เดือน ๕ จุลศักราช ๑๒๓๙

จดหมายเหตุพระราชกิจรายวัน

พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

วันพฤหัสบดี ขึ้นค่ำ ๑ เดือน ๕ ปีฉลูยังเป็นอัฐศก จุลศักราช ๑๒๓๘

ตื่นเช้าขึ้นส่งก๊าดกันมามากได้ของปีใหม่ กมลาศเอาเชิงเทียน ๒ ขวดหมึก ๑ ที่ขีดไฟ ๑ เขี่ยบุหรี่ ๑ มาให้ พระนายศรีหีบบุหรี่ กรมนเรศขวดเหล้ากับบุหรี่ พระยาภาษหีบใส่กะดาษ เปลี่ยนหีบเครื่องเล่นต่าง ๆ กาพยรูปกับรูปเขียนและลูกกวาด แล้วไปเลี้ยงพระที่อมรินทร์ สดัปกรณ์พระบรมอัฐิ แล้วกลับเข้ามาสังเวยเทวดามีลครที่ท้องพระโรงข้างใน คุณสุรวงศ์ส่งคำเตลิกราฟมาแต่สิงคโปร์ว่าการที่เกิดขึ้นในเมืองภูเก็ตนั้นสงบแล้ว แต่ยังจัดเมืองไม่เรียบเรือนถูกไฟไหม้มาก คนก็ตายแต่ยังไม่รู้จำนวน ได้จดหมายตอบส่งคำเตลิกราฟไปและบอกจะพบด้วย อ้ายลอรีเอากล้องส่องมาให้ปีใหม่อันหนึ่ง ท่านกรมท่าเอาร่างหนังสือที่จะมีตอบมิศนอกฉะบับหลังมาให้ดู บ่าย ๓ โมงกลับไปได้แจกขนมที่สมเด็จเจ้าพระยาท่านสุรวงศ์ ท่านกรมท่าและคุณปริก ยายศรีวิไลย เวลาค่ำแต่งตัวเป็นปชา เจ้านายแต่งต่างๆ กัน ท่านเล็กเป็นรายายโฮ ท่านกลางเป็นขุนนางอังกฤษเสื้อแดงกางเกงสั้น กรมนเรศเยนติลแมนฝรั่งเศส เทวัญรอบินฮุด กับกมลาศเซอเครนกวลสลี ทวีเป็นกวลกาวัลรี กาพยเยนติลแมนเสื้อขาว พระองค์สิงหนาทพิทยาธร กรมเจริญแอดมิราล กรมขุนบดินเตอกี กรมขุนภูวนัยพระจีน พระองค์สายพระวิสูต เสื้อสรบับ เจ้าจรโปลิศ ทองโววพ่อ จิตรตาแดง ปฤษฎางค์ผู้ชายครึ่งหนึ่งผู้หญิงครึ่งหนึ่ง ศุขวอลันเตียอังกฤษ คัคณางค์ต่างกรมมาลา เจ้าขาวพระญวน วรวรรณใส่กระบังหน้านุ่งส่านห่มตาดเป็นผู้หญิง ไชยยาเจ๊กงิ้ว พระองค์ดิฐอันสแมน ดิศคนเรือ นอกนั้นก็แต่งต่างๆ กัน แต่ไม่สู้ขบขันนัก นั่งโต๊ะเวลา ๒ ทุ่ม ๔ ทุ่มเลิกจับฉลากของต่าง ๆ ได้ให้เงินมโหรีสรรเพธ ๕ ชั่ง แล้วเล่นกลแลเซียเตอจนรุ่ง ได้ให้เงินท่านเล็กแจกคนเล่น ๓ ชั่ง ปีนี้เล่นเรื่องโจร ๔๐ กระเษมศรีเป็นอาลิบาบา ทองเป็นน้อง แถมเป็นบาบามัศเตฟา กรมเจริญเป็นนายโจร จิตรเป็นมยิพา มีคำร้องด้วย ๖ ท่อน เล่นกลก่อนนั้น กรมเจริญออก แล้วเจ้าปฤษฎางค์

วันศุกร์ ขึ้น ๒ ค่ำ เดือน ๕ ปีฉลูยังเป็นอัฐศก จุลศักราช ๑๒๓๘

เวลาเช้า เกือบโมงหนึ่ง นั่งโต๊ะกินเข้าต้ม แล้วโวตแจกรางวัลกระเษมที่ ๑ นาฬิกาแก้วแขวน กรมเจริญที่ ๒ สมุดรูปหลังมุกด์ ทองแถมที่ ๓ กล่องขนมปัง แล้วกลับไปเวลาโมงหนึ่ง สองโมงนอน ตื่นย่ำค่ำ ได้รับหนังสือคุณสุรวงศ์ส่งหนังสือพระยากาญจนดิฐบอกมาฉะบับหนึ่ง หนังสือพระยาบริรักษ์ถึงพระยากาญจนดิฐฉะบับ ๑ พระยากาญจนดิฐตอบฉะบับ ๑ คำให้การนายชื่นฉะบับ ๑ ได้ความว่าเหตุที่จีนกำเริบขึ้นที่เมืองภูเก็ตนั้น เพราะกลาสีขึ้นไปเที่ยวบนบกวิวาทกับจีน โปลิศจับไว้ ๒ คน เถ้าแก๋มาขอพระยาภูเก็ตก็ให้ตัวไป พวกจีนไม่สงบกลับกำเริบมากขึ้นได้ส่งต้นหนังสือนั้นกลับคืนไป ท่านกรมท่าจดหมายมาว่าได้ให้บาดหลวงโรโซแปลประกาศเขมรที่ออกใหม่ส่งมา กับได้ปรึกษาสมเด็จเจ้าพระยาด้วยการที่จะให้ข้าหลวงขึ้นไปเมืองเชียงใหม่ ท่านว่าให้คนอื่นไปก่อนพระยาเทพก็ได้ เวลา ๒ ทุ่ม พระยาอัศฎงคมาลาไปเมืองสิงคโปร์ ได้ให้ธูปเทียนกับผ้าขาวห้าพับเป็นของช่วยในการศพมารดา แล้วพระยาศรีพระยาราชเสนาพระนรินทรมาหา พระศรีอ่านบอกเมืองโคราช สระบุรี ด้วยเรื่องหลวงสโมสรกัปตันลอบตัศไปตรวจทางเมืองโคราช พระนรินทรพาหลวงสโมสรมาหาด้วยแล้วมืบอกเมืองเสียมราฐมาว่า สนองกุยพระยากลาโหมปล่อยมาให้เกลี้ยกล่อมพระยาราชเดชะนั้นกลับเกลี้ยกล่อมคนเข้าตีเมืองชีแครงได้ แล้วกองทัพพนมเป็ญตีคืนได้ สนองกุยกับพระยาราชเดชหนีไปหาวัดถา และหนังสือราชเสนาตอบไปถึงพระยานุภาพไตรภพว่าพระยาวิชิตณรงค์เจ้าเมืองชีแครงเข้ามาในกรุงนั้น ครั้นจะหาเข้าเฝ้าก็เห็นว่าขาดน้ำพระพิพัฒสัจจามานานแล้ว ได้พระราชทานเงิน ๑ ชั่งให้เป็นสเบียงกลับไปเมืองเสียมราฐ และได้สั่งให้ไปบอกท่านภูธราลัยให้ทำศุภอักษร และไปให้ปรึกษาสมเด็จเจ้าพระยา แล้วลงไปที่ไพศาลบูชาพระชันษาแล้วออกไปวัดพระแก้วสวดมนต์ที่วัดพระแก้วถือน้ำ เวลาสวดมนต์นั้นได้พบปรึกษาการกับสมเด็จกรมพระ การเรื่องภาษีปลาทูนั้นแล้วกันไป สวดมนต์ได้ครึ่งหนึ่งกลับมาเพราะท้องไม่สบาย

วันเสาร์ ขึ้น ๓ ค่ำ เดือน ๕ ปีฉลูยังเป็นอัฐศก จุลศักราช ๑๒๓๘

เวลาเช้าสี่โมงเศษออกไปที่วัดพระแก้วถือน้ำ เวลาประกาศได้เชิญเจ้าคุณมานั่งพูดด้วย ท่านมีหนังสือมาเมื่อเช้านี้ว่าจะลาไปรักษาตัวที่เมืองราชบุรี ครั้นเวลาถือน้ำก็ไป แล้วได้สั่งท่านภู ครั้นกลับมาแล้วเวลาบ่าย ๓ โมงยุกเก้อมาหา เอาแพรต่างๆ มาให้ดู ได้พูดกันถึงเรื่องเตลิกราฟและอื่นๆ อยู่จน ๕ โมงกลับไป ได้จดหมายถวายสมเด็จฉะบับ ๑ ให้จ่ายเงินที่เขาตั้งฎีกาเบิกไว้นานแล้วยังไม่ได้จ่ายไปนั้น ให้ผ่อนจ่ายไปตั้งแต่เดือน ๕ นี้ไป กับได้สั่งบาญแผนกตั้งภาษี ๓ ราย แต่ภาษีปลาทูนั้นงดไว้คิดพิกัดก่อน เวลาค่ำออกขุนนาง พระยาพิพัฒอ่านบอกเมืองนนท์ ส่งเงินปี้จีน กับได้ให้เครื่องยศโต๊ะทอง กาทองพระยาราชพงศานุรักษ์ พระเทพผลูจดหมายรายวิวาทเมื่อตรุษมาให้ดู ๖ ราย ได้สั่งให้พระอินทรเทพชำระ ๒ ราย พระเทพผลู ๒ ราย พระมหาเทพราย ๑ ราชวรินทรราย ๑ สรรเพธนำเรื่องราวหลวงทานาธิบดีมาว่ามีผู้มาวิวาทกันที่หน้าโรงทานให้ไปถวายสมเด็จกรมพระทำโทษ แลให้จิตรเจริญไปจุดเทียนที่สวดมนต์พิธีคเชนทรัศวสนาน

