วันที่ ๒๐ เมษายน พ.ศ. ๒๔๖๖ ดร

สำนักดิศกุล หัวหิน

วันที่ ๒๐ เมษายน พ.ศ. ๒๔๖๖

ทูล สมเด็จกรมพระนริศ

ลายพระหัตถ์ที่ประทานมาได้รับแล้ว หม่อมฉันกลับออกมาหัวหินก็นึกเปนห่วงถึงงานที่วังอยู่เนือง ๆ คิดเห็นข้อความขึ้นใหม่ซึ่งอยากจะทูล ก็มีอยู่บางข้อ จะถือเอาโอกาศนี้ทูลตอบข้างลายพระหัดถ์ และทูลความข้ออื่นที่หม่อมฉันคิดเห็นด้วยทีเดียว คือ

๑. ที่ทรงพระดำริห์จะให้องคเสรฐ เปนผู้นำของไปทูลเกล้าฯ ถวายนั้น เห็นจะดีกว่าวานข้าราชการในพระราชสำนัก แต่ถ้ายิ่งได้เจ้าชายดรุณ จะยิ่งดีกว่าองคเสรฐ เพราะดูเหมือนเธอจะเปนคนใกล้ เข้าในพระราชสำนักได้สดวกกว่าองคเสรฐ เพราะองคเสรฐตอนนี้ออกจะเปนชาวบ้านนอกเสียแล้ว แต่คนใดคน ๑ ใน ๒ คนนี้เปนใช้ได้

๒. วันที่ ๒๘ เมษายนเปนวันเสาร มีรถไฟเร็วลงมา รถไฟออกจากสถานีกรุงเทพฯ เวลาเช้า ๗ นาฬิกา ถึงเมืองเพ็ชรบุรีก่อน ๑๑ นาฬิกา ถ้ามีรถยนต์รับที่สถานีเมืองเพ็ชรบุรี ทางรถยนต์ไปหาดเจ้าสำราญอิกประมาณ ๕๐ นาที ถึงหาดเจ้าสำราญได้ราวเวลาเที่ยง ก่อนเวลาเสวยช้านาน รถยนต์นั้นหม่อมฉันจะว่าเจ้าเมืองให้เขาจัดไว้รับ หวังใจว่าจะสำเร็จได้

๓. เรื่องที่นึกขึ้นว่าจะทูลนั้นเรื่อง ๑ ยังให้วิตกหมกมุ่นถึงการเลี้ยงเย็นวันที่ ๒๘ หม่อมฉันนึกแน่ใจว่าเจ้านายคงจะเสด็จไปช่วยหมดทุกพระองค์ ขุนนางก็คงมีมาก เคยเห็นตัวอย่างครั้งกรมพระนราธิปฯ ทำซายิดก็ไม่บอกใครด้วยเปนเวลากำลังถูกกริ้ว ยังมีเจ้านายเสด็จไปแทบทุกพระองค์และข้าราชการซึ่งเคยอยู่ในบังคับบัญชา ฤๅชอบอัชฌาศรัยกันไม่กลัวภัย พากันไปก็มาก ที่จัดรับแขกบนตำหนักจนไม่มีที่นั่ง นึกถึงตัวอย่างมีมาดังนี้ ในถานะที่ผิดกับพระองคท่านเปนอันมาก หม่อมฉันแน่ใจว่าคงจะมีคนไปมากกว่าคาด ได้ยินสมเด็จหญิงกลาง ตรัสว่าหนังสือพิมพ์ก็ลงบอกข่าวกำหนดงานที่วังแล้ว แต่หม่อมฉันหาได้เห็นหนังสือพิมพ์ไม่ เห็นว่าข้อสำคัญนั้นไม่ใช่แต่รู้ไม่ได้ว่าใครจะไปบ้าง ซ้ำรู้ไม่ได้ว่าจะไปเวลาใดด้วย หม่อมฉันคาดว่าคงจะมีแขกตั้งแต่บ่าย ๔ โมงไปจนถึงทุ่มหรือทุ่มเศษ จะกระชั้นเวลาดินเนอรจะบอกเลิกไล่แขกก็ไม่ได้ จะตั้งโต๊ะเลี้ยงแต่ลูกหลานตามเคยดูก็จะกระไรอยู่ ใจหม่อมฉันเห็นว่าการเลี้ยงอาหารเย็นสำหรับแขกที่ไปช่วยในวันที่ ๒๘ นั้น ดูเปนการจำเปน เห็นจะหลีกเลี่ยงให้เรียบร้อยไม่ได้ ใจหม่อมฉันรักจะให้จัดเลี้ยงอย่างเรศเตอรลองตั้งโต๊ะเล็กๆ ขนาดนั่ง ๔ คน ใช้กับเข้าเย็นเปนพื้น ทำนองอย่างที่เรียกว่า เลี้ยงแบบวัดเบญจมบพิตรครั้งรัชกาลก่อน เอาเวลาเปนเกณฑ์ เลี้ยงตั้งแต่ย่ำค่ำไปจน ๒ ทุ่ม ใครไปได้เวลาก็เชิญกินทีเดียว ไม่ต้องมีสุราเมรัย จะไม่เปลืองเท่าใดนัก กับเข้ามีซุบและกับเข้าฝรั่ง ๒ สิ่ง นอกนั้นเปนกับเข้าไทยสัก ๓ หรือ ๔ สิ่ง เมื่อหม่อมฉันซายิด เคยหาหมี่ตลาดพลูมาตั้งเตาผัดเลี้ยงดูคนก็ชอบกันมาก นี่เราก็มีหมี่ท่าช้างเปนหลักอยู่ ส่วนของหวานนั้นมีไอสกริม ขนมฝรั่งสักสิ่งหนึ่ง ขนมไทยสัก ๒ สิ่งกับลูกไม้ก็พอ ถ้าทรงเห็นชอบด้วย ขอให้ตรัสกับหญิงจง ผู้คนที่จะทำเธอพอหาได้ เห็นจะไม่ลำบากมากมายหรือเปลืองปานใดนัก

๔. การเลี้ยงลูกหลานวันที่ ๒๘ นั้น หม่อมฉันเห็นว่าปีนี้งดเสียก็ได้ เพราะก็อยู่ในผู้ที่จะไปช่วยเหลือทั้งนั้น

๕. มีความคิดอิกอย่าง ๑ เกิดแต่ได้สังเกตงานที่มีแขกมาก ไม่ว่างานหลวงหรืองานราษฎร์ จำต้องจัดให้มีพนักงานรับแขก คือ พนักงานรับเจ้านาย พนักงานรับขุนนาง และที่สุดพนักงานรับแขกผู้หญิง ถ้ามีพนักงานรับการจึงจะเรียบร้อย รับตั้งแต่เขาเข้ามา พาไปสู่ที่นั่งและเชิญไปเลี้ยงดู เมื่องานซายิดที่บ้านหม่อมฉัน ได้อาศรัยพวกหม่อมเจ้าลูกหลานเปนพื้น องคเสรฐจะเหมาะแก่น่าที่นี้คน ๑ ถ้ามีหม่อมเจ้าหรือข้าราชการที่เคยทรงบังคับบัญชา แม้จนที่เปนมิตรสหายมาขอรับน่าที่ ขอจงทรงพระดำริห์ในเรื่องพนักงานรับแขก ดังทูลมา

คิด ๆ ไปมันไปเข้าสุภาสิตของเสด็จพระอุปัชฌาย์ ซึ่งดำรัสว่า “ช้างจะเข้ารูเข็มนั้นยากอยู่” แต่งานสำคัญได้เสียก็อยู่วันที่ ๒๘ ตอนเย็นวันเดียว นอกนั้นเห็นไม่พอกระไรนัก หม่อมฉันคิดเห็นดังนี้.

ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ

  1. ๑. ทรงหมายถึง พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าดรุณวัยวัฒน์ (หม่อมเจ้าดรุณวัยวัฒน์ จักรพันธุ์)

  2. ๒. ทรงหมายถึง พระเจ้าบรมวงศ์เธอ ชั้น ๔ พระองค์เจ้าวรวรรณากร กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ ต้นราชสกุล “วรวรรณ”

  3. ๓. ทรงหมายถึง สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ ชั้น ๕ เจ้าฟ้ามาลินีนพดารา

  4. ๔. สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ วัดบวรนิเวศน์

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