นิทานเรื่องหนูแลนกพิราบแลกา

ในครั้งก่อนมีแม่น้ำหนึ่งชื่อโคทาวรี แลที่ริมฝั่งแม่น้ำนั้น มีต้นงิ้วใหญ่ต้น ๑ ซึ่งดาดาดด้วยกิ่งใบเปนพุ่มพวงดูสง่างาม ครั้นถึงเวลาค่ำ ฝูงนกทั้งหลายพากันมาอาศรัยนอนอยู่ที่ต้นงิ้วนั้น ก็ในฝูงนกเหล่านั้นยังมีกาตัว ๑ ชื่อลักขุปตนะ แลพระยานกพิราบตัว ๑ ชื่อจิตรคิวา มีบริวาร ๕๐๐ เศษมาอาศรัยอยู่ที่ต้นงิ้วนั้นด้วย วันหนึ่งยังมีพรานนกผู้ ๑ เอาข่ายมาตั้งดักไว้ที่ใกล้ต้นงิ้วนั้น จึงโปรยปลายเข้าลงไว้แล้วไปแอบเร้นอยู่ในที่รก กาชื่อลักขุปตนะแลพระยานกพิราบชื่อจิตรคิวาได้เห็นกิริยาของนายพรานเช่นนั้น จึงคิดว่า สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงนับด้วยร้อยแลพันเปนอันมาก ซึ่งมาอาศรัยอยู่ที่ต้นงิ้วนี้จะพากันถึงความตายเปนแท้ ครั้งนั้นจิตรคิวาพระยานกพิราบแวดล้อมด้วยบริวารเที่ยวเสาะหาภักษาหาร นกพิราบทั้งหลายซึ่งเปนบริวาร ครั้นเห็นปลายเข้าอันนายพรานโปรยไว้ใต้ต้นงิ้วนั้นแล้ว จะใคร่ลงไปบริโภคเปนภักษาหาร พระยานกพิราบได้ทราบดังนั้นจึงกล่าวห้ามว่า ดูกรท่านทั้งหลาย ประเทศที่นี้ก็มีบ้านเมืองฝูงคนตั้งเรียงรายอยู่รอบ ปลายเข้าเหล่านี้ก็มีคนมาโปรยไว้ เห็นจะมีเหตุเปนเครื่องล่อลวงของมนุษย์ จะแกล้งลวงหลอกทำอันตรายแก่เราทั้งหลายเปนแท้ ถ้าใครมีความโลภลโมภต่ออาหารแล้ว ผู้นั้นคงจะต้องถึงความตายเปนแท้ ท่านทั้งหลายอย่าลงไปกินปลายเข้านั้นเลย ฝูงนกพิราบจึงวิงวอนว่า เมื่อพบอาหารดีมีรสอยู่แล้ว ท่านมาห้ามเราเสียไม่ให้กินนี้ก็ไม่ควร เราจะลงไปกินปลายเข้านั้นให้จงได้ พระยานกพิราบจึงกล่าวว่า ถ้าท่านทั้งหลายไม่เชื่อฟังคำของเรา ขืนลงไปกินปลายเข้านั้นแล้ว คงจะเปนอันตรายถึงชีวิตเปนแท้ เหมือนบุรุษโฉดเขลาเปนคนโลภ อันเสือโคร่งได้ลวงหลอกกินเปนอาหารฉนั้น ครั้นนกพิราบทั้งหลายซักถามว่า เสือหลอกบุรุษผู้โลภนั้น เปนไฉนเล่า จิตรคิวาพระยานกพิราบจึงเล่านิทานสาธกว่า

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