๏ นิราศร้างห่างเหจากเคโห

๏ นิราศร้างห่างเหจากเคโห  
ตามเสด็จบพิตร์อิศโร ประพาศทางชโลนโททา
ที่สิบห้าตุลากะถาถอง ศกสองพันสี่ร้อยวะสอยสา
เศษหกสิบห้าปีกลีชา ตะหลาต๋าตูไหว้ประนมมือ
จุดธูปเทียนบูชากะบาบง เปดกะทงดอกไม้ไถลจื๋อ
แล้วหมอบราบกราบกรานกะบานบือ ไหว้พระไตรรัตนือตลมโป
ไหว้ทวยเทวะมะลั่กตั้ก ขอให้ช่วยพิทักษ์ซึ่งตูโข้
ยามเดินทางน่านน้ำชลำโล ขอปวงภัยพาโลมะไลไท
แล้วตระโบมโลมลูบจูบจะจิ๊ด ลาเมียคู่ชีวิตมลิจไฉ
จงอยู่ดีอย่ามีตะไลไต ทั้งโพยภัยแคล้วคลาดกะด้าดโดย
อย่าวิโยคโศกเศร้ามะเลาฉี จะทำให้สามีตะโล๋ยโป๋ย
จงอยู่เหย้าเฝ้าเรือนมะเลือนโลย อย่าให้โหยมากนักจักจึมงึม
อันตัวพี่มีกิจกะมิจเฉ ตามเสด็จราเชประพำผึม
มิใช่หน่ายน้องแก้วกะแมวมึม มิใช่แสร้งจากจึมทลึมลี
แม้มิไปไม่พ้นมลนลา รับอาญาปี้ป่นมลนฉี
เกิดเปนลูกผู้ชายกะตายตี ต้องนึกถึงกรณีย์นิยมปม
แม้รักน้องต้องคิดกะติ๊ดตุ๊ก กระทำกิจการทุกถลมถม
จะได้มีความชอบกะมอบมม อีกอุดมยศถากะทาเทือง
ขอลาก่อนบังอรจล่อจุก จงดับทุกข์โศกาจะเหลืองเจื๋อง
ถึงเวลาจะไปมะไลเลือง ขอขวัญเมืองอยู่ดีมลีทา ฯ
๏ ลงบรรไดจึ่งได้มลึกตึ้ก คำนึงนึกถึงบุตร์มลุจฉา
ผันหลังกลับรับขวัญมลัญชา โอ้บุตราบุตรีมลีโช
พ่อจำใจจากลูกกะจู๊กจึ๊ต ตามเสด็จบพึตร์กะมึตโต๋
ลูกอยู่บ้านอย่าซนมะตนโจ จงนึกกลัวตุ๊กโกกินตับไต
จะเที่ยวจับแมลงตามลาเกื๊อก ลูกจงเลือกตัวเบิ้มกะเพิ่มไผ
แล้วให้แม่เขาดองกะลองไช เอาไว้ให้พ่อกินมะลินชา
สั่งลูกใหญ่อย่าได้กะเหมอเถอ ให้มาเหอคุณแม่ตะแหลต๋า
จงคอยจำคำเฃามะเลากา ไว้เล่าให้บิดามะกาโย
แล้วกอดจูบลูกน้อยมะกอยกึ๋ง หมั่นคิดถึงป้าป๋ามาหงาโง๋
อย่าออกวิ่งกลางถนนกะปนโป จะถูกมอเต้อร์โคทะมึกทึก
แล้วย่างท้าวก้าวลงกะตงไก๋ โอ้กระไรใจฃ้าตลึกปึก
จากลูกเมียแสนละเหี่ยมะเลียจึ๊ก คงจะต้องมลึกตึ้กมิวายวัน ฯ
๏ ลงมาถึงซึ่งรถกะฟ๊อดต๊อด ใจจะขอดคิดถึงกะจึ๋งจั๋น
ขึ้นรถพลางทางเหลียวกะเปียวลัน โอ้เร็วพลันต้องมลากชวากเว
ก้าวแต่ขาส่วนตากะเหมอเถอ กำลังเผลอก้าวพลาดถลาดแถ
ก็เลยตีลังกาหกคะแม ตะแหลแต๋อยู่กลางพสุธือ
เวลานั้นในลานกะเหมอะเปอะ หลังก็เลอะเปื้อนโคลนตะโล๋นตื๋อ
ต้องให้บ่าวรีบวิ่งกะพือรือ ไปเอาเสื้อผลัดผลือตลีพี
ควักดูนาฬิกาตะลาต๋วง เวลาล่วงบ่ายโมงตะโล๋งตี๋
จำต้องรีบเร่งร้อนตะลอนตี จะเปลี่ยนดุมเสื้อสี้จะโตงเตง
ฉวยเสื้อใหม่ทันใดตะไลต๊ด โดดขึ้นรถเร่งออกมลอกเล๋ง
เปลี่ยนดุมเสื้อกลางทางพลางทะเม็ง ปากคอยเร่งโช๊ฟเฟอร์กะเมอมึม
รถผ่านราชดำเนินกะเปิ่นเป้อ โอ้อกเข้อผ่าวๆมะก๋าวกึ๋ม
คิดอยากใคร่ดำเนินกะเตินตึม กลับเคหาก๋ากึ๋มกะลึมลือ
เลียบลำคลองกรุงเกษมกะเหมมมึก อกแทบหึกไม่เปรมเกษมสือ
โอ้ชื่อคลองเหมือนหนึ่งปองปะงือรือ เย้ยจิตพี่ที่จื๋อจะล๊อกจ๊อก
เลี้ยวถนนสามเสนกะเหลนโหล แสนว้าโหว่หฤทัยกะไต๋ต้อก
ถ้าเช่นนี้มีเสนมาเผ่นพ๊อก จะใช้กลับไปบอกมะกันทา
ครั้นถึงท่าวาสุกรีตลีเตด ขนของลงนาเวศตะเลดต๋า
พลางรำพึงถึงน้องตลองตา อนิจจาจ๊อกว๊อกต้องพรอกไป
เหมือนหนึ่งวาสุกรีมลีชัด มาผูกมัดตีนมือมลือไฉ
แล้วจับลากลงน้ำมลำไช ตะไล๋ไป๋จากน้องมะลองโช ฯ
๏ ถึงเวลาจากท่าชลาลูง เรือไฟจูงเรือจรชลอนโหล
เสียงทึกๆตละอกจะมกโก ดวงจิตโบ๋เบือนบั๊บกะงับแง
ผ่านหน้าวัดราชาธิวาโศ ตลมโปประนมมะงมแง๋
ขอเดชะกุศลกะมลแม ช่วยตูแข้ล่วงพ้นมลนชำ
เรือผ่านท่าเขียวไข่กามะหงาหงอย จิตป๋อยล๋อยเหลือบแลชะแงหงำ
โอ้พี่ยามลาติงยิ่งกาดำ กาได้งำกกไข่ไม่มือทือ
ส่วนตัวพี่สิพรากจากพโธ เพราะไปราชะโกกะโรตื๋อ
ต้องมานั่งเรือขังอยู่บือชือ อนิจจือเคราะห์อึบมลึบทา
โอ้บางซ่อนซ่อนใดกะไหมตั๊ก เหมือนซ่อนรักรั้งพี่กะหมีต๋า
เห็นแต่โรงสีไฟกะไหมตา อกพี่เต้นราวจะบ้าตะหมาตอ
บางกระบือชื่อชวนมะหวนหึก คำนึงนึกถึงกระบือมะหือหอ
ที่ปั้นให้ลูกน้อยมะหอยฮอ อนิจจอใจเหี่ยวกะเมียวมำ
เรือแล่นต่อชูคอมะหงาก๋า มุ่งมองหาที่เหมาะมะเงาะก๋ำ
เพื่อลงกลอนนิราศมะงาดงำ สิ้นปัญญำสุดหากะปาโล
เขม้นมองสองฃ้างชลางเทือน เห็นบ้านเรือนยืดกื้ดกะปื๊ดโต๋
ดูเนืองแน่นแสนจะมะโลโช โอ้อุโรร้อนรุมกะมุมมึก
เห็นหญิงชายอยู่บ้านมลานลอ ลูกเต้านั่งตล๋อต๋อมะก๋อกึก
เสียงสรวลเสรเฮฮามะกากึ๊ก ใจอดึกนึกถึงเคหึงเรา
ผัวและพ่อจากมาประพาผึม ต่างจะนั่งจึ๊มงึ๊มอารึมเฉา
ใครจะยวนชวนชื่นมลืนเชา จะพากันเตาเลากะเงาโง
เผลอไปหน่อยเรือคล้อยถึงบางขวาง แลสล้างโรงเรียนกะเตียนโต๋
นามประสิทธิ์ราชวิทยาโล เห็นเด็กวิ่งมะโงมะงารา
นึกๆไปออกใคร่มะเก๊กเต๊ก กลับเปนเด็กนักเรียนกะเตี๋ยนต๋า
ตะแล๋นแต๋นแสนสุขทุกเวลา กะหงาก๋ากินฃ้าวกะจาวโจม
พอตื่นขึ้นก็มะกึนมะกาจ๊าบ ชิมชวาบอิ่มแปล้ตะแล๋โต๋ม
แล้ววิ่งเล่นสนุกตลุกโกม จนระโฆมตีก้องตลองตือ
จึ่งเฃ้าสู่ห้องเรียนกะเมียนมึบ นั่งสะพรึบพร้อมเพื่อนเชลือนหลือ
เรียนกันพลางทางล้อมะกอกือ กินขนมขนือที่ซ่อนไป
ครูไม่เห็นกินเล่นกะหมับเหมียว พอครูเหลียวทำท่ากะไหมไก๋
หมดเวลาวิ่งพล่านตลานไล สนุกใจตลนซนจนเฃ้านอน
พอนาวาแล่นผ่านตลานเลียด วัดเฉลิมพระเกียรติกะหลอนต๋อน
ยกมือวันทือตลือกร ขอพระพรไตรรัตน์กะปัดตือ
ช่วยให้ฃ้าได้ยศกะมดมัก บรรดาศักดิ์สูงเสริมกะเผิมผือ
อีกมีเกียรติเกรอกเมืองมะเลืองชือ ชนบรรฦาเกียรติศักดิ์ทมักแม
ถึงเมืองนนท์จนจิตตะหลามป๋าม เมืองนี้นามเดิมมีมลีแฉ
ว่าตลาดขวัญยามะกาแก จิตแถลถลากถลันถึงขวัญเมือง
ทั่วธาตรีนารีตะเลี๊ยบเปี๊ยบ ไม่ทันเทียบขวัญเนตร์ตะเมดเหมือง
เปนขวัญบ้านขวัญช่องมะลองเชือง มะเลืองเตืองมะเล็นเต็นเช่นขวัญใจ
เฃ้าน้ำอ้อมน้อมจิตกะมิจโฉ อนิจโจอ้อมพ้นมลนไฉ
เหมือนแสร้งอ้อมค้อมทางมลางไช อ้อมให้ไกลกนิษฐามะกายี
เรือผ่านบางบัวทองมะก๋องกั๋ว นึกถึงบัวน้ำใสมะไหลถี
ในห้องน้ำของเรากะเลาชี ซึ่งไม่มีบัวทองมะกองกืน
เพราะบ้านเรามันเก่ากะแหมบแกบ แสนจะแคบนักหนามะถาถืน
ต้องอาบน้ำฉลีฉีที่นอกชืน ที่จะติดบัวบืนก็มิบติ๊บ
อีกไม่ช้านาวามะเล็ดเต๊ด ถึงปากเกร็ดใจจึ๊ดกะมึดจิบ
แม้สามารถเตร็จฟ้าตล๋าติ๊บ จะเตร็จตริบมาหามะทายี
จอดเรือตรงวัดธะมัดไถ ปรมัยยิกาวาศาหวี
ใจเจื๊ยก ๆ เกลือกดับกะวับวี แสนคิดถึงภรรยียะมีทา
ต้องนอนร้างห่างเหสิเนหือ แสนบือชือหนาวอกมลกฉา
ฝนก็ซ้ำเติมตกมลกชา ช่วยให้ฃ้าจึมงึมมะกึมโก
ที่วัดแต่งโคมไฟมะไกโก๊ด แสงรุ่งโรจน์วารีมะกีโก๋
แสงวับ ๆ จับท้องชโลโท ราวหิ่งโห้วามๆ อร่ามตี
วัดรุ่งร่าแต่อุราพี่จ๊กจื๊ด ราวกับมืดหมดแสงตะหลีตี๋
มืดอารมณ์มมอารึกตะกึ๊กกี อั้นอุรีสท้อนถอนฤโท ฯ
๏ ยามกลางคืนยินเสียงกะเตี๋ยงต๊าด ครึ้มปี่พาทย์บรรเลงกะเต๋งโต๋
บำเรอจอมขัตติยะวโรโช หน้าพลับโพลแพท่าชลาเลื๊อก
เสวยเสร็จลิเกมะเหลไถ เริ่มมะไหลเล่นสนุกถลุกเถือก
ดูผู้คนแน่นนันท์มะลันเจื๊อก จอดนาเวือกดูเล่นมะเลนไต
พี่ไปดูลิเกมะเหลเถือง ไม่รู้เรื่องทั้งเพมะเถไหล
รู้แต่มีกษัตร์กะมัดไท จากลูกเมียเพื่อไปมะไลเท
จะบำบวงสรวงเทพกะเมบมึก อีกประพาศไพรพฤกษ์มฤกเข
แล้วมีโจรใจกาจกะเปเล ยกเฃ้าปล้นบุเรบุโรโช
นางพญาบุตรากะผาไผ ตื่นตกใจหนีโจรตะโล๋นโต๋
เลยพลัดพรากจากพระภัสโด อนิจโจสงสารมะกานทา
นึกถึงอกราชามะกาก๊าก ต้องพลัดพรากตะเหลเป๋มะเหษา
เหมือนตัวพี่จำพรากมะก้ากกา จากแก้วตาโฉมเฉิดมะเหลิดชือ
เลยทำให้ใจเหี่ยวกะเมียวมึบ โอ้อุรึบร้อนรุมตลุ๋มตื๋อ
น้ำตาคลอล่อหน่วยกะรวยรือ คิดถึงแก้วกัลยือยอดกะมุม
แม้มาด้วยจะได้ช่วยกันเง๋เจ๋ ดูลิเกกันพลางทางผึมผุม
และหยอกเอินเพลินจิตกะติดตุม ตลุมงุมคลุ้มคลื้อผะกือกรอง
กลับเฃ้าเก๋งนาวากะต๋าต๋ง แล้วเอนองค์ไสยากะต๋าต๋อง
นึกว่าจะไม่หลัยบะงับงอง แต่ตาจ๋องเจื๊อกจั๊บเลยหลับไป ฯ
๏ รุ่งขึ้นที่สิบหกตุลกเลื๊อก คืนกะเตื๊อกกิ๋วหวิวหิวแสบไส้
เมื่อคืนก่อนเฃ้านอนตะไลไต ลืมกินของว่างไว้มะไกลา
ร้องเรียกบ่าวเฮ้ยฃ้าวมะเลาเกี๊ยง อีกกุนเชี้ยงไวๆ มะไก๋ถา
บ่าวบอกว่ากุนเชี้ยงมะเกียงทา ลืมเอามาเสียแล้วมะแกวทือ
มะโหหุนหมุนจี๋มะหลีเชะ ชะน่าเตะอ้ายถ่อยกะต๋อยตื๋อ
แต่ช่างเถิถหิวจังอุทังทือ โครงหมูตือมาก่อนมลอนไช
บ่าวก้มหน้าตอบว่ามลุดกุ๊ด เสียใจสุดจำบอกมล๊อกไก๋
ว่าโครงหมูก็ลืมมะกืมไก ช่างเถอะไฮ้ฃ้าวปล่าวชวาวเวื๊อก
เสร็จชวาบอาบน้ำชลำปัว รีบแต่งตัวเร็วพลันตลันเตือก
ลงเรือเล็กรีบจ้ำชลำเลื๊อก ไปเตลือกซื้อของที่ต้องใจ
ซื้อกุนเชี้ยงโครงหมูตลู๋ต๋า ใส่ตะกร้ารีบเร่งตะไหลไป๋
กลับนาวาเอาของตลองไท เก็บไว้ใต้ท้องเรือกะเตือตุ๊ก
แล้วฃ้ามฝากขึ้นถลากไถลไถ ยังอาวาศปรมัยยิไกกุก
ทักทายเพื่อนที่พบถลบทุก แล้วเดินดุกเฃ้าโบถโถลดทา
ครั้นถึงจึ่งเฃ้าตลุดกุด ก้มเกล้าเค้าคุคตล๋าต๋า
สาธุสาเธอะตะเลอะลา ขอเดชะบุญฃ้าตลาแต
คุณพระช่วยป้องกันสะพันภุย นิรทุกข์สุขุยสุแขแม๋
นิรโรคโศกสร่างรังโรแค ตลอดทั้งเคแหกะเปเล ฯ
