ตอน ๑ ตั้งแต่ขุนแผนกลับจากการทัพมาบ้านนางวันทอง

นางวันทองกับนางลาวทองหึงกัน จนขุนแผนกลับบ้านเดิม

ช้า

๏ เมื่อนั้น ขุนแผนเชี่ยวชาญหาญกล้า
ตีเชียงทองได้แล้วกลับมา เฝ้าจอมอิศราปิ่นโมลี
ได้พระราชทานรางวัลครัน เกษมสันต์ผ่องพักตร์เปนศักดิ์ศรี
จะกลับไปสุพรรณบุรี ลงนาวีใหญ่ไพร่เพียบพาย

โล้ ๔ คำ

จำปาทองเทศ

๏ ขุนแผนคลอเคล้าลาวทอง พี่เลี้ยงสองชม้อยเมียงม่าย
หม่อมขุนเย้าหยอกตามสบาย ลาวทองร้องไฮ้อายชาวเรือ
ขุนแผนว่าเมียใครที่ไหนมา เสน่หาเต็มทนจนล้นเหลือ
ต้องนอกผ้าดังว่าเขาถูกเนื้อ ร้องเผื่อเสียก่อนว่างอนจริง
หยอกแหย่แอ๋แหน้อยฤานั่น เชิงชั้นเกือบจะเปนท่านผู้หญิง
สดุ้งพดสามคดระทวยทิ้ง มันเพราพริ้งยิ่งชื่อฤาลาวตาย

๖ คำ

ร่าย

๏ เมื่อนั้น ลาวทองขวยเขินสะเทินม่าย
เหตุว่าหม่อมขุนเปนผู้ชาย ไม่มีอายทำได้ก็ทำเอา
ลาวไทยถ้าเปนหญิงก็เหมือนกัน อย่าเษกสรรรำพรรณเพ้อเลยพ่อเจ้า
เผอิญหม่อมเห็นว่าข้าพริ้งเพรา บุญเราจะได้เปนหม่อมแม่เรือน

๔ คำ

ร่าย

๏ เมื่อนั้น ขุนแผนเสสรวลชวนกลบเกลื่อน
ไม่สบิ้งสบัดขัดแชเชือน อย่าพักเตือนเลยจะเลี้ยงให้เต็มโต
พลพายพายระดมรีบรัด สามเล่มจัดร่ายยาวกราวโห่
เมียผัวต้วขย้อนคลอนยอกโย้ พลาดขยับร้องโอ๋ซวดเซทับ

๔ คำ

ช้าปี่

๏ สิ้นเอยสิ้นแสง จรูญแจรงเมฆเกลื้อนเลื่อนสลับ
รวิวรรณผายผันโพยมพยับ ไถงดับอับแสงรวิวร
บุหลันเลื่อนล่องฟ้าพโยมมาศ โอภาสแจ่มจำรัสประภัศร
แผ้วหล้าดาดาษสสิธร พิศเดือนเหมือนจะวอนให้อ่อนใจ
แส้งตรัจปรัดผิวลาวทองน้อย งามชม้อยนวลหน้าหน้าแข่งไข
สัพยอกหยอกเยียเคลียกันไป ตามแนวในชลมารคไม่คลาศคลา
เพลาดึกลมพัดมาเยนเฉื่อย หนาวเรื่อยน้ำฟ้าต้องหน้า
ชื่นชุ่มเยือกเย็นทั่วกายา สะพักผ้าไม่อุ่นเหมือนเบียดกัน
มืดราตรีผินข้างนี้เถิดนะเจ้า มาคลึงเคล้าเสียให้หายคลายคางสั่น
ทำเอนอิงพิงพาดพัวพัน พูดล้อเล่นขันขันมากลางเรือ

โอ้ ๑๐ คำ

๏ แล้วถอนจิตคิดถวิลถึงพิมพี่ โอ้ป่านนี้จะละห้อยคอยเหลือ
เพลานอนจะโอดอ่อนน้ำตาเจือ เออน่าเบื่อเรือพายไม่ไหวเลย
เขม่นตาข้างขวาให้หวั่นหวาด เอ๊ะประหลาดผิดใจอะไรเหวย
เมียงามละไว้ให้ห่างเชย อกเอ๋ยนานหนักมักมีภัย
ฝากไว้กับแม่ยายแก่ชายเปื้อน ทำอะไรไหลเลื่อนไม่เอาได้
อ้ายขุนช้างทุจริตอิจฉาใจ มันคิดปองอยู่มิได้วายวัน
คนึงพลางทางเร่งนาวาคลา พอเรื่อฟ้าจวนแจ้งแสงฉัน
ภาณุมาศโอภาสรพีพรรณ กับบุหลันเด่นดวงอรุโณทัย
ถึงสุพรรณพลันประทับกับหน้าบ้าน ยิ่งรำคาญร้อนรนหม่นไหม้
ยลบ้านพิศเรือนนี่เรือนใคร หวั่นใจทวีทุเรศอารมณ์รัว

๑๐ คำ

ร่าย

๏ บัดนั้น สายทองพี่เลี้ยงตื่นขมุกขมัว
ลงมาท่าน้ำชำระตัว หมอกมัวเหนเรือใครรอรา
ดูดูรู้ว่าเรือขุนแผน ก็กลับแล่นคืนขึ้นบนเคหา
บอกวันทองพลันว่าหม่อมมา จอดอยู่น่าท่าถึงเดี๋ยวนี้

๔ คำ

ร่าย

๏ เมื่อนั้น วันทองมัวหมองไม่ใสศรี
แจ้งว่าผัวมาก็ยินดี แย้มน่าต่างม้วนมู่ลี่แลดู
เหนเรือจอดอยู่หน้าตะพานใหญ่ มีความไคว่มิได้อดสู
ยินดีปรีดาน้ำตาพรู วางวู่วิ่งสลดกำสรดจร

เพลง ๔ คำ

๏ ถึงเอยถึงท่า ระอาหน้าร้อนรุ่มดั่งสุมขอน
ย่างยาวก้าวลงเรือที่นอน สท้อนถอนซบพักตรโศกาลัย

โอด ๒ คำ

ร่าย

๏ เมื่อนั้น ขุนแผนเห็นพิมน้องหมองไหม้
กำสรดโศกวิโยคยิ่งสิ่งใด เปนไฉนชนี้นะน้องรัก
ผิวช้ำคล้ำกลั้วมัวมลทิน ผันผินมาบอกพี่ให้ตระหนัก
ผัวมาชอบแต่ว่าจะทายทัก ซบพักตร์ร้องร่ำทำไมน้อง
ฤาอาดูรภูลทเวศโรคาไข้ เจ็บช้ำน้ำใจหม่นหมอง
พิมเอ๋ยใยฟูมน้ำตานอง เข้าประคองปลอบเชดชลนา

๖ คำ

ร่าย

๏ เมื่อนั้น วันทองโศกแสนสหัสสา
กราบลงแทบเท้าภัสดา มิใคร่จะเงยพักตราระทมใจ
อึดอัดสอื้นจะออกความ คิดขามอิดเอื้อนไม่บอกได้
ตั้งแต่หม่อมบำราศคลาศไป รักษาตัวกลัวภัยเปนพ้นคิด
อกุศลตามผลาญประหารพลัน ขุนช้างมันคิดคดทุจริต
มารดาข้าถือว่าเปนมิตร เชื่อสนิธมิได้คิดสงกา
เอากระดูกห่อผ้าพามาให้ ว่าหม่อมม้วยบรรลัยสิ้นสังขาร์
เสียทัพยับย่อยชัยปรา ลาวฆ่าแทงตายวายชีวัน
บอกมาแต่เมืองกำแพงเพชร คดีทูลสิ้นเสรจเปนคำมั่น
มันทำร่ำร้องไห้รำพรรณ ข้างบ้านสำคัญว่าความจริง
ชวนกันร่ำระงมซมทั้งเรือน กลาดเกลื่อนสิ้นเสือกเกลือกกลิ้ง
น้องก็เขลาไม่ระแวงแคลงประวิง ร้องไห้นิ่งจนสลบซบซอน
มิได้วายว่างเว้นทเวศ กับสายทองนองเนตรสยดสยอน
ราตรีนองน้ำสุชลนอน ระบมค่อนอกช้ำระยำทรวง
จึงพากันไปดูโพธิ์สามต้น ก็เหลืองหล่นใบกลาดดาดร่วง
ยิ่งทวีทุกข์เพิ่มเติมตวง มาหลงกลเขาลวงนี้เนื้อกรรม
ก็ตั้งใจแต่สร้างการกุศล แผ่ผลไปให้หม่อมทุกเช้าค่ำ
บุญใดที่มิได้เคยทำ ทำแล้วตรวจน้ำอุทิศไป
เสพย์อาหารตรวจน้ำทุกค่ำเช้า จะนอนเล่าก็ไม่หลับใหล
จนไผ่ผอมตรอมซูบระยำใจ น้องล้มไข้ป้ำปิ้มจะวายปราณ
ท่านมารดาหาแพทย์มารักษา หมอใดมาว่าโรคนี้หนักท่าน
เหลือมือจะเยียวยาแล้วอาการ ได้แต่หมอกลางบ้านประทังมา

