โคลงดั้น
เรื่องพระยาเอระกะปัตนาค
๑ ประณามสามแก้วก่อง | ธาษตรี |
ประนตอุปัชฌาย์จารย์ | แห่งข้า |
นบบาทบุรพการี | มรุเทพ ท่านแฮ |
ทุกช่องทุกชั้นฟ้า | ภวรรคพรหม |
๒ คมบาทธิราชไท้ | นฤบาล |
นฤเบศร์เสวยสุขรมย์ | ร่มเกล้า |
กรุงรัตนยิ่งรัชชกาล | เก่าเกียรติ์ พระนา |
เข็ญขาดแขกคร้ามเฝ้า | ฝ่าธุลี |
๓ จะประพันธ์ภาษิตสร้อย | ศุภอรรถ |
มังคะละทิปนี | พระพร้อง |
เรื่องเอระกะปัต | นาคราช |
โดยระเบียบโคลงดั้นคล้อง | คล่าวใจ |
๔ ปางอดีตภาคโพ้น | ภิกขุ หนึ่งนา |
เจริญสมณธรรมใน | ป่าช้า |
พรรษกาลก็ล่วงลุ | สองหมื่น ปีแฮ |
เป็นนิจแต่ตั้งหน้า | ภาคเพียร |
๕ คาบหนึ่งเป็นเจ้าล่อง | เรือจรัล |
แล่นหลีกลำธารเฉนียน | แนบใกล้ |
กรรมดลหฤทัย | บันดาลเด็ด |
ใบตะไคร้น้ำไว้ | เมือบมือ |
๖ ตริเห็นเป็นแต่ต้อง | ลหุกา บัติแฮ |
บาปนิดเท่านี้หรือ | จะมล้าง |
กุศลส่ำสมมา | มากหมื่น ปีแฮ |
อาบัติถูกแล้วล้าง | เริศปลง |
๗ ปางเป็นอาพาธิ์ใกล้ | เกือบมรณ์ |
อาบัติจะแสดงสงฆ์ | บกล้ำ |
นิมิตต์จิตต์สังหรณ์ | เห็นหลาก |
เห็นแต่ใบไคร้น้ำ | แน่นกรรฐ์ |
๘ วิบากกรรมนำมุ่งเมื้อ | มฤตยู |
ถึงแก่มรณาสัญญ์ | ชีพม้วย |
เอาเพศภุชเคนทร์ดู | ประดาด |
กายใหญ่ยาวเฟื้อยด้วย | อกุศล |
๙ นามเอระกะปัตป้อง | ปกคณา |
ในนาคภูมิมณฑล | ทั่วแคว้น |
ธมีราชธิดา | ดวงสวาสดิ์ |
มาณวิกโฉมอ้อนแอ้น | เอกองค์ |
๑๐ วิไลวรลักษณ์ต้อง | ตาครุ |
โฉมเฉิดยิ่งภุชงค์ | ชาติน้ำ |
ฤๅเทียบเปรียบพธู | เทียมเท่า โฉมนา |
โฉมแม่งามล้นล้ำ | อุรคาน |
๑๑ บิตุเรศรักยิ่งด้วย | ดวงตา |
มวลหมู่นาคบริวาร | แวดล้อม |
เนาในพิภพนา | คนิเวศ |
เสวยสุขทุกถ้วนพร้อม | สิ่งสรรพ์ |
๑๒ องค์เอระกะปัตร้อน | รำพึง |
ใคร่ทราบพุทธสาสน์อัน | เอกอ้าง |
พุทธองค์อุบัติสึง | สำนัก ใดนา |
ดำริใคร่รู้บ้าง | เบี่ยงไฉน |
๑๓ จึงประพันธ์พจนพร้อง | เพลงขับ |
ตามคณะคาถาใน | ที่ตั้ง |
ภาสิตประดิษฐ์ประดับ | โดยฦก |
โดยเลศเลงได้ทั้ง | โลกธรรม |
๑๔ อาศัยสำฤทธิ์ด้วย | โวหาร |
เพลงขับโดยลำนำ | แนะให้ |
มาณวิกมนะสิการ | กำหนด |
เจนจิตรสอบซ้อมได้ | ดุจเดียว |
๑๕ ยังโฉมมาณวิกให้ | สรงสลิล แล้วแฮ |
ทรงวิภูษิตเขียว | ขดก้าน |
แย่งกนกรัตนนาคินทร์ | เข็มขัด รัตนา |
สรวมสอดสเอ้งสอ้าน | เอี่ยมอุไร |
๑๖ อรองค์ทรงสร้อยสอด | สังวาล |
ตาบทิศทับทรวงไพ | โรจเร้า |
ทองกรรูปอุรคาน | เจ็ดขด |
วับวาบแสงแก้วเก้า | ก่ำคำ |
๑๗ พาหุรัดรักร้อยเงื่อน | งามงอน |
อร่ามธำมรงค์จำ | รัสเร้า |
กรรเจียกกระจังจอน | เจิมมาศ |
สรวมมงกุฎแก้วเกล้า | กษัตรีย์ |
๑๘ กรายกรยุรยาตรเยื้อง | มายัง |
ชนกมณินทร์บดี | หลกไท้ |
ผกเศียรกระทำพัง | พานแผ่ แทนแฮ |
ยังธิดานั้นให้ | สถิตเถลิง |
๑๙ ขึ้นเหนือหลังน้ำท่อง | ทัศนา |
ปรากฏเกียรติ์ดำเกิง | ก่องล้ำ |
งามโฉมนาคธิดา | ดูเบื่อ บ้างฤๅ |
งามชนกผกพ้นน้ำ | เพิกพาน |
๒๐ มาณวิกขับไม้เสียด | ซอสี |
เสียงส่งศัพท์ประสาน | สอดเคล้า |
ฟ่ายฟ้อนอ่อนอินทรีย์ | ส่ายไหล่ |
งามเงื่อนนางฟ้าเต้า | ตกชล |
๒๑ แถลงปางทวยทั่วทั้ง | ชมพู ทวีปแฮ |
ทุกเทศทุกมณฑล | ที่รู้ |
ข่าวโฉมนาคพธู | เทียรย่อม |
ปองเสน่ห์ไป่เพี้ยนผู้ | ผูกใจ |
๒๒ ต่างคิดต่างใคร่เล้า | โลมขวัญ |
ต่างกลั่นเพลงขับไป | กล่าวแก้ |
ร่ายราบกาพย์โคลงฉันท์ | วิภาคย์ |
โดยคณะถูกถ้วนแท้ | เทียบทวน |
๒๓ จีนจามพราหมณ์เทศทั้ง | ไทยลาว |
เมงม่านขอมแขกญวน | ตาดเงี้ยว |
ยุรเปียนต่างชาติชาว | ผาเผื่อน |
หาเลศกล่าวแก้เกี้ยว | เกี่ยวกาม |
๒๔ สรรค์เรือผูกม่านแพรว | ทองพราย |
แดงดาดหลังคาหลาม | แหล่งล้ำ |
กรรเชียงฉากแจวพาย | เพราเพริศ |
เป็นเครื่องพายพุ้ยจ้ำ | แจกมือ |
๒๕ ดีดสีตีเป่าแซ่ | เสียงขรม |
โดยประเภทบันลือ | ลั่นก้อง |
ชาติใดชาตินิยม | ตามชาติ เขานา |
ตกแต่งแผลงให้ต้อง | ตื่นฟัง |
๒๖ ครั้นเสร็จต่างรีบร้อน | เร็วคลา |
ทางบกทางเรือผัง | เผ่นน้ำ |
ถึงขนานแห่งนาคมา | ณะวิก |
ลาญพิศจิตต์ปลื้มล้ำ | ตะลึง |
๒๗ ต่างแลตาค้างคิด | ใครหนอ |
รูปร่างอย่างนี้พึง | พบพ้อง |
ฤๅนางเทพอม- | รแมนแม่ |