๏ บ่ายหนึ่งนาฬิกากะจ๋าเจื๋อง พระจอมเมืองเสด็จมะเล็ดเฉ
โดยเรือที่นั่งยนตร์ชลนเล ไปสู่วัดปรเมยิการา
อันผู้คนล้นหลามชลามหลี ลงนาวีใหญ่น้อยชลอยหลา
มาคอยชมวรโพธิโปลา ต่างปลื้มเปรมวิญญามลากี
อีกบนบกผู้คนกะจ๋นจู๋ เบียดกันอยู่หนาแน่นกะแต้นตี๋
บ้างก็ขึ้นต้นไม้มะไกกี อยากดูดีเหลือทนมลนชอง
ต่างปลื้มใจได้เห็นมะเล็นชา ตล๋าต๋าบังคมตลมป๋อง
แสนสมใจที่ได้มลองชอง ได้เฝ้าสององค์พร้อมตลอมมือ ฯ
๏ ถึงเวลาอันควรกะมวนมุด จึ่งพระยาอนิรุทธ์กะมุดฉือ
เฃ้าสุ่อุโบสถกะมดชือ สองหัดถ์ถือผ้าไตรมะไลชี
พระกะฐินราชานราต๋าน โปรดประทานให้ทอดตล๊อดตี๋
ตามเยี่ยงแบแบบบรรพ์มลันชี เปนกุศลราศีกะปาลา
กะปุนลุนจึ่งเจ้าคุณอนิรุทธ์ ก้มเกล้าเค้าคุดตล๋าต๋า
แล้วถวายกะฐินกะลินยา อิมํสัปปริวากะลาโท
เสร็จกะฐินปิ่นภพมลบพับ จึ่งประทับโต๊ะเสวยกระยาโห
พร้อมอมาตย์เสนาสาเสโว อีกทั้งราชบริโพคณาภา
เจ้าของงานใจท่านถมองถอง จำแนกของชำร่วยมลวยถา
เปนหลายอย่างต่างพรรณมะกันทา อิกหนังสาสองเรื่องเมลืองลู
นิราศวัดเจ้าฟ้าตลาต๋อน กะล๋อนป๋อนกลอนเอกสุนทรภู่
อีกเรื่องกาพย์ห่อโคลงกะโปงปู ผู้นิพนธ์กะมูทูชื่อเสนา
ซ้าเจ้าอ่านเรื่องนี้กลีเม็ด เห็นความเด็ดเหลือใจกะไปหลา
ปากชงัดจัดจริงกะปิงลา แต่งกาพย์ด่าจัง ๆ กะปังโล
น่ากลัวผู้ถูกด่ากะต๋าโต๊ด เขาจะโกรธเขาบ้างกะต๋างโต๋
หรือเฃาฟ้องหมิ่นประมาทกะปาดโป จะลำบากยากโขมะโกทา
เสวยเสร็จเสด็จกะโหมงโถง ประทับโรงลิเกกะเหมถา
ลิเกเล่นเปนเรื่องมะเกืองทา เจ้าพม่าไปรบกะมบที
ไปถึงไหนได้เมียมะเลียจึ๊ก ยามเสร็จศึกกะทวมกวมรวมตั้งสี่
แล้วพบกันก็หึงมะตึงตี สนุกดีคนสรวลมะฮวนเฮ
ร้องเปนลำต่าง ๆ มะหล่างแตก เสียงแปลก ๆ น่าฟังมะลังเต๋
แขกมอญเจ๊กอีกลาวกะมาวเต เออทุ่งย่าหมาเว้สนุกจัง
ครั้นรอน ๆ อ่อนแสงตะแวงวง อัษฎงคต์แดดลับกะงับงั๋ง
จึ่งทั้งสองกษัตริย์ขัตติยัง เสด็จลงนาวังมลังชอน
ฃ้ามกลับสู่พลับพลามลากี๊ด พอค่ำมืดโคมไฟตล๋อนต๋อน
แต่งสว่างกระจ่างกระจอนลอน ท้องนะทอนวับ ๆ ปะหลับลอ
ในกลางคืนลิเกมะเหโล กรมมะโหระศึพสะพรึบผรอ
เล่นบำเรอบาทาพระราชอ จับเรื่องต่อกลางวันมะหันทา
ดูจนดึกสนึกสนานต๋าน หิมะหยาดปร๋อยปร๋านจะหมานจ๋า
เฃ้าเรือนอนอ่อนใจจะไมจา นึกถึงแก้วกัลยากะมาโล
แม้มาด้วยจะได้ช่วยกะมกตุ๋ก นอนแนบอกชอ้อนกะจ้อนโจ๋
จะม๋นก๋นคนเดียวเปลี่ยวอุโร นอนเอโกกึ๊กมึกมลึกแล ฯ
๏ ที่สิบเจ็ดออกเรือกะเตือตู๊ด ไม่ช้าถึงบางพูดกะปู๊ดแป๋
บางจะพูดพูดไปกะไมแม ส่วนตูแข้ปู๊ดจู๊ดพูดกับใคร
ถึงบางจากโอ้พรากพะงึดรึด จากเจ้าคู่ชีวึตมลึดไต๋
โอ้บ้างผังราวอุรังจะพังไป มะไก่ไต่มะก๋วงต๋วงทรวงแทบพัง
ผ่านหน้าวัดเทียนถวายมะก๋ายโก๋ ตลมโปประนมสิบนะขัง
ถวายเทียนบูชากะปาลัง ขอชาติหน้าปาปังปะนังนึม
ถึงปากคลองรังสิตมะกิตตึก มลึกตึกมล๋อยต๋อยกะป๋อยปึ๋ม
รังสีไหนจะงามประภามภึม เหมือนแสงตาภรรยึมผู้ยาโจ
วัดสำแลแลไปมะไก๋เก๋า ไม่เห็นเจ้ารูปหล่อมะก๋อโก๋
จะแลใยให้เปลืองซึ่งเวโล ตะโกโตเปลืองตามมะกายี
บางน้ำวนใจวนมะกนก๋อง ไปสู่ห้องเยาวภากะมาหยี
ถึงสามโคกใจโวกกะวีจี คิดถึงตุ่มวารีกะจีวา
ที่ตั้งอยู่นอกชานคฤหานจ๋ำ เคยอาบน้ำเย็นรื่นกะหืนฉา
พี่กับเจ้าแย่งกันมะลันทา ตักวารารดซื๊ดสบื๊ดใจ
ถึงเกาะใหญ่ใหญ่เปนกะเปาะเหลาะ เหมือนหนึ่งเกาะแกล้งกีดมลีดไถ
ลุลานเทใจเหกะเปไล ราวเทไปทางบ้านกะปานลา
ราชครามนามบ้านมะกานกวง ว่าบ้านหลวงนามภูมมะกูมก๋า
ไม่สู้บ้านของโข้มะโกกา เพราะไม่มีนงพงาสุภาพึม
ผ่านเกาะเกิดเจิ๊ดจิตมลิดจึ๊ก คำนึงนึกถึงบุตร์มลุดจึ๋ม
เมื่อยามเกิดพ่อปลื้มกะลืมปึม เที่ยวคุยอึมอวดเพื่อนกะเบือนแบ
ถึงเกาะบางปะอินกะติ๋นต๋า อิจฉาศรีอยุธยากะต๋าแต๋
อันชื่อเกาะเหมาะจริงกะติงแต เกาะชื่อแช่พ้องยุพินผู้ยินเจ
มาแรมบางปะอินกะติ๋นต๋อน เออครั้งก่อนจำได้ไถมเหม
มาด้วยกันรื่นรมย์ฤทมเท คิดความหลังมลังเกมะเลกา ฯ
๏ ที่สิบแปดเดินทางมะกางต๊ะ ผ่านเกาะพระเตรียมกราบตล๋าต๋า
แต่ไม่เห็นภิกษุตลุลา หรือแม้พระปฏิมาตลอมปอม
ถึงบ้านโพโยล่หน้าตล๋อป๋อ โอ้อุรอเรียมเศร้าเตล๋าต๋อม
นึกถึงงานวัดโพธิ์กะโปลอม เคยพาเจ้ากะลอมปอมกะเลเป
วัดโปรดสัตว์ยกหัดถ์ตล๋นป๋น ขอกุศลสร่างไว้บุพไพเผ
ช่วยมาโปรดตูฃ้ากะปาเล เหมือนโปรตสัตว์พ้นเพ้นะเรโก
เออเกาะเรียนฃ้าเรียนกะเมียนไฉ อย่างใด ๆ ไม่ชอบกะมอบโฉ
เท่าเรียนรู้รักน้องกะมองโช คู่ชีโวเลิดรักมะกักกม
ถึงบ้านสำเภาล่มมะงมงือ ขออย่าให้นาวือของฃ้าล่ม
จงตลอดรอดไปมะไลทม ถึงยุพมพิสมัยมะไลทา
ครั้นผ่านวัดพนัญเชิงมะเลิงลุด ประนมหุดถ์บูโชมะโลฉา
ขอพระเจ้าพนัญเชิงมะเลิงจา ให้สุฃาปาลากะเปเล
ผ่านกรุงศรีอยุธยามหาโส ดูผู้คนแน่นโหนมะโหลเฉ
สมเปนโบราณราชธาเน สุเขคึกคักกะมักกี
วัดสว่างอารมณ์มะงมงูก นามไม่ถูกอารมณ์กะมมหมี
เพราะอารมณ์เรียมมืดมะงืดงี จากพธีไม่สว่างกะมางมู
วัดจอมเกศไม่วิเศษกะเมดม้อง เหมือนเกศน้องเกล้าผมกะป๋มปู๋
ใส่น้ำหอมของนอกกะปอกปู แสนจะหรูเสียหวีกะปีเปือง
มาถึงวัดสบสวรรค์มะกันไถ โอ้แสนไกลละสวรรค์กะหมันเหมือง
สวรรค์ใดก็ไม่สู้กะปูเลือง ที่เคเหืองห้องน้องมลองชำ
บางปะหันหันหน้ามลาเจ๋า หันไปเปล่าไม่ประสบมลบจ๋ำ
เจอะบางผีจี๋หลีราวผีอำ ผีระยำตลองปองเทียมน้องนาง
ครั้นบ่ายคล้อยนาวอยมลอยฉาด ถึงตำบลมหาราชมลาดจ๋าง
เปนที่แรมคืนหนึ่งมลึงชาง อีกคืนหนึ่งแรมร้างพะธางเธอ
วัดอุโลมที่จอดมลอดฉัง เรือที่นั่งบพิตร์กะมิดเฉอ
วัดอุโลมราวเย้ากะเมาเมอ ว่าพี่เยอมิได้โลมมะโกมกึม
ราษฎรคอนเรือกะเบือลิด มาคอยเฝ้าทรงฤทธิ์ประพำผึม
เสียงจ้อกแจ้กโจทกันกะจั๊นจึม ล้วนชมบุญราชึมและชายา
เปนโชคดีพี่ได้กะเม็ดเต็ด ตามเสด็จประพึมประพาหรา
เสียนิดเดียวเหี่ยวใจกะไปลา ที่ต้องมาเอกือกะปือลัน
เสด็จลงเรือกรรเชียงมะเงียงเง๋ สู่ทเลมหาราชมะฮาดจั๋น
แต่ตัวพี่อยู่เรือมะเกือกัน เปนที่ไร้นาวันจะลีจี
แต่ที่แท้พี่อยู่นาวูจิ๋น เพื่อเตรียมกินกุนเชี้ยงจะเลียงจี๋
อีกโครงหมูหอมรื่นชื่นหะที จะฮอบให้ปี๋หลีกะพีพึ
กลางคืนมีลิเกมะเหลไถ เฃาว่าจืดเหลือใจสตึหรึ
แต่ตัวพี่มิได้ทะมึทึ พอกินเสร็จมึตึกะมุดตุ๊ด ฯ
๏ ที่สิบเก้าเช้าออกนาวอกวับ พี่ยังหลับงัวเงียกะเจี๋ยจุด
จนผ่านบ้านน้ำเต้ากะเจ๊าลุด หัวใจตุ๊ดเต้นแรงตะแลงชอ
นึกถึงคนขอทานตะลานเช้า มานั่งดีดน้ำเต้าจะล๋อจ๋อ
ที่หน้าบ้านวันหนึ่งจะมึงตอ เราสองหนอนอนหลับกะงับงึม
แสนหนวกหูจู้ลู่ตะโลดโต้ด ไปไล่อ้ายโจ๊ดโล๊ดจะลึ๋มจึ๋ม
มันบ่นอู้คนเดียวตะเลียวตึม ไม่ให้แล้วยังกะพึมกะพีรี
บ้านเจ้าปลูกใจจู๊กจะล๋านจ๋าน คิดถึงบ้านบุญปลูกกะตู๊กตี๋
เสียแรงปลูกเติมต่อจะลอจี พวกน้องพี่ค่อนแคะมะแงะเงอ
ครั้นถึงบ้านพิดตะเพียนกะเมียนมิด พี่เพียรพิศหางามกะมามเม๋อ
เห็นแต่พระปฏิมามะกาเลอ นั่งเอ้อเร้ออารามสามพะเนียง
ถึงบ้านแพรกใจแยกมะแงกงึก คำนึงนึกถึงสนามกะต๋ามเตี๋ยง
เราเพียรเพาะหญ้าแพรกกะแรกเรียง สนามเกลี้ยงไว้หญ้าผะกากือ
วัดนางแวะใคร่แวะกะแมะม้าง ขึ้นหานางนิ่มเนื้อกะเมื๋อกื๋อ
เห็นแต่หญิงชาวบ้านมลานชือ เมียเจ๊กจือขื่อติก่อมลอชุม
วัดค้างคาวนึกถึงกะหมึงเก๋า ยามอิเหนาทำเล่ห์เถลถุม
เพื่อจะกอดบุษบาผะกายุม ช้อนประทุมปุมปมมลมโช
แค้นอิเหนาที่ได้เคล้าคะลีฉี บุษบานารีนะรมโผ
ส่วนตัวพี่เริดร้างนะรางโร มิได้ต้อนค้างโค้คะมือรือ
บ้านโคกหม้อใจบ๋อกะบึกตึก คำนึงนึกถึงหม้อแกงกะแบงบื๋อ
ที่เจ้าเคยแกงให้กะไลปือ กินอร่อยโอชือกะพือพึน
เฃ้าเขตลพบุรีกะปีโล เลยเฃ้าท้องพรหโมมะโก๋กึ๋น
จอดเรือใกล้พลับพลาวราชึน วัดมณีชลขึนธ์ปรากฏนาม
บ่มิใคร่ได้เห็นมะเล็นฉี แถววิถีเรือผ่านชลานฉาม
เพราะฝนโรยโปรยปรอยชลอยลาม ต้องปิดม่านนาวามมะทือรือ
ถึงบ่ายๆพี่ชายกะหมาดตาด รีบขึ้นสู่ตลาดมะกาดกื๋อ
รีบสาวเท้าก้าวเดินมะเลินชือ เพื่อไปซื้ออาหารกะบานบำ
ได้โครงหมูกุนเชี้ยงมะเกี๊ยงกุ๊ก แสนจะสุขสมใจมะไกก๋ำ
ถึงจะแรมหลายคืนมลืนชำ ไม่ต้องห่วงอุรำอุโรโช
เพราะเสบียงเพียงพออุรอชอบ คงได้ฮอบชิมรสมลดโฉ
ไม่อดอยากปางแห้งทะแมงโท คงสำโรรื่นรมย์มะกมกิน ฯ
๏ ที่ญี่สิบยามบ่ายตวายฉบ พระจอมภพเสด็จมะเลดฉิน
โดยเรือยนตร์ล่องสายชลายลิน พร้อมเทวินมหิษีมลีชา
ครั้นนาวาเทียบท่าชลาเลด พระนารายน์นิเวศน์นะเลดถา
ทั้งสององค์ขึ้นทรงมะยานา ทหาราหามจรกะปอนโล
ตำรวจหลวงแห่นำวะรำพัก องครักษ์เคียงฃ้างวะรางโผ
ทหารราชวัลลภวะรบโป แซงเสด็จขัตติโยวะโรทา
เฃ้าในวังราชังเสด็จยาตร์ สู่ปราสาทโบราณตะงานถา
ดุสิตสวรรค์ธัญญะมะงารา นามปราสาทอาศนามะลังพัง
ทรงจุดธูปเทียนทองมะงองเหงย ทรงสังเวยวรงาชมะงาดฉัง
คืออดีตมหาวราชัง ทรงนามังนารายน์มหายโย
พี่ก็หาธูปเทียนกะเตียนตุ๊ด ตลุดกุดกราบไหว้มะไลโฉ
ขออดีตมหาราชชมาตโม โปรดตูโข้แผ้วพ้นมลนชือ ฯ
๏ นึกถึงวังครั้งโน้นกะโปนลื้น คงครึกครื้นอร่ามงามนักหนือ