วันอาทิตย์ขึ้น ๔ ค่ำ เดือน ๕ ปีฉลูยังเป็นอัฐศก จุลศักราช ๑๒๓๘

เรียกพระองค์ดิฐมารับทอง ๖ ตำลึงของลูกไปให้ทำพระนาคปรกสำหรับตัว ทองนั้นเอามาจากแสง กำหนด ๑๐ วันให้แล้ว เวลาบ่ายออกไปที่สุทไธสวรรย์ ดูแห่คเชนทรัศวสนาน พระเศวตวรวรรณมีน้ำมันต้องกลับเข้าโรง แล้วนั่งพูดกับสมเด็จจนทุ่มหนึ่งเข้ามาหยุดฟังมโหรีแล้วกลับมา พระยามหามนตรียื่นจำนวนทหาร ท่านภูธราภัยมาปรึกษาการที่จะทำศุภอักษรไปเมืองเชียงใหม่ เรื่องเงินหม่องไป๊ที่ถูกฆ่า ท่านสุรวงศ์จดหมายมาว่าจะขอไปปรึกษามิศนอกด้วยเรื่องจะทำไลเซ็น ได้ร่างหนังสือที่จะมีร้องต่อกงซุลต่างประเทศและร่างไลเซ็นมาให้ดูด้วย ได้ตอบไปว่าดีแล้ว แต่ขอให้พูดการให้ตลอดทั้งหัวเมืองและในกรุง กับการที่จะร้องทุกข์นั้นมีความลำบากอยู่อีกอย่างหนึ่งที่คนเนาไม่เป็นที่ด้วย ได้ส่งร่างนั้นกลับไป พระยาเทพมาหาด้วย

วันจันทร์ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๕ ปีฉลูยังเป็นอัฐศก จุลศักราช ๑๒๓๘

ท่านกรมท่ามาหาเอาหนังสือตอบมิศนอกมาให้ดู ว่าความยืดยาววนเวียนมาก ตกลงเป็นใจความว่าจะบอกคอเวอนแมนต์ให้เอากับเชียงใหม่เองเป็นต้น พระยาราชเอาเรื่องความโจทย์ ๒๕ คนมาร้องเมื่อไปที่บ้านปากให่ซึ่งชำระสอบสวนแล้วนั้นมาให้ดู ได้สั่งให้สมเด็จกรมพระแก้พิกัดค่าน้ำให้ชัด และให้ตัดสินความนั้นเสียให้ตลอดด้วย กับได้จดหมายไปที่สมเด็จกรมพระอีกฉะบับหนึ่งว่าด้วยภาษีเสานั้นถ้ายังไม่ได้ตั้งไปก็ให้รวมให้พระยาราชทำเสียเป็นภาษีคอเวอนแมนต์เหมือนกัน กับได้สั่งพระยาราชให้ตรวจดูการนาเห็นควรจะช่วยขุดคลองหรือช่วยเหลืออย่างไรก็ให้ทำไปอย่าให้ต้องสั่งเลย พระรัตนโกษาเอาสายสร้อยสำหรับจี้ศรีวิไลยมา ได้ส่งจี้ไปให้กับรูปด้วย สรรเพธเอาบัญชีของที่ทำโรงทหารมาให้ดู คุณสุรวงศ์มาหาได้พูดด้วยเรื่องสุรา เตลิกราฟ ศาลว่าความ อนึ่งจดหมายมาก่อนหน้าจะมาด้วยเรื่องความนายพลอยพาอะไรจำชื่อไม่ได้ อยู่แขวงเมืองนครเขื่อนขันธ์ ขี่กระบือมาจับปลาที่ไผ่ดำ ถึงทุ่งแสนแสบอำเภอจับไว้ ว่าไม่มีหนังสือสำหรับตัวจะขอมีตราประกาศหัวเมืองเพิ่มเติม ด้วยการที่กระบือไปต่างแขวงไม่ได้ซื้อขายให้ทำหนังสือสำหรับตัวแต่ฉะเพาะ ได้สั่งพระยาศรีให้เอาตราเดิมที่ประกาศเรื่องลูกค้าพากระบือมาเกินล่วงแขวงตามเช่นพระปรีชาว่านั้นประสมกันเป็นฉะบับเดียวด้วย ออกขุนนางพระยาศรีอ่านบอกพระยามหาอำมาตย์ว่า ได้ส่งท้าวขันตีขึ้นไปถึงเมืองเชียงขวาง เมืองหลวงพระบางได้มาตั้งเป็นเจ้าเมืองแล้ว คนที่เมืองพวนรู้ข่าวว่าจะตั้งท้าวศรีสุวรรณ ให้เป็นเจ้าเมืองอยู่ที่เมืองหนองคายก็จะพากันมาอีก อนึ่งนายทัพนายกองนั้นก็ได้ผ่อนกันมาบางแล้ว วันนี้หลวงทวยหาญมาถึง กับเมืองพนมศกบอกส่งนายตาดบุตรพระยาราชเสนาที่ไปฟังราชการ กับขอตั้งยกรบัตร พระยาศรีเอาจำนวนคนเมืองนครราชสิมามาให้ดู กับเรียกพระยาเทพมาส่ง ให้ทำหนังสือถึงเจ้าเมืองเชียงใหม่กับได้ให้ม้าเขียวหมอคีนตัวหนึ่งสูง ๒ ศอกคืบ ๑ นิ้ว มีจดหมายไปด้วย

วันอังคาร ขึ้น ๖ ค่ำ เดือน ๕ ปีฉลูยังเป็นอัฐศก จุลศักราช ๑๒๓๘

พระองค์โสมมาลาไปที่ศพยาย ชักวัน ๗ ค่ำ ๙ ค่ำเผาได้ช่วยไตร ๑ ผ้าขาว ๕ พับ พระศรีธรรมสารมาบอกด้วยเรื่องที่ท่านกรมท่าให้พาโจทย์ที่มาฟ้องบาดหลวงกับคนเข้ารีดเมืองชลไปให้กงซุลฝรั่งเศส เดิมท่านกรมท่าไปที่อ่างศิลา คราวนี้มีโจทย์ท่าเรื่องราวมาร้อง ว่าโจทย์ ๒ คนนี้ไปค้าขายเดินไปริมบ้านคนเข้ารีดๆ ประมาณ ๒๕ คนออกมาแย่งชิงของแล้วตีโจทย์ ๒ คนมีบาดเจ็บ ท่านกรมท่าจึงให้รับเรื่องราวและส่งตัวเข้ามากรุงเทพฯ แล้วให้สืบความที่บาดหลวงทำข่มเหงแก่ราษฎรไม่อาจมาร้องฟ้องถึง ๓๐ รายเศษ ครั้นกลับมาที่กรุงเทพฯ จึงได้หาตัวหมื่นวิจารณซึ่งตั้งให้เป็นนายคุมพวกเข้ารีดมาบังคับให้ส่งตัวจำเลยทั้ง ๒๕ คน หมื่นวิจารณไม่ส่ง ท่านกรมท่าให้จำตรวนไว้แล้วเฆี่ยนเร่งครั้งหนึ่ง ๕ ที บาดหลวงมาขอโทษท่านกรมท่าไม่ยอมให้เพราะเป็นความมีคู่ แล้วกงซุลฝรั่งเศสมาขออีก จึงให้พระศรีธรรมสารพาตัวโจทย์ลงไปว่าให้กงซุลว่ากล่าวเองตามแต่โจทย์จะยอม กงซุลว่าจะให้ทำขวัญ ๑๐๐ บาท ครั้นหาตัวบาดหลวงมาพูดบาดหลวงไม่ยอมจะขอว่าเป็นความใหญ่เพราะได้ฟ้องแล้ว กงซุลโกรธมากความยังไม่แล้ว ได้ยังให้พระศรีไปเชิญกงซุลฝรั่งเศสมาหาพรุ่งนี้ พระรัตนโกษา พระนายศรีมาปรึกษาเรื่องที่จะจัดของเอกซหิบิเช่น ลอรีจดหมายมาเตือนเครื่องดับไฟ หมอสายเอาหนังสือเมซั่นตอบเรื่องที่ได้รับคำยังเรือใบ ได้สั่งพระองค์สายให้ทำถนนจะให้เงินปีละ ๑๐๐ ชั่ง พระยาไชยสุรินทรเอาบาญแผนกตั้งอากรสุราบ่อนเบี้ยมาสองราย แต่รายหนึ่งนั้นจีนเขียวจะขอทำ ๓ ปี ได้ยอมให้ทำทั้งสองราย กับได้สั่งมะนาวด้วย ออกขุนนางพระยาศรีเอาร่างศุภอักษรไปเมืองเชียงใหม่เรื่องความหม่องไป๊มาให้ดู ได้ขอไว้ดูก่อน พระอิศราเอาหัวนกหงินมาให้ ๔ หัว กับปูกาไหล่ ๑๒ ตัว กับได้จดหมายส่งหนังสือท่านภูธราภัยเรื่องเงินค้างไปถวายสมเด็จกรมพระฉะบับหนึ่ง ได้สั่งพระยารองเมืองให้วัดที่วัดเกาะ และทำแผนที่ๆ บ้านในคลองผดุง และเรื่องถนน ได้ให้สัญญาบัตรพระอรัญประเทศ วันนี้เปลี่ยนพระยาภาษเอาดุมมุกด์และดุมเลวมาให้หลายสิบสำรับ พระยาภาษเอาหนังสือฝรั่งที่มีมามาอ่านให้ฟัง กับหมอคีนจดหมายตอบขอบใจและจะขอม้าที่ให้ กับให้รูปตัวและลูกมาด้วย กับได้สั่งเงินซื้อของ ๔ ราย สั่งฎีกาใหญ่ ๔ ฉะบับ พระยามหามนตรีส่งคำให้การหม่อมเจ้าเทโพขุนภูเบนทรนุรักษ์ รายความที่ข่มขืนภรรยานายวัด ได้ส่งให้ลูกขุนปรึกษา พวกลาวเมืองละครมารับเงินเบี้ยเลี้ยง

