๕๘

๏ ครั้นเวลารุ่งขึ้นจิวสิ้นศิษย์หลีงักจึงถือกระบี่ออกจากค่ายไปถึงประตูค่ายหน้าเมืองร้องท้าชวนรบ ทหารจึงเข้าไปบอกเกียงจูแหย เกียงจูแหยจึงว่า เชาฮูสั่งอึ้งปวยฮอมาว่าจะมาเข้าด้วย แต่คอยๆ อยู่ก็หลายเวลาแล้วมิได้เห็นมา บัดนี้มีทหารมาชวนรบเล่า เกียงจูแหยคิดสงสัย จึงสั่งกิมเฉียให้คุมทหารออกไป กิมเฉียขี่ม้าถือทวนพาทหารออกมารบกับจิวสิ้นได้ห้าสิบเพลงอาวุธ จิวสิ้นแกล้งทำเสียทีชักม้าห่างออกไป แล้วหยิบกระดึงออกจากเสื้อจึงสั่งกระดึงให้ดัง กิมเฉียได้ยินเสียงกระดึงก็ปวดศีรษะหน้ามือไปดังจะตกจากม้า จึงแข็งใจขับม้าหนีกลับเข้าเมือง จิวสิ้นก็มิได้ติดตามกลับเข้าค่าย ครั้นเวลารุ่งเช้าหลีกี๋ออกจากค่ายไปหน้าเมืองชวนรบ เกียงจูแหยจึงให้บกเฉียออกรบกับหลีกี๋ได้ห้าเพลงอาวุธ หลีกี๋แกล้งทำเสียทีโดดลงจากม้าวิ่งไปปักธงอ่านมนต์กำบังตัวอยู่ บกเฉียไล่ไปเห็นแต่ธงหาเห็นตัวหลีกี๋ไม่ บกเฉียจับธงเข้าจะถอนก็ให้ตัวสั่นสะท้านหนาว ปวดศีรษะวิงเวียนเหมือนดังจะตกจากหลังม้า บกเฉียก็ชักม้ากลับเข้าเมืองลงจากม้าตัวสั่นเดินไม่ได้ ทหารเข้าช่วยพยุงไปถึงที่อยู่เกียงจูแหย เกียงจูแหยก็ตกใจจึงให้หาหมอมารักษา

๏ ฝ่ายหลีกี๋มีชัยชนะกลับเข้าค่าย รุ่งขึ้นอีกวันหนึ่ง หลีงักจึงให้จูเทียนหลิน เอียวบุนหุยออกไปชวนรบ เกียงจูแหยให้หลุยจินจู๊ เหลงชิวเฮาออกไปรบด้วยจูเทียนหลิน เอียวบุนหุยทหารทั้งสี่คนก็รบกันเป็นสามารถ เอียวบุนหุยจูเทียนหลินแกว่งกระบองเป็นหมอกควันมืดไปทั้งที่รบ เหลงชิวเฮาหลุยจินจู๊เห็นเป็นหมอกมืดดังกลางคืนมิรู้ที่จะสู้รบ ก็พาทหารหนีเข้าเมืองแจ้งความกับเกียงจูแหย เกียงจูแหยได้ยินดังนั้นก็ถอนใจใหญ่ จึงเล่าให้เอียวเจี้ยนฟังว่าครั้งเมื่อเราไปหาง่วนสีเทียนจุ๋น ง่วนสีเทียนจุ๋นได้ทำนายไว้ว่า เรามาช่วยผู้มีบุญครั้งนี้จะได้ความยากถึงสามสิบหกครั้ง บัดนี้ได้มารบกับคนมีความรู้ได้ความลำบากใจนัก ก็สมดังคำง่วนสีเทียนจุ๋นทำนายครั้งหนึ่งแล้ว ขณะเมื่อหลีงักให้ศิษย์สี่คนออกรบชนะทหารเมืองไซรกีนั้น เชาฮูไม่สบายใจพอค่ำลงจึงขึ้นไปบนหอคอยดูดาวฮ่องเต้ เห็นดาวพระเจ้าติวอ๋องรัศมีมัวมืดใกล้จะตก ดาวพระเจ้าบูอ๋องพึ่งขึ้นมารัศมีส่องสว่างไปทั้งแปดทิศ เชาฮูเห็นดังนั้นก็ดีใจ ลงมาจากหอคอยพอเพลารุ่งเช้า เชาชวนต๋งเข้ามาบอกว่าข้าหลวงถือหนังสือมาแต่เมืองจิวโก๋ เชาฮูจึงให้หาตัวเข้ามา จึงรับหนังสือมาอ่านอักษรประจำผนึกว่าเป็นหนังสือนางขันกีให้มาถึงเชาฮูผู้บิดา ให้ตั้งใจทำการตีเมืองไซรกี เชาฮูก็โกรธฉีกหนังสือทิ้งเสีย แล้วด่านางขันกีว่าเป็นคนชั่วไม่ฟังคำพ่อแม่สั่งสอน เชาฮูก็ให้ข้าหลวงกลับไป