ลงโลกเลงหล้าซ้อง | ขับซอ |
๒๘ ฤๅอุมาพระแม่เจ้า | แจงลง |
เลียบเล่นชลาชลอ | โลกให้ |
ทฤษฎีฤดีพะวง | หวังสวาท |
เพลินพิศจิตต์เคลิ้มไคล้ | คลั่งครวญ |
๒๙ ผิวแผกพระแม่แล้ว | ลักษมี ฤๅแม่ |
แบ่งภาคมาเที่ยวทวน | ท่องด้าว |
งามทรงแม่งามศรี | โสภิศ |
งามยิ่งอเคื้ออคร้าว | ใคร่ชม |
๓๐ ฤๅอนงค์ชาวพนักน้อง | นางระบำ |
เรอบาทแห่งพระสยม | อยู่เกล้า |
จากฟ้าเที่ยวฟ้อนรำ | เจรียงกาพย์ กลอนแฮ |
หาคู่แนบเนื้อเหน้า | นฤมล |
๓๑ ฤๅหน่อธิตุราชด้าว | แดนใด |
ยุโรปเอเชียกล | หนึ่งเชื้อ |
ชาวแอฟริกาไตร | ภพโลก ใดนา |
โฉมนาฏแม่นี้เนื้อ | หน่อไหน |
๓๒ มาแต่ทิศออกใต้ | ตกเหนือ |
เชิงชาติภาษาใด | ใคร่รู้ |
พงศ์เผ่าเหล่าว่านเครือ | ขัติยชาติ ไฉนนา |
พราหมณ์เวสฤๅเชื้อผู้ | สุทกรรม |
๓๓ คิดพลางเข้าใกล้กล่าว | สุนทร |
ไพเราะเสนาะคำ | ค่อยพร้อง |
อ้าแม่วิมลสมร | เสมอชีพ เรียมเอย |
เรียมจะขับไม้ร้อง | รับขวัญ |
๓๔ ว่าพลางทางจับไม้ | จำเรียง |
เสียงส่งเอื้อนโอษฐ์พัน | เพราะพร้อม |
ไดสะดำฟ่ายฟ้อนเฉวียง | วงวาด |
แอ่นอกยกเท้าน้อม | เนื่องสกล |
๓๕ ยุรเปียนป้องปากร้อง | รำพัน |
กลอนกล่าวโลกมณฑล | ที่ตั้ง |
ย่อมมีอาทิตย์จันทร์ | จรัสโลก แลแม่ |
เชิดคู่ชูขึ้นทั้ง | ธาษตรี |
๓๖ เป็นคู่ชูโลกให้ | เห็นแสง |
ไพโรจน์เรืองรัศมี | ค่ำเช้า |
บุญเพรงอุไภยแพง | พิศวาส |
รมย์ร่วมแผ่นฟ้าเคล้า | คู่เข |
๓๗ เฉกพี่มาพบน้อง | นฤมล |
หวังรักจักร่วมเค | หาสน์ห้อง |
เคียงคู่อยู่ตราบชนม์ | ชีพมอด ม้วยแฮ |
ไป่ทอดไป่ทิ้งน้อง | หน่ายแหนง |
๓๘ เจ้าพวงดวงดอกฟ้า | ใฝ่โฉม |
ส่งกลิ่นระรวยแรง | รสเร้า |
ย่อมเป็นที่สุดโสม | มนัสยิ่ง แลแม่ |
เพรงพระสรรค์ให้เคล้า | คู่สมาน |
๓๙ บุญสองเราส่งให้ | จำเพาะ |
พระจิตต์พระวิญญาณ | ย่อมสร้าง |
อรพี่เพื่อสงเคราะห์ | ครองคู่ กันนา |
ตราบเท่าไฟไหม้มล้าง | ปรัถพี |
๔๐ อิสลามความขับอ้าง | อรรณพ |
ประเปี่ยมด้วยชลธี | ทุกคุ้ง |
มัศยาย่อมอยู่อบ | รมร่วม กันนา |
ลอยแฉลบเล่นน้ำฟุ้ง | ฟ่องฟู |
๔๑ โดยทึกจักขึ้นท่วม | ถึงไหน |
เพ็ญเพียบเขาเมรู | มาศม้วย |
มัจฉาย่อมตายไป | ถึงที่ นั้นนา |
ทุกหุบทุกห้วงห้วย | ห่อนแหนง |
๔๒ ผิลมฟัดฟาดน้ำ | ตีฟอง |
คกเฝื่อนฝอยฟูมแรง | ยิ่งล้ำ |
อัมพุป่วนปางคนอง | กัมปนาท |
ปลาจะม้วยด้วยน้ำ | นฤชนม์ |
๔๓ มัศยาได้น้ำปบ | เป็นแรง |
เชยชื่นชมวังวล | ว่ายเคล้า |
พี่เฉกมัจฉาแพง | อัมพุ กลแม่ |
หวังจิตต์อยู่เฟี้ยมเฝ้า | ฟักฟูม |
๔๔ อ้าหล่าอาระหุดโอ้ | เอ็นดู หน่อยรา |
ชักเชื่อมอุภัยภูมิ์ | แผ่นหล้า |
ตราตรึงตอกตาปู | ปรักมาศ |
เป็นแท่งเดียวด้วยหน้า | เติบตรู |
๔๕ เสนาะขิมจีนขับร้อง | รำพัน |
ดวงดอกโปตั๋นชู | ช่อช้า |
บานรอรับแสงจัน | ทโรภาส |
ส่งกลิ่นฟุ้งฟ้าหล้า | แหล่งผอง |
๔๖ บุปผาสาโรชแม้น | โปตั๋น |
ผิจะปองฤๅปอง | ยากได้ |
เบื้องบุญแต่ปางบรรพ์ | บุรพชาติ นั้นมา |
อุบัติบานแย้มให้ | เด็ดดม |
๔๗ ปักกิ่งมิ่งไม้ทั่ว | มณฑล จีนนา |
ฤๅจะฉมกลิ่นฉม | เฉกไม้ |
โปตั๋นส่งสุคนธ์ | รสหื่น หอมแฮ |
หอมยิ่งมิ่งไม้ใต้ | ต่ำเมรุ |
๔๘ โปตั๋นฉันเฉกไม้ | เมืองสรวง |
ควรคู่แต่จีเนนทร์ | ร่วมห้อง |
สมรแม่แม่นแม้นพวง | บุปเผศ พี่แม่ |
ควรภิรมย์ร้อยคล้อง | โสรดสรวม |
๔๙ ขอพระเป็นเจ้าโลก | เฉลิมนาม |
พระยุไหลสำรวม | จิตต์ได้ |
โปรดข้าช่วยผดุงความ | พิศวาส |
จูงจิตต์นวลน้องให้ | เสน่ห์สนอง |
๕๐ เพลงปี่ญี่ปุ่นพร้อง | พรรณนา |
ทำนุกทำนองจอง | บทเบื้อง |
แสดงโดยหมู่มังกรา | รำร่าย |
เก้าท่าก้าวเท่าเยื้อง | ย่างกราย |
๕๑ เก้าเล็บกำแก้วเชิด | ชูชม |
ชมช่อวิเชียรฉาย | เฉิดรุ้ง |
โสภิศเผ่นผยองลม | โลดเล่น |
โผนผกพ่นน้ำฟุ้ง | เฝื่อนฟอง |
๕๒ มังกรงามเพราะแก้ว | กลอกแสง |
จากรัตน์ฤๅลำพอง | ผกผ้าย |
ผิโดยว่าจะแผลง | พลิกท่า งามฤๅ |
ฤๅเฉกกุมแก้วย้าย | ยั่วยล |
๕๓ ดวงแก้วกอบเกื้อกับ | มังกร |
กำหนัดในกระมล | มุ่งเคล้า |
มณีรัตนาภรณ์ | พิศวาส |
เกี้ยวกอดดวงแก้วเกล้า | เกลือกกาม |
๕๔ ควรพี่ควรคู่แก้ว | กลอยสมร |
สมรแม่อย่ามีความ | สอดแคล้ว |
