พฤศจิกายน จุลศักราช ๑๒๕๖

วันที่ ๗ พฤศจิกายน รัตนโกสินทร๒๘ศก ๑๑๔

เวลาบ่าย ๓ โมงเศษ เสด็จทรงรถไฟจากพระราชวังบางปอิน มาประทับที่สะเตชันรถไฟน่าวัดเทพศิรินทราวาศข้าม พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นพิทยลาภพฤฒิธาดา ทรงนำพระยาสโมสรสรรพการ ถวายบังคมลาออกไปตรวจสายโทรเลขทางเมืองทวาย มีพระราชดำรัสไต่ถามด้วยตามสมควร แล้วเสด็จขึ้นทรงรถพระที่นั่งพร้อมด้วยกระบวนข้างใน มาตามถนนบำรุงเมือง ลงถนนน่าพระที่นั่งสุทไธสวรรย์ เลี้ยวลงถนนข้างศาลสถิตย์ยุติธรรม เลี้ยวลงถนนข้างคลอง ข้ามตะพานเสี้ยวถึงถนนอ้อมรอบกำแพงเลี้ยวลงถนนรอบพระนครทางลำน้ำ แล้วมาตามถนนข้างคลองหลอด ข้ามตะพานเสี้ยวเลี้ยวลงถนนน่าวัดมหาธาตุ เวลาย่ำค่ำเศษเสด็จกลับพระบรมมหาราชวัง

วันที่ ๘ พฤศจิกายน รัตนโกสินทร๒๘ศก ๑๑๔

เวลาบ่าย ๕ โมงเศษ เสด็จออกพระที่นั่งจักรกรีมหาปราสาท แล้วเสด็จลงบันไดทางตวันออก แล้วเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรห้องทหารล้อมวังพัก มาพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย แล้วเสด็จกลับมาออกประตูพิมานไชยศรี ถึงน่าหอพระสมุดวชิรญาณ ประทับรับสั่งกับหม่อมเจ้าอลังการ แล้วเสด็จกลับมาประทับที่พระที่นั่งจักรกรีมหาปราสาทมุขตวันออกจนเวลา ๒ ทุ่มเศษเสด็จขึ้น

วันที่ ๙ พฤศจิกายน รัตนโกสินทร๒๘ศก ๑๑๔

วันนี้เจ้าพนักงานจัดการที่พระที่นั่งอนันตสมาคม พระสงฆ์ ๓๕ รูป เจริญพระพุทธมนต์ในการพระราชพิธีฉัตรมงคล หม่อมเจ้าพระสมเด็จพระพุฒาจาริย์เปนประธานสงฆ์ เวลาทุ่มเศษเสด็จออกทรงจุดเทียนเครื่องนมัสการทรงศิลแล้ว หลวงสารประเสริฐกระทรวงมุรธาธรอ่านประกาศตามพระราชพิธีเสร็จแล้ว พระสงฆ์ได้เจริญพระพุทธมนต์ เวลายามเศษเสด็จขึ้น

วันที่ ๑๐ พฤศจิกายน รัตนโกสินทร๒๘ศก ๑๑๔

เวลาเช้า ๕ โมงเศษ โปรดเกล้า ฯ ให้สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถ เสด็จออกเลี้ยงพระสงฆ์ ๓๕ รูป ที่พระที่นั่งอนันตสมาคม ครั้นพระสงฆ์ได้รับพระราชทานฉันแล้ว ทรงถวายของเครื่องไทยทานตามสมควร แล้วเสด็จจุดเทียนโต๊ะเครื่องสังเวย พราหมณ์อ่านดุษฎีสังเวย กล่อมพระมหาเสวตรฉัตร แล้วเวียนเทียนสมโภชแลทรงเจิมตามธรรมเนียม

วันนี้ เจ้าพนักงานจัดการที่พระที่นั่งไพศาลทักษิณ พระสงฆ์ ๓๙ รูปจะได้เจริญพระพุทธมนต์ ในการพระราชพิธีฉัตรมงคล พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นวชิรญาณวโรรสเปนประธานสงฆ์ เวลา ๒ ทุ่มเศษ เสด็จลงในพระที่นั่งไพศาลทักษิณ ทรงจุดเทียนเครื่องนมัสการทรงศิลแล้ว พระยาศรีสุนทรโวหารกระทรวงมุรธาธร อ่านประกาศตามพระราชพิธีจบแล้ว พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ เวลา ๔ ทุ่มเศษพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์จบ ถวายอดิเรกพระพรลา แล้วเสด็จขึ้น

