๒๘. ได้พระยาเสวตรกุญชรช้างเผือกเมืองโพธิสัตว

เมื่อณวันศุกรเดือน ๑ ขึ้นค่ำ ๑ ปีวอกจัตวาศก จุลศักราช ๑๑๗๔ พ.ศ. ๒๓๕๕ นายมกหมอ นายคงควาน คล้องได้ลูกช้างพลายเผือกผู้ที่ทุ่งยั้งเขากระพ้อปลายน้ำเมืองโพธิสัตวช้างหนึ่ง เมื่อแรกคล้องเห็นแต่ว่าจักษุขาวหางขาวผิดกับช้างสามัญ แต่ตัวนั้นมอมเปื้อนอยู่ หารู้แน่ว่าเปนช้างเผือกไม่ ต่อเข้าไม้ฝนตกใหญ่จึงรู้ว่าเปนช้างเผือกแท้ หมอควานจึงนำความมาแจ้งต่อพระยาอภัยภูเบศร์ ผู้ว่าราชการเมืองพัตบอง พระยาอภัยภูเบศร์เห็นว่าจะให้ฝึกหัดในป่าแขวงเมืองโพธิสัตวอยู่ใกล้แดนเขมรนัก เวลานั้นพวกกรุงกัมพูชากระด้างกระเดื่องอยู่ จึงจัดคนให้ไปรับมาเมืองพัตบอง แต่ช้างนั้นยังเล็กนัก วัดได้สูงเพียงสองศอกคืบแปดนิ้ว จะติดลำโยงจูงมาเกรงจะเปนอันตรายเสีย จึงทำเปนแท่นมีล้อมีหลังคาให้คนทำทางลากมาจนถึงเมืองพัตบอง ปลูกโรงพักไว้ฝึกหัดจนเชื่องราบ แล้วให้เดินบกเข้ามาลงแพที่บ่อโพงแขวงกรุงเก่า โปรดให้พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นเทพพลภักดิ กับเจ้าพระยาศรีธรรมาธิราชขึ้นไปรับ พระยาช้างมาถึงบ่อโพงแล้วโปรดให้พระเจ้าลูกยาเธอพระองค์ใหญ่[๑] คุมเงินตราสิบชั่งขึ้นไปพระราชทานให้แก่หมอควานแลผู้คุมช้างมาได้รับพระราชทานทั่วกัน เสด็จกลับลงมากราบทูลว่า เปนช้างเผือกเอกขาวบริสุทธิ์ ครั้นทำพิธีพนมไชยบาทว์ฟาดเคราะห์เสียไพรสมโภชที่บ่อโพงแล้ว ก็นำพระยาช้างลงแพช่อฟ้าล่องลงมาถึงกรุงเทพฯ เมื่อณวันศุกรเดือน ๔ แรม ๓ ค่ำ ให้ปลูกพลับพลาน้อยที่ท่าพระ แลตั้งราชวัตรฉัตรเบญจรงค์สองฟากถนน จัดกระบวนแห่แต่งพระเทพกุญชร พระอินทไอยรา พระบรมฉัททันต์ ช้างมีสกุลลงไปรับด้วย ครั้นได้เวลาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จโดยกระบวนไปประทับพลับพลาน้อยที่ท่าพระ โปรดให้แห่พระยาช้างขึ้นจากแพไปเข้าโรงสมโภชที่สนามไชย มีการมโหรศพสมโภชสามวันสามคืน แล้วพระราชทานนามขึ้นรวางว่า พระยาเสวตรกุญชรอดิศรประเสริฐศักดิ เผือกเอกอรรคไอยรา มงคลพาหนนารถ บรมราชจักรพรรดิ วิเชียรรัตนาเคนทร์ ชาติคเชนทรฉัททันต์ หิรัญรัศมี ศรีพระนคร สุนทรลักษณเลิศฟ้า แล้วแห่เข้ามาไว้โรงในพระราชวัง มีงานสมโภชอิกสามวันสามคืน



[๑] คือพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