๒๒ คำ

ร่าย

๏ จึงไปนิมนต์ท่านวัดป่าเลลัยก์ ดูเคราะห์ว่าฆาตใหญ่ไขว่นักหนา
มิจากผัวตัวจะตายวายชีวา เธอจึงเปลี่ยนชื่อข้าเรียกวันทอง
ให้นามต้องชาตาจะซาเคราะห์ จะค่อยเลาะกว่าเก่าจากเสร้าหมอง
อยู่มินานมีพระกาฬประหารน้อง อ้ายขุนช้างจองหองบังอาจใจ
แต่งเถ้าแก่มาขอต่อมารดร พูดจาหลอนหลอกตะคอกใหญ่
ว่ากฎหมายผัวตายณรงค์ชัย กรมวังท่านจะให้ตำรวจมา
เก็บเอาภรรยาเปนม่ายหลวง ตามกระทรวงพระสุรัสซ้ายขวา
แม่แก่ตกใจไม่ไตร่ตรา เขาขอข้ายอมยกให้ขุนช้าง
เร่งรัดมัดให้มาปลูกหอ ไม่รั้งรอหารือน้อยหนึ่งบ้าง
รื้อหอเก่าไปปลูกเสียวัดกลาง ปลูกหอใหม่ไม่ระคางคร่อมลง
บ่ายหน่อยขันหมากมาถึงบ้าน ทั้งสมภารมากลุ้มประชุมสงฆ์
อ้ายหัวล้านป๋อหลอออทนง กับเผ่าพงศ์เพื่อนบ่าวมาหลายลำ
ทุนสินสอดผ้าไหว้มากหนักหนา แม่ข้าโลภเผลอพูดเพ้อพล่ำ
จะให้ข้าแต่งตัวไปซัดน้ำ ฉุดปล้ำลากข้าไม่ปรานี
น้องขืนขัดมิได้ไคลคลา แม่ต่อยตบข้าน่าบัดสี
อยู่มาอีกเจ็ดราตรี จะส่งตัวให้อ้ายผีเข้าหอกัน
น้องไม่ลงปลงใจแขงขัด แม่ผูกมัดเฆี่ยนตีไม่ผ่อนผัน
ขอดค่อนด่าว่าไม่เว้นวัน ไม่เษกสรรความจริงยิ่งเหลือทน
หม่อมมิเชื่อเมียว่าแกล้งว่า เลิกผ้าให้ดูแผลแน่ปี้ป่น
ไม่สิ้นแหนงระแวงน้องต้องจำจน ไม่เปนคนสู่สู้เวราไป
คิดคิดจะใคร่ตายเสียดีกว่า จะดูหน้าต่อตาผู้ใดได้
กอดเท้าหม่อมขุนเข้าร่ำไร สอื้นไห้จะสิ้นสมประดี

โอด ๒๒ คำ

โลม

๏ เมียเอยเมียรัก อย่าร่ำนักผิวพักตร์จะหมองศรี
เดือดอึดอัดฮึดฮัดเต็มที่ ดังอัคคีจุดจ่อรื้อรอคิด
ประโลมปลอบเอาใจภรรยา นี่หากว่าเจ้าเปนคนสุจริต
แม้นชั่วไม่รักผัวมัวมืดมิด จะเชยชิดชอบชู้สำราญครัน
หนึ่งว่าน้อยฤาแน่แม่สหาย ไม่ทันตายฤามาแสร้งแซงสรร
เมียกูรู้อยู่สิ้นทั้งสุพรรณ เหลือที่กลั้นสุดอดจะลดลา

๖ คำ

ร่าย

๏ อ้ายหัวล้านเล่นกันเถิดวันนี้ อีเถ้าแก่แม่พี่ที่ปรึกษา
บรรดาคนสนิธคิดกันมา ห้ำหั่นบั่นฆ่าให้ม้วยมุด
เจ้านายไม่เลี้ยงก็สู้ตาย ถึงแม่ยายก็ฟันเสียให้สิ้นสุด
จับฟ้าฟื้นกวัดแกว่งแต่งตัวยุทธ เรียกบ่าวไพร่อุตลุดอึงคนึง
แต่ต้นโพธิ์ปลูกไว้เสี่ยงทาย ตัดรากทำอุบายใครรู้ถึง
ค้นอาวุธในท้องเรือดังตังตึง บอกกันอึงนายให้ไปล้อมเรือน

๑๒ คำ

ร่าย

๏ เมื่อนั้น ลาวทองร้องห้ามความจะเปื้อน
อย่ามุมุ่นหุนหันฟั่นเฟือน ไม่เหมือนกลางป่าค่าไม้
หม่อมขาฟังเมียก่อนพ่อเจ้า ถ้อยความมันจะเน่าไปไหน
เมืองมีขื่ออย่าถือชล่าใจ ฟังข้างเดียวยังกระไรฤาหม่อมพลาย
ใช่คอเขาเปนทั่งสันหลังเหล็ก ไม่ใช่เด็กเขาจะทำเอาแต่ด้าย
จะกะไรบ้างกระมังข้างเรานาย บุราณว่าหญิงร้ายชายทรชน
ท่านแม่ยายมิปลงใจไฉนฤา เขาจึงรื้อหอห้างเสียจนป่น
หม่อมมีความชอบมาเหลือล้น ทูลยุบลแล้วแต่จะโปรดปราณ

๘ คำ

ร่าย

๏ เมื่อนั้น วันทองยินคำร่ำว่าขาน
เหลียวดูวู่โกรธพิโรธดาน ดั่งประหารสับเสี่ยงเยี่ยงกัน
นี่เมียหม่อมฤาใครที่ไหนมา จึงลอยหน้าห้ามผัวจนตัวสั่น
เทจจริงสิ่งรู้สารพรรณ ชะช่างกลั่นรูปคารมสมชเลย
แน่ะนางลาวอย่าน้าววาจาคม ข้ากับเจ้ามันไม่สมกันแม่เอ๋ย
เซซัดหัวพลัดข้าไม่เคย รู้ว่าเหวยว่าหลงเข้าดงรัก
ก็ตามทีชอบอยู่ประสีประสา ความเขาว่าการอะไรมาสลัก
มาจ่อไต้ตำตอเข้าต้ำฮัก ชอบฤาหม่อมไม่ทันทักนางเมียงาม

๘ คำ

โลม

๏ เมื่อนั้น ขุนแผนร้องฮาฟังพี่ห้าม
อย่าโมโหโยก่อนจะเล่าความ ไม่ไต่ถามเลยอะไรมาอึงคนึง
นางคนนี้ลูกเจ้าเมืองจอมทอง ปึกแผ่นพวกพ้องเขาก็เกือบขึง
ทำคุณกับบิดาเขาพอพึง เขาจึงยกลาวทองให้มาเปนเมีย
พี่พามาหวังจะให้คำนับเจ้า อะไรเล่าพอจ่อจอดเรือจะเสีย
ยังฟังความเมียข้างบ้านอยู่ปัวเปีย ไม่ทันเล่าเรื่องเมียใหม่ได้มา
เท่านั้นเถิดน้องพี่อย่าวีวุ่น รกคนเปนทุนดีกว่ารกหญ้า
หนึ่งก่อนสองตามลำดับมา ลาวทองอย่าช้าไหว้วันทอง
วันทองเล่าเจ้าอย่าหวงหึง โกรธขึ้งขอเถิดเจ้าทั้งสอง
จงสมัคสมานปรองดอง มาตรึกตรองเรื่องความมันหยามเรา

๑๐ คำ

โลม

๏ ร้องเอยร้องว่า มันไม่น่าแล้วอย่าเลยเจ้า
ชั่วดีช่างข้าเถิดทำเนา นางเมียเบ่าแล้วฤาน้อยฤาแน
จริงอยู่แต่พอจอดทั้งตอดขบ ชวนกันเกลื่อนเลื่อนกลบลบแผล
ย่อมว่าผัวเปนประทัดซื่อสัตย์แท้ ทีนี้มันแปรเปนธนูชะดูตรง
ไม่พักพร้องว่าพวกพ้องมั่งคั่ง ถึงเซซังก็ไม่สูญประยูรหงส
ข้าดอกคะมันประดาดชาติเผ่าพงศ จึงได้หลงตามหม่อมสู้เสียตัว

๖ คำ

โลม

๏ วันเอยวันทอง ให้ปรองดองเอออะไรไม่ฟังผัว
ก่อนไม่เคยเลยว่ารู้เกรงกลัว ฤาแกล้งยั่วจะให้โกรธา
เอนดูข้าหน่อยเถิดแม่คุณ ถึงไม่คิดบาปบุญเห็นแก่หน้า
เออยิ่งห้ามฤายิ่งหยามไม่ลดลา อย่าจัดจ้าไปเลยนักจะหักค้าน
ธรรมดากระเบื้องร้อนจะรานร้าว มันจะฉาวอึงอายเขาชาวบ้าน
ลุกยืนเผลไผล้ไม่เปนการ จะรำคาญสองซ้ำระยำมัว

๖ คำ

ร่าย

๏ เมื่อนั้น ลาวทองร้อนเร่านั่งเกาหัว
นึกในใจกูจะให้มันสั่นรัว สบตาผัวทำกลัวชำเลืองแล
ผัวเมินปากขยิบกระซิบด่า ไว้กิริยาว่าผัวรักขึ้นเคียงแค่
แอบหลังผัวเล่นตัวระทวยแท้ ทำปากแบ้ยั่ววันทองค้อนควัก

๔ คำ

ร่าย

๏ ดูเอยดูดู๋ ยิ่งกว่าใครไม่รู้เลยทำหนัก
สมแล้วหม่อมพร้อมเพรียงจะเคียงพักตร มันค้อนควักอยู่ข้างหลังนั่งด่า
รู้ฤาไม่แอบกระซิบพิไรบ่น หม่อมเคยทนอย่าให้ล่วงมาถึงข้า
ว่าจะให้เมียไหว้แต่วาจา มันเล่นหน้าเล่นตัวรู้กลัวใคร
ชกสีสะแล้วจะให้มาลูบหลัง พี่น้องเอยใครชั่งจะอดได้
ไม่หย่อนหยุดกระซิบว่าฤาด่าใคร เปนอะไรก็เปนไปเถิดวันทอง
ถึงจะไหว้กูก็ไม่ปราถนา พามาคุมเหงถึงบ้านช่อง
หม่อมขาหม่อมถึงจะไม่เลี้ยงน้อง ฆ่าเสียเถิดอย่าให้ต้องกินระกำ
ทีนี้อีลาวนุ่งซิ่นจะบินร่อน หม่อมเตว็ดลงนอนให้เหยียบย่ำ
นิ่งอยู่ใยมิเล่นเต้นรำ มายืนก้มหน้าคว่ำอยู่ทำไม

