ตอนที่ ๑ จันทโครบเรียนศิลปศาสตร์กับพระฤๅษี

๏ จะกล่าวกาลกิณีนารีร้าย ให้แจ้งชายกุลบุตรที่ฝึกสอน
ยังมีราชนิเวศน์เขตนคร นรินทรพรหมทัตกระษัตรา
มีเมืองขึ้นอัติเรกเสกรฉัตร[๑] กรุงกระษัตริย์มีองค์โอรสา
ชื่อพระจันทโครบกุมารา พระชันษาถ้วนถึงสิบสองปี
ด้วยสมเด็จพระบิดาชรานัก พระลูกรัก[๒]จะให้ครองบูรีครี
พระตรึกความตามในประเพณี จึ่งมีเทวราชเรียกโอรสพลัน
เจ้าพ่อเอ๋ยพระบิดาชราแล้ว อันลูกแก้วจะให้ครองมไหศวรรย์
ประเพณีมีมาแต่สามัญ ทุกเขตขัณฑ์แว่นแคว้นในแดนดิน
กระษัตริย์ใดให้เมืองกับโอรส ย่อมปรากฏเรียนรู้ธนูศิลป์
เจ้าจะสืบสุริวงศ์ดำรงดิน ไปเรียนศิลปศาสตร์ให้เชี่ยวชาญ
อันฤๅษีชีไพรวิไสยเพท ย่อมเรืองเดชวิทยามหาศาล
สันโดษเดียวเปลี่ยวองค์ในดงดาล นมัสการกองกูณฑ์ทุกเวลา ฯ
๏ บัดนั้นพระจันทโครบ ก็นอบนบอภิวันท์ด้วยหรรษา
ลูกตั้งจิตคิดไว้แต่ไรมา ขอกราบลาสององค์พระทรงธรรม์
แล้วทรงเครื่องกัมพลสุคนธรส ละไมหมดแม้นเทพรังสรรค์
เครื่องบุปผามาลัยกระแจะจันทน์ สารพันธูปเทียนปทุมา
จึงกราบลาพระบิดาแลมารดร ก็อวยพรลูกน้อยเสน่หา
พอฆ้องคํ่าย่ำแสงพระสุริยา กุมาราออกจากพระบูรี
ตั้งพระพักตร์จำเพาะหิมพานต์ เข้าดงดาลแดนด้าวคิรีศรี
สันโดษเดียวเปลี่ยวองค์ในพงพี จนไขศรีแสงหิรัญอร่ามพราย
ละอองนํ้าอำมฤคก็โรยร่วง ผกาดวงชื่นแช่มแย้มขยาย
แมลงภู่เคียงประคองละอองอาย ขจรจายรื่นรสมารวยริน
วายุว่องต้องใบก็ไกวกวัด สารพัดผลไม้ในไพรสิน
บ้างร่วงโรยหล่นตกวิหคกิน พระนรินทร์เก็บเสวยสว่างใจ
แล้วเดินชมพนมพนาเวศ สาคเรศกรวยกรอกซอกไศล
เป็นธารนํ้าอำมฤคพิลึกไป คงคาใสดั่งแสงมณีดี
ในท้องธารลานแลล้วนกรวดแก้ว บ้างพรอยแพรวพร่างพรายเป็นหลายสี
มัจฉาว่ายรายเรียงในวารี ประกอบมีปทุมมาศดาษดา
เป็นเหง้างอกดอกแซงขึ้นแฝงฝัก พรรณผักขึ้นสลับกับบุปผา
ทั้งก้ามกุ้งบัวผันสันตะวา ยื่นระย้าทอดยอดไปตามธาร
ที่หว่างเขาเงาเงื้อมชะโงกโกรก ชลกระโชกสาดซัดฉะฉัดฉาน
กระแทกดังพังแผ่นศิลาลาน กระทบธารโกงก้องกะกางกัง
พระกุมารลานแลละเลิงจิต พลางพินิจพรรณไม้พระทัยหวัง
เป็นเซิงซุ้มพุ่มพันเถาวัลย์บัง ต้นฝรั่งรังนกประจำนอน
มะลิเลื้อยพันกุหลาบตลอดยอด เถาวัลย์ลิงลิงลอดเล่นสลอน
กรรณิการ์กาเหว่าขึ้นเซานอน รักซ้อนซ้อนกลีบสลับกัน
รุกขาข่อยนกคอยระวังคู่ หงอนไก่ไก่กู่ตะโกนขัน
สนโศกโศกสนระคนกัน มูลมันมันมือพยัคฆา
อ้อยช้างช้างชิงกันหักชัก นางกวักกวักแกว่งริมเพิงผา
คณานกนกร้องคะนองมา มยุราเคียงนางมยุริน
กระตั้วเต้นไต่ไม้ตามกระต้อย ค้อนหอยหาหอยในหุบหิน
