สุภาษิตสอนสาว

  [๑]๏ จะสอนสาวคราวรุ่นเจริญศรี
ให้เลื่องชื่อลือชาทุกราตรี เหมือนมณีเกิดประดับสำหรับกาย
กำหนดจิตคิดจำที่คำสอน จะถาวรดังดวงวิเชียรฉาย
เป็นที่หวังสังรเสริญแก่ฝูงชาย จะเปรมปรายปราโมทย์จำนงจง
เป็นสตรีรู้มีอัชฌาสัย จะอำไพเอี่ยมสำอางดังนางหงส์
อย่าคบค้าชาติกาสกุณวงศ์ จะพาองค์อัปภาคย์ลำบากนาน
ที่ควรพูดแล้วจึงพูดแต่สุภาพ ที่คำหยาบนั้นอย่าข้องสนองสาร
อย่าทำโลนตลกเล่นเช่นหญิงพาล อย่ากล่าวหาญอวดอ้างเหมือนอย่างชาย
จะกินอยู่รู้มีมารยาท ให้สมชาติกระสัตรีมณีฉาย
ไม่ควรสรวลแล้วอย่าสรวลให้แพร่งพราย อย่าชวนชายตาฉ่ำชำเลืองชม
อย่าเดินชายกรายแขนให้เกินขนาด อวดฉลาดพูดเล่นไม่เห็นสม
ที่สิ่งชั่วอย่าได้กล่าวสมาคม จะพลอยข่มศรีหน้าให้ตามอม
เป็นสตรีรู้มีอัชฌาสัย จะอำไพเลื่องลือระบือหอม
ถึงพี่น้องรอบข้างเป็นนางจอม จะเฝ้าถนอมตัวได้เมื่อไรมี
รู้ระบอบชอบผิดจิตสุภาพ ให้ราบคาบแช่มช้อยเจริญศรี
งานการสนใจสิ่งไรมี ให้ถ้วนถี่รู้ประคิ่นทั้งกินนอน
รู้เก็บหอมรอบริบไว้เป็นเรือน อย่าเลื่อนเปื้อนจงจำที่คำสอน
อนึ่งปูนเกลือข้าวน้ำแลฟืนรอน อย่านิ่งนอนไว้ให้หมดมันไม่ดี
ถ้วยชามครัวไฟอย่าให้รก ทั้งสากครกล้างคว่ำประจำที่
(ต้นฉบับหายไป)[๒] อย่าให้บูดราคีทิ้งไว้กลางทาง
ผ้านุ่งผ้าห่มจงหมั่นซัก เหม็นสาบนักพาตัวให้มัวหมาง
จีบประจงพับไว้เป็นที่วาง อย่าผลัดกองไหว้กลางที่ทางเดิน
อนึ่งบิดรมารดาคณาวงศ์ ทั้งเผ่าพงศ์พี่น้องอย่าห่างเหิน
จงนบนอบเช้าค่ำให้จำเริญ อย่าทำเมินจะได้พึ่งกันต่อไป
จะแต่งตัวให้ดูแต่สุภาพ ทำราบราบพอควรอัชฌาสัย
งามจริตจิตเจียมเสงี่ยมใจ จะอำไพยิ่งกว่าเครื่องอาภรณ์
จะเที่ยวพูดกับเพื่อนอย่าเชือนเฉย อย่าละเลยงานการที่ฝึกสอน
อย่าพูดเพ้อแปรดแปร้นทำแสนงอน ผู้ใหญ่สอนเจ้าจงจำไว้ใส่ใจ
จะเดินก็ให้ดูมารยาท ให้สมชาติลูกสกุลอันแจ่มใส
อย่าโลดเต้นเช่นลิงหญิงจังไร เขาไยไพเยาะเล่นไม่เป็นการ
อย่าหัวเราะให้ดังถึงหลังเรือน อย่าด่าเพื่อนทำคารมอยู่ฉาดฉาน
มิใช่การแล้วอย่าเอามาเป็นการ เขาไม่วานแล้วอย่าวิ่งเข้าชิงทำ
ที่ควรเสียแล้วจึงเสียอย่าเสียดาย อย่าฟูมฟายเจ้าหน้าพาให้ร่ำ
เห็นได้กอบชอบแล้วจึงเสียกำ ของทำมาด้วยยากลำบากกาย
ตระหนี่นักมักตัดหนทางสั้น ใจใหญ่นักมักพลันจะฉิบหาย
ที่ควรเสียแล้วจึงเสียอย่าเสียดาย รู้เทถ่ายมื้อเช้าไว้เป็นเย็น
เกิดมาเมื่อคราวบรมสุข ที่ความทุกข์ความยากยังไม่เห็น
เมื่อคราวเมืองแตกพม่าน้ำตากระเด็น แต่หัวเช่นมันกลอยไม่มีกิน
อย่าดูถูกเงินเฟื้องสลึงบาท เมื่อยามขาดยืมใครไม่ได้สิ้น
รู้เก็บหอมจะได้ออมไว้ซื้อกิน วันคืนยังไม่สิ้นอย่าเชื่อใจ
อดเปรี้ยวจะได้เคี้ยวซึ่งของหวาน บูราณว่าเริงนักมักเป็นไข้
อย่าชิงสุกก่อนห่ามตามน้ำใจ เป็นไพร่เสียก่อนจึงเป็นนาย
เป็นผู้หญิงรู้ซึ่งปรนนิบัติ สารพัดการเรือนแลซื้อขาย
อย่ากินแล้วเที่ยวพูดเหมือนผู้ชาย ทำมักง่ายจะได้ยากลำบากนาน
อย่าชักสื่อเก็บความไปเที่ยวเล่า เนื้อความเขาแล้วอย่าควรสนองสาร
อย่าปากบอนซ่อนเงื่อนมิใช่การ คบคนพาลมักจะพาเป็นราคี
สงบเสงี่ยมเจียมตัวประสาหญิง อย่าเย่อหยิ่งคารมให้เสียงมี่
เป็นธิดามีหน้าลูกผู้ดี จะวาทีอย่าให้หยาบจงน้ำนวล
เมื่อบัวทองอยู่ในห้องชลาสินธุ์ ระรวยรินรื่นรสรำจวนหวน
รักษากายอย่าให้หมองละอองนวล จะหอมหวนยิ่งกว่ารสสุคนธา
เป็นหญิงพาลใจจ้านไม่รู้อาย คบผู้ชายมากแขกเห็นแปลกหน้า
ทำชม้อยช้อยชายชำเลืองตา เล่นหน้าดัดจริตให้พิกล
ลางทีหญิงแสนงอนทำค้อนควัก ตาชำลักสอดแสวงทุกแห่งหน
ทำขวยเขินเมินพูดกับเพื่อนตน แต่งแต่กลเล่นตัวทั้งตาปี
งานการสิ่งใดมิได้ทำ อาบแต่น้ำแล้วก็วิ่งเข้าหาหวี
ผัดหน้าตะบอยสอยระเบียบให้เรียบดี แล้วสีสีผึ้งกินหมากให้ปากคม
พ่อแม่เรียกใช้มิใคร่จะลุก ข้าวหุงสุกแล้วก็พลอยเข้าประสม
อันหญิงถ่อยเช่นนี้อย่านิยม สมาคมคบหาเป็นราคี
ถึงได้คู่ชูชมภิรมย์รัก ไอ้ชายถ่อยทรลักษณ์ไม่บัดศรี
จะเยินยับอัปราทั้งตาปี ที่เขาดีเขาก็เกลียดไม่กล้ำกราย
ถึงรูปดีก็จะมีแต่อัปยศ ไม่ปรากฏโชติช่วงวิเชียรฉาย
เหมือนมะเดื่อสุกแดงเป็นแสงพราย ก็เสื่อมหายคลายรสอันโอชา
อันนารีศรีสวัสดิ์เจริญโฉม งามประโลมลักขณาอันเลขา
ลูกผู้ดีมีสกุลสุนทรา เหมือนจินดาควรคู่กับบูริน
