เมืองสิงคโปร์

วันที่ ๑๗ พฤษภาคม ร.ศ. ๑๑๕

วันนี้เปนวันอาทิตย์ อยากจะใคร่นอนเสียจริง ๆ แต่ไม่สำเร็จกลับต้องตื่นเช้ากว่าทุกวันอิก เพราะวันข้างน่าไม่มีพอ ต้องไปถ่ายรูปที่มิศเตอร์เลนส์๒๒ ร้อนจนเกือบคลั่ง ได้ไปถึง ๓ โมงเศษ หาวนอนเปนกำลัง

เที่ยงแล้วจึงได้ไปกินเข้ากลางวันที่คลับ เพราะเขายอมให้เข้าในคลับตลอดเวลาที่อยู่เหมือนอย่างครั้งก่อน ขี้เกียจกลับมาบ้าน แต่ต้องไปนั่งง่วงอยู่อิกชั่วโมงหนึ่งจึงถึงเวลากินเข้า วันนี้มีพวกเมมเบอร์สัก ๙ คน ๑๐ คนเท่านั้น กินเข้าพร้อมกันคนเดียวนอกนั้นพวกเราทั้งไทยทั้งฝรั่งแลรายามุดาเมืองไทรด้วย แล้วเลยไปห้างยอนลิตเตอลอิก มันแพงเหลือทนเลยไม่ได้ซื้ออะไร เอาแต่ผ้าผูกคอมา ๓-๔ อันกลับมาเขียนหนังสือ เย็นไปบ้านมิศเตอรแอนเดอสันแลมิศเตอรสก็อต๒๓อยู่ด้วยกัน กินน้ำชาแลเดิรดูต้นหมากรากไม้เปื่อยๆ ค่ำกลับมาเดิรดูรอบบ้าน มีพวกดิเต๊กติ๊ฟโปลิศมาอยู่มีประจำอยู่ ๖ คนในบ้าน นอกบ้านมีโปลิศรายรอบรวมด้วยกัน ๓๐ คนผลัดเปลี่ยน พวกดิเต๊กติ๊ฟมีคนพูดไทยได้มาอยู่ นั่งๆ เดิรๆ อยู่ตามใต้ต้นไม้ มิศเตอรแอนเดอสันบอกแล้ว แต่พวกเราที่ไม่รู้ไปดุมันว่ามาอยู่ทำไมเดิรด้อมๆ มองๆ มันควักนกหวีดออกมาให้ดู กลับขึ้นมาพูดกับพระยาทิพ๒๔ จนถึงเวลากินเข้า วันนี้พวกอาจารย์ทั้งปวงมากินด้วย รับหนังสือเมล์ยุโรปหาวนอนเต็มทนก็ต้องอ่าน ตกลงเปนต้องนอนดึกแต่คงได้มากชั่วโมงกว่าทุกวัน มีเรื่องเขียนหนังสือหนังหาอะไรด้วยบ้าง จบเท่านั้นที

ร้อนไม่ซาถอยเลยดูเหมือนจะยิ่งกว่าบางกอก แต่ที่จริงบางทีจะเปนด้วยพวกเมืองนี้เขาไม่ใช้เสื้อราชแปตแตนแลเดิรไม่ได้หยุด เหื่อโชกอยู่เสมอ บางคนต้องเปลี่ยนเสื้อเชิ๊ตถึง ๓ ตัว แต่เราเพียง ๒ ตัวเปนอย่างมาก

  1. ๒๒. มิศเตอร์เลนซ์ได้โอกาศฉายพระบรมรูปแลทรงคุ้นเคยคราวนี้ เมื่อเสด็จกลับจึงเข้ามาตั้งห้างถ่ายรูปอยู่ในกรุงเทพ ฯ

  2. ๒๓. เปนผู้จัดการห้างคัทรีบริษัทด้วยกันกับมิศเตอร์แอนเดอสัน

  3. ๒๔. พระยาทิพโกษา (หมาโต โชติกเสถียร) เปนข้าหลวงหัวเมืองตวันตกอยู่ณเมืองภูเก็จ

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