นรกบ่าว

นรกเล็กต่าง ๆ อันเป็นบริวารนรกบ่าวนั้นมีจำนวนมากจนไม่สามารถจะบรรยายได้ทั้งหมด จะกล่าวแต่เฉพาะนรกบ่าว ๑๖ ขุมซึ่งอยู่ล้อมรอบสัญชีพนรก ซึ่งมีชื่อว่าอุสุทนรก เป็นนรกที่อยู่สูงสุดเหนือนรกทั้งหลาย เมื่อพระมาตุลีจะนำเสด็จพระยาเนมิราชทอดพระเนตรนรกนั้น ได้นำเสด็จไปทอดพระเนตรนรกบ่าว ๑๖ ขุมก่อนดังนี้[๑]

นรกขุมแรก ชื่อเวตรณีนรก (นรกแม่น้ำหวาย) ผู้ที่ตกอยู่ในนรกขุมนี้ แต่ก่อนเคยเป็นคนมั่งคั่ง มีทรัพย์สินและบริวารมากมาย แต่มักทำร้ายผู้อื่น ชิงทรัพย์สินและข้าวของของผู้อื่นเพราะมีกำลังมากกว่า เมื่อตายแล้วจึงเกิดในนรกขุมนี้ ยมบาลของนรกขุมนี้ลงโทษด้วยไม้ฆ้อน มีดพร้า หอก ดาบ หลาว แหลน อาวุธที่ใช้ในการฆ่าด้วยการแทง ยิง และตีนั้น เป็นเหล็กแดง มีเปลวไฟพุ่งขึ้นราวกับไฟไหม้ฟ้า ไม่มีวันดับ ยมบาลทั้งหลายถืออาวุธดังกล่าว ไล่แทงตีฝูงสัตว์นรกให้เจ็บปวดทรมานน่าเวทนา จนไม่สามารถจะทนได้

ในนรกขุมนี้มีแม่น้ำใหญ่ชื่อว่าเวตรณี มีรสเค็มยิ่งนัก ถ้าผู้ใดหนีลงแม่น้ำก็จะมีเส้นหวายและเครื่องหวายระเนื้อตัวและถูกทิ่มแทงด้วยหนามหวายใหญ่เท่าจอบ เหล็กแดงลุกเป็นเปลวไฟ พอหนีลงน้ำร่างกายก็ถูกหนามหวายตัดขาดราวกับถูกมีดกรดอันคม ใต้เครื่องหวายนั้นมีขวากใหญ่และยาว เป็นเหล็กแดงลุกเป็นเปลวไฟไหม้ตัวเขาราวกับไฟไหม้ต้นไม้ในป่า ผู้ใดหลุดจากหนามหวายไปได้ก็จะตกลงไปบนขวากเหล็กซึ่งอยู่ภายใต้นั้น ร่างกายขาดวิ่นทุกแห่ง เมื่อขวากเหล็กนั้นแทงเสียบตัวเขาอยู่ราวกับปลาที่ถูกเสียบ ทันใดนั้น เกิดเป็นไฟไหม้ขวากเหล็ก แล้วลุกไหม้ร่างกายสัตว์นรกนั้นอยู่เป็นเวลานาน จนร่างกายสุก เน่าและเปื่อยไปในที่สุด

