๑๓

เมืองสิงคโปร์

วันที่ ๒๑ พฤษภาคม ร.ศ. ๑๑๕

วันนี้การใหญ่อีกวันหนึ่ง ต้องรีบตื่นขึ้นกินเข้าแต่เช้า ๓ โมง ๑๕ มินิต ไปที่ยอนสตันเฟีย ใส่เสื้อขาวแต่เจ้าเมืองนัดให้เอาเสื้อฟรอกโก๊ตกับหมวกต๊อบแฮ็ตไปด้วย ตัวแกเองนั้นเคร่งอย่างยิ่ง แต่งไปก่อนถึงเรือจึงผลัด ลงเรือสติมลอนช์ไปขึ้นเรือซีเบล๒๗ ออกจากท่า ๓ โมงครึ่ง เดิรช้าเต็มทีด้วยท้องเรือสนับทึบจับหนาถึงกำหนดเข้าอู่ รู้ว่าเราจะมาจึงให้รอไว้ แล่นไปเข้าช่องท้ายเกาะเหนือที่ศิลาแดงใหญ่หน่อยหนึ่ง ตามทางที่ไป ฝั่งยโฮไม่ใคร่จะมีอไร เปนที่รก ๆ โดยมาก แต่ข้างสิงคโปร์มีบ้านหย่อม ๆ ห่าง ๆ มีที่อาบน้ำหลายแห่ง แม่น้ำย่อม ๆ มีทั้งสองฟาก ที่เกาะแห่งหนึ่งว่ามีเสือชุม ไปถึงเมืองยโฮที่เรียกว่ายโฮบารุ ดูตึกรามไม่สู้มาก เมื่อขึ้นไปบนบกก็ได้เห็นจริงว่าน้อยกว่าเมืองไทร จอดที่น่าอิสตานา มีที่เนินสูงแห่งหนึ่ง เรือนฝรั่งเจ้าพนักงารของอังกฤษตั้งอยู่บนนั้น สลุตเปน ๒ คราวเห็นจะสำหรับเกาเวอนเนอคราวหนึ่ง มีเรือสติมลอนช์มารับ คนหนุ่ม ๆ คนหนึ่งเห็นจะชื่อดอดหรือดัน เปนนายทหารกับใครอีกคนหนึ่ง ติดตราคอมมานเดอ อีกคนหนึ่งใส่แกรนครอศ แต่เดิรเปนลำดับกันเช่นนี้ ได้ถามเมื่อขากลับว่าเปนญาติวงศหรือ ก็รับรวม ๆ จะแน่ไม่แน่ไม่ทราบ เปลี่ยนเครื่องแต่งตัวลงเรือไปขึ้นที่ตพานใกล้บันได มีสุลต่านกับอาว์ เรียกอุนกูโมหเมดกาหลิบ กับอุนกูสุไลมาน แลเครื่องยศต่าง ๆ คอยอยู่ที่นั้น เมื่อลงเรือสลุตอีกครั้ง ๑ ธงสแตนดาดไปชักต่อเมื่อใกล้จะถึง ธงยโฮท้ายเรือเหมือนธงอังกฤษ เปลี่ยนแต่ไม้กางเขน เปนพระจันทร์กับดาว ธงสแตนดาดเปนพื้นขาว พระจันทร์แลดาวน้ำเงิน เดิรขึ้นบกมีคนถือหอก ๒ คู่ ถือกระบอง ๒ คู่ อไรก็ไม่รู้รูปเปนใบโพด้ามยาวไปน่าทีเดียว เครื่องแห่เหล่านี้ด้ามเงินคอกาไหล่ทอง ข้างหลังมีคนแบกดาบคู่ ๑ ไปที่ท้องพระโรงยืนที่น่าโธรน พวกเกณฑ์แห่นั้นยืน ๒ แถวอย่างตำรวจ เจ้าแลขุนนางยืนข้างน่า คนหนุ่มที่ลงไปรับเปนผู้ขานบาญชี เสียงดังเหมือนขานเบี้ยหวัด เราจับมือเสมอชั้นดาโต๊ะผู้ใหญ่ ๆ มีประมาณสัก ๓๐ คน มีฝรั่งหลายคน ยุนิฟอมนั้นต่าง ๆ กัน มีติดตราโดยมาก การรักษาที่ของเขาดีมาก ที่นี้ไม่สู้หรูหราเหมือนสิงคโปร์ แต่ดูท่าทางดีแลรักษาสอาด ด้วยธรรมเนียมของสุลต่านที่ตาย๒๘ตลอดจนคนนี้ เรือนที่ทำขึ้นไว้ไม่ได้อยู่ สำหรับแต่รับแขก ที่บันไดด้านหลังมีแผ่นศิลาสลักเปนอาร์มอย่างตำมหงง