ประทุม ปทุม บัวหลวง
ประปาม ประ กระทบ ต่อสู้ ปาม พรวดพราด
ประพาฬ รัตนชาติชนิดหนึ่งสีแดงอ่อน เกิดจากหินปะการังใต้ทะเล
ประภาคย มีส่วนอันงาม โฉมประภาคยพิมล มีรูปโฉมอันงาม ปราศจากมลทิน
ประลัยา ประลัย ความฉิบหายย่อยยับ
ประสาท ยินดีให้ โปรดให้
ประสาธน์ เครื่องประดับ
ประสุม ประสม รวม ระคนกัน
ปรัตนี ภรรยา หญิงแม่เรือน (ป. ปตฺนี, ส. ปฺรตฺนี)
ปรัศว์ ข้าง ส่วนข้าง
ปราณ ลมหายใจ สัตว์มีลมหายใจ มีชีวิต
ปรารมภ์ ครุ่นคิด รำพึง
ปริลังค ปริ + สังค โอบกอดไว้โดยรอบ
ปลง เอาลง ทำให้ขาด
ปลาบ ความรู้สึกเสียววาบ
ปักษิ ปักษี นก
ปัจฉา เบื้องหลัง
ปัทม ปัทม์ บัวหลวงสีแดง ปัทมเพริศพรายพรรณ ปัทม ในที่นี้หมายถึง ฐานปัทม์ คือ ฐานบัวหน้ากระดานบัวคว่ำบัวหงายในสถาปัตยกรรมไทย
ปาง ป่าง ครั้ง เมื่อ
ปางมรณ์ เกือบตาย อาการปางตาย
ปาณ ลมหายใจ สรัปปาณ ลมหายใจของงู หมายถึง พิษที่ออกมากับลมหายใจของงู
ปานี้ ปานนี้ ป่านฉะนี้
ปาวกาวจรี ปาวก (ไฟ) + อว (ลง) + จรี (ไป) มีไฟตกลง ในที่นี้หมายถึง ฟ้าแลบหรือฟ้าผ่า
ป่าเวศ ป่า เวศ น่าจะตัดศัพท์จาก พนาเวศ
ปิฐิ ปิฐี หลัง เบื้องหลัง
ปิย ปิยา ที่รัก
แปร เปลี่ยน กลับกลาย

ผัง เข้มแข็ง รวดเร็ว ผังแผลง ยิงธนู แผลงศรอย่างเข้มแข็ง
ผาด ปราด ไปโดยเร็ว
ผยอง เผ่นโผน
ผ้าย เคลื่อนไปจากที่
ผิ ผิว แม้ แม้ว่า
ผิน หันหน้า หันหลัง
ผุด โผล่ขึ้น
เผือ ข้า ฉัน สรรพนามบุรุษที่ ๑
เผือน

ป่า

แผด ฉายแสงแรงกล้า

พนสณฑ ราวป่า แนวป่า
พนวา ป่า
พนาศ พนา + ศ (เข้าลิลิต) ป่า
พยัชนี พัชนี พัด
พยาบาล เอื้อเฟื้อ ดูแล
พรง พง ป่า ดง
พรรค หมู่ เหล่า
พรรณาภาส พรรณ + อาภาส มีผิวพรรณสว่างรุ่งเรือง
พรายพรัศ เลื่อมพราย แวววาว
พลา พล กำลัง
พลาศร กำลังของศร
พลาศรับท กำลังเสียง
พะงา งาม นางงาม
พักตรมณฑล ดวงหน้า วงหน้า
พาช่อง ท่วงที ปกติวิสัย
พาธา ความทุกข์ ความเบียดเบียน
พาน พบ ผ่าน
พาย ลม เช่น พายพัดเปลื้อง เกสรขจาย
พาล พาลัง พาลา

