๗๕

เมืองปสรวน

วันที่ ๒๒ กรกฎาคม

นาฬิกาเราเช้า ๒ โมงแล้วไปที่สเตชัน ด้วยเขากำชับกำชากวดขันนัก เวลาจะเคลื่อนคลาดสักมินิตเดียวไม่ได้ เพราะต้องหลีกรถมาก ด้วยเดิรถึงวันละ ๔๐ เที่ยว แต่ครั้นขึ้นรถไปเขาบอกว่าเวลาบัตเตเวียยังไม่ถึง ๒ โมง เพราะนาฬิกาเราหรือใคร ๆ ไปเลื่อนเปื้อนที่โตสารีหมด ด้วยต้องใช้เวลา ๒ อย่าง รถไฟใช้เวลาบัตเตเวีย ที่ในเมืองใช้เวลาในเมืองนั้น เมื่อเดิมก็ตั้ง ๒ อย่าง ภายหลังกลายเปนไม่มีใครถูกกันสักเรือนเดียว จะหักจะทอนอะไรไม่ได้หมดจึงได้เลอะเทอะต้องไปดูที่ตลาด ใหญ่โตมากมีของขายสารพัดทุกอย่างผิดกับที่วันรัชโชครึ่งหนึ่ง เรสิเดนต์ก็ตามไปด้วย ได้ความจริงว่าเมื่อกลับจากโตสารีแล้วนอนคืนยังรุ่งวันยังค่ำ ลุกขึ้นชั่วแต่กินเข้า บอกว่าตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเหนื่อยอย่างนี้ ซื้ออะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ แล้วขึ้นรถไป ไปถึงบังคิลหยุดที่สเตชัน ขึ้นรถม้าไปดูในเมืองไปได้เพียงอาลูน ๆ แบรอนกวาลตั้งนาฬิกาให้เรสิเดนต์ไป มีกำหนดกลับมาทัน แต่เรสิเดนต์แกจะตาไม่เห็นหรือใจเต้นเกินไป พากลับมาเสียก่อน ต้องคอยรถไฟอยู่เปนนานจึงได้ออก ไปถึงลาวังเวลาเช้า ๔ โมงเศษ คอนโทรเลอคอยรับ เรสิเดนต์บอกว่าเปนเมืองใหม่พึ่งจะตั้งขึ้น แต่คอนโทรเลอผู้นี้มั่งมีนัก กล่าวกันว่าเปนมิเลียนแน ด้วยได้สมบัติสืบตระกูลมาแต่ทางใดทางหนึ่ง ไปถึงสิงหัศสาหรี แอสสิสตันเรสิเดนต์มาคอยรับจัดการแขงแรงมาก มีการกุกกักเล็กน้อยแต่เพียงต้องไปรอประตูทางรถไฟไม่ได้เปิดเตรียมไว้ เวลาก็จอแจ เพราะมีอยู่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น ไปตามถนนใหญ่มีบ้านเรือนมาก ถึงที่วัดก่อน แต่เขาเตรียมรับที่วังจึงได้เลยไปที่วัง มีปลูกปรำตั้งโต๊ะแลของเลี้ยง ริเยนต์ที่นั้นเปนผู้จัดการ ตั้งกระถางต้นกุหลาบดอกใหญ่โตกว่าดอกกุหลาบเย็บเล่นจริง ๆ วันนี้ต้องเปนเรื่องลุกลนทั้งสิ้น พอเข้าไปในปรำก็ต้องมองหาสิ่งที่ควรดู แรกเห็นก็ยักษ์ใหญ่ตรงไปที่นั้นก่อน เปนยักษ์นั่งจมดินอยู่เพียงเข่า แต่ที่สูงพ้นดินเหลืออยู่เพียง ๑๒ ฟิต ถ้าจะเทียบใหญ่เล็กก็เท่ากันกับยักษ์วัดพระแก้วนี้เอง เปนแต่เอานั่งชันเข่าข้างหนึ่งพับข้างหนึ่งเสียเหมือนเจ้าเขาตก มีคู่ ๑ ด้วย แต่อีกตัวหนึ่งจมดินลงไปมาก มีรอยศิลาที่ก่อเปนเสามุมผนังใหญ่แห่งหนึ่งรอยครากทลาย ว่าเรียกเวอตีเปนที่ว่าราชการ เขาปราบที่นั้นเปนสนามราบ เอาเทวรูปตั้งรายไว้รอบ มีกว่า ๒๐ รูปแต่ชำรุดทั้งสิ้น ที่ใหญ่อยู่ ๒ รูปคือนนทรี ย่อมกว่าที่บรัมบานันหน่อยหนึ่ง แต่ชำรุดมากนัก มหาวิฆเนศวร์รูปใหญ่ชำรุดแต่แขนเปนฝีมืองามกว่าทั้งสิ้น อยากจะใคร่ได้ แต่ออกเกรงใจเขาเพราะเห็นใหญ่โตนัก ทั้งที่นี่ก็ไม่ได้ขอคอเวอนเนอเยเนราลไว้ด้วย เรสิเดนต์รับอาสาจะมีโทรเลขไป แลสั่งให้แอสสิสตันเรสิเดนต์เตรียมการที่จะยกรื้อไว้ พอได้อนุญาตก็ให้ยกส่งไปสมารังทีเดียว แต่คอเวอนเนอเยเนราลก็อนุญาตทันที๖๑ แล้วไปกินของเลี้ยงเล็กน้อย เดิรจากที่นั้นไปวัดบาลีกำบังว่าเปนที่ประชุม เปนอย่างมณฑปย่อม ๆ เขื่องกว่าจันทิปาวนสักนิดหนึ่ง ในกลางไม่มีอะไรอยู่บนดิน แต่ศิลาเหมือนรูปศิวลึงค์ถลำจมลงไปอยู่ในหลุม ตามมุมแห่งทิศทั้งสามเทวรูปที่ดี ๆ เขาขนไปบัตเตเวียเสียหมด เหลือแต่ฐานกับที่ชำรุด อยู่ที่นั่นก็ไม่ได้นานต้องรีบกลับมาเพราะหมดเวลา ขึ้นรถไฟไปมาลัง