ซึ่งนึกขึ้นใหม่ในตึกมีรูปภาพหลายอย่าง เช่นรูปเจ้าแผ่นดินอังกฤษเก่าๆ ตั้งแต่ยอชที่หนึ่งถึงวิลเลียมที่สี่ เปนรูปขนาดเล็ก หว่างประตูมีรูปใหญ่ กวินวิกตอเรียกับผัว ปรินซออฟเวลส์กับเมีย ดุกออฟเอเดนเบรอกกับเมีย ห้องกินเข้าอยู่ชั้นล่าง เครื่องโต๊ะที่ตั้งแรกเข้าไปเห็นเข้าใจว่ากาไหล่ ต่อเขาบอกจึงรู้ว่าทอง แต่ถ้าไม่ได้เคยเห็นตัวอย่างเครื่องโต๊ะสำรับนี้ ที่ทำสำหรับหลอดอะไรผู้หนึ่งซึ่งส่งมาบอกขายแล้วก็ยังเห็นว่าทองไม่ได้เลย มีพานมีรย้าเทียนตั้งเต็มโต๊ะกว่า ๓๐ ชิ้น เรากับกรมดำรงนั่งข้างสุลต่าน คอเวอนเนอกับรายามุดาเมืองไทรนั่งคนละข้าง คนนั่งโต๊ะไม่น้อยกว่า ๔๐ คน เลี้ยงอย่างฝรั่ง แต่เมื่อกินเข้ามีแกงเรียกว่าแชมโบลเปนกับเข้าแขกต่าง ๆ อิก ๘ สิ่ง นั่งโต๊ะนานสัก ๒ ชั่วโมงครึ่ง คอเวอนเนอจะมาคอยส่งที่เรือต้องกลับก่อน แต่เวลากินเข้าได้สักครึ่งหนึ่ง สุลต่านลุกขึ้นยืนพูดภาษาอังกฤษคำเดียวว่า เวลคัมฮิสมายิสตีดิกิงออฟสยาม แล้วดื่ม เราตอบภาษาอังกฤษบ้าง กล่าวถึงที่ได้เคยชอบพอกับสุลต่านที่ตาย เดี๋ยวนี้มีความยินดีที่จะได้รู้จักชอบพอกับสุลต่านคนใหม่ต่อไป เพราะเมืองยโฮ มีเขตรแดนติดต่อกับหัวเมืองของเรา ควรจะเปนไมตรีรักใคร่กัน จะเปนเครื่องป้องกันการที่จะเข้าใจผิดต่าง ๆ แลช่วยกันบำรุงการค้าขายให้เจริญ เวลาพูดได้เคาะโต๊ะถี่ ยังนั่งโรเรอยู่อิกนาน ต้องขอเลิก เกาเวอนเนอแกเห็นเวลาเย็นแต่ก่อนจะไม่ให้เที่ยว เราไม่ยอมว่าได้มาทั้งทีกินเข้าแล้วจะไปไม่คุ้มเหนื่อย จึงตกลงเปนอันเที่ยว ขึ้นรถเล็กแต่ของเขาเรี่ยมมาก ที่จริงมันสมควรที่จะนั่ง ๒ คน เราชวนสุลต่านขึ้น แต่เห็นจะเปนด้วยเรื่องกลัว จะให้ชี้แจงการไม่ใคร่สนัด ตกลงเปนจับตัวตากงซุลขึ้นด้วย นั่งขาคร่อมกัน แดดยังร้อนอยู่ แต่ตกลงกันเปิดประทุนเอาร่มกั้น ไปตามถนนริมน้ำแลวนเข้าไปข้างในบ้าง มีที่โรงโปลิศโปสต์ออฟฟิศแลคลับ เปนตึกเล็ก ๆ พื้นดินยังเปนที่ลุ่มน้ำทเลท่วมถนนยกขึ้นสูงโดยมาก แวะดูทอผ้าโสร่งที่โรงจากข้างบ้านย่าของสุลต่าน แล้วอ้อมมาทางสวนหลังบ้าน ไม่มีอะไรที่สวน กลับมาถ่ายรูปที่สนามข้างเรือนแลมเบิดตามไปด้วย ตั้งแต่ขึ้นรถไปจนกระทั่งถ่ายรูป ดูค่อยคุ้นเคยขึ้นมาก พูดเรื่องอื่นดูไม่ใคร่สนุกเหมือนเรื่องม้า กลับมาลงเรือบรรดาที่มานั่งโต๊ะตามลงไปส่ง สุลต่านเปนผู้ร้องให้เชียมีสลุตอีกครั้งหนึ่ง ข้ามฟากมาขึ้นที่เกาะสิงคโปร์เกือบจะตรงกันข้าม