๑. อ่อน เยาว์วัย

๒. เลว ชั่วร้าย

พาลุ ทราย ตัดศัพท์จาก พาลุกา
พาสนาภาด วาสนาของพี่ พาสนา + ภาต พี่ (ส. ภาตา)
พาหุ ต้นแขน
พิตเพียล เมียงมอง (ข. พิตพิล) วรรณคดีไทยสมัยอยุธยาหลายเล่มใช้ พิศเพียร
พิพิธ ต่าง ๆ
พิมพงค์ รูป แบบ พิมพ + องค
พิโรท พิโรทด วิโรทน ร้องไห้ น้ำตา
พิไร ร่ำรำพันด้วยความโศก
พิลาป ร้องไห้ คร่ำครวญ
พิศม พิษ สิ่งอันเป็นโทษ เป็นอันตราย
เพลา (เพฺลา) ตัก ขา
ไพ ในความว่า มุกดาวรรัต นาภาภาคยไพ น่าจะตัดศัพท์จาก ไพรู งาม รุ่งเรือง
ไพชยนต์ ชื่อวิมานของพระอินทร์ บางที่หมายรวมถึง ปราสาทราชวัง
ไพรสาณฑ์ ราวป่า แนวป่า
ไพรู งาม รุ่งเรือง

ฟ้าฟื้น ในที่นี้หมายถึง ฟ้าคำราม ฟ้าคะนอง
ฟาย ฟูมฟาย ร้องไห้คร่ำครวญ
ไฟกัลป์ ไฟล้างโลกเมื่อสิ้นกัลป์

ภมู คิ้ว
ภักพา ลอบพาไป
ภักษ ภักษา เหยื่อ อาหาร
ภัควดี ภควดี คำเรียกสตรีที่ควรเคารพ
ภาคย ภาคา ภาค ส่วน โสภาคย ส่วนอันงาม
ภาร

หนัก ธุระหนัก งานหนัก

ภารนุภักดิ์ ภาระหนักด้วยความภักดี

ภิกรรตร มีเสน่ห์ยิ่ง ตัดศัพท์จาก อภิกรรตร (ส. อภิ + กรฺตรฺ)
ภิต ภีต กลัว น่าเกรงกลัว
ภิโรมย์ รื่นเริงยินดีอย่างยิ่ง แผลงจากศัพท์ ภิรมย์ อภิรมย์
ภุมรี ภมร แมลงภู่ แมลงผึ้ง

ภูชก

สัตว์ผู้มีขนด คือ งู
ภูมมณี ภูมิมณี น่าจะหมายถึง มีลักษณะดงมณี
ภูมิดล พื้นแผ่นดิน
เภน แตกแล้ว ทำลายแล้ว จาก ภิน แปลงสระอิ เป็นสระเอ เช่น ทุกหมู่ในเภนธราดล
เภา น้อง น้องหญิง (ข. เภา)
โภไคศวรรย สมบัติของความเป็นพระเจ้าแผ่นดิน

มณินทร มณินทร์ แก้วอันยิ่งใหญ่ ตามเรื่องหมายถึง แหวนของนางสีดา
มนท โง่เขลา
มนา มน ใจ
มยุร มยุรา นกยูง
มรรควิถี หนทาง ทางเดิน
มฤค มฤคา มฤคัง กวาง สัตว์จำพวกกวาง
มฤจฉา มิจฉา ผิด ไม่สุจริต
มฤธุ มฤธูร มธุ มธุร นํ้าหวาน น้ำผึ้ง มฤธูรส รสหวาน
มลัก เห็น มลักเห็น เป็นการซ้อนศัพท์เพื่อเน้นความหมาย
มล้าง ล้าง ผลาญ ฆ่า
มหิทธิ มหิทธิ์ มีฤทธิ์มาก
มหิบาล ผู้ครองแผ่นดิน พระราชา
มองลัก มุ่งที่จะลักพาไป
มังกร สัตว์ชนิดหนึ่งในนิยาย
มัจฉ มัจฉา ปลา
มางษ มางส เนื้อ
มาณวิกา หญิงรุ่น หญิงวัยรุ่น
มาร ยักษ์
มารดูร มาตุร แม่
มาศ ทอง
มุกดา แก้วชนิดหนึ่งสีหมอกอ่อนๆ คล้ายสีไข่มุก