วันที่ ๑๑ พฤศจิกายน รัตนโกสินทร๒๘ศก ๑๑๔

เวลาเช้า ๕ โมงเศษ โปรดเกล้า ฯ ให้สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถ เสด็จลงเลี้ยงพระสงฆ์ ๓๙ รูป ที่พระที่นั่งไพศาลทักษิณ ครั้นพระสงฆ์รับพระราชทานฉันแล้ว ทรงถวายของเครื่องไทยทานตามสมควร แล้วเสด็จทรงจุดเทียนโต๊ะเครื่องสังเวย พราหมณ์อ่านดุษฎีสังเวย เวียนเทียนสมโภช แลทรงเจิมเหมือนวันก่อนมา

ครั้นเวลาบ่ายเจ้าพนักงานมาจัดการที่พระที่นั่งจักรกรีมหาปราสาท พระสงฆ์ ๓๗ รูป จะได้เจริญพระพุทธมนต์ สมเด็จพระวันรัตเปนประธานสงฆ์

เวลา ๒ ทุ่มเศษ เสด็จออกในพระที่นั่งจักรกรีมหาปราสาท ทรงจุดเทียนเครื่องนมัสการแล้ว หลวงสารประเสริฐ กระทรวงมุรธาธรอ่านประกาศตามพระราชพิธีจบลงแล้ว พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ เวลา ๔ ทุ่มเศษ พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์จบ ทรงถวายเหรียญรัชฎาภิเศกแก่พระสงฆ์ทั่วแล้ว พระสงฆ์ก็ถวายอดิเรกถวายพระพรลากลับ แลเสด็จมาประทับที่ออกขุนนาง จึ่งพระยาราชวรานุกูลราชปลัดทูลฉลองกระทรวงมหาดไทย นำพระประสิทธิ์วิทธยา ซึ่งออกไปรักษาพระยาสุรินทรฦๅไชย ผู้ว่าราชการเมืองเพชรบุรี ๑ หลวงศรีสังข์กร ซึ่งไปเปนผู้พิพากษาคดี มณฑลลาวเฉียง ๑ นายจำรัสมหาดเจ็ก บุตรหลวงอุทธยานาธิกร ซึ่งขึ้นไปราชการเมืองลาวพวน รวม ๓ นายกลับลงมาเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท มีพระราชดำรัสไต่ถามตามสมควร

แล้วพระยาราชวรานุกูล นำหลวงคเชนทรามาตย์ กราบถวายบังคมลา พาพวกแขกปหัง ไปส่งข้าหลวงผู้สำเร็จราชการมณฑลลาวเฉียง

แล้วพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นพิทยลาภพฤฒิธาดา ทรงนำนายเขมมหาดเล็กว่าที่เจ้ากรมโทรเลข กราบถวายบังคมลาออกไปตรวจราชการสายโทรเลขทางเมืองเขมร

แล้วโปรดเกล้า ฯ พระราชทานตราตั้งกรรมสัมปาทิก หอพระสมุดวชิรญาณ คือ พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าจันทรทัศจุธาธาน สารานิยกร หม่อมราชวงษ์ประยูร ผู้ช่วยเหรัญญิก พระยาศรีสุนทรโวหาร ผู้ช่วยบรรณารักษ์ พระบวรวงษ์เธอ พระองค์เจ้ากัลยาประวัติ ผู้ช่วยสาราณิยกร หลวงสิทธิ์นายเวร ผู้ช่วยปฏิคม แล้วพระราชทานสัญญาบัตร ให้หลวงศรีมงคลกรมการ เปนหลวงกำแหงพลล้าน ปลัดเมืองไชยนาท ถือศักดินา ๖๐๐

