สภาพพ้อ

สภาพ[๑]พ้อ

ป่า

(อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑)

โขดเขาลำเนาธาร ชลซ่านกระเซ็นเห็น
ไพรพฤกษ์พิลึกเพ็ญ ขจิภาพพนาลัย[๒]
แว่วเสียงสุโนกก้อง เสนาะร้องระวังไพร
ลมพัดกะพือใบ ระบำโบกก็กลกัน
สัตว์ป่าประดามี จรลี้ละแวกวัน[๓]
ป่าสูงสล้างบรร- พตโพ้นพะนอสรวง
เมฆจับพยับจอด ปะทะยอดลำยองยวง[๔]
ดักแดดและบังดวง สุริย์ลับสลับสี[๕]
เพ็ญภาพพนารัญ[๖] พิศพรรณสภาพมี
เชิงชวนและยวนยี และฤควรมิคิดเห็น

ทะเล

ค่อนหล้ามหาสมุทร[๗] ชลรุดระลอกเป็น
ห้วงห้วงทะลวงเบญ- จทวีปทำวังวน
ว้างเวิ้งวิวิธวรรณ นิลคั่นขจีจน
เขียวอ่อนชะอุ่มชล ยลตื้น ณ พื้นทราย[๘]
สมญาชลาลัย[๙] ผิวแลก็แลหาย
เห็นแต่กระแสสาย ชลฉอกระลอกคราม
ฟ้าครอบ ณ ขอบน้ำ จรล้ำก็เลื่อนตาม[๑๐]
งามท้องทะเลงาม ละเมาะแก่งเกาะแหล่งผา
นางนวลฤนกเหยี่ยว ชลเฉี่ยวชำเลืองปลา
เพ็ญภาพสภาพพา ฤดิดาลสิวานเห็น[๑๑]

ชนบท

บ้านนอกบำรุงน้อย ก็มิค่อยขยับเป็น
ที่อยู่นิยมเย็น ยุติเยี่ยง ณ เวียงชัย[๑๒]
ดินฟ้านภากาศ ก็สะอาดและสดใส[๑๓]
ทุ่งท่าพนาลัย บริสุทธิ์สภาพธรรม[๑๔]
งามชุดมนุษย์แต่ง ฤจะแข่งสภาพขำ
ภูมิจริงและภาพจำ- เพาะจะเปรียบก็กลกัน[๑๕]
ทวยธรรมชาติชวน บมิยวนก็ย่อมขัน
แท้ธรรมชาตินั้น ชนบทบำเรอเสบย[๑๖]

นคร

กรุงไกรคระไลวุ่น ชุลมุนมิหยุดเลย
เดิรวิ่งบ่นิ่งเฉย ชิวร้อนฤนอนเย็น[๑๗]
ทุกสิ่งประสงค์ค่า คติขอบ่ค่อยเห็น[๑๘]
เวลาจำแลงเป็น ธนไล่เตลิดหลง[๑๙]
พิศพักตรพสกนา- คร[๒๐]อ่าสะอางองค์
อิ่มเอมเกษมทรง สุขซึ่งจะพึงหมาย
บ้างเพียงดำรงชี- วิตดีมิอดตาย
บ้างยากลำบากกาย เพราะมิค่อยจะพอกิน
ความต่างระหว่างนา- ครดุจฟ้าดิน
ยิ่งเมืองเมลืองสิน สิประจักษมากหลาย[๒๑]
เอี่ยมอารยธรรมทำ รสธรรมชาติกลาย
โลกแต่งจำแลงกาย กลคนละโลกกัน
แลดูมิจำได้ ดุจลืมก็เหลือขัน
ลืมธรรมชาติพลัน ฤมิยินมิยอมเห็น[๒๒]

ภาสิต

เชิญตรึกสำนึกทราบ สุวภาพ[๒๓]สภาพเพ็ญ
ถ้วนธรรมชาติเป็น มิตรแท้มิแปรผัน[๒๔]

๑๕ พฤศจิก. ๗๒



[๑] สภาพ ธรรมชาติ สิ่งที่เป็นเอง ธรรมดาโลก ส่วนที่คนทำขึ้น เช่น บ้านเมือง ใช้ว่าสภาพ เป็นการใช้ศัพท์ผิด

[๒] พนาลัย ป่าที่อยู่ในเขตต์เขา จะเห็นเขียวชะอุ่มเป็นคลื่นไปสุดสายตา

[๓] ......วัน สัตว์ป่าทั้งหลาย ตลอดจนไก่ป่า ก็ย่อมหลบซ่อนไปให้พ้นทางคน ยิ่งสัตว์ใหญ่ เช่น เสือ ช้าง จะยิ่งหลบไปไกลที่เรียกว่าป่าสูง หามาใช้ชมระกะไปเหมือนสัตว์ในสวนสัตว์ไม่