แม้เดี๋ยวนี้ภินพังพะรังรือ ก็ยังน่าทัศนือนิยมปม
พระที่นั่งโบราณมะตานตั๋น นามว่าจันทรพิศาลมะตานต๋ม
พร้อมช่อฟ้าใบระกาปะงางม เปนที่รมณียากะปาเล
สุทธาสวรรค์อันพังมะลังชอน เมื่อครั้งก่อนคงงามมะลามเฉ
อยู่ในลานใหญ่กว้างมะลางเช กะเปเลปาลาน่ามึกกึ๊ก
อีกทั้งตึกพระเจ้าเหามะเก๋ากัก ที่ออกหลวงสรศักดิ์มะตักตึก
สำแดงกลอุบายมะลายงึก ชูหอกดาพหมึกถึกกางช่องแกล
พวกขุนนางต่างกลัวมะกัวก๋อง ต่างจ๋องหงองหมอบราบตะแหลแต๋
ตลุดตุดมุดมึดกะอึดแอ ไหว้พระเพทราแชตลมปือ
อีกมีตึกแขกเมืองตะเลืองตอม มีสระหอมสามด้านตะลานตื๋อ
เปนที่เลี้ยงแขกเมืองกะเลืองกือ ให้อิมหนำสำรือสำโรโท
นึกอนาถพระนารายน์ประพายพาง มาทรงสร้างนิเวศน์กะเตดโต๋
ที่เมื่องลพบุรีประพีโพ หวังให้พ้นเหล่าอะโรพะโลทึง
กลับไม่พ้นคนไทยมะไกทด คิดขบถชิงราชย์กะปาดปึ๋ง
แต่แรกพระบุญญาตะกากึง โอ้ลงท้ายราชึงสิ้นบุญเญ
กษัตริย์พงศ์พลูหลวงกะจ๋วงจั๊ด ได้สมบัติสมหวังกะจั๋งเจ๋
มิอาจอยู่ลพบุรีมะตีเต เพราะเสเพลผลาญคนมะตนตือ
จะขืนอยู่ต่อไปไม่กะงิด เพราะกรรมติดมั๋วจั๋วคงกลัวผือ
ต้องทิ้งวังลพบุรีมะลีทือ กลับไปอยู่อยุธยือวรือหา
ดังนี้ใครจะเหี้ยมมะหะกะ โอตตัปปะเตือนใจมะไหถา
ต้องหนีพ้นหนแห่งทะแมงตา ควรตรึกตราเปนคติกะจิโจย ฯ
๏ จากนิเวศน์ทรงเดชมะเสดสอน เสด็จจรสู่เวียงมะเกียงโก๋ย
แวะพระปรางค์สามยอดมะหอดโฮย ทรงบูโชยแล้วเสด็จมะเห็ดชอ
ผ่านเคหาวิชาเยนทร์กะเปนลอน แลสลอนตึกร้างกะหมางหมอ
ล้วนสองชั้นอร่ามกะปามลอ บัดนี้หนอหักพังกะปังเล
ฟอลคอนชาติกรีกกะปี๊กเหล็ง แสนจะเก่งสามารถมะกาดเก๋
ตัวพลัดพรากจากถิ่นกะปินเล มะกาเยตั้งตัวมะลัวไต
สนองบาทวรราชทะมาดตู๋น จนโปรดปูนยศถามะหลาไถ
ได้เปนถึงเจ้าพระยามะกาไย มะไก่ไต่นามาวิชาเยนทร์
แต่คิดการใหญ่โตกะโปเลด คบกับพวกฝรั่งเศสตะเหลนเป๋น
ขุนนางไทยขัดใจมะไกเกน วิชาเยนทร์จึ่งต้องตลำปำ
ฝรั่งเศสที่มากะปาโล พลอยโค่โล่เคราะห์ร้ายมะกายก่ำ
บ้างถูกจับตล๋านป๋านผลาญชีวำ บางถูกจำถูกตีมะกีเย
ที่รู้ตนรีบต้นตะหลีปี๋ พากันหนีโดยด่วนตะหลวนเฉ
ต้องลำบากยากแสนตะแลนเช กว่าจะได้ตะเหลเป๋พ้นเพภัย
อันพงศาวดารปะลานตี ณยุคนี้อ่านแล้วกะไจ๋ไหล
กำลังเราจะเจริญกะเปินไล ก็เกิดเหตุตะไหลไป๋กะไปลา
เดชะบุญญะชงัดตั๊ด ของกษัตริย์โบราณวะสานหยา
โปรดดลใจชาวสยามชะงามงา อย่าให้บ้าคิดผิดมะลิดโช
อย่าคิดผลาญญาติวงศ์กะมงมัก เหมือนเช่นหลวงสรศักดิ์มะลักโฉ
อีกพระเพทราชามะลาโก ก่อจลาจลโตกะเตืองเลือง
ไทยเราแตกสามัคคีกะลีเตด ต่างประเทศคงได้กะไหมเหมือง
ครั้งโน้นเฃาอยู่ไกลตะไลเตือง จึ่งไม่มากะเมืองเทืองเอาเมืองไทย
แต่เดี๋ยวนี้ผิดกันจงจั๋นจิ๊ด เขาสามารถตะลิตกิ๊ดตะไหลไก๋
พวกเราอย่าเผลอตัวมะลัวไช จะตกอับคับใจทลึกทึก
แม้รักษาสามัคคีมลีฉอย ถึงเราน้อยก็อาจถลาดถึก
เหมือนมดน้อยช่วยกันทะมันมึก รักษารังตลึกปึกตลันปัน ฯ
๏ บ่ายวันที่ญี่สิบเอ็ดตุลาไค ภูวนัยเสด็จขึ้นกะปึนปั๊น
พระราชทานพระกะฐินทนินทัน วัดมณีชลขันธ์ชลันทา
เสร็จกะฐินภูมินทร์กะปิลโล ลงประทับพลับโพลชโลหลา
ทอดพระเนตร์แข่งเรือชเลือตา แสนสนุกเฮฮากะปาเล
เห็นผู้คนล้นหลามกะปามหลัง แน่นบนฝั่งเยียดยัดมะลัดถา
ต่างดูการแข่งเรือมะเงืองา มะลาทามลุกทุกสนุกจัง
ทั้งผู้แข่งผู้ดูมลูฉาน จิตเบิกบานรมย์รื่นมะลืนฉัง
พร้อมสมัคสามัคคีมะลีจัง มาสนุกสุขังมะลังชา ฯ
๏ เปรียบกับชาวกรุงเทพกะเมบมด เห็นว่าชาวชนบทมะทดถา
รู้จักเล่นอย่างนักเลงกะเมงทา ชอบกิฬากะมีทีไม่มีภัย
อันชาวกรุงมุ่งแต่คะมึกคึก เที่ยวดึกๆ สำมะเลมะเหลไถ
บ้างดูแต่ภาพยนตร์มะลนใจ แล้วเลยไปราชวงศ์มะลงเชง
กินฃ้าวต้มพลางมองมะลองเฉ มลกชกนกเน้เถลไถ
พูดแคะเคาะเกาะแกะตะและไต ชวนกันไปโคมเขียวมะเงียวงุบ
มิฉนั้นชวนกันตะเหลเป๋ ดื่มสุเรมึนเมามะเหงาหงุบ
อีกลอบลักเล่นพนันกะมันมุบ ยามถูกจับบ่นอุบกะมุบมำ
เมื่อเช่นนี้หาทรัพย์กะหับหอ ได้เท่าใดก็ไม่พอฤทอถำ
โลภยวนใจให้คิดกะมิดชำ ระยำปำฉ้อโกงกะโมงชู
โทษของตนจึ่งจนมะก๋นแก๋น แต่กลับแค้นคนอื่นมะกืนกู๋
จีบปากบ่นนินทามะกาลือ หรือเขียนฃ่าวกะพือรือหนังสือพิมพ์
ตนขี้เกียจเคียดแค้นกะแกนกัน ใครขยันพาลด่าตล๋าติ๋ม
หาว่าเฃาป.จ.ปลอลิม จึ่งได้ดีมีสิมมลิมทา
อันชาวกรุงดี ๆ กะปีลู ก็มือยู่เหมือนกันกะปั๋นหลา
ผู้ที่ดีอยู่แล้วกะแปวลา ฃ้าเจ้าขอโมทนากะปาเล
อยากจะใคร่วิงวอนมะกอนตวย ขอให้ช่วยกันเตือนมะเกือนเต๋
ให้เพื่อนร่วมนครมะกอนเต คิดถึงความโสเภสุภำรำ
ให้คิดหาความสนุกกะมุกถา โดยเล่นการกิฬาพลาผำ
ออกกำลังวังชากลาลำ ดีกว่าสำมะเลมะเกทา
ออมกำลังตูไว้มะไลตั๋บ สงวนทรัพย์ไว้ใช้มะไลต๋า
เปนประโยชน์แก่ตนมะกนทา และช่วยชาติศาสนามะกายอ
ดีกว่าจ่ายทรัพย์เปลืองกะเปืองเป๊ก เปนประโยชน์แก่เจ๊กกะเต๊กต๋อ
เจ็กล่อเอาเงินเรากะเปาลอ เพื่อส่งไปเมืองจอกะเม้าเก๊า
ที่เฃาชวนเที่ยวเตร่มะเหลไถ มิใช่เพราะเฃารักกะมักเหมา
เพราะเขาเห็นเราโง่มะโทเทา จึ่งกะเจาจูงจมุกมะทูกเท
เราเปนไทยฉันใดกะไป๋เป๊ก ไปพอใจคบเจ๊กกะเป๋เหล
เปนไทยควรคบไทยมะไกเย ปล่อยเจเกจ๊บก๊บคบกันเอง
ต่อจีนใดใจดีหะทีหิด สุจริตชอบเราหะเทาเถง
หวังประโยชน์ร่วมกันกะปันเลง นั่นจีนเจงควรคบกะมบทัก
เพราะจีนซื่อซื่อจริงกะปิงโลง ไม่ฉ้อโกงมิตร์สหายขะมายตัก
มีกิจได้อาศัยมะไจจั๊ก เฃาไม่พักผัดผ่อนกะปอนลือ
อันคนดีมีศีลสมินถัน ไทยหรือจีนเหมือนกันสมันถอ
หรือฝรั่งผิวฃาวสมาวทือ จะคบคื้อสมงถงคงภียโย ฯ
๏ ญี่สิบสองล่องเรือชเลือลี ตามลำน้ำลพบุรีชลีโหล
กลับทางเดิมที่ไปชไลโล มาแรมโรบางปะอินจลินชี
อยู่สามวันยังมิทันมะหงังกั๋ว เที่ยวไม่ทั่วถิ่นจังหวัดมะงัดถี
อันทเลชุบศรมะงอนที บ่ได้มีเวลามะงาเร
ละโว้เคยเปนเวียงกะเปียงลือ อันขึ้นชื่อมานานกะปาลเหล
ที่พระร่วงพ่อเมืองกะเปืองเล เริ่มกู้ชาติไทเยกะเปโล
แล้วภายหลังครั้งอยุธย์มะงุดรัด มีกษัตริย์ทรงราชย์มะหาดโต๋
องค์พระราเมศวรวรวนโช ก็เคยครองละโว้มะโทลา
แล้วคงเปนเมืองใหญ่มะไก๋ตั๋น ถิ่นสำคัญมั่นคงมะก๋งต๋า
เปนที่อยู่ชาวไทยมะไกตา ล้วนสวามิภักดิ์มะกั๊กไต
ถึงเดี๋ยวนี้ลพบุรีปะหงีรด ปละลดจงรักปะงักไหร
ภักดีมั่นณพระองค์ปะงงไร ผู้ครอบเกล้าชาวไทยปะไงรอน
ถึงเจ๊กจีนมาอยู่จลูเจียบ ก็พลอยเรียบร้อยดีจลีจ๋อน
ไม่เห็นมีอวดดีตะลีปอน ตล้อนต๋อนตะไล๋ไต๋เช่นในกรุง
ไม่มีใครปั่นหัวตลั๋วเติบ ให้กำเริบหยิ่งเย่อกะเป๋อปุ๋ง
พวกไทยดีจลีจีจลุงจุง จีนไม่ยุ่งจลือจือถือตัวดี
ในกรุงเทพตลงปงตรงกันฃ้าม พวกไทยเองตลามปามตลี๋ปี๋
จีนเฉโกเห็นช่องตลองปี เลยปั่นหัวกะตัวลีกะตีแลง
ชาวต่างชาติเฃ้ามาตล๊อกต๊อก เพียงบางกอกรู้เรื่องตะแล๋งแต๋ง
ย่อมเห็นว่าไทยเราตะเลาแตง มีแต่แย่งเย่อกันตลันเตน
โอ้เพื่อนเรากะเหลาเก๋าน่าใจหาย ช่างไม่อายบ้างนะกะเหลนเป๋น
หื้อแห้กันตละหมากะลาเตน ให้เฃาดูถูกเล่นกะเลนโป ฯ
๏ ผ่านกรุงเก่าเศร้าจิตกะงิดงึก คำนึงนึกแสนอนาถกะงาดโง๋
ทวาราวดีนะคีโร เคยมหิทธิ์อิศโรกะโปเล
แต่เพราะเหตุกะปิงลิงชิงอำนาจ ต่างพิฆาฎฆ่าฟันวิสัญเหญ
พอใครมีพวกมากกะต๊ากเต คิดขบถทดเท่มะเฮฮือ
แสนเสียดายพระนารายน์มะฮายฮิด ท่านประดิษฐอิศริกะตีตื๋อ
วางพระทัยในพระเพทราชือ กลับจือรือคิดคดขบถใจ
ถ้าแม้วงศ์พลูหลวงทลวงลัด ชิงสมบัติแล้วบำรุงทลุงไถ
ให้บ้านเมืองสุขังทลังไท ฃ้าก็จะอภัยทไลทา
แต่นี่มีแต่ผลาญมลานเล ทั่วทั้งเพย่อยยับกะจั๊บจ๋า
เห็นใครดีใครแหลมกะแจมจา ก็พาลหากะโจดโรดลงโทษทัณฑ์
ราโชบายทุกองค์ทลงลาน แห่งวงศ์บ้านพลูหลวงทลวงหัน
สรศักดิ์ท้ายสระทลันทัน บรมโกษเหมือนกันทลันเท
อีกขุนหลวงหาวัดทะมัดถา สุริยามรินทร์ทะมินเถ
ต่างองค์ต่างฤศยามะกาเล ทะเมเททะมอยทอยคอยผลาญกัน
ฉนั้นเหล่าฃ้าเฝ้ามะเก๋าก๊ก ตล๊กป๊กตะไล๋ไป๋ไปสิ้นสรรพ์
ส่วนคนดีถูกผลาญูตะลานชัน เหลือแต่คนสามัญตะลามทราม
ลืมวิชานักรบตลบตึ๊ก ใจก็ขลาดฃาดคึกตลึกต๋าม
ต่างหลงเชื่อเวทมนตร์ตะลนลาม มีแต่ทรามไม่ฟื้นตลืนชา
พวกพม่าฃ้าศึกมะฮึกฮอย มาแต่น้อยก็ตื่นมะหืนหา
ต่างคนเห็นแก่ตนมะงนงา เสียกรุงสิ้นวาศนามะงาโร
ถ้าแม้วงศ์พลูหลวงกะต๋วงเติ๊บ ไม่กำเริบชิงราชย์กะต๊าดโต๋
อาจจะไม่เกิดภัยกะไตโล อยุธยาภาโรอาจยืนยัง
เปนคติไพร่ริมะหลวงต๋วง ละลาภล่วงเกินศักดิ์มะลักตั๋ง
ก็อยู่ได้ชั่วแล่นมะแลนตัง เพราะบุญญังตูน้อยมะลอยไต
อีกทั้งคุณสมบัติกะตัดต๋อง ก็บกพร่องตามกำเนิดกะเติดไต๋
ถึงอาจรื้อยื้อแย่งทะแมงไม มิอาจยึดถือไว้ทะมงทง
ล้างเก่าแล้วหวังเผดิมทะเมิมมึก ไม่สมนึกเพราะแหนงกะแตงต๋ง
คนดีๆ กะตานลานคอยผลาญลง หมดเครื่องมือตะนงตงที่พอใช้
สุดคิดสิ้นฤทธิ์ทะมิดเถือม มีแต่เสื่อมเปนลำดับทะมับไถ
เปนคติทะมำทำควรจำไว้ เพื่อเตือนใจมลึ่กตึ้กและนึกปลง ฯ
๏ ลุวันที่ญี่สิบสามตุลามคี เปนดิถีชาวเรามะหงงถง