เวลา ๔ ทุ่มเศษเสด็จขึ้น

วันที่ ๑๙ พฤศจิกายน รัตนโกสินทร๒๘ศก ๑๑๔

เวลาทุ่มเศษ เสด็จออกพระที่นั่งจักรกรีมหาปราสาท มุขตวันตกที่ออกขุนนาง ทรงประทับปิดทองพระพุทธรูป แล้วเสด็จกลับมาประทับที่น่าพระทวารกลาง พระยาราชเสนา กระทรวงมหาดไทย นำพระยาพิพิธพิไสยสุนทรการ ผู้ว่าราชการเมืองตราษ ๑ พระยาวิชิตภักดี ผู้ว่าราชการเมืองสวรรคโลก ๑ หลวงกำแหงพลล้าน ปลัดเมืองไชยนาท ๑ กราบถวายบังคมลาออกไปรับราชการบ้านเมือง โปรดเกล้าฯ พระราชทานผ้าพรรณนุ่งห่ม แก่ผู้ว่าราชการเมืองสวรรคโลกย์ ๑ ปลัดเมืองไชยนาท ๑ แล้วมีพระราชดำรัสด้วยตามสมควร แล้วเสด็จขึ้นประทับมุขตวันออก พระเจ้าน้องยาเธอเฝ้าหลายพระองค์

เวลา ๔ ทุ่มเศษเสด็จขึ้น

วันที่ ๒๐ พฤศจิกายน รัตนโกสินทร๒๘ศก ๑๑๔

เวลาบ่าย ๕ โมงเศษ เสด็จออกพระที่นั่งจักรกรีมหาปราสาทมุขตวันออก พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงเทวะวงษ์วโรประการ เสนาบดีว่าการต่างประเทศ ทรงนำ มองซิเออ เลอ เยเนราล คอรอนนาต์ แม่ทัพเมืองโคชินซิน ๑ มองซิเออ เลอ คอมกา แอนเชีย เลอสวังยัง ผู้ช่วยในทูตฝรั่งเศส ๑ มองซิเออ เลอ แคปิตัน วังซัง เอก เดอ กง ของแม่ทัพ ๑ เข้าเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท มีพระราชปฏิสันฐานตามสมควรแล้ว พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงเทวะวงษ์วโรประการ นำแขกเมืองออกจากที่เฝ้า แล้วเสด็จขึ้น

วันที่ ๒๕ พฤศจิกายน รัตนโกสินทร๒๘ศก ๑๑๔

เวลา ๒ ทุ่มเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกขุนนางตามธรรมเนียมประทับบนพระแท่น พระบรมวงษานุวงษ์ ข้าราชการผู้ใหญ่ผู้น้อยเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท พระยาราชเสนานำใบบอกพระยาฤทธิรงค์รณเฉท ข้าหลวงใหญ่มณฑลปราจีณบุรี ๑ ฉบับ ขึ้นอ่านกราบบังคมทูลพระกรุณาใจความว่า ขอย้ายศาลากลาง เมืองนครนายกไปสร้างขึ้นใหม่ที่ตำบลเมืองเก่า ขอพระบรมราชานุญาตเงิน ๒๐ ชั่งในการที่จะสร้างศาลากลาง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึ่งมีพระราชดำรัสแก่พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นดำรงราชานุภาพ ในเรื่องที่จะสร้างศาลากลางเมืองนครนายก แล้วมีพระบรมราชโองการดำรัสสั่งแก่พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นนเรศร์วรฤทธิ์ เรื่องจับอั้งยี่ให้เอาแต่หัวน่ากับตัวการพอสมควร เวลายามเศษเสด็จขึ้น