๑๐ คำ

ร่าย

๏ สุดเอยสุดกลั้น ลาวทองเคี้ยวฟันหมั่นไส้
มารยาบีบน้ำตาต่อไป ข้าเปนลาวชาวไพรดอกแม่คุณ
ไม่ได้ว่าอะไรหน่อยหนึ่งเลย อกเอ๋ยเธอเปนไรจึ่งเฉียวฉุน
พลอยว่าข้าน้อยคิดจะเอาบุญ เหนหม่อมหมุนมุโกรธวุ่นวาย
จะไปรอนฟอนฟันเขาทั้งบ้าน ใช่การจะพากันฉิบหาย
อย่างอื่นไหนคุณใหญ่ท่านแม่ยาย รอดตายเพราะใครห้ามไม่ลามปาม
คิดอยู่จะฝากตัวคุณเมียหลวง มิใช่จะจ้วงล่วงเกินไม่เข็ดขาม
ไม่พอที่เลยจะก่อข้อความ ไหว้ไม่เอาก็ตามเถิดเจ้าคะ
ฉันมิได้ถือเนื้อถือตัว สุดแต่จอมหม่อมผัวไม่เกะกะ
ไม่รู้ว่าจะไขว้ไล่รานระ เหยียบย่ำผัวเปะปะพันธุ์ไม่เคย
แม้นรู้กระนั้นจะสรรหา ไม้ขอนสักนองามาแม่เอ๋ย
มากำนัลกันไขว้ให้สะเบย ไม่มีสิ่งใดเลยติดมือมา
เมื่อหม่อมผัวจะพาข้ามานี้ ไม่บอกว่าเมียมีคุณเจ้าขา
ชอบผิดจงคิดกรุณา ไม่เมตตาสักคราวลาวชาวดง

๑๔ คำ

ร่าย

๏ ถ้อยเอยถ้อยคำ ส้อนเงื่อนเกลื่อนทำให้ผัวหลง
ต้องเสน่ห์ถูกสนัดแล้วมั่นคง จึงงวยงงงมงายว่ากันดี
ผัวข้าฝ้าขึ้นเหนฤาไม่ นวลที่หน้านี้มิใช่ฤาหม่อมพี่
แต่กลับทัพก็ยับมาเตมที น่าบัดสีมันให้กินสิ้นแล้วเคอะ
ให้อีลาวชาวดอนมาร่อนร่า เชิดชูหน้าราคีเปื้อนเปรอะ
เอียงคว่ำไปแล้วเจ้าจอมเลอะ เท่านั้นเถอะพอรู้เท่ากัน
เหม่อีลาวปากยาวว่าเมื่อกี้ แสร้งเษกสีนองาสูงสรร
เมื่อไรเล่าจึงจะเอามากำนัล กูจะกลั่นช้างงาไปร่ารับ
โฉมนางวางมาแต่จอมทอง กว้างขวางพวกพ้องให้ขึ้นขับ
คดคมคารมชเลยทัพ รู้แล้วเจ้าเขานับว่าใจบุญ
ถ้าไม่ห้ามผัวไหนจะหยุดโย จะเที่ยวพาโลแกว่งหอกออกวุ่น
ไล่แยงแทงทิ่มจิ้มเปนจุณ นี่ไม่หมุนไปได้เงือดงด
มารดาจึงได้รอดวอดวาย เพราะนางลาวระงับพลายหายหด
ชนะผัวผัวกลัวจึ่งละลด เคยข่มกดกันมาถูกท่าทาง
ดีจริงยิ่งหญิงในแผ่นภพ จะเชิดชื่อลือจบว่าคู่สร้าง
หม่อมผัวกอดไว้อย่าได้วาง มันยอดนางใต้หล้าไม่มีใคร

๑๖ คำ

ร่าย

๏ หม่อมเอยหม่อมขา ได้ยินคุณภรรยาฤาหาไม่
ยืนลืมตากะปริบพริบอยู่ใย ทนไม่ได้แล้วคะไม่ละกัน
เอออะไรกระนี้ท่านผู้หญิง ขยันยิ่งสั่นรัวตัวสั่น
เหนอดอ่อนยิ่งรอนสีสะชัน ปากคันคอยอยู่กี่เวลา
พอผัวถึงกระทั่งปึ่งตะบึงบอน ข้าฉอ้อนบรรยายขายน้ำหน้า
ทำเคละคละปะเปอะเปรอะรา ไว้คอยท่าท่านผัวไม่มีอาย
ชอบแต่ล้างบ้านเรือนหายเปื้อนก่อน จึงขอดค่อนคนอื่นนางตื่นม่าย
ผัวไปทัพไม่ทันกลับรู้ข่าวตาย ช่างเชื่อง่ายปักเลนโอนเอนรัว
กลับว่าข้อนี้นี่กว้างขวาง จริงคะเลี้ยงช้างไว้ท่าผัว
ช้างคนช้างพลายมากหลายตัว จึ่งรื้อเรือนทะลายรั้วแคบไม่พอ
ขอบใจพี่จะให้ไปรับข้า สุดปัญญาที่จะขี่ไม่มีขอ
อย่าให้ไปเลยเอาไว้กันตอ เตาหม้อหอถอนไม่สิ้นปักดินลึก
ต้องเสนียดถูกสนัดกลัดมัน ดีฉันจึงทำเสน่ห์มากลางศึก
ป่วยไข้ไผ่ผอมแต่ลำนึก จริงอยู่คะยิ่งกว่าหมึกเขม่ามอม
จะขยำน้ำแช่ก็ไม่หาย ถึงส่ายน้ำดอกไม้ก็ไม่หอม
สบู่ฟอกปอกเปื้อนเปรอะปอม อย่าพักย้อมเลยยังมัวกลั้วมลทิน
ชามแตกบัดกรีไม่สนิธ ต่อไม่ติดแล้วแผลไม่อยากสิ้น
ซ้ำว่าข้าเอาสิ่งชั่วให้ผัวกิน ยังแต่จะบินขี้คร้านตบมือ
หมอทายว่าเคราะห์ร้ายไม่ยั้งหยุด เสาร์อุจลัคณ์จมไม่รู้ฤา
ทั้งสุพรรณมันสนั่นออกระบือ อย่าพักอื้อมันไม่กลบลบรอย

๒๐ คำ

๏ แค้นเอยแค้นนัก อีผัวรักน้อยฤาไม่ราถอย
เข้าแฝงหลังเมียงเคียงตะบอย คารมราวกับทองย้อยเจียวขันคู
ดีแล้วจะได้เห็นฝีมือกัน เรียกสายทองอี่จันอี่ปอยหนู
นิ่งใยลงมาหวามาช่วยกู ตบให้รู้จักสำเหนียกมันฮึกดี

๔ คำ

๏ บัดนั้น สายทองพี่เลี้ยงกับทาสี
อยู่บนตะพานเตรียมคอยที ก็โจนลงนาวีพร้อมกัน

๒ คำ

๏ สายเอยสายทอง ชอบแต่ห้ามปรามน้องผ่อนผัน
ใยจึงพากันเปนบ้าดุดัน นี่สำคัญอย่างไรจึ่งวุ่นวาย
ว่าพลางกั้นกางขวางหน้า ร้องอย่าอย่าทำมันไม่ได้
เหลืออดกูไม่ลดทั้งบ่าวนาย มิเกือบตายอย่าประมาทฝีมือกู

๔ คำ

๏ ไม่เอยไม่ฟัง ปลอบก็ช่างห้ามก็ช่างอย่าพักขู่
เอาวาก็รากันวิ่งพรู บ่าวนายจู่ลู่ไล่ลาวทอง

เชิด ๒ คำ

๏ กล้าเอยกล้าดี จะสู้ตายที่นี่ลงเปนสอง
กอดผัวไว้ไม่วางทางร้อง ข่มเหงน้องจริงจริงพ่อคุณ
คนเดียวช่วยกันเปนสามสี่ ราวกับฝูงยักขินีเจียวนี่วุ่น
ทำอะไรก็ทำเถิดตามบุญ โทโสหมุนกึกกักหักฮึก
แม้นทำข้าไม่ได้ก็ใช่คน ใจพรั่นปากบ่นเก่งกึก
เนื้อเต้นเอ็นขึ้นคารมคึก ครั้งนี้แลจะทำศึกกับนางยักษ์

๖ คำ

๏ บัดนั้น สาวเวียงสาววันพรั่นหนัก
พี่เลี้ยงคอยเคียงใจทึกทัก เข้ามาใกล้หมายจะผลักให้ตกน้ำ
ถึงสี่เราสามก็ไม่กลัว คาดเรี่ยวแรงตัวเหนพอปล้ำ
ผิดนักย่อยยับเยินระยำ สิ้นบุญสิ้นกรรมกันวันนี้

๔ คำ

ศัพท์ไทย

๏ อีเอยอีลาวทอง อย่าพักจองหองเสียดสี มึงท้ากูดี ตีให้หนำใจ สายทองพี่เลี้ยง ก้าวเฉียงเลี่ยงไล่ สองข้างวิ่งไขว่ ที่ในนาวา กลัวคุณผู้ชาย ตายแล้วขี้ข้า คุณนายโกรธา พว้าพวัง ช่วยกันพรึบพร้อม ล้อมหน้าล้อมหลัง ห้ามผัวไม่ฟัง ตึงตังโลดโจน