เปนวันคล้ายปิยราชผงาดพงศ์ เบญมงค์สวรรคตขจดจึม
พระทรงธรรม์กอบกะตัญญุตาภา จึ่งอุส่าห์ย่างพระกายถมายหมึม
พร้อมองค์พระมหิษีนารีรึมย์ เสด็จลึมไปกรุงกะปุงลา
โดยรถไฟพิเศษทะเมดหมาย เวลาบ่ายสี่โมงกาโลงหลา
รถกระบวนบ่มิพักกะลักลา จนถึงจิตรลดาสถาโน
จากที่นั้นทรงธรรม์วิมัลมล เสด็จโดยรถยนตร์มะกนโก๋
เฃ้าสู่พระนิเวศน์มะเกดโก มโหโลมเหาฬาร์กะปาเล
ส่วนตัวพี่นี้ฉลาดกะมาดเม้า กลับแต่เช้าสู่กรุงกะปุงเหล
ได้กลับบ้านยานจิตกะมิดเช ไปเยี่ยมภรรเยยู้ยาจือ
ประโลมลูบจูบกอดกะฟอดฟุด เหลียวเห็นบุตร์เบิ่งดูถลูเหล
อุบายไล่ลูกไปตะไลเต จับแมลงเดให้ป้าป๋าชวาเวว
ลูกกลับตอบว่าโธ่กะโป๋หลา จับแมลงดาอะไรกะไหลเหลว
ยังกลางวันแสกๆ กะแหลกเกว ก็แมลงดาแมลงเดวที่ไหนมี
นึกกระดากพูดกระชากตลากตู๊ก ชะอ้ายลูกสู่รู้ฉลูฉี
พ่อบอกว่าให้ไปมไกยี ถลีถีเร็วพลันมะกันทา
อย่าทำดื้ออวดดีมะกีโท จะโมโหเดี๋ยวนี้ถลีถา
ลูกตกใจตะไหลไป๋ตะลาปา จึ่งหันมาชมเมียมะเกียทู
แสนสำเริงเชิงรมย์มะกมก๋าน จากกันนานหลายวันมะกันกู๋
ได้กลับมาเชยชิดมะกิ๊ดทู รื่นอุรูชื่นมื่นมลืนโชย
ได้เวลาจวนห้านาฬิแกน จำพรากจากวงแขนพธูโถย
ไขอาบน้ำชำระสระกาโยย แล้วแต่งโตยครึ่งยศกะจ๊ดจำ
เฃ้าไปสู่พระนิเวศน์วเรศวัง ขึ้นสู่พระที่นั่งวรังสำ
นามจักรีมหาปราสาทำ วิเศษำวิสุทธือกะปือลา
ครั้นถึงจึ่งเฃ้าตลุดกุด ก้มเกล้าเค้าคุดตล๋าต๋า
พระบรมอัษฐิหะริยา แห่งราชาราชินีสุภีโภม
พระคุณเคยครอบเกล้าตะเลาตอง พึ่งทั้งสองขัตติยามะกาโก๋ม
ตลอดชั่วพ่อแม่ตะแลโตม อีกปู่ย่าตาโยมกะโปมโล
พระคุณล้นพ้นที่กะปีลา เหลือที่จะพรรณนามหาโห
รำลึกถึงพระคุณมหุนโท ทุกเวโลมะงำรำจำใส่ใจ
ได้เวลาทรงภพมลบลี เสด็จพร้อมมหิษีมลีไฉ
ทรงจุดธูปเทียนทองมลองไช บังคมไหว้พระชนกชนนี
แล้วพระสงฆ์สวดมนตร์มหนเหียม ตามธรรมเนียมศราทธะพรตสะรสศรี
เสร็จสวดมนตร์จุมพลมหนที ทรงทอดไตรย์สดัปะกีกะมีชา
แล้วพระองค์ทรงธรรม์วรัญชัย ทรงสดับเทศโนมะโลฉา
ทรงทอดไตรย์แพรงามมลามชา ถวายของมลองตาบูชากัณฑ์
อีกสดัปะกรณ์มลอนชอย พระรายร้อยตามแบบกะแมบฉัน
ทรงแจกเงินสองสลึงทะมึงทัน โดยทั่วกันแก่พระญาติกาโย
ครั้นงานเสร็จพระเสด็จมลาดชาด พระที่นั่งภาณุมาสมหาดโส
เสวยพระกระยาหารสราญโช และผ่อนพระกาโยกะโปลา
ได้เวลาขัตติยาวราชน เสด็จโดยรถยนตร์มะงาหรา
มะงาริดสถานิดจิตร์ลดา ขึ้นรถไฟไพสาพิเศเต
กระบวนหลวงใช้จักร์อะทักทึก มิทันดึกนักหนอมะฮอเห
ก็ถึงบางปะอินกะปินเล แรมอีกหนึ่งราเตรสะเบแจ ฯ
๏ เช้าวันที่ญี่สิบสี่ตุลีควน คลาขบวนเรือเสด็จมะเล็ดแฉ
จากหน้าวังบางปะอินมลินแต ล่องลงไปไม่แช้มะแลชี
ถึงบางไทรแยกไปตล๋อยต๋อย เฃ้าสู้ลำแควน้อยมลอยฉี
ผ่านบางไทรใจฃ้าจะลีจี ถึงกลอนที่สุนทรภู่จลูไล
ในนิราศเฉลาเฉาวัดเจ้าฟ้า ดูภูมิฐานทิวชลาหฤกษาไสว
อีกว่ามีไทรงามชลามไล อนิจไจเดี๋ยวนี้กะตีโล
นึกออกเคืองต้นไทรมะไก๋ตู๋ มิคงอยู่ให้ฃ้าชมมะกมโต๋
จะลองแต่งแข่งท่านภู่กะวูโต แกว่าเห็นนิโครโธแกวันทา
เทพารักษ์ศักดิ์สิทธิ์สถิตย์พุ่ม เพราะเคยอุ้มอุณรุทสมอุษา
ใครน่าจูบรูปร่างเหมือนนางฟ้า ช่วยอุ้มพามาให้เถิดจะเชิดชม
ส่วนตัวพี่มิได้ขอมะงอหงืน เพราะหญิงอื่นหมื่นแสนมะแงนหงม
ไม่ประสงค์จงใจมะไนรมย์ ขอเชยชมตลางชางแต่นางเดียว
ถึงบ้านพาดพาดจิตกะติ๊ดต๊าด ถึงโฉมงามทรามสวาทกะต๊าดเตี๋ยว
พาศนากะปาลันกะปันเลียว ได้พาดพิงกะมิงเมียวแม่ทรามเชย
ถึงบ้านแป้งตละแสร้งกะหลีนตี๋น อยู่ใกล้บ้านขนมจีนกะลีนเต๋ย
อีกทั้งบ้านห่อหมกกะต๊กเตย ทำเขเลยเขละเฟอะฟะแฮ้
ให้นึกถึงขนมจีนมลีนฉี น้ำพริกปรุงจรุงจีกะแจ๋แหล
ทั้งห่อหมกกลมกล่อมตะล่อมแป ที่นวลแขตะเหลียงเตี๋ยงเลี้ยงพี่ยา
มิช้าพลันนาวันชลันชาน ตล๋านป๋านผ่านบ้านชื่อขุนจ่า
เออช่างเหมาะจำเภาะตลาชา อยากใช้จ่าตลั้กตั้กตักน้ำพริก
มากินกับขนมจีนกะหมินเฉ ให้พเธคลุกเคล้าตะเลาฉิก
ตักชวาบซาบแซบตะแล๊บลิก เออน้ำพริกตลอยชอยอร่อยจัง
หรือน้ำยาแก้วตาก็ชุงลุง รู้จักปรุงรสอร่อยชลอยจั๋ง
โอ้พี่ยาตลู๋ตู๋อยู่นาวัง ขนมจีนขนีนจังต้องอดกิน
วัดหน้าต่างใจผางตล๋างตี๊ด คำนึงคิดถึงหน้าต่างตล่างฉิน
ที่เคยเห็นมิ่งพโธโผล่ตลิน แลดูพี่ยามมะกินมะกันทา
บ้านสีกุกมลุ่กตุ้กถึงกุ๊กช็อป ที่เคยพากันไปฮ็อบกะหลาต๋า
ซุบและปลาเป็ดไก่กะไหล่ทา บิ๊ฟสเต๊กตะมาตาตะมีตาง
บ้านพระฃาวฤๅจะฃาวมะหลาวหลอง เหมือนผิวน้องอล่องฉ่องอล่างฉ่าง
ยามเจ้าเตรียมไปงานมะลานตาง เอาแป้งโปะสรรพางค์สะรางชอม
วัดพิกุลคิดพิกุลมลุนเต็บ ที่นางเก็บอบภูษากะปาล๋อม
กลิ่นพิกุลหอมกรุ่นกะปุนลอม กลั้วกลิ่นหอมวรองค์กะปงเล
ผ่านปากคลองมะโนรามะหงางอน เออกินรมะโนต์รามะนาเห
อยากขอยืมปีกหางมะกางเก เพื่อบินเบมะงาหราหานวลจันทร์
ถึงวัดนกกระจาบกะปาบปับ ที่ประทับคืนนี้มะกีตั๋น
เหลียวแลหานกกระจบยมะกาบกัน บ่ได้หันสักตัวกะปัวแป๊ะ
แม้มีบ้างจะได้ตักตะมักแมง มาต้มแกงกินอร่อยกอยอะแหระ
เมื่อไร้นกกระจาบมะงาบแงะ กุนเชี้ยงแหละตลาบปาบชวาบแทน
ถึงไม่ช้าพายุกะทุทึก มาคึกๆ เรือโคลงกะโทงแถน
ฝนก็ซ้ำตลำตำตะแลนแตน ตกห่าใหญ่ให้เสนตะลึมปึม
แม้ที่กรุงตลุงปุงบ้างเช่นนี้ น้ำคงเต็มตลี๋ปี๋ที่บ้านบึ้ม
เพราะบ้านเราเฃาเปรียบตะเลียบลึม เหมือนธานึมเวนิสตลิดตือ
นอนก่ายหน้ากระดิกฃากะจ๋าจึ๊ก มลึ่กตึ้กถึงยุโพโอ้มื๋อฉือ
ต้องนอนหนาวตล๋าวป๋าวตะลือปือ อยู่เอกือผัวไกลมะไลทา
แม้อยู่ด้วยจะได้ช่วยทมกทก นอนกอดกกกรกะโมบมะโลบฉา
ทมึงทึงถึงยุพินตลินชา จนสองตาตล๋อยป๋อยม่อยมึมทึม ฯ
๏ เช้าวันที่ญี่สิบห้าตุลาเค ตลึกตึกนาเวเถลถึม
ผ่านหน้าวัดเก้าห้องตลองตึม ถึงเก้าห้องสิบหึ้มทลึมเล
ไม่สู้ห้องหนึ่งเดียวกะเหวียวหวอง ที่นวลน้องนอนอยู่กะหวูเหว
วัดจุฬานึกถึงคราที่สาเม พาพเธกะตูลูดูเจ้าเซ็น
จุฬาโศกบ่มิโศกมะโหงกหงี เหมือนตัวพี่โศกร้างห่างเคเห็น
จุฬาตบอกตึกทะมึกเม็น ไม่เจ็บเช่นอกพี่ทะมีทา
บางเสด็จตะเหม็ดเต็ดตะเหมาเต๋า ราวจะเย้าถึงวิโยคทะโมกถา
ว่าต้องตามเสด็จประเพศพา จึงต้องร้างวนิดาประภาเภ
ทะมาทาถึงหน้าวัดป่าโมกข์ จอดนาโวกแวะวัดทะมัดเถ
เพราะแห่งนี้องค์นรินทร์ปิ่นนเร โปรดประเทพระกะฐินกะรินยา
พี่ขึ้นบกมะงกก๊กกะต๊กต๋าน สู่วิหารพระนอนวรอนฉา
จุดธูปเทียนตลุดกุดกะมุดทา ตล๋าต๋าไหว้พระมะนอนตอน
ขอเดชะบุญกุศลมะงนหงำ ที่ได้ทำแต่อดีตมะงีดหงอน
จงอำนวยอิฐผลมะงนงอน กะปอนลอนปาลากะเปเล
รำลึกถึงตำนานกะมานตี พระองค์นี้เดิมอยู่กะมูเต๋
ใกล้ฝั่งน้ำสายเก่ากะเมาเต อันตรายกะมายเมเพราะน้ำเซาะ
ราชสงครามสามารถกะต๊าดต๋อ ชลอพ้นอันตรายกะต๋ายเตาะ
ราชสงครามช่างเอกกะเมกเมาะ ช่วยสงเคราะห์ฃ้าหน่อยตลอยลี
ช่วยชลอเรือฃ้ากะต๋าตุ๋ง กลับคืนกรุงสักหน่อยตล๋อยตี๋
หรือชลอเรือนฃ้ากะตาลี จากกรุงศรีตลั๋นตั๋นพลันขึ้นมา
บูชาแล้วกะแลวแปวกะลับปั๊บ ไปคอยรับที่ท่าชลาหลา
บ่ายโมงเศษภูวนัยมะไลชา วรราชชายามลาเช
เสด็จขึ้นสู่วัดมลัดชาน เพื่อพระราชทานกะฐินเถ
ประชาราษฎร์ตลาดปาดดาษเด ตลุดกุดตะเลเกประนมปม
ต่างยินดีปรีดาประนาเทา ที่ได้เฝ้าฝ่าธุลีประนีถม
บังคมพลางทางแลประแนรม จิตนิยมบุญญาประนาโท
เสร็จกะฐินนาวินแตล๋งแต๋ง เตรียมมาแจ่งพรั่งพร้อมตล๋อมโต๋
ก็พายแข่งทะแมงแทงชะแลงโล เสียงชโยชลันชันลั่นชลา ฯ
๏ บ่ายออกเรือเดินต่อชลอลด ผ่านทางบางปลากดกะต๊ดต๋า
น้ำลายสอไฉนหนอมะลอลา จะได้ปลาตลองปองให้น้องแกง
บ้านสายทองตล๋องต๋องตลึ๋งตึ๋ง รำลึกถึงบทเสภาตลาแต๋ง
พี่สายทองของแม่พิมพ์พิริมแรง อุดหนุนน้องกะปองแลงดีเหลือใจ
พี่เมียเรากะเต๋าเหรากะตึงรึง น้องจึ่งหึงส์กะต๋งหรงคอยสงสัย
พี่สาวมาเคหากะไตไร ต้องขังผัวกะปัวไลลั่นกุญจุ๊ด
ผ่านคลองขุดใจสดุดสดึกเดิด นึกถึงร้านนายเลิดปากคลองขุด
เคยไปซื้อของฮอบชวอบวุด แสนอร่อยสอยอรุดอโรโช
ผ่านวัดแจ้งกะแหงงแก๋งกะหงอก๋อ โอ้อุรอร้อนรึ้งกะจึ๋งโจ๋
นึกถึงคราชวนยุผาลงนาโว ไปดูพระกะฐินโนกะโปลี
ประทานที่วัดอรุณกะมุนแชง ซึ่งชนเรียกวัดแจ้งกะแมงฉี
ยามมาพบวัดแจ้งกะแตงตี โอ้อุรีก็คนึงทะมึงเม
อ้าวัดราชปักษีถมีถาน ฃ้าขอวานปักษีกะตีเต๋
ไปสื่อสารณคฤหากะปาเล อ๊ะอย่าเลยตะเลเปเจ้าเปนแร้ง
เออหมู่บ้านปาชำหล่อตะมอมึก คำนึงนึกถึงจำปาตะมาแม๋ง
ติดสายป่านว่าวพนันมะกันแทง เคยพาเจ้าเยาวแภงกะแปงลัน
อันวัดนามสนามชัยชไลลิด ชวนให้คิดถึงถนนสถลถัน
ที่ฃ้างพระนิเวศน์วเรดชัน เคยพากันตรังตังไปฟังแตร
ถึงอ่างทองที่ประทับกระมับแมม บรรทมแรมหนึ่งคืนกระมืนแม๋
เห็นเรือนชานบ้านช่องมลองแช ร้านตลาดมลาดแตมะแลเต
น่าสนึกคึกคักทะมักแมน ผู้คนแน่นสองฝั่งชลังเหล
คอยดูเรือกระบวนวรวนเช ตะเลเตตะแลนแตนอยู่แน่นนันท์
อนิจจาวลาหกกระจ๊กจู๊ ตกสู้ๆ ส้าๆ กระจ๋าจั๋น
ถึงจะมีอ่างทองกระจองจัน สักสองพันตลองปองรองไม่พอ
ส่วนพี่ยากะจ๋อนหลอนนอนในเก๋ง ปิดม่านเม่งมึดคึดกะปึ๊ดป๋อ