วันพุธขึ้น ๗ ค่ำ เดือน ๕ ปีฉลูยังเป็นอัฐศก จุลศักราช ๑๒๓๘

พระรัตนโกษาเอาจเพ็ชรศรีวิไลยมาส่ง พระนานาเอาพิกัดภาษีถั่วงาปลาทู ได้สั่งให้ตั้งไปตามพิกัดใหม่เป็นหมื่นละบาทตามหนังสือกัญญา พระนายศรียื่นเรื่องราวขอให้จัดการเรือขุดคลองและวิดน้ำเข้านา มิศเตออาลบาศเตอส่งคำแปลหนังสือกงซุลเยรมันและความเห็นของเขา ในเรื่องเด็กที่จะไปเรียนหนังสือเมืองเยรมัน ท่านกรมท่าเอาหนังสือคุณสุรวงศ์ร่างจะให้ตอบกงซุลอังกฤษมาให้ดู เวลาบ่าย ๔ โมงกงซุลฝรั่งเศสมาหา พูดด้วยเรื่องเตลิกราฟว่าจะขอให้ทำไปทางเมืองเขมร พระยาศรีอ่านบอกเมืองพิจิตรเรื่องโคกระบือซึ่งมาต่างเมืองไม่มีหนังสือสำหรับตัวกรมการจับไว้ ได้ส่งให้เอาความส่งไปให้ที่คุณสุรวงศ์ รวมเข้ากับท้องตราที่จะมีประกาศหัวเมือง ซึ่งได้ร่างไว้เมื่อคราวความนายพลอยนายแจ่มถูกจับกระบือที่ทุ่งแสนแสบ เวลาค่ำท่านกรมท่าส่งสำเนาหนังสือถึงมิศนอกซ์ ซึ่งท่านกรมท่าร่างว่าจะตอบ ๒ ฉะบับ ในค่ำวันนี้ได้ร่างหนังสือตามที่ท่านกรมท่าขอให้ช่วยร่างใหม่อีกฉะบับหนึ่งแต่คิดยังไม่ออก ได้เรียกพระยาเทพมาปรึกษาด้วยการที่จะให้รีบขึ้นไปเมืองเชียงใหม่ในเดือน ๕ กับได้จดหมายถวายสมเด็จกรมพระด้วยเรื่องลูกหนี้พระยาเทพ ให้กรมนเรศเอาไปกับตั๋วของพระยาเทพด้วย

วันพฤหัสบดี ขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๕ ปีฉลูยังเป็นอัฐศก จุลศักราช ๑๒๓๘

ไปดูเมรุวัดมหาธาตุ พระยาศรีได้นำร่างศุภอักษรไปเชียงใหม่ซึ่งจะให้จ่าผลาญอริพิศถือขึ้นไป ได้แก้ไขแล้วให้ไปให้คุณสุรวงศ์กับท่านกรมท่าดู เวลาเช้าร่างหนังสือที่จะตอบมิศนอกซ์ยาวฉะบับหนึ่งสั้นฉะบับหนึ่งส่งไปให้ท่านกรมท่า พระยาราชเสนามาบอกว่าได้ตัวผู้ร้ายรายแทงกันที่ข้างวัดบุบผารามซึ่งหนีออกไปเมืองปราจิณบุรี พระปรีชากลการส่งเข้ามา ได้สั่งให้มอบตัวที่พระเทพผลู

วันศุกร์ ขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๕ ปีฉลูยังเป็นอัฐศก จุลศักราช ๑๒๓๘

ท่านกรมท่าจดหมายมาว่า ได้เอาหนังสือที่ร่างนั้นไปให้คุณสุรวงศ์ดู เปลี่ยนคำข้างท้ายนิดหนึ่ง แล้วตกลงเป็นเอาฉะบับสั้น จะได้ตอบลงไปในวันนี้ กับได้จดหมายถึงท่านกรมท่าฉะบับหนึ่ง ด้วยเรื่องอาลบาศเตอไปเซอเวตามทะเล และขอให้ส่งอัฐออกไปตามหัวเมือง คุณสุรวงศ์จดหมายมาว่า ศุภอักษรที่จะให้จ่าผลาญอริพิศถือไปนั้น ขอให้แก้เป็นหนังสือท่านภูธราภัย คัดสำเนาศุภอักษรและคอเรศปอนเดนส่งขึ้นไป กับร่างศุภอักษรตามความเห็นส่งมาด้วยฉะบับหนึ่ง ได้เรียกพระยาศรีมา สั่งให้ทำหนังสือท่านภูธราภัย แต่ที่จะคัดศุภอักษรขึ้นไปนั้นไม่เห็นด้วย เวลาค่ำพระยาศรีร่างหนังสือท่านภูธราภัยมาให้ดู ไม่ชอบใจเขียนร่างเค้าความให้ไปทำใหม่ มิศเตออาลบาศเตอเขียนหนังสือขอเป็นเอเยนเมซัน ได้สั่งราชามาตย์ให้ไปเตือนความหลวงศิลที่พระยาราชรองเมือง พระยาวิเศษลาให้โต๊ะทองเลื่อนยศ กับพระสนามไชยเขตต์เจ้าเมืองตั้งใหม่ที่บ้านพระงาม เป็นเมืองขึ้นเมืองฉะเชิงเทรา ให้ถาดหมากคนโทเงิน สั่งเงินให้ท่านเล็กทำบ้าน ๓๐๐ ชั่ง ได้จดหมายถึงสมเด็จเจ้าพระยา บอกเรื่องกงซุลฝรั่งเศสมาพูดเรื่องเตลิกราฟ

วันเสาร์ ขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๕ ปีฉลูยังเป็นอัฐศก จุลศักราช ๑๒๓๘

เวลาบ่าย ๓ โมง ท่านภูธราภัย พระยาศรี พระยาเจริญเข้ามาก่อน พระยาศรีเอาร่างหนังสือท่านภูธราภัยมาให้ดูแก้ไขอีกนิดหน่อยเป็นใช้ได้ แล้วอ่านบอกหลวงศักดิ์เสนีจับพวกนักองค์วัดถาได้ ๘ คนส่งเข้ามากรุงเทพฯ พระยาเจริญยื่นบาญชีหลวงศักดิ์เสนีตามที่พวกเจ้าเมืองกรมการหัวเมืองร้องว่า จมื่นทิพเสนาไปลงเอาช้างม้าโคกระบือเป็นอันมาก ได้สั่งให้มีตราไปถึงหลวงศักดิ์เสนีให้ส่งตัวโจทย์เข้ามารายละคน แล้วให้เร่งหาตัวทิพเสนาเข้าในกรุงเทพโดยเร็ว พอคุณสุรวงศ์ท่านกรมท่ามาพร้อมกัน ได้ให้ดูสำเนาหนังสือท่านภูธราภัยที่ร่าง เห็นชอบทั้งสองคน แล้วให้ไปเชิญสมเด็จกรมพระมาพร้อมกันทั้ง ๔ ปรึกษาเรื่องที่จะจัดศาลหลวงชำระความ ตกลงเป็นให้ปรึกษาเคานซิลและทำกฎหมาย กับได้ปรึกษาเรื่องเตลิกราฟที่กงซุลฝรั่งเศสมาพูดด้วย แต่ยังไม่มีใครพูดว่ากระไร ๕ โมงเลิก ออกขุนนางพระนรินทรเอาหนังสือสมเด็จเจ้าพระยามีมาถึงคุณสุรวงศ์ ว่าศุภอักษรเชียงใหม่นั้น ถ้าให้พระยาเทพประชุนถือไปเอง เจ้าเชียงใหม่ไม่ยอมจะมิเสียคมเสียคายไปทั้งสองฝ่ายหรือ ให้ส่งขึ้นไปเสียก่อน ฟังดูเห็นจะดีกว่า ได้จดหมายไปถึงคุณสุรวงศ์ว่า เห็นว่าความคิดเดิมนั้นดีอยู่แล้ว เสียคมคายนั้นเป็นธรรมดาอยู่เอง พระยาราชรองเมืองเอาแผนที่ตึกวัดเกาะมาให้ดู กับบอกเรื่องหลวงศิล

วันอาทิตย์ ขึ้น ๑๑ ค่ำ เดือน ๕ ปีฉลูยังเป็นอัฐศก จุลศักราช ๑๒๓๘

คุณสุรวงศ์จดหมายว่า เห็นชอบในเรื่องที่จะมีศุภอักษรไปเชียงใหม่ตามความคิดเดิม ตั้งอากรสุรา ๖ ราย ภาษีน้ำตาลรายหนึ่ง พระยาเจริญ พระยาอภัยรณฤทธิ์มาหา ได้พูดด้วยเรื่องที่ปรึกษากับเสนาบดีเนื่อวานนี้ ออกขุนนางพระยาศรีอ่านบอกพระยามหาอำมาตย์ส่งส่วย ได้รับหนังสือพระยามหาอำมาตย์ ๔ ฉะบับ พระนรินทรอ่านบอกพระนายไวยว่าได้ส่งตรา ๒ ฉะบับที่เมืองชุมพรแล้วไปเมืองสงขลา ถึงวันขึ้น ๒ ค่ำได้วางตราเมืองสงขลาและตราเมืองลคร แล้วให้หลวงโกชาอิสหากถือตราไปวางเมืองไซร ปลิด สตูน ก่อน พระนายไวยจะได้ออกเดินวัน ๘ ค่ำ ๙ ค่ำ พระยาพิพัฒน์อ่านบอกเมืองพนัศนิคม ว่ามีต้องซู่กับลาวคุมกระบือลงมาจากเมืองลาวและเมืองขึ้นโคราช ไม่มีตั๋วพิมพ์รูปพรรณโคกระบือตามพระราชบัญญัติ มีแต่หนังสือเดินทางกับตั๋วพิมพ์มาแต่เมืองนางรองฉะบับหนึ่ง ได้สั่งให้พระยาศรีมีตราต่อว่าเมืองโคราช และให้ข้าหลวงขึ้นไปชี้แจงให้เข้าใจในพระราชบัญญัติ ให้พระยาพิพัฒน์มีตราตอบออกไป ว่าต้องซู่ที่คุมโคกระมือออกมานั้น ให้เจ้าเมืองกรมการทำรูปพรรณโคกระบือเสียแล้วให้ปล่อยไปโดยเร็ว ถ้าจะซื้อขายก็ให้ซื้อขายกันตามพระราชบัญญัติใหม่ พระยาพิพัฒน์บอกว่าท่านกรมท่าจะเอาอัฐออกไปเมืองตะวันออก ขอเรือไฟ สั่งพระนรินทรให้เอาเรือภิรมยให้ไป

