ประวัติพระยาประพันธรำไพ

เสวกเอก พระยาประพันธรำไพ (เจ๊ก จาติกรัตน์) เกิดแรม ๑ ค่ำ เดือนอ้าย ปีมะเส็ง ตรงกับ พ.ศ. ๒๔๑๑ เป็นบุตรพระยานิพัฒโกษา (ทับ) มารดาชื่อหนู อยู่บ้านเลขที่ ๗๔๐ หลังวัดบุบผาราม อำเภอบางยี่เรือ จังหวัดธนบุรี ได้ศึกษาวิชชาณะสำนักพระครูสารานิยกร วัดประยูวงศาวาส เมื่ออายุ ๑๒ ปี ได้ถวายตัวเป็นมหาดเล็ก เมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. ๒๔๒๕ ได้รับพระราชทานเบี้ยหวัดปีละ ๑๒ บาท ต่อมาปี พ.ศ. ๒๔๒๗ ได้รับพระราชทานเพิ่มขึ้นอีกปีละ ๔ บาท รวมเป็นปีละ ๑๖ บาท ปี พ.ศ. ๒๔๒๙ ได้รับพระราชทานเบี้ยหวัดเพิ่มขึ้นอีกปีละ ๑๒ บาท รวมเป็นปีละ ๒๘ บาท เมื่อวันที่ ๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๓๖ ได้รับพระราชทานสัญญาบัตรเป็นนายบำเรอราชา ได้รับพระราชทานเงินเดือน ๆ ละ ๕๐ บาท วันที่ ๑ ตุลาคม ได้รับพระราชทานเหรียญรัชฎาภิเษก วันที่ ๒ ธันวาคม ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิศริยาภรณ์มงกุฎสยามชั้นที่ ๕ ชื่อวิจิตราภรณ์ วันที่ ๑๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๔๐ ได้รับพระราชทานเหรียญประพาศยุโรป เดือนเมษายน พ.ศ. ๒๔๔๑ ได้รับพระราชทานเงินเดือน ๆ ละ ๖๐ บาท ปี พ.ศ. ๒๔๔๒ ได้รับพระราชทานเหรียญราชรุจี กาไหล่ทอง วันที่ ๒๑ กันยายน พ.ศ. ๒๔๔๕ ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิศริยาภรณ์ช้างเผือกชั้นที่ ๕ ชื่อทิพยาภรณ์และเหรียญราชการในพระองค์รัชกาลที่ ๕ วันที่ ๒๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๔๖ ได้รับพระราชทานสัญญาบัตรเป็นนายบำรุงราชบทมาลย์หุ้มแพรมหาดเล็ก ได้รับพระราชทานเงินเดือน เดือนละ ๑๐๐ บาท เมื่อวันที่ ๓ ตุลาคม ได้รับพระราชทานเหรียญทวีธาภิเษก เดือนเมษายน พ.ศ. ๒๔๔๙ ได้รับพระราชทานเงินเดือน เดือนละ ๑๒๐ บาท เดือนเมษายน พ.ศ. ๒๔๕๐ ได้รับพระราชทานเงินเดือน เดือนละ ๑๔๐ บาท วันที่ ๓๐ ได้รับพระราชทานเหรียญรัชมงคล เดือนเมษายน พ.ศ. ๒๔๕๑ ได้รับพระราชทานเงินเดือน เดือนละ ๑๖๐ บาท วันที่ ๑๖ พฤศจิกายน ได้รับพระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์ชั้นที่ ๔ และเหรียญรัชมังคลาภิเษก เดือนเมษายน พ.ศ. ๒๔๕๒ ได้รับพระราชทานเงินเดือน เดือนละ ๑๘๐ บาท วันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ได้รับพระราชทานเข็มพระชนมายุสมมงคล เมษายน พ.ศ. ๒๔๕๓ ได้รับพระราชทานเงินเดือน เดือนละ ๒๐๐ บาท วันที่ ๓๐ ธันวาคม ได้รับพระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์ชั้นที่ ๔ รัชกาลที่ ๖ วันที่ ๒ มกราคม ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์มงกุฎสยามชั้นที่ ๔ ชื่อภัทตราภรณ์ วันที่ ๘ มีนาคม ได้รับพระราชทานสัญญาบัตรเป็นนายจ่าเรศ วันที่ ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๕๔ ได้รับพระราชทานสัญญาบัตรเป็นหลวงสิทธินายเวร ได้รับพระราชทานเงินเดือน เดือนละ ๓๐๐ บาท วันที่ ๑๐ พฤศจิกายน ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิศริยาภรณ์ช้างเผือกชั้นที่ ๔ ชื่อภูษณาภรณ์ วันที่ ๒ ธันวาคม ได้รับพระราชทานเหรียญบรมราชาภิเษกและเหรียญราชรุจีทองกับเข็มข้าหลวงเดิมในรัชกาลที่๖ วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๔๕๕ ได้รับพระราชทานสัญญาบัตร เป็นเจ้าหมื่นเสมอใจราช และได้รับพระราชทานเงินเดือน เดือนละ ๔๐๐ บาท วันที่ ๑๔ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๕๖ ได้รับพระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์ชั้นที่ ๓ รัชกาลที่ ๖ วันที่ ๓๑ ธันวาคม ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิศริยาภรณ์มงกุฎสยามชั้นที่ ๓ ชื่อมัณฑนาภรณ์ วันที่ ๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๕๗ ได้ย้ายจากกรมมหาดเล็ก มารับราชการในตำแหน่งผู้ช่วยจางวางกรมสนมพลเรือนกระทรวงวัง ได้รับพระราชทานยศและบรรดาศักดิ์เป็นเสวกเอก พระยานิพัทธราชกิจ วันที่ ๑๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๕๗ ได้รับพระราชทานเสมา ว. ป. ร. ลงยาชั้นที่ ๓ ปี พ.ศ. ๒๔๕๙ ได้กราบถวายบังคมลาออกจากราชการโดยป่วยเป็นโรคหัวใจอ่อน วันที่ ๒๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๖๑ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานบำนาญเดือนละ ๑๘๓ บาท ๖๖ สตางค์ ๒/๓ วันที่ ๓ เมษายน พ.ศ. ๒๔๖๒ ได้พระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นพระยาประพันธรำไพ วันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๖๘ ได้รับพระราชทานเหรียญบรมราชาภิเษกรัชกาลปัจจุบัน ต่อมาอาการป่วยได้กำเริบขึ้น ถึงวันที่ ๑๘ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๖ ได้ถึงแก่อนิจจกรรมโดยโรคเส้นประสาทพิการ คำนวณอายุได้ ๖๕ ปี

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