ไม่อยากออกจากเก๋งกะเต๋งตอ กะงอหร่อกะหงุดหรุดกะมุดนอน ฯ
๏ ญี่สิบหกตุลกคาเวลาสาย ออกนาวายแล่นต่อชลอหลอน
บ้านย่านซื่อหรือจะเหมือนมะเกือนกอน พี่ซื่อต่อดวงสมรฤทอนทา
ผ่านบางแมวกะมึงทึงถึงอีทรัพย์ ที่เลี้ยงอยู่เคหับมะกั๊บก๋า
แมวเอ๋ยได้อยู่เรือนมะเกือนกา เจ้าดีกว่าฃ้านี้ฤทีทึม
บ้านจรเข้ร้องกะป๋องไป๋ ร้องทำไมไม่เปนเรื่องกะเปื๊องปึ๋ม
เจ้าอยู่ยังวังน้ำชลำพึม ฃ้านี้สิตะลึมตึมจากเรือนชาน
ผ่านบ้านลาวคิดถึงคราวมะแหลงแถง เมื่อหล่อนแต่งเครื่องลาวมะหลาวถาน
หล่อนงามยิ่งหญิงลาวกะปาวลาน ชวนชื่นจิตมลิดฉานราคานคิม
ยามแต่งแขกกัลยีดีกว่าแขก แต่งฝรั่งหรือก็แปลกตะแต๊กติ๋ม
แต่งเปนจีนจีนแพ้กะแลลิม ได้ชมชิมต่างๆ กะชางโล
วัดปราสาทโอ้อนาถมะหงาดหงี พี่ไม่มีปราสาทกะผาดโผ
แม้ว่ามีพี่จะชวนกะปวนโล ขึ้นอยู่ปราสาทกะโปกะเปไล
บ้านมะฃามยินนามกะต๋ามติ๊ด เพราะหวลคิดถึงเจ้าแก้วแววเวไห
เจ้าแพ้ท้องกินมะฃามกะปามไป พี่ยังได้ช่วยชวาบมลาบชา
วัดสระเกศมเลดไฉใจบุ๋มบึ๊ก คำนึงนึกถึงยุพินมะลินฉา
เคยพาเที่ยวภูเฃาทองมลองชา มล๋าต๋ามล๋านต๋านดูร้านรวง
ถึงหน้าวัดไชโยนาโวแวะ จอดแจละตามระเบียบเจลียบจ๋วง
ขึ้นบนวัดมะงัดรัดมะงวงรวง สู่วิหวงมหะตะแห่งพระโต
จุดเทียนธูปตลูบตูบตะหลาต๋า บังคมพระปฏิมามหาโห
ขอพระพรศรีสวัสดิ์มะฮัดโช ให้พุงฃ้าคงโตอย่ายึบมึบ
ไปถึงไหนขอให้ได้ชวาบชาบ กินกุนเชี้ยงกะลาบป้าบกะหลึบปึบ
อีกโครงหมูอย่าให้ฃาดกะจาดจึ๊บ อีกไก่เป็ดตลบปึบตะโลปำ
ครั้นบ่ายสี่นาฬิเกือเรือที่นั่ง ถมังถังที่พลับพลามะถาถำ
เสด็จพร้อมมหิษีวรีชำ ขึ้นสู่พระอารำมะฮำเฮ
โปรดประทานพระกะฐินวรินยี ณวัดไชโยนี้ตามวิเส
แล้วเสด็จสู่วิหารมะฮานเฮ ทรงบูเชพระโตมะโฮฮือ
เสด็จกลับพลับพลาชลาแลง จึ่งเรือแข่งเริ่มขั่งตรังตื๋อ
เสียงครึกครื้นตละพื้นนะทาทือ จะทะมือทะมองทองเปนฟองฟู
ประชาชนล้นหลามกะปามเหลา ต่างมาเฝ้าบาทบงสุ์กะปงหลู
แสนชื่นมื่นรื่นรมย์มะฮมฮู มาชมบุญบารมีมะฮูฮอ
เพราะนาน ๆ ภูบาลวรานชึง จะเสด็จมาถึงบุรึงฉอ
เปนโอกาศแสนประเสริฐมะเลิดลอ ที่ได้ฝ้อวรองค์พธงไท
วัดไชโยนาโมวโรชัด เปนสวัสดิมงคลวรนไฉ
ขอเดชะไตรย์รัตน์วรัดไช จอมไผทวรงชงทรงไชโย ฯ
๏ ครั้นวันที่ญี่สิบเจ็ดตุเล็ดแคน นาวาแล่นต่อขี้นไปชไลโหล
ผ่านตำบลสวนมะม่วงตะบวงโบ อยากใคร่เก็บอัมพโวฝากพธึม
วัดราหุลตลุ๋นตุ๋นกะจุ๋นจิต คิดถึงพุทโธรสมะฮดหึม
พระบิดาเสด็จจรมะฮอนฮึม ออกไปบรรพะชึมชมึมชี
แสนสงสารวรบุตร์วรุดชร เหลือแต่พระมารดรวรอนฉี
อุส่าห์ฝากวรองค์วรงคี แต่องค์พระชนนีวรีชา
พระสิทธาร์ถวรราชวราชม ยังอาจทรงวิเนษกรมณ์มฮมหา
อันตัวพี่กรณีย์มลีชา บังคับมาฤๅจะควรมิลวนโชย
ประนมกรมลั่กตั้กแล้วหักจิต ตัดโศกเศร้ามะเงางิดมะโหงยโร๋ย
ฃ้าเปนพุทธะมามกมะฮกโฮย ขอเดินโดยวรบาทมลาดชัน
วัดพระงามงามพระมลีนชีน เพราะทรงศีลสังวรมลอนฉัน
คฤหัสถ์ก็งามจิตมลิดชัน รูปะพรรณมะเลือมเชือมล้วนเสื่อมไป
วัดตราชูนึกถึงตูกะมูมิด เปนเนืองนิตย์จิตตั้งกะมังไฉ
ให้เที่ยงตรงดำรงกะไมไช กุศลทรงกะมงไมไตรย์ทวาร
ไม่เอนเอียงเที่ยงอยู่มลั่กตั้ก จิตจงรักจอมรัฐมลัดต๋าน
อีกรักชาติศาสนามลาตาน รักเท้ามิ่งนงคราญมลานตา
วัดเมียหลวงกะม๋วงต๋วงกะม่างต้าง ใครหนอสร้างไว้ที่นี่กะมีต๋า
ราวคอยเตือนจิตผัวมะกัวตา อย่าให้ลืมเมียหลวงมะกวงเต
ส่วนตัวพี่ยุพดีมะกียู ย่อมมีอยู่เมียเดียวมะเกียวก๋า
ให้แต่งตัวต่าง ๆ มะกางตา เหมือนมีเมียมะกายาห้าหกคน
วัดตาเถรกะเหลนเป๋นกะหลีปี๋ อยู่ฃ้างวัดยายชีกะหลนป๋น
เถนกับชีอยู่ชิดกะลิดลน หวังว่าไม่ซุกซนกะปนโล
วัดเก้าชั่งมะลั่งทั่งมลาพา ใครช่างตั้งนามามลาโผ
เก้าชั่งฤๅพี่จะอยากมลากโช เพราะร้อยชั่งภรรโยของพี่มี
ถึงบางพลูตลูตูตลากตาก อยากกินหมากพลูจีบตลีบตี๋
ฝีมือใครจีบพลูตลูตี จะสู้เจ้าเยาวภีตลีแต๊ะ
บางน้ำเชี่ยวเชี่ยวจังชลังลิด ราวรู้จิตพี่ยาชลาแหละ
ว่าอยากให้พัดเรือชเลือและ แฉละแฉะฉลับฉับกลับกรุงไกร
พรหมบุรีพี่นึกมลึ่กตั้ก อยากให้พระสี่พักตร์มลักไต๋
โปรดประทานพรศรีมลีไต ให้เหาะได้จะได้กลับมลับตึ๋ก
บางพุดซาพี่ยาฤทาทิด คำนึงคิดถึงพุดซาผะลาผึก
ที่เจ้าจัดให้กินฤทินทึก ประกอบพรึกกับเกลือผะเลือพึง
ถึงวัดพรหมสาครชลอนลบ ที่จอมภพประทับแรมชแลมหลึง
เลยขึ้นไปอีกหน่อยชลอยชึง ก็ถับถึงธานิงสิงห์บุรี
มีสถานราชการมะฮานโฮ ล้วนเอี่ยมโอ่ตึกรามกะปามหลี
อีกตลาดร้านรวงมะกวงกี ซื้อของกินสบินจีสบายใจ
เห็นนาวาแน่นเนืองมะเทืองทัง จอดริมฝั่งเปนแถวมะแทวไถ
เพื่อบรรทุกสินค้ามะทาไท แต่ละลำเจไกมะทุกมุก
แม้น้องมาพี่จะพามะหลาไถ เที่ยวตลาดตะไหลไป๋มะไทถุก
ซื้อของสดทำกับฃ้าวมะกาวกุ๊ก ชวนชวุกชวาบชิมอิ่มอุรึม
นี่มาเดี่ยวการเที่ยวกะเมียวเหมิน ไม่สนุกเสนินกะเหมินหมึม
อุดอยู่เรือดีกว่าชวาวึม กินแล้วมุดหัวนึมทมึมมำ ฯ
๏ เช้าวันที่ญี่สิบแปดตุแลดเคิน เรือออกเดินต่อไปชไลหลำ
ผ่านสังฆราชาวาศชลาดชำ กรประนำไหว้สังฆราชา
พระองค์ใดคุณสมบัติมฮัดโฮด ขอช่วยโปรดฃ้าพเจ้ามะเงาหงา
ให้รู้ทางกุศลมฮนฮา ชี้มรรคาสู่สวรรค์มฮันเฮ
เจอบ้านใหม่ใจฃ้ามลึ่กตึ้ก รำลึกถึงบ้านใหม่ตะไหมเต๋
ที่กำลังเตรียมสร้างกะตางเต แล้วคงได้สุเขกะเปลา
ถึงวัดจันทร์พลันจิตมลิดถี รำลึกถึงชนนีมลีถา
คุณแม่จันทร์อยู่สวรรค์มลันทา เอาใจช่วยลูกยามลาที
บ้านบางมันนึกฃ้าวมันมะกันทำ อีกส้มตำรสอร่อยมลอยฉี
อีกน้ำพริกส้มมะฃามมลามชี ที่เจ้าเคยเลี้ยงพี่มลีชา
วัดสมัคใจอดักกะจั๊กแจ๊ก คิดถึงแรกผูกสมัคกะจั๊กจ๋า
ยามอยู่ชิดดวงจิตกะจิ๊ดจา ยามอยู่ห่างหัทยากะจาจึม
กะดังงานามวัดมะฮัดฮู หอมไม่สู้กะดังงามะฮาหึม
ที่หล่อนอบผ้าสใบมะไฮฮึม รื่นอุรึมมะฮึมฮอดตลอดคืน
เออวัดยางคิดถึงยางกะฟ๊อดต๊อด ที่แตกป๋อดป๋อบแป๋บกะแฟบตื๋น
เมื่อพี่พาหล่อนโชกะโฟตืน เมื่อยามตื่นอยากเที่ยวอวดกะฟวดตา
ผ่านหน้าวัดธรรมจักร์กะจั๊กจู๊ด นึกถึงสูตร์ธรรมจักร์มะฮักหา
สวดในการขึ้นบ้านกะปานลา แต่บ้านเรามะเกาทายังไม่แล้ว
ศรีสำราญนามวัดทะมัดมาน จะสำราญฉันใดทะไมแม๋ว
เพราะพี่มาคนเดียวมะเทียวแทว จะสำราญสำแรวได้ฉันใด
อินทร์บุรีพี่ขอตล๋อต๋า ไหว้เทวาธิราชมะฮาดไห
ขอองค์อินทร์ช่วยกะตินกะไตไล ประทานพรวรอนไชวไรเช
เกิดชาติใดขอให้พบมะฮบฮัด พระไตรย์รัตน์สรณามะฮาเห
ได้เปนฃ้าจอมกษัตริย์วรัดเช ได้เปนคู่เสน่เหแก้วกานดา
บ้านสวนหลวงกะหมวงหมึงมะกึงกิ๊ด นึกถึงสวนดุสิตวนิสสา
ที่เฃาดินพายุพินกะปินลา ชมพฤกษากะเปินเลินเพลิดเพลินใจ
อิกนึกสวนสราญรมย์มะกมเก็ก เมื่อเล็ก ๆ เคยไปเล่นมะเก็นไก๋
แสนสนุกสุขเกษมกะเมมไม พร้อมสหายร่วมใจกะไมมาม
บ้านปลาไหลชะกระไรตะไลหลู ราวกับรู้ใจฃ้าตะลาหลาม
ว่าชอบแกงปลาไหลตะไลลาม สักสามชามตะลอยต้อบฮอบไม่แพ้
วัดโฉมศรีชะฉลีไฉลไฉ โฉมศรีไหนฤๅจะเปรียบเฉลียบแฉ
ปานโฉมยงนงพงาพธาแท ผู้เปนมิ่งภรรแยของพี่ยือ
เออบ้านชีน้ำร้ายชลายไหล แม่ชีแค้นเคืองใครมะไก๋ตื๋อ
จึ่งน้ำใจร้ายแรงกะแฮงฮือ จนขึ้นชื่อติดถิ่นชลินลุ
วัดทยานบันดาลกะติดริด ให้ดวงจิตพี่ทยานมะฮานหุ
อยากจะใคร่บินทยานเวหานฮุ กะปุ๊ลุกะปั๊บลับกลับหาเนียง
วัดระนามงามสง่ามะฮาเฮียน ลานรื่นเตียนรั้วเรียบมะเฮียบเหียง
ควรได้ลงในนิราศมะฮาดเฮียง เสียนามไม่เหมาะเหมียงในบทกลอน
บ้านขนุนรุนจิตมะงิดแหงว ถึงเครื่องแก้วหนามขนุนมะงุนหงอน
อยากซื้อให้หล่อนใช้กะไปลอน อนิจจอนเหลือแพงกะแปงลิด
โพนางดำชลำลามเปนนามบ้าน ตล๋านป๋านตลึ๋งปึ๋งถึงไพ่บริดจ์
เล่นโพดำละมันยากกะบากบิ๊ด ตลิดปิดตลาดปาดฃาดหลายตอง
วัดมะปรางจิตระคางคำนางนึง ถึงมะปรางเคยกินตลินฉอง
เจ้าอุส่าห์ปอกไว้ตะไลชอง เพื่อพี่ยองชวาบวับยามกลับเรือน
วัดสมุทใจมะงุดมะเงือเหรือ นึกถึงเมื่อพระสมุทมะงุดเหงือน
อุ้มนางบุษมาลีจรีเจือน จะเหลือนเปื๋อนจะลุงปุงจากกรุงยักษ์
รณจักร์ตามไปตไลตั๋น ขุนกุมภัณฑ์ตลงปงตรงเฃ้ากวัก
เรียกบุตรีตลอดปอดผู้ยอดรัก จะทำขวัญมะหักกักแม้กลับไป
พระสมุตมะลุดกุ๊ดเหมือนตัวพี่ มิได้กลัวอสุรีมะกีไก๋
ต่อให้ยักษ์มาสักหมื่นมะฮืนไฮ พี่ก็ไม่ทิ้งน้องมะฮองเฮอ
จนกาลย่ำสนธยากะจ๋าจั๋ง สุริยังลับไม้พฤกไษเสอ
เรือที่นั่งจึ่งถึงซึ่งพลับเพลอ หน้าอำเภอสรรพยากะจาจุง
แขวงจังหวัดไชยนาทบุราดรูน แสนสมบูรณมั่งคั่งกะจังจุ๋ง
มีพลับพลาอ่าโอ่มโหฬุง น่าสำรุงสมควรวรวนชอ
สรรพยามียาวราชด แก้ได้หมดตะไหมไต๋หรือไรหนอ
แม้มียาแก้วิโยคชะโวกวอ ฃ้าเจ้าขอกินบ้างชะวางแวน
แต่ยาแก้วิโยคกะโจ๊กจี๋ ใดจะมีได้เล่ากะเจ๋าแจ๋น
นอกจากได้อนุญาตกะจ๊าดแจน ให้กลับแบ้นแหละจะหายกะจ๋ายใจ ฯ
๏ ญี่สิบเก้าเช้าออกนาวอกวา จากอำเภอสรรพยาชลาไฉ
ผ่านบ้านหาดอาสากะมาไม พี่นี้ไซร้เหมือนอาสามะฮาฮือ
ไปงานท่านจากบ้านกะปานเล ระหนเหห่างสวาทมะหาดหือ
พอถึงวัดศรีมงคลฤทนทือ อิ่มอุรือลางดีศรีมงคล
คงได้กลับคืนกรุงบุรุงรัด โดยสวัสดิภาพสถาบผล