วันจันทร์ ขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๕ ปีฉลูยังเป็นอัฐศก จุลศักราช ๑๒๓๘

ได้รับหนังสือคุณสุรวงศ์ฉะบับหนึ่ง ส่งสำเนาท้องตราที่จะมีประกาศหัวเมืองชั้นนอกฉะบับหนึ่ง ชั้นในฉะบับหนึ่ง เรื่องโคกระบือมาให้ดู กับได้รับหนังสือสมเด็จเจ้าพระยามาแต่เมืองราชบุรีตอบด้วยเรื่องเตลิกราฟ ที่กงซุลฝรั่งเศสมาพูดวันนี้สมุดไว้หนังสือรับต่าง ๆ เต็มเล่ม พระยาศรีกับพระนรินทรมา แก้ตราประกาศโคกระบือที่คุณสุรวงศ์ส่งมาทั้งสองฉะบับ กับอ่านร่างตราตอบหลวงศักดิ์เสนีและถึงพระปรีชาพระนรินทร อ่านร่างตราตอบเจ้าหมื่นไวยและส่งคำหลวง สโมสรขอศพพระยานครเขื่อนขันธ์ขึ้นมาเผากรุงเทพฯ ได้อนุญาตแล้ว ให้พระนรินทรมีตรา หลวงอังคนิศรส่งบาญชีกงษีพระศุรศักดิ์ ออกขุนนาง

วันอังคาร ขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือน ๕ ปีฉลูยังเป็นอัฐศก จุลศักราช ๑๒๓๘

ไปดูการที่เมรุวัดมหาธาตุ เวลาออกขุนนางหลวงอำนาจสุรเสนยื่นเรื่องราวว่ามีผู้ร้ายล้วงเรือลักสิ่งของมารดาไปเป็นราคาประมาณ ๒๐ ชั่ง ได้สั่งให้พระอินทรเทพสืบเสาะดูแล้ว ผู้ร้ายล้วงเรือชุมนั้นให้พระอินทรเทพคิดสอดแนมจับให้จงได้ ได้ส่งจดหมายให้หลวงอำนาจไปให้พระอินทรเทพ กับได้สั่งพระวุฒิการให้บอกพระวัดสุวรรณว่าจะรื้อกุฎิร้างไปทำอะไรเสียก็ตามเถิด

วันพุธ ขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๕ ปีฉลูยังเป็นอัฐศก จุลศักราช ๑๒๓๘

เวลาบ่ายออกอมรินทร ราชบุตรท้าวอินโฉมเมืองพวน เจ้าง่าวท้าวกำพันเมืองหลวงพระบางลากลับไป ได้ให้เงินราชบุตรท้าวอินโฉมคนละ ๑ ชั่ง เจ้าง่าวท้าวกำพันคนละ ๑๐ ตำลึง กับตั้งราชบุตรเมืองนครลำปาง ตั้งพระเถินพระราชบุตรราชวงศ์บุรีรัตน

วันพฤหัสบดี ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๕ ปีฉลูยังเป็นอัฐศก จุลศักราช ๑๒๓๘

เวลาเย็นไปวัดมหาธาตุแล้วมาปิดทองพระ มิศเตออาลบาศเตอจดหมายมายืมเงิน ๕๐๐ ชั่ง ได้ให้ท้าวภัณฑสารนุรักษ์เอาเงินพระคลังข้างที่ไปถวายสมเด็จกรมพระแจกคนทำงานที่เมรุวัดมหาธาตุ ๑๐ ชั่ง พระยาอนุรักษ์เอาโอ่งต้นไม้มาให้ช่วยในการศพ ๘ ต้น เรือ ๘ ลำ

วันศุกร์ แรม ๑ ค่ำ เดือน ๕ ปีฉลูยังเป็นอัฐศก จุลศักราช ๑๒๓๘

พระอินทรเทพ หลวงนริศรจดหมายคำให้การอ้ายผู้ร้ายล้วงเรือ ๒ คนมาให้ดู ได้ให้รางวัลซองป๊อกเกตบุกมีรูปหลวงนริศรซองหนึ่ง พระเทพผลูจดหมายมาว่า มีผู้ร้ายเผากุฏิวัดสุวรรณอีก ได้จดหมายมอบให้ท่านกลางคิดปราบปรามให้สงบจงได้ กับได้จดหมายสั่งให้พระยาราชรองเมืองพระมหาเทพ พระอินทรเทพ พระเทพผลู หลวงนริศรช่วยกันจับผู้ร้ายย่องเบาล้วงเรือในแม่น้ำ ไปเมรุวัดมหาธาตุที่สนามหญ้า พระยาศรีพาพระยาอ่างทองพระยาอุไทย พระผู้ช่วยเมืองนครนายกเอาของมาช่วยในการศพ พระนรินทรอ่านบอกเมืองพัทลุงส่งต้นไม้เงินทองบรรณาการค่านา ผูกปี้ต่างๆ ตามธรรมเนียม ไปเมรุกลับมาทุ่มหนึ่ง ให้ท้าวภัณฑสารนุรักษ์เอาเงินไปถวายสมเด็จกรมพระเติมอีก ๕ ชั่ง เป็นเก่าใหม่ ๑๕ ชั่ง

วันเสาร์ แรม ๒ ค่ำ เดือน ๕ ปีฉลูยังเป็นอัฐศก จุลศักราช ๑๒๓๘

เวลาเช้า ๔ โมงไปที่วัดมหาธาตุชักศพถูกชายนภางนิพัทธพงศ เจ้านายท่านเสนาบดีมาพร้อมกัน แห่ศพทางตั้งกระบวนหน้าหอกลองมาเลี้ยวป้อมเผด็จดัษกร แล้วเลี้ยวลงถนนหน้าวัดมหาธาตุไปตามหน้าพลับพลา ลงจากรถที่ประตูเจ้าใหม่หว่างศาลาเหนือประตูวัด เจ้าพระอรุณอ่านหนังสือหน้าศพขึ้นสามคานมาเวียนเมรุ เจ้านายผู้หญิงมานั่งดูที่พลับพลาทรงธรรม ขึ้นที่แล้วบังสกุล แล้วแจกดุมผ้าพัดแก่เจ้านายและท่านเสนาบดี ข้าราชการนั้นดุมกับพัด ผู้หญิงแหวนกระกับพัด แล้วกลับเข้าวัง เวลาบ่าย ๔ โมงออกไปทิ้งฉลากราษฎรแล้วทิ้งทานใหญ่ อนึ่งพอแห่ศพไปแล้ว ได้แห่พระสำหรับวันของลูก ๒ คน กับอัฐิลูกชายอิศรวงศ์ออกไปด้วย เวลาบ่ายทิ้งทานทั้งข้างหน้าข้างใน แล้วมีกระบี่คู่หนึ่งมวยคู่หนึ่ง ค่ำจุดดอกไม้ มีดอกไม้กลพระด้วย จุดดอกไม้แล้วมีเทศน์กัณฑ์หนึ่ง พระสาสนโสภณเทศน์สังคิณี พระพิธีธรรมสวดสังคิณีเป็นธรรมนองสหัสสมัย ๔ รูป แล้วบังสกุลกระดูกและบังสกุลศพในเมรุ วันนี้กินเข้าที่วัดเมื่อเวลายามหนึ่ง แล้วไปบังสกุลที่ในเมรุและที่พลับพลาแล้วกลับเข้ามาในวังเวลา ๔ ทุ่ม วันนี้เวลาเช้าถวายซองเพ็ชรสมเด็จกรมพระเป็นรางวัลซองหนึ่ง เวลาค่ำแจกของเป็นรางวัลตำรวจ แต่ช่างยังไม่ได้แจก เจ้าคุณสุรวงศ์ไม่ได้มา เย็นจึงมา ได้หามาพูดที่พลับพลาทรงธรรมเวลาค่ำด้วย

วันอาทิตย์ แรม ๓ ค่ำ เดือน ๕ ปีฉลูยังเป็นอัฐศก จุลศักราช ๑๒๓๘

เวลาบ่าย ๒ โมง ออกไปที่เมรุทิ้งทานราษฎร แล้วแจกฉลากและของต่าง ๆ มีเทศนากัณฑ์หนึ่ง พระธรรมไตรโลกเทศน์กถาวัตถุกัณฑ์หนึ่ง บ่าย ๔ โมงเศษทิ้งทานแล้วมีง้าวคู่หนึ่งมวย ๒ คู่ จุดดอกไม้แล้วแจกของช่าง แล้วมีเทศน์กัณฑ์หนึ่ง พระพรหมมุนีเทศน์ พระสวด ๔ รูป แล้วบังสกุลที่พลับพลาและในเมรุวันนี้กลับมายามหนึ่งกินเข้าที่ในวัง มูเลอกับที่ ๒ กงซุลอเมริกันมา ได้ให้เงินเถาคนละเถา วันนี้เป็นวันมิศนอกซมอบตึกอับดุลเซนให้เป็นสิทธิตามหนังสือสัญญา

วันจันทร์ แรม ๔ ค่ำ เดือน ๔ ปีฉลูยังเป็นอัฐศก จุลศักราช ๑๒๓๘

เวลาบ่าย ๒ โมง ออกไปที่เมรุทิ้งทานราษฎร แล้วแจกฉลากข้างหน้า ข้างในมีเทศน์กัณฑ์หนึ่ง พระธรรมเจดีย์เทศน์แล้วให้ท่านกลางบังสกุลศพ ยกศพขึ้นที่แล้วไปบังสกุลในเมรุแล้วเผาศพ มายืนดูอยู่ที่พลับพลาหน่อยหนึ่งจึงทิ้งทาน มีดาบสองมือกับมวยสองคู่ ฝรั่งมามาก มีเยนตลิแมนไป้มาคนหนึ่งกับแฟนซีลูกมิศนอกซมาด้วย ได้แจกฉลาก แล้วได้สั่งพระยาราชโยธาให้ช่วยระวังผู้ร้ายล้วงเรือในคลองบางกอกน้อย แล้วมีเทศนาอีกกัณฑ์หนึ่ง พระเทพกระวีเทศน์ พระพิธีธรรมวัดมหาธาตุสวด ให้รางวัลองค์ละ ๖ บาท ให้รางวัลพระทิมครู ๕ ตำลึง กินเข้าแล้วบังสกุลอัฐิแล้วไปบังสกุลในเมรุ แล้วแจกเงินภูษามาลาและสนม พระยาราชโกษา ๓ ตำลึง เป็นอย่างสูง แล้วมีฉลากกลางคืนเติมอีก ๑๐๐ ด้วย วันนี้ได้เขียนหนังสือไปถึงเกาวนาเยนราลนิเทอแลนด์อินเดียฉะบับหนึ่ง ขอบใจเรื่องที่ส่งรูปเขียนมาให้ และขอให้จัดการกงซุลที่ในกรุงให้เรียบร้อยด้วย