ใต้ขวากเหล็กในแม่น้ำเวตรณีนั้นมีใบบัวหลวงเป็นเหล็กแดง มีคมรอบตัว คมมีดในบัวนี้เป็นเปลวไฟลุกไม่มีวันดับ ถ้าสัตว์นรกใดลอดขวากเหล็กไปได้ก็จะตกลงบนในบัวเหล็กแดงอันคมนั้น ใบบัวจะบาดร่างกายจนขาดวิ่นราวกับถูกตัดตามขวางและตามยาวตลอดตัวเขา จะติดอยู่ในใบบัวเหล็กแดงนั้นเป็นเวลานานแล้วจึงหลุดตกลงไปในน้ำ น้ำนั้นเค็มมากทำให้แสบตามเนื้อตัวแสนสาหัส ดิ้นไปมาราวปลาถูกคนตีที่บนบก ทันใดนั้น แม่น้ำนั้นก็กลายเป็นเปลวไฟไหม้ตัวเขา มีควันและเปลวไฟพุ่งขึ้นจากตัวทุกแห่ง ใต้ท้องน้ำเวตรณีนั้นมีมีดคมวางหงายอยู่ทุกแห่ง เมื่อสัตว์นรกร้อนด้วยเปลวไฟที่ไหม้ก็จะคิดในใจว่า กูจะดำน้ำนี้ลงไป อาจจะพบน้ำเย็นภายใต้น้ำ จะได้มีกำลังวังชาขึ้น ดังนั้นจึงดำน้ำลงไป แต่ก็ถูกคมมีดที่หงายอยู่ใต้ท้องน้ำนั้นตัดตัวเขาขาดทุกแห่ง ยิ่งได้รับความเจ็บแสนสาหัส ส่งเสียงร้องดังด้วยความเจ็บปวดแทบสิ้นชีวิต บางครั้งน้ำได้พัดตัวเขาให้พุ่งขึ้น บางครั้งลมก็พัดตัวเขาให้ดำลง ได้รับทุกขเวทนายิ่งนัก ผู้ที่เกิดในเวตรณีนรกนั้นเป็นทุกข์เจ็บปวดดังกล่าวแล้ว

นรกขุมที่สอง ชื่อสุนัขนรก (นรกหมา) ผู้ที่อยู่ในนรกขุมนี้ แต่ก่อนเคยด่าว่านักบวช ผู้ทรงศีล พ่อแม่ ผู้เฒ่าผู้แก่ ครูอาจารย์และอุปัชฌาย์ ในสุนัขนรกนั้นมีหมา ๕ จำพวก ได้แก่ หมาขาว หมาแดง หมาด่าง หมาดำ และหมาเหลือง หมาเหล่านี้รูปร่างใหญ่โตเท่าช้างสารทุกตัว แร้งกาที่อยู่ในนรกนี้ก็มีรูปร่างใหญ่โตเท่าเกวียนทุกตัว ปากและเล็บของแร้งและกาเป็นเหล็กแดงลุกเป็นไฟไม่รู้ดับ ฝูงแร้งกาและหมารุมจิกและกัดร่างกายสัตว์ที่อยู่ในนรกขุมนี้ด้วยผลบาปกรรมของเขา ทำให้ไม่ตายแต่ต้องทนเจ็บปวดสาหัส ได้รับทุกขเวทนาเป็นอับมาก ในนรกที่ชื่อว่าสุนัขนรกนี้

นรกขุมที่สาม ชื่อว่าสโชตินรก (นรกเปลวไฟ) ผู้ที่อยู่ในนรกขุมนี้ แต่ก่อนเคยด่าว่าผู้ทรงศีล ซึ่งไม่เคยทำผิดต่อตนหรือสิ่งอื่นใดเลย แต่กล่าวร้ายแก่ท่าน ประดุจเอาหอกมาแทงหัวใจท่านให้ได้รับความเจ็บอาย คนเช่นนั้นเมื่อตายไปแล้วก็จะมาเกิดในนรกขุมนี้ พื้นนรกเป็นเหล็กแดงเป็นไฟไม่รู้ดับ เมื่อสัตว์นรกเหยียบบนแผ่นเหล็กแดง ก็จะถูกเหล่ายมบาลใช้ฆ้อนเหล็กแดงใหญ่เท่าลำตาลตีให้วิ่งไปบนแผ่นเหล็กแดงนั้น ขณะที่วิ่ง แผ่นเหล็กแดงจะลุกเป็นไฟไหม้เท้า ทำให้ร้อนน่าเวทนายิ่งนัก เมื่อเหล่ายมบาลไล่ตีสัตว์นรกนั้น เนื้อตัวเขาก็จะแตกละเอียดจนเป็นเถ้าผงไป แต่แล้วเขาก็กลับคืนร่างดังเดิม เพราะผลบาปกรรมที่ทำไว้ยังไม่สิ้น จำทนทุกขเวทนา ในนรกที่ชื่อว่าสโชตินรกนี้