เออบ้านอ้อยชื่ออร่อยอรนชน แต่หวานรักมะฮักฮนกว่าอ้อยแท้
ยามผ่านบ้านสวนลำใยกะไจจิ๊ต ใจให้คิดถึงลำใยกะไจ๋แจ๋
ที่น้องใส่โถแก้วกะแจวแจ ไว้ให้ผัวกินแกอรอยชอย
ชิบ้านวังลูกอ่อนมลอนต๋วน ราวแสร้งชวนชักจิตมลิดต๋อย
ให้มะลึกกะตึ๊กตู๊กถึงลูกน้อย นอนในเมาะกะเก๊าะก๋อยกะลอยเจ
บ้านบางหลวงทลวงจวงคำนวงนอง นึกถึงคลองบางหลวงชลวงเหล
พี่เคยพาวนิดามะกาเล ลงนาเวกะเจ๋จ๋ำตามลำคลอง
ยามผ่านวัดกรุณามะฮาฮอ ฃ้าอยากขอกรุณามะฮาหอง
ให้ช่วยพาคืนกรุงมะฮุงฮอง แต่สุดคิดมฮิดจ๋องต้องจำจร
ผ่านวัดพระบรมธาตุมะฮาดฮม ตลมปมก้มเกล้าเกเศาสอน
ไหว้พระธาตุพุทธองค์วรงชอน ขอพระพรสี่ประการวรานชา
คืออายุวัณโณวโรชัง และสุขํพลํวรังฉา
จงมีแด่ฃ้าเจ้าวเราชา อีกทั้งบุตร์ภรรยาวราเช
บ้านงิ้วเออใจเข้อมลึ่กตึ้ก คนึงนึกถึงงิ้วกะปิ๋วเหล
เล่นเมื่อตอนตั๋งโต๊ะกะโป๊ะเล ได้เตียวเซี่ยนไปกะเปกะปึมลึม
แสนสงสารลี่โป้กะโจ๋จ๋าง ถูกแย่งนางคู่รักกะจั๊กจึ๋ม
บิดาเลี้ยงทำได้ใจทมึม เสียอารึมคลึ้มคลั่งทมังโม
แม้มีผู้แย่งพธูชวูวั่ง ฃ้าคงคลั่งทมังทีเหมือนลี่โป้
คงหาช่องถมองถานผลาญชีโว เช่นลี่โป้ทมางทางล้างตั๋งโต๊ะ
ผ่านไชยนาทบุรึมสะพรึมพรึบ เห็นบ้านช่องนองนึบไม่ไหวโหวะ
ไชยนาทขอยืมเสียงมะเฮียงโฮะ มาตะโกะเรียกเมียผู้เยียใจ
โอ้โหบ้านประจำรังฤทังถา นกสิอยู่รังรามะก๋าไถ
ส่วนตัวพี่มีกรรมทะมำไม ต้องมะเหลเถไถจากเรือนนอน
ผ่านวัดธรรมามูลมะฮูนโฮ ก้มศิโรตลุดกุดมะกุ๊ดก๋อน
ขอพระเจ้าศักดิ์สิทธิ์มะฮิดฮอน โปรดข้ากับภรรยอนกะปอนลา
กะเปาเลาแลดูเฃาคีเราชาน เงื้อมตระหง่านริมนทีชลีหลา
วัดบนไหล่มะไก่ไต่วิไลยตา เสริมศรัทธาสาโธวโรชี
ยามเรือเดินเฃ้าไปก็ไจ๋จ๋าน อีกยามผ่านพิศเพลินก็เจิ๋นจี๋
ยามเลยเลี้ยวเหลียวดูก็จูจี มะงีหรีมะงาหรามงามจับตา
ผ่านอารามมะฃามเท่ากะเหงาหงอน นึกอยากกินมะฃามอ่อนกะจ๋อนจ๋า
รสเปรี้ยวจี๊ดจะลิมปิมจิ้มน้ำปลา น้ำลายสออร่อสาโอชาชึง
เกาะตาลัดขัดจิตกะจิ๊ดจั๊ด ไม่กล้าลัดกลับบ้านกะจ๋านจึ๋ง
แม้ลัดได้ฤๅจะไม่กะใจจึง กลับนาวึงกะจงมงลงไปพลัน
แยกเฃ้าลำสะแกกรังชลังลุง ผ่านบ้านซุงมลึ่กตึ้กนึกกะจั๋น
โอ้ซุงดีกว่าเรากะเจาจัน ได้ล่องลอยกะจอยจั๋นยังกรุงไกร
ที่แห่งนี้มีเรือมะเกือก๋าย พร้อมผู้พายลงแน่นมะแก๋นไก๋
ล้วนแต่งกายสีสรรมะกันไก ทุกเรือปักธงไทมะไกกา
มาคอยเฝ้าจอมภพวรบชอง เสียงชโยโห่ก้องชลองหลา
สนั่นก้องท่องชโลนโททา ต่างยินดีปรีดามะกาโย
ต่างพายตามกระบวนวรวนชัง ตามลำน้ำสะแกกรังชลังโหล
เออพายแขงนี่กระไรมะไกโย เสียงขับร้องก้องนะโทชโลแท
อันลำน้ำสะแกกรังชลังหลาง ทั้งสองฃ้างเขียวชอุ่มพุ่มพฤกแษ
พิศจำเริญเพลินใจนัยแน ดูชุ่มชื่นมื่นแช่ตลอดทาง
หมู่บ้านท่าดินแดงกะแมงมึก คำนึงนึกว่าไฉนกะไป๋หลาง
จึ่งเรียกท่าดินแดงระแคงคาง พสุธางพสุเธนไม่เห็นแดง
เออบ้านเกาะลูกมอญมะกอนกั๋น ลูกรามัญหรือจะเปรียบกะเมียบแหมง
เหมือนลูกตูตละหมูมะฮูแฮง อ้วนน่าแกงและมะกันมันพิลก
วังกระทะชะฉามะก๋ากั๋ว ราวแสร้งยั่วให้หิวมะกิ๋วกึก
นึกถึงหมี่ที่เจ้าผัดกะจั๊ดจึ๊ก แสนอรึกตลำปำคำโต ๆ
ถึงอุภัยธานีมลีตั๊บ ที่ประทับแรมอยู่มะฮูโห
กำหนดสองราตรีสทีโท เห็นพลับโพลมโหฬารมะหานเล
ปลูกบนฝั่งดูสพรั่งสะพุมรุม เขียวชะอุ่มชะอ๋นหมนต้นพฤกเษ
มีแพจอดตรงท่าชลาเล สรรเพมะฮาลาดูน่าชม
พวกเรือพายตอนบ่ายมะลอมชอม มาถึงพร้อมบ่มิเหนื่อยกะเจื๋อยจ๋ม
ชวนกันพายถวายลำวรำชม จนพลบค่ำตวำว๋มจึ่งเลิกกัน ฯ
๏ อันอุทัยธานีมะงีแงว นานมาแล้วขัตติยาวราฉัน
ยังมิได้เสด็จถึงบุรึงชัน ชาวบุรันบุรึงชึงจึ่งยินดี
ที่ครั้งนี้วีระราชมหาดหึง เสด็จถึงเมืองอุทัยบุไรฉี
ต่างพร้อมใจชวนกันทะมันที มาชมพระบารมีวรีชาน
อันไทยเราเชาเหนือฤเทือทัก ล้วนจงรักวรบาทวราดฉาน
ไม่ใคร่มีอวดดีกะจีจาน เหมือนชาวกรุงมลุงชานมลานชัว
ตัวเปนไทยใจไทยไม่เหมือเถือ ไม่หลงเชื่ออกะปนลนคนปั่นหัว
ถึงคบชนต่างชาติมะงาดงัว สงวนตัวแสนดีมลีชำ
ชาวกรุงอวดซิวิไลซ์มะไฮโฮ แต่ใยโง่ยื่นจมูกกะจู๊กจ๋ำ
ให้คนต่างชาติจูงกะพูงพำ พาระยำกะมำมายฃายชาติตน
นึกอะไรก็ไม่เปนกะเตนต๊าก เก็บขี้ปากเฃามาพูดกะตู๊ดต๋น
พวกเฉโกระโยปำระยำปน สัประดนยุเล่นมะเฮ็นฮือ
ไม่รู้การเมืองตูมะฮูฮา เหมือนกะลาครอบไว้ตะไหลตื๋อ
เห็นสยามเขตหมดตะลดตือ เพียงกรุงเทพมะเฮบฮือทุเรศนัก
อยากชวนเพื่อนกะเปือนลากะปาเลือง มาเที่ยวตามหัวเมืองมะเกืองกัก
จะได้เห็นกรุงสยามมะงามงัก แล้วรู้จักรักจริงกะปิงเล
หนังสือพิมพ์ลงฃ่าวมะก๋าวก๋า โฆษนาฃ่าวเท็จตะเล็ดเต๋
จะได้รู้เท็จจริงตลิงเต แล้วช่วยด่าพวกอัปเรย์ระเยมำ
ที่หากินระโยโมยโดยโกหก ตลกปกหาเรื่องระเยืองจ๋ำ
ยุยงใจให้ผู้อื่นระยืนปำ ระยังมำระยำเมือนเหมือนตัวมัน
ขอกล่าวอีกว่าผู้ใดวไรฉี เปนคนดีสุจริตวริดฉัน
ไม่กินปูนร้อนท้องมะลองทัน คงไม่โกรธมะโลดชันฃ้าเจ้าเลย ฯ
๏ บ่ายวันที่สามสิบตุลิบคัด สองกษัตริย์เสด็จโดยชโลยเหลย
ไปยังท่าวัดขวิดอาริดเรย เพื่อเสด็จประเพยสะแกกรัง
ที่วัดนี้มีนักเรียนมะเลียนฉิง ทั้งชายหญิงตั้งร้อยมลอยฉัง
มาตั้งแถวรับเสด็จวเร็ดชัง ตลังปังสรรเสริญเสนิ่นนันท์
ขึ้นทรงพระเก้าอี้วรีชอน เสด็จจรตามถนนมะกนกั๋น
ผ่านตลาดสะแกกรังทมังมัน พวกชาวร้านมลานชันมลันชา
พร้อมใจกันจัดแต่งทะแมงมาด เพดานดาดขาวแดงกะแตงต๋า
ตลอดทางที่เสด็จกะเม็ดตา อีกแต่งร้านกะปานลากะปาโล
ทุกร้านตั้งเครื่องบูชาตลาตุ๊ด ตลุดกุดก้มกราบตลาบโต๋
บ้างก็มีมโหรีกะปีโล เสียงสนั่นสรรพ์โสน่กะโปเล
เจ้าของร้านยืนคอยกะตอยลิว ถือกิมฮวยอั้งติ๋วกะหลิวเหล
น้อมคำนับถวายกะปายเล แด่พระปิ่นนเรวเรชาน
ตัวเปนจีนแต่ใจมะไฮฮี ภักดีต่อจอมไทยมะไฮหาน
มะฮมโฮดวรโพธิสมภาร แสนสำราญปราศภัยมะไฮฮือ
ต่างยินดีที่ได้เฝ้ากะเปาลิน จอมนรินทร์ปิ่นภพมะฮบหือ
พระองค์ใดมิได้เคยประเพยพือ ถึงอุทัยธานือถิ่นนี้เลย
พ้นตลาดรายฎรตลอนต๋าง ฃ้างๆ ทางคอยเฝ้าตะเลาเต๋ย
มาแต่ทางไกล ๆ มะไกเกย เพื่อมาเชยชมบุญวรุนชา
ถึงเชิงเฃาสะแกกรังคีรังชับ หยุดประทับที่วัดวรัดฉา
เขาเรียกวัดสังกัดมะฮัดฮา หรือเรียกว่าวัดเฃามะเฮาฮาม
พระสงฆ์สวดมลันชันชยันโต ถวายชัยราโชวโรฉาม
แล้วเสด็จขึ้นเฃาคีเราราม คีรีงามวรามแชสะแกกรัง
บนยอดมีมณฑปมะฮบฮอย พุทธบาทสี่รอยมะฮอยหัง
อีกวิหารโบราณมะหานฮัง แต่เดี๋ยวนี้ฐาปนังเหมือนตึกจีน
อันว่ามรรคนายกกะต๊กต๊อบ ขุนกอบไกยกิจกะติ๊ดตี๊น
แกเปนจีนร่ำรวยมะฮวยฮีน จึ่งชอบสร้างอย่างจีนมะฮีนเฮอ
ท่านขุนนี้ดีนักมะฮักมะไฮ อยู่เมืองไทยนานแล้วมะแฮวเหอ
ตั้งใจฝังรกรากทะมากเมอ เงินทองไม่ทะเมอเทอส่งเมืองจีน
ทะมักทักรักไทยใจมั่นมุ่ง จะบำรุงถิ่นอาศัยทะไมถีน
ทะมานทานการกุศลมะฮนฮีน เรียกว่าจีนน่าคบมะฮบฮา
เฃ้ามณฑปฃ้าตลบตลุดกุด ก้มเกล้าเค้าคุดตล๋าต๋า
ไหว้พระบาทตลีปีสิ่ร้อยยา ด้วยศรัทธาสาธิตกะติ๊ดตุ๊ก
ด้วยเดชะกุศลมะหนหอน ที่สร้างไว้ปางก่อนวรอนฉุก
ช่วยขจัดโรคภัยมะไงงุก ระงับทุกข์สุขเสริมมะเฮิมฮา
แลจากเฃาชะมื่นตื้นเห็นพื้นที่ เกษตร์ศรียืดกื้ดชอี๊ดอ๋า
ละเมาะเหมือนแสร้งโรยชะโอยอา ชะอามตามงามตาทะซาเซือ
พอจวนค่ำย่ำแสงตะแวงวบ พระทรงภพเสด็จวเร็ดเฉือ
ลงจากยอดสีขรคีรอนเชือ ไปสู่เรือล่องกลับยังพลับพลือ
นึกอิ่มใจที่ได้เห็นกะเตนตั๊ก ความจงรักภักดีกะตีตื๋อ
แห่งอาณาประชาชนมะฮนฮือ ล้วนจิตซื่อมะไฮโตในภูมินทร์
สู้ทนเหนื่อยเมื่อยล้ากะจ๋าไจ๋ มาแต่ไกลมลดจ๊ดบทะสิน
ทุกคนไทยใจเช่นนี้มะลีชิน สยามคงมหินถินกะปินโล ฯ
๏ อันอุทัยบุไรชีนี้ดีหมด เสียแต่ยุงมะกุงกดมากอะโข
ชุมจริงๆ ชิงกันกัดกะปัดโป เปนผืนโผ่ไปทั้งตัวมะกัวเกอ
เสียดายหนอภรรยอไม่มาด้วย จะได้ช่วยปัดยุงกะหมุงเหมอ
ถึงยุงชุมแม้ได้ชมภิรมเยอ อาจลืมยุงยามพะเธอผทมมม
โอ้นอนเดียวเปลี่ยวอุรอกะจ๋อจ๊าด น้ำค้างหยาดหยดเย็นกะเจ็นจ๋ม
ถึงผิงไฟก็ไม่อุ่นกายุนยม เพราะอารมณ์กะหงาวก๋าวหนาวเหลือใจ
นอนไขว่ห้างกระดิกฃากะต๋าตุ๊ก ก็ยังไม่ใคร่สนุกกะตุ๊กใต๋
ทำท่าเก๋อนิจเจอนาถใจ ไม่มิใครตลุมปมชมพี่ยา
เจ้ามาด้วยจะได้ช่วยกะต๋วยตี๋ ชมยามพี่กะติกหลิกกระดิกฃา
ใครหมั่นใส้พี่กระดิกกะชิกชา พี่ไม่ว่าขอแต่น้องกะชองชม
นึกชมโชคชลางชางว่าช่างสรร เสาะหาภรรยาเหมาะเฉลาะฉม
ได้หญิงอื่นมาเปนเมียมะเกียกม อาจระดมด่าพี่มะกีเก
เพราะผู้หญิงโดยมากกะจ๊ากจู๊บ หลงแต่รูปโสภาสะเภเห
เจ้าต่างหากรักปากกะก๊ากเก ยื่นเปนหมูทะมูเทและห้อยยาน
เฃาติรูปตะมั่นตั้นว่าอั้นอุ้ง เฃาติพุงว่าพะลุ้ยกะตุ๊ยต๋าน
เฃาว่าสมชื่ออ้ายอู๊ดกะบู๊ดจาน แม้พี่น้องพลอยมะฮานมะฮือรือ
แต่คนเรากะเปาลันสำคัญพูด เปนนักปรูดพูดปลอกมะฮอดหือ
อีกรู้จักท่องกลอนมะฮอนฮือ รูปเปนตือช่างเปนไรมะไฮโฮ
ใครไม่รักมะหักกักมะเฮื่อนเกื้อน ขอแม่เคลื่อนรักฃ้ามะก๋าโก๋
ก็จะคงกระดิกฃามะฮาโล สุขเกษมเปรมโปรกะโปลา ฯ