อกเรียมเฉกมังกร | กลอยสวาท |
แก้วลกลน้องแก้ว | ก่องแสง |
๕๕ แม้พี่ได้แก้วกอด | กับทรวง |
จะยั่วจะลำแยง | ค่ำเช้า |
ฤๅหน่ายมณีดวง | กมเลศ เลยแม่ |
จะแอบแนบเนื้อเคล้า | ครุ่นไป |
๕๖ เพลงอนัมร่ำว่าโอ้ | ปรัถพิน |
อากาศสูงสุดไกล | ลิบล้ำ |
โลกคว้างอยู่กลางสลิล | ลอยโลก อยู่นา |
ดินชุ่มเพราะได้น้ำ | หยาดฝน |
๕๗ หนสูงที่สุดฟ้า | สถิตเสถียร |
เรือนมาศเหมเหรญ | เรี่ยฟ้า |
อเนกอนัมเซียน | ทรงเมฆ |
ลอยเล่นในพื้นหล้า | แหล่งเข |
๕๘ ดินดอยลอยอยู่ก้ำ | กันดาร |
โดยโลกสัณฐานเก | จิอ้าง |
มนุษย์สัตว์สาธารณ์ | ทุกชาติ |
อยู่ร่วมแผ่นพื้นสร้าง | บาปบุญ |
๕๙ หนต่ำใต้แผ่นพื้น | ภูมิ์มณ ฑลแฮ |
มีโอฆอัมพุหนุน | โลกไว้ |
มินหมู่สัตว์สิงชล | เฉกเย่า |
เลี้ยงชีพด้วยน้ำได้ | พืชพันธุ์ |
๖๐ เทวดาอยู่ร่วมด้าว | แดนเดียว |
มนุษย์ต่อมนุษย์ฉันท์ | ญาติเยื้อ |
สัตว์ต่อสัตว์กลมเกลียว | กลอยเสน่ห์ กันนา |
ฝักใฝ่ใจเอื้อเฟื้อ | ซึ่งกันและกัน |
๖๑ เรียมได้มาร่วมน้อง | ในสนาน น้ำแม่ |
หวังรักจักมอบฉัน | ทะให้ |
พธูทิพย์นาคาน | ครองคู่ เรียมเอย |
ตราบเท่าดินฟ้าไหม้ | มฤตชนม์ |
๖๒ กาพย์ม่านขาบขับอ้าง | อุปมา |
บรรพตย่อมทรงผล | เพ็ชร์ไว้ |
เพ็ชรเกิดจากภูผา | พันฦก |
เรือนเพ็ชรควรสร้างได้ | แต่คำ |
๖๓ บ่อเพ็ชรเกิดกับพื้น | ผาหลวง |
ไพโรจน์รัศมีจำ | รัสรุ้ง |
เจียรตัดขัดฝนดวง | เพ็ชรผ่อง ใสนา |
บำราศรานร้าวบุ้ง | บรบวล |
๖๔ ควรรองเพ็ชรรัตนด้วย | เรือนคำ |
จากมาศฤๅจะควร | คู่ได้ |
นอกจากสุวรรณทำ | เรือนรับ งามฤๅ |
พาเพ็ชรดำด้านให้ | เสื่อมศรี |
๖๕ ควรแต่คำแปดเนื้อ | เป็นเรือน |
รองเพ็ชรพรายรัศมี | รุ่งเร้า |
เฉกแก้ววชิรเตือน | ตาโลก งามแล |
จรัสโรจน์ไป่รู้เศร้า | ซีดหมอง |
๖๖ พี่แท้ทองแท่งเนื้อ | นพคุณ |
สามรรถเป็นเรือนรอง | เพ็ชรแพร้ว |
สีทองผ่องแสงหนุน | สีเพ็ชร |
งามมาศแกมแก้วแก้ว | แกมคำ |
๖๗ ลำเตลงเพลงขับเอื้อน | โอษฐ์พัน |
นำแนะนิสัยธรรม | ชาติเชื้อ |
ราชหงษ์ย่อมหฤหรรษ์ | หาสระ สนานนา |
โกมุทอคร้าวอเคื้อ | ใคร่ชม |
๖๘ สุวรรณหงษ์จงเจตน์ด้วย | สระสนาน |
เสพย์สนุกสุขภิรมย์ | รสสร้อย |
สาโรชบุษบันบาน | บุณฑริก |
แบะกลีบชูก้านช้อย | อรชร |
๖๙ มุจลินท์สินธุล้วน | บุษบง |
เหมราชย่อมสโมสร | สระแก้ว |
สระขวัญสุวรรณหงษ์ | ฤๅห่าง เหินแล |
กินอาบซาบเนื้อแล้ว | เล่นธาร |
๗๐ ชมชลกลแก้วเฉิด | ชมบัว |
บัวบห่อนให้ฉาน | ฉีกซ้ำ |
วารีไป่ขุ่นมัว | หมองหม่น |
บัวบชอกช้ำน้ำ | เหน่งใส |
๗๑ วารีบำราศไร้ | ราคิน |
เหมราชย่อมสนานใน | สระนั้น |
สระใดมั่วมลทิน | ธารเทือก |
หงษ์บเกลือกกลั้วชั้น | เสริดหนี |
๗๒ โฉมแม่แม่นแม้นสระ | สิวาไลย |
หงษ์ย่อมเสพย์สระศรี | สร่างร้อน |
เรียมหวังสระสนานใน | สระนาฏ ณแม่ |
ชมฌุกเชิดน้ำซ้อน | กลีบกลม |
๗๓ ขอมขับศิรเกล้าคลี่ | บัวทอง |
ไฟฟอกโลกนิยม | รสง้วน |
ลงเสพย์รัศมีหมอง | มีพืช พันธุ์นา |
อยู่เกลื่อนกลอยหน้าล้วน | ลูกหลาย |
๗๔ ผองแผนหลงเสพย์ง้วน | ดินเผา |
แสงดับไป่เสียดาย | ดุจง้วน |
หลงเสพย์ไป่คืนเนา | พรหมโลก |
อุบัติลูกเต้าล้วน | เหล่าพรหม |
๗๕ รักดินสิ้นรักฟ้า | ฤๅแหงน ดูเลย |
กอบเกิดกามารมณ์ | รสห้า |
พืชพรหมอุดมแดน | โดยเหตุ |
เมารสรักง้วนหล้า | เล่ห์เรียม |
๗๖ ฉมแม่หอมเฉกง้วน | ดินฉม |
รสทิพย์ฤๅหอมเทียม | เทียบน้อง |
ทรวงพี่เฉกทรวงพรหม | เพลิงพลุ่ง ใจนา |
ใคร่เสพย์ง้วนหล้าพ้อง | เพศแผน |
๗๗ ความใคร่ใจพี่แม้น | เหมือนพรหม พระนา |
หวังดื่มรสดินแดน | จิตต์ดิ้น |
อ้าแม่เฉกง้วนฉม | ชูชื่น ใจนา |
ขอพี่พานแผ้วลิ้น | เล่ห์หมาย |
๗๘ ลาวลำนำแต่ต้น | ภัทกัลป์ |
เขากาศกกตั้งปลาย | ซรอดฟ้า |
มนุษย์กับสวรรค์ | รักร่วม กันนา |
ตราบเท่าไฟไหม้หล้า | มุ่นกจวน |
๗๙ แถนหลวงแถนแต่งตั้ง | ขุนบฮม |
ราชศักดิมเหศวร | เศกให้ |
ผ่านภพจบแผ่นชม | พูทวีป |
เป็นโจกเป็นเจ้าไท้ | ธรณี |
๘๐ เพรงบุญขุนขี่กล้า | กินเวียง |
เป็นสุขมากอิหลี | เลิศล้ำ |
บุญไผก็ไป่เพียง | บุญเพื่อน แลนา |
เสริมส่งเขียวขึ้นค้ำ | คู่สรวง |