[๔] ......ยวง เขาสูงระฟ้ามักมีก้อนเมฆแปะอยู่ตามยอดเป็นก้อน ๆ ดูเป็นยวง ๆ

[๕] ......สี เมฆรับแสงแดดสว่างข้างบนและบังแผ่นดินข้างล่างให้เป็นเงามืด แลดูก้อนเมฆเองก็เห็นสีสลับเป็นขาวกับดำ สว่างกับมืด

[๖] พนารัญ พน + อรัญ ป่า

[๗] ......สมุทร พิภพมีน้ำ ๓ ส่วน บกส่วนเดียว

[๘] ......ทราย น้ำทะเลมีสีต่าง ๆ ตั้งแต่เป็นสีนิล หรือคราม จนถึงสีเขียวอ่อนใส เห็นพื้นทรายใต้น้ำ แท้จริงน้ำก็สีเดียว แต่เห็นเป็นต่างสีเพราะลึกตื้นต่างกัน

[๙] ......ชลาลัย ชล + อาลัย ที่อยู่ของน้ำ ในที่นี้หมายเอามหาสมุทรหรือทะเลซึ่งแลไม่เห็นฝั่ง

[๑๐] ......ตาม ขอบน้ำที่เห็นเหมือนจดฟ้านั้นคือโค้งนูนของพิภพ เมื่อเรือแล่นใกล้เข้าไปขอบนั้นจึงเลื่อนตามไปอยู่เสมอ

[๑๑] ......เห็น ภาพแห่งธรรมชาติงามถึงเพียงนี้ วานเห็นและรื่นเริงบันเทิงใจสักหน่อย

[๑๒] ......เวียงชัย เรามักไปอยู่บ้านนอกเป็นครั้งคราว มีที่หัวหินและดอยสุเทพ เป็นต้น ความสะดวกสบายในแถบชนบทยังน้อยกว่าในกรุงมาก ชาวกรุงจึงไม่ค่อยทิ้งกรุงไปอยู่บ้านนอกเสียตลอดทีเดียว

[๑๓] ......สดใส คนอยู่บาง มีที่ว่างมาก ต้นไม้ทำอ๊อกซิเจน คนและสัตว์ใช้อ๊อกซิเจนน้อย อากาศจึงสดใสกว่าในกรุงที่อยู่กันเบียดเสียด

[๑๔] ......สภาพธรรม ที่ทั้งหลายเหล่านั้นยังเป็นอยู่ตามธรรมชาติ คนยังไม่เข้าไปตกแต่งแก้ไขให้เปลี่ยนแปลงไปจากธรรมชาตินัก

[๑๕] ......กลกัน ภาพเขาไม้ฝีมือเขียนดีๆ ก็งามไม่น้อย เราติดฝาไว้ดูเล่นเพื่อเพลิดเพลิน แต่จะเปรียบกับไปเที่ยวชมที่นั้นจริงๆ อย่างไรได้ อุปมาข้อนี้ฉันใด อุปมัยคืองามที่มนุษย์แต่ง จะไปแข่งกับงามของสภาพที่เป็นเองย่อมไม่ได้ฉันนั้น

[๑๖] ......เสบย จะชมธรรมชาติต้องไปชมที่บ้านนอก เพราะยังถูกมนุษย์แก้ไขน้อย

[๑๗] ......เย็น กรุงเป็นที่รวมกิจการ การอยู่กินในเมืองก็แพงกว่าตามบ้านนอก คนในกรุงจึงทำงานอย่างวิ่งแทนที่จะอืดนั่งๆนอนๆ หรือทำเป็นพักๆ เหมือนชาวบ้านนอกทำกัน

[๑๘] ......เห็น การหักไม้เป็นขอทิ้งไว้แล้วเอาของไปอย่างแต่ก่อนต้องเลิก

[๑๙] ......หลง ภาสิตที่ว่า ‘เวลาเป็นเงิน’ ย่อมขับคนให้นิ่งอยู่ไม่ได้

[๒๐] นาคร ชาวนคร

[๒๑] ......หลาย เมืองยิ่งเจริญทางเศรษฐกรรม ธนการยิ่งละเอียดฟั่นเฝือและแพร่หลายมากขึ้น เงินเข้าไปรวมกองอยู่ในธนาคาร คนมั่งมีก็มีเหลือล้น คนยากจนก็แทบอดตาย

[๒๒] ......เห็น เราลืมธรรมชาติเร็วเช่นนั้น หรือเราหนวกบอดต่อธรรมชาติเอง อย่างที่เรียกว่าฟังก็ไม่ได้ยิน แลดูก็ไม่เห็น

[๒๓] สุวภาพ สุภาพ ความงามดี

[๒๔] ......แปรผัน ธรรมชาติมีอยู่เสมอ ถ้าเอาเป็นมิตรได้ คือ เพลิดเพลินในธรรมชาติ ธรรมชาติก็เป็นมิตรอยู่ร่ำไป จึงเป็นมิตรแท้ไม่ใช่มิตรเทียม

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