ฉันทวรรณพฤติ แต่งในรัชกาลที่ ๕

ปาณาติปาโต อทิน์นาทานํ มุสาวาโท จ วุจ์จติ
ปรทารคมนัญ์เจว นัป์ปสํสัน์ติ ปัณ์ฑิตา

ภุชงคปยาตฉันท์

๑๒ จะแถลงกรรมกิเลศเหตุ ประเภทสี่สถานขาน
ประถมคือทลายผลาญ ชิวิตร์สัตว์สลัดสลาย
๏ ทุเหตุคือหทัยโลภ และลักฉ้อบเว้นวาย
ละเมิดลอบสำผัสกาย อนงค์นอกฤไทยผัว
๏ มุสาวาทะโป้ปด ละบองบทกิเลศมัว
จตุพพิธพันพัว กระวีผองบปองชม ๚
โภคัส์ส นิจ์จยํ ยัน์ติ วัม์มิโก วุปจิยติ
เอวํ โภเค สมา หุต๎วา อลมโต กุเลติหิ

หรณีฉันท์

๑๗ คุณศิริและสรรพทรัพย์บัณ ฑิตย์ถึงสสัน
นิธิหลากและหลาย  
๏ นรธิรอุส่าห์ขวนขวาย เพิ่มโภคผาย
วฒนทุกทิวา  
๏ ธนะวุฒิประดุจวัมมิกา ปลวกแสนอุสา
หสสรรพสถาน  
๏ ก็วิริยแคะคาบดินสมาน เปนจอมพิศาล
อุจมูลมหันต์  
๏ สนิจยฉนี้ปราชญ์บัณ ฑิตย์หมั่นสสรรพ์
ธนบาลพิบูลย์  
๏ คุณวุฒิก็จักเพิ่มภูล ครอบครองตระกูล
ศุขเกษมสำราญ ๚  
สุภาสิตํ อุต์ตมมาหุ เสฏ์ฐํ ธัม์มํ ภเณ ธัม์มมัน์ตํ ทุติยํ
ปิยภเณนาป์ปิยัน์ตํ ตติยํ สัจ์จํ ภเณ นาสิ กัน์ตํ จตุต์ถํ

ปิยังวทาฉันท์

๑๒ สุริยะย่อมภณะปะสา สะวาจะสาธุ์
ปะเคราะห์สุภาสิตประกาศ อุดมคุณา
๏ พจนธรรมสะหิตวาท บปราศผลา
ปิยะวะจีภณะนิรา ผรุศนิรันดร์
๏ วฒนะสัตยประสิทธิ์ บผิดบผัน
จตุพิธาพจนจำนัน นฤโทษกระลี ๚
ปัญ์ญา โลกัส๎มึ ปัช์โชตา สติ โลกัส๎มึ ชาคโร
คาโว กัม์เม สชีวานํ สิสัส์ส อิริยาปโถ

วสันตดิลกฉันท์

๑๔ ปัญญาประเสริฐดุจประทีป ประสะส่องสว่างใจ
สบสัตว์จะรู้จะวินิไฉย กิจสรรพ์เพราะปัญญา
๏ ความมั่นหไทยะสติเปน คุณเครื่องจะปลุกอา
รมณ์ให้เจริญณุอปมา ทะบหลงและเลยการ
๏ โคใช้ก็ช่วยพลผดุง ชนผู้ประกอบการ
นังคัลและคือคุณประธาน กสิกรรมเปนไป ๚
อิธ นัน์ทติ เปจ์จ นัน์ทติ กตปุญ์โญ อุภยัต์ถ นัน์ทติ
ปุญ์ญํ เม กตัน์ติ นัน์ทติ ภิย์โย นัน์ทติ สุคตึ คโต

วาณินีฉันท์

๑๖ นรและสะสมกระทำ กุศละกำ
มะไว้ณสันดาน วิวิธอเนกประการ
กะติวิจาร ณจิตรก็เปรมปรีดิ์
๏ ณอุภยะภพก็มี สำปฤดี
ณบุญบเว้นวาย สุจริตะกรรมก็หมาย
มนะบคลาย จำนงบสงไสย
๏ มละชิระบรรลุไตร ทศพิไสย
ก็ยิ่งจะเพลิดเพลิน และศุขะสวัสดิเจริญ
ธิรสระเสริญ และควรสะสมแสวง ๚
ฉัน์ทา โทสา ภยา โมหา ธัม์มํ โย นาติวัต์ตติ
อาปูรติ ตัส์ส ยโส สุก์กปัก์เขว จัน์ทิมา