วันอังคาร แรม ๕ ค่ำ เดือน ๕ ปีฉลูยังเป็นอัฐศก จุลศักราช ๑๒๓๘

เวลาเช้า ๒ โมง ไปที่เมรุวัดมหาธาตุ หยุดที่พลับพลาจนเวียนสามหาบแล้วเก็บกระดูกเสร็จแล้วเลี้ยงพระ แล้วมาที่พลับพลามีเทศน์กัณฑ์หนึ่ง พระอริยมุนีเทศน์ มีพระสงฆ์สวด ๔ รูป แล้วไปบังสกุลในเมรุ เที่ยงกลับเข้าวัง บ่ายสามโมงออกไปทิ้งฉลากราษฎร แล้วแจกของขุนนางและคนที่ช่วยของแล้วทิ้งทาน มีกระบองคู่หนึ่งมวยสองคู่ จุดดอกไม้แล้วมีเทศนากัณฑ์หนึ่ง พระโพธวงศ์เทศน์ มีพระสวด วันนี้วังหน้าไม่ได้มา แล้วไปบังสกุลในเมรุ มีฉลากกลางคืน และ ฉลากต้นไม้พระยารักษ์กับเครื่องประดับต้นไม้ของท่านกลางอีก ๒๐๐กลับเวลา ๔ ทุ่ม เป็นเสร็จงาน

วันพุธ แรม ๖ ค่ำ เดือน ๕ ปีฉลูยังเป็นอัฐศก จุลศักราช ๑๒๓๘

เวลาบ่าย ท่านภูธราภัยนำหนังสือบอกพระศรีเสนาเมืองพิไชยฉะบับ ๑ กับพระสุริยภักดี พระยาพิไชยบอกมาแต่เมืองหลวงพระบางฉะบับ ๑ บอกพระศรีเสนาว่าพระสุริยภักดีมีหนังสือ มาฉะบับ ๑ ว่าจะเลิกทัพกลับมา ได้จัดสะเบียงอาหารไปคอยรับที่กลางทาง ครั้นภายหลังได้หนังสือว่ายังไม่กลับมาให้เร่งส่งสะเบียงอาหารขึ้นไปนั้น พระศรีเสนาเห็นว่ากำลังที่เมืองพิไชยมีน้อยขอให้มีตราไปเกณฑ์เมืองน่านแพร่มาช่วย หนังสือพระสุริยภักดีว่าได้รับหนังสือท้าวขันติเจ้าเมืองพวนว่าได้มีหนังสือไปหาตัวท้าวยะถึง ๒ ครั้ง ๓ ครั้งท้าวยะไม่มา ตั้งอยู่กับองกวานภูญวน ๔ คน และมีต่อมาว่า ห้อมาตั้งอยู่ปลายแดน ๓๐๐ คน พวกเจียนต่างๆ ได้คุมคนไปต่อสู้แตกกลับมานั้น พระสุริยภักดีได้แต่งให้พระศรีสมารัง เจ้าเมืองศรีสำโรง เป็นนายกองคุมไพร่เป็นคน ๓๐๐ ไปเมืองพวนเป็นกระบวนทัพ กับว่าข่าที่กำเริบนั้นยังปราบปรามไม่สงบ ได้จัดกองทัพขึ้นไปแล้วกับว่าสะเบียงอาหารขัดสนขอให้ส่งขึ้นไป และขอเงินค่าจ้างจับครัว ๑๖ ชั่งเศษ ได้สั่งท่านภูให้มีตราไปเมืองน่านแพร่ และให้ส่งขึ้นไปให้ในกองทัพ ๓๐ ชั่ง และสั่งท่านภูให้สักเลขโรงจักร์ทำทองเมืองกระบินด้วย กับในหนังสือพระสุริยภักดีนั้นว่า หนังสือที่มีไปถึงญวนนั้น เจ้าเมืองตินเงได้รับแล้วส่งลงไปเมืองเว้ ออกขุนนาง พระยาศรีอ่านบอกเมืองพระตบอง เมืองเสียมราฐว่าได้ข่าวมาแต่เมืองเขมรว่า นโรดมยกไปรบวัดถาที่กระบัดสอ ได้พบกับฝรั่งเศสที่เมืองโรงตำรีด้วย ทหารฝรั่งเศสไปด้วยมาก แยกกองทัพเป็นหลายกอง คืออุปราชกองหนึ่ง ศรีวงกองหนึ่ง กระลาโหมกองหนึ่ง นโรดมกองหนึ่ง เข้าล้อมยิงพวกวัดถาที่เมืองบาพนม วัดถาถอยกองทัพไป พระเทพผลู พระวุฒิการ บอกด้วยเรื่องพระถูกทำร้ายตายที่วัดราชโอรส ได้สั่งให้ท่านกรมท่านัดกงซุลเยรมันมาหาพรุ่งนี้หรือมรืนนี้ ได้สั่งพระยามหามนตรีให้จัดคนเฝ้าโรงครัวที่เมรุวัดมหาธาตุ

วันพฤหัสบดี แรม ๗ ค่ำ เดือน ๕ ปีฉลูยังเป็นอัฐศก จุลศักราช ๑๒๓๘

พระยาราชโยธามาบอกว่า ได้จัดการรักษาที่คลองบางกอกน้อย ตั้งแต่วัดทองไปถึงวัดไก่เตี้ยนั้น เป็นหน้าที่พระยาราชโยธา ตอนปากคลองและโรงเหล้าบางยี่ขันนั้นเป็นของพระศรีพิทักษ์ พระยาประจักษวรวิไสย หลวงวไรคงคาอีกคนหนึ่ง ซึ่งวังหน้ามอบให้เป็นเจ้าของ พระยาเทพประชุน พระยามหามนตรีมาหาด้วย ท่านกรมท่าจดหมายมาว่ากงซุลเยรมันมาวันนี้ แล้วกงซุลออศเตรียจะนำราชสาสนกับรูปเอกซหิบิเชนมาให้ ต่อไปกงซุลอเมริกันจะพาที่ ๒ มาหา กับส่งสำเนาหนังสือมีไปมากับกงซุลวิลันดา เรื่องอ้ายน้อยแหมาให้ดูว่าจะขอฟ้องกงซุลวิลันดาไปที่ฟอเรนออฟฟิศทีเดียว ร่างหนังสือมาให้ดูด้วย ได้ตอบไปว่าสงสัยอยู่ที่ข้อว่าอ้ายน้อยแหเป็นลูกจ้างนั้นจะเป็นแต่รับซื้อเชื่อกันดอกกระมัง แล้วได้รับอีกฉะบับหนึ่ง ว่ากงซุลเยรมันจะมาต่อพรุ่งนี้ อาลบาศเตอก็จดหมายมาเหมือนกัน พระยาศรเอาร่างศุภอักษรที่พระยาเทพประชุนจะขึ้นไปเมืองเชียงใหม่มาให้ดู ได้สั่งให้พระยาศรีเอาไปให้คุณสุรวงศ์ดู พระนรินทรอ่านบอกเมืองระนองว่า ได้ตรวจคนที่จีนฆ่าตาย ๒๕ คนเผาเรือนราษฎร ๖๒ หลัง เรือนวัด ๒ วัด พระยาชุมพรได้จัดคนเมืองชุมพรเมืองหลังสวนเมืองประทิวเมืองท่าแซะเมืองตะโกไปช่วยเป็นคน ๑๑๔๗ คน พวกจีนที่ทำผิดหนีไปต่างเมืองบ้าง ที่ยังคงอยู่ราษฎรมาร้อง ได้จับตัวจีนมาไว้บ้างแล้ว กับร่างตราตอบไปถึงพระยาระนองฉะบับหนึ่ง พระนายเสมอใจ พระนายไวยฉะบับ ๑ ให้คิดจัดการปราบปรามให้เรียบร้อย ควรจะเอาคนที่เป็นหัวหน้าทำโทษก็ให้ทำเสีย แต่พวกปลายเหตุนั้นให้ภาคทัณฑ์ไว้ เจ้าพระยาภาณุวงศ์จดหมายตอบว่าการที่ยกความเรื่องน้อยแหนั้น ประสงค์แต่จะยกข้อร่มธงขึ้นว่า ได้ตอบไปว่าควรจะว่าให้ตลอด เจ้าพระยามหินทรเอาความเห็นที่จัดการความมาให้กับพระยาอภัยรณฤทธิ์ด้วยฉะบับหนึ่ง ในฉะบับเจ้าพระยามหินทรลงชื่อพระยาธรรมจรัน ๑ พระยาราช ๑ ในฉะบับพระยาอภัยรณฤทธิ์นั้นลงชื่อพระยากลาโหมด้วย เจ้าปฤษฎางค์เอาเกือกสำหรับเสด็จมาให้ ๒ คู่ กับหลวงนายเดชเอาความมรดกมาให้ดูเรื่องหนึ่ง

