โสวัตกลอนสวด
๑ นบนิ้วขึ้นเหนือเกล้า | ต่างบุษบาอันบวร |
ไหว้พระปฏิมากร | อันสั่งสอนสัตว์ทั้งหลาย |
๒ ยอกรใส่เหนือเกล้า | ทุกค่ำเช้าบว่างวาย |
พระธรรมอันมากมาย | สั่งสอนสัตว์พ้นสงสาร |
๓ ก้มเกล้าข้ากราบลง | ไหว้พระสงฆ์ศีลาจาร |
คุณแก้วสามประการ | ยกใส่เกล้าในเกศา |
๔ ไหว้ครูผู้สั่งสอน | ทุกทั่วท่านบคลาดคลา |
บิดรแลมารดา | คุณยิ่งกว่าคนทั้งหลาย |
๕ ข้าเจ้าจะขอผูก | ถ้าผิดถูกในนิยาย |
บทบาทถ้าคลาดคลาย | พอพลั้งพลาดอย่าติเตียน |
๖ ตัวข้าใช่นักปราชญ์ | เป็นเชื้อชาติคงแก่เรียน |
ผิดชอบช่วยแต้มเขียน | บำรุงไว้ตามบูราณ |
๗ ถ้าว่าหากผู้ใด | เรียนขึ้นใจรู้ฉะฉาน |
บทบาทคลาดช่วยวาน | จงคิดอ่านตามทางธรรม์ |
๘ บถูกอย่างว่านั้น | แต่บูราณย่อมเสกสรร |
พระเจ้าเทศนาธรรม์ | บำรุงสัตว์ทั่วทั้งหลาย ๚ะ |
สุรางคนางค์
๙ ไหว้หมู่พระสงฆ์ | |
ใจจิตคิดปลง | ฟังพระศาสดา |
เมื่อหน่อพระญาณ | สร้างสมภารมา |
จึ่งกล่าวคาถา | เบื้องต้นบนาน |
๑๐ เอโกราชา | |
ยังมีพญา | เรืองฤทธิโอฬาร |
ประเสริฐล้ำเลิศ | ใครจะเปรียบปาน |
นามกรภูบาล | พรหมทัตจักรี |
๑๑ ท้าวเป็นเกษมสุด | |
ในเมืองพรหมกุฏ | รัชชังการี |
ท้าวครองไอศูรย์ | สรรพสมบูรณ์มี |
สุขทั่วธานี | พึ่งบุญราชา |
๑๒ โอมนะโม | |
มเหสิโน | ยวดยิ่งเทวา |
ตรัสทรงพระนาม | ตามวงศ์กระษัตรา |
ชื่อว่าสุมณฑา | หยาดฟ้านางสวรรค์ |
๑๓ สุมณฑาเทวี | |
ยิ่งกว่านารี | แจ่มศรีคือจันทร์ |
(รูปงามประเสริฐ | พริ้งเพริศเฉิดฉัน |
นักสนมกำนัล | ห้อมล้อมเทวี) |
๑๔ แสนสาวชาวแม่ | |
นางเถ้านางแก่ | นักเทศขันที |
ล้ำเลิศเพริศเพรา | ก้มเกล้าดุษฎี |
เฝ้าพระมเหสี | เป็นนิตย์ทุกวัน |
๑๕ สมเด็จพรหมทัต | |
เสวยราชสมบัติ | ตรึงษ์ตรัยไอศวรรย์ |
ฉ้ชั้นดุสิต | นีฤมิตบทัน |
เทพเจ้าไกรสวรรค์ | พ่างเพี้ยงอับอาย |
๑๖ เสนาเนืองนอง | |
ดาบเงินดาบทอง | องครักษ์จักรนารายณ์ |
นาหมื่นนาพัน | คำนัลเหลือหลาย |
หัวหมื่นพันทนาย | ก้มเกล้าถวายกร |
๑๗ มีอัศวราช | |
หัตถีเดียรดาษ | เชื้อชาติกุญชร |
รถรัถคล้อยคลาด | คลาดแคล้วอัสดร |
จตุรงค์สลอน | อเนกเหลือตรา |
๑๘ เป็นเกียรติเป็นกรุง | |
เป็นสิ่งเป็นสุง | ทั่วทั้งพารา |
มีปรางค์ปราสาท | ดาดด้วยมุกดา |
ประดับมหา | พิเชียรมากมี |
๑๙ ยอดปรางค์ปราสาท | |
เนาวรัตน์แกมมาศ | ล้วนด้วยมณี |
เป็นแสงระยับ | จับพระสูรย์ศรี |
เมื่อแผลงรัศมี | จากยุคุนธร |
๒๐ ทุกกรุงทุกไกร | |
ส่งส่วยดอกไม้ | ร้อยเอ็ดพระนคร |
ฝาหรั่งพังคา | พม่าเมงมอญ |
จีนจามสลอน | ก้มเกล้าดุษฎี |
๒๑ สองกระษัตริย์เสวยสุข | |
ไม่มีความทุกข์ | สุขเขษมเปรมปรีดิ์ |
สุมณฑาทรงลักษณ์ | เป็นอรรคมเหสี |
ร่วมรักภูมี | ปิ่นเกล้าไอศวรรย์ |
๒๒ อยู่จำเนียรกาล | |
พระองค์เยาวมาลย์ | ฝันเห็นอัศจรรย์ |
มีราชโอรส | ปรากฏในครรภ์ |
เสด็จจากสวรรค์ | โสภาคย์บวร |
๒๓ ครั้นตรัสทรงครรภ์ | |
ม้าต้วหนึ่งนั้น | ทรงครรภ์อัสดร |
ใต้ปรางค์ปราสาท | เยาวราชบังอร |
นางม้าบวร | จรเล่นพงพี |
๒๔ ครั้นถ้วนทศมาส | |
สิบเดือนบคลาด | ประสูติพาชี |
เผือกผู้ขาวผ่อง | ย่องยกทรงศรี |
ดุจดังสำลี | ประเสริฐเลิศไกร ๚ะ |
ฉบัง
๒๕ วันหนึ่งพอได้ยามไชย | หน่อเจ้าภพไตร |
ประสูติจากครรภ์พระมารดา | |
๒๖ ปรากฏเท่าเถิงพรหมา | อินทราเทวา |
ก็ชื่นก็ชมสมสมัย | |
๒๗ เขาพระเมรุราชหวั่นไหว | ท่าวทบลงไป |
สะเทือนก็อ่อนลงมา | |
๒๘ ฝูงสัตว์ทั่วทั้งคงคา | ผุดผาดไปมา |
ก็ท่องก็เที่ยวมากมี | |
๒๙ ครุฑราชพร่ำลืมนาคี | กินรากินรี |
ก็ลืมภียุทั้งปวง | |
๓๐ ปรากฏทั้งขุนเขาหลวง | นรเทศทั้งปวง |
ก็ชื่นก็ชมนักหนา | |
๓๑ ปฐพีอันใหญ่หนักหนา | ป่วนปั่นไปมา |
สะท้านสะเทือนหวั่นไหว | |
๓๒ บิดาชื่นชมพระทัย | ดำรัสตรัสไป |
แก่โหรทั้งสี่มินาน | |
๓๓ ทายทักลายลักษณ์กุมาร | ควรครองศฤงคาร |
เพื่อว่าจะสืบพระวงศ์ | |
๓๔ ชันษาอายุพระองค์ | ถอยถดปลดปลง |
ฤๅว่าจะม้วยฉิบหาย | |
๓๕ บัดนั้นจึ่งโหรทั้งหลาย | คิดควณแล้วทาย |
ลายลักษณ์พระราชกุมาร | |
๓๖ มีอุกมียกทุกประการ[๑] | ควรครองศฤงคาร |
เป็นเจ้าแก่หมู่เสนา | |
๓๗ พระหัสเป็นมิตรซ้ายขวา | เป็นจักรพรรตรา |
พระราชจะมีศรีสวัสดิ์ | |
๓๘ จึ่งโหรผู้หนึ่งทูลขัด | จะเป็นจักรพรรดิ |
จะเป็นมิได้เพราะสตรี | |
๓๙ จักมีพระอรรคมเหสี | โฉมเฉิดนารี |
เถิงสี่พระองค์บมินาน | |
๔๐ บิดาได้ฟังก็ชื่นบาน | ตรัสให้ประทาน |
ทั้งเงินแลทองครามครัน | |
๔๑ แก่โหรอันทายโจทย์กัน | ผ้าผ่อนแพรพรรณ |
หลายหลากก็มากนักหนา | |
๔๒ จึ่งโหรทั้งสี่กราบลา | คืนยังเคหา |
ถิ่นฐานที่บ้านเรือนตน ๚ะ |
สุรางคนางค์
๔๓ จึ่งท้าวพรหมหัต | |
มีโองการตรัส | ให้จัดกัลยา |
เลือกเอาชาติเชื้อ | เป็นเนื้อกระษัตรา |
ให้เลี้ยงรักษา | เจ้าฟ้าธานี |
๔๔ นางนมทั้งหลาย | |
เข้ามาเรียงราย | บังคมชมศรี |
อุ้มองค์พระเจ้า | ปิ่นเกล้าธรณี |
เชิญพระพันปี | เสวยสุขบ่คลา |
๔๕ จึ่งเอาพานทอง | |
อันงามเรืองรอง | มีศรโสภา |
ภูษาปูลง | บรรจงรจนา |
เชิญเสด็จเจ้าฟ้า | ไสยาเสวยนม[๒] |
๔๖ พี่เลี้ยงเข้าเฝ้า | |
สลัดปัดเป่า | ไม่มีไผ่ผง |
ครั้นพระเสด็จฟื้น | ตื่นขึ้นโดยจง |
เชิญพระเสด็จสรง | น้ำพระคงคา |
๔๗ ป้อนน้ำตามเสวย | |
บ่ได้ละเลย | วันละสามเวลา |
บำเรอเชอภักดิ์ | พิทักษ์รักษา |
อยู่จำเนียรมา | ได้สามราตรี |
๔๘ สมเด็จพรหมทัต | |
มีโองการตรัส | กำนัลสาวศรี |
ตกแต่งถวายนาม | ตามราชพิธี |
เป็ดไก่บายศรี | หลายหลากตระการ |
๔๙ สาวใช้รับสั่ง | |
แต่งการทั่วทั้ง | เสร็จแล้วบนาน |
บายศรีเงินทอง | เรืองรองชัชวาล |
เครื่องบรรณาการ | ปรากฏรจนา |
๕๐ พระญาติพระวงศ์ | |
พร้อมมูลทุกองค์ | ห้อมล้อมซ้ายขวา |
เพลาฤกษ์ดี | ยกบายศรีมา |
ดนตรีเสภา | สมโภชกุมาร |
๕๑ สมเด็จบิดา | |
ให้นามลูกยา | มีพระโองการ |
ตามวงศ์กระษัตริย์ | โสวัตกุมาร |
โพยภัยอย่าพาน | สุขเขษมเปรมปรีดิ์ |
๕๒ พระญาติว่าชอบ | |
พระนามตามระบอบ | อวยพรมากมี |
สวัสดีมีไชย | ยืนได้ร้อยปี |
ข้าทูลบทศรี | จักพึ่งสมภาร |
๕๓ สมเด็จมารดา | |
อุ้มเอาลูกยา | อวยพรกุมาร |
สเดียดจ้งไร | ทุกข์ภัยอย่าพาน |
ฤทธีห้าวหาญ | ล้ำเลิศธรณี |
๕๔ จงมีเดชะ | |
เดโชตรบะ | เรืองฤทธิ์พิทธี |
จงผ่านพิภพ | จบทั่วธรณี |
ข้าทั้งสองศรี | จักพึ่งสมภาร |
๕๕ ครั้นสมโภชแล้ว | |
พยาบาลลูกแก้ว | เป็นช้าหึงนาน |
เจ้าพึ่งสอนพลอด | ฉะฉอดตรัสขาน |
ไพรเพราะเสียงหวาน | รู้หลักเปรมปรีดิ์ |
๕๖ อยู่จำเนียรกาล | |
โสวัตกุมาร | ได้สิบหกปี |
นางนมพี่เลี้ยง | รักเพียงแสนทวี |
เสาวภาคย์เมาลี | แจ่มศรีใครจะปาน |
๕๗ สมเด็จบิดา | |
จึ่งให้มหา | ไพรชนวิมาน |
เนาวรัตน์แกมมาศ | ประหลาดใครจะปาน |
รุ่งเรืองชัชวาล | คือพระสูริย์ฉาย |
๕๘ แสงแก้วแกมทอง | |
รัศมีเรืองรอง | เลื่อมเลื่อมพรายพราย |
คือเทพดุสิต | นีรมิตมาถวาย |
รุ่งเรืองพรรณราย | คือพระสูริยน |
๕๙ จึ่งชวนโอรส | |
ฤทธาปรากฏ | เชิญพระเสด็จดล |
ครอบครองสถาน | พิมานไพรชน |
แสนสาวเลิศล้น | นักเทศขันที |
๖๐ พระเสด็จขึ้นวัง | |
ประโคมแตรสังข์ | ดุจคือดนตรี |
เสียงพิณพาทย์ฆ้อง | กึกก้องธรณี |
เอิกเกริกมะมี่ | ทั่วทั้งพารา |
๖๑ ถวายอัศวราช | |
หัตถีเดียรดาษ | เสนีเสนา |
กลิ้งกลดกางกัน | บังแสงสูริยา |
ตั้งเป็นฝ่ายหน้า | แต่พระภูมี |
๖๒ พระฝ่ายหน้าเจ้า | |
อตส่าห์ไปเฝ้า | เป็นนิจราตรี |
ครั้นเสด็จจากเฝ้า | พระเจ้าจรลี |
สรงน้ำนที | มิได้คลาดคลา |
๖๓ ชมพรรณดอกไม้ | |
รวยรื่นชื่นใจ | ไปด้วยบุษบา |
ประพาสทุกวัน | ชมพรรณฝูงปลา |
ต่อใกล้เวลา | จึ่งขึ้นไพรชน |
๖๔ ยังมีนางฟ้า | |
เสด็จจากมหา | พิมานอำพน |
ดับด้วยศฤงคาร | ช้านานเด็จดล |
โกฏิหนึ่งนิฤมล | อยู่ในไตรตรึงษ์ |
๖๕ อยู่จำเนียรกาล | |
สิ้นบุญนงคราญ | จุติบหึง |
ลินลาจากสถาน | พิมานไตรตรึงษ์ |
บัดเดียวลุเถิง | ที่ริมสระศรี |
๖๖ มาเอาปฏิสนธิ์ | |
ในดอกอุบล | ใหญ่ใช่พอดี |
แทบใกล้อาศรม | สมมิศรฤๅษี |
ช้านานหลายปี | มิได้เห็นบาน |
๖๗ วันหนึ่งดาบส | |
ท่านท้าวทรงพรต | ไปลงสรงสนาน |
เห็นบัวเลิศไกร | ใหญ่พ้นประมาณ |
มิได้เห็นบาน | เหมือนหนึ่งทุกวัน |
๖๘ แต่กูหมายไว้ | |
สามขวบแล้วไซร้ | เห็นเป็นอัศจรรย์ |
ดีร้ายจะมี | สักสิ่งสักอัน |
ในดอกบัวนั้น | แม่นแท้แก่ใจ |
๖๙ ครั้นรำพึงแล้ว | |
ดาบสใจแกล้ว | โถมน้ำลงไป |
เด็ดดอกบัวทอง | เรืองรองสุกใส |
คืนว่ายบัดใจ | เถิงฝั่งคงคา |
๗๐ ดาบสพิศดู | |
เห็นนารีอยู่ | ในดอกบุษบา |
ดาบสชื่นชม | ภิรมย์หนักหนา |
จึ่งอุ้มนางมา | ยังอาศรมพลัน |
๗๑ ค่อยเลี้ยงรักษา | |
นางสอนเจรจา | ฉะฉอดทุกอัน |
ซู้ซู้ซี้ซี้ | ระรี่ชมกัน |
ดาบสใจธรรม์ | รักเพียงแสนทวี |
๗๒ จึ่งให้พระนาม | |
ธิดาโฉมงาม | ประทุมวดี |
(งามยิ่งพริ้งเพริศ) | เลิศล้ำนารี |
สี่ทวีปไม่มี | เหมือนอรทรามรัย |
๗๓ ได้สิบห้าปี | |
กลิ่นอรเทวี | กระอบอบไป |
ดาบสไปป่า | กลับมาแต่ไพร |
เหนื่อยพักนักไสย | ให้นั่งเหนือพระพาย |
๗๔ กลิ่นองค์ธิดา | |
รวยรวยหอมมา | พระค่อยใจสบาย |
แต่น้อยคุ้มใหญ่ | กลิ่นไม่รู้หาย |
ด้วยพระอรกาย | เสด็จในอุบล |
๗๕ วันหนึ่งฤๅษี | |
เข้าในพงพี | เก็บมูลผลาผล |
ให้อรธิดา | เฝ้าศาลาตน |
เจ้าจึ่งจรดล | เที่ยวเล่นในพนา |
๗๖ นางเก็บดอกไม้ | |
มณฑาไสว | มะลิจำปา |
กรองเป็นมาลัย | หฤทัยเสนหา |
ธิษฐานไปมา | ปรารถนาคู่ครอง |
๗๗ ถ้าว่าผู้ใด | |
เคยคู่ข้าไซร้ | ให้มาลัยทอง |
สอดกรเข้าไว้ | โดยดังใจปอง |
จรมาสมสอง | ในบรรณศาลา |
๗๘ ถ้ามิใช่คู่ | |
มาลาอย่าอยู่ | เข้าต้องเลยนา |
ว่าแล้วนางขว้าง | ลงกลางคงคา |
มาลัยไคลคลา | ลอยมาบนาน |
๗๙ ลอยขึ้นเหนือน้ำ | |
ประเสริฐเลิศล้ำ | บมีคลื่นฉาน |
วันนั้นพอตรัส | โสวัตกุมาร |
เสด็จลงสรงสนาน | ในกลางสาคร |
๘๐ ดอกดวงมาลัย | |
ค่อยลอยเข้าไป | ใกล้พระภูธร |
สวมกรพระหัตถ์ | รึงรัดพระกร |
กลิ่นพึงขจร | ทั่วทั้งกายา |
๘๑ พระเห็นมาลัย | |
คลางแคลงพระทัย | หลากใจนักหนา |
ฤๅว่าเหตุการณ์ | รำคาญจะมา |
ตรัสถามโหรา | ทั้งสี่บัดใจ |
๘๒ ดูราโหรเฒ่า | |
อัศจรรย์ด้วยเรา | ได้พวงมาลัย |
จักเกิดเหตุการณ์ | รำคาญเป็นไฉน |
คลางแคลงแหนงใจ | ยิ่งล้นคณนา |
๘๓ จึ่งโหรทั้งหลาย | |
คิดควณแล้วทาย | ตามฤกษ์บัญชา |
แม้นเสด็จคลาไคล | ไปทิศบูรพา |
เกิดลาภอาตมา | ยิ่งล้นพ้นประมาณ |
๘๔ เสด็จจากบูรี | |
จักได้มเหสี | เลิศไกรใครจะปาน |
เถิงสี่พระองค์ | ทรงโฉมเยาวมาลย์ |
แล้วกลับคืนสถาน | ผ่านพระพารา |
๘๕ พระฟังโหรทาย | |
ใจจิตคิดหมาย | ภิรมย์หรรษา |
ตรัสให้ประทาน | แพรพรรณโหรา |
จึ่งเสด็จไคลคลา | มายังภูธร |
๘๖ พระเสด็จคลาไคล | |
ยูรยาตรเข้าไป | ใกล้พระบิดร |
กราบถวายบังคม | ประนมพระกร |
สมเด็จบิดร | โปรดเกล้าลูกรา ๚ะ |
ยานี
๘๗ บัดนั้นจึงพระบาท | ไทธิราชทูลบิดา |
ลูกรักจักขอลา | ประพาสเล่นในพงพี |
๘๘ จงตรัสอนุญาต | ข้าพระบาทจะบทศรี |
จงได้โปรดปรานี | แก่ลูกน้อยเถิดพระองค์ |
๘๙ บิดาจึงตรัสไป | เหตุอันใดพ่อจำนง |
สบราชจะประสงค์ | สิ่งอันใดนะพันปี |
๙๐ จงบอกให้พ่อทราบ | เห็นยุ่งยาบกว่าทุกที |
แต่ก่อนบห่อนมี | ทูลดังนี้พ่อคิดฉงน |
๙๑ โอรสจึงทูลเล่า | ข้าพระเจ้าจักจรดล |
ประสงค์ตรงนุสนธิ์ | แต่พระอรรคชายา |
๙๒ ลูกได้ดอกมาลัย | โหรทายให้ดีนักหนา |
ตามหาเจ้ามาลา | จักคืนมายังภพไตร |
๙๓ บิดาจึงตรัสเล่า | ห้ามแก่เจ้าพ่ออย่าไป |
หน่อท้าวแลหลานไท | ทั่วทุกท้าวร้อยเอ็ดตน |
๙๔ จักให้เอามาถวาย | พระลูกชายอย่าร้อนรน |
ถ้าพบสบชอบกล | จักเสกให้เป็นมเหสี |
๙๕ โอรสจึงทูลเล่า | ข้าพระเจ้าไม่ไยดี |
ร้อยเอ็ดพระบูรี | ทราบอยู่แล้วในพระทัย |
๙๖ ไม่สบดังจำนง | ข้าพระองค์จะอยู่ไย |
ขอลาราชาไป | ถ้าได้แล้วจะคืนมา |
๙๗ บิดาจึ่งขานตอบ | ทูลบ่ชอบเหมือนวาจา |
ท้าวไทกระษัตรา | จะอยู่ไยในพงพี |
๙๘ อยู่แต่ในไอศวรรย์ | ด้วยกำนัลแลสาวศรี |
ถ้าอยู่ในพงพี | แต่ยักษีแลคนธรรพ์ |
๙๙ โอรสจึ่งทูลเล่า | ข้าพระเจ้าทราบทุกอัน |
เกลือกบุญเคยคู่กัน | อัศจรรย์ด้วยมาลัย |
๑๐๐ มีเหตุจึ่งเป็นผล | ถูกมงคลจึงจักไป |
มิพบสบพระทัย | จักเที่ยวไปทุกสถาน[๓] |
๑๐๑ บิดาจึ่งตรัสเล่า | เห็นแต่เจ้าสืบวงศา |
จักเสกพระลูกยา | แทนวงศาสืบองค์ไป |
๑๐๒ ไม่คิดเถิงสมบัติ | เจ้าจะซัดเสียแก่ใคร |
เจ้าจักหนีพ่อไป | หฤทัยพ่อรำคาญ |
๑๐๓ โอรสจึงทูลไป | ตรัสจักให้ครองศฤงคาร |
ฤทธีไม่เชี่ยวชาญ | เกลือกทหารไม่ง้องอน |
๑๐๔ พลางเที่ยวพลางแสวงหา | ซึ่งฤทธาในดงดอน |
ให้รู้ธนูศร | สำเร็จแล้วจึ่งคืนสถาน |
๑๐๕ บิดาจึ่งขานตอบ | ทูลบ่ชอบแต่โบราณ |
เรียนไว้ให้เชี่ยวชาญ | เป็นจารีตแห่งท้าวไท |
๑๐๖ ครั้นว่าจักห้ามนัก | เกลือกลูกรักจักน้อยใจ |
ถ้าพบสบพระท้ย | อย่าช้านักกลับคืนสถาน |
๑๐๗ โอรสจึงทูลเล่า | ข้าพระเจ้าไม่อยู่นาน |
เรียนได้ให้ฉับฉาน | จึ่งคืนมายังภพไตร |
๑๐๘ ถ้าช้าแต่สามปี | ทูลบทศรีจักอยู่ไย |
แสนสาวแลชาวใน | ฝากปิ่นเกล้าเจ้าไอศวรรย์ |
๑๐๙ สมเด็จพระมารดา | ฟังบัญชาไม่มีขวัญ |
อุ้มเอาเจ้าใจธรรม์ | แล้วรับขวัญพระลูกชาย |
๑๑๐ เจ้าจะจากแม่ไป | ไห้ร่ำไรตรอมใจตาย |
พลัดพรากจากลูกชาย | เพียงชีพม้วยด้วยอาลัย |
๑๑๑ จักรู้ว่าดาบส | ผู้ทรงพรตอยู่แห่งใด |
อย่าอย่าเจ้าอย่าไป | สิ่งสัตว์ร้ายใช่พอดี |
๑๑๒ แรดช้างน้อยไปฤๅ | ทั้งกระบืออันเขารี |
ลิงค่างบ่างชะนี | ในพงพีนี้เนืองนอง |
๑๑๓ พระบาทคือสำลี | เสด็จพงพีจะพุพอง |
บ่มีเพื่อนเป็นสอง | เกลือกพระทองจักมรณา |
๑๑๔ เหตุการณ์ใครจะช่วย | เจ้าจะม้วยในหิมวา |
พระชนม์ทั้งสองรา | จักม้วยด้วยพระจอมไตร |
๑๑๕ โอรสจึ่งทูลขัด | มารดาตรัสผิดวิสัย |
แม้นอยู่แห่งใดใด | สุดแต่บุญกับสมภาร |
๑๑๖ แม้นอยู่แต่ไอศวรรย์ | กรรมมาทันก็สิ้นปราณ |
มิได้จะต้านทาน | ไม่เถิงกาลมาหลีกหนี |
๑๑๗ มารดาครั้นได้ฟัง | จึ่งตรัสสั่งแก่สาวศรี |
อย่าให้พระภูมี | ไปประพาสแห่งใดใด |
๑๑๘ อย่าให้ออกจากวัง | เกลือกลับหลังจักซังไป |
ถ้าเสด็จแห่งใดใด | ตัดเกล้าให้ทั่วทุกคน |
๑๑๙ พระมารดาจึ่งโกรธ | ตรัสคาดโทษแก่รี้พล |
กราบลามาไพรชน | เป็นทุกข์ทนแสนทวี |
๑๒๐ ครั้นว่าจักหนีไป | เกลือกสาวใช้แลขันที |
โทษทัณฑ์นั้นจะมี | คิดเท่านี้จึ่งร้อนรน ๚ะ |
สุรางคนางค์
๑๒๑ เสด็จขึ้นเกยมาศ | |
รำจวนครวญสวาดิ | ทอดพระองค์ลง |
กรก่ายพักตร์ไว้ | ได้แต่มาลัยทรง |
แนบชิดติดองค์ | ทรงพระโศกา |
๑๒๒ โอยโอยพระนงนุช | |
ย่อมดีที่สุด | ทุกข์ทนยลหา |
เห็นแต่มาลัย | ไม่ได้เห็นหน้า |
โอ้แก้วพี่อา | อยู่ด้าวแดนใด |
๑๒๓ เรียมยังไม่ทราบ | |
อรนุชทำบาป | ให้จำร่ำไร |
เจ้าเป็นหน่อท้าว | ด้าวแดนเมืองใด |
ถ้าทราบจักไป | สมแก้วกระษัตรีย์ |
๑๒๔ แม้นได้ถวายสาร | |
สู่เอาเยาวมาลย์ | ตามประเวณี |
ถ้าบิดาขัด | ตัดพระไมตรี |
จักชุมเสนี | รี้พลโยธา |
๑๒๕ จักรบรุกราช | |
เอานุชสุดสวาดิ | มาผาดพารา |
เรียมทราบบแจ้ง | แต่กันแสงหา |
น่าคิดอนิจจา | ปรานีตัวเรียม |
๑๒๖ ทำไฉนจักเห็น | |
คิดแค้นแสนเข็ญ | ใครเลยจะเทียม |
เมื่อไรจะพบ | สบในใจเรียม |
พระทัยไหม้เกรียม | เศร้าสร้อยน้อยใจ |
๑๒๗ แม้นรู้เหาะเหิร | |