มุข

หน้า ปาก
มุจจา ดำลงไป มุดลงไป
เมฆัง เมฆ
เมตต เมตต์ ความรัก ความเอ็นดู
เมรุมาศ เขาพระสุเมรุอันเป็นหลักของจักรวาล
เมื่อฤๅ เมื่อไร
โมโร โมร นกยูง
โมห ความลุ่มหลง ความโง่เขลา

ยง

๑. กล้าหาญ

๒. งาม มักใช้ต่อท้ายศัพท์บางศัพท์แล้วมีความหมายโดยรวมว่า ผู้หญิง เช่น ยุพยง โฉมยง

ยล มองดู
ยวน ยั่ว ชวนให้ยินดี เช่น วาตารำเพยพัดยวน พระทัยรัญจวน
ยายี เบียดเบียน รบกวน
ยุทธ ยุทธิ การรบ การต่อสู้
ยุว ยุพ ยุไพ หนุ่ม สาว ยุพลักษณ์ หมายถึง พระลักษณ์อนุชาของพระราม
ยุรยาตร ยูรยาตร เดินไป เดินอย่างสง่างาม ตัดศัพท์จาก มยุรยาตร ไปอย่างนกยูง
เยีย ทำ
โยชนา โยชน์ ระยะทาง ๔๐๐ เส้น
ไยไพ เยาะเย้ย พูดให้ได้อาย

รตี ราตรี เวลากลางคืน (ส. ราตฺริ, ป. รตฺติ)
รมเยอ รมย ยินดี บันเทิงใจ
รวย รื่น ๆ ชื่นใจ
รโส รส ต้นฉบับตัวเขียนบางเล่มเป็น รศโส
ระ พาน ถูก กระทบ
ระทด เศร้าสลด
ระลุง เป็นห่วง เป็นทุกข์ถึง
ระหวย รินรื่น ชื่น แผลงจากศัพท์ รวย เช่น ระหวยกลิ่นบุษปผาชาติ
รัตกำพล ผ้าส่านสีแดง
รัตติยา เวลากลางคืน
รัตนธำมรงค์ แหวนอันประเสริฐ แหวนแก้ว
รัตนาภา มีแสงรัศมีเรืองรองประเสริฐยิ่ง รัตน + อาภา
รัตนุตมางค์ ดวงแก้วอันสูงสุด รัตน + อุตม + องค์
รัน ตี
รากษส ยักษ์ร้าย
ราค ความอยาก ความกำหนัด
ราคารมย์ บันเทิงใจในความกำหนัด
ราชไกรสร ราชสีห์ชนิดมีแผงขนที่คอ
ราชปักษา ราชาแห่งนก หมายถึง ครุฑ
ราชี ในที่นี้หมายถึง ความเป็นพระราชา แปลงศัพท์จาก ราชิน เช่น ธิดาราชี คือธิดาของกษัตริย์ทั้งหลาย
ราพณ์ ยักษ์ หมายถึง ราวณ หรือ ทศกัณฐ์
ราโม ราม พระราม
ราศ จากไป ระเหระหน น่าจะตัดศัพท์จาก นิราศ
ราศี กอง ความสง่างาม ลักษณะอันดีของคน
รำเพย พัดมาแผ่ว ๆ
รำเม รมเม รม รื่นรมย์ ความยินดี
รุกขฉายา ร่มเงาไม้
รุกเข รุกโข ต้นไม้
รุจี รูจี ความงาม รุ่งเรือง
รุนัง ร้องไห้ รุทฺ (ส.) แปลง ท เป็น ม ศรับทรุนัง เสียงคร่ำครวญร้องไห้
เรียม พี่ ตัวพี่
โรทด ร้องไห้ นํ้าตา (ส. โรทต โรทน)