วันศุกร์ แรม ๘ ค่ำ เดือน ๕ ปีฉลูยังเป็นอัฐศก จุลศักราช ๑๒๓๘

ได้รับหนังสือท่านกรมท่าเอามาด้วย เป็นสำเนาหนังสือไปมากับกงซุลวิลันดา ด้วยเรื่องคนจีนสับเยกไทยซื้อหนังสือกงซุลวิลันดามาที่ศาลพระยาโชฎึก หนังสือที่มีมานั้น ๓ ฉะบับ ๆ ที่ ๑ กงซุลมีมาว่า ได้ให้สิเกรตรีมาหาท่านกรมท่า ท่านกรมท่าทำนอนหลับเสียไม่ออกมารับนั้นเป็นการดูถูก ขอให้ส่งไปโดยเร็ว ฉะบับที่ ๒ ท่านกรมท่าตอบว่าจีนคนนี้ตัวมันเป็นสับเยกไทยแท้ ได้ไปซื้อหนังสือที่กงซุลเป็นเงิน ๑๑๐ บาท อนึ่งการที่ไม่รับนั้นเพราะเป็นวันพระและไม่รู้จักกับสิเกรตรีคนนี้ จะว่าใครดูถูกใคร ฉะบับที่ ๓ กงซุลตอบมาจะให้ส่งตัวจีนนั้นให้ได้ ถ้าไม่ส่งจะเรียกเรือรบจะให้ไทยเสียเงินค่าโสหุ้ยในเรือนั้นด้วย ท่านกรมท่าไม่ตอบ ส่งฟ้องไปที่คอเวอนแมนต์ทีเดียว กงซุลเยรมันมาหาพูดด้วยเรื่องการที่จะส่งเด็กไปเรียนหนังสือ ได้สั่งให้ท่านเล็กปรึกษากับนายโรงสกูล คุณสุรวงศ์ส่งบอกเสมอใจมาว่า การที่เกิดขึ้นที่เมืองภูเก็ตนั้นด้วยโปลิศไปวิวาทกับจีนในถนน ครั้นเสมอใจทราบให้จับจีนมาไว้ ๒ คน พวกจีนกำเริบขึ้น พระยาภูเก็ตขอให้ปล่อยจีนไป พระนายเสมอใจยอมแล้วจีนยังไม่สงบ เสมอใจได้เรียกเอาจีนหัวหน้ามาให้ทำตั๋วห้ามจีนให้สงบลง ก็ค่อยสงบลงได้บ้างแต่ยังไม่เรียบร้อย ได้ขอคนเรือรบขึ้นมา ๑๐๐ หนึ่ง โปลิศ ๑๐๐ กับขอคนเมืองไทรเมืองถลางเมืองพังงา รวมคนถึงพร้อมกันประมาณ ๑๐๐๐ มีเศษ ได้หาตัวจีนหัวหน้ามาให้ทำสัญญาว่า ถ้าจีนคนไรถืออาวุธมาในถนน ให้โปลิศเอาปืนยิงเสียแล้วจะสืบว่าเป็นแซ่ใคร ให้หัวหน้าเสียเงินให้เผาผี กับได้ให้ไปซื้อปัสตันที่เมืองปีนังไม่มี เลบตแนลเกาวนาให้ยืมกอเวอนแมนต์ ๓๐๐๐ กับส่งต้นหนังสือพระยารัตนเศรษฐีมาด้วยเรื่องการที่เกิดขึ้นที่เมืองระนอง ๓ ฉะบับ ได้จดหมายไปถึงคุณสุรวงศ์ตอบที่ได้รับฉะบับหนึ่ง กับคุณสุรวงศ์ร่างหนังสือถึงพระนายไวยกับเสมอใจในการที่มีตราไปฉะบับก่อนนั้นไขความให้ชัด ตอบไปว่าเห็นชอบแล้ว ออกขุนนาง พระนรินทรอ่านบอกพระยาภูเก็ตความคล้ายคลึงกับที่เสมอใจมีมานั้น ได้สั่งให้ตานงคราญพ้นโทษจำคุก กับได้สั่งให้ยกฟ้องสุกกับสินลาฟ้องมรดกพระศิริที่ตาย กับได้ให้รางวัลจมื่นสราภัยทำเรือ เงิน ๓ ชั่ง ซองทองใบหนึ่ง กับให้เงินทำโรงครัวในการศพลูกชายนภางนิพัทธพงศ์ ๗๐ ชั่ง ได้จดหมายขอบใจมิศนอกซด้วยเรื่องที่ตึกอับดุลเซลเป็นการตกลงกัน กับจะขอให้ช่วยในการตึกที่จะซื้อต่อไป ได้ให้นายเบียเจ้าพระยาภาณุวงศ์ถือไป ได้จดหมายถึงพระยาธรรมสารนิติให้สั่งหลวงเทพราชธาดาไปช่วยการในที่ผู้ปรับกว่าพระยาไกรศรีจะหายเจ็บ ให้ราชามาตย์ถือไป กับได้ร่างคำปรึกษาเรื่องความให้ส่งไปตีพิมพ์ กับสั่งให้พระยาภาษร่างหนังสือขอบใจกอลอแนลแอนซันที่ให้ยืมปัสตันมาใช้ที่เมืองภูเก็ต ๓๐๐๐ กรมนเรศเอาเรื่องราวพระยาไชยสงครามมาให้ดู ได้สั่งให้ไปยื่นที่ท่านภูให้ส่งไปที่กงซุลจึงจะชอบ

วันเสาร์ แรม ๙ ค่ำ เดือน ๕ ปี ฉลูยังเป็นอัฐศก จุลศักราช ๑๒๓๘

ได้รับหนังสือคุณสุรวงศ์ให้หลวงพิพิธถือมาเป็นใจความว่า จะขอบใจคอเวอนแมนต์อังกฤษที่ให้ยืมปิสตันใช้ในการเมืองภูเก็ตนั้น ได้จดหมายตอบไปฉะบับหนึ่งว่าจะมีหนังสือไปรเวตไปถึงกอลอแนลแอนซันด้วยอีกฉะบับหนึ่ง แล้วกัปตันลอบตัศ หลวงสโมสร มิศเตอเดวิดซันมาหา กัปตันลอบตัศเอาแผนที่เซอเวทางโคราชมาให้ดู กับรีโปตและบัญชีสินค้า กับตัวอย่างของบางสิ่งที่เมืองโคราชมาให้ดู กับแผนที่ตั้งแต่เมืองนครเข้ามาถึงเมืองชุมพรกับรีโปตด้วยฉะบับหนึ่ง กับเอาเครื่องวัดเรือและสมุดรูปเรื่องดุ๊กออฟเอเดนโปรกมาที่ห้องกงเล่มหนึ่ง ได้ให้เงินไปรางวัล ๕๐๐ เหรียญ กับเดวิดซันเอาบาญชีเครื่องเตลิกราฟ ๒ เครื่องมาให้ดู ได้มอบให้พระโทรเลขไปเบิกเงินให้ มิศเตอร์ริชแมนนำพระราชสาสน์ไปรเวตของแอมเปรอออศเตรียมาให้ ในพระราชสาสน์นั้นว่าได้รับรูปที่ฝากเกานต์ซีลีไปถวายและฝากรูปเอกซิหิบิเชนที่เมืองเวียนามาประทานหีบหนึ่งๆ นั้นหุ้มหนังมีเครื่องประดับ ในนั้นมีรูปถ่ายแผ่นใหญ่ๆ เต็มทีเดียว ได้บอกขอบพระทัยและจะมีพระราชสาสน์ตอบไป ออกขุนนาง นายเปียนำหนังสือตอบมิศนอกซ์ที่เราได้มีขอบใจไปนั้นมาให้ พระยาราชรองเมืองเอาแผนที่ตึกอับดุลเซนหน้าวัดสัมพันธวงศ์มาให้ดู ได้จดหมายถึงมิศนอกซ์อีกฉะบับหนึ่งด้วย รายตึกนั้นมีในหนังสือจำนำว่ามีตึกที่อยู่ ๓ หลัง แต่อับดุลเซนชี้ให้แต่สองหลังกับชานเรือน ที่ครัวไฟสองหลังอยู่ในนั้นก็ว่าไม่ได้จำนำ และตึกแถวยาวก็ไม่ครบ ขอให้พิเคราะห์ดูด้วย การควรจะอย่างไรก็จะยอมตามให้ พระยารองเมืองเอาแผนที่ลงไปปรึกษากับเขาเอง พระยาศรีอ่านร่างตราถึงพระสุริยภักดีตอบว่าให้จัดการในเมืองพวนให้เรียบร้อย และตราถึงพระยาแพร่ให้ช่วยลำเลียงเข้าขึ้นไปส่งกองทัพ และได้สั่งพระยาศรีให้บอกท่านภูธราภัยให้มีหนังสือถึงพระสุริยภักดีเป็นไปรเวต ว่าเมืองพวนนั้นให้คิดการให้ขึ้นเสียทั้งสองฝ่าย สุดแต่อย่าให้เป็นการบาดหมางกับญวนได้ พระเทพผลูจดหมายแจ้งความว่ามีความฆ่ากันตาย หลวงงำเมืองขัดตัวผู้ร้ายไว้ไม่ส่ง ได้จดหมายสั่งให้จมื่นราชามาตย์เกาะตัวหลวงงำเมืองมาเร่งให้ส่งผู้ร้ายจงได้ อนึ่งวันนี้พระยาภาษกรวงศ์ยื่นความเห็นในเรื่องศาลชำระความฉะบับหนึ่ง กับได้จดหมายถึงคุณสุรวงศ์ฉะบับหนึ่งด้วยเรื่องจะฝากลูกไปเรียนหนังสือเมืองเยรมันในรายหลวงด้วย และจะจัดให้เหมือนกับคนทั้งปวงจะยอมหรือไม่ กับจะหาเรือไฟให้กงซุลเยรมนีไปอ่างหินจะมีหรือไม่ อนึ่งวันนี้ได้ร่างหนังสือคำปรึกษาเรื่องที่จะทำเตลิกราฟทางเมืองเขมรด้วย