๘๑ อยู่ดินกินข้าวโภชน์ | สาลี |
ชรดื่นลูกหลานหลวง | สรล้าง |
ปักปันราชธานี | สำนัก |
กินยศใหญ่น้อยบ้าง | แบ่งดิน |
๘๒ แถนตกแถนแต่งตั้ง | ตำรา ให้แฮ |
อภิเษกสมพงศ์กิน | ยศย้อม |
อาวาหะวิวา | หฤกษ์ |
ทุกสิ่งสาตรให้ซ้อม | สิทธิเม |
๘๓ จบไสยเจนสาตรแจ้ง | ใจชน |
สุขทุกข์ไป่พักคเน | นึกรู้ |
เชิญแถนท่านช่วยดล | ใจนาฏ |
ปองเสน่ห์ต่อข้าผู้ | เสน่ห์นวล |
๘๔ กาพยกั้งฟังกล่าวเกลี้ยง | กลอนขับ |
บุญเกิดกรรมใดชวน | ชักให้ |
ตากตนอยู่แต่ทับ | กะท่อม เถื่อนนา |
ดมเด็ดดอกหญ้าไร้ | รสสุคนธ์ |
๘๕ ผิวหอมฤๅแม้ว่า | บหอม ก็ดี |
ชมเล่นยามเมื่อตน | ตกไร้ |
ดอกฟ้าจะหาถนอม | เหนื่อยนัก เปล่านา |
ฤๅอาจจะเอื้อมได้ | ดุจหวัง |
๘๖ กลำภักเนื้อไม้แก่น | กฤษณา |
ผิวเจตน์จะสมดัง | จิตต์ด้วย |
จันทน์คู่แก่นเสนหา | ยากสุด แสวงแฮ |
ตายเล่าเกิดแล้วม้วย | ไม่พาน |
๘๗ บุญญาบารเมศแม้น | ใครมี มากนา |
เดชะอภินิหาร | จึ่งได้ |
แก่นจันทน์จรัสสี | แสงสุก ใสแฮ |
ได้เพราะบุญสร้างไว้ | เพียบแพง |
๘๘ บุญเราต่ำเตี้ยตะ | แหมะแขะ |
ฤๅจะได้จันทน์แดง | ดุจแก้ว |
ชมแต่ดอกหญ้าและ | เล็มเลือก ชมนา |
หอมบหอมนั้นแล้ว | แต่บุญ |
๘๙ แม้บุญเราสร้างส่ำ | สมแสวง ไว้นา |
คงจะตามอุดหนุน | แนะให้ |
ท่อนแก้วแก่นจันทน์แดง | ดมกลิ่น |
ฉมชื่นชุบน้ำไล้ | ลูบตน |
๙๐ โอเนียอาก้าข่า | เมแจะ |
ละเม็ดละมังกล | หมึกไล้ |
ข่าหอกอิกข่าแยะ | ไพเพศ ข่าแฮ |
หลายส่ำเสียงไจ้ไจ้ | จรีดเจรียง |
๙๑ ไทยเทงไทยลุ่มผู้ | ไทยแผลง |
ตองซู่คุลาเฉียง | ช่างพร้อง |
แม้วเย้าย่อยางแดง | ดัดเพศ เขานา |
ต่องแต่งโลดเต้นร้อง | รายรำ |
๙๒ สยามชนสรชาติเชื้อ | ชำนาญ |
ชำนิเชิงลำนำ | เพราะพร้อง |
เจรียงดุริยางค์ผสาน | เสียงส่ง |
นางนาคขับไม้ร้อง | รี่ระงม |
๙๓ พรรณนาว่าโลกแล้ว | ย่อมมี |
ดินฟ่องน้ำไฟลม | หล่อเลี้ยง |
สรรพสัตว์ทั่วธาษตรี | ไตรภพ โลกแฮ |
เกินธาตุไป่รู้เสี้ยง | สีวะกาล |
๙๔ ขุนเขาเมรุมาศตั้ง | ตำรง |
เวชยันตพิมาน | มาศแพร้ว |
ไพชยนต์รัตนบรรยง | เทียรย่อม |
ควรคู่ขุนเกล้าแก้ว | วัชรินทร์ |
๙๕ ดวงแก้วเกิดกอบเกื้อ | กับบุญ |
ท้าวสุชัมบดินทร์ | เดชล้ำ |
แสนสาวสุรางค์สุน | ทรเทพ |
เทียรย่อมเกิดขึ้นค้ำ | คู่บุญ |
๙๖ เฉกเรียมเกิดร่วมแก้ว | กลอยสมร |
บก่อนบหล้าลุน | แล่ล้ำ |
พอสมเสพย์สโมสร | สังวาส |
สมเนตรสมเนื้อน้ำ | คู่ควร |
๙๗ อ้าแม่เฉกแก้วเนตร | สหัศไนย |
พันเนตรภิรมย์สงวน | เงื่อนน้อง |
เผือพี่พิสมัยใจ | จรอดแม่ แลแม่ |
มิตรจิตต์เล่ห์นี้ต้อง | มิตรใจ |
๙๘ อย่าระคายชะม้ายม่อย | เมินหมาง เลยแม่ |
เยี่ยงหยวกย่อมมีใย | ยืดเยื้อ |
จริงจิตต์พี่รักนาง | รักตอบ พี่นา |
เอาพี่ไว้ร่วมเชื้อ | ภุชคินทร์ |
๙๙ เสียงขับเสียงร้องส่ง | เสียงซอ |
เสียงประสานเสียงพิณ | พาทย์ฆ้อง |
เสียงแตรแซ่เสียงกรอ | กลองเกริก |
เสียงโอษฐ์เสียงเอื้อนพร้อง | เพราะเพรา |
๑๐๐ พระยาเอระกะปัตได้ | ทรงสดับ |
ร่ายกาพย์กลอนโคลงเขา | ขับเขรี้ยว |
ใช่พุทธวัจนสรรพ | ภาษิต |
เอาโลกกล่าวแก้เกี้ยว | เกี่ยวกาม |
๑๐๑ ไป่เป็นที่ชอบเนื้อ | พึงใจ ท่านนา |
ผิดจากปัญหาความ | โยกโย้ |
จึงห้ามมิให้ดไนย | มาณวิก |
ขับต่อท่อถ้อยโต้ | ตอบสนอง |
๑๐๒ แต่ไท้นาคราชให้ | ธิดา |
เพียรขับโดยทำนอง | แนะไว้ |
ทุกวันปักษ์คณนา | กำหนด |
บว่างบเว้นไท้ | เที่ยวจร |
๑๐๓ พรรษกาลก็ล่วงพ้น | พันนา |
ตราบเท่าพุทธันดร | หนึ่งสิ้น |
ไป่ทราบพุทธุปปา | ทะรหัสย์ |
แดฤดีท้าวดิ้น | ประดักดาน |
๑๐๔ แถลงปางสรรเพ็ชร์เจ้า | จอมไตร ภพแฮ |
ปางเมื่อพระผจญมาร | หมดแกล้ว |
ปองโปรดพุทธเวไนย | นิกรสัตว์ โลกนา |
เฉกชิเนนทร์โพ้นแล้ว | ล่วงไป |
๑๐๕ คาบหนึ่งพระสถิตห้อง | มหาวิหาร |
จวบรุ่งพระตรวจไตร | โลกกว้าง |
ทราบเหตุแห่งอุรคาน | ควรโปรด เขานา |
เพียงแต่พอเขยื้อนบ้าง | แบ่งเบา |
๑๐๖ พระอนันตญาเณศร์แจ้ง | จารึก |
โดยพุทธดำเนินเนา | ฝ่ายใต้ |
ฉายาโคกควงทรึก | โสภิศ |
เฉกฉัตรกางกั้งไท้ | ทศพล |
๑๐๗ ภูมิเพียงทิพยอาสน์ท้าว | เทพา |
วชิระมณฑล | ที่ใกล้ |
พาราณสีสา | กลเขตต์ เขาแฮ |
