๒ ว่าด้วยแปลหนังสือสามก๊ก
ได้ลองสืบสวนดูเมื่อจะแต่งตำนานนี้ ได้ความว่าหนังสือสามก๊กได้แปลเปนภาษาต่างๆ ถึง ๑๐ ภาษา[๑] คือ
๑ แปลเปนภาษาญี่ปุ่นเมื่อ พ.ศ. ๒๒๓๕
๒ แปลเปนภาษาเกาหลีพิมพ์เมื่อ พ.ศ. ๒๔๐๒
๓ แปลเปนภาษาญวนพิมพ์เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๒
๔ แปลเปนภาษาเขมร แปลเมื่อใดหาทราบไม่ ยังไม่ได้พิมพ์
๕ แปลเปนภาษาไทยเมื่อราว พ.ศ. ๒๓๔๕
๖ แปลเปนภาษามาลายูพิมพ์[๒] เมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๕
๗ แปลเปนภาษาละติน มีฉะบับเขียนอยู่ในรอยัลอาเซียติคโซไซเอตี แต่จะแปลเมื่อใดไม่ปรากฎ
๘ แปลเปนภาษาสะเปญเมื่อ พ.ศ. ๒๓๗๓
๙ แปลเปนภาษาฝรังเศสเมื่อ พ.ศ. ๒๓๘๘
๑๐ แปลเปนภาษาอังกฤษพิมพ์[๓] เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๙
ตำนานการแปลหนังสือสามก๊กเปนภาษาไทยมีคำบอกเล่าสืบกันมาว่าเมื่อในรัชกาลที่ ๑ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก มีพระราชดำรัสสั่งให้แปลหนังสือพงศาวดารจีนเปนภาษาไทย ๒ เรื่อง คือเรื่องไซ่ฮั่นเรื่อง ๑ กับเรื่องสามก๊กเรื่อง ๑ โปรดฯ ให้สมเด็จพระเจ้าหลานเธอ กรมพระราชวังหลังทรงอำนวยการแปลเรื่องไซ่ฮั่น แลให้เจ้าพระยาพระคลัง (หน) อำนวยการแปลเรื่องสามก๊ก คำที่เล่ากันมาดังกล่าวนี้ ไม่มีในจดหมายเหตุ แต่เมื่อพิเคราะห์ดูเห็นมีหลักฐานควรเชื่อได้ว่าเปนความจริง ด้วยเมื่อในรัชกาลที่ ๑ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกทรงเอาเปนพระราชธุระขวนขวายสร้างหนังสือต่างๆ ขึ้นเพื่อประโยชน์สำหรับพระนคร หนังสือซึ่งเปนต้นฉะบับตำหรับตำราในกรุงรัตนโกสินทรนี้ ทั้งที่รวบรวมของเก่า ที่แต่งใหม่ แลที่แปลมาจากภาษาต่างประเทศ เกิดขึ้นในรัชกาลที่ ๑ มีมาก แต่ว่าในสมัยนั้นเปนหนังสือเขียนในสมุดไทยทั้งนั้น ฉะบับหลวงมักมีบานแผนกแสดง ว่าโปรดฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อปีใด แต่หนังสือเรื่องไซ่ฮั่นกับสามก๊ก ๒ เรื่องนี้ ต้นฉะบับที่ยังปรากฎอยู่มีแต่ฉะบับชเลยศักดิ์ขาดบานแผนกข้างต้น จึงไม่มีลายลักษณอักษรเปนสำคัญว่าแปลเมื่อใด ถึงกระนั้นก็ดีมีเค้าเงื่อนอันส่อให้เห็นชัดว่าหนังสือเรื่องไซ่ฮั่นกับเรื่องสามก๊กแปลเมื่อในรัชกาลที่ ๑ ทั้ง ๒ เรื่อง เปนต้นว่าสังเกตเห็นได้ในเรื่องพระอภัยมณีที่สุนทรภู่แต่ง ซึ่งสมมตให้พระอภัยมณีมีวิชชาชำนาญการเป่าปี่ ก็คือเอามาแต่เตียวเหลียงในเรื่องไซฮั่น ข้อนี้ยิ่งพิจารณาดูคำเพลงปี่ของเตียวเหลียงเทียบกับคำเพลงปี่ของพระอภัยมณี ก็ยิ่งเห็นได้ชัดว่าถ่ายมาจากกันเปนแท้ ด้วยเมื่อรัชกาลที่ ๑ สุนทรภู่เปนข้าอยู่ในกรมพระราชวังหลัง คงได้ทราบเรื่องไซ่ฮั่นมาแต่เมื่อแปลที่วังหลัง ส่วนเรื่องสามก๊กนั้นเค้าเงื่อนก็มีอยู่เปนสำคัญในบทละคอนนอกเรื่องคาวี ซึ่งพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงพระราชนิพนธ์บทหนึ่ง ว่า
“๏ เมื่อนั้น | ไวยทัตหุนหันไม่ทันตรึก |
อวดรู้อวดหลักฮักฮึก | ข้าเคยพบรบศึกมาหลายยก |
จะเข้าออกยอกย้อนผ่อนปรน | เล่ห์กลเรานี้อย่าวิตก |
ทั้งพิไชยสงครามสามก๊ก | ได้เรียนไว้ในอกสารพัด |
ยายกลับไปทูลพระเจ้าป้า | ว่าเรารับอาสาไม่ข้องขัด |
ค่ำวันนี้คอยกันเปนวันนัด | จะเข้าไปจับมัดเอาตัวมา” |