๏ ฝ่ายเกียงจูแหยขณะเมื่อทหารสี่คนออกไปรบแพ้เข้ามาป่วยอยู่นั้น ครั้นได้ยินเสียงครางก็วิตกนัก จึงว่าแก่เอียวเจี้ยนว่า ทหารเมืองจิวโก๋ทั้งสี่คนมีความรู้ ฝีมือกล้าแข็งเราจะเอาชัยชนะเห็นยากนัก พอทหารเข้ามาบอกว่า มีคนสามตาพาทหารมาร้องบอกว่า ให้เชิญท่านออกไปรบ เกียงจูแหยจึงจัดแจงทหารยกออกจากเมืองไปถึงที่รบ เห็นนายทหารคนหนึ่งหน้าเขียวสามตา เขี้ยวงอกออกพ้นปากผมแลหนวดแดง ใส่เสื้อแดงถือกระบี่ขี่โลโต หน้าเหมือนม้า หนวดเป็นหนวดแพะ ตัวแลเท้าเหมือนแรด หลีงักครั้นเห็นกองทัพเมืองไซรกีออกมา มิได้รู้จักว่าเกียงจูแหยคนใด จึงเอากระบี่ชี้ไปแล้วร้องถามว่า คนนี้หนวดขาวชื่อเกียงจูแหยหรือ เกียงจูแหยก็รับว่าเราชื่อเกียงจูแหยแม่ทัพเมืองไซรกี ตัวท่านชื่อไรใครเล่าใช้ออกมารบกับเรา หลีงักจึงบอกว่าเราชื่อหลีงักอยู่เขากิมลงซัว ซินกงป้าไปเชิญเรามาช่วยเชาฮูตีเมืองไซรกี เชาฮูไม่นับถือเรา เราจะช่วยแต้หลุนให้มีความชอบในพระเจ้าติวอ๋อง เกียงจูแหยจึงว่าท่านเป็นโตหยินรักษาสัจธรรมมีสติปัญญาอยู่ เหตุใดจึงมิได้พิจารณาดูการแผ่นดิน เชื่อฟังซินกงป้าล่อลองให้มาเป็นทหารเชาฮู เชาฮูรู้ว่าพระเจ้าติวอ๋องจะสิ้นเชื้อพระวงศ์ พระเจ้าบูอ๋องจะได้เป็นกษัตริย์บำรุงแผ่นดินสืบไป เชาฮูเห็นว่าท่านเป็นคนหลงจึงมิได้นับถือ ท่านกับเราเล่าก็มิได้มีความขัดเคืองกัน จะรบพุ่งกันนั้นไม่ควร แม้นท่านมาช่วยบำรุงพระเจ้าบูอ๋องเห็นจะดีกว่า ถ้าท่านมิฟังคำเราอันตรายจะถึงตัวท่านเป็นมั่นคง หลีงักได้ฟังดังนั้นก็โกรธ ขับโลโตจะเข้ารบกับเกียงจูแหย เกียงจูแหยก็โบกธงสัญญาให้ทหารซ้ายขวาเข้ารบ โลเฉียหนึ่ง อึ้งเทียนฮัวหนึ่ง เอี้ยวเจี้ยนหนึ่ง ทั้งสามคนเข้ารบล้อมหลีงักไว้ หลีงักรบพุ่งป้องกันตัวอยู่กลางทหาร แต้หลุนเห็นอึ้งเทียนฮัวก็แค้นใจว่าเชาฮูปล่อยไปเสีย จึงขับม้ารำทวนเข้ารบกับอึ้งเทียนฮัวได้สิบเพลงอาวุธ โลเฉียเห็นอึ้งเทียนฮัวรบกับแต้หลุน เกรงแต้หลุนจะจับอึ้งเทียนฮัวไปได้ โลเฉียก็ละหลีงักเสียเข้าช่วยอึ้งเทียนฮัวรบ แต้หลุนกับโลเฉียรบกันแต่เช้าจนเวลาบ่ายยังมิแพ้ชนะกัน ทหารทั้งสองฝ่ายรบพุ่งกันเป็นสามารถ หลีงักรบอยู่กลางทหาร จะป้องกันอาวุธมิทันที จึงอ่านมนต์แปลงตัวเป็นสามหน้าหกมือถือเครื่องอาวุธต่างๆ แล้วทำเป็นพายุใหญ่พัดกรวดทรายแลก้อนศิลา ปลิวมาถูกทหารเกียงจูแหยบาดเจ็บล้มตายเป็นอันมาก โลเฉียจึงอ่านมนต์ให้พายุหายไป หลีงักจึงขับโลโตเข้ามาจะจับเกียงจูแหย เกียงจูแหยจวนตัวหนีมิทันก็แทรกแผ่นดินหลบหลีงักอยู่ เอียวเจี้ยนจึงทิ้งด้วยแท่งทองคำถูกไหล่หลีงัก หลีงักเจ็บเป็นสาหัส ก็ดำดินลงไปครึ่งตัว อึ้งเทียนฮัววิ่งเข้ามาตีด้วยกระบอง ถูกขาซ้ายหลีงักเจ็บเป็นสาหัส พอเกียงจูแหยผุดขึ้นจากแผ่นดิน ตีด้วยกระบองถูกขาขวา หลีงักก็หายตัวแทรกแผ่นดินหนีไปค่าย