๘ คำ

รื้อ

๏ พิมเอยพิมพี่ ทำไมนี่จะมาเต้นเปนเล่นโขน กั้นไว้ไล่โดน เผ่นโผนดึงดัน ดูเอาเถิดฤา เท้ามือเหลือคัน พลัดไปข้างนั้น กลับหันเวียนวง เรือเกลือกเสือกพลาด อีทาษล้มลง ขุนแผนถีบส่ง จมพงชายเฟือย พี่เลี้ยงลาวทอง ปัดป้องจนเหนื่อย ผ้าพลิ้วปลิวเปลือย มึนเมื่อยทุบตี นางไทยไล่ตบ ลาวหลบหลีกหนี ว่องไวเต็มที่ ต่างดีด้วยกัน ผัวไล่เปะปะ ปะทะพันลวัน ผลักนี่ตีนั่น ขยันจริงเจียว

เชิด ๑๒ คำ

รื้อ

๏ คุณเอยคุณชาย คุณหญิงแสนร้ายตาเขียว รุมข้าข้างเดียว กราดเกรี้ยวโกรธา ทั้งข้าทั้งไทย มาไล่ตีด่า พาลเอาผิดข้า ต่อหน้าพ่อคุณ

๔ คำ

โอ้

๏ พ่อเอยพ่อเจ้า เหนฤาไม่เล่าใครก่อวุ่น
อย่าเข้าใครออกใครเถิดเอาบุญ น้องก็ไช่ชาติสถุลเซซัด
บิดามารดายอยกให้ ใช่เกิดในกระบอกไม้ได้สลัด
ฉันมิใช่แตกตื่นชเลยพลัด ไม่เคยพบจ้านจัดเช่นนี้เลย
อยู่บ้านข้าแต่น้อยมาจนใหญ่ ไม่มีใครได้ข่มเหงกระนี้เหย
จะดื้อด้านไปไม่ได้ด้วยไม่เคย อกเอ๋ยกรรมกรรมมาจำเมือ
กอดเท้าผัวโอดอ้อนฉอ้อนไห้ นี่อะไรจะให้เนื้อมาสู่เสือ
ตายจริงแล้วไม่ทันขึ้นจากเรือ จะเปนเหยื่อนางไทยใจยักษ
แสร้งทำกำสรดโศกา มารยาไม่ชั่วเล่นตัวหนัก
พิไรร่ำน้ำเนตรนองพักตร์ จะลาหม่อมทั้งรักแล้วจำตาย

๑๐ คำ

๏ วันเอยวันทอง เอออะไรจองหองใจหาย
จะพาลคิดหยิบผิดด้วยอุบาย แยบคายหญิงร้ายแสนกล
พอถึงอ้อนตะบึงตะบอนบอก ทำย้อนยอกน้อยฤาสับสน
รู้สิ้นแล้วลิ้นลาวน สายทองมึงก็คนร่วมคิด
จะป้องปิดมิดควันกระนั้นฤา จึงอึงอื้อฉอเลาะลบกลบเอาผิด
ไม่ทันรู้เลยเจ้าเหล่างูพิษ เชื่อสนิธคิดจะตอดไม่รอดตัว
แหมแม้นี่แน่นางคนดี เขี้ยวมีขบได้ทั้งก้นหัว
ปลอบโดยดีไม่มีความเกรงกลัว แกล้งเย้ายั่วผัวให้หมางใจ
กูรู้เท่ามึงแล้วพิมเอ๋ย จะไห้เลยตามเลยหาผัวใหม่
ลงมาต้อนตีปลาหน้าไทร ไม่ให้ขึ้นไปฤาที่บนเรือน
จักพบอ้ายขุนช้างมากางกั้น เออกระนั้นแล้วซีอีคนเปื้อน
ชอบชู้แล้วมิหนำทำบิดเบือน ชั่วกระไรหนอช่างเหมือนกากกากี
ตายเสียเถิดจะอยู่ดูหน้าใคร เลี้ยงเจ้าไม่ได้แล้วบัดศรี
พระสมุทรเจ้าเอยลึกเต็มที่ ก็ไม่เหมือนนางนี้เลยลึกซึ้ง
กว้างขวางปากอ่าวแล่นล่องเสียด ก้าวกระเดียดสุดดิ่งจะทิ้งถึง
จะฝ่าคลื่นฝืนละลอกข้ามตะบึง กูกลัวลมเพชหึงจะรุมร้อน
โบราณว่าได้คิดไม่ผิดดอก แต่ด้ามหอกไม่ทันพ้นรั้วก่อน
หญิงชั่วน้ำกลั้วใบตองบอน จะราร่อนคบชู้มาสู่เชย

๑๘ คำ

๏ หนักเอยหนักหนา อีลาวฉอ้อนเปนบ้าไปแล้วเหวย
พล่ามน้ำลายตะกายเปล่าเดาเลย อกเอ๋ยไม่ชั่วเปนตัวเปน
เจ้าลิ้นทองหกหันผูกพันพัว ปั้นน้ำเปนตัวใครบอกเหน
ยิ่งแค้นหนักแสนสาน้ำตากระเด็น ว่ากันเล่นเปล่าเปล่าเจียวเจ้าพลาย
รู้แล้วว่าสางจะร้างที่ ก็บอกแต่โดยดีจะหนีหน่าย
เจ้าเศษราชสีห์ทำตะกาย จะกัดหินให้ทะลายถ้ำพัง
แม้นพ้นมือวันทองไปไม่ช้า หม่อมข้าจะเชิดหน้าเปนพระงั่ง
จะเปนเอี่ยวพญาโด่งดัง เพราะอีลาวเซซังมันชุบเลี้ยง
สมน้ำหน้าหม่อมผัวหัวแดง นางกระเหว่าระดูแล้งจะส่งเสียง
วาสนาข้าสิ้นแล้วไม่ควรเคียง เท่านั้นเถิดข้าไม่เถียงแล้วตามที
จึงว่าแก่สายทองจองจ้าน ล้างตะพานบ้านเรือนเอาตีนสี
ได้ตรวจน้ำคว่ำกระลากันวันนี้ อันจะกลับคืนดีอย่าสงกา

๑๒ คำ

ศัพท์ไทย

๏ น้อยเอยน้อยฤา กล้าปากกล้ามือเอาสิหวา ชักดาบแกว่งมา เงื้อง่าจะฟัน ลาวทองทำกลัว ห้ามผัวตัวสั่น เข้าขวางกางกั้น ตัวขยันซ่อนกล ในใจไม่ละ เอานะแยบยล ทำดีทีชน สายสนวิงวอน

๖ คำ

๏ พ่อเอยพ่อคุณ อดไจได้บุญจงงดก่อน
สุภาษิตพะพาลอย่าราญรอน สุนัขร้ายเห่าหอนจำหนีตัว
สิ่งชั่วเหลวไหลอย่าไล่ราน จะกระเดนเซนซ่านระคายกลั้ว
จะพลอยเปรอะเลอะละมอมมัว น้องจะเปนคนชั่วยุยง
ถึงเธอด่าว่าไม่เถือเธอ ด้วยเปนคนมะเมอลุ่มหลง
ถือว่าเปนเมียเดิมเหิมทนง ไม่คิดเลยว่าหงส์หลงลงเลน
ชิงดาบที่มือมาใส่ฝัก เอนดูอย่ารั้งหยักถกเขมร
เข้ายื้อแย่งเปลื้องลดปลดกระเบน อย่าให้น้องมีเวรเวราไป

๘ คำ

๏ ได้เอยได้ฟัง วันทองไม่ยั้งอดได้
ยิ่งกว่าโกร่งโพลงพลุ่งดังเปลวไฟ ร้อนกลุ้มสุมไหม้อุระรุม
ร้องว่าอีเกรงเวรบำบัดบาป มึงส้อนหยาบมิให้ใครเข้าหลุม
ชิงผัวเขาไปได้ไว้กำกุม รอดนรกหลายขุมแล้วอีลาว
ผัวมึงจะได้พลอยขึ้นสวรรค เหาะด้วยกันเถิดเชิดฉิ่งฉาว
ถูจะคอยชมบุญมึงสักคราว ผัวอีลาวเจ้าจะเลี้ยงเปนออกญา
ได้ความชอบตีเชียงทองถวาย ได้ย่ายายมาประดังพรั่งหน้า
คิดบ้างเปนไรแต่หลังมา ชอบมิดปิดตาเสียแรงเรา

๘ คำ

๏ วาเอยวาจา หยาบช้าน้อยฤาฟังดูเจ้า
อย่าห้ามเลยตามทีเถิดทำเนา มันแกล้งเย้าเขี่ยฝอยให้ไฟฮือ
ชิงดาพมาไม่ได้จากลาวทอง ฉวยได้ไม้ตีฆ้องขว้างดังหวือ
วันทองหลบล้อล่อตบมือ ไล่ตีกันอึงอื้อพันลวัน

เชิด ๔ คำ

๏ หวาดเอยหวาดจิต ร้องกรีดวิ่งหนีตัวสั่น
กับสายทองโดดขึ้นจากเรือพลัน กระทืบตะพานลั่นสนั่นไป

เพลง ๒ คำ

๏ มาเอยมาถึง ขึ้นเรือนรำพึงถอนใจใหญ่
ทุ่มทอดตัวนอนเร่งร้อนใจ ฉุกคิดขึ้นได้สิได้เกิน
โทโสเจ้ากรรมทำแค้นเขญ ไม่ควรเปนฤาเปนจึงค้างเขิน
ผัวมาดีใจไปเชื้อเชิญ กรรมผเอิญทำให้ตัดรอน