ฤดี ใจ
ฤทธิพล กำลังฤทธิ์
ฤๅสิทธิ์ ในที่นี้หมายถึง ฤๅษี + นักสิทธิ์

ลัว น่าจะหมายถึง ลั่ว ซึ่งยังมีใช้ในภาษาถิ่นอีสาน แปลว่า พูดปด พูดหลอกลวง
ลาญ แหลก ทำลาย
ลำเค็ญ ลำบาก ยากแค้น
ลำเคือง เคืองแค้น
ลำยอง สวย งาม
ลิงแล มองดู ลิง ในความหมายนี้ ภาษาถิ่นอีสานใช้ หลิง เช่น หลิงดู
ลี ไป น่าจะตัดจากศัพท์ ลีลา
ลุ ถึง ล่วง
เลอ บน เหนือ
โลกย ของโลก
โลกยชมพู ของโลกแห่งชาวชมพูทวีป
โลกาไตร โลกทั้ง ๓ คือ สวรรค์ มนุษย์ และบาดาล
โลมา โลม ขน

วจเน วจนะ คำพูด
วรภาคย มีส่วนอันงามเลิศ หมายถึง หญิงที่รัก
วรมาลย์ ดอกไม้อันเลิศ หมายถึง หญิงที่รัก
วรรณา วรรณ ผิว สี
วัชรี ผู้มีสายฟ้าเป็นอาวุธ คือ พระอินทร์
วันา วนา ป่า
วาง ปล่อย ละ เรียมโศกฤๅวาง ตัวพี่โศกอยู่ไม่สิ้น
วางวู่ กระทำอย่างลุกลี้ลุกลน
วาตา ลม
วาม ข้างซ้าย เบื้องซ้าย วามปรัศว์ทักขิณา เบื้องซ้าย และเบื้องขวา
วาย

๑. หมดสิ้น เช่น วายโศก

๒. ตี เช่น เอาพระกรวาย พระวรนาภี

วายุบุตร บุตรของพระวายุ (พระพาย) คือ หนุมาน
วาร วัน
วิจล หวั่นไหว วุ่นวายใจ
วิชัย ในที่นี้หมายถึง วิชัยราชรถ
วิเชียร เพชร สายฟ้า
วิฑูรย์ ไพฑูรย์ รัตนชาติชนิดหนึ่งสีเขียว หรือสีผิวไม้ไผ่
วิทยากินนรา วิทยาธรและกินนร
วิธวรรณ สีต่างๆ ตัดจากศัพท์ วิวิธวรรณ
วิภาค การแบ่ง การจำแนก
วิมานา วิมาน ที่อยู่ของเทวดา
วิเวก ความสงัด ความเปลี่ยวเปล่าวังเวงใจ
วิสดาร พิสดาร กว้างขวาง
วิสัญญี สลบ สิ้นสติ หมดความรู้สึก
วิหค ผู้ไปในอากาศ คือ นก
แวะวาง หยุดระหว่างทางที่จะไป

ศรมาศ ลูกธนูทองคำ
ศรับท ศรับท์ ศัพท์ เสียง ถ้อยคำ
ศรีรามา พระราม
ศรีวรลักษณ พระลักษณ์ อนุชาของพระราม
ศฤงคาร บริวารหญิงผู้บำเรอความรัก
ศศิ กระต่าย ในที่นี้ตัดศัพท์จาก ศศิธร ผู้ทรงไว้ซึ่งกระต่าย หมายถึง พระจันทร์
ศัลย ของปลายแหลมมีคม ในที่นี้หมายถึง ความโศก โศกศัลย์ ทุกข์ราวกับใจต้องอาวุธแหลม
ศิขร ภูเขา
ศิรา ศีรา ศิร ศีรษะ หัว
ศิโรตม์ ส่วนสูงสุดของคืรษะ ศิร + อุตม ทศศิโรตม์ ผู้มีสิบเศียร หมายถึง ทศกัณฐ์
ศีรษา ศีรษะ
ศุภศานติ์ ความดีงาม ความสงบสุข