๏ ขณะนั้นแต้หลุนกับโทเฮงสุนรบกันอยู่ โลเฉียเห็นโทเฮงสุนสิ้นกำลังจะเสียทีแต้หลุน โลเฉียก็วิ่งเข้าช่วยรบ เอาทวนแทงถูกหลังแต้หลุน แต้หลุนต้านทานมิได้ก็ขับม้าหนีเข้าค่าย พอเวลาค่ำเกียงจูแหยก็ให้ตีม้าล่อเรียกทหารกลับเข้าเมือง หลีงักกับแต้หลุนครั้นมาถึงค่าย ก็เทยาอันวิเศษออกจากน้ำเต้า จึงให้ศิษย์ทั้งสี่ฝนทาแผลที่ต้องอาวุธก็คลายเจ็บ หลีงักคิดพยาบาททหารเมืองไซรกีนัก จึงให้ศิษย์สี่คนเอายาพิษแทรกแผ่นดินไปโปรยลงในบ่อและสระน้ำห้วยคลองในเมืองไซรกีทุกตำบล ชาวเมืองไซรกีกินน้ำก็บังเกิดโรคลงท้องและเจ็บไข้เป็นอันมาก ร้องครางระงมไปทั้งเมือง แต่เอียวเจี้ยนกับโลเฉียนั้นดีอยู่ จึงปรึกษากันว่าพระเจ้าบูอ๋องกับเกียงจูแหยแม่ทัพและทหารเอกทหารเลวเป็นไข้เจ็บเป็นอันมากฉะนี้ เห็นจะพากันตายเสียสิ้นทั้งเมืองเป็นมั่นคง เอียวเจี้ยนทุกข์ใจนัก จึงจุดธูปเทียนบวงสรวง แล้วร้องประกาศแก่เทพยดาว่า บัดนี้เมืองไซรกีเกิดความไข้ผู้คนตายเป็นอันมาก พระเจ้าบูอ๋องแลทแกล้วทหารทั้งปวงก็ป่วยเจ็บหามีผู้ใดจะรบกับข้าศึกไม่ ถ้าพระเจ้าบูอ๋องจะได้เป็นกษัตริย์บำรุงแผ่นดินไปภายหน้า ขอเทพยดาจงช่วยทหารแลชาวเมืองให้หายเจ็บไข้จะได้คิดการศึกสืบไป

๏ ฝ่ายอุยเหลงจินหยิน หยกเตงจินหยิน เทพยดาผู้ใหญ่ทั้งสององค์รู้ว่า หลีงักโปรยยาพิษบูอ๋องกับชาวเมืองไซรกีเกิดไข้เจ็บเป็นอันมาก หลีงักจะเข้ามาทำอันตรายแก่บูอ๋อง เทพยดาทั้งสององค์ก็ขึ้นขี่นกกระเรียนมา พาเทพยดาบริวารสามพันถืออาวุธสำหรับมือลงมาอยู่รักษาหน้าที่เชิงเทินเมืองไซรกี พอหลีงักออกจากค่ายมาถึงเชิงกำแพง เห็นเทพยดารักษาอยู่บนเชิงเทินสำคัญว่าทหารเมืองไซรกี หลีงักก็ตกใจชักม้ากลับเข้าค่าย