๔ คำ

โอ้

๏ โอ้พ่อพลายแก้วของเมียเอ๋ย ใครเลยจะช่วยห้ามไว้ก่อน
ให้งดโกรธขอโทษวิงวอน โอดอ่อนรำพรรณร่ำไร
วันทองเอ๋ยทำชั่วผัวได้ห้าม วู่วามไม่ลดอดได้
จนเธอเคลือบแคลงแหนงใจ สิ่งดีทำไว้ไพล่พลิกแพลง
ไม่ชั่วก็ชั่วแล้วครั้งนี้ เหมือนจันทรอับศรีสิ้นแสง
วลาหกตกสิ้นระดูแล้ง นับวันแต่จะแห้งร้อนแรงรุม
ผลไม้เคยงอกใบระบัดช่อ ผลิผลเน่าฝ่อจะหล่นสุม
ศกุนชาติจตุบาทร้องประชุม จะแย่งเหยียบจิกกลุ้มระยำเยิน
แสนซื่อสุจริตไว้ท่าผัว มิได้ปนระคนชั่วระหกระเหิน
หมอทายทัดไม่ประหยัดระมัดเกิน เพราะผะเอิญใจเรวไม่รั้งรา
ถึงผัวรักก็คงเปนเมียน้อย ค่อยค่อยช้าช้าจะดีกว่า
เหยียบเต่าให้เต็มบาทา คั้นลูกศกุนาไว้ในมือ
มิวันนี้วันโน้นจะโดนปะ คงจะมีวันพระไปไหนฤา
ด่วนได้ทำใจฮึดฮือ อึงอื้อรีบโกรธจะโทษใคร
อึดอัดตัดรอนกันเสรจสิ้น จนให้มันชิงบินเอาไปได้
อกเอ๋ยจะคิดฉันใด จนใจโอ้ไห้พิไรครวญ

โอด ๑๖ คำ

ร่าย

๏ แค้นเอยแค้นจิต สุดคิดฟูมฟองนองกำสรวญ
เปนสตรีสามีร้างเรรวน ชายจะลวนหยามย่ำระยำเยา
แล้วขุนช้างจ่อร่อรออยู่นี่ จะได้ทีมันแล้วทีนี้เจ้า
ท่านแม่ก็โลภมิใช่เบา จะสมคเนเต้นเร้ายงยุ
เมื่อรูปทรงไม่น่าเสน่หา ราวหนึ่งว่ากากเก้อมะเมอดุ
กิริยาหยาบคายมุทลุ หัวหูดังสุด้วยตาลยี
สุ้งเสียงคลื่นไส้น่าอาเจียน ผัวงามจะเปลี่ยนอ้ายผัวผี
พิมเอ๋ยจนใจแล้วเตมที ตายเสียเถิดเหนดีกว่าเปนคน
จะดูหน้าใครได้ย่านสุพรรณ แต่เขาแลตากันแสยงขน
สุดที่จะดื้อด้านทานทน ผัวสองเปลี่ยนปนยังลืมตา
จะซ่อนปิดมิดมุดไว้ที่ไหน ปะเข้าเมื่อไรเหมือนแก้ผ้า
จะได้ความอายอิดระอา โอ้ว่าพ่อพลายของเมีย
แต่ถนอมกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงน้อง เกินน้อยมิได้พร้องสู้นิ่งเสีย
ไม่ว่างสมชมเคล้าเย้าหยอกเยีย หนักเบาไกล่เกลี่ยอดลด
ครั้งนี้พิมผิดจริงจริงพ่อ หม่อมก็รออยู่เหลือที่จะอด
น้องก็ไม่นอกในน้ำใจคด เพราะกฎกรรมซ้ำระยำแล้ว
ทำไฉนผีสางเทวดา เชิญช่วยไปลาหม่อมพลายแก้ว
จะจำตายห้องห่วงด้วยบ่วงแร้ว มาเผาเถิดจะแพ้วอศภคอย
สุดสิ้นชีวันแลจะเหน ดีร้ายตัวเปนชั่วถ่อย
ชาติโน้นอย่าขอพบกลบรอย อ้ายขุนช้างแต่ชื่อหน่อยอย่าได้ยิน
จะขอคอยพบแต่หม่อมพลายแก้ว แสนเสน่ห์สุดแล้วไม่สูญสิ้น
กว่าจะล่มฟ้าแดนแผ่นดิน เทพเจ้าอมรินทรเปนพยาน
แค้นคิดพยาบาทลาวทอง ถึงตายแล้วคงจะปองมาประหาร
หักคอให้ม้วยวายปราณ โมโหดานเดือดใจมันไส้พุง
แล้วชักผ้ามาตะบิดผูกคอ ไม่ย่อท้อถอยหลังเหมือนอย่างกุ้ง
รวบรัดกระหวัดเข้ากับราวมุ้ง กระโดดผลุงลงไปจะให้ตาย

เชิดฉิ่ง

๏ พลัดตกจากเตียงเสียงต้ำตึง เงื่อนหลุดลุกทลึ่งคะมำหงาย
ผีตายโหงเข้าซ้ำประจำกาย แทบจะตายวายวอดมอดม้วย

๒ คำ

๏ บัดนั้น สายทองวิ่งถลาเข้ามาช่วย
เหนวันทองหอบหายใจรวย ยังระหวยร้องบอกกันออกอึง
บ่าวไพร่ตกใจไขว่นักหนา วางวิ่งวุ่นมาโดนฝาผึง
ตกล่องล้มประทะกันตังตึง ใครถึงขยำขยับจับเทพจร

๔ คำ

๏ เมื่อนั้น สีประจันนอนสายไม่ตื่นก่อน
เสียงอึงทลึงมาถอดกลอน มัวนอนหัวหกตกกระได
เมื่อยมึนขัดขาน่าตะโพก ยืนโขยกขืนเขย่งไปไม่ได้
เก่นตะโกนโวยเหวยมันทำไม ลูกกูเปนไรเร่งบอกมา

๔ คำ

๏ เมื่อนั้น ขุนช้างนอนหอรอคอยท่า
กลางคืนรื่นรมย์ชมนึกมา หลายราตรีตากตาแก้วตาพราว
คืนวันจวนรุ่งเคลิ้มหลับใหล จนตวันโด่งไกลเขาฉ่าฉาว
ตกใจตื่นไม่รู้เรื่องราว โดดจากหอพุ่งยาวลงมาดิน
ประจวบจอมคร่อมเท้าสีประจัน หกหันกลับหงายพลิกกายผิน
ขอโทษแม่เถิดกลัวผีพลอยกิน จึงชิงบินข้ามเสียให้สิ้นแคลง
จะลุกต่อไปอีกก็ไม่ได้ ขัดสบักยอกไหล่ตัวแขง
ทำช่วยนวดสีประจันฟั้นแรงแรง แม่ด่าว่าเกินแกงไปแล้ววะ
ขุนช้างว่าฉันตะบันฟั้นหาเส้น ปะแต่เอนกับกระดูกเกะกะ
เส้นจมเสียหมดหดแล้วคะ ขยำกันเปะปะอยู่สองคน

๑๐ คำ

๏ บัดนั้น สายทองแยบคายสายสน
แก้วันทองน้องคลายไม่วายชนม วิ่งด้นรีบมาที่ท่าน้ำ

๒ คำ

ชุบ

๏ ถึงเอยถึงท่า มายาแกล้งพิไรร้องร่ำ
จะลงไปในเรือกลัวระยำ หม่อมพลายจะตีซ้ำหวั่นหวาดใจ
อยู่แต่บนตพานร้องว่า ใครอยู่น่ากันยาเรียนให้ได้
ว่าแม่วันทองจะบรรลัย กลับขึ้นไปจากเรือผูกคอตาย
อุตลุดพันลวันช่วยกันแก้ นิ่งแน่นวดฟั้นยังไม่หาย
ไปดูใจน้องน้อยเถิดคุณชาย จะวอดวายเสียแล้วครั้งนี้

๖ คำ

๏ เมื่อนั้น ขุนแผนแว่วสดับตรับถ้วนถี่
จำเสียงได้สายทองมันตัวดี เอ๊ะอีนี่มายาฤาว่าจริง
ยังอาลัยถอนใจรื้อดานโกรธ รุมพิโรธตริตรึกนึกนิ่ง
เปลี่ยนใจไปมาหวั่นประวิง ดีก็มีหลายสิ่งน้ำตาเล็ด

๔ คำ

๏ เมื่อนั้น ลาวทองร้องว่าฉาไม่เข็ด
หม่อมร้องไห้ฤาไรเอามือเช็ด จะกลับขืนบรเพ็ดฤาคุณชาย
ขมสเดามะระก็กลืนบ้าง บรเพ็ดพุงช้างขมฉิบหาย
หม่อมจะขืนเลี้ยงคุณแสนร้าย ข้าจะโดดน้ำตายเสียแล้วคะ

๔ คำ

๏ เมื่อนั้น ขุนแผนพริบไหวไม่ดอกหนะ
ผงเข้าตาระคายเคืองจริงวะ นี่ขยะอะไรปลิวมา
ชิชะจะโดดน้ำตาย ไม่วอดวายกลับคืนมาหาข้า
แล้วจึงค่อยทำใหม่ให้เตมประดา เมื่อไรเล่าจะท้ากูดำน้ำ
แล้วร้องว่าแนะนางสายทอง หญิงชั่วกูไม่ปองอย่างพักร่ำ
ช่างใครตามบุญตามกรรม มันตัดรอนตรวจน้ำคว่ำกระลา
มาบอกกูใยอีคนพล่อย น้อยฤาเมื่อตะกี้ใยมิว่า
แต่เดิมเสริมส่งกันลงมา ฝูงอีกาดำปลอดตลอดใจ

๘ คำ

๏ ว่าเอยว่าแล้ว พลายแก้วจึงสั่งบ่าวไพร่
ผูกม้าช้างเรวกูจะไป บ้านเขาชนไก่ประเดี๋ยวนี้