พึงเห็นได้ในบทละคอนนี้ ว่าถึงรัชกาลที่ ๒ หนังสือสามก๊กที่แปลเปนภาษาไทยได้อ่านกันจนนับถืออยู่แล้ว สมกับที่อ้างว่าแปลในรัชกาลที่ ๑ ใช่แต่เท่านั้น มีเค้าเงื่อนที่จะสันนิษฐานต่อไปอีก ว่าความนับถือเรื่องสามก๊กดังในพระราชนิพนธ์นั้น เปนมูลเหตุให้แปลหนังสือพงศาวดารจีนเรื่องอื่นๆ ในรัชกาลภายหลังต่อมา ข้อนี้มีจดหมายเหตุเปนหลักฐานอยู่ในบานแผนก ว่าถึงรัชกาลที่ ๒ เมื่อ พ.ศ. ๒๓๖๒ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยโปรดฯ ให้แปลเรื่องเลียดก๊กอีกเรื่อง ๑ แลปรากฎนามผู้รับสั่งให้เปนพนักงานการแปลล้วนผู้มีศักดิ์สูงแลทรงความสามารถถึง ๑๒ คน คือ กรมหมื่นนเรศร์โยธี ๑ เจ้าพระยาวงศาสุรศักดิ์ ๑ เจ้าพระยายมราช ๑ พระยาโชฎึกราชเศษฐี ๑ พระท่องสื่อ ๑ จมื่นวัยวรนาถ ๑ นายจ่าเรศ ๑ นายเล่ห์อาวุธ ๑ หลวงลิขิตปรีชา ๑ หลวงวิเชียรปรีชา ๑ หลวงญาณปรีชา ๑ ขุนมหาสิทธิโวหาร ๑ พึงสันนิษฐานว่าเพราะทรงพระราชดำริเห็นว่าเปนหนังสืออันสมควรแปลไว้เพื่อประโยชน์ราชการบ้านเมือง เช่นเดียวกับที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกโปรดฯ ให้แปลเรื่องไซ่ฮั่นแลสามก๊ก ยังมีหนังสือเรื่องห้องสินกับเรื่องตั้งฮั่นอีก ๒ เรื่อง ฉะบับพิมพ์ที่ปรากฎอยู่ไม่มีบานแผนกบอกว่าแปลเมื่อใด แต่สำนวนแต่งเห็นเปนสำนวนเก่า อาจแปลเมื่อในรัชกาลที่ ๒ ก็เปนได้ ด้วยเรื่องห้องสินอยู่ข้างหน้าต่อเรื่องเลียดก๊กแลเรื่องตั้งฮั่นอยู่ในระวางเรื่องไซ่ฮั่นกับเรื่องสามก๊ก แต่ประหลาทอยู่อย่างหนึ่งที่ไม่ปรากฎว่าได้แปลหนังสือพงศาวดารจีนเรื่องใดเรื่องหนึ่งเมื่อในรัชกาลที่ ๓ น่าจะเปนด้วยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชดำริว่าในรัชกาลแต่ก่อนมาได้สร้างหนังสือเพื่อประโยชน์ในทางคดีโลกย์มากแล้ว หนังสือคดีธรรมยังบกพร่องอยู่ เปลี่ยนไปทรงอุดหนุนการแปลพระไตรปิฎกจากภาษาบาลีมาเปนภาษาไทย จึงมีหนังสือเรื่องต่างๆ ซึ่งแปลจากภาษาบาลีเกิดขึ้นในรัชกาลที่ ๓ เปนอันมาก แต่อย่างไรก็ดีบรรดาหนังสือเรื่องพงศาวดารจีนที่ปรากฎอยูทุกวันนี้ นอกจาก ๔ เรื่องที่ได้ออกชื่อมาแล้ว เปนหนังสือแปลตั้งแต่รัชกาลที่ ๔ มาทั้งนั้น ได้ลองสำรวจเมื่อแต่งตำนานนี้มีจำนวนหนังสือพงศาวดารจีนที่ได้แปลพิมพ์เปนภาษาไทยถึง ๓๔ เรื่อง คือ
แปลในรัชกาลที่ ๑
๑ เรื่องไซ่ฮั่น แปลเมื่อก่อน[๔] พ.ศ. ๒๓๔๙ เปนหนังสือ ๓๗ เล่มสมุดไทย โรงพิมพ์หมอบรัดเลพิมพ์ครั้งแรกในรัชกาลที่ ๕ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๑๗ เปนสมุด ๒ เล่ม
๒ เรื่องสามก๊ก แปลเมื่อก่อน[๕] พ.ศ. ๒๓๔๘ เปนหนังสือ ๙๕ เล่มสมุดไทย โรงพิมพ์หมอบรัดเลพิมพ์ครั้งแรกในรัชกาลที่ ๔ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๐๘ เปนสมุด ๔ เล่ม
แปลในรัชกาลที่ ๒
๓ เรื่องเลียดก๊ก พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยโปรดฯ ให้แปลเมื่อ พ.ศ. ๒๓๖๒ เปนหนังสือ ๑๕๓ เล่มสมุดไทย โรงพิมพ์หมอบรัดพิมพ์ครั้งแรกในรัชกาลที่ ๕ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๑๓ เปนสมุด ๕ เล่ม
๔ เรื่องห้องสิน สันนิษฐานว่าแปลเมื่อรัชกาลที่ ๒ เปนหนังสือ ๔๓ เล่มสมุดไทย โรงพิมพ์หมอบรัดเลพิมพ์ครั้งแรกในรัชกาลที่ ๕ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๑๙ เปนสมุด ๒ เล่ม