วันที่ ๒๖ พฤศจิกายน รัตนโกสินทร๒๘ศก ๑๑๔

เวลา ๒ ทุ่มเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกขุนนาง ประทับบนพระแท่นแล้ว มีพระราชดำรัสตรัสแก่พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงพิชิตปรีชากร เสนาบดีกระทรวงยุติธรรม ในลักษณพิจารณาสางความเก่าคั่งค้างเตือนให้รีบเร่งชำระเสียใน ๓–๔ เดือน พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงพิชิตปรีชากร กราบบังคมทูลพระกรุณารับฉลองพระเดชพระคุณให้แล้วทันตามกำหนดที่ทรงพระราชดำริห์ปรารพนั้น แล้วพระยาราชเสนากระทรวงมหาดไทยนำใบบอกพระราชวรินทร เจ้ากรมพระตำรวจนอกขวาข้าหลวงรักษาราชการเมืองสระบุรี ๓ ฉบับ ขึ้นอ่านกราบบังคมทูลพระกรุณา ฉบับที่ ๑ ลงวันที่ ๒๖ สิงหาคม ร.ศ. ๑๑๔ ว่าขอพระบรมราชานุญาตย้ายเมืองสระบุรีไปตั้งที่ตำบลปากเพรียวแลฝั่งซ้าย แลขอรับพระราชทานเงินค่าใช้สอยก่อสร้าง คือทำทำเนียบศาลากลางตะรางตะพานข้ามลำน้ำสักกับโรงบ่อนโรงสุราแลเงินเบ็จเสร็จรวมเงิน ๑๒๐๐๐ บาท แล้วจะคิดเก็บเงินค่าเช่าโรงบ่อนโรงสุราแลที่ดินในเขตรนั้นส่งคืนพระคลังปีหนึ่ง ๑๖๐๐ บาท ฤๅ ๒๐๐๐ บาท กว่าจะสิ้นจำนวนเงินที่เบิกไป ฉบับที่ ๒ ลงวันที่ ๑ สิงหาคม ร.ศ. ๑๑๔ ว่าได้จัดให้พระรัตนากาศจางวางกองโคเปนพนักงานบาญชีกลางจัดการซื้อสิ่งของต่างๆ ให้หลวงพลเปนนายด้านทำการก่อสร้าง กำหนดวันที่ ๑๕ สิงหาคม จะได้ยกไปตั้งที่ตำบลปากเพรียว ฉบับที่ ๓ ลงวันที่ ๒๓ สิงหาคมว่าได้ย้ายเมืองสระบุรีขึ้นไปตั้งที่ปากเพรียวตามกำหนดนั้นแล้ว ได้มีหมายให้ผู้มีอรรถคดีไปว่าความที่ศาลากลางใหม่แต่วันที่ ๒๐ สิงหาคมนี้ไป แล้วมีพระราชดำรัสตรัสแก่พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นดำรงราชานุภาพ เสนาบดีกระทรวงมหาดไทย ในเรืองย้ายเมืองสระบุรีไปตั้งที่ปากเพรียว แลมีพระราชดำรัสตรัสถามพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นนเรศร์วรฤทธิ์ เสนาบดีกระทรวงนครบาลเรื่องอั้งยี่พอสมควร เวลายามเศษเสด็จขึ้น

วันที่ ๒๗ พฤศจิกายน รัตนโกสินทร๒๘ศก ๑๑๔

เวลา ๒ ทุ่มเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกขุนนางเหมือนเมื่อวันก่อนประทับบนพระแท่นแล้ว พระบรมวงษานุวงษ์ ข้าราชการผู้ใหญ่ผู้น้อยเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท พระยาราชเสนากระทรวงมหาดไทยนำใบบอกพระยาทิพยโกษาผู้กำกับข้าหลวงรักษาราชการเมืองภูเก็จ ๑ ฉบับขึ้นอ่านกราบบังคมทูลพระกรุณา ว่าที่เมืองภูเก็จมีความวิวาทด้วยเรื่องที่นำเหมืองดีบุกชุกชุมมาก แต่เดิมผู้ที่จัดสร้างที่เหมืองฤๅซื้อขายต่อ ๆ กันมานั้น ผู้ว่าราชการเมืองกรมการหาได้ทำหนังสือกำหนดกว้างยาวให้เปนหลักถานไม่ ความวิวาทเรื่องที่เหมืองจึ่งต้องชำระตัดสินเปนการยาก ขอรับพระราชทานพนักงานแผนที่ออกไปประจำอยู่ที่เมืองภูเก็จ ๒ นาย จะได้ตรวจวัดทำแผนที่ตลอดทั่วไป จะได้ทราบว่าที่ทำเหมืองแล้วเท่าใดที่ว่างเปล่าอยู่เท่าใด แลมีที่เจ้าของทำเหมืองอยู่เท่าใดจะได้ทราบตลอดไม่ยากแก่การพิจารณาตัดสินได้โดยง่าย แล้วมีพระราชดำรัสตรัสถามพระยาราชวรานุกูลปลัดทูลฉลองกระทรวงมหาดไทยว่าได้จัดการยังไร พระยาราชวรานุกูลกราบบังคมทูลพระกรุณาว่าได้ขอพนักงานแผนที่ ๒ นายจัดส่งออกไปแล้ว ๆ พระยาราชวรานุกูลนำเจ้าวรวงษ์วุฒิ ที่ปฤกษาราชการเมืองนครลำปางจัดได้