๏ เช้าวันที่สามสิบเอ็ดตุเล็ดคอง ขบวนล่องจากอุทัยบุไรฉา
โดยลำน้ำสะแกกรังชลังชา ตามมรรคาชลาลางย้อนทางเดิม
ออกแม่น้ำเจ้าพระยานทาทึน เบนเรือขึ้นไปเหนือชะเลือเหลิม
ผ่านอำเภอมโนรมย์กะมมเมิม มะโนเขิ้มบ่มิชื่นกะมื่นรมย์
มาคนเดียวเปลี่ยวอกมะหงกโหงย ตะโล๋ยโป๋ยคิดถึงเจ้ายุเภาผม
บ้านท่าแขกใจกะแหมกกะมมกม ถึงกล้วยแขกที่พะธมทอดให้กิน
ผ่านหน้าวัดศรีเจริญมะเกิ๋นไก๋ อ้าศรีใดไม่เจริญมะเกินกิ๋น
มะกวนลวนยวนตาเหมือนนาริน ยอดยุพินศรีบุรัมสัมบุรึม
เกาะเทโพโอ้โทพาวราวแสร้งยั่ว ให้เขละไหลรั่วชลัวหลึม
แกงเทโพพี่ชอบกะฮอบฮึม ชวาบวึมโฮกฮอยอร่อยแฮ
วัดสมิงมหารามกะต๋ามตั๋น นึกทหารรามัญอันเก่งแก๋
ยามจากเมียมะเกียเลียมะแกแล จากอังวะเพื่อรักแษซึ่งวาจา
อันตัวพี่มะกีก้ากพรากยอดหญิง คล้ายสมิงพระรามกะต๋ามต๋า
ต้องจากเมียมิให้เสียกะตายา กะปาลากะปมลมสมผู้ชาย
ผ่านบ้านสพานหินกะจิ๋นกะจ๋าน แม้สพานยืดยาวกะจาวจ๋าย
จนถึงบ้านตูฃ้ากะจาจาย จึ่งจะชมกะจมป๋ายว่าดีจริง
ตำบลบ้านหาดทนงทะมงมิด แม้ว่าจิตพี่ทนงมะหงหิง
เหมือนนามบ้านแนะให้ทะไมมิง คงหันหัวนาวิงวกลงกรุง
ท่าน้ำอ้อยน้อยหรือชมือชด อ้อยไหนรสล้ำเลิดตะเมิดหมุง
จะสู้รสพจนาชะมามุง ที่ปลุกปรุงเปรมสวาทกะมาดไม
ผ่านหน้าวัดพระปรางค์เหลืองกะเถืองถา ตล๋าต๋าตลุดตุดศิรุดไต๋
ขอพระปรางค์ศักดิ์สิทธิ์มะหิดไฮ ขจัดโจโรไคมะไฮเฮอ
พยุหคีรีมะงีเหงา เห็นเทือกเขาทิวแถวมะแหงวเหงอ
ราวฉากกางขวางกันมะงันเงอ บ่มิให้ตูเข้อกลับหานาง
คลองมะเดื่อเอออุเรืออลึกตึก นึกถึงยามมะเดื่อสุกมะกุกก๋าง
แมลงหวี่หวู่วู่ตอมมะดอมดาง หอมผะลางมลวนตวนล้วนอยากลิ้ม
อันแก้วพี่เปนสตรีมลีเชือ เหมือนมะเดื่อสุกหอมกะต๋อมติ๋ม
ยามพี่ไกลแม้ว่าชายมะกายกิม อยากชมชิมกะต๊ากว๊ากจะยากใจ
ย่านมัทรีนึกสงสารวรานชี มิ่งมัทรีกลับมามะฮาไห
ไม่ประสบพระลูกวรูกไช มะไหไต๋มะโหยโต๋ยโอยโศกา
เวสสันดรวรอนชำท่านทำได้ ยกสองพระกุมารให้มะไถหลา
ยอมทนดูมหิษีวรีชา ทรงโศกามะฮาโฮมะโลเฮ
เปนตัวพี่คงไม่มีมะลีทิด ไม่มีจิตทำให้เจ้ามะเหลาเถ
ไม่อยากให้มีเรื่องมะเกืองเก ข้องฤเทแม้แต่น้อยกะตอยตึม
พอบ่ายคล้อยนาวอยชลอยหลิว ก็ถึงเกาะตานิวทวิวปึ๋ม
ที่ประทับแรมรึงหนึ่งราตรึม ปลูกพลับพลึมอยู่บนเกาะกะเปาะลา
น้ำพึ่งลดตะมดก๊ดตะหมืนกื๋น ที่พ่างพื้นจึ่งยังแฉะตะแหมะต๋า
แม้ว่าน้ำยังมิลดมะกดกา ดูพลับพลาคงจะเหมาะกะเตาะเต
ดูจากค่ายเห็นเฃาคีเราเรือก เปนทิวเทือกตละฉากกะตากเต๋
แลดูเพลินเจริญตาจราเต พักสะเบสะแบแจมะแฮฮือ ฯ
๏ วันที่หนึ่งพฤศจิกาได้คลาคลิว จากตานิวต่อไปชไลหลือ
คนอื่น ๆ ออกแต่เช้านาเวาวือ ขบวนหลวงชลวงลือต่อบ่ายแล้ว
ระยะทางชลางลาห้าร้อยเส้น สองฝั่งเห็นป่าและทุ่งชลุงแหลว
บางทีเห็นเทือกเขาทะเมาแทว เปนเทือกแถวทมูทูอยู่ไกล ๆ
บ้านโกรกพระชะทำไมมะไหลถี ใครไม่ชี้ที่เหมาะมะเลาะไถ
โชคดีขุดพบพระพิมพ์มลิมไท ก็จะได้มะหลากถากไปฝากเนียง
บ้านชื่อดงชะพลูทมูเม้า เหมือนแสร้งเย้าถมากถากให้อยากเมี่ยง
ถึงบ้านหว้าใครจะว่าทะมาเทียง ฃ้าไม่เถียงถลากถากปากยื่นจริง
วัดเกาะหงส์ไม่เห็นหงส์กะหมงเถ มาเกาะเก่อยู่สักหน่อยมะก๋อยกิ๋ง
ถ้าเห็นหงส์ก็จะวานมะงานงิง ถือหนังสิงถึงยูผาหน้านวลใย
บ้านตากแดดกะแปร๊ดแปร๋แน่สงสาร เออหนอบ้านคงจะร้อนตะวอนไต๋
แต่ถึงร้อนก็ไม่เท่าทะเมาไม ร้อนที่ในใจพี่ทะมีทา
บ้านยางโทนตะโหลนโป๋นตลี่ปี๋ โทนเหมือนพี่มาเดี่ยวตะเหลียวต๋า
โทนมาเดียวตีไม่เพราะทะเนาะทา รำมะนาช่วยกะจึ๋งจึ่งจะเพราะ
เฃ้าถึงเขตนครสวรรค์บุรันโช ล้วนอ่าโอ้บ้านเรือนกะเตื๋อนเตาะ
สถานที่ราชการมะฮานเฮาะ ตลอมเปาะตลายปายเรียงรายกัน
ที่ประทับราโชกะโปลา อยู่ตรงหน้าสโมสรพะลอนฉัน
แห่งคณะเสือป่าพลาชัน กรมนครสวรรค์พะลันเช
มีแพหนึ่งฃาวผ่องฉล่องฉับ ที่ประทับรมยาชลาเหล
อีกมีแพที่เสวยพระกระเย อีกแพราชบริเพคเณรา
จากแห่งนี้ไปตลาดกะปาดโล ปากน้ำโพไกลเกินกะเปินหลา
ตั้งเจ็ดสิบเส้นเศษกะเปดลา ออกระอากะปาลากไม่อยากไป
สถานีรถไฟมะไหลเถ ก็ห่างเหไกลบึ๊ดมะลึดไถ
นึกๆอยากมะหลองถองลองเลี่ยงไป ขึ้นรถไฟมะหลับถับกลับคืนกรุง
แต่เกรงคนปากบอนกะลอนฉอง จะแอบฟ้องเอาละแย่กะแลฉุง
นึกออกกลัวพณหัวกะลัวชุง จะสั่งขุงที่สนมกะลมชึม
เพราะเคยชิมรสสนมกะตมแตว แต่ครั้งเปนนายแก้วกะแตวตึ๋ม
ไม่อยากลิ้มชิมอีกกะจี๊กจึม จึ่งจำใจกะจึมงึมอยู่นาวา
ในคืนนี้มีเพลงมะเฮงฮอน ที่โรงหน้าสโมสรมะฮอนหา
เสด็จขึ้นทอดพระเนตร์มะเฮดฮา จนเวลายามดึกมะฮึกฮอ
เฃาหาคนเพลงดีมะลีถือ ผู้มีชื่อว่าเก่งมะเลงหอ
ผู้ไปดูมลันทันขันงอๆ เสียงฮาฮออยู่สนั่นมลันทา
แต่ตัวพี่มะเหลไถไม่อยากดู ฟังเสียงหมูมะเหลาะเถาะนึกเพราะกว่า
เพราะทั้งหมูมะไหลไถนึกไม่ช้า คงได้โครงมันมามะลาทิน
อนึ่งทั้งคำเกี้ยวกะเปี๋ยวปิ๊ด มันยวนจิตให้รำพึงกะจึ๋งจิ๋น
ใจก็เต้นไม่เปนเรื่องกะเปืองปิน เถลถินถลุดถุดมุดหัวนอน ฯ
๏ วันที่สองพฤศจิกาตวาวาย เวลาบ่ายจอมภพวรบฉอน
พร้อมองค์พระมหิษีวรีซอน เสด็จโดยนาวอนชลอนลก
ไปเทียบท่าโรงทหารกะปานลน แห่งกองพลพะลีชีเลขที่หก
ขึ้นทรงรถพระที่นั่งมลังลก นายทหารทะมกทกลากรถจร
ครั้นไปถึงสนามกะปามลา เสด็จขึ้นพลับพลาวราฉอน
กองทหารตั้งแถวมะแลวชอน ร้องชโยกะโปลอนพระพรชัย
แล้วกองพลเดินผ่านพะลานชาม สวนสนามงามริ้วพะลิวไฉ
เฉลิมพระวรเดชพะเลดไช ของจอมไทยพะไลชันพะลันชา
แล้วจึ่งเล่นกิฬากะต๋าแต๋ง ต่างแสดงสามารถกะต๊าดต๋า
แสดงการกะตีรีขี่อาชา กะตารากะตูรูน่าดูแท้
เลี้ยงของว่างไปพลางกะจ๋างจ๊อบ พี่ได้ฮอบอร่อยฉ่อยกะต๋อยแต๋
ไปเช่นนี้พี่ไม่ทุกข์กะจุ๊กแจ พี่ขอแต่ได้ชวาบกะต๊าบตึ๊บ
กิฬาเสร็จพระเสด็จวเร็ดฉาย ยังคูค่ายโบราณมะฮานหึบ
ทรงวางพวงมาลาบุบผาพึบ ทรงเคารึพณอนุสสาวรีย์
แห่งทหารอาสายุธาธาม ไปมหาสงครามวรามฉี
และตายในสนามยุธามธี ชีพพะลีชาติตนวรนไช
น่าชมเฃาภักดีวรีชิด แม้ชีวิตไม่เสียดายมลายไฉ
ถึงจะตายเฃาก็ตายวรายไช ไว้ชื่อไทยมเหลียดเฉียดเกียรติดำรง
ถึงตูฃ้าแม้ว่ามลึกชึก มีฃ้าศึกบังอาจมลาดฉง
มาย่ำยีแดนสยามมลามชง ฃ้าก็คงมลาชาอาสารบ
ถึงลูกเมียกะเปียลีเปนที่รัก ก็ยอมหักใจห่างกะจางจบ
ยอมถวายทุกอย่างกะปางลบ แด่จอมภพเพื่อสยามมะฮามฮา
ในคืนนี้มะงีหรีมีลคร ที่โรงหน้าสโมสรมะงอนหรา
บำเรอบาทยุคลมะงนรา เพื่อให้ทรงมะงาหราสำราญโญ ฯ
๏ วันที่สามพฤศจิกาตวาเวียง เวลาเที่ยงล่วงแล้วตะแววโหว
ทั้งสองพระวรัดชัดขัตติโย เสด็จลงนาโวกะยนตน
จากพลับพลาชลาทาขึ้นเหนือน้ำ ชลำทำบ่มิเนิ่นชะเลินถน
บรรลุปากน้ำโพชโลทน เห็นตลาดมะฮนตนอยู่ไกล ๆ
ถึงที่น้ำชะแลกแมกแยกสองแคว ซ้ายแม่ปิงชลิงแลกระแสใส
ขวาคือลำน้ำน่านชลานไล ที่เสด็จชะเล็ดไตในวันนี้
ลำน้ำแยกทะแมกแทกเหมือนเราสอง ตล๋องป๋องแยกกันทะหมันหมี
แต่แล้วรวมกันอีกทะมีกที เหมือนสองเราจะทะมีทะมวมรวม
ผ่านขึ้นไปชไลหลำลำน้ำน่าน แพตระการสองฝั่งชลังหลวม
ล้วนห้อยผ้าแดงแต่งทะแมงทวม เครื่องบูชวมตลุกตุกตั้งทุกแพ
เห็นผู้คนแน่นนันท์มะกันทัง คอยดูเรือพระที่นั่งวรังแฉ
ทุกตนแสนมะกีทีปลื้มปรีแด ที่ราแชธเสด็จมะเห็ดฮือ
นาวึงชึงถึงคลองบรเพ็ด มะเล็ดเต๊ดเลี้ยวเฃ้านาเวาหวือ
มลดต๊ดคดเคี้ยวชะเลียวชือ กว่านาวือจะถึงที่บึงงาม
อันบึงบรเพ็ดกว้างชลางลิด ตายิ่งพิศยิ่งเพลินชะเลินหลาม
จวนถึงที่ชะแลแทแพพลับพลาม เห็นนาวามนับร้อยชลอยลี
พวกฝีพายยกพายมะฮายโฮ ร้องชโยลั่นบึงสนึ่งสี
ถวายชัยมะไกทาฝ่าธุลี ด้วยยินดีทะเม็มเท็มล้วนเต็มใจ
ตรงกับแพพลับพลาชลาลอย แพน้อย ๆ ลอยเรียงกะเจี๋ยงไจ๋
พวกฃ้าราชการมะฮานไฮ อีกพานิชเต็มใจมะไฮโฮ
จัดของกินหลายอย่างมะก๋างเกี๋ยง มาตั้งเลี้ยงผู้ไปชไลโหล
เหมือนตลาดแพลอยฉลอยโช แต่ดีโขไม่ต้องซื้อมะกือกิน
มีฃ้าวห่อกับพร้อมมะฮอมฮัน อีกฃ้าวมันแกงไก่กะไจ๋จิ๋น
ขนมจีนก๋วยเตี๋ยวกะเจียวจิน อีกหลายอย่างกะลางชินกินโอชะ
มีขนมต่าง ๆ ฉล่างไฉ ผลไม้นานาฉลาฉะ
อีกเครื่องดื่มหมากบุหรี่ฉลีชะ ฉละฉะฉลวนฉวนล้วนดี ๆ
ทุกๆ คนเต็มใจกะไบ่ลิด มิได้คิดเหนื่อยยากกะป่ากหลี
นาน ๆ จอมกษัตริย์วรัดชี จะเสด็จมลีตีจึ่งปรีดา
พอประทับพลับแพลแพกลางบึง พวกนาวึงตั้งกระบวนชลวนหลา
แล้วต่างพายถวายลำนาวำมา ผ่านพลับพลามะหลายต๋ายถวายชัย
แล้วจับคู่แข่งกันกะจั๋นเจิก เอิกเกริกในบึงมะฮึงไห
ต่างสนุกมะฮุกฮึกทะมึกใจ ใครมีชัยมะไฮโฮชโยดัง
เสวยพระกระยาหารวรานชาด อีกฃ้าบาทได้ชวาบมะฮาบหัง
คิดถึงพวกลูกหมูทมูมัง ถ้ามาด้วยคงตะกลังพร้อมบิดา
เสวยเสร็จพระเสด็จชลาโล ลงนาโวยนตร์ย่อมกะจ๋อมจ๋า
ใช้จักร์ผ่านแพร้านชลานลา เจ้าของร้านตล๋านต๋าถวายกร
อีกประชาชนแน่นชะแลนลาด มีโอกาศตลมปงพระทรงศร
ได้ชมพระบารมีวรีชร ตลอนปอนตลินปินล้วนยินดี
บ่ายเวลาพอควรมลวนลับ เสด็จกลับจากบึงกะจึ๋งจี๋
ออกทางคลองล่องน้ำชลำลี สู่พลับพลีที่แรมชะแลมเลิม