เดียรดาษไปด้วยไม้ | กลิ่นหอม |
๑๐๘ ชรเดียดชรดื่นด้วย | ดอกดวง |
ทวยกิ่งทอดก้านคอม | ค่อมค้อม |
ทรงช่อเชิดชูพวง | บุปเผศ |
วัลลิ์ตวัดเวียนไม้ล้อม | เวียวน |
๑๐๙ พระผู้มีภาคไท้ | ทัศนา |
ฉะเพาะพักตรมณฑล | ที่แจ้ง |
บงสบอุตตระมา | พหนุ่น |
แรกรุ่นโฉมกล้องแกล้ง | กรีดกรอ |
๑๑๐ โดยจิตต์เขาเพ่งตั้ง | ตรงไป |
ขันแข่งขับเพลงซอ | คิดสู้ |
กับอนงค์อรดไนย | นาคราช |
ความคิดผิดเพี้ยนผู้ | กระวี |
๑๑๑ สรรพัญญูรู้แจ้งชัด | ใจชนา |
จึงเปล่งพระพุทธสีห | นาทเยื้อน |
ตรัสเรียกอุตตระมา | นพสู่ พระแฮ |
ทรงซักทราบแล้วเอื้อน | โอษฐ์สอน |
๑๑๒ เพลงขับสูคิดเพี้ยน | ผิดความ |
ปนโลกย์นิวรณ์กลอน | กล่าวพ้อง |
จูงเจือเกลศกาม | กองทุกข์ เห็นฤๅ |
จึงพระสาสน์ให้ต้อง | แต่ธรรม |
๑๑๓ อุตตระมานพซ้อม | สัชฌาย์ |
สามารถปัญญาจำ | จบได้ |
บรรลุพระโสดา | ปัตติ ผลแฮ |
โดยพระสาสน์ซ้อมไว้ | ชัดเจน |
๑๑๔ ครั้นเสร็จน้อมศิรเกล้า | กราบลา |
บัวบาทพระชิเนนทร์ | นารถแคล้ว |
จรเสริดสู่นาคมา | ณวิก |
ยังที่น่านน้ำแล้ว | สดุดี |
๑๑๕ กัลยามาณวิกน้อย | นาคินทร์ |
เอื้อนโอษฐ์จำเรียงที | ชะม้อย |
บันสานสอดเสียงพิณ | เพลงขับ |
ภาสิตเพราะพร้องถ้อย | กล่าวไข |
กึสุ อธิปติ ราชา
๑๑๖ โลกชนเกิดร่วมฟ้า | ดินเดียว |
เป็นใหญ่ในสิ่งใด | จึ่งได้ |
นามราชดังฤๅเยียว | ว่ายศ พระนา |
ใหญ่ยิ่งสิ่งสร้างให้ | หากมี |
กึสุ ราชา รชสฺสิโร
๑๑๗ ดังฤๅขัติยราชได้ | พระนาม |
ศิโรตม์ล้วนธุลี | เล่ห์ไล้ |
เพราะสิ่งดังฤๅความ | ดำริ ท่านนา |
ใดราชจะเปลื้องได้ | ดังฤๅ |
กถํสุ วิรโช โหติ
๑๑๘ ขัตติยาธิเบศไท้ | ธิบดี |
ดำริดังฤๅคือ | ว่าไท้ |
สร่ายเสียซึ่งธุลี | ลามก |
เปลื้องจากศิรเกล้าได้ | ดุจมาน |
กถํ พาโลติ วุจฺจติ
๑๑๙ บุคคลในโลกนี้ | โลกไหน ก็ดี |
โดยโลกเรียกว่าพาล | แพร่พร้อง |
ดังฤๅเหตุไฉนใน | นาเมศ นั้นแฮ |
มนุษยทั่วหล้าร้อง | เรียกพาล |
เกนสฺสุ วุยฺหติ พาโล
๑๒๐ คนพาลประพฤตินั้น | กลใด |
ดูดดื่มซึมสันดาน | จึ่งต้อง |
วนเวียนว่ายอยู่ใน | วัฏฏทุกข์ |
เที่ยวเที่ยวในห้วงห้อง | สมุทัย |
กถํ นูทติ ปณฺฑิโต
๑๒๑ นรโลกฤๅจะได้ | บรรเทา |
เสียซึ่งสิ่งใดไฉน | ใคร่รู้ |
จึงเรียกว่านามเขา | เป็นปราชญ์ |
ยินชอบทุกถ้วนผู้ | นิยม |
โยคกฺเขมิ กถํ โหติ
๑๒๒ โลกชนเชื่อว่าได้ | สบความ |
เกษมจากโยคารมณ์ | เริศร้าง |
มีเบญจพิธกาม | เป็นเหตุ |
เพราะสิ่งใดรู้บ้าง | บอกรา |
ตมฺเม อกฺขาหิ ปุจฺฉิโต
๑๒๓ ปัญหาภาษิตซึ่ง | สำคัญ |
ยากจะวิสัชชนา | นึกได้ |
ดั่งฤๅท่านผู้บัณ | ฑิตชาติ ชาญนา |
จงกล่าวจงแก้ให้ | ขจัดความ |
๑๒๔ อุตตระมานพได้ | ฟังขับ |
ล้วนแต่ภาษิตถาม | ทุกข้อ |
ไป่แผกไป่เพี้ยนกับ | ชินสาสน์ ไว้นา |
ปราโมทย์มิได้ท้อ | ที่ถาม |
๑๒๕ พลางขยับขับไม้ครั่น | ครวญเสียง |
คลายคลี่กระแสความ | ขับร้อง |
ไพเราะเรื่อยจำเรียง | พิณคล่าว คลอนา |
ปฐมบาทบทต้นพร้อง | พจนไข |
ฉทวาราธิปติ ราชา
๑๒๖ นรชนในโลกนี้ | นามขนาน |
เป็นปิ่นธิปไตยใน | ที่ตั้ง |
โดยห้องแห่งทวาร | ทั้งหก |
ไตรตรวจรอบรู้รั้ง | รักษา |
๑๒๗ จักษุโสตประสาททั้ง | ทางฆาน |
ชิวหาศกายทวา | เรศร้อง |
ที่สุดมโนทวาร | ร่วมหก แห่งแฮ |
เป็นนิจค่ำเช้าต้อง | ตรวจกรม |
๑๒๘ รูปรสเสียงกลิ่นสิ้น | สารพรรณ์ |
โผฏฐัพพ์ธรรมารมณ์ | ดานดับ เสียนา |
รึงรัดจิตต์กระสัน | อย่าให้ |
กันเกียจอย่าให้ใกล้ | แกล่สกนธ์ |
๑๒๙ ผู้นั้นได้ชื่อพร้อง | พระยา |
ผ่านแผ่นภูมิมณฑล | ที่ตั้ง |
นคเรศรัฐกายา | ยศโยก |
ใหญ่ยิ่งผองผู้ทั้ง | ธาษตรี |
รชมาโน รชสฺสิโร
๑๓๐ ข้อสองซึ่งกล่าวอ้าง | องค์กษัตริย์ |
ศิโรตม์ล้วนธุลี | หลั่งล้น |
โดยเหตุดั่งฤๅขัติย์ | ราชริ รังแฮ |
จะบริหารให้พ้น | พิศวง |
๑๓๑ นฤศวรราชโอ้ | องค์ใด ก็ดี |
เมามุ่นสันดานหลง | โลภล้ำ |
รูปรสกลิ่นเสียงใส | สัมผัสส์ |
กลืนแกล่รสห้ากล้ำ | เกลศกาม |
๑๓๒ ตันเหิมเติมจิตต์เอื้อ | อารมณ์ |
โดยเหตุดังนี้นาม | ว่าเกล้า |
ตากเต็มธุลีลม | ลงหลั่ง ล้นนา |
ฉันทราคแรงร้อนเร้า | ฤดี |
อรชํ วิรโช โหติ
๑๓๓ ข้อสามนามว่าเจ้า | จอมไผท |