ไม้ขอนสักใหญ่ ๓ ๔ ๕ } กำ ยาว ๔ ๕ ๖ } วา ๗๐ ต้น เสื่อลำแพน ๒๐๐ ผืน } ขอพระราชทานทูลเกล้าฯ ถวายช่วยในการสฐาปะณาวัดมหาธาตุ แล้วมีพระราชดำรัสถามพระยาอภัยรณฤทธิว่าชำระอั้งยี่ได้หัวน่าตัวการกี่คนจะต้องสืบสวนฤาไม่ พระยาอภัยรณฤทธิกราบบังคมทูลพระกรุณาว่าพิจารณาได้หัวน่าตัวการ ๓๕ คน เห็นจะไม่ต้องสืบสวน โดยจะสืบก็จะต้องสืบสวนในพวกอั้งยี่ แล้วพระราชทานสัญญาบัตรให้นายร้อยตรี หม่อมราชวงษ์ชื่น เปนหลวงราชพงษ์ภักดี มีตำแหน่งราชการในกระทรวงมหาดเล็ก ถือศักดินา ๖๐๐ แล้วจึงมีพระราชดำรัสแก่พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นนเรศร์วรฤทธิ พอสมควร เวลายามเศษเสด็จขึ้น

วันที่ ๒๘ พฤศจิกายน รัตนโกสินทร๒๘ศก ๑๑๔

เวลาบ่าย ๓ โมงเศษ เจ้าพนักงานจัดกระบวนรถแลรถพระที่นั่ง มาเตรียมเทียบคอยอยู่ที่ชาลน่าบันไดพระที่นั่งจักรกรีมหาปราสาท เวลาบ่าย ๔ โมงเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จทรงพระราชดำเนินออกทางพระทวารกลางพระที่นั่งจักรกรีมหาปราสาท เสด็จลงบันไดขึ้นทรงรถพระที่นั่งมีตำรวจขึ้นม้าแลทหารแห่นำตามเสด็จพระราชดำเนินออกประตูพิมานไชยศรีประตูวิเศษไชยศรี เลี้ยวป้อมเผด็จดัสกรทางถนนท้องสนามไชยไปถนนบำรุงเมืองเข้าประตูโรงเรียนนายร้อยทหารบกด้านเหนือ หยุดรถพระที่นั่งที่สนามหญ้า ตรงพลนักเรียนนายร้อยที่แต่งกายเต็มยศตั้งแถวรับเสด็จอยู่นั้น พระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ากรมขุนนริศรานุวัติวงษ์ เสนาบดีกระทรวงพระกลาโหม แลสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงษ์กรมพระภาณุพันธุวงษ์วรเดช ผู้บัญชาการกรมยุทธนาธิการกับนายทหารผู้ใหญ่คอยเฝ้ารับเสด็จอยู่ ณ ที่นั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินลงจากรถพระที่นั่งทอดพระเนตรแถวทหารตลอดแล้ว สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงษ์ กรมพระภาณุพันธุวงษ์วรเดช นำเสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรสถานที่ฝึกหัดต่างๆ ณ โรงเรียนหลังใหม่ชั้นล่างแล้วเสด็จขึ้นชั้นบนโรงเรียนทางบันใดด้านตวันตกทอดพระเนตรห้องที่อยู่นักเรียนต่อไป เสด็จลงทางบันไดด้านตวันออกเลี้ยวไปตามถนนในบริเวนโรงเรียนไปทอดพระเนตรห้องฝึกหัดทำรูปป้อมค่ายด้วยทรายแล้วเสด็จขึ้นชั้นบนโรงเรียนหลังเก่านั้นประทับพระเก้าอี้ที่มุมบันใดทอดพระเนตรพลนักเรียนสำแดงวิชาการทหารในสนามหญ้าน่าโรงเรียน แล้วเสด็จทอดพระเนตรห้องเลี้ยงอาหารครัวสำหรับโรงเรียนแลโรงกายกรรม แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปประทับเหนือพระราชบันลังก์ในโรงสาตรากรรมที่จัดเปนห้องประชุม พระบรมวงษานุวงษ์เข้าทูลลอองธุลีพระบาทผฝ่ายทหารพลเรือนเฝ้าตามตำแหน่ง พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นพิทยลาภพฤฒิธาดาเสนาบดีกระทรวงมุรธาธร นำเหรียญจักรมาลาทูลเกล้า ฯ ถวาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานแก่นายทหารบก ๓๔ ทหารเรือ ๓๓ กรมพระตำรวจ ๖ รวม ๗๓ นาย พระยาวรเดชศักดาวุธ นำสิ่งที่รฤกแลของรางวัลขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานสิ่งที่รฤกแก่โรงเรียนนายร้อยในการที่เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรโรงเรียนครั้งนี้ หลวงสรวิเศษเดชาวุธรับพระราชทานไว้ประดับโรงเรียนต่อไป แล้วพระราชทานรางวัลแก่นักเรียนนายร้อยที่สอบไล่วิชาต่าง ๆ ได้ ในที่ประชุมกรรมการจำนวนศก ๑๑๓ รวม ๔๓ นายเสร็จแล้ว มีพระบรมราโชวาทในการทหารแลพระราชทานพรแก่กองทหารแล้ว เสด็จประทับโต๊ะเสวยพร้อมด้วยพระบรมวงษานุวงษ์แลข้าราชการฝ่ายทหารแล้ว ทรงพระดำเนินทอดพระเนตรโรงพยาบาลและกระโจมเครื่องเลี้ยงต่างๆ แล้วประทับที่เต๊นใหญ่ประมาณทุ่มเศษ เสด็จทรงรถพระที่นั่งทางประตูโรงเรียนนายร้อยทิศใต้ เสด็จพระราชดำเนินกลับพระบรมมหาราชวัง