สุรสสิรีฉันท์

๑๑ ใครบลุอำนาจ อคติฉกาจกรรม์
ไม่ผละละเมิดธรรม์ เพราะปิยกระมลโกรธ
๏ อิกภยะกริ่งเกรง ปรชนคุมโทษ
หนึ่งมุหเฉาโฉด จตุรวิรัติมาน
๏ จักบริบูรณ์ภูล คุณะยศะไพศาล
เฉกศศิในกาล ชุษณดิถีเถกิง ๚

พระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย)

จตุธา วิภัช์เช โภเค สเจ มิท์ธานตัน์ทติ
เอเกน โภคํ ภุญ์เชย์ย ท๎วีหิ กัม์มํ ปโยชเย
จตุต์ถัญ์จน ปาเปย์ย อาปปาสุภิรัส์สติ

อุปชาติฉันท์

๑๑ คฤหัฐจะใฝ่ปอง คฤหครองตระกูลวาร
แบ่งทรัพยสี่ฐาน ปฏิบัติสวัสดิ์คุณ
๏ สละภาคะหนึ่งจ่าย ปริโภคะเจือจุน
สองส่วนกระทำทุน ธุระเพื่อจะกำไร
๏ สองภาคะหนึ่งฝัง มนะหวังประโยชน์ไป
เบื้องน่าวิบัติไภย ธนะนั้นจะเปลื้องเข็ญ ๚
อโกเธน ชิเน โกธํ อสาธุํ สาธุนา ชิเน
ชิเน กทิริยํ ทาเนน สัจ์เจนาสิกวาทินํ

เวสสเทวีฉันท์

๑๒ ปวงปราชญ์พึงปราบผลาญ โกรธประหารด้วยบโกรธสนอง
ขจัดเสี้ยนสิ่งชั่วผอง ด้วยดำรงครองสตังธรรม์
๏ รบตนี่ให้แหลกลาญ ด้วยสละทานแจกและปูนปัน
รบสู้ผู้อาธรรม์ เท็จวจีด้วยสุสัตยา
๏ กลเศิกทั้งสี่นี้ อรรคมุนีมีนุสาสน์ภา
สิตสอนเวไนยา เพื่อประจักษ์เหตุผจญรณ ๚
มา ปมาทมนุยัญ์เชถ มัต์ตาปิ อติรัน์ธิสุ
อัป์ปมัต์โต หิ ชายัน์โต บัป์โปติ วิปุลํ สุขํ

ตนุมัชฌาฉันท์

ผู้ใดและประสงค์สำ ราญล้ำศุขะโลกีย์
เริ่มสังวรอินทรีย์ รักชาติหดำรง
๏ อย่าปล่อยสติตร่ายเตร่ ไป่ปนตและประมาทหลง
อย่ารักฤดิจำนง ในกามะทิไสยสานติ์
๏ เพราะผู้มิประมาทเผา เกลศภัศมแหลกลาญ
ดลเดียรศุขะสำราญ ไพบูลย์บมิปรวนแปร ๚
อติสีตํ อติอุณ๎หํ อติสายํ อิทํ อหุ
อิติ วิส์สัฏ์ฐกัม์มัน์เต อัต์ถา อัจ์เจนติ มาณเว

รุมมวดีฉันท์

๑๐ ทรัพย์ศิริโภคขันธ์ สรรพประโยชน์ผอง
ล่วงละทุชนปอง อ้างพจนเพี้ยนผัด
๏ ร้อนสุริโยภาษ แผดผรผ่าวจัด
หนาวพิยะภินท์อัฐิ์ อีกอดิสายัณห์
๏ อ้างพหิเหตุให้ ป่วยกิจะเปลืองอัน
สิ่งศุขะสบสรรพ์ ล่วงมะละบพบพาน ๚
เอเต อมิต์เต จัต์ตาโร อิติ วิญ์ญาย ปิณ์ฑิโต
อารกา ปริวัช์เชย์ย มัค์คํ ปฏิภยํ ยถา

รโธทธตาฉันท์

๑๐ แม้ธิรางคและประจักษ์ ณลักษณา
แห่งประเทศจตุรปา ปมิตรนฤพล
๏ พึงละสลัดทุชนพา ละอย่าระคน
ดังตริปริวัชะถนน ประกอบเฉภาะไภย
๏ ควรจะหลีกจรละหนี อรีนไกล
จักเกษมและนิฆะไกษย ลุศุขประสงค์ ๚

พระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย)

โย วารุณี อธโน อกิญ์จโน ปิปาโส ปาตุม์ปิ ปายโต
อุทกมิว อิณํ วิคาหติ อกุลํ กาหติ ขิป์ปมัต์ตโน

ปุฏะฉันท์

๑๒ นรนิรธนสิ่งสาร การบกังวล
คุณะนิคุณะบคิดขวน ขวายประโยชน์ใด
๏ นิสิทสยนกินเหล้า เมาตะพัดไป
บมิละกมละใน ศุขสุราบาน
๏ ก็จะปะพะวิณหนี้สิน สิ้นตระกูลปาน
ประดุจศิขรทิ้งธาร ถ่วงทเลจม ๚
โย ปาณภูตานิ อเหฐรัต๎วารํ ปรูปวาทา น กโรน์ติทายํ
ภีรุํ ปสํสัน์ติ นํ หิตัต์ถสูรํ ภยา หิ สัน์โต น กโรน์ติปาปํ

กุสุมวิจิตรฉันท์

๑๒ นรชนผู้ใด บมิมนะคิดเบียน
ปรชิวให้เนียร นฤศุขลำเค็ญ
๏ แลบมิกระทำบาป เพราะปรุปวาทเห็น
ณครหไภยเปน มุลและวิรัติเวร
๏ ณกิริยลามก คณะมุนิธรรมเจน
รก็สรเสริญเปน วจนะณผู้ขลาด
๏ บมิสรเสริญพาล มนะสุรหาญอาจ
อกุศลไป่ขยาด ทุจริตกอบมี
๏ ธิรชนอันสงบ ธก็ละณบาปภี
ตมณวิบากทวี อริกอุบัติอบาย
๏ สุปุริสทั้งผอง ทฤษดิแยบคาย
กิริยณํเพียรคลาย ทุจริตปหานราม ๚
ปมาทมนุยุญ์ชัน์ติ พาลา ทุม์เมธิโน ชนา
อัป์ปมาทัญ์จ เมธาวิ ธนํ เสฏ์ฐํว รัก์ขติ

สวาคตาฉันท์

๑๑ พาลชนทุพลญาณ บพิจารณ์ตรอง
กอบประมาททุกิจนอง อภิรมย์สมาน
๏ ปราชญ์ธมีกมลจิตร นฤกิจพาล
ย่อมประกอบสติพิศาล ณหทัยมี
๏ เสพยสงวนณะวะปมาท บมิทกทวี
ดุจทรัพย์อุตมศรี สุประเสริฐหลาย ๚

ขุนวิสุทธากร

นหิ เวเรน เวรานิ สัม์มัน์ติ จ กุทาจนํ
อเวเรนิธ สัม์มัน์ติ เอส ธัม์โม สนัน์ตโน

โทธกฉันท์

๑๑ เวรบมิสงบ เพราะกระทบปฏิเวรสนอง
เวรทวิจอง อทวีดุจเชื้อเพลิง
โชติ์ชวลิต และจะติดจะลุกลามเหลิง
จักทะหะเปิง อุภปักษ์ก็จะเปนจุณ
๏ แม้บมิโต้ บมิตอบเพราะตริวิบากบุญ
เวรก็จักสุญ ญสงบบมิลุกลาม ๚
เสหิ ทาเรห๎ย- สัน์ตุฏ์โฐ เวสิยาสุ ปทุส์สติ
ทุส์สติ ปรทาเรสุ ตํ ปราภวโต มุขํ

ทุตวิลัมพิดฉันท์

๑๒ ผิวบุรุษบมิสัน ตุสด้วยภรรยา
อติละโลภะณกา มฤดีระคน
๏ มนะเสาะแสวงจรหา คณิกาทุพล
นครโสภิณิยล ก็ประโลมประลอง
๏ กระทำประทุษฐ์ภิริยา ชนอื่นประคอง
จรณะเปนมุขของ นรผู้พินาศ ๚
น ตํ กัม์มํ กตํ สาธุ ยํ กัต๎วา อนุตัป์ปติ
ยัส์ส อัส์สุ มุโข โรทํ วิปากํ ปฏิเสวติ