๕ เรื่องตั้งฮั่น สันนิษฐานว่าแปลเมื่อรัชกาลที่ ๒ เปนหนังสือ ๓๐ เล่มสมุดไทย โรงพิมพ์หมอบรัดเลพิมพ์ครั้งแรกในรัชกาลที่ ๕ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๑๙ เปนสมุด ๑ เล่ม
แปลในรัชกาลที่ ๔
๖ เรื่องไซ่จิ้น สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ให้หลวงพิชัยวารีแปลเมื่อ พ.ศ. ๒๔๐๑ เปนหนังสือ ๓๕ เล่มสมุดไทย โรงพิมพ์หมอบรัดเลพิมพ์ครั้งแรกในรัชกาลที่ ๕ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๑๖
๗ เรื่องตั้งจิ้น สันนิษฐานว่าจะแปลเนื่องกันกับเรื่องไซ่จิ้น เปนหนังสือ ๓๘ เล่มสมุดไทย โรงพิมพ์หมอบรัดเลพิมพ์ครั้งแรกในรัชกาลที่ ๕ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๒๐ เปนสมุด ๒ เล่ม
๘ เรื่องน่ำซ้อง สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ให้แปลเปนหนังสือ ๕๔ เล่มสมุดไทย โรงพิมพ์หลวงพิมพ์ครั้งแรกในรัชกาลที่ ๕ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๑๔ เปนสมุด ๒ เล่ม
๙ เรื่องซุยถัง เจ้าพระยาทิพากรวงศ์ให้จีนบั้นกิม กับจีนเพงแปลเมื่อ พ.ศ. ๒๓๙๘ กล่าวกันว่าสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (จี่) วัดประยูรวงศาวาสเปนผู้แต่งภาษาไทย เปนหนังสือ ๖๐ เล่มสมุดไทย โรงพิมพ์หมอสมิธพิมพ์ครั้งแรกในรัชกาลที่ ๕ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๒๑ เปนสมุด ๓ เล่ม
๑๐ เรื่องน่ำปักซ้อง หลวงพิศาลศุภผลให้จีนบั้นกิมแปลเมื่อ พ.ศ. ๒๔๐๘ เปนหนังสือ ๒๓ เล่มสมุดไทย โรงพิมพ์หลวงพิมพ์ครั้งแรกในรัชกาลที่ ๕ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๒๓ เปนสมุดไทย ๑ เล่ม
๑๑ เรื่องหงอโต้ สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ให้แปลเมื่อ พ.ศ. ๒๔๐๙ เปนหนังสือ ๒๐ เล่มสมุดไทย โรงพิมพ์หลวงพิมพ์ครั้งแรกในรัชกาลที่ ๕ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๑๑ เปนสมุด ๑ เล่ม
๑๒ เรื่องบ้วนฮวยเหลา สันนิษฐานว่าสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ให้แปล (คราวเดียวกับเรื่องโหงวโฮ้วเพงหนำ) เปนหนังสือ ๑๓ เล่มสมุดไทย โรงพิมพ์หมอบรัดเลพิมพ์ครั้งแรกในรัชกาลที่ ๕ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๒๓ เปนสมุด ๑ เล่ม
๑๓ เรื่องโหงวโฮ้วเพงไซ สันนิษฐานว่าสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ให้แปล (คราวเดียวกับเรื่องโหงวโฮ้วเพงหนำ) เปนหนังสือ ๑๔ เล่มสมุดไทย โรงพิมพ์หมอบรัดเลพิมพ์ครั้งแรกในรัชกาลที่ ๕ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๒๑ เปนสมุด ๑ เล่ม
๑๔ เรื่องโหงวโฮ้วเพงหนำ สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ ให้จีนโตแปลเมื่อ พ.ศ. ๒๔๐๐ เปนหนังสือ ๖ เล่มสมุดไทย โรงพิมพ์หมอบรัดเลพิมพ์ครั้งแรกในรัชกาลที่ ๕ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๒๙ เปนสมุด ๑ เล่ม
๑๕ เรื่องซวยงัก สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ให้จีนโตกับจีนแสอินบั้นอั๋นแปลเมื่อ พ.ศ. ๒๔๑๐ เปนหนังสือ ๓๘ เล่มสมุดไทย โรงพิมพ์หลวงพิมพ์ครั้งแรกในรัชกาลที่ ๕ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๑๒ เปนสมุด ๓ เล่ม