สกุณ นก
สงค์ ความเกี่ยวข้องผูกพัน
สติยา สติ ความระลึกได้ ความรู้สึกตัว
สบ พบปะ
สบสรรพ์ ทุกสิ่งทุกอย่าง
สม ร่วมด้วยกัน ร่วมกัน
สมปฤดี สมปฤๅดี ความได้สติ ความรู้สึกตัว
สรพิศม อสรพิษ อาสิรพิษ สัตว์มีพิษที่เขี้ยว
สรรพาดม ร่างกายของตน สรรพ + อาตม
สรศรับท์ เสียง ซ้อนศัพท์ระหว่าง สร + ศัพท์
สรัป งู งูพิษ
สราโรทต์ เสียงคร่ำครวญร้องไห้ สร + โรทต
สฤงคีต สังคีต การขับร้องบรรเลงดนตรี
สวาดิ รักใคร่ ยินดี
สองรา สองคน ทั้งสอง
สังโยค อยู่ร่วมกัน
สัชนี ในที่นี้น่าจะเกิดจากการตัดศัพท์ วิสัชนี วิสัชนา ถาม
สัตตา สัตว์ (ป. สตฺต) เช่น เรียมบอกซึ่งพรรคสัตตา
สัตภัณฑ์สิงขร เขาสัตบริกัณฑ์ที่ล้อมรอบเขาพระสุเมรุ มี ๗ ชั้นคือ ยุคนธร อิสินธร กรวิก สุทัศน์ เนมินธร วินตก และอัสกัณ
สันดา น่าจะตัดศัพท์มาจาก สันดาป สันตาป ความแผดเผา เร่าร้อน
สาขี มีสาขา กิ่งก้าน
สายสวาดิ หญิงอันเป็นที่รัก
สายัณห์ สายาณห เวลาใกล้ค่ำ โพล้เพล้
สิงฆา นํ้ามูก (ส. สิงฺฆาณิกา)
สิเนรุ เขาพระสุเมรุ
สิมพลี ต้นงิ้ว เป็นที่ตั้งวิมานของพระยาครุฑ
สีทันดร ทะเล ๗ ชั้นที่ล้อมรอบเขาสัตบริภัณฑ์ เรียก สัตสีทันดร
สุทธิ ความปราศจากมลทิน ความหมดจด
สุนงค์ นางผู้ประเสริฐ ตัดจากศัพท์ สุ + อนงค์
สุบรรณ ผู้มีขนงาม หมายถึง ครุฑ
สุยาม ชื่อเทวดาสุยามเทวบุตร หรือ ยามเทวบุตร อยู่ในสวรรค์ชั้นยามา
สุรามาศ ในที่นี๋หมายถึง ยักษ์ (มารีศ) ซึ่งแปลงเป็นกวางทองไปล่อพระราม
สุรินทร ผู้เป็นใหญ่ในหมู่เทวดา
สุริยพล กำลังของดวงอาทิตย์ แสงอาทิตย์
เสนหา ความรัก
เสวยกรรม รับผลของกรรม
เสาวนีย์ คำพูดของนางกษัตริย์
โสภณ งาม
โสภาคย ความงาม ความเจริญ
โสม โสรม พระจันทร์
โสฬส จำนวน ๑๖ หมายถึง รูปภูมิพรหมทั้ง ๑๖ ชั้น
ไสยา นอน การนอน

หน่วง ทำให้ช้า
หนุกา คาง หนุกาไกรศรี คางที่งามมีสิริยิ่ง
หวน เวียนกลับมาอีก
หันหวน หันกลับมา ในความว่า ตรัสพจนหันหวน น่าจะมีความหมายว่า พูดด้วยความโกรธ
หาย กระหาย หิว เช่น ให้หายเสวยภักษ์
หิมเวศ ป่า หิมวา + อิศ
เหมราช พญาหงส์
เหือด แห้ง หมด
แห ห่าง จากไปไกล