วันอาทิตย์ แรม ๑๐ ค่ำ เดือน ๕ ปีฉลูยังเป็นอัฐศก จุลศักราช ๑๒๓๘

ได้รับจดหมายคุณสุรวงศ์ฉะบับหนึ่งว่าบุตร ๒ คนที่จะส่งไปเมืองเยรมนีนั้นได้เตรียมอยู่พร้อมแล้ว กับเรือไฟที่กงซุลเยรมันจะไปอ่างศิลานั้น มีเรืออรรคเรศกับเรือภิรมย์ พระยาราชโยธามาบอกว่าได้แต่งคนไปซื้อเรือผู้ร้ายมาได้ลำหนึ่งจะขอจับต้นเจ้าสำนัก ได้จดหมายสั่งไปให้จมื่นราชามาตย์ไปช่วยจับด้วย กับได้จดหมายสั่งพระเทพผลูพระอินทรเทพให้สั่งอำเภอในคลองบางกอกน้อยฟังบังคับบัญชาพระยาราชโยธาที่ชอบด้วยราชการ คำสั่งทั้ง ๒ ฉะบับนี้ได้มอบให้พระยาราชโยธาไป อนึ่งพระยาพิไชยบุรินทรามาหาได้ว่าด้วยเรื่องที่กมลาศยื่นเรื่องราวรายที่บ้านนั้น ได้สั่งให้พระยาพิไชยบุรินทราไปคิดอ่านให้แล้วเสร็จกันตามแต่จะตกลงอย่าให้กมลาศกับมาร้องอีกได้ พระยาพิไชยบุรินทรารับไปว่าจะจัดการให้เสร็จ พระยามหามนตรีนำคำให้การอ้ายสำเภากับพรรคพวกที่ทำเงินแดงมาให้ดู ได้สั่งให้ลงโทษเฆี่ยนอ้ายสำเภา ๙๐ ริบราชบาทว์แล้วสักหน้า ว่าทำเงินแดงแล้วส่งคุก พวกที่เป็นสัตย์และสืบพยานสมนั้นให้เฆี่ยนคนละ ๖๐ ทีสักหน้าส่งคุก แต่พวกต้องซัดสืบความไม่ถึงอีก ๒ คนนั้นให้เรียกประกันทัณฑ์บลไว้ อนึ่งได้ให้มิศเตออาลาบาศเตอประมาณทางตั้งแต่กรุงเทพฯ ไปทางเมืองพัดตะบองถึงทะเลสาปเป็นทางตามแผนที่ ๒๕๐ ไมล์ ถ้าจะประมาณทางคดไปคดมาจะเป็นทางสัก ๒๗๕ ไมล์ถึง ๓๐๐ ไมล์ พระนานานำบาญแผนตั้งภาษีห้ารายมาให้ดู ได้สั่งให้ตั้งผู้รับเงินสูงไปทั้ง ๕ ราย แต่เจ้าภาษีซึ่งทำเงินค้างจำนวนปีชวดจะมารับทำปีฉลูนี้ให้ส่งเงินค้างเก่าเสียให้เสร็จจึงควรให้รับทำไป สมเด็จกรมพระส่งเรื่องราวพระอิศราประมูลเงินอากรค่าน้ำเมืองตะวันตก ๕ เมือง กับจดหมายแจ้งความด้วยเรื่องสุราบ่อนเบี้ย และค่าน้ำเมืองนครศรีธรรมราชด้วย ได้ถามพระนรินทรแจ้งความต้องกัน จึงส่งเรื่องราวคืนสมเด็จกรมพระให้ไปหาตัวพระอิศรากับคนเก่ามาว่ากันไป กรมนเรศนำเรื่องราวพระยาไชยสงครามน้อยวันมายื่น ได้ส่งให้พระยาศรีไปว่า ถ้าจะว่าที่กรุงแล้วได้ก็ให้ว่า ถ้าเห็นจะไม่แล้วก็ให้มอบพระยาเทพประชุนขึ้นไปว่าที่บนทีเดียว กับได้จดหมายให้พระยาภาษไปถวายสมเด็จกรมพระให้ท่านทำตรีศูลจะส่งไปถวายเอมเปรอออสเตรีย เวลาทุ่มหนึ่งไปที่พระมหาปราสาทในการทำบุญเจ็ดวันลูกชายนภางพระสวดมนต์ ๑๐ รูป บังสกุลแล้วสวดมนต์ ออกขุนนางที่ปราสาท สวดมนต์จบแล้วเสด็จที่วัด เทศน์ธรรมจักรกัณฑ์หนึ่ง ฐานาสวดธรรมจักร ๔ รูปแล้วบังสกุลผ้าขาวพับ ๒๐ พับ เทศน์จบแล้วไปจุดดอกไม้เพลิงที่อาภรณ์พิโมกข แล้วกลับมา ๔ ทุ่มเศษ

วันจันทร์ แรม ๑๑ ค่ำ เดือน ๕ ปีฉลูยังเป็นอัฐศก จุลศักราช ๑๒๓๘

เวลาเช้า ๔ โมงไปเลี้ยงพระที่ปราสาท ถวายบริกขารเล็กน้อยแล้วบังสกุล ฉลาก ๒๐๐ เงินเฟื้อง ๑๐๐ มาติกา แล้วทิ้งทานที่มุขเด็จแล้วกลับไปทิ้งข้างในที่พิมานยาและที่เจ้านายในมุขใต้ แล้วกลับไปพระที่นั่ง คุณแพบอกว่าเจ้าคุณกลับมาแต่ราชบุรีแล้ว พระยาราชโยธามาบอกว่า ได้พร้อมกับจมื่นราชามาตย์ไปจับเจ้าที่และผู้อาศรัยที่แพ และบ้านผู้รับเรือผู้ร้าย ถามดูรับเป็นสัตย์แล้วบางคน ได้เรือใหญ่น้อยที่แปลงแล้วบ้างยังบ้างถึง ๓๐ ลำเศษ ได้ของทองเหลืองต่างๆ หลายสิบสิ่ง คน ๕ คน ทั้งตัวเจ้าของบ้านอีกคนหนึ่ง จะขอมาชำระที่ในวังและได้จดหมายสั่งให้พระยามหามนตรีรับเรือนั้นไว้ไนโรงที่บางกอกน้อย แล้วให้พระยาราชโยธาร่างหมายประกาศไปลงพิมพ์ว่า เรือของราษฎรผู้ใดให้มาบอกจะคืนให้ไป กับสายนาฬิกามีล๊อกเกตตราห้อยห้วยสายหนึ่งเป็นรางวัล กับได้สั่งเงิน ๓ ฉะบับ เวลาบ่าย ๕ โมงได้ออกขุนนางที่พระที่นั่งอมรินทร เจ้าบุรีรัตน พระยาวังซ้าย นายน้อยบุญเลิศ และพวกเมืองนครลำปาง ที่คุมต้นไม้ทองเงินลงมาลากลับไปเมือง พระยาศรีบอกว่า พระยาไชยสงครามยอมว่าถ้านายน้อยบุญเลิศสาบาลได้ว่าไม้ที่เอาลงมานี้มิใช่ไม้ของพระยาไชยสงครามแล้วจะยอมให้ความเป็นแล้วกัน ได้สั่งให้ท่านภูไปเปรียบเทียบดู ได้ให้สัญญาบัตรตั้งพระรัตนโกษาเป็นพระยารัตนโกษาถือศักดินา ๑๐๐๐ นายชื่นบุตรพระนานาเป็นหลวงสวัสดิโกษา และเจ้าเมืองเลยกับปลดเพ็ชบูรณ์ นายโชตบุตรพระยาไชยวิชิต เป็นนายรองเสน่ห์ ค่ำออกที่ปราสาท พระยารองเมืองมาหาแจ้งความว่าได้ลงไปที่มิศเตอร์นอกซ์ เขาว่าที่ตึกและครัวชานนั้นให้เป็นสิทธิแก่เรา แต่ขอผัดให้อับดุลเซนอยู่ในที่นั้น ๖ เดือนก่อน จะเอาค่าเช่าเท่าไรก็ตาม แต่เมื่ออับดุลเซนจะออกจากที่นี้ไปขอให้เราให้เงินเสียเล็กน้อย จดหมายตอบนั้นผู้ที่เอามาส่งไขว้ไปอยู่ที่กรมท่า ได้ให้นายพิจารณไปตาม แล้วมีเทศน์หม่อมเจ้าพระประภากรเทศน์อนัตตลักขณะ เจ้าพระธรรมุณหิศนำฐานาสวด ๔ รูป แล้วบังสกุลผ้าขาวพับ ๒๐ ราชาคณะนำ ๑ ได้รับหนังสือมิศเตอร์นอกซ์ด้วยเรื่องที่ตึกอับดุลเซนความเหมือนกับที่พระยารองเมืองมาบอก กับพระวุฒิการสืบได้ความเรื่องพระตายที่วัดราชโอรสว่าพระฆ่า จุดดอกไม้แล้วกลับเข้ามา ยามหนึ่งทำหนังสือตอบมิศเตอร์นอกซ์ ความหลายข้อเป็นใจความว่ายอมตามที่มิศนอกซ์ว่า ขอให้ทำหนังสือสำคัญให้เสียให้เป็นเสร็จ ได้จดหมายส่งหนังสือนี้ไปให้พระยารองเมืองไปหามิศนอกซ์พรุ่งนี้ กับได้จดหมายถึงกงซุลเยรมันให้เรือไปอ่างศิลาฉะบับหนึ่ง ถึงคุณสุรวงศ์ให้สั่งเรือฉะบับหนึ่ง ขอบใจแอนซันเรื่องปัสตันฉะบับหนึ่ง กับได้ให้เงินเจ้าพระประภากรเป็นเงินกัณฑ์เทศน์ชั่งหนึ่ง