สิขิริณีฉันท์

๑๗ บุรุษบุทคลใดทำ ณทุจริตใดกำม์
ก็ระอุตาม  
๏ มิได้เปนกำม์ดีงาม ก็จะปริเทววาม
พุสุชลนอง  
๏ ณภักตรจักเศร้าขุ่นหมอง บมิศุขทั้งสอง
อิธปรโลกย์  
๏ ณภพนี้ดาลจิตรโศก ปรภวเนื่องโอฆ
ก็อธิกทุกข์  
๏ จะเหินห่างปราศจากศุข ธิรนิรทำนุก
บมิจะประกอบ  
๏ วิบากให้เสวยผลบอบ ก็เพราะมละสละชอบ
วิรหิตเกษม ๚  
โลโภ โทโส จ โมโห จ ปุริสํ ปาปเจตสํ
หึสัน์ติ อัต์ตสัม์ภูตา ตจสารํว สัม์ผุสํ

โตฎกฉันท์

๑๒ มหะโลภและโกรธ มุหะโฉดสติหลง
อกุศลและคง ติวิธาอุปบัติ
๏ ณศรีนรใด ปิฬะใจนระสัตว์
ปริเภทกำจัด ชนนั้นนุพินาศ
๏ กลผลทุมา ตจะสาระกะชาติ
ผลิตและพิฆาฏ ทุมะนาศนฤสกนธ์ ๚

พระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย)

อุฏ์ฐานโก อนลโส อาปทาสุ น เวธติ
อัจ์ฉิท์ทวุต์ติ เมธาวี ตาทิโส ลภเต ยสํ

ปหาสินีฉันท์

๑๓ ผู้ใดมีพิริยฉกรรจ์ และขยันบยั่นงาน
เนืองนิตย์กิจกรณก็ทาน ก็ทนฤทัวเทียว
๏ ทุกข์ไภยันตรจะมหันต์ ฤขยั้นบหวั่นเสียว
ทั้งปัญญาก็อธิกเฉลียว ฉลาดณเชิงการ
๏ ที่ควรล้วนประพฤติประกอบ มิชอบมิแผ้วพาน
ผู้นี้คงลภยศะสถาน สถิตย์บเสื่อมสูญ ๚
ฉ โลกัส๎มึ ฉิท์ทานิ ยัต์ถ จิต์ตํ น ติฏ์ฐติ
อาลส๎ยัญ์จ ปมาโท จ อนุฏ์ฐานมสํยโม
นิท์ทา ตัน์ทิ จ เต ฉิท์เท สัพ์พโส นํ วิวัช์ชเย

มันทักกันตาฉันท์

๑๗ ช่องในโลกยฉัพพิธตระบยัง ตั้งบอยู่ยั้ง
กุศลใส  
๏ ความเกียจคร้านงานนรสกลไนย สองประมาทใจ
มะเมอเมา  
๏ สามไม่หมั่นลุกจรวนิชเทา สี่มโนเบา
บสำรวม  
๏ ห้านอนนานนั้นศิริก็บมิสวม คร้านณกายรวม
ฉบรรหาร  
๏ ช่องรั้วหกแห่งมนะก็บสมาน ศีลกุศลสาร
ก็รั่วโรย  
๏ ปราชญ์พึงเว้นช่องทลุปรุประฉโปรย บุญคดีโดย
จะดลเกษม ๚  
อิต์ถีธุต์โต สุราธุต์โต อัก์ขธุต์โต จ โย นโร
ลัท์ธํ ลัท์ธํ วินาเสติ ตํ ปราภวโต มุขํ

รุมมวดีฉันท์

๑๐ ผู้จระเจ้าชู้ปอง คณะสัตรี
จ่ายธนะแต่งอินทรีย์ และก็บำเรอ
๏ หนึ่งชนนักเลงเสพ ยสุราเสมอ
มากคณะมิตรชาวเกลอ สหะการพาล
๏ หนึ่งริประกอบเล่นสรร พะพนันการ
ส่ายธนะตนให้ลาญ นุพินาศไป
๏ ความธิประพฤติเปน ธุระกิตยไข
เปนมุขแห่งผู้ไกษย ธนนาศมลาย ๚
โหติ ปานสขานาม โหติ สัม์ปิยสัม์ปิโย
โย จ อัต์เถสุ ชาเตสุ สหาโย โหติ โส สขา