๒ คำ

๏ บัดนั้น นายหมวดบ่าวไพร่อึงมี่
ผูกช้างม้าวุ่นวิ่งเปนสิงคลี ของดีดีบรรทุกสัปคับ
ที่คอนหาบใส่หาบจัดยุ่ง ไถ้ถุงคาดเอวเสรจสรรพ
เตือนกันว่าอย่าให้อะไรยับ ได้มาแต่ทัพฝากภรรยา

๔ คำ

๏ เมื่อนั้น ขุนแผนแสร้งชื่นฝืนหรรษา
ชวนลาวทองให้เสพย์โภชนา แล้วชำระกายาเยือกเยนใจ

๒ คำ

ชมตลาด

๏ ขุนแผนนุ่งยกทองเจดสี พื้นเขียวอย่างดีระกำไหม
ลาวทองนุ่งหิ่งห้อยชมไพร แต่งตัวอย่างไทยวิลัยวรรณ
ขุนแผนรัดรัดประคดหนามขนุน คาดเขมขัดลายดุนดวงกุดั่น
ลาวทองใส่เสื้อหงอนไก่งามครั้น ขลิบคั่นสีฟ้าดวงพุดตาน
ขุนแผนใส่เสื้อเข้มขาบอย่างดี พื้นแดงเกล็ดถี่เกี้ยวส่าน
ดิ่งตะกรุดประคำทองของประทาน ใส่อวดชาวบ้านโพกขลิบครุย
ลาวทองห่มแพรสีน้ำเงินเพลาะ ดวงเหมาะหลินปากเถาดูพราวฉุย
มุ่นมวยห้อยพวงดอกไม้กรุย ปักปิ่นกันลุ่ยเรือนรังแตน
ช้องหูลานคำสำหรับใส่ สอดกำไลเกลียวสุวรรณพันปลายแขน
มิเสียทีพามาแต่ต่างแดน เมขลาก็จะแม้นละกลกัน

๑๐ คำ

ร่าย

๏ ครั้นแล้วขึ้นจากนาวี จะมาขึ้นกรินีขมีขมัน
พี่เลี้ยงสาวเวียงสาววัน ก็ผายผันตามมาทั้งสองคน

๒ คำ

เสมอ

๏ ครั้นเอยครั้นถึง ริมบึงนอกรั้วแนวถนน
ที่ประชุมช้างม้าไพร่พล ต่อถนนหลังบ้านจะผ่านไป
ขุนแผนลาวทองร่วมช้างกัน สาวเวียงสาววันจัดช้างให้
พังละว้าได้มาแต่อุไทย สั่งคนขี่ขับให้ทันช้างกู
ยืนช้างจัดแจงหาบคอน ตรงกับเรือนที่นอนวันทองอยู่
ถอนใจอาลัยเหลียวแลดู สายทองบอกจักใคร่รู้ว่าจริงเท็จ
คิดในใจใคร่ให้ไปไถ่ถาม หักใจตามแต่ถนัดมันตัดเสร็จ
ชลนัยน์ไม่ฟังหลั่งไหลเล็ด ลอบเช็ดมิให้เหนอายลาวทอง

๘ คำ

๏ เมื่อนั้น วันทองกำสรดอยู่ในห้อง
ผูกคอตายไม่วายดังใจปอง บ่าวไพร่พวกพ้องแก้ไว้ฟื้น
ยิ่งระบมระทมทุกขแสนทวี ทั้งเจบอายสุดที่จะฝ่าฝืน
ตัวกูไม่อยู่แล้วให้ยาวยืน ตริพลางทางสอื้นโศกา

โอด ๔ คำ

๏ บัดนั้น สายทองขึ้นมาแต่ตีนท่า
ร้องไห้ฟูมฟายน้ำตา ตรงมาสู่ห้องวันทอง

เพลงเรว ๒ คำ

ชุบ

๏ มาเอยมาถึง วางตะบึงเข้าไปในห้อง
สวมกอดพิมเข้าเร่าร้อง กรรมของน้องจริงจริงยิ่งรัญจวน
เล่าความที่ลงไปหาคุณชาย บรรยายให้ฟังถี่ถ้วน
ดังหนึ่งล่องน้ำเชี่ยวไม่เหลียวทวน สั่งกันด่วนรีบรัดจัดจะไป
ผูกช้างม้าหาบคอนผ่อนบรรทุก เกษมสุขเหนหาเอื้อเฟื้อไม่
เหมือนเด็ดก้านบุษมาลย์ไม่ไว้ใย จะไปบ้านเขาชนไก่ประเดี๋ยวนี้

๖ คำ

๏ สายเอยสายทอง เคราะห์น้องเปนได้ไม่พอที่
อัดอั้นตันใจไม่สมประดี สองนารีร่ำไห้ไปมา

โอด ๒ คำ

๏ ส่างเอยส่างให้ เสียงอะไรนอกบ้านอึงนักหนา
เสียงคนเสียงช้างเสียงม้า แว่วผวาสำเนียงเสียงหม่อมพลาย
ดำรงยืนเยี่ยมหน้าต่างแลดู สำคัญรู้ผัวจะไปใจหาย
พ่อทิ้งเมียได้ให้จำตาย นึกเสียดายตะลึงแลชแง้งง

๔ คำ

ทยอย

๏ เมื่อนั้น ขุนแผนเหลือบเหนยังพิศวง
รอรักเมียเสียดายรูปทรง อาลัยหลงทักแน่แอ้เจ้าพิม
พิมเอ๋ยยังงามนักหนา อื่นได้เหนมาไม่ปานปิ้ม
เคลิ้มทำแยบคายพรายพริ้ม แย้มยิ้มให้คิดขวยใจ

๔ คำ

๏ เมื่อนั้น ลาวทองสรวลร่าว่ามันไส้
ได้ยินบ้างฤาไม่ใครว่าไว้ ว่าไม่อาลัยตัดรอน
ปากใจหนอไม่เหมือนกัน ผีจึงแสร้งแหล่งสำคัญให้สังหรณ์
ไม่รู้ว่าชาวใต้ใฝ่สาละวอน แม้นรู้แล้วชาวดอนไม่มาเลย

๔ คำ

ปีนตลิ่ง

๏ ได้เอยได้ยิน ใครนินทาข้าต่อหน้าเหวย
จริงฤาหยอกบอกมาอย่าเยาะเย้ย มือข้าเคยหยิกปากคนคารม
เราก็เชื่อรูปเราว่าเพราพริ้ง ปะแม่หญิงคงจะตามมาสู่สม
จับคางสั่นนี่ใครเราได้ชม กูบจะล้มนะต้องตีอย่าหนีมือ

๔ คำ

๏ อย่าเอยอย่าว่า ขอไปทีเถอะขาหาไม่ฤา
เชื่อดีรูปงามเลื่องลือ เมียจึงอื้ออยู่ข้างบ้านแต่งงานการ
หม่อมผัวงามทรงเมียจงรัก จึงไปสมัครหาอื่นมาสมาน
ชมกันเถิดเมียเยี่ยมหน้าต่างทยาน ช่างไม่อายชาวบ้านเลยคุณชาย

๔ คำ

๏ เมื่อนั้น ขุนแผนกลบเกลื่อนเสียให้หาย
เท่านั้นเถิดอย่าว่าวุ่นวาย มันจะสายแดดจะร้อนอ่อนแรงคน
ว่าพลางทางให้เดิรผ่อน ไปก่อนไปหลังอย่าสับสน
แล้วขับช้างไคลคลามากลางพล จรดลออกทุ่งตัดตรงไป

กราวนอก ๔ คำ

โทน

๏ พังเอยพังอาจ แสนฉลาดหลังดีไม่มีไหน
ปัดย่างคลาดคล่องว่องไว ขับใหญ่สเทินดีมีฝีท้าว
กิริยาไว้หน้าปรบหูหาง วิ่งวางถูกทำนองทุกฝีก้าว
เทริดเสาตัวกลมสมยาว หางดอกตาขาวกระกลาย
เล็บผ่องไม่แซมเสี้ยนโตนด เม้มโอษฐขันขบงามขนาย
งามรูปแต่ละอย่างกว่าช้างพลาย สีกายดำขลับหม่นมัน
พังละว้าตามติดชิดมา ล้อเล่นเจรจากันขันขัน
ตัดทุ่งมุ่งไม้พุ่มไพรวัน หยอกกันมาในสัปคับ

เชิด ๘ คำ

๏ เมื่อนั้น พิมเหนผัวไปลมจับ
ซบลงกับหน้าต่างคอพับ จะคืนกลับมาที่นอนเตมที

โอด ๒ คำ

๏ บัดนั้น สายทองเข้าประคองนางโฉมศรี
พามาที่นอนผ่อนสมประดี พูดเอาใจน้องพี่รั้งรอดู
ฉันคาดน้ำใจหม่อมพลายแก้ว เหนแล้วคงจะกลับมาอยู่
ไม่ช้าดอกแม่คงจะได้รู้ ปลอบกันบ้างทางขู่กันสองคน

๔ คำ

๏ เมื่อนั้น ขุนแผนป่วนจิตคิดสับสน
เปลี่ยนใจนึกไขว่อลวน เหลียวมายลดูบ้านรำคาญครัน
พิศดูเมียใหม่ที่ได้มา ทรวดทรงขนงหน้าดูคมสัน
ปรนนิบัติอื่นอื่นดีทั้งนั้น แต่สำคัญทรลักษณ์ด้วยการกิน
อึ่งตกวดตุ๊ดตู่งูเงี้ยว ช่างกระไรเลยเคี้ยวกินเสียสิ้น
อาหารหยาบคายเปนอาจิณ มลทินรังเกียจเกลียดระอา
พิมเอ๋ยพี่ยังอาลัยอยู่ การกินรู้สารพัดจัดหา
ไม่เปื้อนเปรอะเหมือนลาวชาวพนา น้ำมือโอชาอร่อยรส
จะเพราพริ้งก็ไม่ยิ่งหย่อนแก่กัน สิ่งสำคัญลับลี้ล้วนดีหมด
ไทยงอนลาวอ่อนระทวยทด กัลเม็ดปรากฏทั้งสองนาง
โบราณว่าอย่าให้มีเมียสอง ทีนี้ต้องตำราไขว่ใจหมาง
แสนคนึงรำพึงมาตามทาง หน้าเผือดเลือดจางพลางถอนใจ