ไห้

ร้องไห้
ไหรญ เงิน แผลงจาก หิรัญ

อจล ไม่หวั่นไหว
อณุบิดุ อณุปิตุ น่าจะหมายถึง น้องของพ่อ คือ อา
อนนต์ อนันต์ มากมาย ไม่มีที่สิ้นสุด อน + อันต
อนุจร ตาม ตามไป ผู้ตามไป
อนุทิศ ตามทิศ
อนุเลียม เลียม เดินเลาะ อนุเลียม น่าจะเป็นการสร้างคำประสมระหว่าง อนุ (ตาม) + เลียม มีความหมายว่า เดินเลาะตามไป
อโนดาต ชื่อสระแห่งหนึ่งในป่าหิมพานต์
อภิกรรตร มีเสน่ห์อย่างยิ่ง อภิ (ยิ่ง) + กรรตร (สะกด, เสน่ห์)
อร ที่พอใจ ที่ยินดี หมายถึง หญิงที่รัก
อรรคเทวียา อัครเทวี มเหสี ชายา จงอรรคเทวียาช่วยพยาบาล หมายถึง ขอให้ชายาของทวยเทพ ทั้งหลายช่วยดูแลนางด้วย
อรรถ ความประสงค์ เนื้อความ
อรัญวา ป่า
อริ อริรา อรี ศัตรู ข้าศึก
อสุภังค อสุภงฺค (อสุภ + องค์) ส่วนที่ไม่งาม
อสัตย์ ไม่มีสัตย์ ไม่รักษาคำพูด
อสุร อสูร ยักษ์
อสุรินทร ผู้เป็นใหญ่ในหมู่อสูร
อัคนา น่าจะแปลงจากศัพท์ อัคน อัคนี ไฟ
อัฐทิศ อัฐทิศานต์ ทิศทั้ง ๘
อัยกา ปู่
อัสสุนี อัสนี สายฟ้า อาวุธพระอินทร์
อาเกียรณ มากมาย เกลื่อนกล่น
อาดุร เดือดร้อน ทุกข์กายทุกข์ใจ
อาธรรม์ ไม่อยู่ในความถูกต้อง ไม่มีคุณธรรม
อากาสา พรหมชั้นอรูปภูมิ ตัดศัพท์จาก อากาสานัญจายตนพรหม
อารัมเภ อารัมภ ความปรารภ ความรำพึงรำพัน
อำมร อมร ผู้ไม่ตาย หมายถึง เทวดา
อิดใจ เหนื่อยใจ อ่อนใจ
อิทธิพลา กำลังฤทธิ์
อินทรี นกใหญ่ชนิดหนึ่ง
อึกอึง เสียงอึกทึกอื้ออึง
อื้น เอื้อน พูด บอก
อุดมางค อุตมางค์ ส่วนสูงสุด ประเสริฐสุด
อุเท ขึ้น (ส. อุทุ) ตราบพระทิวา กรแสงอุเท กระทั่งดวงตะวันขึ้น
อุบาทว์ อัปรีย์ จัญไร
อุปรไมย อุปไมย เปรียบสิ่งที่ควรนำมาเปรียบ
อุโรธ อุโรธา อุโรธาน แผลงจากศัพท์ อุรุ + ธ ทรงไว้ซึ่งความใหญ่โต ปราสาทอุโรธ ปราสาทใหญ่โต คณะหมู่อโรธา เหล่า (บริวาร) อันยิ่งใหญ่
อุลุ นกเค้าแมว (ส. อุลูก)
อูรุ ต้นขา ขาอ่อน
เอือดอาย ปราศจากความอาย เอือด ปราศจาก ไม่มี (ข. อิต)
โอโฆษ โอโฆษณ กึกก้อง

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