ศิศะจากธุลี | หล่นแล้ง |
ปัญหาปุจฉาใน | ตรีบาท นี้นา |
จะธิบายให้แจ้ง | ชัดฉาน |
๑๓๔ ได้แก่กษัตริย์ผู้ | เพ็ญยศ |
พระบวรสันดาน | ไป่ได้ |
ยินดีรูปเสียงรส | สัมผัสส์ กลิ่นแฮ |
กันเกียจบให้ใกล้ | แกล่กราย |
๑๓๕ อารมณ์ทั้งหกไท้ | เสียสละ |
จากจิตต์สันดานหาย | เหือดแห้ง |
ธุลีเล่ห์ฉันทะ | ราคเริศ ร้างแฮ |
โดยราชรอบรู้แจ้ง | จบเจน |
๑๓๖ ผิราชยังเอิบเอื้อ | อารมณ์ หกแฮ |
ฤๅเบื่อฤๅบากเบน | บั่นได้ |
นามราชศิโรดม | โดยกล่าว |
ปังสุเล่ห์ไล้ไว้ | ตากเต็ม |
๑๓๗ โดยความเสน่ห์เกื้อ | กำหนัด |
หนาแน่นสันดานเล็ม | ลอกล้าง |
ฉวีวรรณที่สุดมัต | ถะลุงคะ ประเทศแฮ |
มีรูปเป็นต้นอ้าง | อนุกรม |
๑๓๘ เพราะเหตุดั่งนี้หาก | เห็นชัด |
เห็นสันดานบรม | กษัตริย์แผ้ว |
ฉันทราคธุลีสลัด | หลุดหล่น |
จากพระศิรเกล้าแกล้ว | เกริกนาม |
รชํ พาโลติ วุจฺจติ
๑๓๙ ในข้อจตุรบทเบื้อง | ปัญหา |
นรชาติเนื่องในสาม | ภพนี้ |
นักปราชญ์เรียกพาลา | ชาติเฉก ไฉนนอ |
เป็นดั่งฤๅให้ชี้ | ชื่อเสียง |
๑๔๐ บุคคลในโลกทั้ง | หญิงชาย |
เมามุ่นสันดานเพียง | เพียบด้วย |
รูปรสกลิ่นเสียงกาย | สัมผัสส์ |
รึงรัดไป่รู้ม้วย | มืดโมห์ |
๑๔๑ ดั่งนี้นักปราชญ์ร้อง | เรียกนาม |
ทุรชนชาติพาโล | กล่าวไว้ |
โดยเหตุที่เมากาม | กำหนัด |
มีรูปเป็นต้นได้ | ชื่อพาล |
โอเฆน วุยฺหติ พาโล
๑๔๒ ปฤศนาที่ห้าว่า | บุคคล |
ประกอบกรรมใดดาน | จิตต์ให้ |
เที่ยวท่องวัฏฏ์วังวน | เวียนว่าย อยู่นา |
แลว่าผู้นั้นได้ | ชื่อพาล |
๑๔๓ ข้อนี้ได้แก่ผู้ | มีโอฆ |
อันฦกเหลือประมาณ | มากล้ำ |
พานพัดสัตวโลก | ลอยล่อง อยู่นา |
ในสี่แห่งห้วงน้ำ | ป่วนวน |
๑๔๔ กามโอฆอาบซึ้งสุด | สายตา แลเอย |
ภวะโอฆอรรณพชล | เชี่ยวกว้าง |
ทิฏฐิโอฆอวิชชา | เป็นชื่อ โอฆแฮ |
ฟองเฝื่อนฟูมน้ำกว้าง | กว่าไกล |
๑๔๕ จตุรโอฆแอ่งนี้ | รวมเป็น |
ธรรมสี่ประการใน | ที่อ้าง |
นามเรียกว่าโอฆเห็น | เหตุแห่ง ห้วงแฮ |
ฦกยิ่งดูเวิ้งว้าง | วิจารณ์ |
๑๔๖ ดั่งหนึ่งจะถั่งท้น | เทลง |
ท่วมทับสัตว์สันดาน | ดึกน้ำ |
เวียนว่ายแหวกวัฏฏ์สง | สารทุกข์ นั้นนา |
เอิ้นโอฆอันกว้างล้ำ | ฦกเหลือ |
๑๔๗ ความว่านรชาติผู้ | ใดไฉน |
ยังโอฆทั้งสี่เฝือ | เฝื่อนฟุ้ง |
พานพัคสัตว์ลอยไหล | ลงจ่อม |
จมอยู่ในคู้คุ้ง | คู่กัลป์ |
๑๔๘ รวมความนัยนี้ว่า | บุคคล |
จมจ่อมในโอฆอัน | กล่าวไว้ |
สังสารวัฏฏ์วน | เวียนว่าย อยู่นา |
โดยเหตุดั่งนี้ได้ | ชื่อพาล |
โยคา นูทติ ปณฺฑิโต
๑๔๙ ข้อหกยกบทเบื้อง | ปัญหา |
ความว่านรชาติชาญ | เชี่ยวนั้น |
คือมละสิ่งใดมา | มีชื่อ |
ว่าปราชญ์รอบรู้ชั้น | ฉลาดเฉลียว |
สพฺพโยควิสํยุตฺโต
๑๕๐ คือผู้เพียรข้ามอ่าว | โอฆะ |
ทั้งสี่ห้วงน้ำเขรียว | คิดค้น |
ได้โดยอุตสาหะ | เห็นเลศ |
แจ้งจบจึ่งข้ามพ้น | เพราะเพียร |
๑๕๑ พยายามข้ามโอฆพ้น | สงสาร |
โดยสมัปปธานเสถียร | ที่ตั้ง |
วิริยะสี่ประการ | ประกอบ |
ทำจิตต์บให้พลั้ง | พลาดธรรม |
๑๕๒ โดยเพียรเพื่อมิให้ | อกุศล |
ทุจจริตวิบากกรรม | แกล่ใกล้ |
สันดานแห่งตนคน | ควรเรียก นามแฮ |
ว่าปราชญ์เที่ยงแท้ได้ | ชื่อชา |
โยคกฺเขมีติ วุจฺจติ
๑๕๓ ปัญหาข้อเจ็ดพร้อง | พจนะ |
ความว่าเหตุไฉนชนา | จะได้ |
นามเรียกว่าโยคะ | เขมิ นั้นนา |
โดยดั่งฤๅนั้นให้ | อธิบาย |
๑๕๔ ได้แก่ชนผู้เสพย์ | สันดาน |
เกษมจิตต์สุขุมหมาย | ออกพ้น |
โยคธรรมสี่ประการ | ประกอบ |
โดยเลศรอบรู้ล้น | ล่วงกราย |
๑๕๕ กามโยคภวะทั้ง | ทิฏฐิ |
อวิชาโยคขยาย | ยากพร้อม |
นามธรรมจตุรสิริ | รวมเรียก |
โยคะกอบเกื้อน้อม | มนัสนำ |
๑๕๖ กอบสัตวโลกไว้ | ในกอง |
กำเนิดคติกำ | หนดไว้ |
ละสิ่งละสี่ปอง | เป็นบ่วง |
รึงรัดสัตว์นั้นให้ | ว่ายเวียน |
๑๕๗ สันดานนรชาติผู้ | เผด็จเข็ญ |
ขาดจากโยคธรรมเบียฬ | บีบคั้น |
มีกามะโยคเป็น | อาทิ |
นามว่าชนผู้นั้น | นักธรรม |
๑๕๘ ปริศนาทั้งเจ็ดข้อ | ความขับ |
ประกอบปัญหากรรม | กล่าวแก้ |
โดยพุทธพจนศัพท์ | ภาษิต สาสน์นอ |
ไพเราะเพราะพร้องแท้ | ถ่องธรรม |
๑๕๙ นาคินทร์ยินมลากด้วย | มานพ |
แก้กล่าวปัญหากรรม | ถูกต้อง |