อรหันผันพักตร์กระพือบิน กินรินเคียงข้างนางกินรี
ฝูงเลียงผาเลียบเหลี่ยมผาโผน กิเลนโจนไล่นางกิเลนหนี
มโนมัยไล่หานางพาชี ราชสีห์แอบอิงนางสิงหรา
ครั้นยามเย็นยอแสงพระสุริเยศ คชเรศเริงร้องก้องพฤกษา
ฝูงปิศาจกราดเกริ่นเนินวนา กุมาราวังเวงประหวั่นใจ
จะเหลียวซ้ายแลขวาน่าอนาถ ถึงที่ลาดเหลี่ยมผาเข้าอาศัย
พอรุ่งแสงสุริยาก็คลาไคล ประมาณได้สามเดือนแต่เดินดง
พระเกศาคลี่คลายสยายเกล้า พระสร้อยเศร้าเปลี่ยวจิตพิศวง
พระทรวงชํ้าซํ้าแสบบาทบงสุ์ พระโฉมยงปิ้มกายจะวายปราณ
พอลุถึงอัศโมพระโคดม ที่จงกรมสร้างพรตในไพรสาณฑ์
นิยมปองกองกูณฑ์นมัสการ เข้านั่งฌานหลับเนตรภาวนา ฯ
๏ หน่อกระษัตริย์ขัตติยาวราเดช ทอดพระเนตรแลเห็นก็หรรษา
ค่อยลอดลัดดัดดั้นอรัญวา ถึงศาลาเห็นองค์พระทรงธรรม์
ชักประคำสำรวมพระเนตรนิ่ง ดั่งขอนพิงพาดไว้ในไพรสัณฑ์
จึงกราบลงตรงบาทพระทรงธรรม์ ใบไม้ลั่นเสียวโสตพระสิทธา
เธอเหลือบลืมนัยนาเห็นมาณพ นั่งเคารพบาทบงสุ์อยู่ตรงหน้า
สำอางนวลล้วนเลิศวิไลตา พระมหาโคดมก็ยินดี
จึ่งกล่าวรสพจนารถปราศรัยสาร ประสกหลานมาไยในไพรศรี
ฤๅเดินดงหลงป่าพนาลี ฤๅมามีสุขทุกข์ประการใด ฯ
๏ พระกุมารฟังสารฤๅษีถาม จึ่งยกความมาแสดงคดีไข
พระบิดาข้าครองพระเวียงไชย ชื่อท้าวไทพรหมทัตกระษัตรา
พระรำจวนป่วนโศกด้วยโรคร้าย ชรากายเกือบจะสิ้นพระชันษา
จะมอบเวนบูรีรักษ์นัครา ให้ตัวข้าครอบครองบูรีรมย์
แต่การศิลป์หม่อมฉันไม่สันทัด อันสมบัติยังไม่ควรจะเษกสม
จึ่งให้ข้ามาในไพรพนม แสนระทมเถื่อนธารกันดารดง
ไม่รู้แจ้งแห่งหนเที่ยวซนซุก เสี่ยงบุญบุกป่าไม้ไพรระหง
ถึงสามเดือนโดยค้างมากลางดง จึ่งถึงองค์จอมเจ้าใจอารี
ขออยู่เป็นเกือกทองฉลองบาท เหมือนอย่างทาสใต้เบื้องบทศรี
พระโคดมบรมมุนี เธอก็มีโสมนัสเสน่ห์ใน
จึ่งแย้มเยื้อนเอื้อนอรรถปราศรัยสาร ช่างกล้าหาญเดินดงคนเดียวได้
จงอยู่ด้วยอัยกาเถิดยาใจ จะสอนให้เรียนรู้วิชาการ
แต่ตัวตามาบวชอยู่กลางเถื่อน ไม่มีใครเยี่ยมเยือนเหมือนอย่างหลาน
แล้วโอบอุ้มแอบองค์พระทรงญาณ ประโลมหลานลูบไล้พระพักตรา
สงสารเจ้าเศร้าซูบน่าสังเวช แล้วเกล้าเกศกวดกันพระเกศา
ให้เสวยเผือกมันผลผลา จนสุริยาเย็นเยื้องคิรีวัน
พระทรงญาณชวนหลานไปสู่สระ ลงชำระวารินเกษมสันต์
ให้หลานรักหักบุษะบัวบัน พอสายัณห์คืนมาศาลาลัย
ให้ไสยาสน์เคียงบาทพระดาวบส[๓] พระทรงพรตเข้าฌานตามวิสัย
ชักประคำรํ่าภาวนาไป ประมาณได้หลายวันทิวากาล ฯ
๏ หน่อกระษัตริย์ปรนนิบัติพระนักสิทธิ์ สำราญจิตปรีดิ์เปรมเกษมศานต์
พระโคดมบรมเรืองญาณ สอนกุมารสังวัธยายมนต์