บินบนดำเนิน | จักเหาะเหิรไป |
อดสูอายนัก | จักเป็นชายไย |
จักเรืองฤทธิไกร | ไม่เหมือนปรารถนา |
๑๒๘ นางนามพี่เลี้ยง | |
ฟังพระสุรเสียง | ตรัสทรงโศกา |
ก้มเกล้ากราบลง | ทรงกันแสงหา |
ร่ำไรไปมา | ดั่งนี้เพื่อใด |
๑๒๙ ฤๅสบประสงค์ | |
ไม่เหมือนจำนง | เศร้าสร้อยน้อยใจ |
กำสรดกำสรวล | คร่ำครวญเพื่อใด |
ดำรัสตรัสไป | ในเนื้อคดี |
๑๓๐ กำสรดบนแท่น | |
กลุ้มกลัดขัดแค้น | แม้นม้วยเป็นผี |
แรกพระเสด็จพ้น | จากครรภ์พันปี |
พระญาติภักดี | พ้นที่คณนา |
๑๓๑ ฤๅว่าสรงสนาน | |
ประหลาดต้องพาน | ปิ่นเกล้าโลกา |
จึงให้พระองค์ | ทรงกันแสงหา |
ฤๅเสียกิริยา | กลัดกลุ้มคลุมใน |
๑๓๒ พี่เลี้ยงจึงว่า | |
คือดั่งไฟฟ้า | ไหม้ในพระทัย |
บเบือนพระพักตร์ | ตรัสทักปราศรัย |
โลมเล้าเท่าใด | ไม่จำนรรจา |
๑๓๓ แต่กันแสงไห้ | |
ชลเนตรหลั่งไหล | คือดังธารา |
แต่ร่ำกำสรด | ปรากฏนักหนา |
ก้องทั้งมหา | พิมานไพรชน |
๑๓๔ ฟังพี่เลี้ยงกล่าว | |
องค์สั่นระเทา | เป็นโกลาหล |
ฉวยชักพระขรรค์ | ไล่ฟันทุกคน |
แกว่งกวัดผาดโผน | จักฆ่าให้ตาย |
๑๓๕ มึงมาเซ้าซี้ | |
พิไรพิรี้ | เย้ายี้ธิบาย |
แกล้งกล่าวว่าบ้า | ว่าให้เราอาย |
ฟันเสียให้ตาย | ไว้มันทำไม |
๑๓๖ พี่เลี้ยงวิ่งหนี | |
หน้าขาวคือผี | ตระหนกตกใจ |
ไปทูลแก่เจ้า | ปิ่นเกล้าภพไตร |
ชลเนตรลามไหล | ร่ำไรทูลสาร |
๑๓๗ ว่าพระโอรส | |
ฦๅชาปรากฏ | จากเฝ้าภูบาล |
ทรงกันแสงนัก | เกลือกจักสิ้นปราณ |
ทูลฉลองโองการ | ท่านทรงโศกา |
๑๓๘ สองกระษัตริย์ได้ฟัง | |
ชลเนตรไหลหลั่ง | ดังท่อธารา |
พระเสด็จเยื้องย่าง | วิ่งวางลงมา |
ทั้งพระมารดา | ตระบัดคลาไคล |
๑๓๙ แสนสาวพระสนม | |
แล่นตามระงม | ตระหนกตกใจ |
เสด็จขึ้นปราสาท | ยูรยาตรเข้าไป |
สนององค์ลงไว้ | บ่ได้วายวาง |
๑๔๐ ชูเกศลูกรัก | |
วางไว้บนตัก | ตรัสรับขวัญพลาง |
ยกกรลูบไล้ | ไปทั่วสารพางค์ |
รำจวนครวญคราง | เพื่อเพราะอันใด |
๑๔๑ เจ้าอย่ากำสรด | |
กันแสงระทด | เถิงสิ่งอันใด |
สมราชประสงค์ | มีโองการไป |
จักถวายภูวไนย | ไม่ให้หมองศรี |
๑๔๒ ไอศวรรย์สมบัติ | |
แก้วเก้าเนาวรัตน์ | จักอยู่แก่ใครมี |
พ่อปองถวายเจ้า | ปิ่นเกล้าธรณี |
บทราบคดี | จึงทรงโศกา |
๑๔๓ ฤๅน้อยพระทัย | |
ชนนีมิให้ | จรในหิมวา |
ฤๅคุณไสยใคร | เขาใช้ให้มา |
ด้วยดอกมาลา | จงมาต้องพาน |
๑๔๔ ฤๅต้องผีโป่ง | |
ตกน้ำตายโหง | ที่ในท่อธาร |
ฤๅว่าอินทร์พรหม | ยมยักษ์ต้องพาน |
ตรัสให้บนบาน | ทุกสิ่งทุกอัน |
๑๔๕ แล้วแต่งบายศรี | |
เจ็ดชั้นมากมี | ทำมิ่งสิ่งขวัญ |
ตบแต่งเสียผี | ทำบัตรพลีพลัน |
เรียกมิ่งสิ่งขวัญ | สมเด็จราชา |
๑๔๖ ให้หาแม่มด | |
ฦๅชาปรากฏ | เชื้อเชิญเทวา |
ให้เพิดสักษี | แก้ทัศกิริยา |
ให้หาโหรา | สะเดาะภูวไนย |
๑๔๗ ร้อยแก้วร้อยทอง | |
เรียงรายก่ายกอง | ทำขวัญจอมไตร |
ยิ่งทำยิ่งร้าย | ไม่คลายพระทัย |
ยิ่งกันแสงไห้ | พ่างเพียงจะวายชนม์ |
๑๔๘ ขึ้งโกรธแสร้งแกล้ง | |
พระเนตรเป็นแสง | แดงคือสูริยน |
ฉวยพระขรรค์ไล่ | วางไปบัดดล |
มาทำสาละวน | ดังนี้เพื่อใด |
๑๔๙ กระทืบพระบาท | |
ร้องด้วยสีหนาท | น่าน้อยพระทัย |
ทรงพระแสงง้าว | วาววาวคือไฟ |
เงือดเงื้อขึ้นไล่ | สาวใช้ทั้งหลาย |
๑๕๐ สองกระษัตริย์จึ่งมา | |
สวมกอดลูกยา | ประทับกับกาย |
ฟังคำแม่ว่า | เจ้าอย่าวุ่นวาย |
ชีพคนทั้งหลาย | จะม้วยประลัย |
๑๕๑ อย่าทรงพระโกรธ | |
มุ่งร้ายหมายโทษ | แสนสาวชาวใน |
พ่อมาปั่นป่วน | รำจวนพระทัย |
ทรงพระโกรธไย | หน่อพระพันปี |
๑๕๒ ขัดแข็งพระทัย | |
เหมือนบิดามิให้ | ผ่านพระบูรี |
จักให้ภูเบนทร์ | มอบเวนเสนี |
ไขในวจี | ให้แม่รู้นา |
๑๕๓ ฤๅพ่อพอใจ | |
หน่อท้าวองค์ใด | อันผ่านพารา |
ทุกกรุงทุกไกร | จักให้เอามา |
ถวายแก่เจ้าฟ้า | เจ้าอย่าร้อนรน |
๑๕๔ แสนสาวศฤงคาร | |
ชลเนตรคือธาร | ถ้วนทุกตัวคน |
สุรเสียงร้องไห้ | เป็นโกลาหล |
เอิกเกริกอลวน | ก้องทั้งไอศวรรย์ |
๑๕๕ โสวัตกุมาร | |
จึ่งทูลฉลองสาร | สองกระษัตริย์ด้วยพลัน |
แม้นตรัสมิให้ | จรในหิมวันต์ |
ลูกจะสิ้นอาสัญ | จักม้วยชีวา |
๑๕๖ ข้าอยู่มิได้ | |
ขุ่นหมองพระทัย | ยิ่งพ้นคณนา |
จงตรัสอนุญาต | ข้าบาทจะขอลา |
จรไปไม่ช้า | จะกลับมาภพไตร |
๑๕๗ สมเด็จมารดา | |
เห็นพระลูกยา | ขุ่นหมองพระทัย |
แม้นจักขัดนัก | เจ้าจักประลัย |
ตามแต่พระทัย | ลูกรักจักจร |
๑๕๘ อุ้มพระโอรส | |
ครวญคร่ำกำสรด | จูบสั่งบังอร |
เขาทำคุณไสย | มาลัยเขจร |
มาต้องภูธร | พระลูกโฉมตรู |
๑๕๙ นางจึงตบแต่ง | |
บรรณาการแกล้ง | ข้าวตากข้าวตู |
แต่งพลางนางไห้ | พระทัยเอ็นดู |
สลบเป็นครู่ | กับพระโรงทอง |
๑๖๐ แสนสาวพระสนม | |
ร้องไห้ระงม | น้ำตาฟูมฟอง |
นางนมพี่เลี้ยง | พ่างเพียงจะม้วยมรณ์ |
สิ้นชีพรอนรอน | ร่ำรักภูวไนย |
๑๖๑ โสวัตโลมเล้า | |
พระชนนีเจ้า | กันแสงร่ำไร |
ข้าพระกำสรด | ระทดพระทัย |
จรไปไม่ได้ | ด้วยพระมารดา |
๑๖๒ แสนสาวชาวใน | |
อย่าร่ำร้องไห้ | เราจักขอลา |
นักเทศขันที | พี่เลี้ยงซ้ายขวา |
ค่อยอยู่รักษา | สมเด็จภูบาล |
๑๖๓ สั่งแล้วภูธร | |
จึ่งทรงอาภรณ์ | เนาวรัตน์ชัชวาล |
ขอรับพระพร | ภูธรโปรดปราน |
ข้าพระยังสถาน | ใส่เกล้าเกศี |
๑๖๔ สองกระษัตริย์อวยพร | |
พ่อจงเขจร | สุขเขษมเปรมปรีดิ์ |
เจ้าจงไปสบ | พบพระฤๅษี |
ร่ำเรียนพิทธี | เรืองฤทธิไกร |
๑๖๕ จงได้มเหสี | |
ล้ำเลิศนารี | ลุดังพระทัย |
ศัตรูมอดม้วย | ด้วยเดชภูวไนย |
ฤทธิ์รบภพไตร | ข้าขันฑเสมา |
๑๖๖ โอรสรับพร | |
ยอยกพระกร | กราบกรานมารดา |
ทักษิณสามรอบ | แล้วนบนอบลา |
จับพระบาทา | ใส่เกล้าเกศี |
๑๖๗ ลาแล้วยูรยาตร | |
แสนสาวเดียรดาษ | ส่งเสด็จภูมี |
ม้าต้นเข้าไป | ใกล้ไท้ธิบดี |
พระจักบทศรี | ด้าวแดนเมืองใด |
๑๖๘ ตรัสแก่พาชี | |
เราจักบทศรี | ด้าวแดนพงไพร |
แกล้งกล่าวเยาะเย้า | เราฤๅเป็นไฉน |
จึ่งมาถามไถ่ | เพื่อใดเล่านา |
๑๖๙ พาชีทูลฉลอง | |
ใจจิตคิดปอง | จรด้วยราชา |
ต้องราชประสงค์ | กลางดงหิมวา |
ตรัสแกล้งแถลงมา | ให้ทราบคดี |
๑๗๐ ตรัสจึงขานไป | |
บิดาเราให้ | ครองกรุงธานี |
พลางเที่ยวพลางแกล้ง | แสวงในพงพี |
ดาบสฤๅษี | ร่ำเรียนวิชา |
๑๗๑ ม้าต้นทูลไข | |
ข้าพระจรไป | เที่ยวทุกพารา |
พบพระดาบส | ปรากฏนักหนา |
ขอนำเจ้าฟ้า | ดั้นดงพงพี |
๑๗๒ พระฟังกัณฐัศว์ | |
ภิรมย์โสมนัส | ตรัสสั่งเสนี |
เร่งเร็วจงไป | ผูกไชยพาชี |
ด้วยแก้วมณี | พิจิตรรจนา |
๑๗๓ อำมาตย์แล่นไป | |
ผูกพาชีไชย | ให้ตามบัญชา |
แกมแก้วหมอนทอง | เรืองรองรจนา |
จึ่งจูงเข้ามา | ถวายท้าวภูวไนย |
๑๗๔ สมเด็จภูมี | |
ขึ้นม้าพาชี | ท้าวนี้เหาะไป |
ทักษิณปรางค์มาศ | ปราสาทภูวไนย |
สามรอบจรไป | ในเวหาหน |
๑๗๕ ชาวเมืองทั้งหลาย | |
เอิกเกริกวุ่นวาย | เป็นโกลาหล |
แสนสาวชาวที่ | เสนีรี้พล |
เกิดในสากล | ดั่งนี้เล่านา |
๑๗๖ สมเด็จภูมี | |
ปลอบพระชนนี | เจ้าอย่าโศกา |
พระราชโอรส | ปรากฏนักหนา |
เหาะในเวหา | เรืองฤทธิไกร |
๑๗๗ ได้ฟังท้าวตรัส | |
คลายหายโทรมนัส | ตรัสร้องขึ้นไป |
พ่อไปอย่าช้า | กลับมาเวียงไชย |
จักไว้พระทัย | ใจท่าพันปี |
๑๗๘ ฟังเสียงมารดา | |
เบือนพระพักตร์มา | ร้องสั่งชนนี |
กราบกับหลังม้า | ตรัสอย่าหมองศรี |
จนแต่สามปี | ลูกจักกลับมา |
๑๗๙ ขอฝากรั้ววัง | |
พระสนมคับคั่ง | แก่สองกระษัตรา |
แสนสาวชาวที่ | เสนีเสนา |
ขอฝากบิดา | มารดาเลิศไกร |
๑๘๐ สั่งแล้วแคล้วคลาด | |
คิ้วต่อนรนาถ | เหาะเข้าในไพร |
พระสุรเสฏฐ์เสด็จคล้อย | ละห้อยพระทัย |
เถิงท้าวภูวไนย | เถิงเมืองบุรี |
๑๘๑ ปานนี้ผ่านเกล้า | |
จักตรอมผอมเศร้า | ร้อนเร่าแสนทวี |
นกหกกึกก้อง | ร่ำร้องเสียงศรี |
คือดังดนตรี | ที่ในเวียงวัง |
๑๘๒ ฟังเสียงนกร้อง | |
สนั่นมี่ก้อง | ร่ำร้องเสียงสั่ง |
ระรื่นชื่นใจ | ไปด้วยดอกรัง |
โรยร่วงทั่วทั้ง | แผ่นพื้นพสุธา |
๑๘๓ ชมพรรณดอกไม้ | |
สำราญบานใจ | ในอรัญราวป่า |
ทั้งต้นนรีผล | สักสนคนทา |
งิ้วง้าวราวป่า | นานาก่ายกอง |
๑๘๔ เนื้อเบื่อกวางทราย | |
ฟั่นเฝือเหลือหลาย | กระต่ายทรายทอง |
นกหกปักษี | หมูหมีเนืองนอง |
ลดเลี้ยวเที่ยวท่อง | ร่ำร้องก้องใน |
๑๘๕ หลงชมฝูงสัตว์ | |
พระพายเจ้าพัด | ตรัสต้องพระทัย |
ต้องแดดต้องลม | ระงมกรมใจ |
ร้อนเร่าพระทัย | อยู่ในเวหา |
๑๘๖ สมเด็จภูเบศ | |
ชำเลืองพระเนตร | ไปทิศบูรพา |
ร้อนรนบนนัก | ตรัสจักแลหา |
เห็นบรรณศาลา | ชื่นชมพระทัย |
๑๘๗ ตรัสถามพาชี | |
อาศรมยาวรี | นี้เล่าของใคร |
ยักษีผีเสื้อ | ล่าเนื้อฤๅไฉน |
ฤๅศาลาลัย | ท่านไทฤๅษี |
๑๘๘ บัดนั้นกัณฐัศว์ | |
ทูลความตามอรรถ | ให้ทราบคดี |
อาศรมบพิตร | สมมิศรฤๅษี |
เรืองฤทธิ์พิทธี | ใครจะเทียมทัน |
๑๘๙ พระมีธิดา | |
ปรากฏรจนา | เถิงไตรตรึงษ์สวรรค์ |
พระพักตร์นักแน่ง | ตะละแกล้งกัน |
กลิ่นคือบุษบัน | ทั่วองค์มารศรี |
๑๙๐ พระได้ฟังข่าว | |
ตรึกตรองน้องท้าว | ตรัสถามพาชี |
เป็นฤๅษีสิทธิ์ | เรืองฤทธิ์พิทธี |
ได้หน่อนารี | นี้มาแต่ไหน |
๑๙๑ น้องยังกินแหนง | |
อางขนางคลางแคลง | ไม่แจ้งพระทัย |
ฤๅว่าดาบส | คิดคดเป็นไฉน |
ลาพรตเมื่อไร | จึงได้นีฤๅมล |
๑๙๒ พาชีทูลเล่า | |
เนื้อนวลควรเจ้า | แรกเอาปฏิสนธิ์ |
ในดอกบัวมาศ | ประหลาดฝูงคน |
ดาบสยินยล | เลี้ยงดูนวลนาง |
๑๙๓ ข้าพระเที่ยวมา | |
ร่อนเร่กินหญ้า | บ่ได้วายว่าง |
ซับซราบดาบส | ฤๅษีกับนาง |
ดีร้ายไม่พลาง | ตรัสอย่าสงกา |
๑๙๔ พระฟังพาชี | |
ชื่นชมยินดี | มีพระบัญชา |
ชักพาชีลง | ตรงบรรณศาลา |
ตรัสจำนรรจา | สั่งม้าพาชี |
๑๙๕ พี่ไปกินหญ้า | |
ทุกข์ภัยเถิงข้า | พี่จงจรลี |
พระสั่งม้าไว้ | ท้าวไทบทศรี |
คลาดจากพาชี | ยังบรรณศาลา ๚ะ |
ยานี
๑๙๖ บัดนั้นจึ่งนางนาฏ | ค่อยยูรยาตรคลาดคลาไคล |
เยื้องกรายค่อยชายไป | เล่นแต่ใกล้บรรณศาลา |
๑๙๗ นางทึ้งเอาเถาวัลลิ์ | มาผูกพันเป็นชิงช้า |
นางนาฏงามหยาดฟ้า | เจ้าค่อยช้าค่อยโยนไป |
๑๙๘ ขับร้องทำเพลงเล่น | ลมพัดเย็นสบายใจ |
ค่อยโยนค่อยถีบไป | ระรื่นชื่นใจในไพรสณฑ์ |
๑๙๙ เกิดมาเป็นกำพร้า | อยู่ในป่าไม่มีคน |
แต่เนื้อในไพรสณฑ์ | มาเป็นเพื่อนในพงพี |
๒๐๐ คิดมาน่าอนิจจา | ทั้งมารดาก็ไม่มี |
เห็นหน้าแต่ฤๅษี | ผู้ผ่านเกล้าเป็นบิดา |
๒๐๑ ร่ำพลางนางครวญไป | เถิงมาลัยอันไคลคลา |
ร่ำพลางนางครวญหา | คิดว่าใครจักจรดล |
๒๐๒ โสวัตค่อยลับไพร | ในพระทัยคิดฉงน |
แฝงไปใกล้ชอบกล | ตรัสจึ่งทักอรเทวี |
๒๐๓ เจ้านี้เชื้อชาวไหน | ใคร่ร่ำได้ขยันดี |
อยู่ไยในพงพี | มิถวายตัวเอาประทาน |
๒๐๔ นางเหลียวเห็นพระจอมจักร | อดสูนักใครจะปาน |
ลุกแล่นมาในสถาน | วิ่งเข้าไปในศาลา |
๒๐๕ โสวัตเสด็จตามไป | ผลักทวารไชยเห็นตรึงตรา |
ร้องเรียกอรฉายา | เชิญออกมาเจ้าอย่าอาย |
๒๐๖ พี่จักเล่าให้ฟัง | มีรับสั่งท่านกฎหมาย |
แข็งขัดจะวุ่นวาย | ใช่พี่ชายจะละตัว |
๒๐๗ นางจึ่งร้องออกมา | พระอย่าว่าน่าใคร่หัว |
หลอกหลอนให้ใครกลัว | ตัวใครรับพระโองการ |
๒๐๘ เวรการของผู้ใด | จงบอกไปให้แตกฉาน |
อาจอุกทำรุกราน | เห็นเข็ญใจไม่กลัวเกรง |
๒๐๙ จึ่งตรัสร้องบอกไป | ตัวเรียมไซร้รับสั่งเอง |
ให้เก็บคนนักเลง | พอมาพบนางพนิดา |
๒๑๐ ฝ่ายเวรของนายฤๅ | อันพิจิตรรจนา |
เถียงอยู่ไยในศาลา | ครั้นจะยื้อคร่าเจ้าจะอดสู |
๒๑๑ นางจึ่งร้องออกไป | การอะไรมาเกาะตู |
หุยหน่าน่าอดสู | เอาคราบงูมาหลอนใคร |
๒๑๒ ข้าอยู่ใช่แว่นแคว้น | เป็นด้าวแดนของท้าวไท |
อ้างอวดกวดขันไป | ซังมาไยกลางดงดอน |
๒๑๓ ตัวเรียมนะอรไท | ได้มาลัยอันบวร |
ลอยมากลางสาคร | รึงรัดเรียมทั่วทั้งองค์ |
๒๑๔ โหรทายว่าจะได้ | เจ้ามาลัยมาสืบวงศ์ |
เรียมจรในไพรพง | ลุเถิงบรรณศาลา |
๒๑๕ นางจึงทรงพระสรวล | ตรัสบควรน่าอนิจจา |
ใครเป็นเจ้ามาลา | อันตรัสว่าอย่าสงสัย |
๒๑๖ มาลาใช่ของน้อง | ตรัสนึกปองเจ้ามาลัย |
ใช่ใครรู้จักใคร | อดสูใจพระราชา |
๒๑๗ เรียมได้เข้ามาผิด | มิทันคิดขอสมา |
รู้จักหน่อยหนึ่งรา | จะขอดูหน้าเจ้ามาลัย |
๒๑๘ มาลัยไม่มีเจ้า | มาต้องเราเข้านี้ว่าไร |
ตรัสพลางขว้างมาลัย | ลงที่ในบรรณศาลา |
๒๑๙ อรนุชเจ้าก็ว่าไป | หยาบหยามใครเป็นนักหนา |
พระทิ้งดอกมาลา | รดน้ำหน้าน่าอดสู |
๒๒๐ ทำน้องนี้มิได้ | ทำมาลัยให้ใครดู |
ไพรชนหากปิดอยู่ | แม้นหาไม่ใคร่มรณา |
๒๒๑ ดำรัสจึ่งตรัสไป | นางอรไทอย่าโศกา |
เรียมทำคิดจะหา | เจ้ามาลาอันแสนงอน |
๒๒๒ ทำเล่ห์ทำกลไป | อยู่มิได้ให้ชะอ้อน |
แยบคายใช่แสนงอน | ใช่ของน้องอย่าโกรธา |
๒๒๓ นางจึ่งทูลฉลองไป | ของใครใครพระได้มา |
ทำไยที่ในศาลา | เห็นว่าชั่วฤๅเป็นไฉน |
๒๒๔ มาลัยนี้ของน้อง | ใจไม่ปองให้ท้าวไท |
มาลาข้าลอยไป | เพื่ออันใดเจ้าเอามา |
๒๒๕ ดำรัสตรัสถามไป | จริงฤๅไรของฉายา |
พระชูดอกมาลา | เจ้าเหลียวมาก่อนเป็นไร |
๒๒๖ หัวทีมิรับเหตุ | ปฏิเสธให้เท็จไป |
แล้วกลับมารับไย | เรียมไม่รู้ที่เจรจา |
๒๒๗ นางจึ่งทูลฉลองเล่า | ข้าพระเจ้ายังสงกา |
ต่อชม้ายชายแลมา | จึ่งรู้แท้แน่แก่ใจ |
๒๒๘ ข้าพระจะขอถาม | ทรงพระนามพระภูวไนย |
หน่อท้าวด้าวแดนใด | ตรัสบอกไปให้รู้รา |
๒๒๙ เรียมนี้ชื่อโสวัต | พรหมทัตเป็นบิดา |
ฝ่ายนางสุมณฑา | เป็นสมเด็จพระชนนี |
๒๓๐ เสวยราชย์เมืองพรหมกุฏ | เขษมสุขอยู่เปรมปรีดิ์ |
เรียมไร้มเหสี | ผ่านพิภพด้วยเป็นสอง |
๒๓๑ นางคิดแต่ในใจ | ชาติก่อนไซร้เคยคู่ครอง |
ขัดนักจักเศร้าหมอง | พระจักสร้อยน้อยพระทัย |
๒๓๒ พระองค์มาเหนื่อยพัก | น้องจักได้สิ่งอันใด |
ถวายแก่พระภูวไนย | มีแต่ผลไม้แลพฤกษา |
๒๓๓ ดำรัสตรัสไปเล่า | สุดแต่เจ้าจะเมตตา |
ทำคุณด้วยเรียมเถิดนา | น้องอย่าสูญพระหฤทัย |
๒๓๔ ไพรชนปิดตรึงตรา | จักเข้ามานี่กลใด |
เผยสักหน่อยจะเป็นไร | แต่พอยื่นผลพฤกษา |
๒๓๕ นางคิดพาซื่อใจ | เผยทวารไชยตามบัญชา |
จึ่งยื่นผลพฤกษา | ออกมาให้พระภูธร |
๒๓๖ เสวยแล้วพระอย่าอยู่ | แม้นเอ็นดูเชิญเสด็จจร |
กลับยังพระนคร | อยู่บ่ได้ในศาลา |
๒๓๗ ท้าวฉวยพระหัตถ์ได้ | ผลักทวารไชยเข้าไปหา |
เจ้าให้ผลพฤกษา | แล้วขับเรียมเสียว่าไร |
๒๓๘ ใช่ว่าผีปีศาจ | ตายไส้ขาดมาแต่ไพร |
เซ่นวักแล้วจักไป | ม้วยประลัยไม่ไคลคลา |
๒๓๙ นางฉวยกรสลัด | ตรัสรึงรัดไว้ไยนา |
จงทรงพระเมตตา | วางข้าราพระภูวไนย |
๒๔๐ เวลาพระบิดา | จักลินลามาแต่ไพร |
จักสร้อยน้อยพระทัย | เห็นชอบใจฤๅพันปี |
๒๔๑ ดำรัสตรัสไปเล่า | บิดาเจ้าจักบทศรี |
เห็นเรียมกับเทวี | พระฤๅษีจะว่าไร |
๒๔๒ พระนุชพอบังควร | พ่อจะหวงเจ้าไว้ไย |
ตรัสพลางทางปราศรัย | เพ่งพิศโฉมพระฉายา ๚ะ |
สุรางคนางค์
๒๔๓ สมเด็จภูเบศ | |
ชำเลืองพระเนตร | พิศโฉมนางน้อง |
ดวงพักตร์จะแจ่ม | คือหนึ่งบัวทอง |
นัยน์เนตรทั้งสอง | ดุจทำขวัญตา[๔] |
๒๔๔ พระองค์คือวาด | |
ไรฟันคือชาด | รจนาเรืองรอง |
สี่ทวีปเช่นนี้ | บ่มีเถิงสอง |
เนื้อนวลควรครอง | ในจัณฑเสมา |
๒๔๕ ฝ่ายพระอรไท | |
ชำเลืองเนตรไป | พิศชมราชา |
เพราเพริศเลิศนัก | น่ารักพักตรา |
พระกรรณเจ้าฟ้า | คือสุวรรณมาลัย |
๒๔๖ พระกรช้อยชด | |
คือดั่งคงกรด | นารายณ์เลิศไกร |
พระโอษฐ์จะแจ่ม | ยิ้มแย้มประไพ |
สุรเสียงภูวไนย | ไพรเพราะมีศรี |
๒๔๗ แมนตรัสโปรดเกล้า | |
เนื้อนวลควรเฝ้า | ฝากพระไมตรี |
เทวาในสวรรค์ | ไม่ทันพันปี |