การประพาศวันนี้กะปีลา สนุกกว่าวันก่อนมะฮอนเหิม
เพราะอาหารบริบูรณทะมูนเมิม กะเปิมกะเลิมกะปัดลัดยัดเต็มพุง
พออิ่มหนำสำราสวาปาม ราวงูหลามอึ้ดทึ่ดถะมึดถุง
นอนกลิ้งทูดตละผีกะปีปุง จิตมันมุ่งแต่จะคุดมุดหัวนอน
รู้อยู่ว่าคืนนี้ทลีทัด เขาได้จัดลครพูดกะจู๊ดจ๋อน
มีถวายภูมินทร์วรินชอน ตัวพี่อู๊ดตะมุดตอนนอนบนเรือ
ชวาบอิ่มแล้วที่บึงกะปึงลี กลับถึงที่ชวาบซ้ำกะปำเปื๋อ
จะไปดูลครมะฮอนเฮือ เกรงเปนลมกะอักกะเอือเช่นเคยมา
เลยแก้ตัวเล่นสำนวนล่วนสำเนิน ว่ามิได้รับเชิญมะเฮินหา
มะฮานตานวานพ่อศรีอยุธยา เขากล่าวกลอนมะฮอนฮาแทนตอนนี้ ฯ
๏ ฃ้าเจ้าศรีอยุธยาสหายาน ได้รับวานแถลงเรื่องกะเจื๋องจี๋
แต่พรั่นใจอยู่สักนิดกะจิ๊ดรี จะบกพร่องกะจองจีกว่าท่านไป
เพราะเจ้าคุณท่านเปนปราชญ์มะฮาดเฮด ช่างสังเกตเหตุการณ์มะฮานไห
อีกบทกลอนท่านก็คล่องชล่องไล ท่องร่ำไปชลดชดช่างจดจำ
ฃ้าเจ้าทรามกว่าเจ้าคุณมะทุนทู รูปก็ห่างไกลหมูกะจู๋จ๋ำ
ปากก็ไม่ยื่นย้อยกะห้อยฮำ กินก็คำย่อมกว่ามะฮาแฮน
แต่ท่านวานขัดท่านมะฮานฮัด ท่านจะกัดเจ็บเปล่ากะเจ๋าแจ๋น
จึ่งจำใจกะแตงแมงแถลงแทน เปนคำกลอนแกน ๆ มะแลนทูน
ลครพูดเล่นถวายวรายเชือง เรียกว่าเรื่อง “ฉันจะบวช” วรวดฉูน
ของคุณพระนามกรวรอนชูน พิสัณห์พิทยาภูนวรูนชา
แต่ฃ้าเจ้านี้เห็นกะเป๋นเหล ว่าเรียกเรื่อง “สาเก” กะเป๋หลา
จะเหมาะกับเนื้อเรื่องกะเปืองลา เพราะเหตุเกิดมะเหิดฮาด้วยสาเก
คือหมอน่วมเผ่าแพทย์ตะแลดต๋าย เมียแกตายแสนจะทุกข์ตะลุกเต๋
จำนงจิตแต่จะบวชตลวดเต จนได้กินสาเกตะเลไต
นางลำใยแสวงสินตะหลินเตื๋อม หล่อนช่างเชื่อมสาเกตะเหลไต๋
จนหมอน่วมตลิตจิตกะติดใจ มะไหลไถมะหลงถงหลงเสียงอม
ได้นางนั้นมาเปนเมียมะเถียลิด กำเริบฤทธิ์รุมเสน่ห์มะเหลถอม
โกรธกับลูกโกรธกับพี่กลีลอม หลงเสียงอมไม่เปนท่ากลาเลา
แต่หญิงชั่วกะจ๋านหมานผลาญทรัพย์ย่อย แล้วต้อยหลอยต๋ามหลามตามผัวเก่า
หมอน่วมรู้สึกตนกะจนเจา ก็โศกเศร้าสึมหงึมจึมปัญญา
จนโชคดีลูกชายมะถายหลือ พบหนังสือของแม่มะแถหลา
บอกขุมทรัพย์ฝังไว้มะไถลา ขุดขึ้นมามะถังหลังกลับมั่งมี
ใครอยากรู้เรื่องละเอียดมะเลียดถาน เชิญซื้ออ่านเองเถิดมะเหลิดถี
เฃาตีพิมพ์ไว้ฃายมะลายที คงพอใจมะไลถีมะลีทา
ผู้ที่เปนตัวลครมะฮอนเฮ็น ตั้งจิตเล่นลคีรีดีหนักหนา
ทั้งชายหญิงเล่นสนิธมลิดชา คนดูฮามะงันรันสนั่นโรง
ชายเปนฃ้าราชการมะฮานฮู หญิงเปนครูโรงเรียนมะเกียนโก๋ง
มีเวลาซ้อมน้อยกะตอยโตง เล่นได้ดีมะถีโถงถึงเพียงนั้น
ควรเรียกว่ามหุดสุดอุตสาหะ พิริยะเพียรหัดกะจัดจั๋น
เพื่อบำเรอบาทบงสุ์วรงชัน โดยพร้อมกันตลักตักจิตภักดี ฯ
๏ เช้าที่สี่พฤศจิกากะบาลอง กระบวนล่องชลธารชลานฉี
จากนครสวรรค์บุรันชี สู่ทักษิณเทศีกะปีลา
ที่วัดธรรมามูลกะปูนเลือง พระจอมเมืองแวะกระบวนนาววนหนา
เสด็จขึ้นคีรีมะฮีฮา บังคมพระปฏิมาวราโช
โปรดให้พิมพ์ธรรมจักร์วรักชัด จากพระหัดถ์ปฏิมามะฮาโห
ด้วยขี้ผึ้งแผ่นกลมกะปมโป อีกหมึกทาจักโกเอาผ้าซับ
พระองค์นี้มะฮือรือบรรฦๅฤทธิ์ ว่าศักดิ์สิทธิ์นักหนาอะฮาหับ
ใครหยากได้บุตรากะจ๋าจั๋บ น้อมคำนับตลมปมสมวิญญา
พี่อู๊ดจึ่งตลึ๋งตึ๋งตลุดกุด ก้มเกล้าเค้าคุดตล๋าต๋า
เจ้าประคุณตลุ๋นตุ๋นกรุณา ขอลูกหมูกะปู๋หลาอีกห้าตัว
ชายให้เหมือนบิดากะต๋าแต๋ กะแต้แย่กะตั้นยั่นกะตั๋นตั๋ว
พุงให้ย้อยปากให้ยื่นกะตื๋นยัว ใครเห็นตัวกะตื้นลื่นคลื่นไส้พุง
หญิงให้เหมือนมารดรกะต๋อนเตื๋อน อย่าแคล้วเคลื่อนกะเจื๋อนไหมกะไจ๋หมุง
ถึงไม่งามเลิดฟ้ามะฮาฮุง รู้จักปรุงรสอาหารกะปานลี
กลับลงเรือแล่นล่องชลองโลง สองชั่วโมงเศษหน่อยกะจ๋อยจี๋
ถึงตำบลสรรพยาชลาลี อันเปนที่ประทับแรมกะแปมโล
ในมณฑลนครสวรรค์กะจั๋นเจด ได้สังเกตทวยราษฎร์กะจ๊าดจี๋
ต่างชื่นมื่นจื้นจั๊กใจภักดี และเปรมปรีดิ์ที่ได้เฝ้ามะเลาชาม
เสด็จไหนเห็นแต่ชนมะก๋นแก๋น เบียดกันแน่นมะแก๋นก๋นอยู่ล้นหลาม
ตลุดกุดคุดเค้าตะเลาตาม บังคมบาทพระรามวรามชัย
บ้างจัดของหลาก ๆ ตะมากหมาย ทูลถวายวริดชิดอดิศัย
จัดตามมีตามเกิดมะเฮิดไฮ สำแดงใจจงรักตะมักแม
น่ารักใจชาวมลนชนบท ไม่ละลดรักเจ้ามะเลาแฉ
กะตัญญูมลูฉิดติดดวงแด ไม่เชือนแชมลงชงทนงตน
ยังเชื่อบุญบารมีมะฮีโฮ กษัตริย์เปนร่มโพธิ์มะโฮหน
ได้พึ่งพามะฮาฮุกสุขทุกคน ควรเปนเยี่ยงมะเฮียงฮนแก่เพื่อนเรา ฯ
๏ วันที่ห้าพฤศจิกาชลาลวน คลาขบวนล่องท้องชลองเหลา
นาวาลอยล่องเรื่อยชะเลือยเลา ย้อนทางเก่ากลับตรงชลงแลม
สามชั่วโมงนาโวงมะโฮงฮอน ถึงวัดพรหมสาครอารอนแหรม
เปนที่จอมขัตติยะวราแชม ประทับแรมวรองชองสองราตรี
นึกอึดใจที่กำลังชลังชอง ชลาล่องสู่บ้านชลานหลี
มาต้องแวะชลูตูอยู่แห่งนี้ ฉลีฉีฉลาดฉาดอนาถใจ
เพราะเปนราชประเพณีวรีฉัน ในวันจันทร์ไม่ดำเนินนะเทินไถ
ในทางชลมารคมะทากไท จึ่งต้องแรมทะแมมไมอยู่กลางทาง
แม้มิเกรงเกิดความกะปามลู๊ด อันพี่อู๊ดฤๅจะรอกะปอหลาง
คงเลยล่องกลับเร็วมะเกวกาง เพราะเคราะห์ลางพี่ไม่เชื่อมะเกือเก
อันเคราะห์ใดฤๅจะร้ายมะฮายฮา หนักไปกว่ากะจ๋างหวางห่างเคเห
ต้องแคล้วเคลื่อนร้างเรือนกะเปือนเล ใครจะชวนให้สะเบสะบ๊อบจ๊อบ
เห็นอยู่แต่กุนเชี้ยงมะเกี๋ยงกู๋ อีกโครงหมูมะไก๋ไต๋ที่ได้ฮอบ
พอช่วยให้โศกสร่างกะจ่างจ๊อบ ได้ชวอบพอชะวมภิรมโย
ยามราตรีมหรศพมะฮบเฮ็น มาลอยเล่นหน้าพลับพลาชลาโหล
นึกหรือว่าพี่ไปดูมะฮูโฮ เปล่าละโฮอู๊ดตู๊ดมะนู๊ดนอน ฯ
๏ วันที่หกพฤศจิกาวราชาย เวลาบ่ายองค์อดิศร์วริดฉอน
เสด็จโดยเรือยนตร์วรนชอน ล่องชลอนชลนลามิช้าที
เฃ้าคลองน้อยกะต๋อยหรอยชลอยหลำ ออกลำน้ำชลักทักชื่อจักร์สีห์
บ่มิช้าจอดท่าชลาลี วัดพระนอนจักร์สีห์ชลีเท
ประชาชนตล๋อยต๋อยต่างคอยเฝ้า พระเปนเจ้าเค้าคุดตลุดเต๋
บ้างจัดของมาถวายวรายเช ล้วนปรีเดได้ชมตลมโป
เสด็จสู่พระวิหารมะฮานฮอน ทรงนมัสพระนอนมะฮอนโห
แล้วเสด็จกลับทางชลางโล สู่พลับโพลกะโปลากะปาไล
อันพระพุทธรูปมะฮูบฮด มีทุกอิริยาบทวรดไฉ
มลึ่กตึ้กมลาดต้าดประหลาดใจ พระเสวยมะเล๋ยไต๋ไม่เห็นมี
แม้ตัวพี่มีทรัพย์มะหับฮาง จะใคร่สร้างพระเสวยวเรยฉี
ให้ประทับขัดสมาธิ์มะกาดกี และให้มีบาตร์ตั้งมะฮังเฮอ
จะเฉลิมศรัทธามะฮาโฮ จะบูโชตลุดกุดมุดเกเศอ
และขอพรมะฮะต๊ะปฏิเมอ ให้ตูเข้อสุเฃกะเปลู
อย่าให้ฃาดกุนเชียงมะเกียงกูน บริบูรณมะโฮงโกงด้วยโครงหมู
อีกปลาร้าผักต้มมะกมกู อีกปลาทูปูทเลมะเฮกา
แล้วจะสอนปวงลูกกะอู๊กอื๋อ ให้นับถือพระเสวยกะเอ๋ยอ๋า
เกิดชาติใดให้เปนหมูกะอู๊อ๊า เหมือนป้าป๋าปู๊ดลู๊ดกะอู๊ดพลุ้ย
นึกถึงพระเสวยพลางทางชวาบ กะฮอบฮาบกะมัดฮัดยัดตุ้ย ๆ
กินจนอิ่มจวนกะอักตลักลุ้ย ลงเอนหลังอุ้ยตุ้ยทอดหุ่ยเรอ
นอนไขว่ห้างกะติ๊กมิกกระดิกฃา กะปาลาผาศุกมะหุกเหอ
ถึงจะมีการเล่นมะเฮนเฮอ พี่อู๊ดไม่ปราถเนอทัศนี
เพราะถือแบบโบราณกะปานลอน กินแล้วนอนกะปูกหลูกถูกใจผี
มันให้พรวรัดชัดกะปัดลี ให้อยู่ดีกินดีกะปีโล
อันคนเราเกิดมามะหลากถอน กินแล้วนอนและดีมะหลีโถ
กินแล้วนั่งผีชังมะลังโท อู๊ดกับผีทะมีโลใจต้องกัน ฯ
๏ วันที่เจ็ดพฤศจิกาตล๋าต๋อง กระบวนล่องต่อไปตะไล๋ตั๋น
ตามทางที่ขึ้นมาตลาตัน เพราะฉนั้นตะไล๋ไต๋ไม่กล่าวซ้ำ
ประทับแรมบางบาลชลานลาบ หน้าวัดนกกระจาบชลาบหลำ
นึกดีใจนักหนามะฮาฮำ อีกคืนเดียวตลำปำถึงกรุงไกร
วันที่แปดพฤศจิกาตล๋าต๋ง ก็ล่องลงเรื่อยเจื้อยตะเหลือยไต๋
พอเย็น ๆ ถึงกรุงตลุงไต โดยทันใดขึ้นบกตะลกตือ
รีบขึ้นรถกะฟ๊อดต๊อดกะจ๊อดจี๋ ขับเร็วรี่ตามถนนกะจ๋นจื๋อ
มิช้าพลันถึงบ้านกะจานจือ ขึ้นเคหือกะเจ๋มเหมมเปรมปรียัน
จากไปนานเห็นบ้านกะปานแลน ตละเห็นวิมานแมนมะแฮนหัน
วิมานใดจะมาสู้กะปูลัน วิมานอู๊ดมะฮูดหันมะกันไท ฯ
๏ ฃ้าเจ้าศรีอยุธยามะหลาถาด แต่งนิราศมะไหลเถมะเหลไถ
พออ่านเล่นกะเป๋เหลมะเถไล มะไหลไถมะหลางถางยามว่างงาน
สมมตให้ท่านผู้ใหญ่มะไฮฮัง ในกรมวังมะแหลงแถงแต่งกลอนสาร
ที่แท้เจ้าคุณอู๊ดมะฮูดฮาน มิได้แต่งมะแหลงถานสักกลอนเดียว
เพราะถึงท่านตามเสด็จชะเลดล๊อบ ท่านไม่ชอบตะไหลไป๋ในการเที่ยว
ท่านชอบอุดอยู่แต่เรือกะเมือเมียว หรือจะเที่ยวท่านกะเที่ยวมะโลนโทน
อย่างเช่นที่ลพบุรีชลีลวน มิตร์ไปชวนเที่ยวท้องชลองโหลน
ท่านไม่ไปกับใครชไลโชน อิมโปไล้ต์ไปอะโลนดังหมูตือ
เรียกเรือจ้างมาลงกะป๋งหลา กาน้ำชาตั้งเคียงกะเตี๋ยงตื๋อ
ขัดสมาธิ์จ้ำม่ำกะปำลือ ท่องนะทือเที่ยวนะทังลำพังตน
ไปถึงไหนไม่ต้องอยากถลากไถ ไม่เที่ยวไหนเนาเรือเถลือถน
คอยบอกป่วยอยู่เปนนิตย์ทลิดทน มิตร์ทุกคนคร้านจะชวนทลวนเท
เหตุดังนี้ฤๅจะมะลาดต้าด แต่งนิราศนี้ได้มะไหลเถ
ซ้ำบอกไว้ตั้งใจมะไลเท รับผิดชอบทั้งเพมะเลทาน
แม้บทกลอนตอนใดกะไป๋ปิ๊ด จะขัดจิตกะปิ๊ดปู๋ท่านผู้อ่าน
ขออย่าโทษเจ้าคุณอู๊ดกะปู๊ดปาน จงโทษศรีอยุธยานนี้เถิด เอย ๚ะ๛

จบนิราศมะเหลเถไถ ๚ะ

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