อินทวงสฉันท์

๑๒ กล่าวเทห์สหายพาล สหะบานบเว้นบวาย
ปากหวานสมานหมาย มนะมุ่งประจบประแจง
๏ มิตรนี้ผิใครคบ จิรกาลก็พลิกก็แพลง
หนึ่งมิตรสุมนแถลง ที่ประจักษ์ประเจิดคุณ
(ฉบับขาด)  
ใครเสพจะสบสุน ทรผลพิศาลสนอง ๚

พระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย)

จัต์ตาโร โลเก ปัช์โชตา ปัญ์จเมต์ถ น วิช์ชติ
ทิวา ตปติ อาทิจ์โจ รัต์ตึ อาภาติ จัน์ทิมา
อถ อัค์คิ ทิวารัต์ตึ ตัต์ถ ตัต์ถ ปกาสติ
สัม์พุท์โธ ตปตํ เสฏ์โฐ เอสา อาภา อนุต์ตรา

สัทธราฉันท์

๒๑ ธาตรีแสงสว่างฉาย จตุรพิธภิปราย
นับบคลาคลาย ขยั่งเกิน
๏ กลางวันดวงแดดบแผดเดิน ณคคณบภเทิน
ภักตร์ประจวบเมิน บเพ่งยล
๏ ราษตรีศรีจันทรมณฑล รุจิรณนภดล
แจ่มจำรัสหน ทิศาสรรพ์
๏ แสงเพลิงเถกิงณคืนวัน สวชคุณมหันต์
ให้สำเร็จฉัน ทสบสถาน
๏ สมเด็จสรรเพ็ชญ์พิชิตมาร อมิตชุติญาณ
สุทธสันดาน ดิเรกรัตน์
๏ แผดธรรโมภาษพิโรจน์จรัส พหลอุตมพัด
เอกอุดมสวัสดิ์ ประโชติผอง
สัท์ธา ทุติยา ปุริสัส์ส โหติ โน เจ อสัท์ธา อวติฏ์ฐติ สา
ยโส จ กิต์ติ จ ตัต์ถัส์ส โหติ สัค์คัญ์จ โส คัจ์ฉติ สรีรวิหาย

ปภัททกฉันท์

๑๕ สธหธเปรียบสหาย ปุริสชาย
ก็เหมือนประมาณ  
๏ วิจิกิฉะเปลื้องและมาน มนะวิจารณ์
ณบาปและบุญ  
๏ หฤทยแผ้วเพราะคุณ สุขุมสุน
ทรธรรมก็ทราบ  
๏ สทหก็อาจจะปราบ อสทิยภาพ
ก็สงบมี  
๏ วรยศเกียรติจะทวี เพราะมนะเปรมปรี
ดิเชื่อพระญาณ  
๏ ขณะละสะริระลาญ มรณกาล
ก็เกิดณสวรรค์ ๚  
อัก์เขหิ ทิพ์พัน์ติ สุรํ ปิวัน์ติ สัน์ติต์ถิโย ปาปสมา ปเรสํ
นิหีนเสวี รุท์ธเสวี นิหียติ กาฬปัก์เขว จัน์โท

เมฆวิปยุชชิตาฉันท์

๑๙ บุรุษผู้ฝักใฝ่สรรพวิวิธพนัน  
เล่นบเว้นวัน บเบื่อจิตร
๏ อนึ่งพึงใจเหล้าเมารติผิวก็นิตย์  
เมาบสร่างฤทธิ์ สุราบาน
๏ ประสงค์คบแต่หญิงชิงชนะปิยะก็มาน  
หาญจะชิงหาญ จะแย่งรัก
๏ สมาคมพาลเพื่อนพาทุจริตประจักษ์  
พาประมาทชัก กระทำกรรม
๏ บหมายพบบคบชอบผู้สุจริตกะทำ  
ถึงจะแนะนำ บไยดี
๏ ภนายนั้นจักเสื่อมสิ้นศุขศิริบมี  
ราวกะแรมศรี นิสากร ๚

อินทวชิรฉันท์

๑๑ ความรู้เสมอมิตร จรติดสกนธ์กาย
ลาภเลิศประเสริฐหลาย จะอุบัติบขัดแคลน
๏ หนึ่งเปนสถานเคา รวะเจ้าผดุงแดน
เปนทรัพย์วิเศษแสน วรยิ่งณโลกัย
๏ ผู้ไร้วิชาคุณ บวิจารณ์คดีใด
เฉกชาติปศุร์ใน ปฤถิพีบผิดผัน ๚