นรกขุมที่สี่ ชื่ออังคารกาสุนรก (นรกหลุมถ่านเพลิง) ผู้ที่อยู่ในนรกขุมนี้ แต่ก่อนเคยชักชวนผู้อื่นให้ทำบุญ แต่นำเอาทรัพย์สินที่คนทำบุญนั้นมาใช้ประโยชน์ส่วนตน คนเช่นนี้ เมื่อตายแล้วจะมาเกิดในนรกขุมนี้ ยมบาลที่รักษานรกถือหอกดาบเป็นเหล็กแดงเป็นไฟไม่รู้ดับ ไล่แทง ฟัน ตี และผลักให้ตกลงในหลุมถ่านไฟที่ลุกแดง ถ่านไฟได้ลุกไหม้ตัวเขาเหล่านั้นทำให้ร้อนน่าเวทนานัก เหล่ายมบาลจะใช้จะหวักเหล็กอันใหญ่ ตักถ่านไฟแดงรดบนหัวเขา ร้อนจนทนไม่ได้จึงส่งเสียงร้องดัง เพราะผลบาปกรรมที่ทำไว้ยังไม่สิ้น เขาจึงยังไม่ตาย ครั้นหนีขึ้นจากหลุมถ่านไฟได้ก็วิ่งหนี แต่เหล่ายมบาลก็ไล่ต้อน ตี ทุ่ม แทงให้ตกลงหลุมซ้ำแล้วซ้ำอีก จนกว่าจะสิ้นอายุในนรกนั้น

นรกขุมที่ห้า ชื่อโลหกุมภีนรก (นรกหม้อเหล็กแดง) ผู้ที่อยู่ในนรกขุมนี้ แต่ก่อนเคยทรมานทำร้ายสัตว์ นักบวชผู้ทรงศีล ครูอาจารย์ ในนรกขุมนี้มีหม้อเหล็กแดงใบใหญ่เท่าภูเขา ในหม้อนั้นเต็มไปด้วยเหล็กแดงที่ละลายเหลวเป็นน้ำ เหล่ายมบาลจับสองเท้าของคนนรก แล้วหย่อนหัวพุ่งลงไปในหม้อใหญ่นั้น เขาได้รับความร้อนดิ้นไปมา ได้รับทุกขเวทนาซ้ำไปมาอยู่เช่นนั้นจนกว่าจะสิ้นอายุของเขา

นรกขุมที่หก ชื่ออโยทกนรก (นรกน้ำเหล็กแดง) ผู้ที่อยู่ในนรกขุมนี้ แต่ก่อนเคยเชือดคอสัตว์ให้ตาย สัตว์นรกในขุมนี้มีร่างกายสูงใหญ่ถึง ๖ พันวา มีหม้อเหล็กแดงใหญ่เท่าภูเขา เหล่ายมบาลใช้เชือกเหล็กแดงที่ลุกเป็นไฟไม่รู้ดับไล่รดตัว แล้วบิดคอจนขาด แล้วเอาหัวที่ขาดทอดลงในหม้อเหล็กแดงนั้น เขาจึงกลายเป็นสัตว์หัวขาด ทันใดนั้นก็เกิดหัวใหม่ขึ้นมาแทน แล้วเหล่ายมบาลก็เอาเชือกเหล็กแดงบิดคอจนขาด แล้วทอดหัวนั้นลงในหม้อเหล็กแดง ซ้ำแล้วซ้ำอีกจนสิ้นอายุ และสิ้นบาปกรรมของเขา

นรกขุมที่เจ็ด ชื่อถุสปลาสนรก (นรกแกลบและฟาง) ผู้ที่อยู่ในนรกขุมนี้ แต่ก่อนเคยเอาข้าวลีบ แกลบ ฟางมาปนกับข้าวเปลือก แล้วเอาไปหลอกขายว่าเป็นข้าวดี ในนรกขุมนี้ มีแม่น้ำที่มองดูใสไหลไปมาไม่ขาดสาย ใต้ท้องน้ำเต็มไปด้วยแผ่นเหล็กแดงลุกเป็นไฟ ไหม้ร่างกายสัตว์นรกให้ได้รับความร้อนมากมาย เมื่อเขากระหายน้ำมากแทบจะไส้ขาด เขาก็ยกมือทั้งสองขึ้นพาดบนหัวร้องไห้คร่ำครวญ วิ่งไปบนแผ่นเหล็กแดง ไฟก็ลุกไหม้เท้าเขา เขาก็จึงวิ่งตรงไปที่แม่น้ำที่มองดูใสแล้วกระโจนลงไป ทันใดนั้น น้ำก็กลายเป็นไฟขึ้นทั้งสองฟากฝั่งลุกไหม้ตัวเขา น้ำนั้นก็จะกลายเป็นข้าวลีบและแกลบลุกเป็นไฟไหม้ตัวเขาทำให้กระหายน้ำจนทนไม่ได้ เขาก็ร้องไห้แล้วกินข้าวลีบและแกลบนั้นเข้าไป เมื่อข้าวลีบและแกลบตกถึงท้อง เขาก็จะกลายเป็นไฟพุ่งออกทางทวารหนัก เขายกมือขึ้นพาดเหนือหัวแล้วร้องไห้ด้วยเสียงอันดัง ตราบเท่านานแสนนาน