๑๖ เรื่องซ้องกั๋ง สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ให้แปลเมื่อ พ.ศ. ๒๔๑๐ เปนหนังสือ ๘๒ เล่มสมุดไทย โรงพิมพ์หมอบรัดเลพิมพ์ครั้งแรกในรัชกาลที่ ๕ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๒๒ เปนสมุด ๕ เล่ม
๑๗ เรื่องเม่งเฉียว สมเด็จเจ้าพระยาบรมหาศรีสุริยวงศ์ให้แปล (เมื่อปีใดไม่ปรากฎ) เปนหนังสือ ๑๗ เล่มสมุดไทย โรงพิมพ์หลวงพิมพ์ครั้งแรกในรัชกาลที่ ๕ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๑๔ เปนสมุด ๒ เล่ม
แปลในรัชกาลที่ ๕
๑๘ เรื่องไคเภ็ก เจ้าพระยาภานุวงศ ฯ ให้หลวงพิพิธภัณฑวิจารณ์[๖] แปลเมื่อ พ.ศ. ๒๔๑๐ เปนหนังสือ ๑๘ เล่มสมุดไทย โรงพิมพ์หมอบรัดเลพิมพ์ครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. ๒๔๒๔ เปนสมุด ๑ เล่ม
๑๙ เรื่องซ่วยถัง ใครแปลหาทราบไม่ เปนหนังสือ ๒๓ เล่มสมุดไทย โรงพิมพ์ศิริเจริญพิมพ์ครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๖ เปนสมุด ๑ เล่ม
๒๐ เรื่องเสาปัก สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ให้แปลเมื่อ พ.ศ. ๒๔๑๓ เปนหนังสือ ๑๘ เล่มสมุดไทย โรงพิมพ์หมอบรัดเลพิมพ์ครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. ๒๔๒๔ เปนสมุด ๓ เล่ม
๒๑ เรื่องซิยินกุ้ยเจงตัง สันนิษฐานว่าสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศให้แปล (ในคราวเดียวกับเรื่องสิเตงซันเจงไซ) เปนหนังสือ ๑๒ เล่มสมุดไทย โรงพิมพ์หมอบรัดเลพิมพ์ครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๖ เปนสมุด ๑ เล่ม
๒๒ เรื่องซิเตงซันเจงไซ สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ให้จีนโตแปลเมื่อ พ.ศ. ๒๔๑๒ เปนหนังสือ ๑๔ เล่มสมุดไทย โรงพิมพ์หมอบรัดเลพิมพ์ครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๗ เปนสมุด ๒ เล่ม
๒๓ เรื่องเองเลียดต้วน สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ให้แปลเมื่อ พ.ศ. ๒๔๑๓ เปนหนังสือ ๒๐ เล่มสมุดไทย โรงพิมพ์หมอบรัดเลพิมพ์ครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. ๒๔๒๒ เปนสมุด ๑ เล่ม
๒๔ เรื่องอิวกังหนำ สันนิษฐานว่าสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ให้แปล เปนหนังสือ ๑๔ เล่มสมุดไทย โรงพิมพ์หมอบรัดเลพิมพ์ครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. ๒๔๒๒ เปนสมุด ๑ เล่ม
๒๕ เรื่องไต้อั้งเผ่า สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ให้หลวงพิชัยวารีแปลเมื่อ พ.ศ. ๒๔๑๒ เปนหนังสือ ๒๗ เล่มสมุดไทย โรงพิมพ์หมอบรัดเลพิมพ์ครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๒ เปนสมุด ๒ เล่ม
๒๖ เรื่องเซียวอั้งเผ่า สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ให้หลวงพิชัยวารีแปลเมื่อ พ.ศ. ๒๔๑๓ เปนหนังสือ ๑๓ เล่มสมุดไทย โรงพิมพ์อุดมกิจเจริญพิมพ์ครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๕ เปนสมุด ๑ เล่ม
๒๗ เรื่องเนียหนำอิดซือ สันนิษฐานว่าสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ให้แปล เปนหนังสือ ๒๖ เล่มสมุดไทย โรงพิมพ์หมอบรัดเลพิมพ์ครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. ๒๔๒๑ เปนสมุด ๒ เล่ม