วันที่ ๒๙ พฤศจิกายน รัตนโกสินทร๒๘ศก ๑๑๔

เวลายามเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกขุนนางประทับบนพระแท่นแล้ว พระบรมวงษานุวงษ์แลข้าราชการผู้ใหญ่ผู้น้อยเข้าเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท พระยาราชเสนากระทรวงมหาดไทย นำใบบอกพระยาประสิทธิศัลการข้าหลวงเทศาภิบาลมณฑลนครราชสีห์มา ฉบับ ๑ โทรเลขพระยาศรีสริยราชวรานุวัตข้าหลวงเทศาภิบาลมณฑลพิศณุโลกฉบับ ๑ ขึ้นอ่านกราบบังคมทูลพระกรุณาบอกพระประสิทธิศัลการ ลงวันที่ ๔ พฤศจิกายน ร.ศ. ๑๑๔ มีตราพระราชสีหโปรดเกล้า ฯ ขึ้นไปให้จัดการว่าประมูลภาษีอากรในมณฑลนครราชสีห์มาประจำ๒๙ศก ๑๑๕ รายใดกระทำเปนภาษีอากรราชาธิปตัยได้ให้จัดทำ พระยาประสิทธิศัลการเห็นว่า ยังไม่ควรทำเปนการราชาธิปตัยก่อนจึ่งได้ว่าประมูลภาษีอากรจำนวนศก ๑๑๕ สิบสี่ราย รวมเปนเงิน ๑๒๐๔ ชั่ง ๕๒ บาท สูงกว่าจำนวนศก ๑๑๔ เงิน ๑๑๔ ชั่ง ๘ บาท หนังสือสัญญาประกันรับเรือนเรื่องราวประมูลกับบาญชี ตำบลตั้งบ่อนเบี้ยตั้งเตาต้มน้ำสุรานั้น จะได้มีบอกมาต่อภายหลัง โทรเลขพระยาศรีสุริยราชวรานวัตร ลงวันที่ ๒๗ พฤศจิกายน ร.ศ. ๑๑๔ ว่าเจ้าพนักงานโทรเลขได้ขึ้นไปตั้งเครื่องที่เมืองพิศณุโลก เบิดใช้ได้แต่วันที่ ๒๘ แล้ว เมืองพิจิตรเปิดใช้ได้แต่วันที่ ๑๘ เดือนนี้ เมืองพิไชยอุตรดิษฐ เจ้าพนักงานกำลังตั้งเครื่องอยู่คงจะใช้ได้ในเร็ว ๆ นี้ แล้วพระยาจ่าแสนบดีกระทรวงมหาดไทย นำข้าราชการกราบถวายบังคมลา ๖ นาย คือ นายพันโทพระยาดัษกรปลาศข้าหลวงใหญ่ ๑ พระภัคดีราชยกระบัตรเมืองพิไชยข้าหลวงยุติธรรมหนึ่ง หลวงวิเศษสุรการข้าหลวงคลัง ๑ ขุนวิชิตชลหารข้าหลวงมหาดไทย ๑ นายร้อยโทนายนินขำหลวงผู้ช่วยหนึ่ง ขึ้นไปรับราชการในเทศาภิบาลมณฑลนครสวรรค์ พระณรงค์พิชิตเจ้ากรมพระตำรวจนอกขวาฝ่ายพระราชวังบวร ๑ ออกไปรับราชการตำแหน่งวังหลวงรักษาราชการเมืองนครไชยศรี แล้วมีพระราชดำรัสถามพระยาอินทราธิบดีสีหราชรองเมืองกระทรวงนครบาล ว่าจีนกับไทยปะปนกันเปนอั้งยี่ใครจะมากกว่ากัน แลสงบลงบ้างฤายัง พระยาราชรองเมืองกราบบังคมทูลว่า เปนคนจีนโดยมาก คนไทยน้อย การก็สงบเรียบร้อยแล้ว มีพระราชดำรัสแก่พระยาอภัยรณฤทธิจางวางกรมพระตำรวจในเรื่องอั้งยี่พอสมควร เวลายามเศษเสด็จขึ้น