วันอังคารแรม ๑๒ ค่ำ เดือน ๕ ปีฉลูยังเป็นอัฐศก จุลศักราช ๑๒๓๘

พระอินทรเทพเอาคำให้การอ้ายจันผู้ร้ายลักเรือกับอ้ายคลังอ้ายทองอ้ายอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นผู้ร้ายลักเรือมาให้ดู ได้จดหมายสั่งให้เฆี่ยนคนละ ๕๐ แล้วส่งคุกให้พระพิเรนทรเทพใช้เลื่อยไม้ปีหนึ่งแล้วให้นายมารับตัวไป ถ้านายไม่มารับประกันให้ใช้ต่อไป พระยาเจริญเอาขัดข้องเรื่องกงซุลอังกฤษกงซุลฝรั่งเศส กงซุลโปรตุเกศฟ้องเจ้านารี ๑ เจ้าขาว ๑ เจ้าระเบียบ ๑ เจ้าเมฆิน ๑ เจ้าเป๋า ๑ ว่าเป็นหนี้ตามห้างต่างๆ ได้จดหมายสั่งให้สมเด็จกรมพระหาพี่น้องมาถามดูว่าใครจะยอมใช้หนี้ให้เจ้านารีบ้าง กับเจ้าเป๋านั้นให้สมเด็จเรียกเงินด้วย แต่นอกนั้นให้กรมขุนบดินทรหาตัวไปบังคับให้ใช้เงินจงเสร็จ กับได้สั่งให้กรมพิชิตเรียงฎีกา กงซุลอเมริกันพาไวสกงซุลมาหา ได้พูดถึงการสุราและว่าเปรสิเดนเฮคนใหม่จะส่งรูปหล่อมาให้คู่กับเปรสิเดนแกรนกงซุลจะลาไปสิงคโปร์ พูดกันอยู่เกือบชั่วโมงหนึ่งกลับไป ได้จดหมายถึงคุณสุรวงศ์ฉะบับหนึ่งว่ากงซุลอเมริกันยอมในการที่จะทำหนังสือสัญญาไลเซนและได้รับหนังสือคุณสุรวงศ์ฉะบับหนึ่งส่งร่างตราที่จะมีไปถึงพระนายเสมอใจและพระนายไวยฉะบับหนึ่ง มีคำสมเด็จเจ้าพระยามาข้างท้ายด้วย ได้จดหมายตอบไปว่าการที่จะให้ออกเงินให้กับผู้ที่ถูกเรือนไหม้นั้นดีแล้ว แต่ให้เป็นการบุญอย่าให้เป็นเพราะกลัว กับควรจะต้องทำโทษเสียให้ได้บ้างด้วย ใกล้เคียงกับฝรั่งมากเขาจะว่าอ่อนบังคับ การหัวเมืองไม่ตลอดเหมือนเรื่องเมืองเชียงใหม่ การจะเป็นเหตุไปภายหน้า ที่สมเด็จเจ้าพระยาท่านว่านั้นก็ดีแต่ควรเป็นหนังสือไปรเวต ออกขุนนาง พระยารองเมืองบอกว่าได้ลงไปหามิศเตอนอกซ์พูดจาดีรับตามหนังสือที่มีลงไปแต่จะขอผัดสักสองสามกันก่อน ได้จดหมายเรื่องความนี้ตั้งแต่ต้นไปให้ท่านกรมท่าขอให้งดไว้อย่าให้พูดต่อไป ได้มอบให้พระไพไป พระยาพิพัฒอ่านบอกเมืองนนท์ว่ามีผู้ร้ายฆ่ากันตายกรมการได้ตัวมาชำระแล้ว กับขอที่วิสุงคามสีมาเมืองสมุทสาครแห่งหนึ่ง

วันพุธแรม ๑๓ ค่ำ เดือน ๕ ปีฉลูยังเป็นอัฐศก จุลศักราช ๑๒๓๘

เวลาเช้า ๓ โมงขนรถไปวัดเทพศิรินทราวาศเลี้ยงพระในการฉลองพระทราย ได้ให้ตรวจพระทรายขาดประมาณ ๒ ส่วนได้ ๓ ส่วน ราชบัณฑิตถวายพระราชกุศลตรวจพระทรายได้ห้าพันเศษ ครั้นให้ตำรวจชักธงมาตรวจดูขาดจากจำนวนตรวจ ๘๐๐ สั่งให้ราชบัณฑิตย์ก่อให้ตามที่โกหกไว้ กลับมาถึงวังก่อนเที่ยงหน่อยหนึ่ง กลางวันไม่ได้ออกขุนนาง ค่ำ ๒ ทุ่มออกไปที่อมรินทร พระสวดมนต์สงน้ำสงกรานต์ ๓๐ แบ่งครึ่งหนึ่ง นั่งพูดกับสมเด็จจนสวดมนต์จบ พูดกับเสด็จ พระพรหมเทพาจารย์ พระปรีชาเฉลิมแล้วกลับมาเวลา ๔ ทุ่ม

รูป์ อนิจฺจ์ รูป์ ทุกฺข์ รูป์ อนตฺตา เวทนา อนิจฺจา เวทนา ทุกฺขา เวทนา อนตฺตา สญฺญา อนิจฺจา สญฺญา ทุกฺขา สญฺญา อนตฺตา สงฺขารา อนิจฺจา สงฺขารา ทุกฺขง สงฺขารา อนตฺตา วิญญาณ์ อนิจฺจ์ วิญฺญาณ์ ทุกฺข์ วิญฺญาณ์ อนตฺตา ตัวเราวันนี้ให้เมื่อยบั้นเอวเจ็บหลัง ง่วงนอนเพราะนอนน้อยและลมกำเริบ เพราะเราเป็นคนมีพยาธิมรณเป็นเที่ยง จึงเป็นดังนี้ พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า ชรามรณโศกปริเทวทุกข์โทมนัสสุปายาศ จะเกิดมีเพราะอวิชชาๆ เป็นปัจจัยของสังขารๆ เป็นปัจจัยของวิญญาณๆ เป็นปัจจัยของนามรูปๆ เป็นปัจจัยของสหายตน ๆ เป็นปัจจัยของผัสส ๆ เป็นปัจจัยของเวทนา ๆ เป็นปัจจัยของตัณหา ๆ เป็นปัจจัยของอุปาทาน ๆ เป็นปัจจัยของภพๆ เป็นปัจจัยของชาติ ๆ เป็นปัจจัยของชรามรณโศกปริเทวทุกข์โทมนัสอุปายาศ พระพุทธเจ้าท่านดับได้ทุกประการ ท่านจึงเป็นผู้ดับพร้อมดับไม่เหลือเป็นนิพพาน แต่เราไม่อาจทำได้ แต่รู้ไว้จำต้องปลดให้เบาบางลงด้วยพระไตรลักษณ จึงจะระงับทุกข์ของเราให้เป็นผู้มีกระวนกระวายอันน้อยได้มรณมฺภวิสฺสติ ชีวิตินฺทฺริย์ อุปฺปชิสฺสติ มรณ์ มรณ์

ได้ให้เงินสุนันทา ๓๐๐๐ เฟื้องช่วยในการศพอุณากรรณ กับได้ให้สุขุมาลย ๒๐๐๐ เฟื้อง ในการศพบุษบง เข้าในการทาน ขอจงเป็นทางเกื้อกุลแก่ความบริสุทธิ์วิเศษของเราซึ่งจะสิ้นทุกข์ทั้งปวงเทอญ อ้ายความเจ็บนี้มันไม่สบายเลยจริง ๆ

วันพฤหัสบดี แรม ๑๔ ค่ำ เดือน ๕ ปีฉลูยังเป็นอัฐศก จุลศักราช ๑๒๓๘

เวลาเช้าตื่นนอนแล้วไม่สู้สบายไม่ได้ไปใส่บาตรสั่งให้เลี้ยงพระเช้าเสียด้วย ๔ โมงเศษออกไปเลี้ยงพระ ถวายไตรแล้วไปสรงน้ำที่หน้าโรงกระษาปณ วันนี้พระคณะกลาง ๓๐ รูป สรงน้ำแล้วมาฉันเพนเข้าแช่ พระไปเวลาเที่ยง กลับมาได้สั่งให้จ่าชำนาญไปบอกพระยาอภัยรณฤทธิ์ให้ส่งหัวอ้ายเผือดสิบยก ซึ่งเป็นพ่อและเป็นประกันสมีเปลี่ยนวัดบางทุนเทียน ที่ฆ่าพระแดงวัดราชโอรสตาย แล้วกรมพิชิตมาหาพูดถึงเรื่องศาลชำระฎีกา เวลาบ่าย ๔ โมงเศษไปวัดพระเชตุพน ได้เสียเงินสำหรับหัวและแทนคนอื่นคนละ ๒ สลึงบ้างสลึงหนึ่งบ้าง แล้วเข้าไปทางประตูพระระเบียงด้านตะวันออกเข้าไปนมัสการพระในพระอุโบสถและพระบรมอัฐแล้วมาที่วิหารพระโลกนาถและวิหารอีก ๓ ทิศออกทางวิหารด้านเหนือไปนมัสการพระเจดีย์ ๔ พระองค์แล้ว ขึ้นไปบนพระเจดีย์ทิ้งทานแล้วออกทางประตูกำแพงแก้วด้านเหนือไปวิหารพระพุทธไสยาศน์ แล้วไปบูชาพระมหาโพธิ์ที่สวนไม้ต่อ เลยไปหน้าหอไตร ไปสวนสระตะเข้ แล้วกลับเข้าประตูกำแพงแก้วตะวันตก มาตามทางโปรยทานบ้าง แล้วมาหยุดที่มุขหลังพระวิหารทิศเหนือทิ้งทาน แล้วเสียเงินช่วยการวัดแทนคนอื่นคนละบาทคนละ ๒ สลึงบ้าง แต่ส่วนตัวเราเสีย ๕ ตำลึงแล้วกลับมา วันนี้ไม่ได้ไปที่สวดมนต์พระที่นั่งอัมรินทรเพราะอ่อนนัก และยังไม่สบายด้วย อาการที่เมื่อยนั้นยังเป็นอยู่แต่น้อยกว่าวานนี้ เพราะดังนี้จงควรเห็นว่าเป็นของเปลี่ยนแปลงเสมอเพราะบังคับไม่ได้ จึงควรเห็นว่าเป็นทุกข์ส่วนเดียวเพราะเราสบายขึ้นหน่อยหนึ่งดังนี้ก็เป็นปานกลาง เมื่อจะคิดกับที่ล่วงมาแล้วเราสบายกว่าวานนี้และวันนี้ ครั้นวานนี้ไม่สบายหน่อยหนึ่งเราเห็นว่าเป็นทุกข์วันนี้เราสบายแล้ว ต่อไปข้างหน้าถ้าเราจะไม่สบายกว่านี้อีกหน่อยหนึ่งคงเห็นว่าเป็นทุกข์เป็นแน่ สุขกับทุกข์เป็นของตามกันเป็นแท้ เราคงแก่เราคงเจ็บเราคงตายเป็นมั่นคงช้าบ้างเร็วบ้างตามกรรมที่จะเป็นไปนั้นแล

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