บรางจะมี | ติฉินนินทา |
๒๔๘ สมเด็จภูวไนย | |
กล่าวเกลี้ยงปราศรัย | ชักชวนเจรจา |
ยอกรลูบไล้ | ทั่วทั้งกายา |
เบือนพระพักตรา | เจ้าอย่าอาลัย |
๒๔๙ เอาพักตร์แฝงฝา | |
ไม่จำนรรจา | ดังนี้เพื่อใด |
เรียมเสด็จไคลคลา | จรมาเถิงใน |
บ่ได้ปราศรัย | เพื่อใดเล่านา |
๒๕๐ นางจึ่งก้มเกล้า | |
ข้าพระพุทธิเจ้า | ขอรับบัญชา |
ครั้นว่าจักด่วน | จะชวนเจรจา |
บ่ควรแก่ข้า | เพราะเป็นกระสัตรี |
๒๕๑ จักตรัสสิ่งใด | |
สุดแต่พระทัย | ปิ่นเกล้าธรณี |
ข้าพระบุญน้อย | จักพล่อยพาที |
จารีตไม่มี | ตรัสก่อนบัญชา |
๒๕๒ จึ่งมีโองการ | |
เรียมมาในสถาน | เพราะได้มาลา |
พบองค์อรนุช | ดุจดังปรารถนา |
นุชเจ้าเมตตา | เรียมบ้างฤๅไฉน |
๒๕๓ เรียมจักขอเชิญ | |
พระนุชเจ้าดำเนิน | ไปยังภพไตร |
ครอบครองแดนด้าว | แสนสาวชาวใน |
สืบวงศ์ท้าวไท | ในขัณฑเสมา |
๒๕๔ นางจึ่งทูลเล่า | |
ตรัสนี้ใส่เกล้า | ขอรับบัญชา |
ข้าพระยากไร้ | อยู่ในหิมวา |
ตรัสทรงเมตตา | ใส่เกล้าเกศี |
๒๕๕ บ่เห็นคู่ควร | |
แสนสาวจักสรวล | เยาะเย้ยมากมี |
เสด็จไปในไพร | ได้นางกระลี |
ติฉินจะมี | ข้าพระมากมาย |
๒๕๖ ตรัสเอื้อนโองการ | |
ร้อยชั่งยังสถาน | ผู้ใดจะหยาบคาย |
ชีวิตผู้นั้น | จักพลันฉิบหาย |
ใครจักเหมือนอรกาย | เสด็จในบัวทอง |
๒๕๗ พระนุชเจ้าล้ำเลิศ | |
เทวามาเกิด | จึ่งจักได้ครอง |
เห็นแล้วบ่ได้ | ดั่งใจเรียมปอง |
ป่วยทีพี่ครอง | ชีพไว้ไยมี |
๒๕๘ นางทรงพระสรวล | |
ตรัสนี้มิควร | เกรงกริ่งคดี |
ข้าพระทราบสิ้น | เล่ห์ลิ้นพันปี |
ได้อื่นจักหน่ายหนี | น้องเสียเมื่อภายหลัง |
๒๕๙ ข้าจักอยู่เอกา | |
ญาติวงศ์พงศา | ไม่มีกับวัง |
เหนื่อยหน่ายคลายรัก | ตรัสจักชิงชัง |
เป็นหม้ายภายหลัง | จักมีคนสรวล |
๒๖๐ โองการตรัสตอบ | |
เสาวนีย์มิชอบ | เรียมฤๅจักควร |
ไม่ละเจ้าไว้ | อรนุชทรามสงวน |
ม้วยชีพจักควร | ม้วยพระไมตรี |
๒๖๑ ม้วยดินม้วยฟ้า | |
ม้วยพสุธา | แจ่มจัดรัศมี |
เรียมไม่จากเจ้า | พระเยาวมารศรี |
ร้อยปีไม่หนี | จากแก้วเจียรไกล |
๒๖๒ นางจึ่งทูลขัด | |
พระโองการตรัส | ไพรเพราะพ้นใจ |
กลัวเกลือกกลับกลอก | หวานนอกขมใน |
ยืดไปบ่ได้ | เหมือนพระบัญชา |
๒๖๓ ข้าพระยากไร้ | |
ค่อยครองตัวไว้ | คุ้มปานนี้นา |
ฉุกเฉินพลาดพลั้ง | ถ้าฟังบัญชา |
ยืนไปเมื่อหน้า | เป็นคนมิดี |
๒๖๔ พระตอบนางทูล | |
เจ้านพคุณ | อันหมดราคี |
เรียมจึ่งจรจาก | หวังจะฝากไมตรี |
ควรฤๅจะหนี | หน่ายน้องเล่านา |
๒๖๕ เรียมไม่แกล้งกล่าว | |
คดีโน้มน้าว | ท้าวน้องฉายา |
ความจริงแห่งพี่ | จึ่งมีบัญชา |
บ่ได้มุสา | กล่าวเกลี้ยงสังเสริญ |
๒๖๖ นางจึ่งทูลไป | |
กลัวเกลือกพระทัย | ละไว้สะเทิ้น |
เกลือกมิใช่เชื้อ | เหมือนพระมุ่งเมิล |
พลาดพลั้งฉุกเฉิน | อายคนทั้งหลาย |
๒๖๗ ข้าพระสนเท่ห์ | |
เกลือกแกล้งแสร้งเส | เล่ห์กลธิบาย |
รักกันแต่สอง | บ่ต้องทำนาย |
ถ้าเสียวรกาย | ม้วยชีพจึ่งควร |
๒๖๘ พระฟังพาที | |
ไพรเพราะมีศรี | ตรัสทรงพระสรวล |
อรนุชน้องท้าว | กล่าวนี้มิควร |
ไม่แกล้งแสร้งสรวล | ชวนจำนรรจา |
๒๖๙ ใช่ชายทุรยศ | |
วาจาถอยถด | ตรัสความมุสา |
เสียชีพพี่ไม่ | ราถอยวาจา |
ครั้นกล่าวมุสา | ใช่ชายชาตรี |
๒๗๐ นางฟังโองการ | |
ตรัสจักโปรดปราน | ข้าพระยินดี |
กลัวเกลือกเกรงนัก | แต่นางอรรคมเหสี |
องค์พระภูมี | เสด็จในวังหลวง |
๒๗๑ ครั้นทราบคดี | |
ได้ฟังดังนี้ | ตรัสจักหึงหวง |
อดสูดูร้าย | วุ่นวายมิควร |
แสนสาวจักสรวล | เยาะเย้ยนักหนา |
๒๗๒ ตรัสจึ่งยิ้มแย้ม | |
เอวบางช่างแต้ม | ลิ้นลมเจรจา |
แม้นว่าเรียมนี้ | มีอรรคชายา |
มิรางจะมา | เถิงป่าพงพี |
๒๗๓ เพื่อว่าเรียมไร้ | |
จึงตั้งพระทัย | ฝากพระไมตรี |
จึ่งจะเชิญท้าวน้อง | ไปครองบูรี |
อื่นไหนไม่มี | นุชเจ้าอย่าสงกา |
๒๗๔ นางทูลจอมจักร | |
พระองค์ทรงศักดิ์ | เลิศล้ำกระษัตรา |
หิมวานต์ไม่ไร้ | ผลไม้พฤกษา |
สิงหราชในป่า | ฤๅจะไร้ถ้ำทอง |
๒๗๕ หน่อท้าวหลานไท | |
ส่งข่าวสารไป | ถวายให้ครอบครอง |
ยิ่งรำพึงคิด | ผิดในใจปอง |
แล้วอำพรางน้อง | บ่เชื่อบัญชา |
๒๗๖ มีโองการตรัส | |
หน่อนามกระษัตริย์ | มีทุกพารา |
สุดแต่สมภาร | ณิธานปรารถนา |
ล้ำเลิศล้นฟ้า | เห็นแล้วก็หน่ายหนี |
๒๗๗ คือดั่งพงไพร | |
พฤกษาป่าไม้ | แต่ชั่วกับดี |
จวงจันทน์กฤษณา | เลือกป่าจะมี |
คือนุชเจ้ามารศรี | เกิดในอุบล |
๒๗๘ นางสนองคำท้าว | |
หน่อกระษัตริย์ทุกด้าว | หน่อท้าวเอ็ดตน |
ไม่พบสบใจ | พระทัยภูวดล |
ข้าบาทยุบล | บ่ควรคู่ครอง |
๒๗๙ เข็ญใจไร้นัก | |
ไร้สิ้นไร้ศักดิ์ | ญาติวงศ์ทั้งผอง |
เห็นแต่ฤๅษี | ไม่มีเงินทอง |
จักบำรุงน้อง | เครื่องยากทุกประการ |
๒๘๐ ตรัสตอบมารศรี | |
เรียมไม่ยินดี | ยศศักดิ์ศฤงคาร |
ยศศักดิ์ยกไว้ | เครื่องไม่ต้องการ |
แสวงหาช้านาน | ไม่พบที่สบใจ |
๒๘๑ มาพบอรนุช | |
ยินดีที่สุด | ควรครองภพไตร |
ฤๅนุชน้องท้าว | มิชอบพระทัย |
จึ่งบิดเผลไป | เพื่อใดเล่านา |
๒๘๒ นางทูลฉลองเล่า | |
ตรัสได้คลึงเคล้า | น้องทั่วกายา |
สู้ตายจะตายด้วย | กว่าจะม้วยชีวา |
อย่าให้ใครมา | ต้องน้องเป็นสอง |
๒๘๓ ค่อยไปค่อยมา | |
ยับยั้งฟังข้า | ย่อมจะได้ครอง |
ให้ดาบสเจ้า | เสกเราทั้งสอง |
ใช่สุดแต่น้อง | แล้วแต่ฤๅษี |
๒๘๔ พระขานอรไท | |
เจ้าเกียดกันไว้ | ตกไม่ปรานี |
ยับยั้งไว้ท่า | บิดาไยมี |
ได้เถิงเพียงนี้ | เอ็นดูเรียมรา |
๒๘๕ ปลอบพลางทางเล่น | |
พระหัตถ์ตรัสเคล้น | เล่นนมฉายา |
พระจูบแก้มซ้าย | ย้ายจูบแก้มขวา |
อวยด้วยเรียมรา | พระเยาวมารศรี |
๒๘๖ นางจึ่งก้มเกล้า | |
ตัวข้าพระเจ้า | ยังเป็นสาวศรี |
น้องน้อยอดสู | ไม่รู้คดี |
ครั้งคราทีนี้ | โปรดเกล้าน้องรา |
๒๘๗ น้องกลัวยิ่งกลัว | |
องค์สั่นอยู่รัวรัว | กลัวพระราชา |
จับบาทพระเจ้า | ใส่เกล้าเกศา |
ใช่ว่าตัวข้า | จะพ้นภูธร |
๒๘๘ ตรัสยิ้มแย้มหัว | |
อรนุชจักกลัว | เรียมไยนะบังอร |
อื่นอื่นไม่รู้ | จะมีครูสอน |
สิ่งนี้นะบังอร | สอนได้ฤๅไฉน |
๒๘๙ คือน้ำกับเรือ | |
สนิทชิดเชื้อ | หากรู้ดีไป |
มีทั่วทั้งหลาย | เกลียดอายเรียมไย |
อัธยาอาศัย | นุชได้เมตตา |
๒๙๐ นางได้ฟังคำ | |
ตรัสจักทำกรรม | ข้าแล้วแลนา |
น้องไม่รู้ที | คดีเดียงสา |
ยับยั้งฟังข้า | แต่ในราตรี |
๒๙๑ ชมแต่รูปน้อง | |
สิ่งนั้นอย่าต้อง | น้องเลยนะพันปี |
เขินขวยพระทัย | ไม่รู้คดี |
ได้โปรดปรานี | ผันผ่อนก่อนรา |
๒๙๒ ตรัสจึงโลมเล้า | |
ได้สนอมกล่อมเจ้า | โลมเล้าฉายา |
คือนกกาน้ำ | ครั้นดำได้ปลา |
จำหักเงี่ยงงา | กินเป็นอาหาร |
๒๙๓ คือหนึ่งช้างสารกล้า | |
ซับมันเป็นบ้า | สิ่งนั้นอย่าพาน |
หูหางแกว่งกวัด | ยนต์ชักบปาน |
คือยอดเยาวมาลย์ | กับเรียมนี้แลนา |
๒๙๔ นางฟังคำท้าว | |
เล้าโลมโน้มน้าว | ภิรมย์หรรษา |
ครั้นจักขัดนัก | ท้าวจักโกรธา |
ตามแต่บัญชา | ปิ่นเกล้าธรณี |
๒๙๕ อย่าทรงพระโกรธ | |
มุ่งร้ายหมายโทษ | แต่หลังอันมี |
น้องได้แข็งขัด | พ้อตัดพันปี |
จำเดิมแต่นี้ | ขอเป็นบริจา |
๒๙๖ สมเด็จภูธร | |
ฟังอรบังอร | ภิรมย์หรรษา |
อุ้มองค์อรไท | วางให้นิทรา |
สมเด็จราชา | ร่วมสนิทชิดกัน |
๒๙๗ สองกระษัตริย์สมพาส | |
พิไรใจขาด | ชมชิดหฤหรรษ์ |
ระรี้ภิรมย์ | ชมอรแจ่มจันทร์ |
พิไรใฝ่ฝัน | กระสันกามา |
๒๙๘ เคล้าคลึงรึงรัด | |
ค่อยสอดพระหัตถ์ | ไปรัดตรึงตรา |
นอนแนบแอบนม | ภิรมย์หรรษา |
ปลื้มใจไปมา | ซาบในพระทัย |
๒๙๙ ยิ่งรู้ยิ่งยวน | |
นุชเจ้ายิ่งรำจวน | กามกวนป่วนใจ |
ระทดระทวย | ดุจม้วยบรรลัย |
ซับซาบอาบใจ | อรนุชเจ้าเทวี |
๓๐๐ ลุแล้วดังคิด | |
สองสำเร็จกิจ | ยิ้มแย้มมีศรี |
ตรัสจูบตรัสกอด | ตรัสพลอดพาที |
รังเกียจไม่มี | ตรัสจำนรรจา |
๓๐๑ บุญแล้วจึงพบ | |
กลิ่นกายอายอบ | กระลบไปมา |
ไม่รู้สิ้นสุด | กลิ่นนุชเจ้าฉายา |
จูบซ้ายย้ายขวา | รับมิ่งสิ่งขวัญ[๕] |
๓๐๒ ชะมดพิมเสน | |
กฤษณาราเชน | เกสรพิกุล |
หอมแล้วหายไป | กลิ่นไม่เพิ่มพูน |
กลิ่นนุชเจ้าไม่สูญ | ยิ่งล้นคณนา |
๓๐๓ กลิ่นฟุ้งกระลบ | |
กลิ่นกายอายอบ | ไปทั่วกายา |
ซับซาบอาบไป | ในใจพี่ยา |
ยิ่งกลิ่นบุษบา | ในป่าหิมวันต์ |
๓๐๔ จักใกล้ราตรี | |
กลัวพระฤๅษี | คลาไคลผายผัน |
เรียมจักคลาไคล | เร้นในหิมวันต์ |
พบอยู่ด้วยกัน | โทษทัณฑ์จะมี |
๓๐๕ ต่อค่ำจึ่งมา | |
นบนอบบิดา | มาฝากไมตรี |
เรียมไม่เสด็จไป | ไกลนุชเจ้ามารศรี |
จักอยู่แต่นี้ | ที่ใกล้ศาลา |
๓๐๖ นางจึ่งทูลฉลอง | |
เจ้าพรากจากน้อง | แล้วมิกลับมา |
ละวางขว้างไว้ | จรไปพารา |
ชีวิตแห่งข้า | จักม้วยประลัย |
๓๐๗ ข้าพระทุกข์นัก | |
ปิ่นเกล้าจอมจักร | จากน้องกลใด |
ชะอิ่งวิงวอน | ทำอ้อนภูวไนย |
กันแสงแกล้งไห้ | พิไรโลมชาย |
๓๐๘ พระจึ่งโลมเล้า | |
เรียมพรากจากเจ้า | เหาะขึ้นผันผาย |
แม้มิซื่อสัตย์ | ตกจัตุราบาย |
พี่ไม่หนีหน่าย | ไกลอรทรามวัย |
๓๐๙ กรกอดนงนุช | |
จูบสั่งที่สุด | ไม่ใคร่จากไป |
สั่งแล้วแคล้วคลา | จากศาลาลัย |
ไปอยู่ต้นไม้ | ใกล้บรรณศาลา |
๓๑๐ พระเสด็จไปแล้ว | |
คิ้วกรองน้องแก้ว | ร้อนรนบ่นหา |
หมั่นหมั่นไปเยี่ยม | เฟี้ยมดูราชา |
เห็นองค์เจ้าฟ้า | ค่อยคลายสบายใจ |
๓๑๑ พลางคอยฤๅษี | |
คอยทั้งภูมี | กลัวจักหนีไป |
พระสูริย์เสด็จคล้อย | ละห้อยพระทัย |
ตั้งจิตบ่ได้ | อยู่ในศาลา ๚ะ |
ฉบัง
๓๑๒ ยามเย็นค่ำลงรอนรอน | พระดาบสจร |
เข้ามาแต่ป่าด้วยพลัน | |
๓๑๓ ได้ผลลูกไม้ครามครัน | ชวนธิดาฉัน |
ที่ในอาศรมบมินาน | |
๓๑๔ บัดนั้นโสวัตกุมาร | บทจรจากสถาน |
ไปสู่อาศรมด้วยพลัน | |
๓๑๕ เจ้าจึ่งก้มเกล้าอภิวันท์ | ข้าพระจรจรัล |
บุญแล้วมาพบท้าวไท | |
๓๑๖ ดาบสเหลียวเห็นภูวไนย | เหตุการณ์เป็นไฉน |
เจ้าจึงมาเถิงศาลา | |
๓๑๗ เจ้านี้มนุษย์ฤๅเทวา | ฤๅหน่อกระษัตรา |
พลัดพรากพิภพฤๅไฉน | |
๓๑๘ โสวัตจึงตรัสขานไป | ข้าพระอยู่ใน |
เมืองพรหมกุฏพระนคร | |
๓๑๙ พลางเที่ยวข้าพลางเขจร | ร่ำเรียนธนูศร |
ลุแล้วจักกลับคืนสถาน | |
๓๒๐ ดาบสได้ฟังก็ชื่นบาน | เชิญมาในสถาน |
เสวยผลไม้พฤกษา | |
๓๒๑ เจ้าอยู่ด้วยพ่อเถิดรา | จักสอนราชา |
ให้พระเจ้าเรียนศิลป์ไชย | |
๓๒๒ โสวัตรู้แท้แก่ใจ | ข้าพระไม่ไป |
จักอยู่ด้วยไท้พันปี | |
๓๒๓ สุดแต่จะโปรดปรานี | ข้าพระยินดี |
ยิ่งกว่าข้าพบพระบิดา | |
๓๒๔ ฤๅษีรู้ซึ่งกิริยา | ยิ้มแย้มไปมา |
จึ่งว่าแก่พระจอมไตร | |
๓๒๕ ทั้งนี้ย่อมจะไปไหน | ค่อยมาค่อยไป |
จะลุดังใจปรารถนา | |
๓๒๖ เจ้าจึงค่อยอยู่รักษา | ครั้นเช้าเข้าป่า |
หาผลไม้มากมี | |
๓๒๗ ไปหามาเลี้ยงฤๅษี | ได้หลายราตรี |
ฤๅษีก็อยู่ ณ ศาลา | |
๓๒๘ ฤๅษีสั่งสอนราชา | ให้เรียนคาถา |
ทั้งมนตร์แลดลมากมี | |
๓๒๙ ดาบสกองกูณฑ์อัคคี | จึงชุบศรศรี |
ให้แก่ภูมีบัดใจ | |
๓๓๐ ท้าวชุบทั้งศรพระขรรค์ไชย | ผุดขึ้นกลางไฟ |
ประเสริฐก็เลิศโลกา | |
๓๓๑ ดาบสรำพึงไปมา | องค์อรธิดา |
ควรด้วยสมเด็จพระภูมี | |
๓๓๒ หนึ่งโสดกูเป็นฤๅษี | จักปลูกเทวี |
หวงไว้ดังนี้ก็มิควร | |
๓๓๓ เทพามนุษย์จักสรวล | ปลูกสร้างจักควร |
แก่กูผู้เป็นสิทธา | |
๓๓๔ ธรรมเนียมร่ำเรียนวิชา | แม้นมีธิดา |
จำยกให้แก่เขาเลี้ยงกัน | |
๓๓๕ จึ่งถามสองเจ้าด้วยพลัน | พ่อจะให้เลี้ยงกัน |
ตามเจ้าจะคิดประการใด | |
๓๓๖ โสวัตจึ่งตรัสสนองไป | ข้าพระยากไร้ |
สุดแต่จักโปรดปรานี | |
๓๓๗ นางจึ่งก้มเกล้าเกศี | ผิดชอบทั้งนี้ |
สุดแท้แต่พระบิดา | |
๓๓๘ ฤๅษีสดับคำสองรา | จึ่งอ่านศาสตรา |
เชิญเทวดามาให้พร | |
๓๓๙ อมรินทร์อินทราจึ่งจร | ฝูงเทพสลอน |
มาช่วยสั่งสอนทั้งสองรา | |
๓๔๐ บัดนั้นนางสุชาดา | เอาอาภรณ์มา |
ประดับประดาเจ้าเทวี | |
๓๔๑ อินทราตบแต่งภูมี | ด้วยอาภรณ์ศรี |
ประดับก็รุ่งเรืองฉาย | |
๓๔๒ พระพรหมชื่นชมจึ่งถวาย | เฉิดฉันพรรณราย |
มากองกันไว้บมินาน | |
๓๔๓ ดาบสจึ่งนั่งเป็นประธาน | สองกระษัตริย์มัสการ |
ถวายธูปแลเทียนบูชา | |
๓๔๔ พระอินทร์กุมกรฉายา | กับองค์ราชา |
กราบกับบาทาพระฤๅษี | |
๓๔๕ ฝูงเทพประโคมดนตรี | แตรสังข์สนั่นมี่ |
สมโภชพระเจ้าทั้งสองรา | |
๓๔๖ ดาบสจึงจับมงคลมา | ลงนำบช้า |
ก็อวยพรพระภูมี | |
๓๔๗ สองเจ้าอยู่ดีกินดี | โพยภัยอย่ามี |
แต่ในวันนี้ด้วยพลัน | |
๓๔๘ จึ่งให้ธนูศิลป์พระขรรค์ | อันเรืองฤทธิ์นั้น |
จงศัตรูวินาศทั้งโลกา | |
๓๔๙ พระอินทร์ให้พรทั้งสองรา | ทั่วทั้งพรหมา |
ให้พรราชามากมาย | |
๓๕๐ สองกระษัตริย์จงสุขสบาย | เกิดบุตรสืบไป |
ประเสริฐก็เลิศแดนไตร | |
๓๕๑ เสร็จแล้วเทวาก็คลาไคล | กระบัดเดี๋ยวใจ |
ก็ลุเถิงไตรตรึงษา | |
๓๕๒ สององค์กราบลงกับบาทา | ลุกนั่งสามครา |
เข้าสู่ในห้องอาศรม | |
๓๕๓ ครั้นค่ำเข้านอนบรรทม | สองกระษัตริย์ภิรมย์ |
ก็สมดังความปรารถนา | |
๓๕๔ ครั้นเช้าจึงเสด็จลินลา | เก็บผลพฤกษา |
มาเลี้ยงบิดาทุกวัน | |
๓๕๕ ฤๅษีค่อยภาวนาธรรม์ | จำเดิมแต่นั้น |
พระเจ้าบ่เข้าพงไพร ๚ะ |
สุรางคนางค์
๓๕๖ สองกระษัตริย์ค่อยอยู่ | |
ภิรมย์ชมคู่ | ร่วมรู้ชมกัน |
ได้สามเดือนปลาย | ไม่คลายวายวัน |
พระนุชเจ้าทรงครรภ์ | เหนือพระธรณี |
๓๕๗ ครั้นได้สิบเดือน | |
ม้าต้นทูลเตือน | ขอเชิญภูมี |
ตรัสไม่รำพึง | คิดเถิงชนนี |
จักนับราตรี | ท่าพระทุกวัน |
๓๕๘ เชิญพระเสด็จไป | |
ตรัสคิดสิ่งใด | ได้แล้วทุกอัน |
ไม่เสียทีมา | เจ้าม้าจรจรัล |
เถิงป่าหิมวันต์ | ลุดั่งปรารถนา |
๓๕๙ พระจึ่งขานตอบ | |
พี่ทูลนี้ชอบ | ขอบใจนักนา |
เมื่อเราพี่น้อง | เสด็จจากมารดา |
วันนั้นทูลลา | ว่าแต่สามปี |
๓๖๐ ได้มาพึงบุญ | |
จักอยู่แทนคุณ | ดาบสฤๅษี |
ครั้นว่าพลันหน่าย | ใช่ชายชาตรี |
ติฉินจะมี | น้องน้อยนักหนา |
๓๖๑ เมื่อนั้นมารศรี | |
ปลอบม้าพาชี | พี่ได้เมตตา |
เอ็นดูน้องน้อย | ค่อยไปค่อยมา |
ยับยั้งฟังข้า | จึ่งไปด้วยกัน |
๓๖๒ พระกรกำหญ้า | |
มาป้อนอาชา | รับมิ่งสิ่งขวัญ |
นางเมืองแม่ปรานี | พาชีทุกอัน |
แต่แรกผัวขวัญ | เถิงศาลาลัย |
๓๖๓ บัดนั้นอาชา | |
เที่ยวไปกินหญ้า | ทั่วทั้งพงไพร |
ค่ำจึ่งลินลา | มาศาลาลัย |
เช้าเช้าจึ่งไป | กินทุกพารา |
๓๖๔ วันหนึ่งพาชี | |
เหาะข้ามบูรี | เมืองท้าวยักษา |
ชื่อกรุงชนบท | ปรากฏนักหนา |
สมเด็จจิตรา | ครองกรุงยักษี |
๓๖๕ ท้าวจิตราราช | |
เสด็จเหนือเกยมาศ | ผาดเห็นพาชี |
อุกอาจหยาบหยาม | เหาะข้ามบูรี |
สมเด็จภูมี | ทรงพระโกรธา |
๓๖๖ จับได้กระบองเพชร | |
วิ่งวางระเห็จ | เสด็จด้วยฤทธา |
ไล่ตีม้าต้น | ที่บนเวหา |
บัดนั้นอาชา | ต่อด้วยยักษี |
๓๖๗ ท้าวโผนเข้ารัน | |
ม้าต้นหลบทัน | รันผิดพาชี |
ม้าต้นเข้าขบ | ชกตบยักษี |
ดีดด้วยฤทธี | ปิ้มจะม้วยชีวา |
๓๖๘ ร้องเรียกอสูร | |
เข้ามาพร้อมมูล | ช่วยตีอาชา |
ฉวยจับพวนได้ | รัดไว้ตรึงตรา |
ร้อยแข็งร้อยขา | โบยตียิ่งมาร |
๓๖๙ เอากรงเหล็กมา | |
ไล่ม้าอาชา | ส่งให้ทหาร |
ตะปูตรึงเข้า | สี่เท้าบ่นาน |
พาชีเชี่ยวชาญ | ร่ำรักราชา |
๓๗๐ โอยโอยปานนี้ | |
เจ้าทั้งสองศรี | จะนั่งคอยหา |
จักบ่นหาพี่ | พาชีไม่มา |
ไม่รู้จักว่า | พี่ทิ้งเจ้าเสีย |
๓๗๑ ตัวตายไม่คิด | |
ชีพเลยสักนิด | คิดแต่ผัวเมีย |
สิ้นบุญพี่แล้ว | น้องแก้วจักเสีย |
ชีพทั้งผัวเมีย | เพราะพากันเดิน |
๓๗๒ แม้นว่าพี่ยัง | |