ตำบลมาลังนี้ เปนที่ปรากฎชื่อว่ามีดอกไม้งาม เดิมก็เปนตำบลเล็กแต่เดี๋ยวนี้กลับเปนเมืองใหญ่สนุกสนานกว่าปสรวนเองเสียอีก ยังจะโตขึ้นทุก ๆ ที ลักษณอาการก็คล้ายกันกับบันดองหรือมาเกลัง พื้นแผ่นดินสูงไม่ใคร่จะร้อน แต่เขาว่ามีไข้จับอยู่บ้างห่าง ๆ มีโรงทหารแลโรงพยาบาล ตั้งแต่ตามทางไปจนตลอดถึงในเมืองนั้น แลเห็นเขาอรชุโน แลเขากาวีเขาสุเมรุ ซึ่งเปนเขาไฟตั้งอยู่ใกล้ ๆ ขึ้นรถดูเมืองผู้คนมาดูมาก แล้วไปแวะที่บ้านแอสสิสตันเรสิเดนต์ ใหญ่โตมากขนาดบ้านเรสิเดนต์ ไปหยุดดูเขาไฟกันอยู่ที่น่าบ้านหน่อยหนึ่ง สุเมรุกำลังควันขึ้นมาก มีเลี้ยงน้ำซุปแลของกินต่าง ๆ ต้อนรับอย่างดี แต่ก็อยู่ได้ครึ่งชั่วโมงเท่านั้นต้องกลับ ต้องหลีกรถสปิชเชียลเตรนถี่ทีเดียว ล้วนแต่บรรทุกอ้อยเต็ม ๆ ทุกรถ อ่านหนังสือที่คอนโทรเลอปสรวนให้มาตลอดทางถึงปสรวนเวลาบ่าย ๓ โมง