นรกขุมที่แปด ชื่อสัตติหตนรก (นรกหอก) ผู้ที่อยู่ในนรกขุมนี้ แต่ก่อนเคยลักขโมยทรัพย์สินผู้อื่น และกล่าวโทษผู้นั้นว่าเป็นโจร จนเจ้าของทรัพย์นั้นพ่ายแพ้แล้วเก็บเอาทรัพย์สินนั้นไว้แต่ผู้เดียว เหล่ายมบาลที่รักษานรกขุมนี้ยืนรายรอบสัตว์นรกเหล่านี้ ราวกับคนยืนล้อมสัตว์ในป่าไม่ให้หนีรอดไปได้ เหล่ายมบาลใช้หอกชะนักไล่พุ่งแทงเขาเหล่านั้นจนเป็นบาดแผลเจ็บตลอดร่าง แหลกเหมือนใบตองแห้งที่ถูกสับ

นรกขุมที่เก้า ชื่อพิลสนรก (นรกชิ้นเนื้อ) ผู้ที่อยู่ในนรกขุมนี้ แต่ก่อนเคยฆ่าปลานำมาขายที่ตลาด เหล่ายมบาลใช้เชือกเหล็กแดงคล้องคอเขาเหล่านั้น แล้วลากไปไว้เหนือแผ่นเหล็กแดง แล้วแทงด้วยหอกชะนัก ฟันด้วยมีดแล้วแล่เนื้อออกวางเรียง เปรียบเหมือนชิ้นเนื้อชิ้นปลาวางเรียงขายในตลาด แต่แล้วเขาก็จะกลับคืนร่างดังเดิมไปมาหลายครั้งหลายหน

นรกขุมที่สิบ ชื่อโบราณมิฬหนรก (นรกอาจมเก่า) ผู้ที่อยู่ในนรกขมนี้ แต่ก่อนเคยถูกท้าวพระยาใช้ให้ไปเก็บภาษีอากรจากราษฎร แต่กลับเรียกเก็บมากกว่ากำหนด ผู้ที่เคยกล่าวให้ร้ายแก่ผู้อื่น ฆ่า ตีผู้ที่เป็นมิตรกับตน รวมทั้งผู้ที่กระทำบาปโดยการข่มขู่ผู้อื่นว่าจะใช้ชื่อคาผูกมือและเท้าเขา ข่มเหงเขา คนเหล่านี้ตายไปจะเกิดในนรกขุมนี้ จมอยู่ในแม่น้ำใหญ่ที่เต็มไปด้วยอาจมเหม็นยิ่งนัก แม้อยู่ห่าง ๑๐๐ โยชน์ก็ยังเหม็นอยู่ สัตว์นรกนั้นมีอายุยืนมากนัก เมื่ออยู่นานทนไม่ไหวก็กินอาจมนั้นแทนข้าวน้ำทุกวัน

นรกขุมที่สิบเอ็ด ชื่อโลหิตปุพพนรก (นรกเลือดและหนอง) ผู้ที่อยู่ในนรกขุมนี้ แต่ก่อนเคยทำร้ายพ่อแม่ พระสงฆ์ ผู้ที่มีคุณ ผู้ทรงศีล คนนรกจะอยู่ในแม่น้ำใหญ่เต็มไปด้วยเลือดและหนอง ไม่มีอะไรจะกินจึงร้องไห้ เพราะความหิวจัดจึงกินเลือดและหนองนั้น แต่เลือดและหนองที่กลืนเข้าไปกลับกลายเป็นไฟไหม้พุ่งออกทางทวารหนัก