พระเสด็จขึ้นหลัง | พี่จะพาเหาะเหิร |
เอ็นดูแต่ก่อน | บ่ห่อนจะต้องเดิน |
ใครจะพาเหาะเหิร | ขึ้นบนเวหา |
๓๗๓ จักจรด้วยบาท | |
บ่เคยลินลาศ | ในกลางหิมวา |
บ่มีเกือกทอง | รับรองบาทา |
จักสิ้นชีวา | บเถิงชนนี |
๓๗๔ สมเด็จภูธร | |
ค่ำลงรอนรอน | ไม่เห็นพาชี |
สองกระษัตริย์ร่ำไร | ไม่มีสมประดี |
โอ้ยามปานนี้ | มิมาเลยว่าไร |
๓๗๕ สองกระษัตริย์ร่ำร้อง | |
พิไรอยู่ทั้งสอง | ชลเนตรลามไหล |
สิ้นบุญพี่ม้า | น้องจะเห็นหน้าใคร |
จรไปไม่ได้ | เถิงพระมารดา |
๓๗๖ กรกอดน้องไว้ | |
ตีทรวงครวญไห้ | ในบรรณศาลา |
ม้าต้นตายแล้ว | นะแก้วเจ้าพี่อา |
ใครเลยจักพา | เอาเราเหาะไป |
๓๗๗ แม้นจักคืนเมือง | |
เห็นจักแค้นเคือง | ลำบากยากใจ |
นุชไม่เคยเดิน | ดำเนินในไพร |
จักม้วยประลัย | เที่ยงแท้แลนา |
๓๗๘ ครั้นวายโศกแล้ว | |
สูริยาสว่างแผ้ว | สองกระษัตริย์คลาดคลา |
ตระบัดเดียวดล | เก็บผลพฤกษา |
มาเลี้ยงบิดา | อยู่ศาลาลัย |
๓๗๙ เขลงคล้าหว้าพลอง | |
ขวิดขวาดตาดตอง | มะต้องติดใจ |
ตะโกปรูปราง | หมากซางหมากไฟ |
สองกระษัตริย์เก็บได้ | อเนกเหลือตรา |
๓๘๐ ขนุนขนัน | |
มะดูกลูกจัน | น้อมค้อมลงมา |
ทุเรียนมังคุด | ละมุดสีดา |
สองกระษัตริย์เก็บมา | เลี้ยงท้าวฤๅษี |
๓๘๑ ยังมีนายพราน | |
ล่าเนื้อในสถาน | เห็นพระภูมี |
ตามทรายมิได้ | แค้นใจแสนทวี |
มีนนี้ฝูงผี | ต้อนเนื้อในใพร |
๓๘๒ ดีร้ายผีป่า | |
ต้อนทรายชายมา | พลัดพรากจากไพร |
จักเอาปืนยา | ฆ่าให้บรรลัย |
จึ่งมองเข้าไป | ใกล้สองกระษัตรา |
๓๘๓ เห็นโฉมบริสุทธิ์ | |
ฤๅว่ามนุษย์ | ล้ำเลิศเทวา |
ชะรอยกระษัตริย์ | พลัดพรากเมืองมา |
จักผลาญชีวา | ผัวให้สิ้นปราณ |
๓๘๔ จักเอาเมียไป | |
ถวายแก่ภูวไนย | จักได้รางวัล |
จึ่งขึ้นปืนยา | สองตาเมียงมัน |
ยิงไปผายผัน | ต้องพระราชา |
๓๘๕ สมเด็จภูมี | |
เรียกนางมเหสี | ช่วยพี่ด้วยรา |
เรียมจักมอดม้วย | ด้วยพิษปืนยา |
กลิ้งเกลือกไปมา | โลหิตลามไหล |
๓๘๖ จึ่งอรเทวี | |
เหลียวเห็นภูมี | ตระหนกตกใจ |
กรกอดภูเบศ | ชลเนตรลามไหล |
เหตุการณ์สิ่งใด | เป็นดั่งนี้นา |
๓๘๗ ไม่รู้ที่จะคิด | |
บ่มีความผิด | สักกึ่งเกศา |
ฤๅมันจักใคร่ | ได้ข้าบริจา |
ผลาญชีพเจ้าฟ้า | ให้ม้วยฉิบหาย |
๓๘๘ สิ้นบุญตรัสแล้ว | |
ชีพของเมียแก้ว | ไม่คิดเสียดาย |
ปืนยาพิษนัก | ปักทรวงดวงใน |
ให้ชีพข้าวาย | ด้วยพระราชา |
๓๘๙ นางแก้วมเหสี | |
เช็ดเลือดภูมี | ทั่วทั้งกายา |
ตรัสแปรพระพักตร์ | มาสั่งเมียรา |
สั่งข้าบริจา | แล้วจึ่งวายปราณ |
๓๙๐ สมเด็จจอมจักร | |
จึ่งแปรพระพักตร์ | มาสั่งเยาวมาลย์ |
ฆ่าชีพเสียไย | เกลือกไม่เข้าการ |
เอ็นดูกุมาร | อันอยู่ในครรภ์ |
๓๙๑ จึ่งเปลื้องภูษา | |
ธำมรงค์รจนา | ให้อรแจ่มจันทร์ |
ถ้าโอรสรอด | เสด็จคลอดจากครรภ์ |
อตส่าห์จรจรัล | ให้เถิงมารดา |
๓๙๒ ทูลว่าพี่ม้วย | |
ฝากหลานรักด้วย | แก่พระอัยกา |
ตรัสได้เอ็นดู | พระทรงเมตตา |
เลี้ยงพระนัดดา | ไว้ครองไอยศวรรย์ |
๓๙๓ แม้นมิเชื่อไซร้ | |
ธำรงค์เอาให้ | ดูเป็นสำคัญ |
เชิญดาบสไป | ส่งให้เถิงพลัน |
หวังจะฝากจอมขวัญ | แก่พระบิดา |
๓๙๔ นางฟังภูมี | |
น้ำเนตรไหลรี่ | คือท่อธารา |
สิ้นบุญตรัสแล้ว | เมียแก้วนี้นา |
จักจรพารา | เพื่อใดนะพระเอย |
๓๙๕ ครั้นเถิงศาลา | |
ข้าบาทบริจา | มิคืนคงเลย |
โอรสเกิดมา | กำพร้ามิเคย |
พ่อเจ้าเมียเอย | จะอยู่เยียไร |
๓๙๖ เมียจักเป็นหม้าย | |
อดสูดูร้าย | คนจักไยไพ |
แม้นว่าพระองค์ | ปลงจิตเมื่อใด |
จักกอดศพไว้ | กว่าจะม้วยเป็นผี |
๓๙๗ ยกบาททูนเกล้า | |
ฟายโลหิตเจ้า | ขึ้นใส่เกศี |
เจ้าสลบแน่ไป | ไม่รู้สมประดี |
จักปลงชีวี | ตรัสแล้วแลนา |
๓๙๘ พระฟังโฉมฉาย | |
ค่อยฟื้นวรกาย | ชำเลืองเนตรมา |
สำหรับกรรมแล้ว | นะแก้วพี่อา |
เจ้าอย่าโศกา | ครวญคร่ำร่ำไร |
๓๙๙ บุญเคยเลี้ยงกัน | |
ได้แต่เพียงนั้น | จึ่งม้วยประลัย |
จักโศกสร้อยเศร้า | สักเท่าใดใด |
เนตรเป็นเลือดไหล | ไม่คืนวรกาย |
๔๐๐ ค่อยอยู่จงดี | |
ในกาลบัดนี้ | พี่จักวอดวาย |
พิษปืนกลัดกลุ้ม | คลุ้มทั่ววรกาย |
ผัวจักฉิบหาย | ชีพสู่เมืองสวรรค์ |
๔๐๑ สั่งแล้วมิช้า | |
นัยน์เนตรเจ้าฟ้า | ใหลลงด้วยพลัน |
ตรัสชีวงคต | ปรากฏอัศจรรย์ |
ปัฐพีไหวหวั่น | ทั่วทั้งพงพี |
๔๐๒ นางนาฏบัดนั้น | |
เห็นพระสู่สวรรค์ | สิ้นแล้วชีวี |
กอดศพร่ำไร | ในกลางธรณี |
สองกรข้อนตี | ทรวงแล้วร่ำไร |
๔๐๓ โอยพระผ่านเกล้า | |
ละข้าพุทธิเจ้า | เสียกลางพงไพร |
ทุกวันเสด็จมา | เพลาคลาไคล |
ยังศาลาลัย | ด้วยข้าบริจา |
๔๐๔ วันนี้ข้าบาท | |
จักจรยูรยาตร | องค์เดียวเอกา |
คืนไปหาใคร | ในบรรณศาลา |
เพราะพระราชา | อยู่ในหิมวันต์ |
๔๐๕ โอยพระทูลกระหม่อม | |
เมียรักทุกข์ตรอม | เคยเฝ้าจอมขวัญ |
พระละเมียไว้ | เสด็จไปสู่สวรรค์ |
ข้าน้อยโศกศัลย์ | สร้อยเศร้าโศกา |
๔๐๖ แม้นตรัสสิ้นสุด | |
ในเมืองพรหมกุฏ | บิดามารดา |
จักแต่งโกศทอง | เรืองรองรจนา |
โคมทองชวาลา | ถวายศพภูมี |
๔๐๗ เพดานม่านดัด | |
ระย้าราชวัติ | กางกั้นพันปี |
ตรัสสิ้นพระชนม์ | เหนือบนธรณี |
เอาแต่ปัฐพี | ต่างพระมณเฑียร |
๔๐๘ พระเกศตรัสเกย | |
รากไม้ต่างเขนย | กลางดงตระเคียน |
ภูเขาสล้าง | ล้อมต่างโคมเวียน |
ต้นยางต่างเทียน | ถวายศพภูวไนย |
๔๐๙ จะไว้พระศพ | |
เสือสีห์พานพบ | มันจักพาไป |
เมียจักอุ้มเจ้า | จรเข้าศาลาลัย |
เชิญศพเจ้าไป | ถวายพระฤๅษี |
๔๑๐ แม้นเถิงศาลา | |
ถวายเพลิงเจ้าฟ้า | ตัวข้ามารศรี |
จึ่งจักวิ่งวาง | เข้ากลางอัคคี |
ต่อหน้าฤๅษี | ม้วยด้วยราชา |
๔๑๑ กำลังช้างสาร | |
ทรงคือเยาวมาลย์ | เชิญพระศพมา |
อุ้มศพผัวเจ้า | ทูนเกล้าเกศา |
แปรพระพักตร์มา | ยังศาลาลัย |
๔๑๒ บัดนั้นนายพราน | |
แลเห็นเยาวมาลย์ | อุ้มศพผัวไป |
ผุดลุกขึ้นวิ่ง | เข้าชิงอรไท |
ขว้างศพภูวไนย | ลงเหนือธรณี |
๔๑๓ นางจึ่งวิ่งไป | |
อุ้มศพจอมไตร | ขึ้นทูลเกศี |
ตระหนกตกใจ | ยิ่งได้แสนทวี |
ชะรอยมันนี้ | ยิงพระราชา |
๔๑๔ นางจึ่งถามไป | |
เหตุการณ์เพื่อใด | ท่านจึ่งริษยา |
จึงทำแก่ผี | มิดีนักหนา |
ไม่คิดอนิจจา | เป็นคนฉกรรจ์ |
๔๑๕ พรานจึงบอกไป | |
จักเอาอรไท | ไปถวายทรงธรรม์ |
จักสัญญาไว้ | ใครอย่าลืมกัน |
เกลือกเมื่อครานั้น | เจ้าจักลืมพราน |
๔๑๖ มาเราจักไป | |
กันแสงร่ำไร | รักผัวสาธารณ์ |
เสียน้ำตาไป | เกลือกไม่ต้องการ |
แม้นไปด้วยพราน | เจ้าจักได้ดี |
๔๑๗ นางจึงตอบไป | |
กล่าวดังนี้ไย | ใช่คนบัดศรี |
ผัวม้วยประลัย | บ่ได้ปรานี |
เราไม่ไยดี | ท่านอย่าเจรจา |
๔๑๘ แม้จักใคร่ได้ | |
เชิญท่านเข้าไป | ขอแก่สิทธา |
แม้นดาบสให้ | ดังใจปรารถนา |
ท่านจึ่งค่อยพา | ตัวข้าจรลี |
๔๑๙ พรานจึงยิ้มแย้มไป | |
พี่เหยียบเต่าไว้ | กับกลางธรณี |
จักเรียกหาหมา | เข้ามาไยมี |
อย่าว่าเซ้าซี้ | มาเราจักไป |
๔๒๐ กุมกรนางมา | |
ฝ่ายองค์ฉายา | ต่อผลักต่อไส |
นางฉวยสลัด | พลัดมือพรานไพร |
นางวิ่งหนีได้ | เข้าไพรพฤกษา |
๔๒๑ พรานแล่นตามไป | |
ฉวยได้อรไท | โบยด้วยปืนยา |
ถีบด้วยตีนซ้าย | ป่ายด้วยตีนขวา |
กลิ้งเกลือกไปมา | เห็นน่าเอ็นดู |
๔๒๒ กุมกรนางได้ | |
พาอีจังไร | มึงวิ่งหนีกู |
โบยด้วยปืนยา | เห็นน่าเอ็นดู |
สลบลงเป็นครู่ | กับพื้นพสุธา |
๔๒๓ พรานแค้นขัดใจ | |
ถอดมีดเหน็บได้ | สับศพราชา |
นางลุกขึ้นรอด | กอดบาทบาทา |
ท่านได้เมตตา | อย่าทำแก่ผี |
๔๒๔ แม้นจักตบต่อย | |
สับให้ยับย่อย | ทำข้ามารศรี |
ไม่คิดว่ากรรม | มาทำแก่ผี |
ได้โปรดปรานี | ข้าน้อยจะไป |
๔๒๕ พรานยิ้มแย้มหัว | |
อีนี่รักผัว | มันเป็นเหลือใจ |
ธำมรงค์ภูษา | พรานป่าเอาไป |
กุมกรอรไท | เข้าในพงพี |
๔๒๖ นางเดินตามไป | |
สุรเสียงร้องไห้ | คือดังชะนี |
ช่วยลูกด้วยรา | ดาบสฤๅษี |
พรานพาลูกหนี | ในดงพงไพร |
๔๒๗ พรานมันตีด่า | |
ว่าแสนมารยา | มึงบ่นเอาใคร |
เดินพลางโบยพลาง | นางเพียงจะบรรลัย |
นางร่ำร้องไห้ | เรียกผัวอยู่เบยเบย |
๔๒๘ โอยพระโสวัต | |
เหตุไรจึ่งซัด | มิช่วยเมียเลย |
ต้องโบยต้องตี | เมียนี้มิเคย |
ทูนหัวเมียเอย | ช่วยเมียด้วยรา |
๔๒๙ เสือสีห์แรดช้าง | |
ได้ยินเสียงนาง | ย่อมฟายน้ำตา |
ฝูงนกร่ำไร | ค่าไม้พฤกษา |
เซ็งแซ่ไปมา | ทั้งป่าพงพี |
๔๓๐ แม้นช่วยเจ้าได้ | |
เอ็นดูอรไท้ | จักช่วยเทวี |
เหตุไรพรานป่า | มันมาโบยตี |
คิดน่าปรานี | พระอรทรามวัย |
๔๓๑ นางค่อยลินลา | |
จรตามพรานมา | เข้าในพงไพร |
เดินพลางนางร่ำ | น้ำพระเนตรหลั่งไหล |
กรรมวิบากสิ่งไร | แก่เมียแลนา |
๔๓๒ ยามเย็นย่ำย่ำ | |
สูริยาตกต่ำ | ค่ำแล้วนะพระเอย |
เมียรักได้ยาก | ลำบากมิเคย |
ทูลกระหม่อมของเมียเอย | เมียจะนอนแห่งใด ๚ะ |
ยานี
๔๓๓ ครั้นค่ำลงบ่หึง | พรานไปทึ้งเอาเถาวัลย์ |
ผูกกรอรแจ่มจันทร์ | ไว้กับต้นไม้พฤกษา |
๔๓๔ พรานจึงปีนขึ้นไป | นอนปลายไม้ร้องลงมา |
ตัวกูรู้คาถา | เห็นเสือมามึงอย่ากลัว |
๔๓๕ มนตร์กูกันไว้แล้ว | คือกำแพงแก้วล้อมรอบตัว |
ว่าพลางทางยิ้มหัว | แล้วเคลิ้มหลับบัดเดี๋ยวใจ |
๔๓๖ มีเทพทั้งคู่ | อันสิงสู่อยู่พระไทร |
นีรมิตองค์ลงไป | เหมือนดาบสอันใจธรรม์ |
๔๓๗ เข้าแก้พระกรนาง | เอาปรูปรางให้เสวยพลัน |
ฝูงพาเทพสรรพ์ | ให้บรรทมสำราญใจ |
๔๓๘ นางคิดว่าบิดา | กอดบาทาแล้วร่ำไร |
เหนื่อยนักนางหลับไป | นิมิตเถิงไทพระโฉมตรู |
๔๓๙ ฝันว่าพระอาทิตย์ | อันเรืองฤทธิ์น่าเอ็นดู |
ปะเข้ากับราหู | จับองค์ได้ขว้างลงมา |
๔๔๐ ตกลงเถิงธรณี | พระสูรย์ศรีคืนเวหา |
ยังผีดาวดารา | เสด็จวงล้อมท้าวสุกใส |
๔๔๑ ตื่นขึ้นจักแก้ฝัน | อรแจ่มจันทร์บ่เห็นใคร |
รำพึงแต่ในใจ | ชะรอยว่าเทพในดงดอน |
๔๔๒ นิรมิตเป็นดังนี้ | เกลือกฤๅษีมาอวยพร |
ฤๅศพพระภูธร | เป็นขึ้นแล้วกระมังนา |
๔๔๓ ครั้นพระสูรย์แสงฉัน | เทพผายผันจักคลาดคลา |
ผูกกรอรฉายา | ไว้ดังเก่าแล้วหายไป |
๔๔๔ ครั้นเมื่อย่ำรุ่งเช้า | จึงพรานเฒ่าจักคลาไคล |
ลงจากต้นพระไทร | พานางไปบ่ทันนาน |
๔๔๕ บัดนั้นจึ่งนางนาฏ | ค่อยยูรยาตรไปด้วยพราน |
ชลเนตรคือท่อธาร | คิดเถิงท้าวเพื่อนเข็ญใจ |
๔๔๖ เอ็นดูแต่พระศพ | เสือสีห์พบจักพาไป |
ด้วยว่าไม่มีใคร | เฝ้าพระศพมาละเสีย |
๔๔๗ แม้นตรัสยังอยู่รา | เห็นจะมาติดตามเมีย |
มิรางละวางเสีย | ให้พรานป่าพาเมียหนี |
๔๔๘ เหลียวซ้ายเจ้าแลขวา | คิดสัญญาว่าฤๅษี |
จักมาตามเทวี | บ่เห็นใครใจกระศัลย์ |
๔๔๙ นางคิดแต่ในใจ | ตัวกูไซร้จะปลอบมัน |
จรมาสิบห้าวัน | บ่เห็นใครในพงพี |
๔๕๐ นางชวนพรานเจรจา | พี่เมตตาน้องได้ดี |
พระคุณใส่เกศี | น้องบ่ลืมคุ้มวันตาย |
๔๕๑ พรานเฒ่าเหลียวมาว่า | แรกพามาทำวุ่นวาย |
แม้นมาด้วยง่ายดาย | บ่รางพี่จะทำหยาบหยาม |
๔๕๒ นางว่าข้าได้ผิด | มิทันคิดอย่าถือความ |
เจ้าลวงนางเดินตาม | สัพยอกหยอกพรานไป |
๔๕๓ พรานได้ฟังนางว่า | แรกพามาโกรธคือไฟ |
ได้คิดก็ติดใจ | กล่าวแก่เราเป็นแยบคาย |
๔๕๔ นางว่าพี่พรานเอย | น้องบ่เคยอดข้าวสาย |
แสบท้องน้องปางตาย | หยุดอยู่พักก่อนเป็นไร |
๔๕๕ พรานได้ยินนางว่า | เดินเข้ามาร่มพระไทร |
หยุดพักสำราญใจ | ให้นางเสวยโภชนาหาร |
๔๕๖ นางทำยิ้มหัวร่อ | เบือนหน้าต่อยิ้มร่อพราน |
ชวนกันกินอาหาร | ทำให้พรานเชื่อใจไป |
๔๕๗ ลมพัดมาเย็นเฉื่อย | พรานมาเหนื่อยก็นอนไป |
เคลิ้มหลับบัดเดี๋ยวใจ | กับใต้ต้นไทรพฤกษา |
๔๕๘ นางคิดแต่ในใจ | มันนี้ไซร้ผลาญราชา |
นางจับมีดพรานมา | ฟันคอขาดบัดเดี๋ยวใจ |
๔๕๙ พรานเฒ่าดิ้นระด่าว | โลหิตเล่าออกลามไหล |
บัดเดียวก็ขาดใจ | อยู่กับต้นไม้ไทรพฤกษา |
๔๖๐ ครั้นว่าพรานตายแล้ว | อรน้องแก้วจักลินลา |
ธำมรงค์แลภูษา | ของท่านท้าวนางเอาไป |
๔๖๑ นางคิดจักกลับมา | ยังเจ้าฟ้าอันประลัย |
บ่รู้แห่งหนไหน | จำมิได้คืนมรคา |
๔๖๒ เข้าป่านางออกดง | อรนุชหลงซัดจรมา |
ธำรงค์แลภูษา | ทูนเกล้าพลางนางเดินไป |
๔๖๓ เห็นนกเคล้าคลึงคู่ | เคียงกันอยู่ร้องเสียงใส |
โผพามาแต่ไกล | เหมือนเราเคล้ากันทั้งสอง |
๔๖๔ เห็นทรายเคล้าคลึงลัน | เสือผัดพานเข้ามุ่งมอง |
เหมือนพรานมันคิดปอง | ยิงท่านท้าวให้มรณา |
๔๖๕ นางเข้าดงสารภี | หอมจำปีแลจำปา |
รวยรวยหอมรสมา | เหมือนกลิ่นท้าวผู้ผัวขวัญ |
๔๖๖ นางเก็บลูกลำไย | ทั้งหมากไฟแลอินจัน |
เสวยพลางนางกระศัลย์ | เชิญมาเสวยด้วยน้องรา[๖] |
๔๖๗ นางไปเห็นสระสรง | อรนุชลงสรงสระศรี |
รากบัวฝักบัวมี | เก็บมาเป็นโภชนา |
๔๖๘ เสวยพลางนางร้องไห้ | ชลเนตรไหลคือธารา |
นางได้ดอกบัวมา | ทูนเกศาเข้าในดง |
๔๖๙ นางค่อยเสด็จคลาไคล | อรทรามวัยเจ้าสลบลง |
กลิ้งเกลือกในกลางดง | องคเดียวเปลี่ยวหฤทัย |
๔๗๐ บาทาเจ้าพุพอง | ช้ำเป็นหนองเป็นเลือดไหล |
นางทรุดอยู่กลางไพร | นางร่ำไห้มิรู้วาย |
๔๗๑ หนามคมมันยิ่งยอก | บาทาปอกเจ็บปางตาย |
จรมาห้าเดือนปลาย | บ่สบพบใครเลยนา |
๔๗๒ นางยกกรขึ้นไหว้ | พฤกษ์ต้นไม้ห้วยเหวผา |
อินทราแลพรหมา | ช่วยให้ท้าวพ้นความตาย |
๔๗๓ ข้าไหว้พระอาทิตย์ | อันศักดิ์สิทธิ์รุ่งเรืองฉาย |
อินศวรพระนารายณ์ | ช่วยศพท้าวให้เป็นมา |
๔๗๔ สิงสัตว์อยู่ในไพร | เห็นอรไทคล่าวน้ำตา |
แม้นเรารู้ภาษา | จักนำไปเถิงเมืองคน |
๔๗๕ ฝูงนกจับค่าไม้ | ร่ำร้องไห้อยู่เสือกสน |
แม้นรู้ภาษาคน | จักช่วยนำเอานางไป |
๔๗๖ สิงสัตว์ทุกทั่วทิศ | คิดปรานีอรทรามวัย |
ชักชวนกันตามไป | ช่วยปกป้องอรฉายา |
๔๗๗ นางเดินค่อยหยุดยั้ง | เถิงริมฝั่งพระคงคา |
นางชมพรรณฝูงปลา | ชลเนตรไหลลงฟูมฟอง |
๔๗๘ ฝูงปลาว่ายเป็นคู่ | ทั้งราหูแลเพียนทอง |
ฉลามเข้ามุ่งมอง | เจ้าชมพลางคล่าวน้ำตา |
๔๗๙ นางจรไปเหนื่อยนัก | หยุดอยู่พักร่มพฤกษา |
ใกล้ฝั่งพระคงคา | ครวญเถิงท้าวผู้ผัวขวัญ ๚ะ |
สุรางคนางค์
๔๘๐ ยังมีลูกค้า | |
ใช้ใบเรือมา | มากลางนัที |
ทอดสมอลงไว้ | ชาวไพร่ยินดี |
ชวนกันมะมี่ | ไปหาอาหาร |
๔๘๑ จึ่งลงสัดจอง | |
ตระบัดลอยล่อง | เถิงฝั่งบมินาน |
ต่างคนต่างไป | ในไพรพฤกษา[๗] |
แลเห็นฉายา | ชมชื่นดีใจ |
๔๘๒ นางเห็นพานิช | |
นุชเจ้ารำพึงคิด | ในพระหฤทัย |
ฝูงคนนี้นา | มันมาแต่ไหน |
จักทำกรรมให้ | กูแล้วแลนา |
๔๘๓ พานิชเข้าไปใกล้ | |
ถามอรทรามวัย | เจ้ามาแต่ไหนหนา |
ไม่กลัวแรดช้าง | ในกลางหิมวา |
ซัดจรซอนมา | องค์เดียวแต่ตัว |
๔๘๔ นางจึ่งบอกไป | |
ข้าเจ้านี้ไซร้ | พลัดพรากจากผัว |
สำหรับกรรมแล้ว | ความยากเถิงตัว |
ข้าน้อยบกลัว | ว่าจะวอดวาย |
๔๘๕ พานิชว่าเล่า | |
ดีร้ายผัวเจ้า | เถิงแก่ความตาย |
จักอยู่เยียไร | ในไพรนะโฉมฉาย |
ไปด้วยพี่ชาย | เจ้าจักได้ดี |
๔๘๖ นางจึ่งว่าไป | |
กล่าวดังนี้ไซร้ | เป็นคนบัดศรี |
ข้าใช่คนชั่ว | ลูกผัวข้ามี |
ครั้นทำมิดี | กรรมจะติดตัวไป |
๔๘๗ พานิชจึงว่าเล่า | |
บาปกรรมร้อยเท่า | จักกลัวอะไร |
ยอกรอุ้มนาง | วิ่งวางลงไป |
สัดจองคลาไคล | ยังพระนาวา |
๔๘๘ นางร่ำร้องไห้ | |
วิบากสิ่งใด | แก่ตัวนักหนา |
ครั้งหนึ่งนายพราน | ผลาญชีพมรณา |
ครั้งนี้กูมา | เป็นคนบัดศรี |
๔๘๙ ครั้นเถิงสำเภา | |
พานิชชวนเจ้า | เข้าท้ายบาหลี |
จะเคล้าเล้าโลม | จึ่งโฉมมารศรี |
จักฝากไมตรี | แก่กันสองรา |
๔๙๐ นางจึงโลมเล้า | |
เอ็นดูข้าเจ้า | ค่อยไปค่อยมา |
อุทรน้องรัก | แก่นักแก่หนา |
เมื่อคลอดลูกยา | เราแล้วจะเลี้ยงกัน |