เจ้าพระยาภาสกรวงษ์

โย มาตรํ ปิตรํ วา ชิณ์ณกํ คตโยพ์พนํ
ปหุสัน์โต น ภรติ ตํ ปราภวโต มุขํ

ปมิตักขราฉันท์

๑๒ นรใดและหาญ จะปฏิการคุณสนอง
มนะหากบปอง จะอุปถัมภ์บนำพา
๏ ชนนีชนก วยะก็ตกณชรา
สริร่างก็ชิณา ทุพละคร่ำบสอาง
๏ สละเฉยบคิด ภรกิจมละวาง
กำมนี้ธิรางค์ มุขะพินาศนแถลง ๚
ปัณ์ฑิโต สีลสัม์ปันโน สัโณ๎ห จ ปฏิภาณวา
นิวาตวุต์ติ อัต์ถัท์โธ ตาทิโส ลภเต ยสํ

กมลฉันท์

๑๒ นรชาติกระวีมี ศุภสีละปัญญา
วรอรรถคาถา ผิจะฦกก็ตรึกเห็น
๏ มธุรศน้ำคำ ดุจอำมฤตย์เย็น
บกระด้างกระเดื่องเปน ชนเจียมและเสี่ยมสาร
๏ เพราะประพฤติตนต่ำ บกระทำอหังการ
บมิหึงจะพึงพาน ยศศักดิ์บพักขวน ๚
อุฏ์ฐานวโต สติมโต สุจิกัม์มัส์ส นิสัม์มการีโน
สัญ์ญตัส์ส จ ธัม์มชีวิโน อัป์ปมัต์ตัส์ส ยโสภิวัฑ์ฒติ

กุมารลฬิตาฉันท์

อนึ่งธิรบุคลมี พิรียพลไพศาล
ประกอบสติคนึงการ มิได้มนะประมาทเมิน
๏ จะเริ่มริกระทำกิตย์ใด บผลุนผละกรเหลือเกิน
พิจรณพิจยการเจริญ กุศลสุจิและจึงทำ
๏ สงวนมนะวจีกาย แลเลี้ยงชีวิตโดยสัม
มอาชิววิสุทธิธรรม จะภูลพัฒนยศทวี ๚
รูปํ ชีรติ มัจ์จานํ นามโคต์ตํ น ชีรติ
ราโค อุป์ปโถติ วุจ์จติ โลโภ ธัม์มานํ ปริปัน์โถ
วโย รัต์ติน์ทิวัก์ขโย  

หลมุขีฉันท์

รูปนรานิกรจะชำรุด ย่อมจะซุดชิรณบดำรง
นามะโคตรนรจะคง ห่อนจะแปรวิกลมิชรา
๏ ราคะปราชญ์พจนดุจทาง ผิดเพราะห่างอมฤตยคลา
โลภะเปนอริกุศลมา รานกุศลทรพสลาย
๏ ไวยคือชนมนรสิ้น เสื่อมเพราะทินะรติบมิกลาย
ราษตรีทิวสวิติวาย ชีพก็หายนขิยะนนุวัน ๚
สัท์ธีธ วิต์ตํ ปุริสัส์ส เสฏ์ฐํ ธัม์โม สุจิณ์โณ สุขมาวหาติ
สัจ์จํ หเว สาธุตรํ รสานํ ปัญ์ญาชิวี ชีวตมาหุ เสฏ์ฐํ

ลลิตาฉันท์

๑๒ ความเชื่อวิบากสุทุจริต บคิดฉงน
เปนทรัพย์ประเสริฐสกลธน บเทียมบทัด
๏ สั่งสมสะธรรมติวิธะมูล จะภูลสวัสดิ์
รศใดณโลกย์บมิสมัถ สมะสัตย์วจี
๏ เลี้ยงชีพด้วยวิจยะญาณ บดาลกระลี
นักปราชญ์ธย่อมจะคหะชี วะเสรฐสาร ๚
อัญ์ญทัต์ถุํ หโร มิต์โต โย จ มิต์โตว ธีโร
อนุป์ปิยัญ์จ โย อาห อปาเยสุ จ โย สขา