กินเข้าอาบน้ำแต่งตัวใหม่แล้ว ไปดูสนันนันที่ประเสบันน่าบ้านริเยนต์ เมื่อไปโตสารีเราได้พูดอยู่ว่า บรรดาขนบธรรมเนียมอันใดของชวาที่ได้กล่าวไว้ในเรื่องอิเหนา ที่ไม่ได้นึกว่าจะได้เห็นโดยความไม่เชื่อ ก็ได้มาเห็นมาฟังต้องเชื่ออยู่หมดแล้ว เว้นไว้แต่สระสนาน คงเปนของพระพุทธเลิศหล้าทรงให้เข้ากับไทยเปนแท้ แต่ครั้นมาวันนี้รู้เรื่องสนันนันเข้า ตกลงเปนต้องยอมว่ามีจริงอีก ชื่อเสียงก็คล้ายกันความมุ่งหมายก็เปนอย่างเดียวกัน แปลกแต่กระบวร คงจะได้รู้ไปแต่ว่าเขามีสนันนัน แต่ไม่รู้ว่าทำอย่างไรก็ต้องเอาสระสนาน อย่างไทยเข้าใส่ การสนันนันนั้น เปนธรรมเนียมของภูปติต้องประชุม พวกเวโทโนแลปติงงีมาเล่น ๗ วันครั้งหนึ่งในวันจันทร์ เวลากลางคืนก็มีการเลี้ยงดู แลมีวายังต่าง ๆ ถ้าเปนการในเมืองหลวงเรียกว่าสตัน มีในวันเสาร์ครั้งหนึ่ง ธรรมเนียมนี้เลิกหมดไม่ได้มีมาช้านานแล้ว คราวนี้ว่าตระเตรียมกันมาช้านาน พวกเวทนาแลปติงงีมาพร้อมกันถึง ๕๐๐ คน ล้วนแต่ขี่ม้าถือทวนทั้งสิ้น เมื่อไปถึงประเสบันออกมารับแต่เมีย ตัวรเด่นมาสไปคอยเข้ากระบวร กระบวรน่านั้น มีชาวมะถุระรำนำมา ๓ คู่ มีพิณพาทย์แล้วถึงตัวรเด่นมาสแต่งตัวเต็มยศนุ่งกายน์อย่างขี่ม้า คือรวบขึ้นไปไว้ข้างบนเหลือแต่จีบข้างน่า ใส่เสื้อปักสวมโกลุก มีคนเชิญเครื่องยศแลปุษากะตามหลัง มายืนขออนุญาตที่จะได้เดิรกระบวรอนุญาตแล้วกลับไปขึ้นม้านำกระบวรมาก่อน ม้านั้นเต้นตันดั๊กเข้าเพลงพิณพาทย์ แล้วจึงถึงเวโทโนแลปติง งีรองเวโทโนแต่งตัวทาขมิ้นเหลืองหนาทั้งตัวตลอดจนตีน หน้าทาแป้งเรียกว่า โปแฮดคือแต่งตัวอย่างเข้าเฝ้าแต่ก่อน แต่เวโทโนใส่เสื้อคอเย็บด้วยผ้าเหลืองคับแนบกับตัวเหมือนทาขมิ้นนุ่งโดด๊ดสวมมาลัยคอ แลมีดอกไม้เปนรย้าสวมหูทั้ง ๒ ข้าง เหน็บกฤชหัวสวมโกลุก เครื่องม้าก็เปนเครื่องอย่างเก่าเช่นที่ได้กล่าวแล้วแต่ก่อน มาตามม้าริเยนต์ แลม้าเหล่านั้นเต้นตันดั๊กด้วยกันทั้งสิ้น ดูกระยอกกระแยกไปหมดด้วยกัน วงไปโดยทักษิณรอบอาลูน ๆ เที่ยวหนึ่ง แล้วไปยืนที่แรกออก คราวนี้รำทวนออกมาทีละคู่ ๆ ทักษิณวงไปรอบสนามอีกเที่ยวหนึ่ง จนหมดทั้ง ๒๕๐ คู่ แล้วขับดาหน้ากันออกไปจนถึงปลายสนามน่าประเสบัน ลงจากม้าริเยนต์มีชาวมะถุระรำนำน่า ๓ คู่ เดิรเข้าเพลงพิณพาทย์ พวกเวโทโนแลปติงงีถือทวนตามหลังมาทั้งสิ้น ตรงเข้ามาที่ประเสบันภูปติหยุดยืนแต่พวกเหล่านั้นนั่ง แล้วกล่าวคำแสดงความเคารพต้อนรับแลให้พรยืดยาว เขาเปนคนพูดเปนอย่างฝรั่ง เรสิเดนต์แปลเปนภาษาอังกฤษ แล้วเราตอบในภาษาอังกฤษเหมือนกัน เรสิเดนต์แปลให้ฟังแล้วภูปติหันหน้าออกไปพูดกับเวโทโนแลปติงงีด้วยเสียงดังตามคำที่เราพูด เมื่อจบลงพวกเหล่านั้นร้องสาธุด้วยเสียงอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งจะเลียนไม่ถูก เปนเสร็จการสนันนันเท่านั้น มีการเลี้ยงน้ำชาเลี้ยงเหล้าแล้วออกจากที่นั้นขับรถดูตามถนน เห็นบ้านริเยนต์ที่เปนลูกปเงรันอันต้องถอดดูใหญ่โต มิใช่บ้านของคอเวอนเมนต์ ที่บ้านใหม่นี้เปนของคอนเวอนเมนต์ ข้างในอย่างไรไม่ได้เข้าไปดู เลยไปแวะที่บ้านเรสิเดนต์ไม่โตกว่าบ้านแอสสิสตันเรสิเดนต์ที่มาลัง ดูเย่าเรือนแลพูดกันเล่นแล้วลงมาเดิรในสวนจน ๒ ทุ่มจึงได้กลับไปโฮเต็ล ยามหนึ่งไปที่คลับเรียกว่าอาโมเนีย ที่มาลังเขาเรียกคองคอเดียเหมือนที่บัตเตเวีย ที่คลับนี้จุคนกว่า ๒๐๐ แต่มีแมมเบอร์เพียง ๗๐ เมื่อก่อนว่ามีถึง ๑๗๐ พึ่งจะร่วงโรยไปเมื่อมีรถไฟ คนซอคนเสียงแลแตรหามาแต่สุรบายา ในคลับแต่งต้นไม้แลใบไม้งดงามมาก บรรดาคนที่มาประชุมนั้นมาแต่ทางไกล ๆ คือพวกในหัวเมืองเขตรแขวงต่าง ๆ แอสสิสตันเรสิเดนต์แลริเยนต์ที่บังคิลกับเมียมาด้วยรถม้าทาง ๑๐ ไมล์ การมีงารที่ปสรวนอยู่ข้างจะห่างมาก มีแต่ปีละครั้งหนึ่งในวันเกิดกวีนเท่านั้น ดูเปนที่สนุกสนานยินดีกันมาก พอเสร็จเรื่องคอนเสิดแล้วขอมีบอลต่อไป ต้องอยู่อีกจน ๗ ทุ่มจึงได้กลับ เพื่อจะให้เปนที่ยินดีของเขา ๆ เล่นกันต่อไปจนเกือบสว่างจึงได้เลิก แต่ท่านพวกกรรมการคลับนั้นกลับกันเช้าทั้งสิ้น

  1. ๖๑. รูปพระพิฆเนศวร์นี้ เดี๋ยวนี้อยู่ในวัดพระศรีรัตนศาสดารามทางน่าพระอุโบสถ

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