๔๙๑ จึงนายสำเภา | |
ได้ฟังคำเจ้า | วาทีทุกอัน |
ไว้เนื้อเชื่อใจ | กางใบขึ้นพลัน |
เขจรผายผัน | ไปกลางคงคา |
๔๙๒ นางจึ่งว่าเล่า | |
ตัวข้าพระเจ้า | อยู่กับบาทา |
จักเล่าให้ฟัง | ยังจะเมตตา |
แม้นโปรดเกศา | อย่าควรสูญใจ |
๔๙๓ นายสะเภาจึ่งว่าเล่า | |
อรนุชน้องท้าว | จักกล่าวสิ่งไร |
สิ่งสินทั้งนี้ | พี่จักยกให้ |
สุดแต่พระทัย | ของเจ้าเถิดนา |
๔๙๔ นางจึ่งว่าเล่า | |
ตัวข้าพระเจ้า | พึ่งแรกจักมา |
ใคร่เลี้ยงนักการ | คนงานซ้ายขวา |
เหล้าข้าวเนื้อปลา | ให้สำราญใจ |
๔๙๕ เจ้าสะเภาจึงว่า | |
ตามแต่ปัญญา | ของอรทรามวัย |
จักเลี้ยงทั้งหลาย | ให้เขาสบายใจ |
เหล้าข้าวเป็ดไก่ | ของเราเหลือตรา |
๔๙๖ นางจึ่งให้แต่ง | |
บรรดาการแกล้ง | ทุกสิ่งนานา |
ทอดสมอลงไว้ | ให้ชาวเภตรา |
กินซึ่งสุรา | ถ้วนทุกตัวคน |
๔๙๗ ชาวสะเภาทั้งหลาย | |
กินอยู่สบาย | เป็นโกลาหล |
เมามายล้มลุก | ถ้วนทุกตัวคน |
หลับไม่รู้ตน | สิ้นทั้งเภตรา |
๔๙๘ นางคิดในใจ | |
กูจักอยู่ไย | ให้ทนเวทนา |
ฆ่าไปให้ตาย | ว่ายในคงคา |
มิให้ชายมา | ร่วมรักเถิงสอง |
๔๙๙ นางเอาข้าวปลา | |
เงินทองเสื้อผ้า | ใส่ลงสัดจอง |
นางตัดลอยไป | ดุจดังใจปอง |
ตระบัดลอยล่อง | ในกลางคงคา |
๕๐๐ นางจึ่งธิษฐาน | |
เดชะสมภาร | โสวัตราชา |
ถ้าเสด็จปลอด | รอดเป็นคืนมา |
ขอให้ตัวข้า | อย่าเป็นอันตราย |
๕๐๑ ถ้าว่าพระองค์ | |
ชีพบ่คืนคง | มอดม้วยฉิบหาย |
ระลอกซัดซ้ำ | กลางน้ำจมตาย |
สัดจองทำลาย | ตายด้วยราชา |
๕๐๒ ครั้นธิษฐานแล้ว | |
จึ่งอรน้องแก้ว | ค่อยภาวนา |
บ่มีคลื่นฉาน | ในกลางคงคา |
เดชะคาถา | ดาบสฤๅษี |
๕๐๓ ครั้นรุ่งขึ้นเช้า | |
จึงนายสะเภา | ค่อยฟื้นสมประดี |
รู้ว่านางน้อง | ตัดสัดจองหนี |
โทษกันมะมี่ | อึงทั้งเภตรา |
๕๐๔ เราเป็นผู้ชาย | |
ไม่รู้แยบคาย | เท่าหญิงแพศยา |
แม้นมันทำร้าย | เราตายทั้งเภตรา |
มันหากเมตตา | แต่หนีเราไป |
๕๐๕ ว่าแล้วมินาน | |
จึ่งเตือนคนงาน | ถอนสมอบัดใจ |
พระพายพัดมา | นาวาแล่นไป |
ตระบัดคลาไค | ในกลางคงคา ๚ะ |
ฉบัง
๕๐๖ บัดนั้นจึ่งพระฤๅษี | จักใกล้ราตรี |
ก็คอยทั้งสองกระษัตรา | |
๕๐๗ ยามปานฉะนี้มิเห็นมา | หลากด้วยสองรา |
เป็นเหตุเป็นผลสิ่งใด | |
๕๐๘ เห็นผิดเวลาจะคลาไคล | ฤๅสัตว์ไนไพร |
ผลาญชีพให้ม้วยมรณ์ | |
๕๐๙ ดาบสคิดแล้วเขจร | เข้าในดงดอน |
เพื่อแสวงหาสองกระษัตรา | |
๕๑๐ จึงพบพระศพราชา | เห็นทั้งปืนยา |
ปักอยู่กับทรวงภูมี | |
๕๑๑ บ่เห็นองค์อรเทวี | ดาบสฤๅษี |
ตระบัดก็เที่ยวไปมา | |
๕๑๒ เห็นแต่รอยบาทบาทา | เทียวไปเทียวมา |
ครั้นแล้วก็เข้าในไพร | |
๕๑๓ ดาบสคิดแต่ในใจ | ดีร้ายพรานไพร |
ผลาญชีพให้มรณา | |
๕๑๔ จึ่งพรานมันพานางมา | ร่องรอยบาทา |
ทั้งสองก็ตามกันไป | |
๕๑๕ ดาบสกอดศพภูวไนย | ชลเนตรหลั่งไหล |
บ่เอือนคือท่อธารา[๘] | |
๕๑๖ เสียแรงพ่อเลี้ยงรักษา | เป็นกรรมเวรา |
สิ่งใดให้ม้วยมรณา | |
๕๑๗ ดาบสอุ้มศพราชา | มายังศาลา |
อาศรมแห่งพระฤๅษี | |
๕๑๘ จึ่งตั้งกุณฑพิทธี | กองกูณฑ์อัคคี |
ก็ชุบพระศพราชา | |
๕๑๙ พระเพลิงชวยโชติไปมา | เชิญศพราชา |
ตระบัดก็เข้าในไฟ | |
๕๒๐ พระเพลิงเผาศพภูวไนย | ตระบัดเดี๋ยวใจ |
ก็เป็นขึ้นในอัคคี | |
๕๒๑ ยอโฉมดังเก่าแสนทวี | เจรจาด้วยดี |
ก้มเกล้าก็บังคมไท | |
๕๒๒ ดาบสจึงถามภูวไนย | เหตุการณ์เพื่อใด |
พระองค์จึงม้วยเป็นผี | |
๕๒๓ เจ้าเอาอรนุชเจ้าเทวี | ผู้มเหสี |
แห่งเจ้าไปไว้แห่งไร | |
๕๒๔ โสวัตจึ่งทูลฉลองไข | เพื่อเพราะพรานไพร |
ผลาญชีพให้ม้วยมรณ์ | |
๕๒๕ พรานจึ่งพานางเขจร | ข้าบาทม้วยมรณ์ |
บ่รู้ว่าไปแห่งใด | |
๕๒๖ ดาบสได้ฟังก็ร่ำไร | จักคิดเป็นไฉน |
จะได้พระอรเทวี | |
๕๒๗ ตายเป็นบ่รู้คดี | มิตามเทวี |
ละเสียมิควรเลยนา | |
๕๒๘ โสวัตกราบกับบาทา | แม้นม้วยชีวา |
ข้าบาทมิละเจ้าทรามวัย | |
๕๒๙ ลูกรักจักติดตามไป | บ่พบอรไท |
ข้าน้อยไม่กลับคืนมา | |
๕๓๐ ดาบสว่าชอบนักหนา | เชิญเข้าศาลา |
จึ่งให้น้ำมันท้าวไท | |
๕๓๑ น้ำมันขวดนี้เลิศไกร | แม้นพบอรไท |
สิ้นชีพในหิมวา | |
๕๓๒ จึ่งเอาทาอรฉายา | จักเป็นขึ้นมา |
ประเสริฐกว่าเก่าแสนทวี | |
๕๓๓ ดาบสอวยพรภูมี | พ่อจักบทศรี |
จงลุดั่งความปรารถนา | |
๕๓๔ จงพบองค์อรฉายา | สิงสัตว์ในป่า |
จงลุอำนาจแก่ท้าวไท | |
๕๓๕ ดาบสยกมือขึ้นชี้ไป | จงเจ้าคลาไคล |
ไปบุรพทิศอย่าคลา | |
๕๓๖ จักพบอรนุชเจ้าฉายา | เกิดลาภอาตมา |
ประเสริฐล้ำเลิศสากล | |
๕๓๗ โสวัตรับพรบัดดล | กราบบาทจุมพล |
กับกรมาใส่เกศี | |
๕๓๘ พระองค์ค่อยอยู่จงดี | ข้าบาทบทศรี |
พบแล้วจักกลับคืนมา | |
๕๓๙ ทักษิณสามรอบแล้วลา | ฉุนคิดขึ้นมา |
เข้าสู่ในห้องเทวี ๚ะ |
สุรางคนางค์
๕๔๐ พระเสด็จเข้าห้อง | |
คร่ำครวญเถิงน้อง | ร่ำร้องพิศวง |
ทนโศกบ่รอด | ทอดพระองค์ลง |
ชีพท้าวเพียงจะปลง | ด้วยพระเยาวมารศรี |
๕๔๑ ยังแต่ภูษา | |
สไบรจนา | ปกนมเทวี |
กรกอดเข้าไว้ | ร่ำใช่พอดี |
โอยโอยแก้วพี่ | ปานฉะนี้เป็นไฉน |
๕๔๒ หอมแต่กลิ่นน้อง | |
ขจรในห้อง | เรียมร้อนหฤทัย |
ปานนี้น้องรัก | จักเป็นไฉน |
บ่ควรจรไป | ในป่าหิมวันต์ |
๕๔๓ โอยกรรมวิบาก | |
สิ่งใดจำจาก | พลัดพรากจากกัน |
น่าน้อยหฤทัย | ใคร่ไปสู่สวรรค์ |
แม้นตายตายด้วยกัน | จะอยู่ไยนา |
๕๔๔ ความทุกข์สุดคิด | |
ดังจะสิ้นชีวิต | จิตจากอาตมา |
ชีพเรียมจักใคร่ | ผลาญให้มรณา |
คิดแต่ฉายา | บ่รู้คดี |
๕๔๕ ไห้พลางครวญพลาง | |
ตีทรวงผางผาง | ร่ำรักเทวี |
บ่พบอรไท | จักให้เสือสีห์ |
ผลาญชีพของพี่ | ตายในพงไพร |
๕๔๖ แม้นติดตามทัน | |
ชีพพรานคนนั้น | จักม้วยประลัย |
แม้นถวายท้าว | แดนด้าวเมืองใด |
จักรุกรานไป | ให้พบบุญเรือง |
๕๔๗ เรียมจักต่อรบ | |
แผลงศรให้จบ | กึกก้องนองเนือง |
จักผลาญชีพให้ | ประลัยทั้งเมือง |
จักรับบุญเรือง | ตระบัดไคลคลา |
๕๔๘ กำสรดร่ำไร | |
สลบซบไป | กับบรรณศาลา |
ดาบสตัดใจ | ร่ำไรนักนา |
ชูเกศเจ้าฟ้า | ใส่ตักฤๅษี |
๕๔๙ เอาน้ำลูบพักตร์ | |
พระอย่าโศกนัก | เอ็นดูเทวี |
สิ้นบุญภูวไนย | จักเห็นใครมี |
จักตามมารศรี | เสด็จในดงดอน |
๕๕๐ สมเด็จภูมี | |
ครั้นรู้สมประดี | จึ่งทรงอาภรณ์ |
กราบบาทดาบส | กำสรดจักจร |
กรท้าวกุมศร | พระขรรค์รจนา |
๕๕๑ น้ำมันพิเศษ | |
สมเด็จภูเบศ | ขอดชายภูษา |
พระอย่าละห้อย | ลูกน้อยจะขอลา |
อย่าทรงโศกา | เถิงอรทรามวัย |
๕๕๒ ดาบสจึงสั่ง | |
พ่อค่อยหยุดยั้ง | เสาะสางอรไท |
เที่ยวทุกแห่งห้อง | ทั่วท้องพงไพร |
เกลือกอรทรามวัย | หลงในดงดอน |
๕๕๓ อินทรีพรหมยมยักษ์ | |
เรืองฤทธิ์สิทธิศักดิ์ | ขอฝากภูธร |
นารายณ์อินศวร | ชักชวนบังอร |
สองกระษัตริย์เขจร | พบในหิมวา |
๕๕๔ สมเด็จภูมี | |
รับพรฤๅษี | ตระบัดไคลคลา |
เที่ยวทุกแห่งห้อง | ทั่วท้องหิมวา |
ห้วยธารเหวผา | เถื่อนถ้ำใดใด |
๕๕๕ เสาะสางหาเจ้า | |
ทุกห้วยเหวเขา | บ่พบทรามวัย |
ป่าดงพงชัฏ | ลอดลัดตัดไป |
เดินทางพลางไห้ | ร่ำไรหากัน |
๕๕๖ เห็นนกโนรี | |
ปากแดงแสงสี | ร่ำร้องขานขัน |
จิบจาบซังแซว | ชมแล้วผายผัน |
พระทัยกระศัลย์ | คิดเถิงฉายา |
๕๕๗ ชมวายุภักษ์ | |
อินทรีน่ารัก | คาบช้างสารมา |
กระแตเต้นไต่ | ค่าไม้พฤกษา |
ดุจเราสองรา | เข้าในพงพี |
๕๕๘ ชมเบญจวรรณา | |
ไก่แก้วโกญจา | ร่ำร้องเสียงศรี |
เหมือนเรียมพรากเจ้า | เข้าในพงพี |
พรานป่าพาหนี | ดุจพี่แลนา |
๕๕๙ หอมดอกการะเกด | |
งอกงามพิเศษ | เหมือนกลิ่นฉายา |
มีทั้งสนสร้อย | ห้อยย้อยลงมา |
เหมือนชายภูษา | พระอรทรามวัย |
๕๖๐ พุดจีนพุดตาน | |
พิกุลหอมหวาน | บุนนากเอาใจ |
เหมือนหนึ่งนวลแก้ม | ยิ้มแย้มปราศรัย |
กี่เมื่อจะได้ | พบเรียมแลนา |
๕๖๑ ตระเคียนสูงส่ง | |
ประดู่ปรูปรง | งอกง้อมค้อมมา |
ดอกตกเกลื่อนกลาด | เดียรดาษนักหนา |
โอกรรมเวรา | ของเราทั้งสอง |
๕๖๒ พระเก็บหมากซาง | |
หมากดูกลูกปราง | อเนกก่ายกอง |
ขวิดขวาดค้อมมา | เขลงคล้าหว้าพลอง |
เคยเสวยด้วยน้อง | ในบรรณศาลา |
๕๖๓ ขนุนขนัน | |
ลูกอินลูกจัน | อเนกเหลือตรา |
ส้มแก้วส้มจุก | ลูกสุกนานา |
เราเคยเก็บมา | สองเสวยสำราญ |
๕๖๔ พระเก็บลำไย | |
เสวยพลางครวญไห้ | ชลเนตรคือธาร |
กล้วยกล้ายย่อมเคย | เสวยเป็นโภชนาหาร |
โอยอดสงสาร | เสวยด้วยเรียมรา |
๕๖๕ เสด็จเข้าป่ากว้าง | |
ชมแรดชมช้าง | ม่ายเมียงเคียงมา |
เสือสีห์หมีเม่น | โตเต้นไปมา |
ดุจเรียมเที่ยวหา | ชลเนตรฟูมฟอง |
๕๖๖ พระชมราชสีห์ | |
ละมั่งตัวพี | โตเต้นผันผยอง |
ถึกทรายลำโอง | เสือโคร่งมุ่งมอง |
ดุจดังท้าวน้อง | เข้าเฝ้าเรียมนา |
๕๖๗ ชมนกยูงทอง | |
ลิงค่างโห่ร้อง | กึกก้องโกลา |
วิ่งชิงลูกไม้ | เต้นไต่ไปมา |
เหมือนเราสองรา | มาเคล้าคลึงกัน |
๕๖๘ เสด็จเถิงคงคา | |
ชมพรรณฝูงปลา | ถี่ถ้วนนวลจันทร์ |
ราหูเพียนทอง | ลอยล่องตามกัน |
ชมแล้วรับขวัญ | พระอรฉาย |
๕๖๙ ชะวาดชะแวง | |
มังกรตัวแดง | ไล่หมู่เหรา |
ยี่สนฉลาม | ไล่ตามกันมา |
โอยกรรมเวรา | ของเราชื่อไร |
๕๗๐ น้ำไหลคลายคลาย | |
เพียนทองแถกว่าย | ไซ้กินเถ้าไคล |
ชมพรรณฝูงปลา | ว่ายมาว่ายไป |
ชลเนตรลามไหล | แล้วสรงสนาน |
๕๗๑ ห่อธารน้ำลึก | |
เย็นคืออำมฤก | ชมพรรณบัวบาน |
บัวเผื่อนบัวผัน | กลิ่นนั้นหอมหวาน |
กี่เมื่อจะพาน | พบน้องของเรียม |
๕๗๒ ชมดอกบัวทอง | |
ประดุจนมน้อง | ตัดเต่งใครจะเทียม |
ย่อมเคยบีดเล่น | เคล้นยาใจเรียม |
กลิ่นฟุ้งใครจะเทียม | เพราะไกลน้องรา |
๕๗๓ ชมสัตตบงกช | |
อันงามใสสด | บัวขาวโสภา |
ฝักรากปรากฏ | รสนั้นโอชา |
พระจึ่งเก็บมา | เสวยต่างอาหาร |
๕๗๔ เสวยพลางพลางไห้ | |
เขจรเลียบไป | ไต่ตามริมธาร |
เห็นนางเงือกน้ำ | เถิงกรรมสิ้นปราณ |
เพื่อเพราะนายพราน | ยิงให้วอดวาย |
๕๗๕ เอนดูเงือกน้ำ | |
สำหรับเป็นกรรม | มาม้วยฉิบหาย |
พระจึ่งเอายา | ทาทั่ววรกาย |
เงือกน้ำอันตาย | เป็นขึ้นทันใจ ๚ะ |
โลมเงือก
๕๗๖ บัดนั้นนางเงือก | |
กราบลงกลิ้งเกลือก | กับบาทภูวไนย |
มีคุณครั้งนี้ | จักมีสิ่งใด |
แทนคุณท้าวไท | ให้เป็นขึ้นมา |
๕๗๗ พระยิ้มแย้มหัว | |
นุชบ่มีผัว | จงได้เมตตา |
อื่นอื่นจักให้ | เรียมไม่ปรารถนา |
แกล้งเขจรมา | หวังจะฝากไมตรี |
๕๗๘ นางเงือกก้มเกล้า | |
สุดแต่พระเจ้า | จักโปรดปรานี |
คุณบุญยิ่งนัก | จักรักพันปี |
ขัดใจไยมี | ให้เคืองพระทัย |
๕๗๙ พระฟังนางว่า | |
ยอกรอุ้มมา | กอดแก้วกลอยใจ |
พิศวาสด้วยนาง | ที่กลางพงไพร |
แสนสนิทพิสมัย | ชวนจำนรรจา |
๕๘๐ เจ้าเอ็นดูพี่ | |
ทำคุณครั้งนี้ | ให้ลุปรารถนา |
ช่วยพี่ให้พ้น | สาชลคงคา |
ฟากฝั่งโพ้นมา | เรียมจักข้ามไป |
๕๘๑ นางเงือกจึ่งว่า | |
พระผู้ผ่านฟ้า | จักข้ามไปไย |
ยักษาทั้งหลาย | นันร้ายคือไฟ |
พานพบภูวไนย | จักเป็นอาหาร |
๕๘๒ เพียงว่าอาชา | |
เหาะข้ามเมืองมา | จับเอาบ่มินาน |
ใส่กรงเหล็กไว้ | มอบให้ทหาร |
โบยตียิ่งมาร | ปิ้มจะม้วยประลัย |
๕๘๓ สมเด็จภูมี | |
ฟังข่าวพาชี | ชลเนตรคล่าวไหล |
ม้าต้นของพี่ | มาแต่ภพไตร |
พลัดจากพี่ไป | เป็นช้าหึงนาน |
๕๘๔ พึ่งรู้วันนี้ | |
ข่าวม้าพาชี | เพราะยอดเยาวมาลย์ |
เจ้าพาพี่ไป | ให้เถิงสถาน |
แม้นม้วยสูญปราณ | ขอพบอาชา |
๕๘๕ นางเงือกทูลเล่า | |
จักขัดพระเจ้า | ท้าวจักโกรธา |
จึงแบกพระข้าม | ไปตามคงคา |
บัดเดียวบ่ช้า | เถิงฝั่งสาคร |
๕๘๖ ส่งพระเถิงฝั่ง | |
นางเงือกจึงสั่ง | สมเด็จภูธร |
พระจากน้องไป | เมื่อไรจักจร |
ให้สว่างอาวรณ์ | ดังเก่าเล่านา |
๕๘๗ พระจึ่งขานไป | |
ลุแล้วเมื่อไร | จักกลับคืนมา |
สั่งแล้วยูรยาตร | คลาดจากคงคา |
ตามเงือกบอกมา | เข้าป่าพงพี |
๕๘๘ เขจรลินลาศ | |
บัดนั้นพระบาท | ลุเถิงสระศรี |
แลเห็นพุ่มไม้ | ร่มใช่พอดี |
สมเด็จภูมี | เข้าอยู่อาศัย |
๕๘๙ เสียงมารยักษา | |
เจรจาไปมา | บ่เห็นภูวไนย |
เหนื่อยพักอยู่สบาย | ค่อยคลายพระทัย |
จักทำฉันใด | จักพบพี่พาชี ๚ะ |
ยานี
๕๙๐ บัดนั้นจึ่งนางนาฏ | หน่อพระบาทเจ้าพารา |
ล้ำเลิศยิ่งเทวา | ชื่อศุภลักษณ์อรเทวี |
๕๙๑ ตรัสสั่งแก่สาวใช้ | เราจักไปเล่นสระศรี |
สรงสนานในนัที | พลางไปเล่นให้สำราญ |
๕๙๒ สั่งแล้วจึ่งนางนาฏ | ค่อยยูรยาตรขึ้นรถยาน |
แสนสาวแลศฤงคาร | ห้อมล้อมเจ้าอยู่ไสว |
๕๙๓ ข้าสาวห้อมล้อมมา | เถิงคงคาตระบัดใจ |
นางจึงเสด็จลงไป | สรงน้ำเล่นในสระศรี |
๕๙๔ ข้าสาวเคยลงตาม | นางโฉมงามในนัที |
นางจึงชวนสาวศรี | ว่ายน้ำเล่นไล่ไปมา |
๕๙๕ นางจึงให้เข้าเร้น | บ่ให้เห็นในคงคา |
ลางนางวิ่งขึ้นมา | เข้าเร้นอยู่ริมสระศรี |
๕๙๖ นางหนึ่งวิ่งขึ้นไป | เห็นท้าวไทโฉมเปรมปรีดิ์ |
จึ่งถามว่าภูมี | เสด็จมาอยู่ที่นี่ไย |
๕๙๗ พระห้ามว่าอย่าเกรง | กรรมข้าเองนะอรไท |
มาตามอาชาไนย | ปะอรไทได้เมตตา |
๕๙๘ นางจึ่งทูลไปเล่า | พระองค์เจ้าอย่าเจรจา |
ที่นี่เหล่ายักษา | แม้นรู้แล้วจะเป็นผี |
๕๙๙ พระจึ่งยิ้มแย้มหัว | เรียมจักกลัวมันไยมี |
กุมกรอรเทวี | จูบกอดนางบ่ปราศรัย |
๖๐๐ พระจึ่งชวนพิศวาส | จงนุชนาฏอย่าตัดใจ |
สองเจ้าจึงพิสมัย | ร่วมรักกันทั้งสองรา |
๖๐๑ พระจึ่งถามนางนาฏ | มนุษย์ชาติฤๅยักษา |
จริงฤๅท้าวจิตรา | มีธิดางามมีศรี |
๖๐๒ ตัวข้านี้พระบาท | มนุษย์ชาติชื่อศรีวรดี |
ศุภลักษณ์นางเทวี | เป็นบุตรีท้าวยักษา |
๖๐๓ พระจึ่งสั่งนางเล่า | จงนุชเจ้าได้เมตตา |
เมื่อค่ำจักไปหา | คอยเรียมราเรียมจักไป |
๖๐๔ นางกราบกับบาทา | แม้นรักข้าอัธยาศัย |
แม้นท้าวจักเข้าไป | ค่อยประคิ่นดูจงดี |
๖๐๕ น้องรักจักขอลา | ครั้นว่าช้ากลัวยักษี |
นางคลาดจากภูมี | จึ่งคืนมาหาเพื่อนกัน |
๖๐๖ บัดนั้นพระภูเบศ | ทอดพระเนตรแลไปพลัน |
เห็นโฉมอรแจ่มจันทร์ | นางศุภลักษณ์อรฉายา |
๖๐๗ ทรงโฉมงามดีดัก | เป็นหน่อยักษ์ท้าวจิตรา |
เมื่อค่ำจักไปหา | แม้นประลัยไม่ถอยหนี |
๖๐๘ เมื่อนั้นจึ่งนางแก้ว | สรงสนานแล้วชวนสาวศรี |
คืนเข้าพระบูรี | กรุงชนบทพระนคร |
๖๐๙ ครั้นเข้าเถิงวังนาง | ค่อยเยื้องย่างบทจร |
ขึ้นวังพระบังอร | มณเฑียรมาศอันสุกใส |
๖๑๐ ครั้นค่ำลงรอนรอน | ทิพากรจักคลาไคล |
พระองค์ทรงขรรค์ไชย | เข้าสู่วังอรฉายา |
๖๑๑ บัดนั้นจึงพระบาท | ค่อยยูรยาตรตามมรคา |
เสด็จเถิงวังฉายา | เข้าบ่ได้ดังใจหมาย |
๖๑๒ ไพชยนต์ปิดตรึงตรา | มารรักษาเฝ้าเรียงราย |
เดชะพระฦๅสาย | ท้าวจึ่งอ่านพระคาถา |
๖๑๓ ไพชยนต์ก็เคลื่อนคลาย | มารทั้งหลายหลับนักหนา |
พระเจ้าเสด็จลินลา | ขึ้นไปบนปราสาทไชย |
๖๑๔ ยืนอยู่นอกชาลา | แกล้งแฝงฝามองเข้าไป |
ค่อยดูอัธยาศัย | นางสาวใช้ในเรือนหลวง |
๖๑๕ แสนสาวพระกำนัล | หลับทั่วกันสิ้นทั้งปวง |
เหงาง่วงทั้งเรือนหลวง | ไม่มีใครจำนรรจา |
๖๑๖ ท้าวเรียกศรีวรดี | เอ็นดูพี่รับด้วยรา |
นัดแนะให้พี่มา | อนิจจาเจ้าไปไหน |
๖๑๗ ฤๅหนึ่งเจ้าลวงล่อ | กระมังหนอแล้วหายไป |
น่าน้อยพระหฤทัย | ลวงเล่นได้ให้เรียมมา |
๖๑๘ พระยืนตรงไพชยนต์ | พระจุมพลค่อยเคาะฝา |
หลับไปฤๅไรนา | ได้สัญญาแล้วไปไหน |
๖๑๙ บัดนั้นศรีวรดี | ฟังภูมีเรียกเข้าไป |
ฟื้นตื่นขึ้นบัดใจ | เจ้ายูรยาตรนาดออกมา |
๖๒๐ นางจึ่งเผยไพชยนต์ | เจ้าจุมพลก็หรรษา |
อยู่ไยแต่นอกฝา | เชิญพระเจ้าเข้ามาใน |
๖๒๑ น้องคิดว่ามิมา | น้องคอยหาจนหลับไป |
ขอเชิญดำเนินใน | ที่ห้องน้องสักหน่อยรา |