นรกขุมที่สิบสอง ชื่อโลหพิฬสนรก (นรกเบ็ดเหล็กแดง) ผู้ที่อยู่ในนรกขุมนี้ แต่ก่อนเคยติดต่อซื้อสินค้าจากผู้อื่นแล้วหลอกว่าจะจ่ายเงินให้ แต่แล้วก็ไม่ให้เงิน แต่กลับโกงเอาสิ่งของท่านด้วยตาชั่งหรือทะนานก็ดี เหล่ายมบาลใช้คีมคีบลิ้นสัตว์นรกเหล่านี้ออกมาแล้วเอาเม็ดเหล็กเกี่ยวลิ้นไว้ คันเม็ดนั้นใหญ่เท่าลำตาลเป็นเหล็กแดงลุกเป็นไฟไม่รู้ดับ เหล่ายมบาลก็จะลากตัวเขาไปแล้วผลักให้ล้มลงบนแผ่นเหล็กแดง ไฟก็จะลุกไหม้ทั่วตัวเขา แล้วยมบาลก็จะแล่เอาหนังสัตว์นรกออกไปชั่งไว้เหมือนชั่งหนังวัว เหล่าสัตว์นรกทบเจ็บไม่ไหว ร้องไห้คร่ำครวญ ตัวสั่นระริกราวกับปลาที่ถูกหักคอแล้วโยนขึ้นมาบนบก อาเจียนเป็นขี้เป็นเลือดตลอดเวลา

นรกขุมที่สิบสาม ชื่อสังฆาฏนรก (นรกพิฆาต) ผู้ที่อยู่ในนรกขุมนี้ แต่ก่อนคือ ชายที่เป็นชู้กับภรรยาผู้อื่น หรือหญิงที่มีชู้ ในนรกขุมนี้มีทั้งผู้หญิงและผู้ชาย เหล่ายมบาลก็จะเอาหอกทิ่มแทงตัวเขาจนขาดวิ่น เลือดและหนองไหลออกมามากมาย ราวกับวัวที่ถูกแทงด้วยหอกมีเลือดไหลทั่วตัว ร่างกายของสัตว์นรกนั้นจมอยู่ในแผ่นเหล็กแดงครึ่งตัว ราวกับถูกฝังไว้ เขาจะยกมือขึ้นพาดหัวร้องไห้คร่ำครวญ และแล้วก็จะมีภูเขาเหล็กแดงลุกเป็นไฟ กลิ้งเข้ามาด้วยเสียงดังราวกับเสียงฟ้าผ่า ทับตัวเขาแหลกตายไป แต่เขาก็จะกลับคืนร่างดังเดิม แล้วก็มีภูเขาเหล็กแดงกลิ้งมาทับเขาอีก บางครั้งก็จะมีภูเขาเหล็กแดงใหญ่ ๒ ลูก กลิ้งเข้ามาหนีบตัวเขาทั้งสองข้างไว้เหมือนอ้อยถูกหนีบ เป็นอยู่เช่นนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

นรกขุมที่สิบสี่ ชื่ออวังสิรนรก (นรกหย่อนหัวลง) ผู้ที่อยู่ในนรกขุมนี้ แต่ก่อนเคยเป็นชู้กับภรรยาผู้อื่น ในนรกนี้มีทั้งผู้หญิงและผู้ชายมากมาย ยมบาลจับสองเท้าของเขาขึ้นแล้วหย่อนหัวลงในขุมนรกนั้น แล้วใช้ฆ้อนเหล็กแดงตีร่างของเขาให้แหลกละเอียดไป

