สุนทรภู่เกิดเมื่อวันที่ ๒๖ มิถุนายน พ.ศ.๒๓๒๙ ในสมัยรัชกาลที่ ๑ สันนิษฐานว่าบิดาของสุนทรภู่เป็นชาวบ้านกร่ำ อำเภอแกลง จังหวัดระยอง หรือชาวเพชรบุรี มารดาอพยพจากกรุงศรีอยุธยาสมัยเสียกรุงมาตั้งรกรากที่กรุงธนบุรี ต่อมาบิดามารดาหย่ากัน บิดาไปบวชอยู่ที่เมืองแกลง มารดามีสามีใหม่และมีบุตรสาวสองคนชื่อฉิมกับนิ่ม หลังจากนั้นมารดาก็เข้าวังไปเป็นพระนมพระธิดาในสมเด็จพระเจ้าหลานเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงอนุรักษเทเวศร กรมพระราชวังบวรสถานภิมุข สุนทรภู่จึงได้ถวายตัวเป็นข้าในกรมพระราชวังหลังตั้งแต่เด็ก
สุนทรภู่เริ่มเรียนหนังสือที่วัดชีปะขาว (วัดศรีสุดาราม) ริมคลองบางกอกน้อย เมื่อมีความรู้พอจะทำงานได้ก็ไปเป็นเสมียนนายระวาง กรมพระคลังสวน ต่อมาออกจากงานเสมียนกลับมาพำนักอยู่ที่พระราชวังหลัง และลักลอบคบหากับนางในชื่อจัน จนต้องโทษถูกจองจำ เมื่อกรมพระราชวังหลังทิวงคตใน พ.ศ. ๒๓๔๙ สุนทรภู่จึงเดินทางไปบวชอยู่กับบิดาที่เมืองแกลง และแต่งนิราศเมืองแกลงขึ้นเป็นนิราศเรื่องแรก เมื่อกลับจากเมืองแกลง สุนทรภู่ได้มาเป็นมหาดเล็กของพระองค์เจ้าปฐมวงศ์พระโอรสของกรมพระราชวังหลังซึ่งทรงผนวชอยู่ที่วัดระฆัง พระอัครชายากรมพระราชวังหลังประทานนางจันให้เป็นภรรยาของสุนทรภู่ ในปลายรัชกาล พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยโปรดให้สุนทรภู่เป็นพระอาจารย์ถวายพระอักษรพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าอาภรณ์ สุนทรภู่จึงได้เแต่ง สวัสดิรักษาคำกลอน ถวายเจ้าฟ้าอาภรณ์
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว สุนทรภู่ไม่ได้รับราชการ จึงอุปสมบทเป็นภิกษุ ระหว่างนั้น เจ้าฟ้ากุณฑลทิพยวดี พระมารดาพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าอาภรณ์ โปรดให้สุนทรภู่ถวายพระอักษรเจ้าฟ้ากลางและเจ้าฟ้าปิ๋ว ภายหลังสุนทรภู่ได้รับการอุปการะจากสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ากรมขุนอิศเรศรังสรรค์ (พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว) และกรมหมื่นอัปสรสุดาเทพ พระเจ้าลูกยาเธอในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สุนทรภู่เป็นเจ้ากรมพระอาลักษณ์ฝ่ายพระราชวังบวร มีบรรดาศักดิ์เป็นพระสุนทรโวหาร สุนทรภู่ดำรงตำแหน่งเจ้ากรมพระอาลักษณ์ได้ ๕ ปีก็ถึงแก่กรรม พ.ศ. ๒๓๙๘ อายุได้ ๗๐ ปี
สุนทรภู่เป็นกวีที่ได้รับยกย่องว่าเป็นเลิศในการแต่งกลอนแปด ใน พ.ศ. ๒๕๒๙ เนื่องในวาระครบ ๒๐๐ ปีเกิดของสุนทรภู่ องค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาติ (UNESCO) ได้ประกาศยกย่องเกียรติคุณให้สุนทรภู่เป็นบุคคลสำคัญที่มีผลงานดีเด่นทางด้านวัฒนธรรมระดับโลก
(จากนามานุกรมวรรณคดีไทย ชุดที่ ๒ ชื่อผู้แต่ง, มูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา, พ.ศ. ๒๕๕๓)
นิราศ ๙ เรื่อง
- นิราศเมืองแกลง ต้น พ.ศ. ๒๓๕๐
- นิราศพระบาท ปลาย พ.ศ. ๒๓๕๐
- นิราศภูเขาทอง พ.ศ. ๒๓๗๑
- นิราศเมืองสุพรรณ (แต่งเป็นโคลง) พ.ศ. ๒๓๘๔
- นิราศวัดเจ้าฟ้า ราว พ.ศ. ๒๓๗๙
- นิราศอิเหนา
- นิราศพระเเท่นดงรัง
- นิราศพระประธม พ.ศ. ๒๓๘๕
- นิราศเมืองเพชรบุรี ระหว่าง พ.ศ. ๒๓๘๘-๙๒
นิราศทั้งปวงนี้แต่งจบในสมุดไทยเล่มเดียวทุกเรื่อง
นิทาน ๕ เรื่อง
- เรื่องโคบุตร ๘ เล่มสมุดไทย แต่งในรัชกาลที่ ๑
- เรื่องพระอภัยมณี ๙๔ เล่มสมุดไทย แต่งในรัชกาลที่ ๓
- เรื่องพระไชยสุริยา (แต่งเป็นกาพย์คำเทียบสอนอ่าน) รวมเล่มสมุดไทย ๑ แต่งในรัชกาลที่ ๓
- เรื่องลักษณวงศ์ ๙ เล่มสมุดไทย (เป็นสำนวนแต่งต่ออีก ๓๐ เล่ม)
- เรื่องสิงหไตรภพ ๑๕ เล่มสมุดไทย ตอนต้นแต่งในรัชกาลที่ ๒
สุภาษิต ๓ เรื่อง
- สวัสดิรักษา รวมเล่มสมุดไทย ๑ ระหว่าง พ.ศ. ๒๓๖๔-๗
- เพลงยาวถวายโอวาท ราวหน้าสมุดไทย๑ ราว พ.ศ. ๒๓๗๓
บทละครเรื่อง ๑
- เรื่องอภัยนุราช เล่มสมุดไทย ๑
บทเสภา ๒ เรื่อง
- เรื่องขุนช้างขุนแผน ตอนกำเนิดพลายงาม เล่มสมุดไทย ๑ แต่งในรัชกาลที่ ๒
- เรื่องพระราชพงศาวดาร ๒ เล่มสมุดไทย เเต่งในรัชกาลที่ ๔
บทเห่กล่อม ๔ เรื่อง
- เห่เรื่องจับระบำ
- เห่เรื่องกากี
- เห่เรื่องพระอภัยมณี
- เห่เรื่องโคบุตร
บทเห่เป็นเรื่องสั้นๆ รวมกันทั้ง ๔ เรื่อง สักเล่มสมุดไทย ๑