๖๒๒ พระฟังคำนุชนาฏ | ท้าวยูรยาตรเดินเข้ามา |
เถิงห้องอรฉายา | สวมกอดแก้วแล้วรับขวัญ |
๖๒๓ พระเจ้าจงพิศวาส | ด้วยนุชนาฏค่อยชมกัน |
จงเจ้าเล่าพี่พลัน | พระโฉมตรูอยู่ห้องไหน |
๖๒๔ นางจึงทูลฉลองสาร | ปิ่นจักรพาฬจะทำไม |
กินแหนงน้องแคลงใจ | จงตรัสไปให้รู้รา |
๖๒๕ พระเจ้าอย่าลวนลาม | เกลือกเนื้อความจะฦๅชา |
ข้าบาทบริจา | จักพลอยม้วยด้วยพันปี |
๖๒๖ พระเจ้ายิ้มแย้มหัว | นุชเจ้าอย่ากลัวมารยักษี |
แม้ม้วยด้วยเทวี | แต่ตัวพี่ไม่เถิงนาง |
๖๒๗ แม้นว่ามิแพร่งพราย | ใช่ว่าชายเจ้าอย่าพราง |
เจ้าพี่ชี้ห้องนาง | จักลาเจ้าเข้าไปหา |
๖๒๘ นางจึ่งก้มกราบไหว้ | ชี้บอกไปแก่ราชา |
ห้องนี้นะพี่อา | พระอรนุชเจ้าบรรทม |
๖๒๙ ท้าวจะเข้าไปหา | อย่าหยาบช้ากลัวพระสนม |
ยื้อชักผลักเชยชม | นางน้องร้องจะเสียความ |
๖๓๐ พระจึงขานอรไท | สิ่งนั้นไซร้อย่าเกรงขาม |
ตัวพี่ไม่หยาบหยาม | นางโฉมงามอย่ากินใจ |
๖๓๑ ร่ำแล้วพระลินลา | จากฉายาเสด็จเข้าไป |
เถิงที่บรรทมใน | พระนั่งแนบอรฉายา |
๖๓๒ ค่อยถดองค์เข้าชิด | พิสมัยไม่วางตา |
ค่อยเปลื้องพระภูษา | อันปกนมนางมารศรี |
๖๓๓ อรโฉมงามบริสุทธิ์ | ยิ่งมนุษย์กระษัตรีย์ |
เสาวภาคยเมาลี | ใสจะแจ่มคือเดือนฉาย |
๖๓๔ เกษาเจ้าดำคลับ | แสงระยับคือพรายพราย |
พระเนตรคือตาทราย | ดำระยับคือพลอยนิล |
๖๓๕ คิ้วค้อมสุดหางตา | คือรามาเจ้าก่งศิลป์ |
สองแก้มคือลูกอิน | เรียมจูบซ้ายย้ายจูบขวา |
๖๓๖ ถันนังเจ้าทั้งสอง | คือบัวทองงามโสภา |
บีบซ้ายย้ายบีบขวา | อนิจจาไม่รู้ตัว |
๖๓๗ กูจักลอบชมเชย | มิชอบเลยตกว่ากลัว |
ปลุกขึ้นให้รู้ตัว | ให้รู้ว่าพี่มาหา |
๖๓๘ คิดแล้วพระก็ปลุก | นางนงนุชเจ้าพี่อา |
ลุกขึ้นพี่มาหา | อนิจจามาหลับใหล ๚ะ |
สุรางคนางค์
๖๓๙ บัดนั้นนางนาฏ | |
ตื่นขึ้นจากอาสน์ | ผาดเห็นภูวไนย |
เหลือบเล็งเพ่งพิศ | ยิ่งติดหัวใจ |
เสด็จมาแต่ไหน | หลากใจนักหนา |
๖๔๐ วรโฉมที่สุด | |
จะว่ามนุษย์ | ฤๅไท้เทวา |
ฤๅว่าคนธรรพ์ | สุบรรณครุฑา |
แกล้งแปลงเพศมา | ชมข้าฤๅไฉน |
๖๔๑ ยิ่งคิดพิศวง | |
ระทวยงวยหลง | ด้วยโฉมท้าวไท |
เสด็จอยู่แว่นแคว้น | ด้าวแดนเมืองใด |
คิดในพระทัย | ใคร่จำนรรจา |
๖๔๒ นางจึ่งถามไป | |
หน่อท้าวองค์ใด | อุกอาจนักหนา |
ตรัสซึ่งพระนาม | แต่ตามสัจจา |
เพื่อใดจึ่งมา | ในมณเฑียรสถาน |
๖๔๓ พระฟังเสาวนีย์ | |
ไพรเพราะมีศรี | ตรัสมีโองการ |
เรียมฤๅหนุ่มเหน้า | หน่อเจ้าจักรพาฬ |
พรหมทัตภูบาล | ผ่านพระบูรี |
๖๔๔ เรียมชื่อโสวัต | |
หน่อนามกระษัตริย์ | ล้ำเลิศธาตรี |
ระบือฦๅเลื่อง | ทั่วเมืองบูรี |
ว่าหน่อจักรี | สมเด็จจิตรา |
๖๔๕ ชื่อเจ้าศุภลักษณ์ | |
ปรากฏยศศักดิ์ | ยวดยิ่งเทวา |
หวังจะฝากไมตรี | พี่จึงเสด็จมา |
สืบพระวงศา | เดียวด้วยเทวี |
๖๔๖ นางสนองคำไป | |
หุยน่าอายใจ | เจรจาพาที |
จะมาปนปอง | ครอบครองยักษี |
จารีตบ่มี | ตรัสนี้เพื่อใด |
๖๔๗ พระอย่ามุ่งหมาย | |
เจรจาแยบคาย | น่าอายพระทัย |
พลมารเขารู้ | เอ็นดูจอมไตร |
ชีพจักประลัย | ขอเชิญยาตรา |
๖๔๘ พระยิ้มแย้มหัว | |
เรียมฤๅจักกลัว | พลมารยักษา |
โกฏิแสนแม้นรู้ | จักกรูกันมา |
นุชเจ้าอย่าสงกา | ว่าจักเป็นไร |
๖๔๙ จงเจ้าเมตตา | |
เอ็นดูพี่รา | อย่าตัดอาลัย |
เรียมรักนงนุช | สิ้นสุดหฤทัย |
พี่จากภพไตร | นุชเจ้าได้เอ็นดู |
๖๕๐ นางฉลองภูวไนย | |
หากจักใคร่ได้ | ไม่คิดอดสู |
ใครรู้จักใคร | จักให้เอ็นดู |
พระอย่าจู่ลู่ | อุกอาจนักนา |
๖๕๑ ใครสั่งใครเสีย | |
ใครเป็นชู้เมีย | นัดแนะให้มา |
ข้าสาวเข้าเฝ้า | ฤๅเราสัญญา |
เซซังเข้ามา | หุยน่าอายใจ |
๖๕๒ พระจึ่งตรัสเล่า | |
เรียมไม่ว่าเจ้า | นัดแนะออกไป |
รู้ข่าวท้าวน้อง | เรียมต้องติดใจ |
กุศลจึ่งให้ | พานพบสบกัน |
๖๕๓ ลิ้นลมชาวใน | |
ซับชาบพระทัย | เรียมแล้วทุกอัน |
สิ่งหนึ่งสิ่งใด | นุชเจ้าได้ผ่อนผัน |
ว่ากล่าวทั้งนั้น | แต่หฤทัย |
๖๕๔ นางสนองคำท้าว | |
แกล้งกล่าวโน้มน้าว | หน้ามลตายใจ |
ลิ้นลมคมนัก | จักล่อลวงใคร |
ไว้ใจไม่ได้ | เกลือกไม่ต้องการ |
๖๕๕ อย่ามาเซ้าซี้ | |
พิไรพิรี้ | ที่นี้รำคาญ |
เชิญพระเสด็จจาก | มณเฑียรสถาน |
ลดเลี้ยวเกี้ยวพาน | น้องก็ไม่ขอฟัง |
๖๕๖ พระขานน้องรัก | |
บุญน้อยถอยศักดิ์ | เจ้าจักชิงชัง |
รู้แล้วว่าคม | ลิ้นลมชาววัง |
อุกอาจพลาดพลั้ง | ภายหลังจะรำคาญ |
๖๕๗ นุชเจ้าได้เอ็นดู | |
จักจรไม่อยู่ | จากมณเฑียรสถาน |
แปรพระพักตร์มา | ก่อนราเยาวมาลย์ |
เรียมจักแถลงสาร | นุชเจ้าแล้วจะขอลา |
๖๕๘ นางสนองภูมี | |
แยบคายชายดี | หวังจะใคร่เจรจา |
น้องนี้โฉดเขลา | โง่เง่านักนา |
บ่เชื่อบัญชา | สักกึ่งเกศี |
๖๕๙ พระอย่ามุ่งเมิล | |
ว่าจักฉุกเฉิน | พลาดพลั้งไม่มี |
กี่เมื่อจะได้ | ว่าไยเสียที |
หึยน่าบัดศรี | อายต่างจุมพล |
๖๖๐ พระขานนุชนาฏ | |
เรียมไม่เฉลียวฉลาด | คนรู้เล่ห์กล |
หยาบหยามวามวู่ | จู่ลู่เถิงบน |
พบแล้วจรดล | ใครจักว่าดี |
๖๖๑ แม้นมิสมคิด | |
ไม่กลัวความผิด | สักกึ่งเกศี |
พบแล้วเปล่าดาย | ใช่ชายชาตรี |
พระนุชเจ้ากับพี่ | วันนี้แลนา |
๖๖๒ นางจึงทูลตอบ | |
ตรัสนี้บ่ชอบ | อย่าถวิลจินดา |
ข้าเจ้าทราบสิ้น | เล่ห์ลิ้นเจรจา |
ปรานีนักหนา | หุยน่าเปล่าดาย |
๖๖๓ หมายมั่นปั้นมือ | |
ยังจะจริงจังฤๅ | หนาแน่ะใคร่อาย |
กี่วันจักได้ | ดั่งใจท้าวหมาย |
ว่าน่าใคร่อาย | ต่างพระทรงธรรม์ |
๖๖๔ พระตอบเสาวนีย์ | |
ลิ้นลมพอดี | เจ้ามาเยาะหยัน |
สบพบพานแก้ว | บุญแล้วทุกอัน |
มิได้เจ้าพลัน | นุชเจ้าอย่าสงกา |
๖๖๕ นุชเจ้าคิดสิ่งใด | |
ความเพียรเป็นใหญ่ | ได้ดังจินดา |
คือหนึ่งดังไม้ | ลนไฟหลายครา |
โน้มน้าวเข้ามา | น่าจะมิเป็นไร |
๖๖๖ นางจึ่งฉลองเล่า | |
ยักยื้อยักเหยา | น่าน้อยหฤทัย |
ถ้าใคร่ได้น้อง | ครอบครองภพไตร |
เชิญพระคืนไป | ยังพระบูรี |
๖๖๗ ขันหมากรากพลู | |
ตบแต่งมาสู่ | น้องน้อยจงดี |
ถ้าพระบิดร | อวยพรพันปี |
เห็นพระภูมี | จักได้เสนหา |
๖๖๘ พระจึ่งแถลงไข | |
ยากง่ายเป็นไฉน | จักตบแต่งมา |
เรียมอยู่แว่นแคว้น | ด้าวแดนพารา |
เกลือกพระบิดา | มิโปรดปรานี |
๖๖๙ ท้าวไม่รู้จัก | |
ว่ามียศศักดิ์ | ว่าชั่วกับดี |
เกลือกมิเมตตา | แต่งมาเสียที |
อายแก่มนตรี | จตุรงคโยธา |
๖๗๐ นางทูลสารไข | |
ยังมิทันได้ | มาเถิงบิดา |
กลัวว่าพันปี | จักมิเมตตา |
พระองค์แต่งมา | บ้างแล้วกี่ที |
๖๗๑ ทำเป็นเสปากเปล่า | |
แม้นซื่อต่อเรา | ให้บิดาภูมี |
ถ้าบิดาขัด | ตัดพระไมตรี |
จงเป็นท่วงที | เมื่อไรบ้างรา |
๖๗๒ พระสนองนุชเล่า | |
จู่ลู่สู่เจ้า | มิชอบนักนา |
เห็นจักฟุ้งเฟื่อง | ทั้งเมืองพารา |
ทราบเถิงบิดา | พระอรมารศรี |
๖๗๓ ท้าวรู้ระคาย | |
ว่าพี่ปองร้าย | สมแก้วกระษัตรีย์ |
จักให้ระวัง | ทั่วทั้งบูรี |
กี่เมื่อตัวพี่ | จักพบบุญเรือง |
๖๗๔ นางสนองภูวไนย | |
หากบิดพริ้วไป | แก้ไขเนืองเนือง |
ทำเนียมขอสู่ | ย่อมรู้ทั้งเมือง |
มิให้ฦๅเลื่อง | เพื่อเพราะสิ่งใด |
๖๗๕ เมื่อมิสู่ถาม | |
พระผู้โฉมงาม | จักคิดเป็นไฉน |
จึ่งจักได้น้อง | ครอบครองภพไตร |
เอื้อนโองการไป | ให้แจ้งคดี |
๖๗๖ พระสนองคำนาง | |
เรียมได้ไม่พราง | องค์อรเทวี |
ถ้าพระนุชอวย | ยอมด้วยไมตรี |
จักพาเจ้าหนี | ไปยังภพไตร |
๖๗๗ จึ่งจักแต่งมา | |
นบนอบบิดา | ขอโทษโพยภัย |
ตามแต่จะโปรด | สู่โทษท้าวไท |
ท้าวน้องจงได้ | ร่วมรักสมสมร |
๖๗๘ นางจึงทูลตอบ | |
ตรัสนี้แต่ชอบ | พระทัยภูธร |
ห้าวหาญรานนัก | มิมาง้องอน |
จักฟังยั้งก่อน | นะพระพันปี |
๖๗๙ ไม่ให้สู่ถาม | |
จู่ลู่วู่วาม | หวังจะพาน้องหนี |
กี่เมื่อจะอวย | ยอมด้วยพันปี |
ยิ่งยวดกว่านี้ | ยังไม่ติดตาม |
๖๘๐ พระขานหมุ่มเหน้า | |
ผู้แก่ผู้เฒ่า | จักมาสู่ถาม |
เห็นไม่ผู้ดี | จักมีเนื้อความ |
หย่าร้างกลางสนาม | เกลือกอายแก่คน |
๖๘๑ แม้นสองแต่สอง | |
เกลียวกลมสมพอง | รักกันกลางหน |
ซื่อสัตย์ตัดมิ่ง | ยวดยิ่งฝูงคน |
รักกันกลางหน | ตราบเท้าวันตาย |
๖๘๒ นางฟังภูเบศ | |
ชำเลืองพระเนตร | ยิ้มแย้มภิปราย |
เถิงจักเป็นผล | ไม่พ้นความอาย |
อดสูดูร้าย | ปากคนจะไยไพ |
๖๘๓ เสียยศเสียศักดิ์ | |
อดสูอายนัก | จักตามชายไป |
เทพามนุษย์ | ขุนครุฑจะไยไพ |
เหมือนทำกรรมให้ | แก่พระราชา |
๖๘๔ พระตอบมารศรี | |
นุชคิดดั่งนี้ | เหมือนไม่เมตตา |
บุญเจ้ากับพี่ | มีแต่ก่อนมา |
ถ้วนทุกภาษา | นุชเจ้าอย่าอาลัย |
๖๘๕ มีแต่บูราณ | |
นิทมนิทาน | ย่อมทรามหฤทัย |
ครั้นได้ร่วมรัก | ฉกลักกันไป |
ใครจักลือได้ | ความสิ่งนี้นา |
๖๘๖ นางสนองโองการ | |
ถ้าทำรำคาญ | ทราบเถิงบิดา |
จักทรงพระโกรธ | ติโทษนักหนา |
จักเป็นโกลา | ทั่วทั้งภพไตร |
๖๘๗ จักชุมพลมาร | |
อาจอุกรุกราน | เข้ามาเวียงไชย |
ถ้าท้าวได้น้อง | จักต้องโพยภัย |
ชีพจักประลัย | เพราะพระอาญา |
๖๘๘ พระยิ้มแย้มหัว | |
อรนุชเจ้าอย่ากลัว | สมเด็จบิดา |
โกฏิแสนแม้นไป | บ่ได้เจ้ามา |
นุชเจ้าอย่าสงกา | ว่าจักเป็นไร |
๖๘๙ อยู่ในนี้แล้ว | |
ปรางจะวางแก้ว | ให้แก่ท้าวไท |
สู้ตายจะตายด้วย | กว่าจะม้วยประลัย |
กี่เมื่อจะได้ | นุชแก่ขุนมาร |
๖๙๐ นางสนองภูมี | |
พระตรัสดังนี้ | เห็นมิเป็นการ |
เกิดศึกวุ่นวาย | เกลือกจักรำคาญ |
สองท้าวห้าวหาญ | ฤทธิ์เสมอกันนา |
๖๙๑ พระตอบโฉมยง | |
กิจการณรงค์ | สุดแต่บุญญา |
เรียมไม่ห้าวหาญ | ปองผลาญบิดา |
จงอวยด้วยข้า | นุชเจ้าอย่าเกียดกัน |
๖๙๒ ปลอบพลางถดเข้า | |
ยอกรกอดเจ้า | แนบทรวงทรงธรรม์ |
จูบแก้มบีบนม | ชมอรแจ่มจันทร์ |
รับมิ่งสิ่งขวัญ | พระเยาวมารศรี |
๖๙๓ ปลอบพลางโลมพลาง | |
จูบทั่วสารพางค์ | เคล้าคลึงเทวี |
พระหัตถ์ตรัสเคล้น | เล่นนมมารศรี |
นุชเจ้าเอ็นดูพี่ | บัดนี้เถิดรา |
๖๙๔ พระนุชอรไท | |
ต่อผลักต่อไส | ขึ้งโกรธโกรธา |
จักทำลามลวน | มิควรนักนา |
พระจงวางข้า | อย่าทำลวนลาม |
๖๙๕ จักมาลักลอบ | |
พระคิดเห็นชอบ | ฤๅหนาโฉมงาม |
ไม่รู้ว่าไฟ | จักไหม้วู่วาม |
อุกอาจหยาบหยาม | แก่น้องมิกลัว |
๖๙๖ พระสนองบังอร | |
ลิ้นลมหลอกหลอน | ล่อลวงพ้นตัว |
เจ้าเขียนเสือไว้ | หวังจะให้วัวกลัว |
น่าแนะใคร่หัว | ด้วยอรโฉมฉาย |
๖๙๗ เจ้าว่าจะร้อง | |
แม้เรียมจักต้อง | กว่าจะม้วยวอดวาย |
อยู่หลังคือใคร | จักได้ความอาย |
เรียมคิดมุ่งหมาย | จักปิดควันไฟ |
๖๙๘ จักให้ร้ายหมาย | |
เอิกเกริกวุ่นวาย | ตามแต่พระทัย |
ใช่เรียมจะละ | พระอรทรามวัย |
อัธยาอาศัย | นุชเจ้าได้เมตตา |
๖๙๙ นางฟังท้าวกล่าว | |
เล้าโลมโน้มน้าว | รำพึงไปมา |
น้องจักแข็งขัด | ท้าวจักโกรธา |
จักกล่าววาจา | จงเป็นไมตรี |
๗๐๐ แม้นจักใคร่ได้ | |
ล้ำเลิศแดนไตร | ดุจหนึ่งพันปี |
คิดแล้วเบี่ยงบ่าย | แยบคายกระสัตรี |
ไม่ให้ภูมี | รู้กลสายสมร |
๗๐๑ เถิงรักเท่ารัก | |
มารยาตระหนัก | จำให้วิงวอน |
พระรู้กลนาง | บ่วางบังอร |
อุ้มพระสายสมร | วางให้บรรทม ๚ะ |
ฉบัง โลมกัน
๗๐๒ บัดนั้นสมเด็จพระภูมี | เล้าโลมมารศรี |
พระน้องอย่าได้อาลัย | |
๗๐๓ ได้เถิงเพียงนี้อรไท | เจ้าขัดแข็งไว้ |
ควรฤๅเจ้าไม่อดสู | |
๗๐๔ หนักเบาน้องเจ้าคิดดู | เคล้าคลึงกันอยู่ |
เถิงเพียงนี้แล้วคิดไฉน | |
๗๐๕ นางได้ฟังคำภูวไนย | ดาลเดือดคือไฟ |
พระนุชจะใคร่เสนหา | |
๗๐๖ รำจวนป่วนปั่นนักนา | อ่อนโอนไปมา |
มารยามิให้แพร่งพราย | |
๗๐๗ พระเจ้าคลึงเคล้าโฉมฉาย | จูบทั่ววรกาย |
กระหวดก็รัดตรึงตรา | |
๗๐๘ พระกรเกี้ยวเลี้ยวกันไปมา | รัดรึงตรึงตา |
เชื้อชิดสนิทพระหฤทัย | |
๗๐๙ คิดถวิลเดือดดิ้นยลใน | กามกวนยวนใจ |
พระทัยทั้งสองเสนหา | |
๗๑๐ ฝากฝังไมตรีกันสองรา | พระทรวงพี่ยา |
แอบแนบกับทรวงมารศรี | |
๗๑๑ ลุแล้วดังคิดสองศรี | สองกระษัตริย์ยินดี |
ถ้อยทีถ้อยกล่าวปราศรัย | |
๗๑๒ นางรู้รสรักภูวไนย | รังเกียจเคียดใจ |
ละลมละลายก็หายสูญ | |
๗๑๓ นางถดเข้าชิดก็พิดทูล | เสนหาเพิ่มพูน |
เสวยกันแสงโสกา | |
๗๑๔ น้องรักจักขอสมา | ได้กล่าววาจา |
ตัดพ้อแต่หลังอันมี | |
๗๑๕ ทำเนียมจริตกระสัตรี | แรกรู้คดี |
จำกล่าวฉะนี้เดียดฉันท์ | |
๗๑๖ พระองค์จงโปรดเมียขวัญ | อย่าถือโทษทัณฑ์ |
แก่ข้าผู้เป็นบริจา | |
๗๑๗ โสวัตจึ่งตรัสฟังฉายา | มีโองการมา |
น้องท้าวผู้เป็นมเหสี | |
๗๑๘ หนักเบาเจ้าเล่าคดี | จริตกระสัตรี |
เรียมนี้ไม่ถือแก่โฉมฉาย | |
๗๑๙ ทำเนียมกระสัตรีทั้งหลาย | จำกล่าวแยบคาย |
ฉันนี้แต่บูราณมา | |
๗๒๐ นางได้ฟังคำราชา | ชื่นชมหรรษา |
ก็ทูลปิ่นเกล้าสากล[๙] | |
๗๒๑ พระองค์จงได้โปรดผม | ข้าบาทบังคม |
จะพึ่งพระโพธิสมภาร | |
๗๒๒ น้องรักขอถวายศฤงคาร | แก่ปิ่นจักรพาฬ |
สิ่งใดอย่าได้อุเบกษา | |
๗๒๓ พระฟังบังอรฉายา | มีพระบัญชา |
ตรัสแก่พระนางโฉมฉาย | |
๗๒๔ สิ่งไรเรียมไม่ให้อาย | แม้ม้วยฉิบหาย |
บ่ได้จะแวะวางหนี | |
๗๒๕ ตรัสแล้วชมแก้วกระษัตรีย์ | ผูกพันไมตรี |
ก็ตามคดีทั้งหลาย ๚ะ |
สุรางคนางค์
๗๒๖ สองกระษัตริย์เจรจา | |
แต่พลบค่ำมา | เท่าเถิงไก่ขัน |
บ่ได้บรรทม | ภิรมย์ชมกัน |
ไก่แก้วเร่งขัน | ซั้นซั้นเสียงใส |
๗๒๗ เสด็จเหนือแท่นทอง | |
รุ่งขึ้นรองรอง | สององค์หลับใหล |
นางตื้นฟื้นองค์ | ทรวงทรงภูวไนย |
พระกรท้าวไท | กอดแนบบ่คลาย |
๗๒๘ จึ่งอรเทวี | |
ยอกรภูมี | จากอกโฉมฉาย |
พระตื่นขึ้นได้ | รัดไว้ไม่คลาย |
ตรัสถามโฉมฉาย | เจ้าจะไปไหน |
๗๒๙ เห็นเรียมหลับแล้ว | |
เจ้าจักคลาดแคล้ว | จากทรวงเรียมไป |
พระนุชเจ้าจำนง | ประสงค์สิ่งไร |
เจ้าจักจรไป | จากทรวงเรียมนา |
๗๓๐ นางจึ่งก้มเกล้า | |
ข้าพระพุทธิเจ้า | ขอรับอาญา |
จะปลุกอยู่หัว | เกรงกลัวนักนา |
เพราะพระพี่ยา | พึ่งเสด็จบรรทม |
๗๓๑ น้องจักขอลา | |
พระผู้รุ่งฟ้า | เหมือนได้โปรดผม |
น้องจักยูรยาตร | เกยมาศเกรียงกรม |
แสนสาวพระสนม | เคยเฝ้าอัตรา |
๗๓๒ พระฟังเสาวนีย์ | |
ยิ้มแย้มมีศรี | ตรัสแก่ฉายา |
จึ่งเชิญยูรยาตร | เกยมาศรจนา |
เหมือนแต่ก่อนมา | อยู่ตามทำเนียม |
๗๓๓ พระนุชจักไป | |
เรียมตรอมพระทัย | อกร้อนใครจะเทียม |
อย่าได้อยู่ช้า | เหมือนเอ็นดูเรียม |
ทรวงร้อนใครจะเทียม | ดั่งเพลิงเผาผลาญ |
๗๓๔ นางจึ่งก้มเกล้า | |
ข้าพระพุทธิเจ้า | ไม่ไปอยู่นาน |
ทูลแล้วบังคม | เชยชมภูบาล |
ลินลาจากสถาน | ตระบัดคลาไคล |
๗๓๕ ศุภลักษณ์นางนาฏ | |
เสด็จเหนือเกยมาศ | ชำเลืองเนตรไป |
มีพระเสาวนีย์ | ไมตรีปราศรัย |
แสนสาวชาวใน | ถ้วนถี่ทุกประการ |
๗๓๖ ตรัสพลางยิ้มแย้ม | |
พระพักตร์จะแจ่ม | คือดังบัวบาน |
นางเถ้านางแก่ | ชาวแม่กราบกราน |
พิศโฉมนงคราญ | กราบทูลฉลอง |
๗๓๗ ทุกวันแก้มเจ้า | |
จะแจ่มบ่เศร้า | คือดั่งมะปรางทอง |
วันนี้เหตุไร | ดังข้านึกปอง |
สองแก้มเศร้าหมอง | ข้าเจ้าลานทรวง |
๗๓๘ ทุกวันนมเจ้า | |
ทั้งสองเต่งเต้า | คือดังบัวหลวง |
วันนี้นมสะน้อย | คล้อยจากพระทรวง |
ใครมาล่อลวง | ร่วมรักเสนหา |
๗๓๙ หอมผิดกลิ่นเจ้า | |
ปรากฏรสเร้า | ติดองค์ฉายา |
ฦๅท้าวตรีเนตร | แปรเพศลงมา |
ร่วมรู้เสนหา | ฉายาฤๅไหน |
๗๔๐ ศุภลักษณ์ได้ฟัง | |
คิดในใจหลัง | บ่ได้ปราศรัย |
เสาวนีย์ตรัสถาม | ถ้อยความอื่นไป |
แล้วนางอรไท | กล่าวเกลี้ยงกลฝัน |
๗๔๑ วันนี้เห็นหลากตัวกู | |
ฝันว่าพบงู | ในกลางหิมวันต์ |
เติบเท่าลำเสา | รัดเราในฝัน |