๒๘ เรื่องเม่งมวดเชงฌ้อ สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ให้หลวงพิชัยวารีแปลเมื่อ พ.ศ. ๒๔๑๓ เปนหนังสือ ๑๗ เล่มสมุดไทย โรงพิมพ์หมอบรัดเลพิมพ์ครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. ๒๔๒๑ เปนสมุด ๑ เล่ม
๒๙. เรื่องไซอิ๋ว พระโสภณอักษรกิจ (เล็ก สมิตศิริ) ให้นายตีนแปล แลนายเทียนวรรณาโภ เรียบเรียง เปนหนังสือ ๖๕ เล่มสมุดไทย โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากรพิมพ์ครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๙ เปนสมุด ๔ เล่ม
๓๐ เรื่องเปาเล่งถูกงอั้น นายหยอง อยู่ในกรมทหารปืนใหญ่แปล นายเทียนวรรณาโภ เรียบเรียง เปนหนังสือ ๑๘ เล่มสมุดไทย โรงพิมพ์บำรุงนุกูลกิจพิมพ์ครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๑ เปนสมุด ๒ เล่ม
แปลในรัชกาลที่ ๖
๓๑ เรื่องเชงเฉียว พระโสภณอักษรกิจ (เล็ก สมิตสิริ) ให้ขุนจีนภาคบริวัตร (โซวคึนจือ) แปล พระยาอุดมพงศ์พงเพญสวัสดิ์ (ม.ร.ว. ประยูร อิศรศักดิ์ ณอยุธยา) เรียบเรียง (ประมาณขนาด ๑๒ เล่มสมุดไทย) โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากรพิมพ์ครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. ๒๕๕๘ เปนสมุด ๑ เล่ม
๓๒ เรื่องง่วนเฉียว นายซุ่ยเทียม ตันเวชกุล แปล (ประมาณขนาด ๔๖ เล่มสมุดไทย) โรงพิมพ์เดลิเมล์พิมพ์เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๔ เปนสมุด ๒ เล่ม
๓๓ เรื่องบูเซ็กเทียน คณะหนังสือพิมพ์สยามแปล (ประมาณขนาด ๑๘ เล่มสมุดไทย) แลพิมพ์เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๕ เปนสมุด ๑ เล่ม
๓๔ เรื่องโหงวโฮ้วเพ็งปัก แปลพิมพ์ในหนังสือพิมพ์สยามราษฎร์ (ประมาณขนาด ๑๘ เล่มสมุดไทย) แลคณะหนังสือพิมพ์ศรีกรุงรวมพิมพ์เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๕ เปนสมุด ๒ เล่ม[๗]
หนังสือเรื่องต่าง ๆ ที่ แปลจากพงศาวดารจีนดังพรรณนามา ถ้าลำดับเทียบกับสมัยในพงศาวดารจีน ตรงกันดังแสดงต่อไปนี้
ศักราชพงศาวดารจีน | ชื่อเรื่องหนังสือ |
(๑) พระเจ้าอึ่งตี่ฮองเต้ครองราชสมบัติอยู่ ๑๐๐ ปี แต่เมื่อก่อนพุทธกาล ๒๑๕๔ ปี |
เรื่องไคเภ็ก |
(๒) พระเจ้ากิมเต๊กอ๋องฮองเต้ครองราชสมบัติอยู่ ๘๔ ปี แต่เมื่อก่อนพุทธกาล ๒๐๕๔ ปี |
เรื่องไคเภ็ก |
(๓) พระเจ้าจวนยกตี่ฮองเต้ครองราชสมบัติอยู่ ๗๔ ปี แต่เมื่อก่อนพุทธกาล ๑๙๗๐ ปี |
เรื่องไคเภ็ก |
(๔) พระเจ้าตี่คอกฮองเต้ครองราชสมบัติอยู่ ๗๐ ปี แต่เมื่อก่อนพุทธกาล ๑๘๙๒ ปี |
เรื่องไคเภ็ก |
(๕) พระเจ้าจี่เต้ฮองเต้ครองราชสมบัติอยู่ ๙ ปี แต่เมื่อก่อนพุทธกาล ๑๘๒๒ ปี |
เรื่องไคเภ็ก |
(๖) พระเจ้าเงี้ยวเต้ฮองเต้ครองราชสมบัติอยู่ ๑๐๐ ปี แต่เมื่อก่อนพุทธกาล ๑๘๑๔ ปี |
เรื่องไคเภ็ก |
(๗) พระเจ้าอึ่งตี่ฮองเต้ครองราชสมบัติอยู่ ๔๘ ปี แต่เมื่อก่อนพุทธกาล ๑๗๑๒ ปี |
เรื่องไคเภ็ก |
๑ ราชวงศ์แฮ่ | |
พระเจ้าอู๋เต้ปฐมกษัตริย์สืบราชวงศ์ถึงพระเจ้าเกียดรวม ๑๗ พระองค์ จำนวนรัชกาล ๔๒๓ ปี ตั้งแต่ก่อนพุทธกาล ๑๖๖๒ ถึง ๑๒๔๐ ปี | เรื่องไคเภ็ก |
๒ ราชวงศ์เซียง | |
พระเจ้าเซียงทางปฐมกษัตริย์สืบราชวงศ์ถึงพระเจ้าติวอ๋องรวม ๒๘ องค์ จำนวนรัชกาล ๖๕๐ ปี ตั้งแต่ก่อนพุทธกาล ๑๒๔๐ ถึง ๕๙๐ ปี | เรื่องไคเภ็กตอนปลาย เรื่องห้องสินตอนต้น |