ลืมที่จะกล่าวถึงสุลต่านแต่งตัว แต่งอย่างทหารปืนใหญ่อังกฤษตรง ๆ แต่หมวกเปนอย่างแขก ตพายกระบี่ประดับเพชร์พลอย ใช้สร้อยคอไม่มีสายตพาย ตาอาว์ใส่เสื้อติดแถบทองอย่างเก่า ใส่สายสร้อยสองสายมียี่ก่าเพชร์ที่หน้า หน้าตาท่าทางเหมือนทิพเสนา นุช อยู่ข้างอย่างเก่าเต็มที อีกคนหนึ่งที่นั่งข้างเราใส่เสื้อดำดุมสองแถวเกลี้ยง ๆ ใส่สายตพายเหลือง ถามดูได้ความว่าเปนเจ้าชั้นที่สอง ยุนิฟอมเจ้าอย่างเก่าเหมือนกัน เปนคนเคยไปยุโรปด้วย ท่าทางเปนฝรั่งแต่อยู่ข้างกันดารในการพูดด้วยต้องมีล่าม เปนแต่เยซเก่ง คนทั้งหมดเห็นแหลมอยู่กว่าเพื่อน คือดาโต๊ะมนตรีที่เปนไปรมินิสเตอร ท่าทางก็เปนขุนนางอย่างเก่า แต่กิริยาเปนคนชำนาญการงารมาก คอเวอนเนอก็สรรเสริญว่า เปนคนฉลาดแลซื่อตรงต่อนาย รักษาความลับไม่ให้แพร่งพราย ยุนิฟอมพลเรือนก็เหมือนกับทหาร แต่ใช้ปักลายยิบ ๆ มีทหารคนเดียว แต่คนหนุ่มนั้นเท่านั้น กระบี่ใช้ต่าง ๆ ตั้งแต่กระบี่ทหารไป จนเสน่าพลเรือน ขึ้นฝั่งสิงคโปร์มีตพานหินแลโรงโปลิศ ถนนทำดีนัก ตั้งแต่ท่ายโฮเข้าไปจนถึงเมืองทาง ๑๔ ไมล์เศษ มาชั่วโมงครึ่ง ค่ำกลางทาง มีที่เปนป่าอยู่ตอนใกล้ยโฮหน่อยหนึ่ง ต่อเข้ามามีสวนผลไม้มังคุดแลเงาะเปนพื้น ใกล้เข้ามาอีกมีบ้านเรือนคนมีวัด ไม่ได้เปนที่ดินเปล่าตลอดถึงตพานทุ่มหนึ่ง มีคนมาคอยส่งหลายคน ลงมาเรือคอยรับคอเวอนเนอยังไม่มาถึง ต่อ ๒ ทุ่มจึงได้ถึง กริ้วเรือเต็มที “นุ่งสมปัก” ขึ้นมาอิก ดูแกศรัทธามาลาจริง ๆ เมื่อจะไปบอกว่าการที่ต้อนรับทั้งนี้ใช่ว่าจะรับสักว่าเปนกิง รับโดยความชอบพอในตัวเรามาก พูดอย่างน้ำตากบอย่างฝรั่ง ไปกลางทางเปนธุระรักษาพยาบาลอย่างเรากันเอง นั่งคุยนอนคุยกันไปตลอดทาง ฝ่ายท่านผู้หญิงวันนี้ไปโรงเรียนกับแม่เล็กทั้ง ๓ แห่ง ให้เงินโรงเรียนมิศกุ๊ก ๑๐๐ เหรียญ โรงเรียนรัฟเฟิลแลคอนเวนแห่งละ ๒๐๐ เหรียญ ส่งสร้อยคอเหรียญทองไปให้ท่านผู้หญิงด้วย วันนี้ทั้งไปทั้งมาถึง ๑๐ ชั่วโมงเหนื่อยแลหาวนอนเต็มที มาตามทางจะหลับตาเสียให้ได้ วานนี้ให้สัญญาบัตรแลตราตั้งมิศเตอร์แอนเดอซันเปนพระพิเทศพานิชสยามวิชิตภักดี กงซุลเยเนราล วันนี้ตั้งตนบูเกียดลูกพระยาอนุกูลแลน้องพระขจรเมืองภูเก็จแลลูกพระยารัตนเศรษฐีเปนหลวงสามคน

  1. ๒๗. เรือซีเบลเปนเรือย๊อตสำหรับเจ้าเมืองสิงคโปร์

  2. ๒๘. สุลต่านอาบูบะกะบิดาของสุลต่านอิบระฮิมที่รับเสด็จ

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