พุทธภาษิตภาคจบ | จำแนก ธรรมนา |
กระจ่างทุกข้อขล้อง | กาพย์กลอน |
๑๖๐ ธแสนโสมนัสปลื้ม | ปรารภ |
เกินกว่าพุทธันดร | หนึ่งแล้ว |
ไป่เคยประสพพบ | เพลงขับ |
ไพเราะดั่งนี้แจ้ว | จับใจ |
๑๖๑ คิดพลางทางกล่าวถ้อย | สุนทรา |
อ้าพ่อผู้มีไวย | วุฒิแกล้ว |
สมเด็จพระสัมมา | สัมพุท โธแฮ |
ผู้ประเสริฐพร้อมแล้ว | เลื่องบุญ |
๑๖๒ อดุลอดิเรกด้วย | ดำรง |
ศีลสุตาธิคุณ | คู่แก้ว |
สว่างหล้าอุบัติลง | ในโลก |
ส่องสัตว์สู่ฟ้าแล้ว | เที่ยงธรรม์ |
๑๖๓ ปฤดีโดยด่วนด้วย | มนิมนา |
ขึ้นจากห้วงมหรร | ณพเต้า |
เอาเพศอย่างบุริสา | โสภิศ |
มาณพนำน้อมเฝ้า | ชินะมาร |
๑๖๔ ซอนซบศิรเกล้าเกลือก | กันแสง |
ปริเวทนาการ | กล่าวถ้อย |
กราบทูลพระผู้แรง | สิบศาส ดาแฮ |
เดิมเหตุแห่งข้าน้อย | หนึ่งมี |
๑๖๕ ปางเป็นบรรพชิตใช้ | ชลยาน |
ลอยแล่นในวารี | รีบจ้ำ |
โดยกรรมหากบันดาล | ดวงจิตต์ ข้านา |
ดนเด็ดใบตะใคร้น้ำ | หน่อยเดียว |
๑๖๖ วิบากกรรมนำจิตต์ให้ | ปฏิสน ธิแฮ |
เป็นนาคกายใหญ่เพรียว | เพราะต้อง |
อาบัติบแสดงตน | จึ่งเกิด |
เป็นนาคบได้พ้อง | เพศชน |
๑๖๗ ขยมบาทบห่อนรู้ | จักรส |
พระสัทธรรมสักหน | สักครั้ง |
ไป่สบพระสุคต | เคารพ เลยนา |
ภัทกัลปหนึ่งแล้วตั้ง | แต่แสวง |
๑๖๘ ใฝ่ฟังตั้งโสตแพ้ว | ตาคอย |
สยัมพุทธพระผู้แสดง | ดับเศร้า |
เฉกพระประทีปลอย | ส่องโลก มานา |
สมนึกวันนี้เกล้า | กริ่มใจ |
๑๖๙ ดั่งฤๅดั่งได้พบ | พุทธองค์ พระเอย |
เป็นอรรคบุรุษใน | โลกนี้ |
ขอเดชพระผู้ทรง | สวัสดิภาค |
อนุเคราะห์แก่ข้าชี้ | มรรคญาณ |
๑๗๐ พระไตรโลกนารถเจ้า | จอมสงฆ์ |
เอื้อนพจน์พุทธปริหาร | พระพริ้ม |
ดูกรบพิตรจง | ตั้งจิตต์ |
เงี่ยโสตสดับแล้วลิ้ม | รสธรรม |
กิจฺโฉ มนุสฺสติลาโภ กิจฺฉํ มจฺจานชีวิตํ
กิจฺฉํ สทฺธมฺมสฺสวนํ กิจฺโฉ พุทฺธานมุปฺปาโท
๑๗๑ บุทคลจะเกิดได้ | โดยยาก |
ยากยิ่งเพราะบุญกรรม | กอปร์เกื้อ |
ยากจะพบปรัถภาคย์ | ภูมิเทศ |
ที่พระตรัสรู้เมื้อ | มรรคญาณ |
๑๗๒ ยากนักที่จักได้ | ทรงสดับ |
พระสัทธรรมปริหาร | แห่งห้อง |
ทศพลพจนศัพท์ | แสนยาก ยินแฮ |
ยากนักจักได้ซ้อง | สดับฟัง |
๑๗๓ ฟังธรรมในที่แจ้ง | จำเพาะ |
สยัมพุทธพระผู้ยัง | สัตว์ให้ |
แจ้งธรรมที่ไพเราะ | ฤๅพบ |
ฤๅพะฤๅพ้องได้ | ทัศนา |
๑๗๔ สรรเพ็ชรพุทธเจ้าจะ | บัณฑูร |
พระสัทธรรมเทศนา | เอกอ้าง |
คัมภีร์พุทธวรรคมูล | ธรรมบท |
โดยวิตถารให้กว้าง | ตรัสแสดง |
๑๗๕ ดูกรบพิตรผู้ | ภุชงค์ ราชเอย |
ตถาคตจะกล่าวแถลง | แต่ต้น |
ปฏิสนธิ์สัตว์ประสงค์ | เป็นมนุษย์ |
ใช่ง่ายยากล้นพ้น | พิสัย |
๑๗๖ จะยังอาตมภาพได้ | เป็นมนุษย์ |
บุรุษสตรีใน | แผ่นกว้าง |
ยากนักยากที่สุด | แสนยาก |
ได้เพราะเพรงได้สร้าง | กุศล |
๑๗๗ ชีวิตแห่งสัตว์ทั้ง | หลายใด |
ได้ยากจะยังตน | อยู่ได้ |
โดยสิ่งเสพย์อาศัย | ปรุงชีพ เขานา |
ตามเลศแต่ล้วนให้ | ชอบธรรม |
๑๗๘ จำต้องประกอบเกื้อ | กสิกิจ |
เอาเพศพานิชกรรม | กอบเกื้อ |
ฉนำมาศค่ำเช้านิจ | นึกกอบ การนา |
ปรุงชีพบร้างเรื้อ | รักษา |
๑๗๙ หวังให้ชีพิตนั้น | ยืนยาว |
เพราะชีพิตินทรีย์หา | ยากได้ |
จะได้ละคาบคราว | แสนยาก |
สัตว์จะได้ด้วยไร้ | อกุศล |
๑๘๐ เหตุว่าชีวิตตั้ง | อยู่ใน |
ปริตะขณะกล | ต่อมน้ำ |
ไป่ยั่งไป่ยืนไป | ยาวเยิ่น เลยนา |
พลันจะแตกม้วยซ้ำ | ดับพลัน |
๑๘๑ โดยขณะอันน้อยสุด | จะทรง อยู่นา |
ชีวิตินทรีย์สรรพ์ | สัตว์นี้ |
ฤๅจะยั่งยืนคง | แตกดับ พลันแฮ |
มีแต่จะลิ้วลี้ | ลับสูญ |
๑๘๒ นัยหนึ่งซึ่งจะได้ | สดับฟัง |
พระสัทธรรมบัณฑูร | ที่ตั้ง |
บุญบาปอุบัติบัง | เกิดกอบ |
คุณโทษถี่ถ้วนทั้ง | ประโยชน์ผล |
๑๘๓ สัตว์ในไตรภพพื้น | พสุธา |
หายากในมณฑล | ทั่วแคว้น |
ซึ่งจะตรัสเทศนา | นำสัตว์ |
ผิดชอบสิ่งแร้นแค้น | ใคร่เห็น |
๑๘๔ สัตว์ได้โดยยากพ้น | ประมาณ |
อเนกนับกัลป์เป็น | ที่ตั้ง |
จะพบบุคคลาจารย์ | จำแนก ธรรมนา |
บอกสวรรค์ให้ทั้ง | พระนิพพาน |
๑๘๕ ผิวพระพุทธเจ้า | จอมนรา ศภฤๅ |
พระปัจเจกะพุทธญาณ | แก่กล้า |
อีกองค์พระสงฆ์สา | วกวิ ทูแฮ |
โดยมากในเบื้องหน้า | ปัจจุบัน |