๏ ขณะนั้นเอียวเจี้ยนเห็นเทพยดาลงมาก็ดีใจ ขึ้นไปบนเชิงเทินคุกเข่าคำนับแล้วร้องไห้บอกว่า บัดนี้บูอ๋องกับเกียงจูแหยป่วยหนักลงทุกเวลา ขอท่านจงโปรดช่วยชีวิตบูอ๋องกับเกียงจูแหยทแกล้วทหารแลชาวเมืองให้รอดจากความตาย หยกเตงจินหยินจึงบอกว่า หลีงักใช้ศิษย์ทั้งสี่เข้ามาโปรยยาลงในน้ำ คนทั้งปวงกินน้ำจึงให้ลงท้องแลเจ็บไข้ต่างๆ ท่านจงรีบไปถ้ำโหยหุนต๋งขอยาซำฮองเต้ คำไทยว่าเทพยดาผู้ใหญ่ทั้งสาม ได้ยานั้นมาจึงจะแก้ยาหลีงักได้ แลเรามาช่วยป้องกันบ้านเมืองไว้ทั้งนี้ หวังจะมิให้หลีงักเข้ามาทำอันตรายแก่บูอ๋อง หลีงักเข้ามาถึงเชิงกำแพงเห็นเราก็กลัวกลับไปค่ายแล้ว เราจะลาท่านไป เทวดาทั้งสองก็พาเทวดาสามพัน ก็บันดาลเป็นลมหายไป ขณะเมื่อเทวดาไปแล้วเอียวเจี้ยนก็ดำดินไปผุดขึ้นปากถ้ำโหยหุนต๋งเข้าไปคำนับบอกความกิมตงจู๊ กิมตงจู๊ก็พาเอียวเจี้ยนเข้าไปเฝ้าซำฮองเต้ เอียวเจี้ยนจึงคำนับ แล้วเล่าความว่าเมืองไซรกีเกิดความไข้ หยกเตงจินหยินบอกว่าหลีงักโปรยยาจะฆ่าชาวเมืองไซรกีเสียให้สิ้น หยกเตงจินหยินให้ข้าพเจ้ามาขอยาท่านไปแก้ยาหลีงัก บูอ๋องแลทหารชาวเมืองไซรกีจะได้รอดชีวิต เทวดาผู้ใหญ่ทั้งสามองค์ได้ฟังดังนั้นปรึกษากันว่าบูอ๋องจะได้บำรุงแผ่นดินสืบกษัตริย์ไปภายหน้า บูอ๋องต้องยาหลีงักป่วยอยู่ แม้นเรามิช่วยบูอ๋องแลเกียงจูแหยกับชาวเมืองไซรกีก็จะพากันตายเสียสิ้น เทวดาผู้ใหญ่จึงให้ยาวิเศษแก่เอียวเจี้ยนสามเม็ดแล้วสั่งเอียวเจี้ยนว่า ให้เอายานี้ไปใส่ลงในบ่อแลสระแก้ยาหลีงักเสีย แล้วซ้ำบอกว่าจงเอาต้นชาโหไปต้มให้ผู้ไข้กินอาบโรคก็จะหายสิ้น เอียวเจี้ยนรับยาแล้วก็คำนับลากลับมาเมืองไซรกี จึงเอายาไปใส่ในน้ำแล้วต้มต้นชาโหให้บูอ๋องกับเกียงจูแหยทหารชาวเมืองอาบกินตามคำเทวดาบอกโรคก็หายสิ้นทั้งเมือง

๏ ฝ่ายหลีงักอยู่ในค่ายให้ทหารไปสอดแนม ทหารกลับมาบอกว่าคนไข้ในเมืองไซรกีนั้นบัดนี้คลายขึ้นสิ้นแล้ว หลีงักนับนิ้วดูยามก็รู้ว่าเทวดาเอายามาช่วยแก้ไข้ชาวเมืองไซรกี หลีงักไม่สมความคิดก็เสียใจ จึงปรึกษาแต้หลุนว่าทหารในกองทัพเมืองไซรกีนั้นเทวดามาช่วยแก้ยาเสื่อมเสียแล้ว บัดนี้คนในเมืองพึ่งหายไข้กำลังยังอิดโรยอยู่ จำจะขอทหารเชาฮูยกเข้าตีเมือง เห็นจะได้ชัยชนะโดยง่าย แต้หลุนเห็นชอบด้วยจึงเข้าไปขอทหารเชาฮูสามหมื่นจะไปตีเมืองไซรกี เชาฮูจึงคิดว่าแต้หลุนมาขอทหารครั้งนี้ ครั้นจะไม่ให้แต้หลุนก็จะโกรธเกณฑ์ทหารให้แต่หมื่นหกพัน แต้หลุนกับหลีงักแบ่งทหารให้ศิษย์สี่คนกองละสี่พันยกเข้าไปล้อมเมืองไซรกีไว้ทั้งสี่ด้าน ฝ่ายอุยเหลงจินหยินหยกเตงจินหยินเทวดาทั้งสององค์รู้ว่าหลีงักยกมาตีเมืองไซรกี เทวดาทั้งสององค์ก็ลงมาหาเกียงจูแหย เกียงจูแหยยังไม่หายไข้สนิท ขณะนั้นโลเฉียเข้ามาบอกว่ากองทัพหลีงักยกมาล้อมเมือง ทหารทั้งปวงพึ่งหายไข้หามีผู้ใดจะขึ้นรักษาหน้าที่เชิงเทินไม่

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