อินทวิเชียรฉันท์

๑๑ มิตรมุ่งกระมลหมาย จะประโยชน์ณฝ่ายเดียว
มิตรหนึ่งฉลาดเจียว มธุรศวจีหวาน
๏ หนึ่งเพื่อนจรุงจิตร ทุจริตทุราจาร
เบี้ยบ่อนสุราบาน บทจรณราษตรี
๏ หนึ่งมิตรประสมคล้อย พจนถ้อยสุวาที
คิดการจะร้ายดี ก็บขัดบทัดทาน ๚
สัจ์จํ เว อมตา วาจา เอส ธัม์โม สนัน์ตโน
สัจ์เจ อัต์เถ จ ธัม์เม จ อหุ สัน์โต ปติฏ์ฐิตา

ภัททิกาฉันท์

๑๑ อลิกะระหิตะสัตย์ ธจัดธหมาย
สุพจนบมิตาย บุราณภณิต
๏ วิธุระสุวิระปราชญ์ และอาจประดิษฐ
ณพจนคุณสะหิต และสัจจธรรม์
๏ ติวิธะคณะสมะยุตร วิสุทธิสรรพ์
นฤกลิธิระจำนัน นิราศอบาย ๚
อตีตํ นานุโสจัน์ติ นัป์ปตัป์ปัน์ติ นาคตํ
ปัจ์จุป์ปัน์เนน ยาเปน์ติ เตน วัณ์โณ ปสีทติ

สัททุลลวิกีฬิตฉันท์

๑๙ ไม่ทุกข์ทำมนตามณความบุรพกิจ  
ทำกายแลดวงจิตร ทุรณ
๏ เห็นทุกข์เปล่าบมิมีคุณานุศุขะผล  
ทำทุกข์ประทุกตน พิบาก
๏ ไม่มั่นหมายมนมุ่งอนาคตจะอยาก  
เหลือเหตุและหามาก ประมาณ
๏ เลี้ยงตนตามปจุบันประโยชนสมาน  
บควรและควรการ ประสงค์
๏ ท่านผู้ทรงคุณนี่ก็มีศิริสุมง  
คลเลิศและครององค์ อุดม
๏ ผ่องใสใจมละทุกข์ก็ศุขศริระสม  
ควรคือคณาพรหม ประพฤติ ๚
ฉัน์ทา โทสา ภยา โมหา โย ธัม์มํ อติวัต์ตติ
นิหียติ ตัส์ส ยโส กาฬปัก์เขว จัน์ทิมา

วังสัฏฐฉันท์

๑๒ ผู้ใดประพฤติผิด ทุจริตณไตรทวาร
เพราะฉันทอาการ รุจิจิตรและเกรงฤไทย
๏ และโทษะอาฆาฏ มลมาดประทุษฐไนย
และเพื่อสดุ้งไภย ปรชนจะชิงจะชัง
๏ ลุโมหะเคลิ้มหลง และเงอะงงก็สุ่มตรัง
จะเสื่อมจะถอยทัง ยศราวกะรัชนีแรม ๚

พระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย)

โย จ สีตัญ์จ ทัณ์ฑัญ์จ คณา ภิย์โย น มัญ์ญติ
กรํ ปุริสกิจ์จานิ โส สุขา นวิหายติ

อุเปนทวิเชียรฉันท์

๑๑ ผิใครบใฝ่อ้าง พจนข้างจะผัดงาน
บคิดสำคัญการ สิตร้อนและเช้าสาย
๏ ภิโยตฤณชาติ อปมาทฤเว้นวาย
ริรู้วิชาชาย ชำนิแบบณพาเหียร
๏ ประกอบบุรุษย์กิต ยประสิทธิ์จำเนียรเพียร
ลุศุขประมูลเมียน ธนเสพย์สถาพร ๚
ทาสกัม์มกรา เหฏ์ฐา อุท์ธํ สมณพ๎ราห๎มณา
เอตาทิเส นมัส์เสย์ย อลปัต์โต กุเลติหิ

มาณวกฉันท์

ทิศคณนา ห้าประมาณ
องค์ธิรญาณ ภาสิตไข
ทาษปริพาร ท่านวินิไฉย
ตกทิศใน เหฐสถาน
๏ ฝ่ายสมณา ปาวะนิวารณ์
พราหมณขาน ข้างอุจทิศ
แจกศุภอรรถ ฉัฎฐมพิธ
ควรจะพินิจ ทิศนะมะไนย
๏ ผู้คฤหัฐ อัดถะจะไรย
ตั้งหฤไทย น้อมนมะการ
อาจจะประดิษฐ กิจมะระฐาน
สืบกุลวาร สายกุลวงษ์ ๚

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