๓ ราชวงศ์จิว | |
พระเจ้าจิวบูอ๋องปฐมกษัตริย์สืบราชวงศ์ถึงพระเจ้าจิวหมั้นอ๋องรวม ๓๔ องค์ จำนวนรัชกาล ๘๘๘ ปี ตั้งแต่ก่อนพุทธกาล ๕๙๑ ปี ถึง พ.ศ. ๒๙๗ | เรื่องห้องสิน เรื่องเลียดก๊ก |
๔ ราชวงศ์จิ๋น | |
พระเจ้าจิ๋นซีฮองเต้ปฐมกษัตริย์สืบราชวงศ์ถึงพระเจ้าซาซีฮองเต้รวม ๒ องค์ จำนวนรัชกาล ๔๐ ปี ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๙๘ ถึง ๓๓๗ | เรื่องไซ่ฮั่นตอนต้น |
๕ (๑) ราชวงศ์ฮั่น | |
พระเจ้าฮั่นโกโจปฐมกษัตริย์สืบราชวงศ์ถึงพระเจ้าจูเอ๋งรวม ๑๓ องค์ จำนวนรัชกาล ๒๑๕ ปี ตั้งแต่ พ.ศ. ๓๓๗ ถึง ๕๕๑ | เรื่องไซ่ฮั่นตอนปลาย |
แซก | |
อองมั้งครองราชสมบัติ ๑๕ ปี ตั้งแต่ พ.ศ. ๕๕๒ ถึง ๕๖๖ | เรื่องตั้งฮั่นตอนต้น |
วางเอียงอ๋องครองราชสมบัติ ๒ ปี ตั้งแต่ พ.ศ. ๕๖๖ ถึง ๕๖๗ | เรื่องตั้งฮั่นตอนต้น |
๕ (๒) ราชวงศ์ฮั่น | |
พระเจ้ากองบู๊สืบราชวงศฮั่นถึงพระเจ้าเหี้ยนเต้ รวม ๑๒ องค์ จำนวนรัชกาล ๑๙๖ ปี ตั้งแต่ พ.ศ. ๕๖๗ ถึง ๗๖๓ | เรื่องตั้งฮั่นตอนปลาย เรื่องสามก๊กตอนต้น |
๖ ราชวงศ์วุย | |
พระเจ้าโจผีปฐมกษัตริย์สืบราชวงศ์ถึงพระเจ้าโจฮวนรวม ๕ องค์ จำนวนรัชกาล ๔๕ ปี ตั้งแต่ พ.ศ. ๗๖๓ ถึง ๘๐๗ | เรื่องสามก๊กตอนกลาง |
๗ ราชวงศ์จิ้น | |
พระเจ้าสุมาเอี๋ยนปฐมกษัตริย์สืบราชวงศ์ถึงพระเจ้ากรองเต้รวม ๑๕ องค์ จำนวนรัชกาล ๑๕๕ ปี ตั้งแต่ พ.ศ. ๘๐๘ ถึง ๙๖๒ | เรื่องสามก๊กตอนปลาย เรื่องไซ่จิ้น เรื่องตั้งจิ้น เรื่องน่ำซ้อง |
เอกราชภาคเหนือแลเอกราชภาคใต้ | |
๘ ราชวงศ์ซอง | |
พระเจ้าซองเกาโจ๊ปฐมกษัตริย์สืบราชวงศ์ถึงพระเจ้าสุนเต้รวม ๗ องค์ จำนวนรัชกาล ๕๙ ปี ตั้งแต่ พ.ศ. ๙๖๓ ถึง ๑๐๒๑ | เรื่องน่ำซ้อง |
๙ ราชวงศ์ซี | |
พระเจ้าชีเกาเต้ปฐมกษัตริย์สืบราชวงศถึงพระเจ้าฮัวเต้รวม ๕ องค์ จำนวนรัชกาล ๒๓ ปี ตั้งแต่ พ.ศ. ๑๐๒๒ ถึง ๑๐๔๔ | เรื่องน่ำซ้อง |
๑๐ ราชวงศ์เหลียง | |
พระเจ้าเหลียงบูเต้ปฐมกษัตริย์สืบราชวงศ์ถึงพระเจ้าเกงเต้รวม ๔ องค์ จำนวนรัชกาล ๕๖ ปี ตั้งแต่ พ.ศ. ๑๐๔๕ ถึง ๑๑๐๐ | เรื่องน่ำซ้อง |
๑๑ ราชวงศ์ตั้น | |
พระเจ้าตั้นบูเต้ปฐมกษัตริย์สืบราชวงศ์ถึงพระเจ้าเอ๋าจู๊รวม ๕ องค์ จำนวนรัชกาล ๓๓ ปี ตั้งแต่ ๑๑๐๐ ถึง ๑๑๓๒ | เรื่องน่ำซ้อง |
๑๒ ราชวงศ์ซุย | |
พระเจ้าอ๋องบุนเต้ปฐมกษัตริย์สืบราชวงศ์ถึงพระเจ้าเกงเต้รวม ๓ องค์ จำนวนรัชกาล ๓๐ ปี ตั้งแต่ พ.ศ. ๑๑๓๒ ถึง ๑๑๖๑ | เรื่องส้วยถัง เรื่องซุยถัง |
๑๓ ราชวงศ์ถัง | |
พระเจ้าถังตี้ปฐมกษัตริย์สืบราชวงศ์ถึงพระเจ้าถังเจียงจงรวม ๒๐ องค์ จำนวนรัชกาล ๒๙๐ ปี ตั้งแต่ พ.ศ. ๑๑๖๑ ถึง ๑๔๕๐ | เรื่องซุยถังตอนปลาย เรื่องเสาปัก เรื่องซิยินกุ้ย เรื่องซิเตงซัน เรื่องไซอิ๋ว เรื่องบูเซ็กเทียน |
๑๔ ราชวงศ์เหลียง | |
พระเจ้าเหลียงไทโจ๊ปฐมกษัตริย์สืบราชวงศ์ถึงพระเจ้ามะเต้รวม ๒ องค์ จำนวนรัชกาล ๑๗ ปี ตั้งแต่ พ.ศ. ๑๔๕๐ ถึง ๑๔๖๖ | เรื่องหงอโต้ว |
๑๕ ราชวงศ์ถัง | |
พระเจ้าจังจงฮองเต้ปฐมกษัตริย์สืบราชวงศ์ถึงพระเจ้าฮุยเต้รวม ๔ องค์ จำนวนรัชกาล ๑๓ ปี ตั้งแต่ พ.ศ. ๑๔๖๖ ถึง ๑๔๗๘ | เรื่องหงอโต้ว |
๑๖ ราชวงศ์จิ้น | |
พระเจ้าเกาโจ๊ฮองเต้ปฐมกษัตริย์สืบราชวงศ์ถึงพระเจ้าชุดเต้รวม ๒ องค์ จำนวนรัชกาล ๑๒ ปี ตั้งแต่ พ.ศ. ๑๔๗๙ ถึง ๑๔๙๐ | เรื่องหงอโต้ว |