๑๒ คำ

๏ บัดนั้น ลาวทองถามว่าหม่อมเปนไร
ทำผอืดจืดจางหมางอันใด ถอนใจใหญ่คอแห้งกลืนเขฬะ

๒ คำ

๏ เมื่อนั้น ขุนแผนตอบว่าไม่ดอกหนะ
ช้างคลอนขย่อนโยกโรคประทะ ประหนึ่งจะอาเจียนเวียนมึนมัว

๒ คำ

๏ หม่อมเอยหม่อมขา รู้ท่าแล้วคะเจ้าคุณผัว
จะกลับไปหาเมียไปแต่ตัว ฉันนี้กลัวมันนักไม่มักเมือ
ส่งเสียจากช้างไว้กลางป่า จะยอมม้วยมรณาเปนเหยื่อเสือ
มารยาแสร้งบีบน้ำตาเจือ บ่นว่าโอ้เนื้อกรรมทำร่ำไร

โอด ๔ คำ

๏ จึงเอยจึงว่า อะไรนี่มันไม่น่าร้องไห้
ฟ้าผ่าพี่เถิดให้ผิดไป ข้าไม่ได้คิดคนึงถึงวันทอง
ลาวทองน้องข้าอย่าร่ำ มองดูแล้วทำเอามือป้อง
นี่จริงฤาเล่นลองลอง เสือสมิงเมียงมองจะกินลาว
เนื้ออื่นมันไม่ปราถนา เหนว่าลาวทองกำเดาะสาว
ชุ่มมันไว้ฉันได้ยืดยาว ตั้งเต่งเคร่งราวกับเปล่งปลี
ว่าพลางสัพยอกหยอกเย้า ต้องเต้าใครบอกจะหน่ายหนี
หนูผีขี้แยเตมที เอามือจี้ที่แก้มกระแอมล้อ
คนเก้อเอ้อเร้อนี้ดูขัน ลาวทองเหลือกลั้นก็หัวร่อ
จะสิ้นงามเสียแล้วเจ้ามอลอ คราบน้ำตาเปนต่อหม่อมแมวคราว
ร้องไห้ปนสรวลสำรวลร่า ผัดหน้าเสียใหม่เถิดให้ขาว
ระยะทางที่จะไปยังยืดยาว ข้าอายแก่ชาวบ้านรำคาญครัน

๑๒ คำ

ชมดง

๏ ว่าเอยว่าพลาง ชวนนางให้ชมพนาสัณฑ์
พิศพรรณมิ่งไม้ในไพรวัน แจงจันทน์กระเจี้ยงจิกจวง
กาหลงแกแลกาลา มูกมันโมกลามูกหลวง
พลวงหนูพลวงใหญ่พลับพลวง มะไฟพวงห้อยระย้าริมทาง
ปริงปรางปริกเปราะปรูปรง มหาหงเหียงหาดเสลาสล้าง
ตะแบกตะบากเต็งรังหูกวาง ตะเคียนข่อยเค็ดคางทั้งแคแตร
ไข่เน่าขนุนสนุ่นเสนียด สีเสียดสีสนหวายแส้
โกงกางตุมกาตุมแก หว้าแหว้วายเว้ผาวัง
ช้องนางช้างน้าวรอยหัก สีสุกสักศรีสิทธิแซมมสัง
กระแตกระต่ายกระทั่งติดตรังตัง มตาดต้องต้นสพรั่งกะตังบาย
กุ่มบกพรมคดตีนเต่า นกเขาเงากระทิงมหิงษ์หาย
แม่ยายปกต้นลูกเขยตาย กระลำพักผีพ่ายพุงดอ
มะเดื่อดินลำดวนดงราชดัด กำจัดกำจายจิงจ้อ
ประยงคุ์แยงแย้ยางยอ สมีสมอเสม็ดซ้องแมว
เหลาหลกลางลิงลานเสลา แมลงเม่าหมากมาดแต่งแต้ว
ไผ่ผากโพบายพัดแพว เกดแก้วพิกุลกรรณิการ์
ขี้เหล็กเลือดเหมือดคนร้อยคุณ เข็มยี่สุ่นคางแดงมะค่า
ลักกระจั่นพุงจาบจันทนา เถาสบ้าลำบิดขมิ้นเครือ
สนธิ์สร้อยสนธิ์แกลบสนธิ์ทเล ตีนจรเข้ย่างทรายตาเสือ
ขี้อ้ายหางกรายมะเกลือ เห็นมะเดื่อสุกดกดาษแดง
ผลมะเดื่องามดังปัทมราต ข้างในล้วนกิมิชาติบ่อนแสลง
นารีชั่วสุดที่ระวังระแวง บุราณว่ามิได้แกล้งกล่าวเลย
เสียดายเมียเสียใจน้ำตาปรอย รูปงามใจถ่อยนักพิมเอ๋ย
รำพึงพลางมิได้มีความเสบย ทำเปนเฉยชมไม้มาแกนแกน

เชิด ๒๔ คำ

๏ ตวันเอยตวันเที่ยง แดดเปรี้ยงร้อนนักเหลือแสน
ถึงบึงหนึ่งใหญ่เปนแว่นแคว้น ขอบหนองแน่นสตือชื้อชิด
น่าสนุกสนานนักหนา ถามบ่าวบอกว่าน้ำสนิธ
ใสเย็นดังว่าสุรามฤตย ลูกกุ้งปลานิดนิดก็เห็นตัว
จึงชวนลาวทองภรรยา จะหยุดอาบน้ำท่าแก้ปวดหัว
ระงับกายให้สบายหายมึนมัว ลมตกจึงผัวจะพาไป

๖ คำ

๏ แล้วปลงช้างม้าหาบคอน เหนือยมาบ้างนอนเดิรไขว่
บ้างหาฟืนจะหุงเข้าสีไฟ เก็บผักที่กินได้บ้างอาบน้ำ
สบายใจเต้นรำทำเพลง โฉงเฉงชกต่อยปะเตะปล้ำ
บ้างโจนลงในหนองคนองดำ เอาโคลนมอมกันระยำเปื้อนเลอะ

๔ คำ

๏ เมื่อเอยเมื่อนั้น ขุนแผนชวนลาวทองว่ามาเถอะ
ไยนางพี่เลี้ยงยังนั่งเคอะ เรียกแล้วยังเซอะไม่ใคร่ลุก
เร็วเร็วไปอาบน้ำชำระกาย ล้างเหงื่อเสียให้สบายจะได้สุข
แรงร้อนจะได้ผ่อนบรรเทาทุกข แลดูหนองฤาสนุกเปนพ้นใจ
ลาวทองพี่เลี้ยงตามมา หยิบผ้าอาบพาดบ่าเอามาให้
ถึงท่าน้ำว่าท่าถึงถิ่นไทย แก้ผ้าอาบมันไม่ได้เหมือนเมืองลาว
ที่เขาไม่เคยเหนจะชวนกัน แยกเขี้ยวยิงฟันสนั่นฉาว
จะระบือลือเล่าเปนเรื่องราว ว่าหญิงลาวหาวได้ใต้สดือ

๘ คำ

๏ หม่อมเอยหม่อมขา เสกสรรแสร้งว่าน้อยไปฤา
โกรธาถลาเข้าแย่งยื้อ ทำฮึดหือจะใคร่หยิกให้ยับเยิน
ยิ่งกว่าเปนเบื้อไม่มีอาย คมค้อนเมียงม่ายระคางเขิน
ขุนแผนขออภัยได้ว่าเกิน ล้อหลอกหยอกเอินกันไปมา

๔ คำ

๏ น้ำเอยน้ำใส อาบเล่นเย็นใจหรรษา
ขุนแผนลาวทองภรรยา พี่เลี้ยงเสน่หาสองนารี
สี่คนบันเทิงเริงรื่น ชุ่มชื่นชำระกายขัดสี
เหนบัวหลวงเผื่อนขมบรรดามี ยินดีจะใคร่ได้กลัวน้ำฤก
อ้อนวอนหม่อมช่วยเก็บมาให้ ขุนแผนว่าไปไม่ได้เกรงปลาหมึก
ลาวทองว่าหม่อมเปนทหารฮึก จะทำศึกอย่างไรกลัวเต่าปลา
ขุนแผนว่าในน้ำไม่เห็นตัว บนบกยังชั่วดีกว่า
ถึงอย่างไรก็ให้เห็นหน้าตา สู้กันได้หลายท่าด้วยไม้มือ
อย่าประมาทสัตว์น้ำปลาเต่า ขบสำคัญเข้ามิชวดฤา
จะเอ้อเร้อเก้อปล่าวฮึดฮือ ก็จะเปนแต่ชื่อว่าตากุญ
ลาวทองว่าไฮ้อะไรนี่ ไม่พอที่จะว่าก็ว่าวุ่น
เก็บให้น้องหน่อยเถิดเจ้าคุณ ถวายพระเอาบุญด้วยกัน
ขุนแผนว่ายแหวกแทรกเก็บบัว แล้วทำกลัวประดักน้ำทำตัวสั่น
ลาวทองมาช่วยพี่ซีให้ทัน ปลาหมึกมันจะกินพี่เสียแล้ว
ลาวทองพี่เลี้ยงร้องหวีดหวาด เอาน้ำสาดเปนไรจึงดิ้นแด่ว
ไหนปลาเล่าเปล่าไม่มีวี่แวว หม่อมพลายแก้วลวงน้องให้ตกใจ
ขุนแผนผุดทลึ่งจึงว่า นี่หากข้าชิงชกปลาก่อนได้
ฟันมันหักเขี้ยวหลุดมุดหนีไป แม้นหาไม่ไหนจะรอดนะจริงจัง
แล้วแหวกว่ายร่ายเก็บสัตบงก์ เลือกจงแต่ที่แดงตูมตั้ง
สองดอกส่งให้ไม่รอรั้ง เหมือนมังสังของใครเติบเต็มมือ
จริงเจ้าลาวทองไม่ว่าเล่น น่าใคร่เคล้นคลึงคลำขยำถือ
ถูกของข้าแล้วคะอย่าแออือ ไม่เหมือนจริงฤาค้อนควัก
แน่เจ้าลาวทองน้องพี่ มาเล่นเรื่องเถิดดีสนุกหนัก
หนองนี้แสนแล้วแก้วเมียรัก นงลักษณสามนางเปนกินนร
อุณรุทต้องที่พี่จะเปน ไล่กันเล่นในน้ำสโมสร
ร้องบทเชิดฉิ่งกลอนลคร ตั้งท่าเหาะร่อนไล่สามนาง