วันที่ ๓๐ พฤศจิกายน รัตนโกสินทร๒๘ศก ๑๑๔

เวลา ๒ ทุ่มเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกขุนนางพระยาราชเสนากระทรวงมหาดไทยนำใบบอกเจ้าพระยาฤทธิสงคราม เจ้าพระยาไทรบุรี ๓ ฉบับขึ้นอ่านกราบบังคมทูลพระกรุณา ฉบับที่ ๑ ลงวันที่ ๙ พฤศจิกายน รัตนโกสินทร๒๘ศก ๑๑๔ ว่าเจ้าพระยาไทรบุรีกราบถวายบังคมลาออกไปถึงบ้านเมืองพร้อมกัน ณ ที่อนะบูเก็ต ณ วันที่ ๑๙ ตุลาคม ร.ศ. ๑๑๔ ได้เชิญประกาศกระแสพระบรมราชโองการประกาศนียบัตรสารตราพระราชสีห์ออก เชิญเครื่องราชอิศริยาภรณ์ตติยจุลจอมเกล้ากับประกาศนียบัตรซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานแก่หวันเต๊ะมารดาพระยาไทรบุรีออกมอบให้ แล้วได้แจ้งกระแสพระเสาวนีในสมเด็จพระนางเจ้าพระอรรคราชเทวีซึ่งโปรดเกล้าฯ ดำรัสสั่งเจ้าพระยาไทรบุรีไปให้หวันเต๊ะทราบในที่ประชุมนั้น ในการประชุมนี้เจ้าพระยาไทรบุรีได้ให้ช่างถ่ายรูปไว้เปนที่รฤก ได้ให้นายพุ่มบุตรหลวงโกษาอิศหากนำเข้ามาทูลเกล้าฯ ถวายชุด ๑ เปนรูป ๖ รูป ฉบับที่ ๒ ว่าซึ่งมีสารตราพระราชสีห์ออกไปว่าทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเหรียญที่รฤกในการสมโภชศิริราชสมบัติแก่เจ้าพระยาไทรบุรีนั้น เจ้าพระยาไทรบุรีได้รับพระราชทานแล้ว ฉบับที่ ๓ ว่าได้มีสารตราพระราชสีห์ออกไปว่า ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานเหรียญรัชฎาภิเศกมาลาแก่หวันเต๊ะมารดาเจ้าพระยาไทรบุรีนั้น เจ้าพระยาไทรบุรีได้นำเหรียญไปมอบให้ตามสารตราแล้ว มีพระราชดำรัสกับนายพุ่มตามสมควร เวลายามเศษเสด็จขึ้น

  1. ๑. พระยาสโมสรสรรพการ (ทัด ศิริสัมพันธ์) ปลัดทูลฉลองกระทรวงโยธาธิการ ภายหลังเป็นนายพลโท ทหารบก

  2. ๒. พระที่นั่งอนันตสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง ปัจจุบันรื้อแล้ว

  3. ๓. พระองค์เจ้าจันทรทัตจุฑาธาร ภายหลังทรงสถาปนาเป็นกรมหมื่นวิวิธวรรณปรีชา

  4. ๔. พระองค์เจ้าชายกัลยาณประวัติ ในรัชกาลที่ ๖ ทรงสถาปนาเป็นกรมหมื่นกวีพจน์สุปรีชา

  5. ๕. เจ้าฟ้ากรมขุนนริศรานุวัดติวงศ์ ต่อมาสถาปนาเป็นสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