๑๗ ราชวงศ์ฮั่น | |
พระเจ้าเคียนอิ้วปฐมกษัตริย์สืบราชวงศ์ถึงพระเจ้าอึนเต้รวม ๒ องค์ จำนวนรัชกาล ๕ ปี ตั้งแต่ พ.ศ. ๑๔๙๐ ถึง ๑๔๙๔ | เรื่องหงอโต้ว |
๑๘ ราชวงศ์จิว | |
พระเจ้าไทโจ๊วเกาเต้ปฐมกษัตริย์สืบราชวงศ์ถึงพระเจ้าตรองเต้รวม ๓ องค์ จำนวนรัชกาล ๑๐ ปี ตั้งแต่ พ.ศ. ๑๔๙๔ ถึง ๑๕๐๓ | เรื่องหงอโต้ว |
๑๙ ราชวงศ์ซ้อง | |
พระเจ้าไทโจ๊วฮองเต๊ปฐมกษัตริย์สืบราชวงศ์ถึงพระเจ้าซองกงจงฮองเต้ รวม ๑๖ องค์ จำนวนรัชกาล ๓๑๗ ปี ตั้งแต่ พ.ศ. ๑๕๐๓ ถึง ๑๘๑๙ | เรื่องน่ำปักซ้อง เรื่องบ้วนฮวยเหลา เรื่องโหงวโฮ้วเพงไซ เพงหนำ, เพงปัก, เรื่องซวยงัก เรื่องซ้องกั๋ง เรื่องเปาเล่งถูกงอั้น |
๒๐ ราชวงศ์หงวน | |
พระเจ้าจ่วนสีโจ๊ฮองเต้ปฐมกษัตริย์สืบราชวงศ์ถึงพระเจ้าง่วนซุนเต้รวม ๘ องค์ จำนวนรัชกาล ๙๒ ปี ตั้งแต่ พ.ศ. ๑๘๒๐ ถึง ๑๙๑๑ | เรื่องง่วนเฉียว |
๒๑ ราชวงศ์เหม็ง | |
พระเจ้าฮ่องบู๊ปฐมกษัตริย์สืบราชวงศ์ถึงพระเจ้าชงเจงรวม ๑๖ องค์ จำนวนรัชกาล ๒๗๖ ปี ตั้งแต่ พ.ศ. ๑๙๑๑ ถึง ๒๑๘๖ | เรื่องเม่งเฉียว เรื่องเองเลียดต้วน เรื่องเองเต๊กอิ้วกังหนำ เรื่องไต้อั้งเผ่า เรื่องเซียวอั้งเผ่า เรื่องเนียหนำอิดซือ |
๒๒ ราชวงศเชง | |
พระเจ้าไทโจเกาฮ่องเต้ปฐมกษัตริย์ สืบราชวงศถึงพระเจ้าซุงทุงรวม ๑๐ องค์ จำนวนรัชกาล ๓๑๗ ปี ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๑๘๗ ถึง ๒๔๕๔ | เรื่องเม่งมวดเชงฌ้อ เรื่องเชงเฉียว |
เรื่องพงศาวดารจีนที่ได้แปลเปนภาษาไทยนั้น ไม่ใช่แต่แปลเปนหนังสืออ่านอย่างเดียว บางเรื่องถึงมีผู้เอาไปแต่เปนกลอนแลเปนบทละคอน ได้ลองสำรวจดูที่มีฉะบับอยู่ในหอพระสมุดสำหรับพระนครขณะเมื่อแต่งตำนานนี้ มีทั้งที่พิมพ์แล้วแลยังไม่ได้พิมพ์หลายเรื่องหลายตอน คือ
บทละคอนรำ
(สำหรับเล่นละคอนนอกอย่างเก่า)
๑ เรื่องห้องสิน ตอนพระเจ้าติวอ๋องไปไหว้เทพารักษ์ที่เขาอิสาน จนถึงพระเจ้าบู๊อ๋องตีได้เมืองอิวโก๋ หลวงพัฒนพงศภักดี (ทิม สุขยางค์) แต่งให้เจ้าพระยามหินทรศักดิ์ธำรงเล่นละคอน เปนหนังสือ ๔ เล่มสมุดไทย ยังไม่ได้พิมพ์
๒ เรื่องใต้ฮั่น ตอนพระเจ้าบูฮ่องเต้ให้นางเต๊กเอี๋ยงกงจู๊เลือกคู่ จนถึงเตียวเห่าไปล่าเนื้อในป่า หลวงพัฒนพงศ ฯ แต่ให้เจ้าพระยามหินทร์ ฯ เล่นละคอน เปนหนังสือ ๒ เล่มสมุดไทย ยังไม่ได้พิมพ์
๓ เรื่องสามก๊ก (ก) ตอนพระเจ้าเลนเต้ประพาสสวน จนถึงตั๋งโต๊ะเข้าไปขู่พระเจ้าเหี้ยนเต้ หลวงพัฒนพงศ ฯ แต่ให้เจ้าพระยามหินทร์ ฯ เล่นละคอน เปนหนังสือ ๑๖ เล่มสมุดไทย ยังไม่ได้พิมพ์
(ข) ตอนอ่องอุ้นกำจัดตั๋งโต๊ะ หลวงพัฒนพงศ ฯ แต่งให้เจ้าพระยามหินทร์ ฯ เล่นละคอน เปนหนังสือ ๒ เล่มสมุดไทย ยังไม่ได้พิมพ์
(ค) ตอนจิวยี่คิดอุบายจะเอาเมืองเกงจิ๋ว หลวงพัฒนพงศ ฯ แต่งให้เจ้าพระยามหินทร์ ฯ เล่นละคอน เปนหนังสือ ๒ เล่มสมุดไทย ยังไม่ได้พิมพ์
(ฆ) ตอนจิวยี่คิดอุบายจะเอาเมืองเกงจิ๋ว หมื่นเสนานุชิต (เจต) แต่งลงพิมพ์เมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๖
(ง) ตอนจิวยี่รากเลือด หลวงพัฒนพงศ ฯ แต่งให้เจ้าพระยามหินทร์ ฯ เล่นละคอน เปนหนังสือสมุดไทย ๑ ยังไม่ได้พิมพ์
(จ) ตอนนางซุนฮูหยิน หนีกลับไปเมืองกังตั๋ง หลวงพัฒนพงศ ฯ แต่งให้เจ้าพระยามหินทร์ ฯ เล่นละคอน เปนหนังสือเล่มสมุดไทย ๑ ยังไม่ได้พิมพ์