๑๘๖ จะตรัสเป็นพระสร้อย | สรรเพ็ชร แลฤๅ |
ประเตฺยกโพธิอัน | เอกอ้าง |
สราพกพุทธญาณเผด็จ | ดับเกลส หล่นแฮ |
จะตรัสในพื้นกว้าง | กล่าวธรรม |
๑๘๗ ทั้งหลายจะได้พบ | เห็นเป็น |
ทัศนานุตตริยกรรม | แกล่ใกล้ |
โดยยากที่จะเห็น | จะพบ พระนา |
ยากสัตว์จะแจ้งได้ | ทฤษฎี |
๑๘๘ อันพระอริยผู้บุคค | ลาจารย์ |
โดยมากกอปร์การี | ห่อนยั้ง |
จะเสร็จแก่อภินิหาร | เพราะเพิ่ม เพียรแฮ |
ไป่ทดไป่ท้อตั้ง | ต่อฌาน |
๑๘๙ อนึ่งพระอริยผู้ | บุทคล |
จะเสร็จอภินิหาร | ห่อนพลั้ง |
โดยความวิริยสน | ใจส่อง แสวงนา |
เพียรเพ่งจิตต์นั้นตั้ง | วิริยการ |
๑๙๐ นัยหนึ่งพระอริยผู้ | บุทคล |
และยังอภินิหาร | หากให้ |
อุบัติบริบูรณ์กล | จิตต์เพ่ง เพียรนา |
โดยด่วนบได้ได้ | แต่นาน |
๑๙๑ กำหนดนับด้วยโกฏิ์ | แสนกัลป์ |
โดยสมิทธิ์ภินิหาร | จึ่งได้ |
ตรัสเป็นพุทธสัพพัญ | ญูเยี่ยง พระนา |
ยังเหตุดังนี้ไซร้ | สืบมา |
๑๙๒ สรรเพ็ชรพระพุทธเกล้า | เวไนย |
ตรัสเทศนาภา | ษิตซึ้ง |
ควรแก่อุปนิสสัย | สงเคราะห์ |
บุญบาปบอ้ำอึ้ง | อธิบาย |
๑๙๓ พระยาเอระกะปัตได้ | สดับรส |
พระสัทธรรมบรรยาย | อย่างแก้ว |
แจงธรรมจัตุรบท | อุบัติภาพ |
เป็นมนุษย์ในหล้าแล้ว | ว่าบุญ |
๑๙๔ ทั้งหลายได้ด้วยยาก | เหลือเข็ญ |
ผิกุศลค้ำจุน | จึ่งได้ |
อุบัติในภพโลกเป็น | บุญลาภ ยิ่งนา |
สบพบจอมเจ้าไท้ | ทศพล |
๑๙๕ แม้ตนผิวตั้งอยู่ | ในมนุษย์ ชาติแฮ |
จะเสร็จโสดาผล | พักนั้น |
นี่หากว่าเป็นภุช | ชงค์เพศ อยู่นา |
จึ่งบได้ด้วยชั้น | ชาติทราม |
๑๙๖ เพราะว่าตนตั้งอยู่ | ในชาติ |
ดิรัจฉานคตินาม | นาคนั้น |
ไป่สฤทธิ์เพราะอำนาจ | กำเนิด |
แห่งนาคเพศน้ำชั้น | ต่ำชา |
๑๙๗ ถึงโดยเป็นดั่งนั้น | ก็ดี |
พระสัทธรรมสวนา | นุภาพล้ำ |
ผลในปัจจุบันมี | ไม่เปล่า ฟังนา |
ควรคู่กับเนื้อน้ำ | อนุมาน |
๑๙๘ จำเดิมแต่ธได้ | สดับฟัง |
ธรรมสวนาการ | กอปร์ด้วย |
ภาษิตพระศาสน์ยัง | ปีติ ตื่นแฮ |
ไพเราะไป่รู้ม้วย | มากมูล |
๑๙๙ ตั้งแต่ได้สดับรู้ | รสธรรม์ |
นิรประจากความอาดูร | เดือดดิ้น |
เฉกชาติภุชงค์พรรค์ | เพศนาค นั้นเลย |
ในเหตุทั้งห้าสิ้น | ทุกประการ |
๒๐๐ อนึ่งคือไป่ต้องปะ | ฏิสนธิ์ |
ดั่งเพศพรรคนาคาน | ขาดม้วย |
ฤๅห่อนลอกคราบกล | กับนาค อื่นนา |
เป็นสุขดั่งนี้ด้วย | บุรพผล |
๒๐๑ ฤๅลงสู่ห้องนิ | ทรารมณ์ |
สละรวดเร็วกล | นาคนั้น |
หนึ่งคือไป่เสพย์สม | สังวาส |
ด้วยนาคแหน่งน้อยชั้น | ต่ำสูง |
๒๐๒ นัยหนึ่งตนไป่ต้อง | จุติ |
เฉกนาคเพราะบุญจูง | จิตต์ให้ |
เสวยสวัสดิ์สุขสิริ | โสภาค |
จากเหตุทั้งห้าได้ | สุขรมย์ |
๒๐๓ เอาเพศมนุษย์นั้น | เป็นนิจ |
เพราะสบโอกาสสม | จิตต์ไท้ |
เป็นผาสุกภาพจิตต์ | ปราศจาก |
บาปมิตรบกลั้วใกล้ | เกลียดกาม |
๒๐๔ รวมสรุปในเรื่องเบื้อง | บุรพกรรม |
เอระกะปัตความ | ว่าครั้ง |
ครองเพศสมณธรรม | สองหมื่น ปีนา |
อาบัติบได้ตั้ง | จิตต์ทำ |
๒๐๕ มาหมิ่นเสียด้วยว่า | อาบัติ |
เพียงเด็ดใบไม้กำ | หนึ่งน้อย |
ไป่คิดจะเป่าปัด | ปลงปลดเสียนา |
แคลนบาปชั่วนิ้วก้อย | กระทำ |
๒๐๖ ถือบุญถือบวชเบื้อง | บำเพ็ญ |
โดยมากสองหมื่นฉนำ | ขวบเค้า |
อาบัติคาบหนึ่งเป็น | ประมาท เสียแฮ |
เสียชีพจึ่งได้เต้า | ตกเป็น |
๒๐๗ ดิรัจฉานอยู่ช้าชั่ว | พุทธัน ดรแฮ |
จึ่งประสพพบเห็น | พระเจ้า |
ฟังธรรมแต่พอบัน | เทาทุกข์ |
แต่ว่าไป่สิ้นเค้า | ดิรัจฉาน |
๒๐๘ บุญมากบาปน้อยแต่ | นิวรณ์ |
รึงรัดจิตต์สันดาน | ดื่มไว้ |
เจ็บจวบจะเมื้อมรณ์ | ประวัติ |
บุญบาปสิ่งนั้นให้ | ปฏิสนธิ์ |
๒๐๙ รังสฤษดิ์จบสิ้นเรื่อง | เอระกะ ปัตแฮ |
ในทิปนีมงคล | สูตรพร้อง |
หวังเป็นพุทธศาสนะ | ประโยชน์ |
เฉกช่อเพ็ชรร้อยคล้อง | คู่กรรณ |
๒๑๐ ปวงท่านบัณฑิตผู้ | ชำนาญ |
ชำนิกาพย์โคลงฉันท์ | วิพากย์แม้น |
เห็นผิดอย่าหยันวาน | เติมต่อ ให้แฮ |
อย่าขอดอย่าข้อนแข้น | ขิกหัว |
๒๑๑ ระเบียบโคลงดั้นวิ | วิธมา ลีแฮ |
พระหฤไทยบัว | แต่งไว้ |
หวังเป็นซึ่งคุณา | นุประโยชน์ |
แก่ท่านผู้ที่ได้ | อ่านฟัง |
พระหฤไทยได้รับพระราชทานสัญญาบัตรเป็นพระราชเดชภักดี ใน พ.ศ. ๒๔๔๖