ว่าคาถาอาคมของพรหมเมศ ซึ่งวิเศษจำได้ไม่ขัดสน
ประสิทธิทดลองละเลิงตน การประจญข้าศึกก็เจนใจ
ถึงวันดีฤๅษีจึ่งชุบศร แผ่นดินดอนดงดาลสะท้านไหว
ศิลป์พระขรรค์พลันเกิดในกองไฟ หยิบยื่นให้นัดดาแล้วอวยพร
จึ่งกล่าวรสพจนารถฉลองคำ หลานจงจำไว้หนาตาจะสอน
อันพระขรรค์ศิลป์ชัยอย่าไกลกร จะนั่งนอนกุมกอดไว้กับกาย
อันฉ้อชั้นเมืองแมนแดนมนุษย์ จะสิ้นสุดฤษยา[๔]นั้นอย่าหมาย
แม้นมีของป้องกันอันตราย ไว้ห่างกายก็จะเกิดศัตรูกวน
อนึ่งการโลกีย์ทั้งสี่ข้อ ประโลมล่อสามัญให้ผันผวน
คือหลงรักนารีมีกระบวน กับหลงชวนเชยชื่นที่รูปงาม
ทั้งเสภาดนตรีทั้งสี่สิ่ง ใครรักนักมักกลิ้งลงกลางสนาม
หนึ่งอุบายหลายเล่ห์ในสงคราม อย่าหมิ่นความควรระมัดระวังองค์
ถึงศึกวายสุริยฉายไม่ยอแสง เร่งระแวงระวังไว้อย่าใหลหลง
จะเรียนรู้อย่าละเลิงบันเทิงทะนง อย่าอวดองค์อาจหาญในการดี
จะครองสัจจงอุตส่าห์รักษาสัจ จงบำหยัดอย่างงาราชหัตถี
เจ้าจะคิดคืนคงเข้าธานี จะเป็นที่สรรเสริญจำเริญพร ฯ
๏ ภูวนาถกราบบาทพระดาวบส ขอรับรสอำมฤคในคำสอน
หลานจะลาพระเจ้าตาคืนนคร สนองคุณบิดรพระมารดา
ป่านฉะนี้สององค์พระทรงศักดิ์ ไม่เห็นพักตร์ข้าน้อยจะคอยหา
พอแจ้งการหลานรักจักกลับมา สนองคุณอัยกาในไพรวัน
พระฟังหลานทูลลาน่าสังเวช กลั้นพระเนตรลูบไล้แล้วรับขวัญ
อย่าทุกข์ถึงอัยกาในป่าวัน สารพันเภทภัยไม่แผ้วพาน
ถึงเสือสีห์ผีสางคะนองร้าย ไม่กล้ำกรายกลัวหลีกไปอีกหลาน
ด้วยเดชะภาวนารักษาฌาน ความรำคาญโรคาไม่ยายี
แต่ตัวเจ้าคืนเข้านครได้ จงตั้งใจปกครองบูรีศรี
สนองคุณชนกชนนี อย่าให้มีข้อเคืองระคางใจ
เมื่อคิดถึงอัยกาจึ่งมามั่ง ตาจะยั่งยืนอยู่ไปถึงไหน
แล้วจูบกอดแก้วตาด้วยอาลัย งามละไมดั่งเทพเทวา
นารีใดในทวีปวงศ์มนุษย์ ก็แสนสุดที่จะสมเสน่หา
เห็นคู่ชมจะไม่สมกุมารา จำจะให้กัลยาไปครองกัน
ดำริพลางทางนิมิตผอบแก้ว อันพรายแพรวพริ้งเพริศดูเฉิดฉัน
ขนโมราเสกใส่ลงในนั้น พระทรงธรรม์ป้องปิดผนิดดี
แล้วโอมอ่านคาถาจินดาเวท ขนโมเรศกลายเป็นนารีศรี
ทรงโฉมประโลมลักษณ์ภัคินี กุมารีอยู่ในผอบทอง
แล้วเขียนชื่อนางใส่ลงในฝา ชื่อโมราโฉมศรีไม่มีสอง
จึ่งแย้มโอษฐ์โปรดยื่นผอบทอง นี่แน่ของตาให้เอาไปเมือง
แม้นเดินทางกลางป่าเจ้าอย่าเปิด เอาไปเถิดให้ระบือเขาลือเลื่อง
ถึงชนกชนนีบูรีเรือง ได้ครองเมืองเป็นมหาวราชัย ฯ

[๑] สมุดไทยเลขที่ ๑๓ ว่า “เป็นปิ่นอัตติเรกเสวกฉัตร”

[๒] สมุดไทยเลขที่ ๑๓ ว่า “โอรสรัก”

[๓] ดาวบส = ดาบส

[๔] ฤษยา = ริษยา

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