๔ เรื่องซุยถัง ตอนเซงจือเกณฑ์ทัพ จนถึงนางย่งอั่นกงจู๊จับนางปักลันกับทิก๊กเอี๋ยนได้ หลวงพัฒนพงศ ฯ แต่งให้เจ้าพระยามหินทร์ ฯ เล่นละคอน เปนหนังสือเล่มสมุดไทย ๑ ยังไม่ได้พิมพ์
๕ เรื่องหงอโต้ ตอนฮองเฉาสามิภักดิ์ต่อพระเจ้ากวางเผ็ง หลวงพัฒนพงศ ฯ แต่งให้เจ้าพระยามหินทร์ ฯ เล่นละคอน เปนหนังสือเล่มสมุดไทย ๑ ยังไม่ได้พิมพ์
๖ เรื่องบ้วนฮวยเหลา ตอนพวกฮวนตีด่านเมืองหลวง จนถึงนางโปยเหลงจะทำร้ายเพ็งไซอ๋อง หลวงพัฒนพงศ ฯ แต่งให้เจ้าพระยามหินทร์ ฯ เล่นละคอน เปนหนังสือ ๖ เล่มสมุดไทย ยังไม่ได้พิมพ์
๗ เรื่องซวยงัก ตอนกิมงิดตุดตีเมืองลูอันจิ๋ว กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญทรงพระนิพนธ์ (สันนิษฐานว่าเพื่อให้เจ้าคุณจอมมารดาเอมเล่นละคอน) พิมพ์เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๒
บทละคอนร้อง
(เล่นบนเวฑีอย่างละคอนปราโมไทย)
๑ เรื่องสามก๊ก (ก) ตอนนางเตียวเสี้ยนลวงตั๋งโต๊ะ ผู้แต่งใช้นามปากกาว่า “นายบุญสอาด” พิมพ์เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๘
(ข) ตอนตั๋งโต๊ะหลงนางเตียวเสี้ยน ผู้แต่งใช้นามว่า “เหม็งกุ่ยปุ้น” พิมพ์เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๘
(ค) ตอนเล่าปี่แต่งงาน จนจิวยี่รากเลือด ผู้แต่งใช้นามปากกาว่า “ทิดโข่ง” พิมพ์เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๑
กลอนสุภาพ
(แต่งตามแบบสุนทรภู่)
๑ เรื่องห้องสิน ขุนเสนานุชิต (เจต) แต่งค้างอยู่ เปนหนังสือ ๓ เล่มสมุดไทย
๒ เรื่องสามก๊ก ตอนนางเตียวเสี้ยนลวงตั๋งโต๊ะ หลวงธรรมาภิมณฑ์ (ถึก จิตรกถึก) แต่ง พิมพ์เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๙
[๑] เชื่อว่าจะได้แปลเปนภาษาอื่นซึ่งยังสืบไม่ได้ความมีอยู่อีก เช่นภาษามงโกเลเปนต้น
[๒] พวกเกาหลีกับพวกญวนใช้หนังสือจีนเปนหนังสือสำหรับบ้านเมืองอยู่แล้ว บางทีจะใช้หนังสือสามก๊กที่จีนพิมพ์อยู่ก่อน พิมพ์เองต่อชั้นหลัง ที่แปลเปนภาษาเขมรนั้น เข้าใจว่าแปลจากฉะบับพิมพ์ภาษาไทยที่ได้ไปจากกรุงเทพ ฯ ที่แปลเปนภาษามะลายูพิมพ์ที่เมืองสิงคโปร์ แต่จะได้ฉะบับมาแต่ไหนและแปลเมื่อใดหาทราบไม่
[๓] หนังสือสามก๊กที่แปลเปนภาษาละตินนั้น บาดหลวงโรมันคัทธอลิคคน ๑ ซึ่งได้มียศเปนบิฉอบอยู่ในเมืองจีนเปนผู้แปล ที่แปลเปนภาษาอังกฤษนั้น เคยแปลช้านานแล้ว แต่ว่าแปลเพียงบางตอน มิสเตอรบริเวตเตเลอพึ่งแปลตลอดทั้งเรื่องแล้วพิมพ์เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๙ สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระนครสวรรค์วรพินิตเสด็จไปได้มาจากเมืองสิงคโปร์ ประทานแก่หอพระสมุดสำหรับพระนคร
[๔] กรมพระราชวังหลังทิวงคตเมื่อ พ.ศ. ๒๓๖๙ เจ้าพระยาพระคลัง (หน) ถึงอสัญกรรมเมื่อ พ.ศ. ๒๓๔๘
[๕] กรมพระราชวังหลังทิวงคตเมื่อ พ.ศ. ๒๓๖๙ เจ้าพระยาพระคลัง (หน) ถึงอสัญกรรมเมื่อ พ.ศ. ๒๓๔๘
[๖] พระยาโชฎึก (ฟัก) เคยเปนหลวงพิพิธภัณฑพิจารณ์ แลเปนผู้ชำนาญหนังสือจีน บางทีจะเปนผู้แปลเรื่องไคเภ็ก
[๗] ยังมีหนังสือพิมพ์เรื่องจีนซึ่งมีผู้แปลเปนภาษาไทยลงพิมพ์อีกหลายเรื่อง แต่เปนเรื่องเบ็ดเตล็ดชั่วแต่อ้างพงศาวดาร มิใช่เอาเรื่องพงศาวดารจีนมาแต่งอย่างทำนองเรื่องสามก๊ก จึงมิได้กล่าวถึง