เฉิด ๒๖ คำ

๏ คลาเอยคลาไคล เลี้ยวไล่ยื้อยุดกั้นกาง
ขุนแผนมิได้ขวยระคาง แข่งเคียงมิได้ห่างราญรุก
น้ำแหวกแตกฟองลอองฉ่า คลื่นเปนบ้าเต่าปลาตื่นสนุก
ละลอกแซะแระฝั่งแฉะชุก อุกคลุกอลหม่านทั้งบึงบัว

๔ คำ

๏ หม่อมเอยหม่อมขา เปนบ้าเมื่อไรนี่หม่อมผัว
เล่นอะไรเช่นนี้ไม่รู้ตัว ยิ่งกว่ามัวลำโพงตระโกรงไป
เอออะไรไม่อายเขาบ้างฤา คนอื้อแต่ล้วนบ่าวไพร่
เขาจะหัวเราะในใจ เล่นด้วยไม่ได้อย่างนี้

๔ คำ

๏ เปนเอยเปนไร ชู้เมียของใครเมียของพี่
พี่เลี้ยงเล่าก็เปล่ากับสามี การกี้ของใครทำไมเรา
บุราณว่ามีเหลกก็เหมือนพร้า ต้องกฎเขาว่าไว้แล้วเจ้า
เพียงนี้ไม่พอจะหนักเบา อย่าขืนขัดเปล่าเปล่าหน่อยหนึ่งเลย
พลางไล่ไขว่คว้าสองสาวศรี จับลองใครจะดีกว่ากันเอ๋ย
สาวเวียงปัดป้องทำนองเคย สาววันเฉยแฉะช้าระกำกุม
เต่งโตเหลวไหลละลาดพาด สมกับลำมาดเกือบกับตุ่ม
สองนางวิ่งโครมโรมรุม ตกหลุมในน้ำคะมำเซ
ทำเปนพิโรธโกรธขึ้ง เกรงลาวทองจะหึงสจึงหันเห
จริงใจนึกใคร่อยู่ลังเล โดยคเนให้ทีทั้งสองคน

๑๐ คำ

๏ เมื่อนั้น ลาวทองว่าทำไมไขว่สับสน
ทำเช่นนี้สุดที่จะทานทน สัปดนเล่นเล่ห์จะเทครัว
หากว่าฉันมาแต่ผู้หญิงสาม ลวนลามคุมเหงฤาคุณผัว
ไม่เล่นแล้วลมพานไส้ใจสั่นรัว แม้นเกิดกลั้วแน่นคอจะขอล้วง
สำรอกรากอาเจียนเสียให้หาย เปนตายสิ้นท้องน้องสิ้นห่วง
เล่นกันเถิดตามถนัดไม่ทักท้วง ทำดังว่าดักบ่วงกันได้มา
ลาวทองขึ้นเสียจากหนองน้ำ เพ้อพร่ำรำพรรณบ่นบ้า
ผลัดผ้าเสียพลันผันไคลคลา สู่ฉายาชมรมร่มไทร

๔ คำ

๏ บัดนั้น สาวเวียงสาววันรู้อัชฌาศรัย
ชวนกันจะตามลาวทองไป ขุนแผนยุดมือไว้ทั้งสองคน
นางเบี่ยงบิดปิดไม้มือ แย่งยื้อชุลมุนวุ่นสับสน
สาวเวียงว่าแต่ไหนมาได้ทน แต่พอจนถึงบ้านหน่อยเปนไร

๔ คำ

๏ จึงเอยจึงว่า ไม่สมหน้าตาฤาไฉน
นายโรงอุณรุทธเมืองไทย จะเปนไรเจียวเจ้าลาวกินนร
สองตัวสามตัวมันพัวพัน ปล่อยกินนรวันไปเสียก่อน
ทรวดทรงระเหิดระเหินเกินชามช้อน จะบินร่อนไปข้างไหนก็ตามที

๔ คำ

๏ บัดนั้น สาววันน้อยจิตคิดบัดสี
เสียใจด้วยหม่อมไม่ไยดี ขวยเขินสเทินทีค้อนควัก
ไม่ช้าจะได้เห็นกัน พยาบาทคาดคั้นเดือดอึดอัก
หมายใจจะไปบอกน้องรัก ยุลาวทองให้อักหลักด้วยโกรธา
ขุนแผนครั้นสาววันไป ยืดสาวเวียงไว้แล้วจึงว่า
สมจิตคิดแล้วนะแก้วตา มุ่งมาดมาแต่น่าเมืองกำแพง
รู้บ้างฤาไม่น้ำใจเรา นี่แน่เจ้ามิได้เษกสรรแสร้ง
จริงจริงอย่ากริ่งหวั่นระแวง อย่าพลิกแพลงหนีมือดื้อดึง
จงจิตคิดมาจะปลูกฝัง ถวิลหวังจนกระทั่งบุญถึง
มากลางทางพยาบาทไม่ขาดคนึง กีดเกะกะจึงได้ละเลยมา

๑๐ คำ

๏ ว่าเอยว่าพลาง สัพยอกหยอกนางหรรษา
ไม่คลุกคลีทีถนอมด้วยกรุณา ฉวยคว้าจับต้องแต่ปลายมือ
พาชมดวงบุษบันเล่น แทรกเร้นมาให้พ้นคนอยู่อื้อ
เร่ร่ายชายแฝงเข้าดงปรือ รกชื้อบื้อชัดกลัดกอบัว
ได้ท่วงทีที่ในเชิงทางสังวาส ก็แอบอิงพิงพาดเข้าเย้ายั่ว
เบี่ยงบ่ายพอให้รู้สึกตัว เหน็บแนมแกมกลั้วระคนรัก

๖ คำ

๏ บัดนั้น สาวเวียงอกสั่นพรั่นหนัก
คิดใคร่อยู่ใจไหวทึกทัก ทำพลิกผลักแล้วกล่าววาจา
อะไรเลียมเล่นเช่นนี้ มันไม่ดีหนานายพ่อคุณขา
ฉันนี้ประดาษชาติช้า เลี้ยงเปนทาษข้าจึงจะควร
ไม่อาจเอื้อมเลยล่วงให้เกินศักดิ พิศพักตร์อยู่เช้าเย็นเห็นน่าสรวล
ไม่รอดชั่วกลัวเขาจะสำรวล อย่ายียวนหยอกเย้าเลยเอาบุญ
แล้วสาววันคงจะรันไปยงยุ ลาวทองหล่อนจะดุหันหุน
จะก่อเกิดวิวาทชุลมุล หม่อมจะรำคาญขุ่นระคายเคือง

๘ คำ

๏ สาวเอยสาวเวียง อย่าหลีกเลี่ยงข้อนั้นจะปลดเปลื้อง
ข้าห่อหิ้วพามาจากบ้านเมือง จะกระด้างกระเดื่องนั้นผิดไป
ลาวทองมิใช่ง่องจะโง่โง่ จะทำแต่โมโหหาเปนไม่
เราขืนแขงแรงเรี่ยวคงตามใจ ไว้อัชฌาอาศรัยไม่ดุดึง
ทำไมกับนางเลอะเคอะสาววัน มันไม่ขันที่จะเข้ามาหวงหึงส
จะยุยงอย่างไรอย่าพรั่นพรึง ข้อที่ซึ่งพิศพักตรอยู่เช้าเยน
กลัวเสียสรวลถ่อมควรแต่ช่วงใช้ ยศศักดิทำไม่ได้ไม่ว่าเล่น
สุดแต่ใจต่อใจเอาเป็น ในตาเห็นว่าดีไม่หนีตา
หน้านี้ไม่ชั่วอย่ากลัวร้าง ต้องส่วนนางลักษณดีนักหนา
ฉนี้แล้วไม่เพี้ยนผิดตำรา จะเปนหม้ายผัวอย่าอย่าพึงคิด
นี่แน่อุแม่เอ๋ยนางพี่นาง ถึงจะแก่อ่อนอย่าหมางระคางจิต
เย่าเรือนเฝืองฝาทำมิดชิด ไม้อ่อนตอกตะบิดผูกมัด
ถึงแก่ก็แต่กับลาวทอง เรียกพี่นางตามทำนองด้วยปากถนัด
อย่าทำแชห่างแหระแคระคัด ใผ่ใบขิงจะมีรัดไม้สองน้อง

๑๔ คำ

๏ ว่าเอยว่าแล้ว พ่อพลายแก้วชิดชมประสมสอง
แปลกเปลี่ยนเหียนหันผันประลอง เคล้าคล่องว่องไวไปมา

๒ คำ

จบฉบับเล่ม ๒

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