ระรัวตัวสั่น | ฝันหลากนักนา |
๗๔๒ ครั้นแล้วเราฝัน | |
เขจรผายผัน | เล่นน้ำคงคา |
จระเข้ตัวใหญ่ | ว่ายไล่เรามา |
พานพบขบข้า | ปิ้มจะม้วยบรรลัย |
๗๔๓ นางศรีวรดี | |
รู้กลเทวี | ทำนายทายถวาย |
จักตรัสได้คู่ | ร่วมรู้พิสมัย |
ล้ำเลิศแดนไตร | ครองกรุงยักษา |
๗๔๔ ขอให้แต่งเครื่อง | |
รจนารุ่งเรือง | ถวายแก่เทวา |
ประดับจงดี | วันละสามเวลา |
หวังจักบูชา | พระเคราะห์นิฤๅมล |
๗๔๕ พระเคราะห์เจ้าร้าย | |
ตรัสอย่าผันผาย | ขึ้นเฝ้ายุบล |
รักษาองค์ใว้ | แต่ในไพรชน |
สามเดือนจึ่งพ้น | พระเคราะห์ฉายา |
๗๔๖ ศุภลักษณ์เทวี | |
ทราบว่าศรีวรดี | รู้กลฉายา |
ท่านทูลนี้ชอบ | ขอบใจนักนา |
เร่งแต่งเครื่องมา | ถวายเทพในสวรรค์ |
๗๔๗ ศรีวรดีก้มเกล้า | |
กราบลานุชเหน้า | สั่งวิเสทพลัน |
เกิดเหตุคืนนี้ | นางเทวีฝัน |
แต่งเครื่องจงพลัน | จักถวายเทวา |
๗๔๘ วิเสทตบแต่ง | |
บรรณาการแกล้ง | เครื่องต้นรจนา |
เสร็จแล้วรุ่งเรือง | ยกเครื่องเข้ามา |
ทูนเหนือเกศา | ถวายอรทรามวัย |
๗๔๙ ศุภลักษณ์บุญเรือง | |
เข้ารับเอาเครื่อง | ย่างเยื้องเข้าไป |
ถวายแก่พระเจ้า | ปิ่นเกล้าภพไตร |
เชื้อเชิญท้าวไท | เสวยโภชนาหาร |
๗๕๐ พระศรีโสวัต | |
มีโองการตรัส | แก่ยอดเยาวมาลย์ |
เชิญเสวยด้วยพี่ | บัดนี้อย่านาน |
สองเสวยอาหาร | ยิ้มแย้มไปมา |
๗๕๑ เนื้อความทั้งนี้ | |
แต่ศรีวรดี | รู้กับฉายา |
จึงเอาสาคร | บวรรจนา |
ใส่น้ำเข้ามา | ให้ท้าวโสรจสรง |
๗๕๒ ตักใส่ในห้อง | |
แทบใกล้เตียงทอง | ครั้นแล้วเสด็จสรง |
นางถวายเครื่องต้น | รสคนธ์ให้ทรง |
ปรนนิบัติพระองค์ | เป็นนิตย์ทุกวัน |
๗๕๓ สองกระษัตริย์ค่อยอยู่ | |
ภิรมย์ชมคู่ | ร่วมรู้สงสาร |
ได้เจ็ดราตรี | บ่มีรำคาญ |
จึ่งพระภูบาล | ผู้เป็นอนุชา |
๗๕๔ นามชื่อจิตรี | |
น้องรักเทวี | ศุภลักษณ์ธิดา |
ท้าวไทคำนึง | เถิงพระพี่ยา |
เหตุใดมิมา | เฝ้าท้าวหลายวัน |
๗๕๕ ฤๅว่าประชวร | |
โรคามาจวน | พระต้องโทษทัณฑ์ |
โอพระพี่เจ้า | น้องเศร้าโศกศัลย์ |
จักจรไปพลัน | เยือนพระพี่ยา |
๗๕๖ คิดแล้วกุมาร | |
ทรงสร้อยสังวาล | รุ่งเรืองรจนา |
พระจึงเสด็จดล | ด้วยพลโยธา |
เถิงวังพี่ยา | ดำเนินเข้าไป |
๗๕๗ วันนั้นนางนาฏ | |
พอเสด็จเหนืออาสนิ์ | เกยมาศประไพ |
แลเห็นพระน้อง | ร้องเชิญแต่ไกล |
พ่อเจ้าไปไหน | เชิญพระเสด็จมา |
๗๕๘ เมื่อนั้นจิตรี | |
ฟังคำพระพี่ | ปราศรัยเสนหา |
พระจึงยูรยาตร | เกยมาศรจนา |
แล้วอนุชา | ปังคมโฉมฉาย |
๗๕๙ นางนึกในใจ | |
รู้เห็นเป็นไฉน | จึงมามากมาย |
ค่อยถดเข้าใกล้ | ปราศรัยแก่น้องชาย |
จูบทั่ววรกาย | รับมิ่งสิ่งขวัญ |
๗๖๐ จิตรีก้มเกล้า | |
เหตุไรพระเจ้า | ขาดเฝ้าหลายวัน |
คิดว่าประชวร | รำจวนโศกศัลย์ |
น้องจึงผายผัน | เยียนพระพี่ยา[๑๐] |
๗๖๑ นางศรีศุภลักษณ์ | |
ตรัสบอกน้องรัก | ด้วยสารเสียงใส |
พี่นิมิตฝัน | อัศจรรย์เหลือใจ |
ขึ้นเฝ้าไม่ได้ | เคราะห์ร้ายหนักหนา |
๗๖๒ จิตรีทูลตอบ | |
พระพี่ตรัสชอบ | อย่าเพ่อลินลา |
ที่ว่าเหตุการณ์ | รำคาญนักนา |
น้องจักขอลา | ขึ้นเฝ้าภูมี |
๗๖๓ นางสั่งโฉมงาม | |
ถ้าบิดาถาม | ทูลตามคดี |
อย่าให้เสด็จมา | เลยนาเจ้าพี่ |
ประชวรเพียงนี้ | จักเคืองพระทัย |
๗๖๔ พระน้องได้ฟัง | |
รับคำพี่สั่ง | บังคมลาไป |
เถิงปรางค์ปราสาท | ที่ราชบุตรไกร |
เสด็จเหนือเกยไชย | บังคมบิดา |
๗๖๕ สมเด็จพระบาท | |
เห็นโอรสราช | ตรัสถามลงมา |
ประพาสแห่งใด | สายไปหนักหนา |
เห็นผิดเวลา | กว่ามาทุกวัน[๑๑] |
๗๖๖ กุมารก้มเกล้า | |
ข้าพระพุทธิเจ้า | ไปเยียนเทวี |
พระเคราะห์กวดขัน | เพราะฝันไม่ดี |
สามเดือนพระพี่ | จึ่งจะพ้นโทษา |
๗๖๗ บิดาได้ฟัง | |
ใจจิตคิดหวัง | เถิงพระธิดา |
พ่อจักเสด็จไป | ให้เห็นแก่ตา |
พระเคราะห์ธิดา | เจ้าเป็นประการใด |
๗๖๘ กุมารก้มเกล้า | |
ขอพระองค์เจ้า | อย่าเพ่อเสด็จไป |
ประชวรเพียงนี้ | เห็นมิเป็นไร |
จักเคืองพระทัย | สมเด็จบิดา |
๗๖๙ มีโองการตอบ | |
เจ้าทูลนี้ชอบ |
(ความในเอกสารเลขที่ ๖๐๓ หมดลงเพียงนี้)
(เริ่มเอกสารเลขที่ ๖๐๔)
สุรางคนางค์
๏ นางฟังวานร | |
เจ้ายอพระกร | ข้อนทรวงครวญหา |
ค่อยอยู่เถิดนะพี่ | น้องนี้จะขอลา |
ซบเกล้าเกศา | ลงกับซากผี |
๏ นางยอกรไหว้ | |
พฤกษาต้นไม้ | เจ้าไพรพนาลี |
ขอฝากศพนาง | ไว้กลางพงพี |
ทั้งพระธรณี | มีความเมตตา |
๏ อินทร์พรหมยมไนย | |
ปู่เจ้าเขาใหญ่ | เทพในเวหา |
อันอยู่เถื่อนถ้ำ | ธารน้ำไหลมา |
จงช่วยรักษา | กว่าจะพบภูมี |
๏ ว่าแล้วอรไท | |
ครั้นลูกร้องไห้ | อุ้มทูนเกศี |
แม่มาฟื้นองค์ | เจ้าจงปรานี |
ให้พระพันปี | เสวยนมก่อนรา |
๏ เจ้าควรนิ่งได้ | |
สลัดตัดใจ | แม่ไม่เจรจา |
กราบแล้วกราบเล่า | ข้าเจ้าจะขอลา |
ยกเอาบาทา | มาทูนเกศี |
๏ แล้วเอาสไบ | |
ปกองค์ลงไว้ | ร่ำไห้แสนทวี |
อุ้มลูกน้อยมา | เหลียวหามารศรี |
โอโอะพระพี่ | มาตามน้องรา |
๏ น้องเรียกเท่าไร | |
ควรมาเน่งได้ | เจ้าไม่ระนำพา |
นางดิ้นร้องไห้ | มิใคร่จะไคลคลา |
ตระโงนเรียกหา | นางประทุมวดี |
๏ เหลียวเห็นแต่ศพ | |
นางเมืองเจ้าสลบ | ซบกับธรณี |
ครั้นฟื้นองค์ได้ | แข็งใจเจ้าเทวี |
อุ้มพระมารศรี | ซัดจรซอนไป[๑๒] |
๏ อุ้มลูกร้องไห้ | |
หนทางนางไป | อุดรทิศา |
ครั้นลูกอยากนม | ปรารมภ์นักนา |
ลูกเจ้าโศกา | แม่มาร่ำไร |
๏ โอพระผ่านเกล้า | |
ลูกน้อยของเจ้า | อยากนมเหลือใจ |
เจ้าสลัดน้องหนี | นมมีเมื่อไร |
เห็นจักจะประลัย | เที่ยงแท้แลนา |
๏ นางจึ่งธิษฐาน | |
ถ้าว่ากุมาร | ลูกของราชา |
สนิทชิดเชื้อ | น้ำเนื้อเจ้าฟ้า |
ขอน้ำนมข้า | ไหลมาทันใจ |
๏ ครั้นธิษฐานแล้ว | |
น้ำนมนางแก้ว | คือธารน้ำไหล |
ลูกน้อยเสวยนม | เชยชมกันไป |
ค่อยคลายหายไห้ | เจ้าไม่ระโศกา |
๏ อุ้มลูกซัดจร | |
เข้าดงพงดอน | ขึ้นนอนพฤกษา |
แล้วผูกเปลไกว | กิ่งไม้สาขา |
อุ้มพระลูกยา | มากล่อมให้นอน[๑๓] |
๏ แล้วเอาภูษา | |
สไบรจนา | ผูกให้มั่นคง |
แม่ลูกหลับใหล | ค่าไม้สององค์ |
ชลเนตรไหลลง | คือท่อธารา ๚ะ |
ยานี
๏ ครั้นรุ่งขึ้นรางราง | อุ้มลูกพลางนางโศกา |
ปีนป่ายร่ายลงมา | จากพฤกษาน่าสงสาร |
๏ เดินพลางนางไห้ร่ำ | สำหรับกรรมพระกุมาร |
ยากไร้ใครจะปาน | อดอาหารยากนักนา |
๏ เสวยแต่ผลไม้ | ด้นดั้นไปในหิมวา |
ธารไหลใสนักหนา | เจ้าเข้ามาอยู่อาศัย |
๏ อุ้มลูกลงสรงน้ำ | เจ้าครวญคร่ำน้ำตาไหล |
ชำระหมดเหื่อไคล | เห็นธารไหลใจจะขาดหาย |
๏ โอโอะพระเจ้าพี่ | ประทุมวดีมาวอดวาย |
ลงน้ำเล่นสบาย | เห็นปลาว่ายในชลธี |
๏ หอมดอกสัตตบงกช | น้องระทดเหมือนกลิ่นศรี |
อุบลจงกลณี | น้องหมองศรียิ่งนักนา |
๏ บัวหลวงดังนมเจ้า | คัดเต่งเต้างามโสภา |
สัตตบุษผุดขึ้นมา | ร้องไห้หาทุกราตรี |
๏ บัวขาวดังดอกแก้ม | เมื่อยิ้มแย้มงามมีศรี |
บัวผันสดในชลธี | งามมีศรีไม่ปุนปาน |
๏ กระจับเถาหัววัว | ทั้งรากบัวเป็นอาหาร |
ดอกฝักนางหักราน | ที่ชลธารท่าน้ำไหล |
๏ อุ้มลูกเจ้าเดินมา | เห็นฝูงปลามาว่ายไป |
เดารายสายน้ำไหล | นางร้องไห้เถิงฉายา |
๏ หลดหลาดว่ายมาไป | กุ้งกั้งไลทั้งเต่าปลา |
จระเข้ทั้งเหรา | เห็นฝูงปลาชลเนตรไหล |
๏ สลุมพรแลงอนไถ | เพียนทองไล่แถเข้ามา |
รำพึงเถิงฉายา | ศพพี่ยาจะเป็นฉันใด |
๏ ครั้นกูจะอยู่ช้า | เสือสีห์มาจะพาไป |
คิดพลางนางคลาไคล | อุ้มลูกได้ไปเอองค์ |
๏ นางจึ่งตั้งธิษฐาน | บุญกุมารจะสืบวงศ์ |
เดินป่าอย่าได้หลง | จงรอดพ้นพบผัวขวัญ |
๏ ครั้นเจ้าธิษฐานแล้ว | ค่อยผ่องแผ้วความโศกศัลย์ |
เจ้ามาป่าได้เจ็ดวัน | คราทีนั้นเถิงสระศรี |
๏ กูจักร้องเข้าไป | เกลือกเขาไซร้คิดปรานี |
อาศัยในสระศรี | กว่ากูนี้จะพบราชา |
๏ คิดพลางนางร้องไป | ท่านข้าไหว้ได้เมตตา |
ข้าพลัดซัดจรมา | เอ็นดูข้าขออาศัย |
๏ บัดนั้นจึ่งฉายา | เทพธิดาโฉมไฉไล |
เผยแกลแลออกไป | เห็นอรไทริมสระศรี |
๏ เอ้ยนางมาแต่ไหน | ขออาศัยนะปรานี |
เจ้าถามตามไมตรี | ท่านมานี้ไปไหนมา[๑๔] |
๏ นางจึ่งมาบอกเล่า | ตัวข้าเจ้ามาแต่ไกล |
เมตตาท่านอย่าสูญใจ | ขออาศัยได้โปรดหัว |
๏ ข้าน้อยมาตกยาก | เพราะพลัดพรากมาจากผัว |
บุกป่ามาแต่ตัว | แม่อยู่หัวโปรดเกศา |
๏ ฝ่ายว่าอรเทวี | ฟังคดีร้องออกมา |
ข้านี้จะเมตตา | จักเข้ามาด้วยกลใด |
๏ น้ำกรดล้อมวิมาน | สิ่งใดพานย่อยยับไป |
โจนลงองค์ประลัย | จักข้ามได้ยากนักนา |
๏ ศุภลักษณ์ฟังภิปราย | คิดใจหายฟายน้ำตา |
ท่านนี้มิกรุณา | จะไปหาเจ้ากลใด |
๏ นางจึ่งตั้งธิษฐาน | บุญกุมารผ่านภพไตร |
อินทราช่วยข้าไป | ให้รอดพ้นจากน้ำกรด[๑๕] |
๏ บัดเดียวสะพานแก้ว | อันเลิศแล้วผุดขึ้นมา |
นางเห็นเป็นอนิจจา | อุ้มลูกยาเจ้าเข้าไป |
๏ ครั้นเถิงพิมานแล้ว | สะพานแก้วสูญบัดใจ |
เยื้องย่างนางเข้าไป | ลดองค์ใกล้ยอดเยาวมาลย์ |
๏ จึ่งนางเทพธิดา | เห็นฉายาน่าสงสาร |
เจ้าอุ้มพระกุมาร | งามสะคราญน่าปรานี |
๏ ส่วนเจ้าทรงครรภ์แก่ | ลูกนี้แลไม่เถิงปี |
มาไยในพงพี | เล่าคดีแก่น้องรา |
๏ ศุภลักษณ์บอกถ้วนถี่ | เรื่องคดีอันมีมา |
งูเห่ามันบีฑา | พระพี่ข้าเถิงความตาย |
๏ ยังอยู่แต่ลูกน้อย | ข้าละห้อยอุ้มผันผาย |
ผัวข้ามาพรัดพราย | ถ้ามิตายจะพบกัน |
๏ ได้ฟังคำนางว่า | เทพธิดาก็โศกศัลย์ |
ว่าพลางนางรับขวัญ | อยู่ด้วยกันอย่าร้อนใจ |
๏ จะเอาเจ้าเป็นพี่ | แต่วันนี้สืบสายไป |
พบผัวเจ้าเมื่อไร | เถิงจะไปตามปัญญา |
๏ นางฟังคำภูมี[๑๖] | แม่ยินดียิ่งนักนา |
จงเจ้าเล่าพี่รา | เป็นไรมาอยู่สระศรี |
๏ จึ่งมีปราสาทเพชร | ย่อมสำเร็จด้วยมณี |
แสนสาวชาวนารี | ย่อมดีดีมีครบครัน |
๏ นางเทพธิดา | ฟังวาจาก็ตรัสพลัน |
ตัวข้ามาแต่สวรรค์ | มีครบครันด้วยบุญญา |
๏ จะเกิดในมนุษย์ | มิบริสุทธิ์เห็นเวทนา |
พู้นเกิดกำเนิดมา | ทิพโอชาเป็นอาหาร |
๏ แสนสาวชาวกำนัล | หมื่นหกพันเป็นบริวาร |
น้ำกรดล้อมวิมาน | สิงสัตว์ผ่านก็บรรลัย |
๏ ครั้นเจ้าเล่าความแล้ว | อุ้มลูกแก้วชมบัดใจ |
เอาน้ำมาลูบไล้ | ชำระให้คลายอารมณ์ |
๏ เจ้าจึ่งเอาฟูกรอง | เอาพานทองให้บรรทม |
ผวามาเสวยนม | เจ้าเชยชมทุกราตรี |
๏ แสนสาวชาวกำนัล | ชักชวนกันเลี้ยงภูมี |
กินทิพย์ทุกราตรี | เล่นมากมีที่วิมาน |
๏ ศุภลักษณ์ฟังเทวี | ทราบคดีทุกประการ |
โฉมยงนางนงคราญ | ค่อยสำราญบานพระทัย |
๏ คิดเถิงพระเจ้าพี่ | นางเทวีอันประลัย |
กำสรดระทดใจ | กอดลูกไห้ไม่วายวัน |
๏ เป็นทุกข์เถิงผัวแก้ว | ช้านานแล้วไม่พบกัน |
ยิ่งโรคเจ้าโศกศัลย์ | เห็นหน้ากันกับลูกชาย |
๏ อยู่ด้วยเทพธิดา | เจ้าเมตตาเลี้ยงสืบสาย |
โพยภัยไม่ได้กราย | เจ้าค่อยคลายวายเดือดร้อน |
๏ ฝ่ายนางมีใจรัก | เลี้ยงศุภลักษณ์พี่อุทร |
ค่ำเข้าเจ้าหลับนอน | ร่วมฟูกหมอนทั้งสองรา |
๏ รุ่งเช้าอุ้มโอรส | ชำระหมดมุลทินสา |
กล่อมไกวให้นิทรา | สาวศรีมาขับรำถวาย ๚ะ |
ช้าลูกให้นอน
๏ บรรทมเถิดนาพระบาท | โอรสราชอย่าปรารมภ์ |
ไห้ไยไม่บรรทม | พ่อปรารมภ์เถิงสิ่งใด |
๏ เอ็นดูพระเนื้อน้อย | อย่าละห้อยน้อยพระทัย |
เศร้าสร้อยคอยหาใคร | เจ้าจึ่งไม่ได้นิทรา |
๏ ปรานีเจ้าเนื้ออ่อน | เจ้าจะอ้อนพระมารดา |
พงศ์เผ่าเราแลนา | ไม่มีราพระพันปี |
๏ บรรทมเถิดนะเนื้อละเอียด | อย่าขึ้งเคียดพระชนนี |
ยายตาเจ้าไม่มี | น่าปรานีเจ้านักนา |
๏ โอโอะเจ้าเนื้อเย็น | เห็นแต่เล่นไม่นิทรา |
ทูลกระหม่อมแก่ข้าอา | พระมารดามาปราศรัย |
๏ โอโอะพระเนื้ออุ่น | เจ้าพระคุณนี้นอนไป |
ผ่านฟ้ามาประลัย | เจ้าไม่ได้เห็นมารดา |
๏ ทูลกระหม่อมแก่ข้าเอย | อย่าสะอื้นเลยเถิงฉายา |
ท้าวไปไม่เห็นมา | เป็นกำพร้าทั้งบิดร |
๏ บรรทมเถิดนะพ่อเจ้า | ผู้ผ่านเกล้าอย่าวิงวอน |
มารดาเจ้าม้วยมรณ์ | พระบิดรจากแม่ไป |
๏ ค่อยกล่อมแล้วช้านาน | พระกุมารเจ้าหลับใหล |
ครั้นฟื้นตื่นเมื่อไร | ป้อนข้าวให้ทุกราตรี |
๏ น้ำทิพย์มาสระสรง | ชำระองค์หมดราคี |
กินทิพย์ทุกราตรี | เจ้าไม่มีซึ่งโรคา ๚ะ |
สุรางคนางค์
๏ ยังมีพระบาท | |
ชื่อท้าวมัททราช | ครองกรุงไพศาล |
ฝูงเทพดลใจ | จำให้บันดาล |
จะใคร่ไปเล่นสถาน | ล่าเนื้อในใพร |
๏ คิดแล้วภูมี | |
สั่งมุขมนตรี | เสนีบัดใจ |
ให้เตรียมรี้พล | สกลนอกใน |
ขึ้นคชสารใหญ่ | ท้าวไทลินลา |
๏ แห่ห้อมอึงอัด | |
รี้พลเป็นขนัด | ถัดนั้นออกมา |
จีนจามลาวขอม | เมงมอญละมา |
ล่าเนื้อกลางป่า | มาหลายราตรี |
๏ ทางสามเดือนปลาย | |
เทวดาทั้งหลาย | มาช่วยปรานี |
หย่อนหยัดทางให้ | ท้าวไทธิบดี |
มาสามราตรี | เถิงที่อรไท |
๏ สมเด็จภูเบศ | |
เธอทอดพระเนตร | เห็นอรทรามวัย |
มนุษย์ฤๅยักษี | ฤๅผีในไพร |
นอนใต้ต้นไม้ | หลากใจนักนา |
๏ ฤๅว่าคนตาย | |
มหาดเล็กเด็กใช้ | ผันผายเร็วรา |
หญิงชายให้รู้ | สูดูแลมา |
เห็นแต่ภูษา | กูหนามาหลากใจ |
๏ มหาดเล็กได้ฟัง | |
วิ่งมาละล้าละลัง | สรังเถิงอรไท |
พิศดูถ้วนถี่ | งามดีเหลือใจ |
เหตุการณ์เป็นไฉน | จึ่งมามรณา |
๏ เห็นเขี้ยวงูเห่า | |
ที่รอยนิ้วเท้า | เขาแล่นกลับมา |
ทูลแก่พระบาท | มัททราชราชา |
นางม้วยมรณา | ในป่าไพรสณฑ์ |
๏ เห็นรอยงูขบ | |
นางหากสลบ | มิม้วยวายชนม์ |
รูปร่างประเสริฐ | ล้ำเลิศสากล |
ชะรอยเทพมน | แต่สวรรค์ลงมา |
๏ สมเด็จภูมี | |
ได้ฟังคดี | ภิรมย์หรรษา |
พระเสด็จจากช้าง | เยื้องย่างเข้ามา |
เถิงองค์ฉายา | ท้าวมาแลดู |
๏ พิศถ้วนพิศถี่ | |
ดีร้ายตรงนี้ | จะมีปล่องงู |
ชะรอยลูกท้าว | ด้าวแดนชมพู |
เห็นเป็นเอ็นดู | ตายอยู่เอกา |
๏ ให้หาหมองู | |
เข้ามาพรั่งพรู | สูเร่งเร็วรา |
รางวัลจะให้ | เถิงใจนักนา |
ถ้ามิรอดมา | จะฆ่าให้ตาย |
๏ หมองูกรูเข้า | |
รอบองค์นงเยาว์ | ปัดเป่าวุ่นไป |
ฝนยากรอกเข้า | นวลเจ้าค่อยคลาย |
จึ่งตื่นฟื้นกาย | ขึ้นมาบัดดล |
๏ เหลือบหาศุภลักษณ์ | |
กับพระลูกรัก | ทั่วทุกแห่งหน |
เห็นแสนเสนี | มนตรีรี้พล |
ไม่เห็นลูกตน | สนเท่ห์พระทัย |
๏ สมเด็จภูบาล | |
จึ่งมีโองการ | ถามนางอรไท |
ข้ามาแต่กี้ | ไม่มีผู้ใด |
เห็นแต่เจ้าไซร้ | มาม้วยเป็นผี |
๏ ข้าไปแลดู | |
จึ่งรู้ว่างู | ขบเจ้าเทวี |
ปัดเป่าเป็นครู่ | จึ่งรู้สมปฤดี |
มาในพงพี | บัดนี้เพื่อใด |
๏ นางจึ่งทูลเล่า | |
ข้าพระพุทธิเจ้า | พลัดผัวมาไกล |
คลอดพระลูกชาย | งูร้ายจังไร |
ขบข้าให้ตาย | มอดม้วยวายชนม์ |
๏ ศุภลักษณ์เมียน้อย | |
กับลูกกระจ้อย | หายทั้งสองคน |
คุณบุญท่านช่วย | มิม้วยวายชนม์ |
ขอลาจุมพล | ค้นหาแลดู |
๏ ท้าวห้ามอรไท | |
ฟังข้าอย่าไป | ไม่สิ้นพิษงู |
ท้าวสั่งเสนา | ให้ค้นหาดู |
ลูกนางโฉมตรู | หลงอยู่แห่งใด |
๏ เสนีรี้พล | |
ชวนกันเข้าด้น | .................... |
ไม่สบพบพาน | บัดเดียวกลับไป |
แล่นมาทูลไข | อรไทกระษัตรีย์[๑๗] |
๏ ฝ่ายนางเทวี | |
ได้ฟังคดี | มิพบลูกยา |
ตระหนกตกใจ | แล่นไปค้นหา |
มองทุกหย่อมหญ้า | เรียกหาลูกตน |
๏ เรียกศรีศุภลักษณ์ | |
กับพระลูกรัก | แม่ตายวายชนม์ |
ไห้พลางเรียกพลาง | ที่กลางไพรสณฑ์ |
เที่ยวทุกตำบล | เข้าค้นแลดู |
๏ ศุภลักษณ์นางแก้ว | |
พี่นี้รอดแล้ว | ไม่ตายด้วยงู |
พาลูกไปไหน | แม่ไม่เอ็นดู |
ให้พี่เที่ยวอยู่ | ไม่รู้แห่งหา |
๏ เที่ยวพลางเรียกพลาง | |
ตีทรวงผางผาง | นางฟายน้ำตา |
ทอดองค์ครวญไห้ | ตกใจนักนา |
กลิ้งเกลือกไปมา | กับพระธรณี |
๏ โอพระลูกน้อย | |