มีน้ำใจเลื่อมใสเป็นกุศล บำเพ็งผลสุจริตเป็นนิจศิล
รักษากายมิให้สลายเป็นมลทิน ทั้งนั่งนอนก็ประคิ่นระวังองค์
งามสุภาพรู้จักรักษาศักดิ์ สงวนพักตร์มิให้ต้องละอองผง
ที่สิ่งชั่วมิให้กรายระคายองค์ ให้สมวงศ์เหมราชสะอาดตา
เอาจริตจิตเจียมเสงี่ยมงอน ต่างอาภรณ์เครื่องประดับแลภูษา
เอาถ้อยคำสำนวนสุนทรา ต่างมหามงกุฎกรรเจียกจอน
เอามารยาทกริยาอัชฌาสัย เป็นนางในบริวารสลับสลอน
เอาข้อวัตรประนิบัติสถาวร เป็นฉัตรกั้นทินกรไว้กับกาย
เอาความสัตย์กตัญญูเป็นหมู่ทหาร จะต่อต้านข้าศึกให้สูญหาย
เอาสติปัญญาอันเพริศพราย เป็นป้อมค่ายคันคูประตูเมือง
สำหรับได้ป้องกันอันตราย ให้กระจายขจรชื่อระบือเลื่อง
สมสกุลพูลสวัสดิ์เป็นศรีเมือง จะปราดเปรื่องเสาวภาคย์ภิญโญยล
ฟังแล้วจงจำที่คำสอน ให้ถาวรเป็นสุขศุภผล
เป็นที่หวังสังรเสริญแก่ฝูงชน เหมือนอุบลบัวทิพย์ประทุมทอง
เบิกบานอยู่ในสระมุจลินท์ ไม่แผ้วพักราคินมลทินหมอง
หอมระรื่นชื่นรสสุคนธ์ละออง เป็นที่ปองภุมเรศประเวศชม
ถึงอยู่ไกลได้กลิ่นก็บินว่อน มาเชยซาบเกสรเกษมสม
ไม่เบื่อหน่ายคลายอิ่มในอารมณ์ สงวนชมมิให้ช้ำระกำนวล
เหมือนวิเชียรงามละไมอำไพแสง กระจ่างแจ้งจับฟ้าเวหาหวน
ไม่มีฝ้าฟองระคายสลายนวล เป็นคู่ควรนัคเรศบุรีเรือง
แม้นมีอยู่ในนิเวศประเทศใด จะอำไพออกชื่อระบือเลื่อง
ควรประดับแหวนทองอันรองเรือง ที่เนื้อเหลืองเก้าน้ำธรรมดา
ทั้งแสงทองจับแก้วดูแวววาม ดูอร่ามงามสุดจับสีหน้า
ถ้าพลอยหุงปรุงแต่งด้วยมายา จะซื้อมาไพเบี้ยก็เสียดาย
ชอบประดับแหวนตะกั่วหัวมะกล่ำ พอแดงแดงดำดำไปเร่ขาย
เขาติชาติเสียว่าค่าแหวนทวาย จะขายได้ก็แต่คนกระฎุมพี
อันข้อเปรียบอุปไมยให้วิตถาร จงตรองการดูให้แจ้งในแห่งที่
อันจิตชั่วเหมือนตัวกระสัตรี ใครทำดีก็จะดูสะอาดตา
ถึงจะได้คู่ชมภิรมย์รัก ก็สมศักดิ์สุริยวงศ์แลพงศา
ใครทำชั่วก็จะมัวด้วยนินทา จะพลอยพาพี่น้องให้หมองเอย ฯ


[๑] คัดและตรวจสอบชำระจากเอกสารสมุดไทยเลขที่ ๑๓ หมวดวรรณคดี หมู่กลอนสุภาษิตและคำสอน สำนักหอสมุดแห่งชาติ

[๒] ข้อความจากสมุดไทยขาดหายไป

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