นรกขุมที่สิบห้า ชื่อโลหสัมพลีนรก (นรกต้นงิ้วเหล็ก) ผู้ที่อยู่ในนรกขุมนี้ แต่ก่อนคือชายที่เคยเป็นชู้กับภรรยาผู้อื่น หรือหญิงมีสามีแล้วคบชู้นอกใจสามี ในนรกนี้มีป่าไม้งิ้ว ต้นงิ้วนั้นสูงต้นละหนึ่งโยชน์ มีหนามเป็นเหล็กแดงลุกเป็นไฟ หนามงิ้วยาว ๑๖ องคุลี ลุกเป็นเปลวไฟอยู่มิรู้ดับ ในนรกขุมนี้มีทั้งผู้หญิงและผู้ชายมากมาย เขาเหล่านั้นเคยเป็นชู้กันมาก่อน บางครั้งผู้หญิงจะขึ้นไปอยู่บนยอดงิ้ว ส่วนผู้ชายอยู่ข้างล่าง เหล่ายมบาลล็จะเอาหอกดาบหลาวแหลนที่เป็นเหล็กแดงคม แทงเท้าผู้ชายบังคับให้ขึ้นไปหาผู้หญิง ยมบาลกล่าวว่า ชู้ของเจ้าอยู่บนยอดงิ้วโน้น จงขึ้นไปเร็ว ๆ อย่าอยู่ที่นี้ ผู้ชายเหล่านั้นทนเจ็บไม่ได้จำใจต้องปีนขึ้นไปบนต้นงิ้วนั้น ครั้นขึ้นไปแล้วก็ถูกหนามงิ้วนั้นบาดตัวเขาขาดทั่วร่าง แล้วก็มีเปลวไฟไหม้ตัวเขาจนทนไม่ไหว ต้องกลับหัวบ่ายหน้าลงมา เหล่ายมบาลก็เอาหอกแทงซ้ำแล้วร้องว่า เจ้ารีบขึ้นไปหาชู้ของเจ้าบนยอดงิ้วโน้น จะลงมาทำไมเล่า เขาทนเจ็บปวดไม่ได้ แต่ไม่อาจโต้เถียงยมบาลได้ เขาจึงต้องปีนไป ถูกหนามงิ้วบาดทั่วทั้งตัว เจ็บปวดยิ่งนักแทบจะขาดใจตาย ด้วยความกลัวยมบาล เขาจึงปีนขึ้นไปถึงยอดงิ้ว ครั้นใกล้จะถึงก็มองเห็นผู้หญิงกลับลงมาอยู่ข้างล่าง ยมบาลก็จะแทงเท้าผู้หญิงให้ขึ้นไปหาชายชู้ ร้องว่าเจ้าจงเร่งขึ้นไปหาชายชู้ของเจ้าบนยอดงิ้วนั้น หญิงชายเหล่านั้นปีนขึ้นปีนลงหากันอยู่อย่างนั้นแต่มิเคยได้พบกันเลย ยมบาลบังคับให้หญิงชายปีนขึ้นปีนลงหากันซ้ำแล้วซ้ำเล่า ได้รับความลำบากยิ่งนัก

นรกขุมที่สิบหก ชื่อมิจฉาทิฏฐินรก (นรกของผู้เห็นผิด) ผู้ที่อยู่ในนรกขุมนี้ แต่ก่อนคือผู้ที่เห็นผิด ๒ ประการ คือ เห็นว่าสิ่งทั้งหลายไม่มีเหตุประการหนึ่ง และทำความดีไม่ได้ดี อีกประการหนึ่ง คนเหล่านี้ไม่รู้จักบุญ ทำแต่บาป ในนรกขุมนี้มียมบาลร่างใหญ่ถือหอกดาบหลาวแหลนและค้อนเหล็กแดงลุกเป็นไฟมิรู้ดับ ทิ่ม แทง ฆ่า ฟัน สัตว์นรกเหล่านั้นได้รับความเจ็บปวดทนทุกขเวทนายิ่งกว่านรกทั้งหลายที่กล่าวมาแล้ว

ทั้งหมดที่กล่าวแล้วนี้คือ นรกบ่าว ๑๖ ขุม อยู่รอบสัญชีพนรก ซึ่งเป็นนรกขุมบนสุด ส่วนนรกบ่าวทั้งหลายที่อยู่รอบนรกใหญ่ ๗ ขุม ทั้งอยู่ใต้สัญชีพนรกลงไป ไม่อาจจะกล่าวถึงได้เลย เพราะเลวร้ายยิ่งไปกว่านี้อีกมากมายนัก



[๑] ความละเอียดปรากฏในอรรถกถาเนมิราชชาดก

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