แม่มาละห้อย | เศร้าสร้อยแสนทวี |
ฤๅหนึ่งลูกชาย | มาตายเป็นผี |
ฤๅหนึ่งเสือสีห์ | พาแก้วแม่ไป |
๏ โอศรีศุภลักษณ์ | |
พาพระลูกรัก | จักไปแห่งใด |
ฤพบเสือสาง | ที่กลางพงไพร |
พานพบขบได้ | ไปเป็นอาหาร |
๏ แม้อุ้มท้องมา | |
ทุกข์พ้นล้นฟ้า | เห็นน่าสงสาร |
ครั้งหนึ่งปิ้มจะม้วย | ตายด้วยนายพราน |
เดชะสมภาร | แม่มารอดตัว |
๏ พบนายเภตรา | |
มันทำหยาบช้า | ข้าจักเป็นผัว |
ลงสัดจองหนี | แม่นี้รอดตัว |
คิดแต่อยู่หัว | เมื่ออยู่ในครรภ์ |
๏ พบศรีศุภลักษณ์ | |
ครั้นรู้สมัคร | ได้เป็นเพื่อนกัน |
ครั้นจึ่งน้องรอด | คลอดเจ้าจากครรภ์ |
ค่อยคลายโศกศัลย์ | เถิงพระบิดา |
๏ แม่มาคิดเสียดาย | |
ลูกน้อยเป็นชาย | โฉมเฉิดโสภา |
แม่เชยชมเจ้า | ทูนเกล้าเกศา |
เป็นอนิจจา | เจ้ามาหายไป |
๏ ทุกข์เถิงผัวแก้ว | |
ครั้นคลอดลูกแล้ว | ค่อยวายร่ำไร |
พบศรีศุภลักษณ์ | ซื่อนักเหลือใจ |
มีกรรมจำให้ | มาไกลจากกัน |
๏ ไม่รู้ที่จะคิด | |
กลุ้มกลัดขัดจิต | จะม้วยอาสัญ |
นมเร่งคัดเต่ง | เคร่งกว่าทุกวัน |
พระลูกจอมขวัญ | มิได้เสวย[๑๘] |
๏ งูเห่าเจ้ากรรม | |
มันแกล้งแสร้งทำ | จำพลัดมารศรี |
ตีอกชกเกล้า | พ่อเจ้าควรหนี |
เป็นตายร้ายดี | แม่มิรู้เลย |
๏ ล้มแล้วลุกขึ้น | |
ร้องไห้สะอื้น | เรียกหาทรามเชย |
ศุภลักษณ์น้องข้า | ไม่ระมาเห็นเลย |
โอแก้วพี่เอย | เจ้าไปแห่งใด |
๏ ไห้ร่ำคร่ำครวญ | |
กำสรดกำสรวล | รำจวนพระทัย |
ตีอกชกเกล้า | นวลเจ้าร่ำไร |
โอโอะโหยไห้ | ไม่ระพบลูกชาย |
๏ เหลียวซ้ายย้ายขวา | |
ไม่ระมาเห็นหน้า | แม่น่าใจหาย |
ปิ้มใจจะขาด | กลิ้งเกลือกเสือกตาย |
เจ้าไม่ฟื้นกาย | กลิ้งกับธรณี |
๏ สมเด็จภูบาล | |
เห็นยอดเยาวมาลย์ | ไม่รู้สมปฤดี |
ชูเกศใส่ตัก | ลูบพักตร์มารศรี |
เจ้าทำฉันนี้ | น่าที่จะวอดวาย |
๏ ค่อยอยู่ค่อยไป | |
ถ้าสมภารให้ | จะได้พบกัน |
เจ้าอย่าร้องไห้ | ร่ำไรโศกศัลย์ |
เชิญเจ้าผายผัน | เข้าไปพารา |
๏ นางค่อยฟื้นตัว | |
ฟังคำอยู่หัว | ค่อยตอบบ่ช้า |
เข้าไปไม่ได้ | ที่ในพารา |
ข้าน้อยขอลา | เที่ยวหาลูกชาย |
๏ ฟังข้าอย่าไป | |
ชีวิตเจ้าไซร้ | จะม้วยฉิบหาย |
เชิญเจ้าไปวัง | ยังจะได้สบาย |
จักเสกโฉมฉาย | ให้เป็นมเหสี |
๏ ตรัสนี้ใส่เกล้า | |
ข้าพระพุทธิเจ้า | ลูกเต้าผัวมี |
ครั้งหนึ่งพรานป่า | มันพาข้าหนี |
ข้าไม่ไยดี | จึ่งซัดจรมา |
๏ เถิงผัวมีอยู่ | |
เป็นตายไม่รู้ | สักกึ่งเกศา |
ยิงยอมด้วยพี่ | จักดีนักนา |
อยู่เอื้อมมือข้า | อย่าว่าไปเลย[๑๙] |
๏ ตรัสคิดดังนี้ | |
ข้าบาทบทศรี | จักกลั้นใจตาย |
เชิญเป็นบิดา | สัญญาสืบไป |
ทูลท้าวมากมาย | ใส่เกล้าเกศี |
๏ ท้าวฟังวาจา | |
เชิญเป็นธิดา | ตามอรเทวี |
ถ้าข้าคิดร้าย | มุ่งหมายมิดี |
ไฟอพิจี | บัดนี้เผาผลาญ |
๏ นางทูลตอบมา | |
ขอเป็นธิดา | พึ่งโพธิสมภาร |
ท้าวเป็นบิดา | ตรัสมาโปรดปราน |
ถ้าข้าสามานย์ | ตกมหาอวิจี |
๏ ได้ฟังธิดา | |
สมเด็จราชา | ชื่นชมยินดี |
ฟังพ่อเถิดนะเจ้า | เชิญเข้าบูรี |
อยู่ไปใช่ที่ | จะพบลูกยา |
๏ นางจึ่งทูลเล่า | |
ตามแต่พ่อเจ้า | เสด็จเข้าพารา |
เหลือบเห็นวานร | วิงวอนถามหา |
ยังเห็นลูกข้า | บ้างฤๅเป็นไฉน |
๏ นางศรีศุภลักษณ์ | |
กับพระลูกรัก | มาสูญหายไป |
เป็นตายไม่รู้ | เห็นอยู่แห่งใด |
ฤๅสั่งเสียไว้ | กลใดบ้างรา |
๏ จึ่งท้าววานร | |
ฟังคำบังอร | ร้องบอกลงมา |
นางว่าเจ้าตาย | นางฟายน้ำตา |
สั่งว่าราชา | มาให้ตามไป |
๏ ไปแต่วันนี้ | |
เมื่อรุ่งราตรี | เทวีร่ำไร |
เจ้าอุ้มลูกน้อย | ละห้อยเดินไป |
ทางไกลกว่าไกล | เจ้าไม่ระตามทัน |
๏ นางฟังวานร | |
บอกข่าวบังอร | ร้อนโรคโศกศัลย์ |
ถ้าว่าโสวัต | ตรัสตามมาทัน |
ให้จงไปพลัน | เถิงในพารา |
๏ ว่าท้าวมัททราช | |
พาข้าพระบาท | เข้าไปพารา |
ถ้าศรีศุภลักษณ์ | น้องรักตามมา |
ให้ไปหาข้า | เถิงพระบูรี |
๏ พานรรับคำ | |
แม่อย่าไห้ร่ำ | จักทูลภูมี |
นางกับลูกยา | จักมาผิดที |
พึ่งไปวันนี้ | มิใคร่จะไป |
๏ ไปแล้วกลับมา | |
หลายครั้งหลายครา | น้ำตาลามไหล |
ครั้นลูกอยากนม | ปรารมภ์พ้นใจ |
กอดลูกเข้าไว้ | ร้องไห้ไปพลาง |
๏ นางได้ฟังข่าว | |
อกร้อนผะผ่าว | รำจวนครวญคราง |
ตีทรวงกำสรด | ระทดเถิงนาง |
ป่าดงพงกว้าง | นางก็ไปแห่งใด |
๏ เจ้ารักลำบาก | |
ตกไร้ได้ยาก | จะเห็นหน้าใคร |
เสือสีห์แรดช้าง | ที่กลางพงไพร |
จะเบียดเบียนให้ | เจ้าไซร้มรณา |
๏ แม่ลูกสองคน | |
ระเหระหน | เป็นพ้นปัญญา |
สุดรู้สุดฤทธิ์ | |
ฯลฯ | |
(ฉบับขาด) | |
๏ เห็นพิมานแก้ว | |
เรียงรายพรายแพร้ว | แสงแก้วรจนา |
ทำไฉนจักได้ | นางไท้ธิดา |
พี่ม้าอาชา | จักคิดกลใด[๒๐] |
๏ จึ่งม้าอาชาไนย | |
ทูลแก่จอมไตร | โสวัตราชา |
มาเราจะข้ามไป | น้ำไหลไคลคลา |
ให้เถิงมหา | ปราสาททรามวัย |
๏ จึ่งพระราชา | |
เสด็จเหนือหลังม้า | อาชาพาไป |
เธอข้ามน้ำกรด | เถิงมณเฑียรใน |
จึ่งพระจอมไตร | ลงยังศาลา[๒๑] |
๏ แลทุกแห่งหน | |
ไม่รู้ตำบล | ที่ช่องพระดาน |
จะทำฉันใด | ไปเถิงพิมาน |
มณเฑียรสถาน | พิมานไพรชน[๒๒] |
๏ เป็นฉงนจนใจ | |
เหลือบแลแปรไป | ทวีปวิมาน |
บเห็นผู้คน | ที่จะได้ไถ่ถาม |
ไม่รู้เนื้อความ | คิดอ่านสืบไป |
๏ เห็นเป็นพ้นตัว | |
น้องน้อยคิดกลัว | เกลือกตัวจะบรรลัย |
อยู่ไยนะพี่ม้า | จะพากันไป |
ที่ไหนจะได้ | ไปไยให้ป่วยการ |
๏ พาชีจึ่งว่า | |
ไปเปล่าเล่านา | ฝ่ายพระญาคชสาร |
เข้าไปให้รอด | ชั้นยอดวิมาน |
จะช่วยคิดอ่าน | ท่านท้าวจงไป |
๏ เคาะไพชยนต์แก้ว | |
ในประตูรู้แล้ว | จะเบิกเผยผาย |
อย่ามาเกรงกลัว | พลัดตัวเข้าไป |
จักกุมใครได้ | อย่าไว้เลยนา |
๏ อย่ามาหลงใหล | |
เข้าไปให้ได้ | เถิงอรฉายา |
เจรจาพาที | จงดีนะพระอา |
อย่าทำหยาบช้า | ยื้อคร่ามิดี |
๏ ค่อยพลอดค่อยไป | |
พอรู้น้ำใจ | ให้เห็นท่วงที |
ข้าสาวชาวฟ้า | หยาบช้าไม่ดี |
อ้อนวอนท่วงที | จงมีเสนหา |
๏ เขากล้าเขาคม | |
เห็นลิ้นเห็นลม | คารมเจรจา |
แก้ไขให้ดี | ท่วงทีข้างหน้า |
พอว่าจึ่งว่า | อย่าให้เคืองใจ |
๏ เถิงรักเท่ารัก | |
ลามลวนด่วนนัก | จักเคืองพระทัย |
วามวู่จู่คร่า | เครื่องมาขัดใจ |
ค่อยมาค่อยไป | จักได้เสนหา |
๏ เราว่าเราดี | |
เล่นชู้เพียงนี้ | อย่ามีนินทา |
ว่าไรให้รวย | ตายด้วยวาจา |
ยืดไปเบื้องหน้า | จึ่งว่าเราดี |
๏ คนจนผู้หญิง | |
อายเสียยับจริง | แพ้หญิงบัดศรี |
จำคำไห้ได้ | เข้าไปจงดี |
ช้านักเจ้าพี่ | จะจวนเวลา |
๏ ท้าวฟังพาชี | |
ชื่นชมยินดี | จึ่งมีวาจา |
เหตุการณ์จึ่งร้อง | ช่วยน้องด้วยรา |
สั่งพลางย่างมา | จากม้ามโนมัย |
๏ เที่ยวทุกศาลา | |
มองดูช่องฝา | เวียนมาเวียนไป |
เถิงยามเป่าสังข์ | ดุจดังวังใน |
จะเข้ากระไร | จักได้นวลนาง ๚ะ |
ยานี
๏ จึ่งเกล้าชาวกำนัล | ชักชวนกันสีทนต์พลาง |
เป่าปี่ดีดจับบ้าง | มาขรมครื้นอยู่มากมี |
๏ ลางนางตีโทนทับ | ลางนางขับมโหรี |
บ้างดีดกระจับปี่ | เขนขานศรีเป่าปี่ไป |
๏ ลางนางตีโหระทึก | เสียงโครมครึกร้องก้องไป |
แซ่เซ็งระเบ็งใน | กล่อมนางไทเทพธิดา |
๏ ลางนางบ้างรำฟ้อน | เป็นกินนรร่อนเวหา |
รำเองเพลงชวา | บ้างรำร่าเป็นเพลงไทย |
๏ เสียงแตรเซ็งแซ่เป่า | ถ้วนยามเล่าประโคมไป |
เถิงทุ่มกลุ้มกลองไชย | แซ่เซ็งไปสั่วสระสรง |
๏ นกหกบินเวหา | ฟังเสภามาพิศวง |
หยุดถาราปีกลง | ให้งวยงงได้แสนทวี |
๏ สัตว์สิงวิ่งในไพร | ได้ยินไปให้ยินดี |
เวียนอยู่รอบสระศรี | มามากมีเงี่ยหูฟัง |
๏ เหตุมามาเข้าเฝ้า | ได้ยินเล่ามาเสริดสรัง |
เป็นครู่อยู่คอยฟัง | หยัดยื้อบังดังหลงใหล |
๏ โสวัตได้ยินมา | เพราะนักหนาจะขาดใจ |
ปิ้มปานสลบไป | อยู่ไม่ได้กับศาลา |
๏ เข้าไปใกล้ไพชยนต์ | ฟังเสียงคนเขาเจรจา |
กอกกอกเคาะริมฝา | เผยรับข้าด้วยเป็นไร |
๏ บัดนั้นในประตู | เผยออกดูนั่นเสียงใคร |
เยี่ยมหน้ามาบัดใจ | คือว่าใครฉันนี้นา |
๏ มนุษย์ครุฑนาคี | จะว่าผีฤๅเทวา |
หลากใจว่าไรนา | คร้ามขึ้นมาลับเข้าไป |
๏ โสวัตตรัสวิ่งเข้า | ครั้นเถิงเจ้าหับบานไชย |
กอดนาฏสนัดใจ | เจ้านิ่งไปอย่าเจรจา |
๏ สมสุขเธอคลึงเคล้า | เล้าโลมเจ้าผู้ฉายา |
เจ้าบอกแก่พี่รา | เทพธิดาอยู่ห้องไหน |
๏ นางบอกแก่ภูมี | ว่าเทวีอยู่ชั้นใน |
เจ็ดชั้นอันตราไตร | จึ่งจะได้เห็นฉายา |
๏ หลังม่านมีทวาร | ทั้งเจ็ดชั้นมั่นตรึงตรา |
ท้าวเธอเสด็จยาตรา | นางฉายาเจ้าอยู่ห้องใน |
๏ ปราสาทอันโสภา | แลมุกดาวิฑูรย์ใส |
เก้าแก้วประดับไป | รุ่งเรืองในทิพพิมาน |
๏ พระฟังคำนางว่า | ท้าวลินลายังสถาน |
จรมาได้ช้านาน | เข้าไปได้ดั่งจินดา |
๏ พระเล้าโลมพิศวาส | ด้วยนางนาฏอันรักษา |
ทวารนั้นตรึงตรา | พี่สุขเกษมเปรมปรีดี |
๏ คลึงเคล้าเจ้าบ่วาง | พิศพักตร์พลางจูบเกศี |
ทุกชั้นทวารอันมี | นารีนาฏอันรักษา |
๏ เล้าโลมด้วยพิศวาส | ด้วยน้องนาฏอรฉายา |
คือทองมาทาบทา | พระราชามาสมสอง |
๏ แล้วจึ่งเสด็จยูรยาตร | เถิงทวารมาศดังสมพอง |
ท้าวลุดั่งใจปอง | เคยสมสองด้วยมารศรี |
๏ พิมานทั้งเจ็ดชั้น | อันกางกั้นอรเทวี |
พรายเพริศประเสริฐมี | พรรณประภาคย์มีหลากหลาย |
๏ มีหมู่นางนารี | เป็นสาวศรีอันเพริศพราย |
ทรงผ้าลายกิ่งไม้ | นางโฉมฉายงามมีศรี |
๏ เรียงรายพรายเพริศพรรณ | โฉมนางนั้นงามมีศรี |
ละอองเนื้อทองดี | งามศรีแจ่มใครจะปาน |
๏ ลางนางห่มสะพัก | ทรงผ้าปักเป็นเครือวัลย์ |
โฉมเฉิดฉิมรำพัน | นางองค์นั้นใครปานเลย |
๏ ค่อมเค้าเฝ้าตีนม่าน | มาทัดทานเป็นมากหลาย |
ฉันนี้จะทำวุ่นวาย | จึ่งจู่ลู่มาเถิงใน |
๏ ว่าครุฑฤๅยักษา | มนุษย์มาแต่แห่งใด |
ดูหลากแก่หัวใจ | แต่ก่อนไซร้บ่ห่อนเห็น |
๏ ฤๅหนึ่งว่ายักษี | ฤๅนาคีมาทำเข็ญ |
แต่ก่อนบ่ห่อนเป็น | ดังนี้แลกูหลากใจ |
๏ ออกไปอย่าให้อยู่ | พิศเพียรดูตูข้าไย |
ตัวเจ้ามาแต่ไหน | จึ่งมาทำให้วุ่นวาย |
๏ เรียกเพื่อนมาหน้ารับ | มาจะจับพระโฉมฉาย |
ใครหนอมาทำวุ่นวาย | ผิดชาวเรานะเพื่อนอา |
๏ จักซัดลงน้ำกรด | ให้สาหสทั่วกายา |
ให้ม้วยสิ้นชีวา | ชีวิตเจ้าจะเป็นไฉน |
๏ โสวัตตรัสบ่ช้า | เบือนดูหน้านะทรามวัย |
เอาไว้เป็นเพื่อนไท | ไปเมื่อหน้าจะแทนคุณ |
๏ ข้าไซร้ไม่ได้รู้ | จึ่งจูลู่มาเถิงปุน |
จงเจ้ามามีคุณ | แก่พี่เถิดนะมารศรี |
๏ พี่ไซร้มาใกล้องค์ | จะใคร่ได้อรเทวี |
เป็นเพื่อนเรือนพาที | เอ็นดูพี่อย่าวุ่นวาย |
๏ จึ่งนางอรฉายา | เทพธิดาผู้ฦๅสาย |
อยู่ไหนนะโฉมฉาย | จงบอกไห้เรารู้รา |
๏ เรียมจักฝากไมตรี | ด้วยมารศรีผู้โสภา |
เจ้าบอกแก่พี่รา | อย่าพรางช้านะทรามวัย |
๏ เรียมไซร้ขอฝากรัก | ด้วยนางนาฏผู้ทรามวัย |
จงเจ้าเล่าพี่ไป | พี่จักได้ร่วมรดี |
๏ ด้วยนางผู้กลอยสวาดิ | ข้านี้นาถกระษัตรีย์ |
เรียมจักมาร่วมมารศรี | สมสมรด้วยฉายา |
๏ นารีทั้งหลายกล่าว | ทูลท่านท้าวด้วยวาจา |
มาแต่แห่งใดนา | มาถามหาพระเทวี |
๏ ทังวลสิ่งอันใด | จงบอกไปให้รู้คดี |
เหตุการณ์อันใดมี | จงวาทีให้รู้รา |
๏ โสวัตจึ่งเฉลยไข | ตอบทรามวัยด้วยวาจา |
ตัวพี่นี้เสนหา | ด้วยท่านท้าวผู้ทรามเชย |
๏ จักมาร่วมทิพอาสน์ | ด้วยนางนาฏเรียบเรียงเขนย |
อยู่ด้วยนุชผู้ทรามเชย | จึ่งมาได้ประสมศรี[๒๓] |
๏ ลุลาดโดยจำนง | ช่วยประสงค์มาปกครอง |
น้องรักเจ้าปกป้อง | ประสมสองด้วยมารศรี |
๏ ศุภมาลย์จึ่งขานตอบ | กล่าวบ่ชอบด้วยท่วงที |
ดังฤๅพระเจ้าพี่ | กล่าวดั่งนี้ก็ผิดไป[๒๔] |
๏ มนุษย์แลเทวา | มาร่วมอาสน์อิงอันเดียวกัน |
ไม่มีแต่บูราณ | ร่วมรักกันฉันนี้หนา[๒๕] |
๏ โสวัตกล่าวบ่ช้า | ดีอยู่นานางนงคราญ |
กล่าวนี้ก็ผิดกัน | แต่ก่อนเก่าเจ้าพี่อา |
๏ เทวาแลมนุษย์ | สุดแต่บุญได้สร้างมา |
จะใคร่ร่วมเสนหา | ประสมสู่เป็นคู่ครอง |
๏ ประดุจท้าวอินทรา | แกล้งลงมาประสมสอง |
ด้วยนางสุชาดาปอง | เถิงต่ำใต้บาดาลดล |
๏ เทเวศร์แลอสุรี | ประเวณีอันเดียวกล |
จะกล่าวตามยุบล | พี่นี้กล่าวตามนิยาย |
๏ บ้านเมืองอรเทวี | ชะตาศรีผู้ฦๅสาย |
เกิดเป็นบุตรีหมาย | แห่งท้าวไทอสุรา |
๏ อยู่ต่ำใต้เมรุมาศ | อันคลายคลาดอาสน์รจนา |
ว่าได้ด้วยไตรตรา | สิบหกโยชน์ประมาณมี |
๏ ท้าวผู้เป็นบิดา | ให้กัลยาผู้บุตรี |
จักให้เป็นเสาวนีย์ | ให้รองบาทท้าวอสูร |
๏ ประดับประดาอาสน์ | ด้วยทัมราชแก้วพยูร |
นั่งเคียงเรียงอสูร | ท้าวจึ่งทูลแด่ฉายา |
๏ ให้รองมาลาแล้ว | จึ่งนางแก้วเที่ยวไปมา |
เมื่อนั้นพระอินทรา | นีฤมิตเป็นยักษี |
๏ นางอยู่ในอาสนะ | เป็นตรบะอันมากมี |
บัดนั้นนางมารศรี | ครั้นได้เห็นก็หรรษา ๚ะ |
สุรางคนางค์
๏ บัดนั้นพาชี | |
ฟังคำภูมี | แสร้งแกล้งร้องมา |
เหวยอีค่อมเค้า | กุมเจ้าไยนา |
พาอีแพศยา | ไม่มาควรอาย |
๏ แต่ล้วนสาวสาว | |
ไม่ดีมี่ฉาว | มากลุ้มรุมชาย |
มึงทำหน้าด้าน | กูน่าอายใจ |
อีค่อมแสนร้าย | กุมชายไว้ไย |
๏ เตี้ยค่อมพร้อมมา | |
ได้ยินม้าว่า | มิช้าก็ร้องไป |
เจ้ามึงอาจกล้า | เข้ามาเถิงใน |
กูจับกุมได้ | ว่าไยเล่านา |
๏ จักลักเอาของ | |
แก้วแหวนเงินทอง | ฤๅไรอาชา |
มึงมิมาเล่า | ให้เจ้าเข้ามา |
ด้านหน้าไม่ว่า | อ้ายม้าจังไร |
๏ พาชีโกรธา | |
อีค่อมปากกล้า | มึงด่าว่าใคร |
จักลักเอาของ | เงินทองมึงไย |
พระเจ้าเข้าไป | มีที่ปรารถนา |
๏ จักลักสิ่งนั้น | |
ของอรแจ่มจันทร์ | นางเทพธิดา |
ค่อมเค้าเล่าไซร้ | ยกไว้อาชา |
มึงควรกับม้า | ปากกล้าจงดี |
๏ นางค่อมร้องไป | |
มึงด่าว่าใคร | อ้ายม้าบัดศรี |
ชาติข้าขี้เค้า | เจรจามิดี |
ออกชื่อพาชี | ดังนี้เพื่อใด |
๏ มึงช่างร้องด่า | |
ไม่รู้จักม้า | รูปร่างเป็นไฉน |
จักลักสิ่งนั้น | สิ่งอันใดใด |
อ้ายโลนว่าไป | ให้แจ้งก่อนรา |
๏ พาชีจึ่งโกรธ | |
อีค่อมคนโหด | ด่ากูไยนา |
จักลักสิ่งนั้น | มาให้อาชา |
จะถูกตบม้า | ปากกล้าจงดี |
๏ กลุ้มกุมชายไว้ | |
มึงมากนักไซร้ | เถิงได้ไม่เสียที |
จับกูไว้ด้วย | จะช่วยภูมี |
หญิงร้ายบัดศรี | อย่างนี้มิเคยเห็น[๒๖] |
๏ นางค่อมร้องไป | |
กริ้วโกรธคือไฟ | หวั่นไหวอาตมา |
มึงมาทำเข็ญ | จะเป็นไรนา |
กูนี้มิว่า | มึงมาเคยใจ |
๏ กุมชายไว้แล้ว | |
ร้องมาแจ้วแจ้ว | มึงร้องด่าใคร |
อวดตัวว่าดี | มานี่เป็นไร |
มึงร้องอยู่ไหน | เหตุไรมิมา ๚ะ |
ฯ พระธรรมโสวัตจบบริบูรณ์แต่เท่านี้แล ท่านบาพิมภพุทธิเขียนไปนั้นหามิได้แล้ว อาตมาภาพขอนิพพานปัจจโยโหตุ ฯ
[๑] น่าจะเป็น “มีอุจมียกทุกประการ”
[๒] สัมผัสไม่ส่งกับบทต่อไป
[๓] สัมผัสไม่ส่งกับบทต่อไป
[๔] สัมผัสไม่ส่งกับบทต่อไป
[๕] สัมผัสไม่ส่งกับบทต่อไป
[๖] สัมผัสไม่ส่งกับบทต่อไป
[๗] สัมผัสไม่รับกับวรรคต้น
[๘] น่าจะเป็น “บ่เอือดคือท่อธารา”
[๙] สัมผัสไม่ส่งกับบทต่อไป
[๑๐] สัมผัสไม่ส่งกับบทต่อไป
[๑๑] สัมผัสไม่ส่งกับบทต่อไป
[๑๒] สัมผัสไม่ส่งกับบทต่อไป
[๑๓] สัมผัสไม่ส่งกับบทต่อไป
[๑๔] สัมผัสไม่ส่งกับบทต่อไป
[๑๕] สัมผัสไม่ส่งกับบทต่อไป
[๑๖] ต้นฉบับเขียนว่า “ผูมีย” น่าจะเป็น “เทวี” มากกว่า
[๑๗] สัมผัสไม่ส่งกับบทต่อไป
[๑๘] สัมผัสไม่ส่งกับบทต่อไป
[๑๙] สัมผัสไม่ส่งกับบทต่อไป
[๒๐] สัมผัสไม่ส่งกับบทต่อไป
[๒๑] สัมผัสไม่ส่งกับบทต่อไป
[๒๒] สัมผัสไม่ส่งกับบทต่อไป
[๒๓] สัมผัสไม่ส่งกับบทต่อไป
[๒๔] สัมผัสไม่ส่งกับบทต่อไป
[๒๕] สัมผัสไม่ส่งกับบทต่อไป
[๒๖] สัมผัสไม่ส่งกับบทต่อไป