บทเห่กล่อมพระบรรทม
๏ เห่เอยพระสายสวาดิ[๑] | เชื้ออภิชาติเฉลิมวงศ์ |
ขัตติยาวราพง | ศาสนิทน่าชิดชม |
๏ เหมือนบุญนำมาจำเพาะ | ประสงค์เสาะก็สบสม |
ชื่นชิดสนิทสนม | เพราะหน่วงเหนี่ยวข้องเกี่ยวกัน |
๏ เกิดตระกูลประยูรญาติ | เหมือนเทวราชรังสรรค์ |
ลินลาศล่วงจากสรวงสวรรค์ | มาเนาสุวรรณนิเวศวัง |
๏ พริ้งเพริศออกเลิศลบ | ขจรจบจังหวัดหวัง |
สำราญรมย์ประทมฟัง | ซึ่งสุรเสียงจำเรียงราย |
๏ พระอู่สำอางกระจ่างกระจก | เป็นเครือกระหนกในลวดลาย |
พระยี่ภู่ดูพรรณพราย | เพดานดาดด้วยตาดทอง |
๏ บ้างกล่าวกล่อมขึ้นพร้อมเพราะ | แสนเสนาะในทำนอง |
โดยบรรดาข้าทูลละออง | ออกเรียงรอบเป็นขอบคัน |
๏ ทุกหน้านามหม่อมห้ามแหน | ก็สุดแสนกระเษมสันต์ |
พระสุริย์วงศ์ทั้งพงศ์พันธุ์ | ก็พิศวาทเพียงขาดใจ |
๏ พระพี่เลี้ยงเข้าเคียงบาท | พระหน่อนาถชนกใน |
นางนมบังคมไข | พระสูตรสายถวายนม |
๏ พระสุริยาเวลาบ่าย | แสงแดดนายร้อนระงม |
จึงเชิญเสด็จจากที่ประทม | ไปโปรยประชำระองค์ ๚ะ |
๏ เสด็จลงสรงกระแสให้ชุ่ม | ไขประทุมทองในห้องสรง |
ระรินรื่นกลิ่นกุหลาบลงอาบองค์ | แล้วโสรจสรงพระสุคนธ์ที่ปนทอง |
พวกสาวสาวชาววังสะพรั่งพร้อม[๒] | รายแวดล้อมลูบอุระพระขนอง |
พระวงศานารินประคิ่นประคอง | ค่อยจับต้องแต่งองค์ทรงอาภรณ์ |
สอดใส่เครื่องเรืองระยับสำหรับกระษัตริย์ | ล้วนแก้วเก้าเนาวรัตน์ประภัสสร |
นาง.....ถวายกรีดกรายกร | แล้วเชิญช้อนฝ่าพระบาทให้ยาตรา ๚ะ |
ขึ้นเห่ | |
๏ ปางสำเร็จเมื่อเสร็จสรง | สถิตพระกรงอันเลขา |
ตีโทนทั่มทั้งรำมะนา | แล้วคิดขับขึ้นจับใจ ๚ะ |
พัดชา | |
๏ เชิญพระองค์ทรงประทมภิรมย์ระงับ | จะขานขับควรเคยเฉลยไข |
ยังมีจอมจักรพงศ์ผู้ทรงไชย | ชื่ออภัยมณีผู้พี่ยา |
อนุชาชื่อพระศรีสุวรรณชาติ | แสนสวาดินางฝรั่งเป็นฝั่งฝา |
สำราญรื่นชื่นชิดด้วยฤทธิ์ยา | ทั้งโอรสาสินสมุทรสุดสาคร |
พระอภัยได้วัลลาธิดาราช | พระน้องน้องนาฏนางก็พาสุดาสมร |
สินสมุทรหมายยุพาพะงางอน | สุดสาครคบหาสุลาลี |
ภิรมย์เรียงเคียงคู่ต่างชูชื่น | สำราญรื่นร่วมประทมประสมศรี |
สงสารพระพันวสาสุมาลี | สถิตที่พลับพลาโศกาลัย |
กับสร้อยสุวรรณจันท์สุดาลูกยาหญิง | มีแต่สิ่งเศร้าหมองไม่ผ่องใส |
เห็นแต่หน้าหน่อกระษัตริย์หัศไชย | ค่อยชื่นในดวงกระมลที่ทรมาน |
จึงทรงปรึกษาสามพราหมณ์พี่เลี้ยง | ถึงวังเวียงลังกามหาสถาน |
จะกรีธากองทัพไปรับงาน | ให้ได้พานพบปะพระอรไท |
แล้วทรงเครื่องสงครามเมื่อยามเศร้า | แต่เก่าเก่าวาวแวมไม่แจ่มใส |
ชวนพี่น้องสองกระษัตริย์กับหัศไชย | มาเนาในรถที่นั่ง........ |
........................... | ให้หยุดยั้งไม่ขยายทั้งซ้ายขวา |
ให้หัศไชยไปทูลพระพี่ยา | .......เฝ้าผ่านเกล้าเอย ๚ะ |
๚ ๑๖ คำ ๚
๏ เห่เอยเฉลยลำ | เสียงดุรีย์ร่ำให้ชมเชย |
แล้วเห่หวนที่ควรเคย | ถวายเสียงสำเนียงนวล |
๏ พระมิ่งมงกุฎสมมุติวงศ์[๓] | อย่าโศกทรงพระกำสรวล |
สารพันอย่ารัญจวน | จงเบิกบานตระการตา |
๏ แม้นพระยอดขัตติยวงศ์ | กันแสงทรงพระโศกา |
........................ | บันดาข้าอันทูลละออง |
๏ พระมาตุราชพระมาตุฉา[๔] | ก็จะพากันมัวหมอง |
...................... | ว่าเลินเล่อไม่นำพา |
๏ เชิญพระมิ่งวิมลมาศ | บวรราชธิดา[๕] |
เสด็จทรงพระไสยา | ให้สุขสาระภิรมย์ |
๏ อเนกนางสุรางค์ถนอม | จะกล่าวกล่อมให้บรรทม |
แล้วร้องรื่นให้ชื่นชม | เป็นช้ากล่อมขึ้นพร้อมเพรียง ๚ะ |
ช้ากล่อม | |
๑ ๏ พระโฉมเฉลาเอย | เสด็จมาเนาในวังเวียง |
สาวสุรางค์เรียงรายถวายเสียง | ส่งสำเนียงแสนเสนาะพริ้งเพราะเอย ๚ะ |
๒ ๏ พระเยาวยอดหญิง | สรรพสิ่งจะโสภิต |
อย่าอ้อนองค์ทรงประทมภิรมย์สนิท | บนพระอู่อันวิจิตรกระจกเอย[๖] ๚ะ |
๓ ๏ พระภาคิไนยหลวง | กำเนิดในดวงดอกสารภี |
แสนสนิทชิดชมประสมศรี | พระวงศานารียินดีเอย[๗] ๚ะ |
๔ ๏ พระเยาวลักษณ์ | ประไพพักตร์เพียงศศิธร |
งามขนงวงเนตรพระเกศกร | เหมือนอัปสรไกรลาสยาตรมาเอย ๚ะ |
๕ ๏ พระยอดเยาวอนงค์ | อย่าวิโยคโศกทรงกันแสงเศร้า |
ประทมตื่นแล้วจะได้ขึ้นไปเฝ้า | พระปิ่นเกล้าของพระทูลกระหม่อมเอย[๘] ๚ |
๖ ๏ พระศรีสวัสดิ์งาม | พระรูปจำรัสเจริญครบ |
ในสรวงสวรรค์ชั้นฟ้าเที่ยวหาจบ | ไม่งามลบล้ำพระจอมกระหม่อมเอย ๚ะ |
๗ ๏ พระสายสมร | ซึ่งทรงพระอาวรณ์จงวายเว้น |
ผัดพอพระสุริยาเวลาเย็น | จึงทรงเล่นกับข้าหลวงทั้งปวงเอย ๚ะ |
๘ ๏ พระเยาวเรศ | เฉลิมเนตรฝูงอนงค์ |
พระเสด็จมาให้ชมสมประสงค์ | พระญาติวงศ์ห้อมล้อมถนอมเอย ๚ะ |
๙ ๏ เชิญประทมภิรมย์ถนอม | สดับช้ากล่อมกลอนประทาน[๙] |
พระปราโมทย์เปรดประดิษฐ์ลิขิตสาร | ทรงบรรหารให้มาร้องฉลองเอย ๚ะ |
ลงเห่ | |
๑๐ ๏ เห่เอยเฉลยฉลอง | เสนาะสนองน่าชื่นเชย |
พระหน่อองค์ทรงเสบย | บรรทมหลับแล้วอภิวันท์ |
๑๑ ๏ บรรดาหญิงทั้งมิ่งหม่อม | ก็หยุดกล่อมลงพร้อมกัน |
พระมิ่งสมรอัปสรสวรรค์ | เสวยสวัสดิ์สัถาวร |
๑๒ ๏ เนาในเขตนิเวศวง | ประเสริฐทรงสโมสร |
เป็นศรีวังอลังกรณ์ | เปรื่องปรากฏพระยศเอย ๚ะ |
[๑] มีรอยแก้เป็น “เห่เอยพระหน่อนาถ
[๒] มีรอยแก้เป็น “สุรางค์เรียงเมียงหมอบด้วยนอบน้อม
[๓] มีรอยแก้เป็น “พระมิ่งมนุษย์มงกุฎอนงค์
[๔] มีรอยแก้เป็น “สุดาจอมทั้งหม่อมป้า”
[๕] มีรอยแก้เป็น
“ เชิญเสด็จพระหน่อนาถ | บวรราชกุมารา |
จงเสด็จพระไสยา | ให้สุขสาระภิรมย์ |
[๖] มีรอยแก้เป็น “ พระกรงอันวิจิตรจำหลัก”
[๗] มีรอยแก้เป็น
“ พระภาคิไนยหลวง | กำเนิดในดวงดอกอบเชย |
มัธุรสพจนารถประภาษเผย | ช้ากล่อมกล่าวกลอนเฉลยฉลองเอย ” |
[๘] มีรอยแก้เป็น “ พระจอมเกล้าของพระทูลกระหม่อมเอย ๚ ”
[๙] บทที่ ๙- ๑๐- ๑๑ มีรอยแก้เป็น
๏ เชิญประทมเสียให้หลับ | ทรงสดับช้ากล่อมกลอน |
ข้าหลวงลาวสาวสุรางค์นิกร | สโมสรถวายสำเนียงเอย ๚ |
๏ เห่เอยเฉลยฉลอง | เสนาะสนองน่าชื่นเชย |
พระจักรพงศ์ทรงเสบย | พระหน่อกระษัตริย์กระเษมสันต์ |
๏ พวกชาววังสะพรั่งพร้อม | ก็หยุดกล่อมลงพร้อมกัน |